[ Valkyrie Proflie 2] อยากทราบเนื้อเรื่อง- -"

กระทู้จากหมวด 'Other Games' โดย *-Lem-*, 17 กันยายน 2011.

  1. *-Lem-*

    *-Lem-* หากไร้ซึ่งความมืดย่อมปราศจากแสงสว่าง

    EXP:
    92
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    คือ อยากรู้ว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไงเหรอคะ ตอนนั้นนั่งดูพี่เล่นประทับใจว่าภาพสวยมาก(แต่ปกติไม่ค่อยชอบเล่นเป็นทีม) เล่นไปเรื่อยๆแถมแปลก็ไม่ออกกันทั้งคู่ จำได้ครั้งสุดท้ายคือ ไปติดอยู่ที่ไหนไม่รู้ จำไม่ได้ว่าใช่ใต้ดินรึเปล่า(ไปต่อไม่ได้ แปลไม่ออกอีก จบค่ะ)

    *ตอนนั้นเล่นในPS2ค่ะ
  2. Ree

    Ree Necromancer

    EXP:
    570
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    38
    =_=!! มีบอกด้วย ว่า user ไหน อ่านแล้วมั่ง บอร์ดใหม่ เมพ ขิงๆ

    บางส่วนเป็นการแต่งเข้าไป เพื่อความบันเทิง ในการอ่าน หรือเพื่อผูกเรื่องได้ง่ายขึ้น
    แต่ไม่ใช่ของจริง (ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือน หรือ คล้ายจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ) นะครับ

    1# Sphere Corporation. Deploy โปรแกรม Personal Reality ขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า Eternal Sphere
    โดยจะจำลอง มิติ หรือ จักรวาล ขึ้นมา ในนั้น หนึ่งในนั้น มี realm หนึ่ง ที่มี 3 layer
    มีต้นไม้สวยงามเด่นเป็นสง่า ที่ชื่อว่า Yggdrasil

    2# ตัดฉับมาที่ ปี ศักราช CC ... ปีไหนสักปี (จำไม่ได้เค่อะ)
    การอวตาร ลงมาเกิดในร่างมนุษย์ของ Valkyrie Silmeria เกิดความผิดพลาด
    ทำให้ Alicia เจ้าหญิงแห่ง นคร Dipan อยู่ในสถานะ Dual Core แต่ไม่มี Hyper Threading
    บัลบารอซซ่า ราชาแห่ง Dipan ผู้เป็นที่รักของปวงประชา ชาว Dipan
    เสียใจมาก และสาปแช่ง เหล่าทวยเทพ แห่ง Asgard และพยายาม ทำทุกวิถีทาง
    เพื่อให้ลูกสาว อันเป็นที่รักของตน สามารถใช้ชีวิต เฉกเช่น เด็กสาวธรรมดา ได้

    3# จนกระทั่ง ได้พยายาม วิจัย มนตราต้องห้าม ที่ใช้ควบคุมการอวตาร ของเหล่าทวยเทพแห่ง Asgard
    ที่จะลงมาเป็นมนุษย์ ใน Midgard จนข่าวนี้ รู้ไปถึง Odin มาเฟีย เอ้ย บิดา แห่งทวยเทพทั้งปวง
    และได้สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าทวยเทพ ที่ มนุษย์ นั้น กล้าหือ กับตน

    4# Hrist ( อารี่ ) Valkyrie พี่สาวคนโต ของพี่น้องสาว สามใบเถา Valkyrie ได้รับมอบหมายให้
    นำ Silmeria กลับสู่ Asgard โดยพลัน แต่กระนั้น น้องเล็กสุดท้อง กำลังอยู่ในวัยทีน วัยกำลังต่อต้าน
    จึงไม่ยอมกลับไป Asgard ด้วย ทำให้ ต้องใช้ทางเลือกสุดท้าย คือ ทำลาย นคร Dipan เพื่อ
    เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อให้ไม่มีใคร คิดจะมายุ่งกับ มนตราต้องห้าม อีก

    5# แต่การ ทำลายนคร Dipan นั้นเกินกำลังของ สาว Mini Skirt แบบ Valkyrie จึงจำเป็นต้องใช้ตัวช่วย
    นั่นก็คือ สมบัติ ประจำ โลก Midgard ที่เรียกว่า Dragon Orb ซึ่งแน่นอน ว่า Silmeria ก็พยายาม
    จะแย่งชิง Dragon Orb มาให้พ้นมือ คุณพี่สาวสุดเฮี๊ยบด้วย จึงได้ออก เดินทางและได้เพื่อนร่วมทางมา

    6# แต่แล้ว โชคไม่เข้าข้าง Dragon Orb ก็โดน พี่สาวสุดเฮี๊ยบ แย่งชิงไป และ นคร Dipan ก็ก่งก๊ง
    ราชา บัลบารอซซ่า อันเป็นที่รักของปวงชนชาว Dipan ก็โดน กิโยติน ฉับเดียวขาด กลายเป็น
    ผีไม่มีหัว เฝ้านคร Dipan ไปจนชั่วฟ้าดินสลาย แถม Silmeria ก็ ถูกแช่ Crystal เป็นฟิกเกอร์ งามน่าสะสม

    7# ด้วยความโศรกเศร้า เสียใจที่โชคไม่เข้าข้าง Alicia และ เพื่อนร่วมทาง เดิมพันครั้งสุดท้าย
    ไว้ที่ปลายยอดแห่ง Yggdrasil เพื่อไปให้ถึงความรู้แห่งทวยเทพ ที่ทำให้ Odin เปลี่ยนแปลงตัวเอง
    จาก เทพต๊อกต๋อย ปลายแถว class change LV อัพ จนเป็น มหาเทพ เมพขิงๆ แต่กระนั้น
    มีหรือ ที่ มหาเทพ เมพขิงๆ แบบ Odin จะไม่รู้เรื่องนี้, Odin เลยไปนั่งเท้าคางรอ Alicia และผองเพื่อน
    อยู่ที่ปลายยอดแห่ง Yggdrasil และแล้ว Alicia และผองเพื่อน ก็เสร็จ มหาเทพ เมพขิงๆ Odin
    กลายเป็น ผีเฝ้า Yggdrasil ไปจนชั่วฟ้าดินสลาย (อ้าว)

    #ขอข้ามภาค Covenant of the Plume ไปนะครับ =_=

    8# และแล้ว การเวลา ก็ล่วงเลยไป จนกระทั่ง เวลา ที่เหล่าทวยเทพ แห่ง Asgard หวั่นเกรง ก็ใกล้เข้ามา
    Lenneth Valkyrie พี่คนกลาง สาวแจ่มสุดแหล่ม กับผมเปียสีพลาตินัม (อวยเข้าไป) ได้ถูกเรียกมายัง
    ห้องโถงสีทอง แห่ง Asgard เพื่อให้ ไปรวบรวม วิญญาณ ของเหล่านักรบผู้เก่งกาจ จากเบื้องล่าง

    9#แต่แล้ว กลับเกิดเรื่องวุ่นรัก สาว Valkyrie ขึ้นทำให้ ระบบป้องกัน ฉุกเฉินทำงาน ทำให้ Lenneth
    โดนสอย ปลด กลางอากาศ จึง โดนพี่สาวสุดเฮี๊ยบคนเดิม ยึดร่างไป แต่ผองเพื่อน ของ Lenneth
    ก็ช่วยกันยึดร่างคืนมาได้สำเร็จ

    10# และเรื่องไม่คาดฝัน ก็เกิดขึ้น Loki เทพเจ้าเล่ห์ ลูกครึ่ง Aesir กับ Vanir ได้จิ๊ก Dragon Orb ไปใช้
    จนเกิด เป็น เหตุ Ragnarok และ ตูมมม กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ เอ้ย Asgard และ Midgard ถูกทำลาย
    ด้วย เปลวเพลิงพิโรธ ของ Dragon Orb แต่แล้ว ปาติหารย์ ก็เกิดขึ้น ด้วยผลงานวิจัยของ Stalker ชั้นครู
    ที่เป็นหนึ่งในทีม ตามยึดร่างให้กับ Lenneth ทำให้ สาวแจ่มสุดแหล่ม กับผมเปียสีพลาตินัม กลายเป็น
    Creator ได้ดังเช่น Odin และ เพียงวูบเดียว ซากปรักหักพัง ที่ดินรกร้างว่างเปล่า กลับมามีชีวิต ชีวาขึ้นอีกครั้ง
    และ อาสวบ! ลาก่อน Loki ในที่สุด โลก ก็กลับสู้ความสงบสุขอีกครั้ง

    11# แต่แล้ว ระหว่าง ที่โลกสงบสุข สาวแจ่มสุดแหล่ม กับผมเปียสีพลาตินัม กำลังสนุกสนานกับการ
    ไล่เก็บ วิญญาณตายโหง มาเป็น collection ใน Asgard บางสิ่งบางอย่าง ก็เริ่มผิดแผก แปลก ออกไป
    มิติเวลา ของเธอ เริ่ม แปรผัน บิดเบี้ยว ซึ่ง จะเป็นฝีมือใครไม่ได้ อีก นอกไปจาก Stalker ชั้นครู
    ผู้ซึ่ง ในวินาที ที่ ตูม กลายเป็น โกโก้ครั้นช์ เอ้ย เปลวเพลิงพิโรธ ของ Dragon Orb แผดเผา
    ทุกสิ่งให้สิ้นไป นั้น เขาได้ยอม สละศิลานักปราชญ์ เพื่อ ให้เขาได้รอดพ้นจาก เพลิงนั้น และ เป็น
    มนุษย์ เพียงผู้เดียว ที่ไม่ได้อยู่ใต้ อาณัติ ของ Lenneth the Creator

    12# มิติเวลา ที่บิดเบี้ยว นั้นเกิดจาก การที่ เจ้า Stalker ชั้นครู ได้เดินทางย้อนเวลา ไปด้วย เครื่องมือ
    อันสุดล้ำ ของแมวสีฟ้าที่ไม่มีหู เอ้ย ไม่ใช่ ... ด้วย เครื่องมือ ต้องห้าม ที่ถูกทิ้งร้างไว้ ที่ซากนคร Dipan
    ประวัติศาสตร์ ที่เคยเป็นอยู่ กำลังจะถูกเปลี่ยนแปลง สมดุลย์ ที่มีอยู่ กำลังจะพังทลาย
    เพียงเพราะความประสงค์ ของคน คนเดียว

    ... ผ่านมา 12 ย่อหน้าแล้ว ยังไม่ได้เริ่ม เนื้อเรื่องของ VP2 เลยนี่หว่า =[]=!!

    เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ ครับ ... ไอ้เนื้อเรื่อง ภาค 2 นี่ผม spoil เต็มเหนี่ยว เลยได้มั๊ย น่ะครับ ( ' ' ? )

    ~เฮๆ
  3. *-Lem-*

    *-Lem-* หากไร้ซึ่งความมืดย่อมปราศจากแสงสว่าง

    EXP:
    92
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    ถึงจะยังไม่เข้าเรื่องแต่ก็ขอบคุณค่ะ- -*
  4. Ree

    Ree Necromancer

    EXP:
    570
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    38
    Prologue :บทนำ
    ในคืนอันเงียบสงบ ของ นคร Dipan ณ ที่ปลายสุดด้านหนึ่ง ปราสาท
    ซึ่งเดิมที เป็น คุกที่ใช้ขังนักโทษ แต่ บัดนี้ได้ถูก เปลี่ยนแปลง ให้เป็นห้องทดลองลับ
    ของ สามปราชญ์ แห่ง Dipan ตามคำสั่งของ พระราชา บัลบารอซซ่า ห้อง ที่เป็น
    ห้องทดลอง มนตราข้ามเวลา บัดนี้ ผู้ที่ไม่มีใคร คาดฝัน ได้มาเยือน ที่แห่งนี้

    นักเวทย์ ฝึกหัด ผู้ใฝ่รู้ เข้ามา เพื่อขอเป็นผู้ช่วย สามนักปราชญ์ แห่ง Dipan
    นามของเขาคือ Lezard Valeth

    ประวัติศาสตร์ กำลังจะถูกเปลี่ยนแปลง มิติเวลา กำลังจะ บิดเบี้ยว อำนาจแห่งพระเจ้า
    กำลังจะถูกท้าทาย ด้วยน้ำมือ ของคนเพียงคนเดียว

    ความมืดมิด และหายนะ กำลัง คืบคลานเข้าหา นคร Dipan
    ประวัติศาสตร์ใหม่ ที่ผิดไปจากเดิม กำลังจะถูกบรรเลง ขึ้นในไม่ช้า

    Chapter 1 : ผู้อาจหาญ ท้าทาย เหล่าทวยเทพ

    ในคืนที่เงียบสงัด ที่ดูเหมือนจะปกติ ดีทุกอย่าง แต่กลับมีบางสิ่งบางอย่าง ต่างออกไป
    เหล่า เอนฟิเรีย ที่อยู่ภายใน ร่างอวตาร ของ Silmeria Valkyrie ต่างเริ่มระส่ำระสาย
    เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย อันใหญ่หลวง Alicia เจ้าหญิง แห่ง Dipan ที่เป็นร่างอวตารของ Silmeria
    ได้พยายาม หลบหนี ออกจาก ปราสาท ที่ตนเองอยู่ แต่ กระนั้น ดูเหมือนจะ สายไปเสียแล้ว

    Hrist Valkyrie พี่สาวผู้คนโต ของ สามสาว Valkyrie ได้มาปรากฎอยู่ เบื้องหน้า Alicia เสียแล้ว
    โดยมีจุดมุ่งหมาย ที่จะนำ Silmeria กลับไปยัง Valhalla ตามบัญชา ของ Odin ผู้อยู่เหนือ ทวยเทพทั้งปวง
    แต่ Silmeria ก็ ขัดขืน และ ใช้พลังของตน จนสามารถ หลุดรอดจาก Hrist ไปได้ แต่กระนั้น
    การกระทำของ Silmeria ก็ได้สร้างความ ไม่พอใจให้กับเหล่า ทวยเทพ และ คิดที่จะจัดการ
    กับ ผู้ครองนคร Dipan ผู้ที่บังอาจ ก้าวล่วง ถึงมนตราต้องห้าม

    Alicia ได้เดินทางมาถึง เมืองท่า Solde ที่มีการเดินเรือ ไปยังนคร Dipan แต่แล้ว ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน
    เรือ ไป Dipan ทุกลำ หยุดเดินเรือ ด้วยเหตุว่ามี โจรสลัด ออก อาละวาด ในขณะนั้นเอง Silmeria
    ก็ได้ สังเกตเห็น ชายหนุ่ม ผู้หนึ่ง ที่สวมแหวนประหลาด ชื่อ Rufus ซึ่งต้องการเดินทางไป Dipan
    Silmeria จึงได้ออกปาก ชวนเดินทาง ไปด้วยกัน ผ่านทาง ลับใต้ดินของราชวงศ์ Dipan

    ภายใน ทางลับใต้ดินนั้น มี สิ่งที่นักรบผู้เก่งกาจ ในอดีต ที่ล่วงลับไป เหลือทิ้งเอาไว้ Silmeria จึงได้ใช้
    พลังของ Valkyrie ในการ materialize เอาวิญญาณ ของเหล่านักรบนั้น มาเป็น เอนฟิเรีย พักไว้ในตัว
    จนกว่า วิญญาณ เหล่านั้น จะกล้าแข็งพอ และ สามารถ กลับมามี ร่างกายแบบเดิมได้
    แต่หนึ่งในนั้น มีผู้หนึ่ง ที่มีจิตวิญญาณ อันแรงกล้า จนสามารถกลับมามีร่างของตนได้ เขาคือชายที่ชื่อ Dylan

    Alicia , Rufus และ Dylan เดินทางผ่านทางใต้ดิน จนมาถึง นคร Dipan ในยามค่ำคืน ถึงแม้ จะเป็น ยามค่ำคืน
    นคร Dipan ก็ต่างจาก เมืองอื่น ด้วย ตะเกียง เวทย์มนต์ ที่ให้แสงสว่างสวยงาม ในยามตะวันลับ

    จบ Chapter 1
    ไว้พรุ่งนี้มาต่อ ครับ x_x
  5. Ree

    Ree Necromancer

    EXP:
    570
    ถูกใจที่ได้รับ:
    2
    คะแนน Trophy:
    38
    Chapter 2 : ความมืดมิดใน นคร Dipan

    เมื่อ ทั้งสาม มาถึง Dipan ก็ได้วางแผนที่จะเข้าไป ปราสาท Dipan
    แต่หนึ่งในนั้น Rufus เริ่มผิดสังเกต ว่า Alicia เป็นเจ้าหญิงแห่ง Dipan
    ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นคน ธรรมดา แต่กลับสามารถ materialze เอนฟิเรีย ได้ และยังสามาถ
    Object reading ได้ด้วย ทำให้ Rufus สงสัย ในตัวตนของ Alicia

    ซึ่ง Silmeria ก็ได้ออกมายอมรับ ทันทีว่า ตนเองเป็น Valkyrie และมีแผนการ
    ที่จะป้องกัน Dragon Orb ให้พ้นจากมือ Odin และ แจ้ง ราชา บัลบารอซซ่า ให้เตรียมตัว
    รับมือกับเหล่าเทพ ที่กำลังจะลงมาทำลาย Dipan แต่กระนั้น Rufus ก็ยังไม่คลาย ความสงสัย
    และ ต้องการ ให้ Silmeria พิสูจน์ ในสิ่งที่เธอ พูด เพื่อให้แน่ใจว่า Silmeria จะไม่นำเอา
    Dragon Orb ไปให้ Odin เสียเอง ทางด้าน Silmeria ที่ไม่สามารถ พิสูจน์ อะไรได้
    จึงได้แต่กล่าวเพียงว่า หากเป็น เช่นนั้น ก็ให้ Rufus หยุดเธอ มิให้ทำเช่นนั้น

    ด้วยความทรงจำที่ยังมีอยู่ของ Dylan ทั้งสามคน จึงสามารถ เข้าไปยัง ปราสาท Dipan ได้สำเร็จ
    แต่เมื่อลงไปชั้นใต้ดิน กลับพบว่า ข้างในนั้น กลายเป็นห้องทดลอง ศัตว์ประหลาด ไปเสียแล้ว
    Alicia ยังคงหวังว่า Dallus หนึ่งในสาม นักปราชญ์ ที่รู้จัก จะยังปลอดภัยดี
    ขณะนั้น เบื้องหน้า เป็นทางที่ถูกปิดไว้ด้วย อาคม เวทย์มนต์สีแดง ซึ่ง จากที่ Alicia เคยวิ่งเล่น
    ในที่แห่งนี้ เมื่อวัยเด็ก ทำให้ เธอยังจำได้อยู่ว่า หากทำลาย ลูกแก้ว ที่แท่นวาง ก็จะสามารถเปิดทางต่อไปได้

    ที่ปลายสุดของ ชั้นใต้ดิน ห้องทดลองของ สามนักปราชญ์นั้นยังปลอดภัย Dallas ก็อยู่ที่นั่น
    แต่ดูเหมือนว่า Dallas จะไม่ได้อยู่ที่นั่นเพียงลำพัง ณ ที่นั้น บัลบารอซซ่า และ สามนักปราชญ์
    ได้ทราบถึงการมาของ Alicia และ ดักรออยู่ข้างใน Silmeria พยายาม จะอธิบาย
    สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ ไม่เป็นผลสำเร็จ และ บัลบารอซซ่า ได้สั่งให้ จับตัว Silmeria ไว้ ทั้งสาม
    จึงต้องพยายาม ที่จะหนีจาก Dipan แต่ดูเหมือน การหลบหนี จะลำบากกว่าที่คิด ทั้งสาม จมมุม
    ถูกทหารล้อมไว้ โดยหมดสิ้นทางหนีเสียแล้ว

    ณ วินาทีที่ กำลังโดนล้อม กลับมีเสียง ขานมนตรา ลอยมาตามลม "สายลมแห่งโชคชะตา นำพาข้าให้พ้นภัย"
    แล้วทั้งสามคน ก็ หายไปต่อหน้าต่อตา เหล่าทหาร สามนักปราชญ์ และ บัลบารอซซ่า
    โดย สามารถหลบหนี อย่างปลอดภัย ไปยัง บริเวณชายป่า ใกล้ๆ กับทางลับใต้ดินของราชวงศ์
    โดยผู้ที่ช่วยเหลือ ทั้งสามเอาไว้ คือ นักเวทย์ ผู้ช่วยวิจัย
    ซึ่งมาช่วย เหล่าสามนักปราชญ์ วิจัยได้ไม่นานนัก นามของเขา คือ Lezard Valeth

    เมื่อความพยายาม เจรจา กับราชาแห่ง Dipan ล้มเหลว จึกต้อง เดินทางด้วยกำลังของตนเอง ซึ่ง
    ครานี้ มี Lezard ร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งสี่คน จึง ตัดสินใจ เดินทางตามหา Dragon Orb
    เพื่อเตรียมรับมือ กับเหล่าทวยเทพ ที่จะลงมาทำลาย Dipan ในเบื้องหน้าต่อไป

    จบ Chapter 2

    เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ ขรับ x_x

    งดลงชั่วคราวนะครับ พอดีผมติดสอบ =_=!!
    DarkKnight ถูกใจสิ่งนี้
  6. *-Lem-*

    *-Lem-* หากไร้ซึ่งความมืดย่อมปราศจากแสงสว่าง

    EXP:
    92
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    สอบห้ได้คะแนนดีๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ*-*
  7. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    โอ้ เราอยากเล่าต่อมั้งอะ แต่จำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้แล้ว เล่นครั้งสุดท้ายเกือบปี - -*
  8. YunaFFX

    YunaFFX Member

    EXP:
    78
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
    คุณ Ree อธิบายเก่งมาก ใช้คำศัพท์ซะด้วย เป็นผู้บริหาร CEO มาเล่นเกมส์ รึป่าวคร้าบบบบ
  9. noppol030

    noppol030 New Member

    EXP:
    5
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    1
    ผมเคยเล่นแต่ภาค ps1
  10. DarkKnight

    DarkKnight Member

    EXP:
    45
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    ผมชอบ มาลงต่อนะครับ

Share This Page