[ประกวดฟิคสั้น] ความหมายแห่งชีวิต

กระทู้จากหมวด 'ประกวดเรื่องสั้นครั้งที่ 4 "ขอบคุณ"' โดย maxlancer, 30 พฤศจิกายน 2010.

  1. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    ~~ความหมายแห่งชีวิต~~

    ปัง!!

    เขม่าปืนโชยออกจากปากกระบอกปืนอย่างช้าๆ ร่างที่อยู่ปลายลำกล้องนอนดับดิ้น ของเหลวสีแดงไหลทะลักออกมารูบนร่าง
    ผู้เคราะห์ร้ายเป็นรองประธานบริษัทคนหนึ่งธุรกิจพันล้าน สถานที่ตอนนี้คือชั้นบนสุดของบริษัทธุรกิจพันล้านชื่อดังแห่งหนึ่งกลางเมืองใหญ่

    รายละเอียดนอกจากนั้นไม่ทราบ

    ไม่จำเป็นต้องรู้

    ไม่จำเป็นต้องสนใจ

    ชีวิตของข้า.....มีเพียงการลั่นไกปืน ใช่...ข้ารู้จักเพียงแค่นั้น

    ข้ากวาดสายตามองออกโดยรอบ ตั้งแต่ได้เริ่มภารกิจสังหารมา หนึ่งนาที สามสิบหกวินาที ได้สังหารเป้าหมายที่ถูกสั่งมาทั้งหมดห้าคน แต่กลับมีคนๆนึง โดนข้ายิงไปสองนัดเป็นคนแรกคาอยู่บนเก้าอี้ประธาน แต่ยังคงมีลมหายใจอยู่....นี่ข้ายิงพลาดจุดตายไปเหรอ?

    “มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย”

    เป็นครั้งแรกที่ข้ากล่าวประโยคนี้ต่อเหยื่อลูกปืน .......ก็แค่ไม่อยากให้มันตายเปล่า ไหนๆหมอนี่ยังสามารถยืดชีวิตออกไปจากลูกปืนข้าได้แล้ว

    “หึ...นักฆ่าที่รับ...คำสั่งเสียเหรอ “ ชายสูงวัยนั่งหอบปานจะสิ้นใจบนเก้าอี้ประธาน รูขาดบนเสื้อเปื้อนไปด้วยสีแดงราวกับเป็นพลังชีวิตที่กำลังเหือดแห้ง

    “มีหรือไม่มี”

    เหยื่อใช้สายตา จ้องมองไปยังตู้ไม้ใบใหญ่ข้างๆ

    “ลูกสาว.....ฝากให้ถึง....ที่ปลอดภัยด้วย..”

    ข้าไม่เอ่ยคำใดออกไป ไม่คิดซะด้วยซ้ำว่าจะมาขอให้คนที่พรากชีวิตผู้เป็นพ่อ มาปกป้องลูกตัวเอง

    มีเพียงริมฝีปากที่ขยับช้าๆ ไม่มีเสียงใดลอดออกจากลำคอ และเป็นคำสั้นๆที่ข้าไม่เคยได้ยินจากปากใคร

    แววตาเหือดแห้งลง เป็นสัญญาณบอกแล้วว่า เขาได้สิ้นใจไปแล้วทันทีที่สั่งเสียจบ เป็นเหยื่อของข้าคนแรกเลยกระมัง ที่ไม่สาปแช่งตัวข้าก่อนตาย แต่......ไอ้รอยยิ้มที่ใบหน้าของแกมันหมายความว่าไง นี่คิดจริงๆเหรอว่าข้าจะช่วยทำตามที่เจ้าขอจริงๆ?

    “ยอดเยี่ยมมาก” เสียงเชิดชูอันน่ารังเกียจดังมาจากข้างหลัง

    ตาแก่หัวเถิก ที่หาผมซักเส้นก็ไม่มี ไอ้เฒ่าอ้วนราวกับหมู กับสมุนที่คอยเลียแข้งเลียขาสามตัว จากสูทแปลกๆที่ใส่เหมือนๆกัน พวกนี้น่าจะเป็นกลุ่มคู่แข่งทางธุรกิจที่จ้างวานข้ามาสังหารคนพวกนี้

    “ผมสีขาวโพลน กับ ฝีมือการฆ่า สมแล้วเป็นนักฆ่าสีเงิน หมดจดจริงๆ แปลว่าจริงทุกอย่างเลยแฮะคำเล่าลือเกี่ยวกับนายเนี่ย” ไอ้หัวเถิกที่ขวางหูขวางตาพูด ขณะที่ปล่อยสมุนจัดการศพ

    ข้าใช้สายตาแทนคำถาม แต่ความจริงไอ้บ้านี่กะจะพูดโดยไม่รอข้าถามอยู่แล้ว

    “เค้าลือว่า ในองค์กรมีนายเป็นมือหนึ่ง เพราะนายน่ะ โดนสอนให้ฆ่าคนตั้งแต่สามขวบ คนแรกที่นายฆ่าก็เป็นบุพการีตัวเอง หลังจากนั้นนายก็โดนปลูกฝังแต่เรื่องฆ่าคนทุกรูปแบบ จนเกิดคลั่งไปฆ่าคนทั้งองค์กรทิ้ง......”

    “หุบปากซะ น่ารำคาญ” ข้ารีบสั่งให้มันหยุดพล่ามก่อนที่ข้าจะเผลอฆ่ามันโดยไม่รู้ตัว

    “หัวหน้าครับมันไม่อยู่ที่หมอนี่ครับ!! ที่ไหนก็ไม่มีเลยครับ!!” หมาเลียเท้าหมายเลขหนึ่ง สอง และ สามบอกแก่เจ้านายของมัน หลังจากการค้นหาของบางอย่าง

    “ว่าไงนะ!! แก!! แกเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน!! หนอย!!”

    ไอ้เถิกนั่นไม่สนใจคำดูถูกของข้า มีเพียงแต่การระบายอารมณ์ให้ร่างเนื้อที่สิ้นใจ ร่างที่สั่งเสียคำสุดท้ายแก่ข้า ลูกสาว......กับตู้ งั้นเหรอ?

    ข้าเพิ่งรู้ถึงสิ่งที่สั่งเสีย เมื่อ มีสมุนหนึ่งนายไปเปิดตู้ข้างๆนั่น ก่อนดึงร่างของเด็กหญิงผมดำในชุดกระโปรงสีขาว....ช่างไม่เข้ากับห้องที่อาบเลือดแบบนี้เลยจริงๆ

    “ยัยหนูนี่....ลูกสาวมันนี่หว่า...” เฒ่าหัวงูข้างหัวเถิกคู่หูแสยะยิ้มราวกับเดรัจฉาน

    “ชั้นว่ามันต้องใส่ในกระเป๋าเป้ของลูกสาวมันแน่ๆ” เถิกกล่าวเมื่อเห็นเป้ใบเล็กๆของเด็กหญิง

    “เอางี้ พาตัวเด็กนี้กลับ!! ในเมื่อพ่อมันทำเราลำบากมาขนาดนี้ คงต้องตอบแทนกันอย่างสาสมหน่อยแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”

    แกร็ก!!!

    ข้าชักปืนจ่อกระบาลมันโดยไม่รู้ตัว โกรธเหรอ รับไม่ได้เหรอ .....ไม่รู้ ข้าไม่รู้จักอารมณ์แบบนั้น รู้แต่ข้าอยากหุบปากไอ้นี่เสียเหลือเกิน

    “เฮ้ย...แกคิดจะทำอะไร....” แม้ปลายปืนจะจ่อเข้าที่กระบาล แต่อัหัวเถิกนี่ยังพยายามจะเบ่งว่าไม่กลัวงั้นเหรอ....กล้าหรือบ้ากันแน่

    “แกอยากได้กระเป๋าก็เอาไป แต่ส่งเด็กคนนี้มา”

    “ไม่ใช่เรื่องของแก เสร็จงานแล้วก็ไสหัวไปซะ!!”

    ข้ายกเตรียมนิ้วชี้สู่ไกปืนอย่างไม่รอช้า เพื่อเป็นสัญญาณว่าข้าเอาจริง

    “ตายซะไอ้บ้านี่!!!” สมุนสามนาย เลือกชักปืนในระยะประชิด เสียงกระสุนปืนนัดแรกเป็นสัญญาณการต่อสู้
    ………………………
    ………………
    …………

    .
    “แฮ่ก แฮ่ก”

    ร่างกายที่ฝึกฝนมา กลับหอบอย่างบ้าคลั่ง แขนซ้ายแบกร่างเล็กๆปานลูกสุนัขของเด็กหญิงขึ้นบ่า มือขวามีเพียงปืนพก9mm คู่ชีพ สายตาข้าเริ่มพร่ามัวอย่างเหน็ดเหนื่อย ทำไมข้าต้องทำอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่เลือกปล่อยเอาไว้แบบนั้นก็ได้

    ไม่รุ้ไอ้หัวเถิกนั่นได้ยินเรื่องของข้าจากไหน เพราะข้าเพิ่งยิงมันทิ้งเป็นคนแรกเมื่อครู่

    แต่ชีวิตข้ามีเพียงการฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า แล้วก็ฆ่า

    เคยที่จะไม่ปรารถณาจะฆ่า แต่ตั้งแต่รู้ความ ก็เห็นแต่การฆ่า จนกระทั่ง....ข้าไม่รุ้สึกอะไรกับมัน

    แม้แต่คุณแม่.........น้ำตาข้า ไม่ยอมไหล หัวใจข้าไม่ยอมโศก

    ข้าเคยได้แต่สาปแช่ง แก่ผู้ที่เลี้ยงดูข้า ด้วยการมอบสิ่งที่พวกมันยัดเยียดให้มา “ การฆ่า “

    แต่กระนั้นข้าก็ไม่อาจกลับสู่เมื่อตอนนั้นได้อีกแล้ว

    ข้าเสพติดการฆ่าไปแล้ว จึงได้เลือกทำอาชีพนี้ต่อไป

    “พี่คะ พี่ไหวหรือเปล่า?”

    เสียงเล็กๆ เรียกข้ากลับสู่โลกแห่งความจริง ข้าเลือกที่จะหยุดพักเมื่อพบว่า ข้ากำลังอยู่กลางสวนสาธารณะยามค่ำคืน นับว่าเหมาะที่จะหลบซ่อนพักกำลังซักครู่

    “ข้าไม่เป็นไร” สองมืออุ้มร่างในชุดขาวลงพื้น ก่อนจะทิ้งตัวลงพิงต้นไม้ใหญ่ในสวน

    “ข้า? พ่อหนูเคยบอกนั่นมันเป็นคำไม่สุภาพนะคะ” ดวงตาสีดำสดใส จ้องมองตัวข้า นี่พยายามจะสอนข้าหรือไง ยัยหนูน้อย

    “แล้วจะให้เรียกว่า?” ไม่ได้ถามเพราะรำคาญ แต่นัยหนึ่ง ข้าไม่รุ้เหมือนกันจะเรียกตัวเองว่าอะไร

    “เป็นผู้ชายต้องเรียกตัวเองว่า “ผม” ค่ะ...แต่พี่ชายอายุมากกว่าหนู งั้น เรียกว่า ”พี่” ก็ได้”

    ข้าชักแปลกใจ ทำไมเด็กคนนี้ยังทำหน้าชื่นตาบานกับข้าได้ ทั้งๆที่พ่อตัวเองเพิ่งโดนข้าคนนี้สังหารไป

    “ถามตรงๆ เมื่อกี้เห็นหรือเปล่าว่า ในห้องของพ่อเธอมีอะไรเกิดขึ้น” ข้าเอ๋ยด้วยความสงสัย

    เด็กน้อยพยักหน้า ข้างุนงงกับหน้าตาบ้องแบ้วของเธอเหลือเกิน นี่พ่อตายไปทั้งคนนะ!!

    “พ่อบอกเสมอซักวันพ่อต้องตาย อย่าได้เสียใจกับการตายของพ่อ พ่อหนูบอกไว้แบบนี้เสมอเลยค่ะ หนูเลยหลบในตู้อยู่ตลอดเลย”

    บ้าชัดๆ....

    นี่มันไม่ต่างอะไรกับตัวข้าตอนเด็กเลยไม่ใช่เหรอ?

    “แล้ว...ไอ้พวกเมื่อกี้ที่โดนข้า...โดนพี่ยิงไปนั่น เธอรู้หรือเปล่า ว่าทำไมถึงมาทำให้พ่อเธอต้องตาย”

    เด็กหญิงส่ายหน้า ข้าเลยเลือกขอกระเป๋าของเธอมาดู

    “เอกสารการก่อตั้งบริษัท.....พินัยกรรมฉบับเขียนมือ......อะไรเนี่ย จดหมายลับสุดยอด?”

    ข้าเลือกเปิดจดหมายดูคร่าวๆ อย่างงี้นี่เอง ข้อมูลการยักยอกเงินของบริษัทและการคอรัปชั่นของบริษัทไอ้เถิกนั่น พวกนั้นเลยส่งข้ามาปิดปากสินะ

    “เอาล่ะไปกันได้แล้ว” ข้าจัดแจงใส่ของลงกระเป๋าเป้เหมือนเดิม พร้อมยื่นกลับไปให้เด็กหญิง

    “ขอบคุณค่ะ”

    “?!!!” คำที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินปรากฏ

    มีอย่างที่ไหน มาขอบคุณคนที่ฆ่าพ่อเธอกับมือ ข้านึกแปลกใจ

    “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณใดๆกับข้า”

    “ต้องเรียกว่า ”พี่" หรือ “ผม” สิคะ!!”

    “ชิ...พี่ก็พี่ ตามพี่มาเร็ว” ข้าชักรำคาญนิดหน่อยกับเด็กคนนี้แล้ว
    ..............
    .......
    ....
    .
    แม่ของเด็ก ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ข้าตามรอยหล่อนมาได้ในเวลาไม่นาน ในที่สุด ข้าก็สิ้นสุดคำสั่งเสีย ในการพาเธอกลับมา

    “ฟีเลส!! ลูกปลอดภัย!!!” คุณแม่ที่หน้าตาดูเหมือนโศกมาได้พักใหญ่ ถลาเข้าไปโอบกอดลูกสาว ที่ข้าพาตัวเธอออกมา ภาพตรงหน้าจะเรียกว่าทำร้ายจิตใจตัวข้าได้หรือเปล่านะ สำหรับคนบาปอย่างข้า

    “เรื่องทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าเด็กคนนั้น รีบๆหาที่ซ่อนซะ” ข้ากล่าวสั้นๆ ก่อนจะหันหลังกลับ

    “พี่คะ!!” ฟิเลส เด็กหญิงคนเดิมกลับวิ่งเข้ามาเกาะตัวข้า มีอะไรอีกล่ะ ทั้งๆที่ข้าทำตามคำสั่งเสียของพ่อเธอได้แล้ว

    ข้าลดตัวลงในระดับเดียวกับคุณหนูตัวน้อย เอาเถอะ ถ้าอยากจะร่ำลาก็เอาให้เสร็จๆ เดี๋ยวหนีไม่ทัน ข้าก็เหนื่อยเปล่าน่ะสิ

    แขนเล็กๆ โอบกอดรอบคอของข้า ข้าได้แต่นั่งตะลึง ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเลย ที่จะได้อ้อมกอด.....ไม่สิ มีเพียงครั้งเดียว...ที่ข้าได้โดนกดดันให้สังหารท่านแม่ไป ครั้งเดียวตอนที่แม่จะสิ้นใจไปต่อหน้า ใบหน้าช่างดูคล้ายกับพ่อของเด็กคนนี้ รอยยิ้มนั่นมันอะไรกัน

    “ขอบคุณมากค่ะ”

    อีกแล้ว......ข้าไม่ได้ทำอะไรให้ซักหน่อย

    “บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ไม่จำเป็น ทำไมต้องขอบคุณคนอย่าง....พี่”

    “พ่อเคยสอนว่า ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองจะตายตอนไหน ก็จงขอบคุณต่อสิ่งที่คนอื่นช่วยเหลือเราให้มากที่สุดค่ะ”

    ข้าฉุกคิดขึ้นมาได้ ริมฝีปากที่ขยับหลังการสั่งเสียตอนนั้น “ขอบคุณ” บ้าบอกันทั้งพ่อและลูก มาขอบคุณมารร้ายอย่างข้าทำไม

    ไม่รู้เมื่อไหร่กัน ที่ข้าเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย ปลาบปลื้มที่รับคำขอบคุณงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

    “คนบาปอย่างพี่ไม่เหมาะกับคำขอบคุณหรอก”

    ข้าลูบหัวเด็กหญิงเบาๆก่อนผละตัวออก เห็นแม่เด็กก้มหัวให้เล็กน้อย แม้จะหวาดกลัวตัวข้าอยู่ก็ตาม

    เมื่อเด็กหญิงหนีไปพร้อมแม่เด็กที่มีการป้องกันจากการ์ดจำนวนมาก ข้า........ผมจึงหันมาจัดการเรื่องสุดท้าย

    “มากันแล้วเหรอ?”

    กลุ่มติดอาวุธมากมายนับสิบปรากฏ พร้อม เฒ่าหัวงูที่ข้าพลาดการสังหารไป พร้อมพะวงกับการหนีออกไป ดูท่าทางเครียดแค้นข้ามากสินะ

    “แก!!! ไอ้ทรยศ วันนี้ ไม่ได้ฉีกแกเป็นชิ้น อย่าหวังว่าจะยอมหยุดเลย!!”
    .
    “ทรยศ? เปล่าเลย ผมลงมือตามที่สั่งหมดแล้วนี่ ตอนนี้ผมแค่ได้รับงานชิ้นใหม่พร้อมค่าจ้างแล้วต่างหาก”

    “ว่าไงนะ?!!”

    “ทำให้แม่ลูกคู่นั้นหนีได้อย่างสวัสดิภาพยังไงล่ะ”

    “ฆ่ามัน!!!!!!!!!!!!!!!”

    "ผม" เหรอ.....ฟังดูก็ไม่เลวเหมือนกันแฮะ

    สองเท้าถลาออกไปพร้อมกระสุนนัดสุดท้ายส่องเป้าหมายตรงหน้า

    ทั้งๆที่เป็นการฆ่าตัวตายแท้ๆ แต่ทำไมจิตใจกลับไม่หวาดกลัว

    เพราะคำว่าขอบคุณงั้นเหรอ.....ตลกน่า คนบาปหนาอย่างผมจะไปมีค่าพออะไรกับคำๆเดียว

    ไถ่บาป? การไถ่บาปด้วยการฆ่า คงเป็นไปไม่ได้

    แต่นี่.......คงเป็นการไถ่บาปด้วยชีวิตล่ะมั้ง

    ไม่แน่ว่า ชีวิตผมอาจจะอยู่มาทุกวันนี้เพื่อสองพ่อลูกนั่นก็เป็นได้



    “ขอบคุณ”

    ขอบคุณที่ช่วยทำให้ชีวิตบาปหนานี้ มีความหมายในวาระสุดท้าย....





    ~FIN~
  2. jpenguin

    jpenguin Admin Staff Member

    EXP:
    2,537
    ถูกใจที่ได้รับ:
    93
    คะแนน Trophy:
    113
    ขอบคุณสำหรับผลงานครับ :penlov: พอดีอยู่ที่ทำงานเลยเพิ่งอ่านผ่านๆ ไปหน่อยเดียว แต่รู้สึกว่าน่าสนใจและน่าจะกินใจเลยทีเดียว

    เดี๋ยวเลิกงานจะอ่านละเอียดอีกทีครับ
  3. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    อ่านแล้วสมเป็นฟิคของแม๊กหอกจริงๆ โอ้วเย่ :penwhat: ไม่ธรรมดาๆตามสูตรของแม๊กหอก ชอบๆ :meelov.:


    ปล.กด+ให้ฉึกๆ
  4. train

    train Member

    EXP:
    498
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    รู้สึกว่าเพิ่งเคยได้อ่านฟิคของแม็กกี้ที่ใช้สรรพนามที่1แหละ
    โอเคนะ สื่อให้คนอ่านรู้สึกได้ถึงความคิดของตัวละครได้ดี
    รุ้สึกเสียดายนิดหน่อยที่เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นทำให้ต้องดำเนินเนื้อเรื่องเร็วมากเลยซึมซับเนื้อเรื่องไม่ได้มากเท่าที่ควร
    ไม่งั้นคงจะซึ้งกว่านี้เยอะ!

    รู้สึกปูเนื้อเรื่องได้ดี เป็นลำดับไป ภาษาบรรยายเห็นภาพดี
    ชอบในการสื่อธีมออกมาโดยเน้นคำว่าขอบคุณจากปากเด็กผู้หญิงก่อน แต่อิมแพคสุดคงเป็นอันสุดท้าย ในที่สุดนักฆ่าก็รู้จักขอบคุณสินา!

    โอ๊ส สู้ๆต่อไปแม็กกี้ซอสเหยาะไข่ดาว~
  5. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    รู้สึกว่าถ่ายทอดอารมณ์ดีนะ แต่ทำไมถึงได้รู้สึกว่าสั้นไปหน่อยก็ไม่รู้เหมือนกัน (ทั้งที่ยาวกว่าที่ผมแต่งอีกแฮะ)

    ส่วนตัวว่าการแสดงอารมณ์ของเด็กผู้หญิงน้อยไปหน่อย แต่ผมชอบส่วนของนักฆ่านะ >_<
  6. DEATHSIM

    DEATHSIM New Member

    EXP:
    8
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    1
    สื่ออารมณ์ได้สุดยอดไปเลยครับอ่านแล้วขนลุกตอนจบ ถ้าทำเป็นฟิคยาวจะขอติดตามเป็นแฟน เบอร์ 1 เลยนะครับเนี่ย >< ....

    แต่งง ๆ นิดหน่อยอ่ะครับ คงเป็นเพราะผมอาจจะห่างจากการอ่านฟิคมานานมั้งครับ 55+

    ถึงอย่างนั้นชอบจริง ๆ นะครับ ท่านแม็กซ์ เสียดายส่งไม่ทัน หมดเขตแล้วซะงั้น T-T
  7. ReficuL

    ReficuL New Member

    EXP:
    53
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    แม็กซัง แต่งได้น่าสนใจมากเลยค่ะ

    เนื้อเรื่องสั้นๆ แต่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวนักฆ่าชัดมาก

    ถ้ามีการปูประวัติของนักฆ่ามากกว่านี้ เรื่องนี้คงซึ้งมากเลยค่ะ

    แต่ก็นะ เพราะเป็นเรื่องสั้นกว่าจะได้ออกมาคงจะใช้เวลาแล้วก็ความตั้งใจไปพอสมควรเลย

    รอติดตามผลงานอยู่นะค่ะ :meelov.:

    ปล.ประทับใจมากเลยที่นักฆ่ายอมพูดว่าเรียกตัวเองว่าพี่ เด็กผู้หญิงี่ดูไร้เดียงสาเนี่ยมีพลังโน้มน้าวได้สุดยอดไปเลยนะ

    ปลล.ชอบจังเลยฟิคที่มีตัวละครคอนทราสกันเนี่ย นักฆ่า(ดำ)น้องเด็กในตู้(ขาว)

Share This Page