[ตอนเดียวจบ]Wishing Book บันทึกปรารถนามรณะ

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย Mobster, 8 มีนาคม 2008.

  1. Mobster

    Mobster New Member

    EXP:
    12
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    ดองมาครบปี ตั้งแต่บอร์ดเก่ายันบอร์ดใหม่ มาต่อทีเดียวจบเลย
    ถ้าใครติดตาม(ยังมีคนติดตามหรอ)ก็เชิญต่อได้
    รายใหม่ก็เริ่มอ่านได้ เพราะเริ่มใหม่ และตอนเดียวจบ
    ----------------------------

    Wishing Book บันทึกปรารถนา
    ประเทศรัซเซีย ค.ศ.1452

    งานศพของตามาร่า เป็นไปอย่างเงียบๆ หลังจากพิธีเรียบร้อยแล้ว ซานัยด้าลงสมุดเล่มหนึ่งบนหลุมศพของตามาร่า แล้วทุกคนค่อยๆทยอยออกจากสุสาน เหลือแต่สตรีลึกลับคนหนึ่ง ที่ยังยืนหน้าหลุมศพ

    “ตามาร่า เธอได้ของที่ดี แต่เธอใช้ผิดวิธี ผลของเธอก็เป็นแบบนี้”แล้วสตรีนางนั้นก็หายตัวไป พร้อมกับสมุดเล่มนั้น



    อียิปต์ 3000ปีก่อนคริสตกาล


    ชาวฮิบรูคนหนึ่ง ใช้กระดาษมาเย็บรวมกันเป็นเล่ม อธิษฐานว่า

    “กระดาษเย็นเล่มนี้ จกเปลี่ยนสภาพภายนอกไปตามยุคตามสมัย ผู้ปรารถนาสิ่งใดเขียนลงไปก็จะสมปรารถนา ไม่มีพันธะใดทั้งสิ้น ชั้นจะอยู่เฝ้าและรักษามัน”


    แล้วสตรีชาวฮิบรูก็เอามีดแทงตัวเอง เลือดกระเด็นไปทั้งเล่ม สตีนางนั้นเห็นนิมิต หนังสือเล่มนี้เปลี่ยนรูปแบบเป็นปกต่างๆรูปเล่มพัฒนาขึ้นเองโดยตัวของมัน แล้วนางก็สิ้นใจ วิญญาณนางลอยขึ้นแล้วผูกมัดกับสมุดเล่มนี้
    ข้างๆตัวนางมีจดหมายม้วนอยู่

    ชั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ชั้นไม่อยากเชื่อว่าชั้นถูกข่มขืนโดยพี่น้องชาวฮิบรูด้วยกัน มันน่าอัปยศ ชั้นกลายเป็นหญิงชั่ว ชั้นขอตายไปเสียดีกว่า ลงชื่อ เศมิรา



    ประเทศญี่ปุ่น ค.ศ.2007

    อาสะโกะได้รับของขวัญแปลกๆมา นั่นคือสมุดเล่มหนึ่ง ปกเป็นสีน้ำเงิน เธอลองเปิดดู มีข้างความที่หน้าแรก

    “หนังสือปรารถนา ทุกสิ่งที่เขียนขึ้นในนี้จะเป็นไปตามที่เขียนทุกประการ อย่ากลัวว่าต้องแลกกลับอะไร เจ้าจงวางใจว่าไม่มีข้อผูกมัดใดใดทั้งสิ้น”

    อาสะโกะรู้สึกงงๆ สงสัยจะเพี้ยน เธอลองเขียนลงไปดู
    “ขอให้ฝนตก”

    ไม่กี่วินาทีต่อมาฝนก็ตก แต่เธอก็ยังไม่เชื่อ เลยลองอีกครั้ง

    “ขอให้ได้เงินหมื่นเยน”

    แล้วทันใดนั้นมีแบงค์หนึ่งหมื่นเยนปลิวเข้ามาในห้องของเธอผ่านทางช่องว่างใต้ประตู

    “ดีจังเลย ชั้นจะใช้ให้คุ้ม” อาสะโกะพูดขึ้น



    ย้อนหลัง ประเทศเวียดนาม ค.ศ.2006

    เฟืองตัดสินใจจะเลิกใช้สมุดปรารถนาอันนี้แล้ว แม้ทุกอย่างที่ได้มาไม่มีอะไรจะเสีย
    แต่เมื่อเธอยิ่งได้ในสิ่งที่เธอไม่ควรได้ พบว่ามันทำให้ชีวิตของเธอแย่ลง เธอรวยขึ้นแต่ญาติพี่น้องเพื่อนพ้องไม่คบหา เธอมีแฟนแต่เธอต้องเสียเพื่อนสนิทไป เธอรู้สึกสำนึกแล้วว่าเธอควรได้มาด้วยตัวเอง

    ถ้าสิ่งเหล่านั้นเธอคู่ควรที่จะได้จริงๆ มันก็จะทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นมาเอง เธอจึงตัดสินใจจะเขียนเพื่อขอย้อนทุกอย่างกลับมาสู่ก่อนที่จะเขียนขออะไร เอาหละเธอพร้อมแล้ว

    “ขอให้ทุกอย่างจะย้อนกลับมาก่อนที่ชั้นจะได้สมุดเล่มนี้”

    เกิดแสงสว่างขึ้น ทุกอย่างหมุนไปหมด แล้วเอก็กลับมาสู่เวลาก่อนที่เธอจะได้สมุดเล่มนี้ เธอเปิดสมุดขึ้น มันยังไม่เคยถูกเขียนมาก่อนเหมือนตอนที่เธอได้รับมา เว้นแต่ข้อความเพิ่มเติมที่หน้าแรก

    “มนุษย์มีความโลภความอยากจนไม่สิ้นสุด ถ้าสิ่งใดเป็นสิ่งที่สมควรจะได้ตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า สิ่งนั้นย่อมได้ผลดีกลับมา แต่สิ่งใดเป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะได้ผลมันก็ออกมาเอง เจ้าเข้าใจแล้วสินะ”
    และแล้วสมุดก็จางหายไป



    ย้อนหลังประเทศรัสเซีย ค.ศ.1452

    หลังจากที่คนรักของตามาร่าประกาศถอนหมั้น เขาบอกว่า ‘ตามาร่าเปลี่ยนไป ตะก่อนที่เธอจะมีเงินทอง เธอเป็นคนดี แต่ตอนนี้ ตามาร่าคนนั้นได้ตายไปแล้ว’ ใช่สิตาย ตามาร่าคิดว่าถ้าเธอตายแล้วหนุ่มที่รักจะมาสนใจ เธอจึงเขียนลงไปว่า
    “ขอให้ชั้นตาย”



    ญี่ปุ่น ค.ศ.2007

    เช้าวันต่อมา อาสะโกะไปโรงเรียนแต่เช้าเช่นเคย คำว่าอาสะแปลว่าเช้า
    เธอมักโดนแซวจากเพื่อนเสมอว่ามาเช้าสมชื่อ เช้านี้เป็นเช้าที่เกือบจะสดใส
    หากนี่ไม่ใช่ฤดูใบไม้ร่วง เลยดูครึมๆตลอดเวลา ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีกันเป็นแถว
    ถนนทางเข้าร.ร.ที่ปลูกด้วยต้นเมเบิลได้เปลี่ยนสีเป็นสีแดง มันเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงเลย


    อาสะโกะเดินตรงเข้าไปยังอาคารเรียน ซึ่งร.ร.แห่งนี้อาจดูเหมือนเป็นปราสาทด้วยซ้ำไป เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมันแนสก์ ซึ่งเป็นรากฐานสู่สถาปัตยกรรมโกธิค ดูขรึมๆทึมๆ คล้ายคุกมากกว่าด้วยซ้ำไป ยิ่งผสมกับฤดูกาลแล้ว ไม่แคล้วจะเป็นปราสาทผีสิงเลย


    เธอเดินเข้ามาในห้องเรียน ยังดีในห้องเรียนปูด้วยไม้เคลือบเงา เธอวางกระเป๋าลงหยิบสมุดปรารถนาขึ้นมา
    “ขออะไรดีน้า”


    เริ่มมีนักเรียนทยอยกันมาแต่ก็ไม่มากนัก อาสะโกะหยิบปากกาขึ้นมา
    “ขอให้วันนี้หยุดเรียน หยุดเรียนซักสัปดาห์”


    ทันใดนั้นฝนตกหนักแรงมาก ลมพายุโหมหนัก แย่หละดูเหมือนพายุจะเข้าโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ลมแรงจนตั้นเมเบิลเขียนใกล้ล้ม ไม่นานเริ่มก็เริ่มท่วม
    “ไม่นะ ถ้าจะให้ชั้นติดแหง็กที่นี่ ขอให้ชั้นได้กลับบ้าน”

    และแล้วเกิดแสงวาบขึ้น สว่างจ้าจนมองไม่เห็นแล้วเธอก็มายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านของเธอเอง
    “โชคดีไป”
    แล้วอาสะโกะก็เดินเข้าไปในบ้าน


    แม่ของเธอเห็นแล้วเลยทัก

    “ลูกดีจังที่ยังไม่ถึงโรงเรียน พายุเข้าน้ำท่วมมิดหัวเลย ลูกลุยน้ำกลับมาได้ยังไงเนี่ย ถือว่าโชคดี”

    แล้วแม่ก็บ่นไปเรื่อย ฝนตกไม่ใช่ความผิดรัฐบาลซักหน่อย

    เธอเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาที่ห้อง มองไปที่หน้าต่าง ฝนยังตกกระหน่ำอยู่ ลมก็ยังแรงเรื่อยๆ
    “เฮ้อ แย่จัง แต่ก็ดี ชอบดีฝนตก”

    อาสะโกะนั่งคิดไปเรื่อยๆ ถ้าน้ำท่วงซักสัปดาห์ เวลากลับไปเรียนสงสัยต้องทำความสะอาดแน่ๆ เธอก็เอามาเขียนต่อ
    “ขอให้หลังครบสัปดาห์กลับไปเรียน ไม่ต้องมีงานทำความสะอาดใดใดด้วยเถิด”

    คำขอยังต้องรอผลต่อไป ตอนนี้ว่างๆไม่เห็นมีอะไรทำ แย่นะไปเที่ยวก็ไม่ได้ เล่นคอมพ์ดีกว่า



    เอดินเบรอะ สก็อตแลนด์ สหราชอาณาจักร ค.ศ.2004


    ไอรีนพบสมุดนี้เมื่อหลายวันก่อน แต่เธอยังไม่กล้าที่จะใช้ เธอคิดเสมอ สิ่งใดที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า ถ้ามันอยากได้อะไรต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ แต่เธอยังไม่กล้าที่จะลอง

    แต่ตอนนี้เธอคิดว่าเธอต้องเอามาใช้ซะแล้ว

    เธอจำเป็นต้องใช้เงินอย่างมาก เธอติดหนี้พนันบอล ไม่ดีเลยที่ผู้หญิงจะเล่นการพนัน แต่เธอแค่อยากรวย ถึงเวลาจะต้องทดสอบสมุดปรารถนาแล้ว

    “ขอให้ชั้นเป็นมหาเศรษฐี”

    เวลาผ่านไป3วัน คำปรารถนาของเธอก็เป็นผล เธอถูกล็อตเตอรี่แต่เธอก็ไม่มีวันได้ใช้เงินนั้น

    ไอรีนเสียชีวิตคาหนังสือเล่มนั้น ลูกน้องของเจ้าหนี้ของเธอสั่งให้มาเก็บเธอ หลังจากเธอเขียนบันทึกลงไป คนร้ายที่แอบอยู่ในห้องของเธออยุ่แล้วก็แอบเข้ามา ใช้มีดแทงเข้าไปที่ด้านหลัง แล้วคว้านๆๆๆ

    สมุดนั้นตอนนี้ไม่มีอะไรเขียน ยกเว้นด้านล่างของหน้าแรกที่มีคำเพิ่มเติม
    “เธอไม่ได้ขอให้เธอมีโอกาสใช้เงิน”


    กรุงโซล ประเทศเกาหลี ปี2005

    ท่ามกลางอากาศหนาวของเดือนธันวาคม หิมะโปรยปราย ขาวโพลนไปทั่ว ยูรินั่งอยู่บนเก้าอี้ในคฤหาสหรู ผิงเตาไฟอุ่นๆ ที่จริงเดิมเธอเป็นคนที่ยากไร้ในเมืองซอกโช ต้องทำงานอย่างหนัก เธอไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ตอนนี้เธอมีทุกอย่างแล้ว แต่เธอก็ไม่หยุด เพราะเธอคิดว่ามันเป็นสิทธิของเธอที่เธอต้องทดแทนสิ่งที่เธอขาดไปตลอดมา วันนี้เธอคิดว่าเธอจะใช้อีกครั้ง

    “ขอให้วันนี้คุณนายคังที่เคยกดขี่ชั้น ต้องมาเป็นคนใช้ของชั้น”

    เธอมองไปข้างนอกอีกครั้งหิมะเริ่มตกหนักทุกที สงสัยต้องมีคนกวาดลานเยอะซักหน่อยแล้ว




    ญี่ปุ่น ปี2007

    หลายเดือนผ่านไป อาสะโกะเบื่อที่จะเขียนคำขอลงสมุดปรารถนา มันสมหวังทุกอย่างสนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ
    ไม่มีลุ้นหรืออะไรบ้างเลย แต่เธอก็สังเกต ระยะหลังเธอห่างเหินจากเพื่อนสนิทไปมาก
    เพื่อนๆมองอาสะโกะว่าหยิ่งขึ้น แล้วไม่เกรงใจอะไรใคร พี่น้องของเธอก็ดูไม่เหมือนเก่า พี่ชายของเธอเบื่อที่จะคุยกับเธอเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ช่างเหอะ ไม่เห็นจะสำคัญซักเท่าไหร่ แม้เธอจะเบื่อเธอก็ยังเก็บแล้วยังเขียนต่อไป


    วันสอบเริ่มขึ้น อาสะโกะใช้เวลาทั้งหมดกับการเที่ยว เล่น แล้วปล่อยตัวไปกับการคิดว่าอยากได้อะไรในวันวันหนึ่ง จนไม่ได้อ่านหนังสือ เวลาเรียนในห้องเธอก็ใจลอย วันรุ่งขึ้นเธอจะสอบวิชาแรกแล้ว แน่นอนไม่มีใครยากตกสอบหรอก อาสะโกะไม่อยากมาแก้ให้ยุ่งยาก ใช่เลยบันทึกนั่น

    “ขอให้สอบได้คะแนนดี”


    วันต่อมาการสอบเริ่มต้นขึ้น วิชาประวัติศาสตร์ยากมากๆ แถมข้อสอบเป็นเขียน2ข้อ ตัวเลือก20ข้อ อาสะโกะกาคำตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ แล้วก็เขียนมั่วๆลงแถบข้อเขียน หิมะข้างนอกน่าลงไปเล่นจังเลยนะ


    ข้างนอกหิมะหยุดตกนานแล้ว แต่อากาศก็ยังมืดครึ้ม แต่ไม่มีลม อากาศดูเหงาๆชอบกลแฮะ สีขาวโพลนไปทั่ว นิทานเรื่องปีศาจสีขาวคงมาจากหิมะกระมัง



    กรุงโซล ประเทศเกาหลี2005
    ยูริเดินท่ามกลางหิมะที่เหน็บหนาว เธอร้องไห้ราวกับคนบ้าคลั่ง เธอค้นพบแล้วว่าสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่ความสมหวัง แต่เป็นความรัก ทุกอย่างสมหวังแต่เธอเดียวดาย ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาทำร้ายเธอ แม้เธอสมหวังแต่เธอก็โดนคนรักบอกเลิก เธอไม่คิดใช้หนังสือปรารถนาเพื่อใช้ในความรัก วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะใช้หนังสือปรารถนา


    เธอจุดไฟเผาหนังสือปรารถนา แต่กลับกลายว่าเธอโดนไฟคลอก เสียชีวิต หน้ากระดาษหนึ่งเขียนไว้ในหนังสือด้วยเลือดสีแดงสด


    “ทุกอย่างจะสมปรารถนา ถ้าทำลายหนังสือ ก็เท่ากับ ทำลายชีวิตตัวเอง”


    ญี่ปุ่น ปี 2007


    อาสะโกะเครียด ปัญหาทุกอย่างประดังเข้ามา เธอไม่ใส่ใจเรียน แต่เธอทำคะแนนทุกวิชาเต็มจนครูสงสัยว่าเธอจะทุจริตข้อสอบ แฟนก็เหิรห่าง ทางบ้านก็ระแวง

    “เป็นเพราะสมุดบ้านั่น ไม่มีแกชั้นคงไม่เป็นแบบนี้”

    อาสะโกะรีบขึ้นไป แน่นอนสมุดเล่มนี้จะตอบปรารถนาทุกอย่างขอแค่เราเขียนให้ละเอียดที่สุด ใช่เลย อาสะโกะเริ่มจับปากกาแล้วเขียน

    “ขอให้ทุกอย่างในชีวิตชั้นไม่มีเรื่องร้ายๆอีกต่อไป และขอให้ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับชั้น และขอให้สมุดเล่มนี้จงเผาไหม้สลา......”

    ก่อนที่เธอจะเขียนจบ มีพลังผลักเธอออกไม่ให้เขียนหนังสือ
    มีแสงวาบออกจากหนังสือปรากฏสตรีแต่งตัวแปลกๆทำหน้าโมโหอย่างสุดขีด

    “แกจะทำอะไรของแก ความโลภของแกมันไม่เคยที่จะพอ”

    “เธอเองหรอเจ้าของบันทึก เพราะแกชีวิตชั้นถึงแย่ลง”

    “เพราะชั้นหรอ ใครเป็นคนลงปากกา ใครเป็นคนเขียน ข้าไม่เคยบังคับให้แกเขียน แกมันโลภ ไม่รู้จักพอ ไม่รู้สำนึก”

    “ไม่ไม่ไม่”อาสะโกะกรี๊ดลั่น

    “แกจำไม่ได้หรอ วันที่แกโดนนักเลงข่มขืน แกขออะไรกับชั้น”

    ความทรงจำอันเลวร้ายของอาสะโกะเริ่มกลับมา ใช่เธอขอให้เธอลืมเรื่องนี้ไป ทุกอย่างกระจ่าง วันนั้นเธอขอให้แม่อนุญาตให้เที่ยวกลางคืน เธอไปเที่ยวผับ แต่ตอนกลับเธอเมามาก เธอโดนข่มขืน ทุกคนรู้เรื่องนี้แต่ไม่ยอมพูด เธอรู้แล้วทำไมทุกคนเปลี่ยนไป เธอรู้สึกทั้งอายแล้วโกรธตัวเองมาก

    อาสะโกะไม่หยุด รีบรี่ตรงไปที่สมุด
    “ขอให้ทุกอย่างมันจบลง”

    ไม่ทันที่เธอจะเขียนจบ เหมือนมีพลังดึงคอเธอไว้ ภาพต่างๆเข้ามาในหัวเธอ ทุกคนที่เคยถือหนังสือเล่มนี้ และสุดจบทั้งดีและร้าย จนรวมไปถึงการโดนย้ำยีศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงของเศมิรา ที่ทำให้เกิดสมุดเดล่มนี้

    วิญญาณจากสมุด ใช้เชือกดึงคออาสะโกะ
    “แกจะสมหวัง”เศมิราพูดขึ้น

    แล้วกระดูกข้อต่อทุกข้อของอาสะโกะเริ่มบิดตัว แล้วแทงทะลุเนื้อออกมา กะโหลกถูกบิด เลือดไหลออกทั้งปากและจมูก กระดูกสันหลังของอาสะโกะถูกบิดจนหักกลางตัว กระดูกชายโครงแทงทะลุหน้าอกออกมา แน่นอนว่าเธอเสียชีวิต ทุกอย่างมันจบลงจริงๆ

    เชียงใหม่ ประเทศไทย 2008

    แด้ได้สมุดปรารถนามา เธอพบมันอยู่ข้างถนนไม่มีใครใส่ใจ แต่มันสะดุดตาเธอมาก เธออ่านวิธีใช้คร่าวๆ
    “เจ๋ง ยอดไปเลย”
    แล้วเธอก็รีบกลับบ้านอย่างร่าเริง วิญญาณเศมิรายิ้มร่าเพราะได้เจอคนโลภอีกครั้ง

    จบบริบูรณ์

Share This Page