ตามที่ท่านนายกสมัครพูดเอาไว้ ... ท่านบอกว่า ปี 1976 นั้นมีคนตายแค่ 1 คน .... และ ไม่มีใครตายใน มธ. เลย เหรอครับ ? มันเป็นแบบนั้นหรอครับ ? ใครมีข้อมูลบ้าง ? ที่มา : <!-- m -->http://www.sukiflix.com/35da0b6f6ea37bcf8bcb.video<!-- m -->?สมัคร-ยืนยัน-ผมไม่ใช่คนเลว
จริงหรือ ถ้างั้นภาพข่าวที่เคยออกไปมันมาจากไหน คนที่หายสาบสูญตั้งเท่าไหร่หายไปไหน งานนี้ตายเพราะคำพูดตัวเองละ
^^ ^^ เป็นเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 ค่ะ ถ้าอยู่ม.ปลายน่าจะได้เรียนในวิชาสังคมม.5 นะ(ถ้าจำไม่ผิด) คลิ๊กดูรายละเอียด เอ่อ เราเคยดูวิดีโอภาพที่อัดเหตุการณ์ไว้สดๆ นะ หลายรอบด้วย ถามว่าคนตายไปเท่าไรเราไม่รู้นะ แต่มากกว่า 10 คนแน่นอน อย่างน้อยก็มีทั้งคนที่ถูกแขวนคอกับต้นไม้แล้วโดนฟาดด้วยเก้าอี้จนตาย โดนยิง(ทั้งตั้งใจและลูกหลง) แล้วก็มีคนที่ถูกรุมกระทืบจนตาย เศร้้าใจจริงๆ เป็นคนไทยแต่ทำคนไทยด้วยกันเอง ส่วนสาเหตุก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่ ว่าปากใครคอยยุปลุกระดม ส่วนตัว เราไม่ค่อยสนใจว่าเฮียคนนี้พูดอะไรอยู่แล้ว ถ้าฟังก็ฟังขำๆ มากกว่านะ
1 คน...พูดออกมาได้ เรื่องนี้ no comment ค่ะ เดี๋ยวใส่ความคิดไปจะกลายเป็นด่าไป แต่บอกไว้อย่างปี 19 นี้เหมือนจะรุนแรงกว่าปี 16 นะคะ (อันนี้ฟังจากแม่เราเล่าให้ฟังน่ะ)
อ่อ.... สงครามกลางเมืองนี่เอง ทำไมผมจำไม่ได้เลยว่าเรียนมาแล้ว จำได้แต่ 14 ตุลา กับ พฤษภาทมิฬ ทั้งๆ ที่เหตุการณ์นี้ดูน่ากลัวกว่าอีก แถม แยกได้ยากด้วยว่าใครฝ่ายผิดฝ่ายถูก (ก็สงครามนี่นา) ทำไมน้า สงครามทีไร แกนนำตายยาก ส่วนผู้เข้าร่วมตายเป็นเบือทุกที (พูดแบบไม่เข้าชข้างฝ่ายไหนนะ)
ไม่มีทางที่จะตายแค่ 1 คนครับ "สมัคร สุนทรเวช" ยังคงพูดโดยไม่คิด พูดไม่ีรับผิดชอบ เพราะ ในเหตุการณ์ตอนนั้นท่านเป็นรมต.มหาดไทยอยู่ แน่นอนเลยถ้าพูดว่้ามีคนตายเยอะท่านก็ต้องรับผิดชอบ อันนี้คงได้ฟังจากรายการ "คุยกันประสาสมัคร" เมื่อเช้าวันที่ 11 ก.พ. สินะครับ ผมก็นั่งฟังอยู่เหมือนกันครับ ยังทำใจกับคำพูดของนายกฯคนนี้ไม่ได้เลย ผมเองเป็นคนประชมคมธรรมศาสตร์ ได้ยินแบบนี้รู้สึกเสียใจจริงๆกับคำพูดของคนที่เป็นระดับ "ผู้นำประเทศ" พูดมาได้ว่ามีคนตา่ยคนเดียวที่ถูกเผานั่งยางที่สนามหลวง แล้วนศ.ธรรมศาสตร์ที่ถูกยิงตายกลางสนามบอลเป็นสิบๆนั่นไม่ใช่ "คน" หรือ ภาพถ่ายจากวิดีโอก็มี หลักฐานจากนสพ.สมัยนั้นก็มี ยังพูดตอบข่าว "ต่างชาติ" ได้ว่า แค่ 1 คน [action]เศร้าครับ[/action]
เว็บเราไม่เน้นเรื่องแนวนี้ไม่ใช่หรือครับ เนื้อหากระทู้ทำนองนี้ หาได้เยอะไปตามเว็บบอร์ดอื่นๆ ทั้งลงลึกและละเอียดกว่านี้หลายเท่า ด้วยความเคารพ
เราเองไม่ค่อยรู้เรื่องเหตุการณ์นี้มากนะคะ เอาเป็นว่าลองเข้า >>หน้านี้<< ดูนะคะ อาจจะกระจ่างขึ้น... อ้างอิงจาก :: http://www.2519.net/ เว็บเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
นั่นสิครับ คงต้องคุยหลังไมค์หรือทาง MSN กับผมก็ได้ครับ พอดีที่นี่ถ้าปิดหู ปิดตา ปิดปาก บางทีอาจจะมีความสุขกว่า ไม่ต้องทะเลาะกับใครด้วย Spoiler no comment เพราะมันคือ Fact หาใช่ข้อคิดเห็นส่วนตัวไม่
? ไม่เน้น แต่ไม่ได้ห้ามคุยกันนี่ครับ หรือถ้าก่อนนี้มีทะเลาะอะไรกันเรื่องการเมืองนี่ผมก็ไม่ทราบนะครับ ปกติไม่ได้สนใจอ่านเรื่องอย่างนี้เท่าไหร่ เป็นความไม่สนใจส่วนตัวน่ะครับไม่เกี่ยวกับบอร์ดหรอก
^ ^ ไว้ถ้าเริ่มบานปลาย หรือมีการทะเลาะเบาะแว้งกันค่อยล็อค/ลบ สินะครับ --------------------- บางทีคำว่า "คน" ของนายสมัคร สุนทรxxx คงหมายถึง บุคคลที่มันเข้าข้างหรือบุคคลเฉพาะกิจของมันเองก็ได้นะครับ โดยมองเห็นว่า พวกนักศึกษาและประชาชนอื่นๆ นั้น ทำความวุ่นวายให้กับประเทศ "หาใช่คนไม่" - -'' (คิดเลวไปไหมเนี่ย =w= แต่กรณีความคิดแบบนี้เคยมีเกิดขึ้นแล้วจริง ) ถ้าไม่มีใครตาย. . .แล้วที่นอนกันอยู่เนี่ยเรียกว่าอะไรล่ะครับ - -? ไม่ใช่คนหรอ = =? มองยังไงผมก็เห็นว่าเป็นคน ไม่ใช่ หมา/แมว/ไก่/เป็ด whatever. . .
มาเบี่ยงประเด็น ^^' (พอดี "ปิดหู ปิดตา ปิดปาก" ไม่เคยศึกษาเรื่องกันยา) ขำช่วงท้ายๆที่นักข่าวพยายามจะตัดจบ สมัครไม่ให้จบ แถมทิ้งท้ายเข้าให้หลายดอก สงสัยคุณเธอคงจะเข็ดไปอีกนาน รวมทั้งนักข่าวต่างประเทศอื่นๆที่ได้ดูเทปนี้ด้วย ภาพพจน์ประเทศไทย... หมดแล้ว... Edit: จริงๆผมอยู่ข้างสมัครนะ แต่ . . .
อันนี้ความเห็นส่วนตัว :....ต่อให้สมัครอยุ่กับอภิสิทธิ์ ผมก็ไม่ชอบอยุ่ดี ... เพราะมันจงรักภักดีเกินเหตุครับ พอกันกับพวกสุเทพเทือก ผมว่าเค้าก็แค่อยากบอกว่า 'โอยอย่าไปคุ้ยมันอีก" แค่นั้นมากกว่ามั้ง ....- -a ไม่เห็นจะต้องไปด่านักข่าว Dan River ขนาดนั้นเลยนิ....ศํกดิ์เป็นถึงนายกรัฐมนตรี จริงอยู่ว่าสื่อเคยยั่วยุสมัคร แต่ดูให้ดีนะครับ สมัครมีอิสริยศแค่ไหน แล้วสื่อมียศอะไร * พ.ศ. 2517 ตริตาภรณ์มงกุฏไทย * พ.ศ. 2518 ตริตาภรณ์ช้างเผือก * พ.ศ. 2519 ทวีติยาภรณ์มงกุฏไทย * พ.ศ. 2520 รัตนาภรณ์ (ชั้นที่ ๒ ) * พ.ศ. 2522 ประถมาภรณ์มงกุฏไทย * พ.ศ. 2524 ประถมาภรณ์ช้างเผือก * พ.ศ. 2526 มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก * พ.ศ. 2527 ทุติยจุลจอมเกล้า * พ.ศ. 2527 มหาวชิรมงกุฏ * พ.ศ. 2539 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ * พ.ศ. 2545 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ แล้วทำสมกับยศหรือไม่...ก็เห็นแล้วครับ เรื่องที่ตากใบ มีซักกี่คนเคยถ่ายรูปเห็นกับตาบ้าง...วันก่อนเห็นมีมาจัดบูทที่เกษตรเหมือนกัน ค่ายสร้างสรรค์เยาวชนมั้ง...ภาพหลักฐานมีอยู่ตำตา แต่ช่วยไม่ได้ ปล. เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่หายอยู่ดีเพราะมันคือ FACT หรือข้อเท็จจริง ที่ไม่มีใครลบล้างได้่ Spoiler แต่ถ้าอยากเปิดหูเปิดตา เชิญครับ : http://www.prachatai.com/05web/th/home/11208 ใครว่าผมดูแต่ข่าวด้านเดียว ก็แล้วแต่นะครับ
เข้ามารับฟัง แต่ไม่ขอออกความเห็น... เนื่องจากไม่ได้ศึกษา และไม่มีความรู้มากพอจะกล่าว เกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้แต่ว่า.... น่าอดสูยิ่ง
ตาย 1 ครับ นอกนั้นไปเกิดใหม่......... เห็นด้วยกับคุณ Angel นะ ไม่รู้จะท่านสมัครคิดอย่างนี้จริงๆรึเปล่า
เกิดไม่ทันแต่เคยเรียนแน่นอน มันน่าจะอยู่ในวิชาสังคม แต่รายละเอียดคงไม่เยอะเท่าในวิกิ ที่แน่ๆ ไม่น่าจะมีคนตายแค่ 1คน = =' Spoiler: ข้อมูลเรื่องผู้เสียชีวิตจากวิกิ ฝ่ายนักศึกษาและประชาชน เสียชีวิตอย่างน้อย 41 ราย ในจำนวนนี้ เป็นศพถูกเผา ระบุรายละเอียดแยกชายหญิงไม่ได้ จำนวน 4 ราย (หนึ่งในนั้น คือ จารุพงษ์ ทองสินธุ์ กรรมการ อมธ. และสนนท. ซึ่งเป็นระดับแกนนำผู้ชุมนุมเพียงคนเดียวที่เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตที่เหลือเป็นผู้เข้าร่วมชุมนุมเท่านั้น ที่ว่าตายแค่ 1คน หมายถึงประโยคหลัง? นอกเรื่อง....ดูภาพ นสพ.ไทยรัฐสมัยนั้น กี่ปีผ่านไป โลโก้ก็ยังไม่เปลี่ยน
กรณีวิทยุยานเกราะสินะคะ พระกิตติวุฑโธ(ไม่ทราบเขียนถูกไหม) กล่าวไว้ว่า " มีแต่คอมมิวนิสต์เท่านั้นที่ขับไล่พระ" และ "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" ตัวท่านส. เองก็เคยเป็นผู้จัดรายการของวิทยุยานเกราะยุยงเรื่องในช่วงนั้นด้วยนี่นะ ก่อนอื่น ขอกล่าวตามตรงเลยนะคะว่า "ประเทศไทยไม่เคยมีสงครามกลางเมือง"ค่ะ ไม่ว่าจะตั้งแต่คราวกบฎบวรเดช มาจนถึงคราว14 - 6 ตุลา ถึงพฤษภาทมิฬ (ถึงแม้ว่ากบฎบวรเดช -คนไทยฆ่ากันเองครั้งแรก- จะเป็นการต่อสู้ระหว่างทหารกับทหาร เป็นผู้มีอาวุธเหมือนกันก็ตาม) ข้อเท็จจริงที่พอเห็นได้ อาจพูดได้ว่า 14 ตุลา นักศึกษาเป็นฮีโร่ ( Octobet Revolution/October Uprising) พฤษภาทมิฬ นักศึกษาและประชาชนเป็นฮีโร่ แต่6ตุลา ความจริงที่ไม่ปรากฏ อาจกล่าวได้ว่าเป็น "การสังหารหมู่เดือนตุลา" 14ตุลา เป็นวีรชน แต่6ตุลา จากวีรชนกลายเป็นทรชน หากจะอ้างหลักฐานจากวีดีโอ อย่างน้อย ไม่ใช่1คนแน่ค่ะ หากเคยเห็นภาพการทารุณกรรมศพที่ถูกแขวนคอกับต้นมะขาม นั่นคืออย่างน้อยๆสองศพ บันไดทางขึ้นหอประชุมใหญ่ นับอย่างน้อยก็เป็นสิบ ในตึกบัญชีอีกล่ะคะ? ในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกล่ะคะ? ไม่ใช่หนึ่งคนแน่ค่ะ ขอแนะนำให้ลองอ่าน "รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย" สารดคีเล่มพิเศษค่ะ มีเนื้อหาครบทั้งสามเหตุการณ์ Spoiler: 6 ตุลามาเร็ว http://www.thaipost.net/index.asp?bk=sunday&post_date=17/Feb/2551&news_id=154663&cat_id=110804 ตรุษจีนเพิ่งผ่านไป เช็งเม้งก็ยังไม่ถึง แต่ 6 ตุลาที่เป็นเหตุการณ์หฤโหดมาถึงเร็วกว่าเวลาทั่วไป เพราะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พูดออกมาว่าเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 มีคนตายเพียงคนเดียว อาจจริงของนายสมัคร ในสิ่งที่เรียกว่าเป็นความจริงเชิงประจักษ์เฉพาะตัว กระนั้นก็น่าแปลกที่เคยยอมรับว่ามีคนตาย 40 กว่าคน (โดยปรากฏหลักฐานยืนยัน) คำพูดของนายสมัครเรื่องนี้ จึงก่อปฏิกิริยาแก่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม แก่ญาติพี่น้องของผู้พิการ ผู้พลีชีพ และประชาชนทั่วไป ดังนั้น ได้เกิดการรวมตัวเพื่อชี้แจงไปแล้วครั้งหนึ่งที่อนุสาวรีย์วีรชนสี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน และนัดกันวันอาทิตย์ที่ 17 ก.พ.อีกครั้งโดยสถานที่เดิม ดังปรากฏในข่าวไทยโพสต์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ว่า นายคงเจต พร้อมนำพล ประธานเครือข่ายกองทุนญาติวีรชน 6 ต.ค.2519 กล่าวว่า มีรายชื่อของผู้เสียชีวิตที่พิมพ์ด้วยพิมพ์ดีดจากสำนักงานอัยการ ซึ่งมีทั้งหมด 41 คนมาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชนด้วย ซึ่งการออกมาพูดบิดเบือนประวัติศาสตร์ของนายสมัครครั้งนี้ เราต้องแปรวิกฤติเป็นโอกาส ดังนั้นวันอาทิตย์นี้จึงขอนัดเพื่อนพ้องน้องพี่และสื่อมวลชนที่รักประชาธิปไตย มาร่วมกันเสวนาในเวลาบ่ายโมงของวันอาทิตย์ที่ 17 ก.พ. เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณี 6 ตุลาอีกครั้ง ซึ่งในการเสวนาจะมีญาติวีรชน ญาติคนเดือนตุลา และพี่น้องคนเดือนตุลาที่อึดอัดอยากพูด มาร่วมเสวนามากมาย การทำความจริงให้ปรากฏมิได้มีเพียงจากสื่อหนังสือพิมพ์ ในทางวิทยุกระจายเสียงก็มีคนอย่าง ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ซึ่งนำหลักฐานที่พบนายสมัครไปพูดที่ฝรั่งเศส เขาพูดว่ามีคนตาย 48 คน มีคนถูกเผาตาย 4 คน ผลจากการอ่านออกอากาศเรื่องนี้พร้อมการวิเคราะห์วิจารณ์ของ ดร.เจิมศักดิ์ ทำให้เขาต้องยุติรายการ ด้วยเห็นแก่บริษัทที่มีสัมปทานและถูกขู่จากนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.สำนักนายกฯ ผู้กำกับสื่อวิทยุและทีวี แต่นายจักรภพยังปฏิเสธว่าตนมิได้แทรกแซงสื่อ พร้อมกันนั้นได้โบ้ยให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ชี้แจงเอง ความจริงการกระทำของใครก็ตามที่ยับยั้งการปฏิบัติงานด้านสื่อโดยที่เขาไม่มีความผิด เว้นแต่ได้ให้ข้อมูลที่ขัดกับคนใหญ่คนโตคับประเทศ การกระทำเช่นนี้เป็นการแทรกแซงสื่อ จึงขัดต่อเรื่องสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองและคุ้มครอง ตามมาตรา 45 ถึงมาตรา 47 นายสมัครเมื่อถูกนักข่าวซักเรื่องนี้กลับตอบไม่ตรงประเด็น เลี่ยงมาย้อนถามอายุของนักข่าวในช่วงเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 2519 เป็นอย่างไร ก่อนจะพูดว่าเป็นอย่างไร น่าจะถามว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด ผลจากชัยชนะของนักศึกษาและประชาชนจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ทำให้เกิดสีสันประชาธิปไตย การลุกขึ้นเรียกร้องของผู้ด้อยโอกาส เช่น กรรมกรชาวนามีถี่ขึ้นรวมทั้งการนัดหยุดงาน ซึ่งเป็นธรรมดาจากอิฐทับหญ้า เมื่อผลักก้อนหินหรืออิฐออกต้นหญ้าย่อมผงาดขึ้น และในเวลาต่อมากระแสความคิดสังคมนิยม ที่เข้าใจเวลานั้นว่าน่าจะเป็นทางเลือกหรือหนทางแก้ปัญหาของประเทศ เป็นกระแสที่มาแรงพร้อมๆ กับอินโดจีนที่ถูกจักรวรรดินิยมอเมริกากดหัว ก็มีชัยชนะเป็นเอกราชอธิปไตยที่แท้จริง เรื่องสังคมนิยมนี้ขนาด ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขณะนั้นยังบอกว่าพรรคของตนเป็นสังคมนิยมอ่อนๆ เวลานั้น การมีพรรคการเมืองอย่างพลังใหม่ที่เป็นเสรีนิยมก็เป็นที่หวาดหวั่นของฝ่ายอนุรักษนิยม ยิ่งพรรคสังคมนิยมยิ่งถูกรังควานและทำให้ชนชั้นเจ้าสมบัติกับบริวารที่ถูกทำให้เชื่อว่าสังคมนิยมเป็นอันตรายได้ลุกขึ้นมาต่อต้านด้วยความขวัญหาย ถึงกระนั้นพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยได้ต่อสู้ตามกรอบกติกาของกฎหมายสันติวิธี ทว่า ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน อดีตอาจารย์คณะสังคมฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ได้ถูกลอบยิงเสียชีวิตและจนบัดนี้ตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้ ผลจากการมีสีสันประชาธิปไตยทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมวิตก และเริ่มตั้งหลักได้ในปี 2517 มีบุคคลและองค์กรต่อต้านขบวนการนิสิตนักศึกษา กรรมกร และชาวนา ระยะใกล้ๆ ก่อนถึงสนธยาแห่ง 6 ตุลาคม จอมพลประพาสได้กลับเข้าประเทศโดยอ้างว่ามารักษาตัว จึงเกิดการชุมนุมประท้วงจนยอมออกไป และที่เป็นการจุดประกายแห่งการปะทะในเหตุการณ์นองเลือด คือ สามเณรถนอม กิตติขจร ได้เข้ามาอุปสมบทในไทย การชุมนุมเรือนพันเรือนหมื่นจึงเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เป็นที่เข้าใจว่าฝ่ายอนุรักษนิยมและกลุ่มอำนาจเก่าสมัยนั้น ซึ่งรวมตัวกันติดและเตรียมตัวล้อมปราบ ได้อ้างการเล่นละครล้อของนักศึกษาเป็นการหมิ่นพระบรมฯ ทั้งๆ ที่เนื้อหาการแสดงได้แสดงการล้อกรณีช่างไฟฟ้านครปฐมฯ ถูกแขวนคอ แล้วตำรวจจับคนร้ายไม่ได้ตามเคย หากการเตรียมการที่จุดชนวนด้วยภาพตามอ้างนั้น ปรากฏใน นสพ.บางกอกโพสต์กับดาวสยาม จึงลามด้วยการโหมผ่านวิทยุเสรีอันเป็นชมรมที่ถูกจัดตั้งในกิจการขวาพิฆาตซ้าย ส่วนกำลังต่างๆ ก็เตรียมพร้อมเพื่อล้อมปราบ ในทางยุทธวิธีฝ่ายนักศึกษาประชาชนที่อยู่ในธรรมศาสตร์ ซึ่งหวังว่ารั้วรอบขอบกำแพงมหาวิทยาลัยจะป้องกันให้ปลอดภัยได้นั้น ความจริงต่อมาได้พิสูจน์ว่าไม่ปลอดภัยจริงและการต่อสู้ที่มีศูนย์การนำเดี่ยว เมื่อแกนนำถูกจับกุมทำให้การต่อสู้ต้องยุติโดยเร็ว ที่กล่าวมาเป็นการกล่าวถึง 6 ตุลาคม เกิดขึ้นได้อย่างไรโดยสังเขป คราวนี้ขอกล่าวถึงเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 19 เป็นอย่างไร โดยสรุปกล่าวได้ว่ารุนแรงหฤโหด ที่อ้างว่าเป็นชาวพุทธก็พิสูจน์ธาตุแท้กันคราวนี้ ที่ฆ่าและแขวนคอที่ต้นมะขามสนามหลวง มีวัดพระแก้วเป็นฉากหลังที่งดงามอย่างน่าขมขื่น คุณตำรวจบางนายคาบบุหรี่และมือถือปืนยิงนักศึกษานั้น เหมือนโพสต์ท่าถ่ายภาพ แต่ความจริงเป็นฝีมือของช่างภาพไทยรัฐที่ถ่ายภาพไทยรัฐที่ถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว คือ ฝีมือของวิโรจน์ เอ็ม. 16 (วิโรจน์ มิทิตานนท์) เขาเคยเล่าว่าผู้ที่ถูกยิงหากยังไม่ตายต้องถูกลากมาทุบ มาแขวนคอ วิโรจน์ว่าถ่ายรูปไปก็น้ำตาคลอ แต่กฎของช่างภาพมีอยู่อย่างหนึ่ง คือ ไม่ใส่ใจกับเหตุเฉพาะหน้า ต้องทำหน้าที่ของตนเท่านั้น ส่วนทางทีวี มหาคุรุที่ท่านบอกว่าตัวท่านเป็นคนข่าวคนหนึ่ง แต่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด ผู้บริหารสูงสุดไทยทีวีช่อง 9 และสถานีวิทยุกระจายเสียง ท.ท.ท. ได้เข้าสู่สงครามคนไทยฆ่าคนไทยและเป็นผู้ลงมือไปทำข่าวเอง ท่านผู้นี้ คือ สรรพสิริ วิธยศิริ ท่านถือว่าประชาชนมีสิทธิที่จะรู้เห็นเท่ากัน แต่รู้แล้วจะเกิดความรู้สึกอย่างไรเป็นเรื่องของเขา ภาพทารุณกรรมจากคนฝ่ายเดียวที่ยิงและลากศพไปแขวนคอ ตีศพ เผา เพื่อความรัดกุมถูกต้องในแง่นำเสนอสรรพศิริจึงลงมือล้างฟิล์ม ตัดต่อ และบรรยายเอง รางวัลชีวิตของคนทำความดีตามวิถีทางและปรัชญาแห่งวิชาชีพ สรรพศิริต้องพ้นจากช่อง 9 และการเป็นผู้บริหารบริษัททุกตำแหน่ง ถูกฟ้องล้มละลาย ถูกคณะปฏิรูปฯ ที่เข้ายึดอำนาจสั่งอายัดทรัพย์ทั้งครอบครัว ต้องนำปืนทุกกระบอกที่สะสมด้วยความรักออกจำหน่ายเพื่อยังชีพ ขณะนั้นเหมือนเป็นคนผิดต้องโทษไม่ผ่านศาล แต่เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายและหลายปีต่อมา ได้เป็นที่ปรึกษากรรมการบริหาร สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 และช่อง 7 ที่เป็นการประกาศเกียรติคุณอย่างยิ่ง คือ รับพระราชทานปริญญาวารสารศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีศรีรัตนโกสินทร์ เคยเขียนบทกวีในวารสารสู่อนาคต เมื่อกุมภาพันธ์ 2522 ให้ชื่อว่าวันฆ่านกพิราบ ผู้เขียนขอนำกวีบางตอนซึ่งสะท้อนภาพไว้ว่า "มือกระซาบคาบบุหรี่ ตาหรี่เล็งร่องบากปากปืนจ้อง สมุนรายเรียงรอบค่อยหมอบมอง รั้วระเนนเอนกองก่ายร่างล้น เลือดโทรมหน้าห่ามือเข้ายื้อยุด กระชากฉุดกระชับหมัดซัดด้วยส้น เงื้อไม้ฟาดฟัดซ้ำกระหน่ำจน เลือดกระเซ็นเสือกกระสนทุรนทุราย ผูกคอลากกระชากร่างกลางสนาม เลือดยังลามจากหลังวิ่นรินเป็นสาย นอนแน่นิ่งเนื้อขาวเปล่าเปลือยกาย ท่อนไม้กายเกรอะเลือดเลอะเดือดแดง".