[ฟิครับสมัคร] School Labyrinth บทเรียนที่ 7

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย taleoftrue, 2 กันยายน 2011.

  1. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    บทนำ – เสียงกริ่งแห่งการเริ่มต้น

    ___ท่าม กลางบรรยากาศอันเงียบเชียบและเสียงหวีดหวิวของสายลมซึ่งพัดผ่านช่องว่างของ หน้าต่าง แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดแสงผ่านกลุ่มเมฆครึ้มทาทับสีสันภายในห้องให้กลายเป็น เฉกเช่นเดียวกัน

    ___หาก มองผ่านบานกระจกออกไปข้างนอกแล้วห้องนี้อยู่ห่างจากพื้นมากจนไม่ใคร่จะแน่ใจ ถึงความสูงของมัน อีกทั้งด้านล่างนั้นยังมีกลุ่มหมอกหนาทึบเสียจนมองไม่เห็นพื้นดิน

    ___..ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้กันนะ...

    ___เด็ก สาวนั่งทบทวนความคิดพลางหันมองไปรอบห้องอันเปล่าเปลี่ยว โต๊ะไม้กับเก้าอี้ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วห้องอย่างเป็นระเบียบ บนกระดานดำเก่าๆมีร่องรอยของชอล์กถูกลบเหลืออยู่จางๆ ส่วนหลอดไฟบนเพดานนั้นส่องแสงสลัวๆให้พอมองเห็นรอบข้างได้แม้จะไม่ชัดเจนมาก นัก

    ___แล้ว ตอนนั้นเองเสียงออดพลันดังขึ้นมาในเวลาเดียวกับที่เธอสังเกตเห็นนาฬิกาซึ่ง ติดอยู่บนผนังเหนือกระดานดำขึ้นไป บนหน้าปัดมีเข็มสั้นกำลังชี้อยู่ที่เลข 5 บ่งบอกเวลาในขณะนั้น

    ___เสียง อันคุ้นเคยทว่ากลับไม่อาจระลึกถึงเหตุการณ์แม้จะรู้ว่ามันเป็นเสียงออดยาม เลิกเรียนก็ตามที แต่ในความทรงจำนั้นกลับว่างเปล่าราวกับไม่เคยได้ยินมันมาก่อน และมิใช่เพียงเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนเท่านั้นทว่าแม้แต่ชื่อเสียงเรียงนาม ของตนหรือเรื่องราวอื่นๆก็ไม่อาจนึกขึ้นมาได้

    ___ทั่ว ร่างพลันรู้สึกเย็นวาบโดยไร้สาเหตุ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไร้ซึ่งคำตอบเด็กสาวผู้ถูกความหวาดหวั่นครอบงำรีบหา ทางออกจากที่นั่น ทว่าไม่ว่าจะกี่ก้าวที่เธอก้าวเดินสิ่งที่เห็นก็มีเพียงทางเดินยาวสุดยาวตา และห้องเรียนว่างเปล่าทั้งสองข้างทาง

    ___ความ หวาดหวั่นแปรเปลี่ยนเป็นร้อนรน เด็กสาวเร่งฝีเท้าขึ้นเสียจนกลายเป็นออกวิ่ง ลมหายใจเริ่มปั่นป่วนหลังผ่านพ้นห้องเรียนว่างเปล่ามานับสิบ จนกระทั่งดวงตะวันได้ลาลับและปล่อยให้ความมืดมิดเข้ามาแทนที่เด็กสาวก็เริ่ม เหนื่อยหอบและหยุดพักอยู่ตรงนั้น

    ___ทว่าบนทางเดินซึ่งควรจะมีเธอเพียงคนเดียวกลับมีเสียงดังมาจากด้านหลัง เสียงที่ราวกับมีบางอย่างกำลังครูดไถไปกับพื้น

    ___...อ.....อะไรกัน...

    ___เด็ก สาวเร่งฝีเท้าอีกครั้ง ทว่ายิ่งเธอพยายามวิ่งให้เร็วมากขึ้นเท่าใด เสียงนั่นก็ยิ่งไล่ตามมาเร็วขึ้นเรื่อย ตอนนั้นเองที่สายตาของเด็กสาวพลันเห็นแสงสว่างลอดออกมาจากห้องเรียนเบื้อง หน้า เธอรีบเปิดเข้าไปข้างในโดยไม่รอช้า

    ___ภาย ในห้องมีหญิงสาวอยู่สองคน อายุของพวกเธอดูจะไล่เลี่ยกับเด็กสาวและแม้ชุดของทั้งคู่จะมีลักษณะต่างจาก ของเด็กสาวแต่ก็ดูออกได้ในทันทีว่าเป็นชุดนักเรียนแบบหนึ่ง

    ___"ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนนี่”

    ___"คงเป็นคนมาใหม่มั้งจ๊ะ”

    ___หนึ่งในนั้นจ้องมองเด็กสาวด้วยแววตาคมกริบ ในขณะที่อีกคนหนึ่งยังคงมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือไม่เปลี่ยน

    ___"เมล เธอแจ้งข่าวคนอื่นแล้วกัน ส่วนเธอน่ะออกไปจากห้องนี้ซะ"

    ___สาวตาคมหันมาพูดกับเด็กสาว ส่วนคนที่ถูกเรียกว่าเมลนั้นหันไปยุ่งกับมือถือของเธอด้วยท่าทีไม่ใส่ใจเช่นเคย

    ___"ด..เดี๋ยว..."

    ___"เงียบน่า! เดี๋ยวใครใจดีพอก็มาช่วยเธอเองนั่นล่ะ รีบๆไปซะหรืออยากเอาไอ้นี่ไปกินซักนัดก่อน”

    ___ผู้ พูดชี้ปากกระบอกปืนมายังเป้าหมายพร้อมคำขู่ จนเด็กสาวสะดุ้งสุดตัวแล้วเผลอลื่นล้มออกมานอกห้องเรียน จากนั้นประตูห้องเรียนก็ถูกปิดลงอีกครั้งพร้อมกับเสียงล็อคกลอน

    ___"ปล่อยเธอไปแบบนั้นจะดีเหรอ ช็อตตี้”

    ___สาวน้อยมือถือถามเพื่อนเสียงสดใสแบบที่ไม่เข้ากับบทพูดที่เหมือนจะเห็นใจอีกฝ่ายซักนิด

    ___"คิด ว่ารับยัยนั่นเข้ามาแล้วเราจะเอาตัวรอดได้หรือไง พ้อยของฉันใกล้จะหมดเต็มทีแล้วนะ ขืนรับยัยนั่นเพิ่มมาอีกคนโอกาสที่พวกมันเจอเราก็ยิ่งสูงขึ้นอีก แถมนี่ก็มืดแล้วไม่มีเวลามานั่งอบรบเด็กใหม่หรอกนะยะ”

    ___ด้าน หน้าห้องเรียนเด็กสาวยังคงนั่งงุนงงอยู่เช่นนั้น เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ถูกคนแปลกหน้าขับไสไล่ส่งขนาดนั้น แต่ก็ไม่เหลือเวลาคิดมากนักเพราะจู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงนั้นขึ้นมาอีก แถมมันยังอยู่ใกล้มากเสียด้วย ใกล้ซะจนเธอสามารถมองเห็นรูปร่างของมันคร่าวๆจากแสงสว่างที่ยังคงลอดออกมา จากห้องเรียน

    ___'มัน' มีโครงร่างพื้นฐานคล้ายมนุษย์ ส่วนตัวนั้นอ้วนฉุปูดบวมราวกับสิ่งที่อยู่ภายในจะทะลักออกมาได้ทุกเมื่อ ส่วนผิวของมันก็ดูช้ำเลือดช้ำหนองเสียจนน่าเกลียด ตามร่างนั้นมีรอยเย็บเล็กใหญ่ให้เห็นประปราย และบนใบหน้านั้นไม่มีทั้งดวงตาและจมูกหรือแม้กระทั่งใบหู สิ่งที่มีอยู่เพียงอย่างเดียวนั้นคือปากที่ไร้ริมฝีปากกับเขี้ยวแหลมคมราว กับใบเลื่อย

    ___ทว่าสิ่งที่ทำให้เด็กสาวกลัวที่สุดนั้นก็คือสิ่งที่มันใช้มืออวบอูมกำไว้แน่น

    ___เพียง พริบตาที่เห็นทั่วทั้งร่างพลันสั่นสะท้าน ลำคอตีบตันเสียจนไม่อาจกรีดร้องออกมา แม้จะอยากปิดตาแล้วคิดว่ามันคือความฝัน หากแต่สิ่งที่อยู่ตรงนั้นก็ยังคงตอกย้ำให้เธอลบเลือนมันออกไปจากความคิดได้

    ___สิ่ง นั้นคือ...ร่างของนักเรียนชายคนหนึ่งทว่าตั้งแต่ส่วนอกขึ้นไปถึงหัวนั้นกลับ ไม่มีอยู่ ขาของเขาข้างหนึ่งถูกจับลากไปมาเป็นที่มาของเสียงที่เด็กสาวได้ยินโดยทิ้ง คราบเลือดไว้ตลอดทางที่มันเดินผ่านมา

    ___มัน ตรงดิ่งเข้าหาเด็กสาวโดยไม่ลังเล น้ำหนักของแต่ละย่างก้าวที่เข้าใกล้นั้นทำให้รู้สึกราวกับหัวใจจะหยุดเต้น เสียให้ได้ ในหัวเธอรู้สึกสับสนวุ่นวายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนกระทั่งตั้งสติได้เธอก็ ต้องรีบกระโจนหลบร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายที่ถูกใช้แทนอาวุธฟาดเข้าใส่เธอ

    ___เด็ก สาวเริ่มออกวิ่งทิ้งสัตว์ประหลาดตัวนั้นไว้เบื้องหลัง แต่ไปได้ไม่ไกลนักเธอก็รู้สึกถึงแรงกระแทกเข้าที่หลังทำให้เธอเสียหลักล้มลง เวลานั้นเธอเริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดและสัมผัสเย็นเฉียบจากร่างไร้ วิญญาณที่ถูกขว้างเข้าใส่

    ___เมื่อ หันกลับไปดูอีกครั้ง เจ้าสิ่งนั้นก็อยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น มันอ้าปากกว้างโชว์คมเขี้ยวพร้อมกับเดินเข้าหาเหยื่อที่มันหมายหัวเอาไว้ เด็กสาวกลัวจนไม่อาจขยับร่างจึงได้แต่เพียงหลับตาแน่นแปล่อยให้สติตัวเอง หลุดลอยโดยหวังเพียงว่าเรื่องพวกนี้จะเป็นแค่ความฝันเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา อีกครั้ง

    ___ปัง!

    ___เสียง ปืนดังลั่นฝ่าความเงียบสงัดฉุดให้สติของเด็กสาวกลับมาอีกครั้ง ตัวประหลาดคำรามลั่นจนสัมผัสได้ถึงความกราดเกรี้ยว แต่คราวนี้เป้าหมายของมันไม่ใช่เด็กสาวแล้วเพราะมันหันกลับไปหมายเล่นงาน เจ้าของอาวุธที่ใช้เล่นงานมันเข้า

    ___หญิง สาวตาคมรัวกระสุนเข้าใส่ร่างมันไม่ยั้ง แต่ละนัดต่างเจาะทะลวงเข้าจุดสำคัญบนร่างจนไม่น่าจะรอดชีวิตไปได้ ทว่ามันก็ยังคงมีชีวิตอยู่แม้บนหัวจะเต็มไปด้วยรอยกระสุนและเข่าทั้งสองข้าง จะโดนยิงกระจุยไปแล้วก้ตาม มันก็ยังคงใช้แขนทั้งสองข้างคลานเข้าหาศัตรูโดยไม่ลังเล

    ___ดังนั้นเสียงปืนจึงยังคงดังระรัวต่อไปอีกหลายต่อหลายนัด จนกระทั่งตัวประหลาดแน่นิ่งไปและไม่ฟื้นกลับขึ้นมาอีก

    ___“ข..ขอบคุณค่ะ”

    ___“รีบลุกซะยัยเซ่อ มัวแต่อืดอาดอยากตายหรือไงยะ”

    ___“ช็อตตี้จะบอกว่าพวกมันยังมีอยู่อีก ให้รีบหนีกันเร็วๆน่ะ”

    ___สาวน้อยมือถืออธิบายความคิดของคู่หู แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบที่จะเข้าใกล้เลือดซักเท่าไหร่เลยออกไปยืนซะห่างพอดู

    ___“ถ้าไม่รีบล่ะก็คราวนี้ทิ้งไว้แน่ๆนะจ๊ะ”

    ___พอได้ยินเด็กสาวก็รีบลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ในขณะที่เมลกำลังเช็คอะไรบางอย่างบนหน้าจอมือถือของเธอ

    ___“รู้สึกจะเป็นทางนั้นนะช็อตตี้”

    ___เมลชี้ไปยังทางหนึ่งที่เด็กสาวคิดว่าเป็นห้องเรียน แจ่พอมองดูดีๆแล้วกลับมีช่องว่างที่เป็นทางเดินเล็กๆอยู่

    ___“ตามมาดีๆล่ะ ที่นี่วกวนยังกับเขาวงกตถ้าหลงไปแล้วพวกเราไม่ตามหาหรอกนะ”

    ___เด็ก สาวพยักหน้าแทนคำตอบพลางรีบเดินตามเมลไปโดยมีช็อตตี้เดินคุ้มกันอยู่ข้าง หลัง ทว่าจังหวะนั้นเองพวกเธอพลันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวจึงรีบหัน กลับไปดูทางต้นเสียงทันที และสิ่งที่พบก็คือเจ้าสิ่งนั้นที่กำลังยืนจ่ออยู่ด้านหลังของช็อตตี้

    ___เสียง ปืนดังลั่นขึ้นอีกครั้งพร้อมกับที่ร่างๆหนึ่งล้มลงกับพื้น เลือดแดงฉานเริ่มไหลนองออกมาเจิ่งนองอยู่บนพื้น ท่ามกลางไอควันของดินปืนซึ่งผสมปนเปกับกลิ่นคละคลุ้งของโลหิตความเงียบก็ได้ เริ่มหวนคืนมาอีกครั้ง

    ___“ช็อตตี้!”

    ___เมลร้องลั่นขึ้นมาทันทีที่ได้สติ ส่วนเด็กสาวนั้นหมดเรี่ยวแรงทรุดฮวบลงกับพื้นเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า

    ___ภาพของ 'มัน' ที่กำลังกัดกินบางสิ่ง

    ___ภาพของร่างไร้ศีรษะซึ่งนอนนิ่งอยู่บนพื้น

    ___เสียงกรีด ร้องที่ไม่อาจยับยั้งได้ดังขึ้นท่ามกลางความมืด ราวกับเป็นสัญญาณบอกว่าวันเวลาอันยาวนานที่เด็กสาวต้องเผชิญนั้นได้เปิดฉาก ขึ้นแล้ว...
    jamejaeja ถูกใจสิ่งนี้
  2. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    บทเรียนที่ 1พวกพ้อง

    ___ 'มัน' มาจากไหนนั้นไม่มีใครทราบ แต่ทุกๆวันหลังจากพระอาทิตย์หายลับไปแล้วมันก็จะปรากฏตัวขึ้นมาไล่ล่าพวกเราที่หลงอยู่ในโรงเรียนนี้ พวกเราซึ่งต่างก็หลงลืมเรื่องราวของตัวเราไปจนหมดและไม่รู้เลยว่าทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้

    ___ พวกเรานั้นบางคนก็รวมกลุ่มกัน บ้างก็ปลีกตัวออกไปอยู่คนเดียว แต่ไม่ว่าแบบไหนพวกเราก็ดูไม่ค่อยจะเชื่อใจกันเท่าไหร่นัก ซึ่งก็แน่ล่ะเพราะพวกเราแทบจะเหมือนคนแปลกหน้ากันเลยนี่นา ทว่าถึงจะเป็นแบบนั้นฉันเองก็ยังมีเพื่อนที่พอจะวางใจอยู่เคียงข้างได้คนหนึ่ง

    ___ เพื่อนที่กลายเป็นอดีตไปในชั่วอึดใจ...

    ___ เมลมองร่างไร้วิญญาณของเพื่อนสนิทเป็นครั้งสุดท้ายแล้วดึงร่างเด็กสาวซึ่งยังคงยืนช็อคอยู่หลบออกมา ก่อนที่พื้นตรงจุดที่เด็กสาวเคยยืนอยู่นั้นจะแตกละเอียดจากแรงฟาดของตัวประหลาดนั่น

    ___ ...ยัยบ้านี่ ทำไมถึงได้เป็นตัวถ่วงขนาดนี้นะ....

    ___ ในใจเธอมีแต่ความขุ่นเคือง ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะปล่อยคนๆนี้ให้ตายไปซะที่นี่ด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำเช่นนั้นเธอเองก็ไม่อาจรอดไปได้เช่นกัน หากจะรอดไปให้ได้เธอก็ต้องทำตามคำขอร้องของพวกนั้นให้สำเร็จ

    ___ ..ถึงจะต้องช่วยคนที่เกลียดสุดหัวใจก็ตามที...

    ___ ทั้งคู่วิ่งหนีมาได้ไม่นานนักก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเมลได้ยืนเสียงฝีเท้าหนักๆดังมาจากเบื้องหน้า ไม่นานนักพวกเธอก็มองเห็นเจ้าของเสียงซึ่งมีลักษณะไม่แตกต่างจากเจ้าตัวที่วิ่งหนีมาซักเท่าไหร่นัก แถมตัวที่ไล่ตามพวกเธอมานั้นก็ส่งเสียงฝีเท้าตามมาติดๆ

    ___ มาเร็วๆสิ ฉันไม่ไหวแล้วนะ”

    ___ เมลแผดเสียงใส่โทรศัพท์มือถือด้วยท่าทีลนลาน ในระหว่างที่ตัวประหลาดค่อยๆเข้าใกล้ทั้งสองทีละน้อย

    ___ หมอบลงค่ะ พวกเรามาถึงแล้ว”

    ___ เสียงตอบรับดังแว่วออกมาจากโทรศัพท์ เมลจึงฉุดเด็กสาวให้ล้มตัวลงหมอบตามคำเตือนโดยมีตัวประหลาดอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว พริบตานั้นแสงไฟพลันสว่างวาบขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้องครวญครางของ 'มัน' ซึ่งถูกเปลวไฟกลืนกินไปพร้อมกับกลิ่นเนื้อไหม้อันคละคลุ้งไปทั่ว

    ___ 'มัน' ได้ล้มลงและถูกเผาไหม้ต่อไปโดยไร้ซึ่งความสนใจจากเจ้าของเปลวเพลิง

    ___ 'เธอ' ผู้ยืนอยู่ตรงนั้นใช้มือทั้งคู่จับปกหนังสือแผ่หน้ากระดาษออกมาโดยมีดวงไฟลูกหนึ่งลุกโชนอยู่เหนือหน้ากระดาษนั้น แสงไฟสุกสว่างส่องกระทบเลนส์แว่นกลมดิกจนมองไม่เห็นแววตา หางเปียคู่แกว่งไปมาเบาๆตามกระแสอากาศที่สั่นไหวไปตามความร้อน

    ___ ส่วน 'เขา' ผู้ยืนอยู่เบื้องหลังเธอนั้นเป็นชายหนุ่มบุคลิกนิ่งสงบและมีส่วนสูงที่มากกว่ากันจนเห็นได้ชัด เพียงสังเกตผ่านๆก็พอรู้สึกได้ว่ามีอายุมากกว่าเธอคนนั้นอยู่หลายปี

    ___ รบกวนช่วยจัดการตัวนั้นด้วยนะคะคุณเอซ”

    ___ เขาพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบจากนั้นจึงหยิบเอาไพ่สามใบออกมาจากกระเป๋าเสื้อกั๊กแล้วรวบมันไว้ด้วยกัน แต่เมื่อคลี่มันออกมาอีกครั้งจากจำนวนเพียงสามก็กลายเป็นไพ่จำนวนมากขึ้นหลายเท่าตัวแล้วจึงขว้างออกไปทางด้านหลังของเด็กสาวทั้งสอง

    ___ คมไพ่ปักแน่นอยู่บนร่างเป้าหมายแต่กระนั้นก็ยังไม่อาจหยุดมันไว้ได้ทว่าท่าทีของชายหนุ่มยังคงสงบนิ่ง เขาเพียงหยิบไพ่ขึ้นมาอีกใบหนึ่งแล้วปามันไปที่ตัวประหลาดอีกครั้ง เมื่อไพ่ใบนั้นกระทบเข้ากับไพ่ใบอื่นที่อยู่บนร่างของมันพลันก่อเกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟนั้นเมื่อลุกลามไปสัมผัสกับไพ่ใบอื่นก็ยิ่งทำให้เกิดการลุกไหม้รุนแรงมากยิ่งขึ้น ไม่นานหลังจากนั้นเปลวเพลิงก็โหมกระหน่ำเผาไหม้ร่างโตๆนั่นจนเหลือเพียงเถ้าถ่านในชั่วอึดใจ

    ___ เด็กสาวผู้ไม่รู้เหนือรู้ใต้จ้องมองผู้มาใหม่ทั้งสองอย่างงุนงง

    ___ เรื่องพูดคุยคงต้องขอละไว้ภายหลัง ตอนนี้ขอเชิญตามมาด้วยกันก่อนเถอะนะคะ”

    ___ ผู้ที่เริ่มสนทนาก่อนคือสาวน้อยผู้ครอบครองหนังสือ เธอทักทายอย่างเรียบง่ายแต่ก็ดูมีมารยาทอยู่ในทีแล้วจึงออกเดินนำทางทุกคนไปตามทางเดินหนึ่ง

    ___ ก่อนอื่นคงต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อเรียกคือ 'เพจส์' โค้ดเนมคือ 'บุ๊คเกิร์ล' คุณสมบัติสีน้ำตาล ปัจจุบันไม่ได้สังกัดกลุ่มใดค่ะ

    ___ ส่วนเขาคนนี้เรียกว่า 'เอซ' ก็แล้วกันนะคะ”

    ___ เธอแนะนำคู่หูอย่างสั้นๆผิดกับตัวเองที่พูดเสียยาวเหยียด แต่ดูเหมือนเมลนั้นจะรู้จักทั้งคู่อยู่แล้วจึงไม่ใส่ใจที่จะฟังเท่าไหร่นัก

    ___ เพจจี้ ก่อนอื่นช่วยจ่ายค่าจ้างของพวกฉันก่อนได้มั้ยล่ะจ๊ะ ฉันจะได้รีบไปปล่อยให้พวกเธอเสวนากันจนเต็มอิ่มไง”

    ___ แม้น้ำเสียงจะอ่อนหวาน ใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่คำพูดนั้นกลับแฝงความรู้สึกประชดประชันเอาไว้ โดยเฉพาะแววตาของเมลที่ฉายออกมาเวลาจับจ้อง 'เด็กสาว' นั้นดูจะแฝงความเป็นอริไว้มากเป็นพิเศษ

    ___ รออีกซักหน่อยเถอะค่ะ ตอนนี้ยังไม่ทันเที่ยงคืนถึงจะรีบออกไปก็คงไม่มีเวลาใช้เครื่องโอนอยู่ดี”

    ___ ไม่เอา ฉันไม่ชอบหน้าเธอคนนี้นี่ ถ้าไม่ต้องมาช่วยตัวถ่วงแบบนี้ช็อตตี้ก็คงไม่...”

    ___ [คิดจุกจิกเล็กน้อยน่ารำคาญน่ายัยเมล!]

    ___ เสียงคุ้นเคยที่ไม่น่าจะได้ยินอีกแล้วดังขึ้นทำเอาเมลตกใจจนหยุดพูดเพียงแค่นั้น เธอหันมองไปรอบๆเพื่อหาที่มาของเสียง เพจส์เองก็มองหาด้วยความสงสัยด้วยเช่นกัน

    ___ [ตรงนี้ย่ะ ตรงนี้]

    ___ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เอซเป็นคนชี้บอกหญิงสาวทั้งคู่ถึงตำแหน่งที่ต้นเสียงอยู่ พวกเธอมองตามนิ้วที่ชี้ไปตรงเอวของ 'เด็กสาว' แล้วก็พบตุ๊กตาตัวหนึ่งซึ่งทำมาจากขดเชือกที่ม้วนพันกันจนเป็นรูปร่างของคนขนาดประมาณหนึ่งฝ่ามือ

    ___ [พอรู้สึกตัวอีกทีฉันก็เป็นแบบนี้แล้วล่ะ สงสัยเป็นความสามารถของยัยเด็กนี่ล่ะมั้ง]

    ___ ช็อตตี้(?)ที่อยู่ในร่างตุ๊กตาพูดออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ดีว่าตัวเองตายไปแล้วแล้วก็รู้สึกตัวอยู่ในตุ๊กตาตั้งแต่ตอนนั้น ทว่าเธอไม่มีโอกาสพูดกับทั้งคู่จนกระทั่งถึงตอนนี้

    ___ ไอเท็มเป็นตุ๊กตา งั้นเรียกว่า 'แมรี่' ดีมั้ยล่ะ”

    ___ เมลเสนอชื่อที่พวกเด็กๆชอบใช้ตั้งชื่อตุ๊กตาออกมา แม้ตุ๊กตาที่มีจะเป็นคนละแบบกับที่พวกเด็กผู้หญิงชอบก็เถอะ

    ___ พอได้คุยกับช็อตตี้จนพอใจท่าทีอคติที่เมลมีกับดอลก็ลดลง แม้จะยังเรียกว่าเป็นมิตรไม่ได้ซะทีเดียวแต่ความเป็นอริก็ดูจะลดน้อยลงไปมากแล้ว เรียกได้ว่าคงต้องขอบคุณนิสัยที่ไม่คิดอะไรมากของช็อตตี้เธอเลยไม่ได้คิดแค้นอะไรกับแมรี่

    ___ [แหงสิยะ รับทำงานเองก็ต้องรับความเสี่ยงเองจะไปโทษใครได้ที่ไหนกัน]

    ___ พอแมรี่ลองถามดูตรงๆก็ได้คำตอบกลับมาเช่นนี้

    ___ เอาล่ะค่ะ มาเข้าเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า คุณแมรี่คงสงสัยอยู่หลายเรื่องดังนั้นจะขออธิบายไปทีละเรื่องนะคะ เริ่มจากเรื่องแรกว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนั้นพวกเราเองก็ไม่รู้เช่นกัน ที่จริงแล้วคงต้องบอกว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองกันหมดค่ะ

    ___ ส่วนตัวประหลาดพวกนั้น พวกเราเรียกมันว่า 'ลูนาติค' ค่ะ ข้อมูลที่มีเกี่ยวกับพวกมันนั้นไม่มากเท่าไหร่แต่จุดที่เรารู้แน่นอนก็มีเรื่องที่พวกมันจะปรากฏตัวขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกดินและจะหายไปทุกครั้งเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ส่วนระดับความอันตรายก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามความสมบูรณ์ของดวงจันทร์ อย่างตัวที่เราเจอครั้งนี้ก็ถือเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดแล้ว

    ___ แต่เพราะมันขึ้นกับความสมบูรณ์ของดวงจันทร์นี่ล่ะคืนเดือนมืดจึงเป็นคืนเดียวในหนึ่งเดือนที่พวกมันจะไม่ปรากฏตัวออกมา ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาใหม่จะมาปรากฏตัวกันมากในช่วงคืนเดือนมืดแต่ที่โชคร้ายมาปรากฏตัวก่อนหรือหลังคืนเดือนมืดอยู่เล็กน้อยแบบคุณก็มีอยู่บ้างค่ะ”

    ___ ระหว่างที่พูดอยู่นั้นเพจส์ได้เดินไปที่โต๊ะตรงหน้าชั้นเรียนแล้วเปิดลิ้นชักหยิบสมุดปกแข็งเล่มหนึ่งออกมา

    ___ ลองเปิดดูสิคะ”

    ___ แมรี่รับสมุดมาเปิดดูอย่างว่าง่าย ภายในนั้นมีภาพของตัวเธอแปะอยู่พร้อมกับข้อมูลประกอบเล็กน้อย

    ___ ชื่อเรียก : แมรี่
    ___ โค้ดเนม : วูดู ดอล
    ___ ไอเท็ม : ตุ๊กตาพันเชือก
    ___ คุณสมบัติ : สีทอง
    ___ แต้มสะสม : 100

    ___ เธอแปลกใจอยู่บ้างที่เห็นชื่อซึ่งเพิ่งจะตั้งกันขึ้นมาอยู่ในหน้าสมุดนี้

    ___ หน้าแรกของสมุดนั้น จะเป็นข้อมูลของคนที่เปิดสมุดเล่มนั้นค่ะ ส่วนหน้าถัดๆไปก็จะเป็นข้อมูลของคนอื่นๆที่เคยพบมาแล้วถึงจะไม่ละเอียดเท่าข้อมูลของตัวเองก็เถอะค่ะ แต่ถ้าคิดจะหาข้อมูลของใครซักคนล่ะก็แค่คิดถึงชื่อคนๆนั้นแล้วเปิดสมุดดูก็จะเจอได้เหมือนกัน

    ___ แล้วก็รายละเอียดอื่นๆคงสังเกตเห็นหัวข้อไอเท็มแล้วสินะคะ นั่นถือเป็นเรื่องสำคัญมากเลยล่ะ อย่างเช่น หนังสือของดิฉัน ไพ่ของเอซ หรือตุ๊กตาของคุณ สำหรับพวกเราที่เป็นคนธรรมดาแล้วจำเป็นต้องพึ่งของพวกนี้สำหรับต่อสู้กับลูนาติคค่ะ คิดเสียว่ามันเหมือนของที่มีเวทมนต์สถิตอยู่ก็คงได้ ของแต่ละชิ้นเองก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของมัน

    ___ นอกจากนั้นที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือแต้มสะสม เรียกได้ว่าการดำรงชีวิตอยู่ที่นี่จะขาดแต้มสะสมนี่ไม่ได้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะนอกจากแต้มพวกนี้จะสามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของสำหรับดำรงชีวิตแล้ว การใช้พลังพิเศษจากไอเท็มก็ต้องใช้แต้มพวกนี้ด้วยเหมือนกัน โดยปกติเราจะได้คนละ 100 แต้มเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนแต่ก็...”

    ___ ตึง!

    ___ เสียงประตูถูกกระแทกดังขัดจังหวะคำพูดของเพจส์ไว้แค่นั้น ก่อนเสียงกระแทกจะดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับบานประตูที่แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยฝีมือของพวก 'มัน'

    ___ แปลกจัง? ดิฉันวางข่ายมนต์พรางร่องรอยพวกเราเอาไว้แล้วนี่คะ”

    ___ คงเป็นความสามารถของพวกมันล่ะมั้ง”

    ___ เอซเป็นฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นมาบ้าง ในขณะที่มือของเขาถือไพ่เอาไว้พร้อมสำหรับการต่อสู้แล้ว

    ___ พวกเราจะจัดการเอง ส่วนคุณแมรี่กับคุณเมลระวังตัวกันด้วยนะคะ”

    ___ เพจส์กางหนังสือของเธอออกมาอีกครั้ง หากแต่คราวนี้สิ่งที่ปรากฏอยู่เหนือหนังสือไม่ใช่เปลวไฟแบบครั้งก่อน ทว่าเป็นกลุ่มไอเย็นซึ่งลอยตัวอยู่อย่างเงียบสงบ

    ___ อย่าใช้ไฟนะคะคุณเอซ ที่แคบแบบนี้พวกเราจะเป็นอันตรายไปด้วย”

    ___ เธอกำชับคู่หูของเธออีกครั้ง ก่อนเสียงโครมครามของโต๊ะและเก้าอี้ที่ถูกปัดเหวี่ยงเสียกระเด็นจะกลายเป็นเสียงสัญญาณเปิดศึกครั้งนี้

    [hr]

    มาแล้วสำหรับตอนแรก จริงๆคิดว่าสั้นมากไปหน่อยแต่ถ้าไม่โพสต์วันนี้ก็คงยืดไปอีก 2-3 วันกว่าจะว่างได้แต่งอีกจะปล่อยให้รอกันนานเกินก็ใช่ที่เล่นเร่งปั่นตัดมาซักช่วงให้ได้อ่านกันก่อนนี่ล่ะฮะ

    มีข้อเสนอแนะติชมอย่างไรก็คอมเมนท์ตามสะดวกเลยนะครับ

    Special Thanks
    - Aze, the dealer by Azemag
    jamejaeja และ Azemag ถูกใจสิ่งนี้
  3. tokichan

    tokichan 猫又

    EXP:
    331
    ถูกใจที่ได้รับ:
    43
    คะแนน Trophy:
    48
    แปะ!!!!!!!!!! ยังไม่ได้อ่าน แต่ตื่นเต้น!!!
    ขอตัวทำงานต่อนะฮะ *-*/!!

    *คุณดิท*
    เป็นฟิคแนวที่อ่านแล้วสนุกน่าติดตามมากๆเลยค่ะ สั้นไปนิ๊ดดดนึงเนาะ แต่ก็นั่นแหละ เพิ่งจะบทแรกเอง ประกอบกับที่พี่ซาลคงจะไม่ค่อยมีเวลาด้วยเนอะ ยังไงๆก็ดีใจมากๆเลยนะคะที่อุตส่าห์เขียนมาให้ได้อ่านกัน :D

    แอคชั่นดราม่า เป็นอะไรที่ทางนี้เขียนไม่ได้เลย (ฮา) ยังไงก็จะรออ่าน ติดตามต่อไปนะคะ :D!!
  4. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    อ่านจบแล้ว!! รวดเดี่ยวเลย ตื่นเต้นสนุก ชอบตรงเรื่องการใช้พระจันทร์มากำหนดความอันตรายของปีศาจดี นอกนั้นก็เหมือนเพิ่งเริ่มเรื่อง ต้องดูกันยาวๆกันแหละเหนาะ กางเต้นท์ทิ้งไว้ แล้วกลับไปปั่นฟิคตัวเองก่อนล่ะ :3


    ปล.แต่มันสั้นไปหน่อยง่ะ อารมณ์ค้างสุดๆ O[]O
  5. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    โอะ... โอะ... โอ้ววววววววววววว


    สนุกแฮะ แถมหักมุมตรงที่ช็อตตี้ไม่ตายแต่กลายเป็นตุ๊กตา (หรือแค่วิญญาณสถิตอยู่ในนั้นหว่า)

    เอซ พูดน้อยนะ (ฮา) ก็สมัครไว้แบบนี้นี่ X D

    แต่เหตุผลที่เมลไม่ชอบดอลยังไม่เฉลยแฮะ
    แล้วเรื่องการรับจ้างทำงาน ระบบแต้มแลกปัจจัยสี่ ฯลฯ ก็ยังเปิดเผยไม่หมดทำให้เนื้อเรื่องดูลึกลับดี

    เดาว่าเดี๋ยวคงมีดราม่าเรื่องแต้มแน่ๆเลย...


    ตอนนี้ไม่สั้นไปหรอกครับ กำลังดีเลยสำหรับการเปิดตัวและเนื้อเรื่องในช่วงต้น
    รออ่านตอนต่อไป จะผ่านวิกฤติพาเด็กใหม่รอดตายได้หรือไม่ แล้วเอซจะโชว์อะไรให้เห็นอีก สนุกมากครับ = =b
  6. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    แอบเสียดายนิดๆ ที่ว่าพวกตัวประหลาดนั่นจะอยู่ถึงแค่เที่ยงคืน... ;D


    สนุกดีค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปนะค้า~ >w<
  7. ManaswinPipatponglert

    ManaswinPipatponglert Crazy in games

    EXP:
    35
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    8
    เปิดมาก็บู๊ยาวเลยแฮะ

    รอดูต่อไปๆ
  8. Randolp

    Randolp Member

    EXP:
    56
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    อ่านแล้วเห็นบรรยากาศเลยครับ นึกถึงการ์ตูนบางเรื่อง

    สนุก+น่าสนใจมากครับ ^w^ จะรอติดตามชมตอนต่อไปนะครับ
  9. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    ไม่สั้นไปหรอกครับ แต่ก็เป็นการเปิดตัวตัวละครใหม่ๆ เช่นเอซ ที่เหมาะสมดี
    แต่คงเพราะติดแนวซาล ผมอ่านทีไรเลยติดภาพแฟนตาซีใสๆมากกว่าครับ :D
    นึกว่าช็อตตี้ตายแล้วเหมือนกัน ตอนอ่านเจอว่าช็อตตี้ตายแอบหดหู่ แต่นี่ก็เป็นตุ๊กตาไปแ้ล้ว = ="

    ยังบอกอะไรได้ไม่มาก ต้องรอดูปมที่จะซ่อนในตอนต่อๆไปครับ
  10. soulmaster

    soulmaster Endorphinlism

    EXP:
    403
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    18
    นึกถึงกันสึยังไงก็ไม่รู้แฮะ

    ท่าทางจะมีปริศนาอีกมาก o o
  11. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    ทางนี้ก็ยังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่เช่นกันน่ะฮะ ส่วนเรื่องความถี่ในการอัพคงไม่มากเท่าไหร่ เดือนนึงอาจจะได้ซํกตอนสองตอนอย่างมากล่ะฮะ

    เอาเป็นว่าถ้าผมมีแรงกระตือรือล้นมากๆจะพยายามแต่งให้ยาวกว่านี้นะ >_<"

    เหตุผลของเมลนี่เจ้าตัวก็พูดเกริ่นๆไปแล้วนะ แต่ก็นั่นแหละค่อนข้างเคลียร์ไปแล้วหลังจากช็อตตี้โผล่มาในสภาพตุ๊กตาอาจจะไม่ได้ย้อนไปถึงเรื่องนั้นซํกเท่าไรห่แล้วล่ะฮะ

    ยังมีพวกที่แค่เที่ยงคืนคนเจอก็แทบตายแล้วด้วยนะเออ >_<

    แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนเรื่อง Aphorism น่ะฮะ

    ปกติผมแต่งแต่แนวนั้นนี่นะ เรื่องนี้เองบรรยากาศก็อาจจะไม่มืดมนมากอย่างที่คิดก็ได้(มั้ง)

    บางคอมเมนท์ที่ไม่ได้ตอบเพราะนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะตอบอะไรดี เพราะงั้นขอละไว้หน่อยละกันนะฮะ >_<
  12. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    บทเรียนที่ 2ตุ๊กตา


    ___ ภายในห้องเรียนขณะนี้เต็มไปซากโต๊ะแตกหักเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้นปะปนอยู่กับ เศษซากของก้อนน้ำแข็งที่มีชิ้นส่วนร่างของพวกลูนาติคอยู่ภายใน

    ___ "ช่วยหยุดมันไว้หน่อยสิคะคุณเอซ”

    ___ เพจส์ ร้องบอกคู่หูพลางก้มหลบเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ปลิวลอยมาทางเธอพอดี จังหวะเจ้าตัวยักษ์ก็เดินฝ่าเข้าไปหาเด็กสาว แต่เธอก็ไม่รอช้ารีบกระโดดถอยทิ้งระยะห่างขึ้นไปยืนอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งก่อน ไอเย็นบนหน้าหนังสือจะจับตัวรวมกันแล้วถูกปล่อยออกไปปะทะกับร่างของลูนาติ คที่มุ่งหน้าเข้ามาหาเธอ

    ___ เพียง พริบตาที่สัมผัสร่างของมันก็เริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งจนถูกปกคลุมไปทั้งร่าง หากแต่พริบตาต่อจากนั้นร่างของมันก็ปริแตกออกพร้อมกับมีท่อนแขนของลูนาติ คอีกตนหนึ่งพุ่งเข้าหมายคว้าจับร่างของเด็กสาวในขณะที่เธอเผลอลดการป้องกัน ตัวลง

    ___ แต่ก่อนที่มันจะจับตัวเพจส์ได้ไพ่จำนวนหนึ่งพลันพุ่งแหวกอากาศมาตัดแขนของมันจนกลายเป็นท่อนๆ ทว่ามันก็เปลี่ยนการโจมตีเป็นการโถมตัวเข้าใส่เด็กสาวแทน

    ___ เมื่อเธอเริ่มตั้งหลักได้ก็เริ่มร่ายมนต์บทใหม่ขึ้นมา ร่างของลูนาติคที่โถมเข้าใส่จึงปะทะเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็นและโดนแรงสะท้อนจนเสียหลัก เพจส์จึงอาศัยจังหวะนั้นถอยห่างออกมาจากมันแล้วใช้เวทมนต์แช่แข็งมันไปอีกตัวหนึ่ง

    ___ "มาอีกแล้ว.."

    ___ เอซส่งเสียงเตือนเมื่อเห็นพวกลูนาติคเข้ามาในห้องอีกจำนวนหนึ่ง ในขณะที่เพจส์นั้นยืนปักหลักร่ายมนต์โจมตีศัตรู เขากลับอาศัยการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วกระโดดหลบไปตามโต๊ะเรียนและอาศัยสิ่งกีดขวางพวกนั้นช่วยชะลอการเคลื่อนไหวของลูนาติคลง แล้วจึงอาศัยช่องว่างปาไพ่คมกริบเข้าโจมตีพวกมัน

    ___ แต่กำลังโจมตีของไพ่นั้นมีไม่มากนัก แม้มันจะเฉือนแขนขาของพวกลูนาติคขาดได้ง่ายๆแต่หากปาไปโดนลำตัวอย่างมากก็ทำได้เพียงฝังแน่นอยู่บนร่างพวกมันเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้จำนวนของพวกลูนาติคที่ไล่โจมตีชายหนุ่มจึงมีมากขึ้นทีละน้อย

    ___ "ระวังค่ะคุณเอซ จะเก็บกวาดแล้วนะคะ”

    ___ ทันที ที่ได้ยินเสียงเตือนชายหนุ่มพลันดีดตัวถอยห่างจากศัตรูที่รายล้อมอยู่ออกมา คราวนี้เขาไม่ได้กระโดดไปที่โต๊ะตัวอื่นอย่างเคยแต่กลับลงเหยียบพื้นซึ่ง อยู่ด้านหลังโต๊ะตัวหนึ่งแล้วออกแรงถีบมันเข้าปะทะกับลูนาติคที่ตามเข้ามา จากนั้นจึงกลิ้งตัวหลบไปอยู่ใต้โต๊ะตัวที่อยู่ด้านหลังของเขาซึ่งเป็นเวลา เดียวกับที่เพจส์ร่ายมนต์เสร็จพอดี

    ___ ทิวทัศน์ของห้องเรียนถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวบริสุทธิ์ในชั่วพริบตา กระแสอากาศเย็นเฉียบโหมกระหน่ำและกัดกร่อนบรรดารูปปั้นน้ำแข็งจนกลายเป็นเพียงฝุ่นละอองปะปนไปกับหิมะ เว้นแต่เพียงบริเวณที่สามสาวยืนอยู่ที่ไร้ซึ่งหิมะปกคลุม

    ___ "หนาว..."

    ___ เอซบ่นออกมาเพียงหนึ่งคำขณะที่เขาลุกออกมาจากใต้โต๊ะ ตามเสื้อผ้านั้นมีก้อนหิมะเล็กๆเกาะอยู่ทั่วแต่ตัวชายหนุ่มดูจะไม่ได้รับอันตรายใดๆจากการโจมตีกวาดล้างของเพจส์เมื่อครู่

    ___ "เท่านี้ก็คงปลอดภัย..."

    ___ "ไม่หรอกเพจจี้ ฉันตรวจดูแล้วพวกมันกำลังมาที่นี่อีกเพียบเลยล่ะ”

    ___ เมลพูดขัดขึ้นมาขณะกำลังมองดูมือถือของเธอ มันส่งเสียงประหลาดเบาๆให้พอได้ยินได้ในระยะใกล้ๆและดูเหมือนเสียงนั่นจะค่อยๆดังถี่ยิบมากขึ้นเรื่อยๆ

    ___ "งั้นก็แย่แล้ว เมื่อกี้ก็ใช้แต้มไปเกือบจะหมดแล้วจะทำยังไงกันดีล่ะคะ”

    ___ เพจส์แสดงท่าทีลนลานอย่างเห็นได้ชัด

    ___ [ถ้าสู้ไม่ไหวก็หนีสิยะ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วทำไมไม่สังเกตบ้างว่าการเคลื่อนไหวของพวกมันแปลกๆน่ะ]

    ___ เสียงของช็อตตี้ดังมาจากตุ๊กตาอีกครั้ง เธอทำท่ากอดอกแล้วใช้ดวงตาที่ทำขึ้นจากลูกปัดสีดำขลับจ้องไปที่เพจส์เขม็ง ถ้าหากว่ามีเด็กๆอยู่ที่นี่แล้วมองเห็นท่าทางแบบนี้ก็คงพากันหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจเป็นแน่

    ___ [หนึ่ง ตอนยัยสองคนนี้วิ่งหนีน่ะพวกมันตามมาอย่งามากก็แค่ตัวสองตัว แต่พอมาปักหลักกันที่นี่มันก็ตามกันมาไม่หยุดก็น่าจะเดาได้แล้วว่าพวกมันเป็นประเภทรวมกลุ่มล่าเหยื่อ ยิ่งปักหลักสู้ก็ยิ่งเปลืองแรงซะมากกว่า

    ___ สอง ถ้าหัดห่างตาดูให้ดีๆก็น่าจะเห็นนะว่าถึงพวกมันจะเข้ามาในห้องผ่านทางประตูเท่านั้น ไม่มีตัวไหนซักตัวที่จะพังหน้าต่างเข้ามา แปลว่าการเคลื่อนไหวของพวกมันมีกฏเฉพาะตายตัว ถ้าหนีดีๆก็สลัดพวกมันหลุดได้ไม่ยาก แต่นี่อะไรกันยะมัวแต่สู้ไม่ลืมหูลืมตาทำไมไม่หัดใช้สมองให้ผมกับที่ใส่แว่นมั่งล่ะห๊ะ]

    ___ ไม่เห็นเกี่ยวกับการแต่งตัวซักหน่อยนี่คะ ที่ใส่แว่นนี่ก็เพราะชอบต่างหาก”

    ___ คนถูกพาดพิงเถียงหน้าแดงระเรื่อ เธอเลี่ยงหันไปเปิดหน้าต่างใกล้ๆแทนทว่าสิ่งที่ปรากฏหลังบานหน้าต่างนั้นกลับไม่ใช่ภาพทิวทัศน์ภายนอกอย่างที่เห็น หากแต่เป็นเส้นทางเดินทอดยาวต่อไปอีก

    ___ โชคดีจังค่ะ เจอทางไปต่อแล้วล่ะ”

    ___ นั่นมันอะไรกันเหรอคะ”

    ___ แมรี่ถามแทรกขึ้นมาในขณะที่เพจส์พูดเหมือนเป็นเรื่องปกติที่พบเจอได้บ่อยๆ

    ___ ที่นี่น่ะก็เหมือนเขาวงกตดีๆนี่เองล่ะค่ะ แถมบางครั้งยังเจอเส้นทางจากในที่แปลกๆแบบนี้ได้บ่อยซะด้วย”

    ___ เพจส์อธิบายให้คลายข้อสงสัยพลางปีนเข้าไปในเส้นทางนั้นหลังจากเอซกับเมลพากันเข้าไปแล้ว แมรี่เองก็ตามพวกเขาเข้าไปในทางนั้นด้วยเช่นกัน

    ___ จริงสิ.. หนังสือรายชื่อยังอยุ่ที่คุณแมรี่สินะคะ ในนั้นมีรายละเอียดเกี่ยวกับพลังของไอเท็มอยู่ด้วย ใช้เวลาว่างนี่ศึกษามันไว้ก่อนเถอะนะคะเพราะอนาคตคุณจะต้องใช้มันอีกนานเลยล่ะ”

    ___ แมรี่พยักหน้าตอบรับแล้วจึงลองเปิดสมุดเล่มนั้นขึ้นมาอ่านตามคำเตือน พวกเขาทั้งสี่เดินทางผ่านเส้นทางวกวนไปได้อย่างราบลื่นผิดคาด แต่บางครั้งแมรี่ก็ต้องละสายตาจากสมุดบ้างเพราะระหว่างนั้นพวกเขาได้เจอทางแยกอยู่หลายครั้ง และมันก็ไม่เป็นการดีแน่ถ้าเธอพลัดหลงกับคนอื่นๆเพราะมัวแต่สนใจเนื้อหาในสมุด

    ___ ศัตรู..”

    ___ ดูท่าพวกเราจะตัดสินใจหนีช้าไปนะคะ”

    ___ เสียงของทั้งสองดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันกับที่แมรี่อ่านข้อมูลในสมุดรายชื่อจบ ด้านหน้าของพวกเขามีลูนาติคอยู่เกือบสิบตัว แม้จะมีเยอะแต่หลังจากได้เห็นฝีมือทั้งคู่จากในห้องเรียนแล้วแมรี่ก็มั่นใจได้ว่าทั้งคู่จะรับมือไหว

    ___ แย่แล้ว! ข้างหลังก็มี.. เยอะกว่าทางนี้อีก”

    ___ ยังไม่ทันขาดคำเสียงฝีเท้าหนักๆราวกับการเดินขบวนของทหารก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทั้งเอซและเพจส์ต่างรีบเร่งมือจัดการพวกที่อยู่ตรงหน้าแต่ก็ไม่ง่ายอย่างใจคิดนัก พอทั้งคู่จัดการไปได้ครึ่งหนึ่งแมรี่ก็เริ่มมองเห็นเงารางๆอยู่ห่างออกไป อีกไม่ช้าก็คงมาถึงจุดที่พวกเธออยู่

    ___ แย่แล้วล่ะค่ะ”

    ___ น้ำเสียงเพจส์ฟังดูอ่อนแรง ลูกไฟที่เธอใช้โจมตีลูนาติคมีขนาดเล็กลงเห็นได้ชัด ทางเอซเองก็มีท่าทางเหนื่อยล้าเต็มทีเพราะต้องเคลื่อนไหวหลบหลีกต่อสู้กับศัตรูมาตลอด ส่วนเมลนั้นดูจะไม่มีอะไรที่พอจะใช้สู้ได้เธอจึงได้แต่ยืนอยู่กลางกลุ่มคอยสังเกตการเคลื่อนไหวของลูนาติคแล้วคอยเตือนคนอื่นๆ

    ___ ช่วยหน่อยนะคะช็อตตี้”

    ___ อุ๊!”

    ___ แมรี่ปลดสายคล้องตุ๊กตาออก ปล่อยให้ช็อตตี้ร่วงปุลงกับพื้นจนเผลอร้องออกมาเบาๆด้วยความตกใจ พร้อมกับสภาพของตุ๊กตาที่เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ไม่มีใครทันสังเกตเห็น จากตุ๊กตาธรรมดาๆกลับมีหมวกคาวบอยกับเสื้อกั๊กแขนสั้นเพิ่มขึ้นมา

    ___ ไอเท็มเธอนี่พิลึกชะมัด”

    ___ ช็อตตี้บ่นอุบเมื่อเริ่มจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ตุ๊กตาตัวน้อยสอดมือเข้าไปในหมวกบนหัวและเมื่อดึงกลับออกมาก็ปรากฏปืนของเล่นขนาดเล็กจิ๋วติดมาด้วยกระบอกหนึ่ง

    ___ ปัง! ปัง! ปัง!

    ___ แม้ขนาดจะเล็กแต่ประสิทธิภาพไม่ได้เล็กตามไปด้วย ทุกครั้งที่เสียงกัมปนาทดังขึ้นหนึ่งครั้งบนร่างของลูนาติคจะปรากฏรูพรุนขึ้นหนึ่งรอย และเมื่อเสียงนั้นดังรัวลั่นไม่มีหยุดพักจำนวนที่ปรากฏก็มากเกินกว่าจะนับได้ไหว

    ___ จาก ประสบการณ์ที่เจอมากับตัว ลูนาติคประเภทนี้ทนทานกว่าที่คิดเยอะช็อตตี้จึงรัวกระสุนใส่แต่ส่วนหัวของ พวกมันไม่ยั้งจนแทบจะหมดสภาพเค้าโครงเดิมพวกมันถึงได้ล้มลงและไม่ลุกขึ้นมา อีกเลย

    ___ เพจส์! ใช้ปราการ”

    ___ เอซคำนวณสถานการณ์เสียใหม่แล้วร้องบอกคู่หู เขาสาดไพ่จำนวนหนึ่งออกไปโจมตีลูนาติครอบๆตัดเฉือนขาของพวกมันให้เคลื่อนไหวเข้ามาได้ช้าลงเปิดโอกาสให้เพจส์ได้ถอยกลับไปอยู่กลางกลุ่ม พร้อมกันนั้นได้เกิดวงเวทขึ้นมาล้อมรอบทุกคนเอาไว้เกิดเป็นเกราะเวทมนต์โปร่งใสขวางกั้นพวกเขาจากลูนาติคเอาไว้

    ___ ส่วนช็อตตี้นั้นคอยไล่ยิงพวกลูนาติคที่เข้ามาใกล้โดยไม่ทุกข์ร้อนอะไรนัก ขอแค่ไม่ไปขวางทางเดินพวกมันขนาดเดินเฉี่ยวในระยะเผาขนพวกมันก็ยังไม่สนใจตุ๊กตาอย่างช็อตตี้อยู่ดี

    ___ ทว่าการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปแม้พวกลูนาติคจะถูกกำจัดไปมาก แต่พวกมันก็ยังคงมาเรื่อยๆไม่รู้จักจบสิ้น เกราะเวทที่ช่วยคุ้มครองพวกเขาเองก็เริ่มแตกร้าวจากแรงทุบตีหลายต่อหลายครั้ง ความเหนื่อยอ่อนเริ่มเกาะกินจิตใจของคนทั้งสี่ ทว่าพวกเขาก็ยังรอคอยเวลาที่กำลังจะมาถึง

    ___ จนกระทั่งเสียงระฆังดังแว่วมาจากที่แห่งหนึ่ง ร่างของพวกลูนาติคก็เริ่มจางหายไปราวกับเป็นเพียงภาพสะท้อนบนกระจกเงา เมื่อเสียงระฆังครั้งสุดท้ายเงียบลงไปทุกสิ่งก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบไม่หลงเหลือเงาร่างของลูนาติคแม้แต่เพียงตนเดียว รวมทั้งสภาพความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้เองก็กลับไปเป็นเช่นเคยราวกับว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น

    ___ นึกว่าจะไม่รอดซะแล้วสิ”

    ___ นั่นสิคะ ไม่นึกว่าจะเจอพวกที่รับมือยากขนาดนี้”

    ___ [อย่าทำเป็นใจเสาะกันสิยะ หัดดูอย่างยัยเด็กใหม่ซะมั่งไม่เห็นจะบ่นอะไรซักคำ]

    ___ ไม่รู้จะบ่นอะไรต่างหากล่ะค่ะ”

    ___ สามสาวต่างแข้งขาอ่อนนั่งแผ่กับพื้นโดยไม่ใส่สายตาชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มโดยมีตุ๊กตาคนหนึ่งคอยบ่นอุบ

    ___ หาที่พักกันก่อน”

    ___ พอพักเหนื่อยกันได้พักหนึ่งแล้วเอซก็เร่งให้ออกเดินทางต่อ

    ___ งั้นก็รบกวนหน่อยนะคะคุณเมล”

    ___ หญิงสาวหยิบมือถือออกมาดูอย่างรู้งาน ภายในหน้าจอเล็กๆนั้นปรากฏภาพแผนที่ซึ่งน่าจะเป็นของเส้นทางโดยรอบขึ้นมา หลังจากจ้องดูอยู่พักหนึ่งเมลก็ลุกขึ้นและเริ่มนำทางพวกๆไปยังจุดที่พอจะใช้พักผ่อนกันได้...

    ___ ณ อีกซอกมุมหนึ่งของอาคารเรียนภายในห้องโถงกว้างขวาง หญิงสาวในเสื้อกาวน์สีขาวกำลังมองดูภาพของเหล่าคนเจ็บซึ่งนอนเรียงรายกันอยู่ทั่วห้อง แววตาสีอเมทิสต์นั้นเจือไปด้วยความเศร้าแต่กระนั้นมือทั้งสองข้างก็ยังคงทำการปฐมพยาบาลเหล่าคนเจ็บไม่หยุดหย่อน

    ___ แม้การรักษาของเธอนั้นจะเป็นการใช้เครื่องมือเย็บปักถักร้อยมาเย็บแผลจนดูไม่น่าใช่การรักษาแผลก็ตามที ทว่าบาดแผลที่ถูกเย็บนั้นกลับเชื่อมติดกันได้จนดูน่าอัศจรรย์ ไม่นานนักคนเจ็บท่าทางโทรมหมดสภาพก็กลับหายเป็นปกติ เขากล่าวขอบคุณเธอก่อนจะออกไปทำหน้าที่ช่วยเหลือคนเจ็บคนอื่นๆต่อ

    ___ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง นีดเดิล”

    ___ เสียง ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง เขาเป็นชายหนุ่มใส่แว่นหนาเตอะแถมยังหวีผมเรียบแปล้ดูเป็นระเบียบเสียจนดู แปลกทว่ากลับทำให้คนเห็นรู้สึกว่าเข้ากับบุคลิกของเจ้าตัวอย่างบอกไม่ถูก

    ___ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะรูค ทั้งที่เป็นก่อนคืนเดือนมืดแท้ๆแต่คนเจ็บกลับมากขนาดนี้...”

    ___ ถึงยังไงก็คงต้องเคลียร์ที่ให้พร้อมใช้ก่อนเช้าล่ะนะ ถ้าเปิดตลาดพรุ่งนี้ไม่ได้คงมีคนเดือดร้อนมากกว่านี้แน่”

    ___ รูคเช็คเวลาจากนาฬิกาข้อมือของตนเองแล้วมองดูสภาพภายในห้องเพื่อกะประมาณเวลาคร่าวๆ พอเขาได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆของหญิงสาวก็พูดขึ้นมา

    ___ ดูท่าคนเท่านี้จะไม่พอ เซเว่น..เดี๋ยวนายขอให้รันเนอร์ไปตามรวบรวมคนมาหน่อยก็แล้วกัน มีคนมาช่วยเพิ่มน่าจะช่วยให้เร็วขึ้นได้หน่อย”

    ___ เขาหันไปพูดกับชายในชุดคอมมานโดสวมหน้ากากกันแก๊ซปิดหน้าตาเสียจนดูไม่ออก ชายคนนั้นเพียงทำท่าเคารพตามแบบทหารก่อนจะเดินออกไปทำตามคำสั่งโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย

    ___ แต่พอรู้ว่าจะมีคนมาช่วยเพิ่มขึ้นนีดเดิลก็เริ่มรู้สึกโล่งอกขึ้นมาบ้าง คนที่มีความสามารถในการรักษาแบบเธอมีไม่เยอะเท่าไหร่นักทว่าคนบาดเจ็บกลับมีเยอะกว่าหลายเท่าตัว แม้แต่ตอนที่กำลังพูดคุยอยู่นี่เธอเองก็ยังต้องรับมือกับคนเจ็บจนแทบไม่มีเวลาหยุดพัก

    ___ แล้วเจ็ทล่ะคะ ทางเขาเป็นยังไงบ้าง”

    ___ การสำรวจหนนี้ออกไปกันไกลน่าดูเหมือนกัน กว่าจะกลับมาถึงก็คงเย็นพรุ่งนี้นั่นล่ะ”

    ___ เมื่อได้ฟังคำตอบนีดเดิลก็ได้แต่ถอนหายใจ คนตรงหน้ายังเป็นพวกไม่เคยใส่ใจเรื่องเวลาเช่นเคย เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอยังได้ข่าวอยู่ว่ากลุ่มสำรวจยังออกสำรวจกันต่อเพราะเจอพื้นที่ใช้สอยใหม่ ต่อให้รีบกลับมากันทันทีหลังจากได้ข่าวของทางนี้อย่างต่ำก็คงต้องใช้เวลาเกินหนึ่งวันกว่าจะกลับมาถึง

    ___ แต่ที่เธออยากรู้คือพวกเขายังสบายดีกันหรือไม่มากกว่าต่างหาก

    ___ ถ้าตอนนี้เมสเซนเจอร์อยู่นี่ก็ดีสินะ...”

    ___ นีดเดิลบ่นออกมาลอยๆก่อนจะมองหาคนเจ็บคนใหม่เพื่อทำการรักษาต่อไป

    [hr]

    ตอน นี้เหมือนจะน้อยกว่าตอนแรกซะอีกแฮะ แต่ก็เช่นเคยถ้าไม่รีบลงซะก่อนเดี๋ยวจะไม่ว่างอีก ส่วนตอนหน้าคงจะเริ่มแต่งเอาช่วงต้นเดือนเช่นเคยล่ะฮะ

    Special Thanks

    Needle, Sew by Sumiyo
    Rook, Clock Work by JammasterX

    Seven by Near
    jamejaeja ถูกใจสิ่งนี้
  13. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    อืม... ยังเรียบๆเรื่อยๆไปตามประสา ตัวละครใหม่ก็ออกหน้าออกตามาบ้างแล้ว
    เดี๋ยวเรื่องคงดำเนินไปเรื่อยๆ คอยดูกันต่อไปครับ


    คำผิดเท่าที่เห็น

    ถ้าหัดห่างตาดู < < ถ่างตา
    เกิดเป็นเกราะเวทมนต์โปร่งใส < < เวทมนตร์ คำนี้ผมก็ใช้ผิดบ่อยๆ แต่เช็คกับราชบัณฑิตแล้วใช้ เวทมนตร์ ครับ
  14. singer

    singer Wind's Whisper

    EXP:
    2
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    1
    เพิ่ม 1 จุด >ให้ผมกับที่ใส่แว่นมั่งล่ะห๊ะ > ให้สมกับที่ใส่แว่นมั่งล่ะห๊ะ

    รอบที่แล้วไม่ได้เมนต์ไว้ มารอบนี้เลยละกัน^^

    มองดูแล้ว ตุ๊กตานี่ ความสามารถแปลกมาก และช็อตตี้เอง ตั้งสติได้ดีมาก

    เตรียมรอดูต่อจ้า

  15. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    นีดเดินให้อารมณ์ประมาณพยาบาลในสนามรบเลยค่ะ ;D
    รู้สึกว่าทางนี้พรรคพวกจะแอบเยอะเหมือนกันแฮะ...

    รอติดตามตอนต่อไปอยู่จ้า~ สู้ๆ! ><b
  16. soulmaster

    soulmaster Endorphinlism

    EXP:
    403
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    18
    นั่งแผ่กับพื้นโดยไม่ใส่สายตาชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่ม >> ไม่ใส่ใจกับสายตาของชายหนุ่ม


  17. shinkyoto

    shinkyoto Well-Known Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    88
    ถ้าไม่บอกว่านี้เป็นโรงเรียน ผมคงนึกว่าเป็นเขาวงกตใน Hellraiser นะครับ (ถึงจะรู้ก็ยังให้บรรยากาศไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก)

    แต่จากตอนนี้ทำให้เห็นภาพกว้างขึ้นอีกว่า เขาวงกตนี้ใหญ่ขนาดไหนกัน? แต่ว่า "ตลาดเนี่ยนะ?" อืมมม (นี้เรายังไม่ไปไม่ถึง สระว่ายน้ำ หรือว่า โรงอาหารเลยใช่ไหมเนี่ย?)
  18. Jammaster

    Jammaster New Member

    EXP:
    26
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    3
    ตามมาอ่านแล้วครับ
    ช๊อตตี้ยังคงเป็นตัวเด่นในเรื่องอย่างง่ายดาย ตอนนี้อธิบายโลกรอบๆชัดเจนขึ้นแล้วแต่เล่นเปิดตัวละครใหม่ทีเดียวเยอะๆตอนปลายเรื่องนี่ลำบากนิดๆนา คนจะสับสนเอาง่ายๆ
  19. jamejaeja

    jamejaeja แม่มดคำสาปมรณะ

    EXP:
    119
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    จะติดตามนะคะ ชอบแนวนี้ คล้ายๆเกมส์อะไรบางอย่างละเนาะ ขอให้รอดทุกคนนะคะ
  20. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    บทเรียนที่ 3กลุ่ม


    "ตลาดเหรอคะ?"

    แมรี่เอ่ยถามขึ้นมาขณะมองไปยังอาหารหลากชนิดบนโต๊ะขนาดสี่คนล้อมตรงหน้า ทีแรกเธอเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าคนที่นี่กินอยู่กันอย่างไร แต่พอรู้เข้าจริงๆกลับเป็นเรื่องง่ายดายกว่าที่คาดมากทีเดียว

    สิ่งสำคัญที่สุดก็คงไม่พ้น 'แต้ม' ที่ได้ยินพูดถึงกันบ่อยๆ นอกจากมันจะมีไว้สำหรับใช้ความสามารถของแต่ละคนแล้วแต้มพวกนี้ก็ยังเอาไว้ใช้ซื้อข้าวของต่างๆที่ต้องการได้อีกด้วย

    มูลค่าของสินค้าจะแปรผันตรงกับปริมาณแต้มที่ต้องใช้ แต่ส่วนใหญ่แล้วของทั่วๆไปมักจะใช้แต้มไม่เยอะเท่าไหร่นัก เพียงหนึ่งแต้มก็สามารถแลกน้ำดื่มบรรจุแพ็คได้ถึงหนึ่งโหล

    ส่วนวิธีซื้อสินค้าต่างๆนั้นเพียงแค่หาโทรศัพท์ที่มีอยู่ตามจุดต่างๆให้เจอก็พอ นอกจากมันจะสามารถใช้โทรติดต่อกับโทรศัพท์ในจุดอื่นๆได้แล้วบนหน้าจอใช้งานนั้นยังมีคุณสมบัติในการใช้สั่งซื้อสินค้าได้อีกด้วย

    รีบกินสิแมรี่ เดี๋ยวต้องไปต่อกันอีกนะ...”

    เมลพูดไปพลางกัดขนมปังปิ้งเข้าปากไปพลาง บนโต๊ะด้านหน้าเธอนั้นมีข้าวของมากที่สุดในบรรดาสี่คน ส่วนของที่แมรี่ซื้อมานั้นไม่มากเท่าไหร่เพราะมีเพียงแค่น้ำดื่มกับแซนวิชไม่กี่ชิ้น ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือเธอกลับมีความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งของหรือยี่ห้อต่างๆ แม้แต่ชื่อหนังสือหรือนิตยสารต่างๆเธอก็พอจำได้ ทว่าพอพยายามนึกย้อนเกี่ยวกับเรื่องของตนเองก็กลับนึกไม่ออกเช่นเคย

    ตลาดที่ว่าก็เป็นชื่อเปรียบเปรยนั่นล่ะค่ะ ถึงจะมีคนเอาของมือสองมาขายกันอยู่บ้างแต่หลักๆแล้วเป็นวันที่นัดรวมตัวเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่สังกัดกลุ่มหรือพวกที่เคลื่อนไหวตามอิสระก็มักจะรวมตัวกันในเวลานั้น... หมายถึงในวันเดือนมืดที่มีการเปิดตลาดน่ะค่ะ”

    แมรี่พยักหน้ารับรู้ก่อนจะนั่งกินข้าวต่อไปเงียบๆ ความรู้สึกตื่นตระหนกเมื่อช่วงแรกๆแทบไม่หลงเหลืออยู่จนอดแปลกใจเองเสียมิได้ที่เริ่มปรับตัวได้เร็วแบบนี้ แต่ก็คงถือได้ว่าเป็นเรื่องดีเพราะเธอรู้สึกได้ว่าอาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปอีกพักใหญ่

    จะว่าไปแล้วแมรี่ก็มีคุณสมบัติของสีขาวเหมือนกันนี่ จะไปเข้ากลุ่มสีขาวก็คงได้หรือจะเข้ากิลด์แบบฉันกับช็อตตี้ดีล่ะ”

    หรือจะเข้ากับทางนี้ก็ยินดีอย่างยิ่งนะคะ พวกเราเคลื่อนไหวอิสระไม่ต้องมีข้อผูกมัดอะไรมากมายอยู่แล้ว”

    อธิบายก่อนสิ..”

    เอซนั่งมองเด็กสาวโดนชักชวนทั้งยังงงๆจนหัวหมุนอยู่พักใหญ่ถึงได้พูดแทรกขึ้นมาบ้าง

    อ๊ะ ขอโทษนะคะคุณแมรี่ ถ้ายังไงจะเล่าให้ฟังระหว่างเดินทางก็แล้วกันนะคะ”

    เพจส์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าต่างคนต่างทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสี่คน(และหนึ่งตุ๊กตา)จึงเริ่มออกเดินทางกันอีกครั้งโดยมีเพจส์เป็นคนอธิบายเรื่องต่างๆเช่นเคย

    ที่นี่น่ะถ้าเรียกว่า 'สังกัด' หรือ 'กลุ่ม' ส่วนใหญ่จะหมายถึงการรวมกลุ่มแบบมีกฏเกณฑ์ชัดเจนค่ะ สมาชิกของกลุ่มแต่ละกลุ่มจะต้องทำตามเงื่อนไขที่กลุ่มนั้นวางไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย แต่ก็แลกกับการที่ได้รับผลประโยชน์หรือการคุ้มครองจากกลุ่มอย่างเต็มที่

    กลุ่มที่คุณควรจะรู้จักไว้ เริ่มจากกลุ่มสีขาวที่รับเฉพาะสมาชิกที่มีคุณสมบัติของสีขาวรวมอยู่ด้วยเท่านั้น ในกลุ่มนี้ก็เลยมีแต่คนที่มีความสามารถด้านรักษาหรือสนับสนุนอยู่เต็มไปหมด ลักษณะเฉพาะของกลุ่มนี้ก็คงเหมือนโรงพยาบาลนั่นล่ะค่ะ พวกเขารับรักษาคนเจ็บโดยไม่เลือกแบ่งแยกเพราะงั้นไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มอื่นๆหรือพวกอิสระก็จะไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับคนของกลุ่มสีขาวค่ะ แถมกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มอื่นก้มักจะจัดกำลังคุ้มกันมาให้คนของสีขาวด้วย

    ส่วนกิลด์ที่คุณเมลอยู่ ถือได้ว่าเป็นกลุ่มผลประโยชน์ร่วมค่ะ พวกเขาจะรวมกลุ่มกันแบบหลวมๆและรับภารกิจที่ถูกแจกจ่ายจากฝ่ายบริหารกลุ่มไปทำแลกกับค่าตอบแทนที่จะได้รับจากเนื้องาน ซึ่งลักษณะพิเศษของกิลด์คือบริมาณแต้มจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นจากความสามารถของ 'พิงกี้แบงค์' ค่ะ

    นอกจากนี้ก็มี 'สเลเยอร์' ที่มีจำนวนน้อยแต่แข็งแกร่งกันทั้งนั้น แล้วก็พวก 'บริษัท' เป็นกลุ่มที่มีระบบระเบียบมากที่สุด แต่ที่ต้องระวังให้มากก็คือพวก 'ราเว่น' คนพวกนี้เป็นพวกล่าคนอื่นเพื่อชิงแต้มค่ะ ยังไงคุณแมรี่ก็จำหน้าตาคนพวกนี้จากสมุดรายชื่อไว้ให้ดีด้วยนะคะ ถ้าเจอเมื่อไหร่หนีให้ไกลไว้เป็นดีค่ะ”

    แมรี่พยักหน้าตอบรับพลางทบทวนชื่อของแต่ละกลุ่มอยู่ในใจ ตอนนั้นเองจู่ๆเมลก็พุดขึ้นมาว่ามีคนกำลังเข้ามาใกล้พวกเขา

    ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นชายหนุ่มร่างเล็กท่าทางซื่อๆเซ่อๆดูไม่มีพิษภัย เขาวิ่งปร๋อตรงดิ่งมาหาทั้งสี่คนด้วยสีหน้าโล่งอกเหมือนเพิ่งจัดการปัญหายุ่งยากได้สำเร็จ

    เอ่อ... ผมชื่อ 'วินด์' ครับ โค้ดเนมคือ 'รันเนอร์' พอดีว่าตอนนี้เรากำลังอยากได้คนมาช่วยกันที่ตลาดหน่อยน่ะครับ คราวนี้มีคนบาดเจ็บไม่ใช่น้อยถ้าไม่ดูแลรักษาให้เรียบร้อยก่อนค่ำเกรงว่าจะจัดพื้นที่สำหรับดำเนินงานไม่ทัน”

    ชายหนุ่มแนะนำตัวแบบง่ายๆพร้อมกับบอกธุระของตัวเองเสร็จสรรพ คำพูดเขารัวเร็วจนดูเร่งรีบแต่ก็ยังพอจับใจความได้อยู่บ้าง แถมพอรู้ว่าพวกแมรี่เองจะไปที่ตลาดอยู่แล้วก็ทำท่าดีใจจนสังเกตได้

    วินด์โบกมือลาขณะวิ่งออกไปหาคนอื่นๆต่อ ส่วนทั้งสี่คนก็มุ่งหน้าไปถึงตลาดหลังจากนั้นไม่นานนัก สิ่งที่พวกเขาเห็นแต่แรกก็คือจำนวนคนเจ็บนอนเรียงรายกันกินพื้นที่ของห้องโถงขนาดใหญ่ไปกว่า 9 ใน 10 ส่วน แถมยังมีทีท่าว่าจะมีคนเจ็บมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยเพราะขณะที่พวกเขายังยืนอยู่แถวทางเข้าก็ยังเห็นคนเจ็บที่เพิ่งถูกพาเข้ามาอยู่อีกหลายรอบ

    เมล! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”

    หญิงสาวที่กำลังรักษาคนเจ็บอยู่พอหันมาเห็นเมลก็ร้องเรียกขึ้นมาทันที สีหน้าเธอดูอิดโรยด้วยความอ่อนล้า เรือนผมสีม่วงเหลือบแดงนั้นยุ่งเหยิงจนสังเกตได้ว่าไม่มีเวลาใส่ใจดูแลมันเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นทีท่าของเธอก็ยังคงดูกระฉับกระเฉงจนคนรอบข้างพลอยรู้สึกสดชื่นตามไปด้วย

    เพจส์ก็มาด้วยกันเหรอคะ มีมิสติคัลไลบรารี่อยู่ด้วยแบบนี้ก็ช่วยได้เยอะเลยล่ะค่ะ เรื่องค่าใช้จ่ายทางกิลด์รับปากแล้วว่าจะช่วยออกให้ไม่ต้องห่วงนะคะ”

    เธอจูงมือเพจส์ให้ตามไปช่วยทันทีโดยไม่ได้รอฟังคำตอบ ส่วนเมลเองก็ตามทั้งสองคนนั้นไปด้วย ตอนนี้ก็เลยเหลือแค่แมรี่กับเอซที่ยังคงยืนกันอยู่ที่เดิม

    เอซถอนหายใจด้วยอารมณ์เหนื่อยหน่ายพลางมองแมรี่ที่ยังคนหันซ้ายหันขวาไม่เลิก สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวตัดสินใจลากเด็กสาวไปนั่งหลบอยู่มุมหนึ่งเพื่อไม่ให้ขวางทางคนผ่านเข้าออก

    หลังจากเพจส์เข้ามาช่วยรักษาคนเจ็บบรรยากาศภายในห้องโถงก็ดีขึ้นมาก คงเพราะจำนวนคนเจ็บลดลงไวขึ้นจนสังเกตได้ แมรี่ถือโอกาสเดินไปดูการรักษาอยู่บ้างโดยทั่วไปก็รักษากันให้พอพ้นอันตรายหรือห้ามเลือดได้เสียมากกว่า แต่เพจส์กับผู้หญิงที่เข้ามาทักคนนั้นรักษาได้ไวมากเป็นพิเศษ

    ทางเพจส์นั้นแค่ออกเสียงร่ายคาถานิดหน่อยก็เกิดแสงสว่างขึ้นมาอาบบาดแผลของคนเจ็บ เพียงไม่นานบาดแผลนั้นก็จะเริ่มสมานตัวจนหายไปเอง แต่ถ้าหากเป็นบาดแผลใหญ่ๆการรักษานี่ดูจะไม่ได้ผลมากเท่าที่ควรจนต้องรักษาซ้ำๆหลายรอบ ดังนั้นหากเป็นบาดแผลใหญ่ก็มักจะเป็นฝีมือเธอคนนั้นที่ถูกคนอื่นๆเรียกว่านีดเดิล ที่ถูกเรียกแบบนั้นก็คงเพราะไอเท็มที่เธอมีเป็นชุดเย็บปักถักร้อยล่ะมั้ง

    ฝีมือรักษาของนีดเดิลนั้นดูจะโดดเด่นกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด จะมีที่รักษาได้ดีพอๆกันก็เพียงแค่ไม่กี่คน และถ้าถามว่ารักษาเก่งแค่ไหนก็คงบอกได้ว่าถ้าไม่ถึงกับตายต่อให้แขนขาขาดขอแค่เพียงเก็บแขนขามาด้วยเธอก็สามารถต่อให้สามารถกลับมาใช้ได้ดีตามเดิม

    จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคนบาดเจ็บหนักทั้งหมดก็ถูกรักษาเรียบร้อยเหลือไว้แต่เพียงคนบาดเจ็บไม่มากที่สมาชิกคนอื่นๆสามารถดูแลได้ ส่วนนีดเดิลที่ลงแรงรักษาคนเจ็บมาแต่เมื่อคืนในที่สุดก็ได้มีเวลาพักทานอาหาร เธอเลือกมานั่งรวมกลุ่มกับพวกแมรี่ก็เพราะเธอมีเรื่องต้องการให้เมลช่วยเหลืออยู่

    เจ็ทตี้น่ะเหรอ?”

    ค่ะ ถึงจะมีแจ้งข่าวมาบ้างแล้วก็เถอะแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี”

    พอยืนยันเรียบร้อยเมลก็เริ่มกดโทรศัพท์ติดต่อหาเป้าหมายทันที จอภาพใสๆลอยขึ้นมากลางอากาศเหนือจอภาพของมือถือพร้อมกับปรากฏข้อความแสดงสถานะการติดต่ออยู่ในนั้น หลังจากเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีในที่สุดก็มีเสียงของอีกฝ่ายดังแทรกผ่านลำโพงให้คนโดยรอบได้ยินกันทั่ว

    ฮัลโหล นั่นเมลสินะ”

    ฮายย เจ็ทตี้พอดีนีดดี้ขอให้ช่วยติดต่อให้น่ะ”

    เมื่อไหร่จะเลิกเรียกชื่อคนอื่นเพี้ยนๆแบบนั้นซักที ไม่สิ..ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นไร้สาระ นีดเดิลรีบขอให้พวกกิลด์มาคุ้มครองเร็วเข้า ไอ้พวก 'ราเว่น' มันกำลังไปที่นั่น ทางฉันเองก็เพิ่งจะถูกพวกมัน....$#..&#$....#@&......”

    จู่ๆเสียงพูดก็ขาดหายไปกลายเป็นเสียงคลื่นแทรกบางอย่างที่ฟังไม่ได้ใจความ แม้เมลจะพยายามติดต่อกลับไปอีกครั้งก็ยังคงเป็นเช่นเดิม

    ไม่ไหว ถ้าเป็นพวกราเว่นจริงๆก็คงโดนพวกนั้นใช้ความสามารถอะไรซักอย่างรบกวนสัญญาณติดต่อแล้วล่ะ”

    เมลอธิบายก่อนจะรีบเปลี่ยนเบอร์ติดต่อไปที่คนของกิลด์แทน ทว่าระหว่างกำลังรอสายสัญญาณอยู่นั้นจู่ๆก็มีเสียงร้องดังมาจากบริเวณทางเข้า นีดเดิลเป็นคนแรกที่รีบวิ่งออกไปดูก่อนที่คนอื่นๆจะพากันตามออกไป

    ภาพที่เห็นคือบรรดาคนเฝ้าทางเข้าที่นอนกองกับพื้นพร้อมกับเลือดไหลนองเป็นทาง ส่วนฝูงชนโดยรอบพากันถอยกรูดเป็นทางโดยมีคนเพียงสามคนยืนอยู่ใจกลางนั้นคอยขวางไม่ให้นีดเดิลเข้าไปรักษาคนบาดเจ็บ

    พวกนายมาทำอะไรกัน”

    อ๊ะๆ ทำหน้าไม่รับแขกแบบนั้นหน้าสวยๆก็เสียของหมดสิจ๊ะน้องสาว ตัวพี่น่ะจะมาเจรจาแบบสันติๆแต่เจ้าพวกนี้มันเอาแต่ขวางก็เลยต้องมีลงไม้ลงมือกันหน่อย”

    ชายที่แต่งตัวสีสันแสบตาราวกับนักท่องเที่ยวบนเกาะทางใต้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน ปากฉีกยิ้มกว้างจนดูเสแสร้ง ทั้งสีหน้าและแววตาถูกซ่อนไว้ใต้แว่นตากลมโตจนยากจะสังเกตเห็น

    ฉันไม่มีอะไรจะ.....เดี๋ยวสิ ทำไมสองคนนั้นถึง..”

    น้ำเสียงของนีดเดิลสั่นเครือขึ้นมากระทันหันเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าชายอีกสองคนนั้นเป็นคนที่เธอเคยรู้จักมาก่อน หญิงสาวพยายามเรียกทั้งคู่ทว่าพวกเขากลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมาเลย

    นายทำอะไรพวกเขา!”

    ก็แค่ยืมตัวมาใช้งานนิดหน่อยเองน่าน้องสาว แล้วก็อยากจะขอยืมคนของสีขาวมาด้วยซักห้าหกคนแค่นั้นเอง”

    เขาตอบกลับราวกับว่าเรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย มือขวาหยิบไปป์ยาสูบขึ้นมาควงเล่นอย่างสบายอารมณ์ทว่าท่าทีนั้นกลับทำให้เกิดความรู้สึกไม่ชอบมาพากล

    คนเจ็บกับคนที่ต่อสู้ไม่ไหวรีบถอยเข้าข้างในเร็วเข้าค่ะ”

    สิ้นคำกลุ่มคนที่มุงดูอยู่ก็รีบถอยไปตามหญิงสาวบอกในขณะที่เธอยังคงยืนประจันหน้ากับชายแปลกหน้าอยู่ที่เดิม แต่ในใจหญิงสาวกลับเป็นกังวลไม่น้อยเพราะคนของกิลด์เพิ่งจะกลับไปเตรียมกำลังคนมาช่วยจัดงานได้ไม่นาน ต่อให้เมลแจ้งไปขอความช่วยเหลือก็คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าจะมาถึงที่นี่ แล้วตอนนี้คนที่สามารถต่อสู้ได้ก็มีไม่เยอะมากเท่าไหร่นัก

    ที่สำคัญท่าทางผิดปกติของสองคนนั้นอาจจะเพราะโดนใช้ความสามารถอะไรบางอย่างควบคุมอยู่ แต่ที่เลวร้ายก็คือพวกเขาเป็นคนของสเลเยอร์ต่อให้ถูกควบคุมก็คงไม่ใช่คู่มือที่จะรับมือได้ง่ายนัก ยิ่งชายแปลกหน้าคนนั้นที่สามารถจัดการกับทั้งคู่ได้ด้วยอีกไม่ว่าจะคิดยังไงกำลังรบก็มีไม่พอ

    เฮ้อออ... พี่ชายล่ะแสนเศร้า ไอ้เรารึตั้งใจมาคุยแบบสันติแต่ดันโดนต้อนรับแบบนี้ซะนี่ จะยอมส่งคนมาดีๆไม่ได้หรือไงจ๊ะน้องสาว”

    ท่าทีแบบนั้นมันเรียกว่าเจรจาแบบสันติตรงไหนหรือคะ พูดจาเหมือนข่มขู่เอาแต่ได้แบบนั้นน่ะ”

    เพจส์ก้าวมายืนเผชิญหน้าอยู่เคียงข้างโดยมีเอซยืนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆกัน ส่วนเมลกับแมรี่นั้นอยู่ห่างออกไปทางด้านหลังไกลพอสมควร

    ฟู่... ช่วยไม่ได้ คงต้องให้สองคนนี้ช่วยสอนให้รู้จักคำว่า 'เลิฟแอนด์พีซ' กันซะบ้าง”

    คนแปลกหน้าสูบไปป์ในมือดูท่าทีไม่ทุกข์ร้อน เขาดีดนิ้วครั้งหนึ่งเป็นสัญญาณก่อนที่คนข้างๆทั้งสองจะพุ่งตรงเข้าหาพวกนีดเดิล ทั้งคู่ต่างมีอาวุธคนละแบบคนหนึ่งนั้นเป็นหอกสีดำสนิทเล่มยาวเทียมหัว ส่วนอีกคนนั้นมีโล่ขนาดเล็กสีเงินแวววาวติดอยู่ที่แขนข้างหนึ่ง

    ทันทีที่เอซปาไพ่ออกไปเพื่อสกัดการเคลื่อนไหวชายถือโล่ก็พุ่งตัวออกมาด้านหน้า จากนั้นก่อนอาวุธบินจะเข้าถึงเป้าหมายมันกลับกระทบกับบางสิ่งที่มองไม่เห็นกลางอากาศแล้วถูกดีดกระเด็นออกไปยังทิศทางอื่น

    จากนั้นชายถือหอกก็อาศัยโอกาสพุ่งตัวแทรกผ่านช่องว่างแทงหอกเข้าใส่เอซ ปลายหอกปะทะเสียดสีกับกำแพงเวทของเพจส์จนเกิดประกายไฟกลางอากาศ แต่การโจมตีของเขาไม่จบเท่านั้นคมโลหะแหวกอากาศเข้าปะทะกับกำแพงเวทอีกหลายต่อหลายครั้ง รวดเร็วเสียจนเพจส์แทบจะมองตามการโจมตีของเขาไม่ทันเพียงอึดใจเดียวบนกำแพงเวทก็ปรากฏรอยร้าวไปทั่ว

    เอซพยายามโจมตีกลับไปเพื่อหยุดการโจมตีของอีกฝ่าย ทว่าไม่ว่าจะโจมตีออกไปกี่ครั้งการโจมตีของเขาก็ถูกเกราะล่องหนสะท้อนออกไปจนหมด ในที่สุดกำแพงเวทของเพจส์ก็ทนไม่ไหวจนเกิดช่องโหว่ให้หอกเหล็กแทงทะลุเข้าไปจนได้ คมหอกแทงถากต้นแขนจนเลือดไหลซึมอาบแขนเสื้อจนเป็นสีแดงสด แต่เพียงพริบตาหลังจากนั้นบาดแผลทั้งหมดได้หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ไม่ต้องห่วงค่ะ ถ้าบาดเจ็บไม่มากตุ๊กตาของฉันก็ช่วยรับความเสียหายแทนให้ได้”

    แมรี่ที่อยู่ด้านหลังร้องบอก ในมือของเธอมีตุ๊กตาตัวเล็กอยู่สามตัวและตัวหนึ่งในนั้นก็มีรอยฉีกขาดตรงตำแหน่งเดียวกับที่เอซได้รับบาดแผลอยู่

    หลบค่ะ เอซ”

    เพจส์ปล่อยกลุ่มก้อนไอเย็นขนาดใหญ่ที่รวบรวมไว้ออกมา แต่ชายถือหอกกลับถอยหลบปล่อยให้คนถือโล่สลับตำแหน่งมาอยู่ด้านหน้าแทน มวลความเย็นปะทะเข้ากับโล่บนแขนแล้วแช่แข็งสิ่งต่างๆที่อยู่โดยรอบ

    ทว่าเมื่อไอเย็นจางหายไปคนทั้งสองกลับไม่ได้ถูกแช่แข็งไปด้วยทั้งที่รอบข้างนั้นเต็มไปด้วยแท่งน้ำแข็งระเกะระกะเต็มไปหมด

    สองคนนี้จะประสานงานกันดีเกินไปแล้วมั้งคะ”

    แลนซ์กับการ์ดน่ะขนาดกับฟูลมูนพวกเขายังเคยร่วมมือกันยันมันเอาไว้ได้เป็นชั่วโมงเลยล่ะ”

    นีดเดิลอธิบายให้ฟังเมื่อได้ยินเพจส์บ่นโอดครวญ แต่ดูอาการเหงื่อตกของเพจส์แล้วเธอก็พอเข้าใจได้ว่าพวกเธอทั้งสองคนต่างก็เจอปัญหาเดียวกัน เพราะตอนรักษาคนเจ็บทั้งคู่ต่างก็ใช้ปริมาณแต้มไปค่อนข้างมากคนแทบไม่เหลือพอไว้ใช้สู้แล้ว ตอนนี้คนที่มีสภาพพร้อมพอจะต่อสู้ได้คงมีแค่เอซคนเดียว

    รบกวนช่วยสนับสนุนด้วยนะคะคุณแมรี่”

    บทร่ายมนตร์ถูกขับขานอีกครั้งทว่าคราวนี้แลนซ์ไม่ปล่อยให้เธอมีโอกาสร่ายเวทจนจบได้ง่ายๆ เขาพุ่งเข้าหาเธอทันทีโดยมีการ์ดคอยขวางไม่ให้เอซเข้าไปช่วยหญิงสาว

    คมหอกพุ่งเข้าใส่เหยื่อโดยไม่ทันทั้งตัว แต่ก่อนมันจะได้ลิ้มรสเลือดเป้าหมายพลันเกิดเสียงปืนดังลั่นขึ้น แลนซ์รีบใช้ด้ามหอกของตนรับกระสุนไว้ได้แบบเฉียดฉิวแต่ก็ต้องพลาดโอกาสโจมตีไป

    ลืมฉันคนนี้ไปได้ยังไงกันยะ เดี๋ยวแม่จะเป่าให้พรุนเลยนี่”

    โอ้ แม่ตุ๊กตาน้อยห้าวมาเชียวนะ..”

    หุบปาก! อย่ามาทำพูดเล่นหัวนะไอ้บ้าพี้ยานี่ อยากโดนกระสุนฝังก้นเหมือนคราวก่อนหรือไงยะ”

    ตุ๊กตาคาวบอยสาวยืนขวางหน้าเพจส์กับนีดเดิลไว้พลางตลาดเสียงดังลั่นจนกลบเสียงอีกฝ่ายไปซะหมด ท่าทางช็อตตี้จะเคยรู้จักชายแปลกหน้าคนนั้นมาก่อนแต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าตุ๊กตาตรงหน้าที่จริงเป็นใครกัน

    อ้อ แม่หญิงปืนโหดนี่เอง ไม่ได้เจอกันนานเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้เชียว”

    เสียงปืนดังลั่นอีกหลายนัดทว่าก่อนมันจะถึงเป้าหมายกลับโดนการ์ดเข้าไปขวางสะท้อนการโจมตีไปทางทิศอื่นเสียหมด

    ระวังหน่อยสิคะ เดี๋ยวคนอื่นจะโดนลูกหลงเอา”

    นีดเดิลร้องเตือนกับการรัวกระสุนแบบไม่สนใจรอบข้าง ส่วนเพจส์นั้นยืนเงียบสังเกตการเคลื่อนไหวของแลนซ์กับการ์ด หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเธอก็พูดออกมาเบาๆให้นีดเดิลที่อยู่ข้างๆได้ยิน

    ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ความสามารถประเภทชักเชิดนะคะคุณนีดเดิล ทั้งการประสานงานนั่น ทั้งการป้องกันตัวเองตอนโดนเล่นงานทีเผลอนั่นด้วย ความสามารถที่ควบคุมทั้งคู่ไว้น่าจะเป็นประเภทหลอนประสาทเพื่อให้ทำตามที่ต้องการซะมากกว่า”

    แค่เป่าไอ้ขี้ยานั่นให้ร่วงก็พอสินะ”

    ใจเย็นก่อนเถอะค่ะ ขืนบุ่มบ่ามโจมตีเดี๋ยวคนอื่นๆจะโดนลูกหลงเอา...”

    เข้าใจสถานการณ์หรือเปล่ายะ ขืนไม่ทุ่มสุดกำลังพวกเรานั่นล่ะที่จะลำบาก”

    ช็อตตี้ยังคงเล็งปากกระบอกไปยังศัตรูโดยไม่ละสายตา ทุกคนต่างหยุดนิ่งไม่ขยับเขยื้อนจนบรรยากาศรอบข้างเงียบกริบ จนกระทั่งชายสูบไปป์เริ่มเคลื่อนไหวเป็นคนแรก เขาพ่นควันสีฟ้าลงทั่วพื้นก่อนที่ควันเหล่าน้ำจะเริ่มกระจายตัวมากขึ้นและเคลื่อนตัวกินพื้นที่ภายในห้องโถงไปเรื่อยๆ

    ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นพร้อมเปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นมาจากใต้กลุ่มควันนั่น ท่ามกลางไฟที่ลุกโชนทุกคนต่างมองเห็นร่างของคนคุ้มกันดิ้นทุรนทุรายจนกระทั่งนิ่งเงียบไป แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลาใส่ใจมากนักเพราะกลุ่มควันเคลื่อนตัวเข้าหาพวกเขาเร็วกว่าที่คิดจนเพจส์ต้องรีบกางเกราะเวทกั้นกลุ่มควันไม่ให้เข้ามาใกล้พวกเขาเช่นเดียวกับการ์ดและแลนซ์ที่มีม่านป้องกันโปร่งใสล้อมรอบพวกเขาเอาไว้จนควันสีฟ้าเหล่านั้นถูกแหวกออกเป็นวงกว้าง

    แย่แล้ว!”

    นีดเดิลอุทานขึ้นด้วยความร้อนทน เธอรีบหันกลับไปมองด้านหลังแล้วพบว่ากลุ่มควันกระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็วจนกลุ่มคนหนีกันแทบไม่ทัน เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งสัมผัสถูกเปลวไฟก็จะเผาไหม้บริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว คนบางคนถูกกลุ่มควันพวยพุ่งกลืนกินเข้าไปทั้งตัวจนไม่มีโอกาสได้ทำแม้แต่การกรีดร้อง กลิ่นเนื้อหนังถูกเผาไหม้เริ่มโชยไปทั่วจนหญิงสาวเริ่มรู้สึกเวียนหัวแต่ในที่สุดความโกลาหลก็จบลงเมื่อเพจส์ใช้แต้มที่เหลือสร้างกำแพงเวทช่วยคนที่เหลืออยู่จากกลุ่มควันพวกนั้นเอาไว้ได้ ทว่าก็ต้องแลกกับการที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้อีกเพราะนั่นเป็นแต้มส่วนสุดท้ายที่เธอเหลืออยู่

    บ๊ะ! เผลอเผาทิ้งไปซะได้ แย่จริงๆ”

    สิงห์รมควันพูดราวกับว่าสิ่งที่ถูกเผาไปเมื่อครู่เป็นเพียงสิ่งของที่ไม่สลักสำคัญอะไร นีดเดิลกัดฟันแน่นเพื่อข่มอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ ไม่อย่างงั้นล่ะก็เธอคงวิ่งเข้าไปตะบันหน้าชายคนนั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอด ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะบาดหูนั่นไฟแค้นในเธอก็ยิ่งลุกโชน

    ทว่าสถานการณ์ของพวกเธอกำลังย่ำแย่นั่นก็เป็นความจริง เด็กสาวที่ใช้ตุ๊กตาดูเหมือนจะหลบกลุ่มควันได้ทันแต่อยู่ไกลออกไปขนาดนั้นคงช่วยอะไรไม่ได้อีก ส่วนเพจส์เองก็ไม่เหลือแต้มที่จะใช้ต่อสู้ได้อีกแล้วและตัวเธอเองก็มีแต้มเหลือไม่มากนัก เหลือเพียงแต่ตุ๊กตาที่ถือปืนของเล่นนี่กับชายหนุ่มเพียงคนเดียวของกลุ่มที่ยังคงต่อสู้ได้

    ขณะหญิงสาวกำลังครุ่นคิดอยู่ฝ่ายศัตรูกลับไม่เปิดให้เธอได้มีเวลาครุ่นคิดมากนัก คู่หูหอกโล่กลับพุ่งแหวกกลุ่มควันเข้ามาหาพวกเธอโดยอาศัยความสามารถของการ์ดป้องกันตัวเองเอาไว้ ส่วนแลนซ์นั้นอาศัยโอกาสที่พวกเธอไม่สามารถตอบโต้อะไรได้แทงหอกเข้าปะทะกับเพราะเวทเต็มกำลัง เพียงครั้งเดียวรอยรั่วเล็กๆก็เกิดขึ้นจนควันสีฟ้าค่อยๆแทรกตัวผ่านช่องว่างนั้นเข้ามาทีละน้อย

    ยอมซะดีๆเถอะน่าน้องสาว พี่ไม่ชอบสาวตัวดำเท่าไหร่หรอกนา”

    คำพูดยียวนยังคงดังแว่วมาไม่หยุดในขณะที่กลุ่มควันเพิ่มแพร่กระจายเข้ามาภายในเกราะเวทมากขึ้นเรื่อย แม้มันจะยังไม่หนาแน่นพอจะเผาพวกเขาแต่ความร้อนก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

    หรือพวกเขาจะมีทางเลือกแค่สองทางแค่นี้จริงๆ...

    ===============================

    Special Thanks

    Vinz, Smoker by shinkyoto
    Wind, Runner by singer

    ช่วงนี้ออกจะยุ่งซักหน่อยเพราะงั้นขอเว้นการตอบคอมเมนท์ไปก่อนล่ะนะฮะ

    /me ว่าแล้วก็ไปเตรียมตัวแต่งฟิคอีกเรื่องต่อ

    อยากจะขออนุญาตอีกเรื่องหนึ่งด้วยก็คือ เนื่องจากมีงานประกวดฟิคแฟนตาซีของ enter book แล้วถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอนุญาตเจ้าของตัวละครทั้งหลายเอาฟิคเรื่องนี้ไปส่งประกวด หากได้ไม่ได้ยังไงหรือมีข้อติดขัดแบบไหนก็ช่วยบอกให้รู้ด้วยนะครับ
  21. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    อัพแล้วๆ :3 ตอนนี้เหมือนจะเป็นตอนรังแกสองสาวยังไงไม่รู้แหะ ฮ่าๆ

    ที่รู้สึกน่าสนใจก็คงเป็นพวกของการแบ่งกลุ่มก๊กต่างๆแหละครับ

    เออ! ถ้า1แต้มแลกน้ำขวด1 โหลได้ แล้วถ้าอยากได้น้ำขวดเดียวทำไงล่ะนั้น :p

    ปล.เรื่องขออนุญาตตัวละคร จัดไปเลยครับ!!
  22. ManaswinPipatponglert

    ManaswinPipatponglert Crazy in games

    EXP:
    35
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    8
    เริ่มมีเป็นกลุ่มเป็นก้อนแล้วแฮะ

    เรื่องตัวละครทางนี้ยังไม่โผล่เลย (ฮา) แต่ถ้าจะใช้ก็เอาไปได้เลยครับ
  23. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    อืมมม พอจะเห็นภาพของโลกนี้เพิ่มมากขึ้นมาหน่อยแล้ว ตอนนี้ก็ลุยกันสนุกดีใช้ได้

    เอซคนเดียวจะไปสู้กับสเลเยอร์ตั้งสองคนได้ยังไงละนั่น ? สงสัยต้องจั่วเทพซะแล้ว ฮ่าๆๆ

    ปล. คำผิดมีพอสมควรนะครับ แต่ไม่มีสมาธิจะรวบรวมให้ รอบนี้ขอผ่านไปก่อนละกัน
    ปลล. เรื่องตัวละคร เชิญเอาไปใช้ได้ตามสบายครับ
  24. Jammaster

    Jammaster New Member

    EXP:
    26
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    3
    อ่านตอน 3 ละ สถานการณ์เอาเรื่องจริงๆครับ ตัดจบได้น่าติดตามดี ยังงงเรื่องระบบแต้มนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร
  25. kolonel

    kolonel Demon Daughter of the Light

    EXP:
    380
    ถูกใจที่ได้รับ:
    36
    คะแนน Trophy:
    48
    เรื่องตัวละคร เอาไปใช้ได้ตามสบายเลยค่ะ จะรอดูนะคะ เห็นลิงค์ประกวดของ Enter Books อยู่เหมือนกัน แต่คงไม่สามารถอัพสองตอนต่ออาทิตย์ได้แบบโจทย์นั้นกำหนดแน่ๆ 555+ ยังไงก็ขอลิงค์ในเว็บ Dek-d ด้วยนะคะ จะตามไปดู ฮุๆ

    ส่วนเรื่องคอมเมนต์ ขอติดไว้ก่อนนะคะ ( *`ω´)

Share This Page