[Fic Original Sci-Fi Parody etc.] Angel of Retribution (Last Update: 9 June 09)

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย bradhawke, 16 พฤศจิกายน 2007.

  1. bradhawke

    bradhawke New Member

    EXP:
    102
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    [​IMG]

    Genre : Original, Sci-fi, Action, Adventure, Parody, Reduce Intelligence

    คำเตือน!!
    1. ฟิคเรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบฟิคแนวโลกปัจจุบันและแนวโลกอนาคต... ล่ะมั้ง
    2. ไม่ควรอ่านฟิคเรื่องนี้ติดต่อกันหลายชั่วโมง เพราะอาจทำให้คุณสะดุดก้อนหินตายในขณะที่กำลังวิ่งหลบกระสุนอยู่ในรัสเซีย
    3. ฟิคเรื่องนี้ไม่เหมาะกับสตรีมีครรถ์และบุคคลที่เป็นโรคหัวใจ เพราะอาจทำให้เกิดอาการอยากวิ่งแล้วโดนเสาไฟฟ้าล้มทับตายภายใน 0.30 วินาที
    4. ฟิคเรื่องนี้ไม่เหมาะกับเด็กที่อายุต่ำกว่า13ปีและผู้ใหญ่โตแต่ตัว เนื่องจากฟิคเรื่องนี้มีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมเช่นการกินแมลงสาบเป็นๆหรือนิสัยการกินช็อคโกแลต M&M's ที่ไม่ค่อยจะดีเสียเท่าไหร่ รวมถึงการใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพและความทะลึ่งลามกเล็กน้อยในบางเวลา
    5. แนะนำให้หาเพลงของ "Weird Al" Yankovic มาฟังไปพร้อมๆกับอ่านฟิคเรื่องนี้
    6. บอกตามตรงว่าคุณจะไม่พบ ดาธ เวเดอร์ , ริดดิค , ออสซี่ ออสบอร์น , เรวี่ , บาลาไลก้า , โรเบอร์ต้า , โทนี่ มอนทาน่า , เจมส์ บอนด์ , โจวเหวินฟะ , เอเจนท์สมิธ , R2D2 , แซงกีฟ , ซันจิ , ริวเซย์ ดาเทะ , แบทแมน , กอร์ดอน ฟรีแมน , คลินท์ อีสท์วู้ด , สุโอ ทามากิ , ออพติมัส ไพร์ม , โจ ซาตริอานี่ , จอห์นนี่ เด๊ปป์ , ออร์แลนโด้ บลูม , นิโคลาส เคจ , เลเธอร์เฟส , นิค ฟิวรี่ , กัปตันอเมริกา และอื่นๆ ในเรื่องนี้เป็นอันขาด!! อันที่จริงข้อนี้ตอแหลน่ะ ฮิๆ

    Intro

    ให้เสียงภาษาไทยโดย "กองทัพพันธมิตรโลก" (โปรดจินตนาการเสียงเอาเอง)

    เมื่อสามปีก่อนโลกได้ถูกรุกรานโดยกองทัพ "ดาวนู้บ" (n00b) และ "ดาวลีท" (1337)
    รวมถึงการแจมของ "จักรวรรดิเป๊ปเปอร์" ที่มีนิสัยชอบแจมเป็นอาชีพ
    โดยที่ชาวโลกและชาวดาวบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างดาวอังคารและดาวฮานาก้าได้ร่วมมือกันขับไล่กลุ่มผู้รุกรานได้สำเร็จ
    แต่ก็สร้างความเสียหายให้กับทุกประเทศทั่วโลกอย่างมหาศาล รวมถึงการสูญเสียประธานาธิบดีโลกคนก่อนและสถานที่สำคัญหลายๆแห่ง
    และบางส่วนของสหรัฐอเมริกาก็ยังเป็นที่กบดานของผู้รุกรานที่ยังเหลืออยู่
    แถมชาวอเมริกันบางคนยังให้ความร่วมมือกับผู้รุกรานด้วยสาเหตุที่เป็นปริศนายิ่งกว่าเรื่องไก่กับไข่
    ภาระอันหนักอึ้งเพื่อดูแลโลกที่กำลังย่ำแย่จึงต้องตกเป็นของประเทศอื่นๆที่เอาเงินไปผลิตและซื้ออาวุธสงครามจนกระทั่งเป็นกระยาจกไปกันเกือบหมดทั้งโลก

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกนักรับจ้างสารพัดอย่างบ้างมั้ยล่ะ?
    ...อาจจะใช่ หรือไม่ก็ได้...

    แต่ที่แน่ๆพวกเขาและเธอนั้นรับจ้างทำตั้งแต่เรื่องประมาณแย่งอมยิ้มจากเด็กเล็กๆไปจนถึงลอบสังหารบุคคลสำคัญในจักรวาลเลยทีเดียว
    และกลุ่มคนเหล่านี้ก็ประกอบไปด้วย
    ชายหนุ่มชาวอเมริกันผู้เป็นอดีตทหารในกองทัพสหรัฐอเมริกาที่ต้องการทั้งความตื่นเต้นและเร้าใจในชีวิต
    สาวญี่ปุ่นจากเมืองฮอกไกโดผู้มีเลือดนักดาบเต็มเปี่ยมและเชี่ยวชาญทั้งการใช้อาวุธปืนคู่และดาบญี่ปุ่น
    กับอีกหนึ่งเอเลี่ยนจากดาวฮานาก้าผู้เป็นกำลังสำคัญทางด้านเครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ และเทคนิค

    การเดินทางครั้งสำคัญของพวกเขาที่ใครๆไม่อยากจะจดจำกำลังเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ เพราะถ้าไม่เริ่มต้นตอนนี้แล้วจะเริ่มต้นตอนไหนล่ะ?
    แล้วไอ้เรื่องเมื่อ3ปีก่อนน่ะ ช่างมันเถอะ มันเป็นอดีตไปแล้ว!!

    .....​

    #001 : Mother Russia

    ค.ศ.2xxx ณ ดาวโลก
    ไซบีเรีย , รัสเซีย

    ท่ามกลางทุ่งหิมะที่หนาวเหน็บและดูกว้างขวางราวกับไม่มีที่สิ้นสุดนั้น มียานอวกาศขนาดปานกลางอยู่ลำหนึ่งจอดนิ่งอยู่ด้วยสาเหตุที่มีไอ้บ้าคนใดคนหนึ่งในยานทำน้ำหกใส่แผงควบคุมนี่ล่ะ ทำไมมันพังง่ายจังวะเนี่ย
    แต่จริงๆพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะแห่งนี้มันไม่ได้ว่างเปล่าหรอก มีทั้งพื้นดินที่มีหิมะปกคลุมและ... ร่างไร้วิญญาณของทหารนอนอืดเต็มไปหมด อ้อ! มีเชื้อโรคและแบคทีเรียด้วยล่ะตัว

    "โว้ยยยยยย จะติดอยู่ในที่แบบนี้อีกนานมั้ยยะเนี่ย!?" หญิงสาวนางหนึ่งเกิดโวยขึ้นมาในขณะที่บรรยากาศกำลังเงียบได้ที่
    เธอผู้นี้เป็นสาวญี่ปุ่นผู้มีผมสีดำยาวปานกลางมัดรวบขึ้นจนดูเหมือนทรงหางปลาทอง "จะติดอยู่ที่ไหนไม่ติด มาติดอยู่กลางไซบีเรียเนี่ยนะ?"
    "รออีกประเดี๋ยวสิครับเจ๊อาสึนะ" มนุษย์ต่าวดาวสีแดงตัวหนึ่งที่กำลังวุ่นวายอยู่กับเครื่องยนต์พูดขึ้น "โวยวายมากๆเดี๋ยวยานก็ระเบิดเพราะเสียงเจ๊กันพอดี" แล้วเปโดรเองก็นึกในใจ อีเจ๊ญี่ปุ่นนี่แหละที่มันซุ่มซ่ามทำเป๊ปซี่ทวิสต์หกใส่แผงควบคุม เลยต้องทำให้คนอื่นๆต้องมาติดอยู่ในไซบีเรียที่ไม่น่าอยู่เอาซะเลย

    ว่าแล้วเจ้ามนุษย์ต่างดาวสีแดงผู้โชคร้ายก็ถูกแม่สาวญี่ปุ่นกระชากคอเสื้อแล้วเขย่าราวกับว่าเป็นกาแฟกระป๋องโรบัสต้าสูตรเข้มข้นรสกลมกล่อม
    "เงียบปากแล้วซ่อมเครื่องต่อเร็วๆเลยนะยะ เจ้าเปโดร!!" เจ้าหล่อนตะคอกเสร็จก็ปล่อยให้เจ้าเปโดรหรือเอเลี่ยนสีแดงล้มลงไปนั่งพับเพียบลูบแก้มก่อนที่จะกลับไปซ่อมเครื่องต่ออย่างหงอยๆ

    อาสึนะพยายามนั่งลงไปสงบสติอารมณ์แต่ก็ยังทำหน้าตาเหมือนหมาพันธุ์บูลด๊อกที่กำลังปวดขี้ "แล้วงานนี้เองก็ได้แค่5พันดอลลาร์เสียด้วย ไอ้แว่นดำนั่นมันเอาเปรียบชัดๆ!!"

    "สตานิมีร์เองก็ไม่ได้เอาเปรียบเท่าไหร่หรอก งานครั้งนี้ของเราก็เป็นแค่ไปเอาไหลายคิตตี้ในตำนานที่ถูกใครบางคนแย่งชิงไปคืนมาเท่านั้นเอง" หนุ่มหัวสกินเฮดผู้เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอเดินกลับมาจากการเข้าห้องน้ำพอดี
    สาวญี่ปุ่นหันไปมองชายสัญชาติอเมริกันอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ "อะไร ไหลายคิตตี้เนี่ยนะ มันสำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอแบรด?"
    แบรดกลืนน้ำลายหนึ่งที "ไอ้ไหนี่มัน Made in Slovakia เชียวนะเฟ้ย!! เมดอินสโลวาเกียน่ะหายากนะเว่ย ปรกติเราๆก็เห็นกันแต่ของ Made in China หรือ Made in USA กันทั้งนั้นแหละ!!"
    "แต่ชั้นเคยเห็นของที่ระบุว่า Made in Czechoslovakia มาแล้วนะ" อาสึนะสวนกลับแล้วเดินหนีไปไหนไม่รู้ทันที แบรดเองนึกในใจว่ามันก็หายากเหมือนกับ Made in Yugoslavia นั่นล่ะวะ

    นายหัวสกินเฮดนั่งลงหน้าแผงควบคุมยานแล้วเปิดการติดต่อไปยังสตานิมีร์หรือนายแว่นดำที่อาศัยอยู่ในย่านสุดหรูของกรุงมอสโคว์
    "โอ้ไง แบรดเองเหรอ? ได้ไหเมดอินสโลวาเกียคืนมารึยัง?" ชายชาวรัสเซียผมดำผู้สวมแว่นดำและชุดโค้ทยาวสีดำทั้งชุดกล่าวทักทายอย่างอารมณ์ดี "แล้วเป็นไง สนุกบ้างไหม?" แบรดทำหน้าเหนื่อยหน่ายก่อนที่จะประชด "โอ้ย สนุกมากเลยเฮีย ตื่นเต้นยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะในสวนสนุกซะอีก ดูสิ ยานเจ๊งกลางทุ่งไซบีเรียแถมยังไม่ได้ไหอีก สนุกเหลือเกิ๊น~"

    สตานิมีร์ตักฮาเก้นดาสกินจากถังเบ้อเริ่มหนึ่งคำ "อ้อ! ยังอยู่ที่ไซบีเรียกันเหรอ?" ชายแว่นดำถามแล้วเจ้าแบรดก็พยักหน้าเบาๆก่อนที่สตานิมีร์จะพูดต่อ "มีข่าวลือว่าในไซบีเรียยังมีฐานทัพใต้ดินที่ถูกทิ้งร้างแต่ยังสภาพดีอยู่ ในนั้นเองก็น่าจะมีสิ่งของที่อาจมีประโยชน์อยู่บ้างนะ บางอย่างเอาไปขายบนดาวอื่นแล้วได้ราคาดีด้วย" แน่นอนเลยว่ายัยอาสึนะต้องหูผึ่งแล้วรีบเดินเข้ามาแทรกทันที "แล้วขายได้ราคาซักเท่าไหร่ล่ะ?" นัยน์ตาทั้งสองข้างของเธอกลายเป็นรูปตัว $ ไปซะแล้ว... หน้าเงินชิบ

    เปโดรเองก็เดินเข้ามาหาเพื่อนร่วมทีมทั้งสองด้วยความสนใจเหมือนกัน "งั้นเราไปสำรวจกันมั้ยครับ?" มนุษย์ต่างดาวตัวสีแดงยิ้มร่า
    แบรดลุกขึ้นมาเอาแขนเท้าเก้าอี้ "แต่อย่างน้อยก็ต้องมีคนเฝ้ายานซักคนหรือสองคน เพราะถ้าไม่มีใครอยู่หอยกระป๋องที่ซื้อจากประเทศไทยอาจจะหายไปทั้งลังเลยก็ได้"
    "หอยลายพวกนั้นนั่นน่าห่วงกว่ายานของเรารึไงยะ ไอ้การที่ยานของเราถูกแงะชิ้นส่วนเอาไปขายนี่มันเป็นอะไรที่เลวร้ายกว่านะ" แม่สาวญี่ปุ่นยืนเท้าสะเอวพูดขึ้น เปโดรเริ่มตัวสั่นไปพร้อมๆกับทำเสียงสั่น "งั้น... ก็ต้อง... เท่ากับ...ว่า...?"

    "เป่ายิ้งฉุบตัดสินว่าใครจะเป็นคนไปสำรวจยังไงล่ะ!! ดีมะ?" แบรดทำท่าถูกต้องนะคร้าบบบบแบบปัญญา~

    เปโดรทำท่าดีใจอย่างจอห์นทราโวลต้า "เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับพี่แบรด!! ผมชอบๆ" แล้วทั้งคู่ก็ถูกอาสึนะมะเหงกไปคนละหนึ่งที
    "แม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่โง่เหมือนกับพวกที่ขายข้าวแกงบนดาวอาแป๊ะที่พวกเราไปมาเมื่อสองสามวันก่อนนี่ก็ตามที ชั้นก็ต้องเป่ายิ้งฉุบด้วยล่ะ" สาวญี่ปุ่นทำนิ้วเป็นรูปเครื่องหมายถูกใต้คาง
    แบรดยิ้มให้เพื่อนร่วมงานทั้งสองก่อนที่จะเป้ายิ้งฉุบ "ใครเป็นคนแพ้ก็ต้องออกไปสำรวจนะ อ้อ... ในกรณีถ้ามีคนแพ้สองคนก็ต้องออกไปสำรวจทั้งสองคน โอเค้?" เปโดรพยักหน้าอย่างอารมณ์ดีในขณะที่อาสึนะยืนกอดอกทำหน้าเหมือนหมาพูเดิ้ลที่กำลังเป็นโรคท้องผูกอยู่ใกล้ๆ

    "เอาล่ะ..." เป่า~ ยิ้ง~ ฉุบ!!!! ฉุบ!! ฉุบ!! ฉุบ!!

    และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงบลง...
    ทั้งแบรดและอาสึนะออกค้อนทั้งคู่ แต่เปโดรผู้น่าสงสารกลับออกกรรไกรแต่เพียงผู้เดียว!

    "อ๊ะ อ๋า... นรกไม่โอ้...!!!" เปโดรอุทานแล้วเหงื่อหยดทีละหนึ่งเม็ด แบรดกับอาสึนะแอบหัวเราะคิกคักอยู่ใกล้ๆ... นิสัยไม่ดีเป็นบ้า
    เอเลี่ยนสีแดงเริ่มน้ำตาซึม "ผะ ผะ... ผมจะรอดกลับมาไหมเนี่ย...? และแล้วเขาก็ร้องไห้ "แง๊~!!!!" แม่สาวญี่ปุ่นเห็นแล้วก็รู้สึกทุเรศลูกตาสิ้นดี
    พี่แบรดของเปโดรเลยตบบ่าปลอบแรงๆ "เอาน่าไอ้น้อง เมื่อวันที่เราไปรับจ๊อบที่โปรตุเกสนายก็รอดออกมาจากดงกระเทยควายเชียวนะเฟ้ย"
    พี่อาสึนะของเปโดรเองก็ขอแทรกด้วย "แล้วนายเองก็ได้กินข้าวแกงฟรีเป็นถังๆที่ดาวก๊องแก๊งเชียวนะยะ!!!" แบรดที่ยืนอยู่ใกล้ๆเองก็นึกในใจว่ามันเกี่ยวกันตรงไหนวะนั่น และด้วยความใสซื่อของเปโดรตัวน้อย เขาก็เลยต้องยอมทำตามพี่ๆของน้องเปโดรไปโดยดี น่าสงสารชะมัด...

    ว่าแล้วเปโดรก็ถูกแบรดกับอาสึนะช่วยกันทุ่มออกจากยานทันที
    "ถ้าไม่ได้ของติดมือมาก็ไม่ต้องกลับเข้ายานนะยะ!" อาสึนะพูดกับเปโดรก่อนที่จะปิดประตูยาน ทิ้งให้เอเลี่ยนตัวแดงๆนั่งทำหน้าเหมือนตูดอยู่กลางทุ่งหิมะและกองศพทหารรัสเซียตัวเหม็นยิ่งกว่ากลิ่นปลาร้าดองสามร้อยปี
    "ไม่น่าหลวมตัวไปเป่ายิ้งฉุบด้วยเลย ทำไมเราต้องมาทำเรื่องแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้" เปโดรบ่นอุบอิบก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินสำรวจพื้นที่ที่ทั้งสภาพอากาศและบรรยากาศเลวร้ายพอควร

    เขาค่อยๆเดินสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัวไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่พบสิ่งไหนที่สามารถหยิบไปขายหรือทำประโยชน์ให้กับยานและพรรคพวกได้เลย
    ไม่ว่าเขาจะเดินเพียงแค่หนึ่งก้าวหรือสิบกิโลเมตร เขาก็ไม่พบสิ่งไหนที่เลิศหรูชไนเดอร์หรือกิ๊บเก๋ยูเรก้าเลยซักอย่าง ช่างน่าสงสารโดยแท้... ในขณะที่ไอ้พวกมนุษย์สองตัวที่อยู่ในยานนั้นกลับกินหอยกระป๋องเมดอินไทยแลนด์กันอย่างสำราญใจ
    ด้วยความที่ผู้แต่งอยากย่อเรื่องตรงส่วนนี้เนื่องจากความขี้เกียจและสมองตัน เปโดรยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆอยู่หลายสิบกิโลเมตรจนมันรู้ตัวจนได้ว่ามันหลงทางแล้วว่ะ เจ้าเอเลี่ยนแดงค่อยๆนั่งลงกับพื้นแล้วสะอื้น "สงสัยเราจะได้หลงและอดตายอยู่ที่นี่ซะแล้ว ฮือ... ชีวิตนี้ยังไม่ได้เล่นโปเกมอนภาคใหม่กับไปเที่ยวดาวกีตาร์ฮีโร่เลย"

    ซักพักเปโดรก็รู้สึกได้ว่าตูดเขาเย็นเฉียบและแปลกไปจากการที่นั่งบนกองหิมะอย่างรู้สึกได้อย่างซาบซ่าน อะฮ้า~
    เขาค่อยๆลองปัดกวาดหิมะด้วยมือที่มีนิ้วข้างละ4นิ้วของเขา และแล้วเขาก็พบกับประตูเหล็กที่ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเข้าฐานทัพใต้ดินของพวกกองทัพรัสเซีย แต่ทว่าเขาไม่รู้วิธีเปิดมัน...
    "เฮ้อ ถึงจะเจอประตูทางเข้าแต่เราก็ต้องหาวิธีเปิดสินะ" เปโดรครุ่นคิด แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงบอทพูดออกจากส่วนใดส่วนหนึ่งของประตู "กรุณาระบุรหัสผ่านด้วยเค่อะ"

    เปโดรเอามือลูบคางเพื่อพยายามนึกรหัสผ่าน...
    เขาหายใจเข้าลึกๆแล้วหายใจออกยาวๆ ก่อนที่จะเริ่มตะโกนรหัสผ่าน ว่า... ว่า... ว่า!!!!!

    "นิโคลาส เคจ กำลังขายข้าวแกง!!"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "อีริค แคลปตั้น กำลังปั้นโอ่ง!!"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "สตีฟ ไว ตำส้มตำ!!"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "บิ๊กโชว์ โชว์ขนหน้าอก!!"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "โรนัลดินโญ่ ทอดไข่ดาว!!"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ กำลังเต้นอะโกโก้!!"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "มาเรีย ชาราโปว่า เล่นรถไฟเหาะตีลังกา... ฟิ้ว!!"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "วินนิ่งไหมแสดดดด?"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "ด็อทเอมั้ยครับแสรด?"

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "โว้ย!!! ไม่ถูกซักที!!! ไอ้ผมอุตส่าห์พยายามคิดพาสเวิร์คที่สุดอภิมหายากแล้วนะเนี่ย!! แสดดดด..."

    "ขออภัยเค่อะ รหัสผ่านผิดพลาด"

    "ผมไม่ได้ระบุรหัสผ่านเฟ้ย แค่โวยเฉยๆ!!"

    "รหัสผ่านถูกต้องเค่อะ ยินดีต้อนรับสู่ฐานทัพใต้ดินที่13ของกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย"


    "เอ่อ..............................!?" เปโดรทำหน้าเอ๋อแล้วเกาหัวเบาๆ

    และแล้วประตูฐานทัพใต้ดินก็ค่อยๆเปิด เปโดรนึกในใจว่าใครมันเป็นคนคิดรหัสผ่านนี้ฟะ ท่าทางจะเป็นพวกทหารที่รบมากจนเพี้ยนจัดแหงๆ
    เปโดรหรือเอเลี่ยนแดงค่อยๆเดินลงไปตามทางเดินที่บรรยากาศดูไม่ค่อยราบรื่นนัก และอากาศก็ยังหนาวเย็นไม่แพ้กับทางด้านนอกเลย
    "บรึ๊ย~ หนาว" เปโดรเดินตัวสั่นไปพร้อมๆกับสำรวจสิ่งต่างๆที่วางกองทิ้งไว้ตามทางซึ่งมีทั้งตัวต่อเลโก้ชุดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือกับพอลลี่พ็อคเก็ตชุดตะลุยสตาลินกราดกองทิ้งไว้เต็มไปหมด เปโดรเลยแน่ใจแล้วว่าพวกทหารรัสเซียมันต้องจิตไม่ปรกติแน่ๆ ขนาดรหัสผ่านทางเข้าฐานลับมันก็ยังตั้งได้สุดแสนจะเจ๋งเป้งกิ๊บเก๋ไลก้าบ๊อกๆเหลือเกินโว้ยครับ!!

    ตัดกลับมาทางด้านของแบรดและอาสึนะที่ยังคงนั่งเสียเวลาชีวิตอยู่ในยานอวกาศเจ๊งๆ ที่เจ๊งแค่แผงควบคุม
    แบรดหยิบเบียร์เย็นๆออกจากถังน้ำแข็งใบใหญ่ขึ้นมารินลงแก้วเบียร์ "เอ... ตอนนี้เจ้าเปโดรจะเป็นยังไงบ้างหว่า? ห่วงๆอยู่บ้างเหมือนกัน ไอ้หนูนี่ยิ่งจับดาบจับปืนไม่เป็นอยู่ด้วย"

    "สงสัยจะฉี่ราดออกมาเป็นน้ำแข็งอยู่กลางทุ่งหิมะแล้วล่ะ" อาสึนะตอบไปพร้อมๆกับทำหน้ากวนตีนและยึดNDSของเปโดรมาเล่นเกมเชียร์หน้าตาเฉย บักแบรดเลยนึกในใจว่าอีนี่แม่งไร้เยื่อใยชะมัด แต่ไอ้หัวสกินเฮดเองก็ซดเบียร์ราวกับว่าไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรเลยเหมือนกัน ทางอาสึนะก็หันไปมองแล้วบ่นพึมพำ "...หนาวจะตายห่าแล้วมันยังซดเบียร์เย็นเจี๊ยบอีก"

    .
    ..
    ...

    To be continued...
  2. bradhawke

    bradhawke New Member

    EXP:
    102
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    #002 : From Russia, With Love - Part 1

    ไซบีเรีย , รัสเซีย
    ฐานทัพใต้ดินที่ 13 ของกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย

    ในขณะที่เอเลี่ยนชาวฮานาก้านามเปโดรกำลังสำรวจฐานทัพใต้ดินแห่งหนึ่งของรัสเซียเพื่อที่จะเอาของไปขายอยู่นั้น
    อีกฝั่งนึงของฐานทัพเองก็มีคนสองคนซึ่งไม่ใช่ทหารรัสเซียเข้ามาสำรวจ ณ ที่แห่งนี้เหมือนกัน ช่างบังเอิญจริงๆที่พวกมันก็มาสำรวจในที่แบบนี้ แล้วมันจะเข้ามาหาอะไรของพวกมันวะเนี่ย

    "อู้ววววว้าว~ ไหคิตตี้เมดอินยูโกสลาเวียยยยเอียเอียเอีย~" มนุษย์ต่างดาวในชุดรัดรูปสีดำทั้งตัวชูไหขึ้นมาราวกับว่าตัวเองเป็นแชมป์กีฬาโคกอีแร้งเกมส์ครั้งที่144 ณ ประเทศมาเซโดเนีย

    ชายหัวโล้นวัยกลางคนในชุดนักทดลองหันมาตบกระโหลกตัวกี๊กี๊แรงๆ "เมด อิน เชคโกสโลวาเกียเฟ้ยยยย!!! ไอ้งั่งงั่งงั่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!"
    ไอ้ลิ่วล้อในชุดรัดรูปยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมหัว "แหม ไม่เห็นจะต้องตบแรงขนาดนี้เลยเน่อ ด็อกเตอร์ WTF~" แล้วเขาก็ทรุดลงไปนั่งพับเพียบต่อ

    "ไอ้การจำชื่อประเทศสับสนนี่มันเป็นอะไรที่เสียหายมากเลยนะเฟ้ยยย!!! เหมือนกับที่สับสนระหว่างประเทศสโลวีเนียกับประเทศสโลวาเกียนั่นล่ะเฟ้ยยยย!!" ดร.WTF ตะคอกใส่ลิ่วล้อของมัน แล้วหลังจากนั้นก็ยืนกอดอกด้วยความมั่นใจอย่างเหนือชั้น "เอาเหอะ รีบๆสำรวจต่ออีกหน่อย จะได้แวะไปกินข้าวแกงรสเด็ดที่ปักกิ่งเร็วๆ เพราะตูหิวแล้วเฟ้ยยย!!!"

    . . . . .

    กลับมาทางด้านเปโดรตัวน้อยๆ เขาค่อยๆเก็บเพลย์บอยฉบับเก่าๆที่วางกองสุมไว้พร้อมๆกับสมบัติบ้าอื่นๆซึ่งมีตั้งแต่ชั้นในขนสัตว์ของผู้หญิงยันดีวีดีกล้วยหอมจอมซน เป็นที่แน่นอนเลยว่าเขาต้องเก็บทุกอย่างเพื่อที่จะนำไปขายที่ดาวอื่นๆ เนื่องจากสินค้าหลายๆอย่างจากโลกสามารถทำเงินได้ดีมากๆ โดยเฉพาะการขายปฏิทินรวมภาพสาวรัสเซียในชุดว่ายน้ำซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับดาวฮานาก้าซึ่งเป็นดาวบ้านเกิดของเขาเอง
    ตอนนี้เขาแทบจะแบกของเหล่านี้ไม่ไหวแล้ว มันมีทั้งปฏิทินสาวๆ หนังสือเพลย์บอย ดีวีดีการ์ตูน และกล่องเหล็กที่มีกระดาษแปะไว้ว่า"ในนี้มีเงินนะจ๊ะ" ...แสดงว่าหน้าเงินจริงๆนะเนี่ยถึงได้หยิบมา ฮ่าๆๆๆ!

    แต่แล้วสายตาของเขานั้นเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่มีความยาวเกือบๆสองเมตรถูกผืนผ้าขนาดใหญ่คลุมจนมิด ทว่าเขาไม่กล้าเปิดเพราะกลัวว่ามันเป็นโลงศพหรือไม่ก็ลังเก็บพอลลี่พ็อคเก็ต... และถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นมีสายอะไรบางอย่างเป็นสิบๆสายจากวัตถุบางอย่างที่อยู่ในห้องไปยังสิ่งปริศนาที่ถูกผ้าสีแดงคลุมจนมิดชิดอยู่ แสดงว่ามันก็ไม่ใช่โลงศพแล้วล่ะ

    "อืมม์... เป็นไปได้ว่าอาจเป็นตู้ขายอาหารแช่แข็งก็ได้" เปโดรครุ่นคิดไปพร้อมๆกับพูดคนเดียว "แต่... บ้าเอ้ย! ตู้ขายอาหารแช่แข็งจะมาอยู่ในนี้ได้ยังไง ไม่ใช่ซุปเปอร์มาร์เก็ตสักหน่อย"

    เอเลี่ยนชาวฮานาก้าผู้นี้ก็ฉลาดเป็นใช้ได้ มันไม่ใช่ตู้ขายอาหารแช่แข็งแน่ๆ เพราะมันมีสายอะไรไม่รู้เต็มไปหมด แถมที่นี่เองก็เป็นฐานทัพใต้ดิน ไม่ใช่ซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างที่เขาคิดนั่นล่ะ แต่เขาคิดช้าไปหน่อย ยังไม่ทันได้เปิดดูว่าตกลงมันคืออะไรกันแน่เพราะจู่ๆบรรยากาศมันก็เลวร้ายลงโดยพริบตา

    "ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก..."

    เปโดรได้ยินเสียงคนกำลังเดิน ณ ทางเดินนอกห้อง และพวกมันเหล่านั้นก็ดูเหมือนว่าจะเดินมุ่งหน้าเข้ามาในห้องนี้
    ด้วยความขี้ขลาดของเปโดร เขาจึงทิ้งของทุกอย่างไว้กับพื้นแล้วรีบไปหลบซ่อนที่หลังเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างซึ่งมีสายโยงไปทางตู้ขายอาหารแช่แข็ง เอ๊ย! วัตถุปริศนาด้วย

    "นั่นแน่!!!!!"

    ด็อกเตอร์WTFเข้ามาในห้องแล้วตะโกนขึ้นด้วยอารมณ์สุดเท้า ก่อนที่จะชี้ไปทางวัตถุลึกลับขนาดใหญ่ ก่อนที่เขาจะพูดเสียงดังอีกครั้ง...

    "นั่นต้องเป็นตู้ขายอาหารแช่แข็งที่ใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตแน่ๆ!! ท่าน"ดู๊ด เวเดอร์"ก็กำลังต้องการมันอยู่ด้วย!!"

    .....

    เปโดรได้ยินแล้วก็ต้องทำหน้าอึ้งสไตล์หน้ากากแก้ว แต่ทำได้ไม่เหมือนเพราะตาของเปโดรนั้นดำปิ๊ดปี๋ทั้งหมด
    แล้วเขาก็บ่นพึมพำ "ดู๊ด เวเดอร์!? หัวหน้าจักรวรรดิเป๊ปเปอร์จอมแสบสินะนั่น แล้วมันจะอยากได้ตู้ขายอาหารแช่แข็งไปทำแป๊ะอะไรล่ะเนี่ย? คิดไม่ออกจริงๆนะเนี่ย"

    ตัวลูกกระจ๊อกของดร.WTF ค่อยๆเดินสำรวจไปในห้อง ก่อนที่จะหันมาถามเจ้านาย "แล้วตู้แช่แข็งนี่มันมีความสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอครับท่าน?"

    "สำคัญสิว้อย!!" ไอ้แก่หัวเหม่งๆตะคอกตอบ "เพราะท่านเวเดอร์กำลังต้องการตู้แช่แข็งรุ่นเจ๋งๆไว้แช่ไอติมหวานเย็นในห้องส่วนตัวน่ะ เห็นว่าตู้ที่ผลิตในรัสเซียนี่ขึ้นชื่อว่าเจ๋งมากเลยล่ะว่ะ"
    ลูกกระจ๊อกในชุดรัดรูปเลยนึกในใจไปพลางๆกับลูบไหลายคิตตี้ "ตู้เย็นดีๆมีเยอะแยะไป ไม่เห็นจะต้องใช้ตู้ขายอาหารแช่แข็งให้เปลืองพื้นที่ห้องเล้ย..."

    "อุ... เจ้าเวเดอร์มันชอบกินไอศครีมหวานเย็นรึนี่?"
    เอเลี่ยนชาวฮานาก้าผิวแดงได้ยินสิ่งที่ว่ามาทั้งหมดแล้วก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่จนได้ "คิกๆ คั่กๆๆๆๆ ก๊ากกกกกกกกก กั่ก!!! อุว้ากฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!"

    ทั้งด็อกเตอร์หัวเหม่งและลูกกระจ๊อกต่างก็พร้อมใจหันไปทางที่มาของเสียง "ไอ้บ้าที่ไหนมันหัวเราะวะ!?" แหม... แถมยังตะโกนพร้อมกันด้วยนะเนี่ย แล้วมนุษย์ต่างดาวในชุดรัดรูปวางไหลงกับพื้น หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปในที่ที่เปโดนหลบซ่อนอยู่โดยทันที ก่อนที่เขาจะจับคอเสื้อของเปโดรแล้วยกเขาขึ้นมาอย่างง่ายดาย

    "เฮ้ ไอ้หนู อย่าคิดว่าพวกข้าจะจำแกไม่ได้นะเฟ้ย เมื่อ3ปีก่อนตอนที่อยู่บราซิล เอ็งทำแสบมากเลยรู้มั้ย!!" ลูกกระจ๊อกของด็อกเตอร์หัวเหม่งตะคอกใส่เอเลี่ยนแดงตัวน้อยๆผู้น่าสงสาร

    ด็อกเตอร์WTF เดินเข้ามาใกล้ๆแล้วสั่งกับลูกน้องของตน "ยังไงก็ช่วยสั่งสอนเจ้าหนูนี่หน่อยก็แล้วกัน และก็เบาๆด้วย อย่าให้ถึงตายนะเฟ้ย!!" ส่วนน้องเปโดรก็มีท่าทางเหมือนกับว่าวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว
    มนุษย์ต่าวดาวลูกกระจอกหันมาทางเจ้านาย "อ้าว ทำไมไม่ฆ่ามันเลยล่ะขอรับ? จะเก็บไว้ทำแป๊ะอะไรล่ะท่าน?" ด็อกเตอร์โล้นๆแก่ๆ เลยให้คำตอบกลับไปว่า "ไอ้นี่มันเป็นตัวละครหลัก ตายเร็วก็ไม่สนุกอ่ะดิ๊"

    ไอ้ลูกกระจ๊อกในชุดรัดรูปยืนอึ้งไป 2.05 วินาที ก่อนที่จะทุ่มเปโดรไปกระแทกกับเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างที่ตั้งอยู่ริมห้อง "พลั่ก!!!"
    เปโดรร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดปานซินเดอเรลล่าที่โดนยัยพี่สาวใจร้ายกลั่นแกล้ง ก่อนที่จะพยายามตั้งสติตนเองเพื่อจะหนีออกจากที่นี่ให้ได้ สู้เค้านะเปโดร!

    "พลั้วะ!!"

    "ไอ้บ้าเอ๊ย!! ไปทำร้ายมันแบบนี้มันก็พาลจะตายได้นะฟะเฮ้ย ตัวมันยิ่งเล็กๆอยู่" ด็อกเตอร์WTFตบหัวสั่งสอนลูกน้องของตน เจ้าลูกกระจ๊อกกุมหัวด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะหันมาถามเสียงดัง "แล้วจะให้รังแกมันด้วยวิธีได้ล่ะฟะขอรับ!!?!"
    ด็อกเตอรหัวโล้นสติแตกเอานิ้วถูใต้จมูกไปมา "โอ้ย! มีเยอะแยะไป จี้เอวแรงๆก็ใช้ได้ เอาแส้ฟาดก็เวิร์ค เทียนหยดก็แจ๋วเด็ด แต่ที่เวิร์คสุดๆก็จับตบแก้มเพี้ยะๆแล้วจูบอย่างดูดดื่มไงเล่า!!"
    เจ้าลูกกระจ๊อกเองก็ทำท่าไม่พอใจอย่างแรง "เรื่องอะไรจะทำล่ะขอรับ โดยเฉพาะไอ้จับจูบจ๊วบๆเนี่ย ผมไม่ใช่พวกเกย์นะเฟ้ยขอรับ!!" เขาหงุดหงิดแล้วเดินฟึดฟัดไปรอบๆห้อง

    แต่ทว่า... ชิบหายแล้ว เปโดรลุกลี้ลุกลนมากเกินไปจนมือไปกดโดนปุ่มปริศนาสีแดงที่อยู่บนแผงควบคุมอะไรบางอย่างเข้า ทุกสิ่งทุกอย่างเลยมาคุหนักยิ่งกว่าเก่า

    ทั้งเปโดร ด็อกเตอร์WTF และมนุษย์ต่างดาวลูกกระจ๊อกต่างก็ต้องอ้าปากค้าง เพราะดูเหมือนกับไอ้สิ่งที่ทุกคนคิดว่ามันเป็นไอ้ตู้แช่แข็งนั้นมันก็หยุดทำงานลงซะดื้อๆ

    "หรือว่ามันจะเป็นระเบิดทำลายฐานทัพวะนั่น!?" ด็อกเตอร์WTFยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมหัวแล้วเหงื่อแตกพลั่กๆ "เวรเอ๊ย... ตูยังไม่อยากตายตอนนี้นะเฟ้ย และก็ไม่อยากตายในรัสเซียด้วย!!!!"
    แต่เปโดรไม่คิดว่ามันจะเป็นระเบิดทำลายตัวเอง แต่เขาคิดว่าอาจมีเทพบุตรหรือเทพธิดาโผล่มาเพื่อช่วยชีวิตเขาแน่ๆ เอเลี่ยนแดงตัวน้อยๆเลยนั่งทำตาดำแป๋วแล้วนั่งรอสิ่งที่ตนเองหวังว่าจะเจอทั้งๆที่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

    "พลั่ก!! พลั่ก!!!"

    "เหวอออออ!!!! อุกรี๊ดดดดดดดเจี๊ยกกกกกกกกส์!!!!!" ทั้งด็อกเตอร์สติแตกและลูกกระจ๊อกก็ต่างพากันผวาเสียงที่มาจากสิ่งปริศนากลางห้องจนต้องกอดกันเอง แหม... อย่ามาวายแถวนี้นะตะเอง
    และแล้วทั้งผ้าคลุมขนาดใหญ่และสิ่งที่เหมือนจะเป็นฝาเปิดวัตถุปริศนาขนาดใหญ่ก็ถูก"ใครบางคน"ที่หลับไหลอยู่ในนั้นผลักออกไปทางด้านข้าง ทางเปโดรเองก็ดีใจไว้ก่อนว่าคนๆนี้อาจช่วยชีวิตเขาได้

    ว่าแล้วใครบางคนที่อยู่ในนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นและออกมาจากที่ๆตนนั้นหลับอยู่อย่างยาวนานเป็นเวลาหลายวันเดือนปีบลาๆๆๆ แล้วคนๆนั้นก็ค่อยๆกวาดสายตาไปรอบๆห้องแล้วทำหน้าเอ๋อแดก
    แต่คนที่อยู่ในห้องทั้งสามก็ต้องอ้าปากค้างจนกรามลงไปติดพื้น... เพราะเธอคนนี้เป็นผู้หญิง!! แถมยังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอีกต่างหาก!!
    เธอผู้นี้มีผมบลอนด์ยาวสลวยเป็นลอนๆ มีตาสีฟ้าอ่อนน่าหลงไหลและดูมีความน่ากลัวเหมือนสัตว์ป่า หน้าตาสวยแบบชาวยุโรปตะวันออก ผิวขาวเกือบซีดเหมือนคนที่แทบไม่เคยโดนแดด รูปร่างสูงใหญ่และเซ็กซี่ โอ้... นางฟ้าชัดๆ

    แต่... เดี๋ยวก่อนสิจอร์จ!!

    สิ่งที่ทำให้ความเป็น"นางฟ้า"หายหมดไป เป็นเพราะเธอคนนี้มีแผลเป็นจากการผ่าตัดและสู้รบเกือบทุกชนิดตามใบหน้าและร่างกาย มิหนำซ้ำยังเจาะหูเป็นห่วงเล็กๆตั้งข้างละ5วง
    "จ๊ากกกกกกกกกกส์ ผู้หญิงประหลาดดดด!!!" พวกด็อกเตอร์WTFกับลูกกระจ๊อกร้องลั่นแล้วรีบหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว โดยทิ้งไหลายคิตตี้เมดอินเชคโกสโลวาเกียทิ้งไว้กับเปโดรผู้น่าสงสารและสาวหน้าบากปริศนาที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำร้ายใครเลย
    เปโดรเหงื่อหยดหนึ่งเม็ดแล้วนึกในใจก่อนที่จะหันหน้าหนีไปทางอื่น "ตายล่ะ แบบนี้มันนางอสูรชัดๆ เห็นท่าทางแบบนี้คงจะคุยไม่รู้เรื่องแหง ว่าแต่ยังไงซะเราก็รีบเผ่นก่อนดีกว่า!! ไม่อยู่แล้วแบบนี้!!"

    เจ้าเอเลี่ยนแดงวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัวแบบสุดขอบจักรวาลโดยที่สิ่งที่เขาหยิบติดมือมามีแค่กล่องที่เขียนไว้ว่ามีเงินอยู่เท่านั้น ทิ้งให้แม่สาวร่างเสาไฟฟ้าเอ๋อรับประทานอยู่ตรงนั้นคนเดียว น่าสงสารโดยแท้


    ------------- ตัดกลับมาที่แบรดและอาสึนะที่ติดอยู่ในยานอวกาศสุดเจ๊ง ไม่ได้บรรยายผิดหรอก สุดเจ๊งจริงๆ -------------



    แบรดนั่งทำท่าทางขรึมอยู่ ณ หน้าโต๊ะทำงานที่มีเครื่องสื่อสารไร้สายรุ่นไม่ทันสมัยวางอยู่บนโต๊ะเครื่องนึง... "สายต่อไปคุณจอห์นเซ่นจากนอร์เวย์ เข้ามาเลยครับ!!"

    "สวัสดีครับคุณแบรดรับจ้างสารพัด ตอนนี้ผมมีเรื่องที่กำลังกลุ้มใจสุดๆอยู่เรื่องนึง กลุ้มสุดๆเลย ช่วยผมหน่อยนะครับ"

    "มีอะไรก็ว่ามาเลยครับ ผมตอบได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องที่ผมตอบไม่ได้" ไอ้หนุ่มมะกันนั่งกอดอกแล้วเอาเท้าวางพาดไว้บนโต๊ะอย่างกวนส้นบาทา

    "คือว่าผมควรจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย เมื่อ3วันก่อนผมเผลอไปสั่งข้าวหน้าแกงเห็ดเผ็ดร้อนในร้านแม็คโดนัลด์ แล้วหลังจากนั้นพอผมเดินผ่านแถวนั้นก็มีแต่คนมามองผม ทำยังไงดี ผมอายมากๆเลย..."

    "คุณจอห์นเซ่นก็อย่าไปเดินผ่านแถวนั้นซิครับ แม็คโดนัลด์หาได้ทั่วไปทุกแห่งหน แต่อาจหายากกว่าเซเว่นอีเลฟเว่นหน่อยนึงก็เท่านั้นเอง"

    "ผมทำไม่ได้หรอกครับ เพราะตรงข้ามร้านแม็คโดนัลด์นั่นคือที่ทำงานของผมเอง ยังไงก็ช่วยผมด้วยนะครับผมต้องไปทำงานทุกวัน!! อ๊ากกกกกกก!!"

    "ใจเย็นๆหน่อยคุณ คุณเองก็เปลี่ยนลุคตัวเองให้คนจำไม่ได้ซิครับ จะเอาถุงกระดาษสีน้ำตาลมาครอบหัวหรือใส่หน้ากากก็อตซิลล่าก็ตามใจ แต่ผมไม่แนะนำแว่นดำว่ะ เพราะมันเป็นมุขที่เห่ยแตกสุดๆเลยล่ะ"

    "เป็นวีธีที่ดีมากเลยครับ!! ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะครับคุณแบรด แค่นี้ก่อนนะครับ!! สวัสดีครับ!!"

    .....

    "อืม วันนี้ก็มีแต่คนที่ถามอะไรมาแปลกๆทั้งนั้นเลย ไม่ไหวๆ" แบรดเอาขาทั้งสองข้างที่พาดไว้บนโต๊ะลงมาแล้วทำหน้าตาเหนื่อยหน่าย
    อาสึนะที่กำลังลับคมดาบอยู่ข้างๆก็หันไปพูดกับแบรดด้วยความไม่สบอารมณ์เสียเท่าไหร่ "แล้วเอ็งเองก็ตอบบ้าอะไรไปก็ไม่รู้ ไปแนะนำให้เค้าใส่หน้ากากคนเค้าก็ยิ่งหันมามองกันน่ะสิยะ"

    "ช่างมันเถอะ" ไอ้หนุ่มหัวสกินเฮดส่ายหน้า "ไหนๆก็ตอบไปแล้ว แถมเราเองก็รับตอบสารพัดปัญหาไปแบบฟรีๆด้วย ของฟรีก็งี้แหละ..." เขาแก้ตัวแบบหน้าด้านๆ
    "เออ เอาเหอะ เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็งก็แล้วกันนะยะ" สาวชาวฮอกไกโดพูดอย่างไม่ค่อยพอใจก่อนที่เธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้ "เออ จะว่าไปแล้ว..." แบรดหันมาทำหน้าสงสัย "หือ มีอะไรรึ จริงๆเปโดรเองก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย นี่ก็ผ่านมา2-3ชั่วโมงแล้วนะ"

    "เปล่า ไม่ใช่เปโดร" อาสึนะส่ายหน้า

    "แล้วอะไรล่ะ?" แบรดเริ่มสงสัยไปพร้อมๆกับนึกในใจว่าใจคออีนี่มันจะไม่ห่วงเจ้าเปโดรเลยรึไงวะ

    "เอ็งใช้ไอ้เครื่องนี้รับตอบปัญหาจากคนที่อยู่ห่างไกลจากที่นี่ได้โดยสัญญาณไม่ขัดข้อง... แล้วทำไมเอ็งไม่โทรตามช่างดีๆมาซ่อมเครื่องยะ!?!" อาสึนะโวยใส่แบรดซะยกใหญ่ ไอ้หนุ่มมะกันเองก็โต้ตอบกลับโดยการยกแขนไขว้เป็นรูปกากบาท "แหม่ ใจเย็นๆสิจ๊ะ ยังไงตูก็เชื่อมือเปโดรมากกว่าพวกช่างแปลกหน้าเยอะ ยังไงก็รอให้เจ้าเปโดรกลับมาซ่อมต่อจะดีกว่านะ" แต่ดูเหมือนว่าแม่สาวญี่ปุ่นจะโกรธมาก และแล้วแบรดกับอาสึนะก็เปิดศึกวิ่งไล่ตบตีโดยที่ฝ่ายชายต้องมาเป็นคนวิ่งหนี น่าสงสารจัง...

    "เย้ย!! ใจเย็นๆก่อนสิ" แบรดวิ่งวนไปรอบห้องบังคับการที่ไม่กว้างเท่าไหร่ของยาน

    สาวญี่ปุ่นควงดาบแล้ววิ่งไล่ตามแบรดราวกับว่าโกรธแค้นขั้นต้องฆ่าให้ตาย "ไม่ได้!! ชั้นอยากจะออกไปจากที่นี่เต็มทีแล้ว และก็อย่ามาพูดจ๊ะๆกับชั้นนะยะ!!"

    "โอย... นี่หล่อนจะฆ่าตูจริงๆรึเนี่ย!?!" ไอ้หนุ่มมะกันผู้โชคร้ายก็ยังคงวิ่งหลบอีสาวดาบโหดโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก

    ระหว่างที่ทั้งสองเล่นวิ่งไล่ตบตีกันอย่างแสนจะสนุกสนานปานถูกดึงขนจมูกในนรกขุมที่สี่นั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูเหล็กมาจากทางด้านนอกของยานมาขัดจังหวะ

    "แสด... ใครวะ?" ทั้งไอ้หนุ่มมะกันและอีสาวยุ่นต่างพร้อมใจพูดเป็นเสียงเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย แต่ก็ไม่มีไอ้บ้าที่ไหนตอบกลับมาแม้แต่เสียงครางหงิงๆหรือเสียงแคะขี้มูกเลย บักแบรดเริ่มเกิดอาการหงุดหงิดเล็กน้อย เลยจัดการเปิดประตูที่อยู่ทางด้านซ้ายของตัวยานออกมาซะเลย ปริศนาจะได้ไขกระจ่างว่ามีหมาที่ไหนมันมาเคาะเล่น

    "ครืด............" ประตูเหล็กค่อยๆเอนลงไปเรื่อยๆ แล้วก็...

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! เห็นเค้าจนได้นะตัว!!!"

    ปรากฎว่ามีมนุษย์นานาดาวในชุดเครื่องแบบรัดรูปสีดำทั้งตัวพร้อมตราสัญลักษณ์ตัว "P" สีเขียวสะท้อนแสงราวๆ4-5ตัวยืนกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ ณ ทางด้านหน้าของแบรด ซึ่งก็เล่นเอาไอ้หนุ่มมะกันยืนเหงื่อหยดรวมทั้งสิ้นหนึ่งเม็ด
    "ตัวP... ไอ้พวกจักรวรรดิเป๊ปเปอร์สินะ?" แบรดถามพวกมนุษย์ต่างดาวในชุดรัดรูปทั้งหลายแล้วยิ้มที่มุมปาก "เหอะ! ไม่เห็นจะดูดีสมคำร่ำลือเลย..." ทันใดนั้นเหล่ามนุษย์ต่างดาวเองก็รีบตอบแบบประสานเสียงกลับ "ใช่แล้ว พวกเราคือจักรวรรดิเป๊ปเปอร์!! พวกเราจะมาปล้นทรัพย์เจ้า!! ส่งเงินและของมีค่ามาซะดีๆ!!"

    "โอ้!!" หนุ่มมะกันทำท่าประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่จะแอบขำเบาๆ "น่ากลัวจังเลยนะ พวกแกทำเป็นเด็กเล่นโจรปล้นทรัพย์ไปได้" แล้วเขาก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์นิดๆ อาสึนะที่ดูท่าว่าสติอารมณ์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเองก็เดินออกดูแล้วหันไปถามแบรด "เจ้าพวกนี้นี่มันคณะตลกจากดาวดวงไหนกันน่ะ? ดูท่าทางจะเป็นพวกที่เล่นตลกได้ไม่ได้เรื่องเสียเลยนะนั่น"

    "วุ้ย... ไอ้พวกนี้นิ ดูท่าว่าจะต้องบุกเข้าไปในยานเองซะแล้ววุ้ย" ผู้รุกรานในชุดรัดรูปตนหนึ่งรีบรุดเดินหน้าเพื่อเข้าไปเอาของมีค่าออกมาจากยาน แต่นายแบรดก็มายืนขวางไว้

    หนุ่มมะกันยิ้มให้กับผู้ที่ไม่เป็นมิตร "ว่าไง? อยากได้ของในยานนักใช่ไหม?"
    "ก็ใช่อ่ะเด่ะ แล้วจะทำไม?" มนุษย์ต่างดาวตอบกลับด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่

    แบรดหัวเราะในลำคอ "สนใจจะแลกกับสิ่งนี้ไหมล่ะ?" แล้วเขาก็ค่อยๆหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตหนัง หลังจากนั้นก็ชูขึ้นให้ทุกคนในที่นี้ดูกันอย่างเต็มๆสองตา!!

    "โอ้ว..." เหล่าผู้รุกรานทั้งห้าต่างก็ตาโตเป็นไข่ไดโนเสาร์ทีเร็กซ์กันใหญ่ ตัวอาสึนะเองก็ดูท่าว่าจะเหวอๆอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน

    "บัตรกินสุกี้เอ็มเคฟรี 5 ปียังไงล่ะ!! แหม่ๆ อยากได้กันล่ะสิ" ไอ้หนุ่มหัวสกินเฮดพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แอบแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
    พวกเหล่าผู้ไม่เป็นมิตรรีบแบมือขอกันใหญ่ "อยากสิ!! อยากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากได้มากๆเลย!!" แล้วดวงตาของไอ้พวกนี้เองก็มีประกายปิ้งๆเต็มไปหมด อุบาทว์สิ้นดี

    "เฮ้ แบรด!!" อาสึนะรีบขัดจังหวะทันที "เอ็งคิดดีแล้วรึยะที่เอาไอ้บัตรเอ็มเคสุดล้ำล่าให้ไอ้พวกนี้ไปฟรีๆน่ะ อย่าลืมว่าชั้นเป็นคนชอบกินสุกี้นะยะ!!" แต่บักหัวสกินเฮดนั้นยังหันมายิ้มให้กับอาสึนะแล้วขยิบตาให้ "ใจเย็นๆน่า รอดูไปก่อนนะจ๊ะ" แล้วเขาก็ชูสองนิ้วแถมให้อีก แต่อาสึนะก็ยังทำท่าทางไม่ค่อยจะพอใจอยู่ดี เพราะอย่างแบรดยังไงๆทำอะไรก็ไม่มีทางจะเข้าท่าหรอก

    "โว้ย!! ส่งมาซักทีสิฟะ!!" มนุษย์ต่าวดาวผู้ไม่เป็นมิตรตัวหนึ่งที่ยืนอยู่ทางด้านหลังสุดตะโกนขึ้นด้วยความอภิมหาหงุดหงิด
    แบรดส่ายหน้าเล็กน้อย "อ้าว ของดีอย่างนี้จะให้กันฟรีๆได้ยังไงล่ะ มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิ จริงมะ?"
    "แล้วจะให้ทำยังไงล่ะฟ่ะ?" เจ้าคนต่างดาวทำท่าฟึดฟัด "ตอนนี้พวกข้าหิวสุกี้กันมากเลยนะเว้ย"

    "ก็..." หนุ่มหัวสกินเฮดเอามือลูบคาง "มาสู้กันสิ ถ้าชนะได้ก็เอาไปเลย... ชนะให้ได้นะเว้ย!!" แบรดท้าทาย
    "โอ้ ได้เลย!! เพื่อบัตรกินเอ็มเคฟรี ไม่มีอะไรมาขวางได้หรอกกกกก------!!!!!" มนุษย์ต่างดาวตัวที่ยืนอยู่ใกล้ชายหนุ่มหัวสกินเฮดมากที่สุดเริ่มง้างหมัดขึ้นทันที

    แต่ทว่า...

    "ปัง!!!!!"

    หัวของมนุษย์ต่างดาวผู้นี้กลับมีรูขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นตรงกลางหน้าผาก ชิ้นส่วนของสมองและเลือดสีเขียวนั้นก็ไหลออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วหลังจากนั้นก็ล้มลงไปนอนแน่นิ่งจมกองหิมะ... ภาพที่เห็นสร้างความตกใจให้กับเหล่ามนุษย์ต่างดาวที่เหลือเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพราะเพื่อนโดนยิงทิ้งหรอก แต่เป็นเพราะบักแบรดมันชักปืนออกมายิงเพื่อนของพวกมันได้เร็วจนพวกมันไม่รู้ตัวกันเลย

    "แย่จังนะ ฉันเองก็ไม่อยากจะใช้ดีเซิร์ทอีเกิ้ลนี่หรอก มันเหลือแค่สามนัดสุดท้ายแล้ว แต่ยังไงบัตรกินเอ็มเคฟรีก็ไม่คู่ควรกับเจ้าพวกตัวประกอบอย่างแกหรอก" แบรดพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบกับเจ้าต่างดาวที่กลายเป็นศพไปด้วยน้ำมือของเขาเอง

    เจ้าพวกต่างดาวที่ไม่เป็นมิตรก็หายตกใจแล้วกลับมาทำท่าทางแบบตัวกี๊ๆ "แสรด... ยังไงพวกตูก็จะต้องเอาบัตรเอ็มเคนั่นมาให้ด้ายยยยยยยยย!!" แล้วพวกมันก็ตั้งท่าสู้แบบมวยไทย แต่ไม่ยอมวิ่งเข้าไปโจมตีซักที ทำเป็นตัวร้ายในหนังขบวนการยอดมนุษย์หลากสีไปได้
    แล้วจู่ๆก็มีคาตานะหรือดาบญี่ปุ่นลอยพุ่งมาปักหัวมนุษย์ต่างดาวตัวหนึงจนส่งผลให้มีเลือดสีเขียวพุ่งกระฉูดออกมาและยังทำให้เจ้าต่างดาวตัวนี้ดับดิ้นสิ้นพระชนม์ทันที

    "เรื่องอะไรจะให้เล่นสนุกกับเจ้าพวกตัวประกอบอยู่คนเดียวเล่า!!" อาสึนะที่ยืนดูอยู่นานนมโดยไม่มีบทพูดนั้นตะโกนขึ้น แล้วเธอก็ค่อยๆเดินไปเอาดาบคู่ใจที่ปักหัวเจ้าต่างดาวผู้โชคร้ายตัวที่สองออกมา แล้วแบรดหันไปยิ้มให้กับหญิงสาว "ฮะๆๆ ดีเลย กระสุนปืนฉันเองก็เหลืออยู่แค่สามนัดเท่านั้นเอง จะใช้ยิงเจ้าพวกสวะพวกนี้มันก็เปลืองไปหน่อย"
    "ไม่รู้ล่ะ" อาสึนะหันไปทำหน้าบึ้งใส่หนุ่มมะกัน "จะงกก็งกให้เข้าเรื่องหน่อยซิยะ ศัตรูหน้าไหนมาก็เหอะ ยิงๆไปเลย จะมัวแต่ไปเปลืองกระสุนทำไมกันล่ะยะ!!"

    "ปัทโธ่!!" แบรดเริ่มหัวเสีย "รู้มั้ยว่าตอนนี้เรามัวแต่เอาเงินไปใช้ซื้อไอ้หอยกระป๋องเมดอินไทยแลนด์กับพวกน้ำดื่มไปซะหมด แล้วกระสุนมันก็แพงด้วย!!"

    แต่แม่สาวญี่ปุ่นโวยกลับ "ไอ้หัวเกรียนเอ๊ย... กระสุนมันแค่สามนัดเองนะ แล้วจะไม่ให้หมดตูดได้ยังไง เอ็งเองก็เล่นซื้อเบียร์ยี่ห้อแพงๆมาซะเยอะเหมือนกันนั่นล่ะย่ะ"
    และแล้วมาดพยายามเท่ของแบรดก็ขาดหายไปอย่างสมบูรณ์...

    "เค้าเรียกว่าสกินเฮดต่างหากเล่า ไม่ใช่เกรียน!!"

    "สกินเฮดกับเกรียนมันก็คล้ายๆกันนั่นแหละย่ะ!! แล้วอย่าคิดนะว่าทำจอนแบบนั้นแล้วมันจะเท่!!"

    "หล่อนเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ ผมไม่ยาวมากแล้วยังจะมัดหางม้า ไม่สิ! มัดผมทรงหางปลาทองอีกแน่ะ กร๊าก!!"

    "ปลาทองแล้วไง? ยังไงก็ดีกว่าหัวเกรียนๆอย่างเอ็งก็แล้วกันล่ะย่ะ!!"

    "บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ%$%!#@%#!!!"

    "ฉอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ%#%$#%$$@!!!"


    . . . . .
    . . .
    .

    To Be Continued...
  3. bradhawke

    bradhawke New Member

    EXP:
    102
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    #003 From Russia, With Love Pt.2

    ณ สถานที่ที่ไม่มีใครรู้ว่าตั้งอยู่ที่แห่งไหน และก็ไม่ค่อยมีใครที่อยากจะรู้มันเลยสักนิดเพราะรู้ไปตอนนี้มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก อิ_อิ

    "...ผมกลับมาแล้ว"

    "DAMN YOU!! ทำไมเอ็งกลับมาช้าจังวะ" บุรุษลึกลับนั่งโวยวายไปพร้อมกับดิ้นไปดิ้นมาบนเก้าอี้ที่มีปุ่มควบคุมอะไรบางอย่างเหมือนถอดแบบมาจากเรื่องสตาร์เทร็คไม่มีผิด "ว่าแต่ว่าเอ็งไปไหนมาฟะ?"
    ชายหนุ่มชาวโลกในชุดสูทสีแดงดำสีแสบตาพร้อมแว่นกันแดดทรงสุดจ๊าบทำหน้าตาไม่ค่อยพอใจทันทีหลังจากที่ได้ยินคำถามจากบุรุษลึกลับ "อ้าว ก็ท่านให้ผมออกไปสืบข้อมูลเองไม่ใช่เหรอวะครับ? ไอ้คุณดู๊ด เวเดอร์!!" แต่ก็มองไม่ค่อยเห็นว่าเขาอารมณ์ไม่ดีเพราะใส่แว่นเลนส์สีดำอยู่น่ะสิ

    "ใจเย็นๆก็ได้เว้ยนะไอ้คุณมิลอช" ไอ้คุณเวเดอร์เองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรกลับเท่าไรนัก แต่สำเนียงการพูดนั้นช่างน่าจับมันฆ่าหมกถังน้ำมันแล้วเอาไปทิ้งกลางทะเลทรายซาฮาร่าจริงๆ "แล้วว่ายังไงบ้างล่ะเว้ย?"

    ชายชาวโลกหรือมิลอชค่อยๆเปิดกระเป๋าเอกสารสีดำเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา และสิ่งนั้นก็คือ... วีซีดีมิยาบินี่เอง!!
    "แย้ก!! แผ่นนั้นตูยังไม่มีเลยเว้ย ส่งมาซะดีๆ ส่งมาๆๆๆๆๆๆ อ๊าาาา!!" เวเดอร์ดีดดิ้นไปมาบนเก้าอี้แสนวิเศษราวกับไอ้เด็กห้าขวบที่อยากกินข้าวแกงไม่ใส่แกงใจจะขาด เห็นแล้วอนาถสิ้นดี

    "อุเว้ย!! หยิบผิด!!" มิลอชทำหน้าตื่นตระหนกแล้วรีบเก็บวีซีดีมิยาบิเข้ากระเป๋าก่อนที่จะหยิบแผ่นซีดีที่ถูกต้องออกมา ในระหว่างที่กำลังหาของเขาเองก็นึกในใจไปด้วย... "ซวยล่ะกรู ดีนะที่เราอยู่ในห้องกับกร๊วกเวเดอร์แค่สองคน ไม่อย่างนั้นความแตกชัวร์ๆว่าไอ้เราน่ะเป็นแฟนตัวยงของมิยาบิเลย แล้วก็เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าไอ้เวเดอร์มันก็ชอบมิยาบิเหมือนกัน นึกว่าจะชอบดูแต่เทเลทับบีส์ซะอีก"

    "เออ... ผมจะบอกอะไรให้นะ" ชายชาวยุโรปตะวันออกพูดไปพลางๆกับค้นหาสิ่งของในกระเป๋าเอกสารของตน "พวกซานโตสอะไรนั่นไม่ต้องไปสนใจหรอก ผมว่าท่านควรจะระวังเจ้าพวกรัสเซียตัวแสบให้ดีเถอะ"
    เวเดอร์นั่งนิ่งแล้วกล่าวถามด้วยความไม่พอใจนิดๆ "ตอนนี้บราซิลเป็นมหาอำนาจใหญ่ของดาวโลกไม่ใช่เหรอไงวะ? พวกซานโตสมันก็น่าจะอันตรายที่สุดสิ แถมสมัยนี้พวกมันก็ยังแสบกว่าเดลต้าฟอร์ซกับหน่วยสวาทซะอีก"
    "เรื่องของความเป็นมหาอำนาจมันไม่ใช่ประเด็น" มิลอชแย้ง "ประเด็นมันคือพวกซานโตสไม่ได้สนใจจักรวรรดิของท่าน แต่พวกท่านกำลังถูกเพ่งเล็งโดยพวกรัสเซีย... อันเดอร์สแต๊นด์?"

    ดู๊ดเวเดอร์แห่งจักรวรรดิเป๊ปเปอร์นั่งพยักหน้าหน่อยๆก่อนที่บุรุษชาวมอนเตเนโกรจะพูดต่อด้วยสำเนียงเซอร์เบีย แต่เนื่องจากฟิคเรื่องนี้ไม่ใช่ภาษาเซอร์เบีย จึงไม่มีใครรู้สึกถึงความเป็นเซอร์เบียเลย และจริงๆเขาก็เป็นคนมอนเตเนโกรด้วย
    "ท่านก็ทราบดีนี่ว่าพวกรัสเซียน่ะตัวแสบเลย เป็นฝ่ายสำคัญที่ทำให้พวกมนุษย์โลกชนะสงครามเมื่อ3ปีก่อน เป็นตัวหนุนหลังชั้นดีของพวกบราซิลและโปรตุเกส และก็อีกอย่างนึงนะ..."
    มิลอชยื่นแผ่นซีดีที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นแผ่นที่ถูกต้องให้กับเวเดอร์ "ตอนนี้ผมมีอย่างอื่นที่จะต้องทำอีกมาก เอาเป็นว่าลองเอาไอ้สิ่งนี้ไปดูก็แล้วกัน ผมเพิ่งได้มันมาจากพ่อค้ามืดเมื่อครู่นี้เอง มันอาจจะช่วยให้ท่านต่อกรกับพวกรัสเซียได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย"

    ชายชาวยุโรปตะวันออกค่อยๆเดินออกไปจากห้องของหัวหน้าจักรวรรดิเป๊ปเปอร์ แต่ในระหว่างที่เขากำลังก้าวเท้าออกจากห้อง เขาก็หันมาพูดอะไรบางอย่างกับเวเดอร์ก่อนที่จะเดินจากไป
    "ยังไงก็ขอให้ท่านจำไว้ให้ดีนะ ที่ผมทำงานให้ท่านก็เพราะผมทำเพื่อตัวของผมเอง ไม่ได้ทำเพื่อจักรวรรดิของท่านหรอก"

    ชายนาม มิลอช เปโตรวิช เดินจากไปโดยทิ้งให้เวเดอร์ทำหน้าอึ้งเล็กๆแต่ไม่มีใครเห็นเพราะใส่หมวกเหล็กบังจนมิดอยู่ราวๆหลายวินาทีก่อนที่จะโวยขึ้นมา

    "ทำเพื่อวีซีดีลามกน่ะสิ!! DAMN!! DAMN!! DAMN!! DAMN YOU!!"

    "เอ... ว่าแต่ทำไมไอ้ปกซีดีนี่มันถึงเป็นรูปหมีพูห์ล่ะฟะ!?! เอาเหอะ!! ตูก็เคยเจอเหตุการณ์กล่องวีซีดีแมทริกซ์แต่แผ่นข้างในเป็นวีซีดีเต้นแอโรบิคมาแล้วนี่นะ"

    ..........................................................

    กลับมาทางไซบีเรียอันแสนจะหนาวเหน็บเจ็บแสบ ทั้งแบรดและอาสึนะเปิดศึกทะเลาะเรื่องทรงผมกันตามประสาพระเอกนางเอกกันอย่างเมามันส์ จนไอ้พวกลูกกระจ๊อกตัวหนึ่งมันต้องโวยขึ้นมาด้วยความซุปเปอร์หงุดหงิด "มันจะทะเลาะเรื่องทรงผมกันตอนนี้ทำไมวะ กรูรอสู้กับพวกสูอยู่นะเฟ้ย!!"

    "หอยหลอด!!" อาสึนะหันไปตะโกนด่าทางพวกตัวต่างดาวทั้งหลาย แต่เจ้าพวกตัวประกอบที่เหลือทั้งสามก็ทำท่าหันซ้ายหันขวาเหมือนจะมองหาอะไรบางอย่างบนพื้น

    แม่สาวดาบโหดทำหน้าเหมือนตูดแล้วถามพวกตัวประกอบต่างดาวที่กำลังก้มหน้าลงไปทางพื้น "พวกเอ็งมองหาอะไรกันนักหนายะ อยากจะสู้กันมากนักมิใช่รึ?"

    "อ้าว ก็มองหาหอยหลอดยังไงล่ะ ไม่เห็นจะมีเลยเนี่ย" เจ้าตัวประกอบตัวหนึ่งพูดกับอาสึนะไปพร้อมๆกับหันหน้ามองหาหอยหลอดตามพื้นหิมะทั้งๆที่จริงๆแล้วมันไม่มีเลยซักกะตัว

    "ไม่มีอะไรที่ข้าตัดไม่ขาด!!!" อาสึนะพุ่งตรงไปยังเจ้าต่างดาวผู้กำลังมองหาหอยหลอดแล้วใช้คาตานะฟันผ่าครึ่ง
    ทั้งเลือดและเครื่องในสีเขียวพุ่งออกมาก็กระเด็นไปเลอะตามตัวแม่สาวดาบโหดอย่างน่าขยะแขยง แต่เธอก็ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย... แหวะ!!

    "หนอย!! มาหลอกให้พวกกรูมองหาหอยหลอดซะได้นะ!!" มนุษย์ต่างดาวที่เหลืออีกตัวพยายามฉวยโอกาสโจมตีอาสึนะในขณะที่คุณเธอกำลังเก๊กอยู่ แต่ไม่ทันไรก็มีกระสุนจากดีเซิร์ทอีเกิ้ลพุ่งมาเจาะกลางหัวเจ้าต่างดาวผู้นี้ เรียบร้อยไปอีกราย
    แบรดควงปืนแล้วยิ้มให้กับศพของเอเลี่ยนรายล่าสุดที่ถูกจัดการไป "แย่เนอะ... ที่ต้องมาเสียกระสุนให้กับเจ้าพวกไม่เอาอ่าวพวกนี้ แต่ก็เอาเถอะ ยังมีกระสุนเหลืออยู่อีกตั้งสองนัดแน่ะ"

    และก็ดูเหมือนว่าเจ้ามนุษย์ต่างดาวลูกกระจ๊อกตัวสุดท้ายนั้นก็ไม่รู้จะหนีไปทางไหน ว่าแล้วก็โดนแบรดกับอาสึนะเข้ามาล็อคตัวจนได้...
    แบรดล็อคแขนข้ายของเจ้าต่างดาวผู้โชคร้ายแล้วถามแบบกวนๆกับอาสึนะ "ขอเก็บเจ้าตัวนี้ได้มั้ยล่ะจ๊ะ?" เจ้าต่างดาวเองก็เหงื่อแตกพลั่กและคิดว่าตัวเองก็คงต้องตายภายในตอนนี้เป็นแน่แท้ แต่รู้สึกว่าเจ้าต่างดาวนี่จะปลงไปนานแล้วล่ะ

    "ไม่ได้!! ชั้นจะสับมันเอง!!" อาสึนะตอบเสียงแข็งโดยที่เธอกำลังล็อคแขนข้างขวาของเจ้าต่างดาวในชุดรัดรูปอยู่ "เพราะไม่มีอะไรที่ข้าตัดไม่ขาด!!"

    หนุ่มอเมริกันกับสาวญี่ปุ่นเลยจ้องหน้าขู่กันแบบหมาบูลด็อกอีกครั้ง จนกระทั่งเจ้าเอเลี่ยนตัวประกอบนั้นนึกในใจ "น่ารำคาญจริงๆ พวกแกรีบๆฆ่ากรูซักทีจะได้มั้ย... กรูอยากตายแล้วววววว"

    และทันใดนั้น ก็เหมือนกับว่ามีตัวอะไรสักอย่างสีแดงๆในชุดเขียวๆ พุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว... รวดเร็วจริงๆ!! หรือว่ามันเร็วสามเท่าเพราะมีสีแดงกันแน่!?!

    "แฮ่ก... แฮ่ก... เฮียแบรด!! เจ๊อาสึนะ!! ช่วยผมด้วยคร้าาาาาาาบ!!" แต่ก็ไม่ใช่ใครอื่น ไอ้หนูเปโดรผู้น่าสงสารนี่เอง เขาไม่ได้นำอะไรกลับมานอกจากกล่องปริศนาที่ติดป้ายไว้ว่ามีเงินอยู่เท่านั้น

    "ไม่ได้อย่างอื่นติดมือมาเลยเหรอยะ!?" อาสึนะหันไปดุใส่เปโดร แบรดเลยนึกในใจ "เปโดรอุตส่าห์รอดกลับมาได้ทั้งที อีนี่จะไม่ปลอบหรือชื่นชมอะไรหน่อยเลยรึ?"

    เจ้าเอเลี่ยนชาวฮานาก้าเลยทำท่าสะอื้น "ก็... ผะ... ผะ ผมเจอสัตว์ประหลาดสาวมีแผลเป็นทั่วทั้งตัวอยู่ในนั้น น่ากลัวมากๆเลยอ่า..." แม่สาวญี่ปุ่นเลยทำหน้างงนิดๆ

    "แล้วสัตว์ประหลาดสาวที่ว่านั่นชื่ออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน สวยมั้ย ผมทองรึเปล่า?" แบรดเลยเสนอหน้าถามทันทีทั้งๆที่ไม่รู้ว่าแม่สาวที่ว่านั่นเป็นชาวโลกหรือมนุษย์ต่างดาว
    "จะไปรู้มั้ยล่ะโว้ยครับว่าตัวประหลาดนั่นชื่ออะไร ไม่ใช่หมาที่มีปลอกคอแบบมีป้ายชื่อบอกซักหน่อย!!" เปโดรพูดเสียงแข็ง "แต่ก็... อ๋า... ตะ...ตะ...ตู้ม... แผลเป็น ตู้ม!!" จู่ๆสติเขาก็หลุดลอยและน้ำลายยืดตึ๋งๆ

    เจ้าเอเลี่ยนแดงชาวฮานาก้าเดินโซเซเข้ายานแบบมึนๆทั้งๆที่เมื่อครู่นี้ก็ท่าทางแตกตื่นแบบปรกติดี อาสึนะหันไปมองแล้วก็นึกในใจ "มันแอบไปกินเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสูตรลึกลับแห่งจักรวาลมารึเปล่าฟ่ะ"

    แต่แล้วเปโดรก็วิ่งออกมาอีกครั้งด้วยท่าทางที่แตกตื่นสุดๆโดยที่เขาถือเครื่องNDSอยู่ในมือไปพร้อมๆกับวิ่งเข้าไปหาแม่สาวดาบโหดอย่างรวดเร็วราวกับหนีช้างตกมัน

    "เจ๊เล่นเปิดเกมทิ้งไว้ทะม้าย~ แบตเตอรี่แดงหมดแล้ว แถมไม่มีสำรองแล้วด้วยนะครับ ผมก็ต้องรอชาร์จแบตอีกนะสิครับ!!" เปโดรทำท่างอแงใส่อาสึนะไปพร้อมๆกับน้ำตาตกเป็นสายน้ำ สาวญี่ปุ่นเลยหันไปโวยวายใส่ "เอ็งอย่าร้องไห้ซิโว้ย!! ชั้นเล่นค้างไว้แต่ต้องมาเจอกับไอ้พวกบ้านี่ก่อน จะให้ชั้นทำยังไงกันล่ะย้าาาาาาาาา!!!" แบรดที่อยู่ใกล้ๆเลยนึกในใจว่าปิดเครื่องไปก็สิ้นเรื่อง

    "รู้ว่ามันอาจเป็นสถานะการณ์ฉุกเฉินนะครับ แต่ช่วยปิดๆไปก่อนแล้วค่อยเล่นทีหลังไม่ได้รึไงครับเจ๊!?" ไอ้หนูชาวฮานาก้าตอบโต้อย่างสุภาพ หนุ่มมะกันเองก็แอบพยักหน้าเห็นด้วยกับเปโดรหน่อยๆ

    อาสึนะรู้สึกหงุดหงิดสุดๆ แต่ก็เถียงไม่ออกเหมือนกัน เลยรีบแก้ตัวทันที "ช่างเถอะ ชั้นลืมปิดเองนั่นแหละย่ะ ลืมๆมันไปซะ"
    แบรดกับเปโดรเลยทำหน้าบูดเหมือนตูดทั้งคู่ โดยที่เจ้าตัวประกอบต่างดาวตัวสุดท้ายที่เหลอรอดเมื่อครู่นี้ก็แอบหนีไปแบบเนียนๆในระหว่างที่กลุ่มแก๊งรับจ้างสารพัดกำลังทะเลาะกัน เวรจริงๆ...

    "อ๊ะ! จริงสิครับ" ดูเหมือนว่าเปโดรจะนึกอะไรบางอย่างออก "เมื่อตะกี๊ผมว่าผมเห็นไหลายคิตตี้ในตำนานอยู่ในที่แห่งนั้นด้วยนะครับ"
    แบรดกับอาสึนะต่างก็พร้อมใจทำหน้าตามารใส่เจ้าเอเลี่ยนฮานาก้า "แล้วทำไมไม่ไปหยิบมาด้วยล่ะโว้ย...?" แถมทั้งสองยังพร้อมใจพูดเสียงเถื่อนดิบอีกต่างหาก

    เปโดรทำหน้าสะอื้นอีกครั้ง "กะ...กะ...ก็... ป๋มกลัวตัวประหลาดจนลืมหยิบไหออกมานี่นา... ผมขอโทษ!!" แล้วเขาก็ค่อยๆคุกเข่าลงไปด้วยความสำนึกผิด

    หนุ่มอเมริกันเดินเข้าไปตรงหน้าเปโดร "รู้มั้ยว่าถ้าเราไม่เอาไหนั่นไปให้เจ้าสตานิมีร์ เราก็จะชวดเงินค่าจ้างนั่น ซึ่งเป็นทั้งค่ากระสุนปืน เชื้อเพลิง และอาหารของเรา!!" แล้วเขาก็กุมหัวแบบคุโรมาตี้
    "ใช่แล้ว!!" อาสึนะตะโกน "แต่ถ้ามีบัตรกินสุกี้เอ็มเคฟรี 5 ปี เราจะไม่อดตายเป็นอันขาด!!" เธอทำท่าทางเหมือนซุปเปอร์ไซย่าที่กำลังเบ่งพลังไม่มีผิด

    แบรดเหงื่อหงดหนึ่งเม็ด "เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ ไอ้บัตรเอ็มเคนั่นน่ะ..."

    "อะไร!?! บัตรเอ็มเคอะไร!?!" สาวญี่ปุ่นพูดด้วยเสียงที่โคตรบ้าพลังใส่ชายหนุ่ม

    หนุ่มมะกันค่อยๆเอามือลูบคาง "ไอ้บัตรเอ็มเคนั่นเป็นของปลอมน่ะ เผอิญชั้นเขียนเล่นเพื่อที่จะใช้หลอกไอ้พวกศัตรูโง่ๆเท่านั้นเอง ฮ่าๆ"

    "หนอย!! มาหลอกกันได้!!" อาสึนะกระโดดถีบใส่แบรดด้วยความโกรธแค้นเรื่องบัตรเอ็มเคปลอม ซึ่งก็เล่นเอาไอ้หนุ่มหัวสกินเฮดลงไปนอนจูบกองหิมะทันที ส่วนเปโดรเองก็ค่อยยืนขึ้นมามองแบรดที่นอนกองอยู่กับพื้นอยู่ด้วยความอนาถใจ แล้วก็ทำให้เขาคิดได้ว่าไม่ควรเอาเรื่องที่เกี่ยวกับสุกี้มาหลอกแม่สาวญี่ปุ่นคนนี้เด็ดขาด...

    . . . . .

    "อ๊ะ ทำไมจู่ๆก็รู้สึกหนาวชะมัดเลย" อาสึนะเกาหัวเบาๆแล้วค่อยๆเอามือกอดอกตัวเองด้วยความหนาวเย็น
    แบรดที่ฟื้นจากการโดนถีบแล้วก็ยืนทำหน้ายิ้มๆหน่อย "เป็นธรรมด๊า~ เวลาคนเรามัวคิดแต่เรื่องอื่นจนไม่สนใจความหนาว เราก็จะไม่รู้สึกหนาวเลยยังไงล่ะ"

    "ไม่รู้สึกเว่อร์ไปหน่อยหรือครับเฮียแบรด?" เปโดรหันไปถามมนุษย์โลกชาวอเมริกันด้วยความโคตรอภิมหาสงสัย
    "มันก็เหมือนๆกับคนที่คลั่งไคล้เกมเดวิลเมย์ครายจนเข้าไส้นั่นล่ะ เวลาที่เขาหรือเธอคนนั้นปวดอึในขณะที่กำลังอินกับเกมนี้อยู่ขั้นรุนแรง เขาหรือเธอคนที่ว่าเนี่ยจะไม่รู้สึกปวดอึเลยล่ะ" แบรดตอบอย่างมั่นใจ
    ทั้งเปโดรและอาสึนะต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย "อ่อ... เข้าใจแล้วๆ"

    และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบไปประมาณ 0.02 วินาที ก่อนที่อาสึนะจะเตะหิมะบนพื้นกระจายแล้วปาคาตานะอัดกับผืนแผ่นดินไซบีเรียด้วยท่าเดียวกับที่มารัตซาฟินเขวี้ยงไม้เทนนิสอัดพื้นเป๊ะๆ
    "ซะที่ไหนกันเล่า!! แล้วไอ้เดวิลเมย์ครายนี่มันเกี่ยวกับคนปวดอึได้ยังไงกันยะเนี่ย!?! อุบาทว์ชะมัด!!"

    ในระหว่างนี้ก็ดูเหมือนว่ากำลังมีใครบางคนเดินเข้ามาทางแก๊งนักรับจ้างสารพัดที่สุดแสนจะปัญญานิ่มและรักการตบตียิ่งชีพ...
    "นั่นมันมนุษย์ดาวฮานาก้าที่เจอกันเมื่อครู่นี้นี่...?" บุคคลแปลกหน้าที่เดินเข้ามานั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานในแบบสาวใหญ่
    ทั้งแบรด อาสึนะ และเปโดรต่างก็หันไปมองทางเจ้าของเสียงกันใหญ่ แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไรเลย... และเจ้าเปโดรก็เริ่มทำท่าทางหวาดผวา...

    "เหวอ!!!!! ผู้หญิงประหลาดคนนี้ตามมาถึงที่นี่เลยหรือครับ ผมกลัวแล้ว!! อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ!!!!!!!!!!!!! อ๊าาาาาาาาาาาก...!!"
    เจ้าเอเลี่ยนแดงแปร๊ดชาวฮานาก้าร้องตะโกนลั่นแล้วรีบหนีเข้าไปหลบในยานทันทีทันใด... ใช่แล้วล่ะ หญิงแปลกหน้าคนนี้ก็คือคนที่เปโดรพบเจอในสภาพเปลือยเปล่าที่ฐานทัพลับของสหพันธรัฐรัสเซีย แต่คราวนี้เธอปรากฎตัวในชุดคอสเพลย์คุณลุงขายไก่ทอดสูตรเนื้อนุ่มพร้อมไม้เท้าและหนวดสุดจ๊าบ แถมยังแบกของอะไรมาก็ไม่รู้ยังกะบ้าหอบฟางอีกต่างหาก

    อาสึนะทำสีหน้าแปลกๆเมื่อเห็นสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าไปพร้อมๆกับพูดเบาๆพอให้แบรดได้ยิน "เอ่อ... คนบ้ารึเปล่าเนี่ย? ถ้าเป็นคนขายสุกี้จะเจ๋งเด็ดกว่านี้เยอะเลยนะ"
    "เอาน่ะ ดีกว่าไอ้ชุดคอสเพลย์ตัวตลกสีเหลืองไว้ผมทรงอัฟโฟรสีแดงแร่ดก็แล้วกัน" หนุ่มหัวเกรียนหันไปกระซิบแล้วหันไปยิ้มแห้งๆให้กับหญิงแปลกหน้าหรือหน้าแปลกก็ไม่รู้ "เอ๊ะ แต่นั่นมัน..."

    "ห...หะ...หะ...ไหคิตตี้เมดอินเชคโกสโลวะเกีย!!!!" แบรดและอาสึนะตะโกนพร้อมกันดังลั่นไซบีเรีย

    "เผอิญว่าฉันเห็นเจ้าแดงคนนั้นลืมของพวกนี้เอาไว้... ฉันก็เลยเอามาคืนให้..." หญิงแปลกหน้าพูดอย่างเนิบนาบโดยที่หนวดลุงขายไก่ของปลอมขยับไปในขณะที่กำลังพูดพร้อมๆกับชี้ไปที่ถุงสิ่งของทั้งสองถุงและไหในตำนาน
    ชายชาวอเมริกันยังคงยิ้มแปลกๆ "อ่ะ หะ หะ... ขอบใจนะ!!" แต่เขาเองก็นึกในใจอยู่ว่าของพวกนี้มันเป็นของของกองทัพรัสเซีย ไม่ใช่ของเปโดรซักหน่อย ส่วนสาวญี่ปุ่นเองก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นกองสิ่งของพร้อมไหล้ำค่าที่สามารถทำเงินให้กับพวกของเธอ
    "แล้วนี่ทำไมคุณถึงแต่งตัวแบบนั้นล่ะ?" แบรดถามกับหญิงแปลกหน้าร่างสูงใหญ่ในชุดคอสเพลย์ลุงขายไก่ "แถวนี้ไม่มีงานคอสเพลย์เลยนะคุณ เอ๊ะ! หรือว่าแถวนี้มีคนคอสเพลย์กันเองน่ะ?" แล้วเขาก็นอกเรื่อง "ว่าแต่ผมคุณสวยดีนะ หยักศกตามธรรมชาติรึเปล่า?"

    "ฉันหาชุดของฉันไม่เจอ..." สาวแปลกหน้ากล่าวก่อนที่เธอถอดแว่นตาเซ่อซ่าพร้อมหนวดปลอมของลุงขายไก่ทอดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามของหญิงสาวแม้ว่าจะมีรอยแผลเป็นพาดผ่านตามใบหน้าของเธอก็ตาม สร้างความตกตะลึงให้กับแบรดยิ่งนัก
    หนุ่มหัวเกรียนยิ้มหน่อยๆ แล้วเขาก็เปลี่ยนท่าทีและการพูดจาทันที "อะแฮ่ม! แล้วทำไมคุณหาชุดของคุณไม่เจอล่ะครับ คุณคนสวย" แบรดเก๊กเสียงหล่อ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้จริงๆ

    "ฉันตื่นมาก็พบว่าตัวเองไม่ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น..." หญิงหน้าบากกล่าวอย่างเนิบนาบไปพร้อมๆกับลูบรอยแผลเป็นที่คางตนเอง "ฉันเองก็มึนๆไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ในตอนนี้หรอก... นอกจากว่าฉันหลับมาเกือบๆสามปีเท่านั้นล่ะ..."

    "โอ๊ะโอว..." แบรดร้องเบาๆด้วยสำเนียงเทเลทับบีส์ ก่อนที่อาสึนะที่กำลังบูดบึ้งด้วยสาเหตุบางอย่างลากหนุ่มชาวอเมริกันกลับเข้ายานเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่าง

    "แบรด!!" อาสึนะตะคอกใส่ชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ "ชั้นว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีอะไรน่าสงสัยแน่ๆ เราโกยกันก่อนเถอะ!!" หนุ่มอเมริกันเองก็ทำหน้าเซ็งๆอย่างเห็นได้ชัด
    "แหม กำลังเข้าได้เข้าเข็มอยู่แล้วเชียว มาขัดขวางทำไมก็ไม่รู้" แบรดกล่าวด้วยน้ำเสียงกวนๆปนไม่สบอารมณ์ "เป็นผู้หญิงที่เสียงหวานมากจริงๆ"
    สาวญี่ปุ่นขมวดคิ้วแล้วพูดกลับเข้าเรื่อง "เพราะผู้หญิงนั่นใส่ชุดคอสเพลย์ตาลุงขายไก่ทอดมาน่ะสิ ชั้นคิดว่ายัยนั่นต้องเป็นKGBหรือไม่ก็พวกกลุ่มกวาดล้างทหารรับจ้างแหงๆ!!" เธอโวยโดยที่เอามือทั้งสองข้างกุมหัวไปด้วย
    ชายอเมริกันได้ยินดังนั้นก็เงียบไปสักพัก ก่อนที่จะหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วตัดบทสาวญี่ปุ่นอย่างเยือกเย็น "เดี๋ยวนี้มีแต่FSBไม่ใช่เหรอ? แล้วก็นะ เราเป็นนักรับจ้างสารพัดต่างหาก ไม่ใช่ทหารรับจ้างสักหน่อย"

    สาวญี่ปุ่นจอมโหดได้ยินดังนั้นก็พูดอะไรไม่ออกซักคำ ทำอะไรก็ไม่ถูก นอกจากเหงื่อหยดหนึ่งเม็ดเท่านั้น
    "เอาล่ะ" แบรดค่อยๆออกห่างจากอาสึนะ "ยังไงซะก็ใจเย็นๆก่อนก็แล้วกัน และผู้หญิงคนนี้เองก็ทำให้เราได้ไหคิตตี้ไปส่งสตานิมีร์นะ" แล้วเขาก็เดินออกจากยานอย่างเท่โดยทิ้งท้ายไว้ว่า "ขอไปฟังเสียงหวานๆของผู้หญิงคนนี้อีกซักทีเถอะ ฮ่าๆๆๆ!!"
    ทั้งเปโดรที่หลบอยู่ในกล้องส้มเช้งและอาสึนะต่างก็พร้อมใจหันมามองหน้ากันและสายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่าย... หลังจากที่เหนื่อยหน่ายแล้วสาวญี่ปุ่นก็เข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างกับเอเลี่ยนชาวดาวฮานาก้า "เชื่อสิ ชั้นว่ามันต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นต่อไปแน่"

    "คุณผู้หญิงครับ!" แบรดออกไปตะโกนเรียกหญิงแปลกหน้าที่ยังคงยืนอยู่นอกยานของเขา "คุณจะเอายังไงต่อ? ที่นี่เองก็ห่างไกลจากตัวเมืองมากนะครับ" สาวแปลกหน้าลูบรอยแผลเป็นที่คางของตนอีกครั้งแล้วตอบกลับ "จริงด้วย... ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรต่อไปดี..." เธอเงียบไปสักพักก่อนที่จะตัดสินใจถามกลับ "แล้วคุณล่ะ...? จะไปไหน...?"

    หนุ่มชาวอเมริกันวางมาดเล็กน้อย "ผมจะแวะไปส่งของและก็กินข้าวที่มอสโคว์น่ะครับ เสร็จแล้วก็คงออกนอกโลกไปแวะที่สถานีอวกาศคริสโตเฟอร์เพื่อแวะซื้ออะไรจากที่นั่นหน่อย"

    "มอสโคว์..." หญิงหน้าบากพูดเบาๆแต่พอจะได้ยิน "ฉันจากที่นั่นมาหลายปีแล้ว... ฉันคิดถึงจริงๆ..." แล้วเธอก็ทำหน้ายังกะคนเป็นโรคคิดถึงบ้านไม่มีผิด

    แบรดได้ยินสิ่งที่สาวแปลกหน้าพูดแล้วก็เลิกคิ้ว "เอ้า! ไงล่ะ ในเมื่อคุณคิดถึงมอสโคว์แล้วจะมากับผมก่อนมั้ยล่ะ? แล้วอย่างอื่นก็ค่อยว่ากันทีหลัง" เข้ายิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับหญิงสาวผมทองหน้าบากที่ตัวสูงกว่าเขาอย่างชัดเจน

    "แสด ชิบหายแล้ว..." อาสึนะที่นั่งฟังอยู่แถวๆประตูยานก็ถึงกับอึ้งเมื่อแบรดเอ่ยคำชวนให้กับคนที่เธอคิดว่าอันตรายสุดๆ เปโดรเองก็ตกใจไม่น้อยอยู่เหมือนกัน

    หนุ่มอเมริกันยื่นมือไปทางด้านหน้า "มาเถอะ ผมไม่คิดตังหรอก และก็ถือว่าเป็นการตอบแทนที่คุณเอาของสำคัญมาให้พวกผมด้วย และที่สำคัญ เดี๋ยวผมช่วยหาชุดดีๆให้คุณใส่ละกัน จะได้ไม่ต้องมาใส่ไอ้ชุดตาลุงขายไก่น่าขบขันนี่อีก"
    "ก็ได้... ยังไงก็ขอบคุณมากๆเลยนะ..." สาวหน้าบากตอบตกลง แบรดเลยทำท่าดีใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่พวกอาสึนะกับเปโดรนั้นอึ้งจนอ้าปากค้าง
    ทั้งสาวญี่ปุ่นและหนุ่มน้อยชาวดาวฮานาก้าต่างก็นึกในใจแบบเดียวกันโดยที่มิได้นัดหมายว่าผู้หญิงที่เอ็งชวนขึ้นยานมามันเหมือนกับพวกที่ผ่านสงครามโลกมาหลายร้อยรอบไม่มีผิดเลยว่ะ ไอ้เกรียนนี่มันคิดได้ยังไงวะเนี่ย

    ว่าแล้วทั้งหนุ่มชาวมะกันและสาวแปลกหน้าก็ช่วยกันแบกของทั้งหมดรวมถึงไหคิตตี้ขึ้นยานแล้วเอามาวางกองไว้ภายในยาน
    "เอาล่ะ ทำตัวตามสบายเลยนะครับ" แบรดกล่าวกับหญิงสาวหน้าบากอย่างอารมณ์ดี แล้วเขาก็หันไปบอกอาสึนะกับเปโดร "ยังไงก็ช่วยกันเปิดดูของในถุงหน่อยก็แล้วกันว่ามีอะไรบ้าง"

    "เชอะ ก็ได้" สาวญี่ปุ่นตอบกลับแล้วเชิดหน้าเหมือนพวกเด็กผู้หญิงขี้งอน แล้วเจ้าหนุ่มชาวฮานาก้าเองก็เริ่มคุ้ยถุงสิ่งของขนาดใหญ่ถุงแรกโดยที่ไม่มีบ่นเลยสักคำ

    ส่วนทางสาวหน้าบากเองก็มุ่งหน้าไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบว้อดก้าขวดเบ้อเริ่มขึ้นมาขวดนึงแล้วหันไปถามบักแบรดอย่างหน้าตาเฉย "ขวดนี้ได้ไหม...?"
    ชาวชาวอเมริกันเห็นเข้าเลยตอบกลับ "ก็เอาสิ ผมบอกแล้วไงว่าตามสบายเลย" เขาอนุญาตให้หญิงแปลกหน้าดื่มว้อดก้าขวดเบ้อเริ่มที่ราคาแพงใช้ได้ซะดื้อๆ สาวญี่ปุ่นเลยหันมาโวยใส่ชายหนุ่มแบบยิ่งกว่าอินสแตนท์ "คิดยังไงจู่ๆถึงได้ให้อีคนแปลกหน้ามาดื่มว้อดก้าราคาแพงฟรีๆย้าาาาาาาาาา!?!"
    แบรดเลยหันมาตอบกลับด้วยสีหน้าที่นิ่งสุดๆ "เอาน่า ยังไงก็คุ้มนะเมื่อเทียบกับค่าจ้างที่ได้จากการเอาไหไปส่งให้เจ้าแว่นดำสตานิมีร์น่ะ" เขาพูดไม่ทันขาดคำ ก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น... หญิงแปลกหน้าซดว้อดก้าจากขวดราวกับว่าดื่มน้ำเปล่าธรรมดาๆ เล่นเอาทุกคนอึ้งกิมกี่ไปตามๆกัน แถมยังทำเอาทั้งสามคนพูดว่า "ทำได้ยังไงวะ?" โดยที่ไม่มีใครได้นัดหมายเลย

    "ช่างมันเหอะ" แบรดพยายามไม่ใส่ใจ "เรามาดูกันดีกว่าว่ามีของอะไรอยู่ในนี้..." เข้าพูดยังไม่ทันจบ เปโดรก็ส่งกองหนังสือเพลย์บอยฉบับรัสเซียให้ทันที "โอ้ว! ขอบใจมากเลยเปโดร" ในขณะที่อาสึนะเองก็ชอบใจกับของบางสิ่งมากๆเพราะมันเป็นของที่สามารถเอาไปทำเงินกับชาวต่างดาวได้น่ะสิ

    "เอ๊ะ นี่มันอะไรหว่า?" เอเลี่ยนชาวดาวฮานาก้าตัวแดงแปร๊ดหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมาจากถุงสิ่งของ มันคือถุงน่องสีดำแบบมีสายรั้งด้วยล่ะ!! และก็ตามด้วยชุดชั้นในสีดำลายลูกไม้สุดไฮโซ

    หญิงหน้าบากที่ดื่มว้อดก้าจนพอใจแล้วหันมาเห็นพอดี "น่ะ... นั่นต้องเป็นของของฉันแน่ๆ..." แล้วเธอก็เข้าไปดูใกล้ๆ "ช... ใช่จริงๆด้วย..." ทางแบรดเองก็หันไปแอบหัวเราะก่อนที่จะสนใจเพลย์บอยฉบับรัสเซียต่อ
    "เอ่อ... ว่าแต่... เจอชุดของฉันบ้างไหม? จะเป็นชุดเครื่องแบบหรืออื่นๆก็ได้นะ..." หญิงผมทองถามต่อ แต่เปโดรเองก็ส่ายหน้าขอไปทีทั้งๆที่ในมือก็จับเสื้อสูทสีดำของผู้หญิง สาวหน้าบากจึงยื่นมือไปจับสูทตัวที่ว่าทันที "ฉันคิดว่านี่เป็นของฉันนะ..."

    และแล้วเธอก็หยิบชุดเสื้อผ้าทั้งหมดรวมถึงชุดชั้นในสีดำลายลูกไม้สุดไฮโซและถุงน่องสีดำแบบมีสายรั้ง "ว่าแต่ฉันพอจะเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ที่ห้องไหน...?" เธอถามกับกลุ่มนักรับจ้างสารพัดทั้งสาม
    "เดินไปทางนู้นเลยจ๊ะ นู่นเลย ห้องน้ำ" แบรดชี้ทางให้กับสาวผมทองหน้าบากโดยที่เขากำลังเมามันส์กับเพลย์บอยที่ได้มาฟรีๆ ชายชาวอเมริกันเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับคนที่กำลังฝันว่าชนะการแข่งขันรายการเรียลลิตี้โชว์ "อคาเดมั่ว โปรโตซัว" ไม่มีผิด

    เมื่อสาวหน้าบากเดินเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว อาสึนะจึงเริ่มกวาดสายตาไปทางเปโดรด้วยความไม่สบอารมณ์อย่างแรง
    "นึกยังไงแกถึงไปหยิบสูทผู้หญิงชุดนั้นมาใส่ถุงด้วย?" สาวญี่ปุ่นถามกับเปโดรด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความแข็งกระด้างอย่างแรง

    "สูทนั่นอาจดูธรรมดา แต่มันเป็นสูทไอโซที่ตัดโดยช่างชาวอิตาลีเชียวนะครับ ผ้าก็ใช้ผ้าอย่างดี ที่ผมเก็บมาก็เพราะมันขายได้เงินเยอะ เจ๊น่าจะชอบนะครับ"

    "แล้วนึกยังไงแกถึงไปหยิบชุดชั้นในไฮโซนั่นมาด้วย?"

    "ชุดชั้นในนั่นก็ทำมาจากผ้าอย่างดีนะครับ ที่ผมเก็บมาก็เพราะมันขายได้เงินเยอะ เจ๊น่าจะชอบนะครับ"

    "แล้วนึกยังไงแกถึงไปหยิบถุงน่องแบบสายรั้งนั่นมาด้วย?"

    "ถุงน่องนั่นผลิตในฝรั่งเศสนะครับ เป็นยี่ห้อดีเสียด้วย ที่ผมเก็บมาก็เพราะมันขายได้เงินเยอะ เจ๊น่าจะชอบนะครับ"

    "แล้วหยิบอะไรเจ๋งๆมาอีกมั้ย?"

    "นาฬิกาโรเล็กซ์สีเงินครับ ของแท้ซะด้วย ที่ผมเก็บมาก็เพราะมันขายได้เงินเยอะ เจ๊น่าจะชอบนะครับ"

    "เลิกพูดประโยคเดิมๆซักกะทีได้มั้ยยะ!?!" สาวญี่ปุ่นจอมโหดฟิวส์ขาด จึงใช้วิชาคาราเต้สับกลางหัวเปโดรทันที
    มนุษย์ดาวฮานาก้าร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด "เฮียแบรดช่วยผมด้วยยยย เจ๊อาสึนะจะฆ่าโผมมมมม!!" เขาน้ำตาร่วงไปพร้อมๆกับเขย่าแขนของชายชาวอเมริกันราวกับว่าเป็นกาแฟกระทิงแดง แต่ทว่าไอ้เกรียนก็ยังให้ความสนใจกับเพลย์บอยฉบับรัสเซียมากกว่า

    "ช่วยด้วยคร้าาาาาาาาาาาาบ!!"

    "อู้หู้ว~ คนนี้ผมยาวหยักศกได้ใจจริงๆ"

    "ช่วยด้วยคร้าาาาาาาาาาาาบ!!"

    "ไม่ไหวๆ คนนี้ชุดชั้นในไม่ได้เข้ากับหน้าตาเล้ย"

    "ช่วยด้วยคร้าาาาาาาาาาาาบ!!"

    "คนนี้ท่าทางจะชอบกินข้าวแกงแฮะ แต่หวังว่าคงไม่ใช่ข้าวแกงของเจ้ามนุษย์ดาวหล่อขี้เก๊กนั่นนะ"

    "ได้ยินมั้ยฟะว่าช่วยด้วยคร้าาาาาาาาาาาาบ!!"

    "โอ้โห ซื้อซีดีเพลงร้านนี้แล้วแถมซูชิให้ตั้งสองคำแน่ะ"

    "ผมตะโกนว่าช่วยด้วยคร้าาาาาาาาาาาาบแล้วก็ช่วยสนใจหน่อยซิวะครับ!!!!"

    เมื่อสิ้นเสียงหอนของเปโดร แบรดหยุดการเมามันส์ในหนังสือเพลย์บอยทันที
    "คนกำลังเอ็นจอยกับเพลย์บอยอยู่ อย่ามากวนได้มั้ยวะไอ้เจ้าหัวลูกโป่ง!" หนุ่มมะกันหันไปพูดเสียงแข็งกับเจ้ามนุษย์ดาวฮานาก้า ซึ่งก็เอาเจ้าตัวแดงหน้าซีดไปพลางๆนึกในใจว่าทำไมวันนี้กรูถึงได้ซวยขนาดนี้ฟะ แถมจู่ๆก็ยังมาได้ชื่อเรียกขานใหม่ว่าเจ้าหัวลูกโป่งอีก

    "เอ๊ะ" อาสึนะนึกอะไรขึ้นได้ "เปโดรๆ เมื่อตะกี๊เอาไอ้กล่องๆหนึ่งติดมาด้วยใช่มั้ย?"
    "อ๊ะ ครับ" เปโดรตอบ "ไอ้กล่องที่ติดป้ายไว้ว่า ในนี้มีเงินนะจ๊ะ น่ะครับเจ๊" แต่แล้วเขาก็อึ้งกับสิ่งที่อยู่ในมืออีสาวดาบโหด เพราะของที่อยู่ในกล่องนี้มันไม่ใช่เงิน แต่กลับเป็นรุ่นหนึ่งของรัสเซียที่สั่งทำพิเศษโดยการสลักตราสัญลักษณ์ของสหภาพโซเวียตซึ่งก็คือค้อนและเคียวนั่นเอง และปืนกระบอกนี้ก็เก่าเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะมันสลักว่าผลิตในปี1955พร้อมกับตัวอักษรภาษารัสเซียส่วนหนึ่งบนตัวปืน

    "คนรัสเซียพวกนี้มันหลอกลวงกันชัดๆเลยนะครับนั่น" หนุ่มน้อยชาวดาวฮานาก้าได้แต่มองด้วยความเสียดาย แต่สาวญี่ปุ่นนั้นเสียดายยิ่งกว่ามากๆ เธอจึงโวยใส่เปโดรทันที "วันหลังจะหยิบมาก็ช่วยดูให้มันดีๆก่อนนะย้าาาาาาาาาาาาาาา!! อย่าหลอกให้คนอื่นดีใจนักเลย!!" แล้วเธอก็มะเหงกหัวเปโดรจนเจ้าเอเลี่ยนร้องไห้ขี้มูกโป่ง เห็นแล้วน่าสมเพชจริงๆ

    "วี้ดว้ายอะไรกันเหรอ... สหาย?"

    มันไม่ใช่เสียงของอาสึนะ ไม่ใช่เสียงของเปโดร และก็ไม่ใช่เสียงของแบรดด้วย แต่เป็นเสียงของหญิงผมทองหน้าบากที่คราวนี้สวมชุดสูทผู้หญิงเข้ารูปสุดเนี้ยบแล้ว ไอ้หนุ่มแยงกี้เห็นแล้วถึงกับตะลึงในความเซ็กซี่ของเจ๊แกยิ่งนัก แต่คนที่เหลืออีกสองคนกลับสะดุ้งตกใจ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่แปลกหรอก สมควรสะดุ้งแล้วล่ะ

    "ขโมยของของคนอื่นมันไม่ดีนะ..." สาวหน้าบากพูดไปพลางๆกับสวมนาฬิกาโรเล็กซ์สีเงินของแท้เข้ากับข้อมือซ้ายของตน
    สาวญี่ปุ่นเริ่มเกิดอาการบูดขั้นต้นก่อนที่จะโวยใส่หญิงแปลกหน้าอย่างโคตรกล้าหน้าทน "แล้วหล่อนล่ะ!! มาถึงก็ซดว้อดก้าของคนอื่นแถมยังใส่นาฬิกาไฮโซของใครไม่รู้นั่นหน้าด้านๆอีก!!"
    "ไม่ใช่เรื่องที่บุกรุกเข้าไปขโมยของในฐานทัพหรอกนะ..." หญิงผมทองตบบ่าของอาสึนะ แม่สาวญี่ปุ่นเองก็ทำท่าแหยงนิดๆเมื่อตนถูกสัมผัสด้วยมือที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นของอีกฝ่ายหนึ่ง และสาวหน้าบากก็พูดต่ออย่างเนือยๆ "นาฬิกาเรือนนี้พ่อของฉันซื้อให้หลังจากที่ฉันออกจากโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกน่ะ..."

    แม่สาวดาบโหดผมสีดำทำปากเบี้ยวเล็กน้อยหลังจากที่ฝ่ายตรงข้างพูดจบ "เชอะ! แน่ใจนะว่าของหล่อน ไม่ได้โกหกนะยะ?" ส่วนเปโดรเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเนื่องจากกลัวโดนสาวโหดทำร้ายอีก เลยนั่งดูไปพร้อมๆกับดูดนิ้วมือตัวเองยังกะเด็กอ่อน ทุเรศจริงๆ
    "ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ทหารต้องมี..." หญิงผมทองร่างสูงใหญ่จ้องสาวญี่ปุ่นด้วยนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนราวกับสัตว์ป่า "แต่ถ้าคิดว่าฉันโกหกก็ตามใจนะ..."

    สาวญี่ปุ่นรู้สึกเสียวสันหลังยิ่งนักเมื่อถูกต้องด้วยสายตาที่ดูน่ากลัวจากบุคคลที่ดูยังไงเธอก็คิดว่าน่ากลัวสุดๆ ในขณะที่บักแบรดมองว่าสาวผมทองคนนี้สวยงามมากๆ ว่าแล้วเขาก็เข้าแทรกการสนทนาโดยทันที

    "คุณช่างสวยงามไร้ที่ติจริงๆ น้ำเสียงก็หวานราวกับนางฟ้า ผมละชอบคนท่าทางสมหญิงอย่างคุณจัง" ชายชาวอเมริกันกุมมือของสาวผมทองที่มีแต่รอยแผลเป็น "เอ้อ เมื่อกี๊เหมือนแว่วๆว่าคุณเป็นทหาร คุณอยู่กองทัพไหน ยศอะไรเหรอ?" เขาถามโดยที่ไม่เกรงกลัวผู้หญิงที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่คาดว่าจะได้มาจากการทำสงครามเลย ช่างกล้าจริงๆนะนาย

    "ร้อยเอก... กองทัพรัสเซีย..." เธอตอบโดยที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่แบรดชมในความสวยเท่าไหร่ แถมสีหน้าของเธอก็ยังตายเหมือนเดิม "ส่วนเรื่องของที่เหลือที่ขโมยมาก็เอาไปก็แล้วกัน... ยังไงฐานทัพก็น่าจะโดนทิ้งร้างไปแล้วล่ะ..."

    แบรดอึ้งกับคำตอบของเธอเล็กน้อยก่อนที่จะถือวิสาสะสวมกอดแม่สาวหน้าบากโดยทันที "แหม คุณนี่น่ารักจัง ผมชอบวิธีการพูดของคุณเป็นบ้าเลย!!" แต่อาสึนะเห็นเข้าแล้วจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าลายมายเมโลดี้จากกระเป๋ากางเกงมาแทะด้วยความโกรธแค้น หรืออาจจะหึงก็ได้นะ... ส่วนเปโดรตอนนี้ก็หันไปจิ้มNDSต่อแล้วล่ะ

    "โอ้ไง? ทำอะไรกันอยู่ ได้ไหรึยังล่ะ? แล้วอาทิตย์นี้ใครโดนโหวตออกจากอคาเดมั่วล่ะ? หอยแครงอร่อยไหม?"

    และแล้วเจ้าแว่นดำสตานิมีร์ติดต่อมาจนได้ แบรดจึงรีบวิ่งไปคุยกับเขาผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ยานทันที "ผมได้มันมาแล้วว่ะ ระบุสถานที่ส่งของเลย และก็เลิกพูดคนละเรื่องเดียวกันซักทีได้ไหมฟะ"
    "ฮู้ว... ไอติมอร่อยเป็นบ้าเลย อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าเจอกันที่ร้านข้าวแกงนายเรนซ์หล่อเลิศแถวๆเปตรอฟก้า แล้วเจอกัน!" บุรุษแว่นดำระบุสถานที่ส่งของในขณะที่ทานไอศครีมรสช็อคโกแลตไปด้วย และเขาก็ปิดสัญญาณทันทีทันใดโดยที่แบรดไม่ทันจะได้ตอบกลับ

    ทั้งแบรดและอาสึนะต่างก็พร้อมใจยืนเหงื่อแตกทีละเม็ด ทีละเม็ด... เพราะว่า... เพราะ... เอ่อ คือ... เพราะมันคือว่า...

    "พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!! ยานยังเสียอยู่น่ะสิ!!" อาสึนะพูดเสียงดังโดยที่ปากและตาของเธอกระตุกไปด้วย ซึ่งแบรดเห็นแล้วก็แทบจะทำตามไปด้วยเหมือนกัน

    ชายหนุ่มชาวอเมริกันเริ่มทำหน้าเครียดอย่างหนัก "เพราะมัวแต่ตบตีกับเธอนี่แหละ อาสึนะ ทำชั้นลืมเรื่องยานของตัวเองไปเลยนะ ไม่ไหวเล้ย" เขาตบบ่าอาสึนะเบาๆ แต่เธอไม่รับมุข สาวเจ้าเลยใช้ท่าลูกเตะขวานผ่ากลางหัวแบรดให้ลงไปนอนจูบพื้นยานทันที

    "ใครกันแน่ที่ไม่ไหว!! ตัวเองลืมเองแล้วยังจะมาโทษชั้นอีก!!" สาวญี่ปุ่นทำท่าปัดฝุ่นออกจากรองเท้าบู้ทของเธอ หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าหาเจ้าเปโดรที่กำลังโยกย้ายไปมาเพราะเมามันส์กับเกมกดอยู่ทันที ทันใดนั้นเธอจึงจัดการดึงคอเสื้อของเจ้าหนูชาวดาวฮานาก้าผู้โชคร้ายขึ้นมาขู่ราวกับหมาบูลด็อก

    "กลับไปซ่อมยานต่อเดี๋ยวนี้เลยนะยะ!!" เธอตะคอกใส่เปโดรที่ทำหน้าเอ๋อนิดๆเพราะอินกับเกมมากไปหน่อย
    แต่เจ้าเอเลี่ยนสีแดงแปร้ดยังทำหน้างงเหมือนกับว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ส่วนแม่สาวรัสเซียหน้าบากก็กำลังนั่งเช็คทรัพย์สินในกระเป๋าสตางค์ตัวเองอยู่เงียบๆที่โซฟาทางด้านหลัง
    "ก็ซ่อมยานของเราไงล่ะยะ ถ้าไม่กลับไปซ่อมยานต่อ ชั้นจะพังNDSของนายเดี๋ยวนี้เลย!!" เธอตะคอกจบก็เดินไปหยิบดาบญี่ปุ่นคู่ใจมาจ่อNDSของเปโดร เจ้าเปโดรเลยเริ่มรู้สึกตัวแล้วทำท่าแตกตื่นอย่างแรง "จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! อย่านะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ!!!!!! คือว่า...!! คือ!!"

    "คืออะไร? ถ้านายบอกช้าชั้นจะกินหอยกระป๋องเมดอินไทยแลนด์ส่วนของนายด้วยนะยะ!!"

    "อย่านะ!! ผมชอบหอยกระป๋องไทยมากๆเลยนะครับ!! ว่าแต่... ผมยังไม่ได้บอกเฮียแบรดกับเจ๊อาสึนะเลยเหรอครับ?"

    "แล้วอะไรล่ะ รีบๆพูดมาก่อนที่ชั้นจะพังNDSนายนะยะ!!"

    "คือว่า... ผมซ่อมยานเสร็จตั้งแต่ก่อนที่จะออกไปสำรวจฐานทัพใต้ดินของรัสเซียแล้วล่ะครับ แต่ไม่รู้ว่ามันจะใช้การได้จริงไหม"

    . . . . . . . . .

    คำพูดของเปโดรนั้นทำให้ทั้งอาสึนะและแบรดทำตัวแข็งราวกับถูกแช่แข็งในก้อนน้ำแข็งก้อนเบ้อเริ่มยังไงยังงั้น ส่วนสาวรัสเซียนั้นแน่นอนว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยแม้แต่ปลายเส้นขนจั๊กแร้
    "งั้นก็ไปขับยานซิยะ!! ไอ้เกมน่ะไว้ค่อยเล่นทีหลังก็ได้ ตอนนี้ชั้นหิวจะแย่แล้ว!!" สาวญี่ปุ่นจิกหัวเปโดรที่ไม่มีผมซักกะเส้นให้ไปขับยาน ซึ่งเจ้าฮานาก้าเองก็แอบร้องโหยหวนราวกับแมวออกลูกเพราะมือสาวดาบโหดคนนี้ช่างหนักราวกับนักมวยปล้ำกล้ามโตจริงๆ

    เมื่อเอเลี่ยนแดงแปร๊ดชาวฮานาก้าเดินโซเซเข้าไปนั่งในที่ควบคุมยานแล้ว อาสึนะจึงรีบหยิบNDSของเปโดรมาแอบเล่นโอเอนดันต่ออย่างเมามันส์ทันที เลวได้ใจจริงๆนะตัว

    "คุณเกรียน..." สาวรัสเซียไม่ทราบชื่อกล่าวเรียกแบรดหรือชายผมเกรียนชาวอเมริกันอย่างนิ่งๆตามสไตล์ของเธอ
    หนุ่มอเมริกันค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นแล้วตอบรับสาวหน้าบากทันที "อ๊ะ ทำไมเหรอ? ว่าแต่เรียกผมว่าแบรดดีกว่านะ อย่าเรียกผมว่าเกรียนเลย มันเหมือนด่ายังไงก็ไม่รู้"

    สาวผมทองหน้าบากทำท่ายืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนที่จะถามอะไรบางอย่างกับชายหนุ่ม "คุณมีบุหรี่บ้างไหม...? ฉันอยากจะสูบสักหน่อย..."

    ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร แต่เขาก็พยักหน้าไปพร้อมๆกับหยิบซองบุหรี่ซึ่งเป็นยี่ห้อ American Spirit ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตหนังแล้วยื่นให้กับหญิงสาวพร้อมรอยยิ้มที่แอบแฝงไปด้วยความเก๊กทันที

    "..............................." สาวรัสเซียทำคิ้วขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นซองบุหรี่ "ไม่ล่ะ... ฉันไม่สูบดีกว่า... แต่ถึงอย่างไรก็ขอบคุณนะ..."

    "เห?" หนุ่มอเมริกันทำหน้างงๆเมื่อจู่ๆฝ่ายตรงข้ามก็ปฏิเสธบุหรี่ทั้งๆที่เจ้าตัวก็ขอมาเอง "เฮ่ ทำไมล่ะคุณ จะบุหรี่ถูกหรือแพงสูบๆไปเหอะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ผมเองก็ไม่ค่อยจะได้สูบซักเท่าไหร่ด้วย"

    "ไม่เป็นไร... เดี๋ยวฉันค่อยไปแวะซื้อบุหรี่ที่มอสโคว์ก็ได้..." เธอยกมือขึ้นปฏิเสธอย่างสุภาพ ทำเอาหนุ่มอเมริกันรู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่โดนสาวปฏิเสธน้ำใจของตน แต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าเธอเป็นคนรัสเซีย เขาจึงเข้าใจในทันทีว่าทำไมเธอถึงไม่สูบบุหรี่ที่เขาส่งให้

    เขาเก็บบุหรี่เข้ากระเป๋าแจ๊คเก็ตหนังแล้วพยายามจะแนะนำตัวกับเธอ "คือตะกี๊ผมบอกไปใช่ไหมว่าให้เรียกผมว่าแบรด ผมชื่อแบรดนะ ยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนผู้หญิงญี่ปุ่นที่แย่งเกมเด็กมานั่งเล่นตรงนั้นก็ชื่ออาสึนะ เจ๊แกห้าวๆและก็ปากไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็โอ...... อ๊าก!!" เขาพูดยังไม่ทันจะจบก็มีกระป๋องหอยลายเมดอินไทยแลนด์ลอยมาชนหัวเขาพอดี ไม่ใช่ฝีมือใครอื่น อาสึนะนั่นแหละ...

    "จะพูดแนะนำตัวชั้นก็แนะนำให้มันดีกว่านี้หน่อยซิยะ!!" อาสึนะหันมาโวยวายใส่หลังจากที่เธอปากระป๋องหอยลายใส่แบรดจนหัวแตก
    "เฮ้อ พูดอะไรก็เจ็บตัวตลอดๆ ไม่ไหวๆ" หนุ่มมะกันรีบหยิบผ้ามาประคบแผลหัวแตก แต่เขารีบไปหน่อยเลยหยิบผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้ามาห้ามเลือดแทน "ส่วนเอเลี่ยนฮานาก้าตัวแดงแปร๊ดนั่นก็เปโดร เขาเป็นเด็กขี้ขลาดหน่อยแต่ก็พึ่งพาได้เยอะนะ แหะๆ"

    เมื่อพูดถึงเขาเพียงนิดเดียว เขาก็หันมาตะโกนดีใจกับคนอื่นๆในยาน "ยานใช้ได้แล้วคร้าบบบบบบบบบบบบบบ!!! อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ เฮ!!!!!!"
    "ดีมากๆ" หนุ่มมะกันรู้เข้าก็ตบมือดังๆหนึ่งครั้ง "รีบมุ่งหน้าไปมอสโคว์เลยนะเปโดร อย่าเป็นแบบคราวก่อนที่จะไปสเปนแต่ดันไปโผล่ที่ย่านบาร์เกย์ในโปรตุเกสล่ะ ฮ่าๆ" เขาหัวเราะเย้ยหน่อยๆ เปโดรเองก็แอบทำท่าเขินเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปควบคุมยานต่อ

    "ครับพ้ม!!" เปโดรตอบรับอย่างมั่นใจไปพร้อมๆกับควบคุมยานที่เป็นที่ทั้งพาหนะและที่ซุกหัวนอนของนักรับจ้างสารพัดกลุ่มนี้ "เดินเครื่องมุ่งหน้าสู่เม็กซิโก!!!!!"
    แบรดกุมขมับแบบคุโรมาตี้แล้วตะโกนใส่เปโดร "มอสโคว์เฟ้ย!! ไม่ใช่เม็กซิโก!!" แล้วเขาก็นึกในใจไปด้วยว่าเปโดรชักจะเพี้ยนขึ้นทุกวันๆแล้ว ไม่รู้เป็นเพราะเล่นเกมมากไปหรือโดนอาสึนะตบตีจนสมองกระทบกระเทือนกันแน่

    แต่แล้วเขาก็ช่างหัวเปโดรมันไปแล้วหันมายิ้มให้กับสาวรัสเซียหน้าบากที่สูงกว่าเขาประมาณสิบสองเซนติเมตร "เอาล่ะ ตาคุณแล้ว แนะนำตัวซะดีๆนะครับคุณคนสวย"

    ".............." เธอยืนจุดตามสูตรของคนปากหนักก่อนที่จะถอนหายใจแล้วแนะนำตนเองในสไตล์ผสม เจมส์ บอนด์ "คาลาชนิโควา... ฟรานทิชก้า คาลาชนิโควา... ยินดีที่ได้รู้จักพวกคุณนะ สหาย..."

    แบรดยิ้มร่าเมื่อทราบชื่อของสาวรัสเซียคนนี้ซักที หลังจากที่รอคอยมานานเหลือเกิน... สำหรับเขาน่ะนะ "อ่าฮะ คุณฟรานทิชก้า" เขายื่นมือไปเชคแฮนด์สาวผมทองหน้าบาก "ผมเรียกคุณว่าฟรานก้าก็แล้วกัน โอเคมั้ย?"

    "ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง..." เธอเชคแฮนด์กับแบรดแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนเล็กน้อย แบรดเองก็ต้องเก็บอารมณ์ความดีใจอย่างแรงเพราะในที่สุดเธอก็ยิ้มซักที ฮู้ร่าห์!!

    และดูเหมือนกับว่าแบรดจะพบกับคนที่ตนเองถูกใจเข้าเสียแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าอนาคตเขาจะพบเจอกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตนักรับจ้างสารพัดของเขาไปอย่างสิ้นเชิงและตลอดกาล ...แต่ยังไงซะ อนาคตมันก็ไม่แน่นอนนี่หว่า จะเจออะไรก็พอๆกันนั่นแหละเนอะ ฮิๆ

    ..........................................................

    ณ ที่แห่งหนึ่งในกลางทุ่งหิมะไซบีเรีย

    "ฮ่วย!! หลงทางจนได้" ชายต่างดาววัยกลางคนที่มีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์เป๊ะนั่งเอาไม้เขี่ยพื้นหิมะให้เป็นรูปซานตาคลอสในชุดสายเดี่ยวพร้อมกางเกงในจีสตริงไปพร้อมๆกับกลุ้มใจสุดกู่ที่ตนหลงทาง ณ กลางทุ่งหิมะที่ไม่มีใครอาศัยอยู่เลย ส่วนเจ้าลูกน้องของมันเองก็นั่งเขียนรูปเล่นบนพื้นหิมะเช่นกัน

    "สั่งพิซซ่าเถอะขอรับ ดร.WTF" ลูกกระจ๊อกในชุดเครื่องแบบรัดรูปหันมาถามกับนายท่านของเขา "แต่ถ้าท่านไม่ชอบพิซซ่าก็เปลี่ยนเป็นสุกี้ก็ได้นะขอรับ" แต่ดร.WTFไม่รับมุขเป็นอย่างยิ่ง จึงหันมาเอาไม้ทิ่มหัวลูกน้องผู้น่าสงสาร "ถ้าเอ็งสั่งพิซซ่าได้แล้วทำไมถึงไม่ไปติดต่อแผนะพาหนะขนส่งของจักรวรรดิเป๊ปเปอร์ล่ะเฟ้ย!!"

    "อ๋า... อู้ยยยยย แค่ล้อเล่นเองนะขอรับ เจ้านาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาย"

    . . . . . . . . . .

    To Be Continued...

    Next Episode : #004 Smells Like Mushroom Spirit
  4. bradhawke

    bradhawke New Member

    EXP:
    102
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    แนะนำตัวละครแบบคร่าวๆและขอไปทีสุดๆ ถึงที่สุด

    [​IMG]
    Brad Hawke (แบรด ฮอว์ค)
    หัวหน้าแก๊งนักรับจ้างสารพัดฮอว์ค เป็นชายชาวอเมริกันที่สามารถกวนส้นเท้า เอาเปรียบ และปั่นหัวผู้อื่นได้อย่างเยือกเย็น แม้บางครั้งจะมีความคิดที่ไม่ค่อยเข้าท่า แต่ก็มีความเป็นผู้นำสูงกว่าสมาชิกคนอื่นที่ร่วมก๊วนอยู่เยอะ งานอดิเรกคือการฟังเพลงแนวบริติชเฮฟวี่เมทัล เล่นกีตาร์ไฟฟ้า และอ่านเพลย์บอย อาวุธประจำตัวคือปืนพก Desert Eagle .50AE
    *ขอยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับ Ethan Hawke เพียงแค่เป็นมนุษย์โลกเหมือนกันเท่านั้น
    **ไม่ใช่นักร้องนำวงเฮฟวี่เมทัลวงหนึ่งแน่ๆ เชื่อสิ

    [​IMG]
    Hamaguchi Asuna (ฮามางุจิ อาสึนะ)
    สาวญี่ปุ่นจากแดนฮอกไกโดซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งรับจ้างสารพัดฮอว์ค มีนิสัยห้าว โผงผาง เลือดร้อน วู่วาม หน้าเงิน พูดเสียงดัง ชอบข่มคนอื่น แต่ก็ยังเป็นคนที่พึ่งพาและไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง นิยมการกินสุกี้และหม้อไฟตั้งแต่มื้อเช้ายันเย็น แถมยังมีสำเนียงการพูดจาและการประพฤติค่อนข้างบ้านนอกอีกต่างหาก อาวุธประจำตัวคือดาบญี่ปุ่นและปืนพก Walther P99 สองกระบอก

    [​IMG]
    Pedro Kuznetsov (เปโดร คุซเน็ตซอฟ)
    หนุ่มน้อยเอเลี่ยนตัวแดงแปร๊ดจากดาวฮานาก้า เป็นทั้งช่างเครื่องและคนขับยานของแก๊งนักรับจ้างสารพัดฮอว์ค ค่อนข้างเรียบร้อย พูดจาสุภาพ ขี้อายเล็กน้อย เคารพสมาชิกคนอื่นในยาน(แม้จะโดนแกล้งและถูกเรียกใช้งานบ่อยๆก็ตามที) แต่ห่วงเรื่องกินและเกมเป็นที่สุด ลือกันว่าเขาห่วงการเล่นเกมมากกว่าสิ่งอื่นเสียอีก นอกจากนี้ยังค่อนข้างขี้ขลาดและชอบหลบหนีการต่อสู้บ่อยๆด้วย จุดเด่นคือมีผิวสีแดงแปร๊ดเว่อร์ๆ เตี้ยสุดๆ และยังใส่ชุดช่างเครื่องสีเขียวเข้มอยู่เสมอ
    *ขอยืนยันว่าไม่มีเชื้อสายรัสเซียเลย เป็นมนุษย์ดาวฮานาก้าล้วนๆ

    [​IMG]
    Františka Kalashnikova (ฟรานทิชก้า คาลาชนิโควา)
    สาวรัสเซียประหลาดๆ เงียบๆ สุขุมนุ่มลึกและดูอ่อนหวานผิดกับรูปลักษณ์ ถูกพบเจอในฐานทัพใต้ดินรัสเซียโดยที่หลับไหลอยู่ในเครื่องโคลด์สลีป แต่กลับถูกเปโดรปลุกขึ้นมาโดยไม่ได้เจตนา ไม่มีใครรู้เรื่องของหญิงคนนี้มากนัก เป็นพวกติดบุหรี่และว้อดก้าขั้นหนัก จุดเด่นคือสูง190เซนติเมตร ผมบลอนด์หยักศกสไตล์นางเอกการ์ตูนรุ่นล่อป้า เจาะหูข้างละ5รู ผิวขาวซีด ตาสีฟ้าอ่อนน่ากลัว และมีแผลเป็นเต็มหน้าและร่างกาย(แต่ทว่ารูปร่างนางแบบสุดๆ) คำพูดติดปากคือจุดไข่ปลา
    *ยืนยันว่าเธอไม่เคยเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียเลย
    **และยืนยันว่าเธอไม่เคยขับหุ่นยนต์มาก่อนด้วย

    [​IMG]
    Stanimir Petrov (สตานิมีร์ เปตรอฟ)
    เจ้าพ่อมอสโคว์ เป็นหนุ่มรัสเซียที่มีนิสัยไม่รัสเซียเอาซะเลย ติดไอศครีมฮาเก้นดาสราวกับยาเสพย์ติดและนิยมดูซีรีส์หนังจีนมากๆ ฮีโร่ในดวงใจคือโจวเหวินฟะ มีจุดเด่นคือไว้เคราแบบเดียวกับแบรดและชอบแต่งตัวแบบเจ้าพ่อมาเฟียฮ่องกง ลือกันว่าเป็นถึงเซียนกังฟูวูซูคนหนึ่งเลยทีเดียว

    [​IMG]
    Miloš Petrović (มิลอช เปโตรวิช)
    นักค้าอาวุธสงครามชาวมอนเตเนโกรผู้ชื่นชอบการเจรจาที่ราบรื่น สถานที่หรูหรา และดีวีดีมิยาบิ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะรับทำงานทุกอย่างโดยที่ไม่เลือกสังกัดฝ่ายใดๆทั้งสิ้น ลือกันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่างกับสตานิมีร์ มีจุดเด่นคือชอบใส่สูทสีแดงแปร๊ดจนแบตา

    [​IMG]
    Dude Vader (ดู๊ด เวเดอร์)
    หัวหน้าจักรวรรดิเป๊ปเปอร์ผู้แสนจะติงต๊อง ไม่ค่อยฉลาด หยาบคาย ชอบทำตัวเหมือนเด็กเล็กๆ แต่ลือกันว่ามีฝีมือในการต่อสู้ที่สูงเว่อร์เลยทีเดียว และยังลือกันว่าใบหน้าใต้หมวกเหล็กนั้นหน้าใสไร้ริ้วรอยอีกด้วย ว่ากันว่าจริงๆแล้วชอบสตาร์เทร็คมากกว่าสตาร์วอร์ส

    [​IMG]
    Dr. WTF (ด๊อกเตอร์ดับบลิวทีเอฟ)
    นักวิจัยคนสำคัญคนหนึ่งของจักรวรรดิเป๊ปเปอร์ แต่ไม่ค่อยฉลาด พูดจาเสียงดัง และชื่นชอบของแจกฟรีไม่เว้นแม้แต่กระดาษทิชชู่เป็นที่สุด รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์โลกแต่จริงๆแล้วเป็นชาวดาว1337

    .....
    ...
    .

    = Free Talk (Dirty To Me) =
    ประเดิมบอร์ดใหม่ด้วยการโพสต์ใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงดองเช่นเคย ทว่ายังไงก็ท่องไว้ว่าฟิคนี้ไม่ล่มแน่ๆ เพราะเป็นถึงโปรเจคใหญ่ของเราทีเดียว ส่วนการแนะนำคาร์แรคเตอร์ ในขณะนี้ขอแนะนำในสไตล์คุโรมาตี้และเฮลซิง(?)ไปก่อน เนื่องจากเราได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลตัวละครบางตัวและเพิ่งบางสิ่งบางอย่างให้กับตัวละครนั้นๆ ฉะนั้นโปรไฟล์ฉบับสมบูรณ์แบบถึงลูกถึงคนนั้นก็ต้องรอไปอีกซักพักใหญ่ๆ...

    เอ๊ะ!! ทำไมเรื่องนี้ตัวละครมันคุ้นๆนะ คำตอบก็คือมันใช่น่ะสิ!! เพราะมันเป็นฟิคแนวพาโรดี้ยังไงล่ะ มันก็ต้องมีล้อเลียนและกัดๆกันบ้าง!! :bad: (แต่บางตัวก็เกิดจากความชอบของผู้แต่งล้วนๆ ไม่ได้ล้อเลียนใครแต่อย่างใด)

    ยังไงก็ขอฝากฟิคออริจินัลเมากัญชาฟิคนี้ไว้กับอ้อมอกของทุกๆท่านด้วยนะคะ :china:

    ป.ล. จะว่าไปรู้สึกชอบฟอนท์ของบอร์ดใหม่มากเลย อ่านสบายตามากๆ :D
  5. Gunfinal

    Gunfinal Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    =[]=!!! กร๊ากกกกกกกกกก
    มันรั่วมากเลยจอร์ช!!!!! ไอ้ตุ๊ด เอ๊ยดู๊ด เวเดอร์ กะซีดีลามกรูปหมีพูห์นี่มัน... ขออุดหนุนเลยร้อยแผ่น (ซะที่ไหน)
    เปโดร....ซ่อมยานเองไม่ใช่เรอะเเล้วไหงพูดงี้ล่ะเนี่ย 555 มีปัญหานะเรานี่
    บั่นทอนปัญญาได้ดีจริงเชียว

    (นั่งรอตอนต่อไป กั่กๆๆ)
  6. cdaz

    cdaz นักเล่นแร่ แปรภาพ

    EXP:
    2,015
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    แนวดีมากครับ ภาพประกอบก็เก๋าได้ใจ ชอบๆ ครับ

    ขำโปรไฟล์ด้วย ยิ่ง ที่ชอบดูดีวีดีมิยาบิ นี่ 555+
  7. leaf

    leaf New Member

    EXP:
    1,279
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    สุดยอดฟิคสะท้านปฐพีพลัง"บ"มาติดตามผลงานของป้าต่อครับ :D
  8. Siegfried

    Siegfried Member

    EXP:
    69
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    =[]=!!..........
    มันรั่วจริงๆ ล่วย=[]= อ่านแล้วฮามากฮะ เอิ๊กกกกก
    ดู๊ดเวเดอร์นี่ หน้าใสไร้ริ้วรอยแบบ ไม่มีอะไรเลยอ๊ะป่าว=A=
  9. SANE

    SANE New Member

    EXP:
    50
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    พอมาอ่านเรียงกันรวดเดียวงี้จะขาดใจตายเอา orz
    ทำไมรู้สึกมันฮากว่าเดิมนะ.......
  10. bradhawke

    bradhawke New Member

    EXP:
    102
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิค Original Sci-Fi Parody ฯลฯ] Angel of Retribution

    #004 : Smells Like Mushroom Spirit

    มอสโคว์, สหพันธรัฐรัสเซีย

    ณ ย่านการค้าซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ๆเหล่ามนุษย์ต่างดาวทั้งหลายนิยมแห่กันมาเดินเล่นและชอปปิ้งกันให้แกลบตายไปข้างหนึ่ง เท่านั้นยังไม่พอ ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ๆสามารถพบเจอคนบ้าที่พบเห็นได้ไม่บ่อยมากนักบนดาวโลก ดังเช่นหนุ่มชาวฟินแลนด์ในชุดกริมรีพเปอร์กำลังเล่นกีตาร์ทรงเคียวยมทูตไปพร้อมๆกับร้องเพลงแรดๆอยู่กลางถนน และไม่ใกล้ไม่ไกลก็มีร้านขายข้าวแกงเคลื่อนที่ขนาดปานกลางที่แวะมาจอดขายอาหารอยู่ รวมถึงเหล่าชายโฉดในชุดสูทสีดำและแว่นกันแดดทั้งนั่งและยืนทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่แถวนั้นราวๆสามถึงสี่คน และดูท่าว่าเจ้าของรัานจะไม่อยู่ด้วยล่ะ...

    "มิสเตอร์เปตรอฟแน่ใจแล้วเหรอคับ? ไอ้ที่ท่างจะซื้อไอ้ไหคิกตี้นั่นน่ะ?" ชายชุดดำคนหนึงที่หน้าตาเหมือนอาตี๋ขายปาท่องโก๋หน้าปากซอยกล่าวถามชายผู้ที่เป็นหัวหน้าของเขา
    ชายผู้ที่เป็นหัวหน้าใหญ่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วเอาซิการ์ที่คาบอยู่ออกจากปาก "แน่ใจแล้วล่ะ เพราะชั้นอยากได้มันมาตั้งโชว์แทนรูปปั้นน้องบัตเตอร์คัพแห่งพาวเวอร์พัฟเกิร์ลเมดอินอุซเบกิสถานที่ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มันอุตริไปทำแขนหักทั้งสองข้าง ยิ่งนึกแล้วยิ่งแค้นจริงๆ"

    "แต่ว่านะครับ!!" ลูกน้องอีกคนที่หน้าตาเหมือนเป็นคนเยอรมันเอามือกระแทกโต๊ะกินข้าวของร้านข้าวแกง "ที่ผมเป็นห่วงจริงๆก็คือผมกลัวว่าบอสจะได้ไหลายคิตตี้แบบมีปากมาน่ะสิ!!"
    สตานิมีร์หรือชายแว่นดำผู้เป็นหัวหน้าจึงทำหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยถาม "อะเห? คิตตี้มีปากแล้วมันเป็นปัญหาตรงไหนล่ะ?"
    "ก็คิตตี้ที่มีปากน่ะ...มัน เอ่อ มัน..." ลูกกระจ๊อกคนเดิมตอบกับหัวหน้าแบบตะกุกตะกักเล็กน้อยก่อนที่จะเสียงดังลั่น "คิตตี้มีปากเป็นคิตตี้ของปลอมนี่ครับ!! คิตตี้ของแท้มันต้องไม่มีปากไม่ใช่เหรอ!?!" ซึ่งคำตอบที่ว่า ก็เล่นเอาตัวลูกกระจ๊อกอีกสองคนทำหน้าอึ้งจนลูกกะตาขาวจั๊วะราวกับหน้ากากแก้ว แต่สตานิมีร์กลับไม่แคร์ในเรื่องนี้เอาซะเลย เขาเอามือเท้าคางแล้วพูดอะไรบางอย่างกับลูกน้องของเขาทั้งสาม "จะว่าไปช่วงที่เราเคยไปถล่มแก๊งยากูซ่าแก๊งนึงในญี่ปุ่น พวกเราก็เข้าไปกินร้านเนื้อย่างสุดอร่อยร้านนึงมานี่นา... ใช่มะ?"

    ลูกน้องที่เป็นอาตี๋ก็สงสัยเล็กน้อยแล้วหันมาถามกับสตานิมีร์ "แล้วล้างเนื้อย่างที่ญี่ปุ่งมังเกี่ยวอะไรกะคิกตี้มีปากล่ะคับ?" ส่วนลูกน้องอีกสองคนที่เหลือก็ยังคงทำหน้าอึ้งแบบหน้ากากแก้วเหมือนเดิมเป๊ะ
    "เกี่ยวสิ" บุรุษแว่นดำผู้เป็นหัวหน้ายิ้มที่มุมปาก "ตอนนั้นสังเกตโลโก้ของร้านเนื้อย่างร้านนั้นมั้ยล่ะ? มันเป็นรูปหน้าคิตตี้สีชมพูแล้วเปลี่ยนจากจมูกปรกติเป็นจมูกหมูแทน ดูๆไปแล้วก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลย แถมยังน่ารักอีกต่างหาก"
    "แต่ว่านะครับ!!" เจ้าลูกกระจ๊อกเยอรมันคนเดิมแย้งแบบเดิมๆ "ยังไงผมก็อยากให้บอสได้ไหคิตตี้ของจริงที่ไม่ใช่แบบมีปากหรือแบบจมูกหมูอยู่ดี!! เข้าใจมั้ยครับ!?"

    และทุกคนก็เงียบกันไปราวๆ 0.08 วินาที

    สตานิมีร์พ่นควันบุหรี่แล้วส่ายหน้าเล็กน้อย "นายเนี่ยไม่ไหวเลยนะ เลิกพูดบทเดิมๆซักทีเหอะ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะเบื่อกันซะก่อน" ซึ่งจริงๆลูกน้องอีกสองคนที่ไม่มีบทพูดก็แอบสัปหงกไปแล้วล่ะ บุรุษแว่นดำผู้เป็นหัวหน้าเองก็ยิ่งทำหน้าเหนื่อยใจเข้าไปใหญ่ ก่อนที่จะหันไปเอ่ยกับลูกน้องอีกคนที่เหลือ "ไม่ไหวๆ นายน่ะมันน่าเบื่อมากเลยรู้มั้ย ถ้าเกิดตกงานขึ้นมาแล้วทำตัวแบบนี้ยังไงก็ไปเป็นตัวแสดงในละครซิมคอมตอนกลางวันไม่ได้หรอก" และจริงๆจนได้ สตานิมีร์ผู้ขึ้นชื่อเรื่องการเปลี่ยนเรื่องสนทนาโดยกระทันหันได้ก็เริ่มออกลายซะที
    ลูกกระจ๊อกชาวเยอรมันเริ่มทำท่าสะอื้น "แต่ว่านะครับ!! รายการบั่นทอนปัญญามันไม่เห็นจะเกี่ยวกับคิตตี้เลยนี่!! แถมผมเองก็ไม่เคยคิดเรื่องที่จะไปเล่นละครซิทคอมเลยนะครับบอส!!" เขาเริ่มงอแงแล้วทำท่าชักดิ้นชักงอไปมา เห็นแล้วอนาถตาสิ้นดีจริงๆ...

    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    และไม่ใกล้ไม่ไกลนั้นเอง... เหล่านักรับจ้างสารพัดก็เดินทางมาถึงที่หมายแล้ว สาวสวยชาวรัสเซียผู้มีหน้าตาสวยโหดเหมือนหัวหน้าแก๊งมาเฟียกวาดสายตาไปรอบๆเมืองเกิดของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะแอบดีใจจนน้ำตาไหลเล็กน้อยด้วยที่ยังเห็นประเทศรัสเซียเป็นปรกติสุขดี

    "คนเยอะจังนะ..." ฟรานทิชก้าเอ่ยเบาๆพอที่พวกของแบรดจะได้ยิน
    "ที่นี่ไม่ใช่ฟาร์มควายนะ อยู่ในเมืองใหญ่ก็ต้องมีคนเยอะสิ!! จะให้มีควายเยอะรึไงห้ะ!?!" อาสึนะผู้ซึ่งหมั่นไส้และอิจฉาสาวรัสเซียท่าทางแปลกๆอยู่พักใหญ่ได้หันมาตะคอกใส่ด้วยความเกลียดชังเล็กน้อยถึงปานกลางใส่ฟรานทิชก้า แล้วเสียงก็ช่างดังจนเป็นที่น่าอับอายสิ้นดี แต่โชคดีที่ไม่มีใครหันมามองเพราะว่าคนอื่นๆมัวแต่ไปสนใจไอ้หนุ่มพิลึกในชุดกริมรีฟเปอร์กันมากกว่าน่ะสิ ส่วนเปโดรก็ได้แต่แอบมองด้วยความอนาถใจอยู่เพียงไม่ถึงวินาทีก่อนที่จะเล่นโอเอนดันต่อ

    "นี่ๆ เธอเลิกทำตัวเป็นจุดสนใจของคนอื่นหน่อยเหอะ อาสึนะ" แบรดแกล้งทำเป็นเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายในขณะที่มือข้างหนึ่งนั้นอุ้มไหลายคิตตี้เอาไว้อยู่ "ยังไงซะถ้าเครียดนักก็ไประบายอารมณ์กับเจ้าเปโดรก็ได้" เขาพูดไปในขณะที่ยื่นมือชี้นิ้วไปทางเจ้าเปโดร เจ้ามนุษย์ต่างดาวสีแดงเลยสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินสิ่งที่แบรดพูดออกมาเมื่อครู่นี้ "งะ... ไหงมาลงที่ผมล่ะครับ? ผมทำอะไรผิด!?!" เจ้าตัวแดงถามหนุ่มหัวเกรียนด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย

    "เยอะแยะเลยว่ะพวก" แบรดตอบด้วยสีหน้าที่แฝงไปด้วยความชั่วร้าย แล้วเขาก็เริ่มนับนิ้ว "...ก็อย่างเช่นเล่นดีเอสในระหว่างหน้าที่ ปฏิบัติงานล่าช้า วิ่งช้ากว่าคนอื่น เอ่อ อืมม์... และบางทีก็ทำให้ต้องเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยล่ะ" ซึ่งมันก็ทำให้อาสึนะที่กำลังหงุดหงิดอยู่ครู่นี้ได้ยินสิ่งที่แบรดพูดออกมา จู่ๆเธอก็เปลี่ยนอารมณ์มาหัวเราะขี้แตกขี้แตนตามหนุ่มผมเกรียนชาวอเมริกันซะเฉย ส่วนเปโดรเองก็เริ่มทำหน้าจ๋อยจนเถียงไม่ออกแล้วน้ำตาตกไปซะแล้ว...

    "เอ้า นั่นไง เห็นสตานิมีร์นั่งดูดซิการ์อยู่ที่หน้าร้านข้าวแกงเคลื่อนที่นั่นแล้วล่ะ" แบรดชี้ไปยังตำแหน่งที่เหล่าสมาชิกโฮเทลเลนินกราดที่กำลังวี้ดว้ายกระตู๊วู้กันอยู่ ณ ร้านข้าวแกงเคลื่อนที่ และหลังจากนั้นเขาและพรรคพวกทุกคนก็เดินไปยังตำแหน่งที่มาเฟียแว่นดำนั่งอยู่ทันที

    "เป็นไงบ้าง? แบรด" สตานิมีร์ทักทายไปพร้อมกับยิ้มแย้มให้หัวหน้านักรับจ้างสารพัด "ไหลายคิตตี้ลายคิตตี้ล่ะ? สมบูรณ์ดีใช่ไหม?"
    หนุ่มอเมริกันยิ้มให้อย่างชั่วร้ายนิดๆ "แน่นอน มันสมบูรณ์ดีเลยล่ะพวก" เขาค่อยๆวางไหเมดอินเชคโกสโลวะเกียลงบนโต๊ะ "เออ ขอค่าเหนื่อยเพิ่มด้วยนะ พวกของผมอุตส่าห์ไปหากันแทบตายในไซบีเรีย แต่ค่าจ้างกลับได้แค่ห้าพันเหรียญเองเหรอวะ?" แบรดกล่าวขอเพิ่มค่าจ้างกับสตาร์นิมีร์อย่างหน้าด้านๆ เปโดรที่นั่งเล่นดีเอสอยู่ข้างๆได้ยินก็แอบเคืองเล็กน้อยเพราะเขาเป็นคนที่เหนื่อยมากกว่าคนอื่นเพราะเขาอุตส่าห์ลุยเข้าไปในฐานทัพใต้ดินของไซบีเรียเพียงคนเดียว แต่เขาก็ยังมีอารมณ์จิ้มดีเอสของเขาต่อไปอยู่ดีแหละ

    มาเฟียหนุ่มชาวรัสเซียวางมาดนิ่ง เขาครุ่นคิดอยู่ราวๆชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยปากถาม "...แล้วแบรดอยากได้ซักเท่าไหร่ล่ะ?"
    "ผมอยากได้ซักสองหมื่นว่ะ" แบรดตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่จริงจังแต่แฝงไปด้วยความกวนส้นบาทา
    "เอ่อ..." สตานิมีร์เลิกคิ้ว "ล้อเล่นใช่ไหมน่ะ? มันเยอะไปน่า เอาไปซักหมื่นเดียวก็แล้วกันนะ?"
    หนุ่มหัวเกรียนเริ่มไม่พอใจไปพร้อมๆกับชูนิ้วชี้และนิ้วกลาง "ผมบอกว่าสองหมื่นก็สองหมื่นสิวะ!!!"

    "...เฮ้ย คิตตี้ตัวนี้ของแท้นี่หว่า!! ไม่มีปากและไม่มีแม้กระทั่งจมูกหมูด้วย!! สุดยอดไปเลย!!" ลูกกระจ๊อกคนหนึ่งของสตานิมีร์เข้ามาสอดแทรกโดยที่ไม่ได้รับเชิญ
    หนุ่มมาเฟียแว่นดำชักปืนฮาร์ดบอลเลอร์คู่ใจจ่อหัวลูกกระจ๊อกที่สอใส่เกือกในเวลาเมื่อครู่นี้ในทันที แต่สีหน้าของหนุ่มรัสเซียก็ยังยิ้มแย้มอยู่แม้ว่านายลูกกระจ๊อกชาวเยอรมันจะทำหน้าซีดเหมือนเพิ่งเจอซาดาโกะเลื้อยออกมาจากทีวีสีจอแบนโซนี่บราเวียก็ตามที
    "อ่ะ หวังว่าคงไม่ใส่ใจกับหมูเห็ดเป็ดไก่เมื่อครู่นี้นะ" เขายังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วเก็บปืนของเขากลับเข้าที่ "เอาเป็นว่าสองหมื่นก็สองหมื่นก็แล้วกัน เหนื่อยมาเยอะแล้วชั้นให้เพิ่มตามที่ต้องการก็แล้วกัน"

    แบรดยิ้มแล้วยื่นมือจับเชคแฮนด์กับสตานิมีร์ "อ๊ะ ถ้าให้ตามที่ต้องการได้ งั้นผมขอล้านนึงเลยได้ไหมล่ะ?" หนุ่มอเมริกันยิ้มกวนๆ
    "ฮ่าๆๆๆๆ แบรดเอ๊ย" สตานิมีร์หัวเราะ "อย่ามาหยอกล้อเล่นกันน่า... แต่ถ้ามีงานช้างจริงๆมาให้อาจให้ค่าจ้างล้านนึงก็ได้นะ อ๊ะ! จริงสิ ชั้นมีเรื่องจะถามอย่างนึง" เขาหยุดหัวเราะแล้วเหลือบมองไปที่คนบางคน
    หนุ่มหัวเกรียนทำหน้าสงสัยนิดหน่อย "หือ? มีอะไรสงสัยเรอะ? ว่ามาซะดีๆเลย"
    "แม่สาวผมทองในชุดสูทที่มีรอยแผลเป็นเยอะๆนั่นใครล่ะ? สงสัยตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว เห็นเดินมากับพวกนายตั้งแต่ที่เห็นเลย" สายตาของสตานิมีร์มองไปที่ฟรานทิชก้าอย่างไม่ไว้วางใจนัก

    "อ๋อ แฟนใหม่ของผมเองแหละ สวยดีใช่มั้ยล่ะ?"

    ทันทีที่แบรดพูดจบ อาสึนะโผเข้ามาเบิร์ดกะโหลกนายแบรดหนึ่งที ส่วนฟรานทิชก้าเองก็ยังทำสีหน้าตายสนิทแม้ว่าเธอจะได้ยินและหันมามองก็ตาม ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าเธอคิดอย่างไรกับคำพูดของแบรดเมื่อครู่นี้นอกจากตัวเธอเอง ส่วนทางสตานิมีร์ก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ

    "อืมม์ ช่างมันเถอะ... แต่ยังไงก็ขอบคุณอีกทีสำหรับงานนี้นะ แบรด" มาเฟียหนุ่มชาวรัสเซียเลิกทำท่าสงสัยแล้วกล่าวขอบคุณกับแบรดอย่างเต็มใจ "แต่ว่า..." และเขาก็ทำหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย "หลังจากนี้ชั้นคงไม่รู้จะจ้างนายให้ทำอะไรอีกแล้วล่ะ"

    หนุ่มอเมริกันทำตาเบิกโพลงเล็กน้อยในทันทีที่สตานิมีร์พูดจบประโยคแรก "จริงๆนะ ไม่รู้จะให้ทำอะไรแล้ว เพราะแต่ละงานนายเรียกค่าจ้างแพงไปหน่อย ทั้งๆที่ก็เข้าใจล่ะว่างานบางอย่างมีแค่พวกนายเท่านั้นที่บ้าพอที่จะทำได้" มาเฟียหนุ่มขยับแว่นดำเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ แบรดเองก็ได้แต่นึกในใจว่าไอ้หมอนี่มันต้องหลอกด่าว่าทีมของเขามันบ้าแน่ๆ

    แต่แล้วก็มีกระสุนปืนพุ่งเฉียดสีข้างของสตานิมีร์ที่กำลังยืนยิ้มไปกอดไหลายคิตตี้ไป...

    ทุกคนในทีมนักรับจ้างสารพัดและสมาชิกแก๊งโฮเทลเลนินกราดต่างก็ยืนนิ่งไปประมาณสองถึงสามวินาที ซึ่งทุกคนก็เห็นแล้วว่าเริ่มมีกลุ่มชายชาวรัสเซียในชุดสูทราคาถูกที่อบอวนไปด้วยกลิ่นบุหรี่ราคาถูกเริ่มทยอยกันมาแล้วชักปืนออกมายิงกันในเมือง
    "เฮ้ โคห์เลอร์ เอาไหนี่ไปเก็บไว้ในรถก่อน" มาเฟียรัสเซียแว่นดำรีบส่งไหให้ลูกกระจ๊อกที่หน้าตาเหมือนคนเยอรมัน "รีบๆเอาไปเก็บเลยนะ แต่อย่าให้แตกหรือมีรอยแม้แต่นิดเดียวล่ะ!!" ซึ่งนายลูกกระจ๊อกคนนั้นก็พยักหน้าแล้วรีบวิ่งเอาไหไปเก็บทันที และนายกระจอกอีกสองคนเองก็วิ่งตามไปด้วยโดยที่สตานิมีร์ไม่ได้สั่ง แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
    และทันใดนั้นสตานิมีร์ก็ชักปืน AMT Hardballer รุ่น Longslide สีเงินสองกระบอกขึ้นมาในทันใด "พวกแก๊งเซเลซเนฟกับแก๊งอิวานอฟเริ่มออกมายิงกันกลางเมืองอีกแล้วสินะ สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นบ่อยจริงๆ ต้องจัดการบ้างซะล่ะ"

    "เอ่อ..." แบรดควักดีเซิร์ทอีเกิ้ลของเขาขึ้นมาเช็คจำนวนกระสุน "โอ๊ะโอ เหลือกระสุนตั้งสองนัดแน่ะ" และเขาก็ชายตามองไปทางอาสึนะ
    สาวญี่ปุ่นเห็นดังนั้นก็ได้แต่ยักไหล่ "ตามบุญตามกรรมก็แล้วกันย่ะ ชั้นไม่สน" แล้วเธอก็หัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ
    "เอาเป็นว่าขโมยปืนจากไอ้พวกกระจอกแถวนี้มาใช้ไปก่อนก็ได้ล่ะมั้ง?" แบรดเริ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย

    สตานิมีร์ยืนยิงลูกกระจอกของทั้งสองแก๊งอย่างง่ายดายราวกับว่ามันเป็นเกมยิงเป็ดของเครื่องแฟมิคอมยังไงยังงั้นเลย ก็ใช่น่ะสิ มันเป็นแค่ตัวประกอบราคาถูก มันก็ย่อมตายง่ายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

    หลังจากที่เริ่มปะทะกันได้ไม่นาน ก็เริ่มมีมาเฟียบางคนกลายเป็นศพกันแล้ว หนุ่มอเมริกันก็ค่อยๆย่องเข้าไปขโมยปืนจากศพของมาเฟียรัสเซียคนหนึ่ง...
    แบรดมองลักษณะของปืนเพื่อที่จะได้รู้ว่าปืนนี้เป็นปืนรุ่นไหน เขาเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์นิดหน่อย "ปืนบ้าอะไรวะเนี่ย รูปทรงก็แม่งป๋องแป๋งชิบหาย แถมยัง Made in China อีก ท่าทางจะดูห่วยจริงๆ"
    "ดูสิ คุณฟราน ปืนนี้มันห่วยจริงๆ... เอ่อ หายไปไหนแล้ว?" หนุ่มอเมริกันหันไปหาสาวรัสเซียหน้าบาก แต่เขาก็มองไม่เห็นเธอ "มีใครเห็นเธอบ้างมั้ย? แหม่... จู่ๆก็หายตัวไปแบบไม่บอกกันเลย"
    อาสึนะหันมาตอบด้วยอารมณ์หมั่นไส้ "หนีกลับบ้านไปแล้วมั้ง เห็นหล่อนบอกว่ามีบ้านอยู่ในมอสโคว์นี่ล่ะ!" แล้วเธอก็หันไปสับเหล่ามาเฟียกระจอกด้วยดาบที่เธอคิดว่าไม่มีอะไรที่ดาบเล่มนี้ตัดไม่ขาด
    "เห็นว่าไปซื้อบุหรี่ตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วอ่ะครับ" เปโดรตอบในขณะที่นั่งเล่นดิจิมอนดีเอสอย่างเมามันส์ที่ใต้โต๊ะของร้านข้าวแอง ใจคอมันจะเล่นแต่เกมรึไงฟะ ส่วนอาสึนะเองก็ไล่ฟันพวกมาเฟียกระจอกๆอยู่ไม่ไกล และสตานิมีร์ก็ยังคงยิงสอยอย่างง่ายดายอยู่เหมือนเดิม เพราะมันกระจอกจนฆ่าง่ายมากจริงๆ

    จู่ๆก็มีมาเฟียรัสเซียคนหนึ่งที่สุดชุดสูทโคตรอภิมหาถูกแถมยังเหม็นเหล้าถูกๆโผล่มาเอาปืนจ่อตัวแบรด หนุ่มอเมริกันมองไปยังปืนที่มาเฟียคนนี้ถืออยู่ และก็พบได้ว่ามันใช้ปืน Made in China แบบเดียวกับที่แบรดจกมาเมื่อซักครู่นี้เป๊ะๆเลย
    แบรดยิ้มอย่างเป็นปรกติของตัวโกง "เฮ้ แก รู้มั้ยว่าไอ้่ปืนนี่มันดูห่วยมากๆ ห่วยจริงๆ" ชายผมเกรียนชาวอเมริกันเริ่มแสยะยิ้ม "ขนาดกุ๊ยบ้านนอกมันยังพกปืนที่มันดีและมีคลาสกว่านี้เลยว่ะ"
    และทันที่ที่พูดจบ แบรดก็จ่อยิงมาเฟียรัสเซียผู้โชคร้ายคนนี้ด้วยปืนห่วยๆจนลงไปนอนกองกับพื้นอย่างน่าสมเพช "นี่ล่ะ... เคยคิดถึงความรู้สึกของคนที่ถูกยิงด้วยปืนห่วยๆแบบนี้มั่งมั้ยวะ?" แต่มันโดนยิงตายไปแล้วคงจะลุกขึ้นมาตอบได้หรอกว่ารู้สึกยังไง

    "พอเหอะ" แบรดโยนปืนก๋องแก๋งทิ้ง แล้วก็เดินไปยังตำแหน่งที่เปโดรเล่นเกมอยู่ใต้โต๊ะทันใด "เปโดร! เอาเงินไปเก็บที่ยานแล้วเตรียมตัวออกจากที่นี่ได้เลย เดี๋ยวชั้นจะไปตามคุณฟรานกลับมา แป๊ปนึงนะ"

    "ไม่ต้องแล้วเฮีย" มนุษย์ดาวฮานาก้าชี้ไปทางขวามือ "เจ๊เค้ามาแล้วล่ะครับ" และตำแหน่งที่เปโดรชี้ไปก็เห็นฟรานทิชก้าเดินกลับมาพร้อมกับแบกบุหรี่หนึ่งลัง แบรดเห็นดังนั้นก็รีบเดินฝ่าห่ากระสุนกระจอกๆไปหาฟรานทิชก้า ส่วนเปโดรเองก็เริ่มวิ่งแบกกระเป๋าเงินกลับขึ้นยานไปพร้อมๆกับเล่นDSไปด้วย สามารถจริงๆ

    "คุณฟราน หายไปไม่บอกผมเลยนะ" หนุ่มอเมริกันพูดกับสาวรัสเซียด้วยน้ำเสียงที่นุ่มกว่าที่เป็นอย่างปรกติมาก "ให้ผมช่วยแบกมั้ย?" เขายิ้มอย่างพวกขี้หลีเล็กน้อย
    ฟรานทิชก้ายังคงทำหน้าตายในแบบของเธอ "ไม่เป็นไร... จริงๆฉันเดินไปซื้อบุหรี่มาได้พักใหญ่แล้วล่ะ... แต่มีปัญหากับคนขายนิดหน่อย ก็เลยช้าน่ะ..." เธอก็ยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานปนเนือยๆอยู่เช่นเดิม โดยที่ไม่ได้รู้สึกเลยว่ากำลังยืนอยู่กลางวงไอ้พวกกุ๊ยกระจอกๆยิงกันอยู่ หรือว่าเป็นเพราะพวกนั้นมันยิงกันห่วยแตกเกินไปก็เป็นได้
    "เอาไว้ไปคุยกันต่อในยานดีกว่า เราต้องออกจากที่นี่กันแล้วล่ะ" แบรดพูดราวกับว่ามีเรื่องใหญ่ที่ทำให้ต้องหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ แต่สาเหตุส่วนหนึ่งก็คือหมดอารมณ์เพราะปืนห่วยๆและรู้สึกอยากออกไปนอกโลกเต็มทนนั่นล่ะ "อาสึนะก็ด้วย หยุดเล่นกับพวกกระจอกได้แล้ว กลับเหอะ"

    "ชั้นก็ว่างั้นแหละ!" สาวญี่ปุ่นควงดาบแล้วโยนขึ้่นฟ้า "มันกระจอกเกินซะจนขนาดที่พวกของไอ้แว่นดำนั่นมันเบื่อจนเผ่นกลับไปโดยที่พวกเราไม่รู้ตัวเลย แย่จริงๆ!" และดาบก็ร่วงหล่นลงมาปักเท้าซ้ายของเธอจนเลือดกระฉูด ไม่รู้จะโยนขึ้นฟ้าไปทำไม โง่จริงๆ
    แบรดมองไปอาสึนะที่เลือดพุ่งจากเท้าซ้ายแล้วก็ได้แต่อนาถใจ "จะยังไงก็ช่างมันเหอะ กลับขึ้นยานกันดีกว่า บัตรดื่มเบียร์ฟรีที่สถานีอวกาศคริสโตเฟอร์จะหมดเขตวันนี้ละ" เขาเดินกลับยานโดยที่ปล่อยให้สาวญี่ปุ่นเดินกลับเองทั้งๆที่เลือดกระฉูดอยู่

    "เฮ้ย!!! คนกำลังเจ็บอยู่ก็ช่วยพยุงหน่อยเซ่!!!! โอ๊ยยยยย!!"

    ชายชาวอเมริกันถอนหายใจเล็กน้อย "แหม ก็บ้าโยนดาบให้มันลงมาปักตีนตัวเองเองนี่ ก็พยายามเดินกลับเองก็แล้วกัน" แล้วเขาก็หัวเราะเยาะเย้ยสาวญี่ปุ่น อาสึนะก็ได้แต่กัดฟันด้วยความเคียดแค้นเล็กๆ "ซักวันถ้าเอ็งโดนแบบนี้บ้างแล้วจะรู้สึกย่ะ!!"

    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    ณ สถานีอวกาศลึกลับแห่งหนึ่ง

    "DAMN YOU!!!!" ดู๊ดเวเดอร์ตะคอกด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น "เป็นเพราะแค่ไอ้เด็กกะโปโลตัวกะเปี๊ยกผิวสีแดงเนี่ยนะ? แกถึงได้เอาตู้เย็นกลับมาไม่ได้!?! ห๊า!?!" เขากระชากคอเสื้อของด็อกเตอรดับบลิวทีเอฟแรงขึ้นเรื่อยๆ ด็อกเตอร์หัวโล้นผู้ไร้ทางสู้เองก็ได้แต่เกิดอาการหวาดกลัว "เอ่อ..." เขาหายใจแรงขึ้นแล้วพูดโดยที่ปากยังไม่หายสั่น "ขออภัยนะ... ครับท่าน... แต่ผมว่า... นั่นมันเป็นตู้... โคลด์สลีปมากกว่าที่จะเป็นตู้เย็น... ใส่ขนมนะครับ!"

    เวเดอร์ได้ยินดังนั้นเขาก็ทุ่มดร.ดับบลิวทีเอฟอัดเข้ากับผนังห้องทันที แต่ถึงอย่างไรมันก็ทำให้ด็อกเตอร์เกิดอาการเจ็บและมึนเล็กน้อยเท่านั้น
    "ฮ่า!!!" บุรุษในชุดสีดำถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วชูโทรศัพท์มือถือห้อยปิกาจูขึ้นมา "ช่างมันเถอะ เมื่อสักครู่นี้ข้าสั่งซื้อตู้เย็นซุปเปอร์สเปเชี่ยลของจอร์จและซาร่าห์จากทีวีไดเร็คมาแล้วล่ะนะ" จากที่โกรธเกรี้ยวอยู่เมื่อครู่นี้ ก็กลายเป็นว่าอารมณ์ดีขึ้นมาในทันทีทำใด อารมณ์แปรปรวนจริงๆพ่อคนนี้

    "และข้าก็จัดการติดต่อกับหน่วยสืบค้นข้อมูลให้ตามหาข้อมูลของไอ้เด็กเวรนั่นแล้วล่ะ" เวเดอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "ต่อไปก็ต้องติดต่อหน่วยพิเศษที่ข้าไว้วางใจมากที่สุด เพราะพวกเค้าเป็นแฟนเรื่องสตาร์เทร็คเหมือนข้าเลย หึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" ทั้งด็อกเตอร์ดับบลิวทีเอฟและการ์ดรักษาความปลอดภัยในห้องต่างเห็นแล้วก็นึกในใจว่าเอ็งเป็นแฟนสตาร์คเทร็คแต่ทำไมถึงแต่งกายเหมือนวายร้ายในตำนานจากอภิมหาสงครามอวกาศอันเลื่องชื่อก็ไม่รู้

    "ผมขอตัวก่อนดีกว่าครับท่าน ผมสัญญาว่าคราวหน้าจะไม่ทำงานพลาดแล้ว" ชายร่างเตี้ยหัวโล้นคำนับแล้วเดินหันหลังออกจากห้อง ทิ้งให้การ์ดสองคนผู้น่าสงสารฟังเสียงหัวเราะอันโคตรน่ารำคาญของดู๊ดเวเดอร์ต่อไป

    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    ตัดกลับไปยังกรุงมอสโคว์

    ชายหนุ่มผมดำในชุดสูทสีดำและสลิปเปอร์กระต่ายน้อยสีขาวกำลังเดินไปยังร้านขายข้าวแกงเคลื่อนที่ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่กันแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นสภาพร้านข้าวแกงที่ถูกยิงจนพรุนอยู่ตรงหน้าแล้ว...
    "ไม่นะ!! ผมทำอะไรผิด!?!" เขาเริ่มงอแงและโวยวาย "ทำไมทุกคนถึงต้องถล่มร้านข้าวแกงเคลื่อนที่ของผมด้วย!?! ผมหล่อเกินไปใช่ไม๊!?!" ชายหนุ่มเริ่มย่อตัวลงแล้วเริ่มปลูกเห็ดบนพื้นคอนกรีต "ทุกคนอิจฉาความหล่อของผมขนาดที่ต้องเอาปืน Made in China มาถล่มกันแบบนี้สินะ..."

    "ให้ตายเถอะยาน่า ไอ้หมอนี่มันเป็นอะไรของมันล่ะเนี่ย" ตำรวจหนุ่มรัสเซียคนหนึ่งที่มาเคลียร์พื้นที่ถามเจ้าหน้าที่สาวผู้ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาไปพร้อมๆกับทำหน้าตางงๆ "แล้วจู่ๆก็มานั่งกุมเข่าแล้วปลูกเห็ดกลางสถานที่สาธารณะด้วย พิลึกคนจริงๆ" และตำรวจสาวได้แต่มองอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วหันมาตอบกลับกับเพื่อนตำรวจหนุ่มของเธอ "แต่เค้าก็สามารถจริงๆนะคะที่ปลูกเห็ดบนคอนกรีตได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนปกติทั่วไปเค้าทำกันไม่ได้เลย"

    "ฮือๆ... ทำไมโชคชะตาถึงต้องทำร้ายคนที่หล่อที่สุดในจักรวาลอย่างผมด้วยล่ะ? ผมออกจะหล่อและมีเสน่ห์มากกว่าทุกคนในจักรวาลนี้อีกนะ ทำไมหนอ ทำไม?"

    ตำรวจทั้งสองที่มองดูชายหนุ่มท่าทางประหลาดๆปลูกเห็ดอยู่ครู่นึงต่างก็หันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมายแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่ทั้งคู่จะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองที่เป็นประโยชน์กว่าการมายืนดูคนปลูกเห็ดบนคอนกรีตต่อไป... ว่าแต่ชายหนุ่มที่อ้างว่าตัวเองหล่อที่สุดในจักรวาลคนนี้เป็นใครกันนะ? และพวกของแบรดที่เดินทางสู่อวกาศกันแล้วจะพบเจออะไรกันต่อไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะลืมอะไรบางอย่างไปด้วยล่ะ

    . . . . . . . . . .

    To Be Continued...

    Next Episode : #005 The Real Beginning


    ...
    ..
    .

    = Fun Facts & Trivia =
    1. เฮลโหลคิตตี้ของจริงจะไม่มีปาก(ยกเว้นในเวอร์ชั่นการ์ตูนทีวี เพราะถ้าในการ์ตูนคิตตี้พูดแบบไม่เปิดปากก็คงจะหลอนพิกล) แต่คิตตี้ของปลอมมักจะมีปาก มีคิ้ว มีจมูกเป็นหมู หรืออื่นๆที่แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่คิตตี้ของซานริโอ้แน่นอน (มีร้านเนื้อย่างร้านหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นใช้โลโก้เป็นรูปคิตตี้แต่มีจมูกเป็นหมูด้วย)
    2. เกมยิงเป็ดของเครื่องแฟมิคอม ก็คือเกม Duck Hunt ที่หลายๆคนน่าจะทันได้เล่นกันนั่นล่ะ ซึ่งคงจำกันได้เกมนี้ต้องใช้จอยปืนในการเล่นด้วยล่ะ
    3. แก๊งมาเฟียรัสเซีย Hotel Leningrad มันล้อแก๊ง Hotel Moscow ในเรื่อง Black Lagoon นั่นแหละ (แม้อิมเมจของสตานิมีร์จะดูคล้ายเฮียจางก็เถอะ)
    4. "ปืนนี้มันห่วย ห่วยจริงๆ ขนาดกุ๊ยบ้านนอกยังพกปืนที่ดีกว่านี้เลย" - Ms. Balalaika from Black Lagoon
    5. สงครามอวกาศอันเลื่องชื่อ? ใช่แล้วล่ะ มันคือ Star Wars นั่นแหละ
    6. พวกตัวประกอบที่ใส่ชุดโหลๆถูกๆ และตายง่ายจนเกินไปหรืออาจตายไม่เนียนด้วย มักจะพบเห็นได้ในหนังแอ็คชั่นเกรดต่ำๆหลายเรื่อง แต่บางครั้งก็สามารถพบเห็นได้ในหนังระดับตำนานอย่าง Star Wars เหมือนกัน ซึ่งสังเกตว่าพวกสตอร์มทรูเปอร์มันตายง่ายกันมากเลยล่ะ แถมตายไม่เนียนกันด้วย
    7. ท่าที่อาสึนะควงดาบแล้วโยนขึ้นฟ้าก่อนที่ดาบจะร่วงหล่นมาปักเท้าตัวเองเป็นท่าที่มาจากตัวละครตัวหนึ่งในเกม Outlaw Tennis
    8. หนุ่มในชุดกริมรีฟเปอร์ในช่วงต้นเรื่องอาจเป็นมือกีตาร์ชื่อดังคนหนึ่งแห่งวงเมทัลชื่อดังจากฟินแลนด์ก็เป็นได้

    = Free Talk (Dirty To Me) =
    ในที่สุด!! ในที่สุด!! ในที่สุด!!!!!
    ดองมาเป็นปี ในที่สุดตอนใหม่มันก็มาจนได้!!!!
    หลังจากที่แต่งๆลบๆ ติดภาระกิจสำคัญบ้าง ติดนู่นติดนี่ฯลฯ จนไม่ได้เป็นอันแต่งต่อ แต่ในที่สุดมันก็มา!! :555:
    อาจมีหลงๆลืมๆอะไรไปบ้างเพราะเว้นช่วงแต่งไปนานมากๆ นานพอสมควร ต่อไปก็หวังว่าตอนต่อๆไปน่าจะมาเร็วกว่านี้

    อาจอ่านยากนิดนึงเพราะแต่งใน Notepad ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยค่ะ ^^;

    ปล. ตอนนี้ไม่มีแนะนำตัวละครนะคะ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะแนะนำตัวละครบางตัว และตอนนี้ก็มีแต่ตัวประกอบออกมาเป็นเสียส่วนใหญ่ด้วย
  11. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    จำได้ลางๆว่าเคยอ่านฟิคบั่นทอนปัญญาเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว ในที่สุดก็ได้อ่านตอนใหม่ซักที ยังคงบั่นทอนจริงๆ อ่านแล้วฮามาก หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้านไม่มีผิด ฮาๆ
  12. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    โห คิดถึง เรื่องนี้ ฮาหัวทิ่มบ่้อมากเลย

    เอ้าๆผมมาช่วยดันแล้ว เป็นฟิคที่ทรมานในการอ่านมาก 5555 หายใจไม่ทัน

Share This Page