All final no mercy !! สงครามอวกาศมั่วซั่ว อัพเดทตอนใหม่ Cosmic Love

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย yoshiki, 17 พฤศจิกายน 2007.

  1. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    สิบนิ้วประนมก้มกราบ หลังจากเหตุการณ์กำเนิดบอร์ดใหม่บรรดามิตรรักแฟนฟิคและนักแต่งทั้งหลายจำต้องย้ายสัมมะโนครัวมาตั้งรกรากที่บ้านใหม่แห่งนี้ก็เป็นทิวแถว อันตัวกระผมผู้มีนามโยชิกิไอ้จอมหลีเมื่อเห็นสัจธรรมแล้วว่าหากยังดื้อรั้นที่กระทู้ฟิคของตัวเองไว้ที่เดิมอาจเกิดอามาเกดอนครั้งใหญ่ได้ กระนั้นเลยเกล้ากระผมก็ต้องขอตามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่คอยมอบพวงมาลัย(รถยนต์)ยามขึ้นเวที มาเกาะกินเป็นกาฝากที่บ้านใหม่แห่งนี้ต่อไปเลยล่ะกันนะ โหะๆๆๆๆๆๆ

    ยังไม่มีตอนใหม่นะ ด้วยเหตุผลง่ายคือผมสอบ....ไม่ได้อ้างนะค้าบ ตอนนี้ชีวิตใกล้บ้าเต็มที แต่ตอนใหม่ก็เสร็จไปกว่าครึ่งแล้วไม่อยากเผางานเหมือนเรื่องก่อนๆ ก็ขอเพลาอีกสักหน่อยล่ะกัน และหากสมาชิกใหม่หรือหน้าเดิมๆทันใดสนใจจะสมัครฟิคลด IQ เรื่องนี้ก็โพสไว้ในกระทู้นี้แหละ รีเควสบทมาพอไม่ต้องมีใบสม้ครมานะ ส่วนท่านเดิมกระผมได้ทำการบันทึกข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว 555+

    เริ่มภารกิจย้ายบ้านล่ะนะ

    ปฐมบทแห่งการเริ่มต้นและสิ้นสุด

    ท่ามกลางรัตติกาลที่ยาวนาน แสงแห่งจันทราส่องประกายสู่พื้นเบื้องล่าง สิ่งก่อสร้างทรงโค้งที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนเมื่อต้องแสงจันทร์ก็กลายเป็นสีขาวนวล สายน้ำด้านล่างยังคงไหลผ่านโดยไม่สนใจสิ่งใด ขณะนี้นาฬิกาบอกเวลาตีสอง ร่างของชายหนุ่มหมาดเข้มสองคนอยู่เหนือสิ่งปลูกสร้างนั้น หนึ่งคือชายผมขาวดวงตาสีอำพัน ชุดสีแดงและดาบทรงยุโรปสีขาวดูเด่นสดุดตา อีกหนึ่งคือชายผมเงินไร้เนตรในชุดคลุมยาวสีดำและดาบสี่เล่ม ทั้งสองเม่อมองไปบนท้องฟ้าไกลอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมาย

    “เฮ้ย ไอ้บอด”

    “ว่าไงหล่อไม่เสร็จ”

    “ระหว่างสุดยอดอาวุธ กับ หน่มน้ม แกจะเลือกอะไรว่ะ”

    ชายตาบอดตีหน้าเครียดเหมือนเห็นเครื่องบินตก ก่อนจะปั้นเสียงเครียดราวกับมีตัวด้วงอยู่ในปากออกมาว่า....

    “หน่มน้ม”

    “เออ ตูก็เหมือนกัน”

    ตัวหื่นทั้งสองยังคงเม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่แม่สาวผมม่วงและชายผมสีแสดจะเดินเข้ามาพร้อมกับเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่อาจรับรู้.......


    ................................................................................................................................................................................................................................................................................

    Long Time ago in a Galaxy far far away


    แต่น แต๊น แต่นๆๆๆ (Ost สตาร์วอ ชื่ออะไรจำไม่ได้แหละ เพลงเปิดง่ะ)


    ณ ห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ห่างจากระบบสุริยะของมนุษย์หลายล้านปีแสง ในกลุ่มเครือกาแล็กซี่ที่มีเครือข่ายและขอบเขตถึงกันและกัน การติดต่อระหว่างดวงดาวมากมายนับล้านดวงชักนำเทคโนโลยีอันทันสมัย พลังแห่งการสรรสร้างและวัฒนธรรมต่างๆเข้าด้วยกัน หากแต่ความเจริญนี้ไม่อาจนำพาซึ่งสันติได้ สงครามย่อมๆยังเกิดขึ้นโดยทั่วไปบนระบบกาแล็กซี่ ALL FINAL !!!!

    ตูม!!!

    เสียงปืนใหญ่ลำแสงดั่งกึกก้อง คลื่นรังสีความร้อนสูงพุ่งผ่านยานธงแห่งกองทัพพิทักษ์จักรวาลก็เกิดระเบิดตูมใหญ่ เหล่าลูกเรือกลายเป็นไก่ย่างห้าดาวในบัดดล

    ตูม!!!!!!

    คลื่นรังสีระลอกสองถูกระดมยิงเข้าหากองยานพิทักษ์จักรวาล ดุจดั่งลูกกวางน้อยในเงื้อมมือพรานเฒ่า ผู้บัญชาการแห่งกองกำลังพิทักษ์จักรวาลที่เจ็ด ตีหน้าเครียดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    “นี่เราเสียยานธงไปสี่ลำแล้วเหรอเนี่ย” เขาบนพึมพำกับตัวเอง

    “ท่าน ผบ.ครับ ยานทางปีกซ้ายเราโดนสอยร่วงหมดแล้วค้าบบบ “ ลูกเรือนายหนึ่งวิ่งร้องไห้ฟูมฟายมารายงานผล

    “เออ รู้แล้วโว้ย มันระเบิดใกล้ยานเราขนาดนี้ไม่รู้ก็โง่แล้ว มีตาไว้ดูไม่ได้ไว้ขี้” เขาตะโกนด่าลูกน้องอย่างเหลืออด

    “ห่ะ ท่าน ผบ. มีตาไว้ขี้เหรอคับ” ลูกเรือคนเดิมแววตาเป็นประกายทันที

    “จะไปตายที่ไหนก็ไป ไอ้เวรเอ้ย”

    “ได้ครับท่าน” ว่าแล้วลูกเรือคนนั้นก็วิ่งออกไปจากห้องควบคุม ท่ามกลางความสงสัยของผู้เป็นหัวหน้าว่ามันจะไปตายจริงเหรอ

    ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดสีแดงแป๊ดพร้อมถุงมือและรองเท้าสีขาวสะอาดตา ผมสีแดงสดถึงติงหู ผิวเหลืองเช่นเดียวกับคนทั่วๆไป บนเสื้อมีตราสัญลักษณ์ของกองกำลังที่สังกัดอยู่ เหรียญตราทั้งหลายที่อยู่บนเสื้อแดงนั้นบ่งบอกว่ายศสูงเอาเรื่องอยู่

    “ท่าน ผบ. ครับ ด้านหน้าเราทะลวงทางหนีออกไปได้แล้วครับ” ลูกเรือที่มีมือยั่วเยี้ยรายงาน

    “ดีมาก เราจะติดอยู่ที่นานไม่ได้เป็นอันขาด สั่งยานทุกลำเตรียมปืนใหญ่ลำแสง รอการยิงครั้งแรงจากยานของเราและทะลวงมันออกไปเลย” ท่าน ผบ. ออกคำสั่งเด็ดขาดเหลือร้าย

    กองยานพิทักษ์จักรวาลที่กำลังตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกองยานจ้อยแลนด์ กำลังหาทางหนีตายอย่างสุดชีวิตหลังหลงเข้ามาติดกับในกลุ่มอุกกาบาตที่มีศัตรูตั้งท่ารอเชื่อดอยู่เพียบ ผู้บัญชาการชุดแดงจึงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากรีบออกไปจากที่นี่โดยด่วนเท่านั้น

    “เอาล่ะ เตรียมยิงปืนใหญ่ลำแสง เฮ้ย !!!” ชายผมแดงถึงกับผงะ เมื่อร่างของลูกเรือที่ตัวเองสั่งให้ไปตายเมื่อครู่ลอยละล่องตัดหน้าหอบัญชาการไปเหมือนแมงกะพรุนลอยในผิวน้ำไม่มีผิด

    “ท่านครับ !! จะยิงเลยไหมครับ“ ลูกเรือประจำหอควบคุมการยิงขอรับคำสั่ง

    “เอ่อ ตูผิดใช่ไหมเนี่ย” ท่านผู้บัญชาการเอ๋อรับประทาน

    ระหว่างที่ท่าน ผบ. กำลังยืนสำนึกตนอยู่ คลื่นความร้อนจำนวนมหาศาลก็พุ่งทะลวงยานของกองกำลังพิทักษ์จักรวาลเสียหายไปอีกหลายลำ ตัวยานแม่เองก็ได้รับความเสียหนัก ไฟไหม้หลายตำแหน่ง อากาศนั้นก็รั่วออกภายนอก หอควบคุมเองก็ใกล้จะพังเต็มที

    “ปัดโธ่เอ้ย ไอ้บ้า มันจะตรงต่อหน้าที่มากเกินไปแล้วเฟ้ย” ชายผมแดงตะโกนด่าอย่างเดือดดาล “เวรล่ะไง สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง”

    “ยานเราได้รับความเสียหายกว่า 80% ครับ อากาศบริเวณชั้นสองไม่อาจควบคุมได้ เครื่องยนต์เบอร์หนึ่งและสองไม่ทำงาน ตัวที่เหลือทำงานได้แค่ 10% ครับ ไฟไหม้หนักหลายจุด” ลูกเรือที่อยู่ด้านซ้ายของหอควบคุมเร่งรายงาน

    “ต้องสละยานสถานเดียวสินะ” ท่าน ผบ. ตีเสียงเครียด

    “รีบแจ้งไปที่หน่วยเวทย์ขนย้าย ว่าเราจะเผ่นกันแล้ว”

    “ไม่ได้ครับท่าน การจู่โจมเมื่อครู่ทำให้ห้องที่พวกเวทย์ขนย้ายพักกันอยู่หายไปแล้วครับ ผมคิดว่าพวกเขาคง....” ลูกเรือคนเดิมรายงาน

    “อะไรกัน นี่ชั้นต้องมาตายในที่แบบนี้เหรอ” ชายหนุ่มผมแดงกล่าวอย่างสิ้นหวังก่อนที่คลื่นลำแสงกลุ่มสุดท้ายจะทำลายกองยานที่เจ็ดจนไม่เหลือซาก


    ณ ฐานทัพใหญ่ของกองกำลังพิทักษ์จักรวาลที่ตั้งอยู่บนดาว Fiction ยานอวกาศล้ำสมัยมากมายกำลังเข้าเทียบท่า ผู้คนมากมายคับคั่ง ตึกสีขาวที่สูงตระง่านใจกลางฐานทัพซึ่งเป็นศูนย์บัญชากรสูงสุดของกองทัพ ขณะนี้มีทหารตัวประกอบรายนึงกำลังวิ่งหน้าตาตื่นจากชั้น 1 ไปชั้น 70 เพราะลิฟท์มันเสีย

    “แฮ่กๆๆ ท่านนายพลบี กองยานที่เจ็ดโดนทำลายราบเลยค้าบ” ทหารตัวประกอบรายนั้นวิ่งเข้ามารายงานด้วยความเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง

    “ฮ้า~~~~~~~~ อะไรนะ ยาหม่องหมดก็ไปซื้อดิ ก้ากๆๆๆๆ” ท่านนายพลบี แห่งกองกำลังพิทักษ์จักรวาลสิงเฮโลอีนอันดับหนึ่งช่างน่าเวทนา

    “ตูคิดผิดหรือเปล่าฟ่ะ ที่มาเป็นลูกน้องมันเนี่ย” ทหารคนนั้นอดคิดไม่ได้

    “เอาน่าๆ คิดมากแก่เร็วนะตัวเอง” ท่านนายพลยังไม่เลิกบ้า

    “เดี๋ยวส่งคนๆนั้นไปจัดการก็หมดเรื่องแย้ว” ว่าเสร็จก็สูดเฮโรอีนเข้าไปอีกหนึ่งดอก

    “ห่ะ คนๆนั้นหรือว่า...” ทหารตัวประกอบยืนขาสั้น หน้าซีดเหมือนโดนไฟแนนซ์ยึดบ้าน ฉี่ราดกางเกงนองพื้น น้ำลายฟูกปาก ตัวกระตุกพอเป็นพิธี “เป็นใครอ่ะคับ นึกไม่ออก”

    “อ้าว แล้วที่เอ๊งยืนฉี่ราดเมื่อกี้นี่ คือไม่รู้ช่ายม่ะ ก็ไอ้คนนั้นไง คนนั้นน่ะ....”

    ณ ท่าจอดยานแห่งศูนย์บัญชาการใหญ่ ชายผู้หนึ่งกำลังยืนเพ่งมองออกไปด้านนอกดุจเสือร้ายกำลังจ้องตะครุบเหยื่อ ชุดเสื้อกั้กสีดำเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตหลายเสื้อโคร่งที่อยู่ด้านใน แขนขวาสักลวดลายมังกร ในปากคาบบุหรี่ราคาถูกก่อนจะพ่นขวัญออกมาอย่างพอใจ

    “เฮ้ยๆ ไอ้บ้านั้นอ่ะ หลีกไปเด้ คนจะขนของ” ทหารผู้นึงที่นั่งอยู่บนรถขนย้ายตะโกนด่า

    “ไรว่ะ กำลังได้มูดเหมือนมิวสิกวิดีโอเลย” เขาพูดพลางขยับหมวกคาวบอยเล็กน้อยคงความเท่ห์

    “เอ้า ไอ้นี่ ยังไม่หลีกไปอีก”

    “เออๆ ไปก็ได้ว่ะ” บุรุษในเครื่องแบบสีดำบ่นเบาๆก่อนจะปลีกตัวออกมาจากจุดเดิม

    “...ขอโทษครับ มิทราบว่าคุณคือ” ทหารชั้นประทวนรายนึงเดินเข้ามาถาม

    ผมกัปตัน มาซาลัน แห่งยานอาร์ก แองเจิ้ล ครับ” กัปตันหนุ่มแก๊กเสียงหล่อสุดฤทธิ์

    “อ้อ ไม่ใช่ครับ ผมมาหาผิดคน” ทหารตอบ ทำเอากัปตันแก๊กค้าง

    “เฮ้ยๆๆๆ เดี๋ยว ในมือนั้นถืออะไรล่ะห่ะ” พลันคว้าของในมือทหารคนนั้นไปแบบไร้มารยาท

    “ไม่ได้นะครับ เดี๋ยวผมโดนด่ายับแน่” ทหารผู้น้อยพยายามจะเอาคืน

    “หืม.... ตามล่ากองกำลังจ้อยแลนด์ งานจ้าบไปเลยจอร์จ ขอล่ะกันนะไอ้นี่อ่ะ” มาซาลัน ยิ้มเริ่งร่าเหมือนได้กล้วยแขก

    “อ่า ไม่น้า นั้นมันสำคัญมากเลยนะคับ”

    “เฮ้ยๆ ไม่มีใครเหมาะกับงานนี้เท่าข้าอีกแล้ว ขอล่ะกันนะ ก้ากๆๆๆ” กัปตันหนุ่มหัวเราะร่วนพร้อมเดินจากไปทิ้งให้ทหารชั้นผู้น้อยนั่งน้ำตาตก



    “อะไรว่ะ ไอ้เด็กนี่แค่งานง่ายๆหยั่งงี้ยังทำไม่ได้จะไปทำอะไรกินห่ะ” เสียงผู้ดูแลบาร์ดั่งสนั่นหวั่นไหวเมื่อ หนุ่มผมขาวในชุดขาดปอน ทำแก้วแตกเป็นครั้งที่ห้าร้อยห้าสิบห้า หรือ ห้าๆๆ

    “ผมขอโทษคับ” เด็กหนุ่มได้แต่ก้มหน้างุดๆ “ ก็เห็นแกขอโทษทุกครั้งแล้วก็ทำแตกทุกครั้งไม่รู้ลูกพี่เลี้ยงแกไว้หาพระแสงอะไร จะไปไหนก็ไป ไป๊ !!”

    เด็กหนุ่มผมขาวออกมานั่งรับลมที่นอกร้าน สิ่งก่อสร้างที่ได้รับความเสียหายจากสงครามมากมายอยู่รายล้อมตัวเขา ท้องฟ้าสีส้มอ่อนๆบอกเวลาเย็นได้เป็นอย่างดี บันไดไม้หน้าร้านที่นั่งอยู่ส่งเสียงเอียดอ้าด เป็นที่น่ารำคาญหูยิ่งนัก หากแต่บุรุษหนุ่มในเสื้อคลุมสีดำได้ก้าวมาอยู่เบื้องหน้าของเขา ใบหน้าที่มองผ่านเสื้อคลุมดำนั้นดูเป็นมิตรไม่ใช่น้อย

    “ไง ไอ้หนูมานั่งทำอะไรตรงนี้ล่ะ” ชายในเสื้อคลุมเอ่ยปากถาม

    “ก็มีเรื่องนิดหน่อยน่ะคับ” เด็กหนุ่มยังคงเศร้าใจกับเรื่องเมื่อครู่ “ว่าแต่พี่ชายมีธุระอะไรในนี่เหรอคับหรือว่ามานั่งดื่ม”

    “ไม่น่ะชั้นไม่ดื่มเหล้า” ชายในชุดคลุมเงยหน้าขึ้นมองร้านอย่างพินิจพิเคราะห์ “นี่คือร้านของคุณ เรดพิล ใช่ไหม”

    “ครับผม” เด็กหนุ่มตอบรับ “พาชั้นไปหาเขาหน่อยสิ”

    เสียงลมพัดดังขึ้น หอบเอาเม็ดทรายมากมายตามกระแสลมไปด้วย จันทรากำลังเข้าแทนที่แสงตะวัน ภายในสถานนีอวกาศร้างอันเป็นอิสระจากผู้ใด สถานที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกนอกกฎหมายและเหล่าผู้มีอิทธิพลกำลังเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง ที่จะนำพาทุกชะตาชีวิตไปในทิศทางที่ไม่อาจคาดเดา



    .............................................................................................................................................................................................................................................
  2. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    เด็กหนุ่ม ชายตาบอด มาเฟีย และกัปตันไม่เต็มบาท

    ราตรีกาลเข้าปกคลุมไปทั่วสถานนีอวกาศโทรมๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นสำคัญของฝ่ายกองกำลังพิทักษ์จักรวาล แต่ด้วยไฟแห่งสงครามทำให้สถานีอวกาศนี้ไม่อาจนำกลับไปใช้เป็นฐานกำลังได้อีก เหล่าผู้มีอิทธิผลมืดจึงใช้เงินจำนวนมหาศาลซื้อซากฐานทัพเก่าๆ มาปรับปรุงเป็นแหล่งคาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆในจักรวาล โดยมีผู้เป็นเจ้าของคนปัจจุบันคือ เรดพิล มาเฟียใหญ่แห่งสถานีอวกาศ โอ้ลันล้า

    “ว่าไงหนุ่มน้อย รู้จักที่อยู่ของคุณเรดพิลหรือเปล่า” ชายในชุดคลุมก้มตัวลงถาม

    “ก็โรงแรมใหญ่ๆนั่นไงคับ” พลางชี้ไปทางโรงแรมหรูสูงเสียดฟ้าท่ามกลางซากปรักหักพังเบื้องล่าง

    “โอ้ โรงแรมนั้นเหรอหรูใช่เล่นแหะ” ชายในชุดคลุมพูดไปเกาตูดไปด้วย “ว่าแต่พี่ชาย มีธุระอะไรกับคุณเรดพิลเหรอคับ” หนุ่มน้อยผมขาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย

    “ก็แค่ถูกเรียกมาน่ะ แต่มันยังเหลือเวลาอีกหน่อย ช่วยพาไปโบสถ์ของที่นี่หน่อยสิ”

    “จะไปทำอะไรนั้นล่ะคับ” เด็กน้อยถามไม่หยุด

    “อะไรฟ่ะ ถามอยู่ได้ไอ้เด็กนี่ช่วยพาไปหน่อยล่ะกันหน่า” ชายชุดคลุมเลิกเสียงสูง “โอเคๆคับ แต่ช่วยจ่ายค่านำทางเป็นเงินห้าร้อยเหรียญนะ” หนุ่มผมขาวแบมือขอตัง

    “เฮ้ยๆ แก แค่นำทางคิดตั้งห้าร้อยเลยเหรอ” พลันหันไปสำรวจกระเป๋าตังตัวเอง “สองร้อยได้ป่ะ”

    “ตกลงเลยเพ่ชาย สองร้อยก็ได้” เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม ก่อนจะคว้าเงินในมือชายชุดคลุมไปด้วยความรวดเร็ว


    ไม่นานนัก เบื้องหน้าของชายทั้งสองคือ โบสถ์สีขาวสะอาดตาที่ถูกรายรอบไปด้วยกระจกสีสวยและลวดลายจากฝีมือช่างแกะสลักชั้นยอด ด้านหน้ารูปปั้นนางฟ้าถือหอกยาวที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนทั้งสองพร้อมต้อนรับอาคันตุกะจากทุกสารทิศ บันไดยาวสู่ประตูไม้ขนาดใหญ่ มือในผ้าคลุมค่อยๆเปิดประตูนั้นพร้อมก้าวเดินเข้าไปในตัวโบสถ์โดยมีหนุ่มผมขาวตามมาติดๆ

    “อ้าว เนียร์พาใครมาด้วยเหรอ” เจ้าของน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง คือหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีครีมที่ทำจากผ้าฝ้าย ตามขอบเป็นลายสีทองส่องแสงระยิบระยับ เรือนผมยาวและดวงตาสีอำพันชวนหลงใหลกำลังหันใบหน้าได้รูปมาทางมนุษย์ที่เพิ่งก้าวเข้ามา

    “อ้อ คือ พี่ชายคนนี้เขาอยากมาที่นี่น่ะคับ คุณแองเจิ้ล” เด็กหนุ่มตอบรับเสียงใส

    “งั้นเหรอคะ แล้วมีอะไรให้ช่วยไหมคะ” น้ำเสียงนุ่มถูกเอ่ยออกมา “ก็แค่ อยากเห็นใบหน้าเลอโฉมของผู้ที่มีพลังเวทย์ขาวอันดับต้นๆในจักรวาลเท่านั้นแหละจ๊ะ” ชายในชุดคลุมหลีหญิงขึ้นมาทันที

    “หืม....งั้นเหรอคะ” แองเจิ้ลเขินอายเล็กน้อย “เอ...แต่น้ำเสียงแบบนี้มันคุ้นๆแหะ”

    “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะจ๊ะ แองเจิ้ล โคลเวีย บิเลนเต้ จุฟๆๆๆ” ว่าพลางส่งจูบเป็นปืนกล M4A1 (ปืนแรมโบ้นั้นแหละ) ก่อนจะปลดผ้าคลุมของตนออก ปรากฏร่างชายหนุ่มสูงโปร่ง ในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำตามขอบเสื้อมีลายคลื่นสีฟ้า เสื้อด้านในสีฟ้าอ่อนบวกกับกางเกงสเลกสีดำสนิท ผมสีเงินยาวปรกหน้า ใบหน้าทรงรีคล้ายผู้หญิงพร้อมดวงตาที่ปิดสนิทและรอยยิ้มวอนกินรองเท้ามากเหลือหลาย

    “อ่ะ คุณโยชิกิ จอมขี้หลี” เธออุทานไพเราะเพราะพริ้ง

    “นี่รู้จักกันเหรอคับ” เนียร์ที่ยืนนิ่งได้สักพักขอมีบทมั้ง “ใช่แล้วจ๊ะ เขาคนนี้คือโยชิกิ หนึ่งในสี่ดวงตกแดงแห่งคาซึคาเบะ

    “ห่ะ กลุ่มรับจ้างทำงานสารพัดชนิดตั้งแต่ฆ่าคนยันดูดส้วมสาธารณะที่มีสมาชิกสติไม่เต็มบาททั้งสี่คนนั้นเหรอคับ” เนียร์รายประวัติแบบไม่กลัวโยชิกิต่อยฟันร่วง

    “เออ....ใช่สิ พวกเรามันไม่เต็มบาทนี่ แง้ๆๆๆๆ” แล้วจู่ๆไอ้บอดก็ลงไปนอนดิ้นพราดๆที่พื้นโบสถ์ซะงั้น

    “ดูท่าพี่เขาจะไม่เต็มตามคำล่ำลือจริงๆนะคับเนี่ย” เนียร์มองสารรูปโยชิกิอย่างสมเพชในตาที่สุด “อือ ก็เป็นแบบนี้กันมานานแล้วล่ะ” แองเจิ้ลเสริม

    “ว่าแต่ โยชิกิ มาทำอะไรเหรอคะ” หนุ่มตาบอดค่อยๆลุกยืนปาดน้ำตาพลางส่งเสียงกระซิกๆพอเป็นพิธี ก่อนจะเข้ามาจับมือสวยของแองเจิ้ล “มาขอคุณแต่งงานไงครับ” โยชิกิแก๊กเสียงหล่อสุดฤทธิ์

    ......................ฟ้าผ่ากลางโบสถ์ เสียงบรรเลงเพลงงานวิวาทดั่งลั่นพลางเสียงระฆังร่วมเป็นสักขีพยาน นกพิราบสีขาวพร้อมใจทิ้งอุจจาระเป็นการเฉลิมฉลอง สาวผมทองหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยพลัน พลางหลบสายตาของหนุ่มตาบอดก่อนจะหันกลับมาประสบเปลือกตานั้นอีกครั้ง

    “อย่าหวังเลยค่ะ ไอ้คุณหน้าหมอ” เธอด่าพร้อมรอยยิ้ม “จริงๆง่ะ” โยชิกิยังดื้อ

    “จริงค่ะ” แองเจิ้ลก็ยังคงยิ้มหวานแบบนั้น ทำเอาโยชิกิซึมกระบือไปอีกรอบ

    “แล้วสรุปโยคุง มาทำอะไรกันแน่เนี่ย” สาวผมทองยังไม่สิ้นสงสัย โดยมีเนียร์พยักหน้าหงึกๆสอดรู้สอดเห็นไปด้วย

    “คือว่า เฮียเรด เรียกมาอ่ะ” โยชิกิตอบไปเอานิ้วจิ้มพื้นไปด้วย

    “มีงานสินะคะ” แองเจิ้ลตั้งขอสังเกตุ “คุณเรด เรียกพี่คนนี้มาทำให้งานล่มหรือเปล่านะ” เนียร์แอบคิดในใจ

    “ก็งั้นแหละ แต่ไม่รู้เป็นงานอะไรเหมือนกันน่ะ” โยชิกิยังนั่งยองๆเอานิ้ววนพื้นอยู่

    “ว่าแต่ว่า ให้เนียร์เป็นคนพามาที่นี่ใช่ไหมคะ” สาวผมทองเอ่ยเสียงนุ่มน่าฟัง

    “อือ ทำไมเหรอ”

    “แล้วให้เงินกับเนียร์ไปหรือเปล่าคะ” สิ้นคำเนียร์สะอึกเล็กน้อย

    “เออ ไอ้เด็กนี่มันคิดค่านำทางโคตรแพงเลย ตั้งสองร้อยเหรียญ” โยชิกิกล่าวสุดจะเซ๊ง

    “โดนหลอกแล้วล่ะคะ ปกติค่านำทางมันแค่สองเหรียญเท่านั้นเอง” เท่านั้นแหละ เนียร์รีบจ้ำอ้าวออกไปจากโบสถ์โดยไว จากที่ยืนคุยกันหนุ่มผมขาวได้ออกนอกประตูไปเป็นที่เรียบร้อย “ไอ้เด็กเวร !!!!” โยชิกิคำรามลั่น

    ระหว่างที่เนียร์กำลังวิ่งหนีสุดฝีเท้าพลางยิ้มแสยะที่ไปหลอกเงินชาวบ้านได้ ลมหอบใหญ่ก็พัดกระหน่ำสวนทางกับที่เขาวิ่งอยู่ แล้วเริ่มจะมีเศษซากขยะแทบๆนั้นปลิวตามไปกับกระแสลมด้วย แม้จะพยายามฝืนขนาดไหนแต่ตัวเขาก็ได้แต่ถอยร่นๆเท่านั้น

    “ลมบ้าอะไรเนี่ย แรงชะมัด” เนียร์สบถเล็กน้อยถืงปานกลางแต่ก็ไม่อาจฝีนกระแสลมที่หนักหน่วงดุจพายุได้ ไม่นานตัวเขาก็กลับมายืนอยู่หน้าโบสถ์อีกครั้งโดยมีโยชิกิที่มาพร้อมรอยยิ้มอำมหิตกับดาบเซเบอร์ทรงอัศวินยุโรปเล่มยาวที่ส่องประกายแสงสีเขียวอ่อนและแองเจิ้ลที่สวดมนต์ไว้อาลัยอยู่ด้วย

    “ดูถูกชั้นไปหน่อยนะ ไอ้หนู....” โยชิกิยิ้ม หึหึ ดูยังไงแกก็ไอ้โรคจิตชัดๆ

    “เล่นงี้ขี้โกงนี่หนา” เนียร์ตะโกนด่าใส่หน้าโยชิกิ น้ำลายกระเด็กท่วมหน้า

    “แล้ว นี่โยคุง ไม่ไปหาคุณเรดพิลแล้วเหรอคะ”

    “เออ จริงด้วยฝากไว้ก่อนล่ะกันไอ้เด็กสเปโต” โยชิกิควักผ้าขี้ริ้วมาเช็ดหน้าตัวเองก่อนจะเอาผ้าผืนเดิมขยี้หน้าเนียร์ พลางเขกกะโหลกนึงทีและเดินจากไปอย่างสบายอารมณ์

    “นี่ ไม่ต้องฝากแล้วมั้ง เฮีย” เนียร์รำพึง


    ณ บาร์ที่เนียร์ทำงาน ด้านในกลิ่นบุหรี่นั้นเหม็นคลุ้ง แถมควันบุหรี่ยังจับกลุ้มก้อนล่องลอยเต็มบาร์ไปหมด แก้วสำหรับรินสุราถูกเรียงรายอยู่หลังเคาท์เตอร์ โดยมีบาร์เทนเดอร์ร่างยักษ์ที่มีผิวเป็นเกล็ดคอยให้บริการลูกค้ามากหน้าหลายตา แต่วันนี้ทางร้านดูคึกคักเป็นพิเศษเมื่อมีลูกค้ากลุ่มใหญ่กว่าสามสิบคนเข้ามาอัดในร้านถึงแม้ว่าแต่ล่ะคนจะสั่งน้ำเปล่าก็เหอะ

    “เฮ้ย ใครสั่งเหล้ามากินจ่ายเองนะเฟ้ย” กัปตันมาซาลันตะโกนด่าเสียงขรม

    “แล้วกัปตันจะพาเรามาเลี้ยงทำไมเนี่ย” ลูกเรือคนนึงบ่นอิดออด

    “แล้วใครบอกว่าจะเลี้ยงฟ่ะ มาทำธุระต่างหาก” ว่าพลางรินน้ำเปล่าใส่แก้วก่อนจะกระดกกรึบเดียวหมด

    “งั้นกัปตันมาทำอะไรแน่ง่ะ” ลูกเรือที่มีหูยาวไปด้านหลังยกมือถาม

    “มาหายานรบไงเล่า” สิ้นเสียงทั้งร้านตกในความเงียบงันทันที เหล่าลูกค้าคนอื่นจ้องมองอย่างขูดเลือดขูดเนื้อ ราวกับเพิ่งไปบีบคอลูกหมาที่บ้านมันตายทั้งคอก

    “เออ...คือหนูพูดอะไรไปเนี่ย อย่าคิดมากกันนะตัวเอง” มาซาลันแอ๊บแบ๊วเต็มพิกัด แต่เหล่าลูกเรือหมดความศรัทธาทันที

    “ที่ต้องมาตกอับแบบนี้ก็เพราะเรื่องคราวนั้นแท้ๆเน้อ” ลูกเรือคนนึงพูดขึ้น ทำให้คนอื่นๆนึกภาพตามไปด้วย


    ประมาณสี่ชั่วโมงที่แล้ว ณ ฐานบัญชาการใหญ่กองกำลังสหพันฐ์พิทักษ์จักรวาล......

    “เฮ้ย ไอ้ตัวขี้เกียจทั้งหลายเลิกนอนอู้แล้วดูนี่ซะ” มาซาลันกระโดดสับขาหลอกเข้ามาในห้องพักลูกเรือ แต่พลาดขาพันกันมั่วเลยล้มลงไปนอนจูบพื้น แต่มือยังชูใบคำสั่งอยู่

    “อะไรอีกล่ะกัปตัน นี่ยังไม่เลิกก่อเรื่องอีกเหรอคับ” ลูกเรือหนวดปลาหมึกเอ่ยถาม

    “งานนี้งานใหญ่นะเฟ้ย ดูๆๆๆ ตามล่าพวกจ้อยแลนด์เชียวนะ รีบเอายาน อาร์กแองเจิ้ล ของเราออกได้แล้ว” กัปตันตะโกนสั่ง

    “คือ ผมมีคำถามคับ” ลูกเรือที่มีมือแปดมือยกมือทั้งหมดถาม

    “ว่ามา สหายข้า” มาซาลันเสียงเข้มทันที

    “เมื่อสามเดือนก่อน เราซ้อมยิงปืนใหญ่ใช่ไหมคับ”

    “ใช่แล้วไง”

    “แล้วกัปตันก็สั่งพิกัดยิงพลาดไปโดนฐานบัญชาการหายไปกว่าครึ่งใช่ไหมคับ”

    “.......แล้วจะพูดออกมาทำไมฟ่ะ” มาซาลันไม่ยอมรับความจริง

    “แล้วพวกเราก็โดนยึดยาน อาร์กแองเจิ้ล ไปเป็นการลงโทษใช่ไหมครับ” ลูกเรือเอ่ยเสียงน่ารัก


    ทั้งห้องเงียบสงบไปพักนึงก่อนจะร้องอ้อ ออกมาพร้อมกัน..... “เออ ชิบหายแล้ว งี้เราก็ไม่มียานรบใช้น่ะสิ” กัปตันหนุ่มตะโกนน้ำลายกระช่อก

    “ก็นั้นแหละคับ” ลูกเรือคนเดิมเอ่ยขึ้นพลางเช็ดน้ำลายออกจากตัว

    “แล้วนี่ไม่มีไอเดียอะไรดีๆกันเลยเหรอ” กัปตันมาซาลันยังไม่ยอมแพ้ ลูกเรือทั้งห้องยืนกอดอกเอามือจับคางตัวเอง แล้วลูกเรือหัวหมีพูก็เอ่ยขึ้น “ผมพอมีวิธีหายานรบให้เราได้คับ”

    “ด้วยเหตุล่ะฉะนี้พวกเราถึงมาอยู่ที่นี่สินะ” กัปตันหนุ่มเอ่ยพร้อมถอนหายใจยาวๆ “อุตส่าห์ถ่อสังขารมายังไม่เห็นที่ไหนจะมียานรบขายเลยสักที่”

    “พวกน้าๆหายานรบกันอยู่เหรอ” เนียร์ที่กลับมาตั้งแต่เมื่อไรกันไม่รู้เสนอหน้าเข้าไปถาม ทำเอามาซาลันหัวใจจะวาย “เฮ้ย จะพรวดพราดเข้ามาก็หัดบอกกันมั้งเด้”

    “แล้วพวกน้าหายานรบกันเหรอ” เนียร์ถามอีกครั้ง “เออ มีที่แนะนำหรือไง”

    “ก็พาไปได้นะน้า แต่ต้องมีค่านำทาง” ว่าเสร็จหนุ่มผมขาวก็ทำท่าแบมือขอตัง

    “เท่าไรว่ามา” กัปตันมาซาลันควักกระเป๋าเงินพร้อมจ่าย “ไม่แพงมากน้า สามพันเหรียญไม่มีลด”

    ความเงียบเข้ายึดครองเป็นเวลาสามวินาที.....”สามพันเหรียญ !!! “ มาซาลันตะโกนลั่น หน้าถอดสีกลายเป็นก้อนโมจิ น่าเคี้ยวน่ารับประทาน

    “ไม่จ่ายมาก็หาที่ซื้อยานรบไม่ได้นะ น้า~~”

    “เอาว่ะ จ่ายก็จ่ายพาไปเลยไอ้น้องชาย” เนียร์รับเงินก่อนจะรีบเดินออกไปข้างนอกเพราะหุบยิ้มตัวเองไม่อยู่ “วันนี้รวยแหะ มีคนโง่จ่ายมาตั้งสองราย ก้ากๆ”


    ภายใต้แสงจันทรา กระจกทั้งหลายของโรงแรม คืนเดียวก็เสียวได้ เมื่อต้องแสงจันทร์ก็ส่งประกายระยิบระยับ ด้วยความสูงถืง 70 ชั้น และรูปทรงเป็นตัวเกือกม้าทำให้โรงแรมนี่แถมจะโอบทั่วบริเวณทั้งหมดเลยทีเดียว ภายในนั้นหรูหราโอ่อา ผิดกับด้านนอกบริเวณโรงแรมลิบลับ เหล่าแขกต่างหาที่พักผ่อนไม่ก็ไปเล่นพนันภายในตัวโรงแรม โยชิกิ ซึ่งอยู่ด้านล่างสุดแหงนหน้ามองไปชั้นบนก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน “เฮ้อ รู้งี้หาใครมาเป็นเพื่อนด้วยก็ดี เฮียเรด แกอยู่ชั้นไหนเนี่ย”

    ขณะที่กำลังยืนบื้อให้ยุงกัดเล่นอยู่นั้น พนักงานสาวสวยก็เดินตรงเข้ามาทางเขา ด้วยเรดาห์จับผู้หญิงที่ทำงานไวยิ่งกว่าหนวดแมลงสาปทำให้โยชิกิรู้สึกตัวทันที “มิทราบว่าสุภาพสตรีท่านนี้ มีคนรู้ใจหรือยังคับ ถ้ายังคืนนี้ดื่มไวน์ใต้แสงจันทร์กับผมไหมครับ” โยชิกิดัดจริตเต็มที่

    “ยินดีค่ะ” เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเข้มยิ่งกว่ากาแฟดำ “อุ่ก...กระเทย” ไอ้หม้อตาบอดถึงกับจุก

    “ว่าแต่ เราจะไปดื่มกันเลยไหมคะ” เธอคนนั้นยังคงเขินอาย

    “แหะๆ ไม่เป็นไรคับ ว่าแต่คุณเรดพิลอยู่ชั้นไหนเหรอ”

    “ชั้น 44 ห้อง 4401 จ๊ะพ่อรูปหล่อ” กระเทยสวยพยายามเข้ามาลูบไล้โยชิกิ “เอ่อๆ เดี๋ยวผมต้องรีบไปทำธุระแล้วคับ” หนุ่มตาบอดเหงือแตกเป็นการประปา

    “แล้วเค้าจะรอนะตัวเอง” ว่าแล้วก็ส่งจูบน่าพิสมัยพร้อมสายตาหวานน้ำตาลอายมาทางหนุ่มตาบอด โยชิกิรีบปลีกตัวขึ้นลิฟท์ไปในทันที “วิกฤติชายหนุ่มทั้งแท่งเลยนะเนี่ย....” โยชิกิรำพึง

    เมื่อถึงชั้น 44 หนุ่มผมเงินก้าวออกมาจากลิฟท์ช้าๆโดยที่ความสยองจากล็อบบี้ยังตามหลอกหลอนอยู่ หลังจากเดินตามพรหมหรูสีแดงได้สักพักประตูไม้อย่างดีของห้อง 4401 ก็อยู่ตรงหน้าเขา

    ก็อกๆๆ

    “เข้ามา” เสียงใหญ่ของชายวัยกลางคนดังสวนออกมา ไม่รอดช้าชายไร้เนตรก็เปิดประตูสวนไปกับเสียงนั้น

    “อ้าว แม็ก แกก็อยู่ด้วยเหรอ” โยชิกิเอ่ยทักทาย บุรุษผมขาวหน้าตาดุจเทพบุตรผู้มาพร้อมกับเสื้อคลุมยาวเหมือนของโยชิกิแต่เป็นสีแดงสด ชุดสีดำด้านในมีดาบยุโรปเล่มยาววางอยู่ข้างตัว ปืนพกทั้งสองที่เก็บไว้ข้างลำตัวพร้อมใช้ตลอดเวลา “หวัดดี โย..” ชายคนนั้นเอ่ยปากขึ้น

    “สวัสดีโยชิกิ สี่ดวงตกแดงแห่งคาซึคาเบะ และสวัสดีแม็กแลนเซอร์ หนึ่งในสี่ดวงตกแดงอีกครั้งล่ะกัน”เจ้าของเสียงคือ ชายร่างท้วมในชุดสูทสีดำเน็กไทสีแดง สวมหมวกทรงสูง ในปากมีบุหรี่สองม้วนตามตัวมีขนขึ้นยุ่บยับไปหมด

    “สวัดดีครับ คุณเรดพิล มาเฟียใหญ่แห่ง โอลันล้า” โยชิกิกล่าวทักทาย แม็กเองก็พยักหน้าตอบรับ

    “ถึงกับจ้างพวกเราสองคนนี้คงเป็นงานใหญ่สินะครับ คุณเรดพิล” แม็กเอ่ยถามเสียงนิ่ง

    “ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากหรอก” มาเฟียใหญ่พูดพลางจี้ก้นบุหรี่ “แค่อยากให้ช่วยคุ้มกันลูกสาวชั้นเท่านั้นเอง”

    โยชิกิกับแม็กสะอึกออกมาทันที... “ห่ะ ให้ดูแลยัยคุณหนูคุมิคุมหาภัยนั้นเหรอคับ” โยชิกิไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

    “จะไปคุ้มกันหรือไปโดนคุณหนูแกทดลองเวทย์เล่นกันแน่เนี่ย” แม็กเอามือตบกบาลตัวเองจนเลือดออก จะตบทำไมฟ่ะ

    “พักนี้ลูกสาวชั้นซนมากเหลือเกิน กลัวจะไปทำอะไรไม่เข้าท่าน่ะสิ” เรดพิลบ่น

    “แต่ผมว่าไม่มีอะไรต้องห่วงหรอกคับ คุณหนูแกเก่งจะตาย” โยชิกิพูดขึ้น “นั้นสิ ขนาดเคยมีเรื่องกับพวกเรายังตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้เลย” แม็กเสริม

    “แต่คราวก่อนพลาดตกอยู่ในวงล้อมศัตรูหลายสิบคนเลยนะ” เรดพิลเอ่ยเสียงเครียด

    “แล้วเป็นยังไงบ้างครับ” โยชิกิถามต่อทันที “ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ไอ้พวกนั้นโดนส่งเข้าโรงพยาบาลกันหมดเท่านั้นแหละ” ว่าแล้วมาเฟียใหญ่ก็ปล่อยก้ากออกมาดังลั่น โดยที่สองหนุ่มจากกลุ่มเดียวกันได้แต่ยิ้มแห้งๆ

    “อย่างที่คิดเลย” แม็กส่ายหัว “แล้วจะจ้างพวกเราไปคุ้มกันทำไมอีกล่ะคับเนี่ย”

    “ก็พักนี้มีเรื่องถี่เหลือเกินน่ะสิ ชั้นกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นมาจริงๆ กันไว้ดีกว่าแก้จริงไหม” มาเฟียใหญ่เอ่ยพลางคว้าบุหรี่อีกสองม้วนขึ้นมาสูบ

    “เฮ้ย แม็กตูว่าถ้าเรารับงานนี้มีอายุสั้นว่ะ” โยชิกิเขยิบไปกระซิบข้างหู “เออ เห็นด้วย” แม็กตอบทันควัน

    “พวกเราไม่ขอรับงานนี้คับ คุณเรดพิล” แม็กพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดๆ

    “งั้นเหรอ...ว่าจะให้เจ้าพวกนี้เป็นค่าจ้างสักหน่อย” ว่าแล้วก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสี่ใบสองใบแรกเป็นเงินสดหลายแสนเหรียญอยู่ อีกสองใบเป็นหนังโป๊ล้วนๆ สองหนุ่มมองกระเป๋าทั้งสี่ใบก่อนจะกลืนน้ำลายที่ไหลย้อยเต็มตัว

    “แม็ก....ตูยอมตายว่ะ” โยชิกิเลือดกำเดาไหลซะอย่างงั้น “.......เอาเป็นว่าเราขอเวลาคิดหน่อยล่ะกันคับ คุณเรดพิล” แม็กเอ่ยสั้นๆพลางเช็ดเหงือออกจากหน้า

    “ได้ แล้วชั้นจะรอคำตอบนะ” มาเฟียใหญ่เก็บกระเป๋าทั้งหมดไป ท่ามกลางความเสียดายของชายหนุ่มทั้งสอง

    ปัง !!

    เสียงเปิดประตูดั่งลั่นปรากฏร่างของกัปตันในหมวกคาวบอยสุดเท่ห์กับเด็กหนุ่มผมขาว มาซาลันมองไปรอบๆห้องก่อนจะควักบุหรี่เก่าๆขึ้นมาสูบ “มิทราบว่าใครคือ มาเฟียเรดพิล “ กัปตันหนุ่มพูดไปแคะขี้หูไป

    “แล้วเอ๊งเป็นใครจู่ๆพรวดเข้ามาในห้องข้า” เรดพิลแสดงตัวทันที “อ้าว หวัดดีไอ้เด็กเวร มาหาที่ตายถึงในนี้เลยเหรอ” โยชิกิทักทายอย่างเป็นกันเอง

    “แหะๆๆ พี่โยอยู่ที่นี่ด้วยเหรอคับ เกล้ากระผมก็นึกว่าพี่ออกไปแล้ว” เนียร์ยืนเหงื่อตก อุจจาระทะลักออกจากสมอง

    “ใครฟ่ะ โย” แม็กถามขึ้น “อ้อ ไอ้เด็กนี่มันโกงเงินค่านำทางชั้นน่ะ จริงๆเขานำทางกันแค่สองเหรียญแต่ไอ้เด็กนี่เก็บซะสองร้อย “ โยชิกิกล่างเซ๊งๆ แต่เมื่อมาซาลันได้ยินดังนั้นก็ควักปืนจ่อขมับเด็กน้อยทันที เนียร์หลับตาปี๋คิดถึงพ่อแก้วแม่แก้ว

    “เฮ้ยๆ อย่ามาฆ่ากันในห้องอั๊วะ ไปมีเรื่องกันข้างนอก” มาเฟียใหญ่กล่าวเสียงโหด กัปตันหนุ่มจึงค่อยๆลดปืนลง “เดี๋ยวมีเคลียร์แน่ แก..” พูดเสร็จเนียร์ก็วิ่งหนีไปไม่เห็นแม้แต่เงา

    “ไอ้เด็กนี่ ฝีเท้ามันเร็วจริงๆแหะ” แม็กพูดทึ่งๆ “เออดิ เมื่อกี้ตอนอยู่ในโบสถ์ แปบเดียวมันก็หนีชั้นไปได้แหละ

    “เจ้าเนียร์ ฝีเท้ามันดี ที่ชั้นรับมันมาทำงานก็เพราะเรื่องนี้แหละ ถึงมันจะตุ๋นคนเป็นสรณะก็เถอะ” มาเฟียใหญ่นั่งลงยัดมะเร็งเข้าปอดอีกครั้ง “เอ้า แล้วแกมีธุระอะไร กัปตัน”

    “โอ้ รู้ว่าผมเป็นกัปตันด้วยเหรอ” มาซาลันคว้าเก้าอี้มานั่ง แต่พลาดร่วงลงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้น ด้วยความกลัวว่าจะเสียฟอร์มเลยนอนคุยมันซะเลย

    “ก็ชุดที่แกใส่มันบ่งบอกนี่หว่า” เรดพิล พ่นควันบุหรี่ปุ๋ยๆ “แล้วมีธุระอะไรห่ะ”

    “คือผมจะมาขอซื้อยานรบน่ะ” กัปตันหนุ่มแจ้งเจตจำนง

    “แล้วต้องการรุ่นไหนล่ะ” มาเฟียใหญ่ ยื่นแคตตาล็อกมาให้มาซาลัน “เอารุ่นที่เจ๋งที่สุด” กัปตันตกอับตอบทันที

    “งั้นแก มีเงินมาเท่าไร”

    “ก็มีอยู่สามพันห้าร้อยเหรียญ แต่โดนโกงไปแล้วสามพันเหรียญ เหลือตอนนี้ห้าร้อยเหรียญอ่ะ” มาซาลันยิ้มแห้งๆ โยชิกิกับแม็กแทบจะลงไปนอนหัวเราะ ส่วนเรดพิลอ้าปากค้างบุหรี่ร่วงไปโดนถุงเท้าขาดๆจนไฟลุกต้องรีบช่วยกันดับ

    “อะไรของนายมีเงินห้าร้อย มาซื้อยานรบเนี่ยนะ” โยชิกิพูดไปปาดน้ำตาไป

    “เงินทุบกระปุกหมูลูกเรือเลยนะโว้ย” ว่าพลางโชว์ซากกระปุกหมูที่เพิ่งทุบไปหมาดๆ

    “ไอ้บ้า !! เงินห้าร้อยยังซื้อประตูยานไม่ได้เลย” มาเฟียตะโกนด่าเสียงขรม

    “ได้โปรดเถอะ ยานสัปปะรังเค ยานสั่วๆอะไรมาก็ได้ พลีสๆ “ มาซาลันคุกเข่าอ้อนวอน

    “คุณเรดพิล คุณก็ขายไอ้ยานนั้นให้หมอนี่ไปสิ” แม็กยื่นข้อเสนอ เรดพิลอยู่ครุ่นคิดถึงไอ้ยานนั้นอยู่สักพัก ก่อนจะตบมือตัวเองหนึ่งที “เออ นั้นสินะ”

    “อ่ะ หมายความว่า...” กัปตันยืนอ้างปากค้าง “ใช่ แต่ไม่รับคืนนะโว้ย จ่ายสดด้วย”

    “ตกลงเลย คุณเรดพิล” พลางยืนมือไปหวังจะสัมผัสมือแต่มาเฟียใหญ่ดันเอาบุหรี่มาจี้แทน มือมาซาลันเลยเป็นจุดวงๆสีดำซะอย่างงั้น

    “งั้นก็ตามมาเลยไอ้กัปตันหนุ่ม ฮ่าๆๆๆ” มาเฟียใหญ่หัวเราะชอบใจ “พวกผมของตามไปด้วยล่ะกันคุณพิล ไม่ได้เห็นท่าจอดยานของคุณมานานแหละ” โยชิกิขอตามไปด้วย

    “เออ มาสิ” เรดพิลตอบรับ ก่อนจะหันหน้าไปทางมาซาลันที่ยืนเป่ามือตัวเองอยู่ “มีเงินแค่ห้าร้อย มาซื้อยานบ้าป่าววะ เอ๊ง”


    ท่าอากาศยานของสถานีอวกาศโอ้ลันลา ซึ่งแทบทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเรดพิล ยานรบและยานพาณิชย์มากมายถูกจอดเรียงรายกัน และทั้งหมดเป็นสินค้าของเรดพิล มีทั้งยานรบ ยานขนส่ง ยานบริการ ยานขายก๋วยเตี๋ยว(คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวเรือ) มาซาลันเดินหมุนคว้างอย่างไม่เชื่อสายตา ยานของที่นี่บางลำดูทันสมัยกว่ายานของกองทัพมากนัก

    “อย่าดูมาก เดี๋ยวสึกหมด” เรดพิลหันมาปราม “ยานแกไม่ได้อยู่ตรงนี้หรอก”

    “อ้าว แล้วยานผมอยู่ไหนล่ะ ผมนัดพวกลูกเรือแล้วนะ” มาซาลันหันไปหาพวกลูกเรือที่นัดมาเจอกันที่ท่าอากาศยาน

    “นู้น~ อยู่นู้น” มาเฟียใหญ่พูดพลางชี้นิ้วไปที่โรงเก็บของโทรมๆ

    “ห่ะ อยู่ในนั้นเหรอ” มาซาลันถามอึ้งๆ เพราะสถาพที่เก็บยานมันเหมือนที่เก็บขยะมากกว่า

    “เอาหน่าอยากได้ของดีต้องใจเย็นๆ” เรดพิลเดินมาตบบ่า “เอ้า ตามมาได้แล้วพวกลูกหมาทั้งหลาย”

    “เฮ้ย แม็กไอ้ยานที่ว่าราคาแค่ห้าร้อย นี่มันเป็นยังไงฟ่ะ” โยชิกิเดินไปกระซิบถามเพื่อนผมขาว “ไว้ไปถึงแกก็รู้เองแหละ” แม็กตอบยิ้มๆ ท่ามกลางเครื่องหมายคำถามบนหน้าโยชิกิ

    เรดพิลพาทุกคนมาถึงโกดังเก่าๆโทรมๆ ด้านในมีเศษเล็กถูกทิ้งจำนวนมากมายจะเรียกว่าเป็นโกดังเก็บขยะก็คงไม่ผิดนัก มาเฟียใหญ่สั่งลูกน้องให้สับสวิซท์ ทันทีที่กลไกทำงานลานตรงกลางก็เปิดกว้างออก พร้อมๆกับมีพื้นจากด้านล่างเลื่อนขึ้นมาแทนที่ บนนั้นเป็นกองเศษซากของอะไรสักอย่างที่ผ่านการระเบิดมานับไม่ถ้วน

    “นี่มันอะไรว่ะเนี่ย.....” มาซาลันยืนอึ้งกิมกี่ เหมือนโดนต้มอย่างแรง

    “ยานลิงน้อยล่องลม มันเป็นของแกแล้ว” เรดพิลยืนคีย์การ์ดให้ พร้อมฉีกยิ้มเห็นฟันทองสองซีก ตอนแรกมาซาลันจะไม่รับแล้ว แต่เหล่าบอดี้การ์ดกว่า 50 คนของเรดพิลส่องปืนมาทางพวกเขา กัปตันตกอับจึงต้องรับมาโดยละม่อม

    “เป็นไงโย สุดยอดไหม” แม็กหันไปถามเพื่อนสนิท

    “อ่อ..... ขยะสมราคาจริงๆ”

    ......................................................................................................................................................................................................................................................................
  3. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    เขายังไม่ตาย


    “กัปตันนี่เราจะต้องขับไอ้ยานสัปปะรังเคนี่จริงๆเหรอคับ” ลูกเรือคนนึงอดที่จะพูดไม่ได้หลังจากความเงียบงับเข้ายึดครองกลุ่มของพวกมาซาลันได้สักระยะนึง

    “ดูยังไงมันก็ขยะนะกัปตัน” เมื่อมีคนแรกก็ย่อมมีคนที่สอง

    “ผมว่าเอารถบังคับมาขับจะง่ายกว่าไหม”

    “กลับบ้านไปขูดยางพาราดีกว่าวุ้ย”

    “ขายบริการรุ่งกว่านะกัปตัน”

    “ซับเซตเป็นเซตว่างของทุกเซต !!!”

    และอีกมากมายหลายหลากที่เหล่าลูกเรือพร้อมใจด่ากระแทกหน้ากัปตันมาซาลัน กัปตันหนุ่มแม้จะมีความความสุขุมเยือกเย็นสูง แต่เมื่อเหล่าลูกเรือสามัคคีพ่นน้ำลายกันแบบนี้มาซาลันเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน “หนวกหูเฟ้ย !! ไอ้พวกบ้า มีให้ใช้ก็ดีกว่าไม่มีล่ะนะ”

    “แต่ไม่ว่าดูจากมุมไหนมันก็ไม่น่าบินขึ้นได้เลยนะคับ” ลูกเรืออีกคนยังไม่เลิกเถียง

    “Urusai Urusai Urusai” กัปตันมาซาลันลงไปชักดิ้นชักงานกลางพื้นบาร์ น่าสังเวชยิ่งนัก

    “เฮ้ยๆ ใจเย็นพวกนาย ยานนั้นน่ะแท้จริงแล้วมันมีดีกว่าที่เห็นนะ” เสียงหล่อในมุมมืดดังขึ้นในโสตประสาทมาซาลันและลูกเรือ เมื่อมองไปทางต้นเสียงพบชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสองคนก็กำลังซดชาน้ำใข่มุกอย่างเมามัน โดยที่หนึ่งในสองคนใช้หางตามองมาทางพวกมาซาลันอย่างช้าๆก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพราะมันเมาชานม

    “กัปตัน ไอ้สองคนนั้นคือคนที่อยู่กะพวกเราตอนรับยานมานี่หน่า” ลูกเรือนายนึงเข้าไปกระซิบข้างหูกัปตันหนุ่ม

    “นั้นสินะ” มาซาลันรำพึงเล็กน้อย

    ไม่ช้าไม่นาน บุรุษในชุดเสื้อคลุมสีแดงก็เดินปาดเหงื่อออกมาจากห้องน้ำ พลางล้างมือล้างหน้าพอเป็นพิธีก่อนจะเดินไปร่วมโต๊ะกับมาซาลันโดยไม่มีใครอนุญาต ไร้มารยาทจริงๆ....

    “ก็อย่างที่ว่าไปเมื่อกี้ ยานนั้นไม่ได้ห่วยแตกอย่างที่พวกนายคิดหรอก” หนุ่มชุดแดงเอ่ยปากขึ้น ท่ามกลางความสงสัยของคนอื่นๆว่า มึ_ เสนอหน้ามาทำไมว่ะ

    “ยานลิงน้อยล่องลมน่ะ เป็นยานธงรุ่นใหม่ล่าสุดของกองทัพจ้อยแลนด์เชียวนะ” เท่านั้นแหละ สามสิบกว่าชีวิตหูผึงขึ้นมาทันที มาซาลันรีบเขยิบตัวเข้าไปใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน “จริงง่ะ ยานนั้นเจ๋งขนาดนั้นเลยเหรอ”

    “เฮ้ยๆ หน้าใกล้ไปแล้ว” ชายคนเดิมถีบมาซาลันกระเด็นตกเก้าอี้ “ยังไม่ได้แนะนำตัวนี่นะ ชั้นแม็กแลนเซอร์ แห่งสี่ดวงตกแดง” ทั้งโต๊ะนิ่งไปสักพักใหญ่ที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของไอ้มนุษย์ที่อยู่ดีๆมันก็มานั่งร่วมวงด้วย ลูกเรือคนนึงกลืนน้ำลายเล็กน้อย เหงือแตกพอเป็นพิธี “แล้วเป็นใครกันอ่ะ” ทำเอาแม็กแก๊กค้างซะงั้น


    “โว้ยยย แกไม่รู้จักพวกดวงตกแดงหรือไง ไอ้กลุ่มรับจ้างสารพัดชนิดที่ทำงานตั้งแต่ฆ่าคนยันดูดส้วมสาธารณะ ที่มีสมาชิกจิตไม่ปกติสี่คนน่ะ” ลูกเรือหกมือตะโกนลั่นบาร์ คนอื่นๆก็พลอยร้อง อ๋อ ไปด้วย ไม่รู้ว่านึกออกกันจริงๆหรือเปล่า แต่สองในสี่สมาชิกของกลุ่มต่างนั่งปลงตกทำไมเวลามันเอ่ยถึงชื่อกลุ่มตรงมีประโยคอุบาทว์ๆพวกนี้ตามมาด้วยฟ่ะ

    “แล้วแกรู้เรื่องยานนั้นได้ยังไง” มาซาลันคลานขึ้นมานั่งที่เดิม

    “อ้อ ก็ชั้นนี่แหละที่เป็นคนขโมยมันมา” แม็กตอบยิ้มๆ

    “แล้วทำไมสภาพมันเป็นแบบนี้ฟ่ะ” กัปตันหนุ่มถามต่อ

    “คือ เรื่องมันเป็นงี้...” ชายชุดแดงกระแอ่มเล็กน้อย “ ตอนนั้นชั้นได้รับการจ้างวานให้ไปขโมยยานรบรุ่นใหม่ของฝ่ายจ้อยแลนด์ แล้วตอนขับยานหนีออกมาดันพลาดไปชนฝูงอุกกาบาตเข้าให้ก็เลยหมดสภาพแบบนั้นไงล่ะ ก้ากๆๆๆ” แม็กระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น แต่กัปตันหนุ่มและเหล่าลูกเรือได้แต่มองด้วยสายตาแปลกๆ

    “ง้านนน เหรอสหาย” โยชิกิที่เสนอหน้ามารวมโต๊ะอีกคนโผล่งขึ้นมา “ไม่ใช่เพราะว่าฝีมือการขับยานของแกมันห่วยแตกหรือไง” เพื่อนผมเงินถามยิ้มๆ

    “อยากตายนักใช่ไหมไอ้บอด” แม็กถามอย่างท้าทาย

    “อ้าว พูดงี้หาเรื่องนี่หว่าไอ้หล่อไม่เสร็จ” โยชิกิเอาขากระทืบโต๊ะโดยพลัน

    จิตสังหารจากบุรุษทั้งสองต่างตอบโต้กันเป็นระยะๆ รอยยิ้มดุจมัจจุราชปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทั้งคู่ อาวุธในมือถูกเตรียมพร้อมสรรพ ดาบสั้นสีแดงเพลิงของโยชิกิถูกกระชับขึ้นพร้อมๆกับไอร้อนที่ค่อยๆออกมาจากดาบ ด้านแม็กเองก็คว้าดาบสีเงินคู่ใจมาไว้ในมือขวา ส่วนพวกมาซาลันและลูกเรือหนีออกไปนอกร้านกันหมดแล้ว....

    “วันนี้ชั้นจะอัดแกให้หาทางกลับบ้านไม่เจอเลย” โยชิกิพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น

    “คิดว่าจะทำได้ก็เอาซิ สหาย” แม็กกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ

    พริบตาร่างของทั้งสองพุ่งเข้าหากันราวกับลูกกระสุนปืนที่ถูกยิงจะคนล่ะฝากฝั่ง ดาบสีแดงของโยชิกิเกิดเปลวเพลิงลุกท่วมก่อนจะบุกเข้าจู่โจมเป้าหมาย ส่วนดาบสีเงินของแม็กเมื่อตวัดขึ้นก็เกิดเสียงคำรามกึกก้อง ดาบของทั้งสองคนพุ่งแหวกอากาศหมายจะเล่นงานกันและกันในพริบตา “ขอโทษนะคะ เอาของที่ฝากมาให้น่ะคะ” สิ้นเสียงใสดุจระฆังแก้ว สองหนุ่มแห่งดวงตกแดงหยุดดาบของพวกตนทันที

    สายตาทุกคู่หยุดไปจับจ้องสตรีผมทองที่เพิ่งมาใหม่ โดยเฉพาะแม็กและโยชิกิ “เอ่อ....คือมีอะไรกันเหรอคะทั้งสองคน” แองเจิ้ลตอบเสียงสั่นเครือ

    “เปล่า ค้าบบ ไม่มีอะไรค้าบ” ทั้งสองคนแทบจะพูดออกมาพร้อมกัน ท่ามกลางความโล่งอกของคนทั้งร้าน

    “แล้วคุณบาร์เทนเดอร์มุดอยู่หลังบาร์ทำไมล่ะคะ นี่ค่ะเอาน้ำมนต์ไล่ผีมาให้” แองเจิ้ลพูดพลางยืนขวดน้ำทรงสวยให้

    “เอ่อๆๆๆ ขอบคุณมากครับ” บาร์เทนเดอร์ตอบเสียงกุกัก

    “ถ้าสาวสวยคนนี้ไม่เข้ามานี่ เราจะโดนลูกหลงกันง่ายนะเนี่ย” มาซาลันที่ยืนเกาะประตูร้านเอ่ยขึ้นเบาๆ

    “ว่าแต่กัปตันคับ เค้าเลิกตีกันแล้วปล่อยมือซะทีเหอะ” ลูกเรือคนนึงพูดเตือนสติ

    “เออๆ รู้แล้วล่ะหน่า” กัปตันหนุ่มกระชับของเสื้อของตนเอง แต่มือยังสั่นอยู่

    “แล้วคุณกัปตันอยากจะซ่อมยานนั้นไหมล่ะ” แม็กที่อยู่ดีๆมันก็พรวดพราดมาอยู่ตรงหน้ากลุ่มมาซาลัน ทำเอาเหล่าทหารหาญสะดุ้ดกันเป็นแทบๆ

    “ไอ้บ้า จะโผล่มาก็หัดให้สุ่มให้เสียงกันมั้งเด้” มาซาลันด่าน้ำลายกระช่อก

    “ช่างเหอะหน่า อยากซ่อมไหมล่ะ” แม็กถามยียวน

    “ทำไมหรือว่าแกรู้ที่ซ่อมยานนั้น” มาซาลันถามกลับ

    “หึหึ ชั้นรู้จักที่ดีๆล่ะกัน”

    ที่ด้านหลังของสถานนีอวกาศโอ้ลันล้า ซึ่งเป็นที่กบดานของเหล่าวิศวะกรและช่างนอกกฎหมายฝีมือดี ส่วนใหญ่แล้วคนพวกนี้เบื่อกับการทำงานกับสังกัดของสหพันธ์ที่มักจะโดนตัดเบี้ยเลี้ยงบ่อยๆหรือไม่ก็ล้มละลายจากการเปิดร้านซ่อมยาน จึงมาฝึกปรือฝีมือในฐานะคนนอกกฎหมายซึ่งรับงานไม่เลือกหน้า

    “ไง เจโนวา คุง” เสียงของแม็กทำให้ชายหนุ่มในชุดช่างซ่อมขาดหวินต้องถ่อร่างกายที่อยู่ใต้ยานออกมาพบปะกับกลุ่มคนที่เพิ่งเข้ามา

    “ดีไอ้แม็ก แล้วก็หวัดดีโย แล้ว...คนใส่หมวกหน้าประจวดนั้นใคร” สิ้นคำมาซาลันแทบจะอยากเอาปืนเลเซอร์ยิงหัวมันให้กระจุยจริงๆ

    “เฮ้ยๆ คนนี้เขาเป็นกัปตันแห่งกองทัพสหพันธ์เลยนะ” โยชิกิแนะนำ

    “งั้นขอโทษที่ผมเสียมารยาทนะกัปตัน” เจโนวายื่นมือขวาที่เป็นมือกลออกมาทักทาย

    “ผมมาซาลัน แห่งกองทัพพิทักษ์จักรวาล” มาซาลันยื่นมือไปจับอย่างเป็นมิตร แต่ก็ยังอยากยิงให้ไส้แตกอยู่

    “ว่าแต่พวกนายมากันถึงนี่มีอะไรกันล่ะ” เจโนวา ถามขึ้น

    “คือเราอยากให้ซ่อมไอ้ยานนี่ให้หน่อยน่ะ” แม็กพูดขึ้นก่อนจะกดสวิซต์เปิดพื้นเลื่อนขึ้นมาเผยให้เห็นเศษซากยานอวกาศสัปปะรังเค เจโนวาเดินสำรวจไปรอบๆยานก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงตก

    “แนะนำว่าให้ไปซื้อลำใหม่เหอะ”

    “คือ พวกเราไม่มีเงินแล้ว” มาซาลันแย้ง

    “งั้นก็....” แขนขวาของเจโนวาที่เป็นแขนกลเปลี่ยนรูปร่างเป็นเครื่องคิดเลขทันที สมองของเขาก็ทำหน้าที่คำณวนการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว มือซ้ายกดๆลงไปบนเครื่องคิดเลขได้สักพัก หนุ่มช่างซ่อมก็หันกลับมาหาทุกคน

    “รวมค่าซ่อมและอะไหล่ทั้งหมดประมาณ 12 ล้านเหรียญ เนื่องด้วยเป็นยานรุ่นใหม่ของพวกจ้อยแลนด์อะไหล่มันเลยแพงหน่อย” ราคาที่ออกมาทำเอามาซาลันยืนอ้าปากค้าง

    “ลด....ให้หน่อยไม่ได้เหรอ” กัปตันหนุ่มขอต่อราคา

    “ไม่ได้หรอก ก็ถึงได้บอกไงว่าซื้อใหม่จะดีกว่าถูกกว่าด้วย” เจโนวายื่นข้อเสนอ

    “ทำไงดีฟ่ะเนี่ย”

    “ถ้ากัปตันหาอะไหล่มาเองก็พอจะช่วยๆได้นะ” เจโนวาแนะนำ

    “จะว่าไปก็มีอยู่ที่นึงน่ะนะ แหล่งเก็บอะไหล่.....” มาซาลันเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ

    “งั้นก็ไปเอาอะไหล่ที่นั้นมาซะสิ” แม็กพูดขึ้นบ้าง

    “แต่การจะไปที่นั้นต้องขอให้พวกนายไปด้วยอ่ะ” กัปตันหนุ่มก้มหน้างุดๆ

    “คิดค่าจ้างนะคู้ณณณ” โยชิกิเอ่ยเสียงกวนบาทา

    “ไว้ชั้นเสร็จภารกิจนี่เมื่อไรจะจ่ายให้อย่างงามเลย ช่วยหน่อยนะๆๆๆๆๆ” มาซาลันคุกเข่าอ้อนวอน

    โยชิกิและแม็กเดินเข้ามากอดคอประชุมด่วน “เอาไงดีว่ะ เงินซื้อยานมันก็ไม่มี แล้วจะมีเงินมาจ้างเราเหรอ” แม็กพูดขึ้นเบาๆ

    “แต่เห็นบอกว่าหลังเสร็จภารกิจนี่ ถ้าหมอนี่ทำงานมันเสร็จอาจจะได้เงินก้อนโตมาจ่ายพวกเราก็ได้นะเฟ้ย” โยชิกิพูดไปน้ำลายไหลไป

    “แล้วมันจะไม่กระทบงานหลักของเราเหรอฟ่ะ ไอ้โย”

    “เอาหน่าๆถือว่าช่วยๆกัปตันนี่ไปล่ะกัน ดูท่าคงไม่ทำงานเราพังด้วย” พูดเสร็จสองหนุ่มก็หันไปมองแววตาข้อร้องแกมบังคับของมาซาลันก่อนจะก้าวเดินมาอยู่ด้านหน้าของกัปตันหนุ่ม “ตกลง ค่าจ้างสองพันเหรียญนะคุณกัปตัน” แม็กกล่าวขึ้น

    “ขอบคุณพวกนายจริงๆ” มาซาลันนั่งปาดน้ำตาด้วยความตื้นตัน


    ณ ฐานกำลังแห่งกองทัพพิทักษ์จักรวาล นายพลบี ที่นั่งเมาเฮโลอีนได้ที่กำลังต่อกันพลาอย่างสนุกสนาน “วู้วๆๆๆ วันนี้วิงเซโร่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์แย้ววววว” ท่านนายพลพูดเสียงน่ารัก

    “ท่านนายพลคร้าบบบ” นายทหารชั่นประทวนคนเดิมกับที่โผล่มาในบทนำวิ่งพรวดพราดเข้ามา แถมสะดุดหกล้มขนบนพรมหัวกระแทกโต๊ะท่านนายพลทำให้กันพลาร่วงหล่นกระจายเต็มพื้น

    “ม่ายยยจริงงงงงงงงงงง” นายพลบี หวีดดังลั่น

    “ท่านนายพลคร้าบเกิดเรื่องใหญ่แล้วค้าบบบ” นายทหารคนเดิมโวยวาย

    “จะมีอะไรใหญ่ไปกว่ากันพลาวิงเซโร่ของชั้นอีก ฮือๆๆ” ท่านนายพลร้องไห้ฟูมฟาย

    “มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มันบุกเข้ามาขโมยอะไหล่ในโกดังเราซะเหี้ยนเลยค้าบ”

    “ห่ะ ว่าไงนะ” นายพลบีแทบลมจับ และแล้วเสียงสัญญาณพร้อมไฟรหัสสีแดงก็ปรากฎขึ้นบนจอภาพขนาดใหญ่ด้านหลังโต๊ะท่านนายพล “ท่านครับ พวกเราเจอตัวคนที่เข้ามาขโมยอะไหล่เราแล้วคับ”

    “ดีมาก ไม่ต้องให้สั่งก็รายงานรวดเร็ว ไหนเอาภาพพวกมันขึ้นจอ” ภาพที่ปรากฎบนจอเป็นชายหนุ่มสามคนที่กำลังวิ่งหลบกระสุนหัวซุกหัวซุนและหนึ่งในนั้นก็เป็นคนที่นายพลรู้จักดีซะด้วย

    “เฮ้ย ทำไมมาซาลันมันอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยฟ่ะ” นายพลบีอ้ำอึ่ง

    “ตามรายงานเมื่อครู่รู้สึกว่ากัปตันมาซาลันจะเป็นหนึ่งในกลุ่มขโมยนั้นด้วยล่ะครับ” นายทหารคนเดิมรายงาน

    “ไอ้บ้าเอ้ย...เอาหมายคำสั่งตูไปยังมาขโมยอะไหล่อีก เอ๊งเจอดีแน่ๆ” นายพลบีกล่ายอย่างเดือดดาล


    “เหยียบให้มิดเลยโว้ยไอ้โย พวกมันตามเรามาแล้ว” แม็กเร่งเพื่อนไร้นัยน์ตาสุดฤทธิ์เมื่อเห็นว่ายานที่ไล่กวดมาเริ่มเข้ามาในระยะกระชั้นชิดเต็มทน

    “เร็วสุดแค่นี่แหละเฟ้ย ยานขนขยะกระจอกๆจะไปเร็วกว่ายานขับไล่ได้ไงว่ะ แถมมีอะไหล่มาเต็มลำ” โยชิกิบ่นกระปอดกระแปด
    .
    “ถ้างั้นตู เทอะไหล่พวกนี้ทิ้งบ้างล่ะกัน” แม็กรีบจับขันโยกเตรียมจะเทอะไหล่บ้างส่วนทิ้งทันที แต่มาซาลันรีบหยุดมือของแม็กไว้

    “อย่าทิ้งนะ เดี๋ยวไม่มีอะไรไปซ่อม” กัปตันหนุ่มขอร้องพร้อมบีบน้ำตา

    “จะบ้าเหรอ ขืนไม่ลดน้ำหนักยานพวกเราจะรอดไหมเหล่า” แม็กตะโกนด่า ไม่รู้จะตะโกนทำไมอยู่ใกล้กว่าหนึ่งไม่บรรทัดซะอีก

    “งั้นเอางี้ ให้ชั้นขับเอง” มาซาลันประกาศกร้าวในมาดเท่ห์

    “เอาจริงเหรอ...กัปตันมาซาลัน” โยชิกิถามเหมือนไม่เชื่อใจ

    “อย่างน้อยเรื่องขับยานชั้นก็มั่นใจว่ามีดีเหมือนกันแหละ” มาซาลันย้ำเจตนารมณ์

    ไม่รอช้าโยชิกิรีบสับเปลี่ยนที่นั่งกับมาซาลันทันที โดยที่แม็กยืนอ้าปากค้างกินลมเข้าไปสองลิตรถ้วน “ไอ้โย แกบ้าหรือเปล่าไปให้กัปตันบ๊องนั้นขับยานเนี่ยนะ”

    “ชั้นก็แค่อยากรู้ว่าหมอนี่จะมีฝีมือพอที่จะหาเงินมาจ่ายค่าจ้างเราหรือเปล่าเท่านั้น” โยชิกิยิ้ม หึหึ

    “ดวงจันทร์ด้านหน้านั้น...จะไหวไหมนะ” มาซาลันรำพึงเบาๆ ก่อนจะบังคับยานให้เข้าใกล้กับดวงจันทร์จนแทบจะชน “เวรแล้วววว” สองสหายที่นั่งเบาะหลังกอดกันกลมคิดถึงพ่อแก้วแม่แก้ว

    ยานขนขยะของพวกมาซาลันพุ่งเฉียดดวงจันทร์ไปนิดเดียว กัปตันหนุ่มรีบปิดระบบต้านแรงโน้มถ่วงปล่อยให้ตัวยานถูกแหว่งไปตามแรงดึงดูด “วัดกันที่โค้งตัว U ข้างหน้านี่แหละ...”

    มาซาลันเปิดระบบต้านแรงโน้มถ่วงอีกครั้งก่อนจะเร่งความเร็วยานผ่านไปตามแรงเมื่อครู่เป็นเส้นโค้งแถมความเร็วยังเพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่อ จนเหล่ายานขับไล่ไม่อาจตามได้อีกต่อไป

    “เฮ้ย แจ๋วนี่ ตะกี้ดริฟสุดยอดมากเลยกัปตัน” โยชิกิเข้ามากอดคอ ส่วนแม็กก็อ้วกออกมากองเบ่อเร้อ

    “เอาเถอะรีบกลับไปที่โอ้ลันล้าดีกว่า ลูกเรื่อชั้นรออยู่เยอะ” มาซาลันพูดเสียงขรึม แต่มือที่จับคันบังคับดันสั้นเป็นเจ้าเข้าซะงั้น

    เมื่อกลับมาถึงโอ้ลันล้า เจโนวาถึงกับอึ่งกิมกี่กับกองอะไหล่มากมายมหาศาลที่พวกมาซาลันไปขโมยมาได้ โดยที่ลูกเรือต่างพร้อมใจกันร้องไห้อำลาเกียรติยศแห่งกองพันที่กัปตันตัวเองขโมยของกองทัพซะแล้ว

    “นี่ไปเอามาเท่าไรเนี่ย” เจโนวายืนตะลึงกับกองภูเขาอะไหล่

    “ก็ไม่มากแค่ค่อนโกดังเอง” มาซาลันพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจเต็มประดา

    “งั้นค่าซ่อมแซมอย่างเดียวเหลือ 1.7 ล้านเหรียญ” มือขวาของเจโนวาคำณวนเม็ดเงินอย่างรวดเร็ว
    “เฮ้ย อะไรกันว่ะ ทำไมมันยังแพงอยู่อีก” กัปตันหนุ่มร้องโวยวาย

    “โธ่ อาเฮีย ดูสภาพมันซะก่อนจะเรียกว่าขยะยังไม่แปลกเลย จะทำให้ขยะบินได้มันก็ต้องลงทุนกันหน่อยเด้”

    “เอาหน่าๆ ถือว่าช่วยหน่อยล่ะกัน” โยชิกิเข้ามาช่วยขอร้อง

    “ไม่ๆ ซ่อมงานช้างแบบนี้จะทำฟรีๆได้ไง” เจโนวายังดื้อ

    “ก็ถือว่าฝึกฝีมือช่างซ่อมแกล่ะกัน” โยชิกิยังไม่เลิกรา

    “ทำไมช่วยกัปตันบ้านี่จัง เอาเถอะเห็นว่ารู้จักกันมานานแต่ว่ายังไงก็ไม่คิดฟรีนะเฟ้ย ลดให้เหลือ 1ล้านเหรียญ” แม้ว่าจะลดให้แต่สำหรับมาซาลันที่ไม่มีเงินเหลือสักแดงขนาดเกม H ยังไม่มีปัญญาซื้อเลย

    “น้องชาย เห็นใจกันไม่ได้เหรอ” มาซาลันนั่งน้ำตาตก แต่เจ้าหนุ่มนักซ่อมยังไม่สนใจ

    “เออ จะว่าไปไอ้กองอะไหล่เนี่ยจะใช้หมดจริงๆเหรอ” แม็กถามด้วยความสงสัยเพราะไอ้ที่ขนมามันดูเยอะกว่าความจำเป็นจริงๆ

    “ไม่น่าหมดหรอก.... เอางี้ล่ะกันอันไหนไม่ได้ใช้ก็เอาไปขายซะคงจะได้พอค่าซ่อมนั้นแหละ” เจโนวาเสนอทางเลือก

    “เออ จริงด้วย” เกิดประกายแสงในดวงตากัปตันหนุ่มทันที “แล้วจะไปขายที่ไหนล่ะเนี่ย”

    “นี่นายเคยรู้อะไรบ้างไหมเนี่ย” เจโนวาเริ่มฉุน

    “มาๆเดี๋ยวชั้นกะไอ้แม็กจะพาไปล่ะกัน แกรู้ทางใช่ไหมแม็ก” สหายชุดแดงพยักหน้าหงึกๆ แต่ก็ไม่ได้สบอารมณ์ที่จะไปด้วยมากนัก

    “นายช่างมีน้ำใจจริงๆโย” มาซาลันรีบเข้าไปกุมมือโยชิกิ “ค่าจ้างพวกเราสองคนรวมกันเป็นสี่หมื่นเหรียญ เพิ่มจากอันตรายจากพวกทหารด้วย หึหึ” โยชิกิเผยรอยยิ้มพ่อค้าหน้าเลือด

    “ไอ้กะปิ” มาซาลันรำพึงเบาๆ


    ไม่ห่างจากโรงซ่อมเถื่อนของเจโนวามากนัก เป็นแหล่งที่พวกพ่อค้าผิดกฎหมายทั้งหลายจะมารอรับซื้อของโจรที่นี่ ซึ่งของที่ขายก็มีตั้งแต่ อาวุธ ยานอวกาศ โถ้ส้วม ภาพอดัมกะอีฟจากเรื่องครูซวอร์ กันพลา ตุ๊กตาชานะ ฯลฯ พวกมาซาลันขนกองอะไหล่มหึมาเดินขายตามจุดรับซื้อต่างๆ(พวกพ่อค้าจะตั้งห้องว่ารับของร้อน) ไม่นานนักกองอะไหล่สามคันรถก็หมดเกลี้ยง เงินที่ได้ก็พอเพียงที่จะจ่ายให้พวกโยชิกิและค่าซ่อมยานด้วย

    “เฮ้ย แม็กตลาดนี่มันชื่ออะไรฟ่ะ” โยชิกิหันไปถามแม็กที่อยู่ข้างๆกัน

    “มอร็อก” แม็กตอบนิ่งๆ “จริงดิ - -*”

    “เอ้า นี่ค่าจ้างพวกนายแถมให้อีกสิบเหรียญ” มาซาลันยื่นธนบัตรปึกนึงมาทางพวกดวงตกแดง โยชิกิส่งเงินนั้นให้แม็กนับเมื่อครบดีหนุ่มชุดแดงก็เก็บมันลงกระเป๋าเสื้อ

    “ทำไมแถมให้น้อยจัง” โยชิกิบ่นกะเงินทิปสิบเหรียญ

    “เอาหน่า ชั้นต้องเก็บไว้ทำอะไรอย่างอื่นอีก” มาซาลันพูดไปนับเงินไป “ว่าแต่ทำไมยานนั้นถึงมาอยู่กับเรดพิลได้ล่ะ สงสัยมานานแหละ”

    “ก็ตอนที่ชั้นเอายานมาส่งน่ะ ลูกค้าดันโกรธจัดอ่ะดิ” แม็กระลึกความหลัง “มันก็แหงอยู่แล้วล่ะนะ” มาซาลันพูดขึ้นโยชิกิเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

    “แล้วคุณเรดพิลก็มาช่วยไว้เพราะเขาติดค่าจ้างตอนไปช่วยไถ่นาให้น่ะ” แม็กพูดพลางชี้นิ้วขึ้นฟ้าไม่รู้จะชี้ไปทำไม

    “แล้วแกก็เลยยกยานนั้นให้คุณมาเฟียไปช่ายม่ะ” โยชิกิพูดดัก “เออ ก็เป็นแบบนั้นแหละ”

    ระหว่างทางกลับไปที่อู่ลูกเรือของมาซาลันคนนึงรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาหากัปตันของเขา แต่ดันสะดุดยอดผักชีที่มีคนพิเรนปลูกเอาไว้ลงไปนอนเลือดอาบ ถึงกระนั้นด้วยพลังกระทิงแดงและคาราบาวแดงที่กินไปเมื่อเช้าลูกเรื่อคนนั้นลุกขึ้นมาอย่างห้าวหาญพร้อมเลือดเต็มหน้าดูๆไปคล้ายซอมบี้สิ้นดี “กัปตันคร้าบ เราตรวจพบวัตถุประหลาดกำลังพุ่งตรงไปที่อู่คุณเจโนวาค้าบบ”

    “ห่ะ ว่าไงนะ แล้วยานของชั้นล่ะ” มาซาลันเป็นห่วงยานมากกว่าชีวิตลูกเรือกับช่างซ่อมยาน

    “เราแค่ตรวจพบคับกัปตันมันยังไม่ชน” สิ้นประโยคลูกเรือ มาซาลันก็พบว่าตัวเองเป็นกระต่ายตื่นตูม

    “งั้นรีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวมันจะชนจริงๆ” แม็กรีบออกความเห็น แต่ว่าโยชิกิวิ่งนำไปก่อนแล้วเพราะเป็นห่วงฟิกเกอร์ชานะที่ลืมทิ้งไว้ในอู่เรือ “ไอ้บ้านี่มันไวจริงแหะ” แม็กบ่นเล็กน้อยก่อนจะตามโยชิกิไปด้วยความรวดเร็ว กัปตันหนุ่มเองก็ไม่รอช้ารีบเร่งฝีเท้าเช่นกัน

    “สภานการณ์เป็นไงบ้าง” มาซาลันที่สังขารอยู่ในอู่เรือเป็นที่เรียบร้อยแล้วรีบไปที่หน้าจอเรดาห์ ที่พวกลูกเรือขนมาจากฐานใหญ่

    “มันเป็นกล่องคอนเทนเนอร์คับ เดินทางด้วยความเร็วมากกว่ากล่องอื่นๆสามเท่า !!!” ลูกเรือตัวประกอบรายงานด้วยความตื่นเต้น

    “แล้วมันมีสีแดงแล้วมีเขาด้วยป่ะ” แม็กเสนอหน้าถาม “ขอตรวจดูก่อนคับ” ลูกเรือที่ประจำการเรดาห์อยู่พยายามหาปุ่มแสดงภาพ พอหาไม่เจอก็เริ่มกดมั่วเป็นที่น่ารำคาญยิ่งนัก

    “มาๆ ชั้นทำให้ดีกว่า” เจโนวาเดินเข้าไปประจำตำแหน่งทันที เป็นการแย่งงานตัวประกอบที่บทน้อยอีกทาง “โอ้ เรดาห์แจ๋วนะเนี่ยของกองทัพนี่ดีเหมือนกันแหะ” หนุ่มน้อยเอ่ยปากชื่นชม

    “ไวๆเข้าเหอะเดี๋ยวยานชั้นพัง” กัปตันหนุ่มเร่ง

    “รู้แล้วหน่านี่ก็อู่ชั้นเหมือนกัน” เจโนวาหันกลับไปโวย ก่อนจะสั่งการเรดาห์ให้แสดงภาพคอนเทนเนอร์ประหลาด รูปร่างเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมทั่วๆไปแต่มีสีแดงทั่วทั้งกล่องแถมมีเขาเด่นเป็นสง่าตรงด้านหน้าซะด้วย

    “รูปร่างมันคุ้นๆตานะ” โยชิกิเสนอหน้าด้วยอีกคนมาพร้อมฟิกเกอร์ชานะที่กอดไว้ตลอด

    “หรือว่ามันจะเป็น...” แม็กเหงื่อตก

    “เฮ้ยๆ มัวแต่อึ้งเดี๋ยวมันก็ชนยานพังหรอก” มาซาลันตะโกนกรอกหูสองหนุ่ม

    “ค่าจ้างสามหมื่น สองคนก็หกหมื่น” โยชิกิแบมือขอตัง แม็กก็แบมือด้วย

    “ฮึ่ม....” มาซาลันกัดฟันกรอด แต่เมื่อดูจากระยะบนเรดาห์ไอ้กล่องแดงนี่มันเข้ามาใกล้ทุกทีจึงจำต้องยอมจ่ายพวกดวงตกไปโดยละม่อม “ห้ามให้มันแตะยานชั้นได้นะเฟ้ย” กัปตันตะโกนสั่ง

    “เชื่อมือได้เลย” โยชิกิยกนิ้วโป้งให้ “เจโนวาเปิดชัตเตอร์ด้านหน้าให้ที แต่อย่าปิดระบบป้องกันภายในนะ”

    “จัดให้...แต่อย่าให้มันโดนอู่ชั้นนะไอ้พวกบ้า” เจโนว่าด่าส่งท้าย

    แม็กและโยชิกิ ต่างยืนหันหน้าเข้าหากล่องแดงที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงสามเท่ากว่ากล่องปกติ หนุ่มชุดแดงคว้าปืนสั้นคู่สีดำและขาวออกมาพร้อมในมือ ส่วนชายตาบอดก็ควักดาบคาตาน่าเล่มยาวที่ส่งออร่าสีฟ้าอ่อนๆออกมาเช่นกัน “พร้อมนะโย....” แม็กหันไปถามสหายร่วมรบ “คิดว่าถามใครอยู่น่ะ”

    ประจุไฟฟ้าไหลตามร่างกายของแม็กแลนเซอร์ไปรวมกันที่ปืนสีดำในมือขวาและคลื่นจากวายุธาตุไหลไปที่ปืนสีขาวในมือซ้าย ก่อนจะเล็งปืนไปทางกล่องสีแดงที่พุ่งเข้ามา โยชิกิรวบรวมพลังจากดาบของเขาสร้างแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ไว้พร้อม “นับสามนะ” โยชิกิพูดนัดแนะ “พร้อมแล้วก็... อัดมันเลยดีกว่า”

    แม็กลั่นกระสุนอัสนีและวายุเข้าใส่กล่องแดงอย่างรวดเร็ว โยชิกิเองก็ส่งหอกน้ำแข็งเข้าใส่เช่นกัน เมื่อคลื่นพลังทั้งสองปะทะเข้ากับกล่องก็เกิดระเบิดตูมใหญ่ พลันมีร่างในชุดแดงกระเด็นออกมาจากกล่องนั้นร่วงลงมาแทบเท้าสองหนุ่ม ซึ่งทิศทางการพุ่งนั้นมันขัดกับกฎฟิสิกส์ซะเหลือเกิน

    “ไหนไอ้สองตัวนั้นมันบอกนับสามไง” มาซาลันที่หลบไปสังเกตการณ์บ่นเสียงขรม

    “ก็เป็นแบบนั้นแหละดวงตกแดง” เจโนวาร่วมบ่น

    “ว่าแต่ ไอ้หมอนี่มันใครล่ะเนี่ย” โยชิกิก้มลงไปเอาชะแลงเขี่ยร่างที่นอนแน่นิ่ง “ใส่ชุดแดงด้วยว่ะ โย” แม็กเสริม

    “ว่าแต่ว่านะ...” โยชิกิพูดไปมองเพดานไป “กล่องปกติมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าไรเหรอ”

    เป็นคำถามที่ทำให้ทุกคนหยุดคิดทันที ..... และทุกสายตาก็หันไปมองเจโนวาซะอย่างงั้น “มองมาก็ตอบให้ไม่ได้หรอกนะ” ช่างซ่อมหนุ่มตัดบท

    “อูย....” ร่างที่นอนสลบอยู่ค่อยๆเคลื่อนไหว โดยที่คนอื่นรีบเอาพระขึ้นมาคุ้มภัยไว้

    “อ้าว นี่เราไม่ได้กลับไปที่ฐานหรอกเหรอ” ชายนิรนามในชุดสีแดงแปร็ด ผมสีทองอร่ามพร้อมถุงมือและถุงเท้าสีขาว อินเมจเหมือนคนที่คุณก็รู้ว่าใครแป๊ะๆ แค่ไม่ใส่หน้ากากเผยความหล่อแบบไม่อายใคร

    “เฮ้ย นี่แกคือ.... “ มาซาลันตกใจร้องลั่นเอานิ้วชี้หน้าคนมาใหม่ทันที “ผู้บัญชาการแห่งกองยานพิทักษ์จักรวาลที่ 7 ที่น่าจะโดนทำลายในการรบกับจ้อยแลนด์ไปแล้วนี่หน่า !!”

    “ใช่แล้ว ผมคือ ไพอา อัสนาเบิ้ล แห่งกองยานที่ 7 .... ” ไพอาแก๊กเสียงหล่อสุดฤทธิ์ เป็นการเปิดตัวที่เท่ห์ในแบบฉบับของเขา



    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..


    Special Thanks

    ขอบพระคุณทุกท่านที่มาอุดหนุนมากๆครับ รวมทั้งเหล่าหน้าประจำที่แวะเวียนมาหาไม่ขาดเสียเติมแรงทำงานให้ผมได้มากเลย ยังไงก็จะทำให้มันรั่วต่อเรื่อยๆเพื่อความพึ่งใจของทุกท่าน แล้วพบกันที่จุดตัดของพรหมลิขิต

    ปล.ผมบ้าชานะแล้วมันผิดกฎหมายข้อไหนห่ะ !!!

    And All Friends And Fans Thank You !!!!
  4. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    บ้าชานะก็ไม่ได้ผิดกฏหมายข้อไหนนิเฮีย = ='a

    เอามาลงแล้วสินะ เรื่องยุ่งเคลียร์ให้เสร็จก่อนก็ได้ท่าน ผมรอได้ จะรอชมตอนต่อไปน่อ ^^b
  5. Ryuto

    Ryuto 終わる道、始まる夢

    EXP:
    964
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    รั่ว!!!!

    ได้กลิ่นอายแห่ง แห่งอารายหว่ามานผสมๆ จนอธิบายไม่ถูกเย้ย

    จบด้วยการเปิดตัวของไอ้เรปบน อ่าเหาะๆ

    รอชมนะงิ- -/

    ป.ล.ฉลองบอร์ดใหม่
  6. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    บ้าชานะไม่ผิดหรอกกกก โยคุง

    /me เพราะผมก็บ้า=="

    /meอีกที มันเปลี่ยนจากme เป็นอะไรหว่า จำไม่ได้
  7. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ตามล่า

    “ช่วยด้วย.....” เสียงนึงดังก้องกังวานจากรัตติกาลที่เงียบสงบและสายลมที่เย็นเฉียบเหมือนจะตัดผ่านผิวหนังไปได้ง่ายๆ

    “ใครน่ะ...”

    “ช่วยฉันที...ใครก็ได้”

    “ใครน่ะ เสียงของใครกัน”

    “ช่วยที ช่วยพาออกไปที....” เสียงนั้นสั่นเครือมากขึ้น

    “ช่วยที ช่วยด้วย ช่วยชั้นด้วย ชั้นกลัว ช่วยที ใครก็ได้ ใครก็ได้ ทรมาน ช่วยชั้นที ช่วยด้วยยยยย” เสียงนั้นแผดร้องราวกับจะแตกสลายในไม่ช้า เด็กหนุ่มรีบเอามืออุดหูตัวเองด้วยความกลัว “พอแล้ว พอที !!!”

    เนียร์ตะโกนลั่นห้องนอนโทรมๆของเขา พลางขยี้ตาเบาๆเพื่อปรับสายตาให้เข้าทีเข้าทาง เหงือของเด็กหนุ่มไหลโทรมกายเหมือนกันวิ่งหนีก้อนอุนจิยักษ์มาหมาดๆ

    “ฝันแบบนี้อีกแล้วเหรอ เฮ้อ...” เนียร์พูดพลางถอนหายใจ “ฝันอะไรเนี่ยสมจริงชะมัด เสียงเด็กผู้หญิงนั้นอีก”


    แท่ดๆๆ แท่ดดดด แท่ดๆๆ

    เสียงกลองสแนร์ (กลองแต็กอ่ะ) รั่วขึ้นเป็นจังหวะ “ล่วงละเมิดเด็กห้าขวบ 345 คดี ซึ่งเป็นการขอเบอร์เด็กก่อนวันอันควร ขโมยอนิเมเรื่องใหม่ๆจากร้านค้า 749 ครั้ง แอบขนส่งอมยิ้มเถื่อน 412 ครั้ง ลักลอบนำเข้าเขียดตับปาดอีก 212 ครั้ง ลักลอบดูการ์ตูน H โดยไม่ได้รับอนุญาต และ.....ฯลฯ”

    เสียงผู้ประกาศผ่านไมโครโฟนตัวเล็กแต่เสียงดันไปออกที่ลำพังตัวใหญ่พอๆกะไดโนเสาร์ เบื้องหน้าปรากฏร่างชายหนุ่มผมสีแสดในชุดนักโทษประหารสีสนิม กำลังทำหน้าสลดอย่างเสียไม่ได้เมื่อร่างกายทุกส่วนของเขาถูกผนึกอย่างแน่นหนาแค่จะขยับก็ยังยากเย็นแสนเข็ญ ด้านบนมีเชือกที่ถูกผูกปมเป็นห่วงห้อยต่องแต่งรอไว้ ชายหนุ่มผมแสดมองดูเชือกนั้นทีนึงก่อนจะกลืนน้ำลายลงท้องไป

    “โธ่ โว้ย ยังไม่มาอีกหรือไงนะ” หนุ่มผมแสดบ่นเบาๆ

    “โดยคดีทั้งหมดที่กล่าวมา ทางศาลสูงจิงตัดสินประหารชีวิต อัลทิม่า สี่ดวงตกแดง แฮ่กๆ “ กล่าวเสร็จสรรพผู้ประกาศหน้าย่นพลันเก็บคำตัดสินที่ยาวพอๆกะม้วนกระดาษโรงพิมพ์ก่อนจะส่งต่อไปให้ทหารที่คอยรอรับ

    แท่ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เสียงกลองรั่วดังขึ้น แรงขึ้น อัลทิม่าเงยหน้ามองเชือกประหารอย่างหวาดๆ เหล่าผู้คุมตรงปรี่เข้ามาจับหัวของเขายัดเข้าไปในห่วงนั้น “พี่ชายๆ ผมมีเบอร์สาวๆน่ารักอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะเยอะเลยนะ ถ้าปล่อยผมไปเดี๋ยวให้ฟรีๆเลยก็ได้” อัลทิม่าพยายามหาทางเอาตัวรอด แต่เหล่าผู้คุมไม่ตอบอะไรกลับมาแถมยังทำหน้าที่ของตัวเองต่อนั้นคือ ยัดหัวหมอนี่เข้าไปในห่วง


    “พ่อแก้ว แม่แก้วช่วยลูกด้วย” อัลทิม่าหลับตาปี๋ พ่อแม่ตัวเองมีไม่นึกถึง คิดถึงแต่พ่อแก้ว แม่แก้ว เนรคุณจริงๆ

    แท่ดๆๆๆๆ แท่ด....

    เสียงกลองหยุดลง ผู้ให้สัญญาณที่อยู่บนหอสะบัดธงสีแดงลง ทันใดกลไกใต้เท้าของอัลทิม่าก็ทำงานตัวของเขาหล่นลงไปตามแรงดึงดูดจนก้นลงไปกระแทกพื้น !?!?! “อ้าวแหะ รอดแล้วเรา”

    อัลทิม่ามองเหนือขึ้นไปพบว่าเชือกที่กำลังจะเด็ดชีวิตเขาขาดสะบั้นเพราะกริดน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาดุจพญาอินทรีย์

    “หึหึหึ ก้ากๆๆๆๆๆ อย่างที่คิดจริงๆว่าเดี๋ยวเพื่อนมันต้องมาช่วย อาเรีย ที่เหลือให้เธอจัดการล่ะนะ” นายพลบีที่กำลังเฝ้าชมการประหารผ่านมอนิเตอร์สั่งการพร้อมๆกับดูดเฮโลอีนเข้าไปอีกนึงฝืด... หญิงสาวผมขาวที่ยาวสลวยไปจนแทบจะถึงพื้น ชุดสีดำและผ้าคลุมสีน้ำตาลไหม้โบกไสว นัยน์ตาโลหิตไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ “รับทราบค่ะ ท่านนายพล”

    “เฮ้ยยยย กันจัง ดาบล่ะ ดาบ” อัลทิม่าโผล่หน้ามาตระโกนของอาวุธ แต่เกือบโดนพวกทหารเอาลูกตะกั่วเจาะปากต้องรีบเอาเต่ากะลาปากอสที่เดินเล่นแถวนั้นกันกระสุนไปพลางๆก่อน

    “ฟู่ว..ทำไมชั้นต้องมาคอยแกปัญหาให้พวกพี่บ้า พวกนี่ด้วยนะ” หญิงสาวในชุดสีดำสนิท สะบัดเรือนผมสีฟ้าของเธอเล็กน้อยก่อนจะเขวี้ยงดาบเล่มยักษ์ที่ดูแล้วน่าจะสูงกว่าและหนักกว่าตัวเธอหลายเท่านักลงไปด้านล่างอย่างสบายๆ

    “ขอบใจจ้า กันจัง” อัลทิม่ารีบกระโดดเข้าไปคว้าดาบของเขาในทันใด “ว่าแต่ไปเอาคืนมาได้ยังไงเนี่ย”

    “ก็ให้มันรู้บ้างสิ ว่าน้องคนนี้ก็มีดีเหมือนกัน” สาวผมฟ้าชูสองนิ้วให้กับอัลทิม่า เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สิ้นคิดของมนุษยชาติ หนุ่มผมแสดยิ้มน้อยๆให้กับ กันไฟนอล หนึ่งในสี่ดวงตกแดง ที่อายุน้อยที่สุดก่อนกระโจนเข้าไปลุยกับกองทหารเบื้องหน้า

    กันไฟนอลกระโดดลงมาจากกำแพงลานประหารที่สูงประมาณตึกสามชั้นแถมถึงพื้นอย่างปลอดภัยบริเวณหน้าประตูทางออก เธอค่อยๆก้าวลงบันใดมาอย่างช้าๆ ดวงตาสีไพลินมองกวาดไปรอบๆส่งรังสีอำมหิตเพื่อข่มขวัญเหล่าทหาร

    “พวกแกจะยืนอึ้งทำไมเล่า ยิงเด้ ยิง !!!” สิ้นคำท่านผู้กอง เหล่าตัวประกอบลูกกระจอกสาดกระสุนนับไม่ถ้วนเข้าใส่กันไฟนอลอย่างไม่ปราณีแต่เธอไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย เนื่องด้วยลูกตะกั่วเหล่านั้นไม่อาจผ่านเกราะของเธอเข้ามาได้

    “เฮ้ยๆๆ ยัยเด็กนี่มันตัวอะไรว่ะเนี่ย เอาปืนยิงจรวดมา !!!” เหล่าทหารกระจอกรีบรับคำสั่งนำปืนยิงจรวด Rpg ซัดใส่กันไฟนอล

    กันไฟนอลฉีกยิ้มน้อยๆขึ้นมาพลันยกแขนขวาไปเบื้องหน้า ทันใดก่อเกิดประกายแสงสีขาวอมฟ้าชวนแสบตายิ่งนัก ทันใดแสงเหล่านั้นกลับกลายเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านทั้ง 11 ชิ้น ที่เธอใช้บังกระสุนเมื่อสักครู่ก่อนจะจับไม้กวาดยักไย่อันยาวฟันจรวดที่พุ่งเข้ามาขาดเป็นสองท่อน

    พวกทหารยืนอึ้งกิมกี่......ในจักรวาลนี่มีคนใช้ไม้กวาดยักไย่ฟันจรวดขาดด้วยโว้ยยยยยยยยยยยยย

    ระหว่างที่กำลังยืนงุนงงกันอยู่นั้น เสียงระเบิดตูมใหญ่กันดังจากระยะไม่ไกลกัน อัลทิม่าลากทหารคนนึงไปตามพื้นก่อนจะโยนร่างนั้นไปกลางวงพวกที่กำลังล้อมกันไฟนอลอยู่ ฝุ่นขวัญด้านหลังหนุ่มผมแสดจางหายเผยร่างตัวประกอบทั้งหลายนอนกันเกลื่อนกลาด อัลทิม่ายิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะนำดาบยักษ์ขึ้นพาดบ่า “มีใครอยากลองดีอีกไหม”

    เสียงตะโกนดังก้องจนพวกทหารกลัวจนฉี่แทบเล็ด “ถ้างั้นพวกชั้นขอตัวเลยล่ะกันนะ” อัลทิม่าเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปทางกันไฟนอลที่ยืนอยู่หน้าประตูทางออก

    ในขณะที่ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดี คลืนดาบสีดำสนิทก็พุ่งเข้ามาทางประตูที่พวกอัลอยู่ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด “พี่อัลหลบเร็ว !!” สาวผมฟ้าตะโกนสุดเสียงพลันกระโดดหลบคลืนนั้นไปได้แบบเฉียดฉิว ส่วนอัลเองก็เกือบพลาดแล้วเช่นกัน

    สายตาทุกคู่จับจ้องไปทางที่คลืนสีดำพุ่งเข้ามา ร่างของหญิงสาวผมขาวที่ดูบอบบางและงดงามผิดกับความแข็งแกร่งของเธอ นัยน์ตาสีแดงเข้มดุจโลหิตนกกำลังยืนจ้องมาทางนี้ในมือขวาถือเคียวสีดำเล่มยาวที่เปล่งออร่าชวนขนลุกตลอดเวลา

    “ไม่เจอกันนานนะ กันไฟนอล” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง

    “แย่ล่ะ...ราชองครักษ์ อาเรีย ลาเวียเวน์” กันไฟนอลพูดขึ้นช้าๆ “เอาไงดีพี่อัล” สาวผมฟ้าฉีกเสื้อของตัวอีกส่วนนึงแล้วนำไปผูกแผลที่แขนซ้ายจากคลื่นเมื่อสักครู่

    “ไม่เห็นต้องถาม....”


    “กี่โมงแล้วเนี่ย...” กัปตันมาซาลันงัวเงียลุกขึ้นมาจากที่นอนโดยที่ในมือมีตุ๊กตาหมีสีชมพูตัวโปรดอยู่ด้วย

    “เที่ยงแล้วกัปตัน” ลูกเรือคนนึงที่กำลังทำความสะอาดห้องอยู่พูดขึ้น

    “เที่ยงแล้วเหรอ เฮ้อ....แล้วยานเราเป็นไงมั้ง”

    “คุณเจโนว่า บอกให้กัปตันไปดูยานตัวเองมั้ง ไม่ใช่เที่ยว กิน ดื่ม ไปวันๆ” ลูกเรือพูดสิ่งที่ได้ยินมาครบถ้วน แม้จะรู้ว่าเจโนว่าเป็นคนฝากมาบอก แต่พอลูกเรือตัวเองมาพูดให้ฟังมันเหมือนโดนลูกน้องเทศน์ใส่ยังไงชอบกล

    “แล้วไอ้ ผู้บัญชาการกองยานที่ 7 อะไรนั้นมันจำอะไรได้บ้างหรือยัง”

    “ยังเลยคับ ก็ตั้งแต่วันนั้นที่เราเจอเขาในกล่องคอนเทนเนอร์ก็เอาแต่นั่งเล่นเกมกับต่อกันพลาคับ” ลูกเรือเงยหน้ามองเพดานไปพูดไป เพื่อ ??


    “แล้วไอ้ดวงตกแดงสองตัวนั้นล่ะ”

    “อ้อ คุณโยชิกิกับคุณแม็กไปที่โบสถ์แต่เช้าแล้วคับ” ลูกเรือตอบซื่อๆ “เห็นว่าจะไปตามหาหัวใจอะไรนี่แหละคับ”

    “เออ ปล่อยไอ้พวกนั้นมันไปเหอะ” กัปตันหนุ่มโบกมือพั่บๆ ก่อนจะกลับไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนโตต่อ “ทำไมมันวุ่นวานกันอย่างงี้ว่ะเนี่ย”


    ราวๆ 5 วันก่อน

    “ชั้นนี่แหละไพอา อัสนาเบิ้ล แห่งกองยานที่ 7” หนุ่มชุดแดงแจ๋ดยืนเท่ห์ส่งประกายแสงเจิดจ้าราวอาทิตย์ยามเที่ยงวัน ทำให้พวกแก็งรักสนุกทั้งหลายต้องยกมือปิดตากันเป็นแถว

    “แต่ ชั้นได้ยินมาว่ากองยานที่ 7 โดนทำลายราบไปแล้วไม่ใช่เหรอ” โยชิกิเอ่ยขึ้น

    “นั้นสิ ชั้นก็ได้ยินมาแบบนั้น” แม็กเข้ามาเสริมทันที

    “ถ้างั้นท่านทั้งหลายจงดูนี่ซะก่อน” ไพอา ลวงมือกร้านเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตนก่อนจะควักบัตรประจำตัวที่ระบุชื่อกับตำแหน่งในกองทัพ

    “เฮ้ย นี่ของจริงนี่หว่า มีตรารับรองของกองทัพด้วย” มาซาลันอุทานทันที “ว่าแต่รอดมาได้ไงเนี่ย”

    “ผมก็จำไม่ได้อ่ะ” ไพอาพูดไปเกาก้นไปด้วย “คือว่าๆ ตอนนี้ผมจำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ” ว่าเสร็จก็เอามือข้างที่เกาก้นมาแคะจมูกต่อ

    “แล้วแกจำชื่อตัวเองได้ไงฟ่ะ” โยชิกิถามด้วยความสงสัย

    “อ้อ ก็เพราะมีบัตรนี่ไง เห็นภาพในบัตรหน้าตาเหมือนผมไม่มีผิดก็เลยมั่นใจอ่ะ”

    “คนในกองทัพนี่ตายยากดีแท้แหะ” แม็กพูดทึ่งๆ

    “ว่าแต่แกเหอะ ตอนนี้คิดจะทำอะไรต่อล่ะ” มาซาลันยิงคำถามใส่

    “ก็ผมจำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ จะให้ไปทำอะไรล่ะคู้ณณณ”

    “เออ ดีแล้วมาเป็นลูกน้องชั้นไปพลางๆกันเดี๋ยวจะส่งกลับไปกองทัพทีหลังล่ะกัน”

    “คร้าบ ท่านหน้าหมู” ไพอาตะเบ๊ะใส่หน้ามาซาลันก่อนจะเจอรองเท้าบูทยัดปากข้อหาปากสนุกโดยใช่เหตุ


    “กัปตันคับ..... กัปตัน” ลูกเรือคนเดิมสะกิดมาซาลันให้ตื่นจากภวังค์ระลึกอดีต

    “มีอะไรอีกล่ะ”

    “คือ ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะให้ไอ้เอ๋อนั้นมาประจำการกับเราทำไม”

    “ถ้าให้มันโร่กลับกองทัพแล้วไปบอกนายพลบี พวกเรามิซวยกันหมดเหรอ” มาซาลันชี้แจง

    “ก็จริงนะคับ” ลูกเรือหันกลับไปมองเพดานเห็นตัวบุ้งสองตัวกำลังทำรังอยู่ “แล้วเมื่อไรกัปตันจะไปดูยานเราสักทีล่ะคับ”

    “เออ นั้นสิ..ว่าแล้วก็ไปเลยดีกว่า” มาซาลันกระโดดตีลังกาสองตลบลงจากที่นอนลงพื้นอย่างสวยงามโดยมีลูกเรือของตนโดนเหยียบอยู่ใต้เท้า

    ณ โบสถ์ขาวสะอาด แห่งสถานนี้อวกาศโอ้ลั่นล้า สายลมยามสายพัดมาเอื่อยๆชวนให้สองหนุ่มสหายบ้ากามรู้สึกดียิ่งนัก โดยเฉพาะสาวน้อยประจำโบสถ์ผู้รอบรู้และบรรลุแล้วซึ่งเวทย์ขาวมากมาย แองเจิ้ล โคลเวีย บิลันเต้ ผู้ซึ่งทำให้เหล่าผู้บ้าระห่ำทั้งสองสยบแทบเท้า

    “แองเจิ้ลจ๋า วันนี้ไปท่องยามราตรีกับผมนะ” แม็กเข้าไปกระแซะสาวผมทองเต็มที่

    “ไปกับมันทำไม ไปกับผมดีกว่านะคนดี จุ๊บๆ” โยชิกิปรี่เข้าไปเกาะขาคู่สวยของแองเจิ้ลทันที

    “ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละค่ะ แล้วทั้งสองคนก็ปล่อยตัวฉันได้แล้วนะ”

    “ใจร้ายจัง คนสวย”

    “แต่ใจร้ายยังไง ผมก็รักคุณนะ จุ๊บๆ”

    สาวคนสวยได้แต่ยืนเหนื่อยใจกับไอ้ปลิงตัวดูดทั้งสองที่ระยะนี้มาป่วนงานในโบสถ์ของเธอไม่เว้นวาย แถมยังทำตัวระรานผู้ที่ประสงค์จะเข้ามาประกอบพิธีทางศาสนาอีกตะหาก จนเธอชักรู้สึกอยากส่งไอ้สองตัวนี้ออกไปนอกระบบสุริยะซะเลย

    “อ้าว พี่โย พี่แม็ก ดีคับ” หนุ่มผมขาวก้าวเท้าเข้ามาในโบสถ์พร้อมหนังสือเล่มเล็กๆ

    “ไง เนียร์ของไถ่โทษเอามารึยัง” โยชิกิส่งยิ้มชวนขนลุกให้

    “นี่คับๆ” เนียร์รีบส่งหนังสือให้โดยละม่อมก่อนที่จะโดนฟันขาดเป็นสองท่อน

    “หนังสืออะไรว่ะ ไอ้โย” แม็กถามสหายไร้เนตร “อ้อ ชานะภาคนิยายน่ะ เล่มหนึ่งตูยังไม่ได้ซื้อเลย”

    “แสดงว่าแกอ่านเล่มสองก่อนเหรอ มันจะไปรู้เรื่องได้ไงฟ่ะ”

    “ปัดโธ่ มันก็คล้ายๆกะอนิเมล่ะว่ะ ฉอดๆๆๆ” อยู่ๆบทสนทนาทั้งหมดก็กลายเป็นภาษาโอตาคุไปซะงั้น พลอยทำให้แองเจิ้ลได้รับเคราะห์ดี ไม่ต้องมีปลิงมาเกาะไปด้วย

    “พี่แองเจิ้ลคับ หลายคื่นนี้ผมฝันแปลกๆน่ะคับ” คำถามของเนียร์ทำให้แองเจิ้ลหันควับกลับมาขณะพยายามย่องหนีปลิงทั้งสอง

    “เรื่องอะไรล่ะ ถ้าไม่สำคัญพี่ขอตัวก่อนนะ”

    “ผมได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วยน่ะคับ” เนียร์เว้นจังหวะพูดนิดนึง “ติดๆกันหลายคืนเลยด้วย”

    “หยั่งงั้นเหรอ” โยชิกิโผล่หน้าเข้ามารวงวงสนทนาด้วยทันที ว่าแต่แกมาตั้งเมื่อไรกันฟ่ะ !!

    “แล้วนอกเหนือจากเสียงร้องให้ช่วยแล้วมีอย่างอื่นอีกไหม” แองเจิ้ลถามต่อโดยมีสนใจไอ้บอดตัวสาระแน

    “ก็ รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในที่มืดๆ หายใจไม่สะดวก”

    “ติดกันมาได้กี่คืนแล้วล่ะ”

    “ประมาณ 4-5 คืนได้แล้วน่ะคับ”

    “แล้วเพิ่งมาบอกพี่เนี่ยนะ” แองเจิ้ลถอนหายใจ

    “ก็ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นแค่ฝันนี่คับ” เนียร์กล่าว่ต่อ “แต่ยิ่งวันหลังๆมานี่มันสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆเลย”

    “อืม....ไว้พี่จะช่วยล่ะกันนะจ๊ะ น่าจะเป็นการสื่อสารทางโทรจิตจากใครสักคนนะ”

    “แต่การทำแบบนั้นมันต้องมีคลื่นที่ตรงกันด้วยไม่ใช่เหรอ” แม็กเอ่ยบ้าง
  8. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    “ก็คงเป็นเพราะคลื่นสมองของเนียร์มันดันไปตรงกับของผู้หญิงคนนั้นมั้งค่ะ ไว้ชั้นจะไปค้นคว้าดูล่ะกัน ยังไงเนียร์ก็เหมือนน้องชายของชั้น ไม่ทิ้งหรอกนะ” สาวผมทองยิ้มให้อย่างอ่อนโยน พลอยทำให้ทั้งโยชิกิและแม็กเคลิ้บเคลิ้มไปด้วย

    “อ่ะ ... มีอีกเรื่องคับพี่ๆ” เนียร์ทุบมือตัวเองทีนึงก่อนทำท่าคิดออกแบบอิคิวซัง “เมื่อวานผมจับสัญญาณแปลกๆได้น่ะคับ”

    “สัญญาณ ??” โยชิกิและแม็กพูดออกมาพร้อมกัน

    เนียร์ ลวงมือเข้าไปในย่ามเก่าๆของตัวเองก่อนจะควักอุปกรณ์แปลกๆที่ตนเป็นคนทำขึ้นเองออกมา “เนี่ยอ่ะคับ เครื่องมือตรวจจับสัญญาณคลื่นความถี่ของผมมันเจออะไรแปลกๆเข้า” พลางชี้นิ้วให้พวกโยชิกิดูกราฟที่กำลังวิ่งขึ้นวิ่งลง

    “ไม่เข้าใจ.....” เป็นคำพูดที่คาดเดาได้ของเจ้าไร้เนตร

    “ดูสิโว้ย ไอ้โย คลื่นพวกนี้มันตีกันมั่วน่าจะแสดงว่ามันไปโดนเข้ากับอีกคลื่นความถี่นึงใช่ไหม” แม็กว่าเสร็จก็ตบกบาลสหายไปทีนึงเป็นการคลายเครียด

    “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละคับ ปกติไอ้เจ้าเครื่องนี้ผมทำเพื่อจะไว้ดักจับสัญญาณเล่นๆน่ะคับ แต่เมื่อคืนมันดันไปจับสัญญาณคลื่นความถี่ขนาดใหญ่ได้ ผมก็เลยล็อกคลื่นนี่เอาไว้เลย”

    “แต่ถ้าเป็นคลื่นรูปแบบขนาดใหญ่นี่มันน่าจะมาจากสถานนีอวกาศทั่วๆไปไม่ใช่เหรอ” แม็กถามต่อ

    “ก็ใช่คับ แต่ว่าลองดูสิคับ ถ้ามันมาจากสถานนีอวกาศที่ไม่เคลื่อนที่ไปไหน ตัวคลื่นมันก็จะแสดงผลคงที่ตลอด ถ้ามากก็มากเลย ถ้าน้อยมันก็จะตีกันน้อยกว่านี้ตลอด”

    “แต่นี่มันค่อยๆน้อยลงไปเรื่อยๆแสดงว่ามัน....” เนียร์หยุดพูดปล่อยให้ความเงียบครอบงำ

    “ไอ้คลื่นที่ว่านี้มันกำลังเคลื่อนที่ห่างออกไปสินะ” โยชิกิเผยความฉลาดอันน้อยนิดออกมา

    “ถ้ามันเคลื่อนที่ได้มันก็ต้องไปพวกยานอวกาศไม่ใช่เหรอคับ” เนียร์ตั้งข้อสังเกต “ผมยังไม่เคยได้ยินว่าสถานนีอวกาศที่ไหนเคลื่อนที่ได้เลยนะ”

    แม็กรีบลากคอโยชิกิออกมาจากวงสนทนาปล่อยให้เนียร์ยืน งงๆ กับพฤติกรรมประหลาดของบุคคลทั้งสอง “สองคนนี้ไม่เต็มเต็งอย่างที่ลือจริงด้วยๆ”

    “เฮ้ย ไอ้แม็กแกจะลากชั้นมาตรงนี่ทำไมว่ะ” โยชิกิยิงคำถามใส่ทันที

    “ก็ตูว่าไอ้คลื่นที่ว่าเนี่ยมันต้องมาจาก ไอ้นั้น แน่ๆเลยฟ่ะ”

    “ห่ะ จากไอ้นั้น น่ะนะ”

    “เออ ไอ้นั้นแหละ” บุรุษทั้งสองตอบโต้ด้วยรหัสลับพลอยทำให้เหล่าคนอ่านผู้น่ารักหน้ากลายเป็นเครื่องหมายคำถามกันทันที

    “แต่ไอ้นั้นมันไม่น่าปล่อยคลื่นให้ตรวจจับง่ายๆออกมาไม่ใช่เหรอ” โยชิกิแย้งจึ้น

    “นั้นน่ะสิ แสดงว่าเครื่องตรวจจับของเนียร์มันต้องจับคลื่นแบบแปลกๆได้แน่ ของทำเองนี่คาดเดาอะไรไม่ได้แหะ” แม็กพูดไปลูบคางไปด้วย

    “งั้นเอาไงต่อดี”

    “เอางี้ล่ะกัน เขยิบหูมาใกล้หน่อยดิ” โยชิกิเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบแคะขี้หูส่งให้แม็กแลนเซอร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มปัญญาอ่อนและแน่นอนว่าเจ้าบอดก็โดนหมัดขวาทะลวงไส้ลงไปนอนดับอนาถคาที่

    “บอกให้ขยับหูโว้ย ไม่ได้ขยับขี้หู” แม็กตะโกนใส่อย่างเดือดดาล

    “ไม่รับมุขเลยเพื่อน...”

    “มุขแบบนี้รับไม่ไหวฟ่ะ เอ้าฟังแผน ซุบซิบมุบมิบจุ๊บแจง...” สองหนุ่มจากดวงตกแดงเข้าไปกระซิบกระซ่าบวางแผนโฉดกันอยู่สักระยะ ก่อนจะค่อยๆลากสังขารตัวเองกลับไปหาเนียร์และแองเจิ้ล

    “เฮ้ย ไอ้หนูอยากเป็นฮีโร่สักครั้งในชีวิตไหม” โยชิกิเดินเข้าไปตบไหล่เนียร์จนหัวใหล่หลุดไปกองกับพื้น

    “อยากสิคับ ผมใฝ่ฝันมานานแล้ว” เนียร์พูดไปประกอบร่างตัวเองไป

    “งั้นดีมากเรามีทิบพิเศษนำเสนอให้แกได้เป็นวีรบุรุษอวกาศแน่” เจ้าโยชิกิแพล่มนำลายกระฉ่อก

    “แต่ผมไม่ไปกับพวกพี่หรอก ไม่อยากตายก่อนได้ XXX ว่ะ ฮ่าๆๆๆ”

    “โห ไอ้เด็กนี่” โยชิกิเริ่มเกิดอารมณ์เดือดดาลโดยใช่เหตุ

    “นี่ๆพวกคุณสองคนจะทำอะไรน่ะค่ะ” แองเจิ้ลพยายามเข้ามาขวาง แต่ช้าไปแล้วเจ้าเนียร์โดนโยชิกิฟาดด้วยท่อนซุงไม้ป่าสาละวินลงไปนอนสลบจมกองเลือด “ว้าย !! ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันรุนแรงด้วย” แองเจิ้ลรีบเข้าไปดูอาการหนุ่มน้อย

    “ไม่เป็นไรคับ แองเจิ้ล เดี๋ยวพวกผมจะดูแลมันเองล่ะกัน” แม็กว่าเสร็จก็ส่งสัญญาณให้เจ้าโยชิกิแบกตัวหนุ่มผมขาวไปทันที

    “จะเอาเนียร์ไปไหนอีกล่ะค่ะ” แองเจิ้ลเริ่มรู้สึกว่าสองคนนี้มันเหมือนผู้ร้ายลักพาตัวชอบกล “ชั้นไม่ยอมหรอกนะค่ะ มาเสียมารยาทในสถานที่ศักดิ์สิทธิแบบนี้”
    “เราขอปิดเรื่องนี้เป็นความลับไว้ก่อนนะคับ แต่ยังไงคุณก็มิวิธีติดต่อพวกเราได้ตลอดเวลานี่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคับ” แม็กเอ่ยเสียงเท่ห์

    “จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงค่ะ ยังไงเนียร์ก็เหมือนน้องชายคนชั้นพวกคุณเอาตัวเขาไปแบบนี้....” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อนิ้วเรียวของแม็กก็เข้ามาจุ๊ปากสาวน้อยผมทองทำให้เธอหยุดชะงักกะทันหัน “ผมขอสัญญาว่าจะดูแลเขาอย่างดี สบายใจได้นะ”

    “ยังคงไม่เลือกวิธีการเหมือนเคยนะค่ะ” แองเจิ้ลพูดอย่างอ่อนใจ “ยังไง พวกคุณก็คงจะนำตัวเขาไปอยู่ดีใช่ไหม”

    “ครับ” แม็กตอบเสียงหนักแน่น “และคุณก็คงไม่อนุญาตดังนั้น....” พริบตาเดียวแม็กสับฝ่ามือลงไปหลังต้นคอของแองเจิ้ล ความรู้สึกของเธอสั่นทึ่มก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆมืดลงทีล่ะน้อย ร่างของเธอร่วงสู่พื้นราวนางฟ้าที่กำลังร่วงหล่นแต่แม็กรับตัวเธอไว้ได้ก่อนจะตกกระแทกพื้น “ผมขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ แต่พวกเราจำเป็นต้องทำ”

    “เอาล่ะไปกันเถอะ โย”

    “เฮ้อ ไม่นึกว่าแกจะทำร้ายผู้หญิงลงนะ”

    “เราไม่มีทางเลือกแล้ว รีบไปเถอะ”

    ณ อู้ซ่อมของเจโนวา พวกมาซาลันกำลังยืนอึ้งกับผลงานของช่างซ่อมหนุ่ม ภายในเวลาแค่ไม่กี่วันตัวยานที่ผุผังกลับเป็นรูปร่างที่สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่ามันคือยานอวกาศ กัปตันหนุ่มเดินสำรวจไปรอบยานๆพลางเอามือลูบคลำยานรบของตนเองไปด้วยความซาบซึ่งปิติไร้คำบรรยาย

    “อ้าว กัปตันมาแล้วเหรอ” เจโนวา โผล่หัวออกมาจากดาดฟ้ายานพร้อมโบกมือทักทายกัปตันมาซาลัน

    “เยี่ยมไปเลย ไม่นึกว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ในเวลาไม่กี่วัน....” มาซาลันยังอึ้งอยู่

    “หึหึ ของมันแน่อยู่แล้ว แต่ว่านะ....” ช่างซ่อมหนุ่มชี้มือกลไปทางสิ่งมีชีวิตตัวนึงที่กำลังนั่งจกอะไรสักอย่าง “ช่วยบอกมันให้เลิกกินซะที บะหมี่ถ้วยของชั้นจะหมดคลังอยู่แล้ว”

    เมื่อทุกคนหันหน้าไปตามทิศทางมือของเจโนวาก็พบว่า ไพอา อัสนาเบิ้ล ผู้บัญชาการของกองยานที่ 7 อันเกรียงไกรกำลังนั่งซัดบะหมี่ถ้วยกองมหึมาเหมือนไม่ได้กินบะหมี่มาตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ เขานั่งซัดแบบไม่สนใจใครและไม่เกรงใจใครแบบนี้มาตั้งแต่ออกมาจากกล่องคอนเทนเนอร์แล้ว แถมถ้วยบะหมี่เปล่าก็ไม่เอาไปทิ้งจนถ้าเอามาต่อกันคงจะได้ความสูงหลายเมตรเลยทีเดียว

    “กัปตันคับ.....เอาไงดี” ลูกเรือคนนึงเข้ามากระซิบจากด้านหลัง

    “ให้ชั้นจัดการเอง” กัปตันหนุ่มกล่าวเสียงเข้ม เข้าก้าวเดินไปอย่างองอาจมาดมั่นและไปยืนอยู่ด้านหลังไพอาในเวลาไม่นาน “เฮ้ย ไพอา เลิกกินแล้วหัดไปช่วยงานคนอื่นบ้างสิเฟ้ย เป็นลูกน้องของชั้นแล้วก็อย่าทำตัวอู้” มาซาลันตะโกนด่า ไม่ดูตัวเองแกน่ะแหละอู้ที่สุด

    “แง่มๆๆๆๆๆๆ”

    “ฟังอยู่หรือเปล่า เฮ้ย !!!”

    “แง่มๆๆๆๆ.....อุ่ก” ไพอาส่งเสียงร้องน่าอนาถออกมา มือกุมท้อง เหงือแตกเป็นหน้าพุ ใบหน้าสุดแสนจะทรมาน “เป็นอะไรอีกว่ะเนี่ย” มาซาลันยืนเกาหัว ไม่รู้จะทำท่าไหนแล้ว

    ปู้ดดดดดดดด.....

    เสียงผายลมดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณอู่เรือได้สักพักนึง กลิ่นสาปสางเหมือนมีสัตว์ประหลาดเน่าตายก็ค่อยๆเข้ามาแทนที่อากาศในอู่ เหล่าลูกเรือพากันร้องโหยหวนเหมือนถูกรมควันพิษ บางตะโกนขอหน้ากากกันแก็ส บ้างตะโกนขอหวย บ้างตะโกนขอยาคุโมะเป็นแฟน ฯลฯ เจโนวาเร่งเปิดเครื่องระบายอากาศเต็มกำลังแต่ก็ยังสู้กลิ่นเหม็นเน่าไม่ไหว

    “มันได้ไปห้องน้ำบ้างไหมนี่ แหวะๆๆๆ” ช่างหนุ่มอ้วกเอาอาหารเช้าออกมาตามพวกลูกเรือหลายคนที่ปล่อยไปเป็นที่เรียบร้อย

    “เฮ้ พวกเราดูกัปตันสิ” ลูกเรือนิรนามคนนึงเอ่ยเสียงดังพลางชี้นิ้วไปทางกัปตันของพวกเขาที่ยังยืนเด่นเป็นสง่าไม่แสดงอาการใดๆ ทั้งที่ตัวเขานั้นอยู่ใกล้ต้นเหตุมากที่สุด

    “โอ้ว สมเป็นกัปตัน !!!”

    “คิดถูกจริงที่เลือกมากับกัปตัน”

    “หลงรักกัปตันซะแล้วสิ”

    “กัปตันเราเป็นมนุษย์ไซบอร์ก !!!!”

    “อยากขอไปช่วยถูบ้าน ล้างจาน ฉอดๆๆ”

    “กัปตันไปดูดส้วมบ้านผมที”

    และอีกมากมายคำสรรเสริญที่เหล่าลูกเรือมอบให้กับกัปตันคนเก่งของพวกเขา ทั้งอู่ร้องไห้ปิติยินดีราวกับได้รับเหรียญกล้าหาญแม้ว่ากลิ่นเหม็นเน่าจะยังคงอยู่ก็ตาม เหล่าลูกเรือพากันเดินเข้าไปใกล้แม้ว่ากลิ่นจะรุนแรงขึ้นก็ตาม

    “โห กัปตันเราทนได้ไงเนี่ย เหม็นจนแทบบ้า” ลูกเรือคนนึงบนอุบอิบ

    “นั้นดิ ชักสงสัยว่า.....” ลูกเรืออีกคนเอ่ยเบาๆ

    “กัปตันคับ กัปตัน” ลูกเรือที่มีสามตายื่นไปสะกิดกัปตันมาซาลันที่ยังยืนเท่ห์อยู่ แต่เมื่อสัมผัสถูกต้องตัวกัปตันหนุ่มร่างในชุดสีดำเท่ห์ก็ร่วงหล่นกระแทกพื้นอย่างจัง เผยใบหน้าชวนสยองน้ำลายฟูมปาก สีผิวกลายเป็นสีฟ้า ตาถลอน ของเหลวไหลออกผ่านทวารทั้งเจ็ด ลูกเรื่อทั้งหลายต้องรีบพากันไปปฐมพยาบาลกันยกใหญ่ ส่วนต้นเหตุนั้นก็หมดสภาพเพราะลมตดของตัวเองเช่นกัน

    “กลิ่นอะไรว่ะเนี่ย เหม็นชิบ” แม็กที่ยืนอยู่หน้าประตูอู้ได้กลิ่นอะไรสักอย่างจากข้างใน

    “เออ อย่างกับไดโนเสาร์ตาย” โยชิกิที่ประสาทสัมผัสที่เหลือแหลมคมยิ่งได้กลิ่นชัดกว่าชาวบ้าน

    แม็กยื่นมือไปกดสวิสช์เปิดประตู ทันทีที่ประตูอู้ค่อยๆเปิดกว้างขึ้นกลิ่นมหารัญจวนด้านในก็พุ่งพล่านออกมาด้านนอก สองหนุ่มจากดวงตกแดงแม้ฝีมือจะยอดเยี่ยมเพียงใดก็ไม่อาจต้านทานระเบิดพลังช้างขนาดนี้ไหวต่างลงความเห็นว่าอีกสักพักค่อยเข้าไปล่ะกัน

    “เฮ้ เจโนวา มันเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ย” โยชิกิเดินตรงไปถามช่างซ่อมหนุ่มที่กำลังนั่งดมยาดมห้าหลอดในคราวเดียว

    “ก็ไอ้แดงนั้นน่ะสิ ตดออกมาทีแทบจะฆ่าคนหมดอู่” เจโนวาพูดอย่างเหนื่อยอ่อนสุดๆ “เครื่องปรับอากาศเปิดทุกตัวยังเอาไม่อยู่เลย ว่าแต่นี่ผ่านมานานยังเนี่ย”

    “ก็ตั้งแต่ตอนพวกเรากลับมาก็ราวๆสองชั่วโมงแล้ว”

    “โห สองชั่วโมงกลิ่นยังอยู่อีกเหรอเนี่ย พวกแกรีบเอาไอ้บ้านั้นไปให้พ้นๆอู่ชั้นสักทีเหอะ”

    “มันก็อยู่ที่ว่าแกซ่อมยานเร็วแค่ไหนน่ะแหละ”

    “เหอะ ตอนนี้มันก็บินได้แล้วล่ะ แต่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่เท่านั้นเอง” เจโนวาพูดไปพลางเปลี่ยนหลอดยาดมไปด้วย “ว่าแต่ แกจะไปกะไอ้พวกนี้เหรอ”

    “ก็คงงั้น เจ้ากัปตันนั้นมันจ้างพวกเราต่อนี่หน่า”

    “เออๆ ดีแล้วรีบเอาพวกมันออกไปให้พ้นๆแหละดี”

    เหล่าลูกเรือของมาซาลันต่างเข้ามาหลบภัยในยานลิงน้อยล่องลม เพราะพื้นที่ด้านในไม่มีกลิ่นสาปมากนักจึงพอหายใจหายคอกันได้ ส่วนมาซาลันกำลังนั่งหมดสภาพอยู่บนเก้าอี้ผู้บัญชาการยานอย่างระโหยโรยแรง แม็กที่เข้ามาเห็นสภาพแต่ล่ะคนด้านในก็พอจะเดาได้ว่าพวกนี้คงเจอกันไปเต็มๆ

    “ไง กัปตันหายดียัง” ชายหนุ่มในชุดโค้ทสีแดงเดินเข้าไปทักทายด้วยน้ำเสียงยียวน

    “ก็ยังไม่ตาย “ กัปตันหนุ่มตอบเบาๆ

    “เฮ้อ ก็น่าเห็นใจอยู่หรอกน้า แล้วเจ้าไพอาอะไรนั้นล่ะ”

    “ทิ้งมันอยู่ข้างนอกไปแหละ” มาซาลันกล่าวอย่างหมดอารมณ์

    ในระหว่างที่แต่ล่ะคนกำลังพักหายใจหายคอ ลูกเรือนายหนึ่งก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาด้านในพร้อมสะดุดยอดผักคะน้าล้มลงไปหน้าฟาดพื้น “แย่แล้วค้าบบบบ มีคนบุกเข้ามาที่นี่”

    ทุกคนหน้าตาตื่นขึ้นมากันทันที แม็กไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปดูด้านนอกโดยมีมาซาลันและลูกเรือตามกันออกมาติดต่อ แต่ใครปอดแหกก็แอบอยู่ในยานไม่กล้าเผชิญกับอะไรทั้งสิ้น

    ที่ด้านนอกยาน ประตูปล่อยยานของอู่ถูกยิงโจมตีด้วยลำแสงความร้อนสูงจนเป็นรูโบ๋วขนาดใหญ่ แต่ด้วยม่านบาเรียอีกชั้นทำให้อากาศไม่รั่วไหลออกไปด้านนอก เพียงแต่มันกันได้แค่อากาศแต่วัตถุสามารถร่วงล้ำเข้ามาได้และแน่นอนผู้บุกรุกที่ว่ากำลังยืนจังก้าอยู่เบื้องหน้าบุรุษไร้เนตร

    “ต้องการอะไร...” โยชิกิถามสั้นๆ

    “ชีวิตของคนที่ตรวจจับคลื่น จ้อยพาราไดซ์ได้”

    “ฝากไปบอกนายจ้างแกด้วยว่า....” ขณะที่โยชิกิกำลังพูดต่อปืนลำแสงก็ถูกลั่นไกลกระสุนถากหน้าเขาไปนิดเดียว

    “ไม่ต้องพูดให้มากหรอก ชั้นถูกจ้างให้มาฆ่าทุกคน” นักฆ่าในแว่นตาสีดำ ทรงผมอุลตร้าแมนกล้าวอย่างเลือดเย็น

    “ดูท่าแบบนี้คงพูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ โย” แม็กก้าวเดินมาอยู่ข้างๆโยชิกิ “ลงอีหรอบนี้คงแย่แหะ ไอ้หมอนี่มันนักฆ่าอันดับต้นๆในจักรวาลเลย”

    “ชื่อของชั้นคือ งมงาย เดอะ คุณไสย และนั้นยานของชั้น เซต้าบิท” นักฆ่าแว่นดำแนะนำตัวเองพร้อมชี้นิ้วไปทางยานรูปตัวแซดสีฟ้าขาวด้านหลัง “เอาล่ะ ใครที่จับสัญญาณได้”

    “ผมค้าบบบ” เนียร์ที่เพิ่งฟื้นปากเปราะตอบไปในทันใด ท่ามกลางความเศร้าใจของพวกโยชิกิ “จะไปตอบมันทำไมว้า ไอ้บื้อเอ้ย”

    กระสุนเลเซอร์พุ่งผ่านไปทางเนียร์ทันที เด็กน้อยที่กำลังอยู่ในอารมณ์ตกใจไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายได้แต่โยชิกิ สี่ดวงตกแดง ยังคงเร็วมากพอที่จะควักดาบเล่มใหญ่สีเหลืองนวลกันกระสุนได้อย่างหวุดหวิด “ไอ้ปากเสียเอ่ย” โยชิกิเขกกะโหลกเนียร์ด้วยความหมั่นไส้ หัวแตกเลือดอาบ “ก็ผมไม่รู้นี่ค้าบ แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย”

    “Music Start” นักฆ่าแว่นดำตะโกนลั่น เผยเสือยืดสีดำลายหัวกระโหลกเขมรใต้ผ้าคลุมสีดำกับกางเกงขายาวสีเงินทรงดิสโกส่องแสงระยิบระยับ และผมทรงอุลตร้าแมนที่นอกจากตรงกลางกระหม่อมที่ชี้ตั้งแล้วส่วนอื่นหาได้มีสิ่งที่เรียกว่าเส้นผมไม่ ยานเซต้าบิทค่อยๆลอยขึ้นพร้อมเปิดเพลง OP ของกันดั้มเซต้าไปด้วย มิหน่ำซ้ำตัวยานมี AI อัตโนมัติสาดกระสุนใส่พวกมาซาลันอย่างไร้ความปราณี

    “เข้าไปหลบในยานก่อนโว้ยยยย” กัปตันรีบสั่งลูกน้องหลบ

    “โย แกรีบพาเนียร์เข้าไปก่อนเดี๋ยวไอ้บ้านี่ชั้นลุยเอง” แม็กตะโกนสั่ง

    “เออ อย่าดันโดนยิงเป็นรังผึ้งล่ะ หนัง AV ที่ยืมๆไปก็รู้จึกคืนด้วยนะเฟ้ย”

    “แม่ม ที่งี้ล่ะงกเชียวไอ้เวรเอ้ย “ แม็กรำพึง ก่อนจะกระชับดาบยาวในมือ

    โยชิกิ แบกตัวเนียร์ไว้ข้างตัวเขาพลันวิ่งสุดกำลังไปทางยานลิงน้อยล่องลม แต่ยานเซต้าบิทที่ถูกคำสั่งสังหารก็สาดกระสุนเข้ามาดักหน้าพวกเขาไว้ โยชิกิไม่รอช้ากระโดดถอยหลังกลับพร้อมคว้าดาบสั้นสีแดงที่อยู่ข้างเอว พริบตาที่ดาบเข้ามาอยู่ในมือเกิดเปลวเพลิงห่อหุ้มไปทั่วตัวดาบสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเนียร์และบรรดาลูกเรือที่แฉลมหน้าออกมาดูยิ่งนัก โยชิกิซัดลูกไฟไปทางยานเซต้าอย่างจัง

    ตูม !!! เสียงระเบิดตูมใหญ่ดังก้อง หากแต่ยานกลับไร้รอยขีดข่วนด้วยเกราะสีฟ้าอ่อนที่ปกป้องมันไว้ “ฮึ่ม มีเกราะสลายเวทย์ด้วยเหรอ”

    “เจ้านั้นไม่เลวเลยทีเดียว ลูกไฟเมื่อกี้ถ้าไม่มีเกราะกันบังยานชั้นคงพังไปแล้ว” งมงายเอ่ยชื่นชม

    “ถ้ามัวแต่พูดแกก็จะเสร็จเหมือนกัน” แม็กพุ่งตัวเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงดุจจรวดสังหาร มือสังหารหัวชี้ล้วงมือเข้าไปในผ้าคลุมพลันขว้างระเบิดควันอำพรางตัวไว้

    แม็กที่ยืนท่ามกลางควันหนาทึบมือขวาถือดาบมือซ้ายกระชับปืนแน่น ยันกายอยู่อย่างมั่นคงรอเพียงเวลาเท่านั้น ทันใดกระสุนเลเซอร์สีชมพูก็พุ่งตัดผ่านม่านควันเข้ามา บุรุษผมขาวเอี้ยวตัวหลบไปได้พร้อมลั่นกระสุนไปในทิศทางเดียวกัน แต่มือสังหารไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว แม็กไม่รอช้ารีบหมุนตัวกลับพร้อมเหวียงดาบในเวลาเดียวกัน ดาบทรงยุโรปเล่มยาวก็ปะทะมีดสั้นเล่มเล็กของมือสังหารแว่นดำทันที

    “แกรู้...” งมงายกล่าวสั้นๆ

    “ใช่ ชั้นรู้จากการเปลี่ยนแปลงของควันไงล่ะ”

    “สนุกจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ไม่เจอพวกกระดูกแข็งๆมานานแล้ว” มือสังหารกล่าวอย่างยินดี ก่อนที่มันจะกระโดดกลับไปตั้งหลักปล่อยให้ม่านควันค่อยๆจางหายไป

    “พี่โย มันยิงมาอีกแล้ววววววว” เนียร์ตะโกนลั่น แต่ดันโดนโยชิกิเอาด้ามดาบกระทุ้งหัวแทน “รู้แล้วเฟ้ย หัดหุบปากซะมั้ง”

    โยชิกิกระโดดหลับไปมาได้สักพักก็พึ่งจะมาคิดขึ้นได้ว่า “ตูจะแบกไอ้เด็กนี่ทำไมว่ะเนี่ย”
    “เนียร์เดี๋ยวข้าจะวางแกลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปข้างในยานเลยนะ “

    “เพ่ !! อย่างงี้ผมจะไม่โดนยิงเอาเหรอ”

    “เออ เดี๋ยวจะคุ้มกันให้รีบไป” ว่าเสร็จโยชิกิก็ขว้างเนียร์ล้มลงไปกองกับพื้น “ไหนว่าจะวางเล่นโยนกันเลยนี่หน่า”

    เมื่อไร้ตัวถ่วงหนุ่มไร้เนตรก็เปลี่ยนมาใช้ดาบสองมือ มือขวาถือเซเบอร์สีเขียวมรกต มือซ้ายกุมดาบสั้นสีแดงไว้มั่น ออร่าของวายุและอัคคีเริ่มผสานกันก่อพายุไฟลูกยักษ์เข้าเล่นงานยานเซต้าบิททันที

    “เจ้านั้นเป็นนักดาบเวทย์เหรอเนี่ย” มาซาลันยืนดูด้วยความทึ่ง

    “ไม่ใช่ระดับธรรมด้วยนะ แต่เป็นนักดาบเวทย์ที่มีฝีมืออยู่ในระดับแนวหน้าคนนึงเลยแหละ” เจโนวาตอบกลับ

    เมื่อพายุเพลิงเริ่มสงบเผยยานเซต้าที่ยังไร้รอยขีดข่วน แต่เกราะกังบังนั้นมีแสงที่อ่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัด โยชิกิไม่ปล่อยโอกาสให้เสียไปเขาดีดตัวด้วยแรงลมจากเซเบอร์สีเขียว พร้อมทั้งเปลี่ยนอาวุธในมือซ้ายเป็นคาตาน่าแห่งวารีธาตุ “ดาบแห่งวารีธาตุเอ๋ย จงแช่มันให้เป็นไอติมซะ” สิ้นคำดาบสีฟ้าสะอาดตาเปล่งประกายส่งคลื่นไอเย็นล้อมรอบตัวยานและค่อยๆเกาะกินบาเรียที่คุ้มกันมันอยู่ หนุ่มตาบอดเปลี่ยนอาวุธอีกครั้งคราวนี้เป็นดาบยักษ์สีเหลืองนวลพอเหวี่ยงใส่เข้าไปตูมเดียว เกราะที่ถูกน้ำแข็งจับก็แตกสลายในพริบตา

    ในเวลานั้นเองเนียร์ก็วิ่งไปถึงประตูยานพอดี โดยที่เหล่าลูกเรือพร้อมใจกันลากคอขึ้นไปบนยาน “นึกว่าไม่รอดซะแล้ว”

    “ไง เนียร์ไม่เจอกันซะนาน” เจโนวาทักทายด้วยรอยยิ้ม

    “ครับ คุณเจโนวา ว่าแต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นคับเนี่ย แล้วไอ้มือสังหารนั้นมันจะมาฆ่าผมทำไมอ่ะ”

    “ไม่รู้เหมือนกัน นี่ชั้นก็ยัง งงๆ อยู่ไว้แกรอถามจากไอ้พวกข้างล่างเอาเองนะ....แล้วแม่ม ก็ดันมาอาละวาดในอู่ชั้นอีกจะเรียกค่าเสียหายให้หูตูบเลย”

    เมื่อเกราะสลายตัวยานก็ไร้การป้องกัน โยชิกิกระโดดขึ้นไปหมายจะฟันให้ขาดเป็นสองท่อน แต่กระสุนเลเซอร์ที่พุ่งเข้ามาทำให้โยชิกิต้องรีบเปลี่ยนจากรุกเป็นรับในทันที

    ชายหนุ่มไร้เนตรกระชับดาบในมืออีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรยานเซต้าที่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ก็สาดห่ากระสุนลงมาด้านล่างจนโยชิกิต้องหลบเป็นพัลวัน ทางด้านตัวมือสังหารเองก็ยังสู้ติดพันกับแม็กแลนเซอร์ ดาบยุโรปสีขาวตวัดซ้ายทีขวาทีด้วยความรวดเร็ว แม้จะหลบได้แต่ความแม่นยำนั้นเริ่มเพิ่มขึ้นทุกที งมงาย ไม่ปล่อยให้การต่อสู้ยืดเยื้ออีกต่อไป เขาพละออกจากการต่อสู้และขึ้นไปนั่งบัญชาเซต้าด้วยตนเอง

    ยานเซต้าเปิดฝาด้านหน้าออกปรากฏปืนกระบอกยักษ์เล็งเป้าไปทางพวกโยชิกิ ไม่รอช้างมงายยิงคลื่นลำแสงขนาดใหญ่ไปทางดวงตกแดงทั้งสองแสงสีขาวนวลตัดผ่านตรงไหนจุดนั้นก็มลายหายไปสิ้นเหลือแต่เพียงซากและหมอกควันเท่านั้น

    “ม่ายยยย อู่ของช้านนนนนนนน” เจโนวาร้องโหยหวน โดยมีเนียร์นั่งปลอบใจอยู่ข้างๆ

    “ว่าแต่กัปตันไปไหนล่ะ” ลูกเรือคนนึงทักคน คนอื่นๆก็เริ่มมองหาทันทีและคำตอบทีได้ก็คือ “กัปตันหายไปแล้วโว้ยยยยยยยยยย”

    โยชิกิและแม็กหลบลำแสงไปได้อย่างหวุดหวิดเสื้อคลุมสีดำยาวของหนุ่มไร้เนตรขาดเป็นริ้วๆ ส่วนแม็กที่อยู่ห่างกว่าก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก

    “ถอยก่อนดีกว่า” แม็กเสนอ

    “เห็นด้วยอย่างยิ่ง” ว่าแล้วทั้งสองก็เร่งฝีเท้าสุดชีวิตกลับไปที่ยานลิงน้อย งมงาย ไม่สงสารยิงคลืนลำแสงออกไปอีกนัดโดนพื้นอู่หายไปอีกแถบแต่ยังคงพลาดเป้า มือสังหารหัวฟูไม่ปล่อยให้พวกโยชิกิได้ตั้งหลักได้จึงเปลี่ยนมาใช้กระสุนสาดใส่ทันที

    “ยานเวรนั้น สักวันชั้นจะผ่ามันให้เป็นแตงโมเลยเชียว” โยชิกิพูดด้วยความคับแค้น

    “ไว้รอดไปก่อนล่ะกันฟ่ะ”

    ในจังหวะที่พวกดวงตกแดงกำลังหนีขึ้นยานกัปตันหนุ่มก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาเกือบจะจูบปากกันถ้าเบรกไม่ทัน “เฮ้ย ไอ้กัปตันทำไมไม่อยู่ในยาน” แม็กตะโกนอย่างเดือดดาล

    “ก็ๆๆ ชั้นลืมตุ๊กตาหมี” พลางโชว์ตุ๊กตาหมีสีชมพูให้ดู

    “โว้ยย จะตายห่าอยู่แล้วรีบๆขึ้นไปเร็วโว้ย” โยชิกิรีบเร่งทั้งคู่ให้ขึ้นยาน

    เมื่อทั้งสามขึ้นยานไปเจโนวาที่เดินเครื่องยนต์รอไว้แล้วเตรียมเร่งความเร็วเต็มที่เพื่อทะลวงออกไปข้างนอก แต่ งมงาย นั้นรอจังหวะนี่อยู่พอดีเขาชาร์จปืนลำแสงเต็มกำลังกะเอาตายให้หมดทั้งยาน “เข้าไปตายกันให้หมดซะไอ้พวกหนูทั้งหลาย หึหึหึ”

    “คุณเจโนวา มันกะจะยิงปืนแสงใส่เราแล้วววว” เนียร์ร้องลั่นหนวกหูจริง

    “ไม่เป็นไรหรอกหน่า” เจโนวาตอบให้ความมั่นใจ

    พริบตาเดียวกันปินลำแสงของยานเซต้าก็ยิงออกมาแบบเต็มกำลัง คลืนลำแสงสีขาวลำใหญ่กระแทกเข้ากับเกราะป้องกันของยานอย่างจัง “ทุกคนใจเย็นๆไว้ มันยิงคลืนแสงนั้นมาสามครั้งแล้ว พลังทำลายขนาดนั้นกับยานที่เล็กนิดเดียวตอนนี้คงเหลือพลังงานไม่เท่าไรหรอก” เจโนวาย้ำอีกครั้ง

    จริงอย่างที่เจโนวาพูดไว้ คลืนลำแสงระลอกนี้หมดเร็วกว่ารอบก่อนๆมากแถมยังไม่สามารถทะลวงเกราะของยานลิงน้อยได้ พวกลูกเรือต่างพากันไชโยโห่ร้องอย่างกับได้เหรียญว่ายน้ำโอลิมปิก

    “เฮ้ย ไอ้พวกลิงทั้งหลายประจำตำแหน่งเราจะเผ่นกันแล้ว” เสียงมาซาลันที่เพิ่งเข้ามานั้นเอง เหล่าลูกเรือต่างรีบประจำหน้าที่ของตน เป็นภาพที่ทำให้พวกโยชิกิงุนงง มาก ไม่น่าเชื่อว่ากัปตันบ้าแบบนี้จะมีลูกน้องที่เชื่อฟังเยอะพอดู

    “ไอ้สามตา เร่งเครื่องเต็มกำลังชนทั้งไอ้ยานเวร นั้นกับประตูอู่ให้พังไปเลย”

    “รับทราบกัปตัน”

    “เฮ้ยๆๆ ประตูอู่ของชั้นนะเฟ้ย” เจโนวารีบเข้ามาขวาง

    “แล้วแกจะออกไปเปิดประตูหรือไง” แม็กสวน ทำให้เจโนวาต้องจำยอมอยู่นิ่งๆ

    เครื่องยานลิงน้อยทำงานเต็มที่ความร้อนจากเครื่องยนต์ทั้งหกเครื่องระบายออกทางด้านหลัง ตัวยานเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าก่อนหน้านี้มันจะเป็นเศษขยะมาก่อน ยานลิงน้อยพุ่งชนทั้งประตูชัตเตอร์ที่เป็นรูกับยานเซต้าบิท จนกระเด็นไปทั้งคู่

    งมงาย ไม่ปล่อยให้ยานลิงน้อยหนีไปไกลเขารีบเร่งเครื่องยนต์ตามทันที แต่เครื่องเจ้ากรรมดันไม่ทำงานพร้อมขึ้นข้อความมาว่า “กุเหนื่อยแล้ว”

    “เจอกันคราวหน้าพวกแกไม่รอดแน่....” มือสังหารแว่นดำทิ้งท้ายคำพูดสุดฮิตของเหล่าตัวร้ายพร้อมทั้งเหม่อมองยานลิงน้อยล่องลมที่หนีไปไกลจนสุดสายตา

    .............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

    Talk Talk Talk

    เอามาลงจนได้ทั้งที่สุขภาพจิตของผมช่วงนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ครั้งหน้าถ้าเจอผมอีกอาจจะไม่ใช่การอัพฟิคเรื่องนี้ แต่เป็นฟิคเศร้าตอนเดียวจบที่ผมจะแต่งทุกครั้งที่อารมณ์ไม่ปกติสักเท่าไร จนมันกำลังจะจบแล้ว เฮ้อ.....เหนื่อย แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านมากที่ยังมาอุดหนุนกันนะคับ และถ้าใครที่เข้ามาอ่านแล้วสนใจอยากร่วมคณะเดินทางบ้าบอนี้ด้วย ก็รีเควสบทมาในกระทู้นี้ได้เลย ผมรับสมัครแบบให้รีเควสบทมาอย่างเดียวไม่ต้องกำหนดรูปร่าง เดียวผมจะจัดให้เอง 555+ ขอบคุณทุกท่านมากคับ ไว้เจอกันครั้งหน้าเน้อ

    Special Thanks
    1.อัลทิม่าคุง (เอาออกมาให้แหละนะ ไว้รอตอนหน้าเดี๋ยวก็ออกมาอีกน่ะแหละ)
    2.กันไฟนอล (น้องกันเดี๋ยวนี้ไม่เคยทักเลยอ่ะ แง้ๆๆ)
    3.อาเรีย ลาเวียเวน์ >>> หลายคนอาจสงสัยว่าเธอคนนี้เป็นใคร เธอคนนี้ก็คือออริจินอลคนแรกของเรื่องนี้และแน่นอนเธอปรากฏตัวในฟิคเรื่องแรกที่ผมแต่งให้บอร์ดนี้ในฐานะที่ปรึกษาสาวน้อยสุดสวย ตอนนี้มาในมาดองครักษ์สุดเท่ห์ เจ้าของตัวละครที่แท้จริงของ ลาเวียเวน์จัง (หน้าจะอยู่กลุ่ม Seed ด้วยนะถ้าจำม่ะผิด)
    4.นักศึกษาอันงมงาย (เอาบทแบบนี้ไปล่ะกันนะคับ ขำๆ ^^)

    And All Friends And Fans Thank You !!!!
  9. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    อู่ช้านนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!
    [action]ร้องให้พลางกอดหมอนข้างไปพลาง....[/action]

    เเบบนี้ตูต้องตามไปเป็นช่างซ่อมยานให้ไอ้กัปตันตกอับสินะเนี่ย ก๊ากกกกกก
  10. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    นี่ตูกำลังจะเจริญรอยตามไอ้ชาร์ต๊องในกันด๊ามกันดั้มใช่มั้ยเนี่ย = ='a [action]พ่วงความจำเสื่อมกับกลายเป็นลูกน้องท่านหน้าหมู(ถูกใจชื่อนี้วุ้ย 55+)ซะงั้น = =[/action]

    ท่านลาเวียนเวย์อยู่ตระกูลซี้ดเฮียเข้าใจถูกแล้วล่ะ(ถ้าผมไม่สมองฝ่อหรือเมาอากาศ) คราวนี้มาอีก 4 คนเรอะ

    ฟิกเศร้าตอนเดียวจบมันจะเป็นไงละเนี่ย อยากรู้จริงๆ รอชมต่อไปน่อพี่ท่าน ^^b
  11. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    "จ้อยพาราไดซ์ " ?? มันคืออะไรนี้้!!! แล้วทำไมผมถึงไปจับคลื่นได้ฟ่ะ ว้ากกกก

    [action]เอาเป็นว่าสู้ๆแล้วกันนะพี่โย ผมเอาใจช่วย[/action]
  12. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ดวงตกแดงทั้งสี่ปรากฎกายแล้วสิน่ะเจ้าอัลยังพอเดาได้ แต่น้องกันนี่เกินคาดแฮะ=="

    ไม่ขอพูดอะไรมากน่ะครับ กำลังตกอยู่ในtrap"มิดเทอมนรก เพราะไม่ค่อยตั้งใจเรียน"อยู่ เหอะๆๆ (โปรดอย่าเลียนแบบ)
    ยังไงก็ขอรออ่านต่อปาย เอิ้กๆๆ

    สู้ตายครับพี่น้อง ดวงตกแดงจงเจริญ!!!!
  13. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    [/quote]

    [action]ทำแค่นี้กะจะฆ่าแกงกันเลยรึ[/action]

    เย้ ยังดีที่มีกันจังมาช่วยแถมเอาดาบมาให้ด้วย ได้โอกาสโชว์เพลงดาบซะเลย

    แต่ไม่น่าเชื่อว่ากันจังจะมาบ้าๆ บอๆ กับสี่ดวงตกแดงของเราได้เหมือนกัน

    อืม... อู่ท่านเจโนวาก็โดนบึ้มไปแล้วสินะ

    เจ้าแม็กกับท่านโยจะมีชะตาเป็นเยี่ยงไรต่อไปเนี่ย

    [action]อ่านหนังสือรอตอนต่อไป[/action]
  14. Gunfinal

    Gunfinal Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    mTT^TT!!!!! อะไรกันเนี่ยทำไมบทเรามัน!!!
    ไม่ได้เจอพี่โยนานนี่เล่นกันเเบบนี้เลยหรอ =[]=!!! แค่น้องติดหวดปังย่าเเค่นี้ถือโอกาสยำซะเละเลยนะพี่ชาย!
    อนาถบทตัวเองจริงๆ ว่าเเต่พี่อัลทำจริงๆรึเปล่า? ล่วงละเมิดอะไรนั่นน่ะ หึหึหึหึหึ

    (เค้าเรียกว่าเสื่อมทั้งตระกูลดวงตกแดง= =!!! เป็นเหมอืนกันหมดสินะ4คน)
    ไว้จะรอตอนใหม่นะเค๊อะ!!

    ปล.เล่นถึงเวอร์ซัสสุดที่รักของกันเลยนะพี่ชาย.......
  15. kumi

    kumi Active Member

    EXP:
    805
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    รู้สึกไปเองรึเปล่าว่ามันรั่วขึ้นเรื่อยๆ???

    แซวกันเล่นเอาน่วมกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว

    จะสงสารหรือหัวเราะเยาะดีนะเนี่ย (ฮา...)
  16. identity

    identity Active Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    เข้ามาอ่านได้นิดเดียวต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาอ่านและเวลาเขียนกะว่าปีใหม่จะได้ฤทธิ์ปรับปรุงนิสัยในการปั่นฟิคเปลี่ยนมาอัพแบบถึงลูกถึงคนซักที ใจจริงคืออยากเขียนแนวโรแมนซ์
  17. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    สามสาวปรากฎกาย



    นับเป็นเวลาหลายวันแล้วที่กัปตันมาซาลันและคณะได้ตีตั๋วระทึกออกไปจาก โอ้ลันล้า อย่างสะบักสะบอมยิ่งนัก ซิสเตอร์สาวที่ยังคงอยู่ ณ โบสถ์ขาวอันศักดิ์สิทธิ์ของสถานนีอวกาศแห่งนี้ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่ต้องเรียกว่าปกติมากขึ้นหลังจากที่พวกของแม็กเองก็ติดสอยห้อยตามเหล่าคาระวานรักสนุกนั้นไปด้วย เสียแต่ว่าใจของเธอนั้นยังคงเป็นห่วงหนุ่มผมขาวที่ถูกพวกดวงตกแดงลากไปกระทำช่ำเราอย่างไร้ความปราณี

    “ขอให้การเดินทางของพวกเขาประสบแต่ความโชคดีด้วยเถิด....” สาวผมทองนั่งกุมมืออย่างสงบเบื้องหน้ากระจกหลากสีเต็มที่ไปด้วยลวดลายของภูตสวรรค์

    ปัง !!!!

    เสียงเปิดประตูดั่งไปทั่วโบสถ์ สตรีเนตรอำพันหันกายไปอย่างรวดเร็วพบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่อุ้มเด็กสาวเข้ามาด้วยร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผล เขาก้าวเดินเข้ามาในโบสถ์อย่างช้าๆก็จะทรุดฮวบลงอย่างอ่อนแรง แองเจิ้ลไม่รอช้าเธอรีบรุดเข้าไปดูอาการของชายผมแสดทันที

    “นี่พวกคุณ.....ไปทำอะไรกันมาเนี่ย” แองเจิ้ลถามอึ้งๆ เพราะเมื่อเข้าไปไกลสองคนนั้นบาดแผลที่พวกเขาได้รับ เธอสามารถเห็นมันได้ชัดเจนยิ่งกว่าเมื่อครู่มาก ทั้งตัวชายร่างใหญ่และเด็กสาวอยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรกันมากนัก แถวบ้านเรียก น่วม

    “แหะๆ ขอเราอยู่ที่นี่สักระยะนะครับ คุณแองเจิ้ล”


    ในห้วงภวังค์อันมืดมนที่มีเพียงคบไฟอันเล็กเบื้องหน้าที่ยังคอยให้แสงอ่อนๆภายใต้ความมืดมิดไร้ก้นบึ่ง เด็กหนุ่มก้าวเดินเข้าใกล้กับคบไฟอันนั้น เขาค่อยๆหยิบมันขึ้นมาด้วยความระมัดระวังก่อนจะกวัดแกว่งไปรอบๆเพื่อแสดงสิ่งที่อยู่ต่างๆโดยรอบ

    “นี่เรามาอยู่ที่ไหนอีกเนี่ย ความฝันอีกแล้วเหรอ” เขารำพึงเบาๆ

    ไม่นานนักแสงจากคบไฟก็ต้องเข้ากับเด็กสาวที่นั่งคู้ตัวอยู่ที่มุมห้อง ตัวเธอสวมเพียงเสื้อสีขาวขาดๆ เนื้อตัวม่อมแมม ผมสีม่วงนั้นดูเศร้าหมอง เธอกอดเขาฟุบหน้าเข้าหาตัวและสั่นไหวเพราะอะไรบ้างอย่าง

    เด็กหนุ่มก้าวเดินไปหาเด็กสาวที่ยังไม่เงยหน้าขึ้น เขาค่อยๆนั่งลงเบื้องหน้าของเธอ “คุณๆ เป็นอะไรน่ะ” มือซ้ายของเด็กหนุ่มยื่นเข้าหา แต่ยังไม่ทันไรเด็กสาวผมม่วงก็โผเข้ากอดเขาทันที “ว้ากๆๆ คุณๆใจเย็นๆ” หนุ่มผมขาวร้องตะโกน ไม่รู้จะร้องทำไม น่าอิจฉาออกเอ๊ง

    “ช่วยชั้นด้วยนะคะ ชั้นอยากออกไปจากที่นี่” เด็กสาวพูดไปร้องไห้ไป เสียงของเธอบ่งบอกอารมณ์ได้อย่างชัดเจน

    “แล้วจะให้ผมช่วยยังไงล่ะ” หนุ่มน้อยจับที่หัวไหล่ของเด็กสาวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนตัวเธอออกมาจากหน้าอกของเขา เผยให้เห็นใบหน้าได้รูปพร้อมกับดวงตาสีเดียวกับเรือนผม ภายใต้เนตรที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้นซุกซ่อนหลากหลายความรู้สึก

    แสงนวลจากคบเพลิงที่กำลังส่องสว่างนั้นค่อยๆวูบดับลง ทุกอย่างตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง แต่สัมผัสไออุ่นจากร่างกายพวกเขายังคงรับรู้ได้

    “กรุณาด้วยนะคะ...” เธอพูดสั้นก่อนจะเข้ากอดหนุ่มผมขาวอีกครั้ง “ผมจะพยายาม...” เขากล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยนและกอดตัวเธอเอาไว้ “ช่วยชั้น ช่วย อเม....”

    ทุกสิ่งกลับมาสว่างอีกครั้งแต่ไม่ใช่ที่ห้องเล็กๆนั้นแล้ว เพดานที่ยังไม่ได้บุฝาหรือวัสดุอะไรเลยเต็มไปด้วยสายไฟ ท่อน้ำ ถังลำเลียงอุจจาระ และอื่นๆ ระโยงระยางค์ยุ่งเหยิงไปหมด เนียร์เคลื่อนตัวเองจากท่านอนขึ้นมานั่งด้วยอาการงุนงง ก่อนจะหันไปทางประตูเหล็กที่กำลังถูกเปิดออก

    “ไง ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงยียวนของไอ้หนุ่มตาบอดชวนเอารองเท้ายัดปากสิ้นดี

    “เมื่อกี้เอง พี่โย”

    “ทำไมแกนอนขี้เซาจังฟ่ะ คนอื่นเค้ากินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่แกนี่แหละที่หลับไม่ตื่น” โยชิกิบ่นเป็นคุณลุงอายุแปดสิบ

    “โทษทีๆ เดี๋ยวผมจะไปกินเดี๋ยวนี่แหละ”

    “เออๆ ถ้ายังเหลือให้แกกินนะ” พูดเสร็จก็ปิดประตูดัง โครม แล้วก็สะบัดตูดจากไป

    ณ ห้องโถงกลางยานลิงน้อยล่องลม แม็กกำลังนั่งดมกลิ่นเงินอย่างสบายอารมณ์ โดยมีเหล่าลูกเรือของมาซาลันปัดกวาดเช็ดถูยานฆ่าเวลา บ้างก็นั่งสวดมนต์ภาวนาให้กลับไปให้น้องเมียโดยปลอดภัย บ้างก็กำลังแคะขี้มูกมากินเล่น บ้างก็กำลังเปิดหนัง AV ดูอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ นอกจากนั้นยังมีซากมนุษย์นามเจโนวา นั่งหมดอาลัยตายอยากกับการซ่อมยานโดยที่ไม่มีอุปกรณ์

    “รุณหวัดคุณเจโนวา” เนียร์เข้ามาทักทายอย่างอารมณ์ดี แต่ช่างซ่อมยานกลับทำได้แค่โบกมืออย่างเหนื่อยอ่อน

    “เนียร์ แกยังฝันแปลกๆอยู่รึเปล่าน่ะ” แม็กถามไปนั่งนับเงินไปด้วย

    “พักนี้ก็ฝันทุกคืนเลยล่ะคับ” เด็กหนุ่มผมขาวถอนหายใจ “ แถมมันสมจริงมากขึ้นด้วยนี่สิ”

    “งั้นเหรอ ชักอยากรู้แล้วสิว่าสาวน้อยในฝันแกหน้าตาเป็นยังไง” โยชิกิโผล่งเข้ามาหลังจากไปยืนดูหนัง AV กับพวกลูกเรือ

    “เออ ใช่ วันนี้ผมเห็นหน้าเธอด้วยล่ะคับ”

    “เฮ้ย จริงดิ น่ารักป่าวว่ะ” ไอ้บอดสนใจขึ้นมาทันที

    “น่ารักมากเลยคับ จะให้ผมบรรยายม่ะ พอจะจำได้” เนียร์พูดไปหัวเราะ แหะๆ ไป

    “ไหน ว่ามาดิ”

    “ก็ผิวขาวๆ ผมกับสีตารู้สึกจะเป็นสีม่วงอ่อนๆ หน้าตาโลลิๆ สเปกผมเลยแหละ” เจ้าเนียร์พูดไปน้ำลายเยิ้มไป ชักเหมือนไอ้โยชิกิเข้าไปทุกวันๆ “แล้วก็ตอนผมจะตื่นผมได้ยิน เธอพูดว่า อเม.. หรืออะไรนี่แหละคับ”

    “อเมทิส ….” สองหนุ่มจากดวงตกแดงรำพึงออกมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนรอบๆข้างได้ยินเสียงของพวกเขส

    “อเมทิส ?? อะไรเหรอคับ” เนียร์ถามด้วยความสงสัย

    “...เฮ้ยๆ ไม่มีอะไรๆ อย่าใส่ใจกันเลยเนอะ ไอ้แม็ก”

    “อือๆ ไม่ต้องสนใจๆ”

    ระหว่างเนียร์กำลังสนใจพฤติกรรมประหลาดๆของเหล่าตัวบ๊อง เสียงประตูอัตโนมัติก็ดังขึ้นเผยร่างในชุดกัปตันสีดำกับลิ่วล้อชุดแดงที่มีคนใจดีอุ้มมันขึ้นยานมาด้วย ทั้งสองเดินเข้ามาอย่างอาจหาญพร้อมตุ๊กตาหมีสีชมพูเปื้อนคราบน้ำลายในมือ กัปตันมาซาลันเลื่อนเก้าอี้ในมาดเท่ห์พร้อมหย่อนก้นของตนลงไป(ยังเท่ห์อยู่) ส่วนเจ้าไพอาก็หมอบคลานอยู่ข้างๆ

    “สรุป ไอ้ตัวตดเหม็นนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงของนายไปแล้วเหรอ” แม็กถามขึ้น

    “หึ....” กัปตันมาซาลันหัวเราะสั้นๆ ก่อนจะยัดมะเร็งเข้าปากไปหนึ่งม้วนถ้วน

    “ว่าแต่ขอบใจนายมากเลยโยชิกิ ดาบของนายนี่สารพัดประโยชน์จริงๆ” กัปตันหนุ่มพูดเสร็จก็พ้นควันออกมาปุ๋ยๆ

    “เฮ้ย ดาบของชั้นไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อนะเฟ้ย ซ่อมเสร็จเมื่อไรตูเอาคืนแน่”

    “จะซ่อมไปทำไมเปลืองงบ”

    “ตลกล่ะ ไม่ขำด้วยนะโว้ย จำไว้มีของซ่อมเมื่อไรหมดโปรโมชั่นของฟรี”

    เรื่องของเรื่อง คือ ตอนออกมาจากโอ้ลันล้า ยานลิงน้อยล่องลมนั้นมีสภาพสมบูรณ์เพียงแค่ 70% และแน่นอนระบบหล่อเย็นนั้นยังไม่ได้ถูกติดตั้ง เหล่าผู้อยู่อาศัยบนเรือเดือดร้อนกันถ้วนหน้าเพราะสภาพในยานไม่ต่างอะไรกับเตาอบไมโครเวฟเลย เจโนวาจึงจำต้องขอยืม วอเทอร์ บารอน ดาบยาวทรงตะวันออกที่สามารถควบคุมสมดุลแห่งน้ำมาให้กำเนิดความเย็นไปพลางๆก่อน

    “จะว่าไปส้วมเสร็จหรือยังน่ะ เจโนวา” กัปตันมาซาลันเอาขาขึ้นมาวางบนโต๊ะมารยาทไม่มีจริงๆ

    “เหอะ ก็ทำให้พอใช้ได้แหละ เจาะรูออกไปข้างนอกหน่อยนึงแล้วพวกแกก็หย่อนของเสียไปในรูนั้นล่ะกัน ชั้นวางระบบควมคุมไว้แล้ว พอแกกดปุ่มปุ๊บมันก็จะลอยออกไปข้างนอกเหมือนชักโครกนั้นแหละ”

    “อย่างงี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากของเดิมเลยนี่คับ” เนียร์พูดพลางนึกถึงส้วมกล่องที่ต้องใช้ร่วมกันแล้วค่อยปล่อยมันออกไปท่องอวกาศ

    “เออ มันก็ดีกว่าไอ้ส้วมรวมนั้นแหละหน่า คราวนี้แบ่งห้องให้แล้วจะได้ไม่ต้องไปแย่งกัน”

    เสียงประตูอัตโนมัติดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้เป็นร่างของลูกเรือพลังกระทิงแดงที่กระโจนเข้ามาในห้องโถง ก่อนจะสะดุดยอดผักชีล้มหน้าฟาดพื้น โลหิตไหลดุจสายน้ำสะท้อนเงาจันทรายามรัตติกาล มึงจะบรรยายสวยไปหาส้นตึกอะไรฟ่ะเนี่ย

    “ไอ้คนเขียนมันหมดมุขแล้วหรือไงว่ะ สะดุดยอดผักชียันเต” เจโนวาบ่นแบบไม่กลัวฟ้าดินลงโทษ

    ลูกเรือคนเดิมลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกระดกกระทิงแดงเพิ่มพลังกลับมาฟิตปั๋งเหมือนเดิม “ ขอประทานโทษครับ เราตรวจพบยานต้องสงสัยในบริเวณครับ” ลูกเรือสุดร้อนแรงรายงานฉะฉาน

    “ยานของใครน่ะ เจ้านักฆ่าบ้ากันดั้มนั้นเหรอ” มาซาลันถามสวนไปในทันที

    “ไม่ใช่ครับ เป็นยานแปลกๆ มีลายตุ๊กตาบาร์บี้ทั่วลำเลยคับ” เมื่อได้ยินดังนั้น ทั้งโยชิกิและแม็กต่างพร้อมกันสะอึกโดยไม่ได้นัดหมาย

    “ห่ะ อีกทีสิ ลายอะไรนะ” โยชิกิถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

    “ตุ๊กตาบาร์บี้คับ”

    “เวรแล้วไงล่ะ อยู่ใกล้ขนาดไหน” แม็กเหงื่อแตกพลั่ก

    “อ้อ ตอนนี้เทียบท่ายานเราเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะครับ” ลูกเรือพลังม้าฉีกยิ้มเต็มกำลัง เลยได้รับรางวัลเป็นกำปั้นลุนๆของโยชิกิสอยฟันร่วงไปสามซีก

    “ไอ้<beep>เอ้ย ไม่รอให้ยัยนั้นเอาคทามาจ่อหัวก่อนค่อยมารายงานหรือไงฟ่ะ” โยชิกิตะโกนด่าอย่างเดือดดาล แต่พอมารู้สึกตัวอีกทีไอ้คทานั้นก็มาจ่อหัวเรียบร้อย

    “ยัยนั้นนี่ ความหมายดีหรือไม่ดีหรือจ๊ะ โยชิกิคุง” น้ำเสียงใสแต่แฝงความเลือดเย็น ทำให้โยชิกิแทบน้ำตาร่วง

    “หวัดดีคับคุณหนู.....มิทราบว่ามาทำอะไรที่นี้เหรอ” โยชิกิพูดด้วยน้ำเสียงน้อบน้อมสุดชีวิต ก่อนจะค่อยๆหันหลังกลับไป ประจันหน้ากับสาวผมสีแดงสดในชุดโกธิคสีน้ำเงินเข้ม ดวงเนตรสีทับทิมสุกสว่าง ใบหน้าน่ารักแต่แฝงความเจ้าเล่ห์แบบสุดๆ รอยยิ้มหวานแต่อันตราย แถมมีซากแม็กที่พยายามจะวิ่งหนีนอนเกรี้ยมอยู่ระแวกนั้นด้วย

    “อะไรกัน เจอหน้าชั้นแล้วต้องทำหน้าปวดขี้แบบนั้นหรือไงย่ะ” สาวสวยจอมเวททักทายโยชิกิอย่างเป็นกันเอง แต่คนโดนทักแทบอยากจะเป็นลม

    คุณหนูคุมิ มาทำอะไรที่นี่เหรอค้าบ” โยชิกิพูดไปเหงื่อแตกไป

    “โอ้ว เธอคุณหนูคุมิคุ ลูกสาวมาเฟียเรดพิลใช่ไหมนี่” มาซาลันค่อยๆคลานออกมาจากใต้โต๊ะ

    “อ่ะ สวัสดีค่ะ ดูจากชุดนี่เป็นคนของกองทัพสินะ” คุมิ ว่าไปสำรวจไป “แล้วนั้นเนียร์ไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้ตัวแดงนั้นมันใครล่ะ”

    “หวาๆๆๆ หวาดดีคับคุณหนู” เนียร์ที่เกือบโดนลูกหลงจากเวทย์ที่ซัดใส่แม็กค่อยๆลุกขึ้นมาทักทายด้วยกริยาที่ไม่ต่างจากโยชิกิเท่าไร ส่วนไอ้ตัวแดงเองก็เกรี้ยมไปแล้วเช่นกัน

    “ฮ่าๆๆๆ เธอนี่ยังเป็นที่น่าเกรงขามกับพวกนี้ไม่เปลี่ยนเลยนะ” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากคทาปีกนกสีขาว ที่ยอดคทาประดับเพชรเม็ดโตไว้ แน่นอนเสียงนี้ทำให้มาซาลันและลูกเรืออ้าปากค้างกันเป็นแถบ

    “เฮ้ย !!! คทาพูดได้” มาซาลันแทบไม่เชื้อหูตัวเอง

    “หนึ่งในสุดยอดอาวุธในจักรวาลนี้ คทาอัสคาเทีย และเสียงนั้นก็คือ ไอซึ วิญญาณสุดยอดจอมเวทในตำนานที่สถิตอยู่ในคทานั้นแหละ” เจโนวาที่หน้าเกรี้ยมเพราะโดนลูกเหมือนคนอื่นๆ อธิบายสรรพคุณ

    “พุดเล่นหน่า !! นั้นมันสุดยอดของหายากที่กองทัพควานหาแทบตายยังไมได้มาเลยนะ” มาซาลันตะคอกใส่หน้าเจโนวาน้ำลายกระช่อกล้างสิ่งสกปรกแบบไม่คิดเงิน

    “งั้นก็ดูซะ มันอยู่ตรงหน้าแกนั้นแหละ” ช่างหนุ่มพูดไปเช็ดน้ำลายไป

    “ตายจริง !! แม้แต่เจโนวาก็อยู่ที่นี้ด้วย น่าสนุกเหมือนที่คิดจริง โหะๆๆ” คุณหนูคุมิหัวเราะไฮโซสุดๆ

    “ว่าแต่คุณหนูคนสวย มาทำอะไรบนนี้กันแน่คับ” โยชิกิแทบจะก้มล้มไปกราบแทบเท้า

    “ก็ไม่มีอะไรนี่ แค่ได้ยินจากคุณพ่อว่าพวกนายถูกจ้างให้มาเป็นบอดี้การ์ดให้ชั้น ชั้นก็เลยมาให้พวกนายปกป้องไงจ๊ะ หนุ่มๆ” คุมิ ส่งตาหวานละลายใจเหล่าชายหนุ่มบนยานอย่างไม่ปราณี

    “โอ้ว นางฟ้าของโพ้มมมม”

    “รับความหวานจากผมไหมครับคุณคนสวย”

    “เดี๋ยวเราแวะดินเนอร์กันที่ไหนดีครับผม”

    “อ้ากๆๆ ไม่ๆๆ เห็นคนสวยแล้วผื่นขึ้น คันโว้ยยยย”

    “ขออนุญาตเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูในใจคุณหนูได้ไหมคับ”

    “ผมขอเสนอยาลดความสวย ก่อนผมจะตกเป็นทาสรักของคุณหนู ฮิ้ววววววววว”

    เหล่าลูกเรือต่างพากันสรรเสริญคุณหนูคุมิกันไม่ขาดปาก พวกที่อยู่ระแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงโห่ร้องก็รีบเข้ามายลความงานกันถึงห้องโถง แทบจะเรียกได้ว่าตอนนี้คนทั้งยานมารวมอยู่ที่เดียวกัน


    “แหมๆ หนุ่มๆบนนี้น่ารักกันทุกคนเลย” ดั่งคาดสิ้นประโยคนี้คนทั้งยานดีใจกันแทบน้ำตาร่วง

    “เธอนี่มันโปรยเสน่ห์ทั่วเลยนะ” ไอซึ พูดผ่านคทาอัสคาเทีย “แล้วเธอจะเหยียบแม็กมันไปถึงเมื่อไรล่ะ”

    “ว้าย แม็กจัง ชั้นขอโทษนะเมื่อกี้ย่างเธอแรงไปหน่อยยังไม่ตายใช่ไหมที่รัก” คุมิดัดเสียงดัดจริตเป็นที่สุด

    “เออ ยังไม่ตาย.....” แม็กนอนคว่ำหน้าตอบ “แต่ก็ใกล้แล้ว ยัยเถื่อน !!”

    เหมือนทุกคนจะได้ยินเสียงอะไรสักอย่างขาดดัง ผึง คทาอัสคาเทียถูกชูขึ้นเหนือหัวเพชรบนยอดเปลี่ยนสีกลายเป็นสีแดงสว่างตระการตา คลื่นความร้อนก่อตัวทั่วบริเวณ เหล่าสมาคมแฟนคลับของคุณหนูคุมิหน้าถอดสีกันทั้งบาง

    “เอาล่ะไงล่ะ ....” โยชิกิเหงื่อแตกพลั่ก “ไอ้เนียร์รีบไปเอาดาบที่ห้องล่อเย็นมาเร็ว”

    “จะบ้าเหรอเพ่ !! ต่อให้ผมวิ่งเร็วขนาดไหนแต่ก็ไปกลับไม่ทันเวทย์เจ๊เค้าหรอกนะ”

    ระหว่างที่ทุกคนต่างภาวนาหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสียงโทรศัพท์ของคุมิก็ดังขึ้นพร้อมกับเวทย์สายเพลิงที่อยู่ดีๆมันก็หยุดไปด้วยซะอย่างงั้น “ฮัลโหลๆ ว้ายๆๆ จริงเหรอจ๊ะ ร้านเสริมสวยที่ดาว M78 จะให้ชั้นไปเป็นพรีเซนเตอร์เหรอ อือๆๆ ว้ายๆ จ้าๆ แต่ตอนนี้ไม่ว่างเลยอ่ะ คนดังก็งี้แหละ จ้าๆแล้วเจอกันน้า” แล้วเธอก็ว่างสายไป “อ้าว แล้วทำไมทุกคนต้องไปหลบกันอย่างงั้นด้วยล่ะ” คุณหนูคุมิถามไร้เดียงสาสุดๆ

    “เฮ้ย ไอ้โย คุณหนูนี่เป็นอะไรของเค้าฟ่ะ” มาซาลันคลานเข้ามาถามหนุ่มไร้เนตร

    “ก็เป็นแบบนี้แหละ ประเภทฟิวขาดง่าย ล่าสุดก็เล่นเอาที่อยู่ของพวกอันธพาลในโอ้ลันล้าหายไปทั้งแถบ ถ้าอยากรู้ว่ามันรู้สึกยังไงไปถามไอ้แม็กดู รายนั้นโดยประจำ”

    “แต่ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าพวกเฮียก็รู้จักคุณหนูด้วย” เนียร์เข้ามาร่วงวงสนทนา

    “รู้จักกันมานานแล้วล่ะ”

    ในขณะนี่ความเงียบเข้าครอบงำ เสียงประตูอัตโนมัติก็ดึงขึ้นอีกคำรบ คราวนี้เป็นสองสาวน้อยฝาแฝดน่าตาน่ารัก คนนึงผมสีดำขลับยาวสลวย ดวงตาสีทอง ติดกิ๋บหูแมวเพื่อความน่ารักน่าชัง มาในชุดนักเรียนม.ปลาย ปี1 ส่วนอีกคนผมสีขาวออกเงินยาวไม่แพ้น้องสาว ดวงตาสีทองเข้ม สวมแว่นกรอบบางๆ และมาในชุดเดียวกับน้องสาว

    “แง้ พี่คุมิทำไมทิ้งให้หนูกับเอพิล หลงอยู่ในยานล่ะค่ะ” เด็กสาวอายุ 16 เดินเข้ามาด้วยความหวาดกลัว แต่พวกเราพร้อมใจให้คะแนนความโลลิ 100 เต็ม

    “โธ่ น้องรักของพี่ ขอโทษน้า” คุมิ ก้มล้มไปกอดสาวฝาแฝดท้งสอง

    “พี่คุมิ จ๋า ต้องซื้อขนมให้เอพิลอีกน้า” เด็กสาวผมดำอ้อดอ้อนพี่สาว

    “ได้เลยจ้า คนดีของพี่ทั้งสอง” ว่าแล้วคุณหนูคุมิก็คว้าทั้งสองเข้ามากอด สร้างภาพน่าประทับใจให้กับเหล่าผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้อย่างสดใสซาบซ่าน น้ำตาร่วงสุดแสนจะแสบทรวงเป็นอย่างยิ่ง

    “โห นรกจริงแหะแฝดจอมวุ่นทั้งสองก็อยู่ที่นี่ด้วย” เจโนวาเปรยเบาๆ

    “ผมชักอยากกลับบ้านมากกว่าเดิมแล้วสิ” เนียร์ร่วมแสดงความคิดเห็น

    “เอ่อ....” เด็กแว่นเหมือนจะเห็นอะไรผิดสำแดงบนหัวไอ้บอด “คือพี่โยชิกิค่ะ..”

    “อะๆๆ อะไรล่ะภัท” โยชิกิพูดตะกุกตะกัก

    “พี่โยชิกิ มีรังแคอยู่บนหัว” เด็กสาวพูดอย่างนอบน้อม หน้าตาโลลิเต็มกำลัง

    “เอ่อ ไม่มีๆ มีที่ไหน ฮ่าๆๆ” โยชิกิทำหัวเราะกลบเกลื่อน

    “เฮ้ยๆ ทำไมไอ้โย มันต้องทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างงั้นฟ่ะ” กัปตันหนุ่มถามด้วยความสงสัย

    “ยัยนั้น...สงสัยโรคบ้ากำลังกำเริบแล้วแน่” เนียร์พูดด้วยความกังวล

    “รีบไปห้ามดีกว่าไหม” เจโนวาเข้ามาเสริม

    “หงุดหงิดๆๆๆ ทำไมปล่อยให้รังแคขึ้นหัว ทำตัวเป็นคนสกปรก ภัทเห็นแล้วหงุดหงิดมากค่า~~~” พูดไม่ทันขาดคำ สาวอายุ 16 ก็คว้าปังตอสับหมูที่แอบหนีบไว้ใต้เสื้อหมายฟันเจ้าโยชิกิขาดเป็นสองท่อน

    โยชิกิแม้จะมีคติประจำใจไม่ทำร้ายสาวน่ารัก แต่ยังไงหมอนี่มันคงไม่ปล่อยให้ปังตอคมๆนั้นมาผ่าตัวเองเป็นแตงโมอยู่แล้ว ดาบเซเบอร์สีเขียวเข้มจึงถูกเลือกมารับมือด้วยความรวดเร็ว

    สาวแว่นตัวน้อย กระโดดถอยหลังกลับไปหน้าตาเธอตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนล่ะคน พวกคุมิที่น่าจะห้ามกลับส่งเสียงตะโกนอย่างสนุกสนานโดยมีเหล่าสมาชิกแฟนคลับ(ซึ่งก็คือลูกเรือทั้งหลาย)คอยเป็นแบคอัพถือป้ายเชียร์ พร้อมวาดรูปโยชิกิโดนจามหัวแบะบนป้ายซะด้วย

    เด็กสาวอยู่ทำหน้าสยองอยู่ไม่นานก็พุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วสูง พร้อมเหวี่ยงปังตอเข้าหาต้นคอของโยชิกิ แต่หนุ่มไร้เนตรยังไวกว่า ด้ามดาบวายุพุ่งตัดเข้ากระแทกหน้าท้องของเด็กสาวเต็มรัก จนเธอต้องลงไปนอนเกลี้อกกลิ้งที่พื้น

    “ทำอะไรอันตรายจริงนะสาวน้อย...” โยชิกิสบถเล็กน้อย

    “ไอ้โย.....บังอาจทำอะไรภัทจังน่ะ” น้ำเสียงเรียบและเลือดเย็นดังแว่วออกมาจากริมฝีปากสวยของคุมิ แถมมาพร้อมกันจิตสังหารที่รุนแรงไม่แพ้เมื่อครู่

    “พี่โย ไม่เห็นต้องรุนแรงกับพี่สาวหนู่เลยอ่ะ” เด็กสาวผมดำยาวควักบาซูก้าที่ขนาดใหญ่กว่าตัวเองพอดูออกมาถือด้วยมือเดียว เหล่าลูกเรือต่างปรบมือให้ด้วยความชื่นชมสุดๆ

    “เอ่อๆๆ คือผมไม่ได้ตั้งใจค้าบ ให้อภัยผมด้วยยยย” โยชิกิก้มกราบขอชีวิต ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลนองพื้น

    “งั้นก็ไปสำนักในนรกซะน้า” สิ้นคำ เพชรบนยอดคทาอัสคาเทียก็เปล่งประกายสีเหลืองนวล คลื่นไฟฟ้าจำนวนมหาศาลถูกรวบรวมรอบตัวโยชิกิ หนุ่มไร้เนตรเห็นท่าไม่ได้จึงเตรียมจะกระโดดหนี แต่จู่ๆเรี่ยวแรงที่ขาซ้ายมันก็หายไปดื้อๆ เมื่อก้มมองพบอุปกรณ์บางอย่างฝังติดบนขาของเขา “เครื่องคลายกล้ามเนื้อเหรอ....” โยชิกิกล่าวปลงตก พร้อมหันไปมองภัทที่กำลังนอนหัวเราะสนุกสนานได้ที่ “หนูภัทนี่อันตรายจริงๆแหะ ไม่รู้เรื่องเลยเรา” ไอ้บอดชื่นชมทั้งน้ำตา

    พริบตาเดียวคลื่นไฟฟ้าที่ถูกรวมไว้ก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง โยชิกิถูกไฟช็อตอนาถในทันทีพ่วงกับกระสุนจรวดนำวิถีของเอพิลซ้ำเข้าไปอีกนึงดอก และเอาไฟทั้งยานดับวูบ

    “ว้ากกกกกกกกกก ต้องซ่อมใหม่อีกแล้ว ว้ากกกกกกกกก” เจโนวาตะโกนอย่างเหลืออด

    “ไพอา แกรีบทำอะไรสักอย่างดิ เดี๋ยวยัยคุณหนูนั้นฟิวขาดเพราะเสียงเจโนวาอีก” มาซาลันรีบตะโกนสั่งสัตว์เลี้ยง

    “จัดให้คร้าบบบบ” ไพอารีบลุกขึ้นพลันคว้าไม้หน้าสามฟาดหัวเจโนวาสลบเมือดไปในทันที

    “ไอ้บ้า ไปตีมันน๊อกแล้วใครจะซ่อมยานว่ะ” กัปตันหนุ่มด่าเสียงโหด

    “อ้าว ก็กัปตันบอกให้ผมทำอะไรสักอย่างนี่”

    “เออๆ ข้าผิดเอง รีบเอามันไปนอนที่ห้องเด้ พอตื่นจะได้ให้มาซ่อมยาน”

    “รับทราบ” ว่าแล้วไพอาก็จัดแจงอุ้มเจโนวากลับที่พัก แต่เพราะทางมันมืดเจ้าตัวแดงเลยสะดุดขาเก้าอี้ร่วงกระแทกพื้น ส่วนสองมือที่อุ้มเจโนวาอยู่พลอยส่งช่างหนุ่มลอยไปติดข้างฝาเหมือนตุ๊กแกไม่มีผิด

    “ว้าย นี่เกิดอะไรขึ้นเนี่ยพวกเราทำอะไรลงไป” คุณหนูคุมิตกใจสุดขีด

    “พี่คุมิ เอพิลกลัวอ่า แง้ๆๆๆ” เด็กน้อยตัวแสบปล่อยโห่ออกมาแบบไร้เหตุผล โดยมีไอซึ หัวเราะหึๆ อย่างสนุกสนาน ส่วนภัทเองก็ไม่ได้มีสภาพต่างจากเอพิลมากเท่าไร น่าอนาถแท้.....



    “เฮ้ย ตู้นั้นดูแลดีๆหน่อย เดี๋ยวแม่สาวปืนเถื่อนมาปากมากแถวนี้อีก ข้ารำคาญเว้ย” เรดพิลตวาดใส่เหล่าลูกน้องที่กำลังเก็บสินค้า ซึ่งตู้ที่มีตราปืนไขว่สีแดงนั้นมาเฟียโหดจำต้องดูแลให้ดีหน่อย เนื่องจากลูกค้าเจ้าของอาวุธด้านในนอกจากจะเป็นขาประจำแล้ว ยังเป็นคนมีชื่อเสียงในเรื่องอาวุธเถื่อนอีกต่างหาก “ขืนพวกแกดูแลไม่ดีล่ะก็ เสียชื่อข้าหมดรู้ไหม” เรดพิลด่าเสียงขรม

    “เจ้านายครับ มีรายงานว่าคุณหนูไปพบพวกดวงตกอย่างปลอดภัยแล้วล่ะครับ” ลิ่วล้อรายหนึ่งของเรดพิลเข้ามารายงานด้วยความน้อบน้อม

    “เออดีมาก...” มาเฟียใหญ่ว่าพลางพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก “แล้วทางนั้นจะมารับของเมื่อไร”

    “ราวๆสองชั่วโมงได้ครับ”

    “เตรียมส่งของให้พร้อมล่ะ....แล้วถ้านายหญิงพวกนั้นมาด้วยฝากบอกทีว่า ข้าอยากจะเลี้ยงเหล้าหน่อย”

    “ครับผม”


    มาเฟียใหญ่ร่างอ้วนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ที่สำนักงานบนโรงแรมของตนเอง เรดพิลบรรจุจุดมะเร็งสี่ม้วนก่อนจะยัดเข้าปากไปอย่างสบายอารมณ์พลางยกเท้าพาดขึ้นบนโต๊ะตามประสาผู้มีอิทธิพล “แล้วแกจะยืนบื้ออยู่ตรงนั้นไปถึงเมื่อไร บลัด

    ชายหนุ่มผมน้ำตาลที่ยืนหลบอยู่ในมุมมืดในห้องของเรดพิล ค่อยๆเผยกายในชุดรัดรูปสีดำออกมา ดวงตาข้างขวาถูกปกปิดด้วยผ้าปิดตาแบบโจรสลัด ร่างกายกำยำล่ำสัน ลักษณะของเค้าล้วนควรค่าแกการยกย่องให้เป็นยอดฝีมือ

    “คุณคิดยังไงถึงส่งคุณหนูไปหาเจ้าพวกนั้นล่ะ” บลัดเอ่ยถาม

    “ก็ไม่มีอะไรมาก ชั้นแค่อยากให้ลูกชั้นปลอดภัย”

    “จริงๆแล้วให้ผมเป็นคนดูแลคุณหนูจะดีกว่า”

    “มันก็จริงอยู่” ว่าแล้วมาเฟียใหญ่ก็พ่นควันบุหรี่ตลบอบอวน “แต่ข้ามีงานอื่นให้ทำ”

    “ว่ามา” ชายตาเดียวพูดอย่างเยือกเย็น

    “แกคิดว่าบนจักรวาลนี้จะมีคนที่มีพลังเวทมากกว่าลูกข้าสักกี่คน”

    “ถ้าให้เดา” เขาเว้นจังหวะพูดเล็กน้อย “ไม่น่าเกินสิบคน…หรืออาจจะไม่มี”

    “แล้วถ้าข้าบอกว่าข้าเจอคนๆนั้นแล้วล่ะ” คำพูดของเรดพิลทำให้บลัดสะดุ้งเล็กน้อย เป็นที่ยอมรับกันถ้วนว่าพลังเวทย์มนต์ของคุณหนูคุมินั้นแทบจะเป็นหนึ่งในจักรวาลทั้งจากความสามารถดั่งเดิมและคทาอัสคาเทีย ก็ทำให้เธอไร้เทียมทานได้แล้ว

    “แล้วยังไงล่ะ”

    “ข้าอยากให้แกไปหาเด็กคนนั้น”

    “เด็ก ??”

    “ใช่...เด็กที่มีพลังเวทย์ที่บริสุทธิ์ที่สุด” เรดพิลก้มลงไปหยิบแผ่นทรงกลมแผ่นนึงออกมา “นี่คือข้อมูลรับไปซะ เวลาไม่จำกัดแต่ขอให้คืบหน้า”

    “รับคำสั่ง....”


    ไม่นานนักหลังจากระบบต่างๆบนยานลิงน้อยร่วนหมดสภาพ ด้วยความร่วมมือแต่โดยดีของคุณหนูคุมิไฟฟ้าบนยานก็กลับมาใช้ได้ดั่งเดิม แม้ว่ามันจะแลกกับการที่ต้องเอาอะไหล่ยานเธอส่วนนึงมาช่วยซ่อมด้วยก็ตาม

    ณ ห้องโถใหญ่ รูโหว่ที่เกิดจากการอาละวาดของพวกคุมิ บัดนี้เหล่าลูกเรือกำลังช่วยกันซ่อมแซมเต็มที่ก่อนที่มันจะเกิดปัญหาโดยมีเจโนวาคอยควบคุมการซ่อมตลอดเวลา

    “โทษนะเพื่อน มีแต่แกนี่แหละที่พึ่งได้” โยชิกิยกมือไหว้เจโนวาปะหลกๆ

    “กลับไปได้เมื่อไรจะให้พวกแกตอบแทนอย่างงามเลยคอยดูเหอะ” ช่างหนุ่มหันกลับมาตวาดใส่ทำเอาโยชิกินั่งตกเก้าอี้

    ตอนนี้โตะตัวใหญ่กลางห้องนอกจากพวกลูกเรือแล้วสมาชิกคนอื่นก็อยู่กันครบถ้วน ขาดแต่เพียงกัปตันมาซาลันที่สถิต ณ ห้องควบคุม เนียร์ที่กำลังนั่งละเมอเพ้อภพ แม็กที่กำลังหงุดหงิดเต็มประดา โยชิกิที่ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากนัก เจโนวาที่กำลังซ่อมพื้น และคุณหนูคุมิกับแฝดนรกทั้งสอง

    “นี่ คุมิ ถามหน่อยเหอะตามพวกเรามาได้ยังไง” แม็กถามอย่างเหลืออด คงมีแค่หมอนี่คนเดียวที่กล้าพูดกับคุมิแบบนี้

    “ก็พ่อชั้นส่งพิกัดพวกนายมาให้น่ะสิ” คุมิพูดไปยัดไอติมเข้าปากไป

    “ห่ะ คุณเรดพิลน่ะนะ”

    “ก็พ่อชั้นบอกว่าให้ชั้นมาอยู่ให้พวกนายคุ้มครองอ่ะ”

    “เธอเก่งขนาดนี้แล้วจะยังต้องการความคุ้มครองอีกเหรอ” แม็กยังไม่เลิกบ่น

    “ชั้นเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอนะจ๊ะ ใช่ไหมน้องๆของพี่” ทั้งภัทและเอพิลต่างพร้อมใจกันพยักหน้าแต่โดยดี

    “เหอะ สุดจะบึกบึนล่ะไม่ว่า” แม็กพูดออกมาเบาๆ แต่โชคดีที่คุณหนูคุมิไม่ได้ยิน ไม่งั้นคงมีมวยรอบสอง

    “แต่ปกติคุณหนูไม่เคยฟังใครเลยนี่ ต่อให้เป็นคุณเรดพิลก็เถอะ” โยชิกตั้งคำถามบ้าง

    “นั้นสิคับผมเองยังแปลกใจเลย” เนียร์เอากะเค้ามั้ง

    “ก็คราวนี้พ่อขอร้องเลยน่ะสิ พ่อน่ะไม่เคยขอร้องอะไรจากคุมิเลยนะ” คุณหนูคนเก่งทำท่านึกความหลังแบบน่ารักสุดๆ

    “งั้นเหรอ “ โยชิกิเกาหัวแกรกๆ “แล้วท่านไอซึไม่คิดจะแสดงความเห็นอะไรบ้างเหรอ” หนุ่มไร้เนตรหันไปถามไอซึที่สิงสถิตอยู่ในคทาด้ามสวย

    “ข้าไม่ใช่ผู้วิเศษอะไรนี่ จะได้ไปรู้เรื่องที่พวกเจ้าอยากรู้ได้” ไอซึตอบนิ่งๆ

    “แต่ก็อยู่ในนั้นมาจะพันปีแล้วนิ” แม็กแซวจอมเวทย์ในตำนานบ้าง แต่ไอซึไม่ได้เอ่ยอะไรกลับมา

    ในขณะที่สถานการณ์ต่างกำลังดำเนินไปด้วยดี เสียงหวอเตือนภัยก็ดังไปทั่วยาน รหัสแดงส่งสัญญาณเตรียมพร้อมไปทุกหน้าจอมอนิเตอร์ ไม่รอช้า แม็ก เนียร์ โยชิกิ ต่างรีบรุดไปดูสถานการณ์ที่หอควบคุม ส่วนคุมิก็อุ้มสองแฝดกลับยานของตนเอง

    “เกิดอะไรขึ้น” แม็กที่ปรี่เข้ามารีบจับจ้องไปทางหน้าจอขนาดใหญ่

    “ยานรบกำลังมุ่งมาทางนี้....” มาซาลันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บังคับบัญชาตอบโดยไม่หันกลับมามอง

    “พวกไหน เจ้ามือปืนนั้นเหรอ” คราวนี้โยชิกิถามบ้าง

    “ยานพิฆาตของกองทัพ...ที่ชั้นรู้จักดีเลยล่ะ” กัปตันหนุ่มแพงสมาธิไปที่หน้าจอ ปรากฏยานรบสีขาวสะอาดตา ด้านหน้ายานลักษณะคล้ายขาม้า หอควบคุมถูกตั้งบริเวณเกือบท้ายยาน และที่สำคัญยานลำนั้นกำลังส่งสัญญาณติดต่อมาหาพวกมาซาลัน

    “กัปตันครับ !! พวกเค้าส่งสัญญาณติดต่อมาครับ” ลูกเรือหนวดปลาหมึกรายงานเสียงเครียด

    “เอาขึ้นจอเลย” มาซาลันสั่งการเฉียบขาดแทบจะเรียกได้ว่าหมดคราบกัปตันต๊องไปเลย

    ภาพซ่าบนมอนิเตอร์ถูกรับคำสั่งจากระบบของยานพลันปรากฏใบหน้าของกัปตันหญิงที่ดูองอาจและทระนง ดวงตาสีเพลิงลุกโชน เรือนผมสีทองอ่อนๆใต้หมวกกัปตันอันทรงเกียรติ ริมฝีปากบางสวยเอ่ยถ้อยคำออกมา “ชั้นคือยูคิฮิเมะ กัปตันยานอาร์ก แองเจิ้ลแห่งกองกำลังพิทักษ์อวกาศ โปรดวางอาวุธและยอมรับการจับกุมเหล่ากบฏของกองทัพ”


    Talk Talk Talk

    มึน....พอสอบเสร็จผมก็มาไล่ปั่นตอนนี้อย่างสนุกสนานมาก ไม่อยากทิ้งช่วงนานเดี๋ยวคนอ่านจะลืมกันซะก่อน 555+

    หลังจากได้เห็นฟิคที่เป็นแรงบันดาลใจของฟิคเรื่องนี้ได้กลับมา Re Run อีกครั้งรู้สึกเลยว่า พี่พีทแกเขียนดีขึ้นเยอะเลย พอมาอ่านของตัวเองแล้วเรามันอ่อนหัดจริง แต่อย่าไปกลัวเอาความบ้าเข้าข่ม ก้ากๆๆๆๆ

    ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปเนื้อเรื่องจะหนักมากขึ้นรวมทั้งความรั่วทั้งหลายก็จะยำนักแสดงให้อ่วมยิ่งกว่าเดิมก็เตรียมใจไว้ด้วยล่ะกันนะคับ ขอบคุณทุกท่านที่มาอุดหนุนโดยตลอดสวัสดี

    อ้อ....รีพลายใต้ฟิคนี้จะเป็นวาไรตี้พิเศษเพื่อแฉความรั่วของผมโดยเฉพาะ ทิ้งท้ายไว้ก่อนจากลาเพราะผมต้องเตรียมซ้อมไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็ไม่ได้รู้ อาจจะไม่โผล่หน้ามาอัพฟิคสักระยะก็ไว้อ่านเล่นให้หายคิดถึงนะตัวเอง จุฟๆ

    Special Thanks

    1.คุณคุมิ ไม่อยากบอกเลยว่าผมเขียนตัวละครของคุณสนุกกว่าเขียนตัวเองอีก 55+
    2.ภัทจัง จัดให้ตามคำขอคับหวังว่าคงพอใจน้า
    3.เอพิลจัง คู่นี่เป็นแฝดกันจริงไปไหมเนี่ย น่ารักอ่ะป่าวจะได้จีบ *0*
    4.บลัด (คุณสตรีสีเลือด)อินเมจผมเอามาจากภาพอวตาลของคุณน่ะแหละ อิอิ
    5.ยูคิฮิเมะ อาซ้อใหญ่ของผมรอบนี้ไม่ให้เป็นอาเจ๊แล้วแต่ให้เป็นกัปตันเลย
    6.ไอซึ (คุณ Hell << เปลี่ยนชื่อเป็นอันนี้ช่ายม่ะคับ) วิญญาณจอมเวทอนาถาต้องไปอยู่ในคทาซะงั้น

    And All Of Friends And Fans Thank you !!
  18. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    เสียงรถไฟผีวิ่งผ่านไปไม่เหลียงหลัง เหล่าวิญญาณต่างพากันแซ่ซ้องบทเพลงแห่งโลกมืดกันมิขาด รัตติการที่แสนยาวนานเข้าปกคลุม เสียงลมผ่านไปวูบนึงพลางก่อเกิดความเงียบงันขึ้นถนัดตา แม้หากมีจตุคามก็ไม่อาจหยุดยั้งความสยองนี้ได้

    เมื่ออ่านแล้วกรุณาลืมๆมันไปภายในสิบวินาทีเพราะมันจะไม่มีประโยชน์อะไรกับชีวิตท่านเลย จำเริญ จำเริญ

    “สวัสดีคุณผู้ฟังทุกท่านทั่วจักรวาลออลไฟนอล ผมไพอา อัสนาเบิ้ล ดีเจคนโสดจะอยู่เป็นเพื่อนทุกท่านถึงเวลาเที่ยงคืนอวกาศเหมือนเดิม แต่วันนี้ผมมีแขกพิเศษมาร่วมรายการกับเราหนึ่งในนักแต่งฟิครั่วแตกประจำบอร์ดออลไฟนอลคุณโยชิกิ ไอ้หน้าม่อ บ้าชานะ !!!”

    (เสียงเอฟเฟคคนดูร้อง ฮิ้วๆ ประกอบกับเพลง Rufus welcoming celemony จาก Final Fantasy VII)

    “หวาดดีค้าบ” โยชิกิทักทายผู้ฟังอย่างอารมณ์พลางคิดในใจ “กุบ้าชานะมันผิดตรงไหนว่ะ”

    “เอาล่ะครับเดี๋ยวเราจะเข้าช่วงคำถามกันเลย แต่ก่อนอื่นจะขอใช้ ตัว P แทนผมนะคับ ส่วนตัว Y แทนเฮียโยชิกิ เพื่อความสะดวกก็แล้วกัน”

    “ตามสบายเหอะน้องรัก”

    P: เฮียโยไม่คิดจะแต่งฟิคแนวอื่นบ้างเลยเหรอ

    Y: ไม่อ่ะ แต่งด่าคนมันดี

    P: ว่าแต่ชื่อโยชิกิท่านพี่เอามาจากไหน

    Y: อ้อ มาจากชื่อศิลปินที่พี่ชอบน่ะ ถ้าพวกเล่นบอร์ดเก่าเคยเห็นภาพอวตารที่บอร์ดนั้นก็จะรู้เลยว่าพี่ชอบ X japan

    P: X japan นี่หนังโป๊เหรอเฮีย

    Y: หนังโป๊บ้านเตี่ยแกดิ วงดนตรีโว้ย และโยชิกินั้นก็คือชื่อหัวหน้าวงนี้แหละ

    P: แล้วชื่อ ครูซิไฟร์ กับ อเมทิส ที่เฮียใช้สมัครฟิคประจำอ่ะ

    Y: ทั้งสองชื่อนี้ล้วนเป็นเพลงของ X japan ทั้งสิ้น ไม่รู้ว่ามีใครเคยหาศัพท์คำว่า Crucify หรือเปล่า จริงมันแปลว่าถูกตรึงกางเขนนะ ความหมายไม่ค่อยดีเท่าไรแต่พี่เอาไปสมัครรั่วแตกทั้งนั้นรู้สึกผิดกับความหมายมันเหมือนกัน

    Y: ส่วน Amethyst นั้น เป็นอีกนึงเพลงที่พี่ชอบมั่กมัก ตัวละครที่ได้ชื่อนี้จึงกลายเป็นผู้หญิงในฝันของพี่ สวย น่ารัก ใจดี เพอร์เฟค ก้ากๆๆ

    P: สรุปคือพี่มันก็บ้าม่อ

    Y: แล้วมันผิดตรงไหนฟ่ะ สงสัยตั้งแต่ตอนต้นแหละ

    P: ทราบมาว่าฟิครั่วเรื่องใหม่ของพี่ (All Final No mercy) ใช้เนื้อเรื่องของฟิคพี่พีท

    Y: ถูกต้อง ฟิคยำพี่พีทได้ล้างสมองพี่ให้กลายเป็นพวกชอบแต่งฟิคยำชาวบ้าน หลังจากจบฟิค My angel แล้วพี่ก็กะจำสกรัมชาวบ้านต่อ ช่วงนั้นดันบ้าสตาร์วอขึ้นมา ก็เลยนึกถึงฟิคพี่พีทขึ้นมาได้ เลยนำเนื้อเรื่องช่วงแรกซึ่งขอยอมรับเลยว่าคิดมุขออกแต่คิดเนื้อเรื่องตอนแรกไม่ออก ดันคิดได้เอาช่วงกลางๆกะท้ายๆ เลยกัดฟันเลวลอกมาสองสามตอนอย่างที่เห็น จริงๆอยากติดต่อพี่พีทเรื่องนี้ แต่ไม่รู้จะติดต่อยังไง เพิ่งมานึกถึงตัวอักษรสองตัวได้หลังจากเปลี่ยนมาบอร์ดนี้แล้วคือตัวอักษร “PM” กูโง่จริง.....

    P: ใช่ๆเฮียมันโง่จริงๆ

    Y:…………..

    P: ก่อนสู่คำถามข้อต่อไปผมก็ขออนุญาตแปะลิงค์ฟิคพี่พีทเอาไว้เลยล่ะกันนะคับ
    http://all-final.com/forum/viewtopic.php?f=15&t=794&p=15371#p15371

    P: หลังจากมีสาวๆในออลไฟนอลรายงานกันมาหลายรายว่าท่านโย จีบด่ะไม่เลือกหน้าแถมยังลวนลามซกมกอีกต่างหากเป็นความจรืงไหมคับ

    Y: ไม่จริงๆ ไปเอามาจากไหน ผมคนดีน่ารักสาวๆชื่นชมต่างหาก

    P: โธ่ เฮีย ยอมรับมาเหอะ ทีตอนไปงาน work shop and live party gundum คราวก้อนแทนที่จะไปดูตัวงานดูแต่สาวคอสเพลน้ำลายไหลย้อย แถมยังไปจ้องจนเค้าอายเลยนี่เฮีย

    Y: ถ้ายังสัมภาษณ์แบบนี้อีกเจอกันคราวหน้าพี่สอยเอ๊งฟันร่วงแน่ไอ้น้อง

    P: เอ่อ งั้นผมข้ามไปที่คำถามจากผู้ชมเลยล่ะกันนะคับ(เหงือแตกเป็นน้ำพุ) คนแรกกันจัง

    Y: โอ้ส ถามมาโลด

    P: ไอ้พี่โย ทำไมชอบมาแกล้งกันแบบนี้ ตัวสูงกว่าแล้วชอบข่มคนเตี้ยกว่าเหรอ เชอะๆ

    Y: แหม น้องเอ้ย คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้ก็จงพอใจไปกันความเตี้ยของตนเองเถอะ โหะๆๆ

    P: คนต่อไป พี่คุมิ.... ถามมาว่า คุณโยชิกิชอบตัวละครตัวไหนมากที่สุดในเรื่องค่ะ

    Y: มันก็พูดยากนะคับ ถ้าเป็นสาวๆผมก็ชอบหมดแหละ 555+ แต่ถ้าพูดกันจริงๆแล้วก็ต้องเป็นน้องกันกับคุณคุมินั้นแหละ คนแรกได้เอาเวอซัสมาล้อแบบจงใจ ส่วนอีกคนเป็นตัวละครสาวซุกซนแบบที่ผมชอบ แต่เขียนยากทั้งคู่เลยอ่ะ

    P: ต่อไปเป็นของเฮียแม็ก ถามมาว่า ท่านโย ผมควรสร้างฮาเร็มอย่างไรให้สมเป็นฮาเร็ม

    Y: ก่อนอื่นเลย ต้องสะสมสาวๆในสเปกก่อน(ตอบอย่างผู้เชี่ยวชาญ) อย่างผมนี่ก็เป็นชานะ เฟทจัง เฮกาเต้ นางิ อะไรประมาณนี้แล้วเราก็สร้างปราการเหล็ก เป็นปราสาทกักเก็บตัณหาขนาดใหญ่แล้วก็ต้อนสาวๆของเราไปไว้ในนั้น ก่อนจะอยู่กับพวกเธออย่างมีความสุข แต่ความสามารถในการรวบรวมนั้นมันแล้วแต่คน กับผมไม่เป็นปํญหาเพราะผมเชี่ยวแล้ว ผมเทพ !!!!

    P: อย่างงั้นนั้นเอง (ว่าแล้วก็จดเก็บไว้มั้ง) ต่อไปเป็นคนเฮียอัลทิม่า ถามมาว่าท่านโย ไปเอามุขมาจากไหน

    Y: จากทะเลไงคู้ณณ ไม่ช่ายๆเค้ารู้หน่า ก็เอามาจากชีวิตประจำวันนี้แหละคับ บางครั้งนั่งโต๊ะสังสรรค์กับเพื่อนแล้วมันปล่อยมุขเด็ดๆออกมาผมก็จำๆไว้ ยกตัวอย่างชัดๆเลยก็จากฟิค My angel เรื่องส้วมแตกนั้นแหละ เรื่องจริงของคณะผมเลย เหม็นบรรลัย บางครั้งก็หยิบมาจากฟิคเรื่องอื่นบ้าง การ์ตูนที่เรานั่งดูบ้าง พูดง่ายๆคือจากรอบตัวผมนี่แหละคับ

    P: ฉบับต่อมาจากพี่ซุมิโย ไอ้โย ยืมเงินพี่ไปมั่วหญิงเมื่อไรจะคืน อยากโดนเจี้ยนนักใช่ไหม วอนซะแล้ว...

    Y: …..ผมขอโทษที่จะรีบคืนให้ไวเลย อย่าเจื้อนผมเลยน้า T T

    P: งั้นต่อมาเลยนะคับ จากพี่ยูคิฮิเมะ แต่งฟิคด่าชาวบ้านไม่กลัวฟ้าดินลงโทษหรือไง ว้อนนักมามีมวยกะพี่ไหม เรียกเจ๊ยันเตเลยนะ

    Y: หนุกดีออกพี่ แต่งฟิคล้อชาวบ้าน 555+

    P: ดูเฮียโย ศัตรูเยอะจังนะคับ

    Y: คนดังก็งี้แหละน้องมีแค่คนอิจฉา หึหึ (แสดงกริยาน่าโดนถีบ)

    P: อ่ะ หมดคำถามซะแล้ว งั้นผมถามพี่มั้ง ทำไมบทผมน้อยจังอ่ะ

    Y: ใจเย็นดิยังไม่ถึงคิว ตอนนี้ก็ให้มานั่งสัมภาษณ์แล้วไงจะเอาอะไรอีก

    P: ทำไมเจ้าเนียร์มันออกบ่อยกว่าผมอีกอ่ะ

    Y: ก็บอกแล้วยังไม่ถึงคิววุ้ย อีกอย่างพี่ตั้งใจจะให้บทเด่นเนียร์อยู่แล้ว 555+ เพราะงั้นทำใจซะน้องรัก

    P: โอะ คำถามตกค้าง จากหนุ่มนิรนาม มิทราบว่าสาวน้อยในฝันของเนียร์เป็นใครกันแน่

    Y: อืมๆ ขออุบไว้ก่อนเพราะเป็นตัวละครที่สำคัญมากน่าจะเรียกว่าสำคัญสุดในเรื่องเลยมั้ง ถ้าผมไม่เกิดทำอะไรผิดแผนน่ะนะ

    P: แล้วเธอมีชื่อไหมคับ

    Y: ชื่อก็ออกมาในตอนนี้แล้วนี่

    P: อะไรอ่ะคับ

    Y: อเมทิสไง

    P: อ้อ ที่พูดพร้อมเฮียแม็กตอนนั้น (ทำท่าระลึกชาติ พร้อมเพลง victory fanfare)

    Y: น้านแหละ

    P: อะไรนะคับ หมดเวลาแล้วเหรอ ให้ตัดจบได้แล้ว งืมๆ

    Y: อะไรๆมันก็ผ่านไปเร็วเนอะ

    P: ทางสถานีอวกาศของเราต้องขอบคุณเฮียโยมากเลยที่สละเวลาอันมีค่ามารั่วกันตรงนี้

    Y: มิเป็นไร ไว้เจอกันใหม่ ณ จุดตัดของพรหมลิขิต แฟนๆทั้งหลาย จุฟฟฟฟฟ

    หลังรายการ

    “พี่ๆ ทำไมตอนจบเร็วกว่ากำหนดอีกอ่ะ” ไพอาถามด้วยความสงสัย

    “คือ มีพวกศัครูเก่าของโยชิกิมาดักตีหัวมันเต็มสถานีเราเลยน่ะสิ พวกเจ๊ซุมิโย เจ๊ยู น้องกัน เถือกๆเนี่ย”

    “อ้าว แล้วงี้พี่โยออกไปจะรอดไหมนี่”

    ระหว่างที่ทีมงานและไพอากำลังยืนคิดกันอยู่นั้นเอง ร่างของโยชิกิในสภาพโดนซัดน่วม ลอยผ่านหน้าต่างสถานนีเคว้งคว้างกลางอวกาศอันยิ่งใหญ่ไพศาล เมื่อเห็นดังนั้นพวกไพอาต่างพากันยืนไว้อาลัยคนล่ะหนึ่งนาทีกับการผจญภัยกลางอวกาศของโยชิกิ อาเมน ของให้โชคดี

    ขอบคุณอย่างสูง

    ไพอา อัสนาเบิ้ล ที่โดนบังคับมาช่วยกันรั่ว 55+

    อ่า แล้วผมจะไปอีดิดโปรไฟล์เพิ่มนะคับ ใครโผล่ออกมาก็ตามไปอ่านกันด้วยน้า~~~~~~ (เสียงเอคโค่เต็มกำลัง)
  19. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ยังคงความฮาเช่นเคยหนอเฮีย อย่ากระนั้นเลย ขออนุญาตเถอะ.....

    [action]ลงไปกลิ้ง อูยยยยส์ โคตรความเป็นจริงเลยเฮีย ขอยืนยันด้วยเกียรติของดาวหางแดง 55555+[/action]

    รู้สึกเฮียจะตอกย้ำความโสดผมจังหนอ คราวหน้ามาดูเอลกันซักตั้งมะ =[]=!!!! [action]เอ็งเลิกเล่นมาชาติกว่าแล้วไม่ใช่เร้ออออ ไอ้ไพอา[/action]

    รอชมต่อไปพี่ท่าน ^^b ปล.อย่าไปตอกย้ำกันจังเรื่องส่วนสูงเค้าจิเฮีย = ='a
  20. Gunfinal

    Gunfinal Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    = =!!!!!
    อะไรเนี่ยอัพฉลองปีใหม่รึเปล่าเนี่ย แล้วยังมาตอกกันจนเตี้ยกว่าเดิมแล้วนะพี่โย
    ทำไมไม่โดนฝาแฝดสับหัวส่งขายมนุษย์ต่างดาวแบบสคูลเดย์ไปเลยล่ะพี่ 555

    นั่งรอตอนใหม่ต่อไป=3=
  21. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    นี่ตูต้องมานั่งซ่อมยานให้พวกกบฏอวากาศรึเนี่ย..............เเถมไม่มีค่าจ้างอีก T[]T...............

    หนีไปอยู่ยานเจ๊ยูดีกว่า 555
    [action]โดนโยคุงใส่หีบเอาไปลอยอวากาศ..........[/action]
  22. numkangsaiza

    numkangsaiza New Member

    EXP:
    6
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ฮาๆ เอิ้กๆ=[]=

    เพราะฟิคของเฮียโยสงสัยเค้าคงโดนคนนั่งข้างๆมองว่าเป็นคนบ้าเเล้วมั้งเนี่ย(เห็นมันหันมามองเเปลกๆ= =")
    เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นครั้งเเรกอ่านตั้งเเต่เเรกเลย ฮามันทุกตอนอ่านไปหัวเราะไป(จนคนรอบข้างเริ่มถอยหนี-0-) ตอนสุดท้ายนี่มีเอพิลโพล่มาด้วยโหดทั้งคู่- - ชอบจริงๆเเฝดนรก555+

    รอ ร๊อ รอ รอตอนใหม่ ลั่นลา~*
  23. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ก๊อก! OAO!!

    ไม่เป็นเจ๊แต่เป็นซือเจ๊เลยวุ้ย กัปิตันแห่งอาร์คแองเจิ้ลเรอะ แหล่มๆ

    เรียกเจ๊ยันเตน่ะดูอายุคนถูกเรียกมั่งหนา -A-+
  24. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    เหอๆ ยังรั่วเหมือนเดิมเลยนะพี่น้อง ยำยังไงก็อย่างให้ออกนอกทะเล (ไม่สิต้องเรียก "ลอยเคว้งในอวกาศ " สินะ) มากนักล่ะ เดี๋ยวจะกู่ไม่กลับแบบฟิคของใครบางคนในอดีต (เขียนมันส์มากไปหน่อย รู้ตัวอีกที "แล้วตูจะจบยังไงฟ่ะนี่ ม่ายยยย")




    สุดท้ายก็ "สวัสดีปีใหม่" นะพี่น้อง ขอให้ไม่เจ็บไม่ใข้ สุขภาพแข็ง แรงไม่มี โรคภัยเบียดเบียน (เว้นวรรคถูกรึเปล่าน๊าา ฮาาา)
  25. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    Happy new year ครับพี่โย

Share This Page