Marionette's story [ฟิคที่น่าจะสั้น]

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย choco, 30 พฤศจิกายน 2010.

  1. choco

    choco Interpreter

    EXP:
    65
    ถูกใจที่ได้รับ:
    5
    คะแนน Trophy:
    18
    Marionette’s Story

    คำสารภาพบาปของช่างทำตุ๊กตา - Sin of Father

    พระผู้เป็นเจ้า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมไม่เคยเชื่อหรือศรัทธาท่านแม้แต่ครั้งเดียว
    ถึงขนาดเคยคิดว่าต่อให้มีอยู่จริง ก็จะขอสาปแช่งท่านเลยด้วยซ้ำ
    นั่นคือเหตุผลที่ผมก่อบาปนั้นขึ้นมา
    พระผู้เป็นเจ้า แต่ในขณะนี้ผมอยากจะเชื่อว่าท่านมีอยู่จริงเหลือเกิน
    บาปของผมหนักหนาสาหัสนัก อย่างน้อยก็สำหรับมนุษย์ตัวเล็กๆเช่นผม
    มันหนักจนผมแบกมันเอาไว้ตามลำพังไม่ไหว ได้แต่เอามาสารภาพกับท่าน ท่านผู้ซึ่งผมไม่อาจมองเห็น
    เพื่อที่อย่างน้อยความรู้สึกผิดบาปที่ฝังแน่นอยู่ในอกจะได้บรรเทาลงไปบ้าง
    อาจจะเป็นแค่การคิดเองเออเองของมนุษย์คนหนึ่ง
    แต่มนุษย์ที่อ่อนแออย่างผม ไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากการปลอบประโลมใจตนเองด้วยความคิดเช่นนั้น มนุษย์ที่อ่อนแอเกินกว่าจะหันหน้าเข้าหาบาปของตัวเอง

    ผมได้ให้กำเนิด’เธอ’ขึ้นมา และฆ่าเธอด้วยมือของตนเอง
    ผมสร้างเธอมาเพื่อทุกข์ทรมาน แล้วลิขิตชะตาชีวิตของเธอเอาเองตามอำเภอใจ
    แต่ว่าในตอนนั้น หากผมไม่ฆ่าเธอละก็ ผมก็คงทนมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหว

    พระผู้เป็นเจ้า ผมขอเล่าเรื่องราวทั้งหมด ทั้งบาปที่ผมทำลงไป ทั้งเรื่องราวที่เป็นที่มาของบาปอันนั้น

    แม้ว่าท่านจะไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นไร
    ไม่ว่าจะได้รับการให้อภัย หรือจะถูกผลักให้จมลงสู่ก้นบึ้งของขุมนรก ก็ล้วนแต่เป็นทางรอดสำหรับผมทั้งนั้น

    เมื่อครั้งหนึ่ง อาจจะนานมาแล้ว หรือไม่กี่ปีมานี้ ผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน
    ผมเป็นช่างทำตุ๊กตาคนหนึ่งที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่ก็ได้พบและแต่งงานกับผู้หญิงที่รัก
    ทว่า พระผู้เป็นเจ้า หากท่านคือผู้กำหนดทุกสรรพสิ่งที่ถือกำเนิดและมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ท่านช่างโหดร้ายเหลือเกิน
    ในคืนที่เธอคนนั้นกำลังให้กำเนิดบุตร ท่านไม่เพียงแต่ให้บุตรของเราเกิดมาในสภาพพิกลพิการและเสียชีวิตทันทีก่อนที่จะได้ลืมตาดูโลกเท่านั้น หากแต่ยังพรากชีวิตของผู้หญิงที่ผมรัก ผู้หญิงคนสำคัญที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้ไปจากผมด้วย

    ผมโกรธแค้นท่านมาก พระผู้เป็นเจ้า
    ผมไม่เคยเชื่อในตัวท่าน แต่เธอคนนั้นรักและศรัทธาท่านมาก
    ในขณะที่เธอตั้งครรภ์ เธอยิ้มได้ในขณะที่ต้องทนความเจ็บปวดมากมาย เมื่อผมถามเธอว่าทำไมเธอถึงยิ้มอยู่ได้ เธอตอบว่า “เพราะสิ่งที่อยู่ข้างในท้องของฉัน คือชีวิตที่พระองค์มอบให้”
    ผมไม่เข้าใจคำพูดนั้น แต่ขอแค่เธอยิ้ม ผมก็มีความสุข
    แม้เงินที่ได้จากการทำตุ๊กตาจะไม่มากนัก ก็ยังมีความสุข
    แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้น พระองค์กลับพรากชีวิตของลูกตัวน้อยที่น่าจะเกิดมา และภรรยาที่รักของผมไป

    ผมโกรธแค้นท่านมาก
    ด้วยเหตุนั้น ผมจึงคิดกระทำการอันโง่เขลาขึ้นมา
    ผมคิดจะสร้างมนุษย์ หรือไม่ก็สิ่งที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทนที่บุตรที่ท่านลิขิตให้ตายก่อนที่จะลืมตาดูโลก และบางทีในตอนนั้น ผมอาจจะต้องการตัวแทนของภรรยาก็เป็นได้
    จากสายตาของคนภายนอก ตัวผมในขณะนั้นคงจะเหมือนคนบ้า
    ผมบ้าไปแล้วจริงๆ
    ผมสร้างตุ๊กตาขึ้น ตุ๊กตาที่เหมือนกับมนุษย์ แต่ก็งดงามไร้ที่ติ

    ถึงกระนั้น เธอก็เป็นตุ๊กตา เป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่ง
    แม้จะมีร่างกาย มีแขน มีขา มีลำตัว มีศีรษะ อวัยวะทุกอย่างเหมือนมนุษย์ไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่เธอก็ยังเป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่ง
    ตอนที่ผมสร้างเธอเสร็จ ผมมีความสุขมาก
    ผมอุ้มเธอขึ้น สวมชุดที่ภรรยาของผมเคยบอกว่าอยากได้แต่ไม่มีโอกาสได้ใส่ให้กับเธอ แล้ววางเธอลงบนเก้าอี้ตัวที่นั่งสบายที่สุดในบ้าน
    จะด้วยความสุขที่เอ่อล้นจนทนไม่ไหวหรือจะด้วยสติที่ฟั่นเฟือน ผมลองเรียกชื่อของเธอดู
    ชื่อของผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด เป็นชื่อของดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมละมุนและเปราะบาง ผมเรียกเธอด้วยชื่อนั้นโดยไม่ลังเล
    ผมเรียกเธอ
    ครั้งแล้ว
    ครั้งเล่า
    ไม่มีเสียงตอบรับ
    เธอไม่เพียงแต่ไม่ขานตอบ แต่ยังนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น ราวกับตุ๊กตา
    ราวกับตุ๊กตา?นี่ผมพูดอะไรออกไป
    เธอเป็นตุ๊กตา เป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่ง ตุ๊กตาที่ไม่อาจเคลื่อนไหวได้หากไม่มีการชักใย จริงอยู่ที่ผมใส่สิ่งที่คล้ายกับกล่องเสียงให้ แต่นั่นก็จะทำงานก็ต่อเมื่อมีใครสักคนไขลานให้เท่านั้น และเสียงที่ออกมาไม่มีทางเป็นเสียงพูดของมนุษย์ไปได้

    ตอนนั้น ผมหัวเราะ
    ผมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
    ผมบ้าไปแล้ว อันที่จริง ผมก็บ้าตั้งแต่ที่คิดว่าจะสร้างตุ๊กตาขึ้นมาแทนมนุษย์แล้ว
    ต่อให้สร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่ก็เป็นแค่ตุ๊กตา
    แล้วตุ๊กตาที่ไหนจะพูดได้? ตุ๊กตาที่ไหนจะมาแทนที่มนุษย์ได้?
    ผู้สร้างก็เป็นแค่มนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า มนุษย์ที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถสร้างชีวิตได้ตามลำพัง
    รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังทำ
    ตอนนั้น ผมหัวเราะ
    หัวเราะให้แก่ความโง่เขลาและฟั่นเฟือนของตนเอง

    เธอเป็นแค่ตุ๊กตา เธอไม่ใช่มนุษย์ เธอไม่มีชีวิต
    ผมคิดว่าแบบนั้น คนทั่วไปก็คงคิดแบบนั้น

    แต่ว่า...พระผู้เป็นเจ้า
    ผมอยากจะถามอะไรสักอย่างหนึ่ง
    หากว่าตุ๊กตาที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ ไม่สามารถเป็นอะไรที่เกินไปกว่าของเล่นที่ไม่มีชีวิตได้แล้วละก็

    ใครกัน?

    ใครกันเหรอครับ ที่มอบชีวิตให้กับเธอ?

    ในคืนนั้น หลังจากที่หัวเราะจนหมดสิ้นกำลัง ร้องไห้จนหมดน้ำตา โศกเศร้ากับความเป็นจริงจนไม่เหลือกำลังใจใดๆ ผมก็หลับไป

    สิ่งที่ผมสร้างขึ้นคือตุ๊กตา ตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิต

    ผมหลับตาโดยที่กล้ำกลืนความจริงนั้นเอาไว้ ไม่เหลือความหวังใดๆอีกต่อไป

    แต่เมื่อผมลืมตาขึ้น....

    ก็พบว่า‘เธอ’หายไปแล้ว
    เธอที่เคลื่อนไหวไม่ได้ เธอที่น่าจะนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ กลับหายไป
    แต่ก็ตกใจได้ไม่นาน เพราะหลังจากนั้นผมก็พบเธอล้มลงอยู่บนพื้น ลมอาจจะพัดเธอจนเคลื่อนจากเก้าอี้จนล้มลงมาก็ได้ มันคงจะเป็นแบบนั้น มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิตจะไปเคลื่อนที่ด้วยตัวเองได้อย่างไรกัน
    ผมอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปวางไว้บนเตียงนอนที่ภรรยาของผมเคยใช้
    อย่างน้อยให้เธอนอนอยู่ตรงนั้น ก็คงจะดูเหมือนภรรยาที่รักของผมกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง หลับอยู่อย่างนั้นไปตลอดกาล ชั่วนิรันดร์ ผมไม่หวังอะไรมากไปกว่านั้น

    ทว่าหลังจากนั้น ก็มีเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้เกิดขึ้น
    ทุกๆเช้าเมื่อผมเข้ามาดูในห้อง ก็จะพบว่าเธอเคลื่อนที่ไปจากเดิม
    ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองจำผิด หรือคิดไปเอง
    แต่นานๆเข้า ผมก็เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ จึงแอบอยู่ในห้องรอให้ถึงเวลากลางคืน
    และในตอนนั้นเอง ผมก็ได้เห็น

    เธอขยับตัวเองได้
    แขนของเธอขยับอย่างติดๆขัดๆ พยายามที่จะยันตัวเองขึ้นจากเตียงนอน ร่างทั้งร่างของเธอสั่นไหวทุกครั้งที่เธอขยับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง
    ผมกลัวมาก การกลัวสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมากับมืออาจจะดูน่าสมเพช แต่ผมกลัวจริงๆ
    ผมไม่กล้าแม้แต่จะออกเสียง ได้แต่แอบซ่อนตัวอยู่ในห้องมองดูเธอทุกคืน
    เธอเคลื่อนไหวเหมือนพยายามจะลุกขึ้นเดิน แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนักก็หยุดเคลื่อนไหวแล้วล้มลง เหมือนตุ๊กตาที่ถูกปล่อยให้กองกับพื้น
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอลุกเดินมาได้ไกลกว่าทุกคืน
    เธอเดินตรงมาทางผม
    ในตอนนั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ ผมรีบออกจากที่ซ่อนแล้วเข้าไปรับเธอที่กำลังจะเสียหลักล้มเอาไว้
    ไหล่บางๆของเธอไม่ต่างจากหญิงสาวคนหนึ่ง
    ตัวของค่อนข้างเธอหนัก เพราะชิ้นส่วนประกอบกับกลไกที่อยู่ข้างใน

    แล้วเธอก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา
    ดวงตาไร้ชีวิตของเธอ ประสานกับตาของผม
    ริมฝีปากที่ถูกสร้างให้ขยับได้หากถูกควบคุม กลับขยับด้วยตัวเอง
    กล่องเสียงที่อยู่ข้างในลำตัว พยายามเปล่งเสียงอะไรบางอย่างออกมา

    “--- -- ------- ----

    ไม่ว่าพยายามตั้งใจฟังสักแค่ไหน ก็ไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เธอพูด
    แต่ว่ามีอย่างหนึ่งที่ผมเข้าใจได้ ณ วินาทีนั้น

    อย่างแรกคือ เธอไม่ใช่แค่ตุ๊กตาไร้ชีวิต
    เธอมีชีวิต และจิตใจเป็นของตัวเอง เพียงแต่เป็นชีวิตที่แตกต่างไปจากมนุษย์เช่นผม

    อย่างที่สองก็คือ ผมได้กระทำบาปลงไปเสียแล้ว
    เมื่อผมเห็นการเคลื่อนไหวอันผิดธรรมชาติ ความพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะกลับไปหยุดนิ่งอย่างเดิมอีกครั้ง ในอกมันรู้สึกปวดแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    เธอมีชีวิต แต่เธอไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่อาจพูดสิ่งที่ต้องการสื่อได้ เป็นชีวิตที่น่าเวทนายิ่งกว่าสัตว์เดียรัจฉาน

    อา ทำไมกัน ทำไมผมถึงให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตแบบนี้ขึ้นมากัน ไม่ใช่ ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ที่ผมตั้งใจจะสร้างคือตัวแทนของคนที่ผมรัก สิ่งที่ผมสูญเสียไป หรือถ้าจะให้พูดถึงความรู้สึกของผม นั่นก็เพราะผมเหงา ผมต้องการใครสักคนมายืนอยู่เคียงข้าง ยิ้มให้ ร้องไห้ด้วยกัน พูดคุยกัน การที่ได้พบเธอคนนั้นคือปาฏิหาริย์ เป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองในชีวิตของช่างทำตุ๊กตาที่ไร้ชื่อเสียงคนนี้

    ด้วยความรู้สึกเช่นนั้น ด้วยความเห็นแก่ตัวของผม ตุ๊กตามีชีวิตตัวนี้จึงถือกำเนิดขึ้น

    ผมพยายามอย่างเต็มที่ที่จะ’ปรับปรุง’เธอให้สมบูรณ์ ด้วยความหวังเพียงน้อยนิดว่าสักวันเธอจะกลายเป็นมนุษย์ขึ้นมาได้ อย่างเช่นตุ๊กตาไม้ในนิทานปรัมปราเรื่องหนึ่ง

    ทว่า ถึงแม้ตุ๊กตามีชีวิตจะถือกำเนิดขึ้นมาราวกับเทพนิยาย แต่บทสรุปอันแสนสุขในเทพนิยายกลับไม่เกิดขึ้น

    ไม่ว่าจะปรับแต่ง แก้ไขชิ้นส่วน เปลี่ยนวัสดุ ถอดประกอบใหม่ ไม่ว่าจะกี่ครั้ง เธอก็ไม่อาจเป็นอะไรได้มากกว่าตุ๊กตามีชีวิต

    เมื่อผมหมดหนทางนั้นเอง ผมจึงตัดสินใจทำเรื่องโหดร้ายนั้นลงไป

    ผมฆ่าเธอ

    ผมถอดชิ้นส่วนของเธอออกด้วยมือของตัวเอง ทีละชิ้น ทีละชิ้น

    แขนขาบอบบาง มือเรียวงาม ใบหน้าอ่อนเยาว์ ดวงตา ส่วนเส้นผม ลำตัว ทีละชิ้น ทีละชิ้น
    เสียงที่ไม่เป็นภาษาของเธอดังออกมาจากกล่องเสียงตลอดเวลา
    ผมรู้สึกราวกับว่าชิ้นส่วนข้างในจิตใจของตัวเองกำลังถูกฉีกออกจากกันเป็นชิ้นๆด้วยเสียงนั้น
    แต่กระนั้น ผมก็ยังไม่หยุด
    ตุ๊กตามีชีวิตที่ผมสร้างขึ้นมา หลักฐานแห่งบาปที่ผมก่อ ผมต้องทำลายด้วยมือของตนเอง

    เตาเผาถูกจุดขึ้น ผมจ้องมองเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงตัดกับผืนฟ้ายามราตรี ก่อนที่จะโยน’ชิ้นส่วน’ร่างกายของเธอเข้าไปในนั้น

    ไฟที่ลุกไหม้เผาทุกสิ่งที่ถูกโยนเข้าไปอย่างไม่มีการปราณี แขนขาบอบบาง มือเรียวงาม ดวงตา ส่วนเส้นผม ลำตัว ทุกย่างที่สัมผัสกับเปลวไฟล้วนแต่บิดเบี้ยว มอดไหม้ กลายเป็นเก้อนสีดำไปในที่สุด

    ผมหยิบส่วนศีรษะของเธอขึ้นมาเป็นชิ้นส่วนชิ้นสุดท้าย ผมจับใบหน้าของเธออย่างทะนุถนอม กล่าวคำอำลา ก่อนจะปล่อยเธอลงไปในกองเพลิงเช่นเดียวกับชิ้นส่วนอื่นๆ

    ผมมองดูเปลวเพลิงที่ลุกไหม้จนกระทั่งมันมอดลงเนื่องจากเชื้อเพลิงถูกเผาหมดไปแล้ว
    ไม่มีอะไรเหลือ
    ทุกอย่างหายไปหมดแล้ว
    ไม่มีอะไรเหลือแม้แต่อย่างเดียว

    ในขณะที่ผมยืนเหม่อมองซากเถ้าถ่านอยู่นั้นเอง สายลมหนาวก็พัดเข้ามา

    เสียงลมอื้ออึงอยู่ในหู แล้วเสียงอื่นที่ไม่ใช่เสียงของลมก็ผ่านเข้ามา

    เสียงไพเราะเหมือนกับเสียงกระซิบ
    น้ำเสียงอ่อนโยนของหญิงสาว

    เสียงนั้นเอ่ยกับผม

    “ขอบคุณค่ะ พ่อ”


    อะไรบางอย่างในขณะนั้นบอกผมว่า นั่นคือเสียงของเธอ เสียงของตุ๊กตามีชีวิตตัวนั้นแน่นอน

    พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดตอบผมทีเถอะ
    ผมสร้างเธอขึ้นมาด้วยความเห็นแก่ตัว ผมทำให้เธอต้องทุกข์ทรมาน มิหนำซ้ำยังลงมือฆ่าเธอกับมือ
    กับผมที่อ่อนแอ เลวทราม โหดร้าย และเห็นแก่ตัวคนนี้ เธอจะมาพูดขอบคุณอะไรผมกัน?

    ...อย่างนั้นหรือครับ

    คำขอบคุณนั้นคือคำขอบคุณที่ผมช่วยปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ พ้นจากความทรมานในที่สุดอย่างนั้นเอง


    นั่นสินะ ทำไมผมถึงนึกไม่ออกมาก่อนเลยนะ
    วิธีที่จะไถ่ถอนบาปได้ โดยไม่ต้องรอเสียงตอบรับจากท่าน
    ชีวิตที่ไร้ค่าอันนี้คงจะไม่อาจชดเชยความผิดที่ได้กระทำลงไปได้

    แต่อย่างน้อยที่สุด....ผมก็จะไม่ต้องมีชีวิตอยู่โดยแบกรับความทุกข์ทนนี้อีกต่อไป

    อา นี่ก็เป็นความเห็นแก่ตัวอีกแล้วสินะครับ

    แต่ผมมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ


    พระผู้เป็นเจ้า หากท่านไม่เพียงแต่เป็นผู้กำหนดทุกสรรพสิ่งที่ถือกำเนิดและมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ แต่ยังเป็นผู้ที่จะรับวิญญาณที่ตายจากโลกนี้ไปแล้วด้วยละก็

    ได้โปรด นำวิญญาณของช่างทำตุ๊กตาคนนี้ พ่อผู้เห็นแก่ตัวคนนี้ คนบาปคนนี้ ไปสู่นรกขุมที่ลึกที่สุดด้วยเถิด






    > คำสารภาพบาปของช่างทำตุ๊กตา - สิ้นสุดการบันทึก -




    >> บันทึกหน้าต่อไป - ความทรงจำของตุ๊กตามีชีวิต





    =====================================

    ^ข้างบนนี้แปลว่ายังมีอีกตอนครับ อย่าเพิ่งเผากระทู้ ^^’’

    เว้นบรรทัดอย่างสนุกสนาน ตัวอักษรกระจึ๊งนึง(ฮา)
    ใครเห็นกล่องเชาท์คงจะเดาได้(แต่อ่านดูก็คงรู้อยู่ดี)ว่าฟิคนี้เกิดมาเนื่องจากเห็นคนรอบข้างพูดถึงฟิคขอบคุณๆกัน ก็เลยลองเขียนดู ธีมคือขอบคุณ เพราะฉะนั้นคราวนี้ถึงจะเป็นโจโกะผู้ไม่สามารถเขียนเรื่องราวจรรโลงใจได้ แต่โทนเรื่องรอบนี้ก็คงจะสว่างสดใสตามคอนเซปต์ขอบคุณโลกใบนี้.......ซะที่ไหน ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้กัน orz (เอาหัวโขกหมอนรัวๆ)

    ส่วนสาเหตุที่ไม่ส่งประกวด ไม่ทันก็ใช่ (ถ้า)จำนวนหน้าทะลุลิมิตก็ใช่ เพิ่งเขียนพาร์ทช่างทำตุ๊กตาเสร็จเมื่อกี้นี้ปรับอารมณ์เขียนพาร์ทตุ๊กตาไม่ทันก็ใช่ แต่ส่วนหนึ่งก็คือถ้าลงประกวดก็ต้องลงทั้งหมด ซึ่งผมอยากจะลองลงพาร์ทแรกให้ได้อ่านแล้วลองคิดกันหลายๆอย่างดูก่อน แล้วค่อยลงพาร์ทสอง (อารมณ์คล้ายๆกับบทปริศนากับบทเฉลยของฮิกุราชิ) เสียงตอบรับจะเป็นยังไง ก็ลุ้นระทึกอยู่เหมือนกันครับ ^^’’ <(ป๊อดสุดๆ)


    ปล. อีฟตอน3กับตุ๊กตาพาร์ท2 อันไหนจะเสร็จก่อนกันน้อ....(ตัวอักษรอยู่ที่ 0 ทั้งคู่)
    ปล2. เอาฟิคสั้นออริจินัลลงบอร์ดเป็นครั้งแรกหนอ...ตื่นเต้นหนอ...อยากลบกระทู้หนีหนอ...(เฮ้ย)
  2. aquafay

    aquafay Member

    EXP:
    97
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    ผมอ่านงานนี้ของโจโกะ แล้วแอบนึกถึงผลงานแนว Surrealism ของคนมีชื่อเสียงหลายๆ คน ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะเวลาอ่าน แล้วนึกภาพตาม แล้วรู้สึกว่ามันหลอนๆ แต่ก็สวยงามน่าขนลุกแปลกๆ ล่ะมั้ง

    ตอนอ่านตัวฟิคยังไม่เท่าไหร่ แต่พอพูดเชื่อมโยงถึงฮิกุราชิ แล้วแอบคิดว่า จะมีจุดหักมุมในพาร์ทสองยังไงไม่รู้แฮะ?! รออ่านพาร์ทสองอยู่นะครับผม
  3. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    เจ๋งมาก =o=b


    สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีจริงๆแฮะ อยากแต่งให้สื่อออกมาแบบนี้ได้มั่ง
  4. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    เมื่อได้อ่านแล้วสำเหนียกว่า.... ไอ้ไพคงต้องใช้เวลาลับฝีมืออีกนานเป็นปีแสงทีเดียว

    สุดยอดเลยครับผม มีการบอกชื่อตอนต่อไปด้วย จะรออ่านต่อไปครับ >w<b
  5. simmon

    simmon New Member

    EXP:
    24
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    1
    ไม่แน่ใจว่าเคยอ่านอะไรแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า... แต่สุดยอดมากครับ!

Share This Page