Limited Blade : Destiny Of Soul World จบ ส่วนที่ 1

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย Magoichi7, 21 พฤศจิกายน 2007.

  1. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    2 ปีก่อน ภาคนี้

    Episode Originalhttp://www.comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=5176

    ณ ลานกว้างแผ่นดินแห้งแตกร้าวซึ่งไร้ความสว่างแห่งนึงซึ่งเป็นสนามต่อสู้ของคู่ต่อสู้คู่หนึ่ง

    ชายหนุ่มผมสั้นสีน้ำตาลในชุดของเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นกลาง(ชุดเสื้อกล้ามสีเทา)ซึ่งอยู่ข้างล่างตีนเขา ร่างกายและชุดของเขานั้นสะบักสะบอมซึ่งมาจากการต่อสู้ครั้งก่อนได้เปลี่ยนร่างให้มีพลังพร้อมในการต่อสู้ต่อกลายเป็นชายในชุดผ้าคลุมสีดำ ผมก็ยาวขึ้นแถมเปลี่ยนสีเป็นสีแดงด้วย นัยน์ตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเฉกเช่นสีผม ดาบยาวธาตุไฟเหล็กดำของเขาก็กลายเปลี่ยนเป็นดาบเล่มยาวสีทอง ด้ามดาบเป็นเหล็กดำที่หลอมติดกับเหล็กดาบทองนั้น แล้วก็มีเม็ดมรกตเขียวที่กลางด้ามดาบ

    ชายหนุ่มในผมสีขาวยาว ในชุดสีขาวผ้าคลุมลายปนดำ นัยน์ตาสีแดงซึ่งยืนอยู่บนผาหินซึ่งกำลังมองที่ชายผมแดงอยู่ ดาบของเขานั้นคล้ายกับดาบของชายผมแดงยาวมากแต่ว่าเม็ดมรกตกลับกลายเป็นเพชนสีแดงที่ติดที่กลางด้ามดาบ

    “ ฮ่าๆๆๆๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะเปลี่ยนร่างตัวเองได้เหมือนเราเลยนะเนี่ย???ฮ่าๆๆๆ!!! “ ชายขาวยาวก็หัวเราะเหมือนคนบ้าโรคจิต แล้วก็จับกุมดาบทั้ง 2 มือ

    “ นาย.....นายทำลายทุกอย่างที่เป็นของฉัน!!!!เพื่อนฉัน!!!!มิตรภาพ!!!!แถมนายยังทำลายคนที่ฉันรักมากที่สุดคนนึงด้วย!!!! ฉันจะไม่ยกโทษให้แกแน่!!! “ ชายผมแดงยาวก็สะบัดดาบไฟก็เกิดลุกขึ้นบนเหล็กดาบ

    “ ฮ่า!ๆๆๆๆๆๆ นายคิดว่าจะเปลี่ยนร่างวิญญาณเป็นเทพเจ้าสงครามแห่งนรกอย่าง เอทิออส นายจะควบคุมมันได้รึไงหา??? “ ชายผมยาวก็ทำท่าถามอย่างกวนเท้ามาก

    “ ควบคุมงั้นเหรอ????ตลอดการต่อสู้ในชีวิตฉัน ฉันสามารถใช้ประสบการณ์จากอดีตมาใช้ควบคุมเจ้านี่ได้ไง และที่ยิ่งควบคุมได้สะดวกยิ่งขึ้นก็เพราะว่า หมอนี่มันก็เกลียดแก พอๆกับฉันนั่นแหละ!!! “ ชายหนุ่มผมแดงก็พูดพร้อมใส่อารมณ์เต็มที่

    “ หึหึหึ มาดูกันสิว่านายจะควบคุมพลังของน้องฉันได้นานแค่ไหน??? “ ชายผมขาวก็กระโจนพุ่งลงข้างล่างผาไปที่ชายผมยาวแดง

    ชายผมแดงก็เตรียมจับดาบกุม 2 มือ

    “ หึย!!!!!!แกอย่าอยู่เลย!!!! “ ชายผมแดงก็กระโดดขึ้นพุ่งไปหาชายผมขาวพร้อมกับตะโกนไปด้วย

    ทั้ง 2 ฝ่ายก็เข้าฟันปะทะกัน การต่อสู้นั้นได้เพิ่มความรุนแรงของไอวิญญาณสูงมาก

    “ ชิ้ง!!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 ก็ต่อสู้กันบนอากาศ ความเร็วของทั้ง 2 นั้นเร็วมากๆ แถมยังสูสีกัน

    ไม่ใช่แค่เพียงแค่ความเร็วเท่านั้น ความรุนแรงของดาบและพลังทั้ง 2 แถมจะไม่มีความแตกต่างกันเลยถึงกับจะทำลายภูเขาไปเลย
    “ หยา!!!! “ ชายผมยาวแดงก็ชาร์จพลังเป็นพลังสีดำครอบคลุมร่างของเขา แล้วก็ดาบนั้นมีลำแสงสีดำขึ้นด้วย

    การโจมตีของชายผมแดงก็ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

    “ หยา!!ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........ “ ถึงแม้เขาจะโจมตีไปหลายครั้งแล้วนั้น ชายผมยาวคนนั้นก็กันไว้ได้หมด

    “ ชิ้ง!!!!! “ ชายผมยาวก็เอาดาบมางัดประชิดเข้าชายผมแดง

    “ ทำได้แค่นี้เองเหรอฮะ????ชิ้ง!!!! “ ชายผมยาวก็พูดเสร็จก็ฟันใส่โดนดาบของชายผมแดงที่ยกมากันไว้ได้ถึงกับถอยไปเลย

    “ หนอยแน่ะแก!!!! เพลงดาบพิฆาตจันทร์เสี้ยว!!!! “ (ชายผมยาวแดง)

    ชายผมแดงก็ใช้ท่ารองโมตีเวทย์ใส่ ชายผมแดงก็ฟันใส่เป็นลำแสงคลื่นพลังสีดำอมแดงใหญ่มโหฬารพุ่งใส่ชายผมขาว

    “ เฮ้ย!!!!บึ้ม!!!!!!!!!! “ ชายผมขาวก็เอาดาบมากันจึงเกิดระเบิดที่ใหญ่กว้างมาก

    ชายผมยาวก็ถอยพุ่งออกมาพร้อมขวันขโมงติดตัว

    “ หึย!!!! Dark Meteor!!!!! “ ชายผมยาวก็หันมาใช้ท่ารองด้วยเช่นกัน

    ชายคนนั้นก็ใช้ฝ่ามือชูขึ้นเหนือฟ้าแล้วก็สร้างพลังสีแดงขึ้นบนฝ่ามือ แล้วก็ชาร์จจนขยายใหญ่มากอย่างรวดเร็ว

    “ หยา!!!! “ ชายคนนั้นก็ปาใส่ชายผมแดง

    ชายผมแดงนั้นพยายามหลบแต่ว่าลุกพลังนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นเมื่อถูกปาจนบังรอบตัวชายผมแดงทั้งสิบทิศ

    “ ตรู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “ จนกลายเป็นระเบิดที่รุนแรงมาก

    “ หึย!!!!!!!!! “ แต่ชายผมแดงนั้นก็ยังพุ่งเข้าหาชายผมขาว

    “ ชิ้ง!!!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 ก็ประมือดาบกันอีกครั้ง

    แต่ว่าชายผมยาวนั้นก็พุ่งลงสู่พื้น

    “ ตรู้ม!!!!! “ เสียงระเบิดจากพื้นซึ่งชายผมยาวเข้าพุ่งลงไปในใต้ดิน

    แล้วก็มีเสียง” ตรู้ม!! “ อีกครั้ง เมื่อแผ่นดินนั้นก็แยกพังทลายเป็นพื้นน้ำลาวา ชายผมยาวผู้ซึ่งยืนบนยอดภูเขาที่พุ่งขึ้นมาจากลาวาแล้วสนามต่อสู้นี้ก็กลายเป็นทะเลเพลิง

    ชายผมขาวก็ใช้ดาบตวัดน้ำลาวาพุ่งใส่ชายผมแดงจำนวนมหาศาล

    “ หึย!!! สายน้ำพิฆาต!!!! “ ชายผมแดงก็ใช้ท่าปล่อยน้ำจากดาบเป็นสายน้ำ ที่เป็นมังกรร่างน้ำเข้าพุ่งทำลายน้ำลาวาให้มอดไป

    แต่ว่าชายผมยาวนั้นใช้โอกาสพุ่งเข้าด้านหลัง

    “ ชึ๊ก!!!!!!! “ ดาบของชายผมยาวนั้นก็เข้าปักหลังทะลุอกออกมาเลย

    “ อ๊าก!!! “ ชายผมแดงก็ตะโกนร้องมาด้วยความเจ็บแสบ

    ชายผมขาวก็ยกตัวดาบขึ้นแล้วเขวี้ยงชายผมแดงออกไปลงสู่ทะเลเพลิงลาวา

    ชายผมแดงนั้นก็ครุ่นคิดนึกถงทุกสิ่งในอดีตตั้งแต่วันที่เขาฝึกฝน พบกับเพื่อนสหาย พบคนรัก ความสุขทั้งหมดในชีวิตเขา ร่างของเขาก็กลับสูผ่ร่างเดิมในชุดเจ้าหน้าที่สีเทาอีกครั้ง ดาบก็กลับสู่สภาพเดิม

    “ ขอโทษนะทุกคนฉันไม่มีโอกาสได้ปกป้องพวกแกเลย...... “ชายผมน้ำตาลก็พูดแล้วก็ตกลงไปในทะเลเพลิงลาวา แต่ทันใดนั้นชายผมน้ำตาลก็โดนดึงมาอยู่ในโลกนึงในความคิดของเขา

    “ ที่นี่มันที่ไหนกัน???? “ (ชายผมน้ำตาล)

    ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนกลุ่มนึงซึ่งอยู่ข้างหน้าตน ล้วนแต่เป็นเพื่อนของเขาที่ตายไปแล้ว

    “ นายจะมาตายตรงนี้ไม่ได้น่ะ “ ชายผมสีดำสั้นคนนึงในชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลางพูด

    “ นี่นาย....อย่าถอยละ???ฉันเชื่อมั่นในตัวนาย “ ชายผมบอลนท์หยิกคนนึงก็ให้กำลังใจ

    “ นี่เธอ สู้เขาละ “ ผู้หญิงผมสีแดงก็เอาใจเชียร์เขา

    “ นายน่ะ...ยังไม่แพ้หรอก “ ชายผมดำสั้นในชุดผ้าคลุมขาวก็พูดอีกคนนึง

    ทันนั้นผู้หญิงคนนึงซึ่งยืนหันหลังอยู่ เธอสวมชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง ผมเธอยาวสีดำ เมื่อเธอหันมาใบหน้าเธอนั้นยังขาวใสเหมือนวันที่ทั้ง 2 เจอกันครั้งแรก

    “ อย่ายอมแพ้นะ....โซมะ...เธอต้องสู้ต่อไป.... “ เมื่อเธอคนนั้นพูดร่างกายของเพื่อนของชายผมน้ำตาลก็เริ่มเดินหนีจากไป

    “ เฮ้ย!!!รอก่อนสิ!!!! “ ชายผมน้ำตาลก็พยายามวิ่งตามไปหา

    ทันใดนั้นเองเขาก็ตัดกลับมาที่โลก เขาก็ตื่นขึ้นมา นั้นก็พบว่าตนกำลังตกลงไปในทะเลเพลิงลาวา ชายผมน้ำตาลก็เริ่มขยับทรงตัวแล้วจมลงไปในทะเลเพลิงลาวา

    ทันใดนั้นสักพักอีกด้านนึงทางชายผมขาวนั้นก็ยืนมองชายผมสีน้ำตาลตกลงไปในทะเลเพลิงพร้อมกับหัวเราะ

    ทันใดนั้น “ ตรู้ม!!!!!!! “ ใต้พื้นในทะเลเพลิงลาวานั้นก็ระเบิดประทุขึ้น

    “ หา????? “ ชายผมยาวก็สงสัยและตกใจ

    น้ำลาวาก็พุ่งขึ้นเหมือนน้ำพุท่วมพื้นดิน ชายผมยาวก็บินลอยขึ้นบนอากาศ และเขาก็พบสิ่งที่ไม่คาดคิดบางอย่าง

    เขาก็เห็นชายผมสีน้ำตาลซึ่งตกลงไปในลาวานั้นยังมีชีวิตและกำลังอยู่ตรงหน้าตน

    “ นายประเมินฉันต่ำมาก!!! “ ในร่างสะบักสะบอมเช่นนั้นชายผมน้ำตาลก็ยังถือดาบไว้แน่นอยู่

    “ หึหึหึ อยากตายนักรึไงฮะ จะสู้กับฉันในสภาพนั้นงั้นเหรอ???น่าขำสิ้นดี ฮ่าๆๆๆๆ “ ชายผมขาวก็ประเมินค่าของชายผมน้ำตาลต่ำมาก

    “ แกประเมินฉันต่ำมากเลยนะรู้ไหม “ (ชายผมน้ำตาล)

    “ มันก็จริงนี่หว่า “ (ชายผมขาว)

    “ หึย!!! “ ชายผมน้ำตาลก็สะบัดดาบ ดาบนั้นก็เปล่งแสงออกมานิดหน่อย

    “ เอาละนะ ขอปิดแค่นี้แหละ!!! “ ชายผมยาวนั้นก็เข้าฟันใส่

    ชายผมน้ำตาลนั้นก็ยืนเฉยแล้วก็มีแสงสำเหลืองรอบๆตัว ทันใดนั้นร่างของเขาก็หายไปอย่างฉับพลัน

    “ !!!!!! “ ชายผมขาวนั้นเมื่อเห็นก็ตกใจ

    “ เอาร่างของเพื่อนฉันคืนมา!!!!!! “ ทันใดนั้นเสียงตะโกนจากข้างหลังก็เปล่งขึ้นแล้วก็ชายผมน้ำตาลก็เอาดาบทิ่มเข้าหน้าท้องของชายผมขาว

    แล้วก็หายไปอีกครั้งมาโผล่ด้านหน้า

    “ หึย!!! เชือด!!!!!! “ ชายผมน้ำตาลก็ฟันร่างชายคนนั้นอย่างรุนแรง

    แล้วก็จับปกคอเสื้อพุ่งลงทะเลเพลิงทั้งคู่ ทั้ง 2 ก็ลงดิ่งในทะเลเพลิงลาวา สักพักลาวานั้นก็เริ่มลดลง แล้วก็ระเบิดจนกลายเป็นหินจากนั้นน้ำลาวาก็เริ่มกลายเป็นหิน ทุกอย่างที่ก็กลับสู่สภาพเดิม

    บนพื้นใต้สุดของสนามนั้น ชายผมน้ำตาลซึ่งจับชายผมขาวลงบนพื้นพร้อมกับดาบทิ่มแทงทะลุถึงกับพื้น

    “ ..ทำไมนาย.....ถึง...... “ ชายผมขาวก็อยู่ในสภาพสาหัสเลือดไหลออกไม่หยุดแล้วร่างก็กลายชายผมดำสั้น และเสื้อก็เป็นชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นกลางเหมือนชายผมน้ำตาล

    “ ไง..เพื่อน...... “ (ชายผมดำ)

    “ นายกลับมาแล้วใช่ไหม??? “ (ชายผมน้ำตาล)

    “ อืม........ “ (ชายผมดำ)

    “ ฉันขอโทษ.....น่ะ........ลาก่อน......โซ....... “ ชายผมดำก็ชูมือจะพูดบางอย่างแต่ก็สิ้นลมลงเสียก่อน

    “ โค.......จุ.......โร่.............. “ ชายผมน้ำตาลพูดในท่าทางสะอึกสะอื้นร้องไห้

    อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!! “ ชายผมน้ำตาลนั้นก็เปล่งน้ำตาออกมาไม่ขาดสายพร้อมกับตะโกนสุดแรงเกิด
  2. elementer

    elementer New Member

    EXP:
    15
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ว่าแล็วก็รออีกเรื่อง
  3. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    โอ้ มาแล้ว เร็วทันใจดีนะครับ เพิ่งรับสมัครไปเอง

    ผมว่าท่านต้องเรียนรู้การใช้ภาษาให้สื่อความหมายนะครับ จากเท่าที่อ่านมา เรื่องการสร้างสรรค์ฉากหรือรูปแบบการต่อสู้ไม่มีปัญหา ทำได้สะใจสมเป็นการต่อสู้ของพวกโลกวิญญาณ แต่ภาษาที่ใช้นี่สิครับ ดูบรรยายแปร่งมาก บางคำที่ไม่น่าโผล่มาอย่าง "แล้วก็มีเม็ดมรกตเขียวที่กลางด้ามดาบ" ก็โผล่มาให้เห็น ผมว่าคำอย่าง "แล้ว" นี่ ปรกติไม่ใช้ในการบรรยายงานเขียนนะครับ คือไม่ได้แปลว่าคุณใช้ภาษาวิบัติ แต่คุณใช้ภาษาพูดค่อนข้างมากในฟิค ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่ผมคิดว่าถ้าเรียนรู้การเขียนที่ smooth กว่านี้ น่าจะทำให้ฟิคคุณดูเป็นฟิคมากขึ้นนะครับ

    วรรณยุกต์มีสะกดผิดบ้างถูกบ้าง เช่น นะ/น่ะ หึย อะไรประมาณนี้ ^^" ลองเรียนรู้การเขียนผ่านการอ่านฟิคของคนอื่นเยอะๆ หรือจากหนังสือก็ได้ ผมว่าน่าจะช่วยให้การเขียนดีขึ้นนะครับ

    ติงมาก็เยอะ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะ โซเสียเพื่อนไปต่อหน้าแล้ว อือม์ ศึกล้างแค้นกำลังจะเริ่มรึเีนี่ย...
  4. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ขอชมก่อนเลยว่าเร็วทันใจมากๆค่ะ ><b!! แต่อย่าแผ่วปลายซะละ!...(ฮา)

    ตอนนี้นี่แต่ละคนล้วนเป็นปริศนาทั้งนั้น หัวน้ำตาล หัวขาว หัวดำ หัวแดง มากันหมด... = ="
    ยอมรับว่าอ่านแรกๆแล้วงงค่ะ

    แต่ยังไงก็จะเป็นกำลังใจต่อไปนะคะ สู้ๆ! ^^
  5. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    โอ้มาแล้ว *0*

    การบรรยายดูแปร่ง ๆ อย่างที่อีวานบอกครับ คือว่าไงดี บรรยายแบบกระชับเกินไปจนทำให้คล้อยตามเนื้อเรื่องได้ยากน่ะครับ บางจุดบางตอนน่าจะลองเพิ่มบรรยายดู เพื่อช่วยเสริมให้คนอ่านคิดตามได้ง่ายขึ้น เพิ่มบรรยายในส่วนของฉากบรรยากาศอีกก็ดีนะครับ ส่วนคำบางคำที่ไม่น่านำมาใช้ก็ลองหาคำอื่นมาทดแทนดู ส่วนพวกเสียงเอฟเฟคประกอบ ถ้าไม่อยากใช้ก็ใช้เป็นการบรรยายภาพแทนก็ได้นะครับ

    สู้ ๆ รอตามต่อเน้อ * *//
  6. l2eenai2y

    l2eenai2y New Member

    EXP:
    533
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ทันใจมาก!!

    แต่..จริงอย่างที่ท่านๆว่าคับ

    บทบรรยายหลังคำพูดมันแข็งๆ -0-

    Sample..

    “ อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!! “ ชายผมน้ำตาลนั้นก็เปล่งน้ำตาออกมาไม่ขาดสายพร้อมกับตะโกนสุดแรงเกิด

    มันไม่ค่อยให้อารมณ์เศร้าอ่ะคับ

    (ไปว่าเขาอย่างนั้นไม่ได้ดูตัวเองเลยแก = =)

    ---

    สู้ๆ พัฒนาฝีมือต่อไปคับ!! \\\\o
  7. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    รับคำตำหนิ เดี๋ยวจะนำไปแก้ให้ทันใจ
  8. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    2 ปีต่อมา ณ เมืองโตเกียว ;วันที่ 13 กรกฎาคม 2010

    เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นฝึกหัด 2 คนกับเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง 1 คนได้กำลังวิ่งไล่ล่าบางอย่างในโทรศัพท์อยู่

    “ ลูกพี่!!! มันจนมุมแล้ว “ เจ้าหน้าที่สาวผมทองเมื่อไปถึงก็พบกับชายคนนึงในชุดสูทสีดำ เสื้อสีขาวข้างใน กางเกงยาวสีดำ ไว้ผมยาวหลังปรกหู ซึ่งกำลังจะเริ่มต่อสู้กับปีศาจร่างกายบึกบึน ใบหน้าเป็นคล้ายคนแต่ถูกสวมหน้ากากสีดำและนัยตาน์สีแดง มันก็เริ่มยกมือแล้วก็จะเหวี่ยงทุบชายคนนั้น

    “ หัวหน้า!!!! “ ชายผมสีเงินชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลางก็ชักดาบคานะนะของตนออกมาแล้วเข้าไปช่วย

    “ หยา!!!เชือด!!!!! “ แต่ชายคนนั้นก็ใช้ดาบเล่มแปลกของตนฟันร่างของมันขาดเป็น 2 ท่อนได้อย่างรุนแรง

    “ หัวหน้าโชเซ็น ไม่เป็นไรใช่ไหม??? “ (ชายผมเงิน)

    ชายคนนั้นคือ หัวหน้าหน่วย Alpha 2 คามาสะ โชเซ็น ซึ่งเป็นหัวหน้าที่มีนิสัยค่อนข้างแปลกๆ ทะลึ่ง แต่ภายในนั้นซ่อนเร้นไปด้วยจิตใจที่เยือกเย็นและฝีมือที่ฉกาจ

    “ ไม่เป็นไร ซากิ ไปหาเป้าหมายอื่นเหอะ เดี๋ยวเขตนี้ฉันกับนากาฮาระจะคอยดูแลให้ “ (โชเซ็น)

    “ ได้ครับ ไปเหอะฟอร์เต้!!! ชิเสะ!!! “ ชายผมเงินก็วิ่งนำหน้าเจ้าหน้าที่ฝึกหัดทั้ง 2

    เจ้าหน้าที่ฝึกหัดหนุ่มที่ชื่อชิเสะกับฟอร์เต้ก็ชักดาบออกมาแล้วตามซากิ

    ทั้ง 2 ก็วิ่งกำลังไปถึงสนามเด็กเล่นที่ๆ ซากิต่อสู้อยู่นั้นกลับถูกสกัดกั้นด้วยกลุ่มปีศาจ 4 ตน

    “ หนอยแก!!! “ ฟอร์เต้ก็วิ่งเข้าไปสู้กับปีศาจหมียักษ์ 2 ตัว ส่วนชิเสะก็เข้าสู้อีก 2 ตัว

    ฟอร์เต้นั้นหลบการโจมตีของพวกมันได้ แล้วใช้จังหวะที่มันกำลังจะหันไปหาเข้าโจมตีทั้ง 2 พร้อมกัน

    “ หึย!!!!เชือด!!!!!! “ ฟอร์เต้ฟันใส่ปีศาจหมีทั้ง 2 ตาย

    ทางด้านชิเสะก็สามาถจัดการได้อย่างง่ายดาย

    “ นี่เป็นไรรึเปล่า??ฟอร์เต้ “ ชิสะก็หันไปถามด้วยความเป็นห่วง

    “ ไม่หรอก ไปกันเหอะ!!! “ ฟอร์เต้ตีหน้าตายพร้อมวิ่งไปต่อ

    “ เฮ้ย!!!รอด้วยสิ “ ชิเสะก็รีบวิ่งตามไป

    ทั้ง 2 ก็มาถึงที่สนามเด็กเล่นเห็นซากิกำลังต่อสู้กับฝูงปีศาจหมียักษ์อยู่

    “ ลูกพี่เรามาช่วยแล้ว!!! “ ชิเสะวิ่งเข้าไปช่วยซากิ

    ฟอร์เต้ก็เข้าโมตีพวกปีศาจทั้ง 6 ตัว การโจมตีของปีศาจหมียักษ์นั้นก็ไม่สามารถเข้าจังฟอร์เต้ไม่ได้เลยสักครั้ง

    ฟอร์เต้นั้นก็เอาดาบมากันจากอุ้งมือของหมียักษ์ได้ตัวนึงแล้วก็บิดหมุนรอบอุ้งมือตัดแขนของมันอย่างว่องไว

    “ ตายซะ!!! “ ฟอร์เต้ก็ฉวยโอกาสใช้ดาบเข้าจิ้มที่หน้าอกทันทีตอนที่มันเจ็บส่งเสียงโอดอวนอยู่

    ฟอร์เต้นั้นเมื่อแทงเข้าอกมันสำเร็จถีบเข้าที่หน้าท้องดึงดาบที่ปักทะลุออกมา แล้วเตะก้านคอปีศาจตนนั้นล้มลงไป

    เมื่อมันตายร่างของมันก็สลายเป็นละอองสีเขียว

    “ หึย!!! รังสีไฟฟ้า!!! “ ซากิก็ปล่อยไฟฟ้ารอบตัว

    “ ปั๊ก!!!ปั๊กๆๆปั๊ก!!! “ ซากินั้นก็โผล่เข้ามาที่ปีศาจตนนึงเข้าชกเป็นหมัดสายฟ้าอย่างรวดเร็ว ผลของหมัดนั้นทำให้ปีศาจหมีตนนั้นโดนช็อตไปด้วยจนโดนช็อตตาย

    แล้วเขาก็ไปโผล่หาอีกตัวนึงพร้อมทั้งใช้ขาไฟฟ้าเตะก้านคอมันทำให้ไฟช็อตที่เส้นเอ็นของคอพร้อมกับคอหักตาย

    ทางด้านชิเสะนั้นก็ใช้ดาบไฟฟันร่างของปีศาจ แต่ปีศาจอีกตนกำลังตลบหลัง

    “ เฮ้ย!!! “ ชิเสะนั้นตกใจมาก ชิเสะก็โดนมันล็อกตัว

    “ อ๊าก!!!! “ ชิเสะก็โดนล็อกตัวลอยขึ้น มันก็บีบร่างของชิเสะเพื่อที่จะฆ่าเขา

    “ เชือด!!! “ ทันใดนั้นมีคนๆนึงเข้ามาฟันข้างหลัง

    “ เฮ้อ......ชิเสะเป็นอะไรไหม??? “ ฟอร์เต้นั่นเองที่ช่วยชิเสะไว้

    ฟอร์เต้ก็คอยพยุงร่างของชิเสะไว้ ซากินั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากใครบางคน

    “ หัวหน้าโชเซ็นนี่ “ เขาก็รับโทรศัพท์

    “ ครับหัวหน้า “ (ซากิ)

    “ ซากิ ตอนนี้พื้นที่โตเกียว โซน 4 ปลอดภัยแล้วละ ภารกิจจบแล้ว “ (หัวหน้าโชเซ็น)

    “ ขอบคุณครับหัวหน้า “ (ซากิ)

    “ ตอนนี้ที่นั่นมีใครได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?? “ (หัวหน้าโชเซ็น)

    “ ประชาชนไม่รับบาดเจ็บครับ เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 คือ เจ้าหน้าที่ฝึกหัดชิเสะ มิยากิ ครับ เดี๋ยวผมจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาลครับ “ (ซากิ)

    “ อืม งั้นแค่นี้นะไปละ “ หัวหน้าโชเซ็นนั้นก็วางสายไป

    ฟอร์เต้ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โทรศัพท์ของฟอร์เต้นั้นเหมือนกับของซากิและชิเสะ เธอก็กดเข้าเมนูนึงเขียนว่าเคลื่อนย้ายกลับโลกมนุษย์ เธอก็ตอบ Yes

    ทันใดนั้นร่างกายของฟอร์เต้ก็เปล่งแสงแล้วก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดา

    ชิเสะกับซากิก็ใช้โทรศัพท์เคลื่อนย้ายสู่โลกมนุษย์แบเดียวกับฟอร์เต้

    “ ฟอร์เต้ เธอกลับบ้านไปก่อนเหอะ เดี๋ยวฉันจะพาชิเสะไปหาโรงพยาบาลเอง “ ซากิก็ให้ฟอร์เต้กลับบ้านแล้วตนจะพาชิเสะไปหาเอง

    “ ขอบคุณมากค่ะ ลูกพี่ “ ฟอร์เต้นั้นก็เดินกลับบ้านไป

    เธอก็หันไปหาชิเสะแล้วพูดว่า

    “ ชิเสะขอให้หายไวๆนะ “ ฟอร์เต้พูดเสร็จแล้วก็วิ่งไป

    “ เออ...... “ ชิเสะก็ตอบกลับ

    ทางด้านตึกที่สูงสุดในเมืองโตเกียวซึ่งเป็นตึกของรัฐบาล ชายหนุ่มคนนึงสวมแว่นตาดำในชุดสูทสีเทากำลังมองภาพทิวทัศน์เมืองโตเกียวอยู่คนเดียว

    ทันใดนั้นมีชายคนนึง ผมสั้น สูทสีดำ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล

    “ นายท่าน..คืนนี้ท่านมีนัดทานอาหารเย็นกับคุณท่านเจ้าหน้าที่รัฐบาลชั้นสูงนี่ครับ “ (เจ้าหน้าที่รัฐบาล)

    “ อืมจริงสิ “ ชายแว่นตาดำก็หยิบไม้เท้าที่อยู่ข้างตนแล้วก็ใช้ไม้เท้าคอยแตะพื้น

    “ ช่วยพาฉันไปหน่อยสิ “ (ชายแว่นตาดำ)

    แท้จริงแล้วชายคนนั้นก็ตาบอดนั่นเอง

    เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็จูงมือชายแว่นตาดำนั่งบนที่นั่งรถเข็น แล้วก็เข็นออกจากตึก แล้วพาขึ้นรถแท็กซี่

    “ ช่วยไปที่ร้านPortland หน่อยสิ “ (เจ้าหน้าที่รัฐบาล)

    “ ได้ครับ “ (คนขับแท็กซี่)

    เมื่อแท็กซี่พาไปถึงร้านใหญ่ข้างถนน ทั้ง 2 ก็ลงจากรถ เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็ตั้งที่นั่งรถเข็นให้เจ้านายแว่นดำของตนนั่ง แล้วเข็นเข้าไปในร้าน ร้าน Portland นั้นก็ไม่เหมือนกับร้านาหารทั่วไป ในร้านนั้นจัดหรูมาก ทั้งจุดเครื่องหอม กับการตกแต่งของร้านถือว่าดีมาก โต๊ะข้างๆกระจกของร้านนั้นมีชายคนนึงในชุดสูทสีดำ ผูกเน็กไทต์สีแดง สวมแว่นตา ไว้ผมยาวกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่

    เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็เข็นไปที่โต๊ะนั้น แล้วลากเก้าอี้ให้เจ้านายตนนั่ง

    “ อืม..เอาละ นายไปได้แล้วละ “ (ชายแว่นดำ)

    “ นายท่านจ้างบอดิการ์ดคอยดูแลท่านรึยัง??? “ (หัวหน้ารัฐบาล)

    “ หึหึหึ จ้างแล้ว “ ชายแว่นดำก็ตอบด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น

    เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็ออกจากร้าน

    “ สวัสดีครับรับอะไรดีครับ “ บ๋อเสิร์ฟชายก็เข้ามาถามโต๊ะของชายแว่นดำ

    “ ขอสเต็กเนื้อ T-bone จานนึงครับ แล้วรับอะไรดีคับคุณเจ้าหน้าที่ “ (ชายแว่นดำ)

    “ ฉันขอสลัดที่นึง “ เจ้าหน้าที่ชายหนุ่มก็สั่ง

    บ๋อยเสิร์ฟชายก็จดเมนูแล้วเดินออกไป

    “ ว่าแต่คุณเจ้าหน้าที่ครับมีธุระอะไรกับผมเหรอ??รัฐบาลมีอะไรจะบอกงั้นเหรอ??? “ ชายแว่นดำก็พูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล

    “ ฉันน่ะ....ไม่ได้มาหานายเรื่องของรกระทรวงกลาโหมหรอก...คุณคุซาเกะ “ ชายหนุ่มที่สวมแว่นตาตอบดังนั้นทำให้ชายแว่นตาดำก็ตกใจนิดหน่อย

    “ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย...... “ ชายสวมแว่นก็จิบกาแฟแล้วก็จ้องด้วยสายตาอันเย็นชา

    “ ฉันไม่มีเรื่องจะคุยเรื่องอื่นหรอก ถ้าไม่ใช่เรื่องรัฐบาล ก็ไม่ว่าง นายทำให้ฉันเสียเวลาไปมากพอแล้ว.. “ ชายตาบอดคุซาเกะก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาให้เจ้าหน้าที่มารับเขา

    “ นายยังอยู่ข้างเราอยู่รึเปล่า คุณคุซาเกะ!!! “ ชายหนุ่มแว่นก็พูดจาใส่อารมณ์

    คำพูดนั้นทำให้คุซาเกะนั้นถึงกับนิ่งไปเลย เขาก็เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่เดิม

    “ คุซาเกะ เรียว อดีตหัวหน้าหน่วย Bravo 2 “ เมื่อชายหนุ่มแว่นพูดเปิดเผยตัวจริงของตน

    “ อืม...คำพูดนายแทงใจฉันจริงๆเลยน่ะ นายชื่ออะไรเหรอ??? “ คุซาเกะก็ถามด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว

    “ ฉันชื่อ นาโกโนะ ชิโนะเสะ “ ชายหนุ่มแว่นก็บอกชื่อของตนแล้วก็ต่อเติมไปว่า

    “ หรือ ฟรอเซอิค อิซอทซ์ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูง No.4372 สังกัดหน่วย Delta 3 จากยุโรบ “ ชายหนุ่มแว่นนั้นเผยตัวตนแท้จริงของตน

    “ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณงั้นเหรอ???อืม ไหนว่ามาสิ มีเรื่องอะไรกับฉันงั้นเหรอ “ น้ำเสียงของคุซาเกะนั้นกลับกลายเป็นเสียงเข้มต่างจากน้ำเสียงที่ตนใช้กับคนอื่น

    “ ฉันอุตส่าห์เดินทางมาที่นี่เพื่อจะมาสะสางเรื่องกลไกจิตของวิญญาณ “ (ฟรอเซอิค)

    “ กลไกจิตของวิญญาณ รอยร้าวประตูนรก และโลกวิญญาณ เรื่องนี้ใช่ไหม?? “ คุซาเกะนั้นคาดการณ์ไว้ได้หมด

    “ ใช่แล้ว... พวกเราต้องการข้อมูลเหล่านั้น “ ฟรอเซอิคนั้นก็ยกดื่มจิบกาแฟอีกครั้ง




    ปล.เรื่องสมัครยังไม่ได้ปิดนะ

    ปล.2 ไม่ได้ตั้งใจปั๊มนะ ลืมใส่ตรงอีดิท
  9. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    เป็นคนประเภทเดียวกะผมสินะ 55+(พวกขีเกียจเขียนบรรยายเยอะ)

    อืมๆ เปิดเนื้อเรื่องมาได้น่าสนใจมาก แต่การบรรยายในหลายจุดยังน้อยไปนิดและมีภาษาพูดมากอยู่นะคับ อย่างที่พี่อีซาคว่าลองศึกษาจากฟิคของคนอื่นๆดู ในบอร์ดนี้ก็มีนักแต่งฟิคที่ใช้ภาษาสวยๆอยู่หลายคนเลย(และแน่นอนว่าไม่ใช่ผม) แต่เรื่องบรรยายทำเอาหลายคนขาดทุนล่องจุ้นกันมาเยอะแล้วจริงๆแหะ 555+

    แต่ผมชอบด้านเนื้อเรื่องนะ ยังไงก็จะติดตามจนกว่าแม่สาวน้อยของผมจะมีบทล่ะกัน ^^ สู้ต่อไป !!!
  10. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    จ...เจ้าหน้าที่โลกวิญยาณชั้นสูง ไอ้แว่นเพิ้งนั่นน่ะนะ

    /me โดนตัวละครตัวเองถีบ

    ชื่อ นาโกโนะ ชิโนะเสะ ก็ไม่เลวแฮะ อือม์ ตอนนี้แว่นค่อนข้างเยอะ ทั้งแว่นดำแว่นตา งงนิดหน่อย แต่เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณมีบาดเจ็บไปแล้ว รู้สึกบู๊ทีไรโหดกันทุกที

    การเขียนพัฒนาขึ้นครับ แต่เวลารับส่งบทสนทนาให้ใช้การบรรยายที่ตัวบุคคลแทนการใสชื่อในวงเล็บดูก็ได้ เช่น

    เป็นต้น

    อื่นๆ ผมชอบ plot เรื่องนี้นะ ดูลึกลับดี วางการเชื่อมโยงของโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์ไว้ด้วย ตอนต่อไปน่าติดตามว่าตาแว่นจะแจ้งข่าวอะไรทำไมลับลมคมในจัง--
  11. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    เหอๆ...ต่อจากเทศกาลผมหลากสี ก็เป็นมาเปลี่ยนวันของคนใส่แว่นบ้างล่ะ..
    [action]ผั๊ววววววววววววววววววววะะะะะะะะะะ-----------!!! (โดนเจ้าของกระทู้ถีบหน้าหงาย)[/action]

    อ่ะ...ล้อเล่นน้าจ้า~~~~ ^^"


    การบรรยายสั้นๆดี เหมาะสำหรับคนขี้เกียจอ่านตัวหนังสือยาวๆอย่างเรา (ฮา)

    แต่งได้เร็วทันใจดีมั่กๆ ยังไงก็สู้ต่อไปนะ ทาเคชิ!! ><b
  12. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 2

    “ เมื่อ 1 ปีก่อน ฉันกับทหารของโลกวิญญาณก็เข้ามาสำรวจพื้นที่พิกัดเขต Black Flush ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นเก่าของพวกเจ้าหน้าที่จิตเลวกับพวกปีศาจร่างวิญญาณ “ ฟรอเซอิคนั้นก็เล่าเหตุการณ์ที่ตนไปสำรวจตามคำสั่งของโลกวิญญาณของประเทศยุโรป

    “ แล้วยังไงเหรอครับ??? “ คุซาเกะก็ตั้งหน้าถาม

    “ เราไม่พบอะไรเลย ทั้งหินเขียวลึกลับ แม้แต่อุปกรณ์ของพวกนั้นก็เหมือนกับถูกขโมยไป “ ฟรอเซอิคพูดเสร็จก็จิบกาแฟของตนต่อ

    “ ไอ้เรื่องนั้นนะฉันไม่รู้หรอกนะ อีกอย่างฉันไม่ได้ยุ่งกับเรื่องพวกนี้มา 4 ปีแล้วละนะ “ คุซาเกะนั้นก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากนัก

    “ แต่สิ่งที่เราพบ.....คือ..พลังวิญญาณของนายไง....ในนั้นมีพลังวิญญาณของนายซึ่งไม่รู้เหมือนกันมาได้ไง “

    เมื่อฟรอเซอิคนั้นพูดถึงพลังวิญญาณของคุซาเกะนั้นทำให้คุซาเกะนั้นตกใจมาก

    “ ฉันอยากรู้ว่าพลังของนายไปอยู่กับพวกนั้นได้ยังไง!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็ทำเสียงเหมือนตะคอกพร้อมกับจ้องด้วยสายตาที่น่ากลัวแม้จะปิดบังด้วยแว่นแต่ว่ามันกลับยิ่งขยายทำให้น่ากลัวยิ่งขึ้น

    “ นี่นายใส่แว่นเพราะทำให้ตานายดูน่ากลัวและน่าเกรงขามขึ้นรึไง??? “ คุซาเกะก็แกล้งถามกวนๆ

    “ เออ..อย่ามานอกเรื่อง บอกมาแกแอบร่วมมือกับปีศาจวิญญาณชั้นสูงใช่ไหม??? “

    “ อย่ามาเพ้อเจ้อน่า ฉันจะไปช่วยพวกมันทำไมละ??? “ คุซาเกะก็เถียงกลับพร้อมทั้งกินสเต็กต่อ

    “ แล้วนายมีจุดประสงฆ์ช่วยมันทำไมละ???? “ ฟรอเซอิคนั้นก็ย้อนถามกลับต่อ

    คุซาเกะนั้นก็เริ่มหมดอารมณ์จะคุยกับฟรอเซอิคก็ลุกจากโต๊ะ

    “ ฉันหมดอารมณ์จะคุยเรื่องนั้นแล้วละ โทษทีเราคงจบเรื่องนี้แล้วละ “ คุซาเกะก็หยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาคนมารับ

    ฟรอเซอิคนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเช่นกันแต่ว่าเขากลับไม่ได้โทรหาใคร

    “ ฉันขอทดสอบพลังของนายหน่อยก็แล้วกันนะ!!! “ ฟรอเซอิคก็กดตัวเองเข้าสู่มิติโลกวิญญาณ

    การเปลี่ยนมิติของฟรอเซอิคนั้นแตกต่างจากคนอื่น ปกติเมื่อใช้จะมีแสงเปลี่ยนร่างตนเข้าสู่มิติ แต่ว่าของฟรอเซอิคซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของฝ่ายยุโรปกลับกลายเป็นถอดวิญญาณออกจากร่าง แล้วก็สร้างส่วนวิญญาณอัตโนมัติที่ร่างในมิติมนุษย์ของฟรอเซอิค

    ฟรอเซอิคนั้นก็สวมชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูง ชุดผ้าคลุมตัวสีขาวกางเกงสีดำ ฟรอเซอิคก็ใช้ง้าวอันใหญ่สีดำ ลายสลักเป็นตัวอักษรประหลาดสีทอง เขาใช้ง้าวเข้าฟันคุซาเกะในร่างมนุษย์

    คุซาเกะนั้นซึ่งมีดวงตาทิพย์จึงเห็นฟรอเซอิคที่กำลังเข้าโจมตี แต่ในช่วงนั้นนั่นเอง

    “ ชริ้ง!!!!!! “ คุซาเกะกลับใช้โทรศัพท์ของตนเข้าสู่โลกมนุษย์อย่างฉับพลันใช้ดาบเล่มยาวของตนกันง้าวของ
    ฟรอเซอิคได้

    “ เฮ้ย!!!ดวงตาแก!!!อย่างที่ฉันคิดไว้เลยว่าพลังของนายกลับมาแล้ว “ ฟรอเซอิคเมื่อเห็นตาของคุซาเกะซึ่งในโลกวิญญาณฟรอเซอิคจะเห็นดวงตาของคุซาเกะกลับไม่ได้บอด ดวงตาของเขามีสีน้ำเงิน

    คุซาเกะนั้นก็ดันง้าวของฟรอเซอิคออกไปแล้วพุ่งเข้าโมตีฟรอเซอิค คุซาเกะก็สร้างธาตุลมที่ดาบเล่มยาวของตนจากนั้นก็ฟันใส่ฟรอเซอิค ฟรอเซอิคก็เอาง้าวของตนกันไว้ได้ เขาก็ดันดาบของคุซาเกะออกไปจากนั้นก็พุ่งง้าวเข้าท้อง แต่คุซาเกะกลับหลบได้ คุซาเกะก็กระโดดไปข้างหลัง

    “ ที่ฉันตาบอดก็เพราะว่าฉันแกล้งทำละโว้ย ฟรอเซอิค วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะสู้กับแกนะ ไว้เจอกันใหม่นะ “
    คุซาเกะนั้นก็ล้มเลิกการต่อสู้จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกลับโลกมนุษย์

    “ เฮ้ย!! เดี๋ยวก่อนสิ!!! “ ฟรอเซอิคก็จะพุ่งตัวไปห้าม แต่ว่ามีชายหนุ่มคนนึงโผล่ขวางอยู่ข้างหน้าในชุดผ้าคลุมสูทสีดำ ข้างในเป็นเสื้อเชิร์ต พร้อมใช้อาวุธเป็นเคียวยักษ์คล้ายกับยมทูต

    “ อ๋อ..จริงสิ นี่คือบอดิการ์ดรับจ้างของฉัน นักฆ่าวิญญาณที่ฉันจ้างมา ฝากด้วยนะโคชิ “ คุซาเกะนั้นพูดเสร็จก็กลับสู่โลกมนุษย์

    “ ยินดีที่ได้ร่วมธุรกิจความตายกับนายไอ้แว่น... “ โคชิ นักฆ่าปีศาจนั้นก็เอาเคียวยักษ์ของตนชี้หน้าฟรอเซอิค

    “ คิดจะขัดขวางฉันเหรอไม่มีทางหรอก!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็เข้าต่อสู้กับโคชิ
  13. l2eenai2y

    l2eenai2y New Member

    EXP:
    533
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    แต่งได้เร็วม๊ากมาก > <b !!
    บทบรรยายพัฒนาดีขึ้นคับ
    ถึงภาษาจะยังไม่สวยเท่าเหล่ามือโปร
    แต่ก็ไม่แข็งเท่าไหร่แล้วคับ

    T-bone... ไม่ได้ไปกินตั้งนานแล้ว(เริ่มนอกเรื่อง = =)

    ยังไงก็ สู้ๆน่อ!!
  14. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 3

    จากนั้นบนท้องถนนโตเกียวก็เกิดการต่อสู้ระหว่างฟรอเซอิคกับโคชิ นักฆ่าปีศาจหนุ่ม

    “ หึย!!!ชริ้ง!!!! “ ฟรอเซอิคก็ใช้ง้าวเข้าฟันใส่เฉี่ยวใบหน้าของโคชิ ทำให้ใบหน้าของโคชิเป็นรอยขีดตรงแก้มด้านขวา

    “ ชึ แกได้เจ็บแน่!!!! “ โคชิก็เริ่มเอาจริง

    “ อยากให้นายเอาจริงมานานแล้ว “ ฟรอเซอิคก็พูดจาน้ำเสียงเข้มแล้วก็ตั้งท่าต่อสู้ แล้วทั้ง 2 ก็เข้าโจมตีพร้อมกัน

    โคชิก็ใช้เคียวฟันใส่ฟรอเซอิค

    ฟรอเซอิคก็ใช้ง้าวกันการโจมตีไว้ได้ เขาก็พยายามดันเคียวของโคชิออก

    “ หยา!!!ติดกับฉันนักฆ่าปีศาจ “ In the land of blue “ !!! “ ฟรอเซอิคก็หลอกล่อให้โคชิเข้ามาติดกับ

    บังเกิดน้ำแข็งเกาะติดที่ขา

    “ อะไรกันเนี่ย?? “

    โคชินั้นไม่สามารถขยับร่างกายท่อนล่างลงมาได้ แต่โชคดีที่ไม่กระทบต่อร่างกายด้านบน

    “ เอาละนะ!!! “ ฟรอเซอิคก็ถอยออกมาก้าวนึงแล้วฟาดด้วยง้าวเข้าใส่โคชิ

    “ คิดว่าฉันจะหลงกลง่ายๆงั้นเหรอ “ เสี้ยวจันทรา “ !!! “ โคชิก็ปล่อยท่า

    เขาใช้มือที่ถือเคียวฟาดใส่รอบอย่างรุนแรงจนเกิดใบมีดเข้าทำลายทุกอย่างบนพื้นที่

    “ ตู้ม!!!!!!! “ พื้นที่บนถนนบนมนุษย์ก็ระเบิด เหล่าผู้คนเมื่อเห็นก็ตกใจกันยกใหญ่

    ฟอร์เต้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเมื่อเห็นก็ตกใจหลังจากไปซื้อของจากร้านสะดวกซื้อมา

    “ นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับมิติวิญญาณ!! “ ฟอร์เต้ก็อาศัยช่วงชุลมุนหยิบโทรศัพท์เข้าสู่โลกมิติวิญญาณ

    ฟอร์เต้เมื่อเข้าไปก็เห็นการต่อสู้ของฟรอเซอิคกับโคชิ

    “ นั่นมัน เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูงนี่ กำลังสู้อยู่ใครนะ??? “ ฟอร์เต้เห็นก็สงสัย

    “ ฟอร์เต้!!! “ ทันใดนั้นมีเสียงของซากิวิ่งเข้ามาหา
    “ เกิดอะไรขึ้นเหรอ??? “ ซากินั้นก็ได้รู้สึกถึงพลังไอวิญญาณที่เข้าปะทะกันจึงรีบวิ่งมาดู

    “ เจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังต่อสู้กับนักฆ่าปีศาจนะ ทำไม 2 คนนี้ต้องกัดกันด้วย “

    ฟอร์เต้ทำหน้าสงสัยพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เข้าสู่โลกมิติวิญญาณ

    “ ฟอร์เต้จะทำอะไรนะ!!! “ ซากิเมื่อเห็นฟอร์เต้ย้ายตนเข้าสู่มิติวิญญาณก็ตกใจ

    “ ฉันจะไปห้ามพวกเขา มันจะส่งผลต่อผู้คนในโลกมนุษย์นะ “ ฟอร์เต้ก็วิ่งเข้าไปห้าม

    “ รอด้วยสิ!!! “ ซากิก็หยิบโทรศัพท์ตามฟอร์เต้ไป

    ฟอร์เต้ก็วิ่งไปห้ามหยุดโคชิส่วนซากิก็เข้าชักดาบฟันง้าวดันลงพื้นปรามไว้

    “ พวกคุณรู้ไหม ทำแบบนี้มันส่งผลโลกมนุษย์นะ!!! “ ซากิก็บอกกับทั้ง 2

    “ หึย!!!เกะกะจริงๆ!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็ดันดาบของซากิออกไปแล้วฟาดใส่ซากิกระเด็นล้มลงไป

    ฟรอเซอิคนั้นก็ปล่อยลมหนาวใส่โคชิแม้จะไม่แคร์ฟอร์เต้ที่ยืนขวางห้ามชิไว้

    โคชินั้นเมื่อเห็นฟรอเซอิคปล่อยพลังใส่โดยไม่แคร์พวกเดียวกันจึงโน้มดึงตัวฟอร์เต้ถอยออกมาด้วย

    “ ระวัง!!!! “ โคชิก็ช่วยชีวิตฟอร์เต้เอาไว้

    “ เฮ้ย!!!! จะบ้าเหรอ???ปล่อยใส่พวกเดียวกัน!! “ ฟอร์เต้เมื่อเห็นฟรอเซอิคปล่อยใส่โดยไม่แคร์ตัวเธอจึงโมโหมาก

    “ พวกเธอเป็นใครนะ???? “ ฟรอเวอิคก็ถาม

    “ ฉันชื่อ ฟอร์ทิสซิโม เครสเซนโด้ เจ้าหน้าที่ฝึกหัด หน่วย Alpha 2 ชื่อในโลกมนุษย์คือ โอจิกิ เท็ตสึโกะ “

    ซากินั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหายืนข้างๆ ฟอร์เต้ พร้อมแนะนำตัวเหมือนฟอร์เต้

    “ ส่วนฉัน โทจิโร่ ซากิ เจ้าหน้าที่ชั้นกลางหน่วย Alpha 2 “

    “ เป็นเจ้าหน้าที่สังกัดที่ประเทศนี้สินะ “ ฟรอเซอิคนั้นก็กระทุ้งง้าวปักพื้น

    “ ฉันคือ ฟรอเซอิค อิซอทซ์ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นสูงของฝ่ายสหภาพยุโรป หรือ นากาโนะ ชิโนเสะ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น “ ฟรอเซอิคก็แนะนำตัว

    “ ถึงยังไงงฉันก็ไม่สนหรอก เพราะฉันไม่ใช่พวกเดียวกับพวกแก “ ฟรอเซอิคก็พูดอย่างเย็นชา

    “ ถ้ายังขวางฉันอีกละก็ ฉันไม่ปล่อยพวกนายนะ “ ฟรอเซอิคก็หยิบง้าวชี้หน้าทั้ง 2

    “ หึย!!!ยโสมากเลยนะ!!! “ ซากิก็เข้าฟันใส่ฟรอเซอิค

    ฟรอเซอิคนั้นก็ใช้ง้าวฟันใส่กลับ การโมตีของฟรอเซอิคนั้นรุนแรงถึงกับทำให้การโจมตีของซากิไร้ผลไปเลย

    “ เข้าใจไหมว่ามันคนละชั้น!!!!! “ ฟรอเซอิคก็ฟาดด้วยง้าวใส่ซากิ แม้ซากิใช้ดาบกันไว้ได้แต่อาณุภาพนั้นถึงกับต้องถอยหลังลากพื้นไปเลย

    ฟรอเซอิคเมื่อฟาดใส่ก็พุ่งเข้าไปโผล่อยู่ข้างหน้าอย่างว่องไวจากนั้นก็ฟันใส่ซากิในตอนนั้น

    “ น่าเสียดายจริงๆแกเนี่ย ฉันอุตสส่าห์คาดหวังแกไว้ซะสูงไปหรือนี่ “ ฟรอเซอิคก็กล่าวอย่างเสียดายพร้อมกับเข้าฟันทันที

    “ ชริ้ง!!!!!!!!!! “ แต่ว่ามีเสียงกระทบง้าวจากดาบเล่มนึงที่ไม่ใช่ของซากิ

    ฟรอเซอิคนั้นก็หันไปพบว่ามีชายหนุ่มคนนึงในชุดเชิร์ตสีขาวกางเกงยาวดำ สวมเสื้อโค้ตสีเทา ผมสั้นสีน้ำเงิน ใช้ดาบของตนเข้ามากันง้าวเอาไว้

    “ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฟรอเซอิค “ ชายคนนั้นก็กล่าวด้วยใบหน้าร่าเริง

    “ อึ๋ย....................ไม่จริง....ไม่ใช่เขาแน่..... “ ฟรอเซอิคนั้นเมื่อเห็นใบหน้าชายคนนั้นก็นึกคุ้นเหมือนคนที่เขารู้จัก

    “ ว่าแต่ว่าคุณเป็นใครเหรอ??? “ ฟรอเซอิคก็ถามชื่อของชายคนนั้น

    “ อะอ้าว ฟรอเซอิค....โอ้โห่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แค่เปลี่ยนทรงผมใหม่ก็จำไม่ได้หรือนี่.... “ ชายคนนั้นก็พูดจาทำหน้าเศร้านิดหน่อยจากนั้นก็กลับมาร่าเริง

    “ ฉันคือ มาซาโนะ คุราโดะ หัวหน้าหมู่ Delta 4 ไง “ ชายคนนั้นก็บอกชื่อของตน

    ฟรอเซอิคเมื่อได้ยินชื่อก็ถึงกับอึ้งอึ้งนิ่งเอ๋อไปทันทีเลย

    “ คุราโดะ.....หัวหน้าหน่วย Delta 4.....หัวหน้าหน่วย Delta 4...... “
    คำพูดของคุราโดะนั้นแทงใจดำของฟรอเซอิคเข้าอย่างจังทะลุอกไปเลย

    “ ไม่จริง!!!!!!!!! “ ฟรอเซอิคในช่วงนั้นเหมือนกับคนติ๊งต๊องมาก

    “ ไอ้นี่...มัน เด็กฝึกหัด........ตอนนั้นฉันระดับชั้นกลาง....ฝึกหัด...ชั้นกลาง.....ชั้นสูง....หัวหน้าหน่วย..ทำไมมันไม่ใช่!!!!!!! “ ฟรอเซอิคออยู่ในอาการที่บ้าๆสุด กับเรื่องระดับชั้น

    “ ทำไมละ???ฉันเป็นหัวหน้าหมู่ถึงต้องยินดีขนาดนั้นด้วยละ??? “ คุราโดะก็กล่าวอย่างมึนงง

    “ ทำไมนายถึงมีระดับชั้นสูงกว่าช้าน!!!!!!!!!!! “

    ฟรอเซอิคก็เครียดอยู่กับระดับชั้นของตนกับคุราโดะอย่างหนัก

    “ ทำไม!!!!พระเจ้า!!! ตูไม่เชื่อ!!! ทำไมตูกับนายถึงมีระดับห่างกันตั้งชั้นนึงเลยเหรอนี่!!! มันนำหน้าตูไปตั้งแต่เมื่อไหร่ว้า!!! “

    ฟรอเซอิคนั้นก็นั่งลงไปบนพื้นเพื่อสงบอารมณ์

    “ เอ่อ...นี่..ฉันพึ่งเป็นได้แค่ 2 ปีเองนะ อีกอย่างนายนะหลังจากระดับสูงก็ถูกโอนย้ายไปกลับกลุ่มทางยุโรป ไม่มีนายฝีมือฉันก็พัฒนาขึ้นมากมายหลายเลยนะ “ คุราโดะกล่าวแล้วเก็บดาบ

    “ นี่ตูไปเป็นลูกน้องมันเหรอนี่........ “ ฟรอเซอิคก็ยังรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้

    “ นี่ฟรอเซอิค เรื่องระดับขั้นนะ อย่าไปซีเรียสกับมันเลยน้า.....ทำใจให้สบาย... “ คุราโดะก็ปลอบใจของฟรอเซอิค

    “ อย่าไปซีเรียสงั้นเหรอ... “ ฟรอเซอิคนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมทั้งขยับแว่นขึ้นนิดหน่อย

    “ จริงสิ..เราต้องไม่ซีเรียส ที่ยุโรปกับญี่ปุ่นมันเหมือนกันนี่หว่า.... “ ฟรอเซอิคก็หยิบง้าวขึ้นมาแล้วหันหลังเดินไปที่อื่น

    “ เออนี่..คุราโดะ ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไปคิดใหม่ละกันแล้วเจอกันนะ “ ฟรอเซอิคนั้นเดินหนีไปอย่างหน้าตาเฉย

    คุราโดะ หัวหน้าหมู่ที่ยังหนถ่มแน่นนั้นก็จ้องมองไปที่โคชิ นักฆ่าวิญญาณที่ถูกจ้างโดยคุซาเกะ

    “ นี่นาย....ร่วมมือกับคุซาเกะใช่หรือไม่ “ คุราโดะก็ถามด้วยน้ำเสียงที่เข้ม

    โคชินั้นก็ชักปืนพกคู่ที่เหน็ยกัยเอวทั้ง 2 ขึ้นมาเล็งที่คุราโดะ

    “ เฮ้ย!!ทำอะไรนะ!! “ ฟอร์เต้กับซากินั้นก็ระแวงกับท่าทางของโคชิ

    โคชินั้นก็ทำเสียงหัวเราะตลก

    “ หึหึหึ อาวุธฉันคือ ปืนคู่กระสุนวิญญาณ นายคิดว่าฉันเป็นพวกเดียวกับมันเหรอ??? “ โคชิก็กล่าว

    “ อีกอย่าง ฉันก็แค่ถูกจ้างช่วยเขาแค่วันเดียวเอง “ โคชินั้นก็เก็บปืน

    “ เอาละ ฉันไปละนะ ตอนนี้หมดเวลาภารกิจแล้วละ และ “ โคชิหยิบสร้อยไม้เกางเขนออกมาแล้วก็เอาแตะที่หน้าผากจากนั้นก็มีควันแสงขึ้นรอบๆโคชิ

    เมื่อเริ่มจางนั้นโคชินั้นก็อยู่ในโลกมิติของมนุษย์ โคชิก็อยู่ในชุดเหมือนเดิมแต่อาวุธจะหายไป

    โคชิก็เดินจากไป

    “ เอาละ พวกเรากลับกันได้แล้วละ กลางคืนบนโลกมนุษย์มันอันตราย “ คุราโดะก็กล่าวกับฟอร์เต้และซากิ

    คุราโดะ ซากิและฟอร์เต้ก็หยิบโทรศัพท์เข้ากลับสู่โลกมนุษย์

    คุราโดะนั้นซึ่งกำลังหันหลังเดินออกไปนั้น

    “ หัวหน้าคุราโดะครับ... “ ซากิก็เรียกคุราโดะ คุราโดะนั้นก็แหงนหน้าหันมา

    “ ขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้นะครับ “ ซากิก็กล่าว

    “ ไม่เป็นไรหรอก “ คุราโดะกล่าวแล้วเดินจากไป

    ตอนนี้ก็เหลือแต่ฟอร์เต้กับซากิ

    “ ฟอร์เต้ ฉันไปก่อนนะ ไปละ “ ซากินั้นก็เดินจากไปอีกคน

    ฟอร์เต้นั้นรู้ว่าเหลือตัวคนเดียวจึงเดินไปหยิบของที่ตนซื้อมาแล้วเดินกลับบ้าน
  15. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ฟรอเซอิคหลายบุคลิกมาก กร๊าก แถมกลายเป็นคนขี้หยิ่งไปตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย = =

    มีหลายอารมณ์ดีครับ ฝีมือพัฒนาขึ้นมากเลย ฉากบู๊บู๊ได้ใจ ฉากบรรยายเห็นภาพชัด ดีมากเลยครับ
  16. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 4

    วันต่อมา ช่วงบ่ายนั้น

    หลังจากทางการโลกวิญญาณได้มีการจัดประชุมต่อเหล่าเจ้าหน้าที่วิญญาณระดับหัวหน้านั้น ได้มีผลการชี้แจงออกมาว่า ให้ตามรอย คุซาเกะ ผู้ต้องสงสัย

    วันต่อมาบนโลก ช่วงเช้า ในวันอาทิตย์

    ฟอร์เต้นั้นกำลังโทรศัพท์หาแม่ซึ่งอยู่ในเมืองโซคอนซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่เหล่าวิญญาณอาศัยหหลังความตาย

    “ บายนะแม่... “ ฟอร์เต้ก็วางสายหลังจากคุยกับแม่ของเธอเสร็จ

    “ รุ่นพี่ค่ะ!!!!! “ ทันใดนั้นมีหญิงสาวผมยาวดำในชุดเจ้าหน้าที่ฝึกหัดโผล่เข้ามาหาฟอร์เต้อย่างน่าตกใจ

    “ เฮ้ย!!!รูบี้ อย่าเข้ามาโผล่แบบนี้ได้ไหมเนี่ย ฉันตกใจ!! “ ฟอร์เต้นั้นก็ตกใจอย่างมาก

    “ พี่ฟอร์เต้ก็นิสัยอย่างนี้แหละ แกล้งแบบนี้มันสนุกดีนิ เหอๆ “ รูบี้นั้นก็เป็นคนที่มีนิสัยกวนๆ

    “ ว่าแต่ว่าวันนี้เวรพี่นิ ขอไปด้วยคนน้า “ รูบี้ก็จะขอเป็นยามเวรวิญญาณเป็นเพื่อนกับฟอร์เต้

    “ เออได้น้า....ตอนนี้ก็มีซากิ กับเธอนี่แหละ เวรวันนี้ ดีเหมือนกันฉันเหนื่อยมากกว่านี้ “ ฟอร์เต้ก็กล่าวประชด

    “ อะไรนะ???? “ รูบี้ก็หันไปด้วยหน้าตาที่ไม่พึงพอใจ

    “ เออ..ล้อเล่นน้า ไม่เป็นหรอก มากๆก็ยิ่งดี “ ฟอร์เต้ก็กล่าวกลับไป

    ทันใดนั้นซากิก็ออกมาจากห้องเซคเตอร์ 13 หลังจากที่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

    “ เอาละไปกันรึยัง?? “ ซากิก็ถาม

    “ ไปกันเลย “ ฟอร์เต้ก็กล่าวแล้วก็ทั้ง 3 ก็เดินไปที่โตเกียวโซน 4 ซึ่งเป็นโซนที่ซากิกับฟอร์เต้เป็นยามโลกวิญญาณกะบ่ายวันนี้

    ในแถวนั้นทั้ง 3 นั้นก็คอยเดินชมช็อปปิ้งในตลาดแถวนั้นพอดี

    “ฮ่าๆๆๆ ดีเหมือนกันได้ทำงานได้ช็อปปิ้งกับคอยดูแลโลกวิญญาณนิ มันช่างประจวบเหมาะเจาะกับเวลาจริงๆ “ รูบี้ก็กล่าวอย่างสนุกสนานพร้อมทั้งดูสินค้าร้านอื่นๆในตลาด

    “ เอาละ เราต้องแยกกันคอยเฝ้าดูคนพื้นที่ ฟอร์เต้เธอคอยดูแลแถวใจกลางของย่าน ส่วนรูบี้.... “ ซากินั้นกำลังออกคำสั่งกับรูบี้แต่เมื่อหันไปหาก็พบว่ารูบี้กำลังดูของสินค้าน่ารักอยู่อย่างมีความสุข

    “ รูบี้!!! “ ซากิก็ตะโกนเรียก

    “ หือ?? “ รูบี้ก็หันไปหา

    “ เธอคอยดูแถวแผนกนี้ละกัน แต่อย่ามัวแต่เดินช็อปปิ้งนะเฟ้ย “ ซากิก็มอบหมายพร้อมกำชับ

    “ OK!!! “ รูบี้ก็รับคำสั่งแล้วกลับไปดูของจุกจิกอีก

    “ บัดซบ....... “ ซากิก็กล่าวในใจแล้วก็เดินไปที่แถวประตูของย่านตลาด

    ส่วนฟอร์เต้นั้นก็เดินเล่นแถวใจกลางของย่านตลาด เธอนั้นก็พบคนที่เธอรู้จักคนนึงในย่านซึ่งอยู่ที่ร้านขายของจุกจิกซาริโอ้

    “ คุณ......ฟรอเวอิค “ เธอก็มองไปที่ตาแว่นหน้าจืดคนนั้น

    “ ไอ้เด็กฝึกหัดเมื่อวานนี่.... “ ฟรอเซอิคนั้นซึ่กำลังซื้อของจุกจิกเสร็จพอดี

    “ มาทำอะไรที่นี่เนี่ย??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม

    “ อ๋อ.....ฉันเหรอ..ก็มาเที่ยวซื้อของดูเล่นเฉยๆนะ.. “ ฟรอเซอิคก็ตอบด้วยน้ำเสียงหล่อเท่

    “ ไม่ใช่ค่ะ...มาทำอะไรแถวแผนกของจุกจิก??? “ ฟอร์เต้ก็ทวนถามใหม่

    “ เอ่อคือว่า....... “ ฟรอเซอิคซึ่งกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น

    “ หรือว่า...คุณชอบ........ “ ฟอร์เต้กับคิดสิ่งที่ลึกซึ้ง

    “ จะบ้าเหรอ!!! ฉันไม่ได้ชอบของจุกจิกพวกนี้เฟ้ย!!!พิสูจน์ได้นะเฟ้ย!! ฉันจะเหยียบมันดูเลย “ ฟรอเซอิคก็กล่าวอย่างรีบร้อนพร้อมทั้งจะขว้างมันลงพื้นเพื่อเหยียบ

    “ เฮ้ย!!!นั่นมันสินค้าของๆตูนะเฟ้ย “ เจ้าของร้านผู้หญิงนั้นก็จ้องด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยว

    “ เอ่อ...ล้อเล่นจ้า... “ ฟรอเซอิคก็บอกว่าล้อเล่นเพื่อบรรเทาอารมณ์โกรธเกรี้ยวของแม่ค้า

    “ ว่าไง??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม

    “ คือว่าฉัน....มาซื้อของให้ผู้หญิงคนนึงนะ...... เหอๆ “ ฟรอเซอิคก็ตอบ

    “ ผู้หญิงเหรอ?????หรือว่า แฟนคุณงั้นเหรอ??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม

    “ เฮ้ย...ยังไม่ถึงหรอกน้า....แค่..กำลังคบหาดูใจกันอยู่นะ.... “ ฟรอเซอิคก็กล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขาและผู้หญิงสาวที่ว่า

    “ ถ้างั้นคุณ......... “ ฟอร์เต้ก็เริ่มคิดอะไรที่มันลึกซึ้งอีกครั้ง

    “ ว่าแต่เธอมาทำอะไรที่นี่ละ??? เหอๆ “ ฟรอเซอิคนั้นก็รีบถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

    “ อ๋อ วันนี้เป็นของฉันที่มาเฝ้าที่นี่นะ “ ฟอร์เต้ก็บอกกับฟรอเซอิค

    “ อืมงั้นเหรอ???? ว่าแต่ขอให้มีความสุขกับงานนะ ส่วนฉันกำลังจะไปดูของเกี่ยวกับผักก่อนนะ “ ฟรอเซอิคกล่าวแล้วรีบชิ่งไปเลยพร้อมพรางคิดในใจว่า

    “ เด็กบ้าเอ๊ย......... “

    ฟอร์เต้นั้นก็เดินไปดูของต่างๆ ผ่านไปประมาณ 20 นาทีนั้น

    “ กริ้ง!ๆๆๆๆๆๆๆ “ ทันใดนั้นมีเสียงโทรศัพท์ทีมีการตรวจพบนั้นก็ดังขึ้น

    โทรศัพท์ของทั้ง 3 นั้นก็ดังพร้อมกัน ทั้ง 3 ก็เปิดโทรศัพท์ดูตำแหน่ง เมื่อทั้ง 3 พบตำแหน่งนั้น ฟอร์เต้กับซากินั้นตกใจอย่างมากที่มันอยู่ข้างหลังรูบี้

    รูบี้นั้นก็ตกใจแล้วหันไปดู พบว่ามีปีศาจตัวร่างใหญ่ มือข้างขวาเป็นก้ามคีบที่สามารถตัดทุกอย่างได้สบาย

    รูบี้นั้นก็ไหวตัวทันจึงรีบหนีไปที่ซอยมืดแถวนั้นแล้วก็เปลี่ยนตัวเองเข้าสู่โลกมิติวิญญาณ

    รูบี้ก็วิ่งกลับมาที่เดิมพร้อมกับเห็นปีศาจตนนั้นเริ่มทำร้ายร่างวิญญาณของชายคนนึง

    เธอก็วิ่งเข้าไปเตะปีศาจตนนั้นล้มกระเด็น

    “ คุณคะ เป็นอะไรไหม??? “ ฟอร์เต้ก็เข้าไปดูแลอาการของชายคนนั้น

    ปีศาจตนนั้นก็เริ่มลุกขึ้นมาอีกครั้ง รูบี้นั้นชักดาบของตนออกมาจากข้างหลังในฝักดาบสั้นแต่เมื่อหยิบมันออกมากลับเป็นดาบที่ยาวมาก

    ดาบของรูบี้นั้นยาวมากๆจนมีความสูงมากกว่าตนเสียอีก

    “ หยา!!! “ รูบี้ก็วิ่งเข้าฟันใส่ปีศาจตนนั้น

    ปีศาจตนนั้นก็ใช้ก้ามคีบเข้าเพื่อจะหนีบร่าง

    “ เชือด!!!!!! “ ดาบของรูบี้นั้นฟันผ่ากลางก้ามคีบ

    ปีศาจตนนั้นก็ตะโกนเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด รูบี้นั้นก็ไม่ปล่อยไว้จึงกระโดดขึ้นบนฟ้าแล้วเจ้าฟันกลางหัวมัน
    “ เชือด!!!!! “ ร่างกายของปีศาจตนนั้นก็ถูกฟันแบ่งเป็น 2 ส่วน

    รูบี้นั้นสามารถกำจัดได้อย่างสบาย

    “ รูบี้ไม่เป็นไรนะ!!! “ ซากิกับฟอร์เต้ก็รีบวิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วงในชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ

    “ ไม่เป็นไรหรอกน่า... “ รูบี้ก็ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะคว่ำไอ้ตัวใหญ่นี่ได้ “ ซากิอึ้งกับผลงานของรูบี้

    “ เหอๆ แค่สบายๆน่า.. ว่าแต่พวกเธอมาหาฉันทำไมเหรอ?? “ รูบี้ก็ถาม

    “ อ๋อ แค่เป็นห่วงนะ ที่มันอยู่ตำแหน่งเดียวกับเธอ พวกฉันก็กลัวว่ามันอาจจะทำร้ายเธอจากโลกวิญญาณข้ามโลกมนุษย์ได้


    สักพักนึงบนอากาศ เกียวโตโซน 4 ได้มีร่างของชาย 2 คนในโลกวิญญาณปรากฏตัวขึ้น ชายคนนึงผมสีทองสั้น ซึ่งสวมผ้าคลุมปิดบังร่างสีฟ้าอมขาว นัยน์ตาสีน้ำเงิน กับชายผมดำยาว ชุดผ้าคลุมแดงอมขาว มีหน้ากากปิดใบหน้าแก้มด้านซ้าย

    ทั้ง 2 นั้นก็เข้าพุ่งลงบนพื้น แล้วจ้องมองไปทั่วทุกทิศก็พบแต่มนุษย์ที่อยู่ในโลกมิติขอมนุษย์ซึ่งไม่เห็นพวกเขา

    “ นายท่านครับ นี่คือ เมืองโตเกียวโซน 4 ขอรับ “ ชายหนุ่มผมทองก็กล่าวรายงาน

    “ หึหึ พวกมนุษย์นี่เต็มไปหมดเลย พวกเผ่าน่าสมเพช “ ชายหนุ่มผมยาวดำก็กล่าวพูดจาดูถูก

    “ นี่เรามาทำอะไรที่โลกมนุษย์เหรอครับ???ท่านกาโอ “ ชายหนุ่มผมทองก็ถาม

    “ ก็มาดูชั้นเชิงของพวกเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณยังไงเล่า และฆ่าเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณให้ได้มากที่สุด!! “

    ชายหนุ่มผมยาวดำนาม กาโอ ซึ่งกำลังหัวเราะแล้วก็พุ่งวิ่งในย่านตลาดแห่งนี้

    “ หึ!!!!!! “ ทั้ง 3 นั้นก็ได้รู้สึกถึงไอพลังอันแข็งแกร่งลึกลับที่มาบนโลก

    “ เฮ้ย!!!กรรมบรม!! “ ฟรอเซอิคนั้นซึ่งกำลังจ่ายตลาดอยู่นั้นก็ได้รู้สึกเช่นเดียวกัน

    ชายทั้ง 2 นั้นก็มาปราฏฎตัวต่อหน้าพวกฟอร์เต้

    “ นี่พวกนายมาสนุกกันดีกว่านะ “ กาโอนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม

    (เกร็ดน่ารู้ สิ่งที่อยู่บนโลกมิติวิญญาณนั้นสามารถจะส่งกระทบต่อโลกมนุษย์ได้)
  17. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 5

    ซากิกับฟอร์เต้นั้นก็วิ่งไปที่สนามลานกว้างเพราะตรวจจับพลังวิญญาณที่รุนแรงที่นั้น ส่วนรูบี้ก็คอยเลาะตระเวนในย่านตลาด

    ซากินั้นเมื่อได้รู้สึกถึงสัมผัสของสิ่งที่เลวร้ายและรุนแรงแบบนี้จึงพยายามรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อขอกองหนุนจากศูนย์เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ

    “ ตอบด้วย!!!นี่ ซากิ Alpha 2 ตอบด้วย มาที่โตเกียวโซน 4 เดี๋ยวนี้เลย!!! “ ซากินั้นก็โทรขอกองหนุนจากศูนย์

    “ ซากิ!!!! “ ฟอร์เต้นั้นก็เรียกซากิแล้วชี้บางอย่างที่อยู่ข้าง

    มีควันพุ่งเต็มทางเดินในย่านตลาด เมื่อจางลงก็ปรากฏร่างของชาย 2 คน

    “ พวกเจ้าคือ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณสินะ??? หึหึหึ “ กาโอนั้นก็พูดด้วน้ำเสียงที่ดูน่ากลัว

    “ พวก....แก....เป็นใครกัน??? เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณจิตต่ำงั้นหรือ??? “ ซากิก็ถาม

    “ ฉันนะ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณและมนุษย์หรอก “ กาโอก็ตอบไปด้วยใบหน้ายิ้มแต่แฝงด้วยความโหดเหี้ยม

    “ ว่าไงนะ!!! “ ฟอร์เต้เมื่อได้ยินก็ตกใจ

    “ ถ้างั้นแก...... “ ซากินั้นก็อึ้ง

    “ หึหึหึ “ ชายทั้ง 2 คนนั้นก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว

    “ สเปคเตอร์ ยังไงเล่า หึหึหึ “ ชายผมยาวดำก็บอก

    “ พวกปีศาจที่มีพลังวิญญาณชั้นสูงงั้นเหรอ??? “ ฟอร์เต้เมื่อได้เห็นพวกสเปคเตอร์ครั้งแรกนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวถึงพลังอันน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ข้างใน

    ชายผมยาวดำนั้นซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าของทั้ง 3 ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ แต่อยู่ดีๆก็มาโผล่ข้างหน้าซากิจากนั้นก็ชักดาบเข้าฟันใส่

    “ ฉันชื่อ กาโอ Specter No.19 ยินดีที่ได้รู้จัก “ กาโอก็แนะนำตัวแล้วเข้าฟันทันทีทันใด

    ซากินั้นก็เอาดาบมากันไว้ได้ทันจากนั้นทั้ง 2 ก็เริ่มต่อสู้กัน

    “ หึย!!!! สายฟ้าพิฆาต!!! “ ซากิก็ฟันใส่สร้างคลื่นพลังแสงที่มีพลังงานไฟฟ้าสูงใส่กาโอ

    กาโอก็ใช้ดาบคาตะนะของตนรับการโมตีไว้ได้

    “ หึย...ไม่เลวนี่แก.. “ กาโอนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปหาซากิ

    “ ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ กาโอนั้นกลับกลายเป็นฝ่ายฟันฝ่ายเดียว แต่ซากิก็สามารถใช้ดาบของตนรับได้ทันแต่เขากลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ

    จากนั้นซากิก็เริ่มเป็นฝ่ายบุกมั้งจึงเอาดาบเข้าฟัน กาโอก็เอาดาบมาฟันซากิอีก ดาบทั้ง 2 ก็เข้าประชิดงัดกัน

    “ นายชื่ออะไรเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง???? “ กาโอก็ถาม

    “ ซากิ....โทจิโร่ ซากิ เจ้าหน้าที่หน่วย Alpha หมู่ 2 “ ซากิก็แนะนำตัว

    ทั้ง 2 นั้นก็เริ่มใช้พลังเข้างัดดาบกัน

    “ ชริ้ง!!!!! “ กาโอนั้นเป็นฝ่ายที่งัดชนะ ร่างของซากินั้นก็กระเด็นถอยออกไป

    “ เสร็จฉันแล้วเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ!! “ กาโอก็เข้าโจมตีใส่ตอนทีซากิไม่ทันตั้งตัว

    ซากินั้นก็ใช้ดาบปล่อยท่าสายฟ้าพิฆาตใส่

    “ ชริ้ง!!!!!!! “ กาโอก็ทำลายคลื่นลำแสงไฟฟ้าของซากิอย่างง่ายดาย

    จากนั้นซากิก็ใช้โอกาสนั้นตั้งตัวได้ทัน

    “ ร้ายกาจจริงๆนายนะ “ ซากิก็กล่าวชมเชยต่อฝีมือของกาโอ

    “ เชอะ ไม่เห็นจะสนุกเลยวะ “ กาโอก็กล่าวทำหน้าสลด

    “ ว่าไงนะ??? “ ซากิก็รู้สึกโกรธที่กาโอพูดจาประชดที่กระทบฝีมือของตน

    “ หึย!!ต่อจากนี้ไปของจริงแล้ว!!!! “ ซากิก็บอกแล้วก็ถือดาบในท่าเตรียมพร้อม

    ซากินั้นก็ถือดาบชี้ไปที่กาโอ

    “สายฟ้าคำราม!!! “ ทันใดนั้นดาบของซากินั้นก็มีลำแสงไฟฟ้าต่อเติมบนปลายดาบซึ่งเพิ่มความยาวของดาบและมีพลังไฟฟ้าหมุนเวียนบนข้อมือที่จับดาบไว้

    “ ไม่สำเร็จหรอก “ สเปคเตอร์ผมทองสั้นที่มากับกาโอนั้นก็พูด ฟอร์เต้นั้นก็ได้ยินคำพูดของชายคนนั้นจึงไม่พอใจ

    “ จะบ้าเหรอ??? ท่าสายฟ้าคำรามเป็นท่าที่สร้างความรุนแรงได้แม้แต่วิญญาณทุกดวงเลยนะ “ ฟอร์เต้ก็บอกเพื่อลบล้างคำพูดของชายผมสั้น

    “ ถึงจะร้ายกาจแค่ไหนแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นขั้นที่รุนแรงหรอก สำหรับกาโอแล้ว เจ้าหน้าที่คนนั้นก็นั่นเป็นแค่เศษเสี้ยวเท่านั้นเอง “ สเปคเตอร์ผมทองก็กล่าวพูดจาเหมือนกับนิ่งเฉยไร้อารมณ์ เขาไม่เคยจะแสดงสีหน้าให้ใครเห็นเลยแม้แต่กาโอ

    “ ย้าก!!!!!!!! “ ซากินั้นก็วิ่งเข้าพุ่งจากนั้นก็ฟันผ่าลงร่างของกาโอ

    “ บึ้ม!!!!!!!!! “ พื้นที่บริเวณนั้นก็ระเบิดเป็นคลื่นลูกใหญ่

    บังเกิดควันฝุ่นละอองหมุนทั่วรอบพื้นที่

    ซากินั้นก็เก็บพลังเป็นเหมือนเดิมแล้วมองไปที่กาโอ เมื่อควันจาลงนั้น

    “ เฮ้ย!!!ไม่จริง!!!!! “ ซากินั้นก็ตกใจเมื่อตนคาดการณ์ผิดไป

    เมื่อควันที่ปกคลุมกาโอนั้นจางลงนั้นพบว่ากาโอนั้นใช้ดาบกันไว้เหลือแต่พื้นที่รอบตัวเขาเละต่างจากร่างของกาโอ

    “ หึหึหึ แค่นี้เองรึ??? ต่อไปฉันขอบ้างละนะ ที่นี้ไม่เว้นให้แล้วละนะ “ กาโอนั้นก็กล่าวพูดจาด้วน้ำเสียงดูเย็นชา

    “ เห็นไหมล่ะ การคำนวณของผมไม่เคยพลาดหรอก “ สเปคเตอร์ผมทองนั้นก็กล่าวถูตามคาด

    ฟอร์เต้ก็อึ้งกับการคาดการณ์ของสเปคเตอร์คนนั้น

    “ ว่าแต่ว่าคุณชื่ออะไรเหรอครับคุณผู้หญิง??? “ สเปคเตอร์ผมทองก็ถามชื่อของฟอร์เต้

    “ฟอร์ทิสซิโม เครสเซนโด้ “ ฟอร์เต้ก็ตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เหมือนไม่พอใจ

    “ กระผมชื่อ เกรฟเซอร์ ฟัสช์ “ สเปคเตอร์ผมทองคนนั้นก็แนะนำตัว

    “ หลังจากที่คู่นี้เสร็จแล้วอย่าลืมเตือนผมด้วยละกัน ว่าผมจะลองสู้กับคุณ “ เกรฟเซอร์ก็กล่าว

    กาโอนั้นก็เตรียมตั้งท่าสู้อีกครั้ง

    “ เตรียมรับมือซะ!!! “ กาโอก็เข้าจู่โจมอย่างว่องไว

    การเคลื่อนไหวของกาโอนั้นรวดเร็วมากไม่เหมือนเมื่อตอนที่ออมมือให้ซากิ

    “ หยา!! “ กาโอนั้นก็เข้าไปโผล่ข้างหน้าของซากิ โดยที่ซากินั้นแทบจะอ่านการเคลื่อนไหวไม่ทันเลย

    “ เชือด!!!! “ กาโอนั้นก็ฟันที่บนผิวหนังหัวไหล่มีรอยบาดแผลจากดาบของกาโอ

    ซากินั้นแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตนถูกฟัน

    “ นี่มันอะไรกันเนี่ย??? “ ซากิก็อึ้งตะลึงกับการเคลื่อนไหว การโจมตี และพลังอันแท้จริงของกาโอ

    กาโอนั้นก็เตะใส่ซากิ เขาชกต่อยใส่ซากิเหมือนนักเลงและยังเข้าเตะต่อยไม่หยุดเลย

    ซากินั้นเมื่อโดนถีบเตะต่อยจนยับจึงคุกเข้าลงไปด้วยอาการสาหัส

    เลือดของซากิก็ไหลทะลักออกมาจากปาก ซากินั้นก็กำลังจะล้มฟุกแต่เขาก็เอาแขนทั้ง 2 มายันพื้นได้

    “ นี่ฉันประเมิณนายสูงไปเหรอนี่... “ กาโอก็พูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

    “ คงพอได้แล้วละนะ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ “ กาโอนั้นก็ง้างดาบขึ้นมาฟ้า

    “ ตื่นมาซะ ดาบของฉัน!!! “ เมื่อกาโอพูดนั้นดาบของกาโอก็เริ่มแปรสภาพพร้อมเปล่งแสงจากดาบคาตะนะธรรมดากลายเป็นดาบเล่มยาว ด้ามจับสีเงินทำจากเหล็กและมีเส้รเชือกสีดำมัดไว้ที่ข้างล่างโกร่งดาบ

    “ นี่คือดาบที่แท้จริงของฉัน ดูไว้ซะจะไม่เสียชาติเกิด!!! “ เมื่อกาโอพูดเสร็จนั้นก็เอามือที่จับดาบฟันลงที่ซากิ

    “ ซากิ!!!! “ ฟอร์เต้ก็กำลังจะเข้าไปช่วยนั้นแต่ก็ถูกเกรฟเซอร์เข้ามาขวางไว้

    จากนั้นก็เปล่งเสียง “ ชริ้ง!!!!!! “

    “ เหอ??? “ กาโอนั้นก็สงสัยเมื่อมีง้าวลึกลับเข้ามาขวางดาบที่กำลังฟันลงมาไว้ได้

    “ ใครวะ??? “ กาโอก็หันไปเห็นชายคนนึงในชุดผ้าคลุมสีขาว

    “ ว่าไง สเปคเตอร์ “ ชายคนนั้นคือ ฟรอเซอิค
  18. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 6

    กาโอกับฟรอเซอิคนั้นก็จ้องมองหน้ากัน ทั้ง 2 ก็เพ่งจ้องกันด้วยสายตาที่น่าเกรงขาม

    “ ฉันคือ ฟรอเซอิค เจ้าหน้าที่ชั้นสูงหน่วย Delta หมู่ 3 “ ฟรอเซอิคก็กล่าวแนะนำตัวก่อนสู้

    “ หึหึหึ ฉัน กาโอ เจฟก้า สเปคเตอร์ No.19 ยินดีที่ได้รู้จัก “

    กาโอนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีด้วยดาบยาวของตน ฟรอเซอิคนั้นก็ใช้ง้าวเข้าแทงใส่ เพื่อปัดการโจมตี

    การต่อสู้ของทั้ง 2 นั้นเหมือนกับพยัฆกับมังกรเสียจริงๆ ต่างๆฝ่ายต่างฝ่ายร้ายกาจทั้งคู่

    “ หึย!!!! ตายซะแก!!! “ กาโอนั้นก็ชูฝ่ามือไปข้างหน้าที่ฟรอเซอิค

    ฝ่ามือของกาโอนั้นก็ปล่อยลำแสงเลเซอร์สีดำยาวออกไป

    “ หึย!!!! “ ฟรอเซอิคก็เอาง้าวของตนมากันไว้ได้

    ไม่ทันใดนั้นกาโอก็ไปโผล่อยู่ข้างหลัง ฟรอเซอิคนั้นก็รู้สึกถึงพลังของกาโอจึงหันไป

    “ สายไปแล้วละ “ กาโอก็ชาร์จลำแสงที่ฝ่ามือแล้วยิงใส่

    กาโอก็ยิงใส่ฟรอเซอิค

    “ หึหึหึ คิดว่าใครเร็วกว่ากันแน่ “ ทันใดนั้นฟรอเซอิคนั้นก็ไปโผล่อยู่ข้างหลังของกาโอ

    กาโอนั้นก็ตกใจแล้วก็หันมาตอนที่ฟรอเซอิคเอาง้าวฟันใส่

    “ ชิ้ง!!!!!!!! “ กาโอก็เอาดาบมากันไว้ได้

    “ หึย!!!!ชักจะสนุกขึ้นมาแล้วละสิ!!! “ กาโอก็ทำหน้าดีอกดีใจจากนั้นก็เข้าโมตีอีกรอบ

    “ หยา!!!! “ กาโอก็เข้าฟันอย่างว่องไว

    ฟรอเซอิคนั้นก็เริ่มเข้าโจมตีอีกครั้ง

    “ ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 นั้นก็ต่อสู้กัน

    กาโอนั้นก็ปล่อยลำแสงเข้าพุ่งใส่แต่ฟรอเซอิคก็หลบได้ พื้นก็เกิดเสียงระเบิด “ ตู้ม!!! “ ฟรอเซอิคก็กระโดดออกมาจากกลุ่มควันดำ

    “ หึย!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็รู้สึกว่าการโจมตีกาโอนั้นเป็นเรื่องที่ยาก

    “ หยา!!! “ ทันใดนั้นกาโอก็พุ่งบินผ่านควันดำไปที่ฟรอเซอิคบนฟ้า

    กาโอก็ชักดาบออกมาแล้วเข้าฟัน

    “ ชริ้ง!!!!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็เอาง้าวเข้ามาเสียบกันไว้ได้ จากนั้นก็เกิดการต่อสู้กันบนฟ้า

    “ ฮ่าๆๆ!! สู้กับนายนี่สนุกจริงๆเลยแหะ “ กาโอก็กล่าวพร้อมหัวเราะเหมือนคนบ้า

    ฟรอเซอิคนั้นก็ได้ปัดกาโอถอยออกไปจากนั้นก็ลงมาบนพื้น

    “ เฮ้ย!!! จะสู้กันบนพื้นงั้นเหรอ??เดี๋ยวจัดให้!!! “ กาโอนั้นก็พุ่งลงไปบนพื้น

    “ นายติดกับฉันแล้วละ กาโอ เจฟก้า “ ฟรอเซอิคก็กล่าวจากนั้นก็ตั้งง้าวขึ้น

    “ In the land of blue!! “ ฟรอเซอิคก็ได้ใช้พลังเวทย์

    เมื่อกาโอลงมาบนพื้นนั้นเขาก็โดนไอความเย็นที่เริ่มกลายเป็นน้ำแข็งบนพื้น ขาทั้ง 2 ข้างของกาโอนั้นก็โดนตรึงไว้

    “ เวรแล้วไงตู!!! “ กาโอก็โดนวางกับดัก

    “ เอาละนะ!!! ถึงเวลาตายของนายแล้ว!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็จับบีบง้าวแล้วเข้าพุ่งโจมตี

    “ หยา!!!!เชือด!!!!!!! “ ฟรอเซอิคนั้นก็ฟันร่างของกาโอ

    เลือดก็พุ่งทะลักออกจากรอยแผลบนหน้าอก บนหน้าลำตัวนั้นได้บังเกิดเป็นรูปรอยบาดแผลจากคมง้าวซึ่งไม่ทันใดก็มีน้ำแข็งปกปิดแผล ทำให้กาโอนั้นต้องโดนไอน้ำแข็งที่เกาะตรงบาดแผลแผ่ความเย็นทำให้บนหน้าอกของตัวเอง

    “ หนอยแก.... “ กาโอนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถสู้ได้

    ทันใดนั้นเองน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วพื้นที่นั้นก็แตะกระจายเป็นเศษแก้วเพราะหมดผลเสียก่อน

    “ ตุ๊บ!!!! “ ร่างของกาโอก็ล้มลงไป

    “ นายท่าน!!! “ เกรฟเซอร์ สเปคเตอร์ที่มากับกาโอนั้นก็รีบวิ่งไปดูอาการ

    เกรฟเซอร์นั้นก็เข้าไปดูอาการของกาโอ แต่กาโอนั้นยังไม่ถึงฆาตเสียหรอก

    “ ฝ่ายของผมเป็นฝ่ายแพ้เสียแล้วสิ ถ้างั้นกระผมก็ขอกลับไปยังโลกของผมก่อนนะครับ “ เกรฟเซอร์นั้นก็ได้ฝ่ามือนั้นสร้างประตูแสงสีม่วงอมดำขึ้นมาจากนั้นแบกร่างของกาโอเข้าไป

    ซากินั้นก็ได้เห็นรูปแบบการต่อสู้ของสเปคเตอร์นั้นก็ถึงกับต้องรีบฝึกฝนเพื่อสู้กับเหล่าสเปคเตอร์ที่แข็งแกร่ง

    “ พวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ แข็งแกร่งจนไม่มีใครรับมือได้ “ ซากิเริ่มเกรงกลัวพวกสเปคเตอร์

    ฟอร์เต้นั้นก็ไม่ต่างไปจากซากิเท่าหรอก เธอก็เริ่มรู้จักเป็นครั้งแรกกับพวกสเปคเตอร์และรู้จักกับคำว่ากลัวในโลกวิญญาณที่แท้จริง

    “ สเปคเตอร์ ดวงวิญญาณปีศาจที่ตายแล้วกลับนำมาหลอมรวมใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุด “ ฟอร์เต้ก็เริ่มกังวลเรื่องของพวกสเปคเตอร์อย่างมาก

    โลกใบนี้เริ่มกลับต้องพบกับพวกสเปคเตอร์ ซึ่งพวกเขาจะทำยังไงต่อไป


    ปล.ช่วยคอมเม้นท์ให้ทีนะ
  19. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ตามอ่านมาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้เม้นท์ตลอด เพราะติดทำงานนะครับผม

    สองตอนที่ผ่านมา อือม์ = = เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณนอกรอบแอบรั่ว ไม่แอบละ รั่วเลย ฟอร์เต้กับซากิรู้สึกคล้ายๆว่าเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไงไม่รู้ กาโอออกมาตอนแรกน่ากลัวมาก เหมือนมันจะฆ่าทุกคนแบบไม่ยั้งเลย ถ้าไม่มีฟรอเซอิคกันไว้คงตายหมด (ว่าแต่ไอ้นี่ก้หลายบุคลิกจริงๆ บทรั่วก็รั่ว บทเก่งก็เก่งเว่อร์ เออ ดีเหมือนกันแฮะ)

    เป็นคนที่ครีเอทฉากต่อสู้ได้เก่งนะครับ สู้กันมันส์มากจริงๆ ผูกโยงเรื่องราวใช้ได้ ตอนนี้ภาษาดีขึ้นแล้ว แต่ถ้าขึ้นไปอีกระดับหนึ่งอาจสมบูรณ์กว่านี้ แต่ไม่เป็นไรครับ สั้นๆง่ายๆแบบนี้ก็ดี ผมเองก็ไม่ชอบอ่านอะไรยืดยาว

    ผมยังติดตามเป็นกำลังใจอยู่เรื่อยๆน่อ
  20. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 7

    หลังจากที่พวกสเปคเตอร์ได้กลับมาอาละวาดอีกครั้ง ทางศูนย์เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณและเมืองวิญญาณซึ่งมีชื่อ Iris ซึ่งมนุษย์ที่ตายแล้วกลายเป็นวิญญาณนั้นก็จะมารวมตัวกันอาศัยที่เมืองนั้น ทางเมือง Iris ซึ่งได้สั่งเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณให้ตามเรื่องพวกสเปคเตอร์ให้ได้

    ฟอร์เต้นั้นก็ได้รับการเลื่อนขึ้นกลายเป็นเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณชั้นกลางโดยสมบูรณ์

    หลังจากได้รับการแต่งตั้งนั้นซากินั้นก็กลับหายตัวไป

    ฟอร์เต้นั้นก็หาทั่วห้องของซากิที่ศูนย์จนเธอได้พบกับจดหมาย 1 ฉบับ ซึ่งซากิเขียนไว้

    จดหมายฉบับนั้นเขียนไว้ว่า

    “ ฉันขอไปฝึกฝนพลังให้แข็งแกร่งเสียก่อน แล้วฉันจะกลับมาช่วยเธอ “
    ฟอร์เต้นั้นเมื่อได้อ่านเธอจึงเก็บกระดาษแผ่นนั้นแล้วเดินออกจากห้อง

    “ เจ้าบ้านั่นมันจะกลับมาอีกกี่เดืนหว่า.... “ ฟอร์เต้ซึ่งกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น

    ไม่นานนักเธอก็ได้พบกับชายหนุ่มคนนึงที่เธอเคยรู้จัก

    “ ไงฟอร์เต้ “ ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิร์ตขาวกางเกงดำนั้นก็กล่าวทักทาย

    “ คุณโคชิ??? “ เธอก็ตกใจเมื่อได้เจอกับนักฆ่าปีศาจในวันนั้น

    “ ว่าแต่ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่นะ??? “ ฟอร์เต้ก็ถาม

    “ อ๋อ....ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานนะก็เลยมาเดินเล่นแถวๆนี้แหละ “ โคชิก็พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “ อืม...... “ ฟอร์เต้นั้นก็ได้ผวนนึกถึงตอนที่ฟรอเซอิคปล่อยพลังเข้าใส่เธอแต่โคชินั้นกลับเข้ามาผลักเธอหลบจากพลังของฟรอเซอิค

    “ ขอบคุณค่ะ.... “ ฟอร์เต้ก็กล่าวขอบคุณกับโคชิร้อมโน้มคำนับ

    “ เอ๊ะเอ๋........ “ โคชิก็งง

    “ เรื่องในวันที่คุณช่วยฉันนะคะ “ ฟอร์เต้ก็บอกโคชิ

    โคชินั้นก็พึ่งจำได้ในตอนนั้น

    “ อ๋อ...ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่มันทำจนชินนะ เรื่องช่วยคนอื่น.. “ โคชิก็กล่าวบอกเกรงใจ

    “ ฟอร์เต้ได้ข่าวว่า พวกสเปคเตอร์มันกลับมาอาละวาดอีกแล้วใช่ไหม?? “ โคชิก็รู้เรื่องสเปคเตอร์ที่บุกมาเมื่อวานเช่นกัน

    “ เอ๋..คุณได้รู้เรื่องนั้นด้วยเหรอ???? “ ฟอร์เต้ก็ไม่เคยคิดว่าโคชินั้นไม่รู้

    “ ฉันนะได้ยินจากวิทยุข่าวกรองในเมือง Iris ได้ยินมาอย่างนี้แหละ “ โคชินั้นใช้เครื่องจับคลื่นวิญญาณจากเมืองซึ่งมีการสื่อสารกับศูนย์เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณบนโลก

    ทันใดนั้นมีเด็กคนนึงผมสีดำวิ่งเข้ามาหาโคชิในท่าทางรีบร้อน

    “ พี่ชาย!!!! เพื่อนพี่เจอปัญหาหนักแล้ว!!!! “ เด็กคนนั้นซึ่งน่าจะเป็นน้องชายของเขาวิ่งมาบอก

    “ ว่าไงนะ???ใครกัน?? “ โคชินั้นก็หยิบสร้อยคอเก่าแก่ออกมาจากกระเป๋าจากนั้นมีแสงเปล่งที่ตัวโคชิ โคชินั้นก็ใช้สร้อยคอเก่าแก่นั้นในการเข้าสู่มิติโลกวิญญาณ

    “ เดี๋ยวก่อนสิ โคชิ!! “ ฟอร์เต้นั้นก็เรียกโคชิจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอเข้าสู่โลกวิญญาณ

    “ ฉันขอไปด้วย “ ฟอร์เต้ก็ขอไปกับโคชิ

    “ แต่ว่า............ “ โคชินั้นก็รู้สึกเกรงใจ

    “ จริงอยู่ที่เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณจะไม่ช่วยเหลือพวกนักฆ่าปีศาจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเวรยามของฉันนิ ไปด้วยก็ไม่เสียหายนิ “ ฟอร์เต้ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

    “ อืม....ก็ได้ ตามมา “ โคชินั้นก็ยอมให้ฟอร์เต้ตามเขาไป

    ทั้ง 2 คนนั้นก็วิ่งไปที่ตรงถนนช่วงกลางคืน โคชินั้นก็วิ่งไปหาชายหนุ่มซึ่งเป็นนักฆ่าปีศาจเหมือนกับโคชิ เขากำลังต่อสู้อยู่กับปีศาจตัวใหญ่มากๆ มี 4 ขา และแขนที่ใหญ่และเล็บยาวข้างขวาและแขนซ้ายที่อีกมือถือดาบเล่มใหญ่

    ชายคนนั้นก็กระโดดเข้าข่วนใส่แต่ปีศาจตนนั้นก็ใช้ดาบเล่มใหญ่ของตนฟาดใส่เขา แต่เขาก็สามารถหลบได้ จากนั้นก็เข้ามาข้างๆ

    “ หนอยแน่ะ!!!! แปดอัคคี ถล่มภูผา!!! “ ชายคนนั้นก็ใช้ท่าโจมตีรอง

    เขาก็ปล่อยลูกไฟสีขาวออกมา 8 ดวงจากนั้น เขาก็พุ่งใช้กงเล็บเข้าจิ้มที่หน้าอกด้วยความเร็วสูง

    ปีศาจตนนั้นก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นลูกๆเข้ามามาหมุนเวียนรอบแขนของเขาแล้วก็พุ่งเข้าที่อกของปีศาจตนนั้นจากนั้น...

    “ ตู้ม!!!!!!! “ ร่างกายของปีศาจตนนั้นก็ระเบิดเป็นจุนจนเกิดควันดำขึ้นรอบถนน

    ชายคนนั้นก็เดินออกมาจากควันดำด้วยสภาพที่ยังดูดีอยู่

    “ ไงโคชิ ไม่ได้เจอกันเลยนะ “ ชายหนุ่มคนนั้นพูด

    “ คิริน??? “ โคชิก็รู้จักกับชายคนนั้น
  21. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ขออภัยครับ ไม่ได้เม้นเสียหลายตอนเลย -*- อัพเร็วจริง ๆ นะเนี่ย

    ภาษามีการพัฒนาขึ้นครับ การเชื่อมโยงหลาย ๆ จุดถือว่าดีทีเดียว แต่ผมว่าบางตอนหรือบางเหตุการณ์ดูเหมือนจะเร็ว รวบรัดไปนิดทั้ง ๆ ที่น่าจะไปต่อได้อีกหน่อย เหอ ๆ เหมือนว่าบทจะง่ายก็ง่าย ยากก็ยาก ราว ๆ นั้น

    รอตามต่อครับ ขออภัยเน้อที่ไม่ได้เข้ามาเลย -*-
  22. l2eenai2y

    l2eenai2y New Member

    EXP:
    533
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    อัพเร็วมาก -[]-

    พัฒนาขึ้นมากครับ....ไปรวดเร็วดี

    แต่มันรู้สึกขัดๆตรง "นั้นก็" อ่ะครับ (อาจเป็นผมรู้สึกคนเดียวก็ได้ = =)
  23. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 8

    “ นายมาทำอะไรที่ญี่ปุ่นกัน???? “ โคชิก็ถามทั้งทำหน้าดีอกดีใจ

    คิรินนั้นก็ทำหน้าตาแฝงรอยยิ้มที่เฉื่อยชา

    “ ฉันมาที่นี่..เพื่อ....ล้างแค้นให้แก่เพื่อนฉัน!!!!! “ คิรินก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นจากนั้นก็เข้าไปโผล่ข้างหน้าโคชิ

    “ แก!!!ไอ้สารเลว!!! “ คิรินก็เข้าไปโผล่อยู่ข้างหน้าจากนั้นก็ใช้กงเล็บเข้าทิ่มใส่

    “ เชือด!!! “ คิรินนั้นโจมตีจากโลกวิญญาณเข้ามาใส่โคชิในร่างที่อยู่โลกวิญญาณ

    โคชินั้นมีบาดแผลตรงแถวไหล่ขวา จากนั้นโคชิก็หยิบสร้อยโบราณออกมาเพื่อเข้าไปสู้กับคิริน

    “ นายเป็นอะไรของนายเนี่ย??? “ โคชิก็ใช้เคียวกันการโจมตีของคิรินไว้ได้

    “ ฉันจะล้างแค้นเพื่อนที่ตายในคฤหาสถ์ฟรานเชส!!!! “ คิรินก็พูดพร้อมกับส่งแววตาที่มีแต่ความโกรธแค้น

    “ หยา!!! “ คิรินนั้นก็ใช้กงเล็บนั้นเข้าทิ่มโจมตีใส่อย่างว่องไว แต่โคชินั้นก็ขยับโยกตัวหลบได้

    “ คิริน นายพูดเรื่องอะไรของนายกัน??? เรื่องที่ปราสาทฟรานเชส???? “ โคชิก็งงกับเรื่องที่คิรินพูด

    “ ไอ้สารเลว!!!นายจำไม่ได้งั้นเหรอ งั้นฉันจะสงเคราะห์แกเหมือนดังที่แกทำกับเพื่อนของฉันที่ตายในนั้นซะเลย!! “ คิรินก็เข้าโจมตีใส่ไม่หยุด

    “ คิริน!!!ฉันไม่เข้าใจเลย??? เรื่องปราสาทฟรานเชสนั้นฉันไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย??? “ โคชิก็ยังคงสงสัยอยู่

    “ ฉันจำนายได้!!! นายฆ่าพวกเขาต่อหน้าฉัน!!!นายถือเคียวหันหลังให้ฉัน!!!นายส่งแววตาเหมือนปีศาจให้ฉัน!!! นายถือเคียวคู่เล่มโตเข้ามาฆ่าฉัน!!! “ คิรินก็บอกทุกอย่างจากนั้นก็ใช้กงเล็บพุ่งใส่ไม่ยั้งอีกครั้ง

    “ ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆ ชิ้ง!!! “ โคชินั้นก็ใช้เคียวเข้ามากันการโจมตีแล้วก็เข้าไปงัดประชิดตัวคิริน

    “ ฉันนะมีอาวุธคือเคียวเล่มเดียว!! “ โคชิก็บอกคิริน

    “ ไม่จริง!!!!!! ทั้งลายสักหมายเลข 13 บนท้ายทอยแกฉันยังเห็นในวันนั้นด้วย!!! “ คิรินก็บอกหลักฐานอื่นเพื่อยืนยันว่าเป็นโคชิ

    “ ว่าไงนะ???ลายสักของฉันงั้นเหรอ??? “ โคชิก็หยุดโจมตีแต่คิรินนั้นก็ยังโจมตีใส่ต่อ

    “ ใช่แล้ว!!!ทั้งทรงผมแถมใบหน้า!!!! หมอนั่นมันก็คือนายยังไงเล่า!!! “ คิรินก็ตะคอกใส่จากนั้นเขาก็เริ่มใช้ท่ารองด้วย

    “ แปดอัคคี ถล่มภูผา!!!!!! “ คิรินก็ปล่อยลูกไฟทั้ง 8 ออกมา

    ลูกไฟทั้ง 8 นั้นก็เข้าไปในปลอกแขนกงเล็บของคิรินซึ่งมันทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของกงเล็บ

    “ ตายซะ!!!!โคชิ!!!!! “ คิรินก็เข้าโจมตีจากบนอากาศพุ่งลงมาบนพื้น

    โคชิก็เตรียมเอาเคียวมาชูบังรับการโจมตี

    “ ชิ้ง!!!ชิ้ง!!ชิ้ง!!ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆ “ เขาโจมตีใส่โคชิอย่างรุนแรง จนการโจมตีนั้นเร็วขึ้นมาก

    โคชินั้นก็ใช้เคียวรับไว้หมด จนเขานั้นเกือบจะรับได้ไม่ไหวแล้ว

    “ หนอยแก!!! “ โคชินั้นก็ถอยออกมาจากนั้นใช้เคียวเพื่อเข้าโจมตีใส่ คิรินก็เข้าโมตีใส่เช่นกัน

    “ ชิ้ง!!ชิ้ง!!ชิ้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ทั้ง 2 ก็ต่อสู้ผลักการบุกผลัดการรับ

    “ เสี้ยวจันทรา “ โคชิก็ฟันใส่กลายเป็นคลื่นเข้าพุ่งใส่คิริน

    แต่ด้วยความว่องไวของคิรินนั้นก็หลบได้หมด จนลูกคลื่นสุดท้ายนั้นเข้าตรงที่คิรินพอดี

    “ ตู้ม!!!!!!!! “ จนกลายเป็นการระเบิดลูกใหญ่จนเกิดควันดำปกคลุมทั่วถนน

    ทันใดนั้นคิรินก็กระโดดออกมาจากควัน ยืนอยู่บนฟ้า

    “ นาย!!!!!!ฉันจะฆ่านายในวันนี้ให้ได้!!!!!! “ คิรินกล่าวแล้วพุ่งลงมา

    “ พอได้แล้วละนาย!! “ โคชินั้นก็กระโดดเข้าพุ่งขึ้นไปหาพร้อมกับคิรินจากนั้นทั้ง 2 ก็สู้กันบนฟ้า

    ฟอร์เต้เห็นดังนั้นรู้สึกไม่ค่อยดีเอาเสียเลย เธอจึงจะหยิบโทรศัพท์ของตนออกมาแต่น้องชายตัวเล็กของโคชินั้นก็ห้ามไว้

    “ อย่านะครับ!!!จะขัดขวางการต่อสู้ของทั้งคู่ไม่ได้เป็นอันขาด “ น้องชายของโคชิก็ห้ามปรามไว้

    “ ทำไมละ!!!เธอจะปล่อยให้เขาฆ่ากันตายกันงั้นหรือ??? “ ฟอร์เต้นั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

    “ ถ้าคุณเข้าไปห้ามนะ มันถือเป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีของคุณโคชินะครับ และยังทำให้คุณคิรินก็โกรธอีกด้วยนะครับ ผมว่าปล่อยให้พวกเขาจัดการเองยังดีกว่า “

    น้องชายของโคชินั้นเมื่อพูดเสร็จก็ไปมองการต่อสู้ของทั้ง 2

    “ คุณคิรินนะเป็นเพื่อนกับพี่ของผมมาตั้งแต่เด็ก ยังไงผมว่าทั้ง 2 ต้องปรับความเข้าใจได้แน่ “

    น้องชายของโคชินั้นก็บอกถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ให้ฟอร์เต้ได้ฟัง เมื่อเธอรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์เหมือนดั่งพี่น้องเธอจึงไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง

    “ จริงสิ!!คนอย่างคุณชินะ ต้องหาทางจะทำให้คุณคิรินได้เข้าใจแน่ “ ฟอร์เต้ก็มองดูการต่อสู้ของทั้ง 2

    ทั้ง 2 นั้นเมื่อสู้ไปสักพัก โคชิก็กระโดดถอยออกมา ยืนบนฟ้า

    “ คิริน นายต้องฟังฉัน!!! ฉันไม่ได้ฆ่าเพื่อนของเราเลยนะ แนสาบานได้ เรื่องนั้นแนไม่เคยรู้มาก่อน!! “ โคชิก็พยายามบอกให้คิรินเข้าใจ

    “ หนอยนาย!!!!! “ คิรินนั้นยังไม่ยอมฟังจากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาโคชิอีก

    “ ฉันขอปิดฉากนาย!!!นายละกัน!!!มหาวิหคแสง...!! “ คิรินนั้นจะใช้ท่าไม้ตายขั้นสุดยอดนั้นแต่โคชินั้นก็เข้าไปโผล่ข้างล่างในช่วงที่คิรินเผยจุดอ่อน

    “ หยา!!เริงระบำบุปผา!!! “ โคชินั้นก็ใช้ท่าไม้ตายไว้กว่าคิริน

    “ เฮ้ย!!!อะไรกัน!!!! “ คิรินนั้นก็ตกใจเมื่อโคชิมาอยู่หลังตน

    คิรินนั้นเมื่อหันไปข้างหลังนั้น พื้นที่ทั้งหมดก็กลายเป็นทะเลทราย เขาก็เห็นปีศาจตนนึงในชุดผ้าคลุมทั้งตัวปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากปีศาจ ถือเคียวเล่มใหญ่

    “ ย้าก!!!!! “ มันก็ตะโกนคำรามแล้วฟาดเคียวใส่จนเกิดคลื่นพลังเข้ามาหาคิริน

    คิรินนั้นก็จะกระโดดหลบนั้นแต่ว่าบนข้อเท้าของเขานั้นเหมือนกับโดนอะไรยึดไว้อยู่

    “ หา!!!!! “ คิรินนั้นก็โดนปีศาจจำนวนมากน่าตาขยะแขยงกำลังเข้ามาจับขาตรึงตัวไว้

    “ ตู้ม!!!! “ คิรินนั้นก็โดนคลื่นนั้นเข้าโมตีอัดเต็มๆ

    คิรินนั้นก็ลอยกระเด็นออกมาจนออกจากโลกเสมือนจริงที่ท่าไม้ตายของโคชิสร้างไว้

    “ ปั๊ก!!!!!!! “ หัวคิรินนั้น็ลงไปกระแทกกับเสาไฟ

    “ คิริน!!!!! “ โคชินั้นก็รีบพุ่งมาหาคิริน

    “ คุณคิริน!!! “ น้องของโคชินั้นก็วิ่งไปหาคิริน ฟอร์เต้เมื่อเห็นดังนั้นเธอก็วิ่งตามน้องของโคชิ


    โคชินั้นเมื่อเดินมาหา เขาก็ใช้สร้อยของคิรินเพื่อนำเขาเข้ามาในโลกมนุษย์จากนั้นก็นำตนเข้าสู่โลกมนุษย์เช่นกัน

    ฟอร์เต้ก็กลับมายังโลกมนุษย์ด้วยโทรพศัพท์ตนแล้ววิ่งเข้าไปดู

    “ คุณโคชิ!!! คุณคิรินเป็นอะไรมากมั้ย?? “ ฟอร์เต้ก็ถาม

    “ ไม่เป็นไรหรอก ฉันยังไม่ได้เอาจริงอะไรมาก แค่สลบไปนะ “ โคชิบอกฟอร์เต้ ทั้ง 2 ก็ช่วยกันพยุงคิรินขึ้นมา

    ฟอร์เต้นั้นก็เห็นที่ศีรษะของคิรินนั้นมีเลือดไหลออกตามศีรษะไม่หยุด

    “ แย่แล้ว!!! “ ฟอร์เต้ก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนออก

    ฟอร์เต้ก็ใช้ผ้าเช็ดหน้ามากดแผลบนศีรษะของคิริน

    “ คุณคิริน!!!เรารีบพาเขาไปโรงพยาบาลกันเถอะ!! “ ฟอร์เต้นั้นก็บอกโคชิให้พาคิรินไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

    “ อืม!!! “ โคชินั้นก็พยักหน้าจากนั้นก็ช่วยฟอร์เต้กันแบกพยุง น้องชายของโคชิก็ตามโคชไปด้วย

    เมื่อทั้ง 3 นั้นก็พาส่งคิรินไปถึงโรงพยาบาลนั้นก็โล่งอกสบาย

    “ เฮ้อ....... “ โคชินั้นก็บิดขี้เกียจนั่งบนที่นั่งนอกห้องICUที่คิรินอยู่ในนั้นซึ่งอยู่ในการดูแลของพวกหมอพยาบาล

    “ ..เฮ้ย!!!ผ้าเช็ดหน้า!!! “ ฟอร์เต้นั้นก็พึ่งคิดได้ว่าลืมผ้าเช็ดหน้าที่กดกับแผลของคิรินไว้ในห้องนั้น

    “ ช่างเหอะ “ แต่ฟอร์เต้นั้นก็ไม่สนใจแล้วคิดว่าจะมาเอาพรุ่งนี้ก็ได้

    “ ฟอร์เต้ เธอกลับบ้านไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวน้องฉันกับฉันจะคอยดูแลทางนี้ให้ “ โคชิก็ให้ฟอร์เต้กลับบ้านไป

    ฟอร์เต้นั้นก็พยักหน้าไป เธอก็เดินกลับบ้าน

    วันต่อมาเวลา 14.00 น. ซึ่งวันนี้โรงเรียนของฟอร์เต้นั้นเลิกเรียนเร็วเพราะอาจารย์คาบคณิตศาสตร์นั้นป่วย เธอจึงมีโอกาสไปเช็คอาการของคิรินที่โรงพยาบาล

    ฟอร์เต้นั้นเมื่อเข้าไปในห้องนั้นก็เห็นคุณหมอ, โคชิ และน้องชายของเขาก็กำลังจ้องมองคิรินที่กำลังหลับเหมือนนอนอยู่

    ในชั่วนั้นเองคิรินก็ตื่นขึ้นมานั้นเขาก็มองใบหน้าของทุกคนหมด แล้วก็แหงนไปทางขวาบนโต๊ะนั้นีผ้าเช้ดผืนนึงที่เปื้อนไปด้วยเลือด ซึ่งเป็นผ้าเช็ดหน้าของฟอร์เต้

    “ นี่มัน????ที่ไหนเนี่ย???? “ คิรินก็ถาม

    “ ที่นี่คือโรงพยาบาล นายบาดเจ็บสาหัสฉันเลยพานายมาที่นี่ “ โคชิก็บอกคิริน

    “ แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับฉัน??? “ คิรินก็ถามด้วยหน้าตาที่สงสัย

    “ อะไรกัน???จำไม่ได้เหรอ???? “ โคชินั้นก็ตกใจจากนั้นก็หันไปหาคุณหมอ

    “ คุณหมอครับเกิดอะไรขึ้นกับเขาเหรอ??? “ โคชิก็ถาม

    “ สมองซีกซ้ายและขวานั้นโดนกระทบกระเทือนอย่างแรงจนทำให้เส้นประสาทของสมองนั้นโดนกระทบเช่นกัน จึงทำให้เขานั้นสูญเสียความทรงจำทุกอย่างคะ “ แพทย์หญิงที่คอยดูแลคิรินนั้นก็บอกอาการ

    “ ความจำเสื่อมถาวรงั้นเหรอ?? “ ฟอร์เต้ก็ถาม

    “ ใช่แล้ว “ แพทย์หญิงก็ตอบ

    “ คุณมีเวลาเยี่ยมได้เพียง 5 นาทีนะคะ “ แพทย์หญิงนั้นก็เดินออกจากห้อง

    “ อะไรกัน????ความจำเสื่อมถาวรงั้นเหรอ??? “ โคชิก็รู้สึกผิดที่ทำให้เขาสูญเสียควาทรงจำทุกอย่างของคิริน

    โคชินั้นรู้สึกผิดอย่างมากที่ทำให้เขาลืมเลือนกับตัวตนและความสุขและทุกข์ที่เขาเคยมี แต่ในด้านดีนั้น คิรินก็จำไม่ได้กับเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้นกับโคชิ
  24. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ตอนนี้รีบพิมพ์ไป??? มีที่ผิดเยอะนะครับ ลองดูดี ๆ แล้วฉากบรรยายผมว่าเพิ่มได้จะดีมากเลยล่ะ เหอ ๆ แม้ฉากต่อสู้จะเข้มข้น แต่พออ่านแล้วมันเหมือนกับว่ามีแต่คำพูดที่แสดงอารมณ์ ไม่มีบรรยายแล้วมันทำให้อินกับเนื้อเรื่องได้ยาก

    ตรงเสียงเอฟเฟคใช้เป็นการบรรยายหรือแยกจากประโยคคำพูดก็ดีนะครับ ไม่งั้นมันจะเหมือนตัวละครพูด กร๊ากกกกกกก

    สู้ๆ ครับ รอตามต่อ
  25. l2eenai2y

    l2eenai2y New Member

    EXP:
    533
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    พิมพ์ผิดพอสมควรนะครับ(ตอนแรกเกือบจะไม่เห็นว่าที่อื่นผิดนอกจาก "แน" เพราะรีบอ่าน)
    ยังขัดกับบทบรรยายเหมือนกับเฮียข้างบนว่าอ่ะครับ
    จินตาการภาพไม่ค่อยออก --

    ยังไงก็สู้ๆ พัฒนาต่อไปนะครับ

    ปล.ยังขัดๆกับ "ก็" ที่ตามหลังชื่อตัวละครอยู่ = =

Share This Page