2 ปีก่อน ภาคนี้ Episode Originalhttp://www.comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=5176 ณ ลานกว้างแผ่นดินแห้งแตกร้าวซึ่งไร้ความสว่างแห่งนึงซึ่งเป็นสนามต่อสู้ของคู่ต่อสู้คู่หนึ่ง ชายหนุ่มผมสั้นสีน้ำตาลในชุดของเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นกลาง(ชุดเสื้อกล้ามสีเทา)ซึ่งอยู่ข้างล่างตีนเขา ร่างกายและชุดของเขานั้นสะบักสะบอมซึ่งมาจากการต่อสู้ครั้งก่อนได้เปลี่ยนร่างให้มีพลังพร้อมในการต่อสู้ต่อกลายเป็นชายในชุดผ้าคลุมสีดำ ผมก็ยาวขึ้นแถมเปลี่ยนสีเป็นสีแดงด้วย นัยน์ตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเฉกเช่นสีผม ดาบยาวธาตุไฟเหล็กดำของเขาก็กลายเปลี่ยนเป็นดาบเล่มยาวสีทอง ด้ามดาบเป็นเหล็กดำที่หลอมติดกับเหล็กดาบทองนั้น แล้วก็มีเม็ดมรกตเขียวที่กลางด้ามดาบ ชายหนุ่มในผมสีขาวยาว ในชุดสีขาวผ้าคลุมลายปนดำ นัยน์ตาสีแดงซึ่งยืนอยู่บนผาหินซึ่งกำลังมองที่ชายผมแดงอยู่ ดาบของเขานั้นคล้ายกับดาบของชายผมแดงยาวมากแต่ว่าเม็ดมรกตกลับกลายเป็นเพชนสีแดงที่ติดที่กลางด้ามดาบ “ ฮ่าๆๆๆๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะเปลี่ยนร่างตัวเองได้เหมือนเราเลยนะเนี่ย???ฮ่าๆๆๆ!!! “ ชายขาวยาวก็หัวเราะเหมือนคนบ้าโรคจิต แล้วก็จับกุมดาบทั้ง 2 มือ “ นาย.....นายทำลายทุกอย่างที่เป็นของฉัน!!!!เพื่อนฉัน!!!!มิตรภาพ!!!!แถมนายยังทำลายคนที่ฉันรักมากที่สุดคนนึงด้วย!!!! ฉันจะไม่ยกโทษให้แกแน่!!! “ ชายผมแดงยาวก็สะบัดดาบไฟก็เกิดลุกขึ้นบนเหล็กดาบ “ ฮ่า!ๆๆๆๆๆๆ นายคิดว่าจะเปลี่ยนร่างวิญญาณเป็นเทพเจ้าสงครามแห่งนรกอย่าง เอทิออส นายจะควบคุมมันได้รึไงหา??? “ ชายผมยาวก็ทำท่าถามอย่างกวนเท้ามาก “ ควบคุมงั้นเหรอ????ตลอดการต่อสู้ในชีวิตฉัน ฉันสามารถใช้ประสบการณ์จากอดีตมาใช้ควบคุมเจ้านี่ได้ไง และที่ยิ่งควบคุมได้สะดวกยิ่งขึ้นก็เพราะว่า หมอนี่มันก็เกลียดแก พอๆกับฉันนั่นแหละ!!! “ ชายหนุ่มผมแดงก็พูดพร้อมใส่อารมณ์เต็มที่ “ หึหึหึ มาดูกันสิว่านายจะควบคุมพลังของน้องฉันได้นานแค่ไหน??? “ ชายผมขาวก็กระโจนพุ่งลงข้างล่างผาไปที่ชายผมยาวแดง ชายผมแดงก็เตรียมจับดาบกุม 2 มือ “ หึย!!!!!!แกอย่าอยู่เลย!!!! “ ชายผมแดงก็กระโดดขึ้นพุ่งไปหาชายผมขาวพร้อมกับตะโกนไปด้วย ทั้ง 2 ฝ่ายก็เข้าฟันปะทะกัน การต่อสู้นั้นได้เพิ่มความรุนแรงของไอวิญญาณสูงมาก “ ชิ้ง!!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 ก็ต่อสู้กันบนอากาศ ความเร็วของทั้ง 2 นั้นเร็วมากๆ แถมยังสูสีกัน ไม่ใช่แค่เพียงแค่ความเร็วเท่านั้น ความรุนแรงของดาบและพลังทั้ง 2 แถมจะไม่มีความแตกต่างกันเลยถึงกับจะทำลายภูเขาไปเลย “ หยา!!!! “ ชายผมยาวแดงก็ชาร์จพลังเป็นพลังสีดำครอบคลุมร่างของเขา แล้วก็ดาบนั้นมีลำแสงสีดำขึ้นด้วย การโจมตีของชายผมแดงก็ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น “ หยา!!ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........ “ ถึงแม้เขาจะโจมตีไปหลายครั้งแล้วนั้น ชายผมยาวคนนั้นก็กันไว้ได้หมด “ ชิ้ง!!!!! “ ชายผมยาวก็เอาดาบมางัดประชิดเข้าชายผมแดง “ ทำได้แค่นี้เองเหรอฮะ????ชิ้ง!!!! “ ชายผมยาวก็พูดเสร็จก็ฟันใส่โดนดาบของชายผมแดงที่ยกมากันไว้ได้ถึงกับถอยไปเลย “ หนอยแน่ะแก!!!! เพลงดาบพิฆาตจันทร์เสี้ยว!!!! “ (ชายผมยาวแดง) ชายผมแดงก็ใช้ท่ารองโมตีเวทย์ใส่ ชายผมแดงก็ฟันใส่เป็นลำแสงคลื่นพลังสีดำอมแดงใหญ่มโหฬารพุ่งใส่ชายผมขาว “ เฮ้ย!!!!บึ้ม!!!!!!!!!! “ ชายผมขาวก็เอาดาบมากันจึงเกิดระเบิดที่ใหญ่กว้างมาก ชายผมยาวก็ถอยพุ่งออกมาพร้อมขวันขโมงติดตัว “ หึย!!!! Dark Meteor!!!!! “ ชายผมยาวก็หันมาใช้ท่ารองด้วยเช่นกัน ชายคนนั้นก็ใช้ฝ่ามือชูขึ้นเหนือฟ้าแล้วก็สร้างพลังสีแดงขึ้นบนฝ่ามือ แล้วก็ชาร์จจนขยายใหญ่มากอย่างรวดเร็ว “ หยา!!!! “ ชายคนนั้นก็ปาใส่ชายผมแดง ชายผมแดงนั้นพยายามหลบแต่ว่าลุกพลังนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นเมื่อถูกปาจนบังรอบตัวชายผมแดงทั้งสิบทิศ “ ตรู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “ จนกลายเป็นระเบิดที่รุนแรงมาก “ หึย!!!!!!!!! “ แต่ชายผมแดงนั้นก็ยังพุ่งเข้าหาชายผมขาว “ ชิ้ง!!!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 ก็ประมือดาบกันอีกครั้ง แต่ว่าชายผมยาวนั้นก็พุ่งลงสู่พื้น “ ตรู้ม!!!!! “ เสียงระเบิดจากพื้นซึ่งชายผมยาวเข้าพุ่งลงไปในใต้ดิน แล้วก็มีเสียง” ตรู้ม!! “ อีกครั้ง เมื่อแผ่นดินนั้นก็แยกพังทลายเป็นพื้นน้ำลาวา ชายผมยาวผู้ซึ่งยืนบนยอดภูเขาที่พุ่งขึ้นมาจากลาวาแล้วสนามต่อสู้นี้ก็กลายเป็นทะเลเพลิง ชายผมขาวก็ใช้ดาบตวัดน้ำลาวาพุ่งใส่ชายผมแดงจำนวนมหาศาล “ หึย!!! สายน้ำพิฆาต!!!! “ ชายผมแดงก็ใช้ท่าปล่อยน้ำจากดาบเป็นสายน้ำ ที่เป็นมังกรร่างน้ำเข้าพุ่งทำลายน้ำลาวาให้มอดไป แต่ว่าชายผมยาวนั้นใช้โอกาสพุ่งเข้าด้านหลัง “ ชึ๊ก!!!!!!! “ ดาบของชายผมยาวนั้นก็เข้าปักหลังทะลุอกออกมาเลย “ อ๊าก!!! “ ชายผมแดงก็ตะโกนร้องมาด้วยความเจ็บแสบ ชายผมขาวก็ยกตัวดาบขึ้นแล้วเขวี้ยงชายผมแดงออกไปลงสู่ทะเลเพลิงลาวา ชายผมแดงนั้นก็ครุ่นคิดนึกถงทุกสิ่งในอดีตตั้งแต่วันที่เขาฝึกฝน พบกับเพื่อนสหาย พบคนรัก ความสุขทั้งหมดในชีวิตเขา ร่างของเขาก็กลับสูผ่ร่างเดิมในชุดเจ้าหน้าที่สีเทาอีกครั้ง ดาบก็กลับสู่สภาพเดิม “ ขอโทษนะทุกคนฉันไม่มีโอกาสได้ปกป้องพวกแกเลย...... “ชายผมน้ำตาลก็พูดแล้วก็ตกลงไปในทะเลเพลิงลาวา แต่ทันใดนั้นชายผมน้ำตาลก็โดนดึงมาอยู่ในโลกนึงในความคิดของเขา “ ที่นี่มันที่ไหนกัน???? “ (ชายผมน้ำตาล) ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนกลุ่มนึงซึ่งอยู่ข้างหน้าตน ล้วนแต่เป็นเพื่อนของเขาที่ตายไปแล้ว “ นายจะมาตายตรงนี้ไม่ได้น่ะ “ ชายผมสีดำสั้นคนนึงในชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลางพูด “ นี่นาย....อย่าถอยละ???ฉันเชื่อมั่นในตัวนาย “ ชายผมบอลนท์หยิกคนนึงก็ให้กำลังใจ “ นี่เธอ สู้เขาละ “ ผู้หญิงผมสีแดงก็เอาใจเชียร์เขา “ นายน่ะ...ยังไม่แพ้หรอก “ ชายผมดำสั้นในชุดผ้าคลุมขาวก็พูดอีกคนนึง ทันนั้นผู้หญิงคนนึงซึ่งยืนหันหลังอยู่ เธอสวมชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง ผมเธอยาวสีดำ เมื่อเธอหันมาใบหน้าเธอนั้นยังขาวใสเหมือนวันที่ทั้ง 2 เจอกันครั้งแรก “ อย่ายอมแพ้นะ....โซมะ...เธอต้องสู้ต่อไป.... “ เมื่อเธอคนนั้นพูดร่างกายของเพื่อนของชายผมน้ำตาลก็เริ่มเดินหนีจากไป “ เฮ้ย!!!รอก่อนสิ!!!! “ ชายผมน้ำตาลก็พยายามวิ่งตามไปหา ทันใดนั้นเองเขาก็ตัดกลับมาที่โลก เขาก็ตื่นขึ้นมา นั้นก็พบว่าตนกำลังตกลงไปในทะเลเพลิงลาวา ชายผมน้ำตาลก็เริ่มขยับทรงตัวแล้วจมลงไปในทะเลเพลิงลาวา ทันใดนั้นสักพักอีกด้านนึงทางชายผมขาวนั้นก็ยืนมองชายผมสีน้ำตาลตกลงไปในทะเลเพลิงพร้อมกับหัวเราะ ทันใดนั้น “ ตรู้ม!!!!!!! “ ใต้พื้นในทะเลเพลิงลาวานั้นก็ระเบิดประทุขึ้น “ หา????? “ ชายผมยาวก็สงสัยและตกใจ น้ำลาวาก็พุ่งขึ้นเหมือนน้ำพุท่วมพื้นดิน ชายผมยาวก็บินลอยขึ้นบนอากาศ และเขาก็พบสิ่งที่ไม่คาดคิดบางอย่าง เขาก็เห็นชายผมสีน้ำตาลซึ่งตกลงไปในลาวานั้นยังมีชีวิตและกำลังอยู่ตรงหน้าตน “ นายประเมินฉันต่ำมาก!!! “ ในร่างสะบักสะบอมเช่นนั้นชายผมน้ำตาลก็ยังถือดาบไว้แน่นอยู่ “ หึหึหึ อยากตายนักรึไงฮะ จะสู้กับฉันในสภาพนั้นงั้นเหรอ???น่าขำสิ้นดี ฮ่าๆๆๆๆ “ ชายผมขาวก็ประเมินค่าของชายผมน้ำตาลต่ำมาก “ แกประเมินฉันต่ำมากเลยนะรู้ไหม “ (ชายผมน้ำตาล) “ มันก็จริงนี่หว่า “ (ชายผมขาว) “ หึย!!! “ ชายผมน้ำตาลก็สะบัดดาบ ดาบนั้นก็เปล่งแสงออกมานิดหน่อย “ เอาละนะ ขอปิดแค่นี้แหละ!!! “ ชายผมยาวนั้นก็เข้าฟันใส่ ชายผมน้ำตาลนั้นก็ยืนเฉยแล้วก็มีแสงสำเหลืองรอบๆตัว ทันใดนั้นร่างของเขาก็หายไปอย่างฉับพลัน “ !!!!!! “ ชายผมขาวนั้นเมื่อเห็นก็ตกใจ “ เอาร่างของเพื่อนฉันคืนมา!!!!!! “ ทันใดนั้นเสียงตะโกนจากข้างหลังก็เปล่งขึ้นแล้วก็ชายผมน้ำตาลก็เอาดาบทิ่มเข้าหน้าท้องของชายผมขาว แล้วก็หายไปอีกครั้งมาโผล่ด้านหน้า “ หึย!!! เชือด!!!!!! “ ชายผมน้ำตาลก็ฟันร่างชายคนนั้นอย่างรุนแรง แล้วก็จับปกคอเสื้อพุ่งลงทะเลเพลิงทั้งคู่ ทั้ง 2 ก็ลงดิ่งในทะเลเพลิงลาวา สักพักลาวานั้นก็เริ่มลดลง แล้วก็ระเบิดจนกลายเป็นหินจากนั้นน้ำลาวาก็เริ่มกลายเป็นหิน ทุกอย่างที่ก็กลับสู่สภาพเดิม บนพื้นใต้สุดของสนามนั้น ชายผมน้ำตาลซึ่งจับชายผมขาวลงบนพื้นพร้อมกับดาบทิ่มแทงทะลุถึงกับพื้น “ ..ทำไมนาย.....ถึง...... “ ชายผมขาวก็อยู่ในสภาพสาหัสเลือดไหลออกไม่หยุดแล้วร่างก็กลายชายผมดำสั้น และเสื้อก็เป็นชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นกลางเหมือนชายผมน้ำตาล “ ไง..เพื่อน...... “ (ชายผมดำ) “ นายกลับมาแล้วใช่ไหม??? “ (ชายผมน้ำตาล) “ อืม........ “ (ชายผมดำ) “ ฉันขอโทษ.....น่ะ........ลาก่อน......โซ....... “ ชายผมดำก็ชูมือจะพูดบางอย่างแต่ก็สิ้นลมลงเสียก่อน “ โค.......จุ.......โร่.............. “ ชายผมน้ำตาลพูดในท่าทางสะอึกสะอื้นร้องไห้ “ อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!! “ ชายผมน้ำตาลนั้นก็เปล่งน้ำตาออกมาไม่ขาดสายพร้อมกับตะโกนสุดแรงเกิด
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World โอ้ มาแล้ว เร็วทันใจดีนะครับ เพิ่งรับสมัครไปเอง ผมว่าท่านต้องเรียนรู้การใช้ภาษาให้สื่อความหมายนะครับ จากเท่าที่อ่านมา เรื่องการสร้างสรรค์ฉากหรือรูปแบบการต่อสู้ไม่มีปัญหา ทำได้สะใจสมเป็นการต่อสู้ของพวกโลกวิญญาณ แต่ภาษาที่ใช้นี่สิครับ ดูบรรยายแปร่งมาก บางคำที่ไม่น่าโผล่มาอย่าง "แล้วก็มีเม็ดมรกตเขียวที่กลางด้ามดาบ" ก็โผล่มาให้เห็น ผมว่าคำอย่าง "แล้ว" นี่ ปรกติไม่ใช้ในการบรรยายงานเขียนนะครับ คือไม่ได้แปลว่าคุณใช้ภาษาวิบัติ แต่คุณใช้ภาษาพูดค่อนข้างมากในฟิค ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่ผมคิดว่าถ้าเรียนรู้การเขียนที่ smooth กว่านี้ น่าจะทำให้ฟิคคุณดูเป็นฟิคมากขึ้นนะครับ วรรณยุกต์มีสะกดผิดบ้างถูกบ้าง เช่น นะ/น่ะ หึย อะไรประมาณนี้ ^^" ลองเรียนรู้การเขียนผ่านการอ่านฟิคของคนอื่นเยอะๆ หรือจากหนังสือก็ได้ ผมว่าน่าจะช่วยให้การเขียนดีขึ้นนะครับ ติงมาก็เยอะ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะ โซเสียเพื่อนไปต่อหน้าแล้ว อือม์ ศึกล้างแค้นกำลังจะเริ่มรึเีนี่ย...
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World ขอชมก่อนเลยว่าเร็วทันใจมากๆค่ะ ><b!! แต่อย่าแผ่วปลายซะละ!...(ฮา) ตอนนี้นี่แต่ละคนล้วนเป็นปริศนาทั้งนั้น หัวน้ำตาล หัวขาว หัวดำ หัวแดง มากันหมด... = =" ยอมรับว่าอ่านแรกๆแล้วงงค่ะ แต่ยังไงก็จะเป็นกำลังใจต่อไปนะคะ สู้ๆ! ^^
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World โอ้มาแล้ว *0* การบรรยายดูแปร่ง ๆ อย่างที่อีวานบอกครับ คือว่าไงดี บรรยายแบบกระชับเกินไปจนทำให้คล้อยตามเนื้อเรื่องได้ยากน่ะครับ บางจุดบางตอนน่าจะลองเพิ่มบรรยายดู เพื่อช่วยเสริมให้คนอ่านคิดตามได้ง่ายขึ้น เพิ่มบรรยายในส่วนของฉากบรรยากาศอีกก็ดีนะครับ ส่วนคำบางคำที่ไม่น่านำมาใช้ก็ลองหาคำอื่นมาทดแทนดู ส่วนพวกเสียงเอฟเฟคประกอบ ถ้าไม่อยากใช้ก็ใช้เป็นการบรรยายภาพแทนก็ได้นะครับ สู้ ๆ รอตามต่อเน้อ * *//
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World ทันใจมาก!! แต่..จริงอย่างที่ท่านๆว่าคับ บทบรรยายหลังคำพูดมันแข็งๆ -0- Sample.. “ อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!! “ ชายผมน้ำตาลนั้นก็เปล่งน้ำตาออกมาไม่ขาดสายพร้อมกับตะโกนสุดแรงเกิด มันไม่ค่อยให้อารมณ์เศร้าอ่ะคับ (ไปว่าเขาอย่างนั้นไม่ได้ดูตัวเองเลยแก = =) --- สู้ๆ พัฒนาฝีมือต่อไปคับ!! \\\\o
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World 2 ปีต่อมา ณ เมืองโตเกียว ;วันที่ 13 กรกฎาคม 2010 เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นฝึกหัด 2 คนกับเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง 1 คนได้กำลังวิ่งไล่ล่าบางอย่างในโทรศัพท์อยู่ “ ลูกพี่!!! มันจนมุมแล้ว “ เจ้าหน้าที่สาวผมทองเมื่อไปถึงก็พบกับชายคนนึงในชุดสูทสีดำ เสื้อสีขาวข้างใน กางเกงยาวสีดำ ไว้ผมยาวหลังปรกหู ซึ่งกำลังจะเริ่มต่อสู้กับปีศาจร่างกายบึกบึน ใบหน้าเป็นคล้ายคนแต่ถูกสวมหน้ากากสีดำและนัยตาน์สีแดง มันก็เริ่มยกมือแล้วก็จะเหวี่ยงทุบชายคนนั้น “ หัวหน้า!!!! “ ชายผมสีเงินชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลางก็ชักดาบคานะนะของตนออกมาแล้วเข้าไปช่วย “ หยา!!!เชือด!!!!! “ แต่ชายคนนั้นก็ใช้ดาบเล่มแปลกของตนฟันร่างของมันขาดเป็น 2 ท่อนได้อย่างรุนแรง “ หัวหน้าโชเซ็น ไม่เป็นไรใช่ไหม??? “ (ชายผมเงิน) ชายคนนั้นคือ หัวหน้าหน่วย Alpha 2 คามาสะ โชเซ็น ซึ่งเป็นหัวหน้าที่มีนิสัยค่อนข้างแปลกๆ ทะลึ่ง แต่ภายในนั้นซ่อนเร้นไปด้วยจิตใจที่เยือกเย็นและฝีมือที่ฉกาจ “ ไม่เป็นไร ซากิ ไปหาเป้าหมายอื่นเหอะ เดี๋ยวเขตนี้ฉันกับนากาฮาระจะคอยดูแลให้ “ (โชเซ็น) “ ได้ครับ ไปเหอะฟอร์เต้!!! ชิเสะ!!! “ ชายผมเงินก็วิ่งนำหน้าเจ้าหน้าที่ฝึกหัดทั้ง 2 เจ้าหน้าที่ฝึกหัดหนุ่มที่ชื่อชิเสะกับฟอร์เต้ก็ชักดาบออกมาแล้วตามซากิ ทั้ง 2 ก็วิ่งกำลังไปถึงสนามเด็กเล่นที่ๆ ซากิต่อสู้อยู่นั้นกลับถูกสกัดกั้นด้วยกลุ่มปีศาจ 4 ตน “ หนอยแก!!! “ ฟอร์เต้ก็วิ่งเข้าไปสู้กับปีศาจหมียักษ์ 2 ตัว ส่วนชิเสะก็เข้าสู้อีก 2 ตัว ฟอร์เต้นั้นหลบการโจมตีของพวกมันได้ แล้วใช้จังหวะที่มันกำลังจะหันไปหาเข้าโจมตีทั้ง 2 พร้อมกัน “ หึย!!!!เชือด!!!!!! “ ฟอร์เต้ฟันใส่ปีศาจหมีทั้ง 2 ตาย ทางด้านชิเสะก็สามาถจัดการได้อย่างง่ายดาย “ นี่เป็นไรรึเปล่า??ฟอร์เต้ “ ชิสะก็หันไปถามด้วยความเป็นห่วง “ ไม่หรอก ไปกันเหอะ!!! “ ฟอร์เต้ตีหน้าตายพร้อมวิ่งไปต่อ “ เฮ้ย!!!รอด้วยสิ “ ชิเสะก็รีบวิ่งตามไป ทั้ง 2 ก็มาถึงที่สนามเด็กเล่นเห็นซากิกำลังต่อสู้กับฝูงปีศาจหมียักษ์อยู่ “ ลูกพี่เรามาช่วยแล้ว!!! “ ชิเสะวิ่งเข้าไปช่วยซากิ ฟอร์เต้ก็เข้าโมตีพวกปีศาจทั้ง 6 ตัว การโจมตีของปีศาจหมียักษ์นั้นก็ไม่สามารถเข้าจังฟอร์เต้ไม่ได้เลยสักครั้ง ฟอร์เต้นั้นก็เอาดาบมากันจากอุ้งมือของหมียักษ์ได้ตัวนึงแล้วก็บิดหมุนรอบอุ้งมือตัดแขนของมันอย่างว่องไว “ ตายซะ!!! “ ฟอร์เต้ก็ฉวยโอกาสใช้ดาบเข้าจิ้มที่หน้าอกทันทีตอนที่มันเจ็บส่งเสียงโอดอวนอยู่ ฟอร์เต้นั้นเมื่อแทงเข้าอกมันสำเร็จถีบเข้าที่หน้าท้องดึงดาบที่ปักทะลุออกมา แล้วเตะก้านคอปีศาจตนนั้นล้มลงไป เมื่อมันตายร่างของมันก็สลายเป็นละอองสีเขียว “ หึย!!! รังสีไฟฟ้า!!! “ ซากิก็ปล่อยไฟฟ้ารอบตัว “ ปั๊ก!!!ปั๊กๆๆปั๊ก!!! “ ซากินั้นก็โผล่เข้ามาที่ปีศาจตนนึงเข้าชกเป็นหมัดสายฟ้าอย่างรวดเร็ว ผลของหมัดนั้นทำให้ปีศาจหมีตนนั้นโดนช็อตไปด้วยจนโดนช็อตตาย แล้วเขาก็ไปโผล่หาอีกตัวนึงพร้อมทั้งใช้ขาไฟฟ้าเตะก้านคอมันทำให้ไฟช็อตที่เส้นเอ็นของคอพร้อมกับคอหักตาย ทางด้านชิเสะนั้นก็ใช้ดาบไฟฟันร่างของปีศาจ แต่ปีศาจอีกตนกำลังตลบหลัง “ เฮ้ย!!! “ ชิเสะนั้นตกใจมาก ชิเสะก็โดนมันล็อกตัว “ อ๊าก!!!! “ ชิเสะก็โดนล็อกตัวลอยขึ้น มันก็บีบร่างของชิเสะเพื่อที่จะฆ่าเขา “ เชือด!!! “ ทันใดนั้นมีคนๆนึงเข้ามาฟันข้างหลัง “ เฮ้อ......ชิเสะเป็นอะไรไหม??? “ ฟอร์เต้นั่นเองที่ช่วยชิเสะไว้ ฟอร์เต้ก็คอยพยุงร่างของชิเสะไว้ ซากินั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากใครบางคน “ หัวหน้าโชเซ็นนี่ “ เขาก็รับโทรศัพท์ “ ครับหัวหน้า “ (ซากิ) “ ซากิ ตอนนี้พื้นที่โตเกียว โซน 4 ปลอดภัยแล้วละ ภารกิจจบแล้ว “ (หัวหน้าโชเซ็น) “ ขอบคุณครับหัวหน้า “ (ซากิ) “ ตอนนี้ที่นั่นมีใครได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?? “ (หัวหน้าโชเซ็น) “ ประชาชนไม่รับบาดเจ็บครับ เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 คือ เจ้าหน้าที่ฝึกหัดชิเสะ มิยากิ ครับ เดี๋ยวผมจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาลครับ “ (ซากิ) “ อืม งั้นแค่นี้นะไปละ “ หัวหน้าโชเซ็นนั้นก็วางสายไป ฟอร์เต้ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โทรศัพท์ของฟอร์เต้นั้นเหมือนกับของซากิและชิเสะ เธอก็กดเข้าเมนูนึงเขียนว่าเคลื่อนย้ายกลับโลกมนุษย์ เธอก็ตอบ Yes ทันใดนั้นร่างกายของฟอร์เต้ก็เปล่งแสงแล้วก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดา ชิเสะกับซากิก็ใช้โทรศัพท์เคลื่อนย้ายสู่โลกมนุษย์แบเดียวกับฟอร์เต้ “ ฟอร์เต้ เธอกลับบ้านไปก่อนเหอะ เดี๋ยวฉันจะพาชิเสะไปหาโรงพยาบาลเอง “ ซากิก็ให้ฟอร์เต้กลับบ้านแล้วตนจะพาชิเสะไปหาเอง “ ขอบคุณมากค่ะ ลูกพี่ “ ฟอร์เต้นั้นก็เดินกลับบ้านไป เธอก็หันไปหาชิเสะแล้วพูดว่า “ ชิเสะขอให้หายไวๆนะ “ ฟอร์เต้พูดเสร็จแล้วก็วิ่งไป “ เออ...... “ ชิเสะก็ตอบกลับ ทางด้านตึกที่สูงสุดในเมืองโตเกียวซึ่งเป็นตึกของรัฐบาล ชายหนุ่มคนนึงสวมแว่นตาดำในชุดสูทสีเทากำลังมองภาพทิวทัศน์เมืองโตเกียวอยู่คนเดียว ทันใดนั้นมีชายคนนึง ผมสั้น สูทสีดำ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล “ นายท่าน..คืนนี้ท่านมีนัดทานอาหารเย็นกับคุณท่านเจ้าหน้าที่รัฐบาลชั้นสูงนี่ครับ “ (เจ้าหน้าที่รัฐบาล) “ อืมจริงสิ “ ชายแว่นตาดำก็หยิบไม้เท้าที่อยู่ข้างตนแล้วก็ใช้ไม้เท้าคอยแตะพื้น “ ช่วยพาฉันไปหน่อยสิ “ (ชายแว่นตาดำ) แท้จริงแล้วชายคนนั้นก็ตาบอดนั่นเอง เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็จูงมือชายแว่นตาดำนั่งบนที่นั่งรถเข็น แล้วก็เข็นออกจากตึก แล้วพาขึ้นรถแท็กซี่ “ ช่วยไปที่ร้านPortland หน่อยสิ “ (เจ้าหน้าที่รัฐบาล) “ ได้ครับ “ (คนขับแท็กซี่) เมื่อแท็กซี่พาไปถึงร้านใหญ่ข้างถนน ทั้ง 2 ก็ลงจากรถ เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็ตั้งที่นั่งรถเข็นให้เจ้านายแว่นดำของตนนั่ง แล้วเข็นเข้าไปในร้าน ร้าน Portland นั้นก็ไม่เหมือนกับร้านาหารทั่วไป ในร้านนั้นจัดหรูมาก ทั้งจุดเครื่องหอม กับการตกแต่งของร้านถือว่าดีมาก โต๊ะข้างๆกระจกของร้านนั้นมีชายคนนึงในชุดสูทสีดำ ผูกเน็กไทต์สีแดง สวมแว่นตา ไว้ผมยาวกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็เข็นไปที่โต๊ะนั้น แล้วลากเก้าอี้ให้เจ้านายตนนั่ง “ อืม..เอาละ นายไปได้แล้วละ “ (ชายแว่นดำ) “ นายท่านจ้างบอดิการ์ดคอยดูแลท่านรึยัง??? “ (หัวหน้ารัฐบาล) “ หึหึหึ จ้างแล้ว “ ชายแว่นดำก็ตอบด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็ออกจากร้าน “ สวัสดีครับรับอะไรดีครับ “ บ๋อเสิร์ฟชายก็เข้ามาถามโต๊ะของชายแว่นดำ “ ขอสเต็กเนื้อ T-bone จานนึงครับ แล้วรับอะไรดีคับคุณเจ้าหน้าที่ “ (ชายแว่นดำ) “ ฉันขอสลัดที่นึง “ เจ้าหน้าที่ชายหนุ่มก็สั่ง บ๋อยเสิร์ฟชายก็จดเมนูแล้วเดินออกไป “ ว่าแต่คุณเจ้าหน้าที่ครับมีธุระอะไรกับผมเหรอ??รัฐบาลมีอะไรจะบอกงั้นเหรอ??? “ ชายแว่นดำก็พูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล “ ฉันน่ะ....ไม่ได้มาหานายเรื่องของรกระทรวงกลาโหมหรอก...คุณคุซาเกะ “ ชายหนุ่มที่สวมแว่นตาตอบดังนั้นทำให้ชายแว่นตาดำก็ตกใจนิดหน่อย “ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย...... “ ชายสวมแว่นก็จิบกาแฟแล้วก็จ้องด้วยสายตาอันเย็นชา “ ฉันไม่มีเรื่องจะคุยเรื่องอื่นหรอก ถ้าไม่ใช่เรื่องรัฐบาล ก็ไม่ว่าง นายทำให้ฉันเสียเวลาไปมากพอแล้ว.. “ ชายตาบอดคุซาเกะก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาให้เจ้าหน้าที่มารับเขา “ นายยังอยู่ข้างเราอยู่รึเปล่า คุณคุซาเกะ!!! “ ชายหนุ่มแว่นก็พูดจาใส่อารมณ์ คำพูดนั้นทำให้คุซาเกะนั้นถึงกับนิ่งไปเลย เขาก็เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่เดิม “ คุซาเกะ เรียว อดีตหัวหน้าหน่วย Bravo 2 “ เมื่อชายหนุ่มแว่นพูดเปิดเผยตัวจริงของตน “ อืม...คำพูดนายแทงใจฉันจริงๆเลยน่ะ นายชื่ออะไรเหรอ??? “ คุซาเกะก็ถามด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว “ ฉันชื่อ นาโกโนะ ชิโนะเสะ “ ชายหนุ่มแว่นก็บอกชื่อของตนแล้วก็ต่อเติมไปว่า “ หรือ ฟรอเซอิค อิซอทซ์ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูง No.4372 สังกัดหน่วย Delta 3 จากยุโรบ “ ชายหนุ่มแว่นนั้นเผยตัวตนแท้จริงของตน “ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณงั้นเหรอ???อืม ไหนว่ามาสิ มีเรื่องอะไรกับฉันงั้นเหรอ “ น้ำเสียงของคุซาเกะนั้นกลับกลายเป็นเสียงเข้มต่างจากน้ำเสียงที่ตนใช้กับคนอื่น “ ฉันอุตส่าห์เดินทางมาที่นี่เพื่อจะมาสะสางเรื่องกลไกจิตของวิญญาณ “ (ฟรอเซอิค) “ กลไกจิตของวิญญาณ รอยร้าวประตูนรก และโลกวิญญาณ เรื่องนี้ใช่ไหม?? “ คุซาเกะนั้นคาดการณ์ไว้ได้หมด “ ใช่แล้ว... พวกเราต้องการข้อมูลเหล่านั้น “ ฟรอเซอิคนั้นก็ยกดื่มจิบกาแฟอีกครั้ง ปล.เรื่องสมัครยังไม่ได้ปิดนะ ปล.2 ไม่ได้ตั้งใจปั๊มนะ ลืมใส่ตรงอีดิท
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World เป็นคนประเภทเดียวกะผมสินะ 55+(พวกขีเกียจเขียนบรรยายเยอะ) อืมๆ เปิดเนื้อเรื่องมาได้น่าสนใจมาก แต่การบรรยายในหลายจุดยังน้อยไปนิดและมีภาษาพูดมากอยู่นะคับ อย่างที่พี่อีซาคว่าลองศึกษาจากฟิคของคนอื่นๆดู ในบอร์ดนี้ก็มีนักแต่งฟิคที่ใช้ภาษาสวยๆอยู่หลายคนเลย(และแน่นอนว่าไม่ใช่ผม) แต่เรื่องบรรยายทำเอาหลายคนขาดทุนล่องจุ้นกันมาเยอะแล้วจริงๆแหะ 555+ แต่ผมชอบด้านเนื้อเรื่องนะ ยังไงก็จะติดตามจนกว่าแม่สาวน้อยของผมจะมีบทล่ะกัน ^^ สู้ต่อไป !!!
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World จ...เจ้าหน้าที่โลกวิญยาณชั้นสูง ไอ้แว่นเพิ้งนั่นน่ะนะ /me โดนตัวละครตัวเองถีบ ชื่อ นาโกโนะ ชิโนะเสะ ก็ไม่เลวแฮะ อือม์ ตอนนี้แว่นค่อนข้างเยอะ ทั้งแว่นดำแว่นตา งงนิดหน่อย แต่เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณมีบาดเจ็บไปแล้ว รู้สึกบู๊ทีไรโหดกันทุกที การเขียนพัฒนาขึ้นครับ แต่เวลารับส่งบทสนทนาให้ใช้การบรรยายที่ตัวบุคคลแทนการใสชื่อในวงเล็บดูก็ได้ เช่น เป็นต้น อื่นๆ ผมชอบ plot เรื่องนี้นะ ดูลึกลับดี วางการเชื่อมโยงของโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์ไว้ด้วย ตอนต่อไปน่าติดตามว่าตาแว่นจะแจ้งข่าวอะไรทำไมลับลมคมในจัง--
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World เหอๆ...ต่อจากเทศกาลผมหลากสี ก็เป็นมาเปลี่ยนวันของคนใส่แว่นบ้างล่ะ.. [action]ผั๊ววววววววววววววววววววะะะะะะะะะะ-----------!!! (โดนเจ้าของกระทู้ถีบหน้าหงาย)[/action] อ่ะ...ล้อเล่นน้าจ้า~~~~ ^^" การบรรยายสั้นๆดี เหมาะสำหรับคนขี้เกียจอ่านตัวหนังสือยาวๆอย่างเรา (ฮา) แต่งได้เร็วทันใจดีมั่กๆ ยังไงก็สู้ต่อไปนะ ทาเคชิ!! ><b
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World Chapter 2 “ เมื่อ 1 ปีก่อน ฉันกับทหารของโลกวิญญาณก็เข้ามาสำรวจพื้นที่พิกัดเขต Black Flush ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นเก่าของพวกเจ้าหน้าที่จิตเลวกับพวกปีศาจร่างวิญญาณ “ ฟรอเซอิคนั้นก็เล่าเหตุการณ์ที่ตนไปสำรวจตามคำสั่งของโลกวิญญาณของประเทศยุโรป “ แล้วยังไงเหรอครับ??? “ คุซาเกะก็ตั้งหน้าถาม “ เราไม่พบอะไรเลย ทั้งหินเขียวลึกลับ แม้แต่อุปกรณ์ของพวกนั้นก็เหมือนกับถูกขโมยไป “ ฟรอเซอิคพูดเสร็จก็จิบกาแฟของตนต่อ “ ไอ้เรื่องนั้นนะฉันไม่รู้หรอกนะ อีกอย่างฉันไม่ได้ยุ่งกับเรื่องพวกนี้มา 4 ปีแล้วละนะ “ คุซาเกะนั้นก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากนัก “ แต่สิ่งที่เราพบ.....คือ..พลังวิญญาณของนายไง....ในนั้นมีพลังวิญญาณของนายซึ่งไม่รู้เหมือนกันมาได้ไง “ เมื่อฟรอเซอิคนั้นพูดถึงพลังวิญญาณของคุซาเกะนั้นทำให้คุซาเกะนั้นตกใจมาก “ ฉันอยากรู้ว่าพลังของนายไปอยู่กับพวกนั้นได้ยังไง!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็ทำเสียงเหมือนตะคอกพร้อมกับจ้องด้วยสายตาที่น่ากลัวแม้จะปิดบังด้วยแว่นแต่ว่ามันกลับยิ่งขยายทำให้น่ากลัวยิ่งขึ้น “ นี่นายใส่แว่นเพราะทำให้ตานายดูน่ากลัวและน่าเกรงขามขึ้นรึไง??? “ คุซาเกะก็แกล้งถามกวนๆ “ เออ..อย่ามานอกเรื่อง บอกมาแกแอบร่วมมือกับปีศาจวิญญาณชั้นสูงใช่ไหม??? “ “ อย่ามาเพ้อเจ้อน่า ฉันจะไปช่วยพวกมันทำไมละ??? “ คุซาเกะก็เถียงกลับพร้อมทั้งกินสเต็กต่อ “ แล้วนายมีจุดประสงฆ์ช่วยมันทำไมละ???? “ ฟรอเซอิคนั้นก็ย้อนถามกลับต่อ คุซาเกะนั้นก็เริ่มหมดอารมณ์จะคุยกับฟรอเซอิคก็ลุกจากโต๊ะ “ ฉันหมดอารมณ์จะคุยเรื่องนั้นแล้วละ โทษทีเราคงจบเรื่องนี้แล้วละ “ คุซาเกะก็หยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาคนมารับ ฟรอเซอิคนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเช่นกันแต่ว่าเขากลับไม่ได้โทรหาใคร “ ฉันขอทดสอบพลังของนายหน่อยก็แล้วกันนะ!!! “ ฟรอเซอิคก็กดตัวเองเข้าสู่มิติโลกวิญญาณ การเปลี่ยนมิติของฟรอเซอิคนั้นแตกต่างจากคนอื่น ปกติเมื่อใช้จะมีแสงเปลี่ยนร่างตนเข้าสู่มิติ แต่ว่าของฟรอเซอิคซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของฝ่ายยุโรปกลับกลายเป็นถอดวิญญาณออกจากร่าง แล้วก็สร้างส่วนวิญญาณอัตโนมัติที่ร่างในมิติมนุษย์ของฟรอเซอิค ฟรอเซอิคนั้นก็สวมชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูง ชุดผ้าคลุมตัวสีขาวกางเกงสีดำ ฟรอเซอิคก็ใช้ง้าวอันใหญ่สีดำ ลายสลักเป็นตัวอักษรประหลาดสีทอง เขาใช้ง้าวเข้าฟันคุซาเกะในร่างมนุษย์ คุซาเกะนั้นซึ่งมีดวงตาทิพย์จึงเห็นฟรอเซอิคที่กำลังเข้าโจมตี แต่ในช่วงนั้นนั่นเอง “ ชริ้ง!!!!!! “ คุซาเกะกลับใช้โทรศัพท์ของตนเข้าสู่โลกมนุษย์อย่างฉับพลันใช้ดาบเล่มยาวของตนกันง้าวของ ฟรอเซอิคได้ “ เฮ้ย!!!ดวงตาแก!!!อย่างที่ฉันคิดไว้เลยว่าพลังของนายกลับมาแล้ว “ ฟรอเซอิคเมื่อเห็นตาของคุซาเกะซึ่งในโลกวิญญาณฟรอเซอิคจะเห็นดวงตาของคุซาเกะกลับไม่ได้บอด ดวงตาของเขามีสีน้ำเงิน คุซาเกะนั้นก็ดันง้าวของฟรอเซอิคออกไปแล้วพุ่งเข้าโมตีฟรอเซอิค คุซาเกะก็สร้างธาตุลมที่ดาบเล่มยาวของตนจากนั้นก็ฟันใส่ฟรอเซอิค ฟรอเซอิคก็เอาง้าวของตนกันไว้ได้ เขาก็ดันดาบของคุซาเกะออกไปจากนั้นก็พุ่งง้าวเข้าท้อง แต่คุซาเกะกลับหลบได้ คุซาเกะก็กระโดดไปข้างหลัง “ ที่ฉันตาบอดก็เพราะว่าฉันแกล้งทำละโว้ย ฟรอเซอิค วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะสู้กับแกนะ ไว้เจอกันใหม่นะ “ คุซาเกะนั้นก็ล้มเลิกการต่อสู้จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกลับโลกมนุษย์ “ เฮ้ย!! เดี๋ยวก่อนสิ!!! “ ฟรอเซอิคก็จะพุ่งตัวไปห้าม แต่ว่ามีชายหนุ่มคนนึงโผล่ขวางอยู่ข้างหน้าในชุดผ้าคลุมสูทสีดำ ข้างในเป็นเสื้อเชิร์ต พร้อมใช้อาวุธเป็นเคียวยักษ์คล้ายกับยมทูต “ อ๋อ..จริงสิ นี่คือบอดิการ์ดรับจ้างของฉัน นักฆ่าวิญญาณที่ฉันจ้างมา ฝากด้วยนะโคชิ “ คุซาเกะนั้นพูดเสร็จก็กลับสู่โลกมนุษย์ “ ยินดีที่ได้ร่วมธุรกิจความตายกับนายไอ้แว่น... “ โคชิ นักฆ่าปีศาจนั้นก็เอาเคียวยักษ์ของตนชี้หน้าฟรอเซอิค “ คิดจะขัดขวางฉันเหรอไม่มีทางหรอก!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็เข้าต่อสู้กับโคชิ
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World แต่งได้เร็วม๊ากมาก > <b !! บทบรรยายพัฒนาดีขึ้นคับ ถึงภาษาจะยังไม่สวยเท่าเหล่ามือโปร แต่ก็ไม่แข็งเท่าไหร่แล้วคับ T-bone... ไม่ได้ไปกินตั้งนานแล้ว(เริ่มนอกเรื่อง = =) ยังไงก็ สู้ๆน่อ!!
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World Chapter 3 จากนั้นบนท้องถนนโตเกียวก็เกิดการต่อสู้ระหว่างฟรอเซอิคกับโคชิ นักฆ่าปีศาจหนุ่ม “ หึย!!!ชริ้ง!!!! “ ฟรอเซอิคก็ใช้ง้าวเข้าฟันใส่เฉี่ยวใบหน้าของโคชิ ทำให้ใบหน้าของโคชิเป็นรอยขีดตรงแก้มด้านขวา “ ชึ แกได้เจ็บแน่!!!! “ โคชิก็เริ่มเอาจริง “ อยากให้นายเอาจริงมานานแล้ว “ ฟรอเซอิคก็พูดจาน้ำเสียงเข้มแล้วก็ตั้งท่าต่อสู้ แล้วทั้ง 2 ก็เข้าโจมตีพร้อมกัน โคชิก็ใช้เคียวฟันใส่ฟรอเซอิค ฟรอเซอิคก็ใช้ง้าวกันการโจมตีไว้ได้ เขาก็พยายามดันเคียวของโคชิออก “ หยา!!!ติดกับฉันนักฆ่าปีศาจ “ In the land of blue “ !!! “ ฟรอเซอิคก็หลอกล่อให้โคชิเข้ามาติดกับ บังเกิดน้ำแข็งเกาะติดที่ขา “ อะไรกันเนี่ย?? “ โคชินั้นไม่สามารถขยับร่างกายท่อนล่างลงมาได้ แต่โชคดีที่ไม่กระทบต่อร่างกายด้านบน “ เอาละนะ!!! “ ฟรอเซอิคก็ถอยออกมาก้าวนึงแล้วฟาดด้วยง้าวเข้าใส่โคชิ “ คิดว่าฉันจะหลงกลง่ายๆงั้นเหรอ “ เสี้ยวจันทรา “ !!! “ โคชิก็ปล่อยท่า เขาใช้มือที่ถือเคียวฟาดใส่รอบอย่างรุนแรงจนเกิดใบมีดเข้าทำลายทุกอย่างบนพื้นที่ “ ตู้ม!!!!!!! “ พื้นที่บนถนนบนมนุษย์ก็ระเบิด เหล่าผู้คนเมื่อเห็นก็ตกใจกันยกใหญ่ ฟอร์เต้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเมื่อเห็นก็ตกใจหลังจากไปซื้อของจากร้านสะดวกซื้อมา “ นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับมิติวิญญาณ!! “ ฟอร์เต้ก็อาศัยช่วงชุลมุนหยิบโทรศัพท์เข้าสู่โลกมิติวิญญาณ ฟอร์เต้เมื่อเข้าไปก็เห็นการต่อสู้ของฟรอเซอิคกับโคชิ “ นั่นมัน เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูงนี่ กำลังสู้อยู่ใครนะ??? “ ฟอร์เต้เห็นก็สงสัย “ ฟอร์เต้!!! “ ทันใดนั้นมีเสียงของซากิวิ่งเข้ามาหา “ เกิดอะไรขึ้นเหรอ??? “ ซากินั้นก็ได้รู้สึกถึงพลังไอวิญญาณที่เข้าปะทะกันจึงรีบวิ่งมาดู “ เจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังต่อสู้กับนักฆ่าปีศาจนะ ทำไม 2 คนนี้ต้องกัดกันด้วย “ ฟอร์เต้ทำหน้าสงสัยพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เข้าสู่โลกมิติวิญญาณ “ ฟอร์เต้จะทำอะไรนะ!!! “ ซากิเมื่อเห็นฟอร์เต้ย้ายตนเข้าสู่มิติวิญญาณก็ตกใจ “ ฉันจะไปห้ามพวกเขา มันจะส่งผลต่อผู้คนในโลกมนุษย์นะ “ ฟอร์เต้ก็วิ่งเข้าไปห้าม “ รอด้วยสิ!!! “ ซากิก็หยิบโทรศัพท์ตามฟอร์เต้ไป ฟอร์เต้ก็วิ่งไปห้ามหยุดโคชิส่วนซากิก็เข้าชักดาบฟันง้าวดันลงพื้นปรามไว้ “ พวกคุณรู้ไหม ทำแบบนี้มันส่งผลโลกมนุษย์นะ!!! “ ซากิก็บอกกับทั้ง 2 “ หึย!!!เกะกะจริงๆ!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็ดันดาบของซากิออกไปแล้วฟาดใส่ซากิกระเด็นล้มลงไป ฟรอเซอิคนั้นก็ปล่อยลมหนาวใส่โคชิแม้จะไม่แคร์ฟอร์เต้ที่ยืนขวางห้ามชิไว้ โคชินั้นเมื่อเห็นฟรอเซอิคปล่อยพลังใส่โดยไม่แคร์พวกเดียวกันจึงโน้มดึงตัวฟอร์เต้ถอยออกมาด้วย “ ระวัง!!!! “ โคชิก็ช่วยชีวิตฟอร์เต้เอาไว้ “ เฮ้ย!!!! จะบ้าเหรอ???ปล่อยใส่พวกเดียวกัน!! “ ฟอร์เต้เมื่อเห็นฟรอเซอิคปล่อยใส่โดยไม่แคร์ตัวเธอจึงโมโหมาก “ พวกเธอเป็นใครนะ???? “ ฟรอเวอิคก็ถาม “ ฉันชื่อ ฟอร์ทิสซิโม เครสเซนโด้ เจ้าหน้าที่ฝึกหัด หน่วย Alpha 2 ชื่อในโลกมนุษย์คือ โอจิกิ เท็ตสึโกะ “ ซากินั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหายืนข้างๆ ฟอร์เต้ พร้อมแนะนำตัวเหมือนฟอร์เต้ “ ส่วนฉัน โทจิโร่ ซากิ เจ้าหน้าที่ชั้นกลางหน่วย Alpha 2 “ “ เป็นเจ้าหน้าที่สังกัดที่ประเทศนี้สินะ “ ฟรอเซอิคนั้นก็กระทุ้งง้าวปักพื้น “ ฉันคือ ฟรอเซอิค อิซอทซ์ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูงของฝ่ายสหภาพยุโรป หรือ นากาโนะ ชิโนเสะ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น “ ฟรอเซอิคก็แนะนำตัว “ ถึงยังไงงฉันก็ไม่สนหรอก เพราะฉันไม่ใช่พวกเดียวกับพวกแก “ ฟรอเซอิคก็พูดอย่างเย็นชา “ ถ้ายังขวางฉันอีกละก็ ฉันไม่ปล่อยพวกนายนะ “ ฟรอเซอิคก็หยิบง้าวชี้หน้าทั้ง 2 “ หึย!!!ยโสมากเลยนะ!!! “ ซากิก็เข้าฟันใส่ฟรอเซอิค ฟรอเซอิคนั้นก็ใช้ง้าวฟันใส่กลับ การโมตีของฟรอเซอิคนั้นรุนแรงถึงกับทำให้การโจมตีของซากิไร้ผลไปเลย “ เข้าใจไหมว่ามันคนละชั้น!!!!! “ ฟรอเซอิคก็ฟาดด้วยง้าวใส่ซากิ แม้ซากิใช้ดาบกันไว้ได้แต่อาณุภาพนั้นถึงกับต้องถอยหลังลากพื้นไปเลย ฟรอเซอิคเมื่อฟาดใส่ก็พุ่งเข้าไปโผล่อยู่ข้างหน้าอย่างว่องไวจากนั้นก็ฟันใส่ซากิในตอนนั้น “ น่าเสียดายจริงๆแกเนี่ย ฉันอุตสส่าห์คาดหวังแกไว้ซะสูงไปหรือนี่ “ ฟรอเซอิคก็กล่าวอย่างเสียดายพร้อมกับเข้าฟันทันที “ ชริ้ง!!!!!!!!!! “ แต่ว่ามีเสียงกระทบง้าวจากดาบเล่มนึงที่ไม่ใช่ของซากิ ฟรอเซอิคนั้นก็หันไปพบว่ามีชายหนุ่มคนนึงในชุดเชิร์ตสีขาวกางเกงยาวดำ สวมเสื้อโค้ตสีเทา ผมสั้นสีน้ำเงิน ใช้ดาบของตนเข้ามากันง้าวเอาไว้ “ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฟรอเซอิค “ ชายคนนั้นก็กล่าวด้วยใบหน้าร่าเริง “ อึ๋ย....................ไม่จริง....ไม่ใช่เขาแน่..... “ ฟรอเซอิคนั้นเมื่อเห็นใบหน้าชายคนนั้นก็นึกคุ้นเหมือนคนที่เขารู้จัก “ ว่าแต่ว่าคุณเป็นใครเหรอ??? “ ฟรอเซอิคก็ถามชื่อของชายคนนั้น “ อะอ้าว ฟรอเซอิค....โอ้โห่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แค่เปลี่ยนทรงผมใหม่ก็จำไม่ได้หรือนี่.... “ ชายคนนั้นก็พูดจาทำหน้าเศร้านิดหน่อยจากนั้นก็กลับมาร่าเริง “ ฉันคือ มาซาโนะ คุราโดะ หัวหน้าหมู่ Delta 4 ไง “ ชายคนนั้นก็บอกชื่อของตน ฟรอเซอิคเมื่อได้ยินชื่อก็ถึงกับอึ้งอึ้งนิ่งเอ๋อไปทันทีเลย “ คุราโดะ.....หัวหน้าหน่วย Delta 4.....หัวหน้าหน่วย Delta 4...... “ คำพูดของคุราโดะนั้นแทงใจดำของฟรอเซอิคเข้าอย่างจังทะลุอกไปเลย “ ไม่จริง!!!!!!!!! “ ฟรอเซอิคในช่วงนั้นเหมือนกับคนติ๊งต๊องมาก “ ไอ้นี่...มัน เด็กฝึกหัด........ตอนนั้นฉันระดับชั้นกลาง....ฝึกหัด...ชั้นกลาง.....ชั้นสูง....หัวหน้าหน่วย..ทำไมมันไม่ใช่!!!!!!! “ ฟรอเซอิคออยู่ในอาการที่บ้าๆสุด กับเรื่องระดับชั้น “ ทำไมละ???ฉันเป็นหัวหน้าหมู่ถึงต้องยินดีขนาดนั้นด้วยละ??? “ คุราโดะก็กล่าวอย่างมึนงง “ ทำไมนายถึงมีระดับชั้นสูงกว่าช้าน!!!!!!!!!!! “ ฟรอเซอิคก็เครียดอยู่กับระดับชั้นของตนกับคุราโดะอย่างหนัก “ ทำไม!!!!พระเจ้า!!! ตูไม่เชื่อ!!! ทำไมตูกับนายถึงมีระดับห่างกันตั้งชั้นนึงเลยเหรอนี่!!! มันนำหน้าตูไปตั้งแต่เมื่อไหร่ว้า!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็นั่งลงไปบนพื้นเพื่อสงบอารมณ์ “ เอ่อ...นี่..ฉันพึ่งเป็นได้แค่ 2 ปีเองนะ อีกอย่างนายนะหลังจากระดับสูงก็ถูกโอนย้ายไปกลับกลุ่มทางยุโรป ไม่มีนายฝีมือฉันก็พัฒนาขึ้นมากมายหลายเลยนะ “ คุราโดะกล่าวแล้วเก็บดาบ “ นี่ตูไปเป็นลูกน้องมันเหรอนี่........ “ ฟรอเซอิคก็ยังรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ “ นี่ฟรอเซอิค เรื่องระดับขั้นนะ อย่าไปซีเรียสกับมันเลยน้า.....ทำใจให้สบาย... “ คุราโดะก็ปลอบใจของฟรอเซอิค “ อย่าไปซีเรียสงั้นเหรอ... “ ฟรอเซอิคนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมทั้งขยับแว่นขึ้นนิดหน่อย “ จริงสิ..เราต้องไม่ซีเรียส ที่ยุโรปกับญี่ปุ่นมันเหมือนกันนี่หว่า.... “ ฟรอเซอิคก็หยิบง้าวขึ้นมาแล้วหันหลังเดินไปที่อื่น “ เออนี่..คุราโดะ ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไปคิดใหม่ละกันแล้วเจอกันนะ “ ฟรอเซอิคนั้นเดินหนีไปอย่างหน้าตาเฉย คุราโดะ หัวหน้าหมู่ที่ยังหนถ่มแน่นนั้นก็จ้องมองไปที่โคชิ นักฆ่าวิญญาณที่ถูกจ้างโดยคุซาเกะ “ นี่นาย....ร่วมมือกับคุซาเกะใช่หรือไม่ “ คุราโดะก็ถามด้วยน้ำเสียงที่เข้ม โคชินั้นก็ชักปืนพกคู่ที่เหน็ยกัยเอวทั้ง 2 ขึ้นมาเล็งที่คุราโดะ “ เฮ้ย!!ทำอะไรนะ!! “ ฟอร์เต้กับซากินั้นก็ระแวงกับท่าทางของโคชิ โคชินั้นก็ทำเสียงหัวเราะตลก “ หึหึหึ อาวุธฉันคือ ปืนคู่กระสุนวิญญาณ นายคิดว่าฉันเป็นพวกเดียวกับมันเหรอ??? “ โคชิก็กล่าว “ อีกอย่าง ฉันก็แค่ถูกจ้างช่วยเขาแค่วันเดียวเอง “ โคชินั้นก็เก็บปืน “ เอาละ ฉันไปละนะ ตอนนี้หมดเวลาภารกิจแล้วละ และ “ โคชิหยิบสร้อยไม้เกางเขนออกมาแล้วก็เอาแตะที่หน้าผากจากนั้นก็มีควันแสงขึ้นรอบๆโคชิ เมื่อเริ่มจางนั้นโคชินั้นก็อยู่ในโลกมิติของมนุษย์ โคชิก็อยู่ในชุดเหมือนเดิมแต่อาวุธจะหายไป โคชิก็เดินจากไป “ เอาละ พวกเรากลับกันได้แล้วละ กลางคืนบนโลกมนุษย์มันอันตราย “ คุราโดะก็กล่าวกับฟอร์เต้และซากิ คุราโดะ ซากิและฟอร์เต้ก็หยิบโทรศัพท์เข้ากลับสู่โลกมนุษย์ คุราโดะนั้นซึ่งกำลังหันหลังเดินออกไปนั้น “ หัวหน้าคุราโดะครับ... “ ซากิก็เรียกคุราโดะ คุราโดะนั้นก็แหงนหน้าหันมา “ ขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้นะครับ “ ซากิก็กล่าว “ ไม่เป็นไรหรอก “ คุราโดะกล่าวแล้วเดินจากไป ตอนนี้ก็เหลือแต่ฟอร์เต้กับซากิ “ ฟอร์เต้ ฉันไปก่อนนะ ไปละ “ ซากินั้นก็เดินจากไปอีกคน ฟอร์เต้นั้นรู้ว่าเหลือตัวคนเดียวจึงเดินไปหยิบของที่ตนซื้อมาแล้วเดินกลับบ้าน
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World ฟรอเซอิคหลายบุคลิกมาก กร๊าก แถมกลายเป็นคนขี้หยิ่งไปตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย = = มีหลายอารมณ์ดีครับ ฝีมือพัฒนาขึ้นมากเลย ฉากบู๊บู๊ได้ใจ ฉากบรรยายเห็นภาพชัด ดีมากเลยครับ
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World Chapter 4 วันต่อมา ช่วงบ่ายนั้น หลังจากทางการโลกวิญญาณได้มีการจัดประชุมต่อเหล่าเจ้าหน้าที่วิญญาณระดับหัวหน้านั้น ได้มีผลการชี้แจงออกมาว่า ให้ตามรอย คุซาเกะ ผู้ต้องสงสัย วันต่อมาบนโลก ช่วงเช้า ในวันอาทิตย์ ฟอร์เต้นั้นกำลังโทรศัพท์หาแม่ซึ่งอยู่ในเมืองโซคอนซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่เหล่าวิญญาณอาศัยหหลังความตาย “ บายนะแม่... “ ฟอร์เต้ก็วางสายหลังจากคุยกับแม่ของเธอเสร็จ “ รุ่นพี่ค่ะ!!!!! “ ทันใดนั้นมีหญิงสาวผมยาวดำในชุดเจ้าหน้าที่ฝึกหัดโผล่เข้ามาหาฟอร์เต้อย่างน่าตกใจ “ เฮ้ย!!!รูบี้ อย่าเข้ามาโผล่แบบนี้ได้ไหมเนี่ย ฉันตกใจ!! “ ฟอร์เต้นั้นก็ตกใจอย่างมาก “ พี่ฟอร์เต้ก็นิสัยอย่างนี้แหละ แกล้งแบบนี้มันสนุกดีนิ เหอๆ “ รูบี้นั้นก็เป็นคนที่มีนิสัยกวนๆ “ ว่าแต่ว่าวันนี้เวรพี่นิ ขอไปด้วยคนน้า “ รูบี้ก็จะขอเป็นยามเวรวิญญาณเป็นเพื่อนกับฟอร์เต้ “ เออได้น้า....ตอนนี้ก็มีซากิ กับเธอนี่แหละ เวรวันนี้ ดีเหมือนกันฉันเหนื่อยมากกว่านี้ “ ฟอร์เต้ก็กล่าวประชด “ อะไรนะ???? “ รูบี้ก็หันไปด้วยหน้าตาที่ไม่พึงพอใจ “ เออ..ล้อเล่นน้า ไม่เป็นหรอก มากๆก็ยิ่งดี “ ฟอร์เต้ก็กล่าวกลับไป ทันใดนั้นซากิก็ออกมาจากห้องเซคเตอร์ 13 หลังจากที่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า “ เอาละไปกันรึยัง?? “ ซากิก็ถาม “ ไปกันเลย “ ฟอร์เต้ก็กล่าวแล้วก็ทั้ง 3 ก็เดินไปที่โตเกียวโซน 4 ซึ่งเป็นโซนที่ซากิกับฟอร์เต้เป็นยามโลกวิญญาณกะบ่ายวันนี้ ในแถวนั้นทั้ง 3 นั้นก็คอยเดินชมช็อปปิ้งในตลาดแถวนั้นพอดี “ฮ่าๆๆๆ ดีเหมือนกันได้ทำงานได้ช็อปปิ้งกับคอยดูแลโลกวิญญาณนิ มันช่างประจวบเหมาะเจาะกับเวลาจริงๆ “ รูบี้ก็กล่าวอย่างสนุกสนานพร้อมทั้งดูสินค้าร้านอื่นๆในตลาด “ เอาละ เราต้องแยกกันคอยเฝ้าดูคนพื้นที่ ฟอร์เต้เธอคอยดูแลแถวใจกลางของย่าน ส่วนรูบี้.... “ ซากินั้นกำลังออกคำสั่งกับรูบี้แต่เมื่อหันไปหาก็พบว่ารูบี้กำลังดูของสินค้าน่ารักอยู่อย่างมีความสุข “ รูบี้!!! “ ซากิก็ตะโกนเรียก “ หือ?? “ รูบี้ก็หันไปหา “ เธอคอยดูแถวแผนกนี้ละกัน แต่อย่ามัวแต่เดินช็อปปิ้งนะเฟ้ย “ ซากิก็มอบหมายพร้อมกำชับ “ OK!!! “ รูบี้ก็รับคำสั่งแล้วกลับไปดูของจุกจิกอีก “ บัดซบ....... “ ซากิก็กล่าวในใจแล้วก็เดินไปที่แถวประตูของย่านตลาด ส่วนฟอร์เต้นั้นก็เดินเล่นแถวใจกลางของย่านตลาด เธอนั้นก็พบคนที่เธอรู้จักคนนึงในย่านซึ่งอยู่ที่ร้านขายของจุกจิกซาริโอ้ “ คุณ......ฟรอเวอิค “ เธอก็มองไปที่ตาแว่นหน้าจืดคนนั้น “ ไอ้เด็กฝึกหัดเมื่อวานนี่.... “ ฟรอเซอิคนั้นซึ่กำลังซื้อของจุกจิกเสร็จพอดี “ มาทำอะไรที่นี่เนี่ย??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม “ อ๋อ.....ฉันเหรอ..ก็มาเที่ยวซื้อของดูเล่นเฉยๆนะ.. “ ฟรอเซอิคก็ตอบด้วยน้ำเสียงหล่อเท่ “ ไม่ใช่ค่ะ...มาทำอะไรแถวแผนกของจุกจิก??? “ ฟอร์เต้ก็ทวนถามใหม่ “ เอ่อคือว่า....... “ ฟรอเซอิคซึ่งกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น “ หรือว่า...คุณชอบ........ “ ฟอร์เต้กับคิดสิ่งที่ลึกซึ้ง “ จะบ้าเหรอ!!! ฉันไม่ได้ชอบของจุกจิกพวกนี้เฟ้ย!!!พิสูจน์ได้นะเฟ้ย!! ฉันจะเหยียบมันดูเลย “ ฟรอเซอิคก็กล่าวอย่างรีบร้อนพร้อมทั้งจะขว้างมันลงพื้นเพื่อเหยียบ “ เฮ้ย!!!นั่นมันสินค้าของๆตูนะเฟ้ย “ เจ้าของร้านผู้หญิงนั้นก็จ้องด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยว “ เอ่อ...ล้อเล่นจ้า... “ ฟรอเซอิคก็บอกว่าล้อเล่นเพื่อบรรเทาอารมณ์โกรธเกรี้ยวของแม่ค้า “ ว่าไง??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม “ คือว่าฉัน....มาซื้อของให้ผู้หญิงคนนึงนะ...... เหอๆ “ ฟรอเซอิคก็ตอบ “ ผู้หญิงเหรอ?????หรือว่า แฟนคุณงั้นเหรอ??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม “ เฮ้ย...ยังไม่ถึงหรอกน้า....แค่..กำลังคบหาดูใจกันอยู่นะ.... “ ฟรอเซอิคก็กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขาและผู้หญิงสาวที่ว่า “ ถ้างั้นคุณ......... “ ฟอร์เต้ก็เริ่มคิดอะไรที่มันลึกซึ้งอีกครั้ง “ ว่าแต่เธอมาทำอะไรที่นี่ละ??? เหอๆ “ ฟรอเซอิคนั้นก็รีบถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง “ อ๋อ วันนี้เป็นของฉันที่มาเฝ้าที่นี่นะ “ ฟอร์เต้ก็บอกกับฟรอเซอิค “ อืมงั้นเหรอ???? ว่าแต่ขอให้มีความสุขกับงานนะ ส่วนฉันกำลังจะไปดูของเกี่ยวกับผักก่อนนะ “ ฟรอเซอิคกล่าวแล้วรีบชิ่งไปเลยพร้อมพรางคิดในใจว่า “ เด็กบ้าเอ๊ย......... “ ฟอร์เต้นั้นก็เดินไปดูของต่างๆ ผ่านไปประมาณ 20 นาทีนั้น “ กริ้ง!ๆๆๆๆๆๆๆ “ ทันใดนั้นมีเสียงโทรศัพท์ทีมีการตรวจพบนั้นก็ดังขึ้น โทรศัพท์ของทั้ง 3 นั้นก็ดังพร้อมกัน ทั้ง 3 ก็เปิดโทรศัพท์ดูตำแหน่ง เมื่อทั้ง 3 พบตำแหน่งนั้น ฟอร์เต้กับซากินั้นตกใจอย่างมากที่มันอยู่ข้างหลังรูบี้ รูบี้นั้นก็ตกใจแล้วหันไปดู พบว่ามีปีศาจตัวร่างใหญ่ มือข้างขวาเป็นก้ามคีบที่สามารถตัดทุกอย่างได้สบาย รูบี้นั้นก็ไหวตัวทันจึงรีบหนีไปที่ซอยมืดแถวนั้นแล้วก็เปลี่ยนตัวเองเข้าสู่โลกมิติวิญญาณ รูบี้ก็วิ่งกลับมาที่เดิมพร้อมกับเห็นปีศาจตนนั้นเริ่มทำร้ายร่างวิญญาณของชายคนนึง เธอก็วิ่งเข้าไปเตะปีศาจตนนั้นล้มกระเด็น “ คุณคะ เป็นอะไรไหม??? “ ฟอร์เต้ก็เข้าไปดูแลอาการของชายคนนั้น ปีศาจตนนั้นก็เริ่มลุกขึ้นมาอีกครั้ง รูบี้นั้นชักดาบของตนออกมาจากข้างหลังในฝักดาบสั้นแต่เมื่อหยิบมันออกมากลับเป็นดาบที่ยาวมาก ดาบของรูบี้นั้นยาวมากๆจนมีความสูงมากกว่าตนเสียอีก “ หยา!!! “ รูบี้ก็วิ่งเข้าฟันใส่ปีศาจตนนั้น ปีศาจตนนั้นก็ใช้ก้ามคีบเข้าเพื่อจะหนีบร่าง “ เชือด!!!!!! “ ดาบของรูบี้นั้นฟันผ่ากลางก้ามคีบ ปีศาจตนนั้นก็ตะโกนเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด รูบี้นั้นก็ไม่ปล่อยไว้จึงกระโดดขึ้นบนฟ้าแล้วเจ้าฟันกลางหัวมัน “ เชือด!!!!! “ ร่างกายของปีศาจตนนั้นก็ถูกฟันแบ่งเป็น 2 ส่วน รูบี้นั้นสามารถกำจัดได้อย่างสบาย “ รูบี้ไม่เป็นไรนะ!!! “ ซากิกับฟอร์เต้ก็รีบวิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วงในชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ “ ไม่เป็นไรหรอกน่า... “ รูบี้ก็ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะคว่ำไอ้ตัวใหญ่นี่ได้ “ ซากิอึ้งกับผลงานของรูบี้ “ เหอๆ แค่สบายๆน่า.. ว่าแต่พวกเธอมาหาฉันทำไมเหรอ?? “ รูบี้ก็ถาม “ อ๋อ แค่เป็นห่วงนะ ที่มันอยู่ตำแหน่งเดียวกับเธอ พวกฉันก็กลัวว่ามันอาจจะทำร้ายเธอจากโลกวิญญาณข้ามโลกมนุษย์ได้ สักพักนึงบนอากาศ เกียวโตโซน 4 ได้มีร่างของชาย 2 คนในโลกวิญญาณปรากฏตัวขึ้น ชายคนนึงผมสีทองสั้น ซึ่งสวมผ้าคลุมปิดบังร่างสีฟ้าอมขาว นัยน์ตาสีน้ำเงิน กับชายผมดำยาว ชุดผ้าคลุมแดงอมขาว มีหน้ากากปิดใบหน้าแก้มด้านซ้าย ทั้ง 2 นั้นก็เข้าพุ่งลงบนพื้น แล้วจ้องมองไปทั่วทุกทิศก็พบแต่มนุษย์ที่อยู่ในโลกมิติขอมนุษย์ซึ่งไม่เห็นพวกเขา “ นายท่านครับ นี่คือ เมืองโตเกียวโซน 4 ขอรับ “ ชายหนุ่มผมทองก็กล่าวรายงาน “ หึหึ พวกมนุษย์นี่เต็มไปหมดเลย พวกเผ่าน่าสมเพช “ ชายหนุ่มผมยาวดำก็กล่าวพูดจาดูถูก “ นี่เรามาทำอะไรที่โลกมนุษย์เหรอครับ???ท่านกาโอ “ ชายหนุ่มผมทองก็ถาม “ ก็มาดูชั้นเชิงของพวกเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณยังไงเล่า และฆ่าเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณให้ได้มากที่สุด!! “ ชายหนุ่มผมยาวดำนาม กาโอ ซึ่งกำลังหัวเราะแล้วก็พุ่งวิ่งในย่านตลาดแห่งนี้ “ หึ!!!!!! “ ทั้ง 3 นั้นก็ได้รู้สึกถึงไอพลังอันแข็งแกร่งลึกลับที่มาบนโลก “ เฮ้ย!!!กรรมบรม!! “ ฟรอเซอิคนั้นซึ่งกำลังจ่ายตลาดอยู่นั้นก็ได้รู้สึกเช่นเดียวกัน ชายทั้ง 2 นั้นก็มาปราฏฎตัวต่อหน้าพวกฟอร์เต้ “ นี่พวกนายมาสนุกกันดีกว่านะ “ กาโอนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม (เกร็ดน่ารู้ สิ่งที่อยู่บนโลกมิติวิญญาณนั้นสามารถจะส่งกระทบต่อโลกมนุษย์ได้)
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World Chapter 5 ซากิกับฟอร์เต้นั้นก็วิ่งไปที่สนามลานกว้างเพราะตรวจจับพลังวิญญาณที่รุนแรงที่นั้น ส่วนรูบี้ก็คอยเลาะตระเวนในย่านตลาด ซากินั้นเมื่อได้รู้สึกถึงสัมผัสของสิ่งที่เลวร้ายและรุนแรงแบบนี้จึงพยายามรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อขอกองหนุนจากศูนย์เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ “ ตอบด้วย!!!นี่ ซากิ Alpha 2 ตอบด้วย มาที่โตเกียวโซน 4 เดี๋ยวนี้เลย!!! “ ซากินั้นก็โทรขอกองหนุนจากศูนย์ “ ซากิ!!!! “ ฟอร์เต้นั้นก็เรียกซากิแล้วชี้บางอย่างที่อยู่ข้าง มีควันพุ่งเต็มทางเดินในย่านตลาด เมื่อจางลงก็ปรากฏร่างของชาย 2 คน “ พวกเจ้าคือ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณสินะ??? หึหึหึ “ กาโอนั้นก็พูดด้วน้ำเสียงที่ดูน่ากลัว “ พวก....แก....เป็นใครกัน??? เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณจิตต่ำงั้นหรือ??? “ ซากิก็ถาม “ ฉันนะ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณและมนุษย์หรอก “ กาโอก็ตอบไปด้วยใบหน้ายิ้มแต่แฝงด้วยความโหดเหี้ยม “ ว่าไงนะ!!! “ ฟอร์เต้เมื่อได้ยินก็ตกใจ “ ถ้างั้นแก...... “ ซากินั้นก็อึ้ง “ หึหึหึ “ ชายทั้ง 2 คนนั้นก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว “ สเปคเตอร์ ยังไงเล่า หึหึหึ “ ชายผมยาวดำก็บอก “ พวกปีศาจที่มีพลังวิญญาณชั้นสูงงั้นเหรอ??? “ ฟอร์เต้เมื่อได้เห็นพวกสเปคเตอร์ครั้งแรกนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวถึงพลังอันน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ข้างใน ชายผมยาวดำนั้นซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าของทั้ง 3 ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ แต่อยู่ดีๆก็มาโผล่ข้างหน้าซากิจากนั้นก็ชักดาบเข้าฟันใส่ “ ฉันชื่อ กาโอ Specter No.19 ยินดีที่ได้รู้จัก “ กาโอก็แนะนำตัวแล้วเข้าฟันทันทีทันใด ซากินั้นก็เอาดาบมากันไว้ได้ทันจากนั้นทั้ง 2 ก็เริ่มต่อสู้กัน “ หึย!!!! สายฟ้าพิฆาต!!! “ ซากิก็ฟันใส่สร้างคลื่นพลังแสงที่มีพลังงานไฟฟ้าสูงใส่กาโอ กาโอก็ใช้ดาบคาตะนะของตนรับการโมตีไว้ได้ “ หึย...ไม่เลวนี่แก.. “ กาโอนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปหาซากิ “ ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ กาโอนั้นกลับกลายเป็นฝ่ายฟันฝ่ายเดียว แต่ซากิก็สามารถใช้ดาบของตนรับได้ทันแต่เขากลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ จากนั้นซากิก็เริ่มเป็นฝ่ายบุกมั้งจึงเอาดาบเข้าฟัน กาโอก็เอาดาบมาฟันซากิอีก ดาบทั้ง 2 ก็เข้าประชิดงัดกัน “ นายชื่ออะไรเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง???? “ กาโอก็ถาม “ ซากิ....โทจิโร่ ซากิ เจ้าหน้าที่หน่วย Alpha หมู่ 2 “ ซากิก็แนะนำตัว ทั้ง 2 นั้นก็เริ่มใช้พลังเข้างัดดาบกัน “ ชริ้ง!!!!! “ กาโอนั้นเป็นฝ่ายที่งัดชนะ ร่างของซากินั้นก็กระเด็นถอยออกไป “ เสร็จฉันแล้วเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ!! “ กาโอก็เข้าโจมตีใส่ตอนทีซากิไม่ทันตั้งตัว ซากินั้นก็ใช้ดาบปล่อยท่าสายฟ้าพิฆาตใส่ “ ชริ้ง!!!!!!! “ กาโอก็ทำลายคลื่นลำแสงไฟฟ้าของซากิอย่างง่ายดาย จากนั้นซากิก็ใช้โอกาสนั้นตั้งตัวได้ทัน “ ร้ายกาจจริงๆนายนะ “ ซากิก็กล่าวชมเชยต่อฝีมือของกาโอ “ เชอะ ไม่เห็นจะสนุกเลยวะ “ กาโอก็กล่าวทำหน้าสลด “ ว่าไงนะ??? “ ซากิก็รู้สึกโกรธที่กาโอพูดจาประชดที่กระทบฝีมือของตน “ หึย!!ต่อจากนี้ไปของจริงแล้ว!!!! “ ซากิก็บอกแล้วก็ถือดาบในท่าเตรียมพร้อม ซากินั้นก็ถือดาบชี้ไปที่กาโอ “สายฟ้าคำราม!!! “ ทันใดนั้นดาบของซากินั้นก็มีลำแสงไฟฟ้าต่อเติมบนปลายดาบซึ่งเพิ่มความยาวของดาบและมีพลังไฟฟ้าหมุนเวียนบนข้อมือที่จับดาบไว้ “ ไม่สำเร็จหรอก “ สเปคเตอร์ผมทองสั้นที่มากับกาโอนั้นก็พูด ฟอร์เต้นั้นก็ได้ยินคำพูดของชายคนนั้นจึงไม่พอใจ “ จะบ้าเหรอ??? ท่าสายฟ้าคำรามเป็นท่าที่สร้างความรุนแรงได้แม้แต่วิญญาณทุกดวงเลยนะ “ ฟอร์เต้ก็บอกเพื่อลบล้างคำพูดของชายผมสั้น “ ถึงจะร้ายกาจแค่ไหนแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นขั้นที่รุนแรงหรอก สำหรับกาโอแล้ว เจ้าหน้าที่คนนั้นก็นั่นเป็นแค่เศษเสี้ยวเท่านั้นเอง “ สเปคเตอร์ผมทองก็กล่าวพูดจาเหมือนกับนิ่งเฉยไร้อารมณ์ เขาไม่เคยจะแสดงสีหน้าให้ใครเห็นเลยแม้แต่กาโอ “ ย้าก!!!!!!!! “ ซากินั้นก็วิ่งเข้าพุ่งจากนั้นก็ฟันผ่าลงร่างของกาโอ “ บึ้ม!!!!!!!!! “ พื้นที่บริเวณนั้นก็ระเบิดเป็นคลื่นลูกใหญ่ บังเกิดควันฝุ่นละอองหมุนทั่วรอบพื้นที่ ซากินั้นก็เก็บพลังเป็นเหมือนเดิมแล้วมองไปที่กาโอ เมื่อควันจาลงนั้น “ เฮ้ย!!!ไม่จริง!!!!! “ ซากินั้นก็ตกใจเมื่อตนคาดการณ์ผิดไป เมื่อควันที่ปกคลุมกาโอนั้นจางลงนั้นพบว่ากาโอนั้นใช้ดาบกันไว้เหลือแต่พื้นที่รอบตัวเขาเละต่างจากร่างของกาโอ “ หึหึหึ แค่นี้เองรึ??? ต่อไปฉันขอบ้างละนะ ที่นี้ไม่เว้นให้แล้วละนะ “ กาโอนั้นก็กล่าวพูดจาด้วน้ำเสียงดูเย็นชา “ เห็นไหมล่ะ การคำนวณของผมไม่เคยพลาดหรอก “ สเปคเตอร์ผมทองนั้นก็กล่าวถูตามคาด ฟอร์เต้ก็อึ้งกับการคาดการณ์ของสเปคเตอร์คนนั้น “ ว่าแต่ว่าคุณชื่ออะไรเหรอครับคุณผู้หญิง??? “ สเปคเตอร์ผมทองก็ถามชื่อของฟอร์เต้ “ฟอร์ทิสซิโม เครสเซนโด้ “ ฟอร์เต้ก็ตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เหมือนไม่พอใจ “ กระผมชื่อ เกรฟเซอร์ ฟัสช์ “ สเปคเตอร์ผมทองคนนั้นก็แนะนำตัว “ หลังจากที่คู่นี้เสร็จแล้วอย่าลืมเตือนผมด้วยละกัน ว่าผมจะลองสู้กับคุณ “ เกรฟเซอร์ก็กล่าว กาโอนั้นก็เตรียมตั้งท่าสู้อีกครั้ง “ เตรียมรับมือซะ!!! “ กาโอก็เข้าจู่โจมอย่างว่องไว การเคลื่อนไหวของกาโอนั้นรวดเร็วมากไม่เหมือนเมื่อตอนที่ออมมือให้ซากิ “ หยา!! “ กาโอนั้นก็เข้าไปโผล่ข้างหน้าของซากิ โดยที่ซากินั้นแทบจะอ่านการเคลื่อนไหวไม่ทันเลย “ เชือด!!!! “ กาโอนั้นก็ฟันที่บนผิวหนังหัวไหล่มีรอยบาดแผลจากดาบของกาโอ ซากินั้นแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตนถูกฟัน “ นี่มันอะไรกันเนี่ย??? “ ซากิก็อึ้งตะลึงกับการเคลื่อนไหว การโจมตี และพลังอันแท้จริงของกาโอ กาโอนั้นก็เตะใส่ซากิ เขาชกต่อยใส่ซากิเหมือนนักเลงและยังเข้าเตะต่อยไม่หยุดเลย ซากินั้นเมื่อโดนถีบเตะต่อยจนยับจึงคุกเข้าลงไปด้วยอาการสาหัส เลือดของซากิก็ไหลทะลักออกมาจากปาก ซากินั้นก็กำลังจะล้มฟุกแต่เขาก็เอาแขนทั้ง 2 มายันพื้นได้ “ นี่ฉันประเมิณนายสูงไปเหรอนี่... “ กาโอก็พูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ “ คงพอได้แล้วละนะ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ “ กาโอนั้นก็ง้างดาบขึ้นมาฟ้า “ ตื่นมาซะ ดาบของฉัน!!! “ เมื่อกาโอพูดนั้นดาบของกาโอก็เริ่มแปรสภาพพร้อมเปล่งแสงจากดาบคาตะนะธรรมดากลายเป็นดาบเล่มยาว ด้ามจับสีเงินทำจากเหล็กและมีเส้รเชือกสีดำมัดไว้ที่ข้างล่างโกร่งดาบ “ นี่คือดาบที่แท้จริงของฉัน ดูไว้ซะจะไม่เสียชาติเกิด!!! “ เมื่อกาโอพูดเสร็จนั้นก็เอามือที่จับดาบฟันลงที่ซากิ “ ซากิ!!!! “ ฟอร์เต้ก็กำลังจะเข้าไปช่วยนั้นแต่ก็ถูกเกรฟเซอร์เข้ามาขวางไว้ จากนั้นก็เปล่งเสียง “ ชริ้ง!!!!!! “ “ เหอ??? “ กาโอนั้นก็สงสัยเมื่อมีง้าวลึกลับเข้ามาขวางดาบที่กำลังฟันลงมาไว้ได้ “ ใครวะ??? “ กาโอก็หันไปเห็นชายคนนึงในชุดผ้าคลุมสีขาว “ ว่าไง สเปคเตอร์ “ ชายคนนั้นคือ ฟรอเซอิค
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World Chapter 6 กาโอกับฟรอเซอิคนั้นก็จ้องมองหน้ากัน ทั้ง 2 ก็เพ่งจ้องกันด้วยสายตาที่น่าเกรงขาม “ ฉันคือ ฟรอเซอิค เจ้าหน้าที่ชั้นสูงหน่วย Delta หมู่ 3 “ ฟรอเซอิคก็กล่าวแนะนำตัวก่อนสู้ “ หึหึหึ ฉัน กาโอ เจฟก้า สเปคเตอร์ No.19 ยินดีที่ได้รู้จัก “ กาโอนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีด้วยดาบยาวของตน ฟรอเซอิคนั้นก็ใช้ง้าวเข้าแทงใส่ เพื่อปัดการโจมตี การต่อสู้ของทั้ง 2 นั้นเหมือนกับพยัฆกับมังกรเสียจริงๆ ต่างๆฝ่ายต่างฝ่ายร้ายกาจทั้งคู่ “ หึย!!!! ตายซะแก!!! “ กาโอนั้นก็ชูฝ่ามือไปข้างหน้าที่ฟรอเซอิค ฝ่ามือของกาโอนั้นก็ปล่อยลำแสงเลเซอร์สีดำยาวออกไป “ หึย!!!! “ ฟรอเซอิคก็เอาง้าวของตนมากันไว้ได้ ไม่ทันใดนั้นกาโอก็ไปโผล่อยู่ข้างหลัง ฟรอเซอิคนั้นก็รู้สึกถึงพลังของกาโอจึงหันไป “ สายไปแล้วละ “ กาโอก็ชาร์จลำแสงที่ฝ่ามือแล้วยิงใส่ กาโอก็ยิงใส่ฟรอเซอิค “ หึหึหึ คิดว่าใครเร็วกว่ากันแน่ “ ทันใดนั้นฟรอเซอิคนั้นก็ไปโผล่อยู่ข้างหลังของกาโอ กาโอนั้นก็ตกใจแล้วก็หันมาตอนที่ฟรอเซอิคเอาง้าวฟันใส่ “ ชิ้ง!!!!!!!! “ กาโอก็เอาดาบมากันไว้ได้ “ หึย!!!!ชักจะสนุกขึ้นมาแล้วละสิ!!! “ กาโอก็ทำหน้าดีอกดีใจจากนั้นก็เข้าโมตีอีกรอบ “ หยา!!!! “ กาโอก็เข้าฟันอย่างว่องไว ฟรอเซอิคนั้นก็เริ่มเข้าโจมตีอีกครั้ง “ ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 นั้นก็ต่อสู้กัน กาโอนั้นก็ปล่อยลำแสงเข้าพุ่งใส่แต่ฟรอเซอิคก็หลบได้ พื้นก็เกิดเสียงระเบิด “ ตู้ม!!! “ ฟรอเซอิคก็กระโดดออกมาจากกลุ่มควันดำ “ หึย!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็รู้สึกว่าการโจมตีกาโอนั้นเป็นเรื่องที่ยาก “ หยา!!! “ ทันใดนั้นกาโอก็พุ่งบินผ่านควันดำไปที่ฟรอเซอิคบนฟ้า กาโอก็ชักดาบออกมาแล้วเข้าฟัน “ ชริ้ง!!!!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็เอาง้าวเข้ามาเสียบกันไว้ได้ จากนั้นก็เกิดการต่อสู้กันบนฟ้า “ ฮ่าๆๆ!! สู้กับนายนี่สนุกจริงๆเลยแหะ “ กาโอก็กล่าวพร้อมหัวเราะเหมือนคนบ้า ฟรอเซอิคนั้นก็ได้ปัดกาโอถอยออกไปจากนั้นก็ลงมาบนพื้น “ เฮ้ย!!! จะสู้กันบนพื้นงั้นเหรอ??เดี๋ยวจัดให้!!! “ กาโอนั้นก็พุ่งลงไปบนพื้น “ นายติดกับฉันแล้วละ กาโอ เจฟก้า “ ฟรอเซอิคก็กล่าวจากนั้นก็ตั้งง้าวขึ้น “ In the land of blue!! “ ฟรอเซอิคก็ได้ใช้พลังเวทย์ เมื่อกาโอลงมาบนพื้นนั้นเขาก็โดนไอความเย็นที่เริ่มกลายเป็นน้ำแข็งบนพื้น ขาทั้ง 2 ข้างของกาโอนั้นก็โดนตรึงไว้ “ เวรแล้วไงตู!!! “ กาโอก็โดนวางกับดัก “ เอาละนะ!!! ถึงเวลาตายของนายแล้ว!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็จับบีบง้าวแล้วเข้าพุ่งโจมตี “ หยา!!!!เชือด!!!!!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็ฟันร่างของกาโอ เลือดก็พุ่งทะลักออกจากรอยแผลบนหน้าอก บนหน้าลำตัวนั้นได้บังเกิดเป็นรูปรอยบาดแผลจากคมง้าวซึ่งไม่ทันใดก็มีน้ำแข็งปกปิดแผล ทำให้กาโอนั้นต้องโดนไอน้ำแข็งที่เกาะตรงบาดแผลแผ่ความเย็นทำให้บนหน้าอกของตัวเอง “ หนอยแก.... “ กาโอนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถสู้ได้ ทันใดนั้นเองน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วพื้นที่นั้นก็แตะกระจายเป็นเศษแก้วเพราะหมดผลเสียก่อน “ ตุ๊บ!!!! “ ร่างของกาโอก็ล้มลงไป “ นายท่าน!!! “ เกรฟเซอร์ สเปคเตอร์ที่มากับกาโอนั้นก็รีบวิ่งไปดูอาการ เกรฟเซอร์นั้นก็เข้าไปดูอาการของกาโอ แต่กาโอนั้นยังไม่ถึงฆาตเสียหรอก “ ฝ่ายของผมเป็นฝ่ายแพ้เสียแล้วสิ ถ้างั้นกระผมก็ขอกลับไปยังโลกของผมก่อนนะครับ “ เกรฟเซอร์นั้นก็ได้ฝ่ามือนั้นสร้างประตูแสงสีม่วงอมดำขึ้นมาจากนั้นแบกร่างของกาโอเข้าไป ซากินั้นก็ได้เห็นรูปแบบการต่อสู้ของสเปคเตอร์นั้นก็ถึงกับต้องรีบฝึกฝนเพื่อสู้กับเหล่าสเปคเตอร์ที่แข็งแกร่ง “ พวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ แข็งแกร่งจนไม่มีใครรับมือได้ “ ซากิเริ่มเกรงกลัวพวกสเปคเตอร์ ฟอร์เต้นั้นก็ไม่ต่างไปจากซากิเท่าหรอก เธอก็เริ่มรู้จักเป็นครั้งแรกกับพวกสเปคเตอร์และรู้จักกับคำว่ากลัวในโลกวิญญาณที่แท้จริง “ สเปคเตอร์ ดวงวิญญาณปีศาจที่ตายแล้วกลับนำมาหลอมรวมใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุด “ ฟอร์เต้ก็เริ่มกังวลเรื่องของพวกสเปคเตอร์อย่างมาก โลกใบนี้เริ่มกลับต้องพบกับพวกสเปคเตอร์ ซึ่งพวกเขาจะทำยังไงต่อไป ปล.ช่วยคอมเม้นท์ให้ทีนะ
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World ตามอ่านมาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้เม้นท์ตลอด เพราะติดทำงานนะครับผม สองตอนที่ผ่านมา อือม์ = = เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณนอกรอบแอบรั่ว ไม่แอบละ รั่วเลย ฟอร์เต้กับซากิรู้สึกคล้ายๆว่าเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไงไม่รู้ กาโอออกมาตอนแรกน่ากลัวมาก เหมือนมันจะฆ่าทุกคนแบบไม่ยั้งเลย ถ้าไม่มีฟรอเซอิคกันไว้คงตายหมด (ว่าแต่ไอ้นี่ก้หลายบุคลิกจริงๆ บทรั่วก็รั่ว บทเก่งก็เก่งเว่อร์ เออ ดีเหมือนกันแฮะ) เป็นคนที่ครีเอทฉากต่อสู้ได้เก่งนะครับ สู้กันมันส์มากจริงๆ ผูกโยงเรื่องราวใช้ได้ ตอนนี้ภาษาดีขึ้นแล้ว แต่ถ้าขึ้นไปอีกระดับหนึ่งอาจสมบูรณ์กว่านี้ แต่ไม่เป็นไรครับ สั้นๆง่ายๆแบบนี้ก็ดี ผมเองก็ไม่ชอบอ่านอะไรยืดยาว ผมยังติดตามเป็นกำลังใจอยู่เรื่อยๆน่อ
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World Chapter 7 หลังจากที่พวกสเปคเตอร์ได้กลับมาอาละวาดอีกครั้ง ทางศูนย์เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณและเมืองวิญญาณซึ่งมีชื่อ Iris ซึ่งมนุษย์ที่ตายแล้วกลายเป็นวิญญาณนั้นก็จะมารวมตัวกันอาศัยที่เมืองนั้น ทางเมือง Iris ซึ่งได้สั่งเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณให้ตามเรื่องพวกสเปคเตอร์ให้ได้ ฟอร์เต้นั้นก็ได้รับการเลื่อนขึ้นกลายเป็นเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นกลางโดยสมบูรณ์ หลังจากได้รับการแต่งตั้งนั้นซากินั้นก็กลับหายตัวไป ฟอร์เต้นั้นก็หาทั่วห้องของซากิที่ศูนย์จนเธอได้พบกับจดหมาย 1 ฉบับ ซึ่งซากิเขียนไว้ จดหมายฉบับนั้นเขียนไว้ว่า “ ฉันขอไปฝึกฝนพลังให้แข็งแกร่งเสียก่อน แล้วฉันจะกลับมาช่วยเธอ “ ฟอร์เต้นั้นเมื่อได้อ่านเธอจึงเก็บกระดาษแผ่นนั้นแล้วเดินออกจากห้อง “ เจ้าบ้านั่นมันจะกลับมาอีกกี่เดืนหว่า.... “ ฟอร์เต้ซึ่งกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น ไม่นานนักเธอก็ได้พบกับชายหนุ่มคนนึงที่เธอเคยรู้จัก “ ไงฟอร์เต้ “ ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิร์ตขาวกางเกงดำนั้นก็กล่าวทักทาย “ คุณโคชิ??? “ เธอก็ตกใจเมื่อได้เจอกับนักฆ่าปีศาจในวันนั้น “ ว่าแต่ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่นะ??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม “ อ๋อ....ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานนะก็เลยมาเดินเล่นแถวๆนี้แหละ “ โคชิก็พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ อืม...... “ ฟอร์เต้นั้นก็ได้ผวนนึกถึงตอนที่ฟรอเซอิคปล่อยพลังเข้าใส่เธอแต่โคชินั้นกลับเข้ามาผลักเธอหลบจากพลังของฟรอเซอิค “ ขอบคุณค่ะ.... “ ฟอร์เต้ก็กล่าวขอบคุณกับโคชิร้อมโน้มคำนับ “ เอ๊ะเอ๋........ “ โคชิก็งง “ เรื่องในวันที่คุณช่วยฉันนะคะ “ ฟอร์เต้ก็บอกโคชิ โคชินั้นก็พึ่งจำได้ในตอนนั้น “ อ๋อ...ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่มันทำจนชินนะ เรื่องช่วยคนอื่น.. “ โคชิก็กล่าวบอกเกรงใจ “ ฟอร์เต้ได้ข่าวว่า พวกสเปคเตอร์มันกลับมาอาละวาดอีกแล้วใช่ไหม?? “ โคชิก็รู้เรื่องสเปคเตอร์ที่บุกมาเมื่อวานเช่นกัน “ เอ๋..คุณได้รู้เรื่องนั้นด้วยเหรอ???? “ ฟอร์เต้ก็ไม่เคยคิดว่าโคชินั้นไม่รู้ “ ฉันนะได้ยินจากวิทยุข่าวกรองในเมือง Iris ได้ยินมาอย่างนี้แหละ “ โคชินั้นใช้เครื่องจับคลื่นวิญญาณจากเมืองซึ่งมีการสื่อสารกับศูนย์เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณบนโลก ทันใดนั้นมีเด็กคนนึงผมสีดำวิ่งเข้ามาหาโคชิในท่าทางรีบร้อน “ พี่ชาย!!!! เพื่อนพี่เจอปัญหาหนักแล้ว!!!! “ เด็กคนนั้นซึ่งน่าจะเป็นน้องชายของเขาวิ่งมาบอก “ ว่าไงนะ???ใครกัน?? “ โคชินั้นก็หยิบสร้อยคอเก่าแก่ออกมาจากกระเป๋าจากนั้นมีแสงเปล่งที่ตัวโคชิ โคชินั้นก็ใช้สร้อยคอเก่าแก่นั้นในการเข้าสู่มิติโลกวิญญาณ “ เดี๋ยวก่อนสิ โคชิ!! “ ฟอร์เต้นั้นก็เรียกโคชิจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอเข้าสู่โลกวิญญาณ “ ฉันขอไปด้วย “ ฟอร์เต้ก็ขอไปกับโคชิ “ แต่ว่า............ “ โคชินั้นก็รู้สึกเกรงใจ “ จริงอยู่ที่เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณจะไม่ช่วยเหลือพวกนักฆ่าปีศาจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเวรยามของฉันนิ ไปด้วยก็ไม่เสียหายนิ “ ฟอร์เต้ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ อืม....ก็ได้ ตามมา “ โคชินั้นก็ยอมให้ฟอร์เต้ตามเขาไป ทั้ง 2 คนนั้นก็วิ่งไปที่ตรงถนนช่วงกลางคืน โคชินั้นก็วิ่งไปหาชายหนุ่มซึ่งเป็นนักฆ่าปีศาจเหมือนกับโคชิ เขากำลังต่อสู้อยู่กับปีศาจตัวใหญ่มากๆ มี 4 ขา และแขนที่ใหญ่และเล็บยาวข้างขวาและแขนซ้ายที่อีกมือถือดาบเล่มใหญ่ ชายคนนั้นก็กระโดดเข้าข่วนใส่แต่ปีศาจตนนั้นก็ใช้ดาบเล่มใหญ่ของตนฟาดใส่เขา แต่เขาก็สามารถหลบได้ จากนั้นก็เข้ามาข้างๆ “ หนอยแน่ะ!!!! แปดอัคคี ถล่มภูผา!!! “ ชายคนนั้นก็ใช้ท่าโจมตีรอง เขาก็ปล่อยลูกไฟสีขาวออกมา 8 ดวงจากนั้น เขาก็พุ่งใช้กงเล็บเข้าจิ้มที่หน้าอกด้วยความเร็วสูง ปีศาจตนนั้นก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นลูกๆเข้ามามาหมุนเวียนรอบแขนของเขาแล้วก็พุ่งเข้าที่อกของปีศาจตนนั้นจากนั้น... “ ตู้ม!!!!!!! “ ร่างกายของปีศาจตนนั้นก็ระเบิดเป็นจุนจนเกิดควันดำขึ้นรอบถนน ชายคนนั้นก็เดินออกมาจากควันดำด้วยสภาพที่ยังดูดีอยู่ “ ไงโคชิ ไม่ได้เจอกันเลยนะ “ ชายหนุ่มคนนั้นพูด “ คิริน??? “ โคชิก็รู้จักกับชายคนนั้น
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World ขออภัยครับ ไม่ได้เม้นเสียหลายตอนเลย -*- อัพเร็วจริง ๆ นะเนี่ย ภาษามีการพัฒนาขึ้นครับ การเชื่อมโยงหลาย ๆ จุดถือว่าดีทีเดียว แต่ผมว่าบางตอนหรือบางเหตุการณ์ดูเหมือนจะเร็ว รวบรัดไปนิดทั้ง ๆ ที่น่าจะไปต่อได้อีกหน่อย เหอ ๆ เหมือนว่าบทจะง่ายก็ง่าย ยากก็ยาก ราว ๆ นั้น รอตามต่อครับ ขออภัยเน้อที่ไม่ได้เข้ามาเลย -*-
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World อัพเร็วมาก -[]- พัฒนาขึ้นมากครับ....ไปรวดเร็วดี แต่มันรู้สึกขัดๆตรง "นั้นก็" อ่ะครับ (อาจเป็นผมรู้สึกคนเดียวก็ได้ = =)
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World Chapter 8 “ นายมาทำอะไรที่ญี่ปุ่นกัน???? “ โคชิก็ถามทั้งทำหน้าดีอกดีใจ คิรินนั้นก็ทำหน้าตาแฝงรอยยิ้มที่เฉื่อยชา “ ฉันมาที่นี่..เพื่อ....ล้างแค้นให้แก่เพื่อนฉัน!!!!! “ คิรินก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นจากนั้นก็เข้าไปโผล่ข้างหน้าโคชิ “ แก!!!ไอ้สารเลว!!! “ คิรินก็เข้าไปโผล่อยู่ข้างหน้าจากนั้นก็ใช้กงเล็บเข้าทิ่มใส่ “ เชือด!!! “ คิรินนั้นโจมตีจากโลกวิญญาณเข้ามาใส่โคชิในร่างที่อยู่โลกวิญญาณ โคชินั้นมีบาดแผลตรงแถวไหล่ขวา จากนั้นโคชิก็หยิบสร้อยโบราณออกมาเพื่อเข้าไปสู้กับคิริน “ นายเป็นอะไรของนายเนี่ย??? “ โคชิก็ใช้เคียวกันการโจมตีของคิรินไว้ได้ “ ฉันจะล้างแค้นเพื่อนที่ตายในคฤหาสถ์ฟรานเชส!!!! “ คิรินก็พูดพร้อมกับส่งแววตาที่มีแต่ความโกรธแค้น “ หยา!!! “ คิรินนั้นก็ใช้กงเล็บนั้นเข้าทิ่มโจมตีใส่อย่างว่องไว แต่โคชินั้นก็ขยับโยกตัวหลบได้ “ คิริน นายพูดเรื่องอะไรของนายกัน??? เรื่องที่ปราสาทฟรานเชส???? “ โคชิก็งงกับเรื่องที่คิรินพูด “ ไอ้สารเลว!!!นายจำไม่ได้งั้นเหรอ งั้นฉันจะสงเคราะห์แกเหมือนดังที่แกทำกับเพื่อนของฉันที่ตายในนั้นซะเลย!! “ คิรินก็เข้าโจมตีใส่ไม่หยุด “ คิริน!!!ฉันไม่เข้าใจเลย??? เรื่องปราสาทฟรานเชสนั้นฉันไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย??? “ โคชิก็ยังคงสงสัยอยู่ “ ฉันจำนายได้!!! นายฆ่าพวกเขาต่อหน้าฉัน!!!นายถือเคียวหันหลังให้ฉัน!!!นายส่งแววตาเหมือนปีศาจให้ฉัน!!! นายถือเคียวคู่เล่มโตเข้ามาฆ่าฉัน!!! “ คิรินก็บอกทุกอย่างจากนั้นก็ใช้กงเล็บพุ่งใส่ไม่ยั้งอีกครั้ง “ ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆ ชิ้ง!!! “ โคชินั้นก็ใช้เคียวเข้ามากันการโจมตีแล้วก็เข้าไปงัดประชิดตัวคิริน “ ฉันนะมีอาวุธคือเคียวเล่มเดียว!! “ โคชิก็บอกคิริน “ ไม่จริง!!!!!! ทั้งลายสักหมายเลข 13 บนท้ายทอยแกฉันยังเห็นในวันนั้นด้วย!!! “ คิรินก็บอกหลักฐานอื่นเพื่อยืนยันว่าเป็นโคชิ “ ว่าไงนะ???ลายสักของฉันงั้นเหรอ??? “ โคชิก็หยุดโจมตีแต่คิรินนั้นก็ยังโจมตีใส่ต่อ “ ใช่แล้ว!!!ทั้งทรงผมแถมใบหน้า!!!! หมอนั่นมันก็คือนายยังไงเล่า!!! “ คิรินก็ตะคอกใส่จากนั้นเขาก็เริ่มใช้ท่ารองด้วย “ แปดอัคคี ถล่มภูผา!!!!!! “ คิรินก็ปล่อยลูกไฟทั้ง 8 ออกมา ลูกไฟทั้ง 8 นั้นก็เข้าไปในปลอกแขนกงเล็บของคิรินซึ่งมันทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของกงเล็บ “ ตายซะ!!!!โคชิ!!!!! “ คิรินก็เข้าโจมตีจากบนอากาศพุ่งลงมาบนพื้น โคชิก็เตรียมเอาเคียวมาชูบังรับการโจมตี “ ชิ้ง!!!ชิ้ง!!ชิ้ง!!ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆ “ เขาโจมตีใส่โคชิอย่างรุนแรง จนการโจมตีนั้นเร็วขึ้นมาก โคชินั้นก็ใช้เคียวรับไว้หมด จนเขานั้นเกือบจะรับได้ไม่ไหวแล้ว “ หนอยแก!!! “ โคชินั้นก็ถอยออกมาจากนั้นใช้เคียวเพื่อเข้าโจมตีใส่ คิรินก็เข้าโมตีใส่เช่นกัน “ ชิ้ง!!ชิ้ง!!ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 ก็ต่อสู้ผลักการบุกผลัดการรับ “ เสี้ยวจันทรา “ โคชิก็ฟันใส่กลายเป็นคลื่นเข้าพุ่งใส่คิริน แต่ด้วยความว่องไวของคิรินนั้นก็หลบได้หมด จนลูกคลื่นสุดท้ายนั้นเข้าตรงที่คิรินพอดี “ ตู้ม!!!!!!!! “ จนกลายเป็นการระเบิดลูกใหญ่จนเกิดควันดำปกคลุมทั่วถนน ทันใดนั้นคิรินก็กระโดดออกมาจากควัน ยืนอยู่บนฟ้า “ นาย!!!!!!ฉันจะฆ่านายในวันนี้ให้ได้!!!!!! “ คิรินกล่าวแล้วพุ่งลงมา “ พอได้แล้วละนาย!! “ โคชินั้นก็กระโดดเข้าพุ่งขึ้นไปหาพร้อมกับคิรินจากนั้นทั้ง 2 ก็สู้กันบนฟ้า ฟอร์เต้เห็นดังนั้นรู้สึกไม่ค่อยดีเอาเสียเลย เธอจึงจะหยิบโทรศัพท์ของตนออกมาแต่น้องชายตัวเล็กของโคชินั้นก็ห้ามไว้ “ อย่านะครับ!!!จะขัดขวางการต่อสู้ของทั้งคู่ไม่ได้เป็นอันขาด “ น้องชายของโคชิก็ห้ามปรามไว้ “ ทำไมละ!!!เธอจะปล่อยให้เขาฆ่ากันตายกันงั้นหรือ??? “ ฟอร์เต้นั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น “ ถ้าคุณเข้าไปห้ามนะ มันถือเป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีของคุณโคชินะครับ และยังทำให้คุณคิรินก็โกรธอีกด้วยนะครับ ผมว่าปล่อยให้พวกเขาจัดการเองยังดีกว่า “ น้องชายของโคชินั้นเมื่อพูดเสร็จก็ไปมองการต่อสู้ของทั้ง 2 “ คุณคิรินนะเป็นเพื่อนกับพี่ของผมมาตั้งแต่เด็ก ยังไงผมว่าทั้ง 2 ต้องปรับความเข้าใจได้แน่ “ น้องชายของโคชินั้นก็บอกถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ให้ฟอร์เต้ได้ฟัง เมื่อเธอรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์เหมือนดั่งพี่น้องเธอจึงไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง “ จริงสิ!!คนอย่างคุณชินะ ต้องหาทางจะทำให้คุณคิรินได้เข้าใจแน่ “ ฟอร์เต้ก็มองดูการต่อสู้ของทั้ง 2 ทั้ง 2 นั้นเมื่อสู้ไปสักพัก โคชิก็กระโดดถอยออกมา ยืนบนฟ้า “ คิริน นายต้องฟังฉัน!!! ฉันไม่ได้ฆ่าเพื่อนของเราเลยนะ แนสาบานได้ เรื่องนั้นแนไม่เคยรู้มาก่อน!! “ โคชิก็พยายามบอกให้คิรินเข้าใจ “ หนอยนาย!!!!! “ คิรินนั้นยังไม่ยอมฟังจากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาโคชิอีก “ ฉันขอปิดฉากนาย!!!นายละกัน!!!มหาวิหคแสง...!! “ คิรินนั้นจะใช้ท่าไม้ตายขั้นสุดยอดนั้นแต่โคชินั้นก็เข้าไปโผล่ข้างล่างในช่วงที่คิรินเผยจุดอ่อน “ หยา!!เริงระบำบุปผา!!! “ โคชินั้นก็ใช้ท่าไม้ตายไว้กว่าคิริน “ เฮ้ย!!!อะไรกัน!!!! “ คิรินนั้นก็ตกใจเมื่อโคชิมาอยู่หลังตน คิรินนั้นเมื่อหันไปข้างหลังนั้น พื้นที่ทั้งหมดก็กลายเป็นทะเลทราย เขาก็เห็นปีศาจตนนึงในชุดผ้าคลุมทั้งตัวปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากปีศาจ ถือเคียวเล่มใหญ่ “ ย้าก!!!!! “ มันก็ตะโกนคำรามแล้วฟาดเคียวใส่จนเกิดคลื่นพลังเข้ามาหาคิริน คิรินนั้นก็จะกระโดดหลบนั้นแต่ว่าบนข้อเท้าของเขานั้นเหมือนกับโดนอะไรยึดไว้อยู่ “ หา!!!!! “ คิรินนั้นก็โดนปีศาจจำนวนมากน่าตาขยะแขยงกำลังเข้ามาจับขาตรึงตัวไว้ “ ตู้ม!!!! “ คิรินนั้นก็โดนคลื่นนั้นเข้าโมตีอัดเต็มๆ คิรินนั้นก็ลอยกระเด็นออกมาจนออกจากโลกเสมือนจริงที่ท่าไม้ตายของโคชิสร้างไว้ “ ปั๊ก!!!!!!! “ หัวคิรินนั้น็ลงไปกระแทกกับเสาไฟ “ คิริน!!!!! “ โคชินั้นก็รีบพุ่งมาหาคิริน “ คุณคิริน!!! “ น้องของโคชินั้นก็วิ่งไปหาคิริน ฟอร์เต้เมื่อเห็นดังนั้นเธอก็วิ่งตามน้องของโคชิ โคชินั้นเมื่อเดินมาหา เขาก็ใช้สร้อยของคิรินเพื่อนำเขาเข้ามาในโลกมนุษย์จากนั้นก็นำตนเข้าสู่โลกมนุษย์เช่นกัน ฟอร์เต้ก็กลับมายังโลกมนุษย์ด้วยโทรพศัพท์ตนแล้ววิ่งเข้าไปดู “ คุณโคชิ!!! คุณคิรินเป็นอะไรมากมั้ย?? “ ฟอร์เต้ก็ถาม “ ไม่เป็นไรหรอก ฉันยังไม่ได้เอาจริงอะไรมาก แค่สลบไปนะ “ โคชิบอกฟอร์เต้ ทั้ง 2 ก็ช่วยกันพยุงคิรินขึ้นมา ฟอร์เต้นั้นก็เห็นที่ศีรษะของคิรินนั้นมีเลือดไหลออกตามศีรษะไม่หยุด “ แย่แล้ว!!! “ ฟอร์เต้ก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนออก ฟอร์เต้ก็ใช้ผ้าเช็ดหน้ามากดแผลบนศีรษะของคิริน “ คุณคิริน!!!เรารีบพาเขาไปโรงพยาบาลกันเถอะ!! “ ฟอร์เต้นั้นก็บอกโคชิให้พาคิรินไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล “ อืม!!! “ โคชินั้นก็พยักหน้าจากนั้นก็ช่วยฟอร์เต้กันแบกพยุง น้องชายของโคชิก็ตามโคชไปด้วย เมื่อทั้ง 3 นั้นก็พาส่งคิรินไปถึงโรงพยาบาลนั้นก็โล่งอกสบาย “ เฮ้อ....... “ โคชินั้นก็บิดขี้เกียจนั่งบนที่นั่งนอกห้องICUที่คิรินอยู่ในนั้นซึ่งอยู่ในการดูแลของพวกหมอพยาบาล “ ..เฮ้ย!!!ผ้าเช็ดหน้า!!! “ ฟอร์เต้นั้นก็พึ่งคิดได้ว่าลืมผ้าเช็ดหน้าที่กดกับแผลของคิรินไว้ในห้องนั้น “ ช่างเหอะ “ แต่ฟอร์เต้นั้นก็ไม่สนใจแล้วคิดว่าจะมาเอาพรุ่งนี้ก็ได้ “ ฟอร์เต้ เธอกลับบ้านไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวน้องฉันกับฉันจะคอยดูแลทางนี้ให้ “ โคชิก็ให้ฟอร์เต้กลับบ้านไป ฟอร์เต้นั้นก็พยักหน้าไป เธอก็เดินกลับบ้าน วันต่อมาเวลา 14.00 น. ซึ่งวันนี้โรงเรียนของฟอร์เต้นั้นเลิกเรียนเร็วเพราะอาจารย์คาบคณิตศาสตร์นั้นป่วย เธอจึงมีโอกาสไปเช็คอาการของคิรินที่โรงพยาบาล ฟอร์เต้นั้นเมื่อเข้าไปในห้องนั้นก็เห็นคุณหมอ, โคชิ และน้องชายของเขาก็กำลังจ้องมองคิรินที่กำลังหลับเหมือนนอนอยู่ ในชั่วนั้นเองคิรินก็ตื่นขึ้นมานั้นเขาก็มองใบหน้าของทุกคนหมด แล้วก็แหงนไปทางขวาบนโต๊ะนั้นีผ้าเช้ดผืนนึงที่เปื้อนไปด้วยเลือด ซึ่งเป็นผ้าเช็ดหน้าของฟอร์เต้ “ นี่มัน????ที่ไหนเนี่ย???? “ คิรินก็ถาม “ ที่นี่คือโรงพยาบาล นายบาดเจ็บสาหัสฉันเลยพานายมาที่นี่ “ โคชิก็บอกคิริน “ แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับฉัน??? “ คิรินก็ถามด้วยหน้าตาที่สงสัย “ อะไรกัน???จำไม่ได้เหรอ???? “ โคชินั้นก็ตกใจจากนั้นก็หันไปหาคุณหมอ “ คุณหมอครับเกิดอะไรขึ้นกับเขาเหรอ??? “ โคชิก็ถาม “ สมองซีกซ้ายและขวานั้นโดนกระทบกระเทือนอย่างแรงจนทำให้เส้นประสาทของสมองนั้นโดนกระทบเช่นกัน จึงทำให้เขานั้นสูญเสียความทรงจำทุกอย่างคะ “ แพทย์หญิงที่คอยดูแลคิรินนั้นก็บอกอาการ “ ความจำเสื่อมถาวรงั้นเหรอ?? “ ฟอร์เต้ก็ถาม “ ใช่แล้ว “ แพทย์หญิงก็ตอบ “ คุณมีเวลาเยี่ยมได้เพียง 5 นาทีนะคะ “ แพทย์หญิงนั้นก็เดินออกจากห้อง “ อะไรกัน????ความจำเสื่อมถาวรงั้นเหรอ??? “ โคชิก็รู้สึกผิดที่ทำให้เขาสูญเสียควาทรงจำทุกอย่างของคิริน โคชินั้นรู้สึกผิดอย่างมากที่ทำให้เขาลืมเลือนกับตัวตนและความสุขและทุกข์ที่เขาเคยมี แต่ในด้านดีนั้น คิรินก็จำไม่ได้กับเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้นกับโคชิ
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World ตอนนี้รีบพิมพ์ไป??? มีที่ผิดเยอะนะครับ ลองดูดี ๆ แล้วฉากบรรยายผมว่าเพิ่มได้จะดีมากเลยล่ะ เหอ ๆ แม้ฉากต่อสู้จะเข้มข้น แต่พออ่านแล้วมันเหมือนกับว่ามีแต่คำพูดที่แสดงอารมณ์ ไม่มีบรรยายแล้วมันทำให้อินกับเนื้อเรื่องได้ยาก ตรงเสียงเอฟเฟคใช้เป็นการบรรยายหรือแยกจากประโยคคำพูดก็ดีนะครับ ไม่งั้นมันจะเหมือนตัวละครพูด กร๊ากกกกกกก สู้ๆ ครับ รอตามต่อ
Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World พิมพ์ผิดพอสมควรนะครับ(ตอนแรกเกือบจะไม่เห็นว่าที่อื่นผิดนอกจาก "แน" เพราะรีบอ่าน) ยังขัดกับบทบรรยายเหมือนกับเฮียข้างบนว่าอ่ะครับ จินตาการภาพไม่ค่อยออก -- ยังไงก็สู้ๆ พัฒนาต่อไปนะครับ ปล.ยังขัดๆกับ "ก็" ที่ตามหลังชื่อตัวละครอยู่ = =