เรื่องเล่าที่ร่วงหล่น ตามHDD ที่จากไป [สถาณะตายสนิท]

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย joi100, 17 พฤศจิกายน 2007.

  1. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    เป็นยัยตัวร้ายจริงๆเล้ย โรวีเนียเนี่ย :E :E

    พี่นักเดินทางกลับมาแล้ว พักร้อนนี่หายร้อนรึร้อนกว่าเดิมคะ อิอิ
  2. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    วีรกรรมของเวก้า.....อ้อ ชกหน้าผู้คุมสอบสินะ

    ไงเพ่ ไปฝึกวิชาบนเขากลับมาเหาะได้รึยัง ถ้าเหาะได้แล้วมาสอนผมด้วยนะ 55+
  3. pop30711

    pop30711 New Member

    EXP:
    1,155
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    หายไปนานนะเนี่ย คิดถึงจังเลยครับ ไปพักร้อนมาคงสนุกนะครับ

    อ่านแล้ว เพิ่งรู้ว่าอเมทิสนี่กล้าท้าทายอำนาจมืดซะขนาดนี้.......
  4. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    โอ้ ท่านนักเดินทาง กลับมาถึงแล้วสินะครับ เหอะๆๆ ได้สุดยอดวิชาอะไรกลับมาบ้างครับเนี่ย

    (ผมยังแต่งของตัวเองไปได้สามตอนเอง ==" ช่วงก่อนหน้านี้ โดนมรสุมงานของการเป็นรุ่นพี่จนกลายเป็นไหไปอีกเรื่อง)

    จะรออ่านบมใหม่นะครับ^^ (ส่วนไหผม จะหาเวลาเอาอัลเทม่าเวพ่อน ทุบทีหลัง)
  5. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับผม ^^

    กลับมาทั้งทีก็เอาบทนอกรอบที่ยาวที่สุด (ในตอนนี้... จากที่ดูๆมาง่ะนะ) มาให้อ่านกันแบบคุ้มค่าจุใจจริงๆ เหอๆๆ

    จะรอชมตอนต่อไปนะค้าบบบบ

    ปล.เร็วๆนี้ที่ว่า..... มันเมื่อไหร่ล่ะเฟ้ย!!!! =[]=!!!!
  6. parwankorn

    parwankorn Member

    EXP:
    60
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    โอ้รอมานาน นะเนี้ย ได้อ่านละ

    ดีใจที่กลับมาจังเลย
  7. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    ในที่สุดก็ขึ้นบทที่ 4 ซักที เป็นไงครับพี่น้องทุกท่าน ช่วงนี้ ก็มีนิยายใหม่เปิดตัวขึ้นเรื่อง นิยายเก่าๆก็ดองกันเข้าไป(แอบเหน็บน้องๆ กรั๊กๆ) แต่นิยายเรื่องนี้ก็ยังคงหน้าด้านลงตอนใหม่อยู่เรื่อยๆ ถึงทุกวันนี้ผู้อ่านจะเหลือกันแต่คนกันเองแล้ว แต่ผมก็ยังคงเขียนไปเรื่อยๆอยู่ดี หวังว่าคงจะไม่เบื่อยนิยายเรื่องนี้กันไปซะก่อน ถ้ามีอะไรอยากติชม หรือให้แก้ใขก็บอกกันได้ตามสะดวกนะครับ ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องทุกคน ครับผม


    Near


    [action]สาบายดีเช่นกันครับ ไม่เจ็บไม่ใข้ แต่ไม่ค่อยมีตังใช้ ฮาๆ[/action]
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    !~Hell~!

    [action]ยินดีที่แวะเข้ามาอ่านนะครับไม่เจอกันนานทีเดียว ว่างๆก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนกันได้ตามสะดวกนะครับ[/action]


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ยูคิฮิเมะ~ Gespenst Jaeger


    [action]ไม่"ร้อน"กว่าเดิมหลอกครับ แต่ "หลอน" กว่าเดิมน่ะสิ ฮาๆ[/action]
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Yoshiki : Fate Sugoi !!!



    [action]มีที่ไหนล่ะฟะ เหาะได้ล่ะน้องเอ๊ย ไม่แต่โรค"ทรัพย์จาง" จะเอาจากพี่มั๊ยน้อง?[/action]
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    Twin-Fenrir


    [action]ก็สนุกดีครับผม แล้ว Twin-Fenrir เป็นไงบ้างล่ะครับสบายดีใหม?[/action]
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    MaxlanceR : Freedom Mode

    [action]มาตามเจ้าโยอีกคนและ มันมีที่ไหนล่ะฟะไอวิชาพรรคนั้น มีแต่โรค"ทรัพย์จาง" เอาไปอีกคนมั๊ยล่ะแม๊กคุง[/action]
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Paia: Yusei (5D's) Mode

    [action]น่านสิเมื่อไรนะ อ่านตอนใหม่เดี๋ยวก็รู้ล่ะมั๊งครับ เอิ๊กๆ[/action]
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Stay With Loyal

    [action]ยินดีที่ยังแวะเข้ามาเยี่ยมชมอยู่นะครับ[/action]
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
  8. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [กลับมาพร้อมบทนอกรอบให้หายคิดถึง]

    เรื่องเล่าจากแสงและเงา เรื่องที่ 4 นักดาบจากแดนใต้ (1)

    ยามค่ำคืนที่ริมฝั่งแม่น้ำ "เซลว่า"

    บัดนี้มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง เหมือนกำลังพยายามหลบหนีอะไรบางอย่าง เธอมาหยุดยืนหอบใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่เธอหยุดยืนได้ไม่นานนักก็ มุ่งหน้าวิ่งต่อไป หญิงสาวที่มี ผมสีเงินยาวสลวย ดวงตากลมโตสีแดงสด ดุทับทิมชั้นยอด สวมเสื้อแขนกุดสีดำ มีสายเข็มขัดสีดำรัดต้นแขน วิ่งไปอย่างไร้จุดหมาย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต จริงๆ ที่ "จัสมิน ไอล่า ฟอรส์เฟรดส์" เธอต้องหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ ถึงด้านหลังของเธอจะไม่เห็นมีอะไรที่ไล่ตามหลังเธอมา

    แต่ จัสมิน รู้ดีว่า มีมือสังหารไม่ต่ำ กว่า 20 คนกำลังตามเธอมาอย่างเงียบกริบและพร้อมที่จะลงมือทันที ที่พวกมันตามมาถึงตัวเธอ ซึ่งมือสังหารพวกนี้ ต่างเป็นระหัวหัวกระทิของตระกูลของเธอทีเดียว สาเหตุนี่เธอต้องหนีเช่นนี้ มันก็เริ่มต้นมากจาก การที่เธอเบื่อหน่ายกับการที่ต้องไปฆ่าคนตามคำสั่ง เธอยากจะออกไปเดินภายใต้แสงสว่าง ดั่งเช่นคนอื่นบ้าง

    จุดเริ่มต้นที่ทำให้ ความเชื่อในคำสอนที่ว่า "ฆ่าได้...รึฆ่าไม่ได้" ของเธอสั่นคลอนอย่างรุนแรง มันก็มาจาก พ่อค้าผมส้มคนหนึ่ง ที่ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้แก่เธอ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการต่อสู้กับเธอ หรือ ต้องการค่าหัวอันสูงลิ่วของเธอ แต่เจ้าหมอนั่น ต่อสู้เพื่อปกป้อง เพื่อนพ้อง ของเขาต่างหาก

    เหตุการณ์ ที่เธอต้องต่อสู้กับ เด็กหนุ่มทั้ง 3 คน ที่เวลเจครั้งนั้น ทำให้เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไม พวกเขาต้องต่อสู้ทั้งที่ยังไงก็ไม่มีทางชนะเธอได้เลย แต่พวกเขาก็ยังสู้จนสุดกำลัง แล้วสิ่งที่เธอรู้ต่อมาก็คือ พ่อค้าผมส้มคนนั้น ถูกไล่ออกจากบ้าน เพราะการที่เขาออกมาช่วยเพื่อน ในคืนนั้นด้วย

    "ทำไมกันคำว่า `เพื่อน` มันมีค่ามากมายขนาดต้องยอมเสียสละขนาดนี้เชียวรึ? " คำถามๆนี้เธอไม่สามารถหาคำตอบได้ซักที ชีวิตที่ตั้งแต่จำความได้เธอก็อยู่กับการฝึกให้เป็นนักฆ่าที่เย็นชาดั่งเครื่องจักร แล้วทำไมเธอต้องฆ่าตามคนอื่นสั่งด้วยล่ะ? ประกายความคิดเล็กๆ ที่ถูกสะสมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินออกจากตระกูล ฟอรส์เฟรดส์ โดยไม่สนใจผลที่จะเกิดขึ้น

    และ สิ่งที่เธอได้รับอยู่ตอนนี้ คือการปฎิเสธ คำขาดที่หัวหน้าตระกูลยื่นให้แก่เธอ ว่าจะกลับเข้าตระกูลตามเดิม หรือ จะตาย ซึ่งคำตอบที่เธอให้ไปก็คือ ยังไงเธอก็ไม่มีทางกลับไปที่นั่นเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

    ห้วงความคิดของเธอต้องหยุดลง เมื่อเหล่ามือสังหารในชุดสีดำ เกือบๆ 20 คน มายืนดักหน้าเธอไว้ การวิ่งของสาวผมสีเงินจึงต้องหยุดลง พร้อมๆกับมือสังหารจำนวนพอกับด้านหน้า ที่ตามหลังเธอมา บัดนี้ก็มาถึงตัวเธอแล่วเช่นกัน

    มือสังหาร จำนวนเกือบ 40 คน กับ สาวน้อยผมสีเงิน และ ดาบสโนวเดวิล ประจันหน้ากันที่ริมฝั่งแม่น้ำเซลว่า จัสมินรู้ดีว่า การจะล้มคนทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การจะเปิดทางเพื่อ หลบหนีก็แทบเป็นไปไม่ได้เช่นกัน แต่ในเวลานี้เธอไม่มีทางเลือก นอกจากต่อสู้อย่างสุดกำลังเท่านั้น

    ทันทีที่มือสังหารคนแรกขยับตัว ศรน้ำแข็งก็ถูกสาดไปรอบทิศทาง ราวกับเป็นสัญาณเปิดฉากการต่อสู้ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือ ศพของมือสังหาร และ สาวน้อยที่ยืนหอบ พร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล และ ดาบในมือเธอ ที่ถูกปักลงไว้กับพื้นเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้ม

    แต่ยังที่เธอไม่ทันจะได้คิดว่าจะทำอะไร มือสังหาร อีกหนึ่งคนที่ราวกับจับตาดูการต่อสู้ของเธอตั้งแต่ต้นก็ปรากฎตัวออกมา ในตอนนี้ สาวน้อยผมสีเงินได้แต่ยืนรอรับชะตากรรม ที่เธอเลือกเอง เพราะเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ของเธอนั้นไม่เหลืออยู่เลย แม้กระทั่งจะยื่นก็ยังเต็มกลืน

    แต่พริบตาก่อนที่คมมีดจากมือสังหารคนนั้นจะถูกปาดเข้าไปในลำคอของเธอ ก็มีใครบางคนกระชากตัวเธอออกมาจากที่ตรงนั้นด้วยความเร็วสูง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบ เด็กหนุ่ม ผมสีดำตาสีเลือด สวมเสื้อโค้ทหนังชนิดพิเศษสีดำไม่มีแขนเสื้อข้างขวา

    "เอซ?" จัสมินเอ่ยชื่อของเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า น่าตลกดีชะมัดเจ้าคนน่ารำคาญที่ตามตื้อเธอมาตลอด ที่เธอทั้งเบื่อและเกลียดขี้หน้าที่สุด กลับเป็นคนที่มาช่วยเธอในเวลานี้

    "นายมาช่วยฉันทำไม นายก็น่าจะรู้ว่าฉันเป็นใครนี่ ไม่อยากเดือดร้อนก็รีบหนีไปซะปล่อยชั้นทิ้งไว้ที่นี่แหละ ชั้นต้องยอมรับในชะตากรรมที่ชั้นเลือก นายไม่เกี่ยว" จัสมินเอ่ยพยายาม พลั่กชายหนุ่มที่ประคองเธอไว้ออกไป

    "หึๆ มี่จัง เคยเห็นผมเชื่อคำพูดของมี่จังซักครั้งมั๊ยล่ะ" เอซพูดพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ

    "นายอยากตายรึไง เอซ!! ชั้นกับนายไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันซักหน่อย นายน่าจะรู้ว่าชั้นเป็นใคร รีบไปจากที่นี่ซะเถอะอย่าหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเลย" จัสมินตะคอกใส่หน้าชายหนุ่มตรงหน้าเธอ

    เอซค่อยๆวางสาวน้อยในวงแขนของเขาลงกับพื้น "การปกป้องผู้หญิงคือหน้าที่ของลูกผู้ชายไม่ใช่หรือครับมี่จัง ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ตัวเองชอบ หากยังไม่สามารถปกป้องได้ผมก็คงไปบอกใครได้แล้วล่ะว่าตัวเองน่ะเป็นลูกผู้ชาย"

    จบประโยค ดาบขนาดใหญ่ในมือเขาก็ถูกสบัดด้วยมือขวาเพียงข้างเดียวฟันเข้าใส่ร่างของนักฆ่าคนหนึ่งที่พุ่งเข้ามาหา "เข้ามาเลย ข้า `เอซ อัลทิโอนิส เพอร์ดิเทีย` จะไม่ยอมให้พวกแกแตะต้องเธอคนนี้ได้แม้แต่ปลายเล็บ!!"

    เอซชูดาบในมือขึ้นเหนือศรีษะของเขา พร้อมรวบรอมพลัง อึดใจต่อมา เขาก็ ฟาดดาบในมือลงกับพื้น

    "ดาบจักรพรรดิพิโรธ!!!"

    เกิดคลื่นสายฟ้าราวกับเป็นการใช้พลังสายฟ้าเป็นวงกว้างผ่านดาบลำแสง พุ่งเข้าใส่มือสังหารที่พุ่งเข้าใส่ตัวเขา จังหวะเดียวกันนั่นเอง เอซพุ่งเข้าใส่มือสังหารด้วยความเร็วชนิดที่มาตาเปล่ามองตามแทบไม่ทัน พร้อมกับฟาดดาบเข้าใส่อย่างรวดเร็วและรุนแรง

    มือสังหาร ชะตาขาด ล้มลงตรงหน้าเอซโดยไม่ได้ร้อง หรือ พูดอะไรซักคำ เอซเก็บดาบของตน พร้อมกับเดินไปเขาไปหาสาวน้อยผมสีเงินที่ทรุดอยู่กับพื้น

    "`บุรุษผู้นอกรีตในชุดดำ` ก็คือนายเองสินะ `เอซ อัลทิโอนิส เพอร์ดิเทีย` " จัสมินเอ่ยถามขึ้นมา

    เอซยิ้มให้สาวน้อยตรงหน้าเขา "ไม่ว่าผมจะเป็นใคร ขอให้รู้ไว้ผมคือคนที่หลงรักคุณและจะปกป้องคุณเอง"

    เด็กสาวเมื่อได้ยินคำพูดที่แสนจะน้ำเน่าของคนตรงหน้าเธอ ก็แทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ "นายนี่น้ำเน่าได้คงเส้นคงวาจริงๆ"



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~​





    หลังจากพยายามกลั้นหัวเราอยู่พักใหญ่ จัสมินก็ถูก เอซ พยุงไปนั่งพัก ไม่ไกลออกไปนัก พร้อมกับก่อกองไฟขึ้น เพื่อความอบอุ่นเพราะอากาศในเวลานี้หนาวเย็นพอสมควรเลยทีเดียว ชายหนุ่มผมสีดำ ถอดเสื้อคลุมที่มีแขนข้างเดียวของตนส่งให้ สาวน้อยที่อยู่ข้างๆเขา

    เธอรับเสื้อของเขาไว้แต่ก็ยังไม่ได้สวมแต่อย่างใด กลับเอ่ยถามเขาขึ้น "ทำไมนายต้องมาคอยตามวุ่นวายกับชั้นอย่างนี้ด้วย เอซ? ทั้งๆที่นายก็รู้ชั้นเป็นใคร"

    เอซยังไม่ตอบในทันที่แต่กลับยิ้มๆให้กับสาวน้อยที่ถามเขา พลางแหงนหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนเช่นนี้ "เพราะอะไรน่ะหรือ ก็บอกแล้วไงเพราะผมชอบคุณยังไงล่ะมี่จัง"

    "นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดของนาย ชั้นรู้ดี" จัสมินเอ่ยดักคออย่างรู้ทัน "นายจะบอกชั้นได้รึเปล่าถึงเหตุผลของนาย"

    เอซเอากิ่งไม้เขี่ยกองไฟเล่น "เพราะผมรู้จักแววตาเหมือนมี่จังตอนนี้ แววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า แววตาที่อยากจะมีใครซักคนยอมรับในตัวตน แววตาที่เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวในความมืดมิดที่มี่จังพยายามจะหนีออกมาไง ผมจะเล่านิทานให้ฟังซักเรื่องหนึ่ง"

    "นานมาแล้ว ที่เกาะทางใต้ "อุเอรุโตะ" มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อ"อุซึมากิ อาราชิ" เขาเป็นเด็กต้องสาปผู้แบกรับ “จิ้งจอกเก้าหาง” ไว้ในตัวตั้งแต่เด็ก ถูกผู้คนทุกคนแม้กระทั่งสมาชิกในครอบครัวเองต่างก็เกลียดชังด้วยความที่มีปีศาจอยู่ในตัว ตอนอายุ 10 ขวบเขาถูกขับไล่ออกจากบ้านและลอบสังหารแต่รอดชีวิตมาได้แบบปางตาย"

    "เมื่อฟื้นขึ้นมาเด็กชายคนนั้นก็พบว่าตัวเอง ถูกช่วยไว้ด้วยเด็กชายที่ อายุไม่ต่างจากตนเองเท่าไร แต่เขากลับอาศัยอยู่ในป่าลึกบนเกาะแห่งนั้นตามลำพัง ถึงจะอายุไม่ต่างกันแต่เด็กชายคนนั้น กลับคอยดูแล อาราชิ ที่บาดเจ็บจนหายดี อาราชิเด็กที่ถูกรังเกียจ ชิงชัง มาตั้งแต่เกิด นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนยอมรับในตัวเขาทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นใครและ มีอะไรสิงสู่อยู่ในร่างกาย"

    "แต่การตามล่าของเขามันก็ยังไม่จบลง วันหนึ่งเหล่าที่ตามมาฆ่าเขา ก็หาที่อยู่ของเขาในป่าลึกแห่งนี้พบ แต่เด็กชายที่ช่วย อาราชิ ไว้กลับไม่ได้มอบตัวอาราชิให้กับเหล่าผู้ใหญ่ที่มาตามล่าเขา เด็กชายคนนั้นต่อสู้อย่างสุดกำลัง นี่เป็นครั้งแรกที่ อาราชิ ได้รู้ว่ายังมีคนที่เป็นห่วงเขา และ พร้อมที่จะปกป้องเขา"

    "เมื่อ อาราชิ ถามถึงเหตุผลของเด็กหนุ่มคนนั้นคำตอบที่ได้ก็คือ `ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา` คำตอบนั้นต่างดังก้องอยู่ภายในใจของอาราชิ และไม่นานต่อจากนั้น เหล่าผู้คนที่ต้องการชีวิตของอาราชิ ต่างตามล่าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย เด็กชายที่ช่วยเขาไว้ได้รับบาดเจ็บทำให้ อาราชิโกรธจนลืมตัว ผนึก จิ้งจอกเก้าหาง ก็อ่อนกำลังลงทำให้ สิ่งที่ถูกผนึกอยู่ในตัวของเขาหลุดออกมา"

    "แต่จิ้งจอกที่มีพลังประดุจเทพตัวนั้น กลับถูก เด็กชาย และ อาราชิ ที่พร้อมใจกันกำราบลงทั้งที่ไม่มีผู้ใหญ่คนใหน กล้าแม้แต่ที่จะต่อสู้กับมัน แต่มันก็แลกด้วย ดาบล้ำค่าในมือของเด็กชายที่หักสะบั้นเป็น2ส่วน ดาบที่รับสืบทอดมาจากอาจารย์ ดาบที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณเล่มนั้น"

    "แต่เด็กชายคนนั้นกลับไม่ได้โกรธเคือง อาราชิ ต้นเหตุที่ทำให้ตัวเด็กชายบาดเจ็บ สูญเสียดาบที่เป็นดั่งวิญญาณของเขา แม้แต่น้อย สิ่งที่เขาบอกกับ อาราชิก็คือ `นักดาบที่แท้จริงหาได้กวัดแกว่งดาบในมือเพื่ออวดอ้างกำลังของตน หรือ ทำร้ายผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ของตน แต่ดาบในมือของนักดาบนั้น มีไว้เพื่อช่วยเหลือ และ ปกป้องต่างหากล่ะ การที่เราเจ็บตัว และเสียดาบไป มันก็เป็นเส้นทางที่เราเชื่อมั่นและเลือกด้วยตัวเอง`"

    "คำพูด และ แววตาของเด็กชายคนนั้น มันตรึงในอยู่จิตใจของอาราชิ หลังจากนั้นไม่นาน อาราชิก็ได้ออกเดินทาง เกาะทางใต้ โดยมีเด็กชายคนนั้นเป็นผู้มาส่งและเป็นคนที่ขวางทางไม่ให้อาราชิถูกจับตัวไปได้ จนตัวเองโดนจับไปซะเอง"

    "อาราชิ ที่รับปากไว้กับเด็กชายว่าจะออกเดินทางไปตามหาความหมายของชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่ย้อนกลับเป็นอันขาด ได้แต่ยืนมองเพื่อนของเขาโดนจับเพื่อช่วยให้เขา และออกมาจากเกาะแห่งนั้น อย่างเจ็บปวด จากนั้นมา อาราชิ ก็ฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อที่จะได้เป็นฝ่ายช่วยเหลือคนอื่นบ้าง โดยไม่สนใจว่าตัวเขาจะต้องได้รับอะไรตอบแทนรึเปล่า"

    "อุซึมากิ อาราชิ ก็คือตัวนายสินะ เอซ?" จัสมินเอ่ยถามขึ้นประโยคแรกหลังจากเงียบมานาน

    เอซ กลับไม่ตอบคำถามของสาวน้อยผมสีเงินตรงหน้าเขา แต่เหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย "แล้วเพื่อนนายคนนั้นตอนนี้อยู่ไหนแล้วล่ะ เอซ?" จัสมินไม่สนใจคำตอบที่จะได้รับหรือไม่ แต่ถามต่อมาทันที

    "เขาคงจะอยู่ใต้ท้องฟ้าผืนเดียวกับเรานี่แหละ ถ้าหากมีวาสนา ผมคงจะได้พบกับเขาเพื่อตอบแทนเขาบ้าง" เอซเอ่ยพลางแหงนมองท้องฟ้า

    การสนทนาของหนุ่มสาวถูกขัดจังหวะ ด้วยการมาถึงของใครบางคน ชายหนุ่มผมสีเงิน พี่ชายแท้ของสาวน้อยที่อยู่ใกล้ๆเขา "ไลอัน โครเซ่ ฟอรส์เฟรดส์"

    "จัสมิน เธอต้องกลับไปกับพี่เดี๋ยวนี้ พี่ไม่ยอมให้เธอทำตามใจชอบอีกแล้ว ถึงเธอจะไม่ชอบพี่ก็จะทำ เพราะพี่ยอมให้เธอตายไปได้" ชายหนุ่มผมเงินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ทำเอาสาวน้อยนั่งตัวแข็งไปเลยทีเดียว เพราะเธอรู้ดีว่า พี่ชายของเธอเอาจริงแน่นอน

    เอซมองไปยังจัสมินแล้วเอ่ยออกมาช้าๆน้ำเสียงจริงจัง "ถึงเวลาที่เธอต้องเลือกจริงๆ แล้วล่ะว่าเธอจะกลับไปกับพี่เธอใช้ชีวิตแบบเดิมๆ หรือ จะไปตามเส้นทางที่เธอเลือกเอง แต่เต็มไปด้วยอุปสรรค เธอต้องเลือกอย่างจริงจังแล้วล่ะ เพราะการเลือกครั้งนี้มันจะส่งผลกับชีวิตเธอทั้งชีวิต"

    จัสมิน มองไปยังชายหนุ่มทั้ง2คนตรงหน้าเธอในเวลานี้ พลางคิดหนัก แต่ไม่นานนักสาวน้อยผมสีเงินก็ได้คำตอบ "ขอโทษนะคะพี่ ไลอัน น้องคงกลับไปกับพี่ไม่ได้ ถึงจะต้องตายก็ขอให้น้องได้ตายด้วยสิ่งตัวเองเลือเถอะค่ะ"

    คำตอบของสาวน้อยราวกับสายฟ้าฟาดลงที่หัวใจของคนเป็นพี่ชาย ไลอัน กำหมัดแน่ "ก็บอกแล้วไงว่ายังไงพี่ก็จะพาตัวเธอกลับไปให้ได้!!!"

    เอซเดินเข้ามาขวางหน้าจัสมินเอาไว้ พลางกระซิบ "เอาล่ะเจ้าหญิงของผม ได้เวลาที่เธอจะต้องหนีแล้วล่ะ ผมจะหยุดพี่คุณให้เอง ถ้ามีวาสนาเราคงได้พบกันอีก ตอนนั้นผมขอคำตอบด้วยนะว่าคุณจะยอมเป็นแฟนผมได้รึยัง?"

    "ขอโทษนะครับพี่ชายผมคงให้ทำอย่างนั้นไม่ได้ ถึงเป็นพี่ชายก็ไม่มีสิทธิ์ ไปขวางเส้นทางที่น้องตัวเองได้เลือกเดินแล้ว"

    จัสมิน วิ่งหนีไปอีกครั้ง ไลอัลทำท่าจะตามไปแต่เอซก็ขวางเอาไว้ ดาบในมือของทั้งคู่ประทะกันอยู่รุนแรง บอลเพลิง ไออัน ปล่อยลูกมหึมาพุ่งเข้ามาใส่เขา หวังจะให้สิ้นชื่อในทีเดียว แต่เอซ กลับไม่ได้หลบหลีก ตรงข้าม หนุ่มผมดำกลับพุ่งเข้าใส่บอลเพลิงลูกนั้น

    "ชาง ชั้นจะฟันเปลวเพลิงได้เหมือนที่นายทำมั๊ยนะ?" เอซง้างดาบมือพร้อมที่จะฟาดฟันเปลวเบื้องหน้าเขาโดยไม่ลังเล


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~​



    เช้าตรู่ ที่ชานเมืองริเวเรีย

    สาวน้อยผมสีใข่มุขคนหนึ่ง กำลังเดินดูของในตลาดอย่างเริงร่า โดยมีจอมเวทย์สายรักษาอีกคนเดินตามหลังเธออยู่ หลังจากเดินซื้อของ ได้ตามที่เธอต้องการและ ขณะกำลังจะกลับนั่นเอง สาวน้อยก็เหลือบไปเห็นร่างของใครบางคนนอนหมดสติ อยู่ใต้ต้นไม้ เธอแล้วจอมเวทย์ขาว ต่างรีบวิ่งเข้าไปดู

    เมื่อมาถึงก็พบ ผมสีเงินยาวสลวย ดวงตากลมโตสีแดงสด ดุทับทิมชั้นยอด สวมเสื้อแขนกุดสีดำ มีสายเข็มขัดสีดำรัดต้นแขน นอนหายใจรวยริน ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล จอมเวทย์ขาว จึงรีบตรวจอาการ พร้อมกับรักษาทันที

    สาวน้อยผมสีใข่มุข หยิบดาบที่ตกอยู่ข้างๆขึ้นมาพิจราณาดู ก็พบว่ามันเป็นดาบสีเงิน ความยาวนับตั้งแต่ด้ามดาบจดปลายดาบ ยาว1เมตรพอดี ที่ปลายด้ามถูกสลักเป็นรูปหัวของปีศาจ ที่กั้นดาบถูกสลักเป็นกงเล็บปีศาจหันปลายเล็บไปทางเดียวกับปลายดาบ โคนดาบสลักเป็นรูปดาบเล่มนี้พร้อมอักขระกำกับ

    "ดาบสโนวเดวิล? แสดงว่าเธอคนนี้ก็คือ `จัสมิน ไอล่า ฟอรส์เฟรดส์` สินะ ที่เป็นอย่างนี้คงเป็นเพราะเธอถอนตัว จาก ตระกูลฟรอส์เฟรส ท่าทางข่าวลือ มันจะเป็นความจริง ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ" สาวน้อยผมสีใข่มุขคิดในใจ

    "พี่อเมทิส พอจะมีทางพาเธอคนนี้เข้าไปในวังโดยไม่มีคนสงสัยหรือเปล่าคะ?" สาวน้อยผมสีใข่มุขเอ่ยกับจอมเวทย์ขาวที่กำลังรักษา คนเจ็บอยู่

    จอมเวทย์ขาวหันไปมองหน้าเจ้าหญิงของเธอ "ทางน่ะพอมีเพคะองค์หญิง แต่ทำไมองค์หญิงถึงจะทำเช่นนั้นล่ะเพคะ?"

    สาวน้อยผมใข่มุขยิ้มอย่างนึกสนุก พลางออดอ้อนพี่สาวของเธอ "หญิงอยากจะคุยกับเธอ เป็นการส่วนตัวโดยไม่มีใครรบกวนน่ะสิ พี่ช่วยหญิงหน่อยนะคะ"

    "ถ้าองค์หญิงต้องการเช่นนั้น เดียวดิชั้นจะจัดการให้ตามพระประสงค์เพคะ"

    แล้ว อเมทิสก็จัดการ พาร่างอันไร้สติแอบเข้าไปในวัง โดยไม่ให้คนสงสัยตามคำบัญชาจากองค์หญิงน้อยของเธอ




    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~​
  9. pop30711

    pop30711 New Member

    EXP:
    1,155
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    อ่านไปเพลินๆเลย อยู่ดีๆ ไปเจอ อุซึมากิ กับ จิ้งจอกเก้าหาง เข้า......

    [action]พรวด!!!!! สำลัก[/action]

    ลุ้นครับว่าใครจะชนะ...เอซหรือไลอัล... จะรออ่านตอนต่อไปครับ......
  10. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    อุซึมากิ กับ จิ้งจอกเก้าหาง

    [action]เฮ้ย..มาได้ไง!![/action]

    เริ่มต้นบทใหม่ ที่สาวน้อยนักฆ่า งืมๆ ส่วนเอซ ไอหมอนี้บ้าสุดกู่จริงๆแหะ รักจริงหวังแต่ง สุ้ๆ
  11. parwankorn

    parwankorn Member

    EXP:
    60
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    ลุ้นครับ ลุ้น

    ความคิดเป็นดั่งสายลม เปลี่ยนทิศทางได้ ไม่มีความคิดใดถูกหรือผิด มีแต่คน ที่คิดเองว่าถูกหรือผิด
  12. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    มี่จัง....อะไรของเอ๊งฟ่ะเฮ้ย เรียกซะน่ารักน่าเอ็นดู

    โอ้ว ที่รักผมได้บทเยอะขึ้นเรื่อยๆ ขอบพระคุณท่านพี่มาก คิ้ววววว
  13. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    [action]อึ้งตาม2เรปก่อนหน้า เฮ้ย!!![/action]

    เอซนี่โคตรเมพเลย สุดยอดด [action]ตบหลังเจ้าไพอา[/action]


    ดูท่าว่าโรวีเนียชอบไปตลาดจริงแฮะ =w= ยังงี้ไม่เหมาของเขาหมดตลาดเรอะ 555+
  14. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    วู้ยยยยย~ มี่จังน่ารักโคตร (ก็มี่จังน่ารักจริงนี่หว่าพี่โย 555+) ในที่สุดก็มีคนเรียกชื่อเก่าตรูซักที อดีตสมัยเด็ก....... งี้ดดดด TTwTT

    อาเจ๊โรวีเนียชอบเดินตลาดเป็นชีวิตประจำวันรึไงฟระ = ="a เฮ้ๆพี่ไลอัล ถ้าผมชนะต้องให้ผมได้เป็นน้องเขยของพี่นะเฟ้ย =w=

    รอชมตอนต่อไปขอรับ ตอนหน้าอยากเห็นความน่ารักของมี่จังกว่านี้จังเลยอ้า เหอๆๆๆ >w<b
  15. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    อัดเดทตอนใหม่กันอย่างต่อเนื่อง เพราะอยากปิดเรื่องนี้ก่อนกระทู้ครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 17 พฤษจิกายน ขอนับตามกระทู้ใหม่ละกันครับ เพราะจากบอร์ดเดิม คือวันที่ 12 พฤษภาคม 2550 มันครบปีไปตอนผมพักร้อนน่ะแหละ ถ้าไม่รื้อของเก่าๆ มาดูผมก็จำไม่ได้หรอกว่ามันครบปีแล้ว 1 ปีแล้วแต่ผมยังเพิ่งเขียนถึงบทที่ 4 เอง นับว่าบทหนึ่งใช้เวลานานเอาเรื่องทีเดียว ไหนจะบทนอกรอบอีก เอาเถอครับตราบใดที่เพื่อนๆยังติดตามกันอยู่ผมก็คงจะเขียนต่อไปเรื่อยๆ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ยังติดตามกันเสมอมานะครับ นิยายเรื่องนี้คงมาไม่ถึงตรงนี้ได้ถ้าไม่มีเพื่อนๆคอยติดตามและให้กำลังใจกันเสมอมา ส่วนจะจบเมื่อไรนั้น ผมว่าอีกพักใหญ่ๆเลยล่ะครับ หึๆ


    Twin-Fenrir


    [action]อันนี้ต้องไปถามน้องไพอาครับ เพราะผมเขียนตามใบสมัครฮาๆ[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Near

    [action]หึๆ นิยายเรื่องนี้หาคนปกติธรรมดาไม่ค่อยเจอหรอกครับ[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Stay With Loyal

    [action]คำคมนี้ท่านได้แต่ใดมา? เอาไว้เดี๋ยวของยืมไปใช้ในนิยายบ้างนะครับ^^[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Yoshiki : Legacy weapon

    [action]ตูก็เรียก มี่จังๆ มาตั้งแต่บทแรกแล้วล่ะ เจ้าโย สรุปแกรักใครกันแน่ฟะเนี่ย หือ?[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ยูคิฮิเมะ~ Gespenst Jaeger


    [action]สงสัยจะเป็นอย่างนั้นล่ะครับเจ๊ยู ดูๆไปก็สงสาร อเมทิส เหมือนกันนะนี่ฮาๆ[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    Paia: Yusei (5D's) Mode

    [/quote]

    [action]เอาเข้าน้องตูเป็นเอามากนะนี่ฮาๆ ความน่ารักของจัสมินงั้นรึ จะเขียนยังไงดีหว่า งานหนักนะนี่ - -*[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
  16. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [เปิดฉากเริ่มต้นบทที่ 4]

    เรื่องเล่าจากแสงและเงา เรื่องที่ 4 นักดาบจากแดนใต้ (2)






    ปราสาท รีเวเรีย ณ หัองพัก ของ อเมทิสที่ติดอยู่กับ ห้องพักของเจ้าหญิงของเมืองแห่งนี้ เวลานี้บนเตียงนอน กลับมีร่างของ สาวน้อยผมสีเงินคนหนึ่งนอนไม่ได้สติอยู่ ซึ่งถ้านับวันนี้ด้วย ก็ปาเข้าไป 2 วันเต็มๆแล้วที่ สาวน้อยคนนี้นอนหลับไม่ได้สติอยู่เช่นนี้ ไม่ห่างออกไปนัก มีจอมเวทย์ขาวคนหนึ่ง กำลังยืนคุยอยู่กับ สาวน้อยผิวสีแทน ผมสีใข่มุขที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่บริเวณริมหน้าต่าง

    "นี่ๆ พี่อเมทิส ทำไมเธอไม่ฟื้นซักทีล่ะคะ" สาวน้อยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เอ่ยถาม จอมเวทย์ขาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก

    "เดี๋ยวก็ฟื้นแล้วล่ะมั๊งเพคะ องค์หญิงโรวิเนีย ร่างกายภายนอกดิฉันก็รักษาบาดแผลไปเรียบร้อยแล้ว นี่คงเพลียจากการใช้เวทย์มนต์จนเกินขีดจำกัดของร่างกาย เลยต้องพักผ่อนนานหน่อย" อเมทิส โวเลนเต้ผู้รับหน้าที่รักษาอาการบาดเจ็บของ สาวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงตอบกลับมา

    ขณะที่ทั้ง2คนกำลังคุยกันอยู่นั่นเอง คนที่นอนอยู่บนเตียงจู่ๆก็พุ่งพรวดเข้าหา โรวิเนียที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่าง แต่จู่ๆเธอคนนั้นก็ทรุดฮวบหมดแรง ลงไปนั่งกับพื้นเอาดื้อ

    โรวีเนีย แอสเทรล แรนดอร์ฟ ปิดหนังสือในมือเธอแล้ววางไว้บนโต๊ะข้างๆ พร้อมกับเดินเข้ามาหา สาวน้อยอีกคนที่ทรุดอยู่กับพื้น "ฟื้นแล้วหรือคะ คุณ ` จัสมิน ไอล่า ฟอรส์เฟรดส์` ร่างกายคุณไม่ปกติดีนัก ดิฉันว่าอย่างเพิ่งขยับตัวอย่างหักโหมจะดีกว่านะคะ"

    "พวกเธอเป็นใคร ต้องการอะไรจากฉัน" สาวน้อยนามว่า จัสมิน เอ่ยถาม อีก2คนภายในห้อง ด้วยสีหน้า และ แววตา ราวกับสัตว์ร้ายที่บาดเจ็บ "แล้วพวกเธอทำอะไรกับร่างกายของชั้นเนี่ย ทำไมถึงมันถึงไม่มีเรี่ยวแรงเลย"

    โรวิเนียยิ้มออกมาเล็กน้อย มันเป็นรอยยิ้มที่ อเมทิสไม่ได้เห็นมานานพอสมควรแล้ว รอยยิ้มขององค์หญิงตัวร้ายแห่งรีเวเรีย "ก็คุณเป็นถึงนักฆ่าชั้นแนวหน้า ดิฉันก็ต้องหาอะไรมารับประกันความปลอดภัยของตัวดิฉันบ้างสิคะ ลองดูที่ข้อมมือซ้ายของคุณสิ "

    จัสมินเหลือบไปก็พบ ว่าข้อมือซ้ายของตนมีกำไลวงหนึ่ง ถูกสวมอยู่ มันเป็นกำไลสีขาวสะอาดตา ประดับด้วยทับทิมเม็ดเขื่องสีแดงสด เฉกเช่นเดียวกับดวงตาของเธอ สาวน้อยผมสีเงินรีบพยายามจะเเกะออก เพราะเธอรู้ได้ทันทีว่ากำไลวงนี้มันไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย

    "อย่าพยายามให้เสียแรงเปล่าเลยดีกว่านะคะ นั่นน่ะเป็นกำไลมนตรา คาถาที่ใช้สำหรับปลดออกมีเพียงดิฉันที่เป็นเจ้าของกำไลที่รู้ แล้วอีกอย่างกำไลวงนั้นทำจากโฮริฮารูกอน โลหะที่แข็งแกร่งที่สุดบนพื้นพิภพ คงหาทางทำลายยากหน่อยล่ะนะ" โรวิเนีย เอ่ยแจกแจงให้คนตรงหน้าเธอฟัง

    จัสมิน สบตากับคนตรงหน้าเธอโดยไม่หลบตาแม้แต่น้อย "เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่ องค์หญิง โรวีเนีย แอสเทรล แรนดอร์ฟ คนระดับเธอก็น่าจะรู้ว่าตอนนี้ฉันโดนตามล่าตัวอยู่ รีบถอดกำไลบ้าๆนี่ออกไปซะ แล้วฉันจะรีบไปจากที่นี่ไม่อยู่ให้เธอเดือดร้อนหรอก"

    "น่านสิน๊า ฉันต้องการอะไรจากเธอกันแน่นะ แต่ว่าบางทีฉันก็ชอบหาเรื่องเดือดร้อนซะด้วยสิ เอาเป็นว่าฉันตอนนี้อยากได้ผู้ติดตามอีกซักคน เธอต้องมาเป็นคนติดตามของฉันจนกว่าฉันจะพอใจละกัน" เจ้าหญิงแห่งรีเวเรียเอ่ยขึ้นหลังทำท่านึกอยู่พักใหญ่

    จัสมิน จ้องสาวน้อยผมสีใข่มุขด้วยสีหน้าที่เรียเฉยแล้วเอ่ยออกมาเรียบๆอย่างไม่ลดราวาศอก "แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอต้องการด้วยล่ะ ถ้ากำไลนี้ ถอด หรือ ทำลาย ไม่ได้แล้วล่ะก็ ฉันยอมตัดแขนตัวเอง ยังดีกว่า มาเป็นคนติดตามของคนที่น่าหมั่นใส้ อย่างเธอ"

    โรวิเนียแสร้งทำท่าตกใจ แล้วเรียกประตูมิติขนาดเล็ก ขึ้นข้างๆเธอแล้วล้วงมือไปด้านในพร้อมหยิบอะไรบางอย่างออกมา "โอ้โห เด็ดเดี่ยวจังเลยนะคะเนี่ย แต่ เอ ดาบเล่มนี้คุณไม่สนใจมันแล้วหรือคะ?"

    ดาบสโนวเดวิล ถูกถืออยู่ในมือของเจ้าหญิงแห่งรีเวเรีย ทำเอาเจ้าของทำท่าตรงเข้ามาแย่ง โรวิเนีย จึงเหวี่ยงดาบเล่มนั้นเข้าไปในประตูมิติ แล้วมันก็ปิดลง "ประตูมิตินี่ คนที่รู้ว่าดาบของคุณ มันอยู่ส่วนไหนของอีกมิติ แล้วเปิดไปหยิบมันมาให้คุณได้ ก็มีเพียงแต่ดิฉันอีกล่ะค่ะ คุณจัสมิน" โรวิเนียเอ่ยด้วยสีหน้าของผู้ชนะ

    หลังจากนิ่งไปพักใหญ่ๆจัสมิน ที่เวลานี้ไม่เหลือทางเลือก หรือ ข้อต่อรอง อะไรกับคนตรงหน้าเธอได้เลย จึงต้องจำยอมโดยไม่เต็มใจนัก "ก็ได้องค์หญิง โรวิเนีย เกมส์นี้เธอเป็นคนชนะ แต่มันต้องทีของชั้นบ้าง รับรองจะตอบแทนพร้อมดอกเบี้ยแน่นอน"

    "แล้วฉันจะรอดอกเบี้ยของคุณค่ะ ช่วยไปเปลี่ยนชุดด้วยนะคะ" โรวิเนียเอ่ยพลางยื่นเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้กับจัสมิน พร้อมถุงอะไรบางอย่าง "นี่เป็นผงเวทย์มนต์มันจะเปลี่ยนสีผมของคุณให้เป็นสีดำ เพราะผมของคุณมันสะดุดตาเกินไปนะคะ นักฆ่าที่ต้องเคยปลอมตัวอย่างคุณคงรู้วิธีการใช้นะคะ ห้องน้ำอยู่ทางนั้นเชิญค่ะ"

    จัสมิน เหลือบมอง คนที่แสนเจ้ากี้เจ้าการตรงหน้าเธอพลางคิดในใจ "ซักวันฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่ โรวีเนีย แอสเทรล แรนดอร์ฟ" หลังจากรับเสื้อผ้า และ ผงเวทย์มนต์ สาวน้อยผมสีเงินจึงเดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกทางหนึ่ง

    โรวิเนียหันไปหา พี่สาวคนสนิทของเธอ ก็เห็น อเมทิส โวเลนเต้ ที่ยืนอยู่มุมห้อง พยายามกลั้นหัวเราะ อย่างเต็มที่

    "มีอะไร อะไรน่าตลกหรือคะ พี่อเมทิส" โรวิเนียส่งสายตาค้อนๆไปยังพี่สาวของเธอ

    หลังจากสงบสติอารมณ์ซักพัก จอมเวทย์ขาวจึงเอ่ยออกมา"ขอประทานอภัยเพคะ องค์หญิง ดิฉันแค่ตลกนิดหน่อยแค่นั้นเอง"

    "นานแล้วนะคะที่ ไม่เห็นองค์หญิงในมาด`ยัยตัวร้าย`แบบนี้ แถมคู่ก็กรก็เป็น`ยัยตัวร้าย`พอๆกันก็เลยกลั้นหัวเราะไม่อยู่น่ะเพคะ"

    โรวิเนียทำท่างอนใส่คนสนิทของเธอ "แหม พี่เอเมทิสนี่ล่ะก็ไม่ใช่เรื่องน่าขันเลยนะคะ นี่หญิงกำลังต่อรองกับนักฆ่าชื่อดังเลยนะคะนี่ ไม่กลัวน้องสาวผู้แสนบอบบางคนนี้โดนทำร้ายบ้งหรือคะ"

    เมื่อได้ยิน อเมทิส ถึงกับหลุดหัวเราะคิกๆขึ้นมาทันที "น้องสาวผู้แสนบอบบาง งั้นหรือเพคะ ถ้าจำไม่ผิด น้องสาวคนนี้ถูกผู้คนเรียกขานว่า `ซันมอนเนอร์สาวไร้พ่าย` ด้วยสิเพคะ การต่อสู้ประชิดตัวก็เก่งกว่าทหารระดับแม่ทัพนายกองบางคนซะอีก"

    "แถมมีคนคอยคุ้มกันที่แสนจะไว้วางใจได้อยู่ข้างๆอีก แล้วอย่างนี้จะให้จอมเวทย์สายรักษาอย่างดิฉันเป็นห่วงทำไมล่ะคะ สู้ห่วงตัวเองก่อนจะสมเหตุสมผลกว่า จริงไหมคะ คุณบีทริกซ์? " ท้ายประโยค อเมทิส หันไปถามข้างๆกายของ เจ้าหญิงแห่งรีเวเรีย ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น

    แต่จู่ๆก็ปรากฎร่างของ หญิงสาวผู้มีดวงหน้างดงาม ผมสีแดงอ่อนนุ่มเหมือนเส้นไหมมีค่ายาวระพื้นดวงตาสีเขียวมรกต หูแหลมๆแบบหูเอลฟ์ ผิวขาวอมชมพู สวมชุดเกราะสีขาวบริสุทธิ์ ยืนอยู่ข้างๆ โรวิเนีย "ท่าทางเทพอสูรแห่งกาลเวลาอย่างชั้นคงต้องไปเรียนเวทย์พลางกายใหม่แล้ว ถึงถูกรู้ตัวได้ง่ายๆอย่างนี้"

    "ฮึ!! พี่อเมทิสนี่รู้ทันหนูทุกทีเลย " สาวน้อยผมสีใข่มุขบ่นอุบอิบ

    "ไม่พบกันนานนะคะคุณบีทริกซ์ สบายดีมั๊ยคะนี่" อเมทิสเอ่ยทักทายเทพอสูรตรงหน้าเธอ

    "ก็ชั้นไม่ใช่เทพอสูรคนโปรด อย่างยัยคู่แฝด โรโค กับ เซลซิอุส นี่นาจะได้ออกมาเสนอหน้าข้างนอกนี่บ่อย แต่ก็สบายดีเหมือนกันไม่ต้องเหนื่อยออกมาทำนู่นทำนี่
    เหมือนยัย 2 คนนั่น แต่ชั้นว่าเธอนี่เริ่มไม่เหมือน จอมเวทย์สายรักษาขึ้นทุกวันๆนะนี่ อเมทิส ทำตัวให้สมกับชุดที่ใส่หน่อยสิ แล้วอย่าง อย่ารู้ทันเจ้านายตัวน้อยของชั้นให้มากนักเลย แกล้งๆเป็นไม่รู้บ้างก็ได้ เพราะชั้นขี้เกียจฟังยัยนี่ เรียกชั้นออกมาบ่นๆให้ฟังน่ะ" เทพอสูรแห่งกาลเวลาทักทายกลับมา

    "พอเถอะค่ะ พี่บีทริกซ์ เอาหนูมาขายอย่างนี้ได้ไงนี่ กลับไปได้แล้วค่ะ" โรวีเนียทำหน้างอใส่

    "แหย่นิดแหย่หน่อยทำเป็นงอนไปได้ยัยตัวเล็ก ไปก็ได้แล้วเจอกันนะ อเมทิส" บีทริกซ์ขยี้หัวเจ้านายตัวน้องของเธอย่างเอ็นดูแล้วก็หายตัวไป

    ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับ จัสมินที่เดินออกมาจากห้องน้ำ เวลานี้นักฆ่าสาว อยู่ในชุดสาวใช้สีดำกระโปรงยาวถึงข้อเท้า มีที่คาดผมประดับอยู่บนหัวของเธอซึ่งเวลานี้ผมยาวสลวยของเธอกลายเป็นสีดำสนิทราวกับขนของอีกา ดูแตกต่างจากสภาพปกติอย่างกับคนละคนเลยทีเดียว

    โรวิเนีย มองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วยิ้มออก "กะแล้วว่าต้องเหมาะกับเธอมาก `นิราวาน่า เออรังเซ่` "

    จัสมินในชุดสาวใช้ ขมวดคิ้วเข้าหากัน "นิราวาน่า? เออรังเซ่?"

    "ใช่ต่อจากนี้ไปจนกว่าฉันจะพอใจ เธอต้องใช้ชื่อนี้ตลอด ในฐานะผู้ติดตามของฉัน เอาล่ะฉันจะพาเธอไปแนะนำให้ท่านพ่อรู้จัก ทำตัวดีๆล่ะไม่งั้น ดาบเธอได้สาปสูญไปอยู่ที่ไหนซักแห่งของต่างมิติแน่ๆ คุณนิราวาน่า" จบประโยค โรวิเนีย ก็หันหลังเดินตรงไปที่ประตูโดยไม่สนใจอาการของคู่สนทนาของเธอแม้แต่น้อย

    จัสมินได้แต่ยืนอึ้งนี่มันอะกันนักกันหนานะ "ถัดจากโดนตามฆ่าจู่ๆก็กลายมาเป็นคนใช้ของเจ้าหญิงไปซะงั้น มี่จัง บ้างล่ะ นิราวาน่า บ้างล่ะ ทำไมใครๆชอบเปลี่ยนชื่อให้ชั้นจังนะ"

    จู่ๆเธอก็ต้องสะดุ้งตกใจ เพราะมีคนมาจับไหล่เธอไว้ เมื่อหันไปมองก็พบ อเมทิสยืนยิ้มให้ แล้วแนะนำตัว "เรารีบตามองค์หญิงไปกันเถอะค่ะ คุณนิราวาน่า ดิฉันชื่อ อเมทิส โวเลนเต้ เป็นผู้ติดตามขององค์หญิงโรวิเนียเหมือนกันค่ะ ลำบากหน่อยนะคะ คิดซะว่าซ่อนตัวอยู่ที่นี่ซักพักจนกว่าร่างกายจะหายดีแล้วกัน ไม่ต้องคิดมากหรอกนะคะ องค์หญิงไม่ร้ายอย่างที่คิดหรอกค่ะ"

    "แต่ร้ายกว่าที่คิดเยอะเลยใช่ใหม?" จัสมิน หรือ นิราวาน่าตอบกลับมาเรียบๆ

    "นั่นสินะอยู่ไปซักพักเดี๋ยวก็รู้เองล่ะค่ะ" แล้วทั้ง2สาวก็เดินออกจากห้อง ตามองค์หญิงแห่งรีเวเรียไป





    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~​




    หากเราย้อนกลับมาดูกันที่ ริมฝั่งแม่น้ำเวลเจ 2 วันก่อนที่ จัสมิน จะฟื้นขึ้นมาพบชะตากรรมอันแสนจะวุ่นวายของตน ที่ตรงนี้ก็มีชายหนุ่ม 2 คนกำลังต่อสู้กันด้วยความเชื่อมั่นที่ขัดแย้ง ทั้งคู่สภาพไม่ได้ดูดีกว่ากันซักเท่าไร ต่างอยู่ในสภาพยับเยิน อ่อนแรง ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อยฝ่ายตรงข้าม

    1 เป็น ชายหนุ่มผมสีเงิน นักฆ่าแห่งตระกูล ฟอรส์เฟรดส์ ผู้ที่ถูกจัดอยู่ในทำเนียบ 1ใน10 เทพมรณะของวงการนักฆ่า "ไลอัน โครเซ่ ฟอรส์เฟรดส์"

    อีก1นั้นเป็นชายหนุ่มผมสีดำ ผู้ที่ได้รับฉายาว่า "บุรุษผู้นอกรีตในชุดดำ" "เอซ อัลทิโอนิส เพอร์ดิเทีย"

    ทั้งคู่ต่างปักหลักต่อสู้กันอย่างจุดเดือดจนบริเวณโดยรอบ มีร่อยรองของการต่อสู้เต็มไปหมด ตอนนี้ ชายหนุ่ม2คนต่างหยุดนิ่ง ยืนเผชิญหน้ากัน โดยใช้อาวุธคู่มือปักไว้กับพื้นเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลง เพราะสภาพของทั้งคู่เวลานี้แทบจะยืนไม่ไหวกันอยู่แล้ว

    "ทำไมแกต้องเข้ามาขวาง มาวุ่นวายกับเรื่องของครับครัวคนอื่นด้วย เอซ อัลทิโอนิส เพอร์ดิเทีย" ไลอัล ตะโกนถามออกมา

    เอซ ตอบกลับ "เพราะน้องสาวของคุณตัดสินใจอย่างนั้นยังไงล่ะ และนี่เป็นคำมั่นที่ให้ไว้กับตัวเองว่าจะช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่ทำไหวและอยากจะทำ"

    "แม้การช่วยนั้นอาจจะทำให้แกต้องเอาชีวิตมาทิ้งอย่างนั้นรึ?"

    "ใช่ ถึงมันได้ผลตอบแทนอย่างนั้น เพราะนี่เป็นสิ่งที่ผมเลือกและเชื่อเช่นนั้น คนทั้งโลกจะมองจะมองว่าผมเป็นคนโง่ หรือ คนบ้า ผมก็จะทำโดยไม่ลังเล"

    "หึ อย่างนั้นรึ เรามาสานต่อการต่อสู้ครั้งนี้ให้จบๆไปกันเถอะ"ไลอัลเอ่ยออกมาพลางรีดเค้าพลังเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่ออกมา เอซเองก็ทำแบบเดียวกัน

    ความกดดันแผ่ขยายไปทั่วอณาบริเวณ ทั้งเอซและไลอัลต่างรู้ดีว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของการต่อสู้ครั้งนี้ หรือ อาจจะเป็นชีวิตนี้เลยก็ได้

    พริบตาเดียวเปลวเพลิงสีแดงฉานก็ลุกท่วมร่างกายของไลอัล แล้วไหลมารวมที่ดาบคู่กายของเขา มือทั้ง2ของชายหนุ่มผมเงินจับดาบไว้แน่น ลดปลายดาบลงจนเกือบเเตะพื้นดิน เฉียงไปทางด้านหลังของเขา

    ส่วนเอซนั้น ยืนหลับตานิ่ง ดาบขนาดยักษ์ในมือเปล่งแสงสีแดงปนดำ อึดใจต่อมา เอซก็เปลี่ยนท่าเป็น เอาเท้าซ้ายขึ้นหน้า เท้าขวาถอยหลัง มือขวาอยู่ระดับสายตาโดยถือดาบให้เอาใบดาบเอนลงพื้น มือซ้ายแบมือเข้าหาดาบ

    บรรยากาศโดยรอบราวกับเวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างไม่เคลื่อนไหวใดๆ จนกระทั่งจู่ๆ สายลมก็พัดกรรโชกผ่านบริเวณนั้น ราวกับสัญญาณเริ่งการต่อสู้เพื่อตัดสินชะตาชีวิตของชายหนุ่มตรงหน้าทั้ง2คน

    "ดาบอัคคีพิโรธ!!!"

    "ดาบมิติว่างเปล่า!!!"


    เสียงชายหนุ่ม 2 คน ประกาศชื่อท่าของตนดังก้องพร้อมกับปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่รวบรวมไว้ออกมา

    ไลอัล พุ่งทะยานเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงสุด ลากดาบในมือที่เวลานี้มีเปลวเพลิงลุกท่วม จนเผาพื้นดินที่เขาลากดาบผ่านจนใหม้เกรียมเป็นทาง ทั้งๆที่ตัวดาบไม้ได้แตะพื้นดินแม้แต่น้อย

    เอซ ง้านดาบในมือแล้วพุ่งสวนเข้าใส่เช่นกัน แต่จู่ๆร่างของเขาก็หายไปดื้อๆ พริบตาต่อมา ทั้งคู่ก็ปรากฎตัวอยู่ในระยะสังหารของกันและกัน ชั่ววินาทีนี่เอง ที่ดาบของทั่งคู่ที่อัดแน่นด้วยพลัง และ จิตวิญญาณทั้งหมดเข้าปะทะกันอย่างตรงไปตรงมา

    แสงสว่างสาดส่องไปทั่วบริเวณ เสียงระเบิดที่ดังกึกก้อง แรงอัดจากอากาศมหาศาลชนิดที่ว่าต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียงหักโค่นระเนระนาด สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในวินาทีต่อมาจากการปะทะกันของทั้งคู่

    พื้นที่ตรงนั้นกลายเป็นหลุมลึก ราวกับสะเก็ดดาวจากนอกโลกตกลงมาใส่ ที่ตรงนั้นมีร่างของชายหนุ่ม 2 คนนอนกองอยู่คนละมุมของหลุมนั้น เวลาผ่านไปซักพัก ชายหนุ่มผมดำนามว่า "เอซ อัลทิโอนิส เพอร์ดิเทีย" ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น แล้วค่อยๆ ลากดาบ และร่างกายของตัวเองซึ่งตอนนี้ ยับเยินไม่แพ้กัน ค่อยๆเดินอย่างทุลักทุเล ไปหยิบเสื้อคลุมของตนที่โคนต้นไม้ ที่เขาก่อกองไฟ และถอดเสื้อคลุมตัวนี้ให้ จัสมิน ก่อนที่เธอจะหนีไป

    "สมเป็น มือ 1 ของตระกูลฟอรส์เฟรดส์ เล่นเอาเกือบตาย เหนื่อยซะมัดเลยไม่รู้ว่าหลับลงไปคราวนี้จะได้ตื่นขึ้นมาดูโลกอีกครั้งรึเปล่านะ......"แล้วร่างของ เอซก็ทรุดลงกับพื้นตรงโคนต้นไม้ต้นนั้นโดยไม่รู้ว่าอะไรจะรอเขาอยู่หลังจากนี้บ้าง





    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~​
  17. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    อ่านคนแรก เลยครับ แต่ต้องรีบออกไปคนแรกเหมือนกัน การบ้าน รออยู่...TTATT เศร้า
  18. pop30711

    pop30711 New Member

    EXP:
    1,155
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    เจ้าหญิงแห่งคอมมิวนิสต์ ชั่วร้าย ฉลาดแกมโกงจริงๆ โรวีเนียเอ๊ย......

    ว่าแต่ทำไมจัสมินถึงมีชื่อเรียกเยอะจังแฮะ.......

    สนุกมากครับ จะรออ่านตอนต่อไปครับ
  19. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    น่ารักมั่กๆ สาวๆฟิคนี้อ่านแล้วสดชื่นดีจริงๆ

    ส่วนไอ้สองตัวล่างจะเป็นยังไงก็ช่างมัน 5555+
  20. moko

    moko New Member

    EXP:
    27
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    หุหุ มารายงานตัวแล้วจ้า ยุ่งอยู่กับโปรเจ็กที่มหาลัยเลยไม่ได้ตามอ่านเลย ปี4แล้ว - -
    เดียวตามอ่านก่อนแล้วมาเม้นให้อีกทีนะ
  21. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    ปีแล้ว เคยบอกว่ายุ่งด้วยความเป็นเฟรชชี่จนไม่ได้มาอ่าน ปีนี้ก็ใกล้จะยุ่งเพราะความเป็นรุ่นพี่=="

    สาวๆเรื่องนี้ก็น่ารักกันจริงๆ เหอะ และเช่นเดียวกัน เจ้าสองตัวข้างล่าง ก็กลายเป็นนอกสายตาข้าน้อยไป ก้ากๆๆๆ
  22. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    กะ กะ กร๊ากกกกกกกกกกก

    ยัยตัวร้ายหนอ ยัยตัวร้ายยยยยยย
    แสบจริงๆค่ะ โรวีเนีย แสบได้ใจมากมากจริงๆ 55555+ เล่นเอาจัสมินอึ้งกิมกี่แบบต่อไม่ถูกเลย
    เล่นแบบนี้สงสัยต้องรับดอกเบี้ยแบบกระอักแหงๆ เอิ้ก
  23. parwankorn

    parwankorn Member

    EXP:
    60
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    6
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    ผมคิดเองอะนะ ว่างๆไม่มีอะไรไง

    จะว่าไปโรวิเนียก็ร้ายใช่ย่อย
  24. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    มี่จังของชั้น..... แง!!!!!!!! แล้วจะไปทวงเอามี่จังคืนได้มะนี่ =[]=!!!!
  25. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: Tale Of Light and Shadow [อัพเดทตอนใหม่ นักดาบจากแดนใต้ (2)]

    ลั้นลาๆ แอบดองเค็มตามพี่ๆ น้องๆ ในบอร์ดมาซะนานเมื่อเขาเริ่มเปิดไห ไอ้เราจะมัวโอ้เอ้ อาจโดนชาวโลกประนามได้ เลย ใส่ตอนใหม่มาซะ1ตอน จริงๆเรื่องของเรื่องเพิ่งจะว่างจากสารพัดภาระกิจที่ต้องนั่งทำนั่นแหละครับ ไม่เจอกันซะนานหวังว่าพี่ๆน้องทุกคนคงจะสบายดีนะครับ ผมเองก็หลังจากหวิดเดี้ยงเพราะ งานเยอะจัดจนร่างกายไม่ค่อยได้พักผ่อน ตอนนี้ก็ปกติสบายดี เรื่อเปื่อยได้ตามอารมณ์ แล้วล่ะครับ


    Near


    [action]หวังว่าช่วงนี้คงจะว่าขึ้นบ้างนะครับก่อน นรกสอบปลายภาคจะมาเยือน เอิ๊กๆ[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Twin-Fenrir

    [action]จะว่าไปชื่อเธอก็เยอะจริงๆแฮะ เอาเถอะๆ ตอนใหม่ของไปซะนานหวังว่าคงไม่ว่ากัน[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Stay With Loyal

    [action]คำคมนี้ท่านได้แต่ใดมา? เอาไว้เดี๋ยวของยืมไปใช้ในนิยายบ้างนะครับ^^[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Yoshiki : Legacy weapon

    [action]ได้ข่าวว่าคอมอาการหนักเรอะพี่น้อง หนักมากก็ซื้อให่โลดเอาแรงๆ งบซัก 4-5 หมื่น ส่วนของเก่ามาบริจาคพี่นี่เอิ๊กๆ[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    -MOKO-เรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก


    [action]จะจบแล้วสู้ๆเขาครับพี่น้อง[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    MaxlanceR : Hyper Mode

    [action]ข้อมูลหายหมดท่าทางจะลำบากอยู่นะพี่น้อง หวังว่าจะกู้คือได้บ้างนะน่ะ กู้ไม้ได้เลิกเขียนเอาดื้อๆมีเคืองนะนี่ฮาๆ[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ยูคิฮิเมะ~ Gespenst Jaeger


    [action]เอนั่นสิคนเขียนเองยังนึกดอกเบี้ยที่ว่าไม่ออกเลยน่ะสิครับเจ๊ยู[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    Stay With Loyal


    [action]ยินดีที่สนุกครับผม[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    Paia: The Dominator


    [action]ท่าทางจะลำบากอยู่นะครับพี่น้อง ฮาๆ[/action]
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Share This Page