หลังจากเว็บไซต์หลักของเกม Final Fantasy XIII ได้ทำการนับถอยหลัง 4 วันสู่การเผยโฉมเทรลเลอร์ใหม่ ในที่สุด 10 โมงเช้าของวันนี้ก็ถึงฤกษ์งามยามดีที่เทรลเลอร์ดังกล่าวจะได้เผยแพร่ออกสู่สายตาของชาวโลกแล้ว โดยเทรลเลอร์ตัวนี้เป็นตัวเดียวกับที่ใช้แสดงในงาน FFXIII Premiere Party และงาน TGS 2009 ใครที่อยากชมแบบความละเอียด 720p ให้เข้าชมทางเว็บไซต์หลักของเกม แต่ใครที่อยากชมแบบ 1080p สามารถโหลดได้จากระบบ PSN ส่วนใครที่ขี้เกียจเข้าไปทางไหนทั้งนั้น พระเจ้ายูตูบกำลังรอท่านอยู่... ขออัญเชิญ.. คลิ๊กเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลักของเกม [youtubews]6NOuy6PWzEU[/youtubews] ความยาวรวม 7 นาทีกว่า มีเพลง Kimiga Irukara ให้ฟังเต็มๆ เพลงด้วย!!! =-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-= หลังจากดูเทรลเลอร์ล่าสุดของ Final Fantasy XIII จบแล้ว ก็เริ่มนึกถึงเทรลเลอร์ตัวสมบูรณ์ของ Final Fantasy ภาคก่อนๆ นึกย้อนไปถึงเทรลเลอร์ของไครซิสคอร์ที่มีคลาวด์ออกมาว๊าก.... เทรลเลอร์ของเดิร์จออฟเซอร์บีรัสที่กำกับได้ดีมากและปิดท้ายด้วยคำว่า "โลกน่ะเหรอ ช่วยมันซักหน่อยก็ได้วะ" รวมทั้งเทรลเลอร์ของภาค 12 ที่ใช้เพลง Kiss-me Goodbye อันยอดเยี่ยมประกอบ จุดเด่นของเทรลเลอร์ใหม่ของภาค 13 นี้ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องความดราม่า ปัญหาส่วนตัวที่เกิดขึ้นระหว่างสมาชิกในกลุ่มตัวเอก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่แฟนๆ อาจไม่เคยพบเห็นในไฟนอลแฟนตาซีภาคก่อนๆ หากเราลองมองย้อนกลับไปดูความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวละครในภาค 12 สมาชิกทั้ง 6 คนนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มย่อย ได้แก่กลุ่มฟรานและบัลแฟรย์ ที่เป็นคู่หูสลัดอากาศด้วยกัน กลุ่มของบาชและอาเช่ ที่เป็นเจ้าหญิงกับแม่ทัพ และกลุ่มของวานและเพเนโล่ ที่เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน สังเกตได้ว่าระหว่างกลุ่มย่อยทั้งสามกลุ่ม จะมีเส้นกันบางๆ อยู่ระหว่างกัน พวกเขาต่างไม่ได้เปิดใจให้กัน แต่กลับอยู่ด้วยกัน ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการด้วยกัน เพียงเพราะทั้งหมดมีผลประโยชน์ร่วมกัน ช่วงแรกๆ ของเกม วานและอาเช่อาจจะมีผิดใจกับบาช แต่เมื่อปรับความเข้าใจกันได้ พวกเขาก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ แต่ไอ้ความสันติที่ว่า มันเป็นความสันติของคนที่อยู่ด้วยกันเพียงเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ จริงอยู่ว่าบัลแฟรย์เป็นห่วงฟราน แต่เขากลับเว้นระยะความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เอาไว้ ฟรานเองก็ไม่สนใจ แทบไม่พูดกับใคร ตลอดทั้งเกมเธอได้พูดกับอาเช่แค่ครั้งเดียวเองด้วยซ้ำ อาเช่ที่เป็นเจ้าหญิง ก็หยิ่งทะนงและไม่เปิดใจให้ใครมาตี้สนิทง่ายๆ ขณะที่คนในกลุ่มก็รู้สถานะของตนเอง และไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปในดินแดนต้องห้าม ไม่มีใครกล้าที่จะอัพเกรดความสัมพันธ์ของตนให้กลายเป็นเพื่อขององค์หญิงคนงาม บาช วาน และเพเนโล่อาจจะยอมเปิดใจให้กับคนอื่นๆ แต่เมื่ออีก 3 คนเค้าไม่เล่นด้วย มันก็จบเห่แค่นั้น ถอยหลังกลับไปดูภาค 10 ต่อ.... ใครที่ยังจำเรื่องราวของเกมได้ดี ย่อมรู้ว่าวักก้า ลูลู่นั้นเติบโตมาด้วยกัน พอมียูน่าเข้ามาในชีวิตก็รักยูน่าเหมือนน้องสาว ขณะที่คิมาริ แม้ว่าคุณพี่เขากุดจะพยายามตีตัวออกห่างจากมนุษย์ แต่เขาก็ได้รักและเอ็นดูยูน่า คุณความดีอันมั่งมีที่เขาสร้างขึ้นส่งผลให้เขาได้รับความนับถือจากคนอื่นๆ ไปด้วย ส่วนบักทีดที่ตามมาทีหลัง แม้ว่าจะเป็นคนนอก แต่ก็เข้ามาตีซี้กับวักก้าได้อย่างรวดเร็ว แถมยังไปเกี้ยวยูน่า และพยายามทะลุทะลวงเข้าไปในจิตใจของคิมาริและลูลู่ คนที่ฮาไปวันๆ แบบนี้เนี่ยแหละครับที่จะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ขณะที่รุคคิที่ตามมาทีหลังก็เป็นพวกเดียวกับพี่ดำ คือเข้ากับใครได้ง่ายอยู่แล้ว ส่วนอารอนที่ทำตัวแก่ วางตัวเงียบขรึม ก็ได้รับความรักและนับถือจากทุกๆ คนในกลุ่ม ลุงแกก็เองก็มีรัศมีของผู้นำที่ทำให้คนอื่นรู้สึกอุ่นใจที่อยู่ใกล้ ด้วยสภาพของกลุ่มที่มีตัวฮาถึงสามคน (วักก้า ทีดัส ริคคุ) ส่วนคนที่เหลือก็เป็นคนที่ยอมเปิดใจ หรือไม่ก็ได้รับความเคารพจากคนอื่นๆ ทำให้สมาชิกในกลุ่มนี้ค่อนข้างกลมเกลียวกันในระดับหนึ่ง ทุกคนไม่ได้สู้เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่สู้เพราะความห่วงใยที่มีให้ต่อกัน เรียกได้ว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นพลังขับเคลื่อนที่ทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงได้ ถอยกลับไปอีก 1 ภาค....คุณจะพบกับภาค 9 ซึ่งพระเอกหน้าลิงของเขา เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งกลุ่มอย่างชัดเจน แม้ว่าพี่แกจะฮา หื่น ม่อ... แต่ก็มีความคิดอ่านก้าวไกล มีฝีมือที่มั่งมีและความเป็นผู้นำที่เพรียบพร้อม ด้วยฝีปากที่ฉกาจและรอยยิ้มอันสดใส ทำให้ทุกคนในกลุ่มต่างก็รักซีดาน ในรายของวีวี่ เอโก้ การ์เน็ตนั้นค่อนข้างเห็นว่าพวกเขารักซีดานอย่างชัดเจน ส่วนซาลามันเดอร์ (อมารันท์) นั้นจะออกแนวนับถือซีดาน บุรุษผู้ที่มอบบทเรียนในการใช้ชีวิตให้กับเขา ส่วนสไตเนอร์และเฟรย่าเองแม้ไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมามากมาย แต่พวกเขาก็ยอมรับซีดานในฐานะผู้นำที่คอยมอบบทเรียนชีวิตให้กับพวกเขาทีละเล็กทีละน้อย... ส่วนควีน่า โปรดละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า ไม่มีใครสามารถเข้าใจความคิดของหมอนี่ได้ เพราะมีศูนย์รวมจิตใจเป็นบุคคลเดียวกัน มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเหมือนกัน สมาชิกในทีมภาค 9 จึงมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และค่อยสร้างๆ ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งขึ้นมา วีวี่เองก็รักและนับถือทุกคนอยู่แล้ว การ์เน็ตกับเอโก้ที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันก็รักกัน สไตเนอร์เองก็เคารพรักการ์เน็ตและยังนับถือวีวี่ อาจจะมีเฟรย่า ซาลามันเดอร์ และควีน่าที่ไม่ได้ซี้กับใครเป็นพิเศษ แต่พวกเขาก็ไม่ได้วางเส้นกั้นระหว่างตัวเองกับใคร ไม่ได้หยิ่งทะนงมากมายอะไร พอมาอยู่ในกลุ่มซีดาน พวกเขาก็รู้ว่าบทบาทของตัวเองคืออะไร และสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี พอได้ผ่านทุกข์ผ่านสุขร่วมกับเพื่อนๆ ทุกคน ก็ค่อยๆ ผูกพันกับคนอื่นๆ ในฐานะพวกพ้องขึ้นมาทีละ.. ย้อนต่อไปถึงภาค 8... พวกนี้เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนกันบ้างล่ะ โตมาด้วยกันบ้างล่ะ ก็มีความสนิทกันในแบบเพื่อนๆ กัน คงไม่ต้องบอกอะไรมาก ขอข้ามไป มาถึงภาค 7 ภาคนี้เป็นภาคที่ประหลาดมาก สมาชิกแต่ละคนที่เข้าร่วมกลุ่ม ในทีแรกต่างก็เข้ามาเพราะผลประโยชน์ มีจุดหมายเดียวกัน หรือไม่ก็ต้องมีเอี่ยวอะไรกันซักอย่าง เดิมทีแกนของเรื่องคือทิฟาและแบร์เร็ตที่เป็นกลุ่มอวาแลนซ์ แล้วก็มีคลาวด์ที่ถูกชักจูงเข้ามาเพราะเงิน แต่ไปๆ มาๆ คลาวด์ก็อยู่ร่วมกลุ่มเพราะมีเรื่องต้องคิดบัญชีกับเซฟิรอธ แอริธตกกระไดพลอยโจน ต้องการปกป้องโลก นานากิจะไปไล่งับโฮโจ ยุฟฟี่ออกผจญภัยทั่วโลกและอยากได้มาเทเรียของคลาวด์ ซิดมีเรื่องกับชินระ วินเซนต์จะไปฆ่าล้างโคตรโฮโจ ลีฟตอนแรกเป็นสปายให้กับทางชินระ แต่ตอนหลังก็อยู่เพราะผูกพันกับคนในกลุ่มและอยากปกป้องโลกจริงๆ จากการได้ผ่านร้อนผ่านหนาว หลุดออกไปนอกอวกาศ โดนเวพ่อนไล่กระทืบมาด้วยกัน จากกลุ่มที่เคยอยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์ ก็ค่อยผูกพันกันขึ้นมาทีละน้อย จากคำว่าคนรู้จักจึงค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็น "พวกพ้อง" ในยามที่ใครมีปัญหาส่วนตัวที่ต้องแก้ไข พวกพ้องจึงไม่เคยนิ่งดูดาย และยังวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ วินาทีนั้นเอง หัวใจของเพื่อนพ้องที่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ก็คงตื้นตันใจ และรู้สึกถึงความเป็นเพื่อนขึ้นมา อย่างที่เห็นได้จากการที่ทุกคน ย้อนกลับมาช่วยคลาวด์รุมกระทืบเซฟิรอธ จนเกิดเป็นมหากาพย์ 8 รุม 1 (พระเอกมั่กมาก) ด้วยเหตุนี้ หลังจากจบเกมไปแล้ว สมาชิกในกลุ่มภาค 7 ก็ยังคงเป็นเพื่อนพ้องที่ดีต่อกัน และยังไปมาหาสู่ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของกันและกันเรื่อยมา ถอยหลังไปซะลึกแล้ว...พอๆๆ ถึงเวลาตัดจบเสียที สำหรับภาค 13 ที่เห็นตัวละครในกลุ่มทะเลาะกันไป ทะเลาะกันมา ไม่ว่าจะไลท์นิ่งและโฮปที่ไม่ปลื้มสโนว ไม่ว่าซัชซ์ที่ชิงชังวานิลลา ทั้งที่มีศัตรูภายนอกที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า แต่คนในกลุ่มกลับจะฆ่ากันตายซะอย่างงั้น นี่เป็นหลักฐานอย่างดี ถึงการที่พวกเขาเปิดใจให้แก่กัน มีความในใจอะไรก็แสดงออกมาจนหมด ไม่มีการปกปิด ไม่มีการใส่น่ากาก เกลียดกันก็ด่ากันตรงๆ ฟังดูเหมือนดูรุนแรง แต่คุณๆ ก็รู้ว่าตอนจบ... มันต้องไม่เป็นอย่างงั้นอยู่แล้ว ทุกคนรู้ดีว่าสุดท้าย พวกเขาทุกคนจะต้องกลับมารวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน การที่พวกเขายิ่งทะเลาะกันมากเท่าไหร่ ยิ่งเปิดใจให้กันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้พวกเขารักกันมากขึ้นเท่านั้น จริงอยู่ว่าความเป็นจริงที่พวกเขาต้องเผชิญมันอาจโหดร้าย แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นไปได้ สิ่งที่รออยู่ ก็คือมิตรภาพอันดีงาม ของเพื่อนที่จะไม่มีวันทิ้งกันอีกต่อไป ยืนยันฟันธงว่าภาคนี้จบซึ้งแน่นอน สุดท้ายทุกคนต้องกลับมาช่วยกันทำเป้าหมายให้สำเร็จ ส่วนเรื่องของเซร่าห์นั้น ถ้าเธอตายตอนจบ... มันก็ตายแบบซึ้งๆ แต่ถ้าเธอรอดตอนจบแบบพอดิบพอดี เค้าก็จะกำกับให้มันซึ้งได้อีกนั่นแหละ งานนี้ใครที่เคยบ่อน้ำตาแตกกับตอนจบภาค 10 เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ตอนดูฉากจบได้เลยครับ ส่วนตัวแล้วถ้าถามผมว่าตอนจบเซร่าห์จะตายหรือไม่? ผมเชื่อว่าถ้าเค้าอยากทำให้เกมมันออกมาเอาใจคนหมู่มาก ก็น่าจะทำให้เซร่าห์ไม่ตาย แต่!! อย่าคิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นง่ายๆ อย่าคิดว่าเกมมันจะต้องจบแบบสวยหรูเสมอไป หากจะถามว่าทำไม... ผมคงต้องถามกลับว่าคุณจำชื่อผู้กำกับเกมนี้ได้หรือไม่? เขาคือ "โมโตมุ โทริยามะ" ผู้แหวกประเพณีอันดีงามของ Final Fantasy ด้วยการทำคลอด FF X-2 ออกมาเพื่อช่วยชีวิตพี่ดำนั่นเอง...
ทำไมรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันช่าง love drama ขนาดนี้นะเนี่ย บู่ๆ สโนว์กินเด็กๆ ดูเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อนไปเลยแฮะ = ="
รอบแรกแวะเข้ามาดูเทรเลอร์ ที่งามและโดนใจมาก รอบสองอ่านวิเคราะห์ความสัมพันธ์ตัวละครเวอร์ชั่นบอนบอน ตบท้ายด้วยคีย์เวิร์ด "โมโตมุ โทริยามะ" และ "แหวกม่านประเพณี"
โดนทำเป็นคริสตัล ยังไม่มียืนยันนี่ว่จะต้องตาย อาจจะกลับมาก็ได้ สักทาง ถ้าพระเจ้าเค้าอยากจะเสก เหลือฟัลซิ ยังมีโทริยามะ จำไว้...
ไลท์นิ่งมามาดเท่ เซร่าห์เลยโมเอะ = =" อือ...ให้เลือกตามลัทธิดี (ไลท์นิ่งที่หนึ่งอยู่แล้ว อิอิ) ที่น่าสนใจมากคือโฮปป =[]=!! พระเจ้า โชตะได้ใจมาก กรี๊ดดดดด ชักรู้สึกตงิดกับสโนว์ - - มาลัทธิกล้ามบึกอยู่คนเดียว ฉันไม่นิยมง่ะ TAT,,
อ่าน Rep นี้แล้วนึกขึ้นได้ Character ภาคนี้มันเอาใจสาวกลัทธิชัดๆ เลยนี่หว่า ไลท์นิ่ง -> สาวหล่อ เซร่า -> โมเอะ โฮป -> โชตะ สโนว์ -> K ซัชช์ -> ลุง, Afro นี่ถ้า Vanilla ใส่แว่นนี่จะครบเลยนะเนี่ย ^^;
พูดถึงเซร่า...ผมว่าตายแน่...ตัวแบ๊วๆ อย่างนี้แหละเรียกน้ำตาผู้เล่นได้ดีนักแล อาจมีปรากฏการเรียกน้ำตาแบบเดียวกับสมัยแอริสตายก็ได้ สาวแว่นก้มีที่เอาดาบจี้คอลุงอาฟโร่ไง
^ ^ ก็ไม่แปลกนะถ้าจะมีคนชอบลุคแบบนั้น เพราะมันก็กึ่งๆสาวแว่น+ไลท์นิ่งแหละนะ....ฮาๆ ปล. แอริสตาย ไม่เคยร้องครับ หึหึ