เมื่อดอนกิโฆเต้พบนางคณิกาในร้านรับซื้อของเก่า

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย terasphere, 7 มกราคม 2011.

  1. terasphere

    terasphere Poets

    EXP:
    792
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    38
    (๑)

    ข้าฯ พบพวกนางครั้งแรก ณ สถานที่ซึ่งแสงไฟสาดส่อง

    ข้าฯอยู่บนแท่นอันงดงาม ประดับด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินขลิบทอง ดวงโคมอันโชติช่วงส่องจับร่างของข้าฯ ดู่เด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางเหล่าบริวารรอบข้าง ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีฐานันดรอันสูงส่ง นับแต่องค์ราชกุมารีแห่งประเทศนี้ จนถึงมหาเศรษฐีผู้ครอบครองที่ดินไพศาล ทั้งหมดมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ข้าฯ ในงานอันทรงยศศักดิ์ สหายของข้าฯ เดินทางร่วมกับเหล่าผู้ทรงฐานันดรเหล่านั้นไปต่างสวมพัสตราภรณ์สีทองอร่าม พาดสายสะพายสีครามขอบขลิบทอง ติดดวงตราราชอิสริยาภรณ์อันสูงส่งซึ่งองค์พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรพระราชทานมาเป็นการเฉพาะ

    ส่วนพวกนางเล่าล้วนเรียงรายอยู่อย่างแออัด ถูกกลุ้มรุมด้วยบรรดาหญิงชนชั้นต่ำ ไร้กริยามารยาทที่ดีอันสตรีพึงมี ยื้อแย่งกันเยี่ยงฝูงสุนัขป่าแย่งเหยื่อกลางทุ่งหญ้าในคืนเพ็ญ ถูกซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยกระดาษแผ่นเล็กๆสีแดงต่ำค่าดุจนางคณิกา ช่างน่ารังเกียจเหลือกระไร

    ดูข้าฯสิ ถูกสร้างมาด้วยจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าและทุ่มเท ผ่านเปลวไฟนิรันดร์และเข็มกางเขนศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระผู้ทรงฤทธานุภาพ ผูกพันร่างของข้าฯอย่างประณีตด้วยเส้นไหมชั้นเลิศ แพรพรรณที่ห่อหุ้มร่างกายของข้าฯล้วนทอขึ้นเป็นพิเศษ สลักนามอันสูงเกียรติของข้าฯ ด้วยทองลงยาไว้ ยามเมื่อแสงวิบไหวจากดวงโคมตกต้อง ก็สะท้อนแววพรรณรายระยิบระยับงดงามเป็นยิ่งนัก ช่างต่างจากร่างของพวกนางที่เปรอะเปื้อนด้วยเศษกาวสีเหลืองน่าขยะแขยง เลอะเทอะเกลื่อนสันหลังดุจคนเป็นโรคเรื้อน เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ไร้รสนิยม สีสันฉูดฉาดตัดกัน มีภาพหนุ่มสาวน่าบัดสีประทับอยู่บนร่างอย่างสิ้นเชิง

    ช่างน่าอับอายยิ่งนักที่ข้าฯ กับพวกนาง ต้องมาอยู่ใกล้เคียงกันเพียงแค่เหลือบตาเห็น

    (๒)

    ข้าฯ พบพวกนางอีกหน ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าเดิม

    ข้าฯ ไม่ควรคิดเยี่ยงนี้ อัศวินผู้ทรงเกียรติมิพึงดูหมิ่นแม้แต่นางคณิกาอันต่ำทราม หากแต่สภาวการณ์อันดำรงอยู่ณ ขณะนั้น ทำให้ข้าฯ รู้สึกสุดที่จะทนไหว

    นางพลีกายให้คนหยิบฉวยไปอย่างง่ายดายจากชั้นวางเรียง เป็นสินค้าดาษดื่น ยั่วยวนผู้คนด้วยป้ายลดราคาและสิ่งแจกแถมไร้รสนิยม แม้กระทั่งนางคณิกาที่อยู่ในย่านโคมแดงยังรักษาเกียรติศักดิ์ของตนมากกว่าพวกนาง

    ข้าฯ เฝ้ามองพวกนางเดินทางออกไปกับผู้ซื้อบริการด้วยความสะอิดสะเอียน พวกนางเปลี่ยนหน้าตาเข้ามาสู่บรรณาคารอันข้าฯ พำนักอยู่ และเปลี่ยนมือออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ข้าฯ และสหายบางคน ยืนหยัดอย่างทรนงอยู่บนแท่นอันสุดสูงอย่างทรงศักดิ์และสิทธิ์แห่งอัศวิน มิมีชนชั้นต่ำผู้ใดกล้าเอื้อมมือถึง แม้บางครั้งจะมีชนชั้นกลางสวมกระจกที่ดวงตาคล้ายเป็นศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยผู้ทรงภูมิอาจเอื้อมคว้าร่างของข้าฯ ลงจากแท่น หากแต่เมื่อมันผู้นั้นเหลียวเห็นตัวเลขด้านหลังร่างของข้าฯ ก็พลันตาเหลือกลาน เรียกให้พนักงานแห่งบรรณาคารนำข้าฯ ขึ้นสู่แท่นอันน่าภูมิใจนั้นคืนในทันใด

    สิ่งที่ข้าแปลกใจนัก คือพวกนางกลับแย้มยิ้มอย่างยินดีอย่างจริงใจ เมื่อถูกแลกเปลี่ยนด้วยเงินเพียงน้อยนิด และผู้นำพวกนางไปทั้งชายหญิงก็ยิ้มอย่างเป็นสุข
    หนึ่งปี สองปี ห้าปี ผ่านไป ข้าฯ ถูกจัดวางย้ายตำแหน่งหลายครั้ง แต่ละครั้งข้าฯก็ยังอยู่เป็นสง่าแห่งบรรณาคาร เป็นดาบและโล่แห่งสภาสถาน ผู้คนที่ย่างกรายไปมาล้วนชี้นิ้วมาที่ข้าอย่างชื่นชม แล้วคว้าพวกนางคณิกา หรือเหล่าชายวัยกลางคนในชุดสีขาว สีดำ มีเครื่องหมายประจำประดับบนปกเสื้อผ้าว่าเป็นแพทย์ นายวาณิช หรือแม้กระทั่งนักกีฬาไป

    แพรพรรณกำมะหยี่ของข้าที่ถูกหุ้มห่ออย่างดีเริ่มซีดเศร้าหมอง อักษรนามเดินทองเริ่มลอก

    พนักงานแห่งบรรณาคารปีนบันไดขึ้นมานำร่างข้าฯ ไปอีกครั้ง ข้าฯ คิดว่าพวกเขาคงจะพาข้าฯ ไปเปลี่ยนแพรพรรณคลุมกายใหม่ เพื่อจะได้ดำรงเป็นเกียรติสง่าประดับบรรณาคารต่อไป

    หากแต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ข้าฯ ถูกนำไปกองเรียงร่วมกับเหล่าพวกจรจัดเขรอะฝุ่นบนพื้นหินขัดสกปรก ถูกรวบมัดลงกะบะสีแดง ส่งขึ้นพาหนะยักษ์ไปยังที่ไหนสักแห่ง
    หรือพระเจ้าบนสรวงสวรรค์ทรงกำหนดการผจญภัยอันสมกับอัศวินเช่นข้าแล้ว ข้านึกด้วยความปิติยินดี และทักทายเหล่าพวกจรจัดด้วยความเป็นมิตร แต่ข้าฯ ได้ยินเพียงเสียงไอโขลกๆ และเสียงหัวเราะขื่นๆ เย้ยหยันในชะตากรรมของตนเองกลับมา และถ้าข้าตีความไม่ผิด เสียงหัวเราะนั้นคงเย้ยหยันถึงข้าด้วย

    (๓)

    ข้าฯ ถูกเทกองเขละขละบนพื้นปูนเปื้อนฝุ่นแดง เคราะห์ดีที่ข้าฯ มีแผ่นหุ้มห่อใสอีกชั้นหนึ่ง ทำให้แพรรพรรณอาถรณ์ของข้าไม่ต้องเปรอะเปื้อนไปด้วย แต่ฝุ่นที่เกาะเต็มอยู่ภายนอก ทำให้ข้าฯ มองเห็นอะไรไม่ชัดนัก จนกระทั่งมีหญิงชรานำผ้าดำเป็นปื้นมาเช็ดฝุ่นแดงออก และนำข้าไปวางที่ชั้นบนสุดเหนือพวกจรจัดรายอื่น ในเพิงสังกะสีที่อัดแน่นไปด้วยสารพัดผู้ถูกละทิ้งจากบรรณาคาร ไม่ไกลกันกับข้านัก ข้าพบอัศวินจีนตาชั้นเดียวตัวอ้วนกลมที่เคยคุ้นกันครั้งที่เขาตั้งอยู่บนแท่นฝั่งตรงข้ามในบรรณาคารส่งยิ้มเศร้าๆให้

    แน่นอน ณ ที่แห่งนี้ ข้าก็ยังพบพวกนางเช่นกัน ส่งรอยยิ้มยั่วยวนสดใสให้คนที่ผ่านไปมา ประกาศราคาที่ถูกลงยิ่งกว่าเดิม คงเพราะสภาพที่อ่อนระโหยของพวกนางนั่นเอง เสื้อผ้าพิมพ์ลายหนุ่มสาวน่าบัดสีก็สีซีดจางลงไม่ต่างจากแพรพรรณหุ้มกายของข้า เศษกาวที่เลอะเทอะสันหลังเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำตาลแห้งกรอบ ความชราย่างเข้ามาเยือนทั้งข้าฯ และพวกนางแล้ว เหตุใดพวกนางจึงยังเปิดเผยตัวตนและขายตัวเองออกไปอย่างไร้เกียรติอยู่เล่า นี่มิใช่วัยที่จะปลีกตัวสันโดษอย่างเปี่ยมสุขฉะนั้นหรือ ข้าฯไม่เข้าใจ และคงจะไม่เข้าใจเด็ดขาด

    เวลาล่วงเลยผ่านไปไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี ใบไม้แห้งกรอบและผลัดผลิใหม่ขึ้นหลายครั้ง พวกนางเปลี่ยนหน้าไปพร้อมกับผู้ซื้อที่หยิบคว้า ส่วนข้าฯก็ยังตั้งมั่นอยู่บนชั้นสูงสุด ฝุ่นเกาะเกรอะกรัง นานๆครั้งหญิงชราผู้ดูแลเพิงก็นำข้าฯออกไปปัดฝุ่นด้วยไม้ขนไก่ที่เปื้อนฝุ่นไม่แพ้กันสักหน จนกระทั่งมีชายชราผมขาวมาหยิบข้าลงไปพร้อมกับยื่นกระดาษสีเทาให้หญิงชราผู้ดูแลเพิง ข้าฯได้ยินคำของชายชราชมเชยหญิงเจ้าของเพิงว่าเก็บหนังสือหายากไว้มากมาย

    ชายชราพาข้ากลับเคหาสน์ไป ชายชรานำข้าไปยังยังห้องสมุดส่วนตัว ในเคหาสน์ของเขาก็มีพวกนางอยู่ คล้ายกับข้าฯได้ยินชายชราเอ็ดหลานสาวของเขาว่าไม่ควรนำพวกนางเข้ามาบ้าน แน่นอนสิ พวกนางคณิกาต่ำศักดิ์ย่อมไม่ควรค่าต่อการประดับบนชั้นหนังสือไม้เดินทองอันงดงามของเคหาสน์คหบดี ข้าฯเหลือบดูตนเองก็ก็รู้สึกอับอายอยู่บ้างที่ไม่อาจดำรงศักดิ์ฐานะของตนให้เหมาะสม อักษรนามสีทองล่อนลอกออกจนเหลือเพียงรอยปริน้อยๆแต้มเป็นรอยช้ำบนแพรพรรณกำมะหยี่สีซีดจาง ดวงตราราชอิสริยาภรณ์หักครึ่ง สายสะพายสีน้ำเงินขลิบทองฉีกขาดรุ่ยออกเป็นเส้นๆ แต่อย่างน้อยข้าฯก็ได้อยู่ในสถานที่เหมาะสมแล้ว อัศวินชราจะพึงใจอันใดเล่านอกเสียจากการรับใช้นายจนวันตายอย่างซื่อสัตย์

    คืนนั้น ชายชราพลิกร่างของข้าทีละหน้า ทีละหน้า กระแอมไอเป็นระยะ สุดท้ายเขาก็ฟุบหน้าลงบนกึ่งกลางหน้ากระดาษของร่างข้า ปล่อยให้ปลายผมขาวบางเรี่ยระพื้นโต๊ะ ร่างของเขาซีดเย็นลงทุกที เจ้านายคนแรกของข้าฯสิ้นชีพลงในวันเดียวหลังจากข้าฯได้รับใช้เขา

    (๔)

    เรื่องโกลาหลหลังจากนั้นคล้ายเรื่องเล่าหลังการสวรรคตขององค์พระมหากษัตริย์ ทายาทของคหบดีชราเข้ามาเปลี่ยนแปลงเคหาสน์นั้นทันที ข้าฯ ถูกผนึกลงกล่องกระดาษร่วมกับสหายหลายราย ทั้งอัศวินชาวจีน นักรบป่าเถื่อน ผู้นำแห่งโรมัน นายวาณิชเชื้อชาติเดียวกัน และแม้แต่พวกนางก็ถูกยัดลงมาอยู่ด้วยกันกับข้าด้วย พวกนางนั้นมีทั้งรุ่นแก่เก่าคร่ำคร่าคล้ายกับข้า และรุ่นสาวแรกรุ่นสดสวย ข้าฯรู้สึกสงสารพวกนางขึ้นมาครามครัน แต่แล้วก็ต้องนึกว่าตนเองก็ตกชะตาเดียวกันกับพวกนางจึงนิ่งงันไป

    ข้าฯรู้สึกถึงความสั่นสะเทือน พวกข้าทั้งหมดในกล่องกระดาษแข็งคงถูกพาขึ้นพาหนะไปยังที่ไหนอีกสักแห่ง

    แสงลอดออกจากกล่องกระดาษ สถานที่ที่ข้าอยู่เกรอะกรังเปื้อนฝุ่นและไอน้ำมันยิ่งกว่าเพิงที่ข้าเคยผ่านพบ นอกจากสหายของข้าฯและพวกนาง ยังมีกองเหล็กสูงทะมึนเท่าภูเขา ปราสาทลังเรียงชั้นกันที่ส่งกลิ่นคล้ายทะเลและเหล้าราคาถูกโชยมา ข้าฯรู้สึกหดหู่เหลือใจจะเอ่ย นี่หรือคือสุสานของข้าฯ

    ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นยังไม่สิ้นสุด แพรพรรณที่หุ้มห่อกายข้าฯถูกฉีกทิ้งเช่นเดียวกับพวกนาง ถูกโยนเข้าไปกองรวมกัน ข้าฯ กับพวกนางแนบชิดกัน กลิ่นอายของพวกนางยังหอมกรุ่นแม้จะมีกลิ่นสาบฝุ่นเจืออยู่ ข้าฯรู้สึกผิดที่เคยดูถูกเหยียดหยามนางในใจมาตลอดเวลา พวกนางช่างแสนดี แม้จะอยู่ในกองขยะแล้วก็ตาม

    รอยจารึกขีดเขียนที่อยู่บนกายเปลือยเปล่าของพวกนางนั้นบ่งบอกข้าฯเช่นนั้น มันให้กลิ่นของความฝัน ความหวัง และความรัก ของเจ้าของ ในขณะที่ข้าฯยืนหยัดอย่างทระนงโดดเดี่ยวกลางบรรณาคาร พวกนางกลับให้ความหรรษาเพลินเพลินรับใช้เจ้านายอย่างยินดี อัศวินที่ไร้นายรับใช้ก็ไร้ประโยชน์ นางคณิกาผู้ซื่อตรงต่อหัวใจตนเอง รับใช้ผู้ซื้อตนไปสนองความสนุกสิสมควรเป็นอัศวินียิ่งกว่า

    ข้าฯ กอดก่ายกลิ่นหอมกรุ่นแห่งความรักของพวกนางด้วยจิตใจปลื้มปิติ ดำดิ่งลงในทะเลน้ำกรด ถูกปั่นแยกร่างกายของเราทั้งหมดให้กลายเป็นเยื่อกระดาษอีกครั้ง หลอมรวมดวงใจให้เป็นหนึ่ง

    ถือกำเนิดใหม่เป็นกระดาษเปล่า ถูกรีดเป็นแผ่นรอให้คนใช้ขีดเขียน ไม่มีเกียรติยศ ไม่มีศักดิ์ฐานะ ไม่มีอิสริยาภรณ์ใดๆอีกต่อไป
  2. Ryuune

    Ryuune Well-Known Member

    EXP:
    1,084
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    สรุปว่ามันคือ หนังสือวรรณกรรมกับหนังสือ....อย่างว่าที่บังเอิญวางในชั้นเดียวกันแล้วถูกเอาไปทิ้งพร้อมกันสินะคะ

    แต่อ่านไปก็เพลินดีค่ะ เพราะไม่นานนี้เพิ่งได้อ่านดอนกิโฆเต(เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ)มาบ้างนิดหน่อย

    (นึก ๆ ไป แอบนึกถึงคุณกินกับพวกซึคุโยะในกินทามะซะงั้น แ่ต่คุณกินนี่ตรงกันข้ามกับดอนเลยนะนั่น)

Share This Page