[ฟิครับสมัคร]Fantasy Inside Online Story [ 6 ตอนจบ ]

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย joi100, 29 กันยายน 2011.

  1. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Fantasy Inside Online Story บทโหมโรง : Login จุดเริ่มต้นแห่งการผจญภัย






    "พัสดุมาส่งครับ!!!" เสียงพนักงานไปรษณีย์ตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้านทำเอาชายหนุ่มคนหนึ่งที่เหมือนจะนั่งคอยอยู่แล้ววิ่งมาเปิดประตูเซ็นรับพัสดุที่มาส่งอย่างกระตือรือร้นแล้วรีบเดินดุ่มๆขึ้นไปยังห้องตัวเองทันที

    "มีนา!! เดี๋ยวลงมากินข้าวด้วยนะแม่ทำไส้กรอกทอดไว้ให้" เสียงของหญิงสาววัยกลางคนที่ยืนอยู่ในครัวลอยตามหลังชายหนุ่มคนนั้นไปติดๆ

    "ครับแม่" เสียงตอบรับพร้อมๆกับเสียงปิดประตู


    เมื่อเข้ามาในห้อง มีนารีบแกะกล่องพัสดุซึ่งมันถูกห่อมาหลายชั้นเพื่อปกป้องสิ่งที่อยู่ด้านใน

    "ในที่สุดเครื่องเล่นเกมส์ FIO ก็มาถึงซักที" ชายหนุ่มพึมพำกับตนเอง คู่มือที่อยู่ในกล่องถูกหยิบขึ้นมาอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่เหมือนมีนาจะนึกอะไรบางอย่างออกเลยหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาแล้วโทรหาใครบางคน


    หลังจากรอสายอยู่ชั่วอึดใจก็มีเสียงที่คุ้นเคยรับสาย มีนารีบพูดกรอกลงไปทันที


    "ฮัลโหลพี่คีน ตอนนี้ไอ้เครื่องเล่น FIO มันส่งมาถึงแล้วนะพี่ คืนนี้คงได้ไปเล่นด้วยกัน ผมกินแกลบอยู่ครึ่งปีแน่ะ"

    "แล้วนายจะรู้ว่ามันคุ้มค่า คืนนี้นายเข้ามาตอน 22.30 น. จะได้เล่นจนครบกำหนดตอน 05.30 น. ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวมีเวลาก่อนไปเรียน"

    "ตกลงพี่แล้วเจอกัน"

    หลังจากวางสายชายหนุ่มก็ตั้งอกตั้งใจอ่านคู่มือที่เพิ่งได้มาอย่างตั้งอกตั้งใจพลางคิดในใจ "มันจะสนุกแค่ไหนกันนะ"

    สักพักก็มีเสียงเรียกจากมารดาของเขาที่อยู่ด้านล่าง

    "มีนา ลงมากินข้าวได้แล้วลูก"


    ชายหนุ่มจึงละความสนใจจากคู่มือเล่มนั้นแล้วเดินลงไปทานข้าวด้านล่าง







    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~






    ถึงเวลาตามบ้านของเขาคือ 22.30 น. แต่ทันทีที่นอนหลับแล้วเขารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองยืนอยู่ บนถนนอิฐสีเทาในยามเช้าตรู่ บ้านเรือนดูแปลกตาไปจากที่เขาเคยเห็น ความรู้สึกของสายลมพัดผ่านมันช่างดูแตกต่าง ชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาในเกมส์ครั้งแรก ถึงจะศึกษาข้อมูลมาดีแค่ไหนก็อดประหลาดใจไม่ได้ เดินเลียบๆเคียงๆไปจับๆลูบๆสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆตัวทั้งหลาย ความรู้สึกที่ได้รับรู้มันคือความจริงชัดๆ


    ถ้าไม่ติดว่าบรรยากาศโดยรอบมันหลุดเข้ามาในโลกแฟนตาซีเต็มรูปแบบเขาไม่มีทางรู้เลยว่านี่เขาหลับอยู่ในโลกแห่งความจริง เมื่อมองไปอีกด้านของเมืองก็พบยอดเขาสูงเสียดฟ้ากว้างจนสุดสายตาจากตะวันออกจรดขอบฟ้าด้านตะวันตกราวกับกำแพงขนาดยักษ์


    เมื่อไล่สายตาลงมาก็พบปราสาทที่ฝังตัวเข้าไปด้านในหุบเขาแห่งนั้น แต่ก่อนที่เขาจะได้สำรวจอะไรมากไปกว่านี้ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงของสาวน้อยคนหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างออกไปกำลังโวยวายอยู่คนเดียว


    "Oh my god !! How dare you! มาหลอกคนฉลาดอย่าง me ได้ยังไง!!"

    เสียงแหลมปรี๊ดที่ดังมาจากสาวน้อยผมสีทองตาสีฟ้าในชุดกระโปรงบานฟูฟ่องมีลูกไม้ประดับ ดูยังไงก็คุณหนูชัดๆ กำลังโมโหอะไรบางอย่างโหวกเหวกโวยวาย และที่สะดุดตาก็คือไม้เท้าในมือเธอมันดูวิจิตรอลังการหรูหราไฮโซยิ่งนัก


    อนุสติตะโกนก้องบอกกับตัวเองว่าถ้าไม่รีบชิ่งออกจากตรงนี้เรื่องซวยๆได้มาหาเขาแน่ๆ ขณะที่กำลังจะหันหลังออกเดินอะไรบางอย่างก็ลอยมาจากด้านหลัง เมื่อชายหนุ่มหันกลับไปมองก็พบไอ้ไม้เท้าไฮโซอันนั้นลอยลิ่วเข้ามายังใบหน้าของเขา


    "ชิบหายแล้ว!!"

    ชายหนุ่มร้องในใจพลางทิ้งตัวลงหมอบกับพื้นเพื่อหลบความหายนะที่ลอยมาเข้าหัวของเขา

    ปึก!!

    เสียงไม้เท้าไฮโซอันนั้นกระแทกกำแพงเสียงดังลั่น ชายหนุ่มในชุดเริ่มต้นเสื้อและกางเกงหนังสีน้ำตาลลุกพรวดแล้วมองไปจากต้นตอของไม้เท้าไฮโซที่ลอยมานั่น


    "นี่!! ถ้าโดนเข้าไปมันเจ็บนะ ถึงจะเป็นเกมส์แต่ถ้าโดนมันก็เจ็บจริงนะ!!" ชายหนุ่มพูดใส่ทันทีอย่างอารมณ์ขึ้น

    สาวน้อยคนนั้นจ้องหน้าเขา "นายไปเก็บไม้เท้าอันนั้นให้ชั้นหน่อยสิ"


    คำตอบจากสาวน้อยผมทองตาฟ้าทำเอาชายหนุ่มใบ้แดก อารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นดับวูบเพราะเขารู้ทันที่เลยว่าคุณหนูแบบนี้ต่อล้อต่อเถียงไปมีแต่ขาดทุนกับขาดทุน ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ

    "โอเคได้"


    ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปคว้าไม้เท้าไฮโซ อันนั้นแล้วชูขึ้นให้สาวน้อยผมทองคนนั้นเหมือนจะถามว่าอันนี้ใช่หรือเปล่า ซึ่งสาวน้อยผมทองตาฟ้าคนนั้นก็พยักหน้าหงึกๆเป็นการตอบรับ

    "แต่ชั้นไม่ได้บอกนะว่าพอเก็บได้แล้วชั้นจะส่งคือให้เธอ" ชายหนุ่มแสยะยิ้มแล้วปาไม้เท้าไฮโซอันนั้นออกไปสุดแรงเกิด


    ขณะที่สาวน้อยคนนั้นมองตามไม้เท้าของเธอที่ลอยลิ่วไปทางหนึ่ง ร่างของชายหนุ่มก็กระโจนหายเข้าไปในตรอกแคบๆอีกทางหนึ่งที่หมายตาไว้แล้ว

    "ยายคุณหนูหวังว่าอย่าได้เจอกันอีกตลอดกาลเลยนะ ให้รู้ซะมั่งเล่นกะใครไม่เล่น ฮ่าๆ"



    จากนั้นชายหนุ่มก็เดินดุ่มๆสำรวจไปทั่วเมือง สิ่งที่เขาได้รับรู้อีกอย่างหนึ่งก็คือ NPC ภายในเกมส์นี้กับผู้เล่นเขาแทบจะแยกกันไม่ออกเพราะการพูดคุยการตอบโต้ของ NPC เรียกได้เลยว่ามันแทบไม่ต่างจากคนธรรมดา ไม่ใช่พูดซ้ำๆซากๆเหมือนในเกมส์ที่เขาเคยเล่น


    หลังจากสำรวจอยู่พักใหญ่ ในที่สุดชายหนุ่มก็เดินมาถึงประตูตะวันออกของริมุเน่ ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่มีชายป่าอยู่ห่างออกไปลิบๆทำเอาชายหนุ่มยืนมองอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่ามันจะกว้างใหญ่และสมจริงขนาดนี้ สายลมที่พัดเอากลิ่นของหญ้าและความสดชื่นของละอองน้ำค้างที่ยังไม่โดนแสงแดดแผดเผาจนระเหยเป็นไอไปหมด


    "มันยังมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านี้อีกนะนาย" เสียงของใครบางคนลอยมาจากด้านหลังแล้วเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆเขา


    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มซอยสั้นไล่วอลุ่มด้านข้างและด้านหลัง ปรอยผมด้านหน้าระคิ้ว ดวงตาเรียวดำ รูปหน้าเล็กมน อยู่ในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาเข้ารูปพับแขนขึ้น ระดับศอกปล่อยชายเสื้อและปลดกระดุมสองเม็ดบน เห็นเสื้อกล้ามคอต่ำสีดำด้านในปล่อยชาย กางเกงขายาวสีขาวเข้ารูปแต่ไม่รัด รองเท้าหนังแบบเชือกผูกสีดำ เข็มขัดหนังสีดำหัวเข็มขัดเงิน มีผ้าคลุมสีหม่นคลุมทับไว้อีกที


    "ปกติผมว่าพี่หน้าตาโครตเกย์ มาอยู่ในเกมส์ก็เกย์เหมือนเดิมเลยนะพี่คีน"


    ป๊อก!!

    ดาบไม้ที่เหน็บอยู่ข้างเอวของชายหนุ่มในผ้าคลุมสีหม่นถูกหยิบขึ้นมาเคาะหัวเจ้าคนที่เพิ่งเข้าเกมส์มา "ปากหมาเหมือนเดิมนะนาย อยู่ในนี้เขาเรียกกันโดยใช้ Code Name เป็นหลักส่วนใหญ่เขาจะไม่แนะนำชื่อกัน"

    คนที่โดนดาบไม้เคาะถึงมันจะไม่แรงแต่ก็เล่นเอารู้สึกอยู่เหมือนกัน ลูบหัวตัวเองเบาๆ

    "มันเจ็บนะ แล้วพี่ใช้ Code Name อะไรล่ะผมใช้ Guvhan "

    ชายหนุ่มในผ้าคลุมสีหม่นเอาดาบไม้พาดบ่าพยักหน้างึกๆ "Guvhan อย่างนั้นรึพี่ใช้ Code Name Keene"

    "ถุย!!! โครตสิ้นคิดเลยพี่คีน"

    "เสียมารยาทว่ะนายมันต้อง`ขาก´ก่อน 3 วิ" Keene ส่ายหน้าจุ๊ปาก

    แล้วจู่ๆก็มีหน้าต่างปรากฏตรงหน้า Guvhan





    Guvhan ตอบตกลงในทันที "ยังไงยังต่ออ่ะพี่คีน?"

    "รอแปป เดี๋ยวมีเพื่อนจะมาสมทบอีกสองคน ก่อนอื่นล้วงไปในกระเป๋าเริ่มต้น เอาของออกมากองตรงหน้าให้หมด"


    ไพ่ 2 สำรับ ยาฟื้นพลังขนาดเล็ก 5 ขวด และ การ์ดใสๆอีก 5ใบ


    "ไพ่? นี่แกเลือกจ๊อบกะคลาสอะไรมาวะเนี่ยประหลาดแท้" Keene เอียงคอมองอาวุธเริ่มต้นตรงหน้าอย่างสนใจ

    "คลาส นักเวท จ๊อบ นักพนัน" Guvhan ตอบขณะเอาไพ่ทั้ง2สำรับนั้นขึ้นมาคลี่ๆดูก็พบว่า สำรับแรกเป็นไพ่ป๊อกธรรมดาๆ ส่วนอีกสำรับเป็นไพ่ทาโรต์



    "บ๊ะ... มีไพ่ด้วย ตั้งวงกันดีกว่า"


    เสียงของหนึ่งในสองชายหนุ่มที่เดินตรงเข้ามาหาเขาเอ่ยทักขึ้น ด้วยใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคยผมยากปรกหน้าปัดข้างอยู่ในชุดมอๆเสื้อสีดำทับด้วยเกราะโซ่ถัก กางเกงยีนส์สีเดียวกันและสนับแขน คลุมด้วยผ้าดิบสีมอๆผืนใหญ่ยาวจรดข้อเท้า เหน็บดาบยาวปลอกดาบรมควันสีดำด้าน


    ส่วนอีกคนที่เดินมาด้วยกันผมกระเซิงๆหน้าตามึนๆ ใส่เสื้อยืดสีดำคลุมทับด้วยเสื้อผ้าหนาแขนยาวสีน้ำเงินสดพับแขนขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มกับรองเท้าเดินป่า ถือดาบญี่ปุ่นขนาดพอดีกับตัวเขาปลอกดาบทำจากไม้ขัดมันสีดำสนิทเงาแว๊บ ด้ามดาบพันด้วยเชือกถักสีแดงสะดุดตา


    "พี่ซีเกมส์ พี่จ้อย มิน่าล่ะพี่คีนชวนแกมบังคับยิกๆให้มาเล่นเกมส์นี้" Guvhan ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น


    "บ๊ะ! ไอ้มีนน้องรัก แกอยากกินข้าวไม่ได้สักสี่ห้าวันมั๊ย ? บอกกี่ครั้งแล้วอย่าเรียกชื่อเล่นตรู"

    "ชื่อมันโหลอ่ะสิพี่เกมส์"

    นักพนันมือใหม่แห่ง FIO พนักหน้าหงึกหงักพึมพำออกมาเสียงไม่ดังมากแต่มันก็พอที่จะได้ยิน ซึ่งเป็นอันรู้กันว่านี่เป็นการตั้งใจกวนอวัยวะเบื้องต่ำของคู่สนทนา

    แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะต่อปากต่อคำกันมากไปกว่านี้ คีนที่ยืนอยู่ก็ห้ามทัพ


    "หึ หึ หึ บอกแล้วมันจะเร้าใจกว่าที่นายคิดเยอะ เฮ้ยพี่จ้อย ไอ้เกมส์ ไอ้นี่มันใช้ Code Name Guvhan ว่ะ"

    จากนั้นไม่นานหน้าต่างแบบเดียวกับเมื่อกี้ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้ามือใหม่แห่งFIOอีกครั้ง












    "เอ-เซ-แม๊ก-แมค-โด-เวล ไอ้ Code Name ยาวเป็นหางว่าวแบบนี้ของพี่เกมส์สินะ งั้นถ้าพี่ไม่อยากให้เรียกชื่อเล่นอันโหลๆของพี่งั้นผมเรียกพี่ตาม Code Name แบบที่เขานิยมละกันนะพี่"

    "ยาวๆแบบนี้ของเรียกครึ่งเดียวนะ เอเซแม๊ก หรือ แมคโดเวล ดีล่ะพี่?" นักพนันมือใหม่จงใจเน้นคำในการอ่าน Code Name ของคนตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งๆดูกวนประสาท กวนอวัยวะเบื้องต่ำเป็นที่สุด


    "แม่ว้อย ถึงจะLV.1 แต่สกิลความกวนตีน เมิงเอา Rank SS ไปเลยไอ้มีน ตรูไม่เล่นเถียงกะเมิงละ ไร้ประโยชน์พอๆกับเถียงกะศาสดาของเมิงไอ้ Keene เลย จะเรียกชื่อต้นชื่อท้ายก็ตามใจเถอะครับพ่อคุณ" Azemag โคลงหัวดิกกับความยียวนของรุ่นน้องเขา

    Guvhan ยิ้มแฉ่งในความสำเร็จของเขาแล้วหันไปมองยังชายหนุ่มอีกคนที่ยืนหัวยุ่งทำหน้ามึนๆอยู่" Taka นี่พี่จ้อยสินะ ?"


    เจ้าตัวยิ้มบางๆแล้วสวนกลับมาทันที"Taka ที่เมิงว่ามันคือผีเสื้อแถวนี้มั๊งไอ้มีน โน่นเกาะอยู่ตรงขาไอ้ Keene โน่น"

    แต่คนที่สะดุ้งโหยงกลับไม่ใช่คนที่โดนสวนกลับอย่างนักพนันมือใหม่ แต่เป็น Keene ที่กลัวไอ้สิ่งที่ Taka เอ่ยถึงแบบจับใจ

    "เชี่ย!! พี่จ้อยไหนวะ" Keene ลุกลี้ลุกลนมองซ้ายมองขวาเลิกลั่ก

    Taka ยังคงทำหน้ามึนยิ้มบางๆ "ก็แค่เปรียบเทียบอย่าปอดแหกสิวะ อายรุ่นน้องบ้าง”

    “นี่ Guvhan เรียก Code Name เลยละกันนะจะได้ชินๆ อ่านคู่มือของผู้เริ่มต้นมาแล้วใช่มะ?"

    คนถูกถามว่าเป็นมือใหม่ของเกมส์นี้พยักหน้างึกๆ

    "ก่อนอื่นต้องรู้ Code Name ของคนที่อยากจะขอเป็นเพื่อน ชวนเข้าปาร์ตี หรือเข้าแคลน นี่เป็นเหตุผลทำไมนิยมเรียก Code Name แทนชื่อกัน"

    "เกมส์นี้มีเลเวลก็จริง แต่ทักษะทุกอย่างทั้งทักษะพื้นฐานหรือทักษะเฉพาะมีเงื่อนไขในการได้รับ และมันไม่เคยแจ้งเราเวลาได้รับทักษะใหม่หรือทักษะเลื่อนระดับ และเมื่อถึงจุดหนึ่งเงื่อนไขในการเลื่อนระดับจะเกี่ยวข้องกับภารกิจต่างๆในเกมส์นี้"

    "เวลาต่อสู้กันจริงๆ เลเวลจึงไม่ใช่ตัวหลักในการส่งผลแพ้ชนะแต่เป็นไหวพริบในการใช้ทักษะและอาวุธต่างๆในมือให้เกิดผลสูงสุด ศัตรูทุกตัวรวมไปถึงผู้เล่นต่างอิงหลักกายวิภาคจริงๆ เช่น ร่างกายคนหรือมอนสเตอร์ที่รูปร่างใกล้เคียงมนุษย์ โดนจุดดับต่างๆเช่น กกหู ก้านคอ ต่อให้ Lv.100 โดนจังๆก็มีเอียง"

    "นอกจากนี้ยังเรื่องของความหิว สภาพผิดปกติของร่างกายหรือความเหนื่อยล้าเข้ามาประกอบด้วย ไม่ใช่สู้มอนสเตอร์หกชั่วโมงติดก็ไม่เหนื่อยไม่หิว ซึ่งมันไม่ใช่ในเกมส์นี้ ฉะนั้นน้ำดื่มและเสบียงต้องพร้อม หลายคนอาจมองข้ามแต่มันจำเป็นมาก" Taka ผู้มีอาชีพเป็นนักสำรวจอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับเกมส์นี้

    Keene ที่ตรวจดูรอบๆอยู่ว่าไม่มีไอ้ตัวที่เขากลัวจริงๆตามที่ Taka บอกก็ช่วยเสริมมาว่า

    "มันก็ต้องดูเครื่องป้องกันของฝ่ายตรงข้ามด้วย บางคนมันล่อสายป้องกันเต็มรูปแบบเกราะหนักทั้งตัว โดนมังกรพุ่งชนเต็มๆมันยังยืนนิ่ง ถ้าเจอแบบนี้ก็ต้องหาวิทีอื่นเก็บมันเช่นเวทหรือทักษะพิเศษ การต่อสู้ในเกมส์นี้มันต้องใช้ทุกอย่างประกอบกันถึงจะเอาตัวรอดไปได้"

    Guvhan มือใหม่แห่ง FIO ทำหน้าทึ่งๆ "มันสมจริงขนาดนั้นเลยหรือพี่?"

    ทั้งสามคนที่ยืนอยู่พักหน้าหงึกๆ Azemag เดินไปหยิบการ์ดใสๆขึ้นมาแล้วส่งให้นักพนันมือใหม่ตรงหน้า

    "การที่แกจะรอดหรือไม่รอดในเกมส์นี้มันขึ้นอยู่กับไอ้การ์ดใสๆนี่แหละ มันคือ `การ์ดแสกน´ ที่ไว้ใช้บอก สถานะต่างๆของทุกอย่างภายในเกมส์ที่แกอยากรู้ แต่มันมีเงื่อนไขสำหรับมอนสเตอร์และผู้เล่น"

    "มันจะสามารถแสกนมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าผู้ใช้การ์ดไม่เกิน 10 Lv. เท่านั้น แต่ถ้าต่ำกว่าหรือเท่ากันไม่เป็นปัญหา มันจะบอกรายละเอียดของมอนสเตอร์ตัวนั้นๆออกมา แต่ถ้าเมื่อไรแสกนไปแล้วมันขึ้นแค่ชื่อของมอนสเตอร์สีแดงเพียงอย่างเดียวแล้วล่ะก็เตรียมตัววิ่งตับแหกได้เลย เพราะมันมีเลเวลมากกว่าคนแสกนอย่างต่ำ10 Lv. ขึ้นไป ขืนชักช้าอาจไปนอนดมพื้นก็เป็นได้"

    "แต่สำหรับผู้เล่นไม่ได้จำกัดเลเวลในการแสกน แต่ต้องได้ยืนยันขอเป็นเพื่อนกันก่อนเท่านั้นเอง เอาลองดูแสกนพวกตรูสามตัวนี่แหละง่ายดี"

    "ใช้ไงอ่ะพี่ Azemag" นักพนันมือใหม่ทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก

    "เมิงนี่ฟายจริงๆ ไหนบอกอ่านคู่มือแล้วไง? แค่ชูไปทางสิ่งที่เมิงอยากจะรู้จักมันแล้วก็คิดในใจเอาเลย เกมส์นี้โคตรสบาย จะใช้อะไรพวกนี้คิดในใจเอาเลย แต่พวกทักษะต่างๆเวลาใช้ต้องแหกปากเรียกใช้" แล้ว Azemag ก็ชูการ์ดใสในมือไปทางนักพนันมือใหม่แล้วรายละเอียดต่างๆก็ปรากฏขึ้น





    Guvahn รับการ์ดที่แสดงรายละเอียดตัวเขามาดูแบบสนอกสนใจแล้วเอาการ์ดเปล่าขึ้นมาสามใบทำตามคำแนะนำที่ได้รับก็ปรากฏรายละเอียดของคนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสามคน













    "นักรบรับจ้าง นักสำรวจ ผมยังพอเข้าใจ แต่ไอ้นักสะกดจิต ? นี่มันมีอาชีพประหลาดๆแบบนี้ด้วยหรือพี่ มันออกจะหลุดสามัญสำนึกของคนเล่นเกมส์ไปหน่อยนะพี่ Keene"

    หลังจากเห็นแว่บแรก นักพนันมือใหม่หันขวับไปหาเจ้าของอาชีพสุดประหลาดอย่างนักสะกดจิตหนุ่ม Keene ทันที


    "ฮ่าๆ มันแปลกตรงไหนวะ สายอาชีพและคลาสในเกมส์นี้มันไม่มีข้อจำกัดอะไรสักหน่อย บางอาชีพที่ไม่เคยคิดว่าจะมีมันก็มีให้เลือกดูอย่างแกเด๊ะ"

    "หัดเล่นใหม่ดันเล่นเลือกอาชีพโคตรวัดดวงอย่างนักพนันมาเลย ถึงจะไม่รุ่งนายก็ยังมีโอกาสรับภารกิจเพื่อเปลี่ยนสาย Class และ Job ได้อยู่ดีถ้าเกิดนายไม่พอใจในสิ่งที่นายเลือกตอนต้นเกมส์" Keene ยักไหล่ตอบคำถามอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก

    "งั้นรึ" นักพนันมือใหม่พยักหน้าหงึกๆ

    "แต่เอ..... ถ้าจำไม่ผิดผมได้ข่าวว่าพวกพี่เล่นเกมส์นี้มาตั้งแต่เปิดเซิร์ฟเวอร์เมื่อครึ่งปีก่อนไม่ใช่รึ ? ทำไมเลเวลเพิ่งอยู่ที่ 50 นิดๆเองล่ะพี่? เห็นว่าพวกระดับท็อปที่เล่นตั้งแต่เปิดเซิร์ฟเวอร์ เลเวลทะลุ 80 กันหมดแล้วนะพี่ เห็นว่าบางคนเลเวลเกิน 100 ไปแล้วด้วย" Guvhan ขมวดคิ้วมองการ์ดในมืออย่างแปลกใจ

    ทั้ง Keene Azamag และ Taka มองหน้ากันเองแล้วหัวเราะออกมาแห้งๆ


    "ก็ไม่มีเวลาไปเก็บเลเวลเป็นชิ้นเป็นอันกับเขานี่หว่า ปกติมันไม่ค่อยจะมีกินก็เลยต้องรับภารกิจเพื่อปากท้องเป็นหลัก แล้วไอ้เกมส์นี่มันโรคจิตสุดลิ่มทิ่มประตูระหว่างทำภารกิจ นอกจากของรางวัลที่ได้ตอนจบภารกิจแล้ว ตั้งแต่รับยันส่งภารกิจไม่ได้ค่าประสบการณ์ซักแต้ม พวกตรูเลยดองเค็มอยู่ที่ 50 นี่แหละ" Azemag หัวเราะพลางมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย

    "เพราะเมิงไงไอ้เกมส์ กรูบอกแล้วว่าอย่าขยันเข้าบ่อนนัก" Keene อดไม่ได้ที่จะเหน็บสหายนักรบรับจ้างผู้เสพติดการพนันเป็นชีวิตจิตใจ

    "กวย! เมิงอ่ะตัวดีอ่ะไอ้ Keene ไม่ต้องทำมาพูดดี งานไหนงานนั้นเข้าบ่อนที่ไรเมิงนี่ตัวดีแทงเอาแทงเอาไม่หมดไม่เลิก" Azemag สวนกลับสหายจอมเวทนักสะกดจิตทันควัน

    ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเถียงกันอย่างเมามัน นักดาบหัวยุ่งหน้ามึนก็เดินมาตบบ่า Guvhan

    "อย่างที่บอกแล้วในตอกแรกว่าเกมส์นี้เลเวลมันไม่ใช่เครื่องชี้วัดทุกอย่าง ถึงตอนทำภารกิจจะไม่ได้ค่าประสบการณ์ซักแต้ม แต่ทักษะต่างก็พัฒนาไปเรื่อยๆถ้าครบเงื่อนไข"

    "รวมไปถึง Item ต่างๆก็ยังตกตามปกติให้เอาไปใช้หรือขายทอดตลาด เปลี่ยนเป็นเงินให้ไอ้พวกนี้ไปเผาที่บ่อนหมดตัวทุกทีล่ะนะ แล้วที่สำคัญที่สุดคือประสบการณ์ของผู้เล่นที่ได้จากการทำภารกิจนี่แหละคือสิ่งที่คุ้มค่าจากการรับภารกิจ"

    แต่ก่อนที่ทั้ง 4 คนจะได้พูดคุยอะไรกันต่อก็มีเสียงดังก้องมาจากท้องฟ้ารวมถึงหน้าต่างระบบก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของทุกคน





    "เฮ้ย!!! งานงอก" Azemag เป็นคนแรกที่ร้องออกมาหลังจากประกาศจบ

    Keene เดินมาตบบ่านักพนันมือใหม่หนักๆจนเจ้าตัวเซ "เฮงซวยเป็นบ้าเลย เก็บของทั้งหมดใส่กระเป๋าได้และสิ่งที่นายต้องทำให้ได้ก็คือเอาตัวรอดให้ได้ไม่โดนทุบกลับไปนอนโรงพยาบาล"

    หน้าต่างบางอย่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า Guvhan อีกครั้ง





    ซึ่งนักพนันมือใหม่ตอบรับคำเชิญอย่างไม่ลังเล "นอนโรงพยาบาลนี่มันหมายถึงโดนฆ่าตายระหว่างต่อสู้ใช่ไหมพี่ ? เห็นคู่มือเขาบอกไว้ว่ามันเลวร้ายเกินจะบรรยายเลยนี่"

    Azemag แสยะยิ้ม "บ๊ะ!! มันเลวร้ายกว่าที่นายจะจินตนาการเยอะไอ้น้องรัก"

    "หวังว่ากิจกรรมซังกะบ๊วยนี่มันจะไม่ยืดเยื้อเหมือนคราวที่ `เวลเจ´นะ" Taka เอาดาบญี่ปุ่นในมือพาดบ่าอย่างไม่อาทรร้อนใจผิดกับสภาพในเมืองที่วุ่นวายเหลือเกิน

    มือใหม่ของเกมส์นี้อย่าง Guvhan ไม่รู้ว่าทำไมคนในเมืองถึงร้อนรนกันนัก ประตูเมืองถูกปิดลงอย่างรวดเร็วนั่นหมายความว่าพวกเขาทั้งสี่คนถูกขังไว้นอกเมืองไม่มีทางที่จะถอยเสียแล้ว

    จู่ๆกลิ่นอับๆเหม็นสาบของอะไรบางอย่างก็ลอยมาตามสายลม ความรู้สึกกดดันจนแทบไม่มีแรงจะยืน ความกลัวถาโถมเข้าใส่นักพนันมือใหม่จนแทบจะล้มลง ถึงเขาจะรู้ว่าเกมส์นี้มันสมจริงมากแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะมากขนาดนี้ ในสายตาของเขาเวลานี้ภาพที่เห็นมันมีแต่กองทัพโครงกระดูกนับร้อย

    ไม่ใช่สินับพันต่างหาก

    จู่ๆก็มีก้อนหินสีฟ้าสุกใสถูกโยนมาตกตรงหน้าเขาพร้อมๆกับปรากฏโดมแสงขนาดพอดีตัวครอบเขาไว้



    "ขอวิงวอนแด่เทพแห่งแสงขอหยิบยืมเศษเสี้ยวหลังแห่งท่านปกป้องพวกพ้องของข้าให้พ้นจากอันตรายทั้งปวง Convexum Lumen!!"





    "มุขหาแดกใช้เวทโดมแสงสินะว่าแต่ว่าเวทนี้ของเมิงอยู่ได้กี่นาทีวะ Keene ?" Azemag ดึงดาบที่เหน็บอยู่ข้างตัวมาถือไว้อย่างทะมัดทะแมง

    ดาบไม้คู่มือของ Keene ถูกกระชับอยู่ในมือเจ้าของอย่างเตรียมพร้อม พลางนับนิ้วเพื่อตอบคำถามของสหาย "ตอนนี้มันอยู่ในRank B+ น่าจะได้ราวๆ15-18 นาที ไม่เกินนี้"

    "งั้นเมิงก็นั่งเล่นไปก่อนนะ Guvhan จนกว่าอาณาเขตจะหายไปละกันนะเจ้าน้องชาย" นักรบรับจ้าง Azemag ทดลองแกว่งดาบในมือด้วยท่าทางสนุกสนาน

    "แล้วถ้าภารกิจมันไม่จบภายใน 15-18 นาทีล่ะ ?" นักสำรวจ Taka ที่ยังคงเอาดาบญี่ปุ่นในมือพาดบ่าด้วยท่าทีสบายๆถามมาตรงๆ

    "ก็แผนBไงพี่" Keene ตอบสวนกลับมาแบบไม่ต้องคิด

    "บ๊ะ ทำไมกรูไม่ซื้อหวยแล้วถูกอย่างนี้บ้างวะ แผนB เผ่นป่าราบทั้งปีอ่ะเมิง" นักรบรับจ้างพูดจบแล้วก็วิ่งนำเข้าไปปะทะกับฝูงผีดิบ



    "Voces Avium วิหคสายฟ้าเอ๋ยจงมาสถิตยังศัสตราวุธแห่งข้า"



    จบประโยคดาบในมือAzemag เปล่งแสงสีเขียวอ่อน





    พริบตาถัดมาก่อนที่นักรบรับจ้างเลือดร้อนจะได้ทำอะไรเจ้าฝูงโครงกระดูกตรงหน้า จู่ๆท้องฟ้ารอบด้านก็ดำมืดด้วยเมฆฝนแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ นักรบรับจ้างหันขวับไปก็เจอเพื่อนจอมเวทนักสะกดจิตถือดาบไม้ที่เขารู้ดีว่าสหายกำลังร่ายเวทกวาดล้างที่ถนัดที่สุดอยู่

    "ไอ้เจี้ย Keene !!!" Azemag แหกปากสุดเสียงเบรกตัวโก่งแล้วหันหลังวิ่งกลับทันทีเพราะเขารู้ว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น



    "อัสนีบาตเอ๋ยจงช่วยรักษาเหล่าผู้ป่วยที่หลงทางด้วยเถิด Electroconvulsive!!!"





    อัสนีบาตนับร้อยสายฟาดลงจาจากกล่มเมฆฝนเหล่านั้นกวาดล้างทุกอย่างที่อยู่ในอาณาเขตรวมไปถึงสหายนักรบรับจ้างที่กระโดดหลบสายฟ้าราวกับเล่น Mini Game และทันทีที่พ้นอาณาเขตของสายฟ้า Azemag หันหลังหลับไปเผชิญหน้าฝูงโครงกระดูกที่เหลืออีกครั้งดาบในมือถูกง้างขึ้น แสงสีเขียวจางๆสว่างขึ้นรอบดาบในมือจนเห็นได้ชัด



    "สายลมศักดิ์สิทธิ์จงปัดเป่าอริร้ายให้พินาศสิ้น Vento Sancti!!!"





    คมดาบสุญญากาศพุ่งเข้าฉีกเหล่าโครงกระดูกเดนตายที่ดาหน้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายหายไปทั้งแถบ แต่ถึงกระนั้นกองทัพโครงกระดูกก็ไม่ได้สะทกสะท้านใดๆกับทั้งสองสกิลกวาดล้างที่ถูกใช้ไปแม้แต่น้อย ยังคงดาหน้าเข้ามาด้วยความเร็วปกติซึ่งกะด้วยระยะสายตาจากจุดที่พวกเขายืนอยู่มันจะแห่เข้ามารุมทึ้งภายในไม่เกิน สิบนาทีนี่แหละ

    "ท่าทางงานใหญ่จะเข้า ใช้แผน B เดี๋ยวนี้ได้เลยมั๊ยวะ Keene" Azemag ตอนนี้ถอยมายืนอยู่ข้างๆจอมเวทนักสะกดจิตที่ยืนยิ้มเลี่ยนๆ

    "คงจะไม่ได้ล่ะนะสหายเพราะ Convexum Lumen จะไม่สามารถเอาคนข้างในออกมาได้ก่อนผลของทักษะจะหมดไป ถ้าจะไปก็ต้องทิ้งไอ้มีนไว้ที่นี่ นายจะทำอย่างนั้นรึ ?"

    "บ๊ะ!! สกิลมันดาบสองคมจริงๆ นี่สหาย Taka ไม่คิดจะช่วยหรือออกความเห็นอะไรเลยเรอะ?" นักรบรับจ้างหันไปถามยังนักดาบผมยุ่งที่ยืนเอาคาตานะพาดบ่าทำหน้ามึนอยู่

    "ก็เห็นคึกคักกันออกไม่ใช่เรอะ ถ้าเก็บไม่หมด ถอยไม่ได้คำตอบมันก็มีอยู่ทางเดียวไม่ใช่รึ ก็อย่างที่เคยทำน่ะแหละ ไม่มันตายก็เรากลับไปนอนโรงพยาบาลกันยกกลุ่ม ตรูขอยืนปักหลักนิ่งๆตรงนี้แหละขี้เกียจวิ่งว่ะ เพราะยังไงมันก็แห่เข้ามาหาอยู่ดี ยังไม่ชินอีกเรอะ" Taka ตอบกลับมาเรียบๆ

    "บ๊ะ!! หน้ามึนๆแต่ความคิดล้ำลึก ก็จริงของเมิง งั้นอีกราวๆสิบกว่านาทีสินะที่ไอ้เวทโดมแสงของไอ้ Keene จะหมดลง พอหมดปุ๊บหิ้วคอไอ้ Guvhan นี่เผ่นทันทีเลยสินะ"
    นักรบรับจ้างหนุ่มใช้สองมือจับดาบของเขามั่น หันหลังให้กับนักพนัมมือให้ที่ยังไม่ทันที่จะเริ่มเล่นเกมส์เลยก็ตกอยู่ในสถานการณ์จนตรอกซะแล้ว

    Guvhan ที่อยู่ในโดมได้แต่มองซ้ายมองขวาเลิกลั่กทำอะไรก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่สิ เขาไม่จู้ว่าจะต้องทำอะไรต่างหาก ซึ่ง Keene เห็นดังนั้นเลย อดที่จะแหย่ไม่ได้

    "นายท่าทางจะงงนะเนี่ย เอาล่ะมีเวลาให้คิดราวๆสิบกว่านาทีว่านายจะเล่นเกมส์นี้เก็บเลเวลตามตำราเล่นแบบธรรมดา หรือ จะเล่นเกมส์นี้แบบนอกคอกเลเวลดักดานไปที่ไหนรับภารกิจอะไรก็มีแต่ความหายนะติดตัวไปทุกทีเพราะแคลนที่อยู่ปัจจุบัน เนี่ยมันโดนสาปไว้"

    นักพนันมือใหม่ของเกมส์นี้เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย "โดนสาป?"

    แทนที่ Keene จะเป็นคนตอบ แต่เป็น Taka ที่เวลานี้เอาคาตานะที่พาดบ่ามากระชับอยู่ในมือพร้อมจะต้อนรับไอ้ฝูงโครงกระดูกที่แห่เข้ามาเป็นคนตอบคำถามแทน

    "คำสาปที่ว่าก็คือภารกิจRank SS ที่มีเงื่อนไขว่า สมาชิกทุกคนในแคลน เมื่อใดก็ตามก็ตามที่ได้รับภารกิจ หรือเข้าร่วมภารกิจใดๆก็ตาม ภารกิจเหล่านั้นจะถูกปรับเป็นระดับยากที่สุดของภารกิจนั้นๆ แล้วถึงนายเลือกที่จะเก็บเลเวลโดยไม่รับภารกิจสมาชิกก็มีโอกาสที่จะสุ่มพบศัตรูที่ระดับสูงกว่าตนเองเสมอ โดยไม่เลือกเวลาและสถานที่"

    "แต่ถ้าไม่เจอก็แสดงว่าแถวๆที่ไปเก็บเลเวลนั้นไม่มีศัตรูที่ระดับสูงกว่าแล้ว ซึ่งเงื่อนไขที่จะผ่านภารกิจนี่ก็คือ สมาชิกแคลนทุกคนทำภารกิจภายในเกมส์นี้รวมกันครบ 999 ภารกิจ ปัจจุบันก็ยังไม่ผ่านกันเลยเพราะไม่มีใครเคยนับว่า แต่ละคนทำไปแล้วกันคนละกี่ภารกิจ"

    "อยากจะบอกว่านี่แหละคืออีกหนึ่งเหตุผลที่เลเวลพวกตรูมันไม่ขยับกันซักที แล้วไอ้เกมส์โรคจิตนี่ดันไม่ให้ยกเลิกภารกิจนี้ด้วย เพราะไอ้ Keene คนเดียวเลยเห็น NPC สาวมาขอร้องไม่ได้ ตกลงยันเตตลอด" Azemag เสริมมาพลางชูนิ้วกลางให้เพื่อนนักเวทของเขา

    "ทำไงได้ก็คนเขาเป็นสุภาพบุรุษนี่นา คิดดูดีๆนะนายถ้าเข้าแคลนมาแล้วกว่าจะลาออกได้ตั้งสามวันจริงๆ หรือสามสัปดาห์ในเกมส์นี้เลยนะกว่าจะเข้าแคลนใหม่ได้" Keene ตอบกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้านในคำเหน็บแนมของสหาย

    "ไม่ต้องเข้าแคลนก็ได้พวกเราก็ยังช่วยซัพพอร์ทนายอยู่ดีน่ะแหละ" Taka ที่เป็นหัวหน้าแคลนเพราะเล่นไพ่แพ้พวกมันสองตัวเอ่ยเสริมขึ้นอีกคน

    นักพนันมือใหม่มองรุ่นพี่ที่ยืนอยู่รอบๆตัวเขาเตรียมรับมือไอ้ฝูงปีศาจตรงหน้าโดยไม่มีท่าทีหวาดหวั่นแม้แต่น้อย แล้วหันกลับไปมองผู้เล่นที่อยู่บนกำแพงเมืองที่มีท่าทีเลิกลั่ก หวาดกลัวเช่นเดียวกับเขาตอนนี้ แทบไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยากเลย

    รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้าของ Gvhan
    "งั้นผมเลือกข้อหลังเข้าแคลนพวกพี่เล่นเกมส์นี้แบบนอกคอกLv.ไม่กระดิกโดยไม่ลังเลเลย"

    ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ละสายตาจากฝูงโครงกระดูกตรงหน้าหันกลับมามองนักพนันมือใหม่ที่อยู่ในโดมแสงด้านหลังไม่พูดอะไร แต่ชูนิ้วโป้งขึ้นทั้งสามคน พร้อมๆกับหน้าต่างที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของ Guvhan





    ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่หมอนี่เลือกที่จะตอบรับโดยไม่ต้องหยุดคิดแม้แต่นิดเดียว





    และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นเกมส์Fantasy Inside Online ของหนุ่มน้อยที่ชื่อว่า`มีนา´ กับตัวละคร Guvhanที่จะถูกผู้เล่นในเกมส์เรียกขนานนามว่า `นักพนันผู้มากับความหายนะ´ แต่มันก็เป็นเรื่องราวในอนาคตล่ะนะ​

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ห้องรับแขกกับอีตานักเดินทาง

    ในที่สุดบทโหมโรงก็ได้ออกมาซักทีซึ่งที่เขียนก็ไม่มีอะไรมากเพราะเคยทำล่มชิบหายไปรอบนึงแล้ว เลยเอาของเก่ามาแก้ใหม่ให้มันไปไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้

    อาจจะเขียนได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับฟิคอื่นๆในเวลานี้ เพราะคนเขียนใช้ความสนุกของตัวเองและความอยากเขียนเป็นบรรทัดฐานในการแต่งเรื่อง อย่างที่เตือนไว้ตอนรับสมัครแล้วว่าฟิคนี้มันเกรียนเข้าไส้จริงๆนะเอ้อ อาจจะดูดิบไปบ้างในบางคำพูดของตัวละครแต่พยายามจะไม่ให้ล้ำเส้นไปถึงคำว่าหยาบคายครับ จะใช้คำที่ไม่ตรง หรือ ข้างเคียงๆแถไปเรื่อย ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแวะชมครับ

    ปล.ขอบคุณสหายAzemag ที่นั่งทนตรวจทานและแก้คำผิดรวมถึงเว้นวรรคอันนรกแตกจนเสร็จเรียบร้อย
  2. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    ตอนนี้กำลังเล่น FF Tactics A2 อยู่ พอมาเจอฟิคนี้รู้สึกว่าใช่เลยค่ะ! ><
    ไม่ทันไรก็มี clan กันแล้ว~
    ภายนอกแต่ละคนดูรั่วๆ แต่พอใช้สกิลกันทีรู้สึกขัดกับภาพพจน์เลยค่ะ... (/me โดนสมาชิก clan รุมถีบ.....)

    ....อ่านจบรอบแรกยังงงๆกับระบบเกมอยู่ แต่จะพยายามทำความเข้าใจนะคะ! = v ="b
    สู้ๆค่า~ เป็นกำลังใจให้! ><b
  3. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    อยากกระโดดถีบไอ้มีนออกจากโดมแสงแล้วโยนมันเข้าไปกลางดงนักรบโครงกระดูกจริงๆเลย กวน-ีนแท้ๆ

    ไอ้แคลนนี้ก็นะ โดนคำสาปนรกแตกแบบนี้...ดูท่าทางจะจนแกลบกันถ้วนหน้า

    รออ่านตอนหน้า
  4. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    คำอธิบายบางช่วงมันก็ติดๆกันชวนงงนะ แต่ส่วนใหญ่ก็โอเคล่ะ

    รอตอนต่อไปฮะ >_<
  5. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    เขียนไม่ดีตรงไหน พี่จ้อยเขียนดีจะตาย ยังคงความขลังเหมือนเดิมเสมอ !!

    ปล.ช่วงนี้ไม่ได้เขียนต่อสักที่ เพราะมัวแต่สอบกับเขียนเรื่องสั้นส่งประกวดเน้อ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ~!~
  6. Ryuto

    Ryuto 終わる道、始まる夢

    EXP:
    964
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    88
    กว่าจะมาเม้นได้ ฮ่าๆๆๆๆต้องเป็นสอบวันที่สองนี่ล่ะ ตอนหน้าหวังว่าจะได้ดูมันปาไพ่ กร๊ากกกก

    สไตล์การเขียนก็เป็นพี่จ้อยดีกลิ่นอายเป็นเอกลักษณ์แบบเข้าใจง่ายไม่หวือหวา

    ป.ล.มีนมันกวนตีนกว่าตัวจริงหรือเปล่า ตัวจริงไม่ได้กวนขนาดนั้นนะครับ*3*

    ป.ล.2 นั่งปูเสื่อ
  7. Aki

    Aki Paradox Observer

    EXP:
    485
    ถูกใจที่ได้รับ:
    41
    คะแนน Trophy:
    48
    นี่เหรอไม่กวนตีนเหมือนตัวจริง... ตรูว่าเอาจริงๆแล้วในฟิคยังกวนน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ฮาๆๆ

    ขอมาเม้นท์มั่ง... อยากบอกว่า ไม่สามารถเม้นท์ฟิคพี่จ้อยแบบมีสาระได้ เนื่องจากว่าไม่สามารถอ่านฟิคนี้แบบมีสาระได้ ยอมรับตรง ๆ ว่าเวลาอ่านฟิคพี่จ้อย ไม่เคยดูสำนวน ภาษา หรือลักษณะการเขียนเลย เพราะการดำเนินเรื่องมันพาอารมณ์ให้ตามไปจนจบอย่างเดียว มารู้ตัวอีกทีก็ความคิดว่า "เห้ยยย มาต่อเหอะ อย่างอ่านอีก ยังไม่น่าจบตอนเลย"

    อ่านไปก็ยิ้มไป หัวเราะไป

    เหมือนคนบ้า... ขอบอกว่า อ่านตอนนี้ไปสามรอบ เพราะแค่อยากฮาฉากขำ ๆ

    นายเขียนฟิคแบบนี้น่ะดีแล้ว... มันเป็นฟิคที่สบายใจมากที่จะอ่าน ถ้าฟิคของคนอื่นเป็นฟิคที่ชอบสำนวนหรือการเขียน ฟิคของนายถือเป็นฟิคที่ชอบอารมณ์ในการอ่านมากที่สุด ฮาๆๆๆ

    ใครมันจะทำให้ตรูหัวเราะได้ติดกันด้วยไม่กี่ประโยค

    เกรียนดีแท้น้อออออออออออ
  8. soulmaster

    soulmaster Endorphinlism

    EXP:
    403
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    18
    รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้าของ Gvhan - ตกตัวu
  9. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    ในที่สุดก็(แอบ)มาอ่านได้สักฟิค 5555

    แลดูว่าไม่ว่าจะฟิคไหนของท่านจ้อยที่ไม่เคยต่างกันเลยคือ ความหายนะ กร๊ากกกกกก รวมตัวกันทีไรเป็นเรื่องทุกทีสิน่า

    จริง ๆ ระหว่างคีนกับอเซ 2 คนนี้น่าจะสูสีเรื่องความเป็น 'สุภาพบุรุษ' น่าดูเชียวนะ หึหึหึึหึ....... (5555)

    ตลกดี โอเคออกเธอ! รออ่านต่อ ๆ
  10. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    ห้องรับแขกกับอีตานักเดินทาง





    ในที่สุดบทที่หนึ่งก็เผยโฉมกับเขาซักทีในบทโหมโรงอาจมีอะไรหลายอย่างติดๆขัดๆไบ้างต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ

  11. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Fantasy Inside Online Story บทที่ 1 : ภูเขาหิมะ






    ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีดำสวมทับด้วยชุดคาราเต้สีขาวผูกสายดำที่เอว กางเกงผ้าขายาวสีดำที่สอดเข้าไปในรองเท้าบูทหุ้มข้อ สวมถุงมือเปิดนิ้วสีดำสองข้าง โดยมีผ้าคลุมสีดำถูกสวมทับไว้อีกที เขายืนพิงปากถ้ำเล็ก ๆ ที่ซึ่งเวลานี้ภายนอกมันโดนปกคลุมด้วยหิมะสีขาวสะอาดตา ที่ถูกย้อมเป็นสีแสดด้วยแสงของดวงตะวันที่กำลังจะลอยหายไปจากเหลี่ยมเขาเบื้องหน้า ชายหนุ่มค่อย ๆ ยื่นมือออกไปนอกถ้ำเพื่อรองรับละอองหิมะที่กำลังโปรปรายลงมาอีกครั้ง

    ลมหนาวพัดเข้าใส่พร้อม ๆ กับละอองหิมะที่ลอยมาตามลมเกาะเต็มตัวไปหมดชายหนุ่มห่อไหล่ลงเพราะความหนาวเย็นที่เข้าจู่โจมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เมื่อความเย็นบรรเทาลงชายหนุ่มยืนกอดอกเหม่อมองไปยังทิวทัศน์ด้านนอกถ้ำอีกครั้ง

    ถ้าเป็นชีวิตจริง เด็กที่อาศัยอยู่กับครอบครัวฐานะปานกลางอย่างเขาคงไม่มีวันได้เห็นภาพแบบนี้ง่าย ๆ หน้าต่างสถานะของตัวเองถูกเปิดขึ้นอย่างไร้ความหมาย






    "เลเวลห้าสิบ... แล้วงั้นรึ?"
    เมื่อหลับตาลงนึกถึงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หรือสองร้อยสิบวันภายในเกมส์นี้ ภาพที่นักพนันมือใหม่นึกออกมีแต่สิ่งที่เรียกว่านรกกับการหนีตาย

    ไม่มีวันใดที่เขาเล่นเกมส์แล้วได้เดินเล่นในเมืองรับภารกิจเบา ๆ เช่นคนอื่น ๆ

    ไม่มีวันใดที่เขาไม่เจอมอนสเตอร์ที่เลเวลมากกว่าตัวเขา

    ไม่มีวันใดที่เขาไม่โดนรุมกินโต๊ะจากมอนสเตอร์ต่ำกว่าสิบตัว

    และไม่มีวันใดที่เขาได้พักผ่อนหย่อนใจนอกจากโดนลากไปเก็บเลเวลแบบฉีกกฎตำราที่ผู้เล่นระดับต้น ๆ ของเกมส์ได้เขียนไว้

    "นี่รอดมาจนถึงเลเวลห้าสิบ ได้ยังไงกันนะ"
    Guvahn พึมพำกับตัวเองเบา ๆ พร้อมมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่หาได้ยากสำหรับการได้หยุดหายใจทิ้งความคิดให้จมอยู่ในภวังค์ แต่มันก็ไม่นานนักที่โลกส่วนตัวของ Guvahn ถูกทำลายลงด้วยเสียงโหวกเวกโวยวาย

    "เห้ย!! ไอ้มีนมาช่วยหน่อยสิวะ แบกสองคนมันหนักนะเว้ย จะแดกมั๊ยข้าวเย็นเนี่ย"
    เสียงของ Azemag นักรบรับจ้างผู้ที่เวลานี้กำลังลากร่างของหมีขนาดเขื่องพร้อม ๆ กับสหายจอมเวทย์ผมสีน้ำตาลเข้ม Keene อย่างทุลักทุเล

    นักพนันหนุ่มที่เห็นเห็นดังนั้นยังคงยืนกอดอกนิ่งพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งพร้อม ๆ กับรอยยิ้มที่เห็นแล้วน่าเขกกบาลเป็นที่สุด

    "ก็พวกพี่สองคนเล่นไพ่แพ้เลยต้องออกไปหาอาหารไม่ใช่หรือพี่ ? แล้วทำไมพี่ถึงลากมาทั้งตัวแบบนั้นล่ะ ไม่ชำแหละเป็นชิ้น ๆ ก่อน ?"

    คำตอบของคำถามนั้นไม่ใช่คำพูดจากทั้งสองคน แต่เป็นเสียงคำรามอย่างกราดเกรี้ยวของอะไรสักอย่างที่ดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา เสียงกระพือปีกของอะไรบางอย่างขนาดใหญ่แหวกอากาศตรงดิ่งมายังพวกเขา

    "บ๊ะ!! แม่งตื๊อจริงเว้ย ไอ้มีนเมิงไปลาก Taka ที่นอนอยู่ออกมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องแดกมันละหมี แดกกิ้งก่าบินได้แทนดีกว่า"

    "เราบอกนายแล้วสหายว่าให้เก็บมันแต่แรก มังกรพวกนี้ถ้ามันไม่ตายมันก็ล่าเราจนกว่าจะได้ไปนอนโรงพยาบาลจนครบทั้งกลุ่มนั่นแหละ"
    Keene ถอนหายใจพลางเอาดาบไม้ที่เหน็บอยู่ข้างตัวออกมาถือในมือ

    "บ๊ะ!! ใครจะยอมลำบากสองคนวะ ถ้าจะนอนโรงพยาบาลมันต้องไปนอนกันให้ครบเด้ "
    นักรบรับจ้างกระชับดาบในมือตั้งท่ารับมือไอ้ตัวที่กำลังล่าพวกเขาอยู่ ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ Taka และ Guvahn เดินออกมาสมทบ

    "มังกรเรอะ ?" Taka ถามสั้น ๆ ด้วยสีหน้าเบลอ ๆ ไม่ได้ร้อนรนอะไรนัก

    "เออ... เจ้าถิ่นของที่นี่เลย"
    Azemag โยนการ์ดสแกนใบหนึ่งให้ Taka






    นักดาบหนุ่มรับมามองผ่าน ๆ แล้วโยนไปให้ Guvhan "ท่าทางนายสองคนจะไม่ยอมให้เราอู้ง่าย ๆ สินะสหาย ?"

    "ถ้าจะตาย มันก็ต้องไปกันยกกลุ่มเว้ยฮ่า ๆ"
    Azemagหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจพลางร่ายเวทสายฟ้าที่เขาถนัดที่สุดลงดาบคู่ใจเตรียมรับมือเจ้ากิ้งก่าบินได้ที่กำลังตรงเข้ามา

    แล้วสายตาของนักพนันหนุ่มก็มองเห็นเป้าหมายสำหรับอาหารเย็นวันนี้ ซึ่งหน้าตามันไม่ค่อยจะน่ากระเดือกสักเท่าไรเลยกับกิ่งก่ามีปีกเป็นพังผืดบินได้ เล็บคมฟันแหลม หน้าตาตามตำราเป๊ะ ๆ แต่เกล็ดทั้งตัวของมันกลับเป็นสีฟ้าใสราวกับก้อนน้ำแข็งที่ถูกสลักเป็นตัวมังกรไม่มีผิด


    ก๊าซซซซซ!!!!!!!

    เสียงคำรามของมันดังก้องขึ้นอีกเมื่อเห็นมนุษย์ทั้งสี่ยืนเฝ้ารอการมาของมันอย่างใจเย็น

    "Guvhan นายทำยังไงก็ได้ให้มันร่วงลงมากับพื้น หรือโฉบลงมาอยู่กับพื้นให้ได้" Keene ตบบ่าโยนภาระให้นักพนันหน้าใหม่ของแคลนทันที

    ยังไม่ทันที่ Guvhan จะได้อ้าปากเถียงอะไร ลมหายใจเยือกแข็งจากเจ้า Snijeg Dragon ก็ถูกสาดลงมาเป็นการลั่นระฆังในศึกหนนี้ทันที ซึ่งก็ทำเอาทั้งสี่คนกระโดดเป็นกบแตกฮือไปคนละทาง

    ไม่มีเวลาให้คิดอะไรมากอีกแล้วสำหรับนักพนันหนุ่ม จากประสบการณ์สองร้อยสิบวันกับการเล่นเกมส์แบบนรกแตกกับแคลนนี้สอนให้เขารู้ว่า ถ้ามัวแต่จะมาหาคำตอบหรือเหตุผลในการทำอะไรสักอย่างในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ มันหมายถึงได้ไปนอนโรงพยาบาลอย่างแน่นอน



    "คุณพระคุณเจ้ารอบนี้ขอแรง ๆ ด้วยเถอะ Lucky Draw!!" Guvahn พึมพัมเอ่ยชื่อทักษะตามเงื่อนใข






    ไพ่สำรับเก่งในมือถูกคลี่ออกแล้วจั่วขึ้นมาสองใบขณะที่วิ่งหลบเกล็ดน้ำแข็งที่หมายจะแช่พวกเขาให้ได้จากปากของเจ้ากิ่งก่าน้ำแข็ง

    เมื่อสบโอกาสไพ่ ‘2 โพธิ์ดำ’ และ ‘2 ดอกจิก’ ถูกปาเข้าแสกหน้า ด้วยการที่เป็นไพ่ซ้ำกันจึงทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกสองเท่า ทำเอา Snijeg Dragon หน้าหงายเสียหลักกลางอากาศเลยทีเดียว

    และประสบการณ์การต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เลเวลมากกว่าตัวเองมาตลอดตั้งแต่เล่นเกมส์ทำให้เขารู้อีกด้วยว่า ถ้าตรงไหนคือจุดเปราะของมันแล้วล่ะก็ควรซ้ำมันลงไปทันที โดยไม่ปล่อยจังหวะไพ่อีกสามใบถูกจั่วขึ้นมาเหน็บไว้ในร่องนิ้ว คราวนี้เป็นไพ่ 6 ซ้ำกันถึงสามใบซึ่งตามความเชื่อบางกลุ่มมันคือเลขของ ‘ซาตาน’ เจ้าแห่งปีศาจ

    "วันนี้มือขึ้นจริง ๆ Sixty-Six Satan!!" Guvahn แสยะยิ้มทันทีที่เห็นหน้าไพ่ก่อนจะปามันซ้ำเข้าไปยังแสกหน้าของเจ้ามังกรน้ำแข็งที่กำลังเสียหลัก ซึ่งไพ่ทั้งสามใบถูกอาบด้วยแสงสีดำ และทันทีที่กระทบกับเป้าหมายมันก็ระเบิดดังสนั่น

    Snijeg Dragon ร่วงวูบจากท้องฟ้าทันที และเมื่อเห็นจุดตกอันเป็นเป้าหมาย ศิลามนตราสีฟ้าสุกใสจำนวนสองก้อนในมือ Keene ถูกขว้างยัดเข้าไปใต้ตัวมันทันที แล้วเขาก็เริ่มร่ายคาถาสายที่เขาถนัดที่สุด ทันทีที่มันตกลงกระแทกพื้น



    "มหากับดักอัคคีวินาศ Ignis Casses!!"





    เสาเพลิงอันเป็นของแสลงสำหรับมอนสเตอร์สายน้ำแข็งทุกชนิดพุ่งเข้ากระหน่ำเจ้ามังกรชะตาขาดจากทุกทิศทุกทาง ซึ่งมันก็ดิ้นพล่านภายในกับดักอาคมอย่างคลุ้มคลั่ง ทุกคนต่างรู้ดีว่าต่อจากนี้มันจะอาละวาดไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมแน่ ๆ

    ทางเลือกเดียวของทุกคนที่มี ก็คือเอามันให้จบภายในชุดเดียว อย่าให้มันตั้งตัวได้ เสียงเกล็ดของมันที่เย็นเฉียบเมื่อโดนความร้อนโจมตีอย่างฉับพลันและต่อเนื่องตอนนี้เริ่มแตกร้าวไปทั้งตัวแล้ว ซึ่งก็คือโอกาสของพวกเขาเช่นกัน

    Guvhan เสี่ยงดวงจั่วไพ่รวดเดียวห้าใบก่อนที่ทักษะ ‘จั่วเทพ’ จะหมดเวลาลง และเสาไฟจากกับดักอัคคีของ Keene ก็กำลังจะหมดเวลาลง ทุกคนที่รู้จังหวะกันดีต่างจับจ้องไปยังเป้าหมายอันเป็นมังกรน้ำแข็งที่กำลังดิ้นพล่านอย่างคลุ้มคลั่ง

    ไพ่ทั้งห้าใบในมือนักพนันหน้าใหม่ คือ... ไพ่ที่ดีที่สุดในการจั่วไพ่ชุดใหญ่ห้าใบ ‘รอยัลสเตรทฟลัช’

    10 J Q K A โอกาสที่มันจะปรากฏมีแค่สิบห้าในล้านเท่านั้น นับว่าเจ้า Snijeg Dragon ชะตาถึงฆาตแบบขีดสุดเสียแล้ว


    "Royal Straight Flush!!!"


    ไพ่ทั้งห้าใบส่องแสงสว่างจ้าทันทีที่มันหลุดออกจากมือ Guvhan พุ่งตรงเข้าปากกว้างของเจ้ามังกรน้ำแข็งที่คำรามอย่างคลุ้มคลั่งภายในกับดัก

    ราวกับนัดหมายก่อนที่ไพ่ทั้งห้าใบจะกระทบกับเสาเพลิงที่ขวางทางอยู่ กับดักของ Keene หายไปดื้อ ๆ เพราะหมดเวลาของทักษะ

    เมื่อไม่มีอะไรขวางทางไพ่ทั้งห้าใบพุ่งเข้าปากของ Snijeg Dragon ซึ่งมันก็งับฮวบลงทันทีตามสัญชาตญาณเมื่อได้รับความเจ็บปวด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ทั้ง Taka และ Azmag กระโจนเข้าใส่หัวของมันหมายจะเผด็จศึกเช่นกัน แต่ไพ่ทั้งห้าใบที่อยู่ในปากของมันจากมือของนักพนันเวลานี้กำลังแสดงอำนาจอย่างเต็มที่

    เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั้งขุนเขาจนทั้ง Guvhan และ Keene ต้องทรุดลงหมอบกับพื้น ส่วนทั้งTaka และ Azemag ต่างร้องเสียงหลงลอยไปคนละทางตามแรงอัดจากระเบิด

    เมื่อทุกอย่างสงบลงทั้ง Keene และ Guvhan ต่างเดินมาดูซากของเจ้า Snijeg Dragon ซึ่งตอนนี้มันเหลือแต่ตัว ส่วนหัวนั้นหายไปเพราะแรงระเบิดจากไพ่ชุดใหญ่ของนักพนันดวงขึ้น

    "การเสียสละของพี่ทั้งสองคนจะไม่เสียเปล่า" Guvhan เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง Keene ก็เดินเข้ามาตบบ่าเบา ๆ

    "Guvhan สองคนนั้นสู้อย่างเต็มที่ พวกนั้นคงไม่มีอะไรค้างคาใจแล้วล่ะ"

    ตุบ!!

    ก้อนหิมะก้อนหนึ่งลอยลิ่วเข้ากระแทกกลางหลัง Guvhan จนเจ้าตัวทรุดลงไปกองกับพื้น ส่วน Keene ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็โดนใครบางคนตบหลังจนเซ

    Taka ที่ไม่รู้ว่าเดินมาอยู่ข้างจอมเวทย์นักสะกดจิตตั้งแต่เมื่อไร และ Azemag ที่เดินหน้ามุ่ยมาสมทบจากอีกทาง ในมือมีก้อนหิมะเดาะขึ้นลงอยู่ในมือ

    "ห่าน!! พวกกุยังไม่ตายเว้ย ได้ทีเอาใหญ่เลยนะทั้งลูกศิษย์ทั้งศาสดา"
    Azemeg ปาก้อนหิมะอีกก้อนทิ้งเพราะ Keene มันโดน Taka ตบหลังซะยืนจุกแล้ว เลยไม่อยากซ้ำมันอีก

    "ชุดสุดท้ายที่เมิงยัดปากเจ้ากิ้งก่าน้ำแข็งนี่มันอะไรวะ กุเห็นแค่ห้าใบ... อย่าบอกนะว่าเป็น `รอยัลสเตรทฟลัช´ ถึงได้แรงตูมเดียวจอดแบบนี้"

    Guvhan พยักหน้า "ไม่รู้ฟลุ๊กออกมาได้ยังไงเหมือนกันพี่"

    "บ๊ะ!! ของแรงนะนี่ กุว่าดวงเมิงคงกุดไปอีกหลายวันล่ะนะ เล่นจั่วของแรงได้แบบนี้"
    นักรบรับจ้างได้ยินคำตอบแล้วก็หัวเราะชอบใจ

    การต่อสู้ครั้งนี้มันไม่ได้จบลงเพราะเลเวลที่สูงส่งของผู้เล่น หรืออุปกรณ์สวมใส่ระดับเทพทั้งตัว แต่มันเกิดจากความชำนาญในการต่อสู้และประสบการณ์จากของจริง ที่ไม่ได้พึ่งพาตำราที่ผู้เล่นคนอื่นได้เขียนไว้แม้แต่น้อย สถานการณ์ที่จนตรอกมันหล่อหลอมให้ผู้เล่นที่อยู่นอกกรอบแบบพวกเขาต้องเอาตัวรอดตลอดมา

    Taka สังเกตเห็นอะไรบางอย่างสะท้อนแสงตัดกับหิมะสีขาวโพลนทั่วบริเวณ เมื่อเดินไปดูใกล้ ๆ ก็พบสร้อยเชือกสีดำมีจี้ที่เป็นผลึกรูปดาบขนาดจิ๋วสีฟ้าใสราวกับก้อนน้ำแข็งที่ถูกสลักมาอย่างดี
    นักดาบหน้ามึนเอียงคอมองแล้วหยิบมันขึ้นมาถือในมือพร้อม ๆ กับเอา`การ์ดสแกน´ใบหนึ่งตรวจสอบทันทีด้วยความสงสัย





    "บ๊ะ!! ของดีนี่หว่าท่าทางจะขายได้หลายตังอยู่นาสหาย"
    Azemag ที่เดินตามเข้ามาสมทบดึง`การ์ดสแกน´ในมือของทากะไปดู แล้วก็ส่งให้อีกสองคนที่ตามมาดูด้วยเช่นกัน

    Taka โยนสร้อยเส้นนั้นให้ Keene ที่กำลังอ่านคุณสมบัติของอาวุธชิ้นนี้อย่างสนใจ แล้วหยิบมีดทำครัวขนาดเขื่องออกจากกระเป๋าตรงเข้าชำแหละซากของมังกรน้ำแข็งตรงหน้าทันที Azemag เห็นเช่นนั้นจึงหยิบมีดประจำตัวของตนเองเดินตรงเข้าไปด้วยด้วยอีกแรง

    เพราะซากมังกร Rank A ตรงหน้า ทุกส่วนมันหมายถึงเงินทั้งนั้นตั้งแต่หนัง เกล็ด ไปจนถึงเนื้อ และเครื่องในของมัน ที่สามารถไปขายทอดตลาดได้แทบทุกส่วน นับว่าการมาเก็บเลเวลให้เจ้า Guvhan บนภูเขาหิมะแถวๆ "เมืองแห่งการประดิษฐ์ `พลูตรอนิค´" คุ้มค่ามากเลยทีเดียว

    กล่องเวทย์มนต์ใบเขื่องที่ใช้รักษาความสดของวัตถุดิบถูกเอาออกมาวางกองเพื่อแยกเอาส่วนที่ต้องเก็บเอาไปขายแบบสดๆ กล่องจำนวน 20 ใบจากทั้ง 4 คนบัดนี้เต็มเอียดไปด้วยชิ้นส่วนของมังกรน้ำแข็งชะตาขาด

    ต้องขอบคุณเกมส์นี้ที่มีกระเป๋าเวทย์มนต์ที่ใช้เก็บไอเทมต่าง ๆ โดยการย่อขนาดและลดน้ำหนักของมันลงตามอัตราส่วนความหายากของกระเป๋า โดยที่ทั้งสี่คนพกติดตัวเป็นกระเป๋าระดับสูง Rank A ที่เก็บของได้ถึงร้อยชิ้น โดยน้ำหนักของกระเป๋าเปล่าและกระเป๋าที่มีไอเทมร้อยชิ้นเต็มกระเป๋าห่างกันเพียงหนึ่งพันกรัมหรือหนึ่งกิโลกรัมเท่านั้น ผู้เล่นส่วนใหญ่อาจจะให้ความสำคัญกับอาวุธหรือชุดเกราะชั้นดีมากกว่ากระเป๋าเก็บของ

    แต่สำหรับแคลน `Maldito´ ที่ทุกครั้งในการทำภารกิจ หรือเก็บเลเวลนั่นหมายถึงการเผชิญหายนะในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เลวร้าย การเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์จำนวนมากหรือมอนสเตอร์ที่เลเวลกว่าตนเอง การต่อสู้ที่ยืดเยื้อกันข้ามวันข้ามคืน

    สิ่งที่ช่วยยืดเวลาในการหายใจของพวกเขาก็คือเสบียงและยาต่าง ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม เช่น น้ำดื่ม เชือกชั้นดีสำหรับใช้ประโยชน์สารพัด ยาร้อนสำหรับบรรเทาความหนาวเย็นในแถบที่อุณหภูมิติดลบแบบนี้ เครื่องครัวต่าง ๆ เครื่องปรุงอาหารที่ไม่ทำให้พวกเขาต้องทนกินเนื้อย่างจืด ๆ อย่างเดียวในกรณีที่อาหารที่ขนมาหมดลงไป

    หลังจากทั้งสี่คนจัดการซากของมังกรน้ำแข็งตรงหน้าเสร็จโดยไม่ลืมซากหมีตัวเขื่องที่อยู่ไม่ห่างออกไป มันถูกชำแหละเพื่อเป็นมื้อเย็นอีกอย่างหนึ่ง ทุกอย่างเสร็จก่อนแสงอาทิตย์สุดท้ายจะหายลับไปจากขอบฟ้ารวมไปถึงซากของมอนสเตอร์ที่หายไปตามระบบของเกมส์

    ทั้งสี่หนุ่มต่างมานั่งรวมกันอยู่ในถ้ำ ดูซุปหางมังกรที่มี Taka ทำลังเคี่ยวและปรุงรส และ Guvhan พลิกเนื้อหมีที่ย่างอยู่บนก้อนหินแบน ๆ ก้อนใหญ่สลับกับการเอาไขมันของหมีตัวนั้นถู ๆ เพื่อไม่ให้เนื้อที่ย่างติดกับก้อนหิน ข้าง ๆ กองไฟอีกมุมส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ

    Azemag เอากระเป๋าของทุกคนมาจัดแจงรื้อของที่อยู่ข้างในออกมาวางรวมกันเพื่อตรวจสอบ

    "บ๊ะ!! ท่าทางทริปนี้ต้องกลับกันแล้วว่ะ ยาร้อนมันเหลืออีก 4 ขวดเอง ก็เท่ากับว่าอยู่ได้กันอีกคนละวันเท่านั้น พวกยาแก้อาการต่าง ๆ ก็เหลือไม่มากนัก จะมีก็ยาเพิ่มเลือดที่เหลือมากหน่อย แต่ไอ้คีน... กระเป๋าเมิงนี่ขนศิลาเวทมนต์สำรองไว้ร่วมร้อยเม็ดแบบนี้ เมิงจะไประเบิดภูเขารึไง แล้วกระเป๋าติดตัวเมิงเก็บไว้อีกกี่เม็ดวะเนี่ย ?"

    Keene ที่นั่งส่องสร้อยที่ทากะโยนมาให้ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงซึ่งเป็นกระเป๋าพื้นฐานที่ติดตัวมาตั้งแต่เริ่มเกมส์เก็บของได้ทั้งหมดยี่สิบชิ้น แล้วล้วงของภายในกระเป๋าออกมากองอยู่ข้าง ๆ ตัว ซึ่งก็เป็นยาเพิ่มพลังกาย เพิ่มพลังเวทย์ ยาแก้สถานะต่าง ๆ อย่างละสองถึงสามชิ้น และมีศิลาเวทย์อยู่อีกสามก้อน

    "สามว่ะสหาย ขอเพิ่มอีกสักสองก้อนละกัน ขากลับคงไม่ต้องถล่มไอ้ตัวแบบที่กำลังโดนต้มหางอยู่ในหม้อหรอกนะ"

    นักพนันที่กำลังย่างเนื้อหมีอยู่เอ่ยขึ้นมาลอย ๆ "ถ้ามันมีไอ้แบบนั้นตัวเดียว ไม่ได้อยู่เป็นคู่ หรืออยู่เป็นฝูงแบบมังกรทั่ว ๆ ไปล่ะนะพี่ Keene"

    "ยังกับเราจะเลี่ยงได้อย่างนั้นแหละขนาดให้ไปหาอาหารธรรมดายังล่อเอามังกรมาต้มกินเลยเนอะ เอ-เซ-แม๊ก"

    Takaที่กำลังคนซุปอยู่ส่งท้ายประโยคไปยังนักรบรับจ้างที่กำลังเก็บของทั้งหมดเข้ากระเป๋าทั้งสี่ใบ

    "อย่าบ่น... ยังไงก็ดีกว่ากลับไปมือเปล่าป่ะล่ะ ไอ้ทั้งยี่สิบกล่องที่ขนลงไปเนี่ยได้สี่ร้อยถึงห้าร้อยเหรียญเงินสบาย ๆ เลยนะเว้ยสหาย ไหนจะไอ้ดาบน้ำแข็งเล่มนั้นอีก ขายโง่ ๆ หนึ่งร้อยเหรียญทองไม่เกินชั่วโมงก็มีคนมาซื้อ เชื่อตรูเด่ะ"
    นักรบรับจ้างคำนวนรายรับเสร็จสรรพ

    Guvhan ที่กำลังย่างเนื้อหมีเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ "พี่ Azemag ไอ้เงินของที่นี่มันร้อยเหรียญทองแดง เท่ากับหนึ่งเหรียญเงิน และร้อยเหรียญเงินเท่ากับหนึ่งเหรียญทองใช่ใหม่พี่ ?"

    Azemag ไม่ตอบ แต่พยักหน้างึก ๆ

    "งั้นถามต่อโง่ ๆ เลยนะพี่ ไอ้หนึ่งเหรียญทองมันมีค่าขนาดไหนอ่ะ?"
    นักพนันมือใหม่ถามด้วยความสงสัย

    "สงสัยพวกเราจะลากไอ้หมอนี่เก็บเลเวลแบบโหดร้ายไปหน่อยมั๊งเนี่ย เรื่องพื้นฐานของค่าเงินในเกมส์ยังไม่มีใครอธิบายแบบละเอียดสินะ" นักดาบหน้ามึนถามขณะชิมซุปที่เขากำลังต้มอยู่

    Guvhan ส่ายหน้าดิก "รู้เท่าที่คู่มือเริ่มต้นได้บอกไว้อ่ะพี่"

    "บ๊ะ!! ศาสดา... ทำไมเมิงไม่สอนลูกศิษย์เมิงบ้างล่ะ ทีไอ้เรื่องกวนส้นเท้าชาวบ้านนี่เก่งกันนัก"
    นักรบรับจ้างโยนภาระให้สหายจอมเวทย์นักสะกดจิตแบบกลาย ๆ

    "เรื่องความกวนของมันไม่ได้สอนเลยนะ ดีไม่ดีมันเก่งกว่าเราอีกสหาย เอาง่าย ๆ นะ Guvhan ขนมปังก้อนหนึ่งราคายี่สิบทองแดง ยาเพิ่มเลือดชั้นดีขวดละหกร้อยทองแดง อาวุธระดับกลางธรรมดาๆที่ NPC ขายตามร้านราคาตั้งแต่แปดสิบทองแดงไปจนถึงห้าสิบเงิน เสบียงเต็มกระเป๋าสี่ชุดเพิ่งใช้เงินไปราว ๆ สิบถึงสิบห้าเงิน ฉะนั้นหนึ่งทองจะมีค่าประมาณตั้งตัวได้สบาย ๆ"
    "บางคนเล่นเกมส์ทั้งเดือนกว่าจะหาได้หนึ่งเหรียญทอง แต่ในขณะที่บางคนใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมงในการทำให้เงินมากกว่าห้าสิบทองหายไปจนต้องเอาดาบไปจำนำ ใช่หรือเปล่าสหาย เอ-เซ-แม๊ก?"

    ท้ายประโยค Keene เหน็บแนบเต็ม ๆ ไปยังนักรบรับจ้าที่กำลังยืดตัวบิดขี้เกียจอยู่อีกมุมของถ้ำ

    "เออ แล้วไง... ขอโทษเว้ยที่คนมันเล่นไพ่จนหมดตัว ยังไงก็ดีกว่าไอ้คนที่เอาเงินห้าสิบทองไปโดนผู้หญิงปอกลอกจนหมดตัวแหละวะ... ใช่หรือเปล่าสหายคีนนนน?"

    Azemag สวนกลับมาอย่างไม่ลดราวาศอก เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากทุกคนได้ทันทีที่พูดจบประโยค

    "ก็เพราะพวกนายเป็นแบบนี้ล่ะน๊า แคลนเราถึงไม่มีบ้านหลักของแคลนอยู่กับเขาสักที" Takaโคลงหัวดิกพลางตักซุปใส่ถ้วย

    "บ๊ะ!! อย่างกับมีบ้านแล้วพวกเราจะได้ใช้งานมันงั้นแหละ Login ปุ๊ปก็หาเรื่องลุยป่าขึ้นเขาตลอด แล้วสหายจะซื้อบ้านราคาร้อยทองเอาไว้ให้แมงมุมทำรังรึไง Taka? " นักรบรับจ้างถามกลับอย่างมีเหตุผล

    "มันก็จริงของสหาย แต่ว่าพวกนายคิดดีแล้วเรอะที่เป็นแค่แคลนเล็ก ๆ แบบนี้ ผู้เล่นยุคเดียวกับเราตอนนี้เลเวลเกินหนึ่งร้อย อยู่แคลนใหญ่ระดับต้น ๆ ของเกมส์ไปหมดแล้วนา"
    Taka ถามต่อไปเรียบ ๆ พลางตักซุปใส่ถ้วยอีกใบ

    "สหายถามอะไรโง่ ๆ การได้เล่นเกมส์กับเพื่อนสนิทสนุกสานเร้าใจทุกวัน กับการต้องไปอยู่แคลนใหญ่ ๆ ที่ผลประโยชน์ยุบยับ จะทำอะไรก็ต้องระวังไม่ให้กระทบนั่นโน่นนี่ ไอ้แบบหลังมันเล่นแล้วสนุก ๆ จริงหรือ?"
    Keene สะบัดสร้อยในมือเล็กน้อยพร้อมพึมพำอะไรบางอย่าง ดาบน้ำแข็งเล่มงามยาวราว ๆ ครึ่งเมตรปรากฏขึ้นในมือ เจ้าตัวทดลองเหวี่ยงไปมาอย่างพอใจ

    "บ๊ะ!! มันก็ต้องเลือกข้อแรกอยู่แล้วสิวะ แล้วที่สำคัญตอนนี้แคลนใหญ่ทั้งเกมส์ต่างหมายหัวเราอยู่ จะไปอยู่แคลนไหนได้วะ" นักรบรับจ้างเดินเข้ามาหยิบซุปหางมังกรที่ Taka ตักวางไว้ไปซดอย่างหิวโหย

    "แคลนใหญ่หมายหัว?" Guvhan ถามมาด้วยความสงสัย

    "ก็ไม่มีอะไรมาก... ก็แค่ภารกิจ Rank S หลาย ๆ ภารกิจที่รางวัลตอบแทนดีมาก และจะปรากฏแค่ครั้งเดียวทั้งปี แคลนเราเหมาเรียบ อาวุธระดับสูงบางชิ้นที่ได้จากการทำภารกิจเท่านั้นก็อยู่ในมือพวกเรา เอามาใช้บ้าง ไปขายโก่งราคามหาโหดบ้าง เลยมีคนเพ่งเล็งเยอะหน่อย"
    Taka ยื่นถ้วยซุปให้พลางเล่าประวัติอันเยี่ยมยอดของแคลนนี้ต่อไป

    "นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นสาว ๆ ที่โดนทั้งไอ้ Keene และ ไอ้ Azemag เคยไปหลีไว้ หรือไปแสดงความเป็น `สุภาพบุรุษ´ ช่วยเหลือเขาผิดจังหวะจนภารกิจล่ม จนมีความแค้นต่อกันชนิดว่าเจอกันที่ไหนต้องมีการล่าทุกที"

    Azemag ที่เคี้ยวเนื้อหมีย่างอยู่ถึงกับติดคอรีบกินน้ำตามทันที
    "เฮ้ย! Taka เรื่องอื่นเล่าได้ แต่เรื่องเจ๊ ๆ นั่นอย่าพูดถึงได้มั๊ยวะ พูดที่ไหนแม่งเจอพวกอีเจ๊ทุกที"

    ทุกคนต่างหัวเราะเสียงดังออกมาแล้วก็เริ่มลงมือจัดการอาหารเย็นที่ประกอบไปด้วยซุปหางมังกร และเนื้อหมีย่าง หลังจากอิ่มทุกคนต่างนั่งพักผ่อนอยู่คนละมุม

    "สหาย... ดาบเล่มนี้ขอละกันนะมันสวยดี" Keene เอ่ยพลางชูสร้อยในมือขึ้น

    Azemag เลิกคิ้วถาม "ได้ข่าวว่าเมิงเป็นจอมเวทย์สายไฟกับแสงไม่ใช่เรอะสหาย แถมเมิงนี่โง่โคตร ๆ เรื่องเวทย์สายเยือกแข็ง จะเอาดาบน้ำแข็งไปทำแมวน้ำอะไรฟะ?"

    "ก็มันสวยดีไง แค่นี้ไม่พอรึ ? อย่างน้อยเราก็ใช้เวทย์สายฟ้าได้เหมือนกันนะนาย"
    จอมเวทย์นักสะกดจิตตอบกลับแบบแถ ๆ

    "เออ... อยากได้ก็เอาไปเด่ะแต่ส่วนแบ่งจากซากมังกรคราวนี้เมิงไม่ได้นะ รอบนี้หารแค่สาม" นักรบรับจ้างตอบรับแบบง่าย ๆ เช่นกัน

    Keene ยิ้มแฉ่ง "ตกลงสหาย"

    Guvhan ที่นั่งมองอยู่เงียบๆเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง "ถามจริงๆเถอะ... อาวุธแต่ละชิ้นของพวกพี่ ๆ นี่อยู่ในระดับไหนกันบ้าง"

    ทันทีที่จบคำถาม `การ์ดแสกน´ สี่ใบถูกยื่นให้นักพนันน้องเล็กสุดของแคลน และเมื่อดูรายละเอียดของอาวุธแต่ละชิ้นที่ทั้งสามคนนั้นถืออยู่จึงไม่แปลกใจสักนิดที่แคลนใหญ่จะหมายหัวพวกเขา

    ใบแรกคือดาบญี่ปุ่นในมือของ Taka และในที่สุด Guvhan ก็รู้สักทีว่าทำไมนักดาบคนนี้ถึงไม่เคยใช้ทักษะเรียกใช้แม้สักครั้งเดียว





    สองใบถัดมาเป็นดาบและปลอกดาบของนักรบรับจ้างขาลุย นักพนันมองปลอกดาบสีดำด้านอันนั้นอย่างทึ่ง ๆ นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาเห็น Azemag ใช้ปลอกดาบอันนั้นรับการโจมตีทุกชนิดโดยไม่หวั่นเกรงว่ามันจะเสียหายแม้แต่น้อย












    แต่ที่ทำให้ Guvhan อึ้งคือ`การ์ดแสกน´ใบสุดท้ายอันเป็นข้อมูลดาบไม้ที่ Keene ชอบเอามาใช้ตีมอนสเตอร์บ้าง เคาะหัวเขาบ้าง มันคือไม้เท้าเวทย์ Rank SS!!







    "ผมไม่แปลกใจเลยที่แคลนใหญ่จะหมายหัวพวกพี่แบบนี้" นักพนันหน้าใหม่ยิ้มออกมาแล้วมองไพ่ในมือตัวเองที่แม้แต่`การ์ดแสกน´ยังไม่สามารถระบุคุณสมบัติของมันได้

    "ดีไม่ดี ไพ่เมิงพลังโจมตีมากกว่าอาวุธพวกตรูอีก ถ้าเมิงดวงดี `จั่วเทพ´ ได้แบบวันนี้อ่ะนะ ฮ่า ๆ"
    Azemag เอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี

    Guvhan ยิ้มเลี่ยน ๆ "น่ากลัวว่าความดวงดีของทั้งเดือนมันจะหมดไปกับไอ้ที่จั่วออกมาได้วันนี้แล้วล่ะพี่ แล้วนี่จะเอายังไงกันต่อ ?"

    "ก็นอน แล้วก็ลงจากเขานี่ ไป `เวลเจ´ ไงน้องรัก"
    Keene ที่กำลังเห่อดาบน้ำแข็งเล่มใหม่ตอบกลับมาพลางส่องสร้อยเส้นนั้นกับแสงจากกองไฟที่ก่อไว้ส่องประกายระยิบระยับ

    "เมิงเลเวลห้าสิบตามเป้าแล้วนี่ Guvhan ถึงเวลารับภารกิจปั้มเงิน อูอาาา" Azemag เสริมขึ้นมาอีกคน

    "หวังว่าไป `เวลเจ´ รอบนี้คงไม่ต้องทำภารกิจอะไรเฮงซวย ๆ อีกนะ Azemag ? Keene ?"
    Taka ที่นอนพิงกำแพงเอ่ยถามมาลอย ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่พวกเขาไปเมืองท่าอย่าง `เวลเจ´ แล้วจะไม่ต้องไปทำภารกิจอะไรที่มันนรกแตกแบบสุดลิ่มทิ่มประตู








    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~



  12. Ryuto

    Ryuto 終わる道、始まる夢

    EXP:
    964
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    88
    กิลด์เกรียน...............เป็นการปั๊มเวลขั้นเทพมาก แต่ก็ไม่ค่อยสงสัยถ้าจะเจอไอ้มังกรแบบนี้ทุกๆวัน ให้อารมณ์แบบอาเชอร์คริรัวๆฮ่าๆๆๆ (คิดถึงแร็คตอนยิงหมา ที่พากันลากมาตายกันเป็นหมู่คณะ) แอบฮาตอนยืนไว้อาลัย ภาพมันเข้าในหัวเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ

    ฟิลนี้นี่ทำให้อารมณ์แต่งฟิคมาได้เหมือนกันนะเนี่ย 5 5 5 5+

    รอตอนต่อไป-3-
  13. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    โผล่มาอีกทีโนวิซเลเวล 1 กลายเป็นเลเวล 50 แล้วแฮะ แต่ข้ามๆช่วงเก็บเลเวลก็โอเคเหมือนกันล่ะนะไม่ต้องมานั่งอ่านช่วงฝึกวิชาเหมือนแนวเกมออนไลน์เรื่องอื่นๆ >_<
  14. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    แหม่ จะบอกว่าซวยคงไม่ได้นะ เพราะดูตอนนี้จะ Good Luck กันเหลือเิกิน ส่วนเลเวลก็ไวเหมือนโกหก (อารมณ์หนัง 1 ปีต่อมามาก....)

    ว่าแต่แล้วคนที่เหลือเลเวลอะไรล่ะเธอ.................
  15. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    ดาบนั่น...มันต้องเอาไปขายเข้าบ่อนเด้... (-.-)

    ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรมาก เรื่อยๆเปื่อยๆบนภูเขาหิมะ
    อีกเดี๋ยวได้เข้าเมืองแล้ว...ความฉิบหายจะตามมาเอง ฮ่าๆๆ


    ดวงไอ้มีนคงหมดไปอีกนาน เล่นจั่วเทพขนาดนั้น
  16. Aki

    Aki Paradox Observer

    EXP:
    485
    ถูกใจที่ได้รับ:
    41
    คะแนน Trophy:
    48
    เอาไปขายแล้วจะเอาอันไหนไว้จิ้มกะโหลกวะท่านอาเซแม็ก ฮาๆๆๆๆ

    มันก็ยังอยู่ในโหมดเกรียน ๆ ฮากันกระจายไป

    รอดูฉากหนีตายต่อ กร๊ากกกก

    /me มีของดีอยู่ในมือคีนตั้งสองชิ้นแน่ะ :)
  17. onikuro13

    onikuro13 Sadistic Queen

    EXP:
    299
    ถูกใจที่ได้รับ:
    7
    คะแนน Trophy:
    38
    เป็นยูกิเหรอเฮ่ย... จั่วเทพไปไหน...
    แต่เลเวลไวจัดๆมาก ตอนแรกแค่ 1 ตอนนี้ 50 แล้ว เขว้!
    รอตอนต่อไปจ้ะ
  18. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    เชื่อนะว่าจุดเด่นของฟิคเฮียจ้อยคือ ไอ้บทสนทนาดิบๆห่ามๆแบบนี้แหละ

    ม่างแต่ละคนนน กวนทรีนดีแท้ !!!!!!!!!!!
    นอกจากแดก เดินทาง และหาทางทำภารกิจคำสาป (เฮงซวยจริงๆกิลด์นี้.. ) ก็ไม่มีอะไรเป็นสาระอีก กร๊ากก
    นี่สินะเอกลักษณ์ของแก๊งค์เกรียนของจริง
    ไม่ต้องเน้นอะไรยุ่งยากมากมาย แค่นั่งอ่านไอ้พวกนี้ตอบโต้กันก็สนุกแล้ว จริงๆนะ
    ไอ้การใส่รายละเอียดลงมาเยอะๆก็ไม่มีประโยชน์หรอก อ่านแล้วมึนเปล่าๆ คนอ่านไม่ได้รู้ซึ้งเหมือนคนแต่ง แถมฟิคมันก็ไม่มีภาพให้เห็นด้วย

    บร๊ะ!! แต่สกิลคีนนี่ได้ใจจริงๆ นึกว่ามันจะเป็นจอมเวทย์ เป็นนักพนันก็เหมาะแล้ว กรุ้มกริ่ม ติดสำอางค์ ไร้สาระ และกวนตีน 5555+
    นอกนั้นก็เดาๆกันได้ ทากะก็มากับดาบซามูไรเหมือนเดิม - -+

    เห็นด้วยกับซาล เหมือนข้ามช็อต ดีเหมือนกัน มันไม่เซ็ง เก่งๆไปเลยดีกว่า
    รอดูว่าใครจะมาซวยตกกระไดพลอยโจนกับพวก 4 ตัว(?)นี่อีก
  19. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    ห้องรับแขกกับอีตานักเดินทาง

    หลังจากห่างหายจากบทที่หนึ่งไปพอสมควรเนื่องจากอีตานักเดินทางประสบปัญหาน้ำท่วมภาวะจิตใจย่ำแย่ไม่ค่อยจะมีอะไรกินทำให้ไม่มีไฟจะไปเขียนนิยายฮาๆ หลังจากผ่านไปหลายวันในที่สุดสถานการณ์ก็ดีขึ้นเลยมีไฟเขียนนิยายอีกครั้ง

  20. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Fantasy Inside Online Story บทที่ 2 : ฉายเดี่ยว





    นักพนันหนุ่มแห่งแคลน `Maldito´ ก้าวลงจากรถม้าโดยสารพร้อมกับผู้เล่นคนอื่นที่ร่วมทางกันมาในรถ ทันทีที่เท้าแตะกับพื้นสายลมที่หอบเอากลิ่นไอของเกลือพัดเข้าปะทะเต็มหน้าของเขา ซึ่งมันคือกลิ่นไอของผืนน้ำที่กว้างใหญ่ที่สุดบนโลก`ทะเล´

    ภาพตรงหน้าคือเมืองท่าหลักแห่งโลก FIO `เวลเจ´ พื้นปูด้วยอิฐสีขาวสะอาดตาบ้านของชาวเมืองหลากสีสันแต่มีหลังคาสูงเท่ากันทุกหลังและกระเบื้องบนหลังคาเป็นสีเดียวกันหมดคือสีส้มดุจท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ยอแสง ผู้คนต่างเดินกันขวักไขว่ ทั้งผู้เล่นและNPC แต่ Guvhan กลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแม้ว่ารถม้าจะวิ่งออกจากป้ายไปแล้วและผู้โดยสารคนอื่นต่างตรงไปทำธุระของตน

    Guvhan ล้วงขยุกขยิกเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับภารกิจในวันนี้ของเขาก็คือการนำเอาซากมังกรน้ำแข็งที่ล่ากันมาได้ไปขายที่ร้านเจ้าประจำของแคลน `Maldito´

    นักพนันน้องใหม่ถูกโบ้ยให้รับภาระนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะรุ่นพี่อีกสามคนต่างต้องไปส่งภารกิจที่ทำค้างไว้ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าแคลนนั่นหมายความว่าตั้งแต่เขา Lv.หนึ่ง จนถึงปัจจุบันคือLv.ห้าสิบ พวกรุ่นพี่ทั้งสามคนคือ Taka Keene และ Azemag ทั้งหมดไม่ได้ค่าประสบการณ์แม้แต่แต้มเดียวเป็นเวลาหนึ่งเดือน หรือสองร้อยสิบวันภายในเกมส์ ซึ่งนี่เป็นการเก็บค่าประสบการณ์แบบเร่งลัดคูณสี่ ที่คนสติไม่สมประกอบเท่านั้นจะทำกัน

    ถึงแม้เขาจะพยายามปฏิเสธวิธีการที่เป็นภาระแก่รุ่นพี่ของเขาแบบสุดๆวิธีนี้ แต่มันก็ไม่เป็นผลแถมโดนตอบกลับมาด้วยประโยคง่ายๆ


    "ต้อง Lv. พอๆกันสิถึงจะไปลุยกันแบบไม่ต้องกังวลอะไร แค่ห้าสิบใช้เวลาไม่เกินเดือนหรอก ไม่นานๆ"


    แล้วพวกเขาก็ทำได้แบบที่พูดจริงๆโชคดีที่อาชีพของเขาเป็นสายนักเวทย์ ซึ่ง Keene ก็ค่อนข้างชำนาญในทักษะต่างๆของสายอาชีพนี้มากพอสมควร จะมีก็แค่ทักษะนักพนันน่ะแหละที่มันยังเป็นทักษะพื้นฐานล้วนๆเพราะไม่มีใครรู้เงื่อนไขต่างๆของอาชีพนี้มากนัก

    การโดนเคี่ยวเข็ญด้วยรุ่นพี่สติไม่เต็มทั้งสามคนทำให้ Lv. และทักษะพื้นฐานต่างๆเติบโตแบบก้าวกระโดดชนิดที่ว่าไม่สามารถเอาไปบอกคนอื่นได้เพราะจะถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้ขี้โม้อย่างแน่นอน

    ต้นปาล์มที่เรียงรายอยู่ริมถนน ท่าเรือที่เรียงกันจนสุดสายตา ผู้คนมากมายบ้างก็เดินดูสินค้าตามร้านแผงลอยต่างๆริมถนน ซึ่งก็เป็นผู้เล่นซะส่วนใหญ่ที่มาจับจองพื้นที่ปูผ้าขายของกันตอนนี้ Guvhanไม่มีความสนใจกับแผงลอยเหล่านั้นซักเท่าไรนอกจากมองผ่านๆเพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว ถ้าเขามัวแต่มาเดินดูโน่นดูนี่รับรองว่าหาร้านที่ต้องเอาสินค้าไปส่งไม่ทันก่อนร้านปิดแน่นอน

    นักพนันหนุ่มสาวเท้าไปตามถนนอย่างรวดเร็วตรงไปตามทางในแผนที่บนมือ ซึ่งมันก็ไกลเอาการชนิดทำเอาเหงื่อซึมๆในที่สุดเขาก็มาหยุดอยู่หน้าร้านค้าเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ด้านในสุดของตรอกแคบๆมันลึกลับชนิดที่ว่าถ้าไม่มีแผนที่แบบละเอียดในมือแล้วล่ะก็ได้เดินหาทั้งวันแน่ๆ


    Guvhan เงยหน้ามองป้ายชื่อร้านตัวอักษรสีน้ำเงินบนพื้นสีเทาขะมุกขะมอม แสดงถึงความเก่าแก่ของป้ายที่ถูกแขวนตากแดดตากฝนเป็นเวลานาน


    "Albatross วิหคนักล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องทะเล ชื่อร้านเท่ดีแฮะ"
    นักพนันหนุ่มพึมพำกับตนเอง

    บานประตูไม้สีน้ำตาลเข้มเก่าคร่ำครึไม่ต่างจากสภาพของป้ายร้านถูกผลักเข้าไปอย่างเบามือพร้อมๆกับเสียงของกระดิ่งอันเล็กที่แขวนไว้ที่ประตูดังขึ้นกรุ๊งกริ๊ง

    เมื่อเข้ามาก็พบสินค้ามากมายวางอยู่บนชั้นรอบๆร้านอย่างเป็นระเบียบตั้งแต่หินเวทมนต์ ยาต่างๆ รวมไปถึงอาวุธและชุดป้องกันมากมาย

    "Guvhan จากแคลน `Maldito´ สินะ ?" เสียงเนือยๆของชายวัยกลางคนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ดังขึ้น เขาพับหนังสือพิมพ์ที่อ่านอยู่แล้ววางลง

    นักพนันหนุ่มพยักหน้างึกๆแล้วเดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับเอากล่องเวทย์มนต์อันเต็มไปด้วยซากมังกรน้ำแข็งที่พวกเขาชำแหละเก็บไว้ทั้งยี่สิบใบออกมาตั้งบนเคาน์เตอร์จนเต็มเอี๊ยดไปหมด

    "ของดีนี่รอบนี้ยังชำแหละได้เนี๊ยบเหมือนเคย รอแป๊ปนึงนะเดี๋ยวหยิบเงินมาให้"เจ้าของร้านเอ่ยขึ้นหลังจากเปิดกล่องเวทย์มนต์ทั้งยี่สิบใบนั้นเพื่อเช็คสินค้าที่อยู่ภายใน แล้วค่อยๆยกไปเก็บที่หลังร้านระหว่างรอนักพนันหนุ่มก็เดินดูสินค้ารอบๆร้านจนมาสะดุดตากับถุงมือคู่หนึ่ง

    มันเป็นถุงมือเปิดนิ้วแบบที่เขาใส่อยู่แต่มันมีสีน้ำเงิน ซึ่งเจ้าถุงมือคู่ที่เขาใส่อยู่มันก็ยับเยินเต็มทนแล้ว เพราะแต่เดิมมันก็คือถุงมือหนังธรรมดาที่เขาเอามาตัดตรงปลายนิ้วออกเพื่อให้จับไพ่ถนัดมือเท่านั้น ถึงเวลาสมควรเปลี่ยนใหม่ซักทีล่ะนะ การ์ดแสกนถูกหยิบขึ้นเพื่อดูรายละเอียดของถุงมือคู่นี้





    "เอานี่ค่าสินค้ารอบนี้ทั้งหมดหกเหรียญทอง"
    เสียงของถุงเงินถูกวางลงบนเค้าเตอร์ Guvhan ตัดสินใจหยิบถุงมือคู่นั้นตรงไปหาเจ้าของร้าน

    "พี่ถุงมือคู่นี้ราคาเท่าไรหรือ?"

    "ตาแหลมนี่เจ้าเด็กใหม่ แต่ราคามันแพงนะนั่นราคามันเป็นสิบเท่าของเหรียญที่วางอยู่ตรงนี้"
    เจ้าของร้านตอบกลับมาง่ายๆ

    "หกสิบทองสินะ? แพงเอาเรื่องเลยทีเดียวคงไม่ไหวล่ะ"
    นักพนันหนุ่มพึมพำพลางเดินเอาถุงมือคู่นั้นไปเก็บที่เดิม

    "ถ้าสนใจจริงๆมันก็มีเงื่อนไขล่ะนะ"
    เจ้าของร้านยื่นข้อเสนอแก่ Guvhan ทำเอาเจ้าตัวหันขวับไปมองด้วยความสนใจทันที

    "ภารกิจง่ายๆแค่เอาของไปส่งเท่านั้นเอง ค่าตอบแทนคือถุงมือคู่นั้นแล้วก็เงินอีกนิดหน่อย เจ้าจะรับหรือเปล่าล่ะ?"

    ถ้าเป็นผู้เล่นปกติคงตอบรับโดยไม่ลังเลแล้วในเมื่อค่าตอบแทนคือถุงมือชั้นดีราคาตั้งหกสิบทอง แต่แคลนที่เขาอยู่มันดันคือแคลน `Maldito´ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าการส่งของง่ายๆแบบที่เจ้าของร้านว่ามานี่มันคือภารกิจระดับนรกแตกแน่นอน

    และที่สำคัญกฎง่ายๆของแคลนที่มีอยู่ข้อเดียวก็คือ


    "ไม่ว่าจะรับภารกิจใดๆมันคือการให้ `สัจจะ´ ฉะนั้นไม่ว่ามันจะยากชนิดไร้ความหวังยังไงก็ต้องทำให้สำเร็จ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำภารกิจเหล่านั้นสำเร็จอย่ารับปากรับทำภารกิจเป็นอันขาด"


    Guvhan เอียงคอมองถุงมือคู่นั้นขมวดคิ้วคิดหนักทันทีถ้ารับภารกิจนี้มันความว่าเขาต้องลุยเดี่ยวสินะถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องลุยแบบเดี่ยวๆ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายๆครั้งที่ต้องแยกกับกลุ่มไปเอาตัวรอดเพียงลำพังด้วยสาเหตุนานับประการแต่การรับภารกิจด้วยตัวเองนี่ถือเป็นครั้งแรกจริงๆ

    "ขอรายละเอียดภารกิจหน่อยได้ไหมพี่?"
    นักพนันหนุ่มเอ่ยกับเจ้าของร้านขณะที่ยังชั่งใจไม่ได้

    "ก็แค่เอาโลหะขึ้นเรือที่ท่าเอาไปส่งให้ลูกค้าช่างตีดาบที่เกาะทางใต้ `อุเอรุโตะ´ แล้วก็เอาอาวุธจากที่นั่นกลับมายังร้านแห่งนี้เท่านั้นเอง ส่วนค่าเหนื่อยของเจ้าก็คือถุงมือคู่นั้นกับเงินอีกสิบทอง"

    เจ้าของร้านชี้ไปยังถุงมือที่ Guvhan เพิ่งเดินเอาไปวางไว้ที่เดิม

    ลางสังหรณ์ถึงความยากลำบากชนิดเลือดตาแทบกระเด็นพุ่งเข้าจู่โจมนักพนันน้องใหม่ของแคลนทันทีเมื่อได้ยินค่าตอบแทนอันมหาศาลถึงเงินสดสิบทอง และถุงมือราคาแพงคู่นั้นหลังจากยืนคิดอยู่พักใหญ่ในที่สุดเหมือนนักพนันหนุ่มจะหาคำตอบสำหรับตัวเองได้แล้ว

    "เอาวะพวกพี่ๆเขายังมีของดีๆใช้ด้วยตัวเองเราจะมัวมาแต่พึ่งเขาอยู่ไม่ได้ขอลองซักตั้งล่ะ" Guvhanพยักหน้าตอบตกลงรับทำภารกิจหนนี้ทันที

    เงินในส่วนของเขาถูกใช้ไปกับการจัดเตรียมอุปกรณ์ในการผจญภัยครั้งใหม่แบบเต็มอัตราศึก จะมีก็เพียงพวกเสบียงต่างๆเท่านั้นที่ร้านแห่งนี้ไม่มีขาย

    หลังจากจัดข้าวของยัดลงกระเป๋าเสร็จโดยมีถุงใส่โลหะ และม้วนกระดาษอันเป็นที่อยู่ของผู้รับสินค้าเป็นอย่างสุดท้ายที่นักพนันหนุ่มยัดโดยกระเป๋าโดยไม่ลืมที่จะตรวจเช็คสินค้าก่อน

    มันเป็นก้อนโลหะสีดำสนิทขนาดเขื่องราวๆห้าถึงหกก้อนน้ำหนักราวๆหนึ่งกิโลกรัม ถึงเขาจะไม่ได้มีสายอาชีพเกี่ยวกับการตีอาวุธทำไมเขาจะไม่รู้ว่าแร่เหล่านี้มันคือโลหะที่ดีที่สุดในเกมส์สำหรับสร้างอาวุธชั้นสูง

    `โฮริฮารูก้อน´
    แถมแร่ที่ปกติควรเป็นสีฟ้าใสดุจอัญมณีกลับมีสีที่ผิดแปลกไปแบบนี้มันเป็นของหายากระดับ S ขึ้นไปแน่นอน

    "ท่าทางจะไม่ใช่ส่งของธรรมดาแล้วมั๊งพี่ไอ้แร่ที่ให้ผมไปส่งเนี่ยมันมีค่ามากกว่ารางวัลที่จะได้ตอบแทนเมื่อทำภารกิจจบเป็นสิบเป็นร้อยเท่าเลยนะพี่ ไม่กลัวผมชิ่งเอาแร่พวกนี้ไปขายหรือ?"
    Guvhan ถามไปยังคนส่งมอบภารกิจยิ้มๆ

    "จะไปขายก็ตามใจเจ้าสิเด็กใหม่ แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำหรอกนะ"
    เจ้าของร้านตอบกลับมาแบบไม่ยินดียินร้ายขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการเอาสินค้ามาเติมในชั้นแทนที่ส่วนที่เจ้านักพนันซื้อไป

    Guvhan ขมวดคิ้วอย่างสงสัย "ทำไมล่ะพี่ชาย?"

    เจ้าของร้ายเงยหน้ามอง Guvhan แล้วชี้ไปที่แขนซ้ายของเขาที่เอาผ้าสีแดงสดพันทับแขนเสื้อเอาไว้เพื่อปิดอะไรบางอย่างไม่ให้มันเด่นจนเป็นภัยต่อตัวเอง

    "เพราะนกสีดำตัวนั้นสัญลักษณ์ของแคลนที่อยู่บนแขนเสื้อเจ้ายังไงล่ะ"

    "อุตส่าห์ปิดไว้แล้วยังสังเกตเห็นอีกนะพี่ชาย แคลนนี้เครดิตดีว่างั้นเถอะ?"

    เจ้าของร้ายส่ายหน้าดิก "เปล่า เพราะแคลนของเจ้าน่ะมันมีแต่คนบ้ายังไงล่ะ"

    นักพนันหนุ่มหัวเราะก๊ากชอบใจ "ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละพี่ ไปก่อนล่ะหวังว่าภารกิจที่พี่ให้มาจะเสร็จในเร็ววัน"
    แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกจากร้านอะไรบางอย่างก็ถูกโยนตามหลังเขามา เมื่อหันกลับไปคว้าไว้ตามสัญชาตญาณก็พบว่ามันคือถุงมือที่เป็นค่าตอบแทนคู่นั้นนั่นเอง

    "ให้ยืมใช้ก่อนถุงมือของแกมันสภาพดูแล้วน่าอนาถเกินไปจนน่าเวทนา" เจ้าของร้านเอ่ยพลางโบกมือไล่เขาออกจากร้าน

    นักพนันแห่งแคลนหายนะมายืนถือถุงมือสีน้ำเงินสดคู่นั้นอยู่หน้าร้านแบบงงๆบ่นงึมงำกับตัวเอง "แบบนี้มันเหมือนกับจะบอกว่าภารกิจนี้มันนรกแตกกลายๆเลยนะเนี่ย แต่ก็เอาเถอะมาลองดูกันซักตั้ง"




    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~



    ท่าเรือที่ทอดยาวสุดสายตาหลังจากเดินอยู่พักใหญ่ในที่สุด Guvhan ก็หาเรือที่จะไปเกาะทางใต้เจอจนได้พอติดต่อซื้อตั๋วเรือเรียบร้อยยังเหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมงกว่าเรือจะออกในช่วงพลบค่ำ เวลาแดดร่มลมตกแบบนี้ผู้คนต่างมาตั้งแผงลอยและเดินดูสินค้ากันหนาตา

    "อารมณ์เดียวกับตลาดนัดแถวบ้านเลยแฮะท่าเรือของ `เวลเจ´เนี่ย"
    นักพนันหนุ่มพึมพำพลางเดินดูสินค้าต่างๆเพื่อฆ่าเวลาแต่ก็ไม่มีอะไรสะดุดตาเท่าใดนักจนเดินมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งเขาก็เลี้ยวเข้าไปเพราะต้องการหาอะไรเติมกระเพาะซักหน่อยเพราะมันเริ่มร่ำร้องถามหาข้าวเย็นแล้ว

    ใน FIO ร้านอาหารตามเมืองก็เป็นสิ่งที่เหมือนจะดูไม่จำเป็นซักเท่าไรแต่ก็มีคนแวะเวียนเข้าไปดื่มกินอยู่ตลอดเวลาเพราะรสชาติมันอร่อยกว่าพวกขนมปังหรือของแห้งตามร้านขายของทั่วๆไปอยู่พอควร ถึงทักษะการปรุงอาหารมันจะเป็นของพื้นฐานแต่ถ้าระดับมันไม่สูงพอรสชาติที่ออกมามันก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี ร้านอาหารจึงมีผู้เล่นแวะเวียนเข้ามาใช้บริการกันอยู่ตลอดเวลา

    Guvhan เลือกโต๊ะมุมๆแล้วนั่งสังเกตผู้เล่นต่างๆที่อยู่ภายในร้าน หากนิยายแฟนตาซีร้านเหล้าคือแหล่งรวมข่าวสารและเรื่องราวต่างๆแล้วล่ะก็ใน FIO ร้านอาหารที่แหละที่เป็นแหล่งที่รวบรวมสิ่งเหล่านั้น

    สำหรับยามเย็นแบบนี้ร้านอาหารทั้งหลายภายในเมือถือว่าเป็นช่วงทำมาหากินคนเดินเข้าออกร้านยังกับแจกฟรี เสียงโหวกเวกโวยวายตะโกนสั่งอาหาร เสียงเฮฮาของกลุ่มเพื่อนฝูงที่มาจับกลุ่มคุยหลังจากเสร็จภารกิจ บ้างก็รวมหัวกันเล่นไพ่ซึ่งนักพนันอย่างเขาให้ความสนใจพอควรเลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีเวลาเหลือมากพอที่จะไปขอร่วมวงลงขัน เพราะการพนันทุกชนิดลองได้ไปร่วมวงแล้วยากที่จะถอนตัวออกมาง่ายๆถ้าไม่หมดตัวไปซะก่อนนี่คือสิ่งที่รู้กันในหมู่นักพนัน

    ถึงมันจะหนวกหูไปซักนิดแต่นี่คือสิ่งที่แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของเมืองนั้นๆมันคงจะเคว้งคว้างน่าดูถ้าเข้ามาในร้านอาหารแต่กลับไม่มีลูกค้าซักคนในร้านทั้งๆที่เป็นช่วงเย็นอันเป็นเวลาพักผ่อนของคนทั่วๆไป

    หลังจากสั่งอาหารและเครื่องดื่มรวมไปถึงอาหารแห้งที่ใช้เป็นเสบียงอีกจำนวนหนึ่งไม่นานนักทั้งหมดก็มากองอยู่บนโต๊ะ และก็อีกไม่นานเช่นกันที่มันหายเรียบลงกระเพาะของนักพนันหนุ่มส่วนอาหารแห้งถูกยัดลงกระเป๋าอีกตามเคย

    Guvhan เปิดหน้าต่างสถานะของตนเองเพื่อตรวจสอบอะไรหลายๆอย่างสำหรับการวางแผนในการเดินทางครั้งนี้เขาไม่คิดว่ามันจะสบายเหมือนนั่งเรือเที่ยวหรอกนะ ขณะนั้นเองเสียงของผู้เล่นรอบๆตัวเขาก็เงียบกริบจนผิดสังเกตเมื่อผ่านไปชั่วอึดใจก็ตามด้วยเสียงพูดคุยซุบซิบจากแทบทุกโต๊ะในร้านเมื่อมองไปยังที่มาของเป้าหมายในการพูดคุยก็พบหญิงสาวสามคนเดินเข้ามานั่งภายในร้าน

    ถึง FIO จะอ้างอิงหน้าตาจริงๆของผู้เล่นเมื่อมาอยู่ชุดภายในเกมส์ทำให้ดูดีขึ้นไปอีกระดับไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นผู้เล่นหน้าตาดีแต่หญิงสาวที่เรียกเสียงฮือฮาของคนทั้งร้านนี้มันไม่ใช่แค่ดูดีแต่มันมีอะไรมากกว่านั้นถ้าจะให้คำนิยามคงต้องบอกว่า `โดดเด่น´ ล่ะมั๊ง

    คนแรกเป็นหญิงสาวผมสีน้ำเงินเข้มยาวลงมาจนถึงขาอ่อน อยู่ในชุดเสื้อเกาะอกสีดำสวมทับด้วยเสื้อคลุมยาวสีแดงเพลิงกระโปรงสั้นเข้ารูปสีเดียวกับเสื้อคลุมรองเท้าบูทยาวสีดำหุ้มขึ้นมาเกือบถึงเข่า โดยเฉพาะใบหน้าที่เจือไปด้วยรอยยิ้มนั้นทำให้ดูโฉบเฉี่ยวไปทั้งตัว

    คนที่สองนั้นเป็นหญิงสาวผมสีทองยาวถึงกลางหลัง ตัดหน้าม้าผิวขาวซีดในชุดสูทแขนยาวเข้ารูปสีดำขลิบขอบด้วยสีแดงเข้ม ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตขาวผู้ด้วยไทด์แดงเข้ม กระโปรงสั้นแคบยาวครึ่งต้นขา ใส่ถุงน่องดำกับบูทส้นเข็มดำยาวถึงหัวเข่า ดวงตาสีเขียวเข้มบนใบหน้าของเธอนั้นมันน่ากลัวแบบแปลกๆ

    คนสุดท้ายตัวเล็กกว่าสองคนแรกอยู่เล็กน้อยผมสั้นสีน้ำตาลเข้มระต้นคออยู่ในชุดที่ดูแว่บเดียวก็รู้ถึงอาชีพของเธอว่าเป็นสายนักฆ่าหรือแอสซาซินแน่ๆ เสื้อแขนยาวเข้ารูปสีดำประดับด้วยเกราะไหล่สีดำ เกราะแขนสีครีมขลิบแดงกระโปรงมินิเสกิร์ตสีแดงสดบูทสีดำที่หุ้มขึ้นมาถึงขาอ่อนประดับด้วยเกราะสีครีมขลิบแดงเช่นเดียวกับที่แขน ผ้าพันคอสีแดงสดที่เข้ากับใบหน้าเรียบเฉยของเธอจนเหลือเชื่อทำให้หญิงสาวคนนี้โดดเด่นไม่แพ้อีกสองคน

    "วันนี้โชคดีจริงๆได้เจอคนดังซะด้วย ทั้งสามคนนี้อยู่แคลนอันดับหนึ่งอย่าง `Detrimentum´ ว่ากันว่าแต่ละคน Lv. เกินร้อยไปแล้วทั้งนั้นเลยนะไม่ว่าจะเป็น อัญมณีโลหิตBeatrix ราชินีสีชาด Scarlet Queen หรือ เทพธิดานักฆ่า Sekai"

    เสียงของโต๊ะข้างๆที่คุยกับเพื่อนอย่างออกรสออกชาติทำให้นักพนันหนุ่มรู้จักทั้งสามคนอย่างคร่าวๆถึงจะโดดเด่นหรือน่าสนใจยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่ดี Guvhan เรียกบริกรมาคิดเงินค่าอาหารของเขาหลังจากชำระเรียบร้อยขณะกำลังจะเดินออกจากร้านก็มีใครบางคนเดินสวนเข้ามาในร้านจนเกือบจะชนเขา

    "เฮ้ย!! เดินยังไงเนี่ยไอ้น้อง" เสียงของอัศวินในชุดเกราะสีเขียวอ่อนตะคอกเขาตรงหน้าร้าน

    เค้าลางแห้งความยุ่งยากของนักพนันหนุ่มฉายเด่นตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดินทางเพราะสัญลักษณ์แคลนที่ติดอยู่ตรงผ้าคลุมมันเป็นแบบเดียวกับที่เขาเห็นบนชุดของหญิงสาวทั้งสามเมื่อกี้ ซึ่งหมายความว่าเจ้าเกราะเขียวนี่สังกัดแคลนอันดับหนึ่งของเกมส์อย่าง `Detrimentum´ แน่นอน

    "ขอโทษทีนะพี่ชายพอดีเรือมันกำลังจะออกต้องขอโทษจริงๆ" Guvhan ตีหน้าเศร้าก้มหัวขอโทษพลางยกมือไหวปลกๆขณะที่กำลังจะเตรียมชิ่งนั่นเองไหล่ของเขาก็ถูกรั้งไว้

    "จะไปง่ายๆอย่านี้หรือไอ้น้องรู้รึเปล่าว่ามันทำให้พี่เสียเวลา"​
    อัศวินเกราะเขียวเอ่ยด้วยท่าทีคุกคาม

    นักพนันหนุ่มขมวดคิ้วนี่มันหาเรื่องกันชัดๆ สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมายังทั้งสองซึ่งยืนเผชิญหน้ากันอยู่ด้านในร้าน

    "แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะพี่ชายพอดีผมรีบจริงๆ สงสารเด็กเพิ่งหัดเล่นที่อยู่แคลนเล็กๆเถอะครับ"​
    นักพนันหนุ่มพยายามจะตัดบทด้วยความน่าสงสารพลางปัดมือที่รั้งไหล่เขาออกเบาๆ

    "นี่แกไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใครไอ้น้อง"
    อัศวินเกราะเขียวไม่ปล่อยนักพนันหนุ่มไปง่ายๆ

    ดูจากรูปการงานนี้ท่าจะเลี่ยงไม่ได้ซัดมอนสเตอร์มาก็เยอะงวดนี้จะขอลองระบบ PVP ของเกมส์นี้หน่อยจะเป็นไรไปไหนๆพวกพี่ๆเขาก็บอกว่าแคลนเราโดนแคลนใหญ่ต่างๆหมายหัวอยู่แล้วนี่เอาให้มัน`หายนะ´สมกับชื่อแคลนดูซักหน่อยจะเป็นไรไป

    "ตัวของตัวเองพี่ชายยังไม่รู้เลยว่าเป็นใครแล้วผมจะรู้มั๊ยล่ะครับ แต่ที่แนะนำได้อย่างหนึ่งก็คือการโชว์พาวเว่อให้สาวๆดูด้วยวิธีการนี้มันเป็นอะไรที่สิ้นคิดมากๆ ผมว่าพี่ชายควรจะเปลี่ยนอาชีพจากอัศวินไปเป็นนักเลงปากซอยแทนนะ"​

    "ถ้าคาใจมากผมชื่อ Guvhan Lv.50 เท่านั้นจะลอง PVP กันดูมั๊ยล่ะในเมื่อพี่ชายอยากจะมีเรื่องนักล่ะก็"
    นักพนันหนุ่มตอกหน้ากลับไปตรงๆด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ใบหน้ากวนอวัยวะเบื้องต่ำเป็นอย่างยิ่งซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาถนัดนักแล

    อัศวินเกราะเขียวตรงหน้าโมโหจนหน้าเปลี่ยนสีทำให้ Guvhan รู้ทันทีว่าเจ้านี่ไม่ใช่ผู้เล่นระดับสูงของแคลนแน่ๆมันรู้สึกกันได้ว่าแตกต่างกับหญิงสาวสามคนที่นั่งมองอยู่ภายในร้านราวฟ้ากับเหว ดูจากท่าทีอวดเบ่งแบบนี้คง Lv.ราวเจ็ดแปดสิบแหงๆ อัศวินเกราะเขียวเรียกดาบขนาดใหญ่ออกมา




    "พี่ชายเป็นอัศวินLv.ตั้งแปดสิบสี่ กลับมาท้านักพนันกระจอกๆLv.ห้าสิบแบบผมนี่เกียรติของอัศวินช่างสูงส่งจริงๆเลยนะพี่ชาย Lv.ต่างกันเกือบสี่สิบขั้นแบบนี้ใครตอบตกลงก็บ้าแล้วเนอะ"
    Guvhan เอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มๆไม่อาทรร้อนใจอะไรซักเท่าไร

    เวทมนต์เสริมความเร็วถูกร่ายในใจอย่างเงียบๆขณะต่อล้อต่อเถียงกับผู้ที่จะ PVP กับเขาตรงหน้า ดูจากระดับและชุดเกราะการปาไพ่ที่เขาแสนถนัดมันเจาะไม่เข้าอยู่แล้วล่ะถ้าไม่ออกไพ่ชุดใหญ่ สิ่งที่ได้เรียนรู้มามันสอนถึงการต่อสู้กับศัตรูเกราะหนาโจมตีหนักหน่วงว่าควรจะรับมืออย่างไร

    "แต่ผมตกลง!"

    รอยยิ้มบนใบหน้า Guvhan หายวับไปร่างของนักพนันหนุ่มกระโจนเข้าไปเกือบประชิดตัวซึ่งเป็นจุดบอดที่สำคัญที่สุดของอัศวินเกราะหนาดาบใหญ่ที่เหวี่ยงดาบได้ช้าและมีปัญหาเมื่อศัตรูเข้ามาประชิดตัว พริบตาต่อมามือที่ถือดาบเล่มใหญ่ถูกคว้าแล้วโถมทั้งตัวบิดย้อนกลับอย่างผิดธรรมชาติของข้อมือ แล้วเข่าของ Guvhan กระแทกเข้าจากด้านล่างไปยังข้อที่ถูกบิดจนตึงเสียงกระดูกลั่นจนได้ยินชัดไปทั้งร้าน

    อ๊าก!!

    เสียงของอัศวินเกราะเขียวแหกปากร้องลั่นดาบหลุดจากมือโชคดีที่อัศวินเกราะเขียวมันไม่ได้ใส่หมวกอาจจะเป็นเพราะประมาท หรือมั่นใจในตัวเองอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่สันมือของ Guvhan ถูกเหวี่ยงเข้ากระแทกคอสุดแรงจนร่างในเกราะหนักนั่นกระเด็นถอยหลังไปนอนตัวกุมคออยู่กับพื้น

    "โทษทีนะพี่ชาย ไอ้ชุดคาราเต้ที่ใส่อยู่นี่ผมไม่ได้ใส่ไว้เท่ๆหรอกนะ"
    ไพ่สำรับเก่งถูกจั่วขึ้นมาเต็มพิกัดห้าใบ ถึงจะเลขไม่ค่อยสวยนักแต่วินาทีนี้นักพนันหนุ่มไม่สนใจอะไรนอกจากจะซ้ำให้การต่อสู้นี้จบลงเร็วที่สุดแต่ก่อนที่ไพ่ในมือจะถูกซัดเข้าใส่เป้าหมายอันเป็นหัวที่ไม่ได้สวมเกราะของเจ้าอัศวินคนนั้นในระยะเกือบที่จะเป็นศูนย์ใครบางคนก็ก็มาจับข้อมือเขาไว้จากด้านหลัง โดยที่เขาไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยทำเอา Guvhan สะดุ้งเฮือก

    "พอเถอะค่ะการต่อสู้รู้ผลแล้ว"
    หนึ่งในสามหญิงสาวที่ก่อนการต่อสู้เขายังเห็นเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะห่างออกไปเกือบสามเมตร ผมสั้นสีน้ำตาล และชุดของเธอทำให้เขามั่นใจว่า ”เทพธิดานักฆ่า Sekai” คงคือชื่อที่เธอถูกเรียกขานไม่ผิดแน่

    "ต้องขออภัยแทนคนในแคลนด้วยนะคะที่ทำให้คุณยุ่งยากแบบนี้คุณ Guvhan ดิฉันBeatrixค่ะ"
    หญิงสาวอีกคนเดินเข้ามากล่าวขอโทษและแนะนำตัวด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มอย่างเป็นมิตรชุดสีแดงสดของเธอนี่มันคงคือที่มาของฉายา "อัญมณีโลหิต"

    และคนสุดท้ายที่เดินมาสมทบคือหญิงสาวผมทองในชุดสูทสีดำใบหน้าของเธอแสยะยิ้มอย่างน่าสะพรึงกลัว "Sekai Beatrixไปห้ามมันทำไมกำลังสนุกเลยอีกนิดเดียวเจ้านั่นก็ได้ไปนอนโรงพยาบาลแล้วแท้ๆ"

    “ราชินี" คือคำนิยามสำหรับหญิงสาวคนนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว และทั้งสามคนนี้ไม่ควรจะไปยุ่งด้วยเป็นอันขาด อนุสติมันบอกกับตัวเขาอย่างนั้น

    "งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวเลยละกันนะครับเจ๊ๆ" นักพนันหนุ่มตัดบทเตรียมชิ่งอีกครั้ง

    Scarlet Queen ยื่นผ้าผูกแขนสีแดงสดที่ไม่รู้ว่ามันหลุดออกจากแขนเขาตั้งแต่เมื่อไรมาให้ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าผ้าผูกแขนสีแดงอันนั้นเขาผูกไว้แน่นดีแล้วนี่มันไม่มีทางจะหลุดจากแขนเขาได้ง่ายๆแน่ๆไม่ว่าจะเป็นต่อสู้หนักหนาขนาดไหนก็ไม่น่าจะหลุดออกจากแขนเขา แสดงว่าต้องมีคนแกะมันออกไปแต่ทำไมเขาไม่รู้ตัวล่ะ

    "สมาชิกใหม่ของแคลน `Maldito´ สินะ ฝากบอกเจ้าสามตัวแคลนเดียวกับแกด้วยนะว่าฉันฝากความคิดถึงไปให้"
    ใบหน้าของหญิงสาวผมทองถึงจะยิ้มแต่มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้แผ่นหลังของนักพนันหนุ่มเย็นวาบ พวกเจ๊ๆที่รุ่นพี่เขาพูดถึงบ่อยๆก็คือสามคนนี้สินะ และเหตุผลที่มาของท่าทีอันแสนหวาดหวั่นเมื่อเอ่ยถึงพวกเจ๊ๆของทั้ง Azemag และ Keene

    เวลานี้ Guvhan เข้าใจแจ่มชัดเลยทีเดียว แล้วเหมือนกับว่าราชินีผมทองตรงหน้าเขาจะเน้นเสียงคำว่า `Maldito´ อันเป็นชื่อแคลนของเขาซะชัดจนได้ยินกันไปทั่วทั้งร้าน

    และเมื่อชื่อของ `Maldito´ ถูกเอ่ยขึ้นเสียงฮือฮาก็ก็ดังเซ็งแซ่จากทั่วร้านอีกครั้งหลายๆคนขยับตัวทันทีวินาทีนี้นักพนันหนุ่มก็รู้ชัดอีกอย่างแล้วว่าทำไมพี่ๆทั้งสามคนของเขาไม่ชอบเข้าเมืองนักถ้าไม่จำเป็นเพราะโจทก์เพียบนี่เอง

    "แล้วจะฝากบอกให้นะครับเจ๊"
    นักพนันหนุ่มคว้าผ้าผูกแขนสีแดงจากมือของ Scarlet Queen แล้วใส่เกียร์หมาโกยแน่บออกจากร้านทันทีการต่อสู้แบบโหน Lv. ตัวต่อตัวมันยังพอมีแผนแต่ถ้าแห่กันมาเพียบแบบนี้เขาก็พร้อมที่จะหนีแบบไม่อายเลยทีเดียว

    "วิ่งเล่นให้สนุกนะเจ้าเด็กใหม่ คึคึคึคึคึ♥" หญิงสาวผมทองโบกมือให้ Guvhan ด้วยรอยยิ้มแบบมีเลศนัย

    หลังจากสับสี่คูณร้อยจนหายใจเป็นหมาหอบแดดในที่สุดนักพนันหนุ่มก็สลัดกลุ่มคนที่แห่วิ่งตามเขามาจนถึงท่าเรือจนได้ แต่ความซวยของเขามันไม่จบไม่สิ้นเมื่อเขามาถึงช้าไปขณะนี้สะพานเรือถูกชักเก็บไว้บนตัวเรือขณะตัวเรือกำลังแล่นจะออกจากท่าแล้ว

    "ชิบหายแล้ว!! เรือรอบต่อไปมันตั้งพรุ่งนี้เย็นอยู่ในเมืองต่อเป็นศพไปนอนโรงพยาบาลแน่ๆ"
    ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนแต่ Guvhan ก็ต้องกัดฟันรีดกำลังเฮือกสุดวิ่งสุดแรงแล้วกระโจนสุดกำลัง

    โครม!!

    นักพนันหนุ่มลอยขึ้นมาจากพื้นมาอยู่บนเรือที่กำลังจะออกจากท่าแต่ว่าขาลงไม่สวยเท่าไรร่างของGuvhan กระแทกดาดฟ้าเรืออย่างจังแล้วกลิ้งไปอัดกับกราบเรืออีกฝั่งทำเอาเจ้าตัวจุกจนพูดอะไรไม่ออกนอนกองอยู่บนดาดฟ้าเรือ

    ทั้ง NPC และผู้เล่นที่อยู่บนเรือต่างกรูกันเข้ามาดูอาการของนักพนันหนุ่มที่เจ้าตัวได้แต่โบกตั๋วเรือไปมาแทนคำตอบว่าเขาก็คือหนึ่งในผู้โดยสารของเรือรอบนี้
    นี่เป็นเพียงการเริ่มต้องของภารกิจแรกของนักพนันน้องใหม่แห่งแคลน `Maldito´ เท่านั้น




    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~​

  21. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    อูอา... เจ๊ๆสวยเซ็กซี่บาดใจจริงๆ

    ไอ้นักดาบเกราะเขียวก็ตามมาตรฐานผู้เล่นเกรียนทั้งหลาย โชว์เท่ต่อหน้าหญิงแต่โดนยำซะหมดสภาพ
    ส่วนกุฟานก็เกรียน + ปากหมาได้ใจจริงๆเลย

    ต่อให้แคลนนี้ไม่โดนคำสาป งานก็เข้าจะๆเพราะปากของไอ้มีนเนี่ยหละ


    แล้ว...ไปอุเอรุโตะ งานเข้าเห็นๆเลยนะเนี่ย
    นรกกำลังรอคอยเจ้านะ กุฟาน
  22. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    ยังถือว่าโชคดีนะที่เจ๊ๆเขาไม่สะสางบัญชีด้วยซะเลย แต่ไหงถึงได้มีโจทย์ซะขนาดนั้นล่ะเนี่ย >_<"
  23. Ryuto

    Ryuto 終わる道、始まる夢

    EXP:
    964
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    88
    guvhan ซวยซ่ำซากจริงๆ อ๊ากกกกกกก

    ไอ้ที่ผ้าหลุดนี่เกี่ยวกับที่โดนคำสาปสุดซวยนั้นหรือเปล่าเนี่ย หรือ สามสาวมันมากระฉากไป

    จะว่าไปเห็นคำผิดตั้งคำนึงแต่ ไม่เป็นไร ฮ่าๆๆๆ

    จะรอดูว่ามันจะซวยถึงไหน แค่ออกจะเมืองยังจะไม่ได้เลย จะลงเรือได้ไหมเนี่ย

    ป.ล.บรรยากาศในร้านของเก่านี่ชวนนึกถึงร้านของเก่าในหนังฝรั่งจริงๆ
    joi100 ถูกใจสิ่งนี้
  24. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    แคลนสามสาวมาแล้ววว~~~~

    รอดูชะตากรรมของแคลนหนุ่มๆต่อไป...คุคุคุ..
  25. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    ชอบ gang สามสาวนี้ดีนะ ดูเหมือนก๊วนที่มีเสน่ห์ดี

    ย้อนไปตอนซื้อของแล้วมีคนบอกว่า gang ที่เอ็งอยู่มัน "บ้า" ลองมาคิดๆดูแล้วไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีล่ะเนี้ย 55

    ว่าแล้วก็รอดูตอนหน้ากันต่อไป *0*

Share This Page