อธิบายเรื่องราว คราวของ FF13 ให้ฟังทีสิครับ

กระทู้จากหมวด 'All Final Fantasy' โดย YunaFFX, 13 มีนาคม 2012.

  1. YunaFFX

    YunaFFX Member

    EXP:
    78
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
    ผมชอบไฟนอลทุกภาคนะ ชอบเนื้อเรื่องมากที่สุดก็เป็นภาค 9 และ ภาค 10

    แต่..... ภาค13 ยังไม่ได้ทำงาน ยังไม่มีเงินซื้อเกมส์เอง

    แล้วมาเห็นคลิปเรียกสัตว์อสูรของแต่ละคน ยังไงหรอ ต้องสู้กับอสูรตัวเอง และรอเวลาหมดให้อสูรยอมรับเราหรอ

    และมาเจอคลิปนี้
    http://www.youtube.com/watch?v=dKyBwfHg3m4&feature=related แทบอรี่ น่ารักอ่ะ ความสามารถมันคืออะไร เห็นเอามีดเสียบๆ ความแรงไม่แน่นอน แอบ งง งง

    เล่าเรื่องราวของ ภาค 13 ให้ฟังคราวๆที่สิครับว่าใครเปนยังไง ทำอะไรกับมคร ตอนจบทำไมต้องเปน ผญ 2 คนนั้นเข้าไปหลับ:eek:
  2. YunaFFX

    YunaFFX Member

    EXP:
    78
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
  3. A.K.Thathap

    A.K.Thathap Active Member

    EXP:
    128
    ถูกใจที่ได้รับ:
    36
    คะแนน Trophy:
    28
    ถูกแล้วครับ ต้องสู้กับเอลโดรอนเพื่อให้เขายอมรับเรา เราจึงจะอัญเชิญเขาได้
    ส่วนทอนเบอรี่เป็นมอนเตอร์ในเควสปลดปล่อยลูซิถูกสาปบนแกรนพัลซ์นั่นเอง

    แก่นของภาคสิบสาม อยู่ที่การยอมรับความเป็นจริง ยอมรับว่ามนุษย์นั้นอ่อนแอ
    การที่ต้องเผชิญหน้ากับพระเจ้า (ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงความสมบูรณ์แบบ)
    ต้องยอมรับว่าเรามีพลังมากไปกว่าเขาไม่ได้ ซึ่งนั่นก็คือการเผชิญหน้ากับสิ่งที่หนีมาตลอดนั่นเอง

    ถ้าจะให้เล่าเนื้อเรื่องก็เป็นไปตามสูตรไฟนอล
    คือคนหลายคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ถูกโชคชะตาให้ต้องมาผ่านเรื่องราวไปด้วยกัน
    การเดินทางไปข้างหน้าสู่อนาคตที่ไม่รู้จักนั้น แทนที่จะทำให้ตัวเองถูกพัดไำกลไปเรื่อยๆ
    มันกลับชักนำกลับสู่อดีต สู่ปมปัญหาที่เราต้องยอมรับมัน การต่อสู้เพื่อคนอื่นอย่างไม่เต็มใจ
    สุดท้ายก็กลายเป็นความต้องการของตัวเอง และกลายเป็นการต่อสู้เพื่อตัวเองไปในที่สุด

    โครงเรื่องไฟนอลทุกภาคจะเป็นไปทำนองนี้

    สำหรับในส่วนของภาคสิบสามนั้น
    คิดว่าคนที่เล่าได้ดีที่สุดไม่น่าจะเป็นผม เพราะผมไม่แม่นทฤษฎีภาคนี้
    และยังไม่เล่น XIII-2 ยังไงรอคนมาตอบซักคน น่าจะดีกว่านะครับ ^-^
  4. YunaFFX

    YunaFFX Member

    EXP:
    78
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
    แวะมาแชร์ประสบการณ์ก็ขอบคุณมากแล้วครับ
    แต่ที่เคยเล่นมา...
    FF 9 วางเนื้อเรื่องได้น่ารักดี มีความสุข เปนนิยายเล็กๆที่มีค่า แสดงถึงชนเผ่าผู้ใช้อสูรศักดิ์สิทธิ์มากๆ
    FF 10 วางเนื้อเรื่องได้แปลก แฟนตาซี หลากหลาย และให้ความสำคัญกับมนต์อสูรดีมาก
  5. BoN

    BoN แกนนำไร้วิญญาณ

    EXP:
    1,776
    ถูกใจที่ได้รับ:
    66
    คะแนน Trophy:
    113
    เวลาลูซิ ตกอยู่ในสถานการณ์สับสน ยากลำบากที่จะตัดสินใจ เทพธิดาเอโทรจะส่งสัตว์อสูรมาสร้างสถานการณ์ เพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้ลูซิคนนั้นรู้สึกตัวและตัดสินใจได้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป เมื่อคิดได้แล้ว สัตว์อสูรก็จะหยุดต่อสู้และหันมาเป็นพวกเราตามที่รับบัญชามา

    เนื้อเรื่องภาคนี้ ถ้าเล่าแบบสั้นๆ

    - ฟัลซิพัลส์ เดินทางมายังโลก สร้างความเจริญ อารยธรรมต่างๆ ให้โลก สร้างฟัลซิลูกหลานมาดูแลระบบต่างๆ จนผู้คนบูชาและตั้งชื่อโลกนี้ว่าแกรนพัลส์

    - ฟัลซิพัลส์เดินทางออกจากโลก หลังจากนั้นไม่นานฟัลซิลินด์เซย์เดินทางมาที่โลก ฟัลซิลินด์เซย์ได้ดูดเอาแผ่นดินแกรนพัลส์บางส่วนไปสร้างเป็นดาวลอยฟ้าเีีรียกว่าโคคูน จากนั้นก็สร้างฟัลซิลูกหลานขึ้นมาดูแลระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ในโคคูนให้มีความเจริญสูง แล้วก็ชักจูงมนุษย์ในแกรนพัลส์ให้ย้ายไปอยู่ในโคคูน แน่นอนว่าคนบางส่วนก็อพยพไปโคคูน แต่บางคนก็ไม่อพยพไป

    - ฟัลซิลินด์เซย์มอบหมายให้ฟัลซิบาร์ธานเดลุสดูแลโคคูนต่อไปตามแผน แล้วฟัลซิลินด์เซย์ก็ออกจากโลกไป

    - ฟัลซิบาร์ธานเดลุสหาเรื่องก่อกวน แย่งชิงทรัพยากร อาหาร พืชผล และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในแกรนพัลส์ไปให้กับชาวโคคูน ทำให้ผู้คนในแกรนพัลส์ค่อยๆ สั่งสมความเกลียดชังผู้คนในโคคูนมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงข้ามกับผู้คนในโคคูนที่ได้รับการประคบประหงมจากฟัลซิบาร์ธานเดลุสและพรรคพวกเป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาเคารพเชื่อฟังฟัลซิบาร์ธานเดลุสสุดๆ

    - แกรนพัลส์ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ ความขัดแย้งระหว่างแกรนพัลส์กับโคคูนก็ทวีความรุนแรงขึ้น ฟัลซิลาร์ธานเดลุสเองก็เบื่อกับความขัดแย้งนี้ เขาจึงคิดที่เสี้ยมให้ความเกลียดชังระหว่างโคคูนและพัลส์ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว ฟัลซิในแกรนพัลส์จะทนไม่ไหว จนต้องส่งสัตว์อสูรแร็คนาร็อคมาทำลายโคคูน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นมนุษย์ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในโคคูนจะตายไปพร้อมกัน วิญญาณของคนพวกนั้นจะไหลผ่านประตูวิญญาณไปยังอีกภพหนึ่ง ซึ่งเทพผู้สร้างที่อยู่หลังประตูวิญญาณก็จะรับรู้ถึงความผิดปกตินี้ และจะต้องย้อนกลับมาฟื้นฟูโลกให้เป็นปกติแน่.... ฟัลซิบาร์ธานเดลุสคิดแบบนั้น

    - 600 ปีก่อน แฟงก์ซึ่งเป็นชาวแกรนพัลส์ ไปรับพลังจากฟัลซิของแกรนพัลส์มา แล้วกลายร่างเป็นแร็คนาร็อคไปถล่มโคคูน แต่ขณะที่ถล่มได้ระดับนึง ก็โดนเทพธิดาเอโทรริบพลังไป ที่เอโทรทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้แผนของลินด์เซย์สำเร็จ และไม่อยากให้มนุษย์ที่เป็นลูกหลานของเธอต้องตายอย่างไร้ค่า

    - ในยุคปัจจุบันของเกม พวกตัวเอกซึ่งเป็นชาวโคคูนแท้ๆ แต่กลับโดนฟัลซิของแกรนพัลส์สาปให้กลายเป็นลูซิ และได้รับภารกิจให้ไปทำลายโคคูน (ถ้าไม่ทำตามจะกลายเป็นซากศพเดินได้) พอชาวโคคูนรู้เข้าก็หาทางจะรุมกำจัดพวกตัวเอก ส่วนฟัลซิบาร์ธานเดลุสเองก็คอยหาทางหลอกล่อให้พวกตัวเอกมาทำลายฟัลซิออฟาน ซึ่งเป็นฟัลซิที่จ่ายพลังงานให้กับระบบทั้งหมดในโคคูนให้ได้ เพื่อที่โคคูนจะได้ตกลงสู่แกรนพัลส์

    - ตอนแรกพอพวกตัวเอกโดนสาปให้กลายเป็นลูซิ แล้วโดนคนทั้งโคคูนไล่ตื้บ... บางส่วนก็สิ้นหวังกับชีวิต บางส่วนก็สติแตก บางส่วนก็เหวี่ยงไปทั่ว ฯลฯ งี้พวกเขาควรจะทำยังไงดี ระหว่างการทำลายโคคูนซึ่งเป็นดาวบ้านเกิดทิ้งเพื่อที่ตนเองจะได้มีชีวิตรอด? หรือจะยอมตายๆ ไปดี? หรือจะหนีไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็กลายเป็นซากศพเดินได้ดี? สับสนชีวิต

    - แต่พอดำเนินเรื่องไปถึงจุดหนึ่งก็คิดได้ว่าที่แล้วมาชาวโคคูนนั้นล้วนใช้ชีวิตเหมือนสัตว์เลี้ยงของฟัลซิมาตลอด ก็อยากที่จะมีชีวิตที่ไม่พึ่งพาฟัลซิอีกต่อไป แล้วยังไงซะโคคูนก็เป็นบ้านเกิดของพวกเธอ พวกเธอก็ต้องปกป้องให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตามแต่

    - ฟัลซิบาร์ธานเดลุส หาเรื่องเป่าหูกองทัพอากาศให้ไปทำลายฟัลซิออฟาน... (ซึ่งพวกกองทัพอากาศก็ไม่รู้หรอกว่าฟัลซิออฟานเป็นคนจ่ายพลังงานให้กับดาวทั้งดวง) ทำให้พวกตัวเอกต้องรีบมุ่งหน้าไปหยุดพวกกองทัพอากาศที่นครเอเดน

    - พวกตัวเอกเดินทางมายังนครเอเดน กำจัดฟัลซิบาร์ธานเดลุสที่พยายามเสี้ยมให้พวกเขาทำลายโคคูน จากนั้นพวกเขาก็เจอฟัลซิออฟาน... ทั้งที่พวกเขามาเพื่อปกป้องฟัลซิออฟานแท้ๆ แต่กลับโดนฟัลซิออฟานทำร้าย ซึ่งฟัลซิออฟานเองก็คิดแบบฟัลซิบาร์ธานเดลุสว่าโลกในตอนนี้มันเละเทะเต็มที่แล้ว ก็ต้องทำลายทิ้งแล้วให้เทพผู้สร้างกลับมาสร้างขึ้นใหม่ ฟัลซิออฟานจึงพยายามจะทรมานพวกตัวเอก เพื่อให้พวกตัวเอกคุ้มคลั่ง กลายเป็นแร็ึคนาร็อคแล้วหันมาทำลายมันซะ (สาเหตุที่ฟัลซิออฟานไม่ฆ่าตัวตายซะเอง เพราะฟัลซินั้นเป็นเครื่องจักรที่ไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ได้ ดังนั้นฟัลซิออฟานจึงฆ่าตัวตายไม่ได้ และฟัลซิบาร์ธานเดลุสก็ฆ่าฟัลซิออฟานที่เป็นพวกเดียวกันไม่ได้ด้วย)

    - ช่วงที่กำลังวิกฤตกันอยู่ เทพธิดาเอโทรก็ส่งพลังมาช่วยถอนคำสาปแห่งลูซิให้ แล้วยังทำให้พวกตัวเอกเห็นนิมิตแห่งอนาคตที่พวกเขาจะได้ใ้ช้ชีวิตอย่างมีความสุข สุดท้ายพวกตัวเอกก็โค่นฟัลซิออฟานลงได้ .....ทำให้โคคูนไม่มีต้นกำเนิดพลังงานอีกต่อไป ไฟทั้งหมดในโคคูนดับ และพร้อมจะร่วงลงมาสู่ผืนดิน แฟงก์กับวานิลจึงร่วมมือกันแปลงร่างเป็นสัตว์อสูรแร็คนาร็อค แล้วสละชีวิตช่วยกันสร้างเสาคริสตัลที่ใช้ค้ำจุนโคคูนไม่ให้ตกลงมายังแกรนพัลส์

    - เหตุการณ์นี้ทำให้ฟัลซิในโคคูนตายเรียบ มนุษย์เริ่มอพยพกลับมาใช้ชีวิตกันในแกรนพัลส์ แล้วก็หาทางบูรณะโคคูนไปด้วย

    ***จริงๆ แล้วทั้งฟัลซิลินด์เซย์และฟัลซิพัลส์ ต่างก็เป็นพวกเดียวกัน พวกเขาถูกบูนิเบลเซ่ใช้ให้ไปตามหาประตูสู่โลกวิญญาณ ซึ่งการจะเปิดประตูสู่โลกวิญญาณได้ มันจำเป็นต้องทำให้ผู้คนตายพร้อมกันมากๆ ฟัลซิพัลส์จึงรับหน้าที่สร้างชีวิต และฟัลซิลินด์เซย์ก็รับหน้าที่ทำลายชีวิต ทั้งหมดล้วนทำไปเพื่อการเปิดประตูวิญญาณให้บูนิเบลเซ่

    ****ใน FFType-0 ฟัลซิอเรเซีย (ลูกน้องฟัลซิพัลส์) กับฟัลซิกาล่า (ลูกน้องฟัลซิลินด์เซย์) ก็ทำแบบเดียวกัน คือฝ่ายหนึ่งคอยสร้าง อีกฝ่ายคอยทำลาย...

    --------------------------------------------------------------------------------------------

    ไทม์ไลน์ของเกม ตามไปอ่านได้ที่ http://ffplanet.exteen.com/20100423/timeline-final-fantasy-xiii
    ffpokemon และ A.K.Thathap ถูกใจสิ่งนี้
  6. YunaFFX

    YunaFFX Member

    EXP:
    78
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
    คงต้องเล่นเองแล้วละ ถึงจะเข้าใจแก่นแท้ คำศัพท์ เยอะจัง ภาคนี้
  7. Save-The-Queen

    Save-The-Queen Member

    EXP:
    64
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
    ภาคนี้ต้องเ่ลนเองคับ เล่นเองบางคนยังไม่เข้าใจเลย
    แต่ถ้าเข้าใจเนื้อเรื่องนะ ผมว่าภาคนี้น่าประทับใจกว่าภาคไหนๆเลย

    ภาค 13 ถ้าเปรียบก้อเหมือนระเบิดเวลา เวลาของแต่ละคนก้อลดลงเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างมีปัญหาของตัวเอง
    ถ้าเล่นแบบไม่ชอบใครซักคนในเนื้อเรื่องภาคนี้จะเป็นอะไรที่ไม่สนุกเลย
    แต่ถ้าเข้าใจตัวละครแล้วอ่ะ ภาคนี้ทำดีมากๆ

    ตอนนี้กะลังเล่นภาคนี้รอบ 3 อยู่
    รอภาค 13-3 ต่อไป อิอิ

    อีกอย่างนะคับ ถ้าจะเข้าใจเนื้อเรื่องภาคนี้กะภาค 13-2 จริง
    ต้องศึกษาไปถึง The maker ด้วยนะคับ อะไรๆจะกระจ่างเยอะ

    The maker เป็นคนสร้างพัลส์/ลินเซย์/เอโทรอีกทีคับ
    ลองดูคลิปนี้ก่อนเล่นละกัน

    http://www.youtube.com/watch?v=LwFlVr6ceXg
  8. BoN

    BoN แกนนำไร้วิญญาณ

    EXP:
    1,776
    ถูกใจที่ได้รับ:
    66
    คะแนน Trophy:
    113
    ผมไม่ไ้ด้จะมายืนยันว่า The Maker เป็นใครนะครับ เพราะยังไม่ชัวร์ถึงขั้นยืนยันได้

    แต่จากข้อมูลที่รู้ บาร์ธานเดลุสเชื่อว่า The Maker อยู่หลังประตูวิญญาณ
    แล้วเราก็รู้ว่าคนที่อยู่หลังประตูวิญญาณ เด่นๆ ก็คือเอโทรกับมูอิน
    เอโทรไม่ใช่ The Maker เพราะเธอไม่ได้สร้างฟัลซิขึ้นมา
    ดังนั้นถ้าว่าตามหลักฐานที่ปรากฏในตอนนี้แล้ว The Maker จึงน่าจะเป็นมูอินครับ

    ซึ่งถ้า The Maker เป็นมูอินแล้ว เธอเพียงให้กำเนิดบูนิเบลเซ่ขึ้นมาเท่านั้น
    ส่วนบูนิเบลเซ่ก็คือผู้ที่สร้าง เอโทร ลินด์เซย์ พัลส์ ขึ้นมาอีกที

    ดังนั้นการบอกว่า The Maker เป็นผู้สร้างเอโทร ลินด์เซย์ พัลส์... ผมคิดว่าไม่น่าจะถูกครับ คนที่สร้างทั้งสามคือบูนิเบลเซ่

    ก็เป็นเพียงความเห็นแย้งครับ

    ***************

    จริงๆ ถ้าจะให้ผมเล่าแบบเมาๆ ไม่ใช้ศัพท์เฉพาะ มันก็เล่าได้อยู่หรอกครับ
    แต่ถ้าเล่าแบบนั้น ผมว่าเอาคนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าใจเนื้อเรื่องมาเล่า ก็เล่าได้..... ไม่ต่างกัน

    FF ภาคอื่นๆ ก็เหมือนกัน ถ้าให้เล่าแบบไม่ใช้ศัพท์เฉพาะ มันก็เล่าได้ เหมือนเวลาเล่าขำๆ ให้เพื่อนฟัง แต่เนื้อหามันมักจะผิดเพี้ยนครับ ไหนๆ มีพื้นที่ให้เล่าได้แบบละเอียดระดับนึงแล้ว ก็อยากจะเล่าให้มันดีๆ มากกว่า
  9. mogca

    mogca モーグリ:零式

    EXP:
    3,681
    ถูกใจที่ได้รับ:
    44
    คะแนน Trophy:
    98
    ผมว่าบางทีไอ้นี่แหละคือจุดที่ทำให้คนบ่นเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของภาคนี้มากเหมือนกัน เนื้อหาในเกมค่อนข้างตรง แต่รายละเอียดปลีกย่ิอย ตำนาน ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ เยอะมาก.....แถมไม่ได้ใส่มาให้ใน event CG แบบ 100% แต่ต้องเปิดรีพอร์ตเป็นสิบหน้าเพื่ออ่านให้หมด (สารภาพว่ายังอ่านไม่หมดเหมือนกัน) แถมยังมีคลิป นิยาย บทสัมภาษณ์ บลาๆๆ ที่ต้องมีการรวบรวมกลั่นกรองเพื่อหาว่า"คนเขียน story มันต้องการจะสื่ออะไรวะ!?" คนเล่นบางคนก็ไม่ได้ทำถึงขนาดนั้นแล้วก็มาบ่นว่าเนือเรื่องมันตรง ไม่มีอะไร เบาโหวง บลาๆๆ.....ทั้งๆที่จริงมันมีพร้อมหมดแล้ว (ส่วนความเห็นส่วนตัวคิดว่ามันส่งเนื้อหาพวกนั้นให้กับคนเล่นได้ห่วยถึงห่วยมาก....)

    ภาคก่อนๆรีพอร์ตในเกมเองก็มีไม่ใช่ไม่มี แต่รู้สึกว่าไม่เยอะขนาดนี้ ทำให้อารมณ์ในการดำเนินเรื่องมันไหลไปกับเนื้อเรื่องเอย คัตซีนเอยได้มากกว่า แต่คิดอีกแง่.....พวกตัวเอกในเกมมันก็แค่เป็นเห็บหมัดอยู่ที่ปลายปมประวัติศาสตร์....มันจะเดินเรื่องโดยที่เผยข้อมูลทั้งหมดในโลกผ่านการดำเนินเรื่องของตัวเอกตัวกระจ้อย มันก็โดนด่าว่าไม่สมจริงอยู่ดี ฮ่าๆๆ

    ถ้าทำหนังสือนิยายแบบไม่ใช่ภาค 0 ภาคเสริม แต่เป็นภาคหลักด้วยจะดีมาก......และถ้าทำ eng ver มาขายก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก และถ้ามีขายที่คิโนะก็จะดีโคตรๆ............คงไม่ได้สินะ -*-
  10. A.K.Thathap

    A.K.Thathap Active Member

    EXP:
    128
    ถูกใจที่ได้รับ:
    36
    คะแนน Trophy:
    28
    ภาคนี้...มีกลิ่นอายของปกรณัมกรีกมากที่สุดน่ะครับ
    คือในตำนานกรีกเนี่ยจะพูดถึงวีรบุรุษ เพราะคนกรีกโรมันยกย่องคนกล้าหาญ
    แล้วเทพเจ้าอะไรเนี่ย ก็เหมือนมีไว้นินทาเล่น มีโลภโกรธหลง มีกิ๊กกับมนุษย์นับญาติมั่วกันไปหมด

    ดังนั้นที่เขายกย่อง เป็นแบบอย่างจริงๆก็คือมนุษย์ที่เป็นคนธรรมดาเนี่ยแหละ
    คนที่เป็นตัวเอกของเรื่อง ไม่ใช่ผู้มีพลังอำนาจมากมายอะไร
    แต่มีความกล้าหาญ ถ้าสมัยนี้ก็ต้องหมายถึงจิตใจที่เข้มแข็ง
    นั่นแหละถึงจะเรียกว่าความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง พวกเทพเจ้าต่างหากล่ะที่เป็นตัวประกอบไป

    แม้จะเป็นมนุษย์ธรรมดาซึ่งไร้ความสำคัญจนดูเหมือนเห็บหมัด
    แต่เรื่องราวของพวกเขา เป็นเรื่องราวที่มีความหมาย...

    ------------------------------------

    ลองพูดถึงเนิ้อเรื่องหน่อยละกัน ขอย้ำอีกครั้งว่าผมยังไม่เล่น FF XIII-2

    ในปรกรณัมกรีก
    เทพเจ้านั้นก็ไม่เชิงว่าดีหรือร้าย ไฟนอลภาคนี้ก็เช่นกัน
    อย่างกรณีสงครามทรอยเทพอาเธน่า เฮรา โปไซดอนอยู่ข้างกรีก
    เทพวีนัสอยู่ข้างทรอย เหตุผลน่ะเหรอ? เพราะปารีสบอกว่าเทพวีนัสสวย เทพีที่เหลือเลยขายหน้า

    ก็แค่นั้นเอง แบ็คอัพกันด้วยเหตุผลง่ายๆ

    ในไฟนอล 13 พวกตัวเอกก็มีเทพเป็นแบ็คอัพเหมือนกัน
    พวกโคคูนก็ไ้ด้รับการแบ็คอัพจากเทพฝ่ายหนึ่ง พวกพัลซ์ก็ได้รับการแบ็คอัพจากเทพอีกฝ่าย

    แต่จะแบ็คอัพในลักษณะทำนองสงครามศักสิทธิ์ระหว่างความดีและความชั่ว
    หรืออาจจะเป็นแค่เหตุผลอะไรก็ไม่รู้ของพวกเทพ เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครดีใครร้าย อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน

    ต่อไปจะขอเล่าถึงตัวเอก

    ไลท์นิ่ง ช่วยน้องสาวแต่กลับกลายเป็นลูซิ หุ่นเชิดของพระผู้เป็นเจ้า (ฟาลซิ) เสียเอง
    ชีวิตเลยสับสนทำอะไรไม่ถูก ภารกิจจากฟาลซิคือทำลายพลังงานการลอยตัวของดาวเคราะห์โคคูน
    ซึ่งจะทำให้คนบนดาวตายทั้งหมด แต่การฆ่าคนบริสุทธิ์นั้น มันยากกว่าที่คนทั่วไปคิด
    และไม่ใช่สิ่งที่ใจอยากทำแน่นอน

    การเป็นหุ่นเชิด มันน่าสมเพชเวทนาซะจริง
    น่าสมเพชตัวเอง...

    อะไรคือสิ่งที่ใจต้องการกันแน่ล่ะ?

    เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไป เธอก็ค่อยๆเข้าใจความต้องการของตัวเอง
    ฆ่าคนไม่รู้เรื่องรู้ราวทิ้งด้วยมือฉันเองน่ะเหรอ? ถอดขาออกยังง่ายซะกว่า!

    ไปชกหน้าพระผู้เป็นเจ้าซักเปรี้ยงเข้าท่ากว่ากันเยอะ!

    เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปตามนั้น แล้วก็จบลงในแบบที่ควรจะเป็นในที่สุด...

    ------------------------------------

    เรื่องนั้นผมไม่เคยซิเรียสครับ บางทีก็อาจพึ่งสิ่งที่สื่อออกมาอย่างชัดแจ้งซึ่งยอมรับกันทั่วไป
    หรือไม่ก็อ่านบทสัมภาษณ์ ซึ่งนั่นก็น่าจะทำให้เราเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้นไม่น้อย

    และอย่าลืมค้นหาสิ่งที่แตกต่างออกไป ซึ่งมีความหมายเป็นพิเศษกับตัวเราเอง

    ว่ากันตามจริงแล้วความคิดของผู้สร้าง ผู้สร้างเท่านั้่นที่รู้
    เมื่องานออกมาแล้วผู้สร้างหรือคนเล่นก็ไม่ต่างกันอีกต่อไป เพราะงานมันจะมีชีวิตของมันเอง
    ซึ่งทุกคนต่างก็ต้องพยายามเข้าใจในแบบของตัวเอง และมาแบ่งปันมุมมองของกันและกันครับ

    สุดท้าย อยากอัญเชิญคำของมูรากามิ ซึ่งพูดทำนองว่า

    ไม่ว่าการอุปมา “ไข่กับกำแพง” ของผมจะได้รับการสรรเสริญขนาดไหน
    สารที่ดิบขนาดนั้นจะค่อยๆ ลดแรงกระแทกใจเมื่อมันถูกส่งกระจายไปทั่ว
    แต่เรื่องที่นักเขียนแต่งจะเข้าไปในจิตใจของคนจนเต็ม
    แม้จะไม่สามารถสร้างผลกระทบแบบทันด่วนได้ แต่มันสามารถคงอยู่ได้อีกยาวนาน
    ทั้งยังสามารถพัฒนาต่อไปพร้อมกับเวลาที่ผ่านผันอีกด้วย
    เรื่องเรื่องหนึ่งจำเป็นต้องมีพลังเพิ่มพูนยิ่งขึ้น แม้จะเป็นตอนที่อินเตอร์เน็ต
    ท่วมท้นไปด้วย “ความคิดเห็น”

    ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ สุขสันต์วัน April fools! lol...55555!!!
  11. A.K.Thathap

    A.K.Thathap Active Member

    EXP:
    128
    ถูกใจที่ได้รับ:
    36
    คะแนน Trophy:
    28
    การคิดด้วยตัวเองในสภาพการณ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ต้องใช้พลังมหาศาล
    เพราะเหตุนี้ คนส่วนใหญ่จึงหยิบยืมคำพูดสำเร็จรูปพร้อมใช้ของคนอื่นๆ
    มากล่าวทำราวกับตัวเองเป็นคนคิดขึ้นมา วิธีการคิดเช่นนี้มีแนวโน้มจะเชื่อมโยง
    กับความคิดแนวนิยมจารีต ยิ่งตอนนี้แนวคิดพวกนี้ถูกทำให้ง่ายลงยิ่งไปกันใหญ่
    แนวความคิดเช่นนี้ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพนัก -- มันเหมือนอาหารขยะที่ให้พลังงานชั่ววูบหนึ่งแต่ไม่มีประโยชน์กับร่างกาย ในช่วงหลังๆนี้ การกระตุ้นคนให้สนใจเรื่องที่เกี่ยวข้อง
    กับจิตวิญญาณของตนด้วยตัวเองทำได้ยาก

    -----------------------------​

    คำพูดสะกิดใจหรือข้อความต่างๆ พยายามใส่ความรู้สึกที่พูดยาก
    เกี่ยวกับจิตวิิญญาณของคนในรูปของคำที่เรียบง่าย มันจึงโดนใจคนได้ในทันที
    นักเขียนนวนิยายไม่ได้เป็นอย่างนั้น นักเขียนแต่งเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้นมา
    ผ่านถ้อยคำที่ใกล้เคียงกับแก่นของแนวคิดมากที่สุด และดึงสารที่ยากจะบอก
    ออกมาด้วยการใส่รายละเอียด ผมคิดว่านี่คือความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้

    นักเขียนนวนิยายได้รับความสุขใหญ่หลวงเมื่อผู้อ่านคนหนึ่งได้ค้นพบความจริง
    ที่ถูกห่อหุ้มอยู่ในถ้อยคำในนวนิยาย สิ่งที่สำคัญไม่ใช่จำนวนเล่มที่ขายได้
    แต่เป็นวิธีการที่นักเขียนนวนิยายใช้ในการเข้าถึงผู้อ่าน

    -----------------------------​

    “ระหว่างกำแพงสูงแกร่งกับไข่ที่แตกเมื่อตกกระทบ
    ผมจะขอยืนหยัดอยู่ข้างเดียวกับไข่ใบนั้นเสมอมาและเสมอไป”

    -----------------------------​

    แต่ไม่ได้มีเพียงเท่านั้นนะครับ มันมีความหมายลึกซึ้งกว่าที่ว่าไว้
    ลองคิดในแง่นี้ดู พวกเราทุกคนนั่นแหละก็คือไข่ดีๆ นี่เอง เรามีลักษณะเฉพาะตัว
    มีจิตวิญญาณที่ไม่สามารถแทนที่ได้ใต้เปลือกอันบอบบาง
    มันเป็นเรื่องจริงสำหรับผมและท่านทั้งหลาย และเราก็กำลังเผชิญหน้ากับกำแพงสูงแกร่ง
    ไม่มากก็น้อย กำแพงนี้มีชื่อว่า “ระบบ” “ระบบ” ควรจะปกป้องพวกเรา
    แต่บางครั้งมันก็มีชีวิตของมันเองและเริ่มสังหารพวกเร
    และทำให้เราสังหารคนอื่นๆ อย่างเยือกเย็น อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเป็นระบบ

    ผมมีเหตุผลข้อเดียวที่เขียนนวนิยาย
    และนั่นคือการยกศักดิ์ศรีของแต่ละจิตวิญญาณขึ้นมา
    และส่องแสงไปยังจิตเหล่านั้น จุดมุ่งหมายของนวนิยายเรื่องหนึ่งก็เพื่อปลุก
    เพื่อฉายแสงไปที่ “ระบบ” เพื่อป้องกันเครือข่ายของมันมาบิดเบือนจิตวิญญา
    ของพวกเราและทำให้จิตเหล่านั้นต่ำลง ผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า
    หน้าที่ของนักประพันธ์คือต้องพยายามอธิบายความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละดวงจิต
    โดยการแต่งเรื่อง –เรื่องความเป็นความตาย เรื่องรักใคร่ เรื่องที่ทำให้คนร้องไห้
    สั่นสะท้านด้วยความกลัวและสั่นโยกด้วยเสียงหัวเราะ
    นี่คือเหตุที่พวกเราปรุงแต่งนิยายวันแล้ววันเล่าด้วยความจริงจังเต็มเปี่ยม

    -----------------------------​

    เรื่องจะคงอยู่ตลอดกาล -- หากเป็นเรื่องที่ดีและพบพื้นที่ในใจของคนที่ใช่
  12. ffpokemon

    ffpokemon Editor

    EXP:
    1,691
    ถูกใจที่ได้รับ:
    79
    คะแนน Trophy:
    113
    อย่าที่พี่ม็อกบอกมันก็จริงนะครับ ที่ว่าคนบ่นกันเพราะใครมันจะไปไล่นั่งตามอ่านรีพอร์ทเป็นสิบหน้า
    แถมรีพอร์ตสิบหน้านั้นมันยังไม่สนุกอีกต่างหาก คือเอาไว้สำหรับเซียนเกมสายเนื้อเรื่องโดยเฉพาะก็ว่าได้

    นอกจากนี้ผมว่า FFXIII มันหนักยิ่งกว่านั้นอีกครับ คือเท่าที่ผมลองดู ต่อให้อ่านรีพอร์ทหมดก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดีครับ
    เท่าที่ฟังจากหลาย ๆ คน (ในบอร์ดนี้กับ thaiffplanet) ผมคิดว่าจะเข้าใจเนื้อเรื่องได้หมด แค่รีพอร์ทยังไม่พอ
    แต่ต้องไปอ่านนิยาย & บทสัมภาษณ์ & เล่นภาคอื่น & บลา ๆๆ อีก ถึงจะเข้าใจได้หมด (บางอันต้องอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นอีก)

    ผมว่าเพราะอย่างนี้แหละครับถึงโดนคนด่าเยอะ สมัย FFT นี่ Germonik Scripture ก็ยาวเป็นสิบหน้าเหมือนกัน
    แต่ก็อ่านกันได้ไม่มีใครบ่น เพราะอ่านแล้วสนุกและดูสมเหตุสมผลว่าเป็นคัมภีร์ในเนื้อเรื่องที่แย่งกัน
    แต่ FFXIII นี่ใส่เป็น log มาเหมือนเป็นเพราะทำไม่ทันมากกว่า
  13. BoN

    BoN แกนนำไร้วิญญาณ

    EXP:
    1,776
    ถูกใจที่ได้รับ:
    66
    คะแนน Trophy:
    113
    ขอแสดงความเห็นแย้งนิดหนึ่งนะครับ ในฐานะผมที่คิดว่าอ่านตัว Data log ทั้งหมดใน FF13 มาจนครบ, อ่านบทสัมภาษณ์และนิยายของเกมนี้มาจนคิดว่าครบทุกฉบับได้

    ที่ผ่านมา ผมเห็นคนส่วนใหญ่ พูดกันมาตลอดว่า การจะเข้าใจเนื้อเรื่องเกมนี้ได้ ต้องอ่านบทสัมภาษณ์และอ่านนิยาย ฯลฯ

    แต่ในความจริง ผมจะบอกว่าเกมนี้มันแทบไม่มีบทสัมภาษณ์ที่เป็นการเฉลยเนื้อเรื่อง หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจเนื้อเรื่องเลยครับ ส่วนใหญ่เขาจะพูดเรื่องขั้นตอนการพัฒนาซะมากกว่า ผมเองก็ตั้งตารอตั้งแต่เล่นเกมจบว่าเมื่อไหร่จะมีบทสัมภาษณ์ที่เป็นการเฉลยเนื้อเรื่องแบบตรงๆ สักที แต่มันก็ไม่เคยมีครับ

    ส่วนเนื้อหาในนิยายนั่น... เอาจริงๆ มันคือการอ่านเพื่อความบันเทิงครับ เนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญในนิยายทั้งหมด ถูกสรุปแล้วเล่าผ่าน data log หรือคัตซีนภายในตัวเกมของมันเองแล้ว ดังนั้นถ้าบอกว่าไม่ได้อ่านนิยายแล้วจะเล่นไม่รู้เรื่อง เข้าใจไม่ทั้งหมด ผมว่าไม่จริงครับ.... เพราะส่วนที่เป็นสาระสำคัญของนิยาย มันถูกสรุปเอาไว้ในเกมแล้ว แต่ถ้าใครอยากจะไปอ่านเนื้อหาส่วนนั้นแบบขยาย ได้เห็นบทพูดแบบชัดๆ ทีละบรรทัด แบบนั้นค่อยไปอ่านนิยายเต็มๆ

    ดังนั้นผมเลยมองว่า การจะทำความเข้าใจเนื้อหาของเกมเนี้ยเอาจริงๆ ดูแค่ 2 อย่างก็พอ
    1. ดูตัวเกมเอง
    2. ดูคลิปตำนานฟาบูล่า ที่ทีมงานเอามาเปิดเมื่อต้นปีที่แล้ว
    อาจจะเพิ่มการดูอัลติมาเนียเข้าไปด้วย แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่เห็นฝรั่งแปลอัลติมาเนียของภาคนี้มาให้อ่านเลย ก็เลยนับรวมไม่ได้

    สำหรับตัวเกมนั้น ผมยืนยันว่า 80% ของเนื้อเรื่องมันถูกเล่าผ่านคัตซีนในเกมแล้ว
    อีก 10% ที่ไม่ค่อยสำคัญ ต้องไปคอยส่องๆ ใน Data Log เช่นเรื่องใครเป็นรุ่นพี่ใคร มอนสเตอร์ที่ปรากฏใน Chap 12 มาจากไหน ....
    (ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าเนื้อหาใน Data Log เกือบทั้งหมดมันเป็นการสรุปเรื่องทั่วๆ ไป ที่ดูได้จากคัตซีนเองอยู่แล้ว แต่บางทีมันดันแอบสอดแทรกเนื้อหาที่ไม่มีในคัตซีนลงไปด้วย ซึ่งรวมๆ แล้วสิ่งที่สอดแทรกไปมันก็มีปริมาณมากพอจะเป็น 10% ได้เลย)
    อีก 10% สุดท้าย... อยู่ใน Analect ทั้ง 13 ฉบับที่อ่านโคตรยาก

    เอาจริงๆ ผมว่า.... ถ้าเล่นแค่ตัวเกมเฉยๆ ดูคัตซีน โดยไม่เข้าไปอ่าน Data Log เลย ถ้ามานั่งทำความเข้าใจดีๆ มันก็เข้าใจเนื้อหาได้แหละครับ

    แต่ผมเห็นคนจำนวนมาก ไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้วพวกเขาฟังแล้วคิดตามๆ กันว่า ถ้าไม่ได้อ่าน Data Log, ไม่ได้อ่านบทสัมภาษณ์, ไม่ได้อ่านนิยาย... จะไม่มีทางเข้าใจเนื้อหาของเกมนี้ได้แน่ๆ เลย พอคิดแบบนั้นก็เกิดความรู้สึกขี้เกียจไปตามอ่าน แล้วก็เลยไม่อ่านมันซะเลย..... แล้วก็ไม่สนใจที่จะทำความเข้าใจเนื้อหาของมัน

    ผมคิดว่าผมเสียเวลาอ่านทั้งนิยาย ทั้งบทสัมภาษณ์ และอะไรต่อมิอะไรสารพัดไปมากมายก็จริง แต่ผมว่าเนื้อหาที่จำเป็นต่อการทำความเข้าใจเนื้อเรื่องของเกมนี้จริงๆ มีแค่ตัวเกมเอง กับคลิปตำนานฟาบูล่าที่เฉลยว่าพัลส์กับลินด์เซย์มันฮั้วกันอยู่ (ประเด็นเดียว) แค่นั้นแหละครับ

    ส่วนที่ว่าเกมมันเข้าใจยาก ไม่รู้เรื่อง ผมว่าเป็นปัญหาที่การเล่าเรื่องแบบย้อนกลับไปกลับมาของเขา มันไม่ต่อเนื่อง ไม่เป็นขั้นเป็นตอน... เดี๋ยวย้อนกลับไป x วันก่อนเริ่มเกม เดี๋ยวกลับมาปัจจุบัน แล้วเดี๋ยวย้อนกลับไปอีกแล้ว... แถมมันสลับกันไปสลับกันมา ถ้าไม่ได้มานั่งจำดีๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นวันไหน ก็เมาแน่นอน...

    แล้วอีกจุดหนึ่งก็คือวิธีการใช้คำพูด หลายๆ จุดเค้าใช้วิธีการพูดอ้อมๆ ต้องไปนั่งตีความกันเอง ซึ่งตอนแรกแต่ละคนก็อาจจะตีความได้ต่างกัน แต่ถ้าไปนั่งสิงบอร์ดที่เค้าถกเนื้อเรื่องกันดูสักระยะใหญ่ๆ จะเห็นว่าตอนแรกความคิดของแต่ละคนมันจะแตกๆ กันอยู่ (The Maker คือใคร, ใครช่วยถอนคำสาปให้พวกตัวเอก, เป้าหมายที่แท้จริงของตัวร้ายคืออะไร, ภารกิจของเซร่าห์คืออะไร, ทำไมซิดกลายเป็นคริสตัล ฯลฯ) แต่พอคุยแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุด้วยผลไปสักระยะ มันจะเริ่มได้ความเห็นที่ลงรอยกัน ความคิดมันจะเริ่มตกผลึก แล้วก็ได้แนวทางการตีความที่ดีที่สุด ที่ทุกคนในบอร์ดอ่านแล้วจะยอมรับกันได้ ซึ่งมันก็เป็นการตีความที่ถูกต้องตามหลักฐานที่ปรากฏในภายหลังเสียด้วย

    สรุปสิ่งที่ผมอยากสื่อ
    - เนื้อหาของ FF13 แค่เล่นเกม + ดูคลิปตำนานฟาบูล่าก็เข้าใจได้แล้ว ไม่ต้องไปอ่านเนื้อหาแหล่งอื่นอีก
    - ที่เกมมันดูเข้าใจยาก เล่นแล้วไม่รู้เรื่อง เพราะวิธีการเล่าเรื่องของเขา ค่อนข้างมีปัญหาครับ....
    ffpokemon และ mogca ถูกใจสิ่งนี้
  14. YunaFFX

    YunaFFX Member

    EXP:
    78
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
    แล้วไม ตอนจบ ชะนี 2 คนนั้น ถึงต้องถูกแช่แข็งด้วยละ พวกนาง ไปทำบาปอะไรหรอ ^^
  15. mogca

    mogca モーグリ:零式

    EXP:
    3,681
    ถูกใจที่ได้รับ:
    44
    คะแนน Trophy:
    98
    ^
    ^
    คำตอบอยู่ใน rep 5 แล้วครับ.....:rolleyes:
    YunaFFX ถูกใจสิ่งนี้
  16. YunaFFX

    YunaFFX Member

    EXP:
    78
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    8
    อ่านแล้วฮะ อยากเล่น จริงๆ ใครอยู่ชลบุรีบ้าง ขอไปนั่งดูเล่นทีบ้านหน่อย อิอิ
  17. Rystonyx

    Rystonyx ....

    EXP:
    14
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    1
    เอาจริงๆ ผมว่า เรื่องที่ดูซับซ้อนก็ทำให้มันเป็นที่ สงสัยในใจผู้คนไปอีกนานนะ ก็ดีไปอีกแบบ
    ผมเองพึ่งได้เล่นเกมนี้แหละครับ ไล่จากภาค13แรก จน จบ 13-2 (ตอนนี้ไล่เตรียมเปิด Gate ให้ครบ กับเก็บ Paradox Ending อีก 8 ชิ้น)
    ทิ้งความสงสัย และลึกลับ น่าค้นหาต่อไปมันก็ดี คนก็จะสนใจค้นคว้าหาข้อมูล หรือ สนใจตัวเกมมากขึ้นก็เป็นได้ มันก็น่าค้นหาต่อไปอีกแบบนะ

    ส่วนเนื้อเรื่อง จากที่อ่านๆมาในหลายๆที่ รวมถึงที่นี่ด้วย นิยายเรื่องนี้ มันก็เป็นตำนาน อีกแบบหนึ่งที่ใกล้เคียงกรีกโรมัน คือ ไม่มีที่มาแน่นอน แล้วก็เกี่ยวโยงถึงความสัมพันธ์เครือญาติแบบสงครามในครอบครัว ของเทพ (นี่ก็แม่โดนลูก ฆ่าทิ้ง ไปอยู่อีกภพหนึ่ง) อะไรทำนองนี้ พอๆกัน คาดว่าคงเอาแนวคิดทำนองนี้มาไว้

    แต่เอาจริงๆ ดูเนื้อเรื่องและองค์ประกอบทั้งหมด ผมว่ามันเหมือน ยุคที่สิ่งมีชีวิตทุกระดับ (ไม่ว่าจะมีกายร่างกาย หรือจะเป็นวิญญาณ(เทพ อมนุษย์) ต่างๆ) มารวมกับสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ เช่น เครื่องจักร ยังไงก็ไม่รู้ อาจจะพวก Eidolon ที่เป็นเครื่องขับขี่ และ เหล่า Behemothกลายพันธุ์ ผสม machine อะไรทำนองนี้ ดูไม่ค่อยจะเหมาะกับ เรื่องราวตำนานเทพเลย (ในความรู้สึกผมนะ)
    คิดอีกมุม ก็คงจะเป็นโลกที่ พัฒนามากๆๆ จนสามารถรวมสิ่งมีชีวิตกับเครื่องจักรได้แล้ว...

    แล้วก็มาหมุนวนเวียน กับ มิติเวลา โดราเอมอน ในภาค 13-2อีก เรื่องราว มันยังไงก็ไม่รู้ชอบกล สรุปแล้ว เราสามารถ แก้ไขเวลาทั้งหมดได้??? แต่เงื่อนไข ของการที่มองเห็นอนาคตมันก็มีอยู่ คือ ยังไงก็ต้องเสียพลังชีวิตไปเรื่อยๆอยู่ดี ก็เลย ไม่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับ เซร่ากันแน่ หรือฉากจบ มันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว? หรือมี การแก้ไข (ภาคต่อ) หรือ มีตัวโหลดอะไร ลงไปใหม่อีก? (หรือฉากจบอื่นๆ อยู่ใน paradox Ending แบบต่างๆ????) ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน เพื่อนผมเองที่นั่งดูผมเล่น FF13-2 ยังเอ่ยปากบอกเลยว่า "ซับซ้อนมากๆ" ก็โยงมาในเรื่องของ "ทำให้คนสงสัย และหาคำตอบของปัญหาต่างๆ ของตัวละครนั้นๆต่อไป"

    แต่เอาจริงๆ ฉากจบไม่จำเป็นต้องสวยหรูเสมอนี่เนอะ... มันก็ต้องมี โศกนาฏกรรมบ้าง(สะกดถูกป่าว - -ถ้าผิดก็ขออภัยครับ)
    ความคิดเห็นของผมก็เท่านี้ละ
  18. obagigirl

    obagigirl Member

    EXP:
    61
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    คำแปลกๆทั้งนั้น

Share This Page