เหมือนที คห. บนๆว่าไว้ครับ ขืนถ้าเกิดระเบียบการสอบ ไม่เปิดโอกาสให้คนที่ขัดข้องทางเทคนิค เข้ามาสอบใหม่อีกรอบได้, สงสัยมีเด็กเครียดฆ่าตัวตายมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แหง = =! เพราะมันบีบชีวิตกันเกินไป - เพราะบางคน ไม่ได้ซิ่ว แต่เลือกคณะสูง เลยไม่ติด , เขาก็ควรมีโอกาสสอบปีถัดไป - คนที่สอบเข้าไปได้ แต่เรียนแล้วพบว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เรียนไปก็เกรดห่วยๆ เห็นว่าไม่รอดแน่ๆ, เขาก็ควรมีโอกาสไปสอบเข้าคณะอื่นที่เขาต้องการ ( ปัญหาข้อนี้ ควรแก้ที่ฝ่ายแนะแนวของโรงเรียน และข้อมูลหลักสูตรการศึกษาของแต่ละคณะ-ภาควิชา ที่ประกาศให้สารธารณะ รู้ และเข้าถึงได้โดยทั่วกัน จะได้ไม่มีการเข้าใจผิดถึงสิ่งที่ คณะ-ภาควิชา นั้นๆต้องเรียน ) - เพราะบางคน เข้าไปแล้ว เจอกับระบบ... บางอย่างจนพกช้ำดำเขียว หรือโดนตัดรุ่น สงครามจิตวิทยา ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ , เขาอยู่ตรงนั้นต่อไม่ได้จริงๆ ก็ควรจะมีโอกาสให้เลือกที่ๆ มีความเป็นผู้เจริญ(ไม่เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน) มากกว่านั้น - เพราะพวก "ขี้แพ้" ที่หาว่าโดนแย่งที่, ถ้าเขาเองไม่ได้เลือกคณะ-ภาควิชา ที่เราซิ่วออกมา, แล้วเขาจะเดือดร้อนก็ไม่สมเหตุสมผล ; ต้องไม่ลืมว่าไม่ใช่ัสักแต่เอนท์ติดอย่างเดียวแต่คณะอะไรก็ได้ ไม่ใช่แบบนั้น (แต่ถ้าเขาเลือกคณะ-ภาควิชา เดียวกันกับที่เราซิ่ว, ก็แปลว่าเขาฟิตไม่พอจริงๆ หรือเลือกสถานที่ๆแบบไม่ประมาณตัวเอง ไม่งั้นทำไมจะเอนท์ไม่ติด), และ เพราะเขาเปิดโอกาสให้คนแพ้ในการแข่งสอบปีถัดไปได้ อนาคตพวกเขาจึงไม่ได้จบที่ปีนี้ เขายังมีหนทางในปีถัดไป, ถ้าเขามีกฏให้แต่ละคนสอบ - ยื่นคะแนนได้ เพียงครั้งเดียวในชีวิต แบบนั้นพวกคุณ "ขี้แ้พ้" อนาคตดับแน่ๆ ไม่มีโอกาสแก้ตัว
ผมก็ซิ่วครับ ....... เพื่อนผมก็ซิ่วอีกหลายคน(ซิ่วจากที่เดียวกัน ก็ยังมาอยู่ด้วยกันอีก) ......... แต่ก็เข้ากะเพื่อนๆ ได้ไม่เห็นมีปัญหาว่าใครซิ่วใครไม่ซิ่วเลยคับ ^^! ............ มีแต่คนเรียก ..... "พี่" ............. ตูไม่อยากแก่ขนาดนั้น ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ คนในบอร์ด dek-_ ไม่ใช่ คนที่เราจะต้องไปอยู่ไปเรียนด้วยซะหน่อย ...... ~(- -~) (~- -)~ แต่ก่อนอื่น ก็คุยกะผู้ปกครองก่อนละกันคับ หุหุ
ถ้าซิ่วแล้วสบายใจก็ซิ่วเถอะค่ะ ชีวิตเป็นของเรานี่นา เลือกทำในสิ่งที่ชอบสิคะ>< Spoiler [action]มองตัวเอง อยากซิ่วเข้าคณะเดิม มหาลัยเดิม แต่เปลี่ยนสาขาไป แปลกดีมั้ยคะ - -"[/action]
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พวกที่เพิ่งจะเริ่มสอบแอดมิดชั่นจะมากลัวเด็กซิ่วทำไมนักหนา? กลัวโดนแย่งที่? มันก็แค่ข้ออ้าง เป็นพวกที่ขี้ขลาดไม่มั่นใจในตัวเองเท่านั้นแหละครับ หากคุณตั้งใจอ่านมาแล้วจริงๆ ไม่ได้หลอกตัวเองว่าอ่านหมด ไม่ตั้งใจเตรียมตัว แล้วจะมีอะไรต้องกลัว สนามสอบมันก็ไม่ต่างจากสนามรบหรอก ใครที่เตรียมตัวเตรียมใจมาไม่ดีพอ มันก็ไม่มีสิทธิที่จะได้หรอก ต่อให้ได้เพราะโชค เผลอๆอยู่ไปก็ไทร์ไม่ก็ซิ่ว เรียนมหาลัยไม่ใช่ง่ายๆเหมือนม.ปลาย โหดร้ายกว่าเยอะ สอบทีนี่เหมือนกับเอนทรานซ์ชัดๆ เตรียมตัวเยอะกว่า? ตลกสิ เด็กซิ่วเองก็ต้องรักษาสถานภาพที่เรียนของตัวเองอยู่ด้วย ไม่ใช่ว่าซิ่วแล้วจะเข้าใหม่ได้เสมอไป หากไม่ได้ก็จำต้องอยู่ที่เดิมไปก่อน (ไม่ทั้งหมดหรอก แต่ส่วนใหญ่ที่รู้จักก็ทำอย่างี้) สอบมหาลัย มันก็ไม่ต่างอะไรก็สอบแอดมิดหรอก กลายเป็นว่าต้องอ่านทั้งสองที่ไป หรือคนที่ออกจากที่เดิมไปแล้ว ก็ใช่ว่าเค้าจะจำเนื้อหาเดิมๆได้ ก็ต้องกลับมารือฟื้น เอาจริงๆเด็กที่เพิ่งสอบได้เปรียบกว่าด้วยซ้ำ เพราะเค้าเรียนตัวที่ใช้สอบด้วยอยู่แล้วด้วย พวกเราที่เรียนมหาลัย เจอตัวในหลักฐานแต่ละตัว เชื่อเหอะ ความรู้เดิมที่ไม่ได้ใช่ มันหายไปหมดแน่ๆ จขกท. อย่าไปสนใจคำพูดของพวกเค้าเลยครับ เข้าใจซะว่าพวกเค้ายังไม่ได้ผ่านชีวิตมหาลัยอย่างเราๆกันมา มันไม่มีทางเข้าใจได้หรอก ไม่ต่างจากคำพูดของเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ชีวิตของเรา เราควรเลือกที่ๆดีที่สุดน่ะครับ แต่ว่าก่อนจะซิ่วควรตัดสินใจดีๆกว่า เพราะมันอาจจะทำให้เราพลาดโอกาสดีๆในที่ๆเราอยู่โดยไม่คาดคิดก็ได้^^ แต่ที่คณะผมมีคนอายุ22อยู่ด้วยน่ะครับ ผู้หญิงส่วนใหญ่เรียกพี่ๆกัน แต่พวกชายๆอย่างผมนี่ ด่ากันอย่างเพื่อนเล่นเลย==" เหอะๆๆๆ ส่วนท่านยูคินี่ไม่แปลกหรอก ผมยังอยากเข้าสาขาอนิเมชั่นในคณะผมเลย^^ ยิ่งที่นี่เน้นด้านสร้างเกมส์ ผมละโครตอยากไป แต่สู้ฟิสิกส์ กับ แคลไม่ไหว ดันอยู่ยศิลป์=="
กรณีแบบคุณยูคิฮิเมะเราเคยเจอนะ แต่อันนั้นสามารถไปยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสาขาที่เรียนได้ แต่ไม่รู้ที่อื่นจะเป็นเหมือนกันมั้ยแต่คณะเราทำได้ อย่างคนเรียนมนุษยศาสตร์เอกฝรั่งเศสเปลี่ยนไปเรียนเอกภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ เคยเห็นบางกรณีย้ายคณะเรียนก็มี แต่เหมือนเค้าจะซิ่วไปมันจะง่ายกว่า แบบรุ่นน้องเรา(ตามจริงมันก็รุ่นเดียวกับเรานั่นแหละ) ซิ่วมาจากคณะวิทยาศาสตร์ย้ายมาคณะเราอ่ะค่ะ ปล.ในมุมมองของรุ่นพี่ทำไมรู้สึกว่าเด็กซิ่วยังพูดจากันรู้เรื่อง(เค้าฟังเราในฐานะรุ่นพี่)กว่าเด็กที่เข้าใหม่อีกนะเออ (ขนาดอายุเท่ากันหรือมากกว่าอ่ะนะ)
ความเห็นบนๆก็แนะนำกันได้ดีแล้วทั้งนั้น ขอเพิ่มแต่แค่ในส่วนตัวก็แล้วกันครับ ถ้ามั่นใจและรู้ตัวเองแน่ชัดว่า เราเรียนต่อไปไม่ไหวแล้วสาขานี้ ใจมันไม่รัก ใจมันไม่เอาด้วย ผมว่าเรียนไปก็รังแต่จะหล่นลงๆเปล่าๆครับ ใจเรานี่สำคัญนะ ถ้าได้เรียนอะไรที่ชอบล่ะก็จะมีความสุขกับมันมากเลย อย่าให้ความกังวลเรื่องเสียเวลาแค่ 1 ปี มาทำให้เราต้องทนทุกข์และเสียเวลาอีกถึง 4 ปีได้ มั่นใจในตนเองไว้ เด็กซิ่วไม่ใช่พลเรียนชั้นสอง ใครพูดแบบนี้ตีปากมันเลย -*- และเด็กซิ่วหลายๆคนก็ไม่ใช่พวกขี้แพ้ด้วย กว่าคนเราจะรู้ตัวเองต้องใช้เวลา ขนาดเรียนจบมายังใช้เวลาร่วม 10 ปีเลยในการหาตัวเองให้เจอ จะกีดกันโอกาส บั่นทอนกำลังใจคนที่จะเริ่มต้นใหม่ไปเพื่อ?? ...ช่างไม่มีสปิริตลูกผู้ชายเอาซะเลย ผมเห็นด้วยกับ MaxlanceR ว่า ไอ้พวกที่ชอบค่อนขอดบั่นทอนกำลังใจชาวบ้านนั่น ที่แท้ก็กลัวเขาจะมาเบียดตัวเองตกมากกว่า อย่าไปใส่ใจครับ ขอแค่พ่อแม่เข้าใจเราเท่านั้น และตั้งใจทำให้ได้ เท่านั้นก็พอแล้วไม่ใช่หรือ ส่วนเรื่องที่ว่าจบมาจะหางานทำช้าว่าเพื่อน... ผมว่ามันคนละประเด็นกันนะ เพระคนที่ซิ่วก็คือคนที่เริ่มเรียน 4 ปีอีกครั้งเท่านั้น พูดง่ายๆว่าใช้เวลา 4 ปีเท่าๆคนอื่น เพียงแต่เริ่มต้นในสาขาใหม่เท่านั้นเอง มันไม่ใช่ว่าจบมาแล้วนอนตีพุงอยู่บ้านเปล่าๆไป 1 ปี อันนั้นสิถึงจะเรียกว่าเสียเวลาเก็บ exp งานที่แท้จริง ปล. อันนี้ไม่ได้ตำหนิ แต่จะบอกว่า เวลาจะหาข้อมูลทางเว็บเรื่องการศึกษา ควรดูเว็บที่น่าเชื่อถือหน่อย Dek-Dมันเว็บเด็กยังไม่โตกัน จะไปให้คำแนะนำดีๆได้ยังไง ถ้าเป็นพวก วิชาการ.คอม หรือ Eduzone ก็ยังพอทำเนา (จริงๆเว็บบอร์ดมหาลัยเราดีที่สุดครับ)
เด็กซิ่วดีกว่าเด็กไม่เรียนค่ะ =A= ถึงจะซิ่ว แต่ก็อย่างน้อยก็ยังเข้าเรียน ตั้งใจ และมีความมุ่งมั่นที่จะพยายามใหม่ ส่วนพวกไม่ซิ่ว แต่วันๆ ไม่เรียน กินๆ นอนๆ ชิวๆ ใช้ชีวิตไปน่าเบื่อ พ่อแม่ส่งเสียมาเรียนให้พัฒนาสมอง แต่ไม่ขวยขวายหาอะไรเพิ่มเติม ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขาเถอะค่ะ แคร์คนที่เราแคร์ดีกว่า กลุ่มคนโพสในเวปพวกนั้นแม้แต่หน้ายังไม่เห็นเลย เห็นแต่ตัวหนังสือพิมพ์ทิ้งไว้แบบไม่รับผิดชอบ ทั้งที่ตัวเองเรียนจบมารึเปล่าก็ไม่รู้ เผลอๆ จะเป็นพวกไม่เอาอ่าวเอาซะด้วยซ้ำ แล้วจะไปสนใจเขาทำไม...จริงมั้ยคะ?
ผมว่าถ้าเข้าไปแล้วไม่ชอบก็ซิ่วเถอะครับ ไม่ต้องไปสนใจความคิดเห็นของเว็บนั้นหรอกนะครับ คนไม่ซิ่วเรียนม้วนเดียวจบในมหาลัยดีๆคณะที่คะแนนสูงๆ พอจบออกมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จมีออกถมไป ดีไม่ดีขึ้นอยู่กับตัวเรา ว่าจะพยายามทำได้ดีเเค่ไหน แต่ยังไงก็ลองคำนวนคะแนนดูก่อนนะครับว่าจะมีโอกาศติดอันที่ต้องการไหม
เรื่องปกติครับ แรกทีเคยคิดว่าชอบอะไร พอเรียนไปจริงๆแล้วไม่ชอบ ซิ่วซะก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าคิดว่ามีความตั้งใจจะเรียนหรือทำอาชีพที่ทำให้ตัวเองมีรายได้ ต้องทำไปอีกนาน ก็หาอะไรที่ตัวเองคิดว่าชอบแล้วทำไปดีกว่า
ไม่แปลกค่ะ ถ้าไม่ชอบก็อย่าไปฝืนมันเลย เราเองก็เกือบๆจะซิ่ว แต่สามารถย้ายภาคโอนเกรดได้ ถึงจะตามเก็บหนักหน่อยก็เหอะ ใครจะพูดอะไรอย่าไปสนค่ะ เค้าไม่ได้เป็นเร เค้าไม่รู้หรอก เพราะงั้นอย่าคิดมากเลยค่ะ
เพื่อนผมซิ่วกันเยอะแยะ - -' คงเพราะผมเรียนวิศวะล่ะมั้ง มหาลัยเอกชนด้วย เข้าง่าย ออก(กลางคัน)ง่าย (แต่จบยากนะ) หลายคนเลือกเข้ามาเพราะยังไม่รู้ทางที่ชอบ แต่พอมาเรียนจริงๆ แล้วถึงได้รู้ว่าไปไม่ไหว หรืออาจจะไหวแต่ไม่ได้ใจรักพอจะทุ่มให้มันได้ (เนื่องจากเรียนหนักจริงๆ) เลยซิ่วไปคณะอื่น/มหาลัยอื่นหลายคน ไอ้เสียเวลาเปล่าๆ น่ะผมว่าไม่มีหรอก แค่ประสบการณ์จากการที่ได้ลองเรียนก็คุ้มค่าแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ค้นพบทางตัวเอง คนที่เรียนไม่ไหวแล้วยังสู้ไม่ซิ่วอยู่ก็มี-.-' แต่เหนื่อยและกดดันมากครับ เพื่อนผมตอนนี้กำลังจะปีสามแล้ว แต่เก็บหน่วยกิตได้พอๆกะเด็กปีหนึ่งเลย เนื่องจากมัธยม-ปีหนึ่งเล่นมากไป เพิ่งมากลับใจตอนปีสองว่าไม่อยากจากที่นี่ แต่เกรดตอนปีหนึ่งมันติดโปรต่ำ(มีโอกาสให้เทอมนึง) เลยกลับลำไม่ทัน โดนรีไทร์ตอนจบปีสองเทอมหนึ่ง ต้องre-enter เข้าที่เดิม คณะเดิมไปสู้กันใหม่ เรียนใหม่คราวนี้ก็ต้องเรียนกับรุ่นน้องซึ่งบางคนก็ทำท่าเหมือนมองจากที่สูงลงมา วิชาเดิมๆ กดดันสุดๆ แต่มันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะโละเกรดที่เน่าๆ ทิ้ง แค่เสียเวลาที่จะได้สำนึกตัวปีสองปีเท่านั้นเอง ลองเซิร์จคำว่า เด็กซิ่วใน เด็กดีดูเล่นๆ เจอกระทู้ตั้งด่าเถียงกันไปกันมาเป็นแสน(...อันนี้เว่อร์ไป- -") เลิกยุ่งกับกระทู้พวกนั้นเพื่อสุขภาพจิตที่ดีเถอะ เพราะผมเพิ่งรู้ด้วยซ้ำไปว่ามีคนรังเกียจเด็กซิ่ว -o- คนปกติเค้าไม่คิดอะไรกัน กระทู้มันดูไร้สาระๆ ด้วย ไม่เข้าใจว่าจะเอาชนะกันไปทำไม เด็กดีเหมือนประมูลเวอร์ชั่นผู้หญิง
ประมูลเดี๋ยวนี้ดีขึ้นนะครับ บางเรื่องจริงจังจะตอบกันก็ตอบกันดีจริงๆ แต่ถ้าจะเถื่อนก็เถื่อนกันสุดขั้วไปเลย แต่ตอนหลังกลับมาเน้นเล่นมุกแรงๆแปลกๆที่เล่นเว็บอื่นไม่ได้กัน เอาฮาๆ
บอกตามตรงแต่ก่อนผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับคนที่ซิ่วน่ะนะ แต่มา ณ ตอนนี้ผมก็เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นแล้วล่ะ =w= ถ้าเรียนไปแล้วรู้ว่ามันไม่ใช่ก็ซิ่วเถอะครับฝืนใจเรียนไปก็ไม่ดีหรอก(ไม่ดีต่อตัวเองมากๆ) ในเมื่อตัดสินใจจะทำแล้วก็เดินหน้าต่อเถอะครับ อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลย ชีวิตเรา เราเลือกเองเถอะครับ ^^ P.s.ตอนนี้ผมก็อยากจะซิ่วไปเรียนสายภาษาจริงๆ เพราะเรียนคณะผมแล้วเครียดหัวแทบหงอกจริงๆ กร๊ากกก แต่ผมว่าผมยังพอไหวก็อยู่ต่อดีกว่า ฮ่าๆ ภาษาไงๆก็เรียนเพิ่มได้อยู่แล้วแต่คณะผมคงจะหาจากข้างนอกไม่ได้ *w*
แล้วพี่เป็นไงบ้างอ่ะคะ ? หมายถึง ก็ปรับตัวได้ใช่ปะคะ คือ กำลังจะย้ายไป วิทย์เลยคะ เรียนสายวิทย์ไปเข้าศิลป์เหมือนกัน รู้สึกว่าไม่ชอบบบ อ่านพวกสังคมเลยยยย เบื่ออมากกก อริสโตเติล จอน ล็อก ไรเถือกๆนั้นนน T___T เกรดนี่ออกแล้ว แบบบ ช็อค =[]=! แต่กะเลข นี่ ยังพอได้ ดีอยู่ เหอๆ (พี่จะยังเข้ามาดูมั้ยเนี่ย ) อ่านทุก reply แล้ว [action]สู้ตายค่ะ * *v[/action] ขอบคุณ พี่ทุกคนค่า ^^
เรื่องนี้เป็นเรื่องของตัวคุณเองทั้งนั้นเลยนะ ทำไมต้องเอาแค่คำพูดคนอื่นที่ไหนก็ไม่รู้มาเก็บมาคิดเป็นประเด็น แล้วสุดท้ายแล้วได้อะไรขึ้นมาไหม คิดมากแล้วมีประโยชน์ขึ้นมาไหมคะ ถามตัวเองว่าตอนนี้เรายังเหลือเวลามานั่งกังวลเรื่องนี้อยู่อีกเหรอ ใกล้สอบแล้วนี่ นอกจากมานั่งกังวล แล้วก็เสียเวลาอ่านหนังสือไปอีก จริงหรือเปล่า? โอกาสให้แก้ตัวใหม่มีแล้ว และมาถึงแล้ว...ให้คว้าเอาไว้ อย่าลืมว่าการตัดสินใจช่วงนี้ สำคัญ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อโค้งแรก สำหรับอนาคตคุณ ลองมองไปอีกสิบกว่าปีข้างหน้า แล้วนึกย้อนกลับมาถึงตอนนี้ ประเด็นเด็กซิ่วจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ต่ออนาคต หน้าที่การงาน ความสุขของคุณ ...หรือ จะเป็นเพียงแค่ เรื่องเล็กๆในอดีต ที่ครั้งนึุง เคยมองว่ามันใหญ่โตนักหนา...จากคำพูดของใครก็ไม่รู้ ลองมองไปข้างหน้าไกลๆ แล้วคิดดูให้ดีๆ สุดท้าย...อะไรๆก็อยู่ที่ใจเราค่ะ ้ตั้งใจจริง มุ่งมั่น สม่ำเสมอ เท่านี้ก็ได้ดีแล้ว^^"
(มาตอบช้าไปไหมหว่า) เราเองก็ซิ่วจ้าสอบเสร็จเอเน็ตซักที รอลุ้นคะแนนอย่างเดียว >< เนื่องจากความเห็นแต่ละคนก็บอกไปกันเยอะแล้วเนาะ เลยอยากจะบอกว่าเราเข้าใจจ้า เพราะเลือกได้ไม่มีใครอยากมาเสียเวลาหรอก เพื่อนเราบางคนก็จำใจอยู่แต่เราไม่อยากทนแล้ว เนื่องจากหลายๆเรื่องเลย ที่อาจจะดูเล็กน้อย แต่พอทับถมมากๆเข้าก็ ซิ่วทันที แล้วดันสอบเสร็จที่มหาลัยวันที่ เจ็ด แปดเก้าโต้รุ่งกันต่อ ช่วงนั้นเลยทั้งอ่านเอ็น อ่านที่มหาลัย ทำงาน ที่อาจราย์พึ่งมาสั่งงานใหญ่อีก เหอๆ เพราะฉะนั้นพวกเด็กๆมี เวลาและได้เปรียบกว่าเยอะ เว็บเด็กเกรียน ฮิๆๆ เราก็เข้าตลอดนะ หลังๆก็เริ่มเห็นเด็กไม่เกรียนบ้างเหมือนกัน(แต่ก็น้อยเหอๆ) ชีวิตเป็นของเรา เรามีสิทธิ์เลือกบางคนเรียนจบทำงานยังไม่รู้ด้วยซำว่าต้องการอะไรกันแน่ มีอะไรก็คุยกันได้น้า หัวอกเดียวกัน ^^
ทันตแพทยศาสตร์ 3 ปี ลาออก ซิ่ว วิศวกรรมอุตสาหการ 1 ปี ซิ่ว คอมพิวเตอร์ธุรกิจ 2 ปี รีไทร์ บริหารธุรกิจ (การตลาด) 4 ปี จบแล้ว ซิ่ว พอไหมครับ
^ ^ ^ โอ้ เรียนเกือบครบทุกวิชาทางสายวิทย์เลยค่ะ ^^" อ่านหลายๆ คห. แล้วคิดถึงเพื่อนหลายๆ คน เอนท์ >> เรียน >> ไทร์ >> เข้าใหม่ >> เรียน >> ไทร์ ( บางคนก็ไทร์ตอนปี 2-3 ) >>>> กำลังลุ้นว่าจะจบเมื่อไหร่ เหอๆ มีเพื่อนเราคนนึง กว่าจะรู้ตัวก็สองปีอ่ะ คือ จบปี 2 ลาออกเลย เพิ่งมารู้ตัวว่าไม่ชอบคณะนี้ หลังๆ เค้าไม่เข้าเรียนเลยค่ะ สิงสถิตอยู่ร้านเกมส์อย่างเดียว สุดท้ายโดนแม่ตามกลับไปเลี้ยงควายที่บ้าน ( เค้าว่าแบบนั้นจริงๆ นะ -__- ) แต่เห็นว่าจะสอบใหม่เข้าวิศวะ ^^ ( ไม่ใช่ว่าเรียนไม่ไหวนะรายนี้ เกรดพี่ท่าน ขนาดเทอมสุดท้ายก่อนลาออกได้ 0.00 ยังไม่ไทร์เลย คิดดู... ) ส่วนน้องคนที่ถามพี่ต่อ พี่ส่งคำตอบไปทาง pm แล้วนะค้าาา
ขอให้หาตัวเองให้พบเถอะครับ เมื่อเรียนจบอย่างที่เราควรจะเป็นแล้ว มันก็จะได้ไม่เป็นภาระเดือดร้อนใครในระยะยาวไปจนกว่าเราจะตาย ใครจะ่ว่าเราไปกั้กที่ หรือว่าทำให้คนอื่นเสียโอกาสยังไงก็ช่างเหอะ ผมมองว่า มันเป็นพวก "องุ่นเปรี้ยว" ซะมากกว่า