!!! White Feather // Devil FanG [Update 04/09/10>>Memo Page VIII<< ~Memo page VIII~ After day – Fan

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย maxlancer, 3 กันยายน 2008.

  1. soulmaster

    soulmaster Endorphinlism

    EXP:
    403
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    ในที่สุดไพอาก็ใด้เป็นวีรบุรุษซะทีน่อ ถึงจะข้ามเวบก็เหอะ (ฮา...อะล้อเล่ง)
  2. endlich

    endlich Member

    EXP:
    123
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    เปิดคอมมาตอนเช้า โอ้วว แม็กคุงเอาตอนแรกมาลงแล้วหรือนี่ เมื่อวานยังเห็นเป็น prologue อยู่เลย ฮ่า ๆ

    เปิดตอนมาให้ลุ้นระทึกดีนะครับ ค่อยยังชั่วหน่อยที่เด็กผู้หญิง (น่าจะ) รอด เพราะเห็นแค่ศพเด็กผู้ชาย

    ไพอาคุงเอ๋ย ในที่สุดก็ได้เป็นพระเอกซะทีนะ ยินดีด้วย ๆ แต่ว่าตามหลักแล้วพวกหัวส้มมักตายเร็วช่ายป่าว เห็นมาหลายเรื่องแระ

    [action]ม้วนตัวหลบไพอาสปินคิก!![/action]

    ท่าทางเรื่องนี้เทวดาจะเป็นตัวร้ายแฮะ ก็โหดซะขนาดนั้น (หนูเรเชลจ๋า อย่าโหดมากนะจ๊ะ เดี๋ยวความโมเอะจะหายโม้ดดด)

    เรื่องคำผิดก็ยังมีบ้างประปราย ยังไงก็พยายามเข้านะครับ ติดตามตอนต่อไปอยู่เน้อ
  3. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    เรื่องที่จะขอชม คือช่วงต้นมีความลึกลับดี ชอบบรรยากาศที่เหมือนหนังฆาตกรรมฝรั่ง แถมฉากฆาตกรรมนั้นก็โหดรับประทานได้ใจ การบรรยายและการเซ็ทฉากดีมากเลยครับ

    แต่ว่าตัวเนื้อเรื่องติดกลิ่นอายอนิเมมากเกินไปหน่อยครับ = = ชวนให้รู้สึกว่ากลังอ่าน pocket book แบบชานะ มากกว่าจะนั่งอ่านฟิคแต่ง (เพราะเหตุเกิดหลักเริ่มที่โรงเรียนมั้ง) แนวพล็อตการตื่นก็ยังไม่แปลกใหม่เท่าไร แต่ว่าเป็นการคลายปริศนาเรื่องเผ่าพันธุ์ที่ทำได้รวดเร็วและน่าสนใจดีเหมือนกัน

    นึกว่าฟิคนี้จะหายเข้ากลีบเมฆไปแล้วนะครับ และแล้วเราก็รออ่านตอนต่อไป
  4. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    ก่อนอื่น...
    [action]BACK UP รึยัง?[/action]


    เริ่มต้นมาให้เทวดาเป็นตัวร้าย แปลกดีชอบๆ
    ว่าแต่ตรงนั้นมันจะตัดมุกกันไปไหน 555 :E :E

    ตอนหน้าก็สู้ๆเน้อ
  5. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    พูดกันไปหมดแล้วครับ - -/ (โดนถีบ)

    ผมแอบสับสนกับฉากบรรยายบางฉาก ตัวละครออกมาไม่เยอะแต่แอบมึนเล็ก ๆ การวางปมในช่วงแรกดูลึกลับดีครับ เปิดมากับฉากฆาตกร แต่ผมว่าจะให้ดีปมนี้น่าจะยังอยู่ต่อไปอีกสักหน่อย เคลียปริศนาเรื่องเผ่าเร็วไปนิด

    เห็นด้วยกับอีวานว่าตัวละครดูไม่ค่อยเหมือนฟิคเท่าไหร่ ลองบรรยายให้เข้าเนื้อเรื่องมากกว่านี้จะโอเคครับ >[]<

    รอตามต่อกรี๊ดกร๊าด~
  6. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    โทษทีสหายแม็ก ที่มาอ่านช้า พอดีติดค่ายของชมรม

    รีบๆ เอาตอน 2 ออกมาเลยละกัน จะไปcomment ให้พร้อมตอน2
  7. ladykaren

    ladykaren อัลปาก้าที่อยู่ในฟูก

    EXP:
    906
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    ในที่สุดก็ได้อ่าน^^

    สู้ๆนะคะ จะเป็นกำลังใจให้

    /me ว่าแล้วก็ไปปั่นนิยายของเราต่อ- -
  8. WinterWolf

    WinterWolf New Member

    EXP:
    19
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    กว่าจะได้มาอ่าน ต้องถ่อสังขารมาร้านเนต...เฮ้อชีวิตช้านน

    ใบสมัครขอดองไว้อีกหน่อยล่ะกัน...ทั้งไวรัสรับประทาน..ทั้งเนตไม่ได้เรื่อง

    อืมม...มาอ่านช้าไปนิด...แต่ก็สนุกดีนะ

    จะรอตอนที่สอง...รีบๆเอามาอัพเร็วๆล่ะ(จะพยายามเอาใบสมัครมาลงเร็วๆนี้)

    ป.ล. ท่านเฟนท์คุงสุดหล่อของช้านนนมีไหนนนน แหะๆ รออยู่นะเพื่อนรัก 555+
  9. Fujizaki

    Fujizaki New Member

    EXP:
    17
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    1
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    อ๊า เพิ่งได้มาอ่าน ^^
    อ่านบทนำไปนานมากๆ แล้ว อิอิ คราวนี้ได้มาอ่านบทที่ 1 สักที ^^
    อืม....... เปิดเรื่องมาปุ๊บก็ผลักดันปมมาปั๊บ เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของไซไฟแฟนตาซี แต่ก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด = =
    จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ ว่าแต่สาวน้อยนักฮาร์ปสุดเอ๋อจะโผล่มาเมื่อไหร่หว่า ฮ่าฮ่า รอลุ้นๆ ^^
    อ้อ.. เรื่องคำผิดยังมีอยู่บ้างประปรายนะคะ ลองอ่านทวนดู แล้วก็พวกตัว ห กับ ฮ อ่ะค่ะ เราว่าอันนี้ผิดเยอะสุด ลองทวนดูน่อ !!

    เป็นกำลังใจให้ค่ะ อัพไวๆ น่อ
  10. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    แวะมาอ่านแล้วเน้อ แม๊กคุง ไม่รู้จะเม้นอะไรแฮะ เพราะ Rep บนๆก็กล่าวถึงไปหมดแล้ว แต่ฉากฆาตกรรม นี่มันโหดดีแท้ เก็บกดอะไรมารึเปล่าเนี่ยฮาๆ
  11. CaLadl3olG

    CaLadl3olG Member

    EXP:
    330
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    หลี่ เหม่ย หลิน คือใครง่ะ ตัวประกอบเหรอครับ?- -
  12. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    ~Memo Page II ~

    ~The Berserk Creature~​


    เอเดน มหานครอันเป็นศูนย์รวมของมนุษย์ชาติที่ยังคงหลงเหลือจากภัยพิบัติอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ แม้จะอยู่ในยามค่ำคืนที่ปกคลุมด้วยอาภรภ์สีดำจากท้องฟ้า แต่เบื้องล่างเหนือเขตสามนั้นกลับคับคั่งไปด้วยผู้คน ราวกับจะไม่อาจหลับใหลไปกับนภาอันมืดมิดนี้ได้ ตึกแถวทั้งสองข้างทางต่างสว่างไสวด้วยไฟประดับหลากลายสี ซึ่งโดยมากมักจะเป็นร้านอาหารและหนึ่งในจำนวนนั้นคือ ร้านอาหารจีนที่ถือว่าเป็นร้านชวนชิมที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในเขตการค้าอันคึกคักนี้

    “เหม่ย หลิน เอ้ย รีบมาช่วยแป๊ะตรงนี้หน่อยเร็ว” เสียงชายชราสูงอายุผู้หนึ่งร้องตะโกนออกมาจากครัวด้านใน

    จากตัวร้านที่แต่เดิมก็เต็มไปด้วยผู้คนมากอยู่แล้ว หลังจากได้เปิดเมนูใหม่ที่เพิ่งพบจากซากหนังสือเมื่อหลายร้อยปีก่อน “โครตเป็ดปักกิ่งสไตล์หลี่” ยิ่งทำให้ตัวร้านหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่อยากจะลองลิ้มชิมรสอาหารชนิดนี้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากอาหารจากเป็ดนับว่ามีนับเมนูได้ในเอเดนแห่งนี้ตั้งแต่ยุคฟื้นฟูอารยธรรม

    “ค่าๆๆๆๆ ไปเดี๋ยวนี้แล้วค่า” หลี่ เหม่ย หลิน ในชุดสาวเสริฟอาหารจีนสีแดงเห็นได้ชัด กำลังตกที่นั่งลำบากในสถานการณ์ที่สุดแสนจะวุ่นวาย

    “น้องสาวจ๋า โต๊ะนี้ยังไม่ได้เลยนะจ๊ะ แต่ถ้าเป็นไปได้ขอเอาเป็นความรักของน้องได้ไหมจ๊ะ” ชายตาบอดหน้าตากวนบาทา ส่งความรักเน่าๆหวานเหนียวๆไปทาง เหม่ยหลิน

    “คุณลูกค้าคะ..” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนเคลิ้ม “ถ้ายังอยากออกไปครบสามสิบสองอยู่กรุณาอย่าหลีพนักงานในร้านนะคะ” แม้คำพูดเธอจะดูสุภาพแต่น้ำเสียงกลับออกแนวจอมมารในเกม RPG ทั้งหลายพ่วงจิตสังหารน่ากลัวยิ่งกว่าเคียว นัยน์ตายักษ์

    ชายหนุ่มนั่งนิ่งอ้าปากค้าง ริมฝีปากแห้งผากเป็นทะเลทราย ก่อนที่เม็ดเหงือเบ๊งๆจะค่อยไหลตามแขนขา แต่เขายังคงหลงเหลือมาดเท่ห์สะบัดเรือนผมสีทองประบ่าครั้งนึงก่อนจะเอ่ยขึ้น “คิดเงินเลยล่ะกันครับ”

    หญิงสาวตอบรับหน้าบาน “ทั้งหมดเป็นเงิน 2140 จิล ค่า” เหม่ย หลิน คิดเงินเสร็จสับทั้งๆที่อาหารยังไม่ทันได้เสริฟ

    หนุ่มไร้เนตรยื่นเงินอย่างว่าง่ายก่อนออกไปจากร้าน ด้วยฝีเท้าเงียบกริบราวกับไม่อยากให้ใครเห็นตัว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเปรยออกมาเบาๆเมื่อออกจากร้านไปแล้ว “เฮ้อ......แม่สาวโหดปังตอ ช่างน่ารักถูกใจเราจริงๆ”

    ชายติงต๊องยืนเพ้อกำหมัดอยู่แบบนั้นท่ามกลางฝูงคนที่มุงดูด้วยความสงสัย พลางโยนเศษตังให้เพราะความสงสาร บ้างก็เข้าไปขูดหาเลข บ้างก็ควักกางเกงในชายหนุ่มเอาไปดมเล่นสนุกสนาน

    “แม่ๆ ดูพี่ชายคนนั้นสิฮะ บ้าดี”

    ”อย่าไปดูลูก....อุจาดตา”


    เหม่ย หลิน ที่ยังคงวุ่นวายกับภารกิจในร้าน ต้องวิ่งหัวปั่นนอกจากการรับมือลูกค้าปัญญาอ่อนแล้ว ยังต้องคอยดูแลแทบจะทุกส่วนในร้าน เนื่องด้วยความที่เธอดันเป็นลูกสาวเจ้าของร้าน งานทั้งภายในภายนอกเธอจึงค่อนข้างเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี แต่นั้นก็ทำให้เธอต้องเป็นลูกมือแทบจะทุกงานในร้านเช่นกัน

    “เหม่ย หลิน โทรศัพท์มาแหนะ” เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นท่ามกลางเสียงจอแจภายในร้าน

    “ใครล่ะเจ๊”

    “ลุงของเรียวชิโร่น่ะ” หญิงสาวถึงกับสงสัยทันที ทำไมคุณลุงของเรียวชิโร่ถึงติดต่อเธอในเวลานี้ เหม่ย หลิน วางมือจากงานที่ทำอยู่ ตรงรับโทรศัพท์ที่อยู่หลังเคาท์เตอร์หน้าร้าน

    “คะ? คุณลุง ” เหม่ย หลิน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแฝงความสงสัย

    “เจ้าเรียวชิโร่ อยู่กับหนูหรือเปล่า”

    “ไม่นี่คะ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ”

    “ก็มันยังไม่กลับบ้านเลยน่ะสิ ลุงก็นึกว่าอยู่ช่วยงานหนูซะอีก” เสียงวิตกกังวลนั้นทำเอาเหม่ยหลิน ใจไม่ดี เธอไม่คิดว่าคนอยากเรียวชิโร่จะหนีเที่ยวในเวลาแบบนี้ เธอคิดว่าเธอรู้จักเพื่อนชายคนนี้ดีมากพอ หญิงสาวจึงคิดได้แต่เพียงว่าอาจเกิดเรื่องไม่น่าไว้วางใจขึ้นกับ เรียวชิโร่
    …………
    ……
    ….
    ..
    .
    กลับมายังการเผชิญหน้า ณ ย่านธุรกิจเขตสิบสามอีกครั้ง

    ความเงียบสงัดปกคลุมไปทั่วพื้นที่ที่เต็มไปด้วยตึกสูงแห่งนี้ สิ่งก่อสร้างถูกตั้งขึ้นมากมายอย่างไม่ค่อยได้แบบแผน ความสูงของตึกแทบจะไร่เรี่ยกันจนทำให้พื้นที่ดังกล่าวเปรียบดั่งป่าคอนกรีตก็มิปาน

    เหนือขึ้นไปจากถนนเบื้องล่างที่ไร้ผู้คนเดินผ่าน บัดนี้กำลังเกิดการต่อสู้ขึ้นโดยหามีผู้ใดล่วงรู้ การต่อสู้ของสิ่งที่เรียกว่า เทวดา และ ปีศาจ

    เอมิยะ เรียวชิโร่ เด็กหนุ่มซึ่งตอนนี้กำลังยืนอยู่เหนือดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่งในสภาพที่ไร้การตอบสนองใดๆต่อสิ่งรอบตัว ดวงตาที่เปลี่ยนสภาพเป็นสีทองจดจ้องออกไปเบื้องหน้าอย่างไร้ความหมาย ผมของเด็กหนุ่มซึ่งเดิมเป็นสีส้มบัดนี้กลับขาวโพลนและตั้งชูขึ้น และที่แปลกที่สุดคือแขนขวาที่ยับเยินเนื่องจากเต็มไปด้วยคมดาบแหวกเนื้อขึ้นมาทั่วท่อนแขนจนเลือดสีแดงสดไหลอาบจนเป็นสีเดียวกับยูนิฟอร์มนักเรียนสีแดงที่ยับเยินไปแล้วของเขา

    ภายในจิตใจของเรียวชิโร่ตอนนี้ว่างเปล่า ลืมเลือนไปหมดทุกอย่างว่าอะไรเป็นอะไร และจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เค้าเพิ่งโดนไล่เอาชีวิตจากมนุษย์มีปีก ที่เรียกตัวเองว่า เผ่าเทวดา

    ห่างออกไปเบื้องหน้าประมาณสองช่วงตึก กลุ่มควันฝุ่นที่ฟ้งจนปกคลุมทัศนวิสัยในบริเวณข้างในอย่างมิดชิด ซึ่งก่อนหน้านี้ เพิ่งจะมีร่างของเผ่าเทวดาคนหนึ่งโดนเรียวชิโร่ซักปลิวไปถึงทางโน้น และตอนนี้ก็คาดว่ากำลังนอนสิ้นท่าอยู่ภายในนั้นเช่นกัน

    “??!!” เด็กหนุ่มกระตุกขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อกลุ่มควันด้านหน้าเกิดการไหวอย่างผิดปกติ ก่อนจะปรากฎวัตถุปริศนาจำนวนมากมายเหนือคณานับ แผ่พุ่งออกมาจากกลุ่มควันฝุ่นด้านหน้า เข้าใส่เรียวชิโร่ราวห่าธนู

    พริบตานั้นเรียวชิโร่ถีบตัวออกข้างหลบอย่างรวดเร็ว พร้อมเร่งฝีเท้าเข้าหาที่มาของอาวุธซัดโดยไม่รอช้า แต่การจู่โจมดังกล่าวยังไม่จบ ห่าอาวุธกลับพุ่งออกมาเป็นระลอกสองทันทีราวกับห่าฝน ร่างของเรียวชิโร่ที่เริ่มเข้าใกล้รัศมีมากขึ้นถึงกับยั้งเท้าไม่ทันพร้อมรับอาวุธของศัตรูเข้าไปเต็มๆทางซีกขวา ก่อนจะลอยออกไปตามแรง

    เรียวชิโร่พลิกตัวกลางอากาศกลับมาตั้งลำอีกครั้งโดยอัตโนมัติ พร้อมสำรวจร่างกายของตัวเองทันที ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นโชคของตัวเค้าเองหรือเพราะสันชาตญาณที่เอาด้านซีกขวาของตัวเองเข้ารับการโจมตีกันแน่ เนื่องจากห่าอาวุธที่พุ่งยังไม่คมพอที่จะทะลวงกลุ่มคมดาบจำนวนมากมายที่ก่อสร้างเรียงตัวเป็นเกราะคมดาบเหนือช่วงแขนจนถึงหัวไหล่ของเด็กหนุ่ม ทำให้อาการบาดเจ็บน้อยลงไปมาก แต่ร่างเนื้อที่เหลือบางส่วนก็ยังคงหลงเหลืออาการบาดเจ็บจากสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายขนนกสรเงินปักอยู่มากพอดู

    ขณะเดียวกัน กลุ่มควันเบื้องหน้าก็เกิดการหมุนวนราวกับเกิดพายุ ก่อนที่จะสลายไปกับสายลมจากการปรากฎตัวของร่างๆหนึ่งที่พุ่งขึ้นฟ้า ร่างนั้นสยายปีกสีเงินที่มีเพียงข้างเดียวออกจนสุด จันทราสาดแสงส่องจนปากฎผมยาวหยักศกสีเงินของชายหนุ่มปริศนา ในอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์อันแปดเปื้อนไปด้วยฝุ่น รอยเปื้อน และคราบเลือด

    “อ้ากกกกก!!!!”

    เสียงแผดร้องดุจดั่งราชสีห์ของเทวดาเผ่าเงินอันแฝงไปด้วยแรงอาฆาตดังสนั่นลั่นไปทั่ว พร้อมกับการปรากฎพบของบาดแผลบริเวณใบหน้าซีกซ้าย เกิดเป็นแผลเหอะหวะ ชนิดที่ว่าฉีกทะลุจนเห็นซี่ฟันที่ซ่อนอยู่หลังบาดแผลทีเดียว

    “หน้า….หน้าของชั้น…แก!!!!”

    เทวดาหนุ่มปลดปล่อยความเกรี้ยวกราดเข้าใส่ เรียวชิโร่ที่ยืนอยู่ห่างออกไปสองช่วงตึก ความรุนแรงของแรงทำเอาร่างกายของเด็กหนุ่มสั่นสะท้าน เป็นสัญญาณบอกให้แก่สมองของเรียวชิโร่กำลังร้องว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ “ศัตรู” และต้องกำจัดมันทิ้งอย่างไวที่สุด

    เทวดาผมเงินกระพือปีกหนึ่งครั้งก่อนจะพุ่งเข้าใส่เรียวชิโร่ราวกับลูกปืนไรเฟิล ปีกข้างขวายืดสยายออกจนสุดในทิศทางเดียวกับลำตัวราวกับเคียวขนาดยักษ์ เรียวชิโร่ ซึ่งเตรียมตัวรออยู่แล้วจึงวิ่งตรงเข้าสวนพร้อมแนบแขนขวาคมดาบของตนไปที่สีข้างพร้อมซัดอย่างไม่หวาดเกรงต่อสิ่งที่พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงตรงหน้า

    พริบตาที่ระยะของทั้งสองเชื่อมต่อกัน เรียวชิโร่กำหมัดขวาสุดแรงพร้อมกับที่เกล็ดคมดาบที่มือจะงอกออกมาเสมือนเป็นลูกตุ้มหนามขนาดย่อมๆ พร้อมซัดกำปั้นของตนสวนทางเทวดาสีเงินสุดแรง แต่ทว่าสัมผัสของตนกลับว่างเปล่า เมื่อพบว่า เป้าหมายตรงหน้าหายไปโดยไม่รู้ตัว

    “ฟ้าว!!! ตูม!!!!”

    เรียวชิโร่รู้สึกตัวได้ในฉับพลันนั้นเมื่อมีเสียงบางสิ่งบินผ่านออกไป หากแต่ความเร็วของปีกที่แหวกลมมานั้นกลับรวดเร็วเกินจำตาทันและในชั่ววินาทีนั้น ปีกปักษาเงินขนาดใหญ่ได้ฟาดเข้าใส่สีข้างอย่างรุนแรง เสียงกระดูกซี่โครงหลายซี่ที่แตกหักจนแผ่วออกมา ก่อนที่ร่างของเด็กหนุ่มที่ถูกซัดจะกระเด็นลอยข้ามตึกออกไปตามทิศทางจู่โจม

    หากแต่เทวดาผมเงินยังไม่ยอมจบตาเดินของตนง่ายๆ ร่างของมนุษย์ปักษาหมุนควงสว่านกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระพือปีกยักษ์ของเขาสร้างแรงส่ง พุ่งเข้าหาร่างของเรียวชิโร่ที่กำลังกระเด็นออกไปดุจกระสุนไรเฟิลอีกครั้ง

    ตูม!!!!!

    “อ้อก!!!!” เสียงวัตถุกระแทกใส่ร่างเนื้อดังสนั่น เมื่อเรียวชิโร่ถูกปีกขนาดใหญ่ที่สะบัดออกราวกับแส้ฟาดเข้าซ้ำที่เดิมอีกครั้ง จนทำเอาอวัยวะภายในของเด็กหนุ่มแทบทะลักออกมาทั้งชุด

    “พร้อมที่จะขึ้นทัวร์ไปนรกยังล่ะ ไอ้หนู?” เทวดาผมเงินกล่าวเรียบๆแต่แฝงแววอำมหิต ก่อนจะใช้ฝ่ามือบีบขมับของเด็กหนุ่มไว้แน่น แล้วใช้แรงส่งจากปีกของเค้าอีกครั้ง ก่อนจะพาร่างของเด็กหนุ่มเข้าสู่โลกของความเร็วเสียงทันที

    แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่สัมผัสจากผิวหนังรอบตัว และ แรงอัดอากาศ บ่งบอกเด็กหนุ่มว่าร่างของตัวเองกำลังบินฝ่าอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสภาพที่เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

    โครม!!!!

    หลังศีรษะของเรียวชิโร่กระแทกกับของแข็งอย่างจัง แน่นอนว่าเทวดาผมเงินจับเอาร่างของเด็กหนุ่มอัดเข้าใส่ตัวตึกสูงแห่งนึงจนกระจกหน้าต่างใกล้ๆแตกกระจายหมด

    แต่ไม่จบแค่นั้น ไม่ทันที่สมองของเด็กหนุ่มจะได้ฟื้นฟูสภาพความบอบช้ำ มือของเทวดาผมเงินกลับบีบแน่นขึ้น ก่อนจะลากเอาหลังหัวของเด็กหนุ่มขูดไปกับผนังตึกราวกับเอาหัวไชเท้าไปขุดเนื้ออย่างไงอย่างงั้น

    “ว่าไงล่ะฟะ!!! ซ่าไม่ออกเลยล่ะสิ ไอ้พวกไร้ปีกเอ้ย!!!” เทวดาผมเงินตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมฉีกยิ้มอย่างโรคจิตด้วยใบหน้าที่ฉีกขาดอย่างน่าผวา ทั้งๆที่ยังมือยังจับหัวของเชียวชิโร่ขูดกับตัวตึกจนหัวแทบจะทะลุเข้าไปในตึกแล้ว

    ทันใดนั้นศีรษะของเด็กหนุ่มก็ถูกกระชากออก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสิ้นสุด เมื่อเทวดาผมเงินกลับเร่งความเร็วสูงขึ้นอีก พร้อมยกร่างของเด็กหนุ่มขวางตรงหน้า และเป้าหมายที่อยู่ปลายทางนั่นก็คือสิ่งปลูกสร้างที่สูงเด่นเป็นสง่าอันมีเอกลักษณ์คือยอดตึกทรงสามเหลื่ยมปลายแหลมในเขตสิบสามแห่งนี้ ตึกราฟาเอลล่า อันเป็นที่ตั้งของสำนึกงานนิคมอุตสาหกรรม เอเดน หรือจะว่าเป็นหัวใจของการควบคุมอุตสหากรรมของเอเดนเลยก็ว่าได้

    ร่างของทั้งสองพุ่งทะลวงเข้าไปในตัวตึกอย่างรวดเร็ว แม้ว่าภายในจะเป็นโซนออฟฟิตสำหรับพนักงานจำนวนมากมาย แต่กระนั้นเทวดาผมเงินกลับไม่ยอมลดความเร็ว เนื่องจากทุกสิ่งที่กระแทกผ่านไปเบื้องหน้านั่น มีร่างของเหยื่อในกำมือเป็นตัวรับความเสียหายตลอด

    โต้ะ เก้าอี้ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิค ผนังห้อง เพดาน ด้วยความเร็วที่สุดจะมองทัน ร่างของเด็กหนุ่มถูกจับกระแทกใส่ทุกมุมห้องไปมาราวกับลูกพินบอล จนไม่ถึงนาทีสามารถทำให้ห้องออฟฟิตกลายเป็นโรงงานร้างได้ไม่ยากเย็น

    “เอาล่ะ หมดรอบแล้วนะ คุณหนู ได้เวลาลงขบวนแล้วนะ” เทวดาผมเงินพูดเปรียบเปรยอย่างสนุกสนาน แต่คำพูดแฝงนัยบอกจะทำการสังหารแล้วอย่างแน่แท้

    จากการบินกระแทกไปรอบห้องไปมา พริบตานั้นร่างของเด็กหนุ่มกลับเปลี่ยนทิศทาง ทะยานขึ้นฟ้าอย่างฉับพลัน ก่อนจะพุ่งทะลวงเพดานนับสิบชั้นทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า

    โครม!!!!

    เสียงกระแทกครั้งสุดท้ายดังขึ้น ก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะลอยทะลุยอดตึกขึ้นมาราวจรวด เทวดาผมเงินแสละยิ้มกว้างจนปากแทบฉีก ที่กำลังจะได้ปิดฉากมารหัวขนตรงหน้าซักที หลังจากที่หยอกล้อกันมานานสองนาน

    “หือ?” แต่น่าเสียดาย….ที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นตามแผน เมื่อพริบตานั้น เทวดาผมเงินกลับสังเกตเห็นสิ่งนึงในมือขวาของเด็กหนุ่มเรียวชิโร่ วัตถุรูปรูปทรงยาวสีดำด้านข้างทั้งสองข้างแบนนาบติดกันจนเกิดสิ่งที่เรียกว่า “คม” ใช่แล้ว สิ่งนั้นมันคือ ดาบ?!!!!

    แม้ว่าจะรู้สึกตัวแต่ก็สายเกินไปแล้ว เพราะกว่าจะสังเกตเห็น ดาบหยาบๆสีดำเล่มนี้ ก็ตวัดเข้ามาในระยะเผาขนแล้ว ก่อนจะคมดาบที่ว่าเฉีอนผ่านปีกนุ่มๆของเทวดาผมเงินคนนี้จนขาดสิ้นในฉัวะเดียว

    อ้ากกกกกกกกก

    เสียงโหยหวนดังลั่นออกจากรอยยิ้มกว้างๆ ที่กำลังจะบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด เมื่อสูญเสียปีกที่เปรียบเสมือนแขนขาข้างหนึ่งของมนุษย์เราสำหรับเหล่าเทวดา และแน่นอนว่าเมื่อปีกที่เป็นอวัยวะทำให้บินได้หายไป ร่างของทั้งสองจึงดิ่งพสุธาราวกับนกปีกหัก

    ร่างของทั้งสองหมุนคว้างตกลงไปอย่างรวดเร็ว โลหิตแดงชาดที่หลั่งออกมาจากบาดแผลที่ต้นปีกของเทวดาสาดกระเซ่นไปรอบ จนย้อมเสื้อสีขาวบริสุทธิ์ของเจ้าตัวเป็นสีแดง ภาพดั่งกล่าว คงเปรียบเปรยได้เหมือนกับว่า อิคารอสที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้าก็มิปาน

    สวบ!!!!

    ในขณะที่เทวดาผมเงิน ยังคงงุนงงกับชีวิตและบาดแผล ในพริบตานั้น เด็กหนุ่มนามเรียวชิโร่ที่เป็นเหยื่อกลับเข้ามาแทงเจ้าตัวด้วยดาบสีดำหยาบที่มาจากไหนก็ไม่รู้เอาเต็มอก

    “แก!!!” เทวดาสบภ ทั้งๆที่เลือดจากปากแผลกระฉูดจนเต็มตัว แต่เด็กหนุ่มตรงหน้า กลับไม่สนใจต่อสีหน้าอีกฝ่าย แถมยังทิ้งน้ำหนักลงบนร่างของเทวดาปีกขาดคนนี้เต็มที่ จนทั้งสองพุ่งลงไปด้านล่างราวกับอุกกาบาต ก่อนทะลวงยอดตึกที่ทั้งสองเพิ่งทะลุขึ้นมา ลงไปอีกครั้ง
    ……..
    ……
    ….
    ..
    .
    “ชั้นไม่รู้หรอกนะว่า นายเป็นใคร รู้จักชั้นได้ยังไง แต่ช่วยหลีกทางไปด้วยค่ะ”

    หญิงสาวร่างเล็กแต่กลับยืนได้อย่างงามสง่าดุจนักรบหญิงที่กำลังก้าวสู่สนามรบ ผมสีทองที่มัดไว้ทั้งสองข้างปลิวสยายไปตามแรงลมยามราตรีพร้อมๆกับปีกสีเหลืองทองขนาดใหญ่ที่อยู่ซีกขวา ซึ่งดูตัดกับชุดยูนิฟอร์มหญิงแขนยาวสีแดงกระโปงดำ ดวงตาสีทองจดจ้องไปยังร่างที่ยังคงหลบในเงามืด

    “ผมคงหลีกทางไม่คุณไม่ได้หรอก อย่างน้อยๆมันก็ต้องมีค่าตอบแทนกันซักหน่อย..” เสียงชายหนุ่มในเงามืดกล่าวอย่างกวนๆ

    “อยากได้อะไรล่ะคะ ถึงจะยอมหลีกทางไปดีๆ’’ เด็กสาวตอบกลับอย่างมีอารมณ์ เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้หยุดการวางท่าทางอย่างใจเย็นไว้

    “รอยยิ้มของเธอไงล่ะ องค์หญิง”

    “.…………………………………….”

    ความเงียบสงัดเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวินาที จนหากว่าคำกล่าวเมื่อครู่มันเป็นมุขตลก ศิลปินคนนี้คงสมควรเก็บผ้าเก็บผ่อนไปไถ่นาที่บ้านเสียจะเหมาะกว่า

    แน่นอนว่าเรเชลไม่ได้ใส่ใจกับคำกล่าวบ้าๆของชายตรงหน้าเป็นแน่แท้ แถมไม่รอให้ไอ้บ้าตรงหน้าพูดไร้สาระไปกว่านี้ ก่อนที่หล่อนจะบินถลาเข้าไปฟาดปีกสีทองคำของหล่อนใส่หนุ่มมุกแป้กเบื้องหน้า

    “ใจร้อนเกินไป ระวังจะมีตีนกาขึ้นเอาน่า เรเชลจัง”

    เสียงอันคุ้นหูดังแผ่วขึ้นมาจนรดต้นคอ จนเด็กสาวรีบหันควับไปข้างหลังโดยฉับพลัน แต่ก็ไม่พ้นสิ่งใดอยู่ตรงหน้า สร้างความประหวาดปนหวาดหวั่นในใจพอดู

    แต่ไม่ถึงวินาทีต่อมา เด็กสาวกลับมีรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก แม้จะยังคงมีความขุ่นมุวในใจอยู่ เนื่องจากเธอจำเสียงเมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี และเป็นเสียงที่เคยได้ยิมาก่อนอย่างแน่นอน

    “ชั้นไม่นึกว่าจะเจอคุณที่นี่จริงๆนะคะ คุณ ไวลด์ ไลสเนอร์ “ หญิงสาวผมทองเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปยังต้นเสียง

    สิ่งที่อยู่ต่อหน้าเรเชลนั่น คือชายผมดำยุ่งที่มัดหางยาวไว้ด้านหลัง รูปร่างสูงสันทัดและดูกำยำใต้เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว คู่กับกางเกงยีนส์ขาดๆ ดวงตาสีฟ้าที่ปรากฎออกมาให้เห็นเพียงข้างเดียวส่อแววขี้เล่น เช่นเดียวกับใบหน้าและรอยยิ้มที่กำลังสนุกสนานกันการได้แหย่หญิงสาวน่ารักตรงหน้า มากกว่าเป้าหมายเดิมที่มาเฝ้าดูสถานการณ์ของเอมิยะ เรียวชิโร่เสียอีก

    “ตอนที่ผมเจอหน้าคุณ ก็ตกใจพอดูเหมือนกัน นึกว่าเจอนางฟ้าที่ไหนซะอีก” ชายหนุ่มยักไหล่กว้างของตนเล็กน้อยเป็นการตอบสนองคำพูดของเด็กสาว

    หญิงสาวไม่แสดงสีหน้าใดๆต่อมุกเสี่ยวๆของไอ้หน้าม่อตรงหน้า แต่ดูเหมือนจะมีอาการไม่สบอารมณ์นิดๆหน่อยๆ

    “แต่ว่านะ คุณท่านคิดจะแอบมองเหมือนไอ้โรคจิตอยู่ตรงนั้นไม่ถึงเมื่อไหร่ไม่ทราบ วุฒิสมาชิก เดเนฟ ลูน่าซี

    พริบตาที่พูดจบ ไวลด์ปล่อยจิตสังหารออกมาชั่วครู่ พร้อมกระทืบบาทาข้างขวาของตนลงพื้นล่างที่เหยียบอย่างรุนแรงจนเศษคอนกรีตเป็นก้อนๆลอยขึ้นมาตามแรงกระแทก ก่อนที่จะโดนไวลด์ซัลโวเป็นลูกบอลพุ่งออกไปยังเป้าหมายแห่งนึงที่ด้วยความเร็วดุจลูกศร

    ก้อนคอนกรีตผสมเศษเหล็กเส้นหมุนควงออกราวกับลูกปืนใหญ่ ก่อนที่เสียงกระแทกเป้าหมายจะตูมดังสนั่น แม้ว่าจะไม่เห็นเป้าหมายต้องหน้า พร้อมความมืดคงอบงำทัศนวิสัยก็ตาม

    “ต้อนรับกันถ่อยสมหน้าตาจริงๆแฮะ ไม่คิดว่าคนอย่างนายจะรู้ตัวด้วยว่าชั้นอยู่แถวนี้”

    เสียงนุ่มๆดังขึ้นมาพร้อมการปรากฎร่างของชายสวมชุดสูทสีดำพร้อมด้วยเนกไทสีเขียว แววตาเจ้าเล่ห์ดุจหมาจิ้งจอกที่เป็นสีน้ำเงินเข้มนั้นเกลือกกลิ้งไปกับใบหน้าของแขกที่อยู่รอบข้างมากกว่าการต่อสู้ รูปกายภายนอกบ่งบอกว่าเขาคือคนชนชั้นสูง เขาเสยผมยาวประบ่าเล็กน้อย เรือนผมสีทองเข้มค่อยๆเคลื่อนไหว ก่อนจะยกสองมือกลับมากอดอกด้วยทวงท่าเย้ยหยันอีกครั้ง

    แม้ว่าเดเนฟ จะเดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย ทว่าทิศทางที่เค้าปรากฎตัวกลับอยู่คนละทิศทางที่ลูกชู้ตของไวลด์ยิงออกไปเลย แต่ไวลด์กลับไม่แสดงสีหน้าแปลกใจเหมือนกับว่าล่วงรู้สาเหตุของสิ่งนี้อยู่แล้ว

    “ชั้นรู้ตัวตั้งแต่แกคลานอยู่ในท้องแม่แล้ว เดเนฟ ลมบ้าอะไรหอบคนอย่างแกมาที่นี่ไม่ทราบ?” ไวลด์กล่าวอย่างกวนบาทาจนเห็นได้ชัดว่า ไม่พอใจกับการปรากฎตัวของชายหนุ่มจากสภาสูงคนนี้

    แม้โดนพูดใส่อย่างเกรี้ยวกราด แต่ชายในชุดสูทกลับยิ้มขึ้นอย่างพอใจ กับท่าทีของเด็กหนุ่มตรงหน้า “อย่าใส่ใจชั้นเลย ก็แค่มาสังเกตการณ์แมลงชั้นต่ำอย่างนายเท่านั้นเดียวก็จะกลับแล้วล่ะ”

    ไวลด์ถึงกับเส้นเลือดปูดขึ้นหน้าที่โดนตอกกลับเข้าไปเต็มๆดอก ผิดกับเรเชลที่ยังคงเรียบเฉยเพราะการปรากฎตัวของชายอีกคนตรงหน้าไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร อีกทั้งถึงอย่างไรเขาคนนี้ก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใดๆต้องเดือดร้อน

    “ว่าแต่ว่า คุณเรเชลผู้เลิศโฉมมาทำอะไรที่นี่ล่ะครับ” เดเนฟเริ่มออกลูกม่อตามประสา ยิ่งกระพือความหงุดหงิดให้ไวลด์ที่โดนเมินไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

    “มาสังหารเอมิยะ เรียวชิโร่” คำพูดที่ออกมาจากปากของเธอแบบหน้าตาเฉยดึงความสนใจของทั่งคู่ทันที

    “อะไรกัน เรเชลจัง จู่ๆจะมาพูดจาฆ่าแกงกันเลยเหรอ เด็กผู้หญิงน่ารักไม่ควรพูดอย่างงี้น่า” ไวลด์ที่ได้ยินคำพูดของเด็กสาว ก็ยังคงหยอกล้อไม่เลิก

    เดเนฟ ที่ได้ยินดังนั้น จึงมองออกไปด้านหลังของชายหญิงตรงหน้า ตึกราฟาเอลล่า ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า แม้จะยังคงอยู่ ท่ามกลางความมืด รอยทะลุที่ปรากฎอยู่บนยอดตึกอันสูงชิ้ฟ้า ซึ่งเป็นที่ๆปีศาจเรียวชิโร่กับเทวดาผมเงินเพิ่งตกไปเมื่อสักครู่ ทำเอาเดเนฟ แสยะยิ้มราวกับล่วงรู้อะไรบางอย่าง

    “แบบนี้นี่เอง แต่ถึงกับต้องทำให้‘นางฟ้าพิพากษา’ มาเองแบบนี้ ก็ถือว่าการมาสังเกตการณ์ของผมคุ้มค่ามากทีเดียว”

    “หา!!!!!”

    หนุ่มผมยุ่งถึงกับเหวออ้าปากค้างจนกรามลั่น เมื่อได้ยินฉายาดังกล่าว เพราะชื่อของ ‘นางฟ้าพิพากษา’ นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พวกเขา เนื่องจากใครที่เคยต้องสู้กับเธอไม่เคยรอดสักราย ทำให้ไม่มีใครรู้รูปลักษณ์ของเธอมากนัก มีเพียงคำลั่นลือเป็นข่าวในหมู่เผ่าปีศาจมากมายว่าเธอมีความสามารถแปลกพิศดารมากมาย และที่สำคัญยังเป็นตัวอันตรายอันดับต้นๆที่ต้องระวังของเผ่าพันธ์ของเขาด้วย

    “อะไรกันคะ ชั้นนึกว่าในหมู่ปิศาจจะรู้จักชั้นดีซะอีก” เรเชลที่จับสีหน้าของไวลด์ได้ก็เอ่ยคำคล้ายข่มขู่อย่างรวดเร็ว

    “ไม่คิดเลยว่า นางฟ้าพิพากษา ที่มีคำล้ำลือถึงความเก่งกาจในหลายๆด้าน จะมาอยู่ต่อหน้ากันซะได้” ไวลด์ ถึงกับเหงื่อตกเล็กน้อย ที่ตัวตนของศัตรูอันแสนน่ากลัวกำลังปรากฎอยู่ตรงหน้า

    หญิงสาวยิ้มขึ้นเล็กน้อยเป็นการตอบรับ “ประมาณนั้นค่ะ”

    “บางข่าวลือยังบอกอีกว่า เธอสามารถปล่อยแสงออกจากตา กับ หรือพ่นไฟได้….ให้ตายเถอะเอเดน เทพเกินไปแล้ว” ไวลด์ออกหน้าตาตื่นไปพูดไป

    =_= …….. [ใครมันเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ไปลือฟะเนี่ย] เรเชลถึงกับเก๊กแตก ทำหน้าปลงถึงความดังแปลกๆของตัวเอง

    ในระหว่างที่ทั้งสองยังเปิดโต้วาทีกันไม่จบ เดเนฟ ที่พอจะคาดเดาสถานการณ์ต่อไปได้ก็เริ่มถอยห่างทั้งคู่ แต่ในใจกลับรู้สึกตื่นเต้นไปกับภาพการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า การต่อสู้ที่พวกเขารู้ดีว่าจะมันหยดขนาดไหน ก่อนที่จะถอยเข้าไปในเงามืดอย่างเงียบๆ

    “ว่าแต่ ทำไม เรเชลจัง ต้องมาฆ่าเจ้าเรียวชิโร่ มันด้วยล่ะครับเนี่ย?” ไวลด์ ดึงเรื่องกลับมาที่เก่าอีกครั้ง

    “คุณไม่เห็นเหรอ เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อาจทำให้คนอื่นๆเดือดร้อน หรืออาจก่อคดีฆาตกรรม ซึ่งชั้นคิดว่าเป็นไปได้สูงที่เรียวชิโร่จะกลายเป็นปีศาจฆาตกร และทางที่ดีก็ควรจะกำจัดเค้าซะก่อนจะทำเรื่องไม่ดีลงไปอีก”

    “อะไรกันๆ ผมว่าไม่ถูกน่า เรียวจัง มันยังละอ่อนควบคุมอารมณ์ไม่ได้เท่านั้นเอง อีกอย่าง คดีที่ผ่านมามันมาจากเผ่าเทวดาไม่ใช่เหรอ? ทำไมเราไม่จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จๆ ก่อนเพื่อนผมจะถูกเก็บก่อนล่ะ?” ไวลด์พูดให้เหตุผลอย่างดิบดี แต่ทว่าดันไปพูดเน้นคำผิดที่ไปนิดนึง จนเด็กสาวมีอาการกระตุกรีแอ็คชั่นอย่างเห็นได้ชัด

    “พูดอย่างงี้ จะหาว่าเป็นความผิดของพวกชั้น สิ-นะ-คะ…” น้ำเสียงหวานๆของเด็กสาวเริ่มส่อพลังรุนแรงขึ้น

    “เฮ้ยๆ ผมไม่ได้ว่างั้นน่า…แค่บอกว่า คดีที่ผ่านมา เป็นฝีมือของเทวดาเอง” ไวลด์ยังคงโง่ซ้ำซาก ไปราดน้ำมันลงกองไฟเพิ่ม จนเส้นขันติของเด็กสาวทวินเทลขาดกระจุย

    เทวดาสาวสยายปีกเหลืองทองของเธอออกกว้าง จนเกิดสายลมกระโชกใส่หนุ่มหน้าทะเล้นเข้าเต็มๆจนต้องยกแขนบังหน้าไว้แต่ทันทีที่ลับสายตาเพียงแวบเดียวนั่นเอง

    “ถ้าเช่นนั้นก็ ช่วยหายไปซะเถอะนะคะ คุณเผ่าปีศาจ” เพียงพริบตาร่างของเรเชลก็เข้าประชิดด้านข้างของไวลด์อย่างรวดเร็ว พร้อมตวัดปีกสีทองของเธอฟาดเข้าเข้าใส่เต็มแรงหวังเชือดในหนึ่งที

    แต่กระนั้นไวลด์เองก็ไม่ได้ไวน้อยไปกว่า พริบตาที่ปีกสีเหลืองทองจะถึงตัว ไวลด์โดดเอี่ยวเป็นแนวเดียวกันปีกก่อนจะหมุนตัวตามทิศทางแรงฟาด พร้อมใช้แรงหมุนที่ได้ตัวจะเป็นตัวช่วยส่งร่างของตัวเองออกจากจากเด็กสาวทวินเทลได้โดยสวัสดิภาพ

    เรเชลถึงกับตะลึงพอดูที่ได้เจอคนรอดจากการโจมตีของตัวเองอย่างปลอดภัยถึงสองหน ก่อนจะตั้งสติใหม่อีกครั้ง แล้วหันกลับไป แต่ทว่ายังไม่ทันที่ประสาทจะจับตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ ไวลด์ก็กลับหายไปจากตรงหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมจารึกรอยเท้าๆลงบนพื้นคอนกรีต


    [อีกแล้ว?!! หมอนี่มันใช้เทเลพอร์ต(เคลื่อนย้ายด้วยพลังจิต) ได้หรือไงกัน?!!!!]

    เด็กสาวถึงกับสะดุ้งเฮือกกับภาพที่ปรากฎตรงหน้า แต่ยังไม่ทันจะเคลื่อนไหวต่อ ใบหน้าของไวลด์ก็กลับแนบเข้ามาใกล้หูของเด็กสาวจากข้างหลังจนหายใจรดต้นคอ

    “หน้าตอนลำบากใจนี่ น่ารักใช่ย่อยเลยนะ..?” เสียงนุ่มๆปนสำนวนจีบสาวแผ่วเบาดังเข้าหูเด็กสาว แต่ด้วยระยะที่ใกล้จนเกือบแนบชิด ทำเอาเด็กสาวกระแทกศอกไปข้างหลังตามสัญชาตญาณ พร้อมใบหน้าที่แดงระเรื่อ แต่ทว่าร่างของไวลด์กลับหายไปจากตำแหน่งเดิมอีกครั้ง

    “หายไปอีกแล้ว!!!” เด็กสาวบ่นพึมพัมอย่างอารมณ์เสีย จนไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนความสามารถที่ตนไม่รู้ของไวลด์ปั่นหัวอยู่

    “เสร็จชั้นล่ะ!!!!”

    เสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง เรเชลที่หันตามไปด้วยความว้าวุ่น ก็พบว่าไวลด์กับไม่ได้หายตัวไปมาเหมือนที่ผ่านมา แต่กลับกำลังสวิงขาขวาที่บัดนี้มีสีขาวนวล ข้าเตะใส่โดยไม่รู้ตัว

    “ว้าย!!” เด็กสาวเผลอตัวร้องพร้อมเหวี่ยงปีกของเธอเข้าป้องกันการจู่โจมข้างหน้าทันที แต่ทว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเข้าแผนของไวลด์อย่างทุกระเบียบนิ้ว ก่อนที่หนุ่มผมหางม้าจะเอี้ยวตัวเปลี่ยนทิศทางลูกเตะลงพื้นกลางอากาศ แล้ว

    พรึบ!!!!

    “เอ๋?” เด็กสาวมีอาการตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรู้ตัวว่ากระโปรงสีแดงของตัวเองถึงกับเปิดสูงขึ้นจนมองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างชัดเจน

    “กรี้ด!!!!” เด็กสาวถึงกับทรุดนั่งลงไปปิดกระโปรงเลยทีเดียว

    ไวลด์ที่กำลังเบรกตัวเองอยู่ด้านหลังเด็กสาว มีอาการตกใจเล็กน้อย (มาจากการเห็นของดีส่วนนึง) เพราะดูเหมือนความเร็วของเด็กหนุ่มมันดันแรงลมในการเคลื่อนที่ จนไปสร้างปัญหาเข้าให้เสียแล้ว

    “ว้าว…สีขาว เอ้ย!!! เรเชลจัง ผมไม่ได้ตั้ง…เหวอ!!!”

    ตูม!!!!!

    ไม่ทันที่คำขอโทษได้ออกจากปาก เด็กสาวก็เข้ามาประชิด พร้อมฟาดปีกสีเหลืองทองเข้าใส่ไวลด์แบบไม่ยั้งแรงจนพื้นเบื้องล่างที่ถูกฟาดถล่มด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ไวลด์ก็หายไปจากที่เดิมอีกครั้งก่อนจะ ปรากฎตัวมาจากอีกทิศพร้อมเห็นว่าขาสองข้างขากางเกงฉีกขาขาด จนเห็นว่า ขาของไวลด์เปลี่ยนสภาพจากขามนุษย์ปกติ โครงกระดูกที่ผิดรูปแบบขยายใหญ่จนออกมานอกผิวหนัง บางส่วน เนื้อหนังเดิมถูกกระชากออกจากภายในกลายเป็นชั้นกล้ามเนื้อสีเดียวกัยกระดูก พร้อมอุ้งเท้าสามนิ้วและกนงเล็บที่แหลมคม

    แต่ทว่าเรเชลนั่นกลับไม่มีอาการเสียอารมณ์หรือตกใจอะไรอีกแล้วกับรูปลักษณ์ในสภาพครึ่งปีศาจของไวลด์ หล่อนเอี้ยวกลับมาแทบทันที เหมือนล็อกเป้าหมายไปที่เด็กหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะพุ่งเข้าหาเพื่อเตรียมโจมตีอีกระลอก

    “เหวอ!!!” ไวลด์ร้องด้วยความตกใจ เพราะเด็กสาวพุ่งเข้าประชิดโดยไม่คาดคิด เพียงแต่พริบตาที่เด็กหนุ่มคิดจะใช้ความเร็วหนีอีกครั้ง สิ่งที่ไวลด์สังเกตเห็นคือ น้ำตาของเด็กสาวผมทองตรงหน้า จนเกิดอาการชะงักชั่วขณะ

    ตูม!!!

    เสียงปีกสีเหลืองทองกระแทกร่างเนื้ออัดคอนกรีตเข้าไป ดังลั่นจนพื้นบริเวณดาดฟ้าแห่งนี้แตกกระจายเป็นแนวกว้าง โดยที่ร่างเจ้าของปีกทองเหลืองคร่อมอยู่เหนือร่างของเด็กหนุ่มเผ่าปีศาจที่จมคอนกรีตไปแล้วเพียงไม่ถึงช่วงตัว

    เด็กสาวแสยะยิ้มเล็กๆราวกับประสบความสำเร็จที่สามารถฝังศัตรูตรงหน้าได้อย่างสวยงาม แม้ว่าจะทุลักทุเลไปซักนิดก็ตาม

    แต่ความสุขนั้นก็แสนสั้น เพียงชั่วเวลาเพียงอึกใจที่ได้ซึบซับชัยชนะ เด็กสาวก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ผิดแปลกไปอยู่สองที่ ที่แรกเป็นบริเวณส่วนปลายของปีกที่จมอยู่ในคอนกรีต ส่วนอีกที่นั่นมาจากมือข้างหนึ่งที่กำลังคว้าหน้าอกของเธอเข้าเต็มรัก

    “กรี้ดดดดดด!!!!” เรเชลแทบจะหงายหลัง เพราะรีบถีบตัวเองออกจากบริเวณนั้นสุดแรง ดวงตาสีเบิกโพลง พร้อมหายใจถี่อย่างรุนแรงราวกับเจอคนตายคืนชีพยังไงอย่างงั้น

    “มือหนักใช่เล่นจริงๆนะนี่ย” เสียงยานๆ ดังแผ่วขึ้น พร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มหน้าม่อนามว่าไวลด์ ที่ค่อยๆดึงร่างกายของตัวเองออกมาจากหลุมคอนกรีต ดูไม่ต่างอะไรจากซอมบี้ลืมหลุมเลยซักนิด

    “เรเชลจังนี่ สมบูรณ์แบบไปหมดแทบทุกอย่างเลยนะเนี่ย” ไวลด์ในสภาพชุดเครื่องแบบขาดยับเยิน ค่อยๆเดินเข้าหาเด็กสาวที่ทรุดนั่งอยู่ด้านหน้า พร้อมออกปากชื่นชม

    “ไหนจะน่ารัก ยิ้มสวย พูดจาดี อัศยาศัยดี มือหนัก พูดน้อย ……แต่เรื่องหน้าอกนี่แม้เล็กไปหน่อยแต่ก็สามารถพัฒนาได้อีกนะ ถึงตอนนี้จะแค่คัพบีก็เถอะ

    คำพูดเด็กหนุ่มที่พูดด้วยสีหน้ายิ้มกว้างทะเล่นประจำตัว ทำเอาเด็กสาวรู้สึกเหมือนโดนห่าธนูแปดล้านดอกทิ้มแทงดวงใจ โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายที่เด็กหนุ่มกล่าวมา

    “ชั้นเคยคิดว่าจะไม่เอาถึงตายหรอกนะคะ…” เรเชลค่อยๆกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ก่อนจะกางฝ่ามือที่ตอนนี้ค่อยมีละอองแสงสีทองมารวมตัวกันออกกว้าง

    “แต่คนอย่างคุณ…” แสงสีทองเจิดจ้าค่อยๆดูดเข้ามารวมที่ฝ่ามือของเด็กสาวทวินเทล

    “อย่าอยู่หายใจบนโลกอีกเลย!!!!” เรเชลตะโกนลั่นพร้อมการปรากฎของหอกสามง่ามยาวเกือบสามเมตร จนไวลด์ที่ยืนดูถึงกับรอยยิ้มหดไปเลย

    “เวรแล้วไง…”

    เรเชลไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งตรงเข้าหาไวลด์อีกครั้ง คมสามง่ามชูนำหน้าบวกด้วยความเร็วจากแรงส่งของปีกขนาดใหญ่แล้ว เรียกได้ว่าไม่ต่างอะไรกับกระสุนปืนใหญ่ขนาดย่อมๆเลยทีเดียว

    เด็กหนุ่มหน้าม่อซึ่งมัวแต่ตะลึง รีบกลับมาตั้งสติอีกครั้ง แต่ทว่าความเร็วของเด็กสาวกลับไวเกินคาด ไวลด์รีบเอี้ยวตัวออกข้างขวาอย่างฉับพลัน แต่ก็โดนคมหอกข้างเสียบเข้าเต็มหัวไหล่ซ้าย

    “อุ้บ!!!!” ร่างของไวลด์ลอยเหนือพื้นขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากไหล่ซ้ายยังติดเข้ากับคมหอกข้างของเด็กสาวทวินเทลที่กำลังกระพือปีกยักษ์ของเธอรัวเพื่อสร้างแรงส่งน้ำหนักของคนสองคนให้บินขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว

    “ลาก่อนค่ะ…” เรเชลที่ใบหน้าที่ไร้ซึ่งรอยยิ้ม พูดบอกไวลด์ด้วยสายตาเย็นชา พร้อมๆกับที่เปลี่ยนทิศทางจากบนลงล่างในทันที ร่างของไวลด์ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งเดียวกับคมหอก รับแรงต้านอากาศเข้าเต็มหลัง ก่อนจะดิ้งพสุภาลงสู่พื้นโลก ซึ่งด้วยความเร็วระดับนี้ ต่อให้เป็นร่างปีศาจ ก็คงไม่อาจรอด

    “อ้ากกกกกกกกกกกกก ปล่อยนะ!!! ชั้นยังไม่อยากตายยยยยยย” ไวลด์ที่กำลังเข้าสู่โลกแห่งความตาย หลุดปากร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว ทำให้เรเชลที่อยู่เหนือร่างของเด็กหนุ่ม แสดงสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย

    “แบร่~~~ ซะ – เมื่อ – ไหร่”

    เรเชลที่อยู่ในใบหน้าเสียใจ ถึงกับหลุดตกใจด้วยสีหน้าช็อก เมื่อจากใบหน้ากลัวตายจนไร้มาดของไวลด์ กลับมา แลบลิ้นหลอกใส่ตรงหน้า กันซะหน้าตาเฉย ทั้งๆที่ตอนนี้กำลังห่างจากพื้นล่างเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

    ทันใดนั้นเอง ไวลด์ถึงกับกระชากไหล่ซ้ายของตนออกจากคมหอกอย่างง่ายดาย ถึงแม้เลือดสีแดงสดและรอยขาดกว้างจะหนักจนเหมือนจะขาดไปทั้งไหล่ ยิ่งสร้างความตะลึงแก่เรเชล จนทำอะไรไม่ถูก

    “ขออนุญาตแตะเนื้อต้องตัวเล็กน้อยๆนะ” เด็กหนุ่มกล่าวคำ ที่เค้าน่าจะพูดมาตั้งแต่หลายนาทีก่อนแล้ว ก่อนจะใช้แขนขวาวางแนบบนหน้าท้องของเด็กสาวอย่างรวดเร็ว ก่อนออกแรงผลักร่างอันบอบบางนั้น ลอยกลับขึ้นไปสู่เบื้องบนสุดแรงชนิดไม่ถามความพร้อมของเจ้าตัวเลย

    [บ้าน่า..ถึงเราจะไม่ได้เอาจริงก็เถอะ แต่ทุกครั้งที่เราคิดว่าจะจัดการได้ เค้าก็รอดไปได้อย่างง่ายดาย] เด็กสาวครุ่นคิดอย่างหัวเสีย ในขณะที่ร่างของตัวเองกำลังลอยขึ้นมาตามแรงเหวี่ยง ก่อนจะพลิกกลับมาทรงตัวอีกครั้งกลาวงอากาศ

    ตูม!!!

    พร้อมๆกันนั้น เสียงกระแทกดังสนั่นขึ้น เมื่อไวลด์ใช้ขาปีศาจของตนลงพื้นถนนเบื้องร่างได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าการลงจอดจะทำเอาถนนรอบๆแตกเป็นแนวกว้างก็ตามที

    “สงสัยแบบนี้ พรุ่งนี้เป็นข่าวใหญ่แน่เลย…” ไวลด์บ่นอุบอิบเมื่อสังเกตเห็นผลงานตัวเอง

    “เล่นอะไรของแกอยู่น่ะ ไวลด์… แขนถึงได้ขาดห้อยรุงริ่งขนาดนั้น” เสียงทักเสียงหนึ่งดังขึ้น

    “อ่ะ…ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอ นายที่นี่นะเนี่ย หมาน้อย เฟนเรียร์ การู ไลคานอส พาตัวเองมาเดินเล่นเหรอ” ไวลด์ยกมือทักทายแบบกวนพระบาทาแก่ชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างสบายๆ ทั้งๆที่แขนซ้ายขาดแหว่งทั้งช่วงหัวไหล่ จนแทบจะหลุดออกจากกัน

    “หมาน้อยแป้ะแกน่ะสิ มัวทำอะไรอยู่ฟะ เดี๋ยว เด็กใหม่เราก็โดนเชือดทิ้งซะก่อนหรอก”

    ชายหนุ่มปริศนาเดินเข้าใกล้มากขึ้นพร้อมออกคำเตือนอย่างไม่สบอารมณ์ ใบหน้าผิวขาวผ่องประดับนัยย์ตาดำสนิทปรากฎออกมา ผมยาวประบ่าสีเฉกเดียวกับดวงตา พร้อมแต่งกายเสื้อเชิ้ตขาวแหวกอกราวกับเพลย์บอยตัวยง ข้างๆของเขามีหมาป่าตัวโตเต็มวัยพร้อมชุดขนสีเงินสว่างเดินติดมาด้วย

    “ไม่หรอกน่า เรียวชิโร่มันอึดอย่างกับคุณปีเตอร์ในถุงขยะ อีกอย่างเห็นอย่างงี้ มันก็เก่งเรื่องวิวาทอยู่น่า” ไวลด์พูดไปพร้อมแอบนินทาสหายรักอย่างไม่ทุกขฺร้อน แต่ไม่ได้ช่วยให้ เฟนเรียร์ รู้สึกดีกว่าที่เป็นอยู่ซักนิด

    “จะไงก็ช่าง เลิกเล่นแล้วรีบๆไปช่วยมันมาซักที อีกไม่นานหน่วยตำรวจได้แห่มากันแน่”

    “คร้าบๆ” ไวลด์แคะขี้หูไปพลางๆระหว่างตอบรับคำสั่งของชายตรงหน้าแถมไม่วายติดเศษขี้ใส่หัวอีกฝ่ายเป็นของฝาก

    ขณะที่สองคนตรงถนนเบื้องร่างมัวแต่คุยสัพเพเหระอยู่ เรเชลที่อยู่เหนือขึ้นไปหลายร้อยเมตร ก็ได้รวมแสงสีทองบนฝ่ามืออีกครั้ง ก่อนจะปรากฎดาบสองคมขนาดยักษ์ใหญ่กว่าเจ้าตัวคนถือประมาณสองช่วงตัว พร้อมๆกับที่เรเชลจะหมุนเหวี่ยงเสริมแรงเพื่อขว้างดาบในมือลงไปใส่ไวลด์เพื่อซ้ำให้ตาย

    “อะไรฟะนั่น….” เฟนเรียร์ถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นดาบขนาดยักษ์พุ่งดิ่งลงมาด้วยความเร็วสูง

    “อาวุธของนางฟ้าพิพากษาไง…ดูเหมือนรูปแบบพลังเฉพาะเซลล์ของเธอจะไม่ใช่พ่นไฟได้เหมือนอย่างข่าวลือนะ”

    ทันใดที่กล่าวจบประโยคพร้อมๆกับที่ดาบยักษ์ตรงดิ่งลงมาบนหัวในระยะสามชั่วตัวพอดี แขนซ้ายของไวลด์ที่ใกล้ขาดเต็มทน กลับเหวี่ยงขึ้นไปรับศาตราวุธเบื้องบนได้อย่างเหลือเชื่อ โดยที่ไม่มีท่าทางบ่งบอกเลยซักนิดว่าสิ่งที่แบกอยู่ที่ฝ่ามือมีน้ำหนักมากมายเพียงไร

    “ไม่จริง?!!!” ฝ่ายเด็กสาวเจ้าของดาบยักษ์ ถึงกับร้องออกมาด้วยความไม่คาดฝัน ยิ่งอีกฝ่ายสามารถรับสิ่งที่มีน้ำหนักมหาศาลอันดิ่งลงไปด้วยความเร็วระดับนั้น โดยใช้เพียงแขนซ้ายขาดแหว่งด้วยท่าทางไม่ยี่หระด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความเจ็บใจแก่นางฟ้าพิพากษาอย่างทวีคูณเข้าไปอีก

    “เห็นมั้ยล่ะ ยิ่งรูปแบบพลังเฉพาะเซลล์ของชั้นมันไม่ค่อยสะดวกที่จะใช้เอาชนะชาวบ้านด้วย มันถึงได้ยืดเยื้อไง”

    ไวลด์กล่าวด้วยสีหน้าสนุกสนาน พร้อมๆกับที่ท่อนแขนซ้ายที่กำลังแบกรับศาสตราของนางฟ้าพิพากษาได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ขยายใหญ่ขึ้น ผิวหนังสีเนื้อถูกกระชากออกจากภายใน กลายเป็นชั้นกล้ามเนื้อสีขาวที่ม้วนพันไปมาเหมือนก้อนมัดรูปแขนมนุษย์แทน

    “ขำตายล่ะ แกเอาแต่ม่อสาวน้อยคนนั้นจนไม่ทำงานเลยสิไม่ว่า ตูจัดการเองก็ได้ฟะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็ค่อยๆยกมือขึ้นมาไว้ตรงหน้าผากของตน แต่กลับถูกสหายหน้าม่อห้ามปราบเสียก่อนด้วยการหวดกำปั้นขวาโขกเข้าใบหน้าเพื่อนซี้เต็มรัก

    “เด็กข้าใครอย่าแตะวะ เฟนท์เอ้ย” ไวลด์กล่าวแสดงความเป็นเจ้าของต่อสหายข้างๆอย่างหน้าไม่อาย จนเฟนถอนหายใจด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่าย(และเจ็ดปวด) ราวกับบอกในใจว่า เอ็งไปได้ยัยนั่นเป็นเด็กในสังกัดตั้งแต่ชาติปางไหนฟะ

    มาทางด้านเรเชล ที่ยังคุมเชิงอยู่ด้านบน ตอนนี้ในหัวเธอเริ่มลืมสิ่งที่ตั้งใจจะมาทำในที่นี่ตั้งแต่แรกไปโดยสิ้นเชิงแล้ว แม้เธอจะไม่ใช่คนที่อวดอ้างฝีมือของตัวเองมากนัก แต่ครั้งนี้ถือได้เป็นครั้งแรกที่เจอคนที่เธอไม่อาจทำอะไรได้เลยซักนิด ด้วยฝีมือและพลังตอนเป็นร่างครึ่งเทวดา บัดนี้นางฟ้าพิพากษาคิดแต่ที่จะปลิดชีพชายที่มีนามว่า ไวลด์ ไลสเนอร์ ปีศาจที่ทำลายทั้งความมั่นใจในฝีมือและเกียร์ติ์ศักดิ์ศรีของตัวเองจนหมดสิ้น

    “ดูเหมือนว่า ถ้าไม่ทุ่มสุดตัวคงเอาชนะคุณไม่ได้สินะ ไวลด์ ไลสเนอร์…”

    ร่างของเรเชลเริ่มเกิดออร่าสีทองเฉกเช่นเดียวกับปีกปักษาของหล่อน แต่ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้เคลื่อนไหวต่อ เมื่อมีมือหยาบๆข้างหนึ่งเข้ามาวางบนไหล่ของเด็กสาวราวกับเป็นการห้ามปราม

    “พอแค่นั้นแหละเรเชล…” เสียงของชายหนุ่มเจ้าของมือพูดขึ้น

    น้ำเสียงหยาบๆแต่นุ่มนวล สำหรับเรเชล มันเป็นเสียงที่คุ่นหูนัก เสียงของชายหนุ่มวัยรุ่นใบหน้าคมได้รูปที่มาผมสีขาวยาวมัดรวม พร้อมดวงเนตรสีฟ้าอันลึกล้ำเหมือนน้ำทะเล ต่างหูเงินรูปมีดที่หูซ้ายสะท้อนประกายวาวด้วยแสงเพียงเล็กน้อยในค่ำคืนนี้ มาพร้อมปีกสีดำนิลข้างขวาอันเป็นลักษณะเฉพาะของเผ่าเทวดาที่ดูตัดกับเชิ้ตแขนยาวสีขาวของเขานัก

    “คะ…คุณเอ็นโด!! ทำไมคุณ?!!” วันนี้เรเชลก็เจอเรื่องที่ไม่คาดคิดอีกเรื่องแล้ว เมื่อ เอ็นโด คริปโตส เทวดาหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าปรากฎตัวขึ้น

    เจ้อลิซซาเบธ ขอให้ชั้นมารับเธออ่ะนะ” เทวดาปีกดำกล่าวไปพร้อมเกาหัวเแกรกเหมือนกับโดนบังคับให้มากลายๆ “ฝากมาบอกด้วยว่า มีเรื่องตรงคุยด่วน เพราะฉะนั้น รีบไปกันได้แล้ว”

    “แต่ว่า…”

    “โว้วๆๆ ใครมาอีกล่ะคราวนี้…” น้ำเสียงยียวนกวนปลายเท้าดังขัดจังหวะขึ้น พร้อมๆกับร่างของหนุ่มผมยาวสองหน่อ ที่เพิ่งโดดกลับขึ้นมาจากถนนด้านล่างขึ้นมาบนตึกอีกครั้ง หากแต่เทวดาปีกดำ เอ็นโด้ไล่สายตาไปยังบุคคลแปลกหน้าสองนายอย่างช้าๆ ก่อนจะเมินใส่อย่างไม่เยื่อใย

    “อย่าชักช้า เรเชล ไปได้แล้ว…”

    แต่หญิงสาวยังคงไม่ขยับ เพราะ ชายหนุ่มที่มาพร้อมแขนซ้ายอสุรกายตรงหน้า ยิ่งมองยิ่งรู้สึกโมโหที่ นอกจากชายตรงหน้าจะไม่ยอมเอาจริงในการสู้กับเธอแล้ว การกระทำที่เอาแต่เล่นของเขา ยิ่งสร้างโทสะแก่ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น

    “เรเชล!!” เสียงตะโกนเรียกสิของพรรคพวก ดังขึ้นอีกครั้ง

    “คะ..ค่ะ!!”เด็กสาวขานรับด้วยความตกใจ แต่ในใจนั้น ยังคงความโกรธ อยู่ในจิตใจ พร้อมๆกันนั้น ดาบใหญ่และหอกสามง่ามคู่กายของสาวน้อยก็พุ่งกลับเข้าไปหาผู้ใช้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะสลายกลายเป็นละอองแสงเช่นเดิม

    เสียงกระพือปีกดังขึ้น พร้อมร่างของเทวดาทั้งสองที่ค่อยๆลอยออกไป แต่ก่อนที่จะออกพ้นสายตา เรเชล กลับหยุดอยู่กลางอากาศซักครู่

    “ไวลด์ ไลสเนอร์…” เด็กสาวขานชื่อของหนุ่มผมยาวอีกครา

    “คร้าบบบบ จะสารภาพรักผมเหรอ?”

    ไอ้หน้าม่อยังคงหัวร่ออย่างกวนบาทากลับไป แต่ทว่าการกระทำดังกล่าวเป็นอันต้องหยุด เมื่อ หญิงสาวที่บินอยู่เหนือฟากฟ้านั่นกลับมีหยาดน้ำตาเล็กๆไหลผ่านใบหน้าที่ดูเย็นชา จะว่าโศกเศร้าก็ไม่ถูกจะโกรธก็ไม่เชิง

    “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม….ชั้นจะ…ฆ่านายให้ได้ ซักวันนึง….”

    “หา?” ไวลด์ เกิดอาการกระตุกอย่างตะลึงที่ได้ยินดังนั้น

    “เก็บชีวิตนั่นให้ดีๆเถอะ…” หลังพูดจบเด็กสาวก็ได้ลอยหายเข้าไปในความมืด พร้อมๆสหายข้างๆไป

    “ครั้งแรกเลยนะเนี่ย ที่มีสาวมาบอกจะตามฆ่าแกเนี่ย” เฟนท์ถึงกับออกอาการขำขันเงียบๆ เมื่อคาสโนว่าอันดับบ้วย ถึงกับโดนสาวประกาศเอาชีวิต

    “เอาล่ะ รีบๆไปดูเจ้าเด็กใหม่ของเราได้แล้ว เดี๋ยวมันก็โดนเจื้อนทิ้งซะก่อนหรอก…. ไวลด์?”

    เฟนท์ที่กำลังจะไปยังตึกราฟาเอลล่า อันเป็นที่ๆเอมิยะ เรียวชิโร่ กับ เทวดาผมเงินกำลังต่อสู้กันอยู่ หากแต่ทว่าสหายหน้าม่อกลับไม่มีการเคลื่อนไหว ยังคงยืนทื่อเป็นตอไม้อยู่ตำแหน่งเดิม

    “เฮ้ย…เป็นอะไรของแกฟะ?”

    “เฟนท์….ไอ้อาการเหมือนโดนอะไรซักอย่างทิ่มอกนี่มันคืออะไรฟะ”

    “หา?”

    ชายหนุ่มผมยุ่งทอดสายตาไปยังทิศทางที่ร่างสีทองสวยนั้นลอยลับไป เขาหลี่ตาลงเล็กน้อยราวกับยังอาลัยต่อการจากไปของสาวน้อยผมทองผู้ที่โดดเด่นเกินใครในค่ำคืนนี้ ไวลด์หันมามองสหายช้าๆด้วยสีหน้าเปี่ยมความรู้สึกอันลุกโพล่ง “เมื่อกี้ตูถามอะไรไปนะ”

    เฟนท์ยืนนิ่งไปครู่นึง “แกบอกโดนอะไรทิ่มสักอย่างนี่แหละ”

    “เออ ใช่ๆๆๆ มันเหมือน.....อะไรสักอย่าง”

    “แล้วมันคืออะไรล่ะว่ะ” เฟนท์เริ่ม งง กับกริยาของเพื่อนเลิฟ ที่นอกจากจะหน้าม่อเป็นสรณะแล้วยังออกอาการจิตหลุดให้เห็นกันด้วย “มันโดนว่ะ มันโดนๆๆๆๆ” ไวลด์คำรามลั่นไม่กลัวโดนใครหาว่าต๊อง

    “ถามจริงๆเหอะ นี่โดนแม่สาวคนนั้นฟาดหัวมาด้วยหรือเปล่าฟะ”

    ไวลด์หันมองหน้าเพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะใช้สองมือตบลงไปที่บ่าอย่างแรงอารมณ์คล้ายๆเพิ่งค้นพบสสารตัวใหม่บนโลกใบนี้ “โดนจริงๆ คนอะไรว่ะ น่ารักชะมัด โดยเฉพาะตอนอาฆาตจะฆ่าตูนี่ ยิ่งน่ารักทวีคูณยกกำลังเลยฟะ”

    เฟนท์ อึ้งไปทันที อะไรของมัน แม่สาวเผ่าเทวดานั้นจะฆ่ามันอยู่แล้วแท้ๆ ดันตกหลุมรักเข้าอย่างจัง ถ้ามีเวลาว่างอาจต้องพาสหายคนนี้ไปหาจิตแพทย์สักหน่อย “เออๆ พยายามเข้าล่ะกันนะ ถ้าไม่โดนฆ่าซะก่อนนะ”

    “ไม่ไหวแล้ว ถอนตัวไม่ขึ้น น่ารักเกินห้ามใจ สักวันนึงเหอะจะเอามากอดโชว์ให้หน่ำใจเลย ว่ะ ก้ากๆๆๆๆๆๆ” ไวลด์ปล่อยมือ ก่อนจะหัวเราะลั่นพลางเดินหน้าไปยังตึกราฟาเอลล่าโดยไม่ใส่ใจกับอะไรทั้งสิ้น และดูเหมือนจะไม่ได้ยินที่เฟนท์พูดซะด้วย

    ชายหนุ่มยืนเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินตามคนบ้าไปอย่างเสียไม่ได้ “แล้วสาวๆคนอื่นล่ะ” ไม่รู้อะไรดลใจเฟนท์ให้ถามคำถามนี้ขึ้นมา

    “เลิกโว้ย”

    “อะไรนะ ?” เฟนท์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่า คาสโนว่าเกรดเอ อย่างไวลด์ ไลสเนอร์จะพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วย

    “เลิกหมด คนนี้คนเดียว เท่านั้น !!!!” ไวลด์ประกาศก้อง พลันก้าวเดินต่ออย่างอารมณ์ดี นี่คงเป็นค่ำคืนที่มีความสุขสำหรับปีศาจหนุ่มมากทีเดียว

    ……………
    ………..
    …….
    ….
    ..
    ก่อนหน้าการจบศึกสองเผ่าของไวลด์และเรเชลไปประมาณห้านาที

    ภายในตึกราฟาเอลล่า ตึกที่มีความสูงถึงร้อยแปดชั้น อันเป็นหัวใจหลักของกิจกรรมทุกอย่างภายในเอเดน เพลานี้ยังคงมืดมัว ไร้ซึ่งแสงไฟ เนื่องจากหมดช่วงเวลาทำงานไปแล้ว หากแต่การต่อสู้ที่ไม่มีมนุษย์คนไหนล่วงรู้กำลังเกิดขึ้นอยู่ในที่แห่งนี้ โดยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เทวดา และ ปีศาจ

    ท่ามกลางเงามืดสลั่วบริเวณชั้นที่เจ็ดสิบสี่ในห้องโถงห้องนึงที่เต็มไปด้วยเก้าอี้และโต้ะเรียงรายจนเหมือนเป็นห้องประชุม ร่างครึ่งเทวดาในอาภรณ์ขาวอันแปดเปื้อนไปด้วยโลหิตแดงชาด กำลังยืนอย่างหวาดระแวงต่อภัยรอบตัว หน้าอกที่เคยถูกคมดาบเสียบเข้าจนมิดด้ามตอนนี้ได้ฟื้นฟูจนหายดีอย่างรวดเร็ว

    หากแต่แผ่นหลังที่เคยเป็นส่วนเชื่อมต่อกับปีกสีเงินอันแสนภาคภูมิ บัดนี้หลงเหลือแค่โคนเนื้อที่ชุมไปด้วยเลือด ที่ไหลออกมาจากบาดแผลไม่หยุด และไม่มีทีท่าว่าจะหายง่ายๆเหมือนแผลที่อก

    เทวดาไร้ปีก พยายามสอดส่องไปรอบตัวอย่างร้อนรน แสงเพียงเศษเสี้ยวที่เล็ดรอดเข้ามาทางกระจกห้อง เป็นเพียงตัวช่วยอันเพียงอย่างเดียวที่สามารถเพิ่มความสามารถในการมองของเทวดาผมเงินตอนนี้ได้

    [บ้า…บ้าชัดๆ…ปีกอันแสนภาคภูมิใจข้างนี้ ถูกฟันด้วยดาบเน่าๆพรรค์นั้นจนขาดงั้นเหรอ?!!]

    จิตสำนึกของเทวดา ร่ำร้องอย่างไม่เชื่อตัวเอง อวัยวะ อันเป็นทั้งสุดยอดแห่งโล่ และ สุดยอดแห่งดาบของตน ไม่น่าจะมาสูญเสียไปง่ายดายแบบนี้

    แน่นอนว่าการเสียไปซึ่งอาวุธอันสำคัญที่สุดของร่างกายไป การจะมาฆ่าฟันกับเผ่าพันธุ์ที่เต็มไปด้วยพละกำลังและพลังปริศนาไม่รู้ที่มา เป็นเรื่องที่โง่ที่สุด

    [ต้องรีบหนี!!! อย่างน้อยที่สุดต้องไปหาท่านผู้นำที่สภาสูงก่อน!!!]

    เทวดาผมเงิน ออกตัววิ่งไปยังที่มาของแสง กระจหน้าต่างบานใหญ่ที่เรียงรายอยู่ห่างออกไปนั้นคือทางหนีสุดท้าย

    ฉึ้ก!!!!!

    “เอ้ะ?” เสียงบางอย่างดังขึ้นจนเทวดาผมเงินแปลกใจ ก่อนจะเส้นประสาทจะร้องเตือนโดยใช้ความเจ็บปวดเป็นตัวบ่งบอกว่า ขาขวาของตนนั้นถูกบางอย่างทิ่มแทงเข้าให้ จนร่างของเจ้าตัวเป็นอันต้องล้มไป

    “ดะ…ดาบงั้นเหรอ?!!!” สิ่งที่ปักเข้าเนื้อโคนขาของเทวดาผมเงิน เป็นวัตถุโลหะที่มีรูปร่างเป็นดาบ หากแต่คราวนี้ ไม่ได้เป็นเล่มเดิมที่เคยใช้ตัดปีกของตัวเองเมื่อซักครู่ เนื่องจากเล่มนี้ มีขนาดเล็กกว่า รวมทั้งลวดลายแปลกประหลาดราวเป็นการม้วนรวมตัวกันจนเป็นรูปร่าง

    ระหว่างที่เทวดาผมเงินกำลังพยายามตะเกี้ยกตะกายลุกขึ้น พริบตานั้นความรู้สึกเสียวสันหลังอย่างประหลาดก็บังเกิดขึ้นแก่ตัวเอง ตามมาด้วยอาการวิงเวียนคลื่นไส้จนแทบอ้วก

    ร่างกายที่สั่นเทาพยายามรักษาสมดุลของขาทั้งสองให้กลับมายืนได้อีกครั้ง แม้ว่าขาขวาจะยังคงอาบไปด้วยเลือดและความเจ็บปวดอยู่ก็ตาม

    “โถ่เว้ย!!!!!!!!!” เสียงตะโกนระเบิดอารมณ์ของเทวดาไร้ปีกแผดลั่น “ไอ้ปีศาจเวร อยากจะมาฆ่าก็เข้ามาตรงๆสิวะ!!!”

    คำขอเป็นอันสำเร็จผล ร่างของเด็กหนุ่มผมขาวอันมาพร้อมแขนขวาที่เต็มไปด้วยคมดาบเล็กใหญ่มากมาย ปรากฎตัวขึ้นอย่างไร้ซึ่งเสียง ไร้สัมผัส และที่สำคัญดันมาอยู่ข้างหลังของเทวดาผมเงินอย่างพอดิบพอดี

    “!!!!” สันชาตญาณของเทวดาหนุ่มกรี้ดลั่น แต่ก็ไม่ทันการ ทันทีที่ได้หันไปดูนั่น สิ่งเดียวที่ได้เห็นคือ ฝ่ามือของมนุษย์ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาคว้าศีรษะของเจ้าตัวเอาไว้แน่น

    เอมิยะ เรียวชิโร่ ผู้เป็นเจ้าของมือที่คว้าหัวของคู่อริเอาไว้ ไม่รอช้า ออกแรงยกร่างทั้งร่างของเทวดาผมเงินขึ้น ก่อนจะเหวี่ยงเอาหัวในฝ่ามือฟาดลงให้พื้นสุดแรง จนแผ่นซีเมนต์ที่รับแรงกระแทกแตกกระจายออกเป็นแนวกว้าง

    ฝ่ายเทวดาที่เพิ่งได้รับความเสียหายจากการกระทบกระเทือนของสมองเข้าไป พยายามต่อสู้อย่างทุรนทุราย แต่แรงบีบที่ถาโถมเข้าใส่กลับรุนแรงเกินกว่าจะขัดขืนได้

    ครึ่งปีศาจหนุ่ม ไม่รอให้การขัดขืนสำเร็จผล ออกแรงกดศีรษะในมือพร้อมขูดลากไถลไปข้างหน้า ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเหวี่ยงร่างทั้งร่างของเทวดาผมเงินออกไปอย่างรุนแรง จนร่างดังกล่าวลอยอัดเข้ากับกำแพงห้องที่อยู่ห่างจากทางหนีสุดท้ายของตัวเองไปแล้ว

    ร่างเนื้อที่อัดเข้ากับกำแพงค่อยๆหลุดออกมาอย่างช้าๆ พร้อมๆกับที่สติของเทวดาผมเงินตนนี้ค่อยๆหลุดหายไปเช่นกัน และดูเหมือนโชคชะตาของเขาคนนี้ คงไม่อาจก้าวไปได้ไกลกว่านี้แล้ว

    ไม่ทันที่เทวดาผมเงินไร้นามตนนี้จะได้กลับลงไปนอนที่พื้น ดาบหยาบๆสองเล่มได้พุ่งออกมาจากเงามืด เข้าปักตรึงไหล่ทั้งสองของชายผมเงิน กลับไปติดกับกำแพงแห่งเดิมอีกครา

    ร่างกายที่บอบช้ำ โลหิตที่อาบไปทั้งร่าง บัดนี้เทวดาที่เคยสาดส่องประกายความงดงามไปตามแสงจันทร์เมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมา กลับมีสภาพไม่ต่างอะไรกับศพมีชิวิตเลยทีเดียว

    “แค่ก…แก…” เทวดาผมเงินพยายามเค้นเรี่ยวแรงออกเป็นคำพูด แต่ร่างกายตอนนี้ ไม่สามารถเชื่อฟังคำสั่งของสมองได้แล้ว

    เคร้ง~~~~ โครม!!

    ท่ามกลางความเงียบและทัศนวิสัยที่ย่ำแย่ เสียงกระแทกของโลหะและอื่นๆที่ไม่อาจทราบได้มากมายดังขึ้นอย่างน่าตื่นตระหนก ยิ่งโดยเฉพาะเทวดาที่ใกล้จะหมดลมด้วยแล้ว

    สายตาของเทวดาหนุ่มพยายามเพ่งเล็งไปข้างหน้าตามเสียงเมื่อครู่ แต่สมาธิก็โดนรบกวนอย่างง่ายดาย เมื่อมีวัตถุบางอย่างที่หมุนตัวจนเกิดเสียงและคลื่นสะเทื่อนอย่างรุนแรง ซึ่งมันเป็นเสียงใบพัดของพาหนะบินได้ที่มีชื่อเรียกกันแต่อดีตกาลว่าเฮลิคอปเตอร์

    “บ้าน่า!!! หน่วยตำรวจเอเดน?!!” เทวดาตรึงผนัง ตกใจกับการมาของกลุ่มที่ไม่คิดอยากให้มาตอนนี้ แต่ทว่าแสงจากสปอร์ไลต์ของ ฮ. ที่พยายามส่องหาความผิดปกติ กลับเป็นตัวช่วยเพิ่มระยะสายตาให้เด่นชัดไปในไม่รู้ตัว

    จากเงามืดสลัวที่ไม่อาจเห็นการเคลื่อนไหวใดๆ ตอนนี้ แสงสีขาวได้เคลื่อนผ่านเข้ามาอย่างช้า ในช่วงเวลาเดียวกับที่ เทวดาผมเงิน พยายามกัดฟันถอนร่างของตัวเองออกจากผนังห้องอย่างทุกข์ทน

    แต่ภาพที่ปรากฎขึ้นเพียงแว่บเดียวในสายตาของเทวดาคาผนังนั่น ทำเอาร่างกายทั้งร่างแทบหมดแรง วัตถุเรียวยาวเล็กใหญ่มากมายจำนวนหลายสิบ ปักเด่นตระง่านอยู่ที่ห่างออกไปข้างหน้า พร้อมๆกันนั้น ร่างของเด็กหนุ่มผมสีขาว แขนขวาอันมีคมดาบสั้นยาวนับร้อยทิ่มแทงขึ้นมาจากผิวหนัง และดวงตาสีทองสว่าง กำลังยืนย้อนแสงสปอร์ตไลท์อยู่ท่ามกลางวัตถุดังกล่าวอยู่

    ร่างย้อนแสงตรงหน้าค่อยแหยะยิ้มออก แต่ดูเหมือนว่าเรียวชิโร่ที่กำลังบ้าคลั่งอย่างไร้สติ ไม่คิดจะอโหสิกรรมต่อการกระทำของเทวดาปีกขาดตนนี้ง่ายๆแล้ว ก่อนที่มือทั้งสองจะคว้าสิ่งที่ปักอยู่ข้างๆของตัวเองขึ้น

    “ยะ…อย่านะโว้ยยยยย!!!!!! อย่าเข้ามา!!!!!!!” เทวดาผมเงินแผดเสียงลั่นอย่างไม่คิดชีวิต บัดนี้ในสมองของเขาไม่มีสิ่งใดอีกแล้วนอกจากอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ที่เรียกกันว่า ความหวาดกลัว

    อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ……..
    …..
    ..
    .
    เสียงทั้งหมดได้เงียบลงไปพร้อมความเงียบที่แผ่ซ่านออกไปทั่ว หลังจากที่ ฮ. ของหน่วยตำรวจได้บินห่างออกไปแล้ว

    ไม่เหลือเสียงร้อง ไม่มีเสียงกระแทก ไม่มีคงมีเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงของเหลวที่หยดลงพื้นอย่างต่อเนื่องราวกับเป็นตัวเข็มวินาที

    ร่างของเทวดาหนุ่มผู้เคยสวมชุดอาภรณ์ขาวนวล ตอนนี้ไม่คงเหลือความบริสุทธิ์ของสีอีกแล้ว โลหิตมากมายชนิดเค้นออกมาจนแทบจะหมดร่าง ค่อยๆไหลอาบผ่านศาสตราวุธนามว่าดาบหลากรูปลักษณ์จำนวนกว่าสามสิบเล่ม ที่เสียบผ่านร่างเนื้อของเขาแทบทุกมุมของร่างกาย ร่างทั้งร่างถูกเสียบเข้ากับตัวผนัง เป็นภาพลักษณ์ที่เปรียบเสมือนกำลังถูกตรึงกางเขนอยู่ก็มิปาน หากแต่เหลือเพียงแค่หัวอันเป็นจุดตายสุดท้ายที่จะปลิดชีวิตของชายผมเงินได้

    ตรงข้ามกันนั้น เอมิยะ เรียวชิโร่ ซึ่งตอนนี้ทั้งใบหน้าและมือทั้งสองอาบอิ่มไปด้วยเลือดสีแดงสดมากมายที่ไม่ได้มาจากตัวเอง ในมือมีดาบโค้งสองคมขนาดย่อมเยาเล่มสุดท้ายของเขา กำลังพร้อมจะฟาดฟันได้ทุกเมื่อ

    “แค่.ก…แฮ่ก….แฮ่ก” เสียงหอบใกล้ขาดใจเต็มทน แผ่วเบาลงเรื่อยๆ ถึงแม้ร่างกายของเทวดาคนนี้ จะมีพลังชีวิตเหนือมนุษย์มากเพียงไร แต่บาดแผลขนาดนี้ คงไม่มีใครสามารถทนไหวได้หรอก

    หากแต่ก่อนจะสิ้นใจ สายตาที่เลือนลางก็ได้เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่อยู่ข้ามครึ่งปีศาจผมขาวตรงหน้าไป ชายผู้มีผมยาวเสยสีทอง กับโครงหน้าที่แหลมคม มาพร้อมดวงตาทองคำส่อง กำลังแอบอยูภายในเงามืด ค่อยเฝ้าดูการตัดสินครั้งนี้

    “ท่า…น…ลู…น…ฉัวะ!!!!!!!”

    แม้แต่คำพูดสุดท้ายก็มิอาจได้ออกเสียงครบประโยค คมดาบถูกฟากฟันออกไปในพริบตาที่เกิดการเคลื่อนไหว ตามมาด้วยเสียงบางสิ่งตกกระทบพื้นเบาๆ เป็นอันสิ้นสุดการฆ่าฟันของเทวดาไร้นามปริศนาและเด็กหนุ่มผู้มีสายพันธุ์แห่งปีศาจอย่างเงียบๆในค่ำคืนแห่งนี้
    ………….
    …….

    ..
    .
    TO BE CONTINUED >>>

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    บ่นเล็กน้อยกับคนแต่ง

    ในที่สุดหลังจากดองจนจะข้ามปีข้ามชาติ ผมก็สามารถนำตอนสองมาให้ผู้อ่านได้ชื่นชมกันซักกะที ถือซะว่าเป็นของขวัญวันปีใหม่แก่ผู้อ่านละกันนะครับ ^^

    [action]โดน บก. ตบ ไม่เกี่ยวเลย เอ็ง[/action]

    ตอนนี้ผมก็พยายามแก้ไขเรื่องสำนวนที่เคยโดนติไปเมื่อตอนแรกอยู่นะครับ หลังจากพิจารณามาซักพัก ผมก็พอเข้าใจว่าสำนวนผมมันตกไปเยอะพอดู โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ยังไงก็รบกวนแนะนำ ตำหนิติฉันท์ได้ตามสะดวกนะครับ เพื่อนำไปปรับปรุงต่อให้ดีขึ้น

    และช่วงนี้ผมก็หยุดประมาณหนึ่งอาทิตย์พอดี ก็หวังว่าจะสามารถเร่งตอนใหม่มาได้ก่อนกลับสู่โลกแห่งความจริง ได้นะครับ

    HAPPY NEW YEAR ล่วงหน้าทุกท่านเน้ออออ รักผู้อ่านคร้าบบบ

    maxlancer

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ขอขอบพระคุณตัวละคร

    1. เดเนฟ ลูน่าซี โดย JenovaSung : Death The Kid พ่อสภาสูงปริศนาที่ไปไวมาไวไร้เสียง แถบชอบเข้าข้างหลังอย่างเีงียบเชียบ คนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน เจโนว่าเจ้าเก่าส่งมานั่นเอง

    2. เฟนเรียร์ การู ไลคานอส โดย WinterWolf{The WolvesMaster} จากสหายของกระผม ที่ไม่รู้ตกหมาป่าตายไปที่ไหนแล้ว กับพ่อปีศาจ อันมีฉายา หมาน้อย บทของเค้าก็ยังเป็นปริศนาต่อไป

    3. เอ็นโด คริปโตส โดย Endorphinlism เทวดาผู้มาพร้อมปีกสีดำเฉกเช่น โซลเดอร์ชั้นหนึ่งคนไหนไม่รู้ ที่มาอย่างน่าเกรงขามและจากไปอย่างเริ่ดเชิดหยิ่ง

    และอีกหนึ่งคนที่มาแต่ชื่อ แต่ก็คาดว่าหลายๆคนคงรู้จักดี จะกล่าวอีกทีในตอนที่บทออกเต็มๆนะครับ
  13. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 15/10/08>>Memo Page I<< Wake Up From Sleeping ]

    เรเชลจัง บอมบาเย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิจฉาแกว่ะไวลด์เ้อ้ย

    เข้ามาเจิ่มคนแรกตามระเบียบ ตอนที่ใส่ไปเพิ่มเขียนได้เร้าใจจริงๆแม็กคุง ทำไมผมเขียนฉากแบบนี้สู้ท่านไม่ได้ฟ่ะ

    ส่วนเรื่องสำนวนนี่น่าจะเป็นความผิดผมมากกว่านะที่เขียนออกแนวพ็อกเก็ตบุคมากไปหน่อย ในตอนที่แล้ว 555+

    ขอให้ทุกท่านมีความสุขในช่้วงปีใหม่มากๆ และขอฝากผลงานนี้ไปเรื่อยๆตราบใดที่เราสองคนยังไม่ขี้เกียจกันซะก่อน ขอบคุณมากครับที่ติดตาม จูบๆ
  14. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    ดราก้อนบอลเหรอ!?

    55+

    ตอนบทต่อสู้ของเรียวชิโร่ กับเทวดาปีกหัก นี้ ทำไมให้ความรู้สึกแบบนี้เลยอ่ะ ถ้ามีปล่อยคลื่นเต่าอีกหน่อยนี้เหมือนเลยนะนี้ พี่แม๊ก พี่โย

    เรเชลจัง บอมบาเย่!! ด้วยคน

    เรเชลจังฆ่าเจ้าไวลด์ซะ บังอาจมากๆ ยอมไม่ได้!!
  15. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    เกือบจำไม่ได้แล้วว่าเรื่องราวตอนก่อนมันไปหยุดลงตรงไหน = =" แทบจะต้องค่อยๆอ่านเลย

    เรเชลนี่ใครส่งเข้าประกวดฮึ? ฉายานางฟ้าพิพากษานี่ถูกใจผมจริงๆ (เหม่ย หลิน ก็น่าร้าก~)
    เรื่องนี้ดูเหมือนเทวดาจะร้าย แปลกดีจริงๆ
    เรื่องฝีมือการเขียนตก ผมก็เข้าใจครับ (เป็นเหมือนกัน ไม่รู้จะแก้ยังไงด้วย) แต่ถ้าพูดถึงแม็กซ์คุง ฉากบู๊ก็ต้องนำมาก่อนอยู่แล้ว อย่างตอนนี้ก็บู๊ยาว บู๊มันส์ ปล่อยพลังวินาศสันตะโร (เว่อร์ละ) สะใจครับ
    ส่วนตัวละครที่สื่อคาแรคเตอร์ได้ดีมากๆ แถมยังมีมิติ ในตอนนี้ผมว่าคือเดเนฟ

    ไม่นึกว่าจะอัพก่อนปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่าด้วยเลือดล้างเอเดนสินะ Happy New Year ครับทุกคน
  16. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    อุ... กว่าจะมา ตอนที่สอง TTwTT

    เรเชลก็เฮียโยชิกิส่งอ่ะครับท่านอีวาน ส่วนเจ้าไวลด์...ปากได้ใจมาก ระหว่างสู้กันยังมีขี้เล่นอีก ฮ่าๆๆๆ ถูกใจครับถูกใจ >w<b
    ส่วนการต่อสู้คู่หลัก...เลือดสาดดีมาก มีการเอาคืนกันด้วย เหอๆๆ ยังพอมีคำผิดและที่ผมอ่านรู้สึกว่าจะมีคำตกหล่นอยู่ด้วยนะครับผม แต่ผมพอจะอ่านรู้เรื่องแหละ ^^

    ว่าแต่ Dead Report.... 34 เล่มเลยเรอะ แล้วดาบมาจากไหนอ่ะ(พูดยังกับเอ็งไม่รู้เนอะเจ้าไพอา) =[]=!!!!
    รอชมตอนต่อไปพี่ชาย ปีใหม่ก็ขอให้มีความสุขมากๆนะครับทั้งพี่แม็กพี่โย (พ่วงด้วย)เจ๊ยูแล้วก็กันจังด้วยนะ ^^ อ้อใช่ ฉากรถถังที่ผมเคยพูดถึงให้พี่แม็กฟังเดี๋ยวถ้าแต่งเสร็จแล้วจะเอาไปให้อ่านนะครับ เป็นยังไงเมนต์กลับด้วยล่ะ >w<\

    ปล.ผมคิดไปเองรึเปล่า ว่าเจ้าตาบอดผมทองที่โผล่มาน่าจะจะเป็นครูซิไฟร์ในฟิกแรกของพี่โย = ="a
  17. endlich

    endlich Member

    EXP:
    123
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    โอย จำตอนเก่าแทบไม่ได้ ต้องย้อนกลับไปดูว่า "เหม่ยหลินนี่ใครฟระ"
    ฉากต่อสู้ของเรียวชิโร่คุงกับเทวดาไร้นามนี่ เอ่อ ยังกะดูเดอะเมทริกซ์ภาค 3 แน่ะ เหาะกันไป เหาะกันมา
    เรเชลจังดูอ่อนไม่สมฉายาเลยแฮะ หรือว่าเจ้าไวลด์มันเทพเกินไป (แล้วตอนที่พูดถึงฉายามันจะกลัวทำไมเนี่ย) เวลาสู้ดูชิล ๆ มาก อยากรู้จริงว่าหมอนี่จะมีฝีมือถึงขั้นไหน

    ว่าแต่ผู้ชายเรื่องนี้มันม่อกันหมดทุกคนเลยรึไงฟะ - -"
  18. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    ในที่สุดสหายข้าก็ยกไหที่ดองไว้ออกมาซะที

    สู้กันมันมากเลยสิให้ตาย ว่าแต่เจ้าไวล์นี่ท่าจะเป็นพวกมาโคนะ ชอบสาวต่อยหนัก

    ว่าแต่ไอ้ดาบ 34 เล่มนี้ท่านเรีวยชิโร่ได้แต่ใดมานิ ยังงี้ต้องตามชมกันต่อไป
  19. Gunfinal

    Gunfinal Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    กว่าจะมาอัพตอนที่ 2 ก็เล่นเอาต้องย้อนกลับไปอ่านตอนแรกซะก่อน ฮ่าๆ
    เรียวชิโร่จะเทพไปถึงไหน อิจฉาจริงๆ! 34 เล่ม...เอาไปขายจะได้กี่บาทน้า~~
    นั่งรอตอนต่อไป อีกกี่เดือนอัพคะพี่แม็กซ์ หุหุ

    ปล.งอนพี่แม็กซ์แล้ว แง่งๆ
  20. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    แทบจะลืมไปแล้ว สุดท้ายเลยต้องอ่านใหม่หมด -..-

    ไวลด์เจ๋งดีแฮะดูไม่ออกว่าจริงๆแล้วนอกจากเรื่งม่อหมอนี่คิดอะไรอยู่กันแน่
  21. shinkyoto

    shinkyoto Well-Known Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    หลีสาว หลีสาว

    เสียครึ่งหนึ่ง งืมมมมม ว่าแต่สู้กันดุเดือดขนาดนั้นกันกลางเมืองไม่มีคนสังเกตุกันเลยหรือ"ไง"

    พวกตำรวจทำอะไรกันอยู่??

    กลิ้งหลุนๆรอตอนต่อไป
  22. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    ก่อนอื่นก็ Happy New Year ก่อนครับ!!

    555...ยาวสุด ๆ เก็บกดหรือเปล่าครับเนี่ย???

    การตัดบทของแต่ละตอนจะดูทิ้งปริศนาไว้อยู่ แต่อย่างว่าแหละครับยังเป็นตอนแรก ๆ นี่นา อ่านแล้วยังไม่สนิทใจแหะว่าตกลงฝ่ายไหนจะดีจะร้าย แต่ถ้าให้เดาน่าจะเป็นเทวดารึเปล่า?? แต่ก็ไม่แน่...

    รอตามต่อครับบบบบบบบบบ~
  23. WinterWolf

    WinterWolf New Member

    EXP:
    19
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    หุหุ ดีปีใหม่ก่อนนะ

    สนุกเหมือนเคยนะเพื่อนแม๊ก(แอบนินทาช้านเหรอย่ะว่าไปตกหมาป่าตาย - - มันก้จริงนะ)

    เหอๆมาปุ๊บไม่ทันทำไรก็โดนชกหน้าหงายเลยเฟนท์คุง กร๊ากๆๆ

    ว่าแต่ฉายา หมาน้อย นี้คุ้นๆแฮะ - -" เหมือนใครบางคนเคยเรียกหว่าส์

    จะติดตามต่อไปนะ ขอแวบก่อน
  24. train

    train Member

    EXP:
    498
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    ย้อนกลับไปอ่านใหม่หมดเลย เอิ๊ก เพราะความทรงจำลืมเลือนซะแล้ว~
    ตอนนี้บทบู๊สะใจมากครับ =w=b!
    แถมยาวถึงใจ ฮ่าๆ เรเชลน่ารักจริงๆนั่นละน้า~ >w<~
    สวัสดีปีใหม่ด้วยคนครับ ^^/
  25. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: !!! White Feather // Devil FanG [Update 30/12/08>>Memo Page II<< The Berserk Creature]

    นึกว่าเป็นคนเดียวซะอีกที่จำตอนแรกไม่ได้ต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ มองRepบนๆ คนอาการเดียวกันก็ไม่ใช่น้อยแฮะๆ

    เรื่องสำนวนดูดีขึ้นนะแม๊ก บุคลิกของแต่ละตัวละครที่แสดงออกมาดูชัดเจนดี นับว่าแจ่มมากทีเดียวตอนนี้

    น้องๆตูไม่ดองกันหมดแล้วแฮะสงสัยต้องเขียนเจ้าครึ่งตอนที่ค้างไว้ออกมากับเขาบ้างซะแล้ว ดองข้ามปีเลยทีเดียวฮาๆ

Share This Page