OnLiNE? [BETA]

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย SANE, 14 เมษายน 2011.

  1. SANE

    SANE New Member

    EXP:
    50
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    [​IMG]

    Yet another Online Novel? Yes and No

    Collaborative work: SANE + Cidius

    Now on Beta testing

    ==============================
  2. SANE

    SANE New Member

    EXP:
    50
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    ==============================
    Intro
    ==============================


    “ยี่สิบสามล้าน!!”

    “ยี่สิบสองล้าน!!”

    กลางป่าอิกดราส แอเรียที่ร้างผู้คนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 'ไกอาออนไลน์' ที่มักไม่ค่อยมีผู้เล่นเข้ามาเนื่องจากเป็นแอเรียที่มีเลเวลเฉลี่ยของมอนสเตอร์สูงสุดในเกม

    แต่บัดนี้ผืนป่าที่เคยเงียบสงบมาตลอดกลับถูกรบกวนด้วยเสียงดาบและเวทมนตร์ของผู้เล่นกลุ่มหนึ่ง

    และมังกรอีกหนึ่งตัว...

    “ยี่สิบเอ็ดล้าน!!”

    “ฮูมมมม!!”

    'แอนเชี่ยนดราก้อน' บอสมอนสเตอร์เลเวล 150 อ้าปากคำราม เพียงเสียงของมันก็สามารถทำให้ผู้เล่นทั่วไปชะงักจนกลายเป็นอาหารมังกรได้ง่ายๆ

    ทว่านั่นไม่มีผลกับผู้เล่นกลุ่มนี้

    แอนเชี่ยนดราก้อนที่ถือว่าเป็นมอนสเตอร์ในตำนานที่ผู้เล่นไม่สามารถจะปราบได้ และปรากฏอยู่บนภาพโปรโมตของเกมไกอาออนไลน์มาตั้งแต่เปิดตัว บัดนี้ร่างของมันอยู่ในสภาพบอบช้ำ ปีกกว้างสีดำที่สามารถบดบังแผ่นฟ้าจนมิดอยู่ในสภาพขาดรุ่งริ่ง มันลากร่างจากเทือกเขาซึ่งเป็นที่อยู่ดั้งเดิมของมันมาจนถึงป่าเชิงเขา ทิ้งรอยยาวหลายกิโลเมตรบนผืนดิน

    ในครั้งนี้มันสะบัดหางออกไปทางด้านหลังซึ่งกลุ่มพลธนูกำลังปักหลักโจมตีไม่หยุด

    “ดีเฟนซ์ฟอร์เมชั่นสาม”

    เรจัส พาลาดินหนุ่มหัวหน้าทีมป้องกันตะโกนออกคำสั่งนำนักสู้นับสิบรุดเข้ามาปักโล่ใหญ่ลงบนพื้น หางมังกรขนาดมหึมาปะทะเข้ากับกำแพงโล่ ทว่าแม้จะสามารถสะท้อนการโจมตีนั้นลงไปได้ ผู้เล่นหลายคนก็ยังคงถูกแรงปะทะจนกระเด็นหงายได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้นักบวชที่คอยสนับสนุนต้องรีบร่ายเวทรักษาให้กับพวกพ้องเพื่อป้องกันพลธนูอย่างเร่งด่วน

    ในเวลานั้นกลุ่มจอมเวทที่ซุ่มรออยู่ก็ระดมยิงโจมตีในทันที

    แอนเชี่ยนดราก้อนชะงักไปหลายวินาทีหลังจากการโจมตีนั้น เอไอของมันไม่เคยคำนวนรับการโจมตีที่หลากหลายเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากไม่มีผู้เล่นหาญกล้ามาต่อกรกับมันบ่อยเท่ากับบอสมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ สิ่งนี้จึงถือเป็นจุดอ่อนใหญ่ของมัน

    สำหรับเอคฮาร์ต หัวหน้ากิลด์ 'อีเทอร์นิตี้ส์ เอนด์' (Eternity's End) แล้ว การปราบมังกรตัวนี้ง่ายกว่าบอสเลเวลสูงชื่อดังบางตัวเสียอีก

    “ยี่สิบจุดห้าล้าน!!”

    วินเซนท์ รองหัวหน้ากิลด์ หัวหน้ากลุ่มพลธนูทวนพลังชีวิตที่เหลืออยู่ของราชามังกร

    พลังชีวิตของราชามังกรในขณะเกือบจะลดต่ำกว่ายี่สิบเปอร์เซนต์แล้ว

    ณ จุดนี้คือจุดที่ผู้เล่นเพียงไม่กี่กลุ่มในอดีตเคยทำความความเสียหายกับมันได้สำเร็จ

    ทว่านั่นกลับเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น...

    “เอก! อีกห้าหมื่นจะยี่สิบล้าน!!”

    เกือบถึงจุดวิกฤติที่ราชามังกรจะใช้ท่าไม้ตาย

    “เวทจะพร้อมแล้ว!!” ตัวแทนผู้เล่นจอมเวทรายงานหัวหน้ากลุ่ม

    จังหวะนั้นเองที่มังกรยักษ์กำลังจะพ่นไฟใส่กลุ่มจอมเวท ทว่าเอคฮาร์ต หัวหน้ากิลด์ในชุดเกราะหนักกลับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อกระโดดใช้สกิล 'ชิลด์แบช' ฟาดโล่ของตอนเข้าที่ด้านข้างหัวของราชามังกรเพื่อหยุดการคำรามและเบี่ยงเบนความสนใจของมัน

    “ตรึง!”

    หัวหน้ากิลด์ตะโกนสั่งการก้องทั้งที่ตนเองยังคงลอยอยู่ในอากาศ

    ทันทีที่มังกรชะงักและละสายตาหันมายังเอคฮาร์ท กลุ่มมือธนูที่ง้างคันศรรออยู่แล้วก็ใช้ท่าพิเศษพร้อมกันในทันที ศรนับร้อยดอกแล่นออกจากคันธนูลอยขึ้นฟ้า ก่อนจะตกลงมาเป็นลิ่มแสงขนาดยักษ์ปักลงทั่วร่างสีดำทมิฬของพญามังกร

    ศรแสงตรึงร่างของราชามังกรได้สำเร็จ แม้ผลของมันจะคงอยู่ได้ไม่นานนัก แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับแผนของพวกเขา

    “ดีบัฟ!”

    สิ้นคำสั่งที่สอง จอมเวทชุดดำที่ซ่อนอยู่รอบมังกรก็ร่ายคำสาปลดพลังป้องกันโดยพร้อมเพรียง แม้จะเป็นที่รู้กันดีว่าโดยทั่วไปมังกรจะทนต่อเวทคำสาป แต่ในสภาวะที่มันถูกตรึงอยู่ บาเรียที่คุ้มครองอยู่จะหายไปทำให้มันได้รับผลจากเวทและคำสาปเต็มที่

    “เตรียมปลดหน่วงเวท!”

    ทันใดนั้นท้องฟ้าเหนือผืนป่าที่เคยปลอดโปร่งใสกระจ่างมาตลอดก็ถูกปกคลุมด้วยเมฆดำในเวลาเพียงชั่วอึดใจ ขณะที่ผู้เล่นค่อยๆ ถอยห่างจากร่างของมังกรยักษ์ออกไปหานักบวชประจำกลุ่มของตนเองตามที่ได้นัดหมายเอาไว้แล้ว

    ยกเว้นแต่เพียงเอคฮาร์ตที่ยังคงยืนคุมเชิงอยู่ที่นั่น ดวงตาภายใต้หมวกเหล็กจ้องมองราชามังกรที่กำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง

    “ทุกคนเข้าที่กำบังแล้ว!” วินเซนท์รายงานหัวหน้ากิลด์

    “ลงมือ!!”

    เสียงสั่งการของเอคฮาร์ตดังขึ้นอีกครั้ง

    ทว่าเวทมนตร์ที่รอคอยกลับยังไม่ถูกปลดปล่อยตามที่คาดหมาย เมฆดำก่อตัวจนทั่วทั้งบริเวณจนมืดมิดประดุจราตรี แทรกสว่างด้วยสายฟ้าที่แล่นแปลบปลาบในหมู่เมฆ

    “อาร์คโว้ย! มังกรจะหลุดแล้ว!”

    ผู้เล่นคนหนึ่งร้องเตือนเมื่อเห็นผนึกศรแสงเริ่มคลาย

    “เฮ่ย! อีกแป๊บนึง!”

    จอมเวทผู้ถูกมอบหมายให้เป็นหัวหน้ากลุ่มโจมตีด้วยเวทมนตร์ยังคงรั้งเวทไว้ เนื่องจากสกิลหน่วงเวทของจอมเวทชั้นสูงจะสามารถหน่วงเวทแล้วร่ายซ้ำต่อไปได้เรื่อยๆ ก่อนจะปลดปล่อยในครั้งเดียวเพื่อเพิ่มความรุนแรง

    จอมเวทหัวรั้นยังคงหน่วงเวทไว้ต่อไป เมฆดำก่อตัวหนาขึ้นอีก เมื่อหัวหน้ากลุ่มไม่ยอมสั่งการ ลูกทีมที่เหลือซึ่งรอปล่อยเวทตามลำดับจึงไม่กล้าที่จะปล่อยเวทออกไปก่อน

    “ไอ้พวกบ้าเอ้ย! ปล่อยเวทได้แล้ว! ผนึกจะหลุดแล้ว!”

    เอคฮาร์ตตะโกนลั่นอย่างหัวเสีย จังหวะนั้นเองที่เห็นว่าหัวของมังกรกำลังเริ่มสลัดหลุดจากศรตรึง พาลาดินหนุ่มจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ที่จะกระโดดขึ้นถีบตัวเข้าไปในปากของมังกร แล้วใช้ดาบใหญ่ของตนปักตรึงจากด้านใน

    “ปล่อยเวทเดี๋ยวนี้!!” ราสคาล รองหัวหน้าทีมนักเวทเป็นผู้ออกคำสั่งแทนในที่สุด

    จอมเวททุกคนเร่งทำตามคำสั่งของราสคาล เสาสายฟ้าเก้าชุดฟาดใส่ร่างราชามังกรต่อเนื่องยาวนานส่งเสียงดังกัมปนาทจนฝุ่นควันตลบฟุ้งไปทั่ว

    ทว่าจอมเวทหัวหน้าทีมกลับยังคงดึงดันที่จะหน่วงเวทของตนเอาไว้อยู่...

    “ตายไหม!” ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนถาม

    ฝุ่นควันจากแรงระเบิดจางลง ร่างของมังกรยักษ์ยังคงยืนตระหง่าน แม้สภาพภายนอกจะยับเยิน แต่มันก็ยังคงความน่าเกรงขามไว้ได้อย่างครบถ้วน ขณะที่ดวงสีทองเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง

    “แปดล้านห้า” วินเซนต์ประกาศค่าพลังชีวิตที่เหลืออยู่ของบอส

    และนั่นก็ทำให้ทุกคนอยู่ในสภาพสิ้นหวัง เตรียมพร้อมรับความพ่ายแพ้และความตาย

    “อย่าเพิ่งยอม! ยังมีโอกาสอยู่! ดีบัฟซ้ำอีกที! อาร์ค! ปล่อยเวทได้เลย! นายหน่วงนานขนาดนั้นมันตายแน่!”

    เอคฮาร์ตที่ยังคงอยู่ในปากมังกรสั่งการต่อทันที และเหล่าผู้ใช้คำสาปก็ปฏิบัติตามซ้ำอย่างรวดเร็ว

    “ไม่ทันแล้วม้าง” จอมเวทหัวดื้อที่ไม่ยอมปล่อยเวทกล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ราวกับจะบอกจอมเวทที่เหลือว่าสาเหตุต้องพ่ายแพ้เป็นเพราะไม่ยอมรอตามคำสั่งของตัวเอง

    “ลงมือสิโว้ย!!”

    จอมเวทอาร์คถึงกับสะดุ้ง เนื่องจากไม่เคยเห็นหัวหน้ากิลด์ตะคอกใส่ใครแบบนี้มาก่อน สุดท้ายจึงตัดสินใจปล่อยเวทออกไปในที่สุด

    ทันใดนั้น กลุ่มเมฆมืดมนก็ปลดปล่อยแสงสว่าง

    ตามด้วยเสียงระเบิดดังกึกก้องที่ได้ยินไปจนถึงเมืองหลวงของทวีป

    และลมร้อนที่พัดกระแทกต้นไม้ทั้งป่าจนล้มลงราบ

    'ซูสวราธ' เป็นเวททำลายล้างขั้นสูงที่นิยมใช้ในสงครามชิงปราสาทระหว่างผู้เล่น ซึ่งไม่เคยมีใครคิดจะนำมาใช้กับมอนสเตอร์เลเวลบอสมาก่อนเนื่องจากต้องอาศัยเวลาร่ายนานมาก และขณะร่ายบอสจะรู้ตัวหันมาเล่นงานผู้ร่ายเวทก่อนจะร่ายเวทได้จบ

    แต่เอคฮาร์ต หัวหน้ากิลด์ 'อีเทอร์นิตี้ส์ เอ็นด์' กลับวางแผนให้จอมเวทของกิลด์ร่ายเวทนี้อยู่ในป่า ก่อนจะค่อยๆ ลากราชามังกรลงมาจากที่อยู่ของมัน ลงมาจนถึงจุดที่จอมเวทร่ายเวทและหน่วงรอไว้อยู่

    ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้เล่นนับหมื่นในทุกเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกต่างพยายามที่จะท้าทายราชามังกรตัวนี้ แต่ไม่ว่าจะใช้กำลังคนเท่าไร หรือใช้ผู้เล่นที่มีเลเวลเฉลี่ยสูงแค่ไหนก็ไม่อาจจะปราบมังกรตัวนี้ลงได้ เนื่องจากติดปัญหาว่าเมื่อมังกรเข้าสู่ภาวะคลั่ง มันจะทนต่อการโจมตีของผู้เล่นเพิ่มขึ้น 50% และโจมตีแรงขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากนั้นยังมีท่าพิเศษที่จะใช้เมื่อพลังชีวิตเหลือต่ำกว่า 20% เป็นพลังแสงพิฆาตที่สามารถทำลายเมืองได้ทั้งเมืองในคราวเดียว ผู้เล่นทั้งหลายจึงต่างลงความเห็นว่าผู้สร้างน่าจะจงใจทำให้บอสตัวนี้เป็นเพียงของประดับเกมที่ไม่มีวันโค่นลงได้

    ทว่าหลังจากหาวิธีการอยู่นาน เอคฮาร์ตจึงคิดได้ว่ามีวิธีเดียวที่จะเอาชนะบอสตัวนี้ได้ ก็คือต้องทำความเสียหายเท่ากับพลังชีวิต 20% ของมันคือยี่สิบล้านหน่วยในครั้งเดียว ทว่าก็ไม่มีการโจมตีใดในเกมที่สามารถทำแบบนั้นได้ นอกจากเวทสำหรับทำลายกองทัพซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับแพทช์ล่าสุดของเกม

    อย่างไรก็ตาม แม้จะทรงพลังถึงเพียงนั้น 'ซุสวราธ' ก็ยังสามารถทำความเสียหายต่อ NPC ได้เต็มที่เพียงประมาณหนึ่งแสนหน่วย เอคฮาร์ตจึงพยายามคิดหาวิธีเพิ่มความรุนแรงให้กับมันโดยการวางแผนให้จอมเวทใช้สกิล 'เอ็กซ์เทนด์ดิ้งแคสต์' ที่ทำให้จอมเวทสามารถหน่วงเวทไว้และร่ายซ้ำทบไปได้เรื่อยๆ แลกกับการเสียพลังเวทอย่างรวดเร็ว ทว่าเมื่อชดเชยด้วยสกิล 'ออโต้โพชั่น' ที่จะใช้น้ำยาเติมพลังเวทให้กับจอมเวทได้เองโดยไม่ระงับสกิลที่ใช้อยู่ จึงทำให้สามารถหน่วงเวทเพิ่มพลังโจมตีไปได้เรื่อยๆ เป็นสิบเท่า

    และจากการคำนวนเมื่อให้จอมเวทสิบคนหน่วงเวทและปลดปล่อยอย่างต่อเนื่องในจังหวะที่ถูกต้องก็จะสามารถทำความเสียหายได้มากพอจะปลิดชีพราชามังกรได้ในอย่างพอดิบพอดี ทว่าแผนการนี้จะล้มเหลวทันทีหากจอมเวทพลาดปลดปล่อยเวทออกไปก่อนเวลาที่กำหนด หรือฝ่ายโจมตีที่เหลือไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ถึง 20% ก่อนที่น้ำยาเติมพลังเวทที่พกพาได้เป็นจำนวนจำกัดจะหมดลง

    แต่ในที่สุดกลุ่มผู้เล่นสี่สิบคนในเซอร์เวอร์ไทยก็สามารถใช้เวทที่มีข้อจำกัดอันมากมายนั้นกำราบแอนเชี่ยนดราก้อนลงได้สำเร็จ ด้วยการวางแผนเป็นแรมเดือนและการประสานงานอันยอดเยี่ยม

    กลุ่มควันและไอร้อนเบาบางลง ผู้เล่นที่ต่างหลบอยู่ในม่านพลังของนักบวชพากันก้าวออกจากโล่กำบัง ราชามังกรแอนเชี่ยนดราก้อนเหลือเพียงซากร่างไหม้เกรียม

    แม้ว่าในการลงมือจริงจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น แต่สุดท้ายแผนการของพวกเขาก็ประสบผลสำเร็จ

    “ยี่สิบเอ็ดล้าน! เห็นมั้ย ยี่สิบเอ็ดล้าน! โอเวอร์คิลเลยโว้ย!”

    จอมเวทอาร์คร้องอวดอย่างลิงโลด

    “หัวหน้าล่ะ” วินเซนต์ผู้นำกลุ่มมือธนูเดินฝ่ากลุ่มควันหนาทึบไปยังส่วนหัวของมังกร

    “ไม่รู้สิ ไหม้ไปกับบอสกลับจุดเซฟไปแล้วมั้ง” อาร์คยักไหล่ตอบ ขณะที่ผู้เล่นทุกคนเริ่มทยอยกันเข้ามารวมตัวที่ด้านหัวของมังกร

    “น่าเสียดายนะ น่าจะอยู่ถ่ายรูปด้วยกันก่อน” พาลาดินหัวหน้าทีมป้องกันว่า

    หัวหน้าพลธนูได้แต่ถอนหายใจเบาๆ

    “เอาเถอะ เราจะเล่าขานวีรกรรมของท่านหัวหน้าให้ลูกหลานได้จดจำสืบไป” แรนเจอร์หนุ่มว่าพลางชิดเท้ายกมือประทับอกทำสีหน้าจริงจังจนสมาชิกกิลด์ทุกคนหัวเราะกราว

    “ไม่ขำเว้ย! ไอ้วิน!”

    เสียงตะโกนที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปหาต้นเสียง นั่นเองที่ร่างไร้ชีวิตของปากมังกรกลับเปิดออก ก่อนที่ร่างในชุดเกราะดำเกรียมจะยันตัวฝ่าออกมาจากแนวเขี้ยวยาวเหยียดนั้น

    ความเงียบเกิดขึ้นพร้อมกับความตกตะลึง ตามด้วยเสียงโห่ร้องยินดีอันยาวนาน

    “คิดไว้ก่อนแล้วสินะ” 'วิน' หรือชื่อในเกมคือ 'วินเซนต์' เพื่อนสนิทของหัวหน้ากิลด์เอ่ยถาม

    “อือ ถึงได้เสียเวลาหาของทำไอ้เกราะกันไฟกับสายฟ้าบ้านี่ตั้งสองอาทิตย์” พาลาดินหนุ่มว่าพลางมองไปยังเพื่อนร่วมกิลด์ที่กำลังกับกลุ่มกันถ่ายรูปกับศพบอสและเฮฮากันด้วยความยินดี

    “ทำตำนานได้สำเร็จอีกแล้วนะ เอก” วินเซนต์ยิ้มให้กับ 'เอก' หรือ 'เอคฮาร์ต' หัวหน้ากิลด์เพื่อนสนิท

    ทว่าพาลาดินหนุ่มที่ไม่ได้ยินดียินร้ายกับบรรยากาศชื่นมื่นรอบข้างเพราะกำลังตรวจดูรายการไอเทมที่ได้รับจากราชามังกร เมื่อได้เห็นไอเทมชิ้นหนึ่งก็พ่นลมหายใจแรงก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ

    “เรื่องยุ่งของจริงมันเริ่มจากนี้ต่างหาก”

    ..................................

    ในบรรดาสมบัติมากมายที่ได้รับจากราชามังกรแอนเชี่ยนดราก้อน มีไอเทมอยู่ชิ้นหนึ่งที่สำคัญมาก นั่นก็คือ 'เคออส ออร์บ' ไอเทมในตำนานเลเวล S ที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยได้รับมาก่อนในเกมนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติคือสามารถเพิ่มพลังเวทให้กับผู้ครอบครองได้ถึง 50% และยังสามารถสร้าง 'เคออสออร่า' ที่สามารถเพิ่มพลังเวทให้กับผู้เล่นที่อยู่รอบตัวผู้ที่ถือเคออสออร์บทุกคนในระยะ 30 หลาอีก 25%

    เมื่อไอเทมชิ้นนี้ปรากฏขึ้น จึงเกิดความตึงเครียดในกิลด์ทันทีว่าใครควรจะได้เป็นเจ้าของไอเทมสุดยอดชิ้นนี้

    “ยังไงชั้นก็ควรจะได้ออร์บ เพราะชั้นเป็นคนยิงปิดเกม”

    อาร์ค ผู้ปลดปล่อยซุสวราธเป็นคนสุดท้าย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นจอมเวทที่เลเวลสูงสุดในกิลด์ แต่ยังเป็นจอมเวทที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองของเซิร์ฟเวอร์ และเป็นหนึ่งในทีมแชมป์งานประลอง PvP ครั้งล่าสุดกล่าวขึ้น

    “แต่นั่นเพราะนายไม่ปล่อยเวทตามกำหนดต่างหาก ถ้าโจมตีพร้อมกันยังไงมันก็ตายแน่”

    ราสคาล ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากลุ่มจอมเวทผู้ตัดสินใจสั่งการแทนเมื่อครู่กล่าวแย้ง ก่อนจะหันไปหาเอคฮาร์ตหัวหน้ากิลด์ที่ยังคงนิ่งเงียบอยู่บนบัลลังก์ของโถงกิลด์โดยไม่ให้ความเห็นอะไร

    “เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า พวกนายน่ะก็เป็นแค่ตัวเสริม แค่เวทของชั้นคนเดียวก็แรงเกือบสองเท่าของพวกนายสิบคนรวมกันแล้ว” อาร์คว่าด้วยรอยยิ้มหยัน ขณะที่ราสคาลได้แต่กัดฟันอย่างโกรธแค้น เนื่องจากที่ผ่านมาเขาเองได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลุ่มจอมเวท แต่อาร์คซึ่งมีเลเวลและไอเทมที่เหนือกว่ากลับเข้ามาแทรกในทีมแล้วแย่งตำแหน่งนี้ไปในวินาทีสุดท้าย

    “นายจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก” เรจัส พาลาดินหนุ่มหัวหน้าทีมป้องกันเพื่อนสนิทของราสคาลเอ่ยแทรกขึ้น

    “แผนนี้พวกเราลองซ้อมกับบอสมังกรตัวอื่นมาหลายครั้งแล้ว ถ้าปล่อยเวทตามเวลาพร้อมกับคนอื่น ถึงจะไม่ได้ยิงแรงหรือหน่วงเวทนานขนาดที่นายทำ แดเมจมันก็จะได้โบนัสคอมโบจนพอจะฆ่ามันได้ในทีเดียวอยู่แล้ว การที่นายรั้นหน่วงเวทนานไปคนเดียวนั่นแหละที่เกือบทำให้เสียแผน”

    “เรื่องนั้นชั้นไม่เห็นรู้” อาร์คยักไหล่ทำเป็นไม่รู้เรื่องแผนที่ได้ฟังก่อนเริ่มลงมือ

    “ก็นายไม่เคยมาซ้อมกับพวกเราเลยนี่หว่า วันๆ เอาแต่ไปพีวีพีในลานประลอง พอถึงเวลาจะเริ่มเหรดก็เสนอหน้ามา ที่จริงวันนี้นายไม่ควรจะจะได้เข้าเหรดด้วยซ้ำ”

    เรจัสว่ามาถึงตรงนี้ก็ชะงักไปครู่หนึ่งเนื่องจากนึกได้ว่า สาเหตุที่อาร์คได้เข้ามาเสียบในทีมจอมเวทในวันนี้ก็เพราะแฟนของเรจัสเองซึ่งเป็นจอมเวทคนสุดท้ายไม่ยอมมาร่วมเหรด เนื่องจากทะเลาะกับตนเองนอกเกม จึงรีบเบี่ยงประเด็น

    “หัวหน้าครับ ผมว่าให้สมาชิกในกิลด์โหวตเลยดีกว่า ว่าใครควรจะได้เคออสออร์บ”

    พาลาดินหนุ่มยืนกรานโดยมีนักรบในกลุ่มของตนส่งเสียงสนับสนุน ซึ่งหากต้องตัดสินด้วยการลงคะแนนเสียงข้างมากแล้วแน่นอนว่าเรจัสจะได้เปรียบ เนื่องจากเขาเข้าร่วมกิจกรรมของกิลด์ตลอด จึงเป็นที่รู้จักมักคุ้นของคนในกิลด์ และสมาชิกส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบเขา

    แต่เมื่อเอคฮาร์ตยังคงนั่งนิ่งอยู่ อาร์คจึงทราบว่าตนเองก็ยังไม่เสียเปรียบเสียทีเดียว

    “หึ ออกมาแล้วสินะ ท่าไม้ตายพวกมากลากไปของท่านเรจัส”

    จอมเวทหัวดื้อแขวะอีกฝ่าย เนื่องจากสาเหตุที่อาร์คไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมล่าบอสของกิลด์เป็นเพราะเข้ามาทีหลัง จึงเข้ากับกลุ่มของเรจัสที่อยู่มาก่อนไม่ได้ และเรื่องนีก็เป็นที่รู้กันทั้งภายในและภายนอกกิลด์

    บุคคลเดียวที่ประสานทุกฝ่ายให้ยังพอ 'ทำงาน' ร่วมกันได้ก็คือเอคฮาร์ต

    “แต่ยังไงถ้าชั้นไม่เข้ามาวันนี้พวกนายก็ไม่มีจอมเวทพอจะเริ่มเหรดได้ แล้วก็เห็นชัดๆ ว่าพวกนายเก้าคนยิงเองยังไงก็ไม่ตาย ส่วนชั้นยิงคนเดียวมันต่อให้ไม่มีพวกนายมันก็ตาย ถ้าดูที่ผลงานแล้ว ยังไงชั้นก็ควรจะได้ได้ออร์บ” อาร์คว่าพลางชายตาไปทางพาลาดินคู่อริ “แล้วถ้านายบอกว่าชั้นไม่ควรจะได้ออร์บ หมายความว่าคนที่ควรจะได้ก็คือราสคาลคู่หูนายสินะ”

    คำกล่าวนั้นทำให้เรจัสฉุนขาดขึ้นมาทันที ทว่าเพื่อนๆ นักรบก็ช่วยกันฉุดห้ามเอาไว้ให้ไม่ให้เขาพุ่งไปต่อยจอมเวทปากร้ายเอาไว้ได้ทัน ส่วนจอมเวทราสคาลก็พูดไม่ออกเมื่อถูกพาดพิงถึงเช่นนั้น เพราะในใจก็คิดอยู่เหมือนกันว่าตนเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้เคออสออร์บจริงๆ

    “จะมากไปแล้วนะเว้ย! คนไม่รู้จักทีมเวิร์คอย่างแกน่ะไม่สมควรจะได้ของสำคัญกับกิลด์แบบนี้ไปหรอก!”

    พาลาดินหนุ่มว่าอย่างหมดความอดทนเต็มแก่

    “พวกเราเล่นเกมเพราะสนุกกับทีมเวิร์ค ไม่ได้หวังแต่ของเทพอย่างแกหรอกนะ!”

    “พูดงั้นพวกนายก็ไม่ต้องเอาของดิ ได้สนุกกับทีมเวิร์คก็น่าจะพอใจแล้วไม่ใช่เรอะ” จอมเวทอาร์คยียวนกลับก่อนจะหันไปหาหัวหน้ากิลด์บ้าง

    “คุณเอก ถ้าผมไม่ได้เคออสออร์บ ผมกับพวกจะขอออกจากกิลด์นะครับ”

    ทันทีที่อาร์คประกาศตัวเช่นนั้น สมาชิกเลเวลสูงที่เป็นคนสนิทกลุ่มเดียวกันก็ลุกขึ้นตาม ส่งผลให้สมาชิกที่เหลืออยู่เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ในทันที เนื่องจากหากอาร์คและพรรคพวกออกจากกิลด์ก็จะทำให้กำลังรบของกิลด์ลดลงอย่างมาก และหากยิ่งผู้เล่นกลุ่มนี้ไปเข้ากับกิลด์คู่แข่ง ก็จะยิ่งทำให้กิลด์เสียเปรียบอย่างรุนแรง

    แม้ราสคาลและเรจัสจะมีพรรคพวกเกินกว่าครึ่งของสมาชิกในกิลด์ แต่หากเสียสมาชิกกลุ่มอาร์คซึ่งทั้งมีเลเวลสูง ของดี และเชี่ยวชาญในการเล่นไป ก็อาจจะทำให้แพ้สงครามชิงปราสาทในครั้งหน้า ซึ่งแม้แต่เอกก็ไม่อาจจะยอมรับความสูญเสียขนาดนั้นได้ สถานการณ์จึงพลิกกลับให้ฝ่ายอาร์คได้เปรียบแทนทันที

    สภาพตอนนี้จึงไม่ใช่เพียงการแย่งชิงเคออสออร์บของจอมเวทในกิลด์ แต่มีความหมายถึงการแย่งชิงขั้วอำนาจกันของกลุ่มผู้เล่นฮาร์ดคอร์และกลุ่มผู้เล่นประจำของกิลด์อีกด้วย

    หลังจากปล่อยให้การโต้เถียงดำเนินอยู่นาน เอคฮาร์ตบนบัลลังก์ก็ยกมือขึ้น เสียงในโถงปราสาทกิลด์เงียบสงัดลงในทันที

    “พอได้แล้ว ผมขี้เกียจฟังเรื่องไร้สาระไปมากกว่านี้ เอาเป็นว่าผมคิดเหมือนที่คุณอาร์คเสนอ ในเรื่องที่ว่าต้องดูกันที่ผลงานมากกว่าจำนวนพรรคพวก ดังนั้นผู้ที่จะได้เคออสออร์บไปก็ควรจะเป็นผู้ทำแดเมจได้มากที่สุด”

    อาร์คกระหยิ่มยิ้มย่องในทันที ขณะที่หัวหน้ากิลด์โบกมือเรียกหน้าต่างสถิติจำนวนแดเมจที่ผู้เล่นแต่ละคนทำกับแอนเชี่ยนดราก้อนขึ้นมาแสดงให้ทุกคนได้เห็น

    “และคนๆ นั้นก็คือวินเซนต์”

    ค่าตัวเลขที่แสดงขึ้นทำให้อาร์คอ้าปากค้าง ในขณะที่มีเสียงฮือฮาดังขึ้นยกใหญ่

    เอคฮาร์ตหันไปหาแรนเจอร์รองหัวหน้ากิลด์ ซึ่งเป็นคนเดียวในห้องโถงที่ไม่มีความประหลาดใจบนใบหน้า

    “ให้นายตัดสินใจก็แล้วกัน”

    วินเซนต์ยิ้มสบายๆ เหมือนเช่นเคย แม้จะเผชิญอยู่กับสายตาของคนทั้งกิลด์

    “ผมไม่ใช่จอมเวทซะด้วยสิ จะเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์” แรนเจอร์หนุ่มถอนหายใจยิ้มๆ หางตาเหลือบมองสองจอมเวทที่กำลังอยากได้ไอเทมชิ้นนี้จนตัวสั่น “ยกให้หัวหน้าก็แล้วกันครับ”

    “เมื่อนายให้ ฉันก็ขอรับด้วยความเต็มใจ” หัวหน้ากิลด์ตอบรับทันทีราวกับคาดเอาไว้แล้ว

    สิ้นคำ ลูกแก้วดำเจ้าปัญหาก็ปรากฏขึ้นในมือของเอคฮาร์ต

    “แต่ฉันไม่ใช่จอมเวท แล้วก็ไม่คิดจะให้ใคร แต่เก็บไว้ก็รกช่องใส่ของ จะขายเอาเงินเดี๋ยวก็จะตกไปอยู่ในมือกิลด์คู่แข่ง เพราะงั้นทำลายทิ้งดีกว่า”

    ว่าแล้วเคออสออร์บก็สลายกลายเป็นผงต่อหน้าสมาชิกกิลด์ทุกคน เสียงอื้ออึงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทั้งเสียงบ่นเสียดายและวิพากย์วิจารณ์การกระทำของหัวหน้ากิลด์

    “เช็ดโด้...ทำไปได้ไงวะ... เนี่ยนะหัวหน้ากิลด์...”

    “โง่ชิบหาย... เอาไปขายได้เงินจริงเป็นแสนนะเว้ย...”

    “ดราม่าๆ... พรุ่งนี้ลงเว็บแน่ๆ...”

    เอคฮาร์ทปล่อยให้บรรยากาศเป็นเช่นนั้นไปอยู่หลายนาที ซึมซับทุกคำพูดของเพื่อนพ้องที่ก่นด่า สาปแช่ง ไปจนถึงขับไล่เขาออกจากตำแหน่งผู้นำ

    “พวกคุณพอใจหรือยังล่ะ!”

    จู่ๆ ชายหนุ่มก็ตะคอกขึ้นเสียงดังก้อง ทั้งห้องโถงเงียบลงอีกครั้ง

    เอคฮาร์ตเปิดหน้าต่างคำสั่ง กดลงไปสองสามที ของรางวัลทั้งหมดที่ได้จากแอนเชี่ยนดราก้อนร่วงหล่นลงมา มีทั้งอาวุธ ชุดเกราะ และทองคำสำหรับขายเป็นเงินกองพะเนินไหลไปทั่วจนคนที่ยืนอยู่ในโถงต้องก้าวถอยออกไป

    หัวหน้ากิลด์กดคำสั่งอีกครั้ง กองขุมทรัพย์ตรงหน้าหายวับไป

    “ระหว่างที่พวกคุณทะเลาะกัน ผมแบ่งของรางวัลให้ตามสมควรแล้ว ตอนนี้มันเข้าไปอยู่ในธนาคารของทุกคนแล้ว”

    “ที่จริงตอนนี้ผมเบื่อกิลด์นี้แล้ว ตอนแรกที่เห็นเคออสออร์บก็ว่าจะให้คนที่เป็นหัวหน้ากิลด์คนต่อไปตัดสินใจ แต่เห็นพวกคุณเถียงกันแล้วผมหงุดหงิดว่ะ”

    เอคฮาร์ตยืนขึ้น ทุกคนในกิลด์มองหัวหน้ากิลด์ด้วยความตกตะลึง เมื่อชายหนุ่มผู้น่าเกรงขามและเปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำกลับกลายเป็นคนละคนต่อหน้าต่อตา

    “ในเมื่อผมเป็นคนตั้งกิลด์นี้มากับมือ และเห็นว่าไม่มีคนที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้ากิลด์ต่อไป ผมก็ขอจบมันด้วยมือตัวเอง”

    สิ้นคำกล่าวนั้น สัญลักษณ์ของกิลด์ที่อยู่บนหน้าอกชุดทุกคนก็อันตรธานหายไป เพิ่มความแตกตื่นให้กับสมาชิกกิลด์ร่วมร้อยคนเข้าไปอีกขั้น

    “ตลอดสามเดือนมานี้ผมรู้สึกสนุกมาก” ชายหนุ่มปรายตามองอดีตเพื่อนสมาชิกทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหลับตาลง

    “ลาก่อน”

    ร่างของเอคฮาร์ตหายไปจากบัลลังก์ ความเงียบคงอยู่ครู่ใหญ่ กระทั่งจอมเวทอาร์คตั้งสติได้จึงหันไปหาวินเซนต์เพื่อขอคำตอบ

    “...ทำไมมัน... ทำไมนายถึงได้...”

    “ผมขอตอบเฉพาะเรื่องที่ผมได้เคออสออร์บก่อนนะ”

    วินเซนต์ยิ้ม ก่อนจะวาดมือเปิดหน้าต่างข้อมูลขนาดยักษ์ขึ้นมาให้สมาชิกกิลด์ทุกคนได้เห็น มันเป็นกราฟวงกลมขนาดใหญ่ที่สร้างจากข้อมูลจำนวนแดเมจของผู้เล่นแต่ละคนที่ทำกับแอนเชี่ยนดราก้อนได้เมื่อครู่นั่นเอง

    “หัวหน้ามอบหน้าที่พิเศษให้คุณได้ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มหน่วงเวทสะสม แล้วคุณยังได้โจมตีหลังจากที่ม่านป้องกันทั้งหมดของแอนเชี่ยนดราก้อนถูกเวทสายฟ้าทั้งเก้าชุดของจอมเวทคนอื่นทำลายหมดแล้ว นอกจากนั้นจังหวะนั้นบอสก็ยังอยู่ในสภาวะ 'เปิดโล่ง' เพราะเป็นจังหวะที่มันกำลังเตรียมยิงไม้ตาย การโจมตีของนายถึงได้แรงถึงยี่สิบเอ็ดล้าน แต่จริงๆ แล้วพลังของราชามังกรเหลือแค่แปดล้านห้า ก็เลยถือว่าทำแดเมจได้เท่านั้น”

    แรนเจอร์หนุ่มชี้นิ้วไปยังแผนภูมิวงกลมส่วนที่ใหญ่ที่สุด และในนั้นมีชื่อของเขาอยู่

    “ส่วนผมเริ่มยิงบอสมาตั้งแต่ต้น แล้วก็ใช้สกิลยิงสนับสนุนมาตั้งแต่ต้นจนจบตลอดหนึ่งชั่วโมง เลยก็เลยทำแดเมจรวมได้เกือบสิบล้าน เป็นอันดับหนึ่งไป”

    “แต่ถ้าชั้นไม่ยิงปิดท้ายก็ฆ่ามันไม่ได้อยู่ดี!” อาร์คแย้ง

    “แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ”

    วินเซนต์เหลือบมองอาร์คด้วยสายตาเย็นเยียบจนอีกฝ่ายต้องเงียบเสียงในทันที ในสายตาของสมาชิกกิลด์แล้วเขาในตอนนี้กลับดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าเอคฮาร์ตเสียอีก

    “ถ้าคุณไม่โจมตี พวกเราก็แค่ตายกันหมด แต่แอนเชี่ยนดราก้อนก็ไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย สักวันเราก็จะกลับมาล่ามันอีก แต่คนที่จะเสียชื่อก็มีแต่คุณในฐานะคนที่ไม่ทำตามแผน”

    “ส่วนพวกคุณ เรจัส กับ ราสคาล ผมคิดว่าครั้งนี้พวกคุณทำได้ดี ดีมากเลยด้วยซ้ำ เอคฮาร์ตคงอยากจะยกตำแหน่งให้คุณเรจัสเป็นหัวหน้ากิลด์คนต่อไป แต่คุณกลับแสดงให้เห็นว่าตัวเองตั้งใจจะสนับสนุนแต่พรรคพวกของตัวเองอย่างชัดเจนจนอาจจะทำให้กิลด์เสียหาย เขาเลยเปลี่ยนใจ”

    วินเซนต์ดีดนิ้วปิดหน้าต่างกราฟ ก่อนจะพเยิดหน้าไปทางพาลาดิน

    “เอคฮาร์ตก็คิดเหมือนคุณนั่นแหละ ต้องการเล่นเกมเพื่อความสนุกและทีมเวิร์ค” แรนเจอร์หนุ่มว่าแล้วก็หันมองไปทางจอมเวทบ้าพลังบ้าง

    “แต่ความเห็นแก่ตัวของคุณทำให้เขาเหลืออด ดูเหมือนว่าเวลาสามเดือนที่พวกเราเจอกันในเกมทุกคืนจะไม่สามารถทำให้เรารู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้เลยนะ” ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างผิดหวัง

    “วันนี้ถึงพวกคุณคนใดคนหนึ่งจะได้ไอ้ออร์บงี่เง่านั่นไป แต่พวกคุณก็ได้เสียเพื่อนไปคนหนึ่งเพราะความเห็นแก่ตัวของพวกคุณ... ไม่สิ สองคนต่างหาก เพราะผมเองก็จะเลิกเหมือนกัน แล้วถ้าจะพูดให้ถูก พวกเราก็อาจจะเป็นแค่ 'คนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน' เท่านั้นก็ได้”

    ว่าแล้วร่างของมือธนูก็หายวูบไปอีกคน ทิ้งให้สมาชิกกิลด์ที่เหลือได้แต่พูดอะไรไม่ออก

    ขณะนั้นเอง เอคฮาร์ทในชุดเกราะเต็มยศกำลังอยู่ในห้องสีขาวกว้างสุดลูกหูลูกตา เบื้องหน้าของเขาคือ NPC สาวผู้ดูแลการล็อกอิน

    “ดิฉันพบว่าคุณมีไอเทมในตำนานที่มีค่ามากหลายชิ้น ต้องการจะส่งมอบให้ผู้เล่นคนอื่นก่อนไหมคะ”

    “ยืนยันการลบไอดี”

    NPC รับคำสั่ง ชุดเกราะและรูปลักษณ์ในเกมค่อยๆ สลายออกจากร่างของเอคฮาร์ต กลายเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

    “ลบไอดีเสร็จสิ้น ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ”


    ==============================
    Intermission

    ส่วนผสมของเรื่อง = [(การอดนอน+Light Novel จำนวนมาก)/นิยายออนไลน์จำนวนมาก]+McDonald หลังเที่ยงคืน+M150 Strom

    ชื่อเรื่องเป็นชื่อชั่วคราว กำลังคิดชื่อใหม่อยู่

    จะว่าแนวทดลองก็ได้ เริ่มแต่งตอนต่อแล้ว ด้วยเวลาและงานปัจจุบัน จะลงได้เมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับบุญกรรมครับ (ฮา)

    ขอบคุณทุกความเห็นครับ

    EVND
  3. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    ตามมาเมนท์ทางนี้มั่งละ >_</

    กำลังรอคอยตอนแรกส่วนที่เหลือใจจดใจจ่อ >_<

Share This Page