อ่านก่อนนิดนึง บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม จะSpoil ก็ขอให้ใช้การซ่อนข้อความ การติชมต่อผลงานของSoma สามารถเขียนได้ในกระทู้อย่างเปิดเผยและตรงๆอย่างไม่ต้องกังวล เข้ามาอ่านReview เล็กๆก่อนตัวเต็ม หรือถ้าใครที่เข้ามาอ่านธรรมดาแต่อยากติชม สามารถเข้าไปติได้ที่Facebook ของกระผมนะครับ http://www.facebook.com/profile.php?id=100000512771067 Transformers Dark of the Moon แนวหนัง : แอ็คชั่น ไซไฟ ตัวอย่าง [media]http://www.youtube.com/watch?v=AMCUl0JqnJo[/media] เรื่องย่อ เมื่อปี1960 อเมริกาได้ส่งคนไปสู่ดวงจันทร์ แต่กลับได้พบกับยานของชาวไซเบอร์ตรอนตกอยู่ ซึ่งมันเป็นกุญแจสำคัญอย่างมาก ในปัจจุบันแซม วิทวิธกี้ได้ย้ายมาเมืองหลวงพร้อมกับแฟนสาวคนใหม่เพื่อหางานทำ แต่เค้าหารู้ไม่ว่าดิเซปติค่อนกำลังที่จะจ้องเล่นงานเค้าพร้อมกับแผนการชั่วร้ายอันใหม่ ในขณะที่เหล่าออโต้บอทที่ไปสำรวจดวงจันทร์ได้พบเจอกับเซนตินัล ไพร์ม และนั้นคือจุดเริ่มต้นทั้งหมดของมหันตภัยของโลกที่มาพร้อมกับดวงจันทร์ มุมมองของSoma ก่อนจะเข้าReview เรามาทำความเข้าใจซักเล็กน้อย ถ้าคุณเป็นบุคคลประเภทต่อไปนี้ห้ามไปดู Transformers 3 1.คุณเป็นคนชอบบทหนังที่ซับซ้อน แน่นเนื้อหา ดูแล้วให้คิดต่อหลังหนังจบ 2.คุณไม่ชอบหนังที่มีตัวตลกปัญญาอ่อนคอยปล่อยมุกไร้สาระ 3.คุณไม่ค่อยชอบหนังตลกดูงี่เง่า 4.คุณไม่ชอบหนังที่มีฉากระเบิดเมือง ยิงกันถล่มทลาย 5. คุณไม่ชอบTransformers ตั้งแต่ภาคแรก แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนใน5ข้อนี้ ตีตั๋วไปดูTransformers 3 ซะ คุ้มแน่นอน เพราะเมื่อมองโดยรวมแล้ว ภาค3นี้ทำได้ดีกว่าภาค2พอสมควร แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำได้ดีไปกว่าภาค1อีกแล้ว อย่างที่ไมเคิล เบย์ เคยสำนึกผิดเอาไว้ว่า หนังภาค2ของตัวเองห่วยจริงๆ และภาคนี้จะปรับปรุงตัวขึ้น ซึ่งมองภาพรวมใช้มันดีขึ้น มาพูดส่วนที่เป็นจุดเด่นของหนังก่อนที่เราจะไปด่ากันดีกว่า ฉากแอ็คชั่นในหนังนั้นผมดีใจที่สุดที่เบย์ ยอมที่จะปรับลดความเร็วของฉากแอ็คชั่นลงไปจนสามารถดูได้รู้เรื่องแล้วว่าใครต่อยใคร ซึ่งในหนังจะให้ดูเน้นๆชัดเจนมากๆทำให้อารมณ์ประเภท อะไรฟะ ดูไม่รู้เรื่องโว้ย หายไปจนหมดสิ้นในภาคนี้ อีกทั้งความวินาศสันตะโรในภาคนี้นั้นต้องยอมรับว่าจัดเต็ม และดูดีกว่าภาค2มาก หนังมีการใช้กลยุทธ มีฉากชวนระทึก และการต่อสู้ของหุ่นที่สนุกและลงตัวกว่าภาคที่แล้วมากๆ ฉะนั้นไอ้มุกตัวเด่นๆบางตัวโดนต่อย2ทีตายนั้นจะเห็นไม่เยอะในภาคนี้แล้ว หรือที่เอะอะอะไรก็ยิงๆๆๆๆๆ จะกลายเป็นการสู้แบบเน้นกลยุทธมากขึ้น มีแผนการทำอะไรรอบคอบมากขึ้น ฉากที่เน้นการต่อสู้ของมนุษย์กับหุ่นยนต์ไม่ได้ดูน่ารำคาญแบบภาคก่อนๆแล้ว และที่สำคัญคือการใส่ฉากแอ็คชั่นในแก่ตัวละครแซมนั้นผมค่อนข้างชอบ เพราะทำให้ตัวละครนี้ดูมีน้ำยามากขึ้นหลังกจากที่2ภาคที่แล้วทำอะไรไม่ได้นอกจากตะโกนแล้ววิ่ง ฉะนั้นถ้านับกันจริงๆภาค3นี้ถือเป็นภาคที่มีฉากแอ็คชั่นดูดีและสนุกที่สุดครับผม นอกจากนี้หนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังที่มีมุมกล้องสวยมากๆ โดยเฉพาะช่วงฉากแอ็คชั่นตอนท้ายนั้นมุมกล้องหลายจุดส่งเสิรมให้ฉากแอ็คชั่นในหนังดูดีขึ้นกว่าเดิมทันที ถ่ายให้เห็นมุมสวยๆของเมืองชิคาโก้บ่อยๆ และที่ต้องขอแนะนำอย่างสุดๆคือ ระบบ3D ที่ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้ดีจริงๆครับ ทั้งภาพที่ดูมีมิติ เวลาต่อสู้อะไรกระจุยกระจายก็ทะลุจอชัดเจน และบวกกับCGในหนังที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว 3Dก็ทำภาพสวยสดมาก ถ้าใครคิดจะไปดูแน่ๆขอบอกว่าให้จัด3Dไปเลยครับ (ไม่ต้องถึงขั้นIMAXนะครับ เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายด้วยกล้องIMAX ภาพมันจะไม่ถึงใจแบบภาค2 ) เอาล่ะข้อดี หมดและ เตรียมบ่นได้ แม้ผมจะเคยบอกในภาค2ไปว่าผมดูหนังเรื่องนี้ไม่สนเรื่องของบท แต่เมื่อภาคนี้ไมเคิล เบย์ ออกมาบอกว่าจะขัดเกลาบทให้ดีขึ้น เจ๋งขึ้น มิดมนขึ้น ก็เลยขอชมกันซะหน่อยว่าจะทำได้ขนาดไหน ใช่ครับ ผมคาดหวังไมเคิล เบย์ สูงเกินไป…… ต้องยอมรับกันก่อนว่า บทหนังภาค3นั้นมีไอเดียที่ดีและน่าสนใจมาก เรื่องของรัฐบาลกุมความลับ เรื่องของชีวิตแซม เรื่องของความเชื่อมั่นในออโต้บอท แต่น่าเสียดายไอเดียเหล่านี้มันอยู่ในมือของ ไมเคิล เบย์ ผู้ไม่ค่อยใส่ใจบทหนังอยู่แล้ว มันเลยทำให้บทหนังมีดีแค่ไอเดีย แต่สื่อออกมาได้ค่อนข้างแย่ เกริ่นมาดีๆแต่เหมือนรีบๆตัดบทจุดนั้นเพื่อให้หนังเข้าสู่ฉากแอ็คชั่นโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อบทหนังไม่ขัดเกลามาอย่างดีมันเลยเกิดคำถามตลอดทั้งหนังว่า ทำไม เพื่ออะไร และเกิดอะไรขึ้น ไม่มีเหตุผลรองรับหลายๆจุดของบทหนัง และที่ทุเรศมากคือฉากจบที่ไม่ได้ไขข้อข้องใจ เหมือนรีบๆตัดจบไปซะงั้น ตัวละครในหนังเรื่องนี้หลายตัวนั้นไม่มีความจำเป็นต้องใส่มา อีกทั้งถ้าไม่ใส่มาจะทำให้ความยาวหนังลดและกระชับกว่านี้มาก ในช่วงแรกของหนังมีตัวละครที่ไม่ค่อยมีความจำเป็นกับหนังปรากฏตัวออกมาและให้บทตรงนั้นพร้อมกับมุกตลกที่ไม่ได้สร้างสรรค์เอาซะเลย (ผมยอมรับครับว่าภาคนี้ ผมตลกแค่มุกเดียวเท่านั้น)โดยเฉพาะบทเจ้านายที่เล่นโดย จอห์น มัคโควิช แสดงให้เห็นเลยว่าเอานักแสดงมาใช้อย่างไม่มีประโยชน์อะไรกับหนังเลย และส่วนด้านหุ่นนี้ก็แล้วใหญ่ แม้หนังจะตัดคู่หูมุกแป๊กแห่งภาค2ไป มันก็ดันเอาคู่หูตัวเล็กมาปล่อยมุกตลกแป๊กๆต่อ ซึ่งขอบอกว่าไม่มีความจำเป็นต้องใส่มาเลย แม้แต่ฉากที่2ตัวนี้ทำอะไรที่มีประโยชน์เราก็ไม่รู้สึกชื่นชมหรืออะไรทั้งนั้น เพราะคาแรคเตอร์ที่สร้างมามันออกไปทางรำคาญมากกว่าน่ารัก ตัวร้ายในหนังยิ่งแล้วใหญ่ บางตัวออกมาโชว์เอฟเฟคแค่นั้น ไม่มีการเกริ่นว่ามาทำไม มาเพื่ออะไร มันเป็นใคร หุ่นบางตัวที่มีความสำคัญกลับตัดบทเหมือนเศษขยะกองพื้น แต่กลับไปเค้นอารมณ์หุ่นบางตัวที่เราไม่เคยเห็นหน้า และไม่ได้รู้สึกชื่นชอบอะไรเลย (ซึ่งประเด็นนี้ผมค่อนข้างเชื่อมั่นเลยว่า จะสร้างความไม่พอใจแก่แฟนการ์ตูนอย่างแน่นอน) แต่ขอบอกนะครับว่าถึงบ่นขนาดนี้ แต่บทของภาคนี้ดีกว่าหนังภาค2มากๆ ถ้าให้พูดอะไรเล็กน้อยก็ขอพูดเรื่องออพติมัส ไพร์ม ที่ถึงยังไง๊ ยังไง ป๋าแกก็โคตรเท่ห์ ยิ่งมีตู้คอนเทรนเนอร์ความเท่ห์บวกทวีคูณเลย อ๊ะลืมไป ขอบอกครับว่านางเอกคนใหม่นั้นผมว่าเจ๋งกว่าน้องจิ้งจอกนะ ทักษะการแสดงก็ดูดีในระดับนึง หน้าตาก็สวย และที่สำคัญ หุ่นเธอครับสุดยอดมาก ฉากเปิดเรื่องนี้แทบทำหัวใจชายหุ่นมวายคาเก้าอี้กันเลย ฉะนั้นผมยืนยันแล้วครับว่าส่วนตัวผม ผมให้นางเอกคนใหม่นั้นแหล่มกว่าน้องจิ้งจอกครับ เย้~~~ อนึ่ง หลังเครดิตไม่มีนะครับ มีแค่ฉากขณะเครดิตแค่ฉากเดียว ไม่ต้องรอเครดิตจบเด้อ สรุป : แม้โดยรวมแล้ว Transformers 3 ยังจัดเป็นหนังที่บทแย่ ขาดเหตุผล ดูยืดเยื้อ แต่ฉากแอ็คชั่นในหนังที่จัดเต็ม จัดหนัก และปรับปรุงหลายๆด้านจนเราพอที่จะเพลิดเพลินกับความสนุกตรงจุดนี้ได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าไมเคิล เบย์ พยายามที่จะปรับปรุงจากข้อเสียที่ตัวเองเจอมาจากภาค2 แม้ว่ายังไม่ดีพอแต่ถ้าเค้าพยายามปรับปรุงไปเรื่อยๆ ซักวันเค้าจะดีเอง ฉะนั้นใครแฟนTransformers หรืออยากดูหนังไม่ต้องคิดอะไรมาก ห้ามพลาด และถ้าแนะนำได้ ขอให้จัดแบบ3Dไปเลย เกรด B+ครับ (ขอยอมรับว่าตอนแรกจะให้B แต่พอมาคิดไปคิดมาหนังมันคุ้มค่าตั๋ว ดูเอาสนุกได้เพราะตอนหลังมันจัดเต็ม ก็ขอเลื่อนขึ้น1เกรด) เธอโคตรเจ๋ง หัวใจผมจะวายเมื่อเห็นหุ่นเธอ โอ้วเย้ แล้วเจอกันใหม่ครับ ลาล่ะ555
ขอบคุณครับ Soma ช่วยในการตัดสินใจได้ดีทีเดียว ได้ยินแบบนี้แล้วผมก็พร้อมจะไปดู 3-D ละ ส่วนตัวผมเป็นแฟน Transformer ตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ยิ่งพอมาศึกษาการ์ตูนเพิ่ม ยิ่งดีใจที่ภาคนี้จะได้เห็น Sentinel Prime กับบางตัว ก็จริงที่มันอาจทำให้คนดูที่ไม่เคยดูภาคการ์ตูนรู้สึกไม่ประทับใจ แต่ผมกลับอยากเห็นแฮะ (แต่ไอ้แบบเอา 2 คู่หูในภาค 2 มานั่นก็ไม่ไหว เพราะในภาคการ์ตูนก็ไม่ได้น่าจดจำอะไรนัก เมื่อไรจะเอาแฟนไพรม์มามั่ง อุตส่าห์แอบหวังนะเนี่ย!!) นางเอก... เซ็กซี่!!! เพิ่มความอยากดูอีก +10
ไปดูมาเมื่อวาน เนื้อเรื่องหมดแค่ครึ่งเรื่อง นอกนั้นเป็น action ล้วน ๆ ซึ่งส่วน action นี่มันมาก ๆ ครับ ให้ 7.7/10
สามภาคก็แล้วยังจัดหนักด้วยฉากแอ็กชั่นแบบเน้นๆ หนังตระกูลนี้บทภาพยนตร์อาจไม่มีน้ำหนัก แต่สำหรับผมแค่ฉากแปลงร่างก็ถือว่าคุ้มล่ะครับ ปล.ภาคนี้นางเอกกับเพลงประกอบผมให้ติดลบครับ
Transformers... The first one was the most well-balance. Second one was terrible... due to many obvious reasons 55 I liked the third one, reminds me a bit of the first part. But I still hates most of all the joke scenes, it was a bit too stupid to me... ;(