[ฟิครับสมัคร] The Gaia Spirite

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย yoshiki, 24 มิถุนายน 2011.

  1. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Chapter 1 PreLude in Orgustia




    ถึงคุณพ่อคุณแม่ที่ซิลมาริล...

    ตั้งแต่หนูสอบเข้า ออกัสเทีย อาร์คาเดมี่ ได้ก็ผ่านมา 1 เดือนแล้วค่ะ

    แถมด้วยคะแนนดีเลิศด้วยนะคะ

    แค่ติดที่ว่า...


    เด็กสาวผมสีทองสลวยกำลังยืนเบื้องหน้าดาบเซเบอร์เล่มบางสำหรับผู้หญิงใช้ เธอมองมันขึ้นมาพลางถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยโฮออกมาซะลั่นห้อง “แง้ๆๆๆๆๆ เค้าอยากเข้าเวทย์ยุทธอ่า”

    (โห้ย หนวกหูจริงๆ เช้าๆแบบนี้ยังจะโวยวายอะไรอีกยัยบ๊อง) เสียงชายหนุ่มออกทะเล้นดังขึ้นข้างเธอ เรเทียมองค้อนไปทางชายหนุ่มที่กำลัง....ลอยอยู่

    ชายหนุ่มคนนั้นมีผมสีเงินยาวประบ่า ดวงตาสีดำแต่กลับดูปลอดโปร่งดุจท้องฟ้ายามค่ำคืน ตัวสูงโปรง สวมเสื้อผ้าสีดำสไตล์ขุนนางชั้นสูง แต่กลับมีร่างโปรงใสขนาดมองทะลุตัวไปได้ เขามองเธอกลับด้วยสายตารำคาญเล็กน้อย

    (เฮ้อ ตั้งแต่มาเจอกันได้เดือนนึงนี่บ่นได้ทุกวี่ทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอ)

    “อะไรของนายย่ะ ก็เพราะนายน่ะแหละ ทำให้ชั้น....ชั้นน่ะ ฮือๆๆ” เรเทียร้องไห้ออกมาอีกรอบ ชายหนุ่มผมเงินเกาหัวสองสามทีก่อนจะลอยไปยืนหน้าดาบเซเบอร์ที่วางบนโต๊ะเขียนหนังสือ

    (เห ก็เลือกได้ดีนิ ถึงจะเก่าไปหน่อยแต่เธอคงใช้สบายละนะ)

    “หุบปากซะ !! ชั้นไม่ได้อยากอยู่สายอัศวินซะหน่อย แล้วคทาสุดรักสุดหวงของชั้นโดนเอาไปแลกเป็นดาบเล่มนี้มาก็เพราะนายอีกน่ะแหละ เฟท !!”

    ชายหนุ่มผู้มีนามว่า เฟท ยกมืออุดหูแทบไม่ทัน (แต่ตรูก็ทำให้ยัยเอ๋ออย่างเธอเข้าเรียนได้นะเฟ้ย หัดขอบคุณบ้างเด้)

    “ไม่ซะละ” เรเทีย เมินหน้าหนีพร้อมสะบัดก้นโยกย้ายๆ

    เฟท นิ่งไปเล็กน้อยดวงตาสีรัตติกาลพลันเหลือบมองนาฬิกาปลุกรูปแพนกวินบนหัวเตียงพลันทำตาถลน (เฮ้ยๆๆๆ จะเจ็ดโมงครึ่งแล้ว เดี๋ยวก็สายหรอก)

    “ซวยแล้ว เพราะนายคนเดียวน่ะแหละ” เรเทียพูดพร้อมคว้ากระเป๋าเรียนกับดาบที่วางบนโต๊ะวิ่งพรวดออกจากห้อง โดยมีร่างโปร่งใสของเฟทลอยตามไปด้วย

    (อะไรๆก็โทษแต่ตรู ยัยนี่น่ารำคาญชะมัด)





    เด็กสาววิ่งเต็มฝีเท้าไปตามถนนที่ยังไม่มีผู้คนมากนัก เสื้อสูทสีแดงกับกระโปรงลายสก็อตสีน้ำตาลขาวลู่ไปตามลม เรเทียกระโดดหลบผู้คนที่ยืนขวางซ้ายทีขวาที มือซ้ายถือกระเป๋า มือขวาถือดาบ วิ่งฮ่อไปราวกับม้าถูกเฆี่ยน

    (เอ้าๆๆๆ วิ่งเข้าๆ) เฟท นอนลอยตัวให้กำลังใจแบบสบายอารมณ์สุดๆ จนสาวผมทองตะโกนด่าด้วยความฉุน

    “แกนะแก ฝากไว้ก่อนเถอะ !!!” ผู้คนสองข้างทางมองเธอด้วยความตกใจเล็กน้อย เพราะสายตาคนรอบข้าง ก็คือ เห็นเรเทียกำลังตะโกนใส่อากาศเปล่าๆอยู่

    “แหมๆ เด็กสมัยนี้นี่นอกจากแข็งแรงแล้วยังจินตนาการไกลอีกเนอะ ตา”

    “นั้นสินะ ยาย แต่ช่างเด็กมันเตอะ เรามาจุฟๆกันดีกว่า” ตาสีกะยายสา ที่นั่งเล่นอยู่ตรงม้านั่งข้างทาง ขอออกความเห็น



    “ฮือๆ สายแน่ๆเลยอ่า” เรเทียมองนาฬิกาที่ข้อมือพลางทำท่าจะร้องไห้รอบที่สาม เฟทมองเด็กสาวด้วยสายตายียวนก่อนจะลอยไปเข้าไปใกล้

    (อย่าคิดมากหน่า....สายวันแรกไม่เป็นไรหรอก ฮิฮิ)

    “มันจะเป็นก็เพราะสายตั้งแต่วันแรกนี่แหละ !!” เรเทียตะโกนด่าชายหนุ่มอีกครั้ง แต่เธอก็ต้องงุนงวยเล็กน้อยเมื่อดวงตาสีดำสวยของชายหนุ่มไม่ได้มองที่เธอ แต่กำลังมองไปทางตรงข้ามของเขาอยู่ สาวผมทองจึงลองหันควับไปทางนั้นทันที

    “เหวอ !!” เรเทียตกใจจนสะดุดล้ม เมื่อ ชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีดำเป็นธรรมชาติและผมดำสนิท กำลังมองเธอด้วยความสนใจ แม้ว่าเขากำลังจะวิ่งตามเธออยู่ติดๆก็ตาม

    “อะ ขอโทษครับ เป็นอะไรมากไหม” ชายหนุ่มพยายามเข้าไปประคอง แต่เรเทียลุกขึ้นมาซะก่อน

    “อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กสาวยิ้มแห้งๆพลางมองไปที่หัวเขาที่เป็นแผลเล็กน้อย เธอส่ายหน้าพร้อมมองไปทางเฟท ที่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

    เรเทียเบ้ปากอย่างไม่พอใจก่อนจะรวบรวมพลังในร่างกายสร้างสปิริตแสงของเธอ ก่อนจะรักษาแผลเล็กน้อยนั้น ชายหนุ่มที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตกตะลึงไม่น้อย “โอ้ สปิริตของคุณ คือ แสง เหรอครับ ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

    “แหะๆ ช่างเถอะค่ะ มันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก ว่าแต่....” เมื่อเห็นปฎิกริยางุนงงของเรเทีย ชายหนุ่มผมดำสั้นจึงเอ่ยแนะนำตัว

    “ผม วีโต้ อัสคลา ครับ ปี1 ออกัสเทีย อาร์คาเดมี่ ยินดีที่ได้รู้จัก” ชายหนุ่มยืนมือออกมาทักทาย เรเทียเองก็จับมือเขาอย่างนุ่มนวลพร้อมแนะนำตัวเอง

    “ชั้น เรเทีย อาดีรอฟ ค่ะ ปี 1 ออกัสเทีย อาร์คาเดมี่ เหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เธอพูดพร้อมยิ้มสดใสให้

    “ว่าแต่เมื่อกี้ คุณ คุยกับใครเหรอครับ” คำถามนี้ทำเอาเรเทียเพิ่งจะนึกออกและรู้สึกตัวว่าเมื่อกี้ เธอหลุดพูดกับเฟท ซึ่งคนอื่นมองไม่เห็นไปหลายครั้ง ส่วนเจ้าตัวปัญหากำลังทำท่าล้อเลียนเธออยู่ข้างหลัง วีโต้

    เรเทียทำเป็นมองไม่เห็นตัวเสนียด ก่อนจะคุยกับวิโต้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “แหะๆ ไม่มีอะไรคะ ชั้น.....แค่พูดกะตัวเองน่ะ”

    (โกหกไม่เนียนเลยนะ ยัยบ๊อง)

    “หุบปากซะ....” เรเทียด่าเฟทในใจ

    “อ้อ งั้นหรือครับ แต่ตอนนี้.....อีก 10 นาทีจะปฐมนิเทศแล้วนะครับ ผมว่าเรารีบวิ่งกันดีกว่านะ” พูดเสร็จวีโต้ก็ออกตัวไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เรเทียยืนอ้าปากเหวอ อะไรว้าพูดปุ๊บวิ่งปั๊บ

    “วีโต้ รอด้วย !!” เรเทียที่มัวแต่อึ้งจึงออกตัวช้ากว่าวีโต้หลายขุม ส่วนเฟทก็ลอยตัวตามพร้อมหัวเราะคิกคักสนุกสนานกับการแกล้งเด็ก




    ผ่านไป 9 นาที...

    “แฮ่กๆๆ เหนื่อยชะมัดเลย” เรเทียหอบอย่างอ่อนแรงพลางกระชับเสื้อสูทให้เข้าที่ โดยมีวีโต้ยืนหมดสภาพกว่าอยู่ข้างๆกัน แม้วีโต้จะวิ่งนำมาก่อน แต่หญิงสาวจากเมืองบ้านนอกนั้นกลับเข้าเขตโรงเรียนก่อนชายหนุ่มซะอีก

    “คุณเรเทียวิ่งเร็วจังเลยนะครับ..”

    “อ้อ ชั้นจากบ้านนอกน่ะ เรื่องพละกำลังก็เลยมีพอสมควร” เรเทียตอบพลางยิ้มให้ถึงจะเป็นรอยยิ้มที่สุดแสนจะเหนื่อยล้าก็เหอะ

    (เย้วๆๆ บ้านนอกๆ)

    “ไอ้บ้า นี่หนอยแน่ !!” เรเทียทำท่าจะเงื้อมือซัดเฟทที่กวนทรีนอยู่ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อ วีโต้ เดินมาจับไหล่ของเธอ พร้อมทำสีหน้าจริงใจซะจนหญิงสาวบ้านนอกใจเต้น

    “คุณเรเทียครับ...”

    “ค่ะ....คะ ?”

    “ผมขอโทษที่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตนะครับ ผมอยากจะรักษาอาการพูดคนเดียวของคุณซะเหลือเกิน ขอโทษนะครับ” เรเทียแทบจะหมดอารมณ์ไปกับความเข้าใจผิดของวีโต้ เธอเบือนหน้าขึ้นทองฟ้าพร้อมโทษชะตากรรมบัดซบของตัวเอง ก่อนจะก้มหน้ากลับมาสู่ความจริง

    “ชั้นว่าเราเข้าหอประชุมดีกว่านะคะ สายแล้ว....”

    โรงเรียน ออกัสเทีย อาร์คาเดมี่ นั้นเป็นโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนทวีปเอเทอร์เนียแห่งนี้ ซึ่งถูกสร้างด้วยศิลปะและเอกลักษณ์ของสามประเทศมหาอำนาจ ตัวอาคารเรียนหลักนั้นประดับประดาไปด้วยรูปปั้นแกะสลักและภาพวาดอันวิจิตร วัสดุที่สร้างก็มาจากหินอ่อนชั้นดีอันเป็นความภาคภูมิใจของชาวแอสเตอร์

    ส่วนอาคารสำหรับฝึกสปิริต ซึ่งถูกแบ่งออกไปเป็นหลายรูปแบบ แต่ล้วนคงทนแข็งแรงด้วยวัสดุอันกล้าแกร่งอันเป็นความภาคภูมิใจของชาวโรแลนด์

    ในส่วนของอาคารปลีกย่อยอื่นๆ ตั้งแต่โรงยิม ไปจนถึงห้องประชุม และสนามต่างๆ ถูกตกแต่งและสรรสร้างอย่างอ่อนช้อยงดงามด้วยความภูมิใจของชาวเซน่อน

    เรียกได้ว่าโรงเรียนแห่งนี้นอกจากเป็นสถาบันการศักษาที่ทรงประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมอารยธรรมของทั้งสามประเทศเข้าด้วยกันอีกด้วย

    เรเทีย ตื่นตาตื่นใจไปกับทางเดินใต้อาคารเรียนหลักที่วิจิตรจนแทบลืมหายใจ ซึ่งแน่นอนว่าของแบบนี้ไม่มีทางเห็นได้ที่บ้านเกิดของเธอ “ดูจะตื่นเต้นดีนะครับ คุณเรเทีย”

    เรเทีย เขินเล็กน้อยเมื่อวีโต้เห็นอาการบ้านนอกเข้ากรุงของเธอ “ฮ่ะๆ ก็นิดหน่อยค่ะ”

    “อะ เจอแล้ว หอประชุมรีบเข้าไปกันเถอะครับ แปดโมงเช้าแล้ว”


    ทั้งสองเดินตรงเข้าสู่หอประชุมทรงตะวันออกหลังคากระเบื้องสีเขียว เสริมความแข็งแรงด้วยไม้สักสีแดงสดและถูกต้อนรับด้วย รูปปั้นของชายหญิงหกคนที่ยืนอยู่สองฝากฝั่งทางเดิน อาจารย์ผู้นึงซึ่งยืนอยู่หน้าห้องประชุมเห็นทั้งสองกำลังเดินทอดน่องจึงตะโกนเร่งไปอย่างไม่พอใจ

    “เฮ้ย สองคนนั้นน่ะ รีบวิ่งเข้า สายแล้วยังไม่เจียมตัวอีก”

    “ค่า/คร้าบ” ทั้งเรเทียและวีโต้ ต่างรีบวิ่งเข้าห้องประชุมโดยไม่ลืมโค้งหัวให้กับอาจารย์ทั้งนั้นเป็นการขอโทษด้วย

    “ให้ตายสิ เด็กรุ่นนี้มันจะรอดกันไหมเนี่ย” อาจารย์ผมทองขยับแว่นที่ตาเล็กน้อย พลางมองส่งทั้งสองเข้าห้องประชุมด้วยดวงตาสีน้ำเงิน

    เมื่อทุกอย่างพร้อม ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ปูพื้นด้วยพรหมสีแดงสด ตัวฮอล์นั้นกว้างใหญ่ขนาดที่เรียกว่าจำนวนนักเรียนที่น้อยอยู่แล้วยิ่งดูน้อยเข้าไปอีก เวทีขนาดใหญ่ที่มีโพเดียมตั้งเด่นอยู่ตรงกลางพร้อมแสงสปอร์ตไลท์กับพื้นเวทีที่ทำจากไม้ขัดชั้นดี ตอกย้ำให้ถึงความยิ่งใหญ่ของโรงเรียน

    เรเทีย นั่งประจำที่นั่งสาขาวิชาอัศวินของตนเองพร้อมทำหน้าหน่ายๆเล็กน้อย เธอชำเหลืองไปมองวีโต้ที่นั่งอยู่สาขาเบื้องหลัง ก่อนจะมองไปที่ ที่นั่งสายเวทย์ยุทธซึ่งอยากจะเข้าจนปวดใจ “ถ้าไม่เป็นเพราะนายละกันนะ...” เรเทียตำหนิเฟทในใจไม่ให้คนอื่นมองเธอเป็นคนพิลึก

    (ถ้าไม่เพราะชั้นเธอก็ไม่ได้เรียนนะเฟ้ย)

    “แง่ง เจ็บใจๆๆๆๆๆ”

    ตั้งแต่ 1 เดือนก่อน ที่ เฟท วิญญาณปริศนา เข้ามาสิงสู่ร่างเธอและทำให้เธอสอบผ่านได้ เรเทียก็ต้องทนใช้ชีวิตกับผีที่รู้ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ 24 ชม. ไม่เว้นแม้แต่กับสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่ เจ้าผีตัวนี้ก็สามารถรับรู้ได้ทั้งหมด คงจะเรียกได้ว่ามีจิตที่สื่อถึงกันโดยตรง แถมบางครั้งก็ยังขอบมาสิงร่างเธอตามใจชอบ สร้างความลำบากให้กับชีวิตของเรเทียยิ่งนัก

    ส่วน เฟท เอง แม้ว่าจะเข้ามาสิงสู่ร่างกายของเรเทีย แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมวิญญาณของเขา ถึงมาสถิตอยู่กับเรเทียได้ รวมถึงอดีตของตัวเองที่เจ้าตัวนึกยังไงก็นึกไม่ออก คำตอบทั้งหมดของเรื่องนี้จึงตกอยู่ในเงามืดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    (เอาหน่าๆ มีอะไรเดือดร้อนเดี๋ยวชั้นช่วย !!)

    “ไม่ต้องการเฟ้ย” เรเทียสื่อสารกับเฟทในใจ แต่ดันมีออกมาทางสีหน้าซะเยอะ พลอยทำให้คนนั่งข้างๆคิดว่าเธอปวดขี้

    “อะ โหะ โหะ โหะ สวัสดีนักเรียนปี 1 ทุกคน” ร่างแก่ๆของชายผมล้าน ไร้หนวดเคราแต่ก็ยังยืนลูบอยู่นั้นแหละ ขึ้นไปสถิตบนโพเดียม

    “ชั้น ผ.อ ของสถานบันการศึกษาแห่งนี้ มีนามว่า มาซาลัน ยินดีที่ได้รู้จักนักเรียนใหม่ทุกคนนะ โหะ โหะ โหะ”

    “เป็นตาแก่ที่พิลึกได้นะ” เรเทียหันไปคุยกับเฟทในใจ ชายหนุ่มผมเงินมองดู ผ.อ. ลุคชายแก่แสนอบอุ่นที่เอ็นดูหลานๆยามชรา พลางเอ่ยขึ้น

    (ตาแก่นั้นไม่ธรรมดาเลยนะ จะบอกให้)

    “เห ? ขนาดนั้นเลยเหรอ” เรเทียฟังความเห็นของเฟทแล้วไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไร

    ผ.อ. มาซาลันกระแอ่มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวทักทายต่อ “อย่างที่พวกเธอทุกคนรู้ สถานบันแห่งนี้ฝึกสอนคนหนุ่มสาวให้เป็นผู้ใช้สปิริตชั้นยอดมาหลายรุ่น และตอนนี้ได้ถึงเวลาที่พวกเธอจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แห่งนี้ ช่วงเวลาสามปีที่พวกเธอทุกคนจะได้ร่ำเรียนที่นี้ ยังต้องพบความลำบากอีกมากมาย...”

    ผ.อ. มาซาลันเว้นจังหวะพูดเล็กน้อย “แต่ถึงกระนั้นก็ขอให้พวกเธอได้ผ่านพ้นความลำบากนั้น และ สร้างมิตรสหายเพื่ออนาคตไว้มากๆ ผ.อ.เองก็ไม่มีอะไรจะพูดได้ดีไปกว่าขอให้พวกเธอทุกคนประสบความสำเร็จในสถาบันแห่งนี้กันทุกคนละนะ โหะ โหะ โหะ”

    เมื่อพูดจบนักเรียนในฮอล์ทุกคนก็พร้อมใจปรบมือให้ ผ.อ.ยิ้มให้เหล่านักเรียนใหม่อย่างอารมณ์ดีก่อนจะก้าวลงมาจากโพเดียม เสียงผู้ประกาศดังขึ้นต่อ “ขอเชิญประธานนักเรียน คุณ สโนววี่ กัสเซล ขึ้นกล่าวต่อค่ะ”

    สิ้นเสียงประกาศหญิงสาวร่างสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาดดุจหิมะ ก็ก้าวขึ้นเวที พร้อมกับเสียฮือฮาของเหล่าแฟนคลับและหนุ่มๆปี 1 ที่เพิ่งจะเคยเห็นเธอ ผมสีฟ้าตรงยาวสลวยโดดเด่นเหนือใคร ดวงตาสีเหลืองอำพันคมได้รูป กวาดสายตามองทุกคนในหอประชุมด้วยความอ่อนโยน เสียงตะโกนเจ้าหญิงหิมะ เจ้าหญิงหิมะ ดังขึ้นเป็นระยะ

    “ส....สวยอ่า สวยสุดๆเลย”

    (ช่าย....โคตรรรรรรรรรรรรร สวยเลย)

    “นายนี่....อย่าทำตัวหื่นบนหัวคนอื่นได้มะ” เรเทียสวดใส่แฟนที่กำลังลอยตัวน้ำลายหกบนหัวของเธออยู่

    (ผิดหรือไง เธอเองยังตะลึงไปด้วยเลยไม่ใช่เหรอ)

    เรเทียหันกลับไปมองประธานคนสวยบนเวทีอีกครั้งหลังจากเถียงกับเฟทได้ชุดนึง “ไม่ปฎิเสธละกัน”

    “สวัสดีค่ะ นักเรียนปี 1 ทุกคน” สิ้นเสียงหวานๆของเธอนักเรียนทั้งฮอล์พร้อมใจตะโกน สวัสดี ทักทายเธอทันที

    “โรงเรียนของเรานั้นเป็นโรงเรียนสำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์ค่ะและแน่นอนเหตุการณ์กระทบกระทั้งกันระหว่างนักเรียนย่อมเป็นเรื่องธรรมดา....” ประธานสาวเว้นจังหวะ รอดูปฎิกริยาของนักเรียนปี 1 ก่อนจะกล่าวต่อ

    “สปิริต นั้นเป็นพลังที่ทรงอนุภาพแต่ถ้าหากใช้ไม่ถูกต้องก็จะนำหายนะอันใหญ่หลวงมาให้ พวกเราทุกคนที่เข้ามาศึกษาที่นี่จะได้รับการขัดเกลาการใช้อย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้นำพลังนี้ไปใช้ในทางที่ผิด......”

    “แต่....อย่างที่ดิฉันได้เรียนไปก่อนหน้านี้ การกระทบกระทั่งกันในรั้วโรงเรียนย่อมมีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ทางโรงเรียนจึงได้บัญญัติกฎการประลองอย่างชัดเจนค่ะ”

    เรเทียทำหน้า งง งวยเล็กน้อย “ประลองเหรอ...”

    (ฟังให้ดีละกัน ชั้นว่ากฎนี้สำคัญนะ)

    “ทุกส่วนของโรงเรียนเรานั้นได้รับการป้องกันจากสปิริตเสริมความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง ฉะนั้นการประลองจึงสามารถเกิดที่ไหนก็ได้ในโรงเรียนหากได้รับการอนุมัติจากเหล่าสภานักเรียนและอาจารย์ที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ จึงจะเริ่มการประลองได้ค่ะ..”

    “และการประลองนั้นไม่สามารถจะเล่นงานคู่ต่อสู้ให้ถึงแก่ชีวิตได้ หากดูท่าว่าการประลองทำท่าจะเกินเลยเป็นการทำร้ายร่างกายให้สาหัสหรือถึงชีวิต ทางสภานักเรียนจะขอเข้าแทรกแซงโดยทันที”

    เรเทียรีบหันไปมองเฟท “หมายความว่า.....ซัดกันได้ทุกที่เยยเหยอ”

    (ก็ชัดเจนดีนะ ยังไงซะการประลองที่มีกฎแบบนี้ก็ถือเป็นการพัฒนาฝีมือด้วย สอดคล้องกับกฎที่ต้องให้พกอาวุธดี) เฟทวิเคราะห์อย่างใจเย็น

    “แง้....ไม่เห็นจะรู้เรื่องเยยงะ”

    (ถ้ากลัวมากนักก็หัดไปฝึกให้เก่งเซ้)

    “เงียบหน่า แล้วเมื่อกี้ใครย่ะ ที่บอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะเข้ามาช่วยเองอะ อีกอย่างเกิดมาก็ถือแต่จอบ เสียม ทำไร่ไถ่นาแล้ว ชั้นไม่เคยถืออาวุธเลยงะ” เรเทียเถียงเฟทในใจ แต่ออกท่ามากเกิน จนคนรอบข้างเริ่มคิดว่าเธอเป็นบ้า

    (อะไรว้า ทีตัวเองยังบอกไม่ต้องการให้ช่วยอยู่เลย) เรเทียรีบเขม่นใส่ชายหนุ่ผมมเงินทันทีที่ได้ยินเสียงบ่น พอเฟทเห็นเช่นนั้นก็รีบทำท่าหนูไม่รู้เรื่อง

    “หากมีอะไรสงสัยหรือมีปัญหาอะไรของเชิญได้ที่ห้องสภานักเรียนบนชั้น 6 อาคารเรียนแอสเตอร์นะคะ ขอให้นักเรียนปี 1 ทุกท่านมีความสุขและร่วมใช้ชีวิตอันสนุกสนานในรั้วโรงเรียนแห่งนี้ค่ะ” ประธานสาวก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะก้าวลงจากโพลเดียมพร้อมเสียงปรบมือจากแฟนคลับดังสนั่น

    “ลำดับต่อไป....” เสียงผู้ประกาศดังขึ้นอีกครั้ง “ขอเขิญ คุณ เรเทีย อาดีรอฟ ขึ้นกล่าวทักทายในฐานะผู้ที่สอบเข้าด้วยคะแนนสูงสุดค่ะ”

    “หะ.......อีกทีสิ” เรเทียเอียงหูฟังเหมือนได้ยินไม่ถนัด

    (เค้าบอกให้เธอขึ้นไปกล่าวทักทายในฐานะผู้สอบเข้าได้คะแนนสูงสุด) เฟทจัดคำพูดเดิมให้เรเทียไปเต็มรัก

    “บ้าแล้ว....ชั้นพูดไม่เป็น” เรเทียทำท่าเลิกลั่กพลางมองหน้าเฟทด้วยความกังวลสุดๆ

    “ขอเชิญคุณเรเทียค่ะ” แล้วจู่ๆแสงสปอร์ตไลท์ก็ส่องไปตำแหน่งที่เธอกำลังนั่งอยู่ เรเทียตกใจจนแทบฉี่ราดแต่ก็ต้องจำใจก้าวออกจากที่นั่งไปยังเวที เสียงฮือฮาของนักเรียนทั้งฮอล์ดังขึ้นทันทีที่พวกเขาเห็นโฉมหน้าของผู้ได้อันดับ 1 ในการสอบ ยิ่งทำให้เรเทียปวดตับหนักกว่าเมื่อกี้เป็นเท่าตัว

    “ซวยแล้ว ซวยแล้ว ซวยแล้ว เอาไงดีอะ เฟททททท” เรเทียหันมองผีหนุ่มที่ลอยตามเธอมาช้าๆ เฟทมองหน้าเธอแล้วอุดปากเพราะหลุดหัวเราะ

    (เรเทีย....หน้าเธอตอนวิกฤตินี่อย่างจี้ ฮ่าๆๆๆๆๆ)

    “ไอ้ผีบ้านี่..... “

    “โหะ โหะ โหะ ไม่ต้องตื่นเต้นคุณเรเทีย” ผ.อ. หัวล้าน ที่อยู่ข้างเวทีเดินมาให้กำลังใจเธอเล็กน้อย พร้อมกับคุณประธานคนสวยที่ยืนถัดไปจาก ผ.อ “ใจเย็นๆนะคะ ค่อยๆพูด”

    ประธานสโนววี่พูดพร้อมส่งยิ้มหวานๆให้เรเทีย แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สาวน้อยจากบ้านนอกสุขภาพจิตดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

    (ประธานยิ้มน่ารักงะ)

    “ถ้าไม่คิดจะช่วยอะไร ก็อย่าทำตัวหื่นให้รู้สึกแย่กว่าเดิมได้ไหม เฟท”

    เรเทียก้าวขึ้นไปยืนบนโพลเดี่ยมด้วยขาที่สั่นพั่บๆ มือสองข้างค่อยๆประคองไมค์อย่างไร้เรี่ยวแรง สายตาของนักเรียนปี 1 และอาจารย์ทุกคนกำลังมองมาที่เธอ จนสาวผมทองอยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด

    (เอ้า สู้ๆยัยเบอะ)

    เรเทียเหลือบมองเฟทด้วยสายตาวิงวอนขอความช่วยเหลือเต็มที่ “ช่วย....ช่วยชั้นหน่อย เฟท ชั้นพูดไม่ออก”

    ถึงเรเทียจะพูดขนาดนั้นแต่เฟทกลับทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ “ตาบ้า.....”

    เรเทียรวบรวมสมาธิอีกครั้ง เธอสูดลมหายใจเต็มปอดทีนึง “ส...ส ส สวัสดีค่ะ พ พ พเพื่อนๆ ปี 1 ทุกคน” หญิงสาวพูดแทบไม่เป็นภาษาเธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ จนความมั่นใจที่ไม่มีอยู่แล้วยิ่งติดลบ

    “ปีนี้....อ อ อาการอบอุ่น กะ กะ กะลังดี อุ้ย” ด้วยความประหม่าแบบสุดๆทำให้ปากเธอไปกระแทกกับไมค์จนเกิดเสียงหัวเราะดังสนั่นฮอล์

    “ตายแน่ ตายแน่ ชั้น” เรเทียสิ้นสภาพ จนอยากจะฟุ่บลงเต็มแก่ เฟททนดูไม่ไหว จึงเข้า take over ร่างกายของเธอทันที วิญญาณของเรเทียหลุดออกมาอยู่สภาพเดียวกับวิญญาณเฟทเมื่อครู่ คือ ลอยอยู่ข้างๆกับร่างกาย

    “ขออภัยทุกท่านค่ะ ชั้นตื่นเต้นไปหน่อย” เฟทที่อยู่ในร่างของเรเทียควบคุมร่างกายให้ยืนตัวตรงและพูดอย่างฉะฉ่าน กริยาท่าทางนั้นดูงามสง่า จนเจ้าของร่างเองยังอดอึ้งไม่ได้

    “แอสเตอร์ นั้นเป็นประเทศที่มีอากาศอบอุ่นเหมาะแก่การศึกษา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่พวกเราทุกคนตั้งเป้าว่าจะได้เข้ามาที่นี่ และเราทุกคน....เราทุกๆคนก็ทำมันได้สำเร็จ ซึ่งต้องขอบคุณคณะอาจารย์ทุกท่านที่ให้ความกรุณามากๆค่ะ” เฟทพูดแก้จากสิ่งที่เรเทียทำพลาดไว้เมื่อกี้ได้อย่างไร้ที่ติ ผู้ฟังในฮอล์พร้อมใจปรบมือให้

    (นายเก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย) เรเทียในร่างวิญญาณถามเฟทที่เข้าใช้ร่างเธอเรียบร้อย

    “ก็แค่พอเอาตัวรอด” เฟทตอบกลับในใจ พลางทอดสายตาสีฟ้าสวยของเรเทียไปทางทุกคนอีกครั้ง

    “และตัวชั้นเองก็หวังว่าจะได้ใช้เวลาสามปีอันมีค่า ในสถาบันที่ทรงเกียรตินี้ ร่วมกับพวกเราทุกคน ได้ทำกิจกรรม ได้ร่วมสนุก และได้จบการศึกษาสู่อนาคตที่พวกเราทุกคนวาดฝันไว้พร้อมๆกับทุกคนเช่นกันนะคะ…..” เรเทียนิ่งไปกับคำพูดที่ออกมาอย่างพิถีพิถันของเฟท

    “สุดท้ายนี้ก็ขอให้โชคได้อยู่กับพวกเราทุกคนตลอดสามปีและตลอดจนถึงวันที่พวกเราประสบความสำเร็จค่ะ” เฟทในร่างเรเทียก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะก้าวลงโพลเดียมพร้อมเสียงปรบมือกึกก้อง เขาค่อยๆเดินลงจากเวทีด้วยท่าทีไร้ความประหม่าใดๆ ก่อนจะทักทายกับคณะอาจารย์และสมาชิกสภานักเรียนพอเป็นพิธี แล้วจึงกลับไปนั่งที่

    “เอ้า กลับร่างได้แล้ว” เฟทซบตาเรเทียเป็นสัญญาณ หญิงสาวพยัคหน้าเล็กน้อยก่อนที่วิญญาณทั้งสองจะสลับตำแหน่งกันอีกครั้ง

    “ขอบคุณนะ เฟท” เรเทียขอบคุณในใจ ชายหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อย

    (โห เธอขอบคุณชั้นเป็นด้วเหรอ)

    “ทำไมย่ะ”

    (ฮะๆๆๆๆๆ ไม่มีอะไร ทำตัวน่ารักก็เป็นนี่หนา) ชายหนุ่มยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่ได้แกล้งหญิงสาวได้

    “ชิ ยังไงก็ขอฝากด้วยนะ เฟท” เรเทียเดาะลิ้นและมองเฟทอีกครั้ง ชายหนุ่มยิ้มกลับ

    (อ่า เท่าที่ทำได้ละกัน)




    การเริ่มต้นชีวิตใหม่ของสาวน้อยบ้านนอกมันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น.....




    .....................
    .................................
    .........................................
    ...................................................





    คุยกันหลังตอน


    ที่มันน้อยไปนิด เพราะผมดูเนื้อหาต่อจากนี้แล้วมันไม่น่าเอามารวมเป็นตอนเดียวกันเลย ก็เลยแยกมันออกมาเป็นสองตอนซะ ฮ่าๆๆๆๆ

    ก่อนอื่นผมต้องกราบขออภัยก่อน ที่มันออกมาดูกากๆยังไงไม่รู้ แก้แล้วแก้อีกก็ยังรู้สึกว่ามันกากอยู่ดี ทำไมเขียนอะไรได้กากเช่นนี้ อ้ากกก ไม่เห็นเหมือนเรื่องก่อนเลยฟะ เขียนลื่นไหลเป็นน้ำตกไนแองการ่า หมายความว่าไงฟะเนี่ย

    ตอนหน้าตัวละครของพี่น้องทั้งหลายออกมาเยอะเลยละครับ ฮ่าๆ เพราะมันจะเป็นเรื่องในชั้นเรียนแล้ว เรื่องนี้ผมพยายามจะเน้นไปที่ความรั่วเป็นหลัก ซึ่งประเด็นเครียดๆคงจะยังในช่วงครึ่งหลัง และใน 4 ตอนแรกผมจะพยายามอธิบายรายละเอียดของโลกใบนี้ให้มากที่สุด เผื่อมีใครอยากไปอีดิทอะไรตรงไหนจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้

    สำหรับตอนนี้ก็ดูความเอ๋อของนางเอกไปพลางๆก่อน ส่วนใครจะได้เป็นพระเอกนั้นตอนนี้ผมยังไม่ตัดสินใจ ทางเลือกมันหลายรูทมาก อย่างว่าฟิคเรื่องนี้มันเป็นฟิคฮาเร็มชาย ฮ่าๆๆๆ อ้อ ใครอยากเห็นหน้าน้องเรเทียชัดๆ ไปดูได้ในดีสเพล FB ของผมครับ ช่วงนี้ผมคลั่งน้องเรเทียมากๆ ขอเอาเป็นดีสเพล FB เลยละกัน

    ขอบสำหรับทุกคอมเม้นล่วงหน้า สัปดาห์เจอกันเด้อ !!!!



    Special Thanks

    1. Vito Askla โดย ท่าน Zales เป็นตัวละครที่ผมให้คำนิยามว่า เพื่อนยามยากของนางเอก ดูจะเป็นคนที่นางเอกต้องเพิ่งพิงเอาบ่อยๆ ก็เลยให้เจอกันเป็นคนแรกซะเลย


    2. ผ.อ. มาซาลัน มีใครจำบุรุษท่านนี้ได้หรือไม่ ท่านผู้นี้คือ ผู้ที่เขียนฟิครับสมัครที่มีชื่อเสียงในช่วงประมาณปี 2007-2008 นี่แหละ ผมชอบเรื่องที่เป็นแก็งองค์กรที่มีพลังพิเศษเกี่ยวกับสารอะไรสักอย่างในร่างกาย ผมก็จำไม่ค่อยได้ละ แต่ผมชอบฟิคเรื่องนี้ของพี่เค้ามากเลย เป็นฟิครับสมัครเรื่องแรกที่ตัวละครของไอ้โย ได้วาดลวดลายไว้ด้วย (จำได้ว่าแม่งโคตรเท่ห์เลย ได้เป็นรองหัวหน้าด้วย เจ๊อลิสเป็นหัวหน้าแก็ง) ถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในยุครุ่งเรืองสุดๆของฟิครับสมัครในบอร์ด AF ก็ว่าได้

    3. สโนววี่ กัสเซล ทายสิใครเอ่ย.... เจ๊ยู ไงละพี่น้อง เนื่องด้วยงานการแกเยอะจนไม่ค่อยโผล่หัวมา แต่ผมรู้แหละว่าเจ๊แกยังแวะเวียนมาอ่านอยู่ ก็เลยขอจัดคาแร็กเตอร์พี่สาวสุดสวย น่ารัก ผิดกับตัวจริงลิบลับหน่อยละกันนะ เจ้าหญิงหิมะ




    AND ALL FRIENDS AND FANS THANKS !!!!!!
  2. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    นานๆทีจะได้เห็นตัวละครที่สมัครไปได้โผล่มาแต่ต้นเรื่องแฮะ

    อ่านๆแล้วผมว่าตรงไหนเป็นที่คิดในใจน่าจะใช้สัญลักษณ์อื่นแทน "" นะครับ ไม่งั้นคงสับสนกับคำพูดปกติเอาง่ายๆ ยิ่งเป็นฟิคที่ตัวเอกคิดในใจกับวิญญาณติดตัวบ่อยๆด้วยเนี่ย

    ปล. ที่พูดตอนท้ายนั่นท่าทางวีโต้จะตั้งใจพูดแฮะ >_<
  3. ManaswinPipatponglert

    ManaswinPipatponglert Crazy in games

    EXP:
    35
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    8
    ท่านมาซาลันที่เขียนเรื่อง PRIDE Online รึเปล่าครับ ผมตามอ่านของเขาอยู่ใน Dek-d ตอนนี้เลย

    ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดตรงไหนที่คิดจะเปลี่ยนแหะ แต่กลุ่มรุ่นพี่กว่าจะได้ออกก็ยากอยู่แล้วนี่น้อ ค่อยๆดูไป:medance.:
  4. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    สนุกนะ อ่านแล้วก็ต่อเนื่องดี (สะดุดกับคำผิดที่เยอะไปหน่อย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะเราก็เขียนผิดเหมือนกัน!!)

    เฟท มันยียวนกวน-ีนชะมัดเลย บทวิญญาณแบบนี้ช่างเหมาะกับเฟทเสียนี่กระไร (เอ๊ะ! ยังไง)
    ส่วนนางเอกมันก็เปิ่นซะจริงๆเลย






    ติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ (แอบกดดันคนเขียน ฮา)
  5. powder

    powder Member

    EXP:
    260
    ถูกใจที่ได้รับ:
    9
    คะแนน Trophy:
    18
    โอ้ อ่านไปขำไปเลยค่ะ สนุกดี อ่านได้เรื่อยๆเลย ชอบความขำขันระหว่างเฟทกับเรเทียกับคำพูดของวีโต้ตอนท้ายมาก ฮ่าๆๆๆ

    รู้สึกเชียร์เรีเทียคู่กับเฟทตั้งแต่เริ่มเรื่อง ฮึๆ

    รออ่านตอนต่อไปค่ะ
  6. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    ชอบวิญญาณเจ้าเฟท!!! 5555555
    ฟิคแนวนี้ก็มีแต่เฟทนั่นแหละที่เขียนแล้วอ่านสนุกที่สุด! (มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมาก ขอบอก = =b)
    แต่บทกัดกันเยอะไปหน่อยแฮะครับ อ่านไป 3 ย่อหน้า ยังกัดกันไม่จบเลย

    +10 ฝุ่นซัง
  7. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    สะดุดตั้งแต่ชื่อ มาซาลัน ในฟิคแล้วว่า ใครสมัครหว่า ไม่คุ้นที่ไหนได้ เอาท่าน มาซามาเป็นแขกรับเชิญนี่เอง

    ใช่เลย ท่านมาซาลันแต่งอยู่บอร์ดAF ช่วงนั้นหลายเรื่อง ที่ติดๆตาหรือที่โยพูดถึง น่าจะเป็นสงครามเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ Cluiz War แรงบันดาลใจเรื่องแรกที่ทำให้ผมเข้าวงการฟิคเลยทีเดียว หลังๆแกไปฝึกวิชาที่เด็กดีจนได้ดิบได้ดีไปแล้ว =w=b

    เข้าเรื่องฟิค แว่บแรก เรเทียกับเฟทนี่มันช่าง ไม่ค่อยอวยเล้ยยย 5555 ตั้งแต่ต้นเรื่อง
  8. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Chepter 2 Prelude in Class


    เช้าวันแรก......

    ห้องเรียน 1 A

    เรเทียเงยหน้ามองห้องเรียนของตัวเองพลางปลุกใจตัวเองพร้อมเปิดประตูเข้าไปในห้อง การเรียนการสอนของ ออกัสเทีย อาร์คาเดมี่ นั้นแบ่งออกเป็นสองช่วงคือ ช่วงปกติ กับ ช่วงปฏิบัติสปิริต ซึ่งช่วงการเรียนการสอนปกตินั้นจะเรียนในภาคทฤษฏี หลากหลายวิชา ตั้งแต่กายวิภาค ประวัติศาสตร์ การใช้งานสปิริต รวมไปถึงวิชาพื้นฐานทั่วไป

    และช่วงบ่ายจะเป็นการปฎิบัติซึ่งเป็นการฝึกฝนการใช้งานสปิริตและการฝึกฝนที่ถูกต้อง อันเป็นวิชาเรียนหลักของที่นี้

    เรเทียหยุดนิ่งหน้าประตู เพราะเพื่อนร่วมชั้นกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาอันหลากหลาย สาวผมทองค่อยๆคลืบคลานไปที่นั่งโซนกลางห้อง เพราะระหว่างที่เธอหลงทางอยู่ คนอื่นก็แย่งที่ไปหมดแล้ว และทันทีที่เรเทียก้นเตะเก้าอี้

    “โอ้ เธอคือคนที่สอบได้ที่ 1 ปีนี้เหรอ”

    “ผมได้ยินว่าเธอได้ 100 คะแนนเต็มด้วย จริงหรือเปล่าครับ”

    “เมื่อเช้าพูดในห้องประชุมสุดยอดไปเลยนะ ตอนแรกก็นึกว่าไม่ไหวซะแล้ว”

    “นี่ๆ สปิริตของเธอคืออะไรเหรอ”

    “แล้วเธอเข้ามาสอบสาขาอัศวินตอนไหนอะ วันสอบชั้นไม่เห็นเธอเลย”

    เพื่อนในห้องรุมตั้งคำถามกับเธอกันยกใหญ่เหมือนเป็นดาราหน้ากล้องก็ไม่ป่าน เรเทียเริ่มทำตัวไม่ถูกถึงจะดีใจที่มีคนมารุมเยอะอยู่ก็เถอะ

    “ไงหน้าบ้านเชียวนะ ยัยบ๊อง” เฟทหยอกทันทีที่ได้โอกาศ

    “ชิ.....ช่วยหน่อยสิ” เรเทียเดาะลิ้นพลันหันไปหาเฟทที่ลอยตัวไม่ใส่ใจ

    “ถ้าแค่นี้ยังจะให้ช่วยอีกก็ไม่ไหวแล้วนะ เด็กอมมือหรือไงเธอน่ะ”

    เรเทียทำหน้ามุ่ยใส่เล็กน้อย และตอนนั้นเอง... “อะ วีโต้” เรเทีย ตะโกนทักทายหนุ่มผมดำที่ก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่หน้าห้อง วีโต้สะดุ้งเล็กน้อยที่ได้ยินเสียงคุ้นเคย เขาหันหน้ากลับมา เมื่อเห็นเรเทียเข้าชายหนุ่มผมดำก็ผุดยิ้มขึ้นอย่างมีไมตรี

    “คุณเรเทีย อยู่ห้องเดียวกันเหรอครับ” วีโต้ เดินแหวกเพื่อนๆที่ล้อมเรเทียเข้าไปคุยอย่าเป็นกันเอง จนเพื่อนในห้องสงสัย

    “พวกนายเป็นแฟนกันเหรอครับ” ชายหนุ่มผมยาวสีดำถึงสะโพก ดวงตาสีม่วงดูลึกลับ ผิวขาวซีด สวมแว่นกรอบแดง ถามขึ้นด้วยความสงสัย ส่วนคนอื่นๆก็ทำหูกางอยากสอดเรื่องชาวบ้านกันซะเต็มประดา

    “ไม่ใช่ๆๆ” ทั้งสองตอบแทบจะพร้อมกัน

    “ก็เหมาะกันดีออกนะ” เฟทลอยไปกระซิบข้างหูเรเทีย ส่วนหญิงสาวตำหนิเขาด้วยหางตาเล็กน้อย

    “ยุ่งหนา”

    “อาจารย์จะมาแล้วนะคะ ไม่กลับไปนั่งที่หรือคะทุกท่าน” เสียงเล็กแหลมสูงของเด็กสาวอีกคนดังขึ้น ตัวเธอสูงกว่าเรเทียเล็กน้อย ผมทวินเทลสีแดงอ่อน เข้ากับชุดสูทแขนยาวของโรงเรียนเป็นอย่างดี ดวงตากลมโตสีแดงของเธอจ้องมองทุกคนที่รุมล้อมเรเทีย

    “อีกอย่างไปทำอย่างงั้นคุณเรเทียเค้าลำบากใจนะคะ ไว้ค่อยถามทีหลังก็ได้” เพื่อนในห้องทุกคนหยุดนิ่งมองหน้าหญิงสาวที่เข้ามาขัดจังหวะกลางคัน ก่อนจะถอนตัวแยกย้ายกันอย่างว่าง่าย จนเรเทียเองยังแอบตกใจเล็กๆ ส่วนวีโต้โบกมืออำลาเรเทียเล็กน้อยก่อนจะกลับไปนั่งที่

    เด็กสาวคนนั้นทิ้งตัวนั่งที่นั่งข้างๆของเรเทียพร้อมยื่นมือทักทาย “สวัสดีค่ะ คุณเรเทีย ชั้นยูเทล ทาทารอส ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

    “อะ สะ... สวัสดีค่ะ ชั้น เรเทีย อาดีรอฟ ค่ะ” สาวผมทองจับมือเพื่อนใหม่ด้วยท่าทางลนลาน แต่ยูเทลก็ไม่ได้ถือสาอะไร

    “เมื่อเช้าพูดได้วิเศษมากเลยนะคะ ชั้นยังประทับใจเลย” ยูเทลพูดพลางยิ้มให้

    “เอ๋....อะ ขอบคุณค่ะ” เรเทียเหลือบตามองเฟทเล็กน้อย ก่อนจะสื่อสารกันในใจ “ดูเป็นคนดีแหะ”

    “ช่ายๆ คุณหนูน่ารักเรียบร้อย สเป็กๆ” วิญญาณชายหนุ่มแสดงความชื่นชอบแบบออกนอกหน้า

    “คิดเรื่องอื่นเป็นบ้างไหมเฟท”

    “รู้สึกเธอจะชอบเบรกชั้นเรื่องนี้จริงๆนะ เรเทีย ทำไมจ๊ะ ปิ๊งรักสุดหล่อคนนี้หรือไง” เฟทถามกลับแบบยียวน แต่หญิงสาวกลับแสดงท่าทางเฉยเมย ตรงข้ามกับที่เฟทคาดลิบลับ

    “เอาส่วนไหนในตัวนายคิดน่ะเฟท แค่ชั้นนึกว่าจะต้องทำอะไรกุ๊กกิ๊กเหมือนคู่รักกับนาย นี่ก็ขนลุกจะแย่แล้ว” เรเทียตอบกลับเฟทในใจ

    “เสียมารยาทจริงๆยัยนี่ แต่คุณหนูคนนี้ดูท่าจะไม่ชอบหน้าเธอนะระวังไว้หน่อยก็ดี”

    “เอ๋ เหรอ แต่ชั้นว่าเธอไม่เห็นมีพิษภัยอะไรเลยนี่หนา” เรเทียจ้องมองหน้าเพื่อนใหม่ จนยูเทลต้องถามด้วยความสงสัย

    “มีอะไรเหรอคะ เรเทีย”

    “ไม่มีค่ะ ไม่มีอะไรแหะๆ”



    ครืด !!!

    เสียงประตูเลื่อนเปิดออกอย่างกะทันหัน นักเรียนในห้องทุกคนรีบกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง อาจารย์หนุ่มผมทอง เดินเข้ามาในห้อง เขามองนักเรียนลอดแว่นตาเล็กน้อย ก่อนจะเดินอาดๆขึ้นไปยืนบนโพเดียมหน้าห้อง ผมยาวที่มัดรวบไว้พลิ้วไปตามการเคลื่อนไหว

    นักเรียนในห้องทุกคนไม่เว้นแม้แต่เรเทียรู้สึกถึงบรรยายมาคุ จากตัวอาจารย์ที่ยังทำหน้าเหมือนหมูที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มติดไวรัสอีโบล่า “ชั้น เอซ ไอแซ็ค อาจารย์ที่ปรึกษาและเป็นอาจารย์ผู้ดูแลห้องนี้”

    อาจารย์เอซพูดด้วยน้ำเสียงปนความซีเรียส เหล่านักเรียนเริ่มใจฝ่อกันไปเป็นแทบๆ “อย่างที่พวกเธอรู้กัน โรงเรียนของเรา คือ สถาบันฝึกสอนที่ดีที่สุดในโลก และมีกฎระเบียบเคร่งครัดมากมาย ซึ่ง....พวกเธอจำเป็นต้องปฎิบัติตาม” เอซ พูดเน้นคำซะจนพวกนักเรียนนั่งตูดเปียกกันไปเป็นแถว

    “อาจารย์น่ากลัวงะ” เรเทีย คุยกับเฟทในใจ ด้วยเสียงหวาดๆ

    “อืมม นั้นเดะ ไม่รู้พี่แกจะเข้ามาโหดไปไหน นี่ถ้าชั้นสอนเองรับรอง ฮาขี้แตก ว่ะ ฮ่าๆๆๆ” เฟทพูดพลางหัวเราะลั่น เพราะยังไงก็รู้ว่าไม่มีใครได้ยินเสียง

    “เปลี่ยนกันได้มะ ชั้นอยากออกไปลอยๆแบบนั้นปล่อยอารมณ์มั้ง” หญิงสาวผมทองเอ่ยพร้อมทำหน้าหน่ายๆเล็กน้อย

    “อย่าหวัง...”

    “คุณเรเทีย” จู่อาจารย์เอซก็เอ่ยชื่อเธอขึ้นมา หญิงสาวที่กำลังคุยกับผีข้างตัวอยู่สะดุ้งโหยง “ค่า ? “

    “ตอนนี้ผมกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่....” ชิบหายแล้ว หญิงสาวไม่ได้ฟังอาจารย์พูดต่อเลยตั้งแต่เธอไปใส่ใจกับการพูดคุยกับเฟทแทน วิญญาณชายหนุ่มผมเงินอมยิ้มเล็กน้อย “เอาไงละเรเทีย ชั้นก็ไม่ได้ฟัง”

    “ง่า แล้วทำไงดีอะ” เรเทียทำหน้าลุกลี้ลุกลนพลางคิดหาทางออกสุดชีวิต

    “เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ หันไปหาคุณหนูซะ” เฟทชี้ไปทางยูเทลที่กำลังทำท่าบอกอะไรสักอย่างกับเธออยู่ เรเทียมองริมฝีปากของเพื่อนร่วมห้อง พลันหันกลับไปตอบอาจารย์

    “เรากำลังจะหาตัวแทนห้องกันอยู่คะ”

    “รอดตัวไปนะ คราวหน้าอย่านั่งเหม่ออีกละ คุณคืออนาคตของสถาบันเราทำตัวให้ดีกว่านี้หน่อย” อาจารย์เอซตำหนิสาวผมทองเล็กน้อยพอเป็นพิธี

    “ค่ะ ทราบแล้วค่ะ” เรเทียถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมทำท่าขอบคุณยูเทล สาวผมทวินเทลยกมือรับเล็กน้อย

    “เอาละ เรามาโหวตหาตัวแทนห้องกันต่อ มีใครจะอาสาเป็นไหม” อาจารย์หนุ่มแว่นถามพลางกวาดสายตาไปรอบห้อง มีเพียงคนเดียวที่ยกมือขึ้นอาสา

    “ชั้นเองค่ะ อาจารย์เอซ” ผู้กล้าที่ยืนออกรับแทนเพื่อนในห้อง ก็คือ ยูเทล นั้นเอง การออกตัวของยูเทลสร้างความโล่งใจให้เพื่อนในห้องไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่ก็ต่างแอบภาวนากันว่า อย่าให้เป็นกูเล้ย

    “มีใครในห้องขัดค้านไหม” ทุกคนนั่งเงียบไม่มีใครค้าน ใครมันจะบ้าไปหาเรื่องใส่ตัวกันละฟะ

    “งั้นก็ดี ยูเทล ทาทารอส สินะ....ต่อไปนี้เธอคือตัวแทนห้อง หน้าที่หลักๆของเธอคือการรายงานสภาพในห้องกับอาจารย์ และ ทำงานในสภานักเรียน รายละเอียดปลีกย่อยก็ค่อยๆเรียนรู้ละกัน”

    “คะ อาจารย์” ยูเทลเอ่ยรับ พร้อมนั่งลง หญิงสาวผมทองนึกชื่นชมเธอ “ดูเธอก็เหมาะสมดีเนอะ เฟท”

    “อ่า ก็เป็นงั้นแหละ เพราะยัยบ้านนอกแถวนี้บางคน คงไม่รับอาสาหรอก”

    “เออ ใช่เซ้ ชั้นมันขี้กลัวนิ” เรเทียตอบรับอย่างน้อยใจ แต่เฟทมันไม่นึกสงสารหรอก

    “นอกจากขี้กลัวแล้วยังทำอะไรไม่เป็นอีก เฮ้อ ช่างเป็นความอับอายอะไรอย่างงี้”

    “แง่งง อย่าให้ถึงที่ชั้นมั้งละกัน !!” หญิงสาวนึกเจ็บใจที่เถียงไม่เคยชนะไอ้ผีนี่สักที

    อาจารย์ผมทองทำสัญลักษณ์ที่ชื่อยูเทลในสมุดรายชื่อเสร็จจึงเอ่ยต่อ “เอาละ พวกเธอจงรักษากฎระเบียบของทางโรงเรียนให้ดีอย่าให้เรื่องมันมาถึงชั้น รู้ไหมว่าการขัดกฎระเบียบน่ะ.....มันทำให้ชั้นโดนด่า...ซิกๆๆ แล้วมันทำให้ชั้นเฟลรู้ไหม ฮือๆ ซึกๆ ชั้นน่ะไม่อยากสอนนักหรอก แต่ไอ้ ผ.อ. ซาดิสนั้น...ฮือๆๆๆๆๆ ชั้นนี่อยากออกไปหางานบ้านนอก แล้วก็ๆๆ…..”

    จู่ๆอาจารย์มาดเข้มก็ปล่อยโฮแถมเพ้อเจ้อขึ้นมาซะงั้น เหล่านักเรียนในห้องนั่งมึนเป็นไก่ตาแตกจนแทบไม่เชื่อสายตา แถมตอนนี้อาจารย์กำลังเผยความในใจที่อยากจะหนีไปเลี้ยงไก่ชน ส่วนตอนนี้กำลังพล่ามบวกสะอื้นไม่หยุดและทำท่าว่าจะไม่หยุดในเวลาอันใกล้

    “อะไร....ของอาจารย์คนนี้ว่ะเนี่ย” เฟทเองก็พลอยมึนไปกับเค้าด้วย แต่เรเทียกลับลุกยืนขึ้นน้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาสีฟ้าสวย พลันพูดด้วยเสียงอันดัง

    “อาจารย์ค่ะ หนูก็อยู่บ้านนอกมาก่อนค่ะ เคยเลี้ยงไก่ชนด้วยค่ะ สภาพดีกว่าในเมืองลับลับเคยค่ะ หนูเข้าใจความรู้สึกอาจารย์เอซมากๆเลยค่ะ”

    อาจารย์หนูถอดแว่นเช็ดน้ำตา พร้อมทำหน้าปลื้มปิติ “เรเทีย เธอช่างเป็นคนดีจริงๆ !!”

    อาจารย์หนุ่มเดินตรงมาหาเรเทียพร้อมจับมือเธอไว้ ทำหน้าซึ้งใส่กัน “ในที่สุดก็เจอคนเข้าใจอาจารย์แล้ว…”

    เรเทียยิ้มพร้อมน้ำตา “อาจารย์เอซ !!!!”

    “เรเทีย !!!!”

    ฉากโคตรรดราม่าในห้องทำเอาทุกชีวิตเงียบกริบไม่เว้นแม้แต่ไอ้ผีไร้ชีวิตก็ด้วย “เออ....พวกนี้มันเข้ากันได้ดีแหะ” เฟทแอบรำพึง






    และเวลาก็ร่วงโรยไปสู่ช่วงเที่ยง....

    “โอ้ย มึน” เรเทียนอนฟุ่บอยู่บนโต๊ะ เฟทที่ลอยตัวอยู่ข้างๆเธอถอนหายใจเล็กๆ “อะไรกัน แค่นี้ทำมึน”

    “ก็มันเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอะ เฮ้อ ตอนสอบจะรอดไหมเรา แล้ววีโต้ ไปไหนแล้วอะ ไม่มากินข้าวกับเราเหรอ” หญิงสาวพูดโดยที่หน้ายังฟุ่บอยู่บนโต๊ะ

    “เค้าเพิ่งจะมาบอกเธอว่าจะไปกินข้าวที่โรงอาหารไม่ใช่เหรอฟะ” เฟทตอบเตือนความจำ

    “นั้นสิเน้อ” สาวผมทองเอ่ยกลับเนือยๆ

    “คุณเรเทียคะ ขอชั้นนั่งด้วยได้ไหมคะ” เสียงน่ารักของหญิงสาวผมทวินเทลดังขึ้นข้างๆ เรเทียเงยหน้ามองตัวแทนห้องหมาดๆ

    “ตามสบายจ้า” เมื่อสิ้นเสียงตอบรับยูเทลยิ้มขึ้นแบบผู้ดี ก่อนจะค่อยๆลากโต๊ะข้างๆมาติดกับโต๊ะของเรเทีย หญิงสาวหยิบเอาปิ่นโตสุดหรูขึ้นมาวางบนโต๊ะพร้อมเปิดมันออก อาหารที่อยู่ในนั้นหรูซะจนเรเทียแอบอิจฉา

    “ชีวิตนี้ชั้นยังไม่เคยกินอะไรแบบนี้เลยอ่ะ” เรเทียพูดไปเช็ดน้ำลายไป

    “ถ้าไม่รับเกียจจะรับสักหน่อยไหมคะ” ยูเทลพูดพร้อมเลื่อนปินโตของเธอมาไว้กลางโต๊ะ

    “เย้ ขอบคุณน้า งั้นชั้นต้องเอาของชั้นออกมาแบ่งมั้งสินะ”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

    “หน่าๆอย่าใส่ใจเลย” เรเทียควักกล่องข้าวของเธอออกมาจากกระเป๋า เธอเปิดฝามันออกอาหารข้างในนั้นช่างสามัญธรรมดาผิดกับปิ่นโตระดับภัตตาคารของยูเทลยิ่งนัก

    “คนละชั้นจริงๆด้วยแหะ” เรเทียมองอาหารกลางวันของเธอกับยูเทลพลางเปรียบเทียบ

    “ไม่หรอกค่ะ ดูน่ากินออก ชั้นขอไข่ม้วนนี่สักชิ้นนะคะ” เรเทียพยักหน้ารับ หญิงสาวผมทวินเทลใช้ตะเกียบในมือคีบอย่างเบามือ ก่อนจะเอาเข้าปากด้วยทวงท่าอันไร้ที่ติ

    “ได้เป็นเพื่อนกะคุณหนูผู้สูงศักดิ์ด้วยอ่า มองมุมไหนก็น่าร้ากก” เรเทียแอบปลื้มในใจ แต่ดันได้ยินไปถึงไอ้ผีที่อยู่ข้างๆ

    “อือ ยินดีด้วยละกัน” เฟทพูดกลับแบบหน่ายๆ เรเทียหันไปมองจิกเล็กน้อย

    หญิงสาวย้ายสายตาของตนออกมาจากไอ้ผีกวนทีน ขณะที่เธอกำลังจะขอแจมปิ่นโตของยูเทล เธอสังเกตุเห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ด้านหลังหญิงสาวผมทวินเทล เธอคนนั้นมีผมสีน้ำตาลอ่อนที่มัดรวบไว้ ดวงตาสีมรกตเลื่อนลอยราวกับโลกนี้ช่างว่างเปล่า ใบหน้าไร้อารมณ์ของเธอดุจตุ๊กตาที่ไม่ได้ไขลาน สิ่งเหล่านั้นดึงดูดเรเทียอย่างมาก

    ยูเทลที่เห็นเรเทียดูนิ่งไปเธอจึงหันกลับไปมองบ้างสองคู่สายตากำลังมองหญิงสาวที่นั่งนิ่งไม่สนใจใคร “นี่เธอ...” เรเทียเอ่ยเรียกหญิงสาวคนนั้น

    เธอคนนั้นไม่ได้หันหน้ามาทางพวกเธอ แต่เธอกลับค่อยๆเงยหน้าขึ้นดวงตายังคงเลื่อนลอย “กำลังเรียกชั้นอยู่เหรอคะ...” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาบาง

    “ใช่แล้ว อย่ามัวแต่นั่งนิ่งๆแบบนั้นสิ มากินข้าวกันเถอะ” เรเทียชักชวนด้วยน้ำเสียงสดใส

    “นั้นสิคะ มานั่งด้วยกันเถอะนะ” ยูเทลเองก็ออกตัวด้วยเช่นกัน

    “......ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องใส่ใจชั้นหรอก” เธอตอบกลับด้วยเสียงเบาบางเหมือนเดิม แต่เรเทียกลับลุกขึ้นเดินไปข้างเธอ “นั่งกินข้าวกับเพื่อน ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”

    “เพื่อน......” สาวเนตรมรกตนิ่งไปกับคำๆนี้เล็กน้อย เรเทียมองหน้าเธออย่างสงสัย พร้อมโบกไม้โบกมือหน้าเธอ ดวงตาที่เลือนลอยนั้นไม่ได้มองตามมือที่เคลื่อนไหวนั้นแต่อย่างใด

    “ตาเธอเป็นอะไรเหรอ” เรเทียถามขึ้น เมื่อเห็นว่าดวงตาเธอไร้การตอบสนอง

    “.......ชั้นตาบอดค่ะ แต่ตอนนี้คุณกำลังโบกมือด้านหน้าชั้นเหรอคะ” ถึงเธอจะบอกว่าตาบอดแต่กลับรู้กริยาของเรเทียได้ ยูเทลประทับใจกับสาวปริศนาคนนี้ขึ้นมาเล็กน้อย

    “คุณรู้ได้เหรอคะ ว่าคุณเรเทียกำลังทำอะไร” ยูเทลลองถามบ้าง

    “ชั้นรับรู้ได้จาก สปิริต ของชั้นค่ะ” เธอตอบช้าๆ เรเทียยืนนิ่งสักพักก่อนจะพยายามอุ้มเธอให้ลุกขึ้น ท่ามกลางความตกใจของทั้งยูเทลและเฟท “เฮ้ยๆๆๆ ยัยบ๊องจะทำอะไรฟะ” เฟทรีบถาม

    เรเทียไม่ตอบแต่แบบหน้าเปื้อนยิ้มของเธอพยายามจะให้สาวปริศนามานั่งข้างเธอให้ได้ “คุณกำลังทำอะไร.....” สาวผมน้ำตาลถามเธอด้วยเสียงเจือความไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน

    “เอาหน่าๆ” เรเทียอุ้มตัวเธอที่แสนเบามานั่งข้างๆเธอจนได้ พร้อมยื่นปิ่นโตให้ “ชั้นเรเทีย อาดีรอฟ ส่วนคนสวยข้างๆชั้น ชื่อ ยูเทล ทาทารอส”

    เรเทียจัดแจงแนะนำตัวเองกับหญิงสาวตัวแทนห้องเรียบร้อย ยูเทลยิ้มพร้อมพูดขึ้น “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

    หญิงสาวเนตรมรกต นิ่งไปสักพัก เธอขยับหัวเบาๆ ริมฝีปากเล็กนั้นค่อยๆขยับ “เอวิเนียร์ เรซิส จะเรียกว่าอีฟ ก็ได้….”

    “จ้า งั้นต่อไปนี้อีฟเป็นเพื่อนของพวกเราเนอะ ยูเทล” เรเทียพูดด้วยน้ำเสียงสดใสจนแม้แต่ยูเทลยังอดยิ้มไม่ได้

    ยูเทลหลุดหัวเราะเมื่อเธอถูกเหมารวมไปด้วย แต่ก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด “ฮิฮิ ก็คงเป็นตามนั้นแหละค่ะ คุณอีฟ” สาวเนตรมรกตยังไม่ตอบ เธอเงยหน้าขึ้นไปทางทั้งสอง “จะดีเหรอคนพิการอย่างชั้น....”

    “ไม่เห็นจะเกี่ยวเลยอีฟจังออกจะดูดีน่ารัก” สาวผมทองโพล่งออกมาตรงๆจน อีฟเริ่มหน้าแดง

    “นี่คะ คุณอีฟ จะทานอะไรก็ได้นะ” ยูเทลยื่นปิ่นโตพร้อมตะเกียบของเธอให้ อีฟรับมาก่อนจะเลือกไปที่เนื้อไก่ย่างชิ้นนึงพลางนำเข้าปาก “อร่อยจัง.....” เธอเอ่ยช้าๆ

    สองสาวยิ้มเล็กน้อย เรเทียเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบรรยากาศกำลังดี “งั้นเรามากินข้าวกลางวันก็เถอะ !!”

    “กินให้อิ่มกันก่อนจะเริ่มเรียนภาคปฎิบัติกันนะคะ” ยูเทลเสริม

    ชายหนุ่มผมเงินที่ลอยตัวดูเหตุการณ์ทั้งหมดถอนหายใจพลางพูดด้วยน้ำเสียงเปื้อนรอยยิ้ม “ทำได้ไม่เลวนี่หนา เรเทีย”



    คาบเรียนช่วงบ่าย....

    เหล่านักเรียนปี 1 สาขาอัศวินต่างค่อยๆทยอยสู่อาคารเหล็กกล้า ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันน่าภาคภูมิใจของผู้คนชาวโรแลนด์ บริเวณชั้นสองซึ่งเป็นพื้นที่ของสาขาอัศวินมีลักษณะคล้ายโรงยิมใหญ่ๆ เพดานสูงมีโคมไฟมากมายห้อยเอาไว้ พื้นที่ดูเหมือนไม้ขัดเงาแต่แท้จริงแล้วเป็นเหล็กแบบพิเศษที่มีลักษณะคล้ายไม้ เหล่านักเรียนต่างเดินพูดคุยกันซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนตื่นเต้นกับสถานที่ใหม่

    สามสาวที่เพิ่งจะได้ตั้งกลุ่มมหาสนุกเกาะกลุ่มกันพร้อมกับอาวุธประจำตัวของแต่ละคน ดาบเซเบอร์ของเรเทีย อาวุธยาวยักษ์ที่ห่อผ้าไว้ของยูเทล และกระบองเก่าๆของอีฟ

    “รู้สึกดีพี่พวกเราสามคนอยู่สาขาอัศวินหมด” เรเทียมองเพื่อนทั้งสองที่อยู่ข้างเธอพร้อมยิ้มเล็กๆ

    “นั้นสินะคะ” ยูเทลตอบรับ พลางแบกอาวุธที่ดูไม่เหมาะกับขนาดตัวเธอเลยสักนิด

    “อือ...” อีฟ ยิ้มบางๆในใบหน้าไร้อารมณ์

    อาจารย์หนุ่มแว่นก้าวเข้ามาในห้อง พร้อมรุ่นพี่ปีสองจำนวนนึง “เอาละพวกเด็กปี 1 ฟังให้ดี” เสียงนักเรียนที่กำลังจอแจเงียบลงฟัง

    “ต่อไปนี้จะให้พวกเธอจับคู่กันต่อสู้ โดยมีชั้นและพวกรุ่นพี่สาขาอัศวินในปีสองคอยสังเกตการณ์พื้นฐานและความสามารถในการใช้สปิริตของพวกเธอ ตั้งใจให้มากเพราะการประเมินนี้อีกนัยนึงคือการสอบรูปแบบนึงเช่นกัน” พวกนักเรียนหลังจากฟังแล้วต่างเดินหาคู่ ส่วนพวกเรเทียกำลังยืนลำบากใจกันอยู่เพราะพวกที่มีกันอยู่สามคนมันไม่ครบคู่

    “เอาไงดีอะ วีโต้ก็ไม่น่าไปอยู่สาขาเบื้องหลังเลย..” เรเทียหันมองหน้ายูเทล หญิงสาวทวินเทลนิ่งคิดเล็กน้อย “ชั้นว่าคุณเรเทียคู่กับชั้นจะดีกว่านะคะ ให้คุณอีฟลองหาคู่ที่อยู่ในห้องเราดู จะได้สนิทกับคนอื่นๆด้วย”

    “จะดีเหรอ...” เรเทียเอ่ยอย่างเป็นห่วงเพื่อนสาว

    “ไม่เป็นไรคะ ชั้นดูแลตัวเองได้...” อีฟตอบกลับช้าๆ เรเทียโผเข้าไปกอดหญิงสาวเนตรมรกต “ไม่เอาอ่า ชั้นอยากให้เราสามคนอยู่ด้วยกันนี่หนา”

    “อ้อ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เรเทีย” เสียงอาจารย์เอซดังขึ้นเขาเดินมาพร้อมกับรุ่นพี่ปีสองอีกคน “ เพราะรุ่นพี่คนนี้จะเป็นคู่ให้เธอส่วน เอวิเนียร์ ก็ให้คู่กับ ยูเทล ไปละกัน”

    เมื่อทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นเห็นคู่ของเรเทียต่างก็เริ่มซุบซิบกัน ส่วนยูเทลแอบแสดงหน้าไม่พอใจ ซึ่งเจ้าผีที่อยู่แถวนั้นก็เห็นเข้าพอดี “ว่าแล้วเชียว.....”

    “มีอะไรเหรอเฟท” เรเทียถามเฟทในใจเมื่อเห็นเขาแสดงท่าทีบางอย่าง

    “เปล่าหรอกไม่มีอะไร”

    รุ่นพี่คนนั้นมีผมสีน้ำเงินเข้มเหมือนทะเลน้ำลึก ดวงตาสีเดียวกันดูลึกลับ ใบหน้าที่ดูเด็ก รูปร่างแม้จะผอมบางแต่กลับดูแข็งแกร่ง เขายื่นมือมาทางเรเทีย “ผม เครส เวอร์ไดซ์ ยินดีที่ได้รู้จัก”

    เรเทียจับมือของเขาอย่างหวาดๆ “เอ่อ เรเทีย อาดีรอฟค่ะ”

    “เครส เวอร์ไดซ์ ‘ดาบทมิฬ’ มือ 1 ของปีสองสินะคะ” ยูเทลเอ่ยพลางมองเขาด้วยหางตา แต่เครสไม่มีปฎิกริยาตอบ มีแต่เรเทียที่ทำตาโตจนแทบถลนจากเบ้า

    “อะ อะ อะ อะไรนะ มือ 1 ปีสอง...” ยูเทลพยักหน้ารับคำถามของเรเทีย

    เครสยิ้มขึ้น พลางเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ได้ยินว่าเรเทียสามารถเอาชนะหุ่นทดสอบของปีสองได้ก็เลยอยากจะลองสู้ด้วยน่ะ”

    “เอ๋ ๆๆๆๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ อีกชั้นว่าชั้นคงไม่เหมาะเป็นคู่มือให้รุ่นพี่หรอกค่ะ “ เรเทียพูดพลันหลบสายตาชายหนุ่ม

    “อย่าถ่อมตัวไปเลย อีกอย่างคู่กับผมจะได้คะแนนมากกว่าปกติด้วยนะ” เรเทียเมื่อได้ยินเรื่องคะแนนปุ๊บ ความหวาดหวั่นเมื่อกี้ก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง “อย่างงั้นเหรอคะ !! งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ !!”

    เฟทมองเรเทียพลันส่ายหน้า “เฮ้อ ยัยนี้นี่....” ดวงตาสีรัตติกาลของเฟทมองไปทางยูเทลที่แอบเดาะลิ้นพร้อมแสดงสีหน้าน่ากลัว “รายนี้ก็พอกัน”

    การดวลกันระหว่างมือ 1 ของสองชั้นปีกำลังเริ่มขึ้น พวกนักเรียนคนอื่นหยุดการหาคู่และเริ่มหาที่ดูการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่ม เฟทลอยตัวเข้าหาเรเทีย พลางเอ่ยขึ้น “ตั้งใจหน่อยละกัน”

    “อือ...” เรเทียตอบกลับในใจในมือกำดาบเซเบอร์แน่น

    “เริ่มเลยนะเรเทีย พร้อมไหม” เครสถามสาวผมทองที่ตั้งท่าซะจนเกร็งไปทั้งตัว

    “พ...พร้อมแล้วค่ะ”

    เครสยิ้มขึ้นอย่างพอใจ “ถ้างั้นก็...” เครสโน้มตัวลงกระชับดาบคาตานะที่อยู่ในฝัก เฟทที่สังเกตอยู่ตลอดรู้สึกถึงภัยอันตรายทันที “แย่แล้ว เรเทียถอยมา !!!”

    “หือ...?” หญิงสาวงุนงง แล้วจู่ๆวิญญาณเธอก็กระเด็นออกจากร่าง โดยที่เธอยังไม่ทันจะรู้ตัว เรเทียในสภาพวิญญาณทั้งตกใจและไม่พอใจที่เฟททำอะไรกะทันหัน

    “เฟทนายทำบ้าอะ....” แต่เรเทียก็ต้องหยุดปากทันทีเหมือนเห็นร่างของเธอถูกฟันเฉียงบริเวณไหล่ขวา

    “เกิดอะไรขึ้นน่ะเฟท” เรเทียถามร่างตัวเองซึ่งตอนนี้เฟทเข้าควบคุมอยู่ แต่ชายหนุ่มในร่างนั้นกลับไม่ตอบอะไรเธอ แต่เขาเลือกที่จะพูดกับเครสแทน

    “เมื่อครู่ อิไอ สินะคะ” ดวงตาคมกริบของเรเทียที่ตอนนี้เฟทเข้าควบคุมร่างอยู่จ้องมองมาที่เขา ทำให้เครสสนใจขึ้นมาทันที “อย่างที่พวกอาจารย์ว่ามาจริงๆ เธอไม่ธรรมดาเลยเรเทีย คนที่หลบอิไอของผมได้ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนี่นับคนได้เลยนะ”

    “เมื่อครู่รู้สึกไหมคะ คุณอีฟ” ยูเทลที่ชมการต่อสู้อยู่ห่างๆถามกับเพื่อนสาว

    “ค่ะ แต่เร็วมาก น่าจะความเร็วเสียงได้เลย...” ยูเทลรับฟังและวิเคราะห์ “ก็ดีเหมือนกันจะได้เห็นฝีมือทั้งคู่แบบเต็มๆไปเลย”



    “อิไอ...มันคืออะไรง่ะ” เรเทียลอยตัวถามเฟท ชายหนุ่มมองมาทางเธอเล็กน้อย

    “อิไอ คือวิชาดาบตะวันออกชั้นสูง ดาบที่พุ่งออกมาจากฟักนั้นจะมีความเร็วสูงมากและสามารถจัดการศัตรูได้โดยที่ศัตรูไม่ทันรู้ตัว แต่ก็อย่างว่าคนที่ใช้อิไอความเร็วระดับเมื่อครู่นั้นมันไม่ธรรมดาเลย ที่หลบได้เมื่อกี้ก็ฉิวเฉียดเต็มที ไม่งั้นคงเจ็บหนักกว่านี้และคงจอดในดาบเดียวแน่” เฟทอธิบายยาว เรเทียรู้สึกเสียวสันหลังและนึกภาพถ้าเฟทไม่เข้ามาช่วยเธอจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

    “เรเทีย เธอทำได้ดีกว่าที่ผมคิดซะอีกนะ” เครสเอ่ยพร้อมตั้งท่าอีกครั้ง “แต่คราวหน้าไม่พ้นแน่”

    “ยังไม่ใช่ความเร็วสูงสุดสินะคะ เมื่อกี้น่ะ” เฟทในร่างเรเทียตอบกลับ พลางตั้งท่าเช่นกัน เครสเห็นการตั้งท่าที่มั่นคงของเธอจึงยิ้มชึ้นนึกชื่นชม “จะให้เห็นที่เร็วกว่าเมื่อกี้ละกัน เอาละนะ !!”

    เสียงชิ้งบางๆดังขึ้น เฟทไหวตัวทันรีบกระโดดถอยหลังหลบให้พ้นระยะดาบ แต่ก็ยังช้าเกินไปคมดาบพุ่งตัดอากาศฟันถูกหน้าท้องเป็นรอยยาว ร่างเล็กๆล้มกลิ้งไปกับพื้น “ชิ ขนาดตั้งใจหลบสุดๆแล้วนะ ร่างนี้เคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจเท่าไรเลยแหะ”

    “ทำไงดีอะๆๆ” เรเทียตื่นตระหนกโดยใช่เหตุ

    “เฮ้อ....ให้ตายสิ สงสัยต้องใช้สปิริตแล้วแหะ แต่แย่ชะมัดอีกฝ่ายยังไม่ได้ใช้สปิริตอะไรเลยด้วยซ้ำ” เฟทตอบออกมา เรเทียยิ่งตกใจมากกว่าเดิม

    “เอ๋ !!! เมื่อกี้ไม่ใช่สปิริตหรอกเหรอ”

    “ไม่ใช่น่ะสิ ที่ฟันออกมาสองครั้งมันฝีมือล้วนๆเลย ที่บอกว่าอันดับ 1 ปีสองนี่ไม่ใช่แค่คำยอแน่ๆ”

    เฟทเอ่ยต่อ “มันช่วยไม่ได้นี่นะ อย่างแรกคือมันไม่ใช่ร่างของชั้น อย่างที่สองคือ รุ่นพี่คนนี้ฝีมือโหดเอาเรื่อง ยังดีที่ว่าร่างของเธอมันตอบสนองได้ไวสมเป็นพวกบ้านนอกก็เลยยังพอรอดตัวไปได้” เฟทวิเคราะห์ให้เรเทียฟังแบบไม่กลัวจะโดนหญิงสาวผมทองด่า

    “งั้นนายก็จงภูมิใจในตัวสาวบ้านนอกซะนะ ที่ทำให้รอดมาสองครั้งเนี่ย” สาวผมทองแอบไม่พอใจเล็กน้อย

    “จ้าๆ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครั้งต่อไปหมอนั้นฟันวืดแน่ๆ” เฟทเอ่ยด้วยความมั่นใจ

    เครสตั้งท่าจะออกอิไอ อีกครั้ง คราวนี้เฟทในร่างเรเทียลดดาบเซเบอร์ลงเปิดช่องว่างด้านหน้าให้เห็นกันจะๆ เครสเห็นกริยาแบบนั้นจึงอดสงสัยไม่ได้ “อะไรกัน ยอมแพ้ซะแล้วเหรอ อุตส่าห์ได้สนุกขนาดนี้ทั้งที”

    “ฟันเข้ามาเถอะค่ะ” เฟทในร่างเรเทียพูดท้าทายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เครสยิ้มอย่างพอใจ “มันต้องอย่างนี้สิ เรเทีย ขอผม...” ยังไม่ทันที่เครสจะได้พูดอะไร ร่างเล็กๆที่เคยอยู่ตรงหน้าเขาก็หายไป แต่มันกลับไปปรากฏอยู่ด้านหลังของเขาแทน แถมดาบเซเบอร์ในมือหญิงสาวยังอยู่เหนือหัวซะด้วย

    เครสรีบกระทุ้งฟักดาบของเขาไปด้านหลัง เฟทในร่างเรเทียฉากหลบไปด้านข้างได้แบบเฉียดฉิว ชายหนุ่มผมน้ำเงินไม่รอช้า เมื่อหญิงสาวอยู่ในระยะ เข้าจึงปล่อยอิไอออกไปทันที แต่เฟทรู้ทันอยู่แล้ว เขาเคลื่อนไหวร่างเล็กๆให้ก้มหลบสุดแรง คมดาบตัดข้ามหัวไปเฉียดโดนเส้นผมยาวสลวยไปเล็กน้อย ทันใดร่างเล็กนั้นพุ่งทะยานเข้าประชิด

    เฟทในร่างเรเทียฟาดดาบเข้าใส่เครส แต่หนุ่มรุ่นพี่ยังไวพอที่จะชักดาบคาตานะสีดำสนิทออกมารับไว้ได้แทน ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้ชิดจนหายใจรดกันได้

    “ยอดเยี่ยมจริงๆ ทำให้ผมต้องชักดาบออกจากฝักจนได้” เครสเอ่ยชื่นชม

    “อย่ากล่าวแบบนั้นเลยคะ รุ่นพี่ ชั้นยังไม่ดีพอจะได้รับคำชมหรอก” เฟทในร่างเรเทียเอ่ยตอบ

    “ไม่ดีพอ แต่ก็เกินพอนะ” เครสยิ้มขึ้น พร้อมออกแรงดันไปทางเฟทอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มในร่างหญิงสาวไม่ทันระวังจึงต้องรีบฉากหลับอิไอที่กำลังจะตามมา แต่ทันใด.....

    เปลวเพลิงขนาดมหึมากลับพุ่งดิ่งลงมาระหว่างทั้งสองคน ทั้งเครสและเฟทในร่างเรเทีย ต้องรีบกระโดดห่างออกไป

    “พอแค่นั้นแหละค่ะ ทั้งสองคน กะจะเอาให้ตายกันเลยหรือคะ” ยูเทลนั้นเองที่เข้ามาขัดจังหวะการประลอง หญิงสาวผมทวินเทลเข้ามาพร้อมเคียวด้ามยักษ์ บนยอดของเคียวนั้นเป็นหอกปลายแหลม ตัวคมถูกตัดขอบด้วยสีแดงสด ด้ามจับสีเงินสว่าง และขนาดที่ใหญ่ยักษ์จนคนถือดูเป็นเด็กตัวเล็กๆไปเลย

    “ผมเคยได้ยินเรื่องของเธอมาเหมือนกัน ‘ยมทูตสีแดงชาด’ ยูเทล ทาทารอส ผู้ที่สอบเข้าได้คะแนน 95 คะแนน เกือบจะได้เป็นประวัติศาสตร์ของโรงเรียนนี้หากไม่มีคนทำได้คะแนนเต็มซะก่อน” เครสหันไปมองเรเทีย (ที่ตอนนี้โดนเฟทยึดร่างใช้อยู่)

    เฟทในร่างเรเทียผุดยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ชั้นเห็นด้วยกับยูเทลนะคะ เราสู้กันต่อคงไม่จบกันง่ายๆแน่ แล้วการประเมินของรุ่นพี่เป็นอย่างไรบ้างคะ”

    “ผมประทับใจมาก และคิดว่าท่านอาจารย์เอซก็คงเช่นกัน” เครสหันไปทางเอซบ้าง อาจารย์หนุ่มแว่นยืนกอดอกพลางพยักหน้า “ถือว่ายอดเยี่ยม” เขากล่าวออกมาสั้นๆ

    วิญญาณของเรเทียสังเกตเห็นร่างของเธอดูตัวเกร็งแปลกๆ เธอรีบถามเฟททันที “เฟท เป็นอะไรมากไหม”

    “ชั้นยังไหว แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งสลับกันเลย เธอเข้าร่างตอนนี้ได้ร้องโอดโอยไม่หยุดแน่”

    “ทำไมอะ เกิดอะไรขึ้น ร่างของชั้นเป็นอะไร” เรเทียถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลต่อร่างกายตัวเอง

    “เมื่อกี้ชั้นดึงพลังสปิริตของเธอมาใช้ ให้เคลื่อนไหวได้เร็วดุจแสง...” เฟทตอบกลับ

    “งั้นที่นายใช้ร่างของชั้นแว่บไปมาเมื่อกี้ก็...”

    “อ่า มันคือพลังของเธอไงละ” เรเทียอึ้งไปกับความสุดยอดของพลังตัวเองที่เจ้าตัวไม่เคยรู้

    “งี้ถ้าฝึกดีๆชั้นก็ทำแบบนายได้สินะๆๆ” เรเทียตื่นเต้นไปกับการค้นพบใหม่นี่ แต่เฟทกลับนิ่งเงียบสีหน้าดูทรมาน

    “ก็ใช่แหละ แต่ว่า...ผลกระทบกับร่างกายมันสาหัสจริงๆ ก็คิดอยู่แล้วว่าคงจะมีผลอะไรกับร่างกายแน่ๆแต่ไม่นึกว่าจะขนาดนี้เลย” เฟทพยายามตอบด้วยน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

    “นายไหวไหม เฟท” เรเทียรีบถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นอาการชายหนุ่มในร่างเธอดูจะหนักกว่าเมื่อครู่

    “ไหวมันก็ไหวแหละ แต่ถ้าสู้กันต่อไม่เกิน 3 นาที รับรองร่างเธอได้ร่วงไปกองกับพื้นลุกไม่ขึ้นเป็นสัปดาห์แน่ๆ”

    “สรุปมันเกิดอะไรขึ้นกับร่างชั้นเนี่ย !!” เรเทียเริ่มสงสัยหนักกว่าเก่า

    ชายหนุ่มสบตาเธอเล็กน้อย “เธอลองคิดสิว่า หากร่างกายมนุษย์เคลื่อนไหวด้วยความเร็วระดับเดียวกับแสงจะเกิดอะไรขึ้น...”

    “ก็คง...” เรเทียมองสภาพร่างตัวเองอีกครั้ง “แหลกเป็นเสี่ยงมั้ง”

    “ถูกเผง มะกี้ชั้นใช้มันไปสองครั้งคือตอนเคลื่อนไหวไปด้านหลังของรุ่นพี่นั้น กับตอนก้มหลบอิไอ แค่สองครั้งยังหนักขนาดนี้เลย แต่อย่างว่า ร่างกายของเธอเพิ่งจะเคยทำอะไรแบบนี้ แถมตัวเธอเองก็ยังฝึกการควบคุมมันไม่ถึงไหน จะได้รับผลกระทบระดับนี้คงไม่แปลก”

    “อะไรเนี่ย....แต่ทั้งๆที่นายก็รู้ว่ามันอาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ แต่ก็ยังเอาร่างชั้นไปเล่นอีกเหรอ !!” เรเทียตวาดใส่เฟทด้วยความโมโห ร่างก็ร่างของเธอแต่คนใช้กลับไม่ถนอมเลย

    ชายหนุ่มนิ่งเงียบพลันก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอโทษ.....” เป็นครั้งแรกที่เฟทขอโทษเธอ หญิงสาวหยุดนิ่งไปกับกริยาของชายหนุ่มในร่างเธอ อย่างน้อยตอนนี้เธอก็พอจะเข้าใจความรู้สึกเขา และเฟทเองก็พยายามปกป้องเธอกับร่างของเธออยู่

    “ช่างเถอะ.....ถ้านายขอโทษจากใจ ชั้นก็ยกโทษให้ละกัน”

    ชายหนุ่มยิ้มขึ้นเล็กๆแม้สีหน้าของเขาจะไม่ดีเท่าไร “เธอนี่....ใจดีจังนะ” และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เฟทชมเธอ เรเทียรู้สึกตัวเองใจเต้นแปลกๆ และเหมือนว่าหน้าของเธอจะแดงโดยไม่มีเหตุผล

    “ยุ่งหน่าๆๆ นายรีบรักษาร่างของชั้นเร็วเข้าเถอะ”

    “อืม งั้นชั้นขอใช้ร่างเธอสักพักนะ เรเทีย” เฟทตอบกลับด้วยน้ำเสียงเจือความเหนื่อยอ่อน

    สาวผมทองที่ลอยตัวอยู่ก้มมองสภาพของเฟทพลางนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เครสใช้อิไอโจมตีเข้ามาครั้งแรก “เอ่อ แล้วก็ขอบคุณนะ ที่...ช่วยชั้นไว้ตอนแรก”

    เฟทเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหลบหน้าไปทางอื่น “ชั้นชักคิดว่าเธอดูน่ารักขึ้นมาแล้วสิ..”

    “หะ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ”

    “เปล่าๆๆ เรื่องที่เหลือชั้นจัดการเอง เธอจะได้กลับร่างโดยไม่ต้องเดือดร้อน”

    “ฝากด้วยนะเฟท”

    “อ่า เชื่อมันชั้นเถอะ”

    ยูเทลเดินมาดูอาการของเรเทียที่ตอนนี้ถูกเฟทใช้ร่างอยู่ หญิงสาวพยายามประคองร่างนั้น เธอเองก็พอจะเดาได้ว่าตอนนี้เพื่อนของเธอคงเคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก แต่กระนั้น...

    “ยิ่งเห็นความสามารถของคุณเมื่อครู่แล้วยิ่งทำให้ชั้นอยากขยี้คุณจริงๆค่ะเรเทีย...” ยูเทลกระซิบมาที่ข้างหู ทั้งเฟทและเรเทียต่างแสดงกริยาต่างกันสิ้นเชิง

    “ทำไมยูเทลพูดกับชั้นแบบนั้นละ...” เรเทียแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่เฟทกลับหรี่ตามองหญิงสาวที่กำลังแบกร่างของเรเทียอยู่พร้อมตอบกลับ “ขอโทษด้วยที่ทำให้เธอไม่ได้ที่ 1 นะ”

    “ขอไม่รับคำขอโทษนั้นคะ จนกว่าชั้นจะทำให้คุณลงไปนอนกองกับพื้นและแย่งตำแหน่งมือ 1 มาได้ แต่ถึงกระนั้น...” ยูเทลเว้นจังหวะพูดเล็กน้อย “ในฐานะอื่นๆ คุณก็เป็นคนที่ดีนะคะเรเทีย”





    .......................
    ................................
    .........................................
    ...............................................





    คุยกันหลังตอน

    โวะมีคนเชียร์เฟทกะเรเทียเยอะวุ้ย....

    เอาจริงๆแล้วดูเหมือนผมจะอวยนะ แต่อันที่จริงนี่คือความสัมพันธ์ของผมกับเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันจริงๆ เรามักจะพูดคุยกันแบบนี้ละครับ จนคนรอบข้างพูดกันบ่อยๆว่าะ "ทำไมพวกมึงไม่คบกันไปเลยว่ะ"

    พวกเราสองคนก็มักจะตอบ "ให้คบกับ อีนี่/เชี้ยนี่ ไปตีหัวกูให้สลบก่อนแล้วกัน"

    มันเป็นแบบนี้แหละ คือสนิทกันมากซะจนดูเหมือนแฟน แต่ก็ไม่ใช่น่ะนะ

    เอาเถอะยังไงซะผมก็ยังไม่เลือกพระเอกอยู่ดี อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า สาวๆในเรื่องนี้ที่ผมชอบนะ คนที่ชอบสุดไม่ใช่เรเทีย แต่เป็นยูเทลกะอีฟนี่แหละครับ ฮ่าๆๆๆ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามตอน 2 ที่มันออกมาไวก็เพราะว่า ตอน 1 ผมมองว่ามันสั้นไปหน่อยเลยปล่อยตอน 2 ออกมาเร็ว ฉะนั้นผมขออนุญาติทิ้งช่วงตอน 3 ไปสักพักเลยนะครับ จะได้พอดีๆ



    Special Thanks

    1. ยูเทล ทาทารอส ตัวละครตัวนี้เข้ามาแจมเพราะช่วงนั้นมีแต่คนสมัครชายหนุ่มรูปหล่อบ้านแตกกันทุกคน เลยต้องส่งหญิงสาวมาถ่วงดุล แต่กลับกลายเป็นอยากพลักน้องยูเทลเป็นนางเอกแทนแล้วซะงั้น ฮ่าๆๆๆ จริงๆแล้วยูเทลเป็นคนเห็นแก่ตัวมากนะครับ อย่าได้หลงไปกับท่าทางของเธอซะละ

    2. Ace Isaak โดย ท่านอีวาน ผมชอบว่ะ อาจารย์คนนี้อะ แบบว่าโดนมากตั้งแต่อ่านใบสมัครแล้ว จะไม่ให้มาเป็นครูประจำชั้นไอ้พวกรั่วนี่ได้อย่างไร อาจารย์สุดขรึมแต่กลับมีอารมณ์รั่วอ่อนไหว เขียนบทพิเรนๆให้ง่ายดี

    3. Ewiniar Reisis หรือ น้องอีฟ โดยฝุ่นจัง ผมชื่นชอบตัวละครหญิงลักษณะนี้อยู่แล้ว น้องฝุ่นเองก็สมัครมาเข้ากับนิสัยเรเทียที่ผมคิดไว้มากๆ มันได้เปิดตัวเร็วก็เพราะเหตุนี้แหละ

    4. Krez Verdice โดย คุณ ManaSora ผมตั้งใจให้รุ่นพี่สักคนมาโผล่ตอนนี้อยู่แล้วละ หลังจากไล่อ่านมาทุกคนเครสดูเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด ทั้งจากความสัมพันธ์ที่เขียนมาให้ + ลักษณะของตัวละคร คงจะได้มีบทบาทสำคัญในตอนต่อๆไปเน้อ




    AND ALL FRIENDS AND FANS THANKS !!!!!!!!
  9. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!

    ไก่ชน ชนไก่



    ฮาว่ะครับ ฮามากๆ อ่านไปอมยิ้มไป (ดีนะที่อยู่ในห้อง ถ้าไปอ่านในห้องคอมสาธารณะเค้าคงคิดว่าบ้าแน่ๆ)


    เฟทกับเรเทียนี่มัน.......... พ่อแง่แม่งอนกันจริงๆเลย
    ชักอดคิดไม่ได้ว่าตอนหลังนั้น ถ้าความรู้สึกของสองคนพัฒนาก้าวข้ามผู้ที่เกาะติดกับเจ้าของร่างแล้วมันจะเป็นยังไงกันนะ


    ปล. บทอาจารย์อีวานรั่วโคตรๆ!! จะรั่วไปไหนวะครับ
  10. ManaswinPipatponglert

    ManaswinPipatponglert Crazy in games

    EXP:
    35
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    8
    ท่านอาจารย์ช่างรั่วได้สุดๆไปเลย:pendin:

    รอดูความสามารถเหนือๆของเครสเกี่ยวกับสปิริตที่ไรท์เตอร์ช่วยคิดให้นะคร้าบ(คิดเองไม่ออกนั่นแล:hsorrow:)

    ส่วนคู่เฟท เรเทียก็หวานจริงจริ๊ง:hei:
  11. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    อาจารย์รั่วว่ะ!!!! กร๊ากกกกกก แล้วเรเทียก็พลอยเข้าอกเ้ข้าใจไปด้วย โอยย ฮามาก ไอ้ชนไก่น่ะมันอะไรฟระ! 55555
    ขอบคุณสำหรับบทครับ :)

    เรเทียกับเฟทดูยังไงๆก็แฟนกันชัดๆนะ! ไอ้ต่อปากต่อคำ พ่อแง่แม่งอนใส่กันนี่ หึหึ มาตรฐานไลท์โนเวลเลยทีเดียว เจ้าเฟทหน้าม่อมาก กร๊ากก แต่อ่านแล้วสนุกดี ท้ายที่สุดก็ปวดหัวเพราะการกระทำของกันเอง
    อึ้งยูเทลตอนท้าย ดูดีทุกอย่างแต่กลับชอบเอาชนะซะงั้น!

    เครสเท่โคตร!!!! ชอบวิธีการชักดาบอิไอ =[]=b สมกับตำแหน่งอันดับ 1 อ่านแล้วรู้สึกเลยว่าเก่งมาก! แต่ผิดคาดไม่นึกว่าเฟทจะยึดร่างเรเทียลงมาสู้เอง!
    สองคนนี้ยังต้องพึ่งพากันอีกมากสินะ สินะ
  12. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    เรเทียคงต้องฝึกอีกมากเลยล่ะนะกว่าจะพัฒนาฝีมือดาบให้พอเข้าขั้นได้ แบบนี้คงต้องพึ่งเฟทไปอีกพักใหญ่

    ว่าแต่หลังจากสังเกตดูแล้วรู้สึกว่าที่เรเทียเห็นเฟทไม่น่าจะเกี่ยวกับพลังสปิริตโดยตรงเท่าไหร่แฮะ หรือเพราะเฟทเองก็เป็นพวกสายสปิริตแสงเหมือนกันคลื่นเลยตรงกัล่ะเนี่ย
  13. powder

    powder Member

    EXP:
    260
    ถูกใจที่ได้รับ:
    9
    คะแนน Trophy:
    18
    ฮ่าๆๆๆๆๆ

    อ่านบทอาจารย์กับลูกศิษย์แล้วขำไปเหวอไปค่ะ พอทำหวานซึ้งเผลอกุมขมับเลย 5555

    อีฟออกโรงแล้ว ดีใจจัง น่ารักกว่าที่คิดไว้ซะอีกค่ะ XD

    เครสกับอิไอเท่ห์สุดๆ เฟทนี่ก็สุดยอดเลย

    เรเทียกับเฟทนี่น่ารักจัง ชวนเป็นคู่จริงๆนะคะ ฮ่าๆ
  14. ManaswinPipatponglert

    ManaswinPipatponglert Crazy in games

    EXP:
    35
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    8
    Fic กลับมาแล้วววว

    แต่ writer จะกลับมาต่อรึเปล่าครับเนี่ย โฮก T0T
  15. jpenguin

    jpenguin Admin Staff Member

    EXP:
    2,537
    ถูกใจที่ได้รับ:
    93
    คะแนน Trophy:
    113
    วันก่อนเห็นยังเข้าบอร์ดอยู่นะครับ
    ManaswinPipatponglert ถูกใจสิ่งนี้
  16. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    ต้องตามไปแจ้งเจ้าตัวว่าไหประจำตัวลอยตามน้ำกลับมาแล้ว
    ก๊ากกกกกกก


    เดี๋ยวจะมัวเล่นเกมส์จีบหญิงเพลินไม่ได้มาแต่งต่อ
  17. ManaswinPipatponglert

    ManaswinPipatponglert Crazy in games

    EXP:
    35
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    8
  18. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    -w-b ตอนสองมาแล้ว ดีใจเสียจริง แต่ตอนสามอย่าทิ้งช่วงนานได้ไหมพี่โย อยากอ่านเร็วๆแล้วง่า~~~
  19. ManaswinPipatponglert

    ManaswinPipatponglert Crazy in games

    EXP:
    35
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    8
    คิดถึงตอนสาม มาเร็วเร้ววว

Share This Page