Limited Blade : Destiny Of Soul World จบ ส่วนที่ 1

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย Magoichi7, 21 พฤศจิกายน 2007.

  1. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    ไม่ได้เม้นท์มาหลายตอจนเลยแฮะ

    โดยรวมนับว่าดีน่ะครับ แต่ขอตินิด ตรงพวกท่าไม่ได้ หรือ เสียงeffectนี่ น่าจะมีการเน้นตัวอักษรให้หนาจะดูดีก่อนน่ะครับ ไม่อย่างงั้นมันจะจืดไปเนอะ

    ยังไงก็พยายามต่อไปน่ะครับ
  2. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    รีบพิมพ์เกินไปหรือเปล่าครับ ผิดเยอะเหมือนกัน แต่เนื้อเรื่องยังอยู่ในระดับเดิม

    โคชิดูเป็นคนดีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จะว่ไาปถ้าคิรินลืมๆอะไรๆไปก็ดีเหมือนกันมั้ง เพื่อนแค้นจะได้หายไปซะที
  3. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 9

    ฟอร์เต้นั้นก็รู้สึกเป็นห่วงกับชายหนุ่มที่ชื่อคิริน ผู้ที่สูญเสียความทรงจำไป ถึงโคชิไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับเพื่นเขา แต่ว่าในอีกแง่นึงก็ทำให้คิรินไม่ต้องเก็บเรื่องน่าเศร้าไว้ตลอด

    ขณะที่ฟอร์เต้กำลังนั่งเรียนอยู่นั้น เธอก็มักจะเหม่อลอยมองไปทางนอกหน้าต่าง นอกหน้าต่างมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่สูงใหญ่ รูปร่างต้นไม้นั้นน่าจะมีอายุหลายร้อยปีหรือไม่ก็อาจจะพันปี เพราะดูทั้งสูงใหญ่และสวยงาม ต้นนี่คือต้นไทร เป็นต้นไม้ที่ถูกปลูกไว้เมื่อโบราณก่อน ซึ่งมันอยู่อาศัยก่อนที่โรงเรียนจะก่อตั้งเสียอีก

    เธอนั้นก็มองไปที่เก้าอี้ข้างๆเธอ เป็นเก้าอี้ของเพื่อนจองเธอซึ่งไม่มาในวันนี้อีกเช่นกัน ใต้โต๊ะเรียนของโต๊ะนั้นมีหนังสือและสมุดเรียน ซึ่งโต๊ะนั้นก็คือ โต๊ะเรียนของเฮียซากิของเรานี่เอง

    “ ซากิเอ้ย....หายไปไหนของนายละเนี่ย??? “ ฟอร์เต้นั้นก็ยังสงสัยว่าซากิ เพื่อนของเธอหายไปไหนเสียแล้ว

    ณ ผืนแดงแห่งหนึ่งในโลกของเหล่าวิญญาณ ซึ่งเป็นโลกของมนุษย์ที่ตายแล้วกลายมาเป็นวิญญาณ จำเป็นต้องมาอาศัยที่โลกของเหล่าวิญญาณ ชายหนุ่มผมดำสั้นคนนึงในชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง เขาเก็บดาบวิญญาณไว้ที่ข้างหลังและเข้าไปในถ้ำหินซึ่งชายคนนั้นคือ ซากิ โทจิโร่ เพื่อนที่หายไปของฟอร์เต้นั่นเอง

    ในถ้ำนั้นมืดมาก ยิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งมืด

    “ ช้าก่อน!!!!!!! “ ทันใดนั้นในถ้ำมืดแห่งนี้ก็ได้มีเสียงชายคนนึงตะโกนขึ้น

    “ นายมาที่นี่ทำไม “

    เสียงของชายคนนั้นก็เปล่งขึ้นพร้อมกับคำถาม

    “ นายเป็นใครกัน??? “ ซากิก็ถาม

    “ ถ้าอยากรู้ นายจะทำตามบททดสอบของฉันไหม??? “ ชายคนนั้นก็เปล่งเสียงขึ้นอีกครั้ง

    “ งั้นลองหน่อยก็ได้ “ ซากิก็ตอบ

    “ อืม......เอาละนี่คือการทดสอบบทแรก เจ้าจงหาทางเข้าไปข้างในของถ้ำให้ได้ โดยใช้ประสาทสัมผัสของเจ้า “ ชายคนนั้นก็ให้บททดสอบแก่ซากิ

    ซากินั้นก็ทำหน้ายิ้มแถมคิดว่าการทดสอบนี้ง่ายดาย

    “ ได้อยู่แล้ว.... “ ซากิก็บอกกับฉันคนนั้นจากนั้นตนก็เดินเขาไปในความมืด

    ซากินั้นก็ค่อยๆเดินไป โดยใช้พลังจิตสัมผัสวิญญาณของตน ซากินั้นก็เดินผ่านเข้าไปในความมืดไม่พาดแม้ทางเดินที่เป็นหลุมหรือผาเลยสักกะนิด เมื่อเขามาเดินเข้ามาในถ้ำนั้น ข้างในถ้ำมีแสงเทียนไฟสีฟ้า จูดล้อมรอบห้องถ้ำมืดแห่งนี้ให้มีแสงสว่าง

    ซากินั้นก็มองเห็นชายในชุดผ้าคลุมสีดำกำลังนั่งเขียนไดอารี่อยู่ ซากิก็เดินไปหาเพื่อทักทาย

    “ นายทำได้สินะ???? “ ชายคนนั้นก็พูดขึ้นเมื่อเขาได้รู้สึกถึงแรงวิญญาณของซากิ

    “ ช่างเป็นการทดสอบที่ง่ายสำหรับนายจริงๆสินะ “

    เสียงของชายคนนั้นคือคนเดียวกับคนที่บอกซากิในการทดสอบเมื่อตะกี้นี้

    “ เอาละ????ต่อไปก็บทที่ 2 ละนะ “ ชายคนนั้นก็ปิดสมุด

    ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แต่เขายังไม่หันหน้าให้ซากิ ทันใดนั้นชายคนนั้นก็หายตัวไปอย่างฉับพลัน

    ซากิเมื่อเห็นเมื่อกี้นั้นก็ตกใจกับความเร็วของชายคนนั้นมาก

    “ ฉันขอลองทดสอบนายก่อนละกันนะ “ ก็มีเสียงของชายคนนั้นแผ่วมาจากข้างหลัง

    ซากินั้นก็ตกใจมากก็ชักดาบออกมาแล้วหันไปหา

    “ ไหนวะ!!! “ ซากินั้นก็หันไปข้างหลัง แต่เขาก็ม่พบชายคนนั้น

    ซากินั้นก็รู้สึกถึงแรงวิญญาณที่มีอำนาจมหาศาลกินพื้นที่เกินขอบเขตของห้อง

    “ อะไรกัน????แรงวิญญาณนี่??? “ ซากิก็ตะลึงกับแรงวิญญาณของชายคนนั้น

    “ หึหึหึ นายนี่...รู้สึกว่าจะต้องสอนหลายอย่างเลยนะเนี่ย??? “

    ชายคนนั้นก็มาโผล่อยู่ข้างๆไหล่ซ้ายของซากิ

    ซากินั้นก็หันไปมองทางซ้ายแต่ก็ไม่พบชายคนนั้น

    “ ระวัง!!!! “ ชายคนนั้นก็ตะโกนเสียงมาจากข้างหลัง

    ชายคนนั้นก็ถือดาบเล่มยาวของเขาเข้าโจมตีใส่ซากิ กิก็เอาดาบของตนเข้ามารับการโจมตีไว้

    ชายคนนั้นฟันใส่ซากิ แม้ดาบของซากินั้นก็รับการโจมตีไว้ได้แต่มันทำให้ซากินั้นก็ต้องถอยหลังพุ่งไปด้วย

    “ อะไรเนี่ย????แรงหมอนี่???? “ ซากิก็ต้องอึ้งกับความรุนแรงของชายคนนี้ แม้จะเข้าโจมตีไม่โดนตัวแต่เพียงแค่สะบัดดาบฟันใส่ดาบของซากิก็ทำให้ซากิแทบเกือบจะรับการโจมตีไว้ไม่ไหวเลย

    ความเร็วของชายคนนั้นห่างชั้นกับซากิมาก ซากินั้นแทบไม่ทันได้สังเกตโฉมหน้าของชายคนนั้นเลย

    “ บอกว่าระวังไง!!!!!!! “ ชายคนนั้นก็โผล่มาข้างหลังอีกในรอบ 2

    ซากินั้นก็จะเหลียวไปมองนั้นแต่ว่าก็สายเกินไป
    “ ตู้ม!!!!!!!!! “ ชายคนนั้นก็ฟันเป็นสายคลื่นพลังใส่จนทำให้ถ้ำเกิดระเบิด

    ซากินั้นก็บาดเจ็บสาหัสที่แขนขวาซึ่งได้รับบาดเจ็บจากคลื่น

    “ บ้าจริง....แขนขวาฉัน...... “ ซากินั้นก็นึกว่าแขนขวาของตนนั้นโดนเข้าอย่างหนักถึงกับขยับไม่ได้เลย

    “ นี่นาย.......ขนาดแค่เฉี่ยวๆนะเนี่ยขอบอก “ ชายคนนั้นก็ยืนอยู่ตรงข้าหน้าซากิ

    “ ว่าไงนะ????นี่แก???ทำฉันแค่เฉี่ยวเองงั้นหรือ??? “ ซากินั้นก็ต้องตะลึงสุด เพียงแค่การโจมตีที่ไม่ได้โดนแขนขวาซะเลยแต่เพียงเฉี่ยวนิดเดียว

    “ นายเป็นใครกัน???? “ ซากิก็ถามชื่อของชายคนนั้น

    ชายคนนั้นก็สะบัดดาบเล่นแล้วเก็บดาบเข้าฝัก

    “ เรียกฉันว่า จีเอ็กส์ละกัน ชื่อจริงของฉันจะบอกทีหลัง “ ชายคนนั้นก็พูด

    “ จีเอ็กส์?????นั้นเป็นชื่อแฝงที่เห่ยที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา??? “ ซากิก็ตำหนิกับชื่อแฝงของชายคนนั้น

    “ ว่าไงนะ???หนอยแน่ะ นั่นมันชื่อในสมัยที่มันบูมนะเฟ้ย!! “ ชายคนนั้น็ไม่ยอมที่จะให้ใครมาติกับชื่อของเขา

    “ เอาละ นาอยากจะเจอบททดสอบต่อไปหรือเปล่าละ???? “ ชายคนนั้นก็ทำท่าพูด

    จีเอ็กส์นั้นหน้าก็ยังหนุ่มอยู่เลย ผมลองทรงสูงสีน้ำตาล ไว้ยาวหน่อย

    “ เอาสิ???? “ ซากิก็ตอบตกลง
  4. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World

    Chapter 10

    “ พลังวิญญาณของนายนั้นยังอยู่ในระดับพื้นมากๆเลยนะคุณ คุณคิดถูกแล้วละที่มาหาผม “ จีเอ็กส์ก็พูดจากวนเท้า

    “ เออ!!!ไม่ต้องซ้ำเติมให้มากน่า ฉันพร้อมจะเริ่มฝึกกับนายแล้ว!!1 “ ซากิก็ตะคอกใส่

    “ เออ ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้น้อง!!! “ จีเอ็กส์ก็เริ่มตื่นเต้นตื่นใจ

    “ เอาละ!!!แกพร้อมรึยัง!!!! “ จีเอ็กส์ก็ชูดาบชี้ถามซากิ

    “ อืม ผมพร้อมแล้ว!!! “ ซากิก็ทำท่าเตรียมรับมือ

    ณ อีกด้านนึงในโลกมนุษย์ ฟอร์เต้ได้รับคำสั่งให้ไปตามหานักธาตุคนนึงที่อมีนามว่า จุนสึเกะ คิชิโร่ เป็นนักธาตุหนุ่มลึกลับซึ่งไม่มีค่อยข้อมูลอะไรมากจากทางศูนย์แต่ว่างศูนย์นั้นสงสัยกับนักธาตุคนนี้เพราะนักธาตุคนนี้เป็นนักธาตุที่มีพลังธาตุที่สามารถควบคุมทุกอย่างที่มีสถานะคล้ายกับธาตุของตนได้

    ฟอร์เต้, รูบี้ กับเจ้าหน้าที่วิญญาณชั้นกลางหนุ่มอีก 2 คน นากาฮาดะ, คากาชิ ทั้ง 4 มีหน้าที่ตามหาและสืบสวนนักธาตุคนนี้เพื่อใช้ในการสืบสวนผู้ต้องสงสัยของคุซาเกะ

    “ นี่พวกนาย ที่อยู่ของหมอนั่นมันอยู่ที่ไหนเหรอ??? “ ฟอร์เต้ก็หันหน้าไปถามกับนากาฮาดะ เมื่อทั้ง 4 เดินออกมาจากคฤหาสน์

    นากาฮาดะนั้นก็ได้หยิบเครื่องตรวจจับตำแหน่งแรงวิญญาณ เขาก็ค้นหาตำแหน่งและข้อมูลแรงวิญญาณของจุนสึเกะ จนในที่สุดเขาก็พบที่อยู่ของเป้าหมาย

    “ เขาอยู่ตรงพื้นที่โตเกียว 15 .....บ้านเขานั้นไม่มีคนอยู่........เขาอยู่ที่ห้องแล็บ...แล็บใต้ดินบ้านของเขา....อีกอย่างแล็บใต้ดินของหมอนั่นยังเป็นโซนที่มิติของมนุษย์และวิญญาณเป็นมิติเดียวกันอีก “ นากาฮาดะก็บอกข้อมูลแก่ฟอร์เต้

    “ไกลจังแฮะ “ ฟอร์เต้ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา

    “ เอาละไปกันเถอะ! “ ฟอร์เต้ก็กดโทรศัพท์เข้าสู่โลกวิญญาณ

    เมื่อทั้ง 4 เข้าสู่มิติโลกวิญญาณก็รีบวิ่งไปตามตำแหน่ง

    ที่บ้านของคุณจุนสึเกะ ชั้นใต้ดิน ชายผมยาวสีดำ อายุราว 30 กว่า ก็กำลังทำการทดลองเกี่ยวกับสารอยู่นั้นก็มีหญิงสาวคนนึงโผล่เข้ามาในห้องแล็บ ใบหน้าของเธอนั้นสวยงาม ผมยาวดำ สวมชุดคลุมสีดำ สวมเกราะไหล่ทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับพกหอกสามง่ามมาเสียด้วย

    “ นี่เธอมาทำอะไรที่นี่???? “ นักธาตุชายคนนั้นก็กำลังถามผู้หญิงคนนึงซึ่งเธอถือหอกสามง่ามชี้ไปที่หน้าของเขาเพื่อขู่

    “ จุนสึเกะ คิชิโร่ มากับเราเสียเถิด..... “ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้พูดจากนั้นสามง่ามของเธอก็เริ่มเข้าใกล้เขามากขึ้นทุกที

    “ นี่เธอ...คิดจะทำอะไรกับฉัน????? “ ชายคนนั้นก็ใช้แขนขวาของตนเข้ามาแทรกขวางปลายง่ามของเธอไว้

    “ หนอยแก!!! “ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้จับเหวี่ยงหอกสามง่ามเหวี่ยงชายคนนั้นกระแทกกับกำแพงล้มลงไป

    เธอก็เริ่มหาอะไรบางอย่าง ค้นตั้งแต่เก๊ะลิ้นชัก บนโต๊ะ ทั้งโต๊ะทดลองด้วย เธอนั้นก็เริ่มหัวเสียจากนั้นก็เข้ามาจับบีบแก้มแล้วยกขึ้น

    “ นายเก็บหินปีศาจไว้ที่ไหน?????? “ เธอก็ตะคอกถามด้วยอารมณ์โกรธ

    “ ฉันไม่บอกเธอหรอก!!! “ แต่จุนสึเกะนั้นก็ไม่ยอมบอก

    ทันใดนั้นเองประตูห้องก็เปิดออก มีชายหนุ่มคนนึงวิ่งเข้ามาในห้อง อาจ

    “ หา????พ่อ!!!!!! “ ชายหนุ่มคนนั้นก็วิ่งเข้าไปช่วยชายคนนั้น

    “ หึย!!!ขวางจริง!!! “ ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้หอกสามง่ามปัดเขวี้ยงชายหนุ่มคนนั้นกระเด็นล้มลงกับพื้น

    “ เอริค!!!!! “ จุนสึเกะนั้นเมื่อมองลูกล้มลงไปก็โกรธ จากนั้นก็พยายามดันผู้หญิงคนนั้นออกไป

    “ หึยแก!!! “ ผู้หญิงคนนั้นก็รู้สึกโกรธจึงใช้หอกสามง่ามของตนเข้าเสียบที่หน้าท้องของชายคนนั้น

    “ อั๊ก!!....... “ เลือดก็กระอักออกจากปากของจุนสึเกะ

    “ พ่อ!!!!!! “ เอริคก็รู้สึกโกรธเมื่อเห็นพ่อของตนโดนสามง่ามเสียบเข้าท้อง

    ชายคนนั้นก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับป้ายชื่อของเขาก็หล่นออกจากกระเป๋าเสื้อ

    ไม่ใช่เพียงป้ายชื่อเท่านั้น ยังมีก้อนหินคริสตัลสีฟ้าหล่นออกมาอีกด้วย

    “ หึหึหึ นี่สินะ หินปีศาจ “ ผู้หญิงคนนั้นก็หยิบก้อนหินคริสตัลขึ้นมา

    “ แกตายซะ!!!! “ ทันใดนั้นเองเอริคก็ใช้พลังจิตควบคุมขาเก้าอี้เหล็กเข้าพุ่งใส่ผู้หญิงคนนั้น

    ขาเก้าอี้นั้นก็ได้พุ่งชนใส่หน้าของผู้หญิงคนนั้น

    “ หนอยแก!!!!ตายไปพร้อมๆกับพ่อนายเลยไป!!! “ เธอนั้นก็รู้สึกโกรธมากจึงใช้สามง่ามเข้าทิ่มใส่เอริค

    แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง

    “ ชึ๊ก!!!!!!! “ ปลายหอกสามง่ามนั้นก็แทงเข้าที่ฝ่ามือขวาของจุนสึเกะ จุนสึเกะนั้นวิ่งเข้ามาขวางไว้โดยใช้มือหยุดปลายแหลมสามง่าม เลือดก็ไหลออกมาจากมือไม่หยุด

    “ นี่แก!!!ยังไม่ตายอีกเหรอ???? “ ผู้หญิงคนนั้นก็รู้สึกแปลใจมาก

    เธอก็ใช้พลังวิญญาณพุ่งจากสามง่ามใส่มือที่ปิดขวางปลายไว้

    ดังนั้นจึงเกิดเสียง “ ตู้ม!!!!! “ ระเบิดขึ้นในห้อง

    เธอนั้นคิดว่าจุนสึเกะนั้นก็ต้องอยู่ในสภาพที่ยับเยินมากแน่ๆ แต่ลับเป็นว่า จุนสึเกะนั้นก็ไม่เป็นอะไรเลยสักอย่างแขนขวาของจุนสึเกะนั้นก็กลายเป็นหนังถลอกเต็มหมดแขน

    “ เฮ้อ......นี่เธอทำแขนของฉันเลอะหมดเลย “ ชายคนนั้นก็ใช้มือซ้ายจับที่แขนขวาของตนเอง

    จุนสึเกะก็กระชากหนังกำพร้าของแขนขวาออกมา แขนขวาก็กลายเป็นแขนกล ซึ่งตรงกลางแขนนั้นมีลำแสงบรรจุพลังงานข้างในด้วย

    “ นี่แขนนาย????? “ ผู้หญิงคนนั้นก็ตะลึงกับจำนวนพลังงานวิญญาณอันมหาศาลเหล่านี้มาก

    “ พ่อ?????? “ เอริคนั้นก็ตกใจเมื่อรู้ว่าแขนของพ่อตนนั้นเป็นแขนเหล็ก

    จุนสึเกะนั้นก็ได้ใช้แขนของตนนั้นใช้พลังธาตุของตนสร้างสะเก็ดประเภทของแข็งจากพลังงานของตนมาแปะปิดกับแผลที่ท้องเพื่อห้ามเลือดไว้

    ทันใดนั้นกมีเสียงฝีเท้าขึ้นมาจากข้างนอก ฟอร์เต้กับพวกก็เข้ามาในห้อง

    “ เรามาตามหาคุณ.....นี่เธอเป็นใครเนี่ย???? “ ฟอร์เต้กำลังจะพูดนั้นแต่เธอนั้นก็สังเกตที่ผู้หญิงคนนั้น

    “ พวกเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณงั้นเหรอ “ ผู้หญิงคนนั้นก็เก็บหินสีฟ้าไว้ในเสื้อคลุม

    “ ฟอร์เต้!!!เธอคือ อลิซซาเบธ ริชเชอร์ เจ้าหน้าที่โลกวิญญาณหนีคดี ทางนี้เราจะจัดการเธอเอง!! “

    นากาฮาดะกับคากาชิก็ชักดาบของตนออกมาเข้ามาขวางผู้หญิงคนนั้น

    “ เรียกฉันว่าเอริก็ได้ “ อลิซซาเบธพูดแล้วเข้าโจมตีใส่คากาชิกับนากาฮาดะ

    อลิซซาเบธนั้นใช้สามง่ามสู้กับทั้ง 2 ด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยใส่ใจ เธอก็ใช้สามง่ามฟาดเป็นคลื่นพลังใส่คากาชิล้มลงไป จากนั้นก็ใช้ปลายง่ามเข้าแทงท้องของนากาฮาดะตายทันทีจากนั้นก็เขวี้ยงร่างศพของนากาฮาดะกระเด็นออกไปด้วยหอกสามง่าม

    “ ฉันขอไว้แค่นี้ก่อนละ เพราะฉันไม่มีธุระกับพวกนายแล้ว “ อลิซซาเบธนั้นก็ได้สร้างหลุมดำอากาศขึ้นจากนั้นก็กระโดดเข้าไป

    ฟอร์ต้กับรูบี้นั้นก็วิ่งไปเช็คอาการคากาชิ
  5. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่ 10]

    Chapter 11

    “ ลูกพี่!!!คากาชิตายแล้ว!!!! “ รูบี้ก็เช็คชีพจรของคากาชิ แต่ชีพจรก็ไม่เต้น

    ร่างของคากาชิกับนากาฮาด็เริ่มมีแสงสีเขียวเปล่งขึ้น

    “ นี่มันอะไรกัน??? “ รูบี้ก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับศพทั้ง 2

    ร่างของทั้ง 2 นั้นก็เริ่มสลายไปเป็นอณูแสงเล็กกระจายทั่วห้องเหมือนหิ่งห้อย จากนั้นก็หายไป

    “ เจ้าหน้าโลกวิญญาณที่ตายจะถูกส่งกลับโลกของวิญญาณสู่เมืองIris เพื่อแจ้งการเกิดใหม่ของมนุษย์ “

    จุนสึเกะก็บอกรูบี้

    “ คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอนี่??? “ ฟอร์เต้ก็ถามจุนสึเกะ

    “ ใช่แล้ว....ฉันเคยศึกษาของเหล่าวิญญาณที่ร่อนเร่อยู่บนโลกและสังเกตมาตลอด “

    จุนสึเกะนั้นก็ได้ลุกขึ้นจากนั้นก็หยิบกระป๋องสเปรย์กับแขนหนังยางพลาสติกมา

    “ แขนคุณ???? “ ฟอร์เต้ก็สงสัยกับที่มาของแขนกลของจุนสึเกะ

    “ ตอนนั้นฉันลองฝึกวิชาควบคุมธาตุ Solid เป็นครั้งแรกกับพ่อฉัน จนได้รับอุบัติเหตุ พ่อฉันจึงได้สร้างแขนกลซึ่งอัดไปด้วยพลังวิญญาณเพื่อให้ฉันเป็นนักธาตุ “

    “ และธาตุของฉันก็คือ Solid ในที่สุด ฉันใช้พลังงานจากแขนสร้างของแข็งคล้ายหินมาปกปิดแผลที่ท้องเพื่อห้ามเลือดไว้ที่ท้องฉันไว้ได้ “ จุนสึเกะก็เปิดเสื้อเพื่อชี้ตำแหน่งที่เขาใช้พลังธาตุSolidมาติดกับแผลที่ท้องของเขาที่โดนอลิซซาเบธเสียบเข้าท้อง

    จุนสึเกะนั้นก็เอาแขนพลาสติกหนังยางเข้าสวมใส่กับแขนกล จากนั้นก็ใช้สเปรย์ของเขาฉีดใส่ที่แขนพลาสติก สเปรย์สีของเขานั้นฉีดที่แขนพลาสหนังยางนั้นมีสีที่เหมือนกับผิวหนังมนุษย์มาก จนได้กลายเป็นเหมือนกับแขนมนุษย์

    “ สเปรย์นี่มหัศจรรย์จริงๆ “ ฟอร์เต้ก็ประหลาดใจกับสเปรย์กระป๋องสีของจุนสึเกะ

    “ กระป๋องสีนี่ พ่อฉันสร้างมันขึ้นมาเพื่อฉํน จนสอนฉันเรื่อวิธีทำสเปรย์สีนี้ด้วย “

    จุนสึเกะนั้นก็นำสเปรย์กระป๋องสีไปเก็บที่ตู้ชั้นเก็บของ

    ฟอร์เต้นั้นก็เริ่มเข้าประ เด็นทันที

    “ คุณจุนสึเกะ พวกนั้นมาหาคุณเพราะเรื่องอะไรเหรอ??? “ ฟอร์เต้ก็หันไปถามกับจุนสึเกะ

    จุนสึเกะก็หันไปหาแล้วก็เงียบเฉย

    “ ไอ้หินนั้นมันคืออะไร???? “ ฟอร์เต้ก็ถามต่อ

    จุนสึเกะก็ถอนหายใจ

    “ หินนั้นคือหินปีศาจมรกต เป็นหินที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อนำมาเป็นแกนพลังของเหล่าวิญญาณ หินนั้นฉันใช้เวลาเป็น 10 ปีเพื่อสร้างมันมา “ จุนสึเกะก็ตอบ

    “ หินมรกตปีศาจงั้นเหรอ???? หินนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม ถือว่าคุณมีความผิดร้ายแรง เราจะส่งคุณไปที่เมือง Iris เพื่อดำเนินคดี มากับเรา “ ฟอร์เต้ก็เก็บดาบจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์เข้าเมนูที่เมนูมิติโลก เธอนั้นกำลังจะเลือกที่มิติภพวิญญาณนั้น เอริคก็วิ่งมาขวางจุนสึเกะ

    “ หยุดนะ!!!!ได้โปรดอย่าจับพ่อไปเลย!!! “ เอริคก็เข้ามาห้ามไม่ให้จุนสึเกะถูกฟอร์เต้พาไป

    “ นี่นาย!!!! “ ฟอร์เต้นั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงดี

    “ พ่อผมนะ เขาไม่ได้ตั้งใจจะสร้างมัน....เขาแค่จะสร้างมันเพื่อนำไปใช้ในการทดลองสร้างพลังงานแก่โลกมนุษย์เท่านั้นเอง ได้โปรดอย่าพาเขาไปเลย เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายซะหน่อย!! “ เอริคเป็นคนที่มีจิตใจดี อายุ 16 เป็นคนสัญชาติเยอรมัน

    “ ถ้าคุณไม่ฟังผมอย่าให้ผมใช้กำลังนะ “ เอริคก็ขู่ จากนั้นเขาก็ใช้พลังธาตุของเขาควบคุมเหล้กในห้องก็ลอยขึ้นเหมือนกับใช้พลังจิตควบคุม

    “ หยุดนะเอริค!!!! “ จุนสึเกะก็ตะคอกให้เอริคหยุด

    รูบี้นั้นก็วิ่งเข้าไปข้างหลังแล้วจับเข้ากอดล็อกตัวของเอริค

    “ นี่เธอทำอะไรนะ!! “ เอริคก็พยายามเหวี่ยงตัวรูบี้ออก

    “ นายนั่นแหละหยุด!!! “ รูบี้ก็ล็อกตัวเอริคไว้ไม่ให้เขาใช้พลังธาตุ

    “ รูบี้!!!หยุด!!!! “ ฟอร์เต้ก็สั่งให้รูบี้หยุด

    รูบี้นั้นก็ปล่อยวงแขนออกมาจากเอริค

    “ เอาละ??คุณพิสูจน์ได้ว่าคุณไม่ผิดแล้ว ว่าแต่ว่าคุณช่วยบอกหน่อยได้มั้ยว่าพวกนั้นจะเอาไปทำอะไร??? “
    ฟอร์เต้นั้นจึงถามจุนสึเกะ

    “ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่หินนั้นมีพลังงานวิญญาณชั้นสูงไว้มากมายมหาศาล ฉันคิดว่ามันอาจจะนำไปสร้างกองทัพสเปคเตอร์ขึ้นมาก็เป็นได้ “ จุนสึเกะนั้นสันนิษฐานได้ดังนั้นทำให้ฟอร์เต้นั้นถึงกับหน้าซีดไปเลย

    “ เจ้าพวกนั้นนะหรือ....ปีศาจ..... “ ฟอร์เต้ก็นึกถึงวันที่พวกกาโอกับเกรฟเซอร์มาที่โลกมนุษย์

    “ ถ้าพวกนั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล โลกใบนี้ต้องเจอกับหายนะแน่ๆ “ ฟอร์เต้ก็เริ่มคิดจะจัดการเรื่องนี้

    “ คุณจุนสึเกะได้โปรดมากับเราเถอะ “ ฟอร์เต้ก็ขอให้จุนสึเกะไปกับเธอ

    “ ทำไมเหรอ????พาฉันไปสอบสวนอีกละสิ??? “ จุนสึเกะก็ถาม

    “ ฉันอยากให้คุณไปพบกับหัวหน้าของฉันอธิบายให้เขาฟัง “ ฟอร์เต้ไม่ได้ต้องการที่จะนำเขาดำเนินคดี

    ณ ตึกออฟฟิศบริษัท Tohoka เป็นบริษัททำงานการก่อสร้าง

    “ ว่าไงนะ????เรื่องหินปีศาจเหรอ??? “ โชเซ็นซึ่งนั่งทำงานบนโต๊ะอยู่นั้นเมื่อได้ยินเรื่องที่ฟอร์เต้บอกก็ตกใจนิดหน่อย

    “ ฉันพาคุณจุนสึเกะมาเพื่ออธิบายเรื่องนี้ให้ละเอียด “ ฟอร์เต้ก็ให้จุนสึเกะบอกเรื่องนี้

    “ เดี๋ยวก่อนๆ “ แต่โชเซ็นนั้นก็พูดแทรกขึ้น

    “ ตอนนี้ฉันทำงานอยู่นะ ไว้ค่อยคุยวันหลงได้ไหม???เอางี้ตอนเที่ยงนี้ก็อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่หน้าเคาน์เตอร์ชั้นล่างได้ไหม??? “ โชเซ็นนั้นซึ่งกำลังติดงานอยู่ เขาเป็นสถาปนิกของบริษัทโทโฮคะ

    “ เอ่อ.....ก็ได้คะ... “ ฟอร์เต้นั้นก็เลื่อนการคุยครั้งนี้ได้

    ฟอร์เต้กับคนอื่นก็นั่งรอตรงโซฟาหน้าเคาน์เตอร์ของออฟฟิศจนถึงเที่ยง

    โชเซ็นก็ลงมาข้างล่างพบกับฟอร์เต้

    “ เอาละ มาเข้าเรื่องของเรากันเถอะ “ โชเซ็นก็พร้อมที่จะคุยแล้ว
  6. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่ 11]

    ...หึหึหึ...ตัวเราร้ายได้ใจมากๆ~~ โหด โฉด ชั่ว ซาดิสม์ !!!

    ตอนแรกอ่านๆเพลินๆนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่หนีหนี้....= ="

    น่าติดตามๆ สู้ๆต่อไปนะคะ
  7. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่ 11]

    Chapter 12

    “ อย่างนี้นี่เอง “ โชเซ็นก็รับฟังคำพูดของจุนสึเกะจนเข้าใจอย่างละเอียดลึก

    โชเซ็นนั้นก็เริ่มเกิดอาการวิตกกังวล

    “ เวรแล้วไง “ โชเซ็นทำสีหน้าซีดไปเลย เหมือนกับเขาเคยเจอมันมาก่อนแล้ว

    “ พวกเธอก็กลับไปก่อนละกันเถอะ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะจัดการให้ “

    “ แต่ว่าเรื่องนี้ต้องรีบบอกนะ...... “

    “ บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ไง “ โชเซ็นก็พูดแทรกฟอร์เต้

    ฟอร์เต้ก็รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย

    “ งั้นขอตัวกลับนะคะ “ ฟอร์เต้กับคนอื่นก็เดินออกจากออฟฟิศทำงาน เธอก็ลาคุณจุนสึเกะแล้วเดินแยกทางกันกับเขา แต่รูบี้ก็ยังตามเธอไปด้วย

    โชเซ็นนั้นก็ระลึกถึงอดีตอันขมขื่นที่เขาลืมไม่ได้ ทั้งศิษย์มากฝีมือทั้ง 2 เพื่อนรวมงาน และมิตรภาพก่อนนั้น

    “ ฉันจะไม่มีวันให้เป็นเหมือนแบบนั้นอีกแล้ว.....และอีกต่อไป.... “ โชเซ็นทำหน้าเศร้าโศกพร้อมกับเดินออกาจากออฟฟิศ

    ฟอร์เต้นั้นก็รู้สึกตกใจเมื่อรู้สึกถึงแรงวิญญาณที่เปล่งถึงความโศกเศร้า

    “ หัวหน้าโชเซ็นกำลังเศร้าอยู่งั้นหรือ???? “ รูบี้ก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน

    ฟอร์เต้เมื่อได้ยินคำพูดของรูบี้ก็ยังนิ่งเฉยเดินกลับบ้าน

    4 วันต่อมา ในเวลาบนโลกมนุษย์ 20.40 น. เหล่าหัวหน้าหมู่และหน่วยใหญ่มาประชุมเรื่องของคุซาเกะที่เป็นผู้ต้องสงสัยสร้างร่างวิญญาณสเปคเตอร์ขึ้นมา

    การประชุมนั้นลงมติว่า คุซาเกะคือตัวการในการสร้างสเปคเตอร์เพื่อต่อต้านเหล่าโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์

    หลังจากที่หน่วย Bravo หมู่ 2 ได้สำรวจที่พื้นที่เขตยาชินอกเมือง พบว่ามีศพของชาวบ้านในป่าจำนวน 6 คนซึ่งมีไอพลังวิญญาณของคุซาเกะติดกับศพเสียด้วยพร้อมกับมีเศษแก้วสีเขียวมรกตเรี่ยราดบนพื้น

    ณ โลกแห่งเหล่าวิญญาณบนพื้นที่ต้องห้ามที่มีชื่อว่า Syta(ซีต้า) ซึ่งเป็นโลกของเหล่าวิญญาณที่กลายเป็นปีศาจหรือเหล่าวิญญาณที่มีบาปมาก มีโอกาส 4ใน10 ที่วิญญาณที่ถูกส่งไปนรกหนีมาที่นี่ได้

    ในห้องโถงใหญ่ของปราสาทลึกลับแห่งนึง คุซาเกะในชุดผ้าคลุมสีขาวข้างในชุดสีน้ำเงิน สีผมของเขากลายเป็นสีดำไว้ผมยาว(รู้สึกว่าจะเปลี่ยนหน้าตาหนีคดีชัว55 ล้อเล่น) เขานั่งบนเก้าอี้บัลลังค์สีดำซึ่งอยู่ในสุดของห้องโถง

    ประตูบานนึงในห้องโถงก็ถูกเปิดออก กลุ่มชาย-หญิง ในชุดผ้าคลุมที่แบ่งเป็นหลายสีหลายกลุ่ม พวกเขาก็เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ พวกเขามีสัญลักษณ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตัวเลขโรมันทีรูปร่างแปลก สัญลักษณ์เหล่านี้แตกต่างกันตรงที่เลขกับที่อยู่ของสัญลักษณ์ 1ในนั้นมีกาโอกับเกรฟเซอร์อยู่ในนั้นด้วย กาดฮนั้นอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดีเพราะได้รับการรักษามาแล้ว ทั้งหมดนี้ก็คือสเปคเตอร์ซึ่งมีจำนวนอยู่ 20 ตน

    “ นี่นายท่านวันนี้มีเรื่องอะไรถึงเรียกพวกเรามาตั้งแต่เช้าเนี่ย??? “ สเปคเตอร์ชายหนุ่มผมสั้นสีฟ้าชุดผ้าคลุมสีน้ำเงิน ที่มีสัญลักษณ์ตัวเลขโรมัน 22 บนกลางฝ่ามือก็ถามสเปคเตอร์ผู้หญิงอีกคนนึงในมาดกวน

    “ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันน่า..... “ สเปคเตอร์หญิงผมสีดำยาวซึ่งมีตัวเลขบนไหล่ขวาของเธอซึ่งเธอสวมในชุดผ้าคลุมเปิดโชว์ไหล่

    ข้างๆคุซาเกะนั้นมีชายหนุ่มผิวขาวซีดในชุดผ้าคลุมสีดำ มีสัญลักษณ์เลข 3 ที่บนกลางหน้าผาก ผมสั้นสีขาว พกดาบ 2 เล่มเหน็บไว้ข้างๆเอว ท่าทางของเขานั้นนิ่งเฉยและเงียบขรึม

    “ ฉันมีเรื่องอยากจะปราศกับพวกแกทั้งหลายให้ได้ทราบว่า เราได้ประกาศต่อIrish แล้ว “ คุซาเกะพูดดังนั้นถึงกับทำให้คนอื่นๆก็ตกใจไปเกือบหมด

    “ หึหึ ในที่สุดนายท่านก็ได้เริ่มซะทีสินะ อุตส่าห์รอมา 1 ปี “ สเปคเตอร์ชายผมสีฟ้าคนเดิมก็พูดในท่าทางที่ยินดี

    “ ฟาเซล!!!! “ คุซาเกะก็ตะโกนเรียกสเปคเตอร์ชายผมยาวสีครีมคนนึงซึ่งมีสัญลักษณ์เลขโรมัน 15 บนหลังมือ

    “ เจ้าจงเข้าโจมตีโลกมนุษย์และทดสอบต่อพลังของเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ... “ คุซาเกะก็ให้ภารกิจแก่ฟาเซล

    “ ขอรับ “ ฟาเซลก็โค้มคำนับอย่างนอบน้อมแล้วก็หายไปจากห้อง

    “ พวกนายทุกคนก็เตรียมกลับไปได้แล้วละ “ คุซาเกะก็หมดเรื่องที่จะคุย

    สเปคเตอร์คนอื่นๆก็เดินออกจากห้องโถงหมดทุกคน

    “ นี่เกรฟเซอร์...... “ กาโอนั้นก็เรียกเกรฟเซอร์

    “ เราไปโลกมนุษย์กันอีกครั้งเถอะ..... “

    กาโอก็ชวนเกรฟเซอร์ไปที่โลกมนุษย์อีกครั้ง

    “ จะไปอีกเหรอครับคุณกาโอ “ เกรฟเวอร์ก็ถาม

    “ อืม ฉันจะต้องไปดูความก้าวหน้าของเจ้าพวกนั้นด้วยตาตนเอง “ กาโอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

    “ แต่เราต้องแอบไปโดยไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด “ กาโอก็พูดเสียงเบา
  8. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่ 12]

    Chapter 13

    3 เดือนต่อมาฟอร์เต้กับรูบี้นั้นก็ยังพยายามสืบสวนถึงสเปคเตอร์กับคุซาเกะตามคำสั่งครั่งล่าสุดของหน่วย Alpha หมู่ 2 แต่ทั้ง 2 นั้นก็ยังไม่ได้ข่าวจากซากิที่หายไปอย่างลึกลับอีกเลย หัวหน้าโชเซ็นนั้นก็สั่งให้เหล่าลูกน้องหมู่ตนออกตามหาบ้างแต่ก็ไม่เจอ แม้แต่กระทั่งในโลกของเหล่าวิญญาณ เมืองไอริส นอกเมืองเขตอื่นๆ ก็ไม่พบอีกเลย

    เวลาสามทุ่มครึ่งนั้น ฟอร์เต้กับรูบี้นั้นซึ่งกำลังอยู่ในห้องนอนของฟอร์เต้ในอพาร์ทเม้นท์นั้น ฟอร์เต้ก็กำลังนอนอ่านหนังสือเกี่ยวกับกฎของเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณอย่างเคร่งครัด ส่วนรูบี้นั้นกำลังอ่านหนังสือการ์ตูนมังงะ ท่าทางจะสนุกสนาน

    “ น่าเบื่อจริงๆเลย ไอ้กฎเนี่ย..... “ ฟอร์เต้ก็เลิกอ่านแล้วลุกจากเตียงบิดขี้เกียจ

    “ นี่ลูกพี่ พรุ่งนี้เราเป็นเวรดูแลวิญญาณมนุษย์นะ “ รูบี้ก็หันไปคุยกับฟอร์เต้จากน้นก็อ่านการ์ตูนอีกครั้ง

    “ เออน่า......แล้วเธอจะไม่กลับบ้านเหรอ?? “ ฟอร์เต้ก็ถามรูบี้

    “ ไม่รู้สิ........ “ รูบี้ก็ตอบแบบไม่สนใจจึงอ่านการ์ตูน

    “ อ้าว......นี่เธอไม่มีบ้านเลยเหรอ??? “ ฟอร์เต้จึงถามกลับ

    “ บ้านฉันนะอยู่ที่เมืองสกายวิว(Skywill เมืองลอยฟ้าบนโลกของเหล่าวิญญาณ) จะกลับไปที่นั่นคงอีกหลายนายมาที่โลกมนุษย์อีก

    “ แล้วทำไมเธอไม่ไปกลับบ้านซะตั้งแต่เมื่อวานละ??? “ ฟอร์เต้จึงถามกลับต่อ อาทิตย์นี้เป็นวันหยุดงงานของทั้ง 2 รูบี้จึงมาเที่ยวบนโลกมนุษย์

    “ ลืมนะ.....แต่ว่า..... “ รูบี้ก็หยุดอ่านแล้วหันหน้ามองไปที่ฟอร์เต้

    “ คินนี้ขอนอนบ้านเธออีกคินนึงได้รึเปล่าอ่า...... “ รูบี้ก็ถามด้วยน้ำเสียงหวานแหวว

    “ โธ่.....อีกแล้วเหรอ... “ ฟอร์เต้จึงคอตกไปเลยเมื่อรูบี้ขอพักอีกคืนนึง

    “ เออก็ได้......แต่ครั้งนี้ เธอไปนอนบนพื้น ส่วนฉันนอนบนเตียงนะ “ ฟอร์เต้ก็ให้เงื่อนไขกับรูบี้

    “ Roger!!!! “ รูบี้ก็ยอมรับเงื่อนไข

    “ ดีละ จะได้นอนเตียงซะที “ ตลอดสัปดาห์นั้นฟอร์เต้ให้รูบี้นอนบนเตียงเพราะเกรงใจแต่ตอนนี้กลับตรงกันข้ามซะแล้ว

    ฟอร์เต้นั้นเดินไปเก็บของบนโต๊ะหนังสือของเธอนั้น เธอก็จ้องมองไปที่นอกหน้าต่างหน้าโต๊ะของเธอ เธอนึกถึงตอนที่เธอรู้จักกับซากิครั้งแรกเมื่อ 1 ปีก่อน ซากิเคยพาเธอมาส่งที่นี่ ฟอร์เต้เมื่อเก็บของบนโต๊ะเข้าลิ้นชักเสร็จ เธอก็เข้านอนทันที

    เช้าวันต่อมา วันที่ 24 ธันวาคม ฟอร์เต้กับรูบี้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณที่คอยดูแลวิญญาณมนุษย์ในส่วนมิติโลกวิญญาณในวันนี้ ทั้ง 2 ก็คอยช่วยเหลือเหล่าวิญญาณมนุษย์พาขนส่งสู่โลกของเหล่าวิญญาณ โดยเหล่าวิญญาณนั้นจะไปเกิดใหม่บนโลกของเหล่าวิญญาณ เมื่อดวงวิญญาณนั้นตายบนโลกของเหล่าวิญญาณ ดวงวิญญาณนั้นจะถูกส่งไปเกิดใหม่บนโลกมนุษย์ ถูกเรียกว่า “ วัฐจักรแห่งการเกิด “ นั่นเอง

    ทันใดนั้นเองในช่วงนั้นเกิดมีเมฆสีดำปกคลุมบนฟ้าในมิติวิญญาณ รูบี้เห็นดังนั้นก็ตกใจจึงบอกให้ฟอร์เต้รู้

    “ นั่นมันอะไรกัน??? “ ฟอร์เต้เมื่อเห็นนั้นก็แปลกใจมาก แต่ที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่านี้ เมื่อเธอได้รับรู้ว่าเธอได้มีความรู้สึกสัมผัวได้ถึงแรงวิญญาณที่น่ากลัวซึ่งมาจากกลุ่มเมฆดำนั้น

    “ บ้าจริง!!!!!นั่นต้องเป็นพวกสเปคเตอร์แน่ๆ รูบี้ใช้โทรศัพท์โทรไปที่คฤหาสถ์รีบส่งกองกำลังสนับสนุนมาเดี๋ยวนี้!! “ ฟอร์เต้ก็เริ่มรู้สึกเครียด เธอจึงชักดาบพร้อมสู้

    “ ไม่ว่าพวกมันเป็นอะไรฉันไม่สนหรอก!!! “ ฟอร์เต้นั้นก็ใจกล้าหาญไม่เคยกลัวอะไร

    บนกลุ่มเมฆสีดำเหล่านั้นก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมสีแดง 1 คนกับเหล่าลูกน้องในชุดผ้าคลุมสีขาว 7คน ในกลุ่มลูกน้องมีผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม

    “ 8 ตัวงั้นเหรอนี่!!!! “ ฟอร์เต้นั้นเมื่อได้รู้สึกถึงพลังนั้นก็รู้ว่ามันมา 8 คน

    สเปคเตอร์ชายหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลมีสัญลักษณ์ตัวเลข 35 บนที่หน้าผากนั้นก็หันไปถามกับฟาเซล เจ้านายของตนว่า

    “ หัวหน้าครับ 2 คนนั้นนะ ใช่ศัตรูเราหรือเปล่า?? “

    ฟาเซลนั้นตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นขรึมไปว่า

    “ บนบโลกใบนี้ ทุกสิ่งคือศัตรูหมดนะแหละ กราฟิโอ้ “

    “ ดีละ เซนเซย์!!!!ลูไค!!!มากับฉัน!!! “ กราฟิโอ้ก็นำสเปคเตอร์ชายหนุ่ม 2 คนพุ่งเข้าโจมตีฟอร์เต้

    เซนเซย์นั้นเป็นสเปคเตอร์ชายหนุ่มผมสั้นแอฟโฟรแนวหยิกสีเขียวเข้ม(ไม่ใช่แอฟโฟรแนวติ๊งต๊องทรงกลมเรียบนะ) มีตัวเลขโรมันเลข 49 ตรงกลางท่อนแขนซ้าย

    ลูไค สเปคเตอร์ชายผมแดงร่างใหญ่กำยำ เขาเป็นคนที่ตัวล่ำใหญ่สุดในกลุ่มนั้น เลขโรมันประจำตัวของเขาคือ 47

    ฟอร์เต้กับรูบี้ก็ต้องสู้กับสเปคเตอร์แบบ 2 ต่อ 3

    “ เข้ามาเลย!!!! “ ฟอร์เต้ก็พุ่งเข้าหา กราฟิโอ้

    ฟอร์เต้นั้นก็ได้ประมือดาบกับกราฟิโอ้ ไม่เพียงแค่คนเดียวยังสู้กับเซนเซย์ด้วย รูบี้นั้นก็กำลังต่อสู้กับลูไค

    ฟอร์เต้นั้นแทบไม่มีทางจะได้เปรียบในการสู้แบบโดนรุมแบบนี้

    “ หึหึหึ เซนเซย์ให้ฉันฆ่าผู้หญิงคนนี้เอง!!! “ กราฟิโอ้นั้นก็เข้าใช้ดาบทิ่มใส่ฟอร์เต้ตอนที่เธอกำลังใช้ดาบค้ำยันดาบของเซนเซย์อยู่

    แต่ทันใดนั้น.....

    ได้มีเคียวยักษ์พุ่งเข้ามาปักบนพื้นข้างฟอร์เต้บล็อกการโจมตีของกราฟิโอ้ไว้ได้ทัน

    กราฟิโอ้นั้นก็ตกใจจึงหันไปที่ระยะที่เคียวมาหา เขาไปมองที่ชายหนุ่มชุดผ้าคลุมดำกางเกงสีดำ กุมปืนคู่

    “ ขอโทษนะ..ที่ปล่อยให้ตกอยู่ในอันตราย “ โคชินั่นเอง

    โคชินั้นก็หายไปอย่างฉับพลันจากนั้นก็มาโผล่อยู่ข้างหน้ากราฟิโอ้พอดี จากนั้นก็หยิบเคียวแล้วหายไปจากนั้นก็มาโผล่อยู่ข้างหลัง

    “ หนอยแก!!!! “ กราฟิโอ้ก็เหวี่ยงดาบฟันใส่โคชิ โคชินั้นก็ใช้เคียวมาบล็อกการโมตีไว้ได้ทัน

    “ นายเป็นใคร???? “ กราฟิโอ้ก็ถามชื่อ

    “ เรียกฉันว่าโคชิละกัน “ ชิก็ดันดาบผลักไสกราฟิโอ้ถอยไป

    “ ฉัน กราฟิโอ้ สเปคเตอร์ No.35 “ กราฟิโอ้ก็เอ่ยแนะนำตัว

    “ สวะอย่างนายฉันไม่ต้องการจะรู้จักหรอก!!! “ โคบิก็กล่าวสบประมาทกราฟิโอ้อย่างรุนแรง

    “ ว่าไงนะ!!!หนอย! “ กราฟิโอ้นั้นก็เกิดโทสะจึงเข้าโจมตีใส่ไม่หยุดแต่โคชินั้นก็บล็อกได้ทุกกระบวนท่า

    “ นี่......ถ้าคิดจะบู๊นะ หัดใช้สมองให้มากกว่านี้หน่อยจะได้ไหม??? “

    โคชิก็ปัดเหวี่ยงอย่างรุนแรง ทำให้กราฟิโอ้นั้นกระเด็นออกไปไกลจนไปชนกับเสาไฟ ล้มลงนอนกองกับพื้น

    ทางด้านฟอร์เต้นั้นต้องเจอกับสเปคเตอร์ที่ร้ายกาจรองลงมาจากกราฟิโอ้

    เซนเซย์นั้นโจมตีใส่ฟอร์เต้อย่างรวดเร็วและว่องไวมาก ฟอร์เต้นั้นก็สู้กับเซนเซย์ต่อไปไม่หยุด

    “ ชิ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ เสียงการประมือดาบของทั้ง 2 ก็ดังไม่หยุดเป็นทำนองเพลงไปเลย

    เซนเซย์นั้นก็กระโดดพุ่งเข้าจิ้มใส่ฟอร์เต้ ฟอร์เต็เอาดาบมากันไว้แต่ด้วยแรงดาบของเซนเซย์จึงผลักฟอร์เต้ถอยออกไป

    “ เสร็จฉัน!!! “ เซนเซย์ก็พุ่งเข้าฟอร์เต้โมตีในช่วงนั้น

    เซนเซย์ก็พุ่งตัวเข้าไปอยู่ตรงหน้าของฟอร์เต้ตอนที่กำลังนอนลงพื้นพอดี

    “ ตายซะ!!! “ เซนเซย์ก็ง้างดาบจะแทงเข้าอกของฟอร์เต้

    แล้วก็มีดาบเล่มใหญ่เล่มนึงเข้าแทงทะลุอกของเซนเซย์ “ เชือด!!!!!~ “

    “ อ๊าก!!! “ เซนเซย์ก็หวีดร้องแล้วก็โดนดาบเล่มนั้นที่ปักทะลุอกก็ยกสูงขึ้นบนฟ้า ชายคนนึงในชุดปิดผ้าคลุมและใบหน้าช่วยฟอร์เต้ไว้

    เขาก็เหวี่ยงร่างของเซนเซย์กระเด็นล้มลงไป

    เซนเซย์นั้นก็บาดเจ็บสาหัสอย่างหนัก เซนเซย์ก็ลุกขึ้นมาจับดาบของตน พร้อมกับจ้องมองไปที่ชายลึกลับ

    “ หนอยแก!!!!ฉันจะจัดการแกซะเดี๋ยวไปเลยละกัน!!! “ เซนเซย์ก็เอานิ้วชี้ที่ดาบแล้วรูดดาบจนเกิดแสงที่ดาบ

    “ หยา!!! “ เซนเซย์ก็วิ่งเข้าฟันใส่ชายคนนั้น

    ชายคนนั้นก็ยังยืนเฉย พอเซนเซย์วิ่งเข้าหานั้นก็เดินหายตัวเป็นเงาเข้าผ่านหน้าเซนเซย์อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งในท่าชักดาบด้วย

    เลือดของเซนเซย์ทะลักออกจากปาก เซนเซย์ก็มองที่ร่างกายของตน ท้องของตนถูกตัดกับร่างกายเป็น 2 ท่อน ตาของเซนเซย์ก็เหลือบขาวแล้วล้มลงไปพร้อมกับร่างกายก็ระเบิดกลายเป็นละอองแสงสีดำ

    “ อะไรกัน!!!! “ ลูกน้องของฟาเซลนั้นเมื่อเห็นดังนั้นก็ตกใจกันยกใหญ่ แต่ฟาเซลกลับนิ่งเฉย

    “ หึหึ หมอนี่เก่งใช่ย่อย “ ฟาเซลก็กล่าวชมเชยชายลึกลับในใจ

    “ หนอยแน่ะ!!!!บังอาจมากไปแล้ว!! “ สเปคเตอร์ชายหนุ่มผมสีม่วงอ่อน เมื่อเห็นเซนเซย์โดนฆ่าก็โกรธจึงชักดาบออกมาพุ่งจะเข้าไปหาหมายจะฆ่าชายคนนั้น

    แต่ก็มีมือง้าวปริศนาเข้ามาขวางพร้อมฟันใส่ “ ชริ้ง!! “

    สเปคเตอร์หนุ่มคนนั้นก็ใช้ดาบของตนบล็อกไว้ได้ทัน

    “ นี่....คู่ต่อสู้ของนายคือฉันต่างหาก “ ชายคนนั้นคือ ฟรอเซอิค ในชุดสูทสีน้ำตาลนั่นเอง

    ทั้ง 2 ก็เกิดการต่อสู้กันบนอากาศ

    ทางด้านชายลึกลับนั้นก็เดินเข้าไปหาฟอร์เต้ ฟอร์เต้นั้นเริ่มสงสัยกับชายคนนั้นที่ใช้ผ้าคลุมปกปิดใบหน้าของตน เห็นเพียงแต่เงาผ้าที่ปิดบังจนไม่เห็นใบหน้า

    “ นี่ลุกขึ้น “ ชายคนนั้นก็เอามือซ้ายของตนยื่นมือเข้าหาฟอร์เต้

    ฟอร์เต้นั้นก็เอมมือจับมือกับมือของชายคนนั้น ชายคนนั้นก็ลากตัวของฟอร์เต้ลุกขึ้นมาแต่ก็ยังไม่ปล่อยมือ

    “ นี่..ปล่อยสิ “ ฟอร์เต้ก็บอกไม่ปล่อยแต่ชายคนนั้นก็ไม่ยอมปล่อย

    ชายคนนั้นก็ปล่อยมือของฟอร์เต้จากนั้นก็เอามือจับที่ผ้าคลุมแล้วกระชากผ้าคลุมออกมา จนเปิดเผยใบหน้าของตน
    ฟอร์เต้เมื่อได้เห็นใบหน้าของชายคนนั้นก็ตกใจนิดหน่อย

    “ ไงฟอร์เต้....ไม่ได้เจอกันซะนานเลยละ “ ชายคนนั้นก็พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
  9. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่13 ]

    อ๊ากกกกกกกกกก เนื้อเรื่องผมว่าโอเคนะ

    แต่ขัดตรงการบรรยายนี่แหละ โฮกกกกกกกกกกกก บรรยายให้มากกว่านี้จะอินไปกับเนื้อเรื่องได้มากขึ้นเลยล่ะครับ

    สู้ ๆ เน้อ
  10. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่13 ]

    เริ่มมันส์ซะแล้ว~~~~~

    เนื้อเรื่องใช้ได้เลยค่ะ ชอบๆ! แต่ขัดๆอยู่ตรงเอฟเฟคนิดๆอ่ะจ้ะ

    พยายามเข้าน้า~เป็นกำลังใจให้จ้า~~ >w<b
  11. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่13 ]

    Chapter 14

    “ ซา...........ซากิ!!!! “ ฟอร์เต้นั้นก็ครุ่นคิดจนเธอจำใบหน้าของชายคนนั้นได้

    “ หึหึ พึ่งนึกออกเหรอนี่ “ ซากินั้นก็มองไปที่สเปคเตอร์ชายหนุ่มผมสีเขียวยาวที่มีเลขประจำตัวโรมัน 39 พุ่งตรงเข้ามาที่เขา

    “ เอาละ ไว้ค่อยคุยที่หลังนะ ฉันขอจัดการเจ้าพวกนี้ก่อนละ “ ซากิก็หยิบดาบเล่มโตของตนเข้าประจัญบาญกับสเปคเตอร์หนุ่มคนนั้น

    สเปคเตอร์คนนั้นก็ชักดาบเข้าฟันใส่ดาบเล่มโตของซากิที่หยิบมากันไว้

    “ ฉันคือ ฟิวเซน สเปคเตอร์ชั้นกลาง No.39 “ เขาก็แนะนำตัว

    “ ฉันคือ ซากิ โทจิโร่ เจ้าหน้าที่ชั้นกลาง!! “ ซากิแนะนำตัวเสร็จก็ดันฟิวเซนถอยออกไป

    “ หยา!!!! “ ซากิก็ยกดาบขึ้นแล้วเหวี่ยงฟันลงพื้น

    จนเกิดเสียงระเบิด “ ตู้ม!!! “ คลื่นลำแสงไฟฟ้าที่มีอานุภาพแสนจะรุนแรงพุ่งเข้าใส่ฟิวเซน

    ฟิวเซนก็เอาดาบมาขวางกันไว้ จนถูกคลื่นพลังไฟฟ้าดันผลักถอยหลังออกไปหลายก้าวจนกระทั่งกั้นไม่ไหวจึงกระเด็นออกไปไกลลิ่ว ฟิวเซนนั้นก็กระเด็นไปชนกับกำแพงบ้าน

    “ หนอยแก “ ฟิวเซนเริ่มโกรธแค้นซากิจึงเข้าต่อสู้อีกครั้ง

    ฟิวเซนก็เข้าห้ำหั่นกับซากิอย่างจริงจัง การเคลื่อนไหวของการโจมตีทั้ง 2 นั้นสูสีจนแยกไม่ออก

    ซากิก็ใช้ดาบใหญ่เหวี่ยงหมุนรอบตัวจนเกิดลมแรงขึ้นรอบตัว แต่ฟิวเซนก็กระโดดหลบดาบของซากิได้

    “ หึหึ แม้เจ้าโจมตีถูกจังหวะได้ แต่จุดอ่อนของเจ้ามันก็คือความเร็วที่ด้อยไปกว่าข้า “ ฟิวเซนก็โจมตีใส่ด้วยกาจิ้มแทงด้วยปลายดาบ

    ซากินั้นก็เอาดาบมายันกันไว้ได้หมด แต่กระนั้นฟิวเซนก็ใช้ช่วงที่ซากิมัวเอาดาบมาปิดบังกนัการโจมตีของตนไว้ กระโดดข้ามหัวซากิ

    “ ตายซะ!!!! “ ฟิวเซนก็เอาดาบแทงเข้าใส่ซากิ

    ซากินั้นก็เอายกดาบขึ้นมาหยุดการโจมตีไว้ได้ทัน

    “ อะไรกัน???? “ ฟิวเซนนั้น

    “ ใช่ว่าจะใช้ดาบใหญ่ความเร็วจะช้านิ!!! “ ซากิก็ทำการโจมตีสวนกลับใส่ฟิวเซนปลิวกระเด็นขึ้นฟ้า

    ฟิวเซนนั้นพยายามทรงตัวบนฟ้า จนควบคุมตัวไว้ได้ ซากิก็กระโดดพุ่งขึ้นตามไป

    ทั้ง 2 ก็ต่อสู้กันบนอากาศสูงเหนือมหานครโตเกียว

    ซากิก็เหวี่ยงดาบฟันใส่อย่างรุนแรง ฟิวเซนก็เอาดาบมากันได้อย่างสบาย

    “ หึหึ แรงดีเหมือนกันนิแก “ ฟิวเซนพูดแล้วก็ถอยออกมา

    “ หึหึ แต่มันก็ห่างจากข้าไปหน่อยนะ “ มือของฟิวเซนก็ลุกเป็นไฟ

    ฟิวเซนนั้นก็ขว้างไฟที่ลุกบนมือใส่ซากิ 3 ดวง

    ซากินั้นใช้ดาบฟันครั้งเดียวเป็นคลื่นพลังทำลายลูกไฟได้หมด

    “ Lightning!!!Shot!!! “ ซากินั้นก็ใช้ดาบเหวี่ยงจนบังเกิดเป็นคลื่นไฟฟ้าอันรุนแรงพุ่งเข้าชนกับฟิวเซน

    “ อะไรกันนี่???หึย!!! “ ฟิวเซนก็เอาดาบเข้ามากัน

    “ ตู้ม!!!!! “ เสียงระเบิดก็ดังสะเทือนจากคลื่นพลังไฟฟ้าที่พุ่งใส่ฟิวเซน

    เมื่อควันหมอกจางลงฟิวเซนก็อยู่ในสภาพที่ยังอยู่ดีอยู่

    “ เกือบไปแล้วละฉัน “ ถ้าฟิวเซนไม่ใช้ดาบมารับการโจมตีไว้คงแหลกเป็นเสี่ยงๆแน่

    “ หึหึ ประมาทไม่ได้เลยนะเนี่ย???แก “ ฟิวเซนนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีกับซากิอีกครั้ง

    ทางด้านอีกฟากนึง ฟอร์เต้ได้มองไปที่สเปคเตอร์ที่เข้ามาสู้กับเธอ

    สเปคเตอร์คนหนุ่มอีกคนนึงผมสีน้ำเงินสั้นมีเลขโรมัน 32 ที่บนแก้มขวา ใช้อาวุธคือ หอกยาว

    “ ฉันคือ โคเอล เกรฟฟอนท์ สเปคเตอร์ No.32 “ สเปคเตอร์หนุ่มคนนั้นพูดเสร็จก็ทิ่มหอกใส่ทันที

    ฟอร์เต้ก็หลบหลีกไปด้านซ้ายจากปลายหอกไว้ได้ทัน จากนั้นเธอก็เข้าโจมตีใส่อย่างรวดเร็ว แต่โคเอลนั้นกลับเอาหอกมากันไว้ได้

    “ ฉันนะไม่ได้กระจอกอย่างที่คิดนะ!!! “ ฟอร์เต้ก็เริ่มเอาจริงแบบคนอื่นสักครั้งซะที

    บนฟากฟ้าอากาศเหนือมหานครโตเกียว

    “ โธ่โถโธ่........นายนี่มันกระจอกจริงๆ เรียกคนอื่นมาดีกว่านะ “ ฟรอเซอิคที่ประลองกับสเปคเตอร์ผมสีม่วงที่ชื่อ เฟล ไปเมื่อสักครู่นี้ก็สามารถชนะได้อย่างง่ายดาย

    เฟลซึ่งอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บอยู่นั้นแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้

    “ ฉันยังไม่แพ้หรอกนะเฟ้ย!!! “ เขาก็พุ่งเข้าใช้ดาบหมายจะแทงฟรอเซอิค

    “ สวะ...นะ “ ฟรอเซอิคนั้นก็ใช้ง้าวผ่าฟันเข้าที่ตัวของเฟล

    “ อ๊าก!!!! “ เฟลก็กระอักเลือดออกมาทั้งๆที่คมง้าวนั้นยังปัดติดที่ในท้อง

    “ ก็ยัง....... “ ในท่อนคำพูดของฟรอเซอิคท่อนนี้เขาก็ได้ลากคมง้าวฟันทะลุเข้าที่หน้าท้องของเฟลพอดี

    เฟลนั้นก็ขาดเป็น 2 ท่อน

    “ เป็นสวะอยู่ดีนะแหละ.... “ ฟรอเซอิคก็พูดจบประโยค

    ร่าง 2 ท่อนของเฟลก็ค่อยๆสลายเป็นเม็ดอนูแสงสีเขียว

    “ เหอ!!!!!!! “ กลุ่มสเปคเตอร์ที่อยู่ข้างๆฟาเซลนั้นก็ตกใจกับฟรอเซอิคที่โหดเหี้ยมอำมหิตสุดๆ

    ฟาเซลนั้นทนกับความอำมหิตของฟรอเซอิคที่ทำกับลูกน้องของตนได้ไม่ไหว

    “ รุมฆ่ามัน!!!! “

    กลุ่มสเปคเตอร์ที่เหลือนั้นก็ไม่อาจทนได้กับการกระทำอย่างนั้นเช่นกันจึงเข้ารุมโจมตีฟรอเซอิคทันที

    “ ฉันคือ เซอเฟีย สเปคเตอร์ No.29 “ สเปคเตอร์ผู้หญิงผมสีน้ำตาลยาวแนะนำตัว

    ตามด้วยสเปคเตอร์อีก 3 ตนก็แนะนำตัวตามเช่นกัน ซึ่งมี เฟอร์จิน สเปคเตอร์ชายผมดำ No.36, ฮูริว สเปคเตอร์ชายผมเหลือง No.52, วิลตันท์ สเปคเตอร์ชายผมยาวดำ No.37

    งานนี้ฟรอเซอิคเจองานหนักเสียแล้ว เหอๆ
  12. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Fic]Limited Blade : Destiny Of World [update ตอนที่14 ]

    ตอนนี้สั้นไปนิดนึง ยังไม่จุใจเลย~~~!! ><

    บุคลปริศนาทยอยตามมาเป็นพรวนเลยแฮะ เริ่มจำไม่ได้แล้วหล่ะว่าใครเป็นใครมั่ง ^^"
  13. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่15 ]

    Chapter 15

    ฟรอเซอิคก็เหวี่ยงง้าวหมุนรอบใส่พวกสเปคเตอร์

    “ หืม..การโจมตีของเจ้านี่มันน่ากลัวยิ่งนัก “ เฟอร์จินซึ่งได้รับรู้ถึงพลังวิญญาณของฟรอเซอิคก็ตกใจมากอย่างยิ่ง

    “ หึหึ ไม่เบานี่เจ้านี่ “ ฮูริว สเปคเตอร์อีกคนนึงก็รู้สึกสนุกกับการที่ได้สู้กับฟรอเซอิค

    ฟรอเซอิตนั้นซึ่งกำลังต่อสู้กับฮูริวอยู่นั้น วิลตันท์ก็เข้าโจมตีฟรอเซอิคในช่วงที่วุ่นวายอยู่

    “ หนอยแน่ะ คิดจะแทงข้างหลังฉันเหรอ??? “ ฟรอเซอิคนั้นก็รับรู้ทันก่อนปลายดาบที่กำลังเข้าใกล้ที่ผิวเนื้อผ้าของเสื้อตน

    ฟรอเซอิคใช้ง้าวของตนเหวี่ยงไปด้านหลัง คมง้าวนั้นก็ผลักลากวิลตันท์แล้วจากนั้นมันก็ค่อยๆตัดผ่าทะลุข้างร่างจนในที่สุด “ เชือด!!!! “ ร่างของวิลตันท์ก็ขาดเป็น 2 ท่อน

    “ วิลตันท์!!!! “ เซอเฟียเมื่อเห็นเพื่อนของตนโดนฆ่าก็โกรธแค้น เธอจึงกุมดาบคู่ทั้ง 2 มือของตนเข้าจู่โจมใส่ฟรอเซอิค

    เสียงการกระทบเสียดจากการต่อสู้ของฟรอเวอิคกับเซอเฟียก็ยิ่งทวีคูณแรงเสียง

    “ หึหึหึ ถึงเธอเป็นผู้หญิง แต่ดูๆแล้ว ฝีมือดีกว่าเจ้า 3 ตัวเมื่อกี้เสียอีก “ ฟรอเซอิคก็ชื่นชมฝีมือของเซอเฟียและตำหนิฮูริวกับเฟอร์จิน

    “ หนอย!!ว่าไงนะ “ ฮูริวกับเฟอร์จินเมื่อได้ยินคำตำหนิก็โกรธนิดๆจึงเข้ารุมโจมตีฟรอเซอิค

    เซอเฟียนั้นรู้ว่าการโจมตีแบบหมาหมู่อาจจะทำให้การโจมตีของเธอในการเข้าถึงฟรอเซอิคนั้นยาก

    ฟรอเซอิคนั้นแม้จะโดนฮูริวกับเฟอร์จินรุมโจมตีแต่ก็สามารถรับมือได้

    “ ฮูริว!!!เราใช้ท่าไม้ตายกันเถอะ!!! “ เฟอร์จินกับฮูริวนั้นก็ยืนตั้งท่าทั้งคู่

    “ ลำแสงพิฆาตจันทรา!! “ ทันใดนั้นดาบของทั้ง 2 ก็ปลายพลังลำแสงสีเหลืองเข้าโจมตีเป็น 2 สาย จนมันก็หลอมรวมแล้วเข้าพุ่งฟรอเซอิค

    “ หึหึ ฉันจะสังเวยพวกนาย 2 คนในพริบตานี่แหละนะ “

    แล้วทันใดนั้น

    “ ตู้ม!!!!! “ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น

    “ สำเร็จแล้วสินะ??? “ ฮูริวก็คิดว่าการโจมตีของพวกตนทำลายฟรอเซอิคได้แล้ว

    แต่มันก็เกิดสิ่งที่เกินคาดคิดเมื่อหมอกควันที่มาจากระเบิดเมื่อกี้เริ่มจางหายไปก็ปรากฏร่างของฟรอเซอิคที่ยืนอยู่บนอากาศและใช้ง้าวเข้ามากันไว้ได้เหมือนเดิม

    ฟรอเซอิคก็เริ่มใช้ท่าสุดยอด

    เขาก็หมุนควงง้าวด้วยมือเดียวอย่างเชี่ยวชาญ

    “ เชอะ!!!ไม่ว่ายังไงพวกเราจะจัดการแกให้ได้คอยดู!!! “ เฟอร์จินกล่าวอย่างโอ้อวดพร้อมกับตนและฮูริวพุ่งเข้าไปเพื่อฆ่าฟรอเซอิคในช่วงนั้นทันที

    เซอเฟียนั้นก็ใช้จิตญาณสัมผัสพลังวิญญาณของฟรอเซอิคด้วยความรู้สึกของตน

    “ เหอ!!นี่มัน..... “ เซอเฟียนั้นก็ได้ตกใจเมื่อได้สัมผัสถึงพลังของฟรอเซอิค

    “ เฟอร์จิน!!!ฮูริว!!!ออกมาจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้!! “ เซอเฟียนั้นก็ตะโกนเรียกทั้ง 2 ออกมา

    “ ไม่!!!ฉันจะต้องกำจัดเจ้านี่ได้ เพื่อปกป้องท่าน!!! “ ฮูริวก็ตอบด้วยคำตอบที่ทำให้เซอเฟียสะเทือนใจ

    “ ตายซะ!!!แก!!! “ ทั้ง 2 คนนั้นก็เข้าโจมตีใส่ฟรอเซอิคพร้อมกัน

    “ จงตายซะ!!!! ด้วย ผนึกน้ำแข็งแห่งราตรี Frozen Night!! “ ฟรอเซอิคก็กล่าวเสร็จ

    ก็บังเกิดไอน้ำแข็งปรากฏรอบตัวฟรอเซอิคและมันก็เริ่มขยายรัศมีจนเกิดเป็นไต้ฝุ่น

    “ เฮ้ย!!อะไรกะ....กัน.. “ ฮูริวกับเฟอร์จินก็โดนละอองความเย็นเข้าปกคลุมรอบ จากนั้นก็ล้มลงไป


    " ฮูริว!!! เฟอร์จิน!! " เซอเฟียเห็นดังนั้นก็โกรธแค้นอย่างมาก

    ท่าไม้ตายของฟรอเซอิคนั้นอันตรายมากเมื่ออยู่บนโลกเพราะมันจะส่งผลต่อโลกมนุษย์และมิติวิญญาณ แต่โชคดีที่เขาใช้มันตอนอยู่บนอากาศเท่านั้นจึงไม่แพร่กระจายบนพื้นดิน

    ทางด้านทิศตะวันตกห่างจากการต่อสู้ของฟรอเซอิคยาวไกล ฟาเซลซึ่งได้ดูการต่อสู้ของทุกคน แต่ที่ดึงดูดมากที่สุดคือ การต่อสู้ของฟรอเซอิค

    “ หึหึหึ แจ๋วจริงๆ พวกเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ “

    ฟาเซลนั้นรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลของฟรอเซอิคอย่างละเอียด
    สักพักหลังจากที่ฟรอเซอิคปล่อยท่าไม้ตายอัดฮูริวกับเฟอร์จิน ร่างของเฟอร์จินกับฮูริวนั้นขาวซีดเผือกอย่างน่าอนาถ และมีน้ำแข็งติดเต็มตัว ใบหน้าอันขาวซีดก็มองไปที่ศัตรูของตน ร่างของทั้ง 2 นั้นก็เริ่มเปล่งแสงสีเขียวขึ้นจากนั้นก็ได้สลายไปเป็นละอองอณูวิญญาณ

    “ หึหึ สวะมันก็ยังเป็นสวะอยู่ดีน่ะแหละ “ ฟรอเซอิคก็บ่นพึมพำ

    “ เขาไม่ใช่สวะหรอก.... “ เซอเฟียก็ทำหน้าที่ไร้ชีวิตชีวาแล้วลากดาบเข้ามายืนอยู่ต่อหน้าฟรอเซอิค

    “ อีกอย่าง!!!พวกเขาก็เคยเป็นแบบพวกนายด้วย!!นายมันก็ไม่ต่างกับปีศาจหรอก “ เซอเฟียก็กุมดาบแน่นแล้วเข้าต่อสู้กับฟรอเซอิค

    การโจมตีของเซอเฟียนั้นทั้งรวดเร็วและรุนแรงมาก ฟรอเซอิคก็พอใจต่อฝีมือของเธอมากจึงไม่ทำให้มันน่าเบื่อต่อเขาอีก

    “ เอาละนะ!! “ ฟรอเซอิคก็เริ่มเอาจริงขึ้นทุกที

    เซอเฟียก็หลบถอยออกมาจากนั้นเธอก็ใช้พลังวิญญาณ

    “ รังสีความตาย!!!! “ เธอก็ฝใช้ปลายดาบชี้ไปที่ฟรอเซอิคแล้วยิงออกมาเป็นลำแสงสีแดง

    “Frigid reflection!!! “ ฟรอเซอิคก็ปลดปล่อยเกล็ดน้ำแข็งจำนวนมากขึ้นมารอบตัว

    ลำแสงสีแดงของเซอเฟียก็เข้าระเบิด “ ตู้ม!!!!! “ ใส่ฟรอเซอิค

    เมื่อควันจางหายไปนั้น ฟรอเซอิคนั้นยังอยู่ในสภาพเดิมอยู่ดี

    “ อะไรกัน????ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้ง้าวรับการโจมตี “ เซอเฟียก็งงว่าทำไมลำแสงของเธอไม่ทำลายฟรอเซอิค

    “ ผลของเกล็ดน้ำแข็งจากสกิล Frigid reflection ของฉันนะ ทำให้มันป้องกันเวทย์และการโจมตีทุกอย่างและอีกอย่าง.... “ ฟรอเซอิคพูดยังไม่ทันจบ ลำแสงสีแดงของเธอก็เข้าพุ่งใส่เซอเฟีย

    “ เฮ้ย!!! “เซอเฟียนั้นรู้สึกได้ จึงหลบได้อย่างฉิวเฉียด

    “ เอ่อ...ขอต่อละกัน..มันจะสะท้อนการโจมตีด้วยละ จะบอกให้ “ ฟรอเซอิคก็พูดต่อจบในตอนนั้นไปเลย

    “ ลูกเล่นเจ๋งดีนิ... “ เซอเฟียก็แปลกใจกับลูกเล่นของฟรอเซอิค

    ทางด้านโคชินั้น ซึ่งได้ประลองกับกราฟิโอ้อย่างดุเดือด

    กราฟิโอ้นั้นก็ชูฝ่ามือ โดยเล็งไปที่โคชิที่กำลังวิ่งเข้ามาหาแล้วพูดว่า

    “ รังสีความตาย!!! “ ลำแสงสีแดงก็พุ่งออกมาจากมือ

    “ หึย!! “ โคชินั้นหยุดวิ่งแล้วใช้เคียวฟันลำแสง

    เสียงระเบิดก็ได้บังเกิด “ ตู้ม!!! “ พื้นรอบข้างโคชิก็ยุบลงอย่างรุนแรง
    กราฟิโอ้ก็ชูมือขึ้นพร้อมกับทำหน้าเย็นชา โคชิก็สงสัยกับท่าทางของกราฟิโอ้มากแต่ก็ไม่สนใจจึงวิ่งเข้าหาต่อ

    “ หึหึ เอาละจงออกมา สมุนของข้า!!!! “

    โคชินั้นเมื่อได้ยินดังนั้นก็หยุดจากนั้นเขาได้รู้สึกถึงบางอย่างจากบนฟากฟ้า

    แต่แล้วบนฟากฟ้าก็ได้เกิดหลุมดำขึ้นอีกครั้ง โดยสิ่งที่ออกมานั้น

    “ ว้าก!!!! “ เสียงคำรามที่มาจากหลุมนั้นดังสนั่น

    จากนั้น มีสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับได้ออกมาจากหลุมดำเป็นจำนวนมาก

    “ สมุนของข้า!!! Sub Specter ของฉัน!!! “ กราฟิโอ้ก็ทำหน้ายิ้มแย้มที่แฝงด้วยความโหดเหี้ยม

    พวกซับสเปคเตอร์นั้นคือ สเปคเตอร์ระดับชั้นล่างรองลงมาจากสเปคเตอร์หมายเลข 21-100 ซึ่งเปรียบได้เหมือนทหารเดินเท้า พวกมันมีลักษณะเหมือนมนุษย์แต่มันไม่มีจิตใจและความรู้สึก มีเพียงแต่คำว่าทาส, เจ้านาย, เลือดและการต่อสู้ ใบหน้าของมันซึ่งต้นแบบของมันก็คือสเปคเตอร์หนุ่มผมแดงคนนึงที่เก่งกาจที่สุด แต่ความสามารถไม่อาจเทียบตัวจริงได้แม้แต่ฝุ่น มันสวมเสื้อผ้าชุดสีขาว ข้างในชุดเกราะสีดำ ถุงมือเหล็ก สวมผ้าปิดหน้าตาเหลือเพียงแต่ตาสีแดงของมัน นัยน์ตาสีแดง อาวุธของมันคือดาบคาตะนะสั้นบาง

    จำนวนของมันที่มีอยู่ตรงหน้าของโคชินั้นมีจำนวนมหาศาลจนนับไม่ถ้วน

    แต่ก่อนที่มันจะรุมทำร้ายโคชินั้นเอง

    “ ปั้ง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ เสียงปืนก็ดังลั่นอย่างรวดเร็ว ถ้าเทียบแล้วมันเร็ผวเท่ากับปืนกลหนักเลย

    พวกซับสเปคเตอร์ของกราฟิโอ้นั้นก็โดนกราดยิงตายไปบางตัว พวกมันจึงหยุดการโจมตีก่อนแล้วหันไปที่ที่มาของกระสุน

    พวกมันมองไปที่ หญิงสาวผิวคล้ำคล้ายเหลืองน้ำผึ้ง ผมสีน้ำตาล ใบหน้ายิ้มแย้มชูนิ้วชี้กับกลางทั้ง 2 ข้าง มีควันขึ้นจากนิ้วชี้และกลางด้วย ข้างๆเธอนั้นคือ ชายหนุ่มสวมแว่นธรรมดาในชุดดำกางเกงดำเหมือนชุดนักเรียน

    “ นี่ อคิโระ อาวุธนายนี่เจ๋งจริงๆ “ หญิงสาวลึกลับคนนั้นพูดคุยกับชายหนุ่มแว่นที่มีนามว่า อคิโระ

    “ โธ่....อัจฉริยะอย่างฉันนะ ประดิษฐ์อะไรมันก็ง่ายๆอยู่แล้ว รับประกันคุณภาพด้วยศักศรีดิ์นักธาตุของฉันเลย “ ชายคนนั้นเชื่อมั่นในสิ่งประดิษฐ์ของตนพร้อมกับขยับแว่นนิดหน่อย

    พวกซับสเปคเตอร์นั้นก็ได้รุมทำร้าย 2 คนนั้น

    “ เชอะ!!!!ปัญหาใหญ่มาแล้ว!!! “ เธอก็ได้พุ่งไปทางซ้ายแล้วชูนิ้วที่เป็นเครื่องยิงปืนที่มีลักษณะสวมนิ้วจขากนั้นก็ยิงกราดใส่พวกซับสเปคเตอร์

    พวกซับสเปคเตอร์นั้นก็หันจ้องเข้ารุมทำร้ายอคิโระด้วย

    “ หึย!!!ออกมาเลย!!Akiro Pack ของฉัน!! “ อคิโระก็ตะโกนดังนั้น กระเป๋าเป้ของเขาที่สวมอยู่ข้างหลังนั้นได้มีเส้นลวดเหล็กออกมาจำนวนมาก มันก็ฟาดใส่พวกสเปคเตอร์ที่กระโดดรุมทำร้าย

    พวกซับสเปคเตอร์ก็สงสัยกับลูกเล่นของอคิโระ

    “ เอาละ โหมด Tranform!!! “ อคิโระก็ตะโกนอย่างดัง

    ลวดเหล็กจำนวมากที่ออกมาจากกระเป๋านั้นก็ได้เข้ารวมตัวเป็นหนึ่งเดียวเหมือนกับเซลล์จนกลายเป็นรูปเป็นร่าง เหมือนกับหุ่นยนต์ร่างใหญ่ติดกับหลังของอคิโระ อคิโระนั้นก็ได้จับเกยร์บังคับของเจ้าหุ่นตัวนั้น

    แขนขวาของเจ้าหุ่นตัวนั้นเป็นปืนกลหนัก แขนซ้ายของมันคือ มือยักษ์ ที่มีแรงในการยกของหรือจับเหวี่ยงอย่างง่าย

    “ ฮ่าๆๆๆๆๆ “ อคิโระก็หัวเราะก่อนที่จะกราดยิงปืนกลหนักใส่พวกซับสเปคเตอร์ที่มารุมตน
  14. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่15 ]

    รู้สึกถึงความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ - -+b

    แต่....บางจุดบรรยายเพิ่มสักนิดเถอะครับบบบบบบบ อ่านแล้วบางทีอารมณ์มันขาดดังฉับ เหอ ๆๆ

    รอตามต่อคร้าบ~
  15. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่15 ]

    Special Chapter

    ในดินแดนโลกแห่งวิญญาณซึ่งเป็นโลกสำหรับวิญญาณที่ถูกส่งมาที่โลก วิญญาณทั้งหมดก็ใช้ชีวิตเหมือนกับบนโลกมนุษย์ โดยใช้ชีวิตใต้บัญญัติของพระเจ้า เมื่อครบกำหนดจะถูกส่งกลับไปเกิดใหม่ที่บนโลก เทคโนโลยีในโลกนั้นยังไม่ก้าวหน้าเท่ามนุษย์ในโลกปัจจุบันสักเท่าไหร่

    ณ ร้านเหล้าแห่งหนึ่งบนดินแดนโลกแห่งวิญญาณ ชายหนุ่มคนนึงผมซอยสั้นสีทอง ชุดผ้าคลุมหนังรัดกุม กำลังนั่งดื่มไวน์ที่หน้าโต๊ะบาร์ ในทางด้านหลังของชายหนุ่มคนนั้นประตูร้านก็เปิดออก มีหญิงสาวคนนึงในชุดกระโปรงสีขาว ผมยาวสีดำ เธอถือตะกร้าดอกไม้เดินเข้ามาในร้านเหล้า เป็นเรื่องที่น่าแปลใจนักที่มีหญิงสาวหน้าตาขาสวยเข้ามาในร้านเหล้าแบบนี้

    “ รับดอกไม้ไหมค่ะ??? “ เธอก็เร่ถามคนซื้อในร้านเหล้า

    บาร์เทนเดอร์ของร้านนั้นเมื่อเสิร์ฟเหล้าให้ลูกค้าก็เหลือบไปเห็นสาวขายดอกไม้คนนั้นก็อดสงสารไม่ได้ จึงเดินข้างที่ข้างๆจุดที่ชายหนุ่มผมสั้นซอยสีทองคนนั้นนั่งดื่มไวน์บนโต๊ะบาร์

    “ น่าสงสารชะมัดเลยสาวขายดอกไม้คนนั้น.... “ บาร์เทนเดอร์ก็พูดพึมพำ

    แต่ชายหนุ่มผมซอยทองก็ยังคงดื่มไวน์ต่อ

    “ เธอชื่อ คาโอริ เป็นวิญญาณเด็กหญิงที่ถูกส่งมาตั้งแต่เธอตายในวัยเพียง 13 ปีเอง...ตอนนี้เธอคงมีอายุ 19 ปีแล้วละ.. “ บาร์เทนเดอร์ยังคงพึมพำต่อเหมือนคุยกับชานหนุ่มผมซอยทองอยู่ด้วย

    แต่ชายหนุ่มผมซอยทองก็ยังคงดื่มไวน์อีก

    “ น่าสงสารชะมัด เธอตายในอุบัติเหตุรถยนต์ แถมยังต้องอยู่ที่นี่และมีกำหนดการเกิดใหม่ในอีก 3 ปีอีก เธอ..... “

    “ ขออีกไวน์อีกขวดหน่อย เอ็ดวิน “ ชายผมซอยทองก็สั่งรายการตัดคำพูดของบาร์เทนเดอร์พอดี

    บาร์เทนเดอร์ก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจแต่ก็แฝงยิ้มเยาะไปด้วย

    “ นายนี่ยังคงนิสัยเก่าเหมือนเดิมเลยนะ “ เอ็ดวิน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเหล้า Flash Plus ก็เดินไปหยิบไวน์มาให้ชายหนุ่มผมซอยทองจากหลังร้าน

    ตอนนั้นเองมีกลุ่มชาย 4 คน ท่าทางเหมือนพวกนักเลง เดินเข้ามาในร้าน พวกนั้นเหลียวมองไปที่สาวขายดอกไม้คุยอะไรบางอย่างกับเพื่อนกลุ่มซึ่งดูเหมือนจะไม่ชอบมาพากล

    ชายทั้ง 4 คนนั้นก็เดินเข้าไปหาคาโอริ สาวขายดอกไม้คนนั้น

    “ น้องจ๊ะขอซื้อสักดอกนึงจ้ะ “ ชายคนที่ 1 ก็ขอซื้อด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

    “ ขอบคุณคะ “ คาโอริก็หยิบดอกไม้มา 1 ดอกให้แก่ชายคนนั้น แต่ว่าชายคนนั้นก็จับกำข้อมือของคาโอริ

    คาโอริก็ตกใจอย่างมาก

    “ อันที่จริงพวกฉันอยากจะได้เธอไปด้วยนะน่ะ “ ชายคนนั้นพูดด้วยสายตาน่ากลัว เพื่อนอีก 3 คนก็ยิ้มเยาะ

    “ ปล่อยฉันนะ!!! “ คาโอริก็พยายามสลัดมือออกแต่ก็ไม่หลุดซักที

    “ หึหึ อย่าคิดขัดขืนเลยนะ..พวกเราพาเธอกลับไปด้วยเฮอะ “ ชายคนที่ 1 นั้นพูด

    “ ช่วยด้วย!!ช่วยด้วย!!!ใครก็ได้ช่วยฉันที!! “ เสียงของสาวขายดอกไม้คาโอริก็เรียหร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครสนใจเพราะไม่อยากจะมีเรื่อง

    “ เฮ้ย!!!! “ เสียงของชายคนนึงก็ดังขึ้น เป็นเสียงของชายผมซอยทองคนนั้นนั่นเอง

    กลุ่มนักเลง 4 คนก็เหลียวมองที่ชายคนนั้นอย่างมึนงง

    “ อย่ามาทำตัวทุเรศที่นี่ได้มั้ย???มันเหมือนพวกหมา “ ชายผมซอยทองก็พูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา

    “ ว่าไงนะ!!!!!อยากลองดีงั้นเรอะ??? “ ชายคนที่ 1 ก็เกิดบันดาลโทสะขึ้น

    “ หรือนายอยากจะลองกับฉันเหรอ???สวะ?? “ ชายผมซอยทองก็กล่าวอย่างหยิ่งยโส

    “ หนอยแก.... “ ชายคนที่ 1 ก็เดินเข้าไปจะชกกับชายผมซอยทอง

    ชายคนที่ 1 ก็เข้าพุ่งหมัดใส่ทันที ชายผมซอยทองก็หลบหลีกหมัดที่พุ่งมาจากนั้นก็จับบีบแขนที่พุ่งต่อยออกมาจากนั้นก็ใช้เข่าตอกเพื่อหักแขน

    เปราะ!!! “ เสียงกระดูกกระทบหักจากกันก็ดังขึ้น

    “ อ๊าก!!!....หนอยแก... “ ชายคนที่ 1 ก็โดนหักแขนขวาไปอย่างง่ายดาย

    เพื่อนๆอีก 3 คนก็แปลกใจอย่างมาก แม้แต่คาโอริก็ยังแปลกใจ

    “ เข้ามาพร้อมกัน 4 คนเลย “ ชายหนุ่มผมซอยทองก็ตั้งท่ามวยพร้อมท้า

    ชายอีก 3 คนก็เข้าทำร้ายพร้อมกัน โดยการโจมตีนั้นแบ่งเป็น 2 ทิศทาง ชายหนุ่มผมซอยทองก็หมุนตัวหลบหมัดได้จากนั้นก็พุ่งหมัดใส่ดั้งของชายคนที่ 2

    ชายคนที่ 2 ก็ล้มลงไปอย่างรุนแรง เลือดก็พุ่งออกมาจากในจมูก

    เมื่อเหลืออีก 2 คนก็เข้าโมตีทั้งด้านข้าง แต่ชายผมซอยทองก็ตีลังกาถีบใส่ชายทั้ง 2 คน ทั้ง 2 ด้านพร้อมกัน

    “ เฮ้ย!!!กลับกันก่อน!!! “ ชายคนที่ 1 ก็วิ่งหนีออกจากร้านก่อนที่พวกอีก 3 คนก็วิ่งหนีออกตามกัน

    คาโอรินั้นก็รอดจากเงื้อมมือจากกลุ่มนักเลงได้ เธอนั้นจึงเดินไปหาชายหนุ่มผมซอยทองเพื่อขอบคุณ แต่ว่าเขากลับหายไปอย่างน่าตาเฉย คาโอริก็ตั้งความหวังว่าจะต้องตามหาชายหนุ่มผมซอยทองให้ได้ จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน

    3 ปีต่อมา คาโอรินั้นก็ยังเร่รอนในแถวๆร้านเหล้า เพื่อรอการกลับมาของชายหนุ่มผมซอยทองคนนั้นแต่ว่าเหลือเพียง 3 วันเท่านั้นที่จะครบกำหนด

    คาโอรินั้นกำลังเดินขายดอกไม้ในเมืองนั้นก็ได้แลเห็นป้ายประกาศรายชื่อของวิญญาณที่จะถูกส่งกลับไปเกิดใหม่บนโลกซึ่งติดมาเป็นเดือนแล้ว เธอก็มองไปที่รายชื่อของเธอ อีกเพียง 3 วันเท่านั้น เธอเริ่มหมดหวังที่จะตามหาชายหนุ่มผมซอยทอง

    “ อีก 3 วันเองเหรอเนี่ย??? “ เธอก็เดินเร่ร่อนขายดอกไม้ต่อ

    จนมาถึงที่ตลาด คนก็เข้ามาซื้อดอกไม้เป็นจำนวนมาก ในช่วงที่เธอกำลังขายดอกไม้ให้แก่ลูกค้าจำนวนมากอยู่นั้นเธอก็ได้เหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนนึง ในชุดผ้าคลุมหนังสีดำ ผมสั้นไว้ซอย ใช่แล้วเธอยังจำรูปลักษณะของชายคนที่เธอเคยช่วยชีวิตไว้ เธอจึงรีบวิ่งไปหาโดยเบียดกลุ่มฝูงชน ตะกร้าดอกไม้นั้นก็หลุดออกจากมือในช่วงที่เบียดกับเหล่าฝูงชน จนเธอก็หลลุดออกจากฝูงชนเข้าไปในร้านเหล้าในย่านนั้นซึ่งเธอเห็นชายหนุ่มผมซอยทองเข้าไปในร้านนั้น

    เธอก็เริ่มเหลือบมองหาชายหนุ่มผมซอยทอง จนเธอก็ได้เหลือบเห็นเขาที่หน้าโต๊ะบาร์ เธอก็เดินเข้าไปหาชายหนุ่มผมซอยทอง เมื่อชายหนุ่มผมซอยทองนั้นก็ได้หันหลังเขาก็ได้เห็นสาวขายดอกไม้เดินเข้ามาอยู่หน้าตนพร้อมกับจะพูดว่า

    เสียงขัดๆก็ดังจากประตู

    “ หลบ!!!!!! “ ชายหนุ่มผมซอยทองก็รีบเข้าไปหาพร้อมอุ้มคาโอริ

    “ เอ๋!!!!! “ คาโอริก็เขินอายนิดๆ

    ทันใดนั้นเสียงปืนกลก็ดังลั่นพร้อมกับลูกกระสุนก็พุ่งไปหาชายหนุ่มผมซอยทอง

    แต่ทั้งชายหนุ่มผมซอยทองก็พาคาโอริแอบที่หลังโต๊ะบาร์เหล้าได้ทัน กระสุนก็สาดทั่วร้าน

    กระสุนปืนนั้นมาจากกลุ่มทหารลึกลับ ในชุดเกราะ สวมหน้ากากกันแก๊ส

    “ คุณคงเป็นผู้ชายคน... “

    “ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาพูด “ ชายหนุ่มผมซอยทองก็ยังพูดตัดคาโอริด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมก่อนที่จะชักปืนออกมา 2 กระบอก พร้อมกับลุกขึ้นวิ่งฝ่าดงกระสุน

    ปั้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ“ ชายหนุ่มผมซอยทองก็กราดปืนยิงแบบAuto เหมือนปืนกล

    กลุ่มทหารลึกลับก็ถูกชายหนุ่มผมซอยกราดยิงใส่ล้มตายเป็นบางส่วน

    จนกระทั่งเสียงปืนก็หยุด สักพักมีชายแก่อ้วนท้วมก็เดินเข้ามาในประตูร้านพร้อมกับทหารของตน 3 คน

    “ ยอมให้ทางการจับซะดีๆ นายถูกล้อมแล้ว วลัดฟรังเชส “ ชายร่างอ้วนก็กล่าวขอให้ยอมมอบตัว

    “ ฉันไม่ยอมมอบตัวกับคนอย่างแกหรอก ฟัลคัส ไอ้สุนัขรับใช้ ทั้งๆที่เป็นเจ้าหน้าที่ศาสนจักรแท้ๆกลับมาทำเรื่องทรามๆแบบนี้ ฉันรับไม่ได้หรอก “ ชายผมทองซอย หรือ ชื่อของเขา วลัดฟรองเชส ซึ่งหลบอยู่หลังเสานั้น ได้ปฏิเสธคำขอแถมยังด่าด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา

    วลัดฟรองเชสก็พุ่งออกมาจากเสาจากนั้นก็ยิงกระสุนใส่เจ้าพวกนั้น

    ปั้ง!!ปั้ง!!!ปั้ง!!

    “ อ๊าก!!!.... “ ทหารข้างๆฟัลคัส 3 นายก็โดนกระสุนเจาะกลางกบาลหมวกทหารโดยไม่ทันรู้ตัวแล้วก็ล้มนอนตายไปทั้ง 3 คน

    “ เหอ??? “ ฟัลคัสเมื่อเห็นลูกน้องตนตายไปอย่างง่ายดายก็ออกอาการเซ็งนิดหน่อย

    วลัดฟรองเชสนั้นก็เดินเข้าไปหาฟัลคัสพร้อมเล็งปืนที่หัวของเขา

    “ หึหึ นายทำได้เพียงแค่นี้เองเหรอ?? “ ฟัลคัสพูดเหมือนไม่กลัวอะไรเลย

    ฟัลคัสนั้นในช่วงที่วลัดฟรองเชสกำลังเล็งอยู่นั้น ฟัลคัสก็กระดิกนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง จากนั้นก็มีดาบคาตะนะสั้นออกมาจากแขนเสื้อ

    “ เสร็จฉันละ!!! “ ฟัลคัสนั้นก็เข้าจู่โจมทันที

    วลัดฟรองเชสนั้นก็กระโดดถอยไปข้างหลังแล้วกราดยิงใส่ฟัลคัส แต่ฟัลคัสนั้นกลับใช้ดาบปัดกระสุนได้อย่างรวดเร็ว ทั้ง 2 ต่อสู้กันอย่างดุเดือด วลัดฟรองเชสนั้นก็ได้จังหวะเข้าประชิดใกล้ๆฟัลคัสจากนั้นใช้ปืนเล็งจ่อคาง

    ปั้ง!!!!!!! “ ลูกกระสุนก็เจาะทะลุคางของฟัลคัส

    ร่างของฟัลคัสก็ล้มลงนอนกับพื้น

    “ ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก “ วลัดฟรองเชสก็ถอดสลักแม็กกระสุนออกมาทั้ง 2 กระบอก

    คาโอรินั้นเธอก็โล่งอกที่วลัดฟรองเชสรอดมาได้ แต่เธอก็ประหลาดใจไม่น้อยที่วลัดฟรองเชสนั้นไม่ได้แสดงอาการบาดเจ็บเลยกับใบมีดที่ปักอกของวลัดฟรองเชสเลย วลัดฟรองเชสก็เดินไปหาเพื่อดูว่าคาโอริบาดเจ็บตรงไหนไหม

    “ นี่..เธอเป็นใครกันเหรอ??? “ วลัดฟรองเชสก็ถามคาโอริ

    “ คุณเคยช่วยฉันตอนที่ร้านเหล้าเมื่อ 3 ปีก่อนไง “ คาโอริก็ตอบ

    “ 3 ปีก่อนงั้นเหรอ???... “ วลัดฟรองเชสก็นึกคิด

    “ ถ้างั้นเธอคงเป็น สาวขายดอก.... “

    ในทันใดนั้นก็มีดาบคาตะนะสั้น 2 เล่มก็พุ่งเข้าทะลุกลางทั้ง 2 เล่ม เลือดก็กระเด็นไปโดนทั้งใบหน้ากับเสื้อผ้าของคาโอริ คาโอริตกใจอย่างมาก

    “ นี่มัน...... “ วลัดฟรองเชสก็งงมากแล้วหันกลับไปในสภาพบาดเจ็บ

    “ หึหึหึ คิดว่าฉันจะเป็นเหมือนก่อนงั้นเหรอ???วลัดฟรองเชส??? “ เสียงของชายคนนึงดังขึ้น

    ที่แท้เป็นเสียงของฟัลคัสนั่นเอง เขายังทำใบหน้ายิ้มเยาะอยู่ ลูกกระสุนตรงคางก็คายออกมาจากคางจนหลุดออกมา ผิวเนื้อก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

    “ แก??? “ วลัดฟรองเชสก็งงกับความสามารถของฟัลคัส

    “ การฟื้นฟูยังไงละ “ ฟัลคัสพูดจากนั้นก็ปล่อยใบมัดจำนวนมากออกมาจากแขนเสื้อพุ่งเข้าที่หน้าอกของวลัดฟรองเชส

    ร่างของวลัดฟรองเชสนั้นก็โดนใบมีดจำนวนมากปักเต็มอกจนโดนใบมีดที่พุ่งมาอย่างหนักผลักดันไปติดกับกำแพง ร่างของวลัดฟรองเชสก็โดนใบมีดปักทะลุร่างตรึงกับกำแพงร้าน

    “ หึหึ นี่แหละวันที่ฉันรอคอยมานาน ฮ่าๆๆๆๆๆ “ ฟัลคัสนั้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

    “ อะไรกัน??? “ คาโอรินั้นถึงกับช็อกสุดๆที่วลัดฟรองเชสโดนมีดปักทะลุร่างอย่างอนาถ

    To be Continued…………
  16. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update Special Part ]

    อ็อก !! ตามมาอ่านรวดเดียวใกล้ตายเต็มทน ตัวละครเยอะมากจนจำไม่หวั่นไหว บางช่วงอย่างที่คนอื่นๆคอมเมนต์มานะคับ คือบรรยายน้อยไปนิดรู้สึกไม่ค่อยเห็นภาพเลย แต่นับว่าเห็นการพัฒนาขึ้นในทุกๆตอนนะคับ ไว้จะแวะมาอ่านเรื่อยๆน้า

    ปล. รูบี้จังน่ารักมาก ถูกใจผม อิอิ
  17. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update Chapter 16 ]

    Chapter 16

    “ นั่นมันอะไรกัน??? “ กราฟิโอ้ได้ยินเสียงปืนดังลั่นต่อเนื่องไม่หยุด

    ในช่วงที่กราฟิโอ้เผลอตัวนั้นโคชิก็เข้าโจมตีกราฟิโอ้ กราฟิโอ้นั้นก็สามารถไวต่อการเคลื่อนไหวของโคชิได้ทันจึงได้ใช้ดาบเข้าบล็อกคมเคียวของโคชิได้อย่างฉิวเฉียด

    “ นายคิดจะกำจัดฉันได้ด้วยการโจมตีแบบนี้นะเรอะ!! “ กราฟิโอ้ก็ดันเคียวของโคชิออกไปจากนั้นก็เข้าฟันต่อเนื่องใส่โคชิ

    “ หึย!!!แกอย่าอยู่เลย เสี้ยวจันทรา!!! “ โคชิก็ปล่อยลำแสงจากคมง้าวใส่กราฟิโอ้เป็นวงกว้าง

    กราฟิโอ้นั้นก็เอาดาบมาบังแต่ว่าความรุนแรงอันมหาศาลของคมง้าวนั้นจึงผลักร่างของกราฟิโอ้ตกลงพื้น

    กราฟิโอ้นั้นก็พุ่งตกลงมาบนพื้น แม้อาการบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังลุกขึ้นมาอีก

    “ หนอยแก...... “ เลือดตามแขนขวานั้นไหลออกมาจากบาดแผลลึกที่น่องแขนพอดี ทำให้เลือดพุ่งไหลออกมาอย่างรวดเร็วมีโอกาสสูงที่จะเสียเลือดจนตาย

    โคชินั้นก็ลงมาบนพื้นพร้อมพูดว่า

    “ นายยอมแพ้ซะเถอะ “

    กราฟิโอ้เมื่อได้ฟังคำพูดของโคชินั้นก็ยิ้มเยาะนิดๆพร้อมหัวเราะ

    “ นายคิดว่าสภาพฉันตอนนี้สู้แกไม่ได้งั้นเรอะ??? “ กราฟิโอ้นั้นก็พยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

    เขาก็ทำท่าถือจากนั้นรำดาบคล้ายรำดาบจีน

    “ อาวุธของข้า กลีบดอกมรณะ “ ทันใดนั้นดาบก็เปล่งแสงสีชมพู

    จากนั้นดาบของกราฟิโอ้ก็เริ่มเปลี่ยนรุปร่างของมัน โกร่งดาบก็กลายเป็นดอกกุหลาบแดง ด้ามดาบก็เริ่มกลายเป็นรากไม้สีเขียวที่มีหนามเต็มรากก็รัดกับมือ หนาวนั้นก็ตำเข้าแขนจากนั้นก็กลายเป็นรากเข้ายึดกับกระแสเลือดในร่างกายของกราฟิโอ้ กลายเป็นดาบอีกรูปแบบนึงของกราฟิโอ้ สีนัยน์ตาของกราฟิโอ้ก็แปรเปลี่ยนจากสีเขียวกลายเป็นสีแดง

    “ นี่มันอะไรกัน??? “ โคชิก็ตกใจกับร่างกายของกราฟิโอ้

    “ นี่แหละคือพลังอันที่แท้จริงของฉัน “ กราฟิโอ้ก็เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

    โคชินั้นเริ่มหวาดหวั่นนิดหน่อยเมื่อได้รู้สึกถึงไอวิญญาณของกราฟิโอ้

    “ เป็นไงละ อึ้งละสิ “ กราฟิโอ้เชื่อมั่นในพลังของตนสูง กราฟิโอ้ก็พุ่งเข้าใส่โคชิ จากนั้นก็เข้าฟันทะลวงใส่โคชิอย่างรุนแรง

    โคชินั้นก็ใช้เคียวของรับการโจมตีไว้ได้ โคชินั้นก็ตอบโต้กลับด้วยการเหวี่ยงเคียวฟันใส่อย่างรุนแรง

    “ อย่างนี้มันเชื่องช้าไป “ กราฟิโอ้ก็ติการโจมตีของโคชิก่อนที่จะเข้าโจมตีโต้กลับไปอีก

    กราฟิโอ้ก็ใช้ดาบทำการโต้กลับอย่างรุนแรง โคชินั้นโชคดีที่ใช้เคียวรับไว้ได้ทัน ทำให้ร่างของเขาโดนอัดกระเด็นกระแทกกับกำแพงทางเดิน

    “ โอ๊ย.....บ้าเอ๊ย “ โคชินั้นก็กล่าวอุทานนิดหน่อย

    ไม่ทันไรกราฟิโอ้ก็เข้าวิ่งเข้าโจมตีใส่อย่างรวดเร็ว

    “ ฮ่าๆๆๆๆ สนุกจริงๆเลย!!! “ กราฟิโอ้ก็ฟาดฟันจู่โจมอย่างบ้าคลั่ง

    โคชินั้นทำได้แต่คอยรับการโจมตี แทบไม่มีโอกาสพอที่จะโจมตีสวนกลับใส่

    “ นายมันบ้าไปแล้วเว้ย!!กราฟิโอ้!!! “ โคชิก็เหวี่ยงเคียวฟาดใส่กราฟิโอ้กระเด็นถอยออกไป

    โคชินั้นในที่สุดก็ได้โอกาสโจมตี โคชิเริ่มเหวี่ยงฟันรวดเร็วกว่าการโจมตีครั้งก่อนมาก

    กราฟิโอ้เมื่อเห็นโคชิเอาจริง ก็เกิดรอยยิ้มที่ไม่เป็นมิตร

    “ หึหึ เก่งนี่แก “ กราฟิโอ้ก็ดันเคียวออกไป

    ทั้ง 2 ก็เริ่มพุ่งเข้าโจมตีใส่กันอย่างบ้าคลั่ง โคชิก็เหวี่ยงเคียวใส่กราฟิโอ้

    “ กีบดอกสังหาร!!!! “ กราฟิโอ้ก็ปล่อยคลื่นพลังดาบพุ่งใส่โคชิ

    “ เสี้ยวจันทรา!!! “ โคชิก็ใช้หวดเคียวบังเกิดใบมีดพุ่งเข้าชนกับพลังกลีบสังหารพอดี

    “ อย่างนี้สิ สนุก!!! “ กราฟิโอ้ก็พูดจาตื่นเต้น

    ทางด้านฟรอเซอิคที่กำลังต่อสู้กับเซอเฟียอยู่

    ทั้ง 2 ก็วิ่งไล่ฟันบนฟ้ากับบนดินบ้าง

    “ ตายซะ!!! “ เซอเฟียก็หวดเหวี่ยงดาบใส่เป็นคลื่นใบมีดพุ่งใส่ฟรอเซอิค แต่ฟรอเซอิคกลับหลบได้

    ฟรอเซอิคก็วิ่งปล่อยพลังน้ำแข็งจากฝ่ามือพุ่งใส่เซอเฟีย

    เซอเฟียก็ใช้ดาบปล่อยลำแสงสีแดงพุ่งใส่ฟรอเซอิคทำลายพลังไอน้ำแข็งของฟรอเซอิค

    “ ไงละ คนสวย “ ทันใดนั้นฟรอเซอิคก็โผล่มาอยู่ข้างหลังเซอเฟีย

    เซอเฟียนั้นรีบใช้ดาบหมุนฟันไปข้างหลัง แต่ฟรอเซอิคก็เอามือซื้อมาจับที่ข้อมือซ้ายของเซอเฟียที่กุมดาบอยู่
    เซเฟียนั้นเมื่อไม่สามารถใช้ดาบได้จึงใช้ขาฟาดคอฟรอเซอิค

    ในช่วงที่ฟรอเซอิคโดนฟาดคอนั้นก็ลากขาของเซอเฟียจากนั้นเหวี่ยงพุ่งลงพื้นเช่กัน

    เซอเฟียก็ล้มนอนลงพร้อมกับฟรอเซอิค จากนั้นไม่นานทั้ง 2 ก็ลุกขึ้นมาอีกครั้งและก็ต่อสู้ต่อ

    “ หึหึ เก่งดีนี่คนสวย “ ฟรอเซอิคนั้นก็ชมเชยกับฝีมือของเซอเฟีย

    “ เรามาจบกันตอนนี้เลยดีกว่านะ “ ง้าวของฟรอเซอิคเริ่มมีลำแสงสีฟ้ากับเกล็ดหิมะหมุนรอบตัว

    “ ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ฆ่าแกไปด้วย!! “ เซอเฟียก็วิ่งเข้าไปหา

    เซอเฟียก็ฟันใส่ฟรอเซอิคอย่างรวดเร็ว

    “ เสร็จฉันละ ในดินแดนแห่งสีน้ำเงิน( In The Land Of Blue ) “ ฟรอเซอิคก็ใช้สร้างไอเย็นรอบพื้นถนน

    “ อะไรกัน!! “ เซอเฟียก็โดนน้ำแข็งบนพื้นถนนเกาะติดขาทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

    “ เอาละ จบกันซะทีนะ “ ฟรอเซอิคก็ง้างง้าวจากนั้นก็ฟันใส่เซอเฟียเต็มที

    จากนั้นเองก็มีดาบเล่มนึงพุ่งเข้าชนใส่ง้าวของฟรอเซอิค ฟรอเซอิคก็แปลกใจบ้างจากนั้นก็หันไปที่ที่ทิศทางของดาบที่พุ่งมา เจ้าของดาบยาวเหล็กคริสตัลแดงนั้นคือ กาโอ นั่นเอง

    “ นายมาเจอกับฉันดีกว่า “ ไอพลังวิญญาณของกาโอก็เริ่มเปล่งรัศมีทั่วถนน


    ตอนต่อไปคุณจะได้สัมผสถึงพลังอันลึกลับภายใต้ปลายดาบเหล็กมรกตดำ
  18. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่16 ]

    Chapter 17

    ทางด้านรูบี้ซึ่งกำลังต่อสู้กับลูไค ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่ดูเหมือนภายนอกจะตรงกันข้ามซะจริง รูบี้นั้นเข้าฟันใส่ลูไคอย่างรวดเร็ว แต่ลูไคก็ใช้หอกยาวผนึกเหล็กด้วยหินมรกตวิญญาณทำให้ปลายเหล็กหอกมีประสิทธิภาพสูงจนเธอก็เกือบจะพลาดท่า

    “ เด็กน้อยเอ๋ย เจ้านะไม่สามารถทะลวงการโจมตีด้วยหอกของฉันหรอก “ ลูไค ผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มส่อถึงความซาดิสถ์ก็พูดจาดูถูก

    “ คอยดูละกัน “ รูบี้นั้นพูดตอบสวนเหมือนไม่สนใจคำพูดของลูไคจากนั้น ตะโกนว่า

    “ Inferno Slash “

    เธอก็วิ่งเข้าฟันใส่ลูไค การโจมตีของเธอรวดเร็วมากซึ่งลูไคนั้นก็คาดไม่ถึงเลย ดาบของเธอเมื่อฟันเข้ากี่ทีไฟก็ค่อยลุกไหม้บนเหล็กดาบและเกิดคลื่นความรุนแรงดาบพุ่งเข้าอีก

    “ ตายซะ!!!! “ รูบี้ก็ฟันผ่ากลางลงมาใส่ลูไค

    แต่ลูไคนั้นเอาหอกมารับการโจมตีไว้ได้ มือที่กุมจับหอกของลูไคนั้นมีเลือดไหลออกมาจากมือด้วย เพราะการโจมตีอันหนักหน่วงรุนแรงของรูบี้

    “ เกือบไม่รอดแหะ ต่อไปฉันจะไม่อ่อนให้แล้วละนะ “ ลูไคนั้นก็วิ่งเข้าทิ่มใส่รูบี้

    การโจมตีของลูไคนั้นรวดเร็วเหมือนกัน โจมตีด้วยการทิ่มแทงอันรวดเร็ว ทำให้รูบี้เริ่มหาวิธีการโจมตีอย่างลำบาก

    และลูไคนั้นเมื่อมองเห็นช่องโหว่ก็ทิ่มหอกใส่รูบี้ตรงๆที่กลางอก รูบี้นั้นซึ่งก็ใช้ดาบมารับการโจมตีหอกไว้ได้ทันแต่ก็ต้องพยายามดันหอกออกไปอยู่ดี

    “ เธอสู้แรงของฉันไม่ได้หรอกกน่า แม่สาวน้อย “ ลูไคก็ค่อยๆดันดาบของรูบี้ทีละนิด

    แรงของรูบี้แทบจะสู้แรงของลูไคไม่ได้เลย และแล้วเธอก็เสียที ปลายหอกนั้นก็พุ่งเข้าใส่เธอ แต่โชคดีที่ปลายหอกทิ่มเฉี่ยวไหล่ซ้าย

    “ ตายซะ!!!! “ รูบี้ก็ใช้โอกาสนี้ใช้ดาบเสียบเข้ากลางอกของลูไค

    ลูไคนั้นซึ่งไหวตัวได้ทันก็เอาหอกเหวี่ยงใส่รูบี้กระเด็นไปชนกับตาข่าย

    เมื่อรูบี้กระเด็นชนกับตาข่ายและกำลังจะล้มลงนั้นลูไคซึ่งมีความเร็วสูงก็พุ่งเข้าไปหาและใช้หอกพุ่งใส่ในช่วงนั้น

    “ ตายซะเธอแม่สาวน้อย!!! “ และแล้วรูบี้ในตอนนั้นแทบไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากรับการโจมตีอย่างเต็มเหนี่ยวของลูไค

    ปลายหอกก็ทิ่มเต็มกลางอกของรูบี้ เลือดก็พุ่งทะลักออกจากอกของเธอ

    “ เสร็จฉัน!!! “ ลูไคนั้นเมื่อฆ่าเธอได้ก็ดีใจซาดิสถ์

    แต่เมื่อเขาหยุดหัวเราะเขาก็เริ่มมองอยู่ดีๆ ไม่เห็นศพของเธอเลยสักนิด เห็นแต่ชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณของเธอ ร่างของเธอหายไปไหน???

    “ คิดว่านายเร็วนักเรอะ??? “ ปลายดาบคาตะนะเล่มยาวก็พาดเตรียมปาดคอของลูไค

    รูบี้ในชุดเสื้อกล้ามสีขาวซึ่งใส่ซับในกับชุดเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณ

    “ อะไรกัน???ความเร็วของเธอ “ ลูไคพูดไม่ทันใดดาบก้ปาดตัดคอของลูไคอย่างง่ายดาย

    ร่างไร้หัวของลูไคก็ล้มลงกับพื้นอย่างอนาถ

    “ นายฝีมือยอดเยี่ยมเก่งกาจดีนะ แต่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหรเลย “ รูบี้ก็บ่นใส่ศพของลูไค

    ไม่ทันใดเมื่อเธอฆ่าลูไคเสร็จก็บังเกิดหลุมดำอยู่ต่อหน้าเธอ มีสเปคเตอร์ 3 คนพุ่งออกมาจากหลุมดำ

    สเปคเตอร์หนุ่มตนนึงมีผ้าปิดตาที่ตาขวาเมื่อมองศพของลูไคก็บังเกิดโทสะ

    “ ลูกพี่ลูไค!!! “ ไม่ใช่แค่เพียงาสเปคเตอร์ตนนั้น สเปคเตอร์ผมขาวยาวกับสเปคเตอร์ผมดำสั้น ทั้ง 2 ก็ตกใจเหมือนกัน

    “ ลูเซย์!!!นั่นลุกพี่ลูไคนี่!! “ สเปคเตอร์ผมขาวก็ตกใจเมื่อเห็นศพไร้หัวของลูไค

    ลูเซย์ สเปคเตอร์หนุ่มคนที่มีผ้าปิดตาขวาก็มองไปที่รูบี้ ดาบของเธอมีรอยเลือดเต็มเหล็กดาบ

    “ นี่ฝีมือเธอใช่ไหม!!! “ ลูเซย์ก็ตะคอกใส่รูบี้จากนั้นก็หยิบหอกของลูไคขึ้นมา

    “ เออ ฉันเองแหละ “ รูบี้ตอบน้ำเสียงดุดัน

    “ หนอยเธอ!!!อย่าอยู่เลย!!! “ ลูเซย์ก็ใช้หอกพุ่งทิ่มใส่เธอ

    รูบี้ใช้ดาบกันไว้ได้ แต่ว่าสเปคเตอร์หนุ่มผมขาวก็ตลบหลังเธอโดยเข้าไปล็อคร่างของเธอข้างหลัง

    สเปคเตอร์หนุ่มอีกคนนึงก็พุ่งเข้ามาล็อคขาของรูบี้ รูบี้นั้นไม่สามารถขยับร่างของเธอได้เลย

    “ เสร็จฉันละ อีนางชั่ว!! ฉันจะแทะเนื้อหนังของเธอด้วยหอกของลูกพี่ฉัน!! “

    ลูเซย์นั้นก็ใช้ปลายหอกทิ่มใส่รูบี้

    แต่ทันใดนั้นมีชายหนุ่มปริศนาเข้ามาจับห้ามการโจมตีของหอกไว้ได้ทัน

    “ หนอยแก!!! “ ลูเซย์นั้นก็ใช้มือซ้ายทิ่มเข้าใส่ชายคนนั้น

    แต่ชายคนนั้นก็โต้กลับด้วยการเตะเสยคางไว้ได้ก่อน ลูเซย์นั้นก็ลอยขึ้นไปแล้วล้มลงไปนอนกับพื้น

    ชายคนนั้นสวมชุดผ้าคลุมสีดำ สวมถุงมือ ใส่แว่นดำ ไว้ทรงผมสั้นสีน้ำตาลเข้ม หน้าตาค่อนข้างดี

    เขาคือ ชายลึกลับซึ่งใช้โค้ดเนมว่า GX คนฝึกซากิให้เก่งขึ้นนั่นเอง

    ลูเซย์กับพวกเริ่มหันเหความสนใจไปที่จีเอ็กส์

    “ รุมกันยังงี้มันเรียกว่าหมาหมู่น้า เป็นวิธีของพวกที่ชอบรังแกผู้อื่น มันไม่ดีหรอกน้า “ จีเอ็กส์ก็พูดจากวนใส่ทั้ง 3

    “ หนอยแก!!! “ ทั้ง 3 คนก็รุมเข้าโจมตีใส่

    การโจมตีของทั้ง 3 สเปคเตอร์นั้นเรียกได้ว่าหมาหมู่สุดๆ เพราะรุมโจมตีทั้ง 3 ทิศ แต่ว่าจีเอ็กส์ถึงแม้เสียเปรียบเพราะโดนรุม แต่ก็สามารถรับการโจมตีได้อย่างรดเร็ว

    ในช่วงนึงที่แก๊ง 3 สเปคเตอร์อ่านการเคลื่อนไหวของจีเอ็กส์ออกก็เริ่มทำการใช้ท่าไม้ตาย

    “ เอาละนะพวก!!!! Meteor Strike!!! “ ทั้ง 3 ก็พุ่งเข้าโจมตีพร้อมกัน

    ท่าการโจมตีนั้นทำให้ปิดโอกาสหลบโจมตีของทั้ง 3 แต่ทว่าจีเอ็กส์นั้นก็ได้หมุนหลบอาวุธของทั้ง 3 ได้หมด

    จากนั้นก็ใช้แขนทั้ง 2 ตั้งกับพื้นแล้วหมุนขาเตะใส่ทั้ง 3 รอบ 360 องศา ทั้ง 3 ก็กระเด็นถอยไป

    “ อะไรกัน??หลบการโจมตีของพวกเราได้หมด??? “ ลูเซย์ก็ตกใจที่ท่าไม้ตายกลุ่มของตนไม่สามารถใช้กับจีเอ็กส์ได้

    “ นายนี้น่ารำคาญชะมัด ฉันจะไม่ออมให้พวกนายอีกแล้วละนะ “ จีเอ็กส์ก็เริ่มชักดาบออกมาจากฝักของตน

    เหล็กดาบคาตะนะของเขานั้นเป็นดาบสีทองเหลือง ด้ามจับดาบสีดำ มีลอยสลักคำภาษาโบราณที่ดาบด้วย

    “ ต่อไปละนะ “

    จีเอ็กส์ก็เอามือทั้ง 2 กุมดาบแน่นจากนั้นดาบก็เปล่งแสงสีทองออกมาจากนั้นเหล็กดาบก็กลายเป็นสีดำแล้วมีพลังวิญญาณอันน่ากลัวรอบๆดาบของจีเอ็กส์

    “ เพลงดาบดาบเหล็กมรกตดำลำดับ 1 คลื่นวายุ!! “ จากนั้นจีเอ็กส์ก็ได้รับพลังวิญญาณมากมายก็วิ่งจากนั้นหายไป แล้วก็ไปโผล่ข้างหลังของทั้ง 3 โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึงวิ

    ทันใดนั้นมีบางอย่างเกิดขึ้นกับแก๊ง 3 สเปคเตอร์ มีลมพุ่งออกมาจากร่างของทั้ง 3 ทางหน้า ไหล่ แขนปริศนา จากนั้นร่างทั้ง 3 ก็เกิดรอยฟันเต็มตัวจนร่างขาดกระจายเป็นชิ้น เลือดก็พุ่งทะลักออกมาจากทางที่ลมพุ่งออกมาจากร่าง ลมที่พุ่งออกมานั้นคือ “ คลื่นวายุ “ ของจีเอ็กส์
  19. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่17 ]

    Chapter 17.2

    จีเอ็กส์ก็แหวกสายตามองไปที่รูบี้ แล้วถามว่า

    “ เป็นอะไรรึเปล่า???”

    รูบี้ก็ทำหน้าซีดแล้วตอบไปว่า

    “ ไม่เป็นไรหรอกคะ แล้วคุณเป็นใครเหรอค่ะ???”

    จีเอ็กส์ก็ก้มหน้าลงเหมือนรูบี้ถามคำถามที่แทงใจเขา

    “ ฉันเป็นใครไม่ฝช่เรื่องสำคัญหรอก แต่รีบไปช่วยคนอื่นเถอะ”

    จีเอ็กส์กับรูบี้ก็วิ่งไปตามหาคนอื่น

    ทางด้านฝั่งถนนที่หญิงสาวลึกลับกับนักธาตุหนุ่มที่ชื่ออคิโระ ได้ต่อสู้กับฝูงสมุนสเปคเตอร์จำนวนมากอยู่

    หญิงสาวลึกลับที่มาพร้อมกับอคิโระก็วิ่งเข้าไปหาฝูงสเปคเตอร์จำนวนมากอย่างบ้าบิ่น แต่เธอก็กระโดดเหนือหัวของพวกมัน

    “ จำเอาไว้ใส่กะโหลกซะว่า ชื่อของฉันคือ คิตตี้ วินด์ชู๊ตเตอร์!!” จากนั้นเธอก็ชูแขนลงไปข้างล่างพร้อมเล็งปืนแล้วสาดกระสุนใส่พวกสมุนสเปคเตอร์ ความเร็วของการลั่นไกนั้นเร็วมากเพียงไม่กี่วิก็ลั่นไปกว่า 30-40 จำนวนต่อเพียงเสี้ยววินาที

    พวกเหล่าสมุนของสเปคเตอร์จำนวนมากก็เดินลูกกระสุนฝังทะลุเต็มร่างกายจนตัวขาดกระจาย เลือดก็พุ่งออกมาไม่หยุด

    “ เสร็จฉันละ!!!” คิตตี้จึงหยุดยิงแล้ววิ่งเข้าไปในฝูง รองเท้าของเธอมีใบหูกระต่ายของกระต่ายซึ่งเป็นรองเท้าทำให้เพิ่ใความเร็วอีก 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นสิ่งประดิษฐ์ของอคิโระ มีชื่อว่า “Murcury Shoes”
    เธอวิ่งเข้าไปในฝูงก่อนที่การสาดกระสุนครั้งสุดท้ายกำลังพุ่งเข้าหา เธอก็เตะต่อยอย่างรวดเร็วใส่พวกสเปคเตอร์ทั้งหมด ความเร็วของเธอนั้นรวดเร็วอย่างมาก เมื่อกระสุนที่เธอสาดมากำลังเข้าหานั้นเธอก็กระโดดขึ้นบนฟ้าจากนั้นลุกกระสุนที่เธอยิงไว้ครั้งสุดท้ายก็พุ่งเข้าใส่พวกสมุนสเปคเตอร์ที่โดนเตะต่อยเละมาแต่ก่อนแล้ว

    เหล่าสมุนสเปคเตอร์ทั้งหมดก็ล้มนอนกองกับพื้น จากนั้นร่างกายของมันก็สลายเป็นเม็ดละอองวิญญาณ

    อคิโระนั้นซึ่งกำจัดมันได้เหมือนกันจึงกลับสภาพเดิม

    “ เฮ้อ.........เหนื่อยชะมัดเลย.....” อคิโระก็เอามือบีบไหล่ของตนเพื่อคลายกล้ามเนื้อของแขน

    อคิโระนั้นก็เดินมาเจอกับคิตตี้ซึ่งกำลังเช็คสายพลังงานของปืนเพื่อดูว่าเหลือพลังงานอีกเท่าไหร่

    “ เอ้า..ไง เป็นไงมั้งละ???”อคิโระก็ถาม

    “ เฮ้อ...น่าเบื่อชะมัดเลย..งานนี้ฉันขี้เกียจทำแล้วเนี่ย” คิตตี้ก็ทำหน้าหงิกหน้างอเหมือนไม่มีรสชาติในชีวิต

    “ เธอก็ยังงี้แหละนะ ทำตัวเรื่องมากอยู่ได้น่า เราถูกเลือกจากหัวหน้าโดยตรงเลยนะ” อคิโระก็พูดให้คิตตี้ฟังจากความคิดเห็นของผู้อื่น

    “ เออ นายเนี่ยคิดมากจริงๆ ฉันแค่ประชดเฉยๆ อันที่จริงมันไม่มีงานไหนดีกว่านี้แล้วนี่” คิตตี้ก็รีบบอกดคิโระเพื่อไม่ให้คิดจริงจังอะไรมาก

    “ เออน่า ยังไงซะรีบจัดการเรื่องนี้ให้จบๆกันดีกว่าเถอะ”

    อคิโระพูดเสร็จก็มีพวกสมุนสเปคเตอร์ปรากฎตัวออกมาจำนวนมาก แล้วพวกมันก็โถมเข้าหาพวกเขา

    “ งานมาอีกแล้ว” คิตตี้ก็เล็งปืนไปที่พวกสมุนสเปคเตอร์

    “ Change Form!!!!” อคิโระก็ตะโกนดังนั้น

    สิ่งประดิษฐ์ของเขาก็เริ่มแปลงเป็นเส้นใยเหล็กประสานร่วมเข้ากับร่างกายของอคิโระจนกลายเป็นชุดเกราะเหล็กและมีปืนติดที่ไหล่ขวาและซ้าย ปลอกแขนนั้นก็มีใบมีดขนาดใหญ่ จากนั้นมีหูฟังวิทยุพร้อมกับเลนส์แว่นสีแดงเพื่อคอยจับเป้าหมายศัตรูแล้วยิงด้วยปืนที่อยู่ไหล่ของตน

    พวกสมุนสเปคเตอร์เมื่อเห็นการเปลี่ยนร่างของอคิโระนั้นก็ตกใจนิดๆ

    “ ตายซะ!!! พวกโสมม” ปืนที่ติดไหล่ทั้ง 2 ข้างก็ยิงใส่พวกสมุนสเปคเตอร์ การลั่นไกนั้นรวดเร็วยิ่งกว่าปืนกลร้อยนัดของทหาร กระสุนทำมาจากพลังงานในตัวอำนาจพลังงานแปรรูปธาตุของอคิโระ

    ร่างของพวกสมุนสเปคเตอร์นั้นพรุนจนสะบักสะบอมอย่างน่าอนาถ ร่างกายขาดกระจาย เลือดพุ่งสาด แต่พวกสมุนสเปคเตอร์ก็ทยอยกันมาไม่หยุด

    “ หนอยแกตายยากนัก!!” อกที่เกราะเหล็กของอคิโระนั้นก็ถูกเปิดออกเป็นปืนกลพร้อมกับจรวดหลายลูก เขาจึงยิงทุกอย่างออกไป พวกเหล่าสมุนสเปคเตอร์ก็โดนการโจมตีเต็มรูปแบบทำให้มันเสียกองกำลังมากมาย

    ทันใดนั้นก็การทำงานของปืนของอคิโระก็หยุดลงอย่ากะทันหัน เหล่าสมุนสเปคเตอร์ที่เหลือก็เริ่มเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว

    “ เฮ้ย!!!พลังงานหมด!! “ อคิโระนั้นก็พยายามรีเซ็ตนั้นแต่คิตตี้ก็มายืนขวาง

    “ เดี๋ยวตอนนี้ฉันจัดการเอง “ คิตตี้พูดเสร็จจากนั้นเธอก็วิ่งตรงไปหาพวกสมุนสเปคเตอร์

    “ หยา!!!ตายซะเถอะ!!!” เธอก็ชักปืนที่ติดกับนิ้วเธอออกมาแล้วก็ต่อสู้กับฝูงสมุนสเปคเตอร์ด้วยตัวคนเดียว


    โทษทีนะครับดองไว้ซะนาน มัวแต่เล่น SD GP
  20. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่17.2 ]

    Chapter 18

    บนน่านฟ้า ซากิที่กำลังสู้อยู่กับฟิวเซน หัวหน้าผู้นำสเปคเตอร์โจมตีโลก ซากิซึ่งใช้ดาบเล่มโตของตนดันดาบ
    ฟิวเซน

    ซากิก็ดันร่างของฟิวเซนกระเด็นออกไป ซากิก็พุ่งเข้าไปหาฟิวเซน ทั้ง 2 เริ่มเปิดฉากต่อสู้กันอีกครั้ง

    ฟิวเซนนั้นก็ตะโกนปล่อยพลังลำแสงจากมือของตน “ลำแสงพิฆาตชีวา!!!” จากนั้นลำแสงก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือตรงไปที่ซากิ แต่พลาดเป้าซากิสามารถหลบได้

    ซากิก็เหวี่ยงฟันใส่เป็นพลังคลื่นสายฟ้า “Lighting Straight Flus !!!”

    แต่ฟิวเซนกลับใช้ดาบเล่มยาวบางของตนปัดคลื่นสายฟ้าออกจากวิถีได้อย่างง่ายดาย

    ซากิก็อึ้งที่ฟิวเซนสามารถปัดคลื่นสายฟ้าของตน จากนั้นก็เข้าโจมตีด้วยดาบแบบธรรมดากับฟิวเซน

    ทั้ง 2 ต่อสู้กันอย่างสูสี จนบังเกิด พลังงานวิญญาณสีฟ้ารอบตัวทั้ง 2 จนเกิดการระเบิดพลังวิญญาณสีน้ำเงินจนแผ่ไปทั่ว

    ทางด้านการต่อสู้ของกราฟิโอ้กับโคชินั้น การต่อสู้ของทั้ง 2 ยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุดจนทันใดนั้นเมื่อทั้ง 2 ได้รู้สึกถึงการระเบิดของพลังวิญญาณจากการต่อสู้ของฟิวเซนกับซากินั้น ทั้ง 2 ก็แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    “นั่นมันพลังอะไรกันนะ????พลังนี้??” โคชิก็แปลกใจมากกับการระเบิดพลังของซากิกับฟิวเซน

    และอีกด้านนึงฟรอเซอิคกับกาโอกำลังทำความรู้จักนั้นก็ได้รู้สึกถึงการระเบิดพลังของฟิวเซนและซากิเหมือนกัน

    “พลังนี้มัน......เหมือนเคยรู้สึกมาก่อนเลย..” กาโอซึ่งได้รู้สึกถึงพลังนั้นก็คุ้นเคยกับมันมาก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเคยเกิดขึ้นกับตนมาก่อน

    “นั่นคือสัญญาณให้เราเริ่มสู้ยังไงเล่า!!!” ฟรอเซอิคก็ได้วิ่งเข้าโจมตีกาโออย่างฉับพลัน

    กาโอนั้นรู้สึกถึงการโจมตีของฟรอเซอิคได้ทันจึงเอาดาบมารับการโจมตีไว้

    “นี่เล่นทีเผลอเลยรึ????” กาโอซึ่งโกรธจัดจึงระเบิดพลังของตนออกมาเป็นคลื่นพลังวิญญาณสีแดงต่างจากคลื่นจากการต่อสู้ของฟิวเซนและซากิที่เป็นสีน้ำเงิน

    ฟรอเซอิคเมื่อได้เห็นคลื่นพลังของกาโอนั้นก็ได้พูดว่า “โห แค่นี้ถึงกับเอาจริงเลยรึไงฮะ” จากนั้นก็เริ่มต่อสู้กัน

    ทั้ง 2 ประลองฝีมือกันอย่างว่องไว ทั้งการโจมตีของกาโอที่เป็นดาบเล่มคาตะนะสีแดงที่ว่องไวและคมกับการโจมตีของฟรอเวอิคที่เป็นง้าวยาวคมง้าวสีดำซึ่งการโจมตีจึงมีวงกว้างสูงกว่าดาบคาตะนะแดงของกาโอแ แม้จะไม่ว่องไวแต่ด้วยการควบคุมมือเดียวตามสไตล์ของฟรอเซอิคนั้นกลับทำให้ลบจุดอ่อนนั้นไปได้

    กาโอนั้นรู้ว่าตนนั้นเสียเปรียบต่อฟรอเซอิคมากจึงถอยออกมาจากนั้นปล่อยลำแสงพิฆาตจากฝ่ามือพุ่งใส่ฟรอเซอิคเป็นร้อยๆอัน แต่ฟรอเซอิคใช้ข้อมือควบคุมง้าวปัดลำแสงได้ทันหมด

    “เจอนี่ซะน่อยไหมกาโอ???นี่แน่ะ!!!” ฟรอเซอิคจึงหันมาตอบโต้ด้วยการเหวี่ยงง้าวแสนยาวของตนฟันใส่กาโอ กาโอนั้นก็ได้เอาดาบมารับการโจมตีง้าวไว้ได้ทัน

    กาโอก็เริ่มงัดพลังของตนออกมา “Chaos Slash!!” เหล็กดาบของกาโอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงและแผ่คลื่นสีม่วงดำออกมาจากดาบ จากนั้นก็โจมตีใส่ฟรอเวอิคอย่างรวดเร็ว Chaos Slash เป็นท่าวิชาเสริมดาบทำให้อานุภาพดาบรุนแรงขึ้น 2 เท่าแต่จะสูญเสียพลังวิญญาณไปทีละนิด

    ฟรอเซอิคซึ่งรับการโจมตีอย่างเดียวนั้นก็ได้อุทานขึ้นว่า

    “เออ!!สนุกอย่างนี้ก็ดีนะเนี่ย” ฟรอเซอิคก็ดันกาโอถอยออกไป จากนั้นก็ใช้ง้าวเข้าฟันใส่ไม่หยุด ทุกทีที่ฟรอเซอิคเหวี่ยงง้าวฟันใส่ดาบที่กาโอมารับการโจมตีนั้นจะมีเกร็ดน้ำแข็งเกาะกับดาบของกาโอด้วย กาโอนั้นก็คอยแต่รับตลอดจนมีเกร็ดน้ำแข็งเกาะที่เหล็กดาบเต็มหมดจากนั้นก็แผ่ความเย็นไปที่ด้ามดาบ

    กาโอเมื่อพึ่งมารู้สึกนั้นก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “อะไรกันเนี่ย???”

    ฟรอเซอิคเมื่อเห็นนั้นก็หัวเราะฮาแตก

    “ ง้าวของฉันเป็นธาตุน้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างดี ทำให้อาวุธ...ไม่สิ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กระทบกับง้าวของฉันอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดความเย็นแผ่เข้าตรงทำให้เกิดเกร็ดน้ำแข็งเกาะมือแกไงเล่า 555+”

    ฟรอเซอิคนั้นก็ฉวยโอกาสเข้าโจมตีกาโอทันที แต่ทันใดนั้นเองเมื่อคมง้าวกำลังจะเข้ากระทบกับใบหน้าของกาโอ

    “ ชริ้ง!!!” เสียงเอ็ฟเฟ็คได้บังเกิดขึ้นจากการเสียดสี มีมีดเล่มนึงพุ่งเข้ามาชนกับคมง้าวนั้นทำให้ฟรอเซอิคแปลกใจจึงลดอาวุธลง

    “ใครนะ???” ฟรอเซอิคก็ถามขึ้น เวอเฟียซึ่งบาดเจ็บสาหัสนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้พอที่จะมีแรงปามีดใส่

    ทันใดนั้นได้มีชายในชุดสูทคลุมสีขาวมาปรากฏตัวขึ้น เหน็บดาบคาตะนะที่เอว ผมสีฟ้าทั้งยาวและถูกสไลด์มาอย่างดี ชายคนนั้นยิ้มเยาะ

    “แกนิเอง คุซาเกะ” ฟรอเซอิคนั้นก็จำใบหน้าของชายคนนั้นได้

    คุซาเกะก็หัวเราะ

    “อุตส่าห์เปลี่ยนทรงผมยังจำได้อีกเหรอเนี่ย??”

    คุซาเกะก็เริ่มควักอะไรออกจากกระเป๋าจากนั้นก็โยนขึ้นไปบนฟ้าเป็นลูกบอลสีเงินใสจากนั้นมันก็แตกระเบิดขึ้นเป็นลูกบอลที่เล็กลงจากนั้นมันก็เริ่มแยกย้ายไปที่อื่น คุซาเกะก็ยกมือขึ้นระดับเอวแล้วก็ ได้บังเกิดประตูที่มีรูปร่างคล้ายโพรงกระต่าย ซึ่งมันคือประตูข้ามมิติ คุซาเกะก็หันไปหากาโอ

    “พวกนายกลับไปได้แล้ว แผนของเราสำเร็จแล้ว” คุซาเกะก็บอกกาโอ กาโอก็ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย
    แต่ฟรอเซอิคเมื่อได้ยินก็แปลกใจอย่างมาก

    “หมายความว่าไง????” ฟรอเซอิคก็เอ่ยถามคุซาเกะที่กำลังจะเข้าไปในประตูมิตินั้น

    คุซาเกะก็หันไปยิ้มกับฟรอเซอิคแล้วพูดว่า “เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ” จากนั้นก็เข้าไปในประตูตามด้วยกาโอซึ่งแบกร่างเซอเฟียที่บาดเจ็บสาหัส

    ลุกบอลเหล็กใสซึ่งกระจายไปที่อื่นนั้นก็มุ่งหน้าไปหากราฟิโอ้ที่กำลังสู้อยู่กับโคชิ เมื่อกราฟิโอ้เห็นลูกบอลนั้นก็ได้ถอยออกจากการต่อสู้

    “ลาก่อนนะนักฆ่าปีศาจ” กราฟิโอ้ก็กระโจนขึ้นไปบนอากาศแล้วก็จับที่ลูกบอลใส

    “อย่าหนีสิฟะ กราฟิโอ้!!!” โคชิก็ตะโกนเรียกกลับมา

    ลูกบอลใสก็ขยายเป็นประตูมิติทรงกลม กราฟิโอ้ก็เข้าไปข้างในจากนั้นลูกกลมก็ขยายเล็กลงๆ จนเล็กจนหายไป

    ลูกบอลกลมอีกส่วนนึงก็มุ่งหน้าไปหาฟิเซนซึ่งกำลังต่อสู้อยู่กับซากินั้น กาฟเซลเมื่อเห็นลูกบอลใสมาหาตนนั้นก็เริ่มออกห่างจากซากิแต่ยังต่อสู้ต่อ

    “ ซากิเอ๋ยขอจบแค่นี้ก่อนนะ Dark Apolly” ฟิวเซนก็ปล่อยลูกแก้วสีม่วงจากฝ่ามือพุ่งเข้าชนอกซากิจากนั้นมันก็ระเบิด ร่างของซากิก็โดนแรงระเบิดกระทบรุนแรงอย่างรุนแรงทำให้ซากิกระเด็นตกลงพื้นบาดเจ็บสาหัส
    ฟิวเซนเมื่อเห็นดังนั้นจึงได้เข้าไปในประตูมิติ

    ไม่นานนัก รูบี้ซึ่งมาพร้อมกบจีเอ็กส์นั้นก็ได้วิ่งมาพบซากิในสภาพบาดเจ็บสาหัส

    “ รุ่นพี่ซากิ!!” รูบี้เมื่อเจอซากินั้นก็เข้ามาช่วยพยุงพร้อมกับจีเอ็กส์

    ทางด้านการต่อสู้ของฟอร์เต้กับโคเอลที่ยังดำเนินนั้นก็ได้หยุดเหมือนกัน

    โคเอลที่กำลังจะเดินเข้าไปในประตูมิตินั้นก็บอกฟอร์เต้ด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวไปว่า

    “ฉันจะตามหาเธอในสนามรบและจะฆ่าเธออีกให้ได้!!” จากนั้นก็เดินเข้าไปในประตูมิติแล้วหายไป

    ฟอร์เต้ซึ่งเริ่มเป็นห่วงซากินั้นจึงรีบตามหาซากิจนมาพบกับพวกรูบี้ที่พยุงร่างของซากินั้นก็ตกใจ

    “ ซากิ!!!ไปโดนอะไรมานะ??” ฟอร์เต้ก็เข้าไปช่วยพยุงแทนรูบี้ จากนั้นก็พาไปโรงพยาบาล
  21. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่17.2 ]

    ขออภัยครับที่ไม่ได้เข้ามาเมนท์เลย กำลังยุ่ง ๆ ด้วย ^^" แต่ผมก็ติดตามอ่านเสมอนะครับ

    โอ้....รู้สึกว่าตอนหลังมีการพัฒนาในการบรรยายขึ้นแฮะ

    เป็นฟิคที่มีการสู้กันได้ตลอดจริง ๆ เหอ ๆ เจอหน้าเป็นโดดเข้าใส่ ๆ ทำให้กลิ่นของเรื่องกลายเนบู้ล้างผลาญ แต่ถึงยังไงการบรรยายกริยาท่าทางของตัวละครและอารมณ์ หรือหน้าตาในการต่อสู้ก็จะเพิ่มความลื่นไหลได้ไม่น้อยทีเดียวนะครับ

    อันนี้ขอชม นับถือในความสามารถจริง ๆ >< ผมว่าเป็นชาวบ้านนี่เงียบหายไปแล้วนะเนี่ย!! สู้ ๆ ครับพยายามเข้า
  22. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่18 ]

    ใน โรงพยาบาล 3 วันต่อมาช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตก ซากิที่นอนพักฟื้นในโรงพยาบาลก็ตื่นขึ้นมา ห้องพักของเขามีกระจกที่มีวิวมองรอบๆเมืองและเหนือเมืองขึ้นไปมีพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ช่างเป็นวิวที่สวยจริงๆ

    “ก๊อก!!ก๊อก!!ก๊อก!!” เสียงเคาะประตูเปล่งขึ้นซากิก็หันไปมองที่ประตู

    ประตูก็ถูกเปิดออก มีคนมาเยี่ยม 9 คน มีฟอร์เต้ รูบี้ โคชิ หัวหน้าโชเซ็น ชิเสะ จุนสึเกะและกลุ่มชายลึกลับในชุดสูทสีดำ 2 คนที่เข้ามาเยี่ยมซากิ

    เขาก็พยายามโน้มตัวหลังขึ้นออกจากเตียง เมื่อได้เห็นมีคนมาเยี่ยมมาเยอะกว่าที่คิด ซากินั้นก็หันไปมองที่ชายลึกลับในชุดสูทสีดำ 2 คน ในชุดสูทสีดำทั้งตัวมาหาเขาทั้งที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อน คนที่ 1 ใบหน้าชายฉกรรจ์ ผมสั้ทรงลานบินสีดำและอีกคนนึงใบหน้าดูดีกว่าคนที่ 1 ผมสั้นสีม่วง ใบหน้ามีรอยบาด 2 ขีด ที่แก้มขวา

    “หัวหน้าโชเซ็นคนพวกนี้เป็นกันเหรอ???”ซากิก็หันไปถามหัวหน้าโชเซ็นด้วยความสงสัย

    หัวหน้าโชเซ็นก็ทำหน้าหดหู่เมื่อได้เห็นสภาพของซากิ จึงตอบไปว่า

    “คนพวกนี้เป็นกลุ่มสถานทูตของโลกของเหล่าวิญญาณ เขามาคุยเรื่องที่เธอหายหัวไปนานนะสิ ขาดงานไปหลายวัน จึงต้องถูกเชิญมาหานี่ไง” หัวหน้าโชเซ็นตอบดังนั้น ซากิถึงกับขนหัวลุก

    “เวรกรรม เราละเลยในการทำงานเจ้าหน้าที่มาหลายกะเวรแล้วนี่ ซวยไงเรา” ซากิก็พึ่งนึกได้ว่าตนขาดงานมาหลายวัน

    ชายลึกลับคนที่ 1 ก็เดินเข้ามาหาซากิด้วยใบหน้าที่ขรึมมาก

    “คุณ โทจิโร่ ซากิ ผมชื่อ โยนิโร่ เป็น เจ้าหน้าที่.....เอ๋.เดี๋ยวก่อน” โยนิโร่กำลังแนะนำตัวนั้นก็รู้สึกเหมือนตนลืมอะไรบางอย่าง เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า จากนั้นกดปุ่มเข้าเมนูแล้วเลือกเมนูที่เขียนว่า “Secret Area” พอเขากดปุ่ม ก็ได้มีแสงเปล่งจากมาจากบนพื้น จากนั้นมันก็แผ่สว่างทั่วห้องจนไม่เห็นอะไรข้างนอกประตู ในนั้นมีเพียงแค่ซากิกับหัวหน้าโชเซ็นและชายลึกลับทั้ง 2 ในห้อง

    “ตอนนี้คุณอยู่ในพื้นที่ลับของเราแล้ว” โยนิโร่ได้เปิดพื้นที่หยุดเวลาของมนุษย์ไว้เพื่อเรื่องนี้รั่วไหลไปถึงพวกรัฐบาล

    “เอ่อ........”ซากิก็ไม่รู้จะพูดยังไง

    “เฮ้ย!!!ยังทำหน้านิ่งอีก ตอบมา!!!”ชายคนที่ 2 ก็ทำหน้าดูตะคอกใส่

    หัวหน้าโชเซ็นนั้นเห็นท่าทางของชายคนที่ 2 ซึ่งตะคอกใส่ซากิจึงเข้าไปคุย

    “เอ่อ..ฮิเดโอะ ใจเย็นก่อนน้า ซากินะ ไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรหรอก ผมรู้นิสัยของหมอนี่ดี” หัวหน้าโชเซ็นก็พูดจาอ่อนน้อม เพื่อไม่ให้ฮิเดโอะ เจ้าหน้าที่คนที่มากับโยนิโร่ให้สงบใจ แต่ฮิเดโอะดูเหมือนจะไม่เป็นยังนั้น

    “งั้นเหรอ???หมอนี่ มันละเลยหน้าที่ของมันมาหลายอาทิตย์นะ!!!เขาก็รู้ดีนี่ กฎของเจ้าหน้าที่โลกวิญญาณคืออะไร??” ฮิเดโอะดูเหมือนจะจริงจังเรื่องนี้มาก

    หัวหน้าโชเซ็นก็รีบหาห้วนคิดให้ซากิพ้นจากการรับโทษ

    “หัวหน้าครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ อันที่จริงผมผิดเองที่ละเลยหน้าที่ แต่ที่ผมหนีไปนั้นเพราะผมต้องการให้ฝีมือของผมให้แข็งแกร่งพร้อมที่จะรับมือกับศัตรูที่เราไม่เคยเจอด้วย แต่ผมก็ทำไม่ได้” ซากิก็ยอมรับโทษ
    โยนิโร่กับฮิเดโอะนั้นเมื่อได้ฟังเหตุผลดังนั้นก็รู้สึกสะท้อนใจ โดยเฉพาะฮิเดโอะเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วรู้สึกประหลาดใจจึงเกิดภาพซ้อนของเจ้าหน้าที่ชั้นกลางคนสนิทของฮิเดโอะ เมื่อครั้ง 2 ปีก่อน

    ฮิเดโอะก็ทำหน้าขรึมผิดจากตอนแรกที่มักทำหน้าจริงจัง

    “เออ ก็ได้ ฉันเกือบลืมไปเลย ครั้งนี้พวกเราให้อภัยแกก็ได้ เพราะนี้เป็นความผิดครั้งแรกของนาย” ฮิเดโอะก็ยกโทษให้กับซากิ ซากิก็ทำหน้าแปลกใจอย่างมาก

    “งั้นหมอนี่ ก็ไม่ต้องรับโทษสินะ” โยนิโร่ก็หยิบโทรศัพท์แล้วกดเมนูเข้าสู่โลกมนุษย์เหมือนเดิม

    “สบายดีมั้ย รุ่นพี่ซากิ” รูบี้ก็เอาดอกไม้มาให้ ซากิก็รู้สึกซึ้งใจที่ทุกคนคอยเป็นห่วง

    โยนิโร่กับฮิเดโอะกำลังหันหลังออกจากห้องนั้นซากิก็รีบทักทั้ง 2

    “คุณโยนิโร่!!คุณฮิเดโอะ!!”

    ทั้ง 2 ก็หันหลังมองที่ซากิด้วยความสงสัย ซากิก็ยิ้มแล้วก็บอกว่า

    “ขอบคุณครับ”

    ฮิเดโอะกับโยนิโร่นั้นเมื่อได้ยินคำพูดของซากิก็สะเทือนใจนิดหน่อย

    “เอ๋ แต่พวกคุณพึ่งเข้ามาพร้อมเราแล้วจะกลับเลยเหรอ??” ฟอร์เต้ก็หันไปถามกับโยนิโร่กับฮิเดโอะ

    ซากิเมื่อได้ยินคำถามของฟอร์เต้ที่ถามกับฮิเดโอะกับโยนิโร่นั้นก็ยังมึนงง

    “หมายความว่าไงกัน??”

    ฮิเดโอะก็หันไปบอกซากิว่า

    “ซากิเอ๊ย...การสนทนาขอเรานะ โยนิโร่ทำให้มันหยุดการไหลของเวลาไว้นะและอย่าบอกเรื่องที่เราคุยกันด้วย ไปละนะ” ฮิเดโอะก็หันหลังโบกมือลาและออกจากห้องพร้อมกับโยนิโร่

    “เดจาวู??” ฮิเดโอะก็พูดทำหน้าตกหลังจากออกมาจากห้อง

    “???” โยนิโร่ก็งงกับคำพูดของฮิเดโอะ

    “นี่ โยนิโร่ ฉันขอไปที่บ้านหน่อยนะ แกไปทำงานก่อนเถอะ รู้สึกเริ่มเหนื่อยแล้ว..”

    “อืม ก็ได้ แกไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปเคลียร์กับคนอื่นเองก็ได้” โยนิโร่ก็ให้ฮิเดโอะไปพัก

    “ขอบคุณ...”

    ฮิเดโอะกำลังเดินออกจากโรงพยาบาลนั้น ชายหนุ่มคนนึงสวมแว่นกันแดด ผมสีน้ำตาล ในชุดเสื้อกันหนาวคลุมสีดำ เขาคือบุคคลลึกลับผู้มีโค้ดเนมว่า “จีเอ็กส์” เขากำลังเดินไปที่ห้องฮิเดโอะ ได้เดินผ่านพวกฮิเดโอะไป

    ฮิเดโอะนั้นช่วงตอนที่เดินผ่านได้เห็นใบหน้าของจีเอ็กส์นั้นก็ได้ตกใจมาก

    “ไง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฮิเดโอะ” จีเอ็กส์ก็หันไปทัก

    ฮิเดโอะนั้นอยู่ในอาการที่ช็อคมาก จนเกิดภาพซ้อนเห็นในจีเอ็กส์ในชุดเจ้าหน้าที่ชั้นกลาง

    “นี่นาย...........”

    จีเอ็กส์นั้นเมื่อเห็นใบหน้าของฮิเดโอะก็ทำเอาหัวเราะขำขัน ฮิเดโอะนั้นเมื่อเห็นจีเอ็กส์หัวเราะก็เริ่มโกรธจึงตะคอกไปว่า

    “ขำบ้าอะไรของนาย!!!เจ้าบ้า!!”

    จีเอ็กส์ก็พยายามจะพูด จึงบอกว่า

    “ก็หน้านายมันยังดูน่าตลกเหมือนเดิมนะสิ” จีเอ็กส์

    ฮิเดโอะนั้นโดนล้อว่าหน้าดูตลกก็เริ่มหัวเราะ ทั้งคู่ก็หัวเราะ

    “ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ ว่าแต่ว่าแกกำลังไปไหนนะ??” ฮิเดโอะก็ถามจีเอ็กส์

    “หึหึ ไปเยี่ยมเพื่อนนะ ชื่อโทจิโร่ ซากิ นายก็ไปหาเขาเหมือนกันเหรอ” จีเอ็กส์ตอบแล้วก็ย้อนถามต่อ

    “เหอ???นายรู้ได้ยังไงนะ” ฮิเดโอะนั้นก็ถาม

    จีเอ็กส์ก็หัวเราะ แล้วก็จะพูดไปว่า

    “นิสัยนายไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย อย่าไปสนใจเลย ไปก่อนละนะ” จีเอ็กส์นั้นก็เดินต่อไปเพื่อไปหาซากิ แต่ก่อนที่จะเดินไปหา จีเอ็กส์ก็หันไปถามฮิเดโอะ

    “นี่ฮิเดโอะ”

    “หือ??” ฮิเดโอะกำลังเดินอยู่นั้นก็หันไปหา

    “อาสึนะเป็นไงบ้าง??”

    ฮิเดโอะเมื่อฟังคำถามของจีเอ็กส์ก็แปลกใจไม่น้อย จึงตอบไปว่า

    “เธอยังคิดถึงนายอยู่ ให้ฉันฝากไปบอกอะไรเธอไหม” ฮิเดโอะนั้นตอบเสร็จก็ถามคำถามต่อ

    จีเอ็กส์ก็ยังแน่นิ่ง แต่ก็บอกไปว่า

    “ไม่ต้องบอกหรอก” จากนั้นจีเอ็กส์ก็เดินไปที่ห้องซากิ พร้อมกับสีหน้าแน่นิ่ง

    ฮิเดโอะก็รู้สึกตกใจที่เขาได้เจอจีเอ็กส์ เพื่อนเก่าของเขาด้วยในครั้งนี้ จากนั้นก็เดินออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับบ้านของตน
  23. Magoichi7

    Magoichi7 Chemistry }{Resurrection

    EXP:
    393
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: Limited Blade : Destiny Of Soul World [update ตอนที่19 ]

    Chapter 20

    หลังจากที่ฮิเดโอะนั้นออกไปไม่นาน หัวหน้าโชเซ็นก็ลุกขึ้นจากโซฟา

    “นี่ฟอร์เต้!!ฉันไปก่อนละนะ” หัวหน้าโชเซ็นก็โบกมือลา

    “อ้าวจะกลับแล้วเหรอคะ หัวหน้า??” ฟอร์เต้ก็ถามเพราะสงสัย

    “อ๋อ ฉันต้องไปเอาชุดสูทของฉันที่ออฟฟิศนะ ต้องรีบนำกลับไปซัก” หัวหน้าโชเซ็นก็บิดลูกบิดเปิดประตูนั้น เขาก็บังเอิญเจอจีเอ็กส์ที่อยู่ข้างนอกพอดี ทั้ง 2 ยืนต่อหน้ากันแล้วส่งสายตากันเหมือนรู้จักกัน หัวหน้าโชเซ็นนั้นก็พูดกับจีเอ็กส์ไปว่า

    “สวัสดีครับ” หัวหน้าโชเซ็นก็โค้มคำนับสวัสดี ซึ่งจีเอ็กส์ก็แปลกใจและเป๋อไปเลย จากนั้นโชเซ็นก็เดินออกจากห้องแล้วไปที่ออฟฟิศ

    จีเอ็กส์ที่ยืนเป๋อเมื่อกี๊ก็เดินเข้าไปทักทายซากิและเพื่อนๆในห้อง

    “ไงซากิ” จีเอ็กส์ก็ทักทายซากิทันที

    ซากิเห็นจีเอ็กส์เข้ามาทักทายนั้นเขาก็ทักทายด้วยสีหน้าที่แจ่มใส

    “สวัสดีครับ คุณจีเอ็กส์”

    ทุกคนในห้องนั้นก็สงสัยกับชายคนที่ชื่อจีเอ็กส์

    “เอ่อทุกคนครับ ชายคนนี้เป็นคนที่ฝึกฝนให้ผมแข็งแกร่ง เขาไม่มีชื่อ แต่เรียกตัวเองว่า “จีเอ็กส์” ครับ” ซากิก็แนะนำตัวจีเอ็กส์ให้แก่ทุกคน

    “อ๋อ คุณคือคนที่ช่วยฉันไว้นี่” รูบี้ก็จำลักษณะของจีเอ็กส์ได้ ว่าเขาคือคนที่ช่วยเหลือซากิเช่นกัน

    “ฮ่าๆๆ เธอก็คือเด็กคนที่ฉันบังเอิญเจอสินะ” จีเอ็กส์ก็พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มเยาะ

    “นี่ อย่าเรียกฉันว่าเด็กนะ!!!” รูบี้ก็ชี้หน้าใส่จีเอ็กส์

    “เปรี๊ยะ!!!!” ฟอร์เต้ก็เอามือฟาดหัวรูบี้

    “โอ๊ย!!!ฟาดทำไมหนูทำไม” รูบี้หันหลังถามฟอร์เต้

    “แกนะเสียมารยาทต่อแขกมากเกินไปนะ” ฟอร์เต้ก็พูดด้วยสีหน้าโกรธ

    จีเอ็กส์ก็ควักของออกจากกระเป๋า สิ่งของนั้นคือช็อคโกแลต เขาวางที่โต๊ะข้างๆเตียงของซากิ

    “ซากิ ฉันเอาของกินมาฝากแนะ วางไว้ที่โต๊ะนะ”

    จุนสึเกะนั้นก็เดินเข้าไปทักจีเอ็กส์

    “เอ่อ คุณครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณกับซากิที่หายไปนานไปทำอะไรกันมั้งครับ”

    จีเอ็กส์นั้นก็หันไปสนทนากับจุนสึเกะ

    “อ๋อ ผมก็คอยฝึกฝนให้เจ้าหนุ่มนี่ แล้วก็ลองไปเที่ยวตามชานเมืองในโลกของเหล่าวิญญาณนะ....” จีเอ็กส์ก็เล่าเรื่องประสบการณ์ที่ตนกับซากิผ่านมา เรื่องที่เล่ามานั้น ยาว...ยาว...... จุนสึเกะกับฟอร์เต้และรูบี้นั้นฟังเรื่องราวต่างๆอย่างน่าสยใจ

    โคชินั้นก็ลุกขึ้นแล้วก็จะไปที่ประตูแล้วก็จะบอกลาพวกฟอร์เต้

    “นี่ ฉันกลับก่อนละนะ อ๋อ ซากิ ขอออกจากโรงพยาบาลเร็วๆละ” โคชิก็บอกลาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “เอ๊ะ!!เดี๋ยวก่อนสิโคชิ” ฟอร์เต้นั้นก็รีบทักโคชิ

    “หืม??” โคชิก็หันไปมองฟอร์เต้

    “ว่าแต่ว่าไมกลับพร้อมพวกเราเหรอ???” ฟอร์เต้ก็ชวนโคชิกลับบ้านพร้อมกัน

    โคชิก็บอกเหตุไปว่า

    “อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ฉันให้น้องเฝ้าออฟฟิศไว้นะ เดี๋ยวเหงา” จากนั้นก็ออกจากห้องไป

    “ว้าว!คุณโคชิเขามีออฟฟิศด้วยเหรอนี่...” รูบี้ก็ตะลึงที่คนอย่างโคชิเขามีออฟฟิศที่ทำงาน

    “อืม ออฟฟิศ..ดีนี่ เจ้าหนุ่มนั้น.......เอ้า มาฟังฉันเล่าต่อเหอะ” จีเอ็กส์ก็หันมาเล่าอีกครั้ง รูบี้กับฟอร์เต้ก็หันไปตั้งใจฟัง

    โคชิกำลังจะเลี้ยวขวาและไปที่ทางเดินที่อยู่ลึกไกลสุดนั้น โคชิก็บังเอิญเห็นชาย 2 คนในชุดสูตรสีดำ ใส่แว่นกันแดด คอยเฝ้าอยู่หน้าประตู ท่าทางเป็นบอดิการ์ด ตอนแรกไม่ได้สนใจอะไร แต่พอเข้ามาใกล้ๆก็เป็นหมายเลขห้องที่คิรินนอนพักอยู่ก็ตกใจจึงเข้าไปถาม

    “เอ่อ พวกคุณมาหาเพื่อนผมทำไมนะ??พวกคุณเป็นใคร??” โคชินั้นไม่สนใจจึงเข้าไปมองที่ข้างในห้องผ่านกระจกประตู

    “เฮ้ย!!แก!!” พวกบอดิการ์ดก็เข้าไปห้ามโคชิ

    สิ่งที่โคชิเห็นนั้นมี กลุ่มคนลึกลับในชุดนักทดลองซึ่งโคชิมองออกเลยว่าพวกนั้นไม่ใช่หมอประจำของคิริน พวกเขากำลังคุยและก็ใช้อุปกรณ์พิเศษติดกับศีรษะของคิริน

    หญิงคนนึงในชุดนักทดลองไว้ผมยาวสีเขียว สวมแว่นตา ได้ยินเสียงอะไรจากข้างนอกจึงหันไปมองเห็นโคชิกำลังดูกลุ่มของพวกเธอในห้องของคิริน

    โคชิเมื่อได้เห็นสายตาของผู้หญิงคนนั้น บ่งบอกได้ว่า เธอไม่ใช่มนุษย์!!

    “เวรเอ๊ย!!!!ปล่อยฉันนะ!!!” โคชินั้นโหวกเหวกโวยวาย เขาพยายามจะเข้าไปในนั้นแต่ก็ถูกพวกบอดิการ์ดขวางไว้

    พวกที่อยู่ข้างในนั้นก็เก็บอุปกรณ์เมื่อมีคนรู้เห็น ผู้หญิงคนที่เป็นหัวหน้านั้นก็สั่งคำสั่งบางอย่างที่โคชิได้ยินว่า

    “นำชายคนนี้กลับที่ฐานของเรา.........อย่าให้ใครรู้....นำหมอนี่กลับฐานทดลอง”

    พวกบอดิการ์ดข้างนอกก็คอยล็อคตัวโคชิไว้ โคชิก็ไม่ยอมแพ้ หลุดมาได้พยายามจะเข้าไปนั้นแต่มีบอดิการ์ดคนคนนึงใช้กระบองของตนทุบเข้าที่ศีรษะของโคชิ โคชิก็ล้มลงไปบนพื้น

    พวกนักวิทยาศาสตร์ข้างในนั้นก็เปิดประตูพาคิรินพร้อมเตียงนอนค่อยๆเดินออกจากห้องพยาบาล

    “พวกแกเป็นใครกัน???ปล่อยฉันนะ!!!” โคชิก็พยายามลุกขึ้นวิ่งไปตามพวกนักวิทยาศาสตร์ที่พาโคชิไปแต่ก็ถูกพวกบอดิการ์ดล็อคตัวไว้

    “พวกเราคือ สายลับของทางรัฐบาล เรามีใบอนุญาตพาตัวคนไข้รายนี้ออกจากโรงพยาบาลได้ เข้าใจมั้ยเจ้าหนุ่ม” บอดิการ์ดคนนึงพูดให้โคชิฟังแต่โคชินั้นไม่สนใจ

    นักวิทยาศาสตร์หญิงคนนึงก็เดินไปหาโคชิ แล้วมองที่สายตาของโคชิ โคชินั้นก็รู้สึกเหมือนโดนกดดัน ปวดหัว แสลสมอง จนทนไม่ไหว เขาโวยวายเพราะความเจ็บปวดที่สมอง พวกบอดิการ์ดก็เริ่มปล่อยตัวโคชิที่ถูกทรมานทางพลังจิตของนักวิทยาศาสตร์หญิง

    ทันใดนั้นเองฟอร์เต้และคนอื่นๆในห้องพักของซากิได้ยินเสียงก็ออกจากประตู

    “โคชิ!!!” ฟอร์เต้กับรูบี้ก็วิ่งไปหาโคชิ

    จุนสึเกะ ซากิและจีเอ็กส์นั้นก็วิ่งไปหาโคชิ

    ฟอร์เต้กับรูบี้ก็คอยช่วยเหลือโคชิเพื่อให้เขาคุมสติ จุนสึเกะนั้นเมื่อมองไปที่ลิฟท์ พวกนักวิทยาศาสตร์ก็พาคิรินเข้าไปในลิฟท์ ประตูก็กำลังจะปิด จุนสึเกะจึงเอาแขนขวาของตนวิ่งเข้าไปแล้วกั้นประตูลิฟท์

    พวกนักวิทยาศาสตร์นั้นก็ตกใจที่จุนสึเกะลงทุนเอาแขนขวามากั้นไม่ให้ลิฟท์ปิด แต่นักวิทยาศาสตร์คนเดิมก็ใช้พลังจิตพยายามดันจุนสึเกะออกไป จุนสึเกะก็พยายามทนต่อพลังจิตของเธอได้ไม่นาน จนกระทั่งแขนของเขาเริ่มมีรอยฉีกจนเห็นเหล็กข้างในแขน ร่างของจุนสึเกะก็ถูกผลักกระเด็นออกจากลิฟท์

    จุนสึเกะก็ล้มลงไปไม่เป็นท่า เขาพยายามจะลุกขึ้นไปหยุดนั้นแต่ก็สายไป ประตูลิฟท์ปิดลงแล้ว จึงไม่มีทางที่จะช่วยคิรินไว้ได้

    โคชินั้นอยู่ในอาการที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะถูกพลังลึกลับของนักวิทยาศาสตร์คนนั้นใช้กดดันเขาก่อนที่เขาหมดสติไปเพราะผลของพลังหมดฤทธิ์ ฟอร์เต้กับรูบี้ก็พยุงร่างของโคชิ

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพวกซากิกับกลุ่มโคชิได้จัดตั้งกลุ่มลับๆ ที่ชื่อว่า “Cross V” ขึ้นลับๆเพื่อคอยสืบสวนเกี่ยวกับการหายไปของคิรินและเรื่องของสเปคเตอร์ของคุซาเกะ เพราะทางเจ้าหน้าท่โลกวิญญาณดูเหมือนจะการสืบสวนเรื่องคุซาเกะนั้นยืดยื้อนานมาเหมือนถูกลืม

    ติดตามตามตอนใหม่ด้วยนะคร้าบบ เนื้อเรื่องเริ่มจะมีบางอย่างมาแทรกซ้อนจนอลวนวุ่นวายใหญ่แล้ว

Share This Page