BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<< [ล่มด้วยเหตุการณ์คอมล่มไปแล้ว]

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย maxlancer, 27 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    BloodY-FanG ล่าล้างเขี้ยวโลหิต
    [​IMG]
    แนวเรื่อง : Action / เลือดสาด /
    Rate: PG– 15
    !!!คำเตือน!!!!:เนื้อหาในฟิคเรื่องนี้ อาจเนื้อหาบางจุดที่ไม่เหมาะสมกับผู้เยาว์ การพูดจากันอาจมีคำหยาบคายแต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ มีเรื่องความเชื่อทางศาสนาบางส่วนที่ถูกนำมาดัดแปลง ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหา ความเชื่อและสถานที่บางส่วนได้อ้างอิงจากของจริง แต่มีการดัดแปลงเพื่อความบันเทิงเรื่อง แต่ไม่ได้มีเจตนาในการลบหลู่แต่อย่างใดน่ะครับ

    ป.ล. องค์กรแวมไพร์ กลุ่มลับของทางกางเขนดำ และ นักล่าไม่มีอยู่จริงแต่อย่างใดน่ะครับ เป็นเรื่องสมมุติ


    มุมผู้แต่งพล่าม: ฟิคเรื่องที่สองของข้าน้อยแล้วน่ะครับ เรื่องนี้ตั้งใจทำมากๆ เก็บข้อมูลเป็นกระตั้ก หวังว่าคงจะสนุกกว่าเรื่องแรกน่ะครับเหอะๆๆ ขอขอบคุณทุกๆท่านที่คอยให้กำลังใจ พูดคุย และแนะนำน่ะครับ หากฟิคนี้มีความผิดพลาดประการใดละก็ ขอเชิญตำหนิติเตียนตามสมควรเลยรับผม เพื่อการพัฒนาที่ดีต่อไป เอาละพล่ามมาพอและ

    ขอเชิญทุกท่านทัศนาได้เลยครับ

    ###########################################################

    ~~~~~~~~prologue~~~~~~~~​


    ...แวมไพร์…​

    ……..ปีศาจรูปแบบคล้ายคลึงมนุษย์ที่กินเลือดเพื่อความอยู่รอด…….​

    …..เป็นที่หวาดกลัวของเหล่ามวลมนุษย์ชาติ….​

    …..แต่คุณจะคิดอย่างไงละ?…..​

    …..ถ้าแวมไพร์พวกนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจ….​

    …..และอยู่ใกล้ๆตัวคุณ…..​

    ~~~~~~~~~~~~ราตรีที่ 1 “ผู้ล่าและผู้ถูกล่า”~~~~~~~~~~~~​
    ~~~~~~Night 1 “Hunter and Hunted”~~~~~~​


    ยามค่ำคืนอันแสนวุ่นวายของเมืองลอสแองเจอลิส แม้เวลาจะล่วงเลยไปถึงเกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่กระนั้นเมืองแห่งนี้ก็ยังคงสุกสว่างไปด้วยแสงไฟจากอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆจนดูราวกับว่ายังเป็นช่วงกลางวันอยู่อย่างไงอย่างงั้น

    แต่ลึกเข้าไปในตัวเมือง ถึงจะมีแสงไฟมากมาย แต่ก็มีหลายส่วนที่อยู่นอกเหนือจากแสงไฟเหล่านั้น ถนนเล็กๆตามหลังตึกรามบ้านช่องต่างๆ มักจะเป็นที่รวมกลุ่มของเหล่าวัยรุ่น คนจรจัด พวกผิดกฏหมายทั้งหลาย หรือแม้แต่สถานที่ลับต่างๆทั้งถูกและผิดกฏหมาย

    คืนนี้พระจันทร์เสี้ยวก็ยังคงสุกสว่าง คอยเป็นแสงไฟให้แก่ตรอกเล็กๆแห่งหนึ่งในเมือง ที่กำลังมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินจู๋จี๋กันอย่างสวีทหวานแวว

    “นี่…ตกลงคืนนี้จะพาไปเที่ยวที่ไหนเหรอ?” หญิงสาวหน้าอ่อนอายุประมาณแค่สิบแปดถามแฟนหนุ่มด้วยความตื่นเต้น

    “อดใจรอซักนิดสิจ๊ะ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” แฟนหนุ่มตอบพร้อมรอยยิ้ม สร้างความอยากรู้อยากเห็นให้แก่แฟนสาวมากเข้าไปอีก

    หลังจากเดินไปไม่กี่ร้อยเมตร ชายหนุ่มก็มาหยุดที่หน้าประตูเหล็กเก่าๆแห่งนึงพร้อมเคาะประตูสามครั้งเป็นจังหวะแปลกๆ ก่อนที่ประตูจะเปิดต้อนรับให้ชายหญิงคู่นี้เดินเข้าไป

    แฟนสาวเริ่มรู้สึกแปลกๆ เมื่อเส้นทางเดินเป็นบันไดลงไปสู่ชั้นใต้ดิน ตกลงชายหนุ่มจะพาไปที่ไหนกันนะ?

    สิ้นสุดทางเดินนั้นเอง มีชายหนุ่มหัวโล้นร่างยักษ์ในชุดสูทยืนบังประตูข้างหลังเอาไว้ราวกับเป็นองค์รักษ์ประตูบานนี้

    “ชั้นมาหาท่านอาดินอส” ชายหนุ่มกล่าวห้วนๆแก่ชายตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะหันไปเปิดประตูให้

    “ใครกันเหรอ อาดินอสที่ว่าเนี่ย? แถมยังเรียกว่าท่านอีก” แฟนสาวถามด้วยความสงสัย

    แต่ชายหนุ่มกลับเงียบไม่ตอบ เร่งเดินนำหน้าไปสร้างความประหลาดใจแก่ตัวหญิงสาวมากมาย ทำให้ได้แต่เดินตามไปอย่างไม่มีทางเลือก

    แต่ความสงสัยก็หมดไปเมื่อได้ก้าวผ่านประตูไป แสงไฟนีออนหลากสีสันส่องสว่างไปรอบห้องโถง เสียงดนตรีสุดมันส์จากดีเจประจำแห่งนี้กำลังสะกดเหล่าหนุ่มสาวนับร้อยกลางห้องโถงแห่งนี้ให้กระโดดโลดเต้นไปมาด้วยตวามสนุกสนานราวกับบ้าคลั่ง ที่แห่งนี้คือไนท์คลับลับๆที่ซ่อนอยู่ใต้ดินนี่เอง นั่นคือสิ่งที่หญิงสาวทำความเข้าใจโดยหารู้ถึงสิ่งที่กำลังตามมาไม่

    แต่ยังไม่ทันที่จะได้ซึมซับสีสันของสถานที่แห่งนี้ มือของแฟนหนุ่มก็พุ่งเข้ามาคว้าข้อมือของเธออย่างฉับพลัน

    “มัวทำอะไรอยู่ รีบมาทางนี่สิ!!” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเร่งรีบจนผิดสังเกต ทางแฟนสาวเองก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไรมากมายจึงทำได้แต่ตามไป

    ลึกเข้าไปในกลุ่มฝูงชน มีห้องวีไอพีอยู่เหนือขึ้นไปหนึ่งชั้นที่ติดกระจกบานใหญ่ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในสามารถมองเห็นความเป็นไปในคลับนี้ได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ชายหนุ่มพยายามลากจูงหญิงสาวมาให้ถึงโดยไว

    “อ้าว!! มาถึงแล้วเหรอ!!” เสียงชายผู้หนึ่งในห้องกล่าวขึ้นมาอย่างดีใจ พร้อมๆกับแฟนหนุ่มของหญิงสาวคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นเหมือนแสดงความเคราพ

    เจ้าของเสียงเป็นชายผมขาวซีดวัยกลางคน ผมสีทองอ่อนหวีเสยไปข้างหลังจนเรียบอยู่ในชุดคลุมหนังสีดำทั้งตัวกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟายาวสุดหรู แขนทั้งสองกำลังกอดคอสาวผมทองสุดเซ็กซี่ที่คอยป้อนเหล้าให้เขาจนดูน่าอิจฉา รอบด้านมีบุรุษชุดสูทสีดำสี่คนยืนคุมเชิงให้อยู่ เขาคนนี้คงน่าจะเป็นอาดินอสที่ว่านั่น หญิงสาวคิด

    “ขออภัยที่มาช้าครับผม..” ชายหนุ่มในสภาพคุกเข่ากล่าวอย่างหวั่นๆเล็กน้อยๆ

    “ไม่เอาน่า…ของอย่างนี้มันเร่งกันไม่ได้ ข้ารู้ดี” ชายผู้มีนามว่าอาดินอสกับฉีกยิ้มเหมือนไม่โกรธเคือง ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินเข้าหาชายหนุ่ม “เจ้าลงไปรอข้างล่างได้เลย เดี๋ยวจะให้เด็กไปเอาค่าตอบแทนมาให้”

    “ขะ..ขอบพระคุณมากครับ!!” ชายหนุ่มตอบรับรางวัลด้วยความดีใจไม่ผิดกับเด็กได้ของเล่น ก่อนจะพุ่งออกไปโดยทิ้งแฟนสาวไปอย่างไม่ใยดี

    ฝ่ายแฟนสาวที่โดนหนุ่มทิ้งไปในสายฟ้าแลบได้แต่ยืนงงดูแฟนหนุ่มวิ่งปราดลงไป ในเมื่อพิจารณาสถานการณ์แล้ว เธอก็พุ่งปราดออกจากห้องไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวพ้นประตู

    “เดี๋ยวก่อนสิ จะรีบไปไหนล่ะ? สาวน้อย” อาดินอสเข้าจับไหล่ของหญิงสาวเอาไว้

    “ก็กลับไงล่ะ ดูก็รู้ว่าเค้าทิ้งชั้นไปไหนก็ไม่รู้ แล้วชั้นจะอยู่ไปทำไม” หญิงสาวหันไปตอบอย่างหัวเสีย

    “ทำไมต้องไปยึดติดกับผู้ชายแบบนั้นด้วยล่ะ ไม่คิดมาลองสนุกกับข้าดูหน่อยเหรอ?” อาดินอสส่งยิ้มไประหว่างการชักชวนหญิงสาว แต่ผลที่ได้รับคือโดนปัดมือข้างที่จับไหล่ทิ้งอย่างไม่ใยดี

    “ชั้นไม่คิดจะไปพัวพันกับเพลย์บอยอย่างแกหรอกย่ะ!! ลาก่อน!!” หญิงสาวพูดตอกหน้าของอาดินอสอย่างแรงแล้วหมุนตัวเตรียมกลับทันที

    แต่วินาทีที่หันกลับหญิงสาวก็ได้ตกใจแทบช็อก เมื่อชายที่เธอได้ตัดสะบั้นคำชักชวนเมื่อครู่กลับมายืนอยู่ด้านหลังเธออย่างเหลือเชื่อ

    “เสียใจ ทางนี้ห้ามมนุษย์ผ่าน” อาดินอสตอบอย่างกวนๆ พร้อมเอื้อมมือไปบีบคอของหญิงสาวด้วยความรวดเร็ว

    “อ้อก!! จะ…ทำอะ..ไร” เสียงเบาๆขาดช่วงเล็ดรอดออกมาอย่างยากลำบาก หญิงสาวแสดงสีหน้าเจ็บปวดปนตกใจ ซึ่งยิ่งสร้างความสำราญแก่อาดินอสยิ่งนัก

    “ไม่ต้องห่วง…มันจะเจ็บนิดเดียว..หลังจากนั้น เจ้าจะเป็นฝ่ายขอบคุณข้า ถ้าเธอรอดได้ ฮ่าฮ่าฮ่า” อาดินอสกล่าวอย่างสำราญใจ พร้อมเริ่มฉีกริมฝีปากเผยให้เห็นฟันสียาวคู่หนึ่งซึ่งยาวจนน่าจะเรียกได้ว่าเขี้ยวสัตว์ เสียงคำรามเบาๆแผดออกจากลำคอ

    แต่ยังไม่ทันทำอะไร กิจกรรมทุกอย่างก็โดนเสียงอย่างบางอย่างหยุดเอาไว้ เสียงเหมือนอะไรบางอย่างกระแทกกันจนสะเทือนไปยังทั่วคลับแห่งนี้

    “พวกเจ้าได้ยิน เหมือนที่ข้าได้ยินมั้ย?” อาดินอสปล่อยคอของหญิงสาวออกแล้วโยนออกไปริมห้อง ก่อนจะถามสาวเชียร์เบียรในห้อง ซึ่งก็ได้รับการพยักหน้าตอบ

    ชายผมทองอ่อนรีบรุดไปยืนริมกระจกของห้องเพื่อดูสถานการณ์ ซึ่งเหล่าผู้คนด้านล่างต่างก็หยุดเต้นเพราะเสียงเมื่อครู่เช่นกัน

    โครม!!

    เสียงกระแทกดังสนั่น ประตูทางออกถูกเปิดออกอย่างฉับพลัน พร้อมด้วยวัตถุขนาดใหญ่สีดำที่กระเด็นออกไปกองอยู่ปากทาง จนเหล่านักแดนซ์ทั้งหลายต้องร่นถอยห่าง

    วัตถุนั่นไม่ใช่สิ่งใด มันคือร่างของผู้เฝ้าทางเข้าไนท์คลับร่างยักษ์นี่เอง แต่เขาไม่ได้มาแต่ตัวอย่างเดียวกลับมีหมุดยาวสีเงินส่องประกายแวววาวหนาประมาณนิ้วครึ่งปักกลางศีรษะอย่างน่าสยดสยอง

    “ไอ้ผีหน้าโง่ บอกให้หลีกทางดีๆไม่ฟัง” เสียงผู้ชายดังออกมาจากปากทางออก พร้อมกับร่างของชายผู้เฝ้าทางออกลุกไหม้เป็นไฟในพริบตาก่อนจะสลายกลายเป็นขี้เภ้าเหลือเพียงแต่หมุดเจ้ากรรมวางอยู่กับพื้น

    ร่างของเจ้าของเสียงเดินออกมาอย่างช้าๆ ชายหนุ่มร่างผอมในเสื้อชายยาวสีขาวแขนสั้น ผมยาวสีฟ้าถูกมัดรวบสูงไว้ข้างหลัง ใบหน้าสีขาวซีดดูหวานราวกับเป็นสตรีเพศ ดวงตาสีฟ้าทะเลดูเย็นชาไร้อารมณ์ ที่สำคัญสิ่งเขาพกมาด้วยคือเข็มขัดที่เต็มไปด้วยหมุดสีเงิน ปืนพก ขวดยาแปลกๆมากมาย และสร้อยคอที่มีกางเขนสีดำถูกพันด้วยเถาวัลย์หนาม ตรงกลางประดับอัญมณีสีแดงอยู่

    “เฮ้ย!! สัญลักษณ์นั่นมัน!!”

    “นั่นเค้าเหรอ?”

    “พระเจ้า… นั่นเค้า!!”

    “พวกกางเขนดำนี่!! ไอ้สุนัขเฝ้าบ้านของพวกมนุษย์!!”

    เสียงลือเสียงเล่าต่างๆดังแซ่ดไปตามฝูงชนด้วยความหวาดหวั่นจากการปรากฏตัวของชายที่ถูกเรียกว่ากางเขนดำเป็นอย่างมาก เสียงขู่คำรามนับสิบแผดดังขึ้นเหมือนกับงู แต่ฝ่ายชายหน้าหวานคนนี้กลับไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด กลับค่อยๆย่างสามขุมไปข้างหน้าอย่างช้าๆพร้อมรอยยิ้มเล็กๆดูเลือดเย็น

    “มาทำไม!!” ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆมนุษย์อย่างแกมาเพ่นพ่าน!!” เสียงๆหนึ่งตะโกนถาม

    “เหรอ? แต่ทำไมชั้นถึงเห็นมนุษย์ตั้งหลายคนเข้ามาละ?” ชายหน้าหวานตอบแบบไม่สนใจตำแหน่งของผู้ถาม ก่อนจะควักหมุดเงินอีกแท่งปาออกไปทางขวามือ เล่นเอาพวกที่ขวางวิถีหมุดโดดหลบเป็นกบตื่น

    จุดหมายของหมุดไปปักอยู่ที่ริมห้อง ซึ่งพบหญิงชายคู่หนึ่งนอนเลือดอาบอยู่ ที่ลำคอของทั้งสองมีรอยจุดสองจุดใหญ่เหมือนโดนกัดอยู่

    “กินไม่รู้จักเก็บอีกนะ” ชายหน้าหวานพูดจาเยอะเย้ยเล็กน้อย

    “โอ้!! นี่คงไม่ใช่ สวีทพอยชั่น(Sweet Poison) แมคลิน อันมาวาเน่ หรอกใช่มั้ยเนี่ย?” อาดินอสที่ยืนดูอยู่ในห้องชั้นสองตะโกนทักผ่านไมค์ในห้องอย่างร่าเริง”

    “เสียใจด้วยน่ะ ที่แกทักถูกคนน่ะ ซีซาร์ อาดินอส” เจ้าของนามแมคลินตอบรับมุกของเขาอย่างเฉยชา “ว่าแต่ทำไมแวมไพร์โครตแก่จนลงโลงอย่างแกถึงมาซุกหัวอยู่นี่ได้ละหึ?”

    “ถามแปลกๆ ข้ามาเสพสุขสำราญใจในคลับของตัวเองมันผิดมากนักหรือ คุณบาทหลวงดำ” อาดินอสตอบกลับพลางหันไปหยิบแก้วเหล้ามาจากสาวเสริฟใกล้ๆ แล้วชูขึ้นมาใกล้ใบหน้า

    “เคร่งงานเคร่งการมากเกินเดี๋ยวหน้าหวานๆนั่นก็ย่นหรอก ทำไมไม่ขึ้นมาดึ่มกับข้าหน่อ...” เพล้ง!!!

    อาดินอสยังพูดไม่สุดประโยคกระสุนปืนหนึ่งนัดพุ่งทะลุกระจกหน้าห้อง ทะลวงแก้วเหล้าในมือจนแตกกระจายเศษแก้วเศษกระจกกระเด็นบาดใบหน้าและลำตัวของอาดินอสเป็นแผลมากมาย

    แวมไพร์ผมทองอ่อนค่อยๆใช้นิ้วหยาบๆลูบไปตามบาดแผล โลหิตแดงชาดเปื้อนติดนิ้วมือ อาดินอสเห็นแล้วก็ค่อยๆหลับตาลงช้าๆ

    “โทษที ชั้นถือคติไม่ดื่มกับพวกผีขี้เรื้อนวะ…” แมคลินในท่าชี้ปืนพกสีเงินไปยังอาดินอส กล่าวตัดเยื่อใย

    ทันใดนั้นอาดินอสก็ลืมตาอย่างฉับพลัน ดวงตาจากที่เคยเป็นสีดำเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเลือด จิตสังหารอันรุนแรงถูกปลดปล่อยออกมาจนเหล่าบริวารเบื้องล่างสั่นไปด้วยความหวาดกลัว

    “พวกเจ้า!! ใครเด็ดหัวไอ้หน้าอ่อนนั่นมาได้ ข้าจะตบรางวัลให้ ฆ่ามันซะ!!!!!”

    สิ้นเสียงคำสั่ง แวมไพร์บริวารร่างใหญ่คนหนึ่งก็ง้างมีดเล่มยาวพุ่งเข้าใส่แมคลินหมายสังหารด้วยความเร็วสูง แต่ก็ซื่อตรงเกินไป

    บาทหลวงหนุ่มพุ่งฉากหลบคมมีดไปทางวงนอกอย่างง่ายดาย มือซ้ายคว้าข้อมือข้างที่อีกฝ่ายแทงมาแล้วบิดกลับมายังด้านหลังของแวมไพร์จนร่างยักษ์นั้นหมุนควงไปตามแรงบิด

    แต่ท่ามกลางการปะทะในวินาทีนั้น ก็มีบางสิ่งขนาดเท่าลูกบาสดึงดูดสายตานับร้อยของแวมไพร์กลางอากาศ สิ่งนั้นคือศีรษะของแวมไพร์ผู้ที่โดนแมคลินจับทุ่มนั่นเอง

    ทั้งร่างและศีรษะของแวมไพร์ค่อยๆลุกเป็นไหม้จนกลายเป็นเถ้าลอยฟุ้งไปรอบตัวของ แมคลิน บาทหลวงผู้มีฉายาสวีทพอยชั่น ชายตาไปยังฝูงแวมไพร์รอบตัวด้วยใบหน้าเปรอะเลือดเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มสะใจเล็กๆ ในขณะที่เหล่าแวมไพร์กลับแสดงความตกใจที่หัวของแวมไพร์ขาดกระเด็นออกมาทั้งๆที่ไม่ได้โดนของมีคมเลย

    “อ้าว…แล้วที่เหลือนี่เป็นพวกปอดแหกเหรอ? ยืนนิ่งอยู่ได้ เข้ามาซักทีสิ” บาทหลวงหน้าหวานท้าทายฝูงแวมไพร์นับร้อยรอบตัว

    คำท้าทายต่างสร้างความโกธาแก่เหล่าแวมไพร์ชายหญิงอย่างมากมาย เหล่าแวมไพร์เคลื่อนตัวล้อมรอบแมคลิน เสียงขู่คำรามดังแผดผ่องพร้อมการแยกเขี้ยวขู่ไม่ต่างจากหมาล่าเนื้อ เสียงจับดาบและปืนจำนวนมากดังขึ้น

    “เล่นแม่มเลย เอามันให้เละเลยยยย”

    ทันทีที่เสียงตะโกนดังขึ้น พวกแวมไพร์แถวหน้าต่างทั้งวิ่งและกระโดดเข้าใส่แมคลินอย่างบ้าคลั่ง บาทหลวงหนุ่มออกตัววิ่งไปข้างหน้า กระโดดไปเหยียบใส่หน้าแวมไพร์ตัวแรกเพื่อเป็นแท่นก่อนจะกระโดดทะยานขึ้นกลางอากาศ

    แต่แวมไพร์อีกหลายๆตนก็กระโดดตามมาเช่นกัน แต่ทว่าในพริบตาที่พวกมันจะลงดาบใส่แมคลิน ร่างของแมคลินหมุนตัวกลางอากาศ ประกายแสงเล็กๆเป็นเส้นสายมากมายปรากฏจากแหวนที่นิ้วมือทั้งสี่นิ้ว ก่อนที่เส้นสายเหล่านี้จะม้วนพันรอบตัวของแวมไพร์หลายตนโดยไม่ทันรู้ตัว

    แต่ยังเหลืออีกมากมายที่เล็งปืนมาจากด้านล่าง บาทหลวงหนุ่มที่ลงมาถึงพื้นไม่รอช้า หมุนตัวอีกครั้งพร้อมใช้นิ้วทั้งสี่จากมืออีกข้างคีบเอาหมุดเงินหลายดอกมาปาออกไปรอบตัว ปักคาหัวแวมไพร์อีกตัวจนร่างกายลุกไหม้แตกกระจายเหลือแต่ขี้เถ้า แล้วจบด้วยดึงมืออีกข้างที่มีสายสีเงินมากมายมัดเหล่าแวมไพร์กลางอากาศ จนร่างกายของพวกมันขาดว่อนเป็นชิ้นๆ ละอองเลือดกระจายฟุ้งเล็กน้อยก่อนที่ชิ้นส่วนร่างกายทั้งหมดจะไหม้เป็นเถ้าไป

    “อาเมน”

    คำกล่าวเบาๆจากร่างของบาทหลวงชุดขาวที่บัดนี้เปรอะไปด้วยโลหิตสีแดงเต็มตัว ในขณะที่เส้นใยสีเงินกำลังหมุนกลับมาที่นิ้วอีกครั้ง

    ผ่านไปเพียงไม่ถึงห้านาที ก็มีแวมไพร์สังเวยชีวิตไปแล้วมากกว่าสิบตน ความน่ากลัวของบาทหลวงแห่งกางเขนดำ ได้เป็นประจักษ์แก่เหล่าแวมไพร์น้อยใหญ่ทั้งหลายแล้ว แน่นอนว่าแวมไพร์เหล่านี้ก็เป็นแค่พวกกลายพันธุ์มาไม่นาน เมื่อเจอถึงขนาดนี้แล้วก็คงไม่มีแวมไพร์ตนไหนอยู่ต่อเป็นแน่

    เพียงแค่นั้น ฝูงชนแวมไพร์กับออกวิ่งอย่างสุดชีวิต เบียดเสียดกันไปตามทางออกเล็กๆจนแทบจะเหยียบกันตาย เหลือเพียงแต่อาดินอสที่ยังยืนจ้องมองศัตรูอย่างเคียดแค้น

    “ให้มันได้อย่างงี้สิ ลวดเงินผสมงั้นเหรอ แต่ก็เอาเถอะ สาวกข้าก็อ่อนแอซะจริงๆ” แวมไพร์ผมทองอ่อนเอามือกุมหน้าผากอย่างกลุ้มใจ

    “ว่าแต่เจ้าคนอย่างเจ้า คิดอย่างไงถึงปล่อยเหยื่อให้หนีไปล่ะ?” อาดินอสถามเล็กน้อยอย่างสงสัย

    “แล้วชั้นเคยบอกเหรอว่าจะ ปล่อยไป” พูดเสร็จแมคลินก็คว้ารีโมทอันเล็กมากด

    ไม่ได้มีเสียงระเบิด เสียงกระแทก อะไรเลย นอกเสียจากเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด มากมายมหาศาลดังก้องกังวานมาจากทางประตูทางออก แมคลินเองก็เดินไปปิดประตูล็อกอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันมาหาอาดินอสอีกครั้ง

    “กับดักลวดเงิน หมุดเงินอาบยาพิษทำลายประสาท ซิลเวอร์ไนเตรต กับอีกหลายๆอย่าง ทำงานด้วยรีโมทอันนี้” แมคลินยิ้มบอกเหมือนกับที่ทำไปเมื่อซักครู่เป็นแค่การละเล่น

    “เหลือแต่นายแล้วน่ะ ซีซาร์ อาดินอส ก่อนจะฆ่ากัน ขอถามอะไรหน่อยจะได้มั้ย?”

    สีหน้าของอาดินอสบูดบึ้งไปด้วยความโกรธแค้น แต่ไม่นานก็ค่อยๆหันมาแสยะยิ้มอย่างน่าแปลกใจ

    “ลองว่ามาสิ”

    “แกรู้อะไรเกี่ยวกับ ‘เด็กสาวในบันทึกแห่งรัตติกาลหน้าหนึ่งพันสามร้อยเก้าสิบ’ บ้าง?”

    อาดินอสเกิดอาการกระตุกเล็กน้อยที่ได้ยินคำถาม แต่แมคลินไม่ได้สังเกตเห็น

    “บันทึกรัตติกาล? อ๋อ เด็กสาวที่ว่านั่นสิน่ะ?”

    แมคลินไม่แสดงกิริยาใดๆ ซึ่งก็โดนเข้าใจว่าตอบใช่

    “ถ้าข้าบอกเจ้าจะปล่อยข้าไปมั้ยล่ะ?” อาดินอสตั้งเงื่อนไข

    “คิดว่าชั้นจะยอมมั้ยละ แกก็ดูเหมือนรู้จักชั้นดีนี่ หึหึหึ” แมคลินออกเสียงหัวเราะเบาๆอย่างโรคจิตเล็กๆ

    “หึ…งั้นข้าคงไม่โง่พอที่จะอยู่ประมือกับเจ้าในสภาพอาวุธครบมืออย่างงั้นหรอกน่ะ วันนี้คงต้องขอตัวก่อน” อาดินอสกล่าวตัดบทก่อนจะออกตัววิ่งกลับไปในห้องอีกครั้ง

    แน่นอนว่าบาทหลวงแมคลินไม่ยอมปล่อยให้เป้าหมายวิ่งหนีแน่ๆ เขาออกตัวไปยังห้องวีไอพีชั้นสอง โดยใช้ลวดเงินของตนมัดเข้ากับคานเหล็กบนห้องเพื่อโหนตัวขึ้น แต่เมื่อขึ้นไปถึงภาพที่เห็นคือห้องที่ว่างเปล่า ไม่เหลือใครเหลือนอกจากหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อเจอหน้าแมคลินเธอก็วิ่งหนีทันที แต่ก็ถูกแมคลินจับตัวไว้ทัน

    “มันไปไหนแล้ว!!!!” แมคลินถามอย่างหัวเสียที่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไป แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะหวาดกลัวจนไม่ได้เห็นอาดินอสเลยตอบไม่ได้

    “โดนกัดมาหรือเปล่า?” แมคลินถามหญิงสาวอย่างอ่อนโยน แต่อีกฝ่ายกลับดิ้นพล้านกะหนีลูกเดียว จนแมคลินต้องตะคอกถามซ้ำ ซึ่งผลที่ได้คือส่ายหน้าตอบว่าไม่

    “ดี รีบหนีไปซะ ลืมเรื่องพวกนี้ให้หมด คราวหน้าอย่าไปไหนมาไหนตอนกลางคืน” บาทหลวงหนุ่มกลับมากล่าวอย่างอ่อนโยนอีกรอบ ก่อนจะปล่อยให้หญิงสาววิ่งกลับไปอีกครั้ง แม้ว่าเขาเหมือนจะได้ยินเสียงกรี้ดเหมือนหวาดกลัว ดังแว่วมาหลังจากนั้นไม่กี่วิ

    “ซีซาร์ อาดินอส…มันต้องรู้อะไรแน่ๆ” แมคลินพูดกับตนเองก่อนจะมองสำรวจรอบๆ เค้ากับพบข้อความที่เขียนด้วยเลือด เขียนติดอยู่ที่ผนัง ซึ่งทันทีที่แมคลินเห็นข้อความก็ถึงกับอึ้ง

    “เด็กสาวแห่งคำทำนาย ปรากฏตัวแล้ว”​

    ………
    ……
    ….
    ..
    .
    ณ สถานทีแห่งหนึ่งในอังกฤษ

    ภายในสถานที่แห่งหนึ่ง ห้องที่มีไฟสลัวจากคบเพลิงอันกว้างใหญ่ มีโต้ะยาวเพียงหนึ่งโต้ะอยู่ตรงกลางซึ่งตอนนี้มีบุคคลเกือบสิบคนนั่งประชุมกันอยู่ บุคคลทั้งหลายแต่งกายด้วยชุดหรูหรา ชุดสูทไม่ก็ชุดที่มีลักษณะคล้ายขุนนางยุคเก่าแก่ ในทั้งหมดนั้นมีชายแก่ผิวซีดคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะกำลังนั่งพิจารณาเอกสารในมือและกล่าวต่อสมาชิกร่วมโต๊ะ

    “เอาละ เรื่องบัญชีเงินโอนที่ธนาคารสวิสก็จะปล่อยให้ทางนั้นจัดการตามสมควรแล้วกัน ส่วนเรื่องการขนส่งเลือดจากสาขาหลักไปยังสาขาย่อยต่างๆของเดือนนี้เป็นอย่างไงบ้างละ วินเซนต์

    “ทั้งหมดเป็นไปตามกำหนดการครับท่าน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยครับ” ชายที่ถาม เป็นชายหนุ่มผมเงินยาวประมาณต้นคอกำลังดันกรอบแว่นอันใหญ่ของตนขึ้นเล็กน้อย เค้าตอบด้วยรอยยิ้มร่าเริงสดใส หรือเรียกอีกนัยหนึ่งคือยิ้มเหมือนเด็กไม่มีผิด เครื่องแต่งกายของเค้าดูผิดแผกไปจากผู้อื่น คือสวมเสื้อกาวน์

    “หึ…ขอให้จริงเถอะ ทีเมื่อเดือนก่อนตอนส่งไปแปดสาขาย่อยที่แคนาดากลับโดนนักล่านอกรีตระเบิดซะย่อยยับ…” คำพูดดูถูกดังขึ้นอย่างเสียมารยาทจากปากของชายวัยทองที่นั่งอยู่ตรงข้ามในชุดเครื่องแบบขุนนางอังกฤษ

    “แหมๆ นั่นมันเพราะคุณยืนกรานจะขนไปทางรถไฟไม่ใช่เหรอคร้าบบ”

    “เจ้า!!! จะกล่าวหาว่าเป็นความผิดข้าหรือไง ไอ้พวกกลายพันธุ์!!”

    “พอ!!” ชายแก่ที่หัวโต้ะตะโกนสั้นๆเพื่อห้ามปราม “รักษามารยาทหน่อย วาเดน การกระทำของเจ้าเมื่อครู่มีแต่จะทำให้ตระกูล อิคารอส ของเจ้าตกต่ำลง วินเซนต์กล่าวถูกแล้ว หัดยอมรับซะบ้าง!!”

    “ชิ…ครับ ขออภัยเป็นอย่างสูงครับ ท่านลอร์ดเซเดียส”คำตำหนิที่ดูสุภาพแต่รุนแรงของชายผู้มีศักดิ์เป็นหัวหน้าในที่แห่งนี้ ทำเอาชายนามว่าวาเดนกัดฟันเงียบ ก่อนจะนั่งเงียบไปเหมือนเดิม ขณะที่วินเซนต์กลับยิ้มกว้าง

    “เอาละ เรามีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกันอีกหรือไม่?” ลอร์ดเซเดียสถามคนรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ๆ ด้วยเสียงอ่อยๆ เหมือนจะเบื่อเล็กน้อย

    “ขออนุญาตครับท่านลอร์ด” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไกลสุดกล่าวขึ้น “ข้าอยากจะขอให้ท่านไตร่ตรองเรื่อง...”

    “โครงการพันธุ์อมตะของเจ้าใช่หรือไม่ ฟรองซาเยฟ ข้าบอกไปแล้วใช่หรือไม่ว่ายังไม่สามารถอนุมัติให้เจ้าได้”

    ลอร์ดเซเดียสพูดตัดประโยคชายหนุ่มมัดผมหางม้าสีดำ สวมแว่นกรอบดำทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ผู้มีนามว่าฟรองซาเยฟ อย่างทันควัน

    “ท่านลอร์ด ทุกวันนี้ถึงเผ่าพันธุ์ของเราจะแฝงตัวอยู่กับพวกมนุษย์ก็ตาม แต่ด้วยจุดอ่อนในสายเลือดของพวกเรา มันก็ทำให้พวกมนุษย์จงเกลียดจงชังเราอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ หากเป็นเช่นนี้ซักวันเผ่าพันธุ์เราอาจจะสูญสิ้น” ฟรองซาเยฟพยายามหาข้ออ้างในการเสนอโครงการ แต่กระนั้นลอร์ดก็ยังคงส่ายหน้า พร้อมกับพูดอีกครั้ง

    “ความอยู่รอดของพวกเราขึ้นอยู่กับความสามารถในการปะปน ฟรองซาเยฟ”

    “ขออภัย ท่านลอร์ดเซเดียส แต่ข้าไม่เห็นด้วยเรื่องการปะปนอยู่กับมนุษย์…” วาเดนที่นั่งฟังอยู่ท้วงขึ้นมา

    “มันมีความจำเป็นด้วยเหรอที่แวมไพร์อย่างพวกเราต้องไปพึ่งพวกมนุษย์เพื่อความอยู่รอด!! ทั้งๆเราแกร่งกว่า เร็วกว่า!! ไม่มีวันแก่ตาย!! ”

    “ใช่ ข้าเองก็เห็นด้วย”

    “ข้าด้วยเช่นกัน”

    นอกจากวาเดนที่ยืนขึ้นท้วง ก็ยังมีผู้ร่วมประชุมอีกสองคนที่เห็นดีเห็นงามไปด้วย

    “พวกเราสิที่จะต้องเป็นฝ่ายครองโลก ไม่ใช่มนุษย์ พวกนี้มันก็ไม่ต่างจากก้อนเนื้อ พวกมันคืออาหารนะ!! ทำไมต้องไปสนใจมัน!!”

    “เผ่าพันธุ์เราไม่อาจขาดมนุษย์ไปได้ วาเดน เจ้าเลยเถิดไปใหญ่แล้ว” เจ้าของเสียงนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะอีกฟากตรงข้าม ชายหนุ่มผมขาวยาวสลวยในชุดผู้ดีอังกฤษสีดำนั่งอยู่ในท่าทางไขว่ห้างอย่างสงบ

    “มนุษย์มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมมามากกว่าเราเป็นหมื่นปี อย่าลืมสิว่าสิ่งต่างๆในชีวิตเรา ล้วนแล้วแต่เกิดได้เพราะมนุษย์” คำกล่าวหยาบๆแต่ก็สามารถดึงดูดผู้ฟังให้สนใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ไม่นานวาเดนก็หันโต้เถียง

    ครูซิไฟร์!! เจ้าจะหมายความว่าพวกเรามีความรู้ความสามารถด้อยกว่ามนุษย์หรืออย่างไงกัน!!”

    “ขอแทรกหน่อยน่ะครับท่าน แฮะๆๆ แวมไพร์ไม่ได้ด้อยไม่กว่ามนุษย์หรอก เพียงแต่มนุษย์มีความสามารถในการวิวัฒนาการและพัฒนาที่สูงกว่าแวมไพร์อย่างเราไงละคร้าบ” วินเซนต์ยังคงยิ้มร่าทั้งๆที่เพิ่งแทรกแซงการสนทนาอันเคร่งเครียดไป

    “ใครเค้าขอความเห็นแก ไอ้กลายพันธุ์!! เจ้ามันไม่ใช่เลือดแท้ด้วยซ้ำ!!” วาเดนกล่าวดูถูกวินเซนต์ด้วยความโมโห

    “มันสำคัญตรงไหนละคร้าบ จะเลือดแท้เลือดเทียมมันก็แวมไพร์เหมือนกันนั่นแหละ..”

    ทันทีที่วินเซนต์พูดจบ วาเดนก็เลือดขึ้นหน้า นิ้วมือทั้งห้าที่มือขวาง้าวออกจนเกิดกงเล็บอันแหลมคมขึ้น แล้วกระโจนออกไปหาวินเซนต์ด้วยความเร็วสูง

    ชิ้ง!!

    เสียงโลหะเสียดสีกันดังขึ้นแว่บหนึ่ง ภาพที่ปรากฏคือกงเล็บของวาเดนค้างคาอยู่ตรงหน้าของวินเซนต์ห่างออกไปแค่ไม่กี่เซน ส่วนวาเดนที่กำลังอยู่บนโต๊ะ กลับโดนคมดาบยุโรปสีดำจ่ออยู่ ณ ที่ปลายคอหอย ซึ่งผู้ถือดาบก็ไม่ใช่ใคร เขาคือ ครูซิไฟร์ ที่พุ่งเข้ามากะฟันคอวาเดนทิ้งซะ หากเค้าเกินเลยไปมากกว่านี้

    แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้เข้าประชุมตกตะลึง ยังมีอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่เหนือทั้งสองคน มือทั้งสองกางกงเล็บแหลมคมจ่ออยู่ที่ศีรษะของทั้งคู่ เล่นเอาทั้งสองเหงื่อไหลพรากๆด้วยแรงกดดันจากเล็บอันแสนน่ากลัว ของท่านลอร์ดเซเดียส วาเลน ราบราก้า ผู้มีตำแหน่งเป็นประมุขของสหประชาชาติแวมไพร์ แพทริออท

    “จะให้ข้าเด็ดหัวของพวกเจ้าทิ้งซะตอนนี้เลย ดีมั้ย? ” ลอร์ดเซเดียสกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบๆแต่หนักแน่นจนทั้งสองต้องรีบเก็บอาวุธอย่างไวก่อนจะหัวขาดกันซะก่อน

    “พวกเจ้าคงยังไม่ลืมโศกนาฏกรรมล่าแวมไพร์ในศตวรรษที่สิบแปดใช่หรือไม่” ลอร์ดถามทุกคนในห้อง

    “นั่นคือผลของการคิดครอบงำมนุษย์มากเกินไป แล้วผลที่ตามมาคือ ทำให้มนุษย์อีกมากมายคิดกำจัดเผ่าพันธุ์ของเรายันทุกวันนี้ ปัจจุปันกลุ่มกางเขนดำจะคอยช่วยเหลือปกป้องพี่น้องของเราจนมนุษย์ใกล้ลืมเลือนเผ่าพันธุ์เราไป แต่กระนั้นก็ยังมีอีกมากที่รู้ถึงตัวตนของเราและหมายจะกำจัดเรา!!”

    ไม่ว่าจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ทุกคนก็ได้แต่นั่งฟังเงียบแม้แต่วาเดนที่เกือบไร้ซึ่งเงาหัวไปแล้ว ก็ยังต้องนั่งเงียบกริบ

    “ขออนุญาตครับ นายท่าน!!” เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของประตูห้องประชุมแห่งนี้

    “เชิญ” ลอร์ดกล่าวตอบสั้นๆ ประตูห้องถูกเหวี่ยงออกอย่างรุนแรงพร้อมกับที่ชายผู้หนึ่งได้วิ่งเข้ามา

    “เออ…มีสายข่าวที่เพิ่งกลับมาเมื่อซักครู่ เราได้ข่าวมาว่า ไนท์คลับใต้ดินแห่งหนึ่งของ ซีซาร์ อาดินอส ที่ลอสแองเจอลิส เพิ่งโดนบุกทลายไปเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนครับ คาดว่ามีแวมไพร์บริหารของเค้าตายไปมากกว่าร้อยศพ”

    เหล่าผู้ประชุมได้ยินก็มีอาการตกใจเล็กๆ แต่ก็ไม่มามากมายนักหนา เหตุด้วยกิตติศัพท์เสียๆของแวมไพร์เสเพลตนนั้นมันก็มากมาย

    “หึ..ข้าไม่ใส่ใจเจ้าแวมไพร์ไร้เกียรติอย่างมันอยู่แล้ว เจ้าก็รู้ แล้วไงอีกละ?”

    “คือเราพบข้อความที่อาดินอสได้เขียนไว้บนกำแพงครับท่านว่า เด็กสาวในคำทำนาย ปรากฏตัวแล้ว”

    “ว่าไงน่ะ!!!” เหล่าผู้ประชุมเกือบทั้งหมดยกเว้นครูซิไฟร์กับวินเซนต์ตะโกนด้วยความตกใจแต่ลอร์ดเซเดียส ได้ยกมือเพื่อเรียกความสงบกลับมา

    “ใจเย็นก่อน…มันยังเป็นแค่ข้อความ เราไม่รู้ว่ามันจริงหรือเท็จ เพราะฉะนั้น จงอย่าตื่นตระหนกไป”

    “แต่ว่า!!!” เหล่าสมาชิกคิดจะค้าน แต่เมื่อเจอดวงตาสีเลือดของแวมไพร์อาวุโสก็เงียบกริบดั่งรูดซิป

    “พรุ่งนี้ พวกเจ้าเตรียมตัวมาประชุมอีกครั้งหนึ่ง เราจะพูดกันเรื่องนี้อีก เลิกการประชุม” พูดจบ เหล่าสมาชิกก็จำต้องเดินออกห้องประชุมไป เหลือเพียงแต่ลอร์ดเคราดิอุสที่เดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม

    “ในที่สุด….เธอก็มาจนได้สิน่ะ….สะ….” เซเดียสทำเหมือนจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่อาจคิดพูดออกมาได้ ได้แต่นั่งกุมศีรษะอยู่คนเดียวภายในห้องนั้น
    ………….
    …………
    ……
    ….
    ..
    TO BE CONTINUED >>>

    ###########################################################

    -ขอบพระคุณตัวละคร

    - ซีซาร์ อาดินอส >> โดยท่านpanom
    - แมคลิน อันมาวาเน่ โดยท่านเทรน
    - วินเซนต์ อี สเปนเซอร์ >> โดยท่านวินเซนต์
    - ครูซิไฟร์ ลาเวีย เฮฟทิก >>โดยโยชิกิคุง
    -ฟรองซาเยฟ เซเลเบีย >>โดยท่านThe Guardian Of Midgard

    ###########################################################

    เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแวมไพร์ 1

    ดวงตาสีแดงเลือด - แวมไพร์ปกติแล้วจะมีดวงตาหลากสีเหมือนๆมนุษย์ แต่ในยามที่โกรธ หรือ เห็นเลือด บาดเจ็บ อะไรก็ตามที่กระตุ้นสัญขาตญาณ ดวงตาจะเกิดการเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเลือดทันที ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของแวมไพร์

    โศกนาฏกรรมล่าแวมไพร์ศตวรรษที่18 - เป็นยุคที่แวมไพร์เริ่มมีการขยายตัวมากขึ้นผิดปกติ แวมไพร์กลายพันธุ์ขยายตัวมากขึ้น ทำให้การล่าเหยื่อสูงขึ้น แน่นอนมนุษย์มากมายหายสาบสูญเพราะโดนแวมไพร์จับไปกิน ยุคนั้นจึงเกิดโรคตื่นแวมไพร์ ซึ่งชาวบ้านจะระแวงซึ่งกันและกัน หากใครโดนตราว่าเป็นแวมไพร์ รับรองโดนจับไปเผาทั้งเป็น ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งครั้งนั้นมีทั้งแวมไพร์และมนุษย์ตายไปมากมาย ไม่ต่างจากยุคล่าแม่มดเลย และเหตุนี้ทำให้มนุษย์เริ่มล่วงรู้การมีอยู่ของแวมไพร์พร้อมค้นคว้าวิธีต่อสู้กับมัน

    ###########################################################

    EDIT 2 ขออภัยท่านการ์เดี้ยนออฟมิดการ์ด อย่างสูงครับผม ลืมลงเครดิตตัวละครให้อีกตัว ขออภัยจริงๆ=="
  2. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    แปะ กร๊าซซซซซ คนแรก ( แอบเล็งตั้งแต่เห็นในmละ )


    มาตอนแรกพวกแพทริออทก็โผล่เต็มเลย อ้อ วินเซนต์ต้องใส่ เสื้อกาวน์ น่อ ไม่ใช่กาว
    แล้วก็ ดูเสียงกับไม้เอกนิดนึง เห็นเยอะเหมือนกันนิ ละ-ล่ะ ยะ-ย่ะ จ้ะ-จ๊ะ

    ซีซาร์ปากดีแฮะ แต่ไหงดูต๊องๆ - -

    ตอนนี้มาเร็วมากๆ สุดยอด ตอนต่อไปเอาแบบนี้แหละนะ 55+
    แต่...คอนทินิวเขียนผิดน่อ - -

    edit2 - มันก็ผิดอยู่ดีอะแม็ก ต้อง TO BE CONTINUED น่อ

    ปอลอสาม วันนี้ว่างจัด

    ลองแก้ดูน่อ
  3. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    บทเปิดตัว ปริศนาเพียบเลยน๊า จะว่าไปได้อารมณ์คล้ายๆ Hellsing ขึ้นมาแว๊บนึงแฮะ เหอๆ แต่ก็เปิดตัวสมเป็นนิยายแวมไพร์ล่ะนะ โดยรวมถือว่าผ่านครับ จะติดตามกันต่อไปเรื่อยๆครับ
  4. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    ......อืมๆ อ่านะ ไงดีล่ะ สนุกมากเลยพี่น้องงงงงง

    ผมว่าเรื่องนี้เป็นผลงานที่เยี่ยมมากเลยนะ ว่าแต่ว่าอาดินอสจะเขียนข้อความนั้นทำไมล่ะเนี่ยให้ชาวบ้านเขาแตกตื่นกันเล่นซะงั้น 555+

    ครูซิไฟร์มันดูเท่ห์ยังไงชอบกลแหะ เป็นเรื่องแรกเลยที่รู้สึกว่าไอ้หมอนี่มันเท่ห์หลังจากต๊องๆมาตลอด ก้ากๆ

    เอ้าๆรีบปั่นตอนใหม่มาให้เสพสักทีนะแม็กคุง อย่ารอช้าชะเอิงเอ่ยยยยยยยย

    ปล. ไอ้โรคพิมผิดนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ หุหุ (ผมนี่แหละตัวดีเลย)
    ปล.2 เพ่ยูว่างจริงๆนะเพ่ - -
  5. pop30711

    pop30711 New Member

    EXP:
    1,155
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    เปิดตัวได้สุดยอดมากครับ สนุกมากเลย แถมปริศนาอีก

    จะรออ่านตอนต่อไปครับ
  6. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    ลอร์ดเซเดียสชื่อโคตรคุ้น... แผลงมาจากสตาร์วอร์สสินะเฮีย = ='

    ทำไมรู้สึกว่าครูซิไฟร์เท่ซะจริง...อิจฉาว้อยยย!!! [action]ไล่เอา M60 กราดชาวบ้านไปทั่วก่อนจะวเผ่นป่าราบ[/action]

    บรรยากาศตอนนี้สมเป็นฟิกแวมไพร์ดีจริงๆหนอ ^^a งืมๆ

    ตัวหนาที่เห็นนี่ผิดหนอ เอาเถอะงับ จะรอชมตอนต่อไป =w=b
  7. l2eenai2y

    l2eenai2y New Member

    EXP:
    533
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    ปริศนาเยอะลึกลับมากเลยครับ
    ตัวละครโผล่มาตั้ง 6 ตัวแน่ะ!

    เหมือนๆว่าตัวของท่านพี่เทรนเป็นตัวเอกสินะครับ
    หรือจะมีปริศนาตัวเอกโผล่มา ลุ้นๆๆๆ.....
  8. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    ถล่มกันเสร็จก็ทิ้งปริศนาให้ชาวบ้านเค้าตกใจเล่นอีกนะเนี่ย

    ว่าเเต่คนของกางเขนดำโหดใช่เล่นนะเนี่ย ฆ่าซะเรียบเลย

    เเวมไพร์ชั้นสูงดูดีจังเล๊ยยยย ชักอยากเป็นเเวมไพร์ โอ้วววว
    [action]ลงไปดิ้นพล่านกับพื้น เหมือนเด็ก10ขวบ[/action]
  9. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    งืมๆ... ปริศนา ปริศนา และปริศนา

    [action]ขอตอนต่อเร็วๆนะ พี่แม็ก 555[/action]
  10. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    อืม... เจ๊ยูว่างจัดจริงๆ

    ว่าแต่ลงตอนแรกเน็วจริงๆ เหอๆ เมื่อเช้ายังเห็นนั่งแต่งอยู่เลย

    นึกว่าจะเอามาสัก 4 rep. ผิดหวังนิดหน่อยนะเนี่ย

    ว่าไปแล้วแต่งฟิคตัวเองบ้างดีกว่า

    [action]ไปนั่งแต่งฟิค[/action]
  11. Hell

    Hell Member

    EXP:
    405
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    โอ้ ตอนแรกมาลงแล้ว~~~! เปิดตัวได้ยอดเยี่ยมมากมาย
    กางเขนดำ เปิดตัวได้เท่มากๆ ทั้งยังมีปริศนาทิ้งไว้ให้คาใจเล่นๆอีกมากมายด้วย....
  12. shinkyoto

    shinkyoto Well-Known Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    เปิดมาให้อารมาณ์เถื่อนๆ เหมือนกับหนังชื่อคมๆเรื่องหนึ่ง กับ สภาพลำดับชั้นในสภาพที่พอจะเลาๆกันออก

    “มันมีความจำเป็นด้วยเหรอที่แวมไพร์อย่างพวกเราต้องไปพึ่งพวกมนุษย์เพื่อความอยู่รอด!! ทั้งๆเราแกร่งกว่า เร็วกว่า!! ไม่มีวันแก่ตาย!! ”

    เอ่อ ท่านเก่งมากกกก แต่ ที่บอกว่าไม่มีวันแก่ตายเนี่ย แปลว่ายังตายได้ใช่ไหม? (รู้หรอกน่าว่าพยายามปิดบังอะไรอยู่)


    ท่านเทรนเปิดมา ทั้งเถื่อน ทั้งโหด ทั้งคลั่ง ไม่ต่างจากกลุ่มนอกรีตไม่ปานเลยนะ (ว่าแต่ทำไมต้องเปิดเรื่องที่ แอลเอด้วยกัน? (เปิดตัวที่เมืองคนบาปอันดับสองของอเมริกาเนี่ยนะ?)) (อันดับหนึ่ง อยู่ในทะเลทราย แต่มีน้ำพุดนตรีเล่นตลอดวัน)


    วินเซ็นเปิดมา นิสัยมันชวนเอาเท้าไปจุมพิตจริงๆด้วยสินะ ครึๆๆๆๆ


    อรึ่ม รอดูว่าสาวน้อยคนนั้นจะเป็นผู้ใดกัน
  13. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    ฟิคนี้ลูกชายปากซันอย่างแรก 5555555 (โดนซันมันถีบแน่ตู)

    จังหวะของเนื้อเรื่องโดยรวมกำลังพอดีเลยครับ ภาษาก็เรียบ ๆ แต่น่าติดตามดี ส่วนคำผิดก็มีแผนกพิสูจน์อักษรไปเรียบร้อย ยังไงคำหยาบถ้ามันไม่ถึงขั้น NC17 (ฮา...) ก็ใช้ตรง ๆ ก็ได้นะครับ อย่างคำว่า แม่ง นี่ก็น่าจะไม่หยาบเกินไปนะ ^^

    รอติดตามต่อครับ สู้ ๆ
  14. panom

    panom Member

    EXP:
    70
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    เปิดมาเป็นคนแรกเลยวุ้ย
    ฟิกน่าติดตามดีครับ ทิ้งปริษนาไว้ให้ตามอ่านดี
  15. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    สนุก! ผสมผสานเรื่องราวของอดีตกับปัจจุบันเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวมากๆ (อ่านแล้วแอบคิดถึง Blade ขึ้นมา) ขนาดว่าตัดไปทางแพทริออทก็ยังไม่เีสียอารมณ์ปัจจุบัน แถมท่าทางข้อมูลจะแน่นใช้ได้ซะด้วย

    ผมชอบมาดลอร์ดเซเดียส วาเลน ราบราก้า มากครับ ดูขรึมๆ เท่ๆ มีความคิดอ่าน ส่วนเทรน สมฉายา sweet poison มาก แต่โหดยังกะนักล่านอกรีตแน่ะ = =" (ไม่ได้อ่านนิสัยตัวละครของเทรนเลยไม่รู้ว่าออกมาเป็นยังไง แต่แอบโรคจิตแบบนิ่งๆล่ะใช่เลย)
  16. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    เฮ~~ฉลองด้วยคนกับฟิคใหม่จ้า~~~ (แต่หวังว่าคงจะไม่ล่มหรือดองเค็มอีกนะ ^^"!)

    อารมณ์ออกแนวเฮลซิ่งดี~~ชอบฮ้า~~~

    สู้ๆต่อไปนะคะ ^^b
  17. train

    train Member

    EXP:
    498
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    กร๊าก แมคลินสะใจผมมากจริงๆ โดนใจมากครับ \>[]</ แมคลินเป็นตัวที่ชั่วที่สุดในบรรดาตัวละครที่ผมคิดมาแล้วล่ะ - -" ("กับแวมไพร์ไม่มีคำว่าละเว้น!")ที่บอกว่าโหดไม่ต่างจากนักล่านอกรีตนี่เป็นความจริงครับ ผมยอมรับอย่างแรง!(กะให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว)

    แวมไพร์ทะเลาะกันเอง? ในบรรดาแวมไพร์ผมชอบท่านลอร์ด * 0 * ดูมีอำนาจมากๆ สมกับตำแหน่งดี เปิดตอนมาก็มีปริศนาชวนคิดเลยแฮะใครคือเด็กสาวในคำทำนายกันน้า.....

    รอติดตามตอนต่อไปครับ สู้ๆเน้อท่านแม็ก * 0 *
  18. Gunfinal

    Gunfinal Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    เมื่อวานอ่านแต่ไม่เม้น มาเม้นเอาตอนนี้ละกัน *0*
    ขอกรี๊ด1รอบ แมคลินเท่ห์=[]=!!!! กั่กๆๆๆฆ่าเรียบซะ
    แต่ทำไมทิ้งปริศนาไว้ซะเยอะเลย ทิ้งไว้เยอะไม่ว่าแต่ "อย่าดอง" ไม่งั้นมีเรื่อง =__,=


    มุมแซว...
    พี่ยู...เนี๊ยบจริงๆ!!
    พี่อัล...อืมๆอย่างงี้นี่เอง...สงสัยว่าโดเล่มนั้นจะได้ออกจริงๆล่ะพี่แม็กซ์ (หึหึหึ)
    พี่แม็กซ์...ถึงช่วงนี้กันจะไม่ค่อยว่าง แต่จะทำโดที่พี่ชายอยากอ่านมาให้ดู

    [action]เผ่นพี่แม็กซ์ก่อนจะโดนกระตื้บตายเพราะเจ้าโดนั่น[/action]
  19. Marioak

    Marioak นักข่าว

    EXP:
    786
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    มาอ่านช้าไปนิดดันติดสอบ..วันนี้สอบเสร็จพอดีเลย XD
    ปริศนาเยอะเหมือนกันแฮะ ต้องๆแกะ(เดาละซิ)ซะแล้ว
  20. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<


    น้องกัน พูดถึงโดอะไรนั่น ถ้าเอาโดพี่วายกะเจ้าแม็กมาละก็ งอนจริงๆด้วย
  21. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    ^
    ^
    ^

    อธิบายมาเด้น้องสาว มีอะไรแอบซ่อนไว้ห่ะ
  22. Hellblueboy

    Hellblueboy New Member

    EXP:
    574
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    โอ้ เปิดฉากมาก็บู๊เลือดสาดซะแล้ว
    นึกว่าจะมีตัวละครตายตั้งกะตอนแรกซะแล้ว
  23. parwankorn

    parwankorn Member

    EXP:
    60
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    โอ้ๆ มันๆแฮะ น่าติดตามต่อ

    คำถามที่ต้องหา "เด็กผู้หญิง" เธอผู้นั้นคือใคร?

    ลุ้นๆๆ
  24. kiro

    kiro Member

    EXP:
    62
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    ชอบตอน แมคลิน เปิดตัว เถื่อนดีมาก
    บรรยากาศตอนประชุมแพทริออทก็มีกลิ่นอายการเหยียดเผ่าพันธุ์กันแบบสุดๆ >_<
    เปิดเรื่องได้ดีมากครับ

    จากการคาดเดา

    เด็กผู้หญิงที่ว่าคนนั้น...เดี๋ยวก็คงต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์อะไรบางอย่าง แล้วก็คงต้องอยู่ในความดูแลของใครสักคนสินะ
  25. endlich

    endlich Member

    EXP:
    123
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [Ficรับสมัคร] BloodY-FanG >>ล่าล้างเขี้ยวโลหิต<<

    อ่านช่วงแรกเหมือนดูเรื่องเบลดอยู่เลยนะครับ ต่อสู้กันได้สนุกจริง ๆ ไม่ยืดเยื้อดี
    ตกลงอาดินอสมันจงใจบอกใช่มั้ยเนี่ย เขียนซะชัดเจนเชียว เหอะ ๆ ๆ

    วินเซนต์ท่าจะใหญ่ไม่เบาแฮะ ขนาดล้อเลียนพวกแวมไพร์ชั้นสูงยังไม่ถูกท่านลอร์ดปรามซักคำ
    กลับเป็นพวกชั้นสูงสติแตกจะโดนท่านลอร์ดฆ่าทิ้งเอาซะนี่

Share This Page