All final no mercy !! สงครามอวกาศมั่วซั่ว อัพเดทตอนใหม่ Cosmic Love

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย yoshiki, 17 พฤศจิกายน 2007.

  1. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ไหงตอนใหม่โผล่มาตัวละครใหม่ผุดมาอย่างกับดอกเห็ดละนี่=[]= จำไม่หวาดไม่ไหว

    ว่าแต่ไอ้คำถามนี่ ท่านไปมอมเหล้าถามผมตั้งกะเมื่อไหร่หว่า? แถมไอ้รายชื่อสาวๆที่ท่านยกมานี่มัน=v=+ (อย่ามาโมเมน่ะเฟร้ย ผมไม่ยกชานะจังให้หร้อกกกก)


    มาบ่นเสร็จและ Happy new year ครับผม^^
  2. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    รั่วเหมือนเดิมเลยท่านโย ตัวละครใหม่ผุดออกมายังกะดอกเห็ด

    [action]เค้าเปล่าพูดเลียนแบบเจ้าแม็กนะ[/action]

    ว่าแต่คิดยังไงจับเจ๊ยูมาเป็นกัปตันกองทัพ อะไรอาร์คๆ อ้วกๆ นั่นล่ะ

    โอ๊ะ เกือบลืม Happy new year ท่านโย ขอให้มีความสุขกับปีใหม่และแฟนใหม่

    [action]โดนท่านโยกระทืบ "ตูรักเดียวใจเดียวเฟ้ย"[/action]
  3. leaf

    leaf New Member

    EXP:
    1,279
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    อ่านแล้วเฮฮาได้ใจจริงๆ เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไป แล้วจะกลับมาอ่านอีก
    สวัดดีปีใหม่ครับ
  4. kumi

    kumi Active Member

    EXP:
    805
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!

    บทถูกใจ ก๊ากกกกกกกกกกก!! ขอบทโขกสับกัปตันยานมากกว่านี้ได้มั้ย ก๊ากกกกกกกกกกกกก!!

    /me โดนกัปตันยานรุมกระตื๊บ!

    ดีใจที่อิมเมจตัวละครคุมิเขียนง่าย เพราะดูท่าทางจะเขียนง่ายอย่างปากว่าจริงๆ (คอนเซปต์มากๆ ก๊ากกกกกก!) ใส่ชุดกอธิกด้วย ฮ่าฮ่า จริงๆ คุมิเป็นคุณหนูน่ารักแสนจะบอบบาง ที่ทำรุนแรงไปทั้งหมดเพื่อความอยู่รอดจริงๆ นะ ป้องกันตัวรู้จักเปล่าคะ - -+

    รั่วอีกแล้วแฮะ เขียนฟิคได้รั่วทุกตอน อ่านไปขำไป ฮ่าฮ่า ยินดีด้วยที่บอร์ดกลับมาใช้ได้ใหม่ =[]=b! ได้เม้นต์ฟิคเสียที เอิ๊กๆ

    รอตอนต่อไปอยู่จ้า *A*b!
  5. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    555+ คิดล่ะสิว่าเห็นไอ้โย มาโพสกระทู้ตัวเองจะมีตอนใหม่มาให้ชม เสียใจด้วยทุกท่านเพราะกระผมดันเผลอลบตอนใหม่ที่แต่งเกือบจะเสร็จไปแล้ว แง้ๆๆๆๆๆ (สวรรค์ทำไมทำกับข้าเยี่ยงนี้) ขอเวลาไม่นานเกินรอคับ จะรีบคลอดออกมาโดยเร็ว

    ด้วยเหตุนี้ ไอ้โยจึงอยากหาอะไรมาแก้ขัดไปพลางๆก่อนระหว่างกะลังปั่นต้นฉบับ จะได้ฉลองวาระบอร์ดเราได้รับการแก้ไขสำเร็จแถมไม่ต้องมาเสียเวลานั่งแบ็กอัพข้อมูลเก่าๆ (Staff บันไซ !!!!) ด้วยประโยคเด็ดๆสำหรับแต่ล่ะตัวละครที่บางคนอาจดูเท่หรือไม่ก็ชั่วไปเลย หวังว่าคงจะถูกใจเหล่าเจ้าของตัวละครเหล่านี้นะงับๆๆๆๆๆๆ

    ไม่นานเกินรอพบตอนใหม่ เปิดศึกยานรบกลางอวกาศ !!!!!

    .................................................................................................


    "ผมจะปกป้องคุณ...ด้วยชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่าง !!!"
    เนียร์ ไอ้เด็กเมื่อวานซีน

    "อาวุธน่ะนะ ไม่ว่าจะถูกสร้างมาด้วยจุดประสงค์อะไร สุดท้ายจะดีจะชั่วมันก็ขึ้นอยู่กับคนที่ถือมันอยู่นั้นแหละ"
    โยชิกิ สี่ดวงตกแดง

    "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอยังคงอยู่เคียงข้างชั้นเสมอ"
    แม็กแลนเซอร์ สี่ดวงตกแดง

    "เอาสิ จะทำให้พวกแกได้รู้ว่านรกมันเป็นยังไง"
    คุณหนูคุมิคุ แอโรว

    "ดาบของชั้น มีเพื่อปกป้องเกียรติแห่งกองทัพเท่านั้น !!"
    ไพอา อัสนาเบิ้ล

    "อดีตพวกนั้นชั้นจะทิ้งมันไว้ตรงนี้ เพราะชั้นจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!!!"
    กันไฟนอล สี่ดวงตกแดง

    "ดูซะ มัดกล้ามอันงมงามของข้า"
    อัลทิม่า สี่ดวงตกแดง

    "ยาเสพติดกับกันพลา มันก็น่าพิศมัยพอๆกันน่ะแหละ 555+"
    นายพลบี แห่งกองทัพพิทักษ์จักรวาล

    "น้ำตาของชั้นมันแห้งเหือดไปตั้งแต่ วันที่นายทอดทิ้งชั้นไปแล้ว...."
    อาเรีย ลาเวียเวน์ ราชองครักษ์ระดับ1

    "ไม่ว่าจะเพลงดาบหรือการสั่งการเรือรบ ก็ไม่มีเรื่องไหนด้อยไปกว่าแกหรอกนะ"
    กัปตันยูคิฮิเมะ แห่งกองทัพพิทักษ์จักรวาล

    "ความฝันน่ะมีไว้ให้ไขว่คว้า ไม่ใช่เอาแต่นอนฝันถึง"
    กัปตันมาซาลัน

    "ประโยชน์ของมีดเยอะแยะจะตาย ทั้งทำอาหาร ลุยดงไม้ หันเนื้อและก็ตัดหัวคน"
    ภัท แฝดนรก

    "เข้ามาเลยๆ จะซัดให้เหลือแต่ฝุ่นให้ดู"
    เอพิล แฝดนรก

    "สงคราม.... ได้แค่ชโลมเลือดผู้คนเท่านั้นแหละค่ะ"
    แองเจิ้ล โคลเวีย บิลันเต้

    "ไม่มีใครผิดหรอก แค่ยึดถือคุณธรรมต่างกันเท่านั้นเอง"
    ท่านจ้อย ฟรีด้อม ผู้นำจ้อยแลนด์

    "ในจักรวาลนี้ คนที่เป็นคู่แข่งความหื่นและซกมกกับข้าได้ก็เห็นแต่เจ้าโยชิกิเท่านั้นแหละว่ะ"
    พี่นพ มหาโจรขะม็องเปรี๊ยะ

    "เงินและอำนาจเท่านั้นคือทุกสิ่งที่ข้าปราถนา"
    มาเฟียเรดพิล แห่งโอ้ลันล้า

    "ชั้นอุทิศชีวิตให้คนๆนั้นไปแล้ว"
    บลัด ยอดฝีมือแห่งแก๊งเรดพิล

    "อ้าว ไอ้เวรนี่ กะเบี้ยวกันนี่หว่า เฮ้ย !! เด็กๆ โซ้ยมันซะ"
    เจ๊สุมิโยะ วาเลนไทน์ เจ้าแม่ปืนเถื่อน

    "ว่าไงน่ะ !!! นี่เป็นแฟชั่นนำสมัยที่สุดเลยนะเฟ้ย"
    งมงาย เดอะคุณไสย

    "ความผิดผลาดมีไว้เรียนรู้ ไม่ใช่ไว้ให้เจ้ามานั่งกลุ้มใจ"
    ไอซึ ยอดจอมเวทย์ในตำนาน

    "อยู่กับพวกแกนี่ขาดทุนป่นปี้ทุกงานจริงๆ"
    เจโนวา ช่างซ่อมจำเป็น

    "ท้องฟ้าที่งดงามแบบนี้ อยากจะให้มันคงอยู่ตลอดไป...."
    Amethyst the minorva spirit

    ส่วนคนอื่นๆ ไม่ต้องน้อยใจไปไว้โอกาสหน้าจะค่อยๆออกมานะค้าบ (เดี๋ยวไม่มีอะไรแก้ขัดเวลาผมอู้ 555+)

    EDIT โอ้ว พลาดเจโนวาคุงไปคน ขออภัยคร้าบ อีดิดให้แล้วนะ
  6. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    บางคนพูดได้เท่มาก เเต่ไอ้บางคนนี่สิพูดออกมานี่รู้ไส้ในเลยนะนั่น 555+

    มันน่าเอาพวกนี้ไปยำในฟิคโอตาคุที่กำลังคิดอยู่จริงๆเลยเเฮะ

    edit..

    อยู่กับพวกแกนี่ขาดทุนป่นปี้ทุกงานจริงๆ"
    เจโนวา ช่างซ่อมจำเป็น

    อืมขาดทุนจริงไม่ได้สักเเดงเลย...โดยเฉพาะกัปตันมาซาลันปาเข้าไปกี่ล้านเเล้วล่ะเนี่ยจ่ายมาให้ครบน้า...........5555


    ขอบคุณคร้าบที่ใช้บริการช่างซ่อมคนนี้โยคุง 555+
  7. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอยังคงอยู่เคียงข้างชั้นเสมอ"
    แม็กแลนเซอร์ สี่ดวงตกแดง

    ให้ตายเถอะโยชชี่ มันเท่มากเลยอะ....เฮ้ย!! อย่าเอาประโยคเด็ดมากลบเกลี่อนน่ะ=*= อุตส่าห์ดีใจมีฟิคตกถึงท้อง==+
  8. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    "ผมจะปกป้องคุณ...ด้วยชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่าง !!!"
    เนียร์ ไอ้เด็กเมื่อวานซีน

    [action]พระเจ้าช่วยกล้วยทอด โอ้ ซาร่า แมรี่ ป้ามาร์ธา มันดีจริงๆ เลยนะนี้ ~~~[/action]
  9. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ไหงเรากลายเป็นสาย K ไปแล้วล่ะนี่

    "ดูซะ มัดกล้ามอันงมงามของข้า"
  10. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    ไอ้บ้าแดงสมองปลาทองอย่างเราก็มีคำพูดเท่ๆกับเขาด้วยเหรอเนี่ย = ='a

    ปล.ตูมีดาบกับเขาด้วยหรือ..... เอ้อ เฮียโย ขอกราบลาล่วงหน้า มะรืนนี้ไปทัวร์นรก 5 วัน 4 คืนก่อนน่อ TT^TT
  11. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    "ไม่มีใครผิดหรอก แค่ยึดถือคุณธรรมต่างกันเท่านั้นเอง"
    ท่านจ้อย ฟรีด้อม ผู้นำจ้อยแลนด์

    ฟังดูเข้าท่าแต่มันคุ้นๆหูอยู่นา เหมือนเคยเห็นที่ไหนน๊าาาา ประโยคนี้อ่ะ

    ปล. อืมๆ เป็นข้องอ้างในการดองนิยายที่ดูสนุกดีนะ เอาไว้จะ "ลอก" ไปใช้บ้าง กรั๊กๆ :E
  12. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [ฟิคสมัคร+ยำ]สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !!

    เปิดศึก

    กลางบรรยายกาศอันวุ่นวายและบ้าคลั่งรอบๆลานประหารของกองทัพสหพันธ์พิทักษ์จักรวาล อันมาจากการปล้นนักโทษประหารของสุดยอดฝีมือแก๊งดวงตกแดง เหล่าลูกกระจอกทั้งหลายต่างไม่กล้าทำการอันใดเมื่อสองในสี่ดวงตกแดงที่กำลังอาละวาดอย่างเมามัน พลอยทำให้พวกที่อยู่วงนอกใจปลาซิวกันเป็นแถบๆ

    “ชิบหาย สองคนนั้นมันคนหรือเปล่าว่ะ” ตัวประกอบรายนึงอุทานขึ้นมา

    “นั้นดิ คนตั้งขนาดนั้นยังเอาพวกนั้นไม่อยู่เลย” อีกคนช่วยเสริม

    “หรือว่ามันเป็นความซวยของตัวประกอบที่ต้องมีบทให้โดนไล่ยำ….” ตัวประกอบคนที่สามพูดมีข้อคิด ชวนให้ตัวประกอบคนอื่นๆปลงตกในชะตากรรม

    พลันสายลมเย็นพัดผ่านมาพร้อมร่างอันสง่างามของสตรีในชุดสีดำสนิทและผ้าคลุมสีน้ำตาลโทรมๆราวกับผ่านสมรภูมิมานับไม่ถ้วน เนตรโลหิตจ้องมองไปทางกันไฟนอลและอัลทิม่าอย่างมั่นคงพลางกระชับเคียวสีดำในมือ

    “พวกนายไม่ต้องเข้ามานะ ชั้นไม่รับประกันถ้าโดนลูกหลง” น้ำเสียงเย็นยะเยือกผ่านออกมาทางริมฝีปากสวยได้รูป พวกทหารเมือได้ยินต่างยืนขนลุก ร่างกายไม่ขยับราวต้องมนต์

    อาเรีย รอจังหวะที่ทั้งสองจะเปิดโอกาสให้อย่างใจเย็น ไม่นานนักเหล่าดวงตกที่คิดว่าตัวเองจะเผ่นออกไปได้อย่างสบายๆ สาวผมไข่มุกก็ตวัดเคียวเล่มยาวของตนเกิดคลืนสีดำขนาดมหึมาตัดผ่านทุกสิ่ง

    “หลบเร็วพี่อัล !!!” กันไฟนอลตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นคลืนสีดำกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง อัลทิม่าตอบสนองต่อเสียงเตือนทันที ตัวเขากระโดดหลบฉากไปในพื้นที่กว้าง ส่วนกันไฟนอลหลบไปอีกทางด้วยความเร็วไม่แพ้กัน คลืนสีดำทะลวงผ่านจุดที่ทั้งสองเคยอยู่แม้ดวงตกแดงจะไหวตัวหลบไปแล้วก็ยังไม่วายเฉียดต้นแขนซ้ายของกันไฟนอลอยู่ดี

    ทั่งคู่ต่างจ้องมองไปในทิศทางที่คลืนพุ่งมา ปรากฏเรือนร่างของสาวเนตรโลหิตผมขาวสลวยแถบจะถึงพื้น พร้อมเคียวสีดำและจิตสังหารอันรุนแรง

    “แย่ล่ะราชองครักษ์ อาเรีย ลาเวียเวน์” กันไฟนอลพูดขึ้นก่อนจะฉีกเสื้อส่วนนึงมาพันแผลที่แขนซ้าย “เอาไงต่อพี่อัล”

    “ไม่เห็นต้องถาม....” อัลทิม่าพูดยิ้มๆ พลันก้มลมมองบาดแผลที่ขาขวา “แต่ราชองครักษ์มาเองนี่ ท่าทางพวกเราจะดังใช่เล่นแหะ”

    “คิดว่าไหวไหมพี่”

    “ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องถาม” อัลทิม่าตอบอย่างเยือกเย็น

    ความเงียบสงบบังเกิดขึ้นในทันทีราวกับจะเป็นสัญญาณก่อนการต่อสู้ เหล่าทหารตัวประกอบต่างพร้อมใจก้าวถอยหลังเพราะไม่อยากจะอยู่เป็นเป้าลูกหลง อาเรียก้าวเดินมาอย่างช้าๆ สายตาของเธอดุดันผิดกันใบหน้าที่น่ารัก พวกดวงตกแดงลุกขึ้นมาในท่าเตรียมพร้อม ทั้งสองฝ่ายต่างกระชับอาวุธในมือ

    พริบตาเดียวร่างของพวกดวงตกและอาเรียก็หายวับจากจุดเดิมด้วยความเร็วสูง ง้าวสีดำฟันฉับเฉียดเส้นผมของกันไฟนอลไปนิดเดียวเป็นผลให้ผมร่วงเป็นสามเส้น นี่อาจเป็นสาเหตุของปัญหาหัวล้านก่อนวัยได้ ไม่รอช้าสาวผมฟ้าผู้สูญเสียผมสามเส้นก็คว้าไม้กวาดทางมะพร้าวสวนเข้าบริเวณใต้ท้อง แต่อาเรียก็หยุดไว้ด้วยด้ามเคียวด้วยความเร็วไม่แพ้กัน อัลทิม่าที่รอจังหวะนัวเนียอยู่แล้วก็หวดดาบยักษ์ของตนซัดใส่อาเรียจนกระเด็นไปอีกทาง

    อาเรียที่ลงไปนอนคลุกฝุ่นลุกขึ้นอย่างช้าๆพลางบิดแขนตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง แรงช้างสารของอัลทิม่าเมื่อครู่แม้เธอจะใช้ส่วนหัวของเคียวรับไว้ได้แต่พลังนั้นก็เพียงพอจะทำให้กระดูกของเธอผิดรูปเลยทีเดียว

    “เหนื่อยใช่เล่นเลย” เธอรำพึงเบาๆ

    “เฮ้ยๆ กัน ทำไมยังใช้อาวุธปัญญาอ่อนแบบนั้นอยู่ฟ่ะ อยากตายหรือไง ราชองครักษ์นะ” อัลทิม่า เดินเข้าไปเอ็ดกันไฟนอลที่กำลังเสียดายผมตัวเองอยู่

    “โธ่ นี่ก็ 2 รุม 1 อยู่แล้ว มันจะไม่เอาเปรียบเค้าไปหน่อยเหรอ” สาวเนตรไพลินพูดสวนมา

    “เออๆ ตามใจ” อัลทิม่ากล่าวเซ๊งๆ

    ทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนกลับมาเล่นเกมส์จ้องหน้ากันอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกดวงตกพุ่งเข้าใส่ก่อน กันไฟนอลคว้าไม้กวาดยักไย่เล่มยาวเตรียมพร้อม ส่วนอัลทิม่าเองก็หวังจะซัดสาวน้อยองครักษ์หลวงอีกสักครา

    หากแต่อาเรียนั้นกลับยืนสงบนิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับภัยที่พุ่งเข้ามาดุจจรวดนำวิถี ริมฝีปากสวยขยับขึ้นขยับลงเหมือนพูดอะไรในลำคอสักอย่าง

    ตึง !!!!

    ทันใดดวงตกแดงทั้งสองก็ปะทะเข้ากับกำแพงสีดำเต็มแรง “เฮ้ย นี่มันอะไรกันว่ะ” อัลทิม่าสบถ

    “กำแพงคุ้มภัย” สาวเนตรไพลินกล่าวในทันที

    “อย่าขยับเลย ทั้งสองคน” อาเรียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ พร้อมโซ่สีดำที่ผุดออกมาจากช่องมิติบนพื้นดินรัดตัวทั้งสองไว้

    “ยัยนี่ ใช้เวทย์สายผนึกได้ด้วยเหรอเนี่ย” อัลทิม่าพยายามดิ้นรนให้หลุดจากโซ่สีดำสนิทสุดชีวิต

    “นักรบเวทย์ ราชองค์รักษ์ อาเรีย ลาเวียเวน์ ความสามารถของเธอไม่ใช่แค่นี้สินะ” กันไฟนอลกันฟันพูด

    “เธอ เองก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ กันไฟนอล “ สตรีเนตรโลหิตก้าวเดินมาเบื้องหน้าทั้งสอง “คนทรยศ…”

    เคี้ยวสีดำถูกยกขึ้นเหนือหัวหวังสังหารให้สิ้นชีพในทีเดียว แต่ด้วยแรงผิดมนุษย์ของอัลทิม่า บุรุษบ้ากล้ามผมสีแสดก็ทำลายโซ่ผนึกเป็นชิ้นๆพร้อมฟาดดาบขนานพื้นเข้าหาอาเรียในทันที สาวผมไข่มุกจึงต้องเปลี่ยนจากรุกมาเป็นรับใช้ส่วนกลางของเคียวรับดาบของอัลทิม่าได้พอดิบพอดี หากสิ่งที่ชายผมแสดคาดกันไว้ผิดผลาดไปเมื่อพละกำลังของเขาในครั้งนี้ไม่อาจซัดอาเรียให้กระเด็นได้ เมือเหลือบมองดูก็พบโซ่สีดำแบบเดิมมัดติดดาบในมือไว้

    “ลูกเล่นเยอะดีนิ” อัลทิม่าชื่นชมศัตรู แววตาบ่งบอกว่ากำลังมันได้ที่

    “ขอบคุณ คุณกล้ามเนื้อ” ราวกับมีอะไรไปจี้จุดอัลทิม่าอย่างแรง พร้อมเค้นแรงกระชากโซ่นิฬกาลจนขาดสะบั้น แต่ตัวอาเรียนั้นก็พ้นออกจากระยะดาบไปแล้ว

    “เฮ้ย แม่สาวผมขาว นี่เค้าเรียกว่าจุดบ่อเกิดขุมกำลังไม่ใช่กล้ามเนื้อไรประโยชน์นะเฟ้ย” อัลทิม่าชี้หน้าด่า

    “แต่ก็ดูเหมือนก้อนอะไรสักอย่างอยู่ดีนั้นแหละ” อาเรียพูดยิ้มๆ แทงใจดำกันอย่างแรง

    “หนอยๆๆๆ อย่าอยู่เลย !!!” อัลทิม่าเดือดดาลสุดๆเหมือนเมายาม้าแล้วไปขับรถบรรทุก “เดี๋ยวดิ ไอ้พี่อัล มาช่วยกันก่อนเด้ “ สาวน้อยเนตรไพลิน ร้องให้ช่วยทั้งน้ำตา

    ชายผมแสดถีบตัวเข้าหาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ซึ่งก็เข้าทางอาเรียพอดี กัปดักที่สร้างจากเวทย์สายความมืดถูกเตรียมไว้แล้ว เมื่ออัลทิม่าพรวดพราดเข้ามาโดยไม่ระวังก็พลาดเหยียบหลุมสีดำใต้เท้าตนเองทันที “น่ารำคาญจริงโว้ยยยยยย “

    หลุมสีดำจากขนาดแค่ฝ่าเท้าก็ค่อยๆขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆมิหนำซ้ำมันยังดูดตัวของอัลทิม่าลงไปเรื่อยๆราวกับทรายดูดที่ไร้ความปราณี “แน่จริงอย่าใช้เวทย์มนต์เซ้ !!!” หนุ่มผมแสดตะโกนอย่างเดือดดาล

    “ถ้าสู้กันตรงๆล่ะกันชั้นคงเอาชนะคุณไม่ได้หรอกนะ อัลทิม่า” อาเรียกล่าวเสียงเรียบ แต่ในเสียววินาทีนั้นกริดน้ำแข็งก็พุ่งเข้าหาเธอด้วยความเร็วสูง สาวผมไข่มุกจำต้องใช้มือเปล่าจับอาวุธบินที่หมายปลิดชีพของเธอ

    กันไฟนอลหลุดพันจากพันธนาการด้วยน้ำแข็งที่เธอสามารถควบคุมได้อย่างอิสระ เหล่าโซ่ตรวนถูกแช่เย็นจนสิ้นความแข็งแกร่ง ทำให้หญิงสาวเพียงคนเดียวของแก๊งดวงตกทำลายมันได้อย่างง่ายดาย อาเรียขว้างกริดลงพื้นพลางมองไปที่มือซ้ายของตน เลือดสีแดงสดไหลมาเป็นทาง ดวงเนตรโลหิตทวีความดุดัน “แก....”

    อาเรียเคลื่อนตัวเข้าหากันไฟนอลอีกครั้ง เคียวยมทูตเล่มยาวฟาดตัดตัวสาวผมฟ้าเป็นสองซีก แต่กลับพบว่าเป็นเพียงตุ๊กตาที่สร้างจากน้ำแข็งเท่านั้น กันไฟนอลที่ลอยตัวอยู่เหนือขึ้นไปเปลื่ยนอาวุธเป็นหนังสติ๊กพร้อมก้อนน้ำแข็งขนาดพอๆกับก้อนหิน เมื่อได้โอกาสเหมาะที่อาเรียถูกหลอกก็กระหน่ำยิงสาวเกศาขาวทันที

    อาเรียเปลี่ยนมาเป็นท่านั่งก่อนจะถีบตัวหลบกระสุนน้ำแข็งไปด้วยความเร็ว เมื่อก้อนน้ำแข็งนั้นสัมผัสพื้นดินกลับกลายเป็นแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ราวกับคริสตัลที่เปล่งประกาย อาเรียเรียกลูกบอลสีดำสนิทออกมารอบๆตัวของเธอ “ชั้นไม่ยอมให้เธอเล่นงานฝ่ายเดียวหรอกนะ” พลันตวัดแขนไปเบื้องหน้าเป็นสัญญาณให้เวทย์มืดที่ถูกเรียกไว้พุ่งจู่โจมเป้าหมาย

    กระสุนน้ำแข็งและเวทย์ดำแลกกันอย่างดุเดือด แต่ต่างฝ่ายกันยังไม่มีใครเพลี้ยงพล้ำให้ ในระหว่างนั้นเองร่างใหญ่ทะมึนของชายผู้หนึ่งก็เข้าประชิดด้านหลังของอาเรีย “จะหนีไปไหนห่ะ คนสวย” อัลทิม่าพูดแฝงรอยยิ้ม ดาบยักษ์ถูกยกเหนือหัว ราชองครักษ์สาวเห็นจุดประสงค์แน่ชัดรีบพุ่งหลบตามสัญชาตญาณ อาวุธชิ้นโตถูกฟาดลงเต็มแรงพร้อมเสียงระเบิดตูมใหญ่และฝุ่นควันหนาทึบจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด

    กันไฟนอลหยุดยืนในท่าเตรียมพร้อมรอเวลาฝุ่นควันจางหาย อาวุธ 11 ชิ้นลอยอยู่โดยรอบพร้อมให้หยิบใช้ได้ตลอดเวลา เนตรไพลินเปล่งประกายยามต้องแสงกำลังจับจ้องอย่างมั่นคง เพียงอึดใจร่างของทั้งสองก็ปรากฏหลังม่านควัน อัลทิม่าได้บาดแผลเล็กน้อยบนใบหน้าซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ยี่หระอะไรกับแผลเล็กๆแบบนี้นัก แต่อาเรียได้รับแผลฉกรรจตั้งแต่หัวไหลขวาลงไปถึงเอว

    “ขอชมเลยนะ ตอนแรกก็นึกว่าจะฟันขาดสองท่อนได้แล้วเชียว เธอนี่มันไวยิ่งกว่าปรอดซะอีก” อัลทิม่าพูดพลางตบมือ แปะๆ

    สาวผมไข่มุกไม่ได้พูดสิ่งใดตอบโต้เธอหายใจหอบอย่างอ่อนแรง กันไฟนอลที่อยู่ห่างออกไปยังอดอึ่งไม่ได้ เพราะระยะแค่นั้นไม่น่าจะหลบทันแล้ว แต่เธอคนนี้กลับหนีสภานการณ์เป็นตายได้อย่างเฉียดฉิว “สมแล้วที่เป็นราชองครักษ์ หน่วยพิเศษของราชวงศ์” หญิงสาวผมฟ้าเอ่ยเบาๆ

    “เอาล่ะรีบๆจบมันได้แล้ว” อัลทิม่ากล่าวพร้อมชี้ดาบไปทางอาเรีย แต่เธอยังคงยืนก้มหน้านิ่งปักเคี้ยวลงที่พื้นจังหวะหายใจยังดูอ่อนแรง

    ชายผู้มีแต่กล้ามเนื้อก้าวเดินออกไป แต่กลับปรากฏวงเวทย์ขนาดใหญ่รอบลานประหารโดยมีตัวอาเรียเป็นศูนย์กลาง “คืนทุกสิ่งสู่ความว่างเปล่า มหามนตรามืด NOTHINGNESS

    แว่บ !!! ตูม !!!

    คลืนสีดำปกคลุมไปทั่วลานประหาร เสียงธรณีร้องกึกก้อง ไม่นานทุกสิ่งโดยรอบก็กลายเป็นอดีตพื้นดินกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ เหมือนมีอุกบาตตกมาหมาดๆ อาเรียนั่งกอดเคียวคู่กายพลางหอบอยู่ตลอดเวลา ตัวเธอในตอนนี้แทบจะใช้พลังไปจนหมดสิ้น ทว่า... “ยังอุตส่าห์หนีกันไปได้อีกนะ...”

    หนึ่งนักโทษ หนึ่งผู้บุกรุกต่างอยู่ในสภาพสะบักสะบอมราวกับจะสิ้นใจลงตรงนั้น ก่อนจะขโมยยานลำเลียงขนาดเล็กหนีออกไปได้อย่างเฉียดฉิวพร้อมบาดแผลมากมาย และพิกัดที่ตั้งไว้คือ สถานนีอวกาศโอ้ลันล้า



    ภาพบนมอนิเตอร์ยานลิงน้อยล่องลมทุกจอต่างฉายภาพเดียวกัน นั้นคือยานพิฆาตสังกัดกองทัพสหพันธ์พิทักษ์จักรวาลอาร์กแองเจิ้ล “กัปตันครับ!!” ลูกเรือรายหนึ่งตะโกนขอคำสั่ง

    “ช้าก่อนทุกคน อย่าเพิ่งลงมือทำอะไรเด็ดขาดนะ” มาซาลันเอ่ยเสียงเครียด

    “ว่ายังไงกัปตัน มาซาลัน จะยอมจำนนหรือจะเข้าประจัญบาน” เสียงดุของหญิงสาวผู้เป็นกัปตันยานพิฆาตอาร์กแองเจิ้ลเร่งรัดเอาคำตอบ

    “ติดต่อไปทางยานของคุณหนูคุมิได้หรือยัง” มาซาลันเร่งลูกเรือบ้าง

    “ได้แล้วคับ จะเอาขึ้นจอเดียวนี้” เหล่าลูกเรือพร้อมใจกันรู้งานทันที

    “เฮ....ไม่เลวเหมือนกันนี่” โยชิกิพูดทะเล้นๆ

    “ถึงเวลาแบบนี้ก็พึ่งพาได้แหะพวกแก” แม็กเสริมขึ้นบ้าง

    “555+ ให้มันรู้ซะมั้งว่าฝึกกันมาอย่างดี ก้ากๆๆ” กัปตันต๊องหัวเราะน้ำลายยืดแทบจะท่วมห้องบัญชาการ ท่ามกลางสายตาเศร้าสลดของเหล่าลูกเรือผู้ภักดี

    “ขอคืนคำพูดตะกี้ว่ะ” สองหนุ่มดวงตกแดงแทบจะพูดพร้อมกัน

    “เอ้า ว่ายังไงกัปตันมาซาลัน จะยอมจำนนหรือไม่” เสียงกัปตันสาวผ่านทางมอนิเตอร์น่าขนลุกนัก

    “ผมว่าจะทำอะไรก็รีบทำเหอะ” เนียร์ยืนขาสั่น ฉี่ราดกางเกงอยู่หลังโยชิกิ

    “นั้นดิ เดี๋ยวก็โดนสอยกันหมดหรอก” เจโนวาเดินเข้ามาสมทบ

    “จะเอายังไงล่ะงานเนี่ย ห่ะ ไอ้กัปตันต๊อง” ใบหน้าสวยของคุณหนูคุมิขึ้นจอ ทำเอาเหล่าลูกเรือมีกำลังใจรบกันทันที

    “สภาพยานคุณหนูเป็นไงมั้ง” กัปตันมาซาลันเอ่ยปากถาม

    “ก็กำลังคนในยานประมาณห้าสิบกว่าๆ ปืนใหญ่พร้อมใช้งานด้านหน้าสี่กระบอก มิสไซล์พ๊อตฝั่งล่ะสี่ซ้ายขวา และอาวุธอื่นๆอีกก็พอช่วยพวกนายได้น่ะนะ” คุมิสาธยายอาวุธยานบาร์บี้ของเธอ และเอาพวกลิงน้อยทั้งหลายกลินน้ำลายดังเอื้อก

    “แล้วของพวกนายล่ะ” คุณหนูคนสวยถามกลับ มาซาลันรีบหันหน้าไปทางเจโนวาเป็นเชิงว่า “เฮ้ย มึงตอบไปทีดิ”

    “ก็.....ไม่มีอะไรเลย” สิ้นเสียง ทุกอย่างหยุดนิ่งเป็นเวลาสามวินาที

    “จริงเหรอ....” กัปตันหนุ่มเริ่มหน้าซีด “ก็บอกแล้วว่ามันยังไม่เสร็จแค่เอาขึ้นบินได้นี่ก็สุดๆแล้วนะโว้ย” เจโนวาสวนทันควัน

    “แล้วไอ้ปืนใหญ่หน้ายานสองกระบอกล่ะ” แม็กถามบ้าง

    “ก็ใช้ได้กระบอกเดียว แต่กระสุนหรือพลังงานอะไรก็ไม่มีสักอย่างแกจะยิงปืนยังไงเล่า” ช่างหนุ่มตอบสุดเซง

    “โย นายพอจะใช้ดาบพวกนั้นชาร์จปืนได้ม่ะ” มาซาลันพยายามดิ้นรนสุดชีวิต

    “จะบ้าเหรอฟ่ะ จะทำอย่างงั้นมันต้องใช้พลังเวทย์มหาศาลเลยนะ ต้องให้ระดับจอมเวทย์ขั้นสูงนู้นเลย” ไอ้บอดพูดแทบจะลิ้นพันกัน

    ทุกสายตาพุ่งเป้าไปทางคุณหนูคุมิ คุณหนูคนเก่งพอจะเดาใจคนในยานลิงน้อยได้ “ถ้าจะทำมันก็ทำได้ แต่ชั้นจะไม่เสี่ยงไปยานพวกนายเล่นอะไรพิเรนแบบนั้นหรอกนะ เมื่อยายของชั้นคุ้มครองตัวเองได้อยู่แล้ว อิอิ” คำตอบพร้อมรอยยิ้มน่ารักช่างชวนร้องไห้ซะนี่กะไร

    “แล้วสรุปที่คุยๆกันนี่คือกัปตันไม่จำนนใช่ไหมคับ” เนียร์พูดเสียงอ่อยๆ

    “เออ มาถึงขนาดนี้แล้วไม่ยอมง่ายๆหรอกเว้ย” มาซาลันประกาศกร้าว “ส่งสัญญาณไปที่อาร์กแองเจิ้ลเราขอเวลาประชุมอีกแปบ”

    ลูกเรือฝ่ายสื่อสารรับคำสั่งรีบส่งรหัสมอสไปที่ยานอาร์กแองเจิ้ลในบัดดล “เฮ้อ เวรของตูจริงๆ” เจโนวาปั่นหน้าเป็นตูดหมู

    “ขอประชุมเหรอ เหอะ ชั้นรู้อยู่แล้วหน่ามาซาลันนายไม่ยอมจำนนหรอก แล้วที่ขอประชุมแท้จริงก็คือ เตรียมการรับศึกกับเรานั้นเอง” ยูคิฮิเมะมองแผนการกัปตันลิงน้อยทะลุปรุโปร่ง “เตรียมปืนใหญ่ เราจะยิงยานสองลำนั้นให้เป็นขยะอวกาศซะเลย” กัปตันสาวสั่งการเฉียบ

    หวอๆๆๆๆๆๆ

    “กัปตันครับ อาร์กแองเจิ้ลมีปฎิกริยาชาร์จปืนลำแสงครับ” ลูกเรือฝ่ายควบคุมรายงาน

    “เฮ้ย บอกขอประชุมก่อนยัยบ้าเอ้ย” มาซาลันตะโกนนำลายกระช่อก

    “สละยานดีไหม” โยชิกิเสนอไอเดีย “ไม่เด็ดขาดโว้ยยยย” กัปตันลิงน้อยตะโกนใส่หน้าหนุ่มตาบอดละเลงน้ำลายอีกครา

    “ช่วยไม่ได้แหะ คุมิ เธอช่วยหน่อยล่ะกัน” แม็กพูดกับคุณหนูผ่านจอมอนิเตอร์

    “อ่า ได้เลย สู้กับยานกองทัพนี่ก็น่าสนุกเหมือนกัน โชคดีนะหนุ่มๆ” คุมิส่งจูบให้ก่อนจะตัดสัญญาณสื่อสาร พร้อมกับเพิ่มกำลังใจให้เหล่าลูกเรือลิงน้อยไปโดยปริยาย

    “เพื่อคุณหนูผมสู้ตายยยยย”

    “เอาโว้ย วันนี้ตายก็ไม่เสียชาติเกิดล่ะว่ะ”

    “พร้อมจะลุยกันมานานแล้ว”

    “เราจะบุกทะลวงด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามี ทะลวงมันให้ทะลุอย่างไม่หยุดยั้ง”

    “สมการตรีโกณมิติตรงนี้ตูแก้ได้แล้วโว้ยยยย”

    และอีกมากมายกำลังใจที่กัปตันมาซาลันผู้เป็นสายบังคับบัญชาไอ้พวกนี้ยังต้องอาย “เอาว่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ไอ้เวรพวกนี้มันฮึดสู้ล่ะนะ”



    ยานอาร์กแองเจิ้ลเปิดกระบอกปืนใหญ่เมก้า ด้านข้างตัวยานออกมา “เป้าหมายอยู่ในระยะ พร้อมยิงทุกเมื่อค่ะ” ผู้ควบคุมศุนย์สาวรายงานกัปตันยูคิฮิเมะ

    “จะรออะไรอีกเล่า ยิงมันเลย !!!” ปืนลำแสงขนาดใหญ่ทั้งสองส่งคลืนความร้อนสูงทะลวงผ่านทุกอณูในห้วงอวกาศหมายถล่มยานรบทั้งสองให้สิ้นซาก

    “รวมพลังงานทั้งหมดไปที่เกราะด้านหน้า ทุกคนเตรียมรับแรงกระแทก” กัปตันมาซาลันรีบสั่งการป้องกัน

    “เปิดเกราะป้องกันคลืนความร้อน เปิดระบบสลายพลังงานในระดับสูงสุด” คุณหนูคุมิเองก็สั่งการได้เด็ดขาดไม่แพ้กัปตันคนอื่นๆเลยทีเดียว

    ลำแสงขนาดยักษ์จากอาร์กแองเจิ้ลปะทะเข้ากับเกราะของยานลิงน้อยอย่างจัง ตัวยานสั่นทึ่ม เหล่าลูกเรือที่จะกลิ้งตกเก้าอี้ กัปตันหนุ่มกันฟันกรอด ภาวนาให้เกราะของยานโทรมๆนี่ป้องกันแสนยานุภาพของสุดยอดยานกองทัพได้ ตัวยานค่อยๆถอยร่นราวกับคนที่กำลังพลักโต๊ะ “แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ เร่งเครื่องยนต์หลักเบอร์ 1 และ 2 เต็มกำลัง”

    “รับทราบครับ” ลูกเรือหนวดปลาหมึกรับคำสั่งเปิดเครื่องเบอร์ 1 และ 2 เดินหน้าเต็มที่ ตัวยานลิงน้อยต้านสุดฤทธิ์ แต่พอเหลือบไปดูยานบาร์บี้ของคุณหนูคุมิ กระสุนลำแสงกลับถูกสลายอย่างง่ายดาย พลอยทำให้คนในยานลิงน้อยอยากย้ายยานกับเป็นแทบๆ

    ไม่นานนักยานลิงน้อยก็พ้นอันตรายไปอย่างเฉียดฉิว พวกลูกเรือต่างพากันโล่งอกรวมทั้งพวกโยชิกิที่เกาะราวบันไดเหมือนขนมมาชเมลโล่ “เอ้าๆ ฝั่งนู้นเป็นไงมั้งจ๊ะ” เสียงคุมิผ่านมาทางมอนิเตอร์อีกครั้ง

    “คุณหนูคนสวยค้าบ ผมขอข้ามฝากไปฝั่งนู้นได้ไหมค้าบ” โยชิกิกล่าวน้อบน้อมสุดชีวิต

    “คุมิวันนี้ ขอโยนศักดิ์ศรีไว้ตรงนี้แล้วไปพึ่งยานคุมิได้ม่ะ” แม็กเองก็อยากจะหนีเหมือนกัน

    “พี่คุมิค้าบ เห็นแก่สวรรค์เอาผมไปด้วยคน” เนียร์ก็เอากะเค้าด้วย
    “กัปตัน ขออนุญาตไปดูอาการยานคุณหนูคุมิหน่อยนะ” เจโนวาพูดน่ารักสุดๆ

    “ไอ้คนทรยศ !!!!” กัปตันหนุ่มด่าพร้อมน้ำตา

    ระหว่างอยู่ในความวุ่นวาย คลื่นลำแสงระลอกสองก็ปะทะเกราะยานลิงน้อยอีกครั้ง คราวนี้ตัวยานเริ่มจนทนแรงไม่ไหว “กัปตัน ตัวยานเริ่มมีความเสียหายแล้วคับ พลังงานของเกราะเหลือ 20% ถ้าโดนอีกทีเราต้านไม่ไหวแน่ครับ”

    “ยุ่งจริงโว้ย เดี๋ยวตูไปช่วยชาร์จพลังงานเกราะให้” โยชิกิพูดเสร็จก็พรวดออกไปจากหอบังคับการ

    “เสร็จงานนี้ต้องจ่ายหนักๆนะโว้ย ไอ้กัปตัน” แม็กก็พรวดตามหลังไอ้บอดไปทันที

    “เจโนวา ไม่ต้องไปไหน อยู่ช่วยแนะนำระบบในยานที่ไหนแหละ” กัปตันมาซาลัน รีบปรามช่างหนุ่มที่ทำท่าจะขอตัวไปอีกคน

    “โห สองทียังไม่เป็นไร แต่ดูสภาพยานโทรมๆนั้นคงต้านอีกสักทีไหม่ไหวแน่ ชาร์จปืนใหญ่ลำแสง ส่วนยานสีชมพูนั้น เตรียมถล่มมันด้วยมิสไซล์” ยูคิฮิเมะ สั่งการลูกเรือเตรียมโจมตีอีกหน

    “คุณหนูครับ ยานรบของกองทัพเปิดท่อยิงมิสไซล์ออกมาแล้วครับ” ลูกเรือยานบาร์บี้รายงานสภาพการ

    “เตรียมปืนต่อต้าน ปล่อยฝุ่นรบกวนคลืนนำวิถีด้วย” คุมิเว้นช่วงนิดนึงเหมือนนึกอะไรออก “ติดต่อไปที่ยานลิงน้อยอีกทีสิ”

    “ยู้หู้ จะให้คำแนะนำอะไรดีๆนะ เตรียมหลบได้แล้ว ขืนยืนรับแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นเศษเหล็กจริงๆซะหรอก คุณกัปตันต๊อง แล้วเตรียมหาทางโจมตีกลับซะด้วยล่ะ“ ว่าเสร็จสัญญาณสื่อสารก็ถูกตัดไปอีกหน ดูท่าฝั่งคุมิเองก็วุ่นวายอยู่เหมือนกัน

    “รู้หน่า ไม่ต้องให้บอกหรอก” มาซาลันบ่นเล็กน้อย “ลูกเป็ดทั้งหลาย เดินเครื่องเต็มพิกัดเราจะโชว์ดริฟหลบคลื่นลำแสงให้พวกมันดูกัน”

    ปืนใหญ่ข้างลำตัวยานบาร์บี้หันเข้าหาข้าศึก ส่วนยานอาร์กแองเจิ้ลก็ยิงมิสไซล์ออกมาราวห่าฝน ยานทั้งสองแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด ส่วนทางด้านลิงน้อยเองก็หลบปืนลำแสงอย่างเอาเป็นเอาตาย “บ้าเอ้ย ถ้ามีอาวุธซะหน่อยล่ะก็...” มาซาลันสบถ

    “ไม่ไหวแล้ว ขี้ผมจะแตกแล้วววว” เนียร์ร้องโอดครวญอย่างน่าเวทนา แต่เหมือนจุดประกายอะไรสักอย่างในหัวท่านกัปตันได้

    “เฮ้ย !! เจโนวา แกบอกว่าปืนกระบอกนึงใช้ได้ใช่ม่ะ”

    “เออ ก็ได้นะ แต่ไม่มีกระสุนแกจะยิงยังไงห่ะ”

    “พอจะรู้แหละว่าจะหากระสุนจากไหน พลปืนไปประจำการปืนเบอร์หนึ่ง ส่วนใครปวดขี้จนเริ่มทนไม่ไหวก็รีบไปที่ปืนเบอร์หนึ่งได้เลย” กัปตันมาซาลันออกคำสั่งประหลาดที่สุดในสนามรบ

    “อย่าบอกนะเฟ้ย ว่าแกจะ....”

    “เออ อย่างที่คิดน่ะแหละคุณช่างซ่อม ทำได้ใช่ม่ะ” มาซาลันยิ้มๆ

    “มันก็น่าจะได้นะ มั้ง.... แต่มันจะช่วยอะไรได้ฟ่ะ” เจโนวาถามด้วยความสงสัย

    “เอาหน่าได้ผลอยู่แล้ว ฝั่งนู้นลูกเรือผู้หญิงหมด เจอมุขนี้เข้าไปรับรอง มีฮา” กัปตันหนุ่มพูดราวกับได้ชัยชนะในมือ

    การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ยานอาร์กแองเจิ้ลนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าอาวุธประเภทปืนลำแสงทำอะไรยานของคุมิไม่ได้เลย จึงกระหน่ำถล่มด้วยอาวุธประเภทมิสไซล์และปืนกลแทน แต่ก็ยังไม่ได้ผลมากนัก ส่วนยานบาร์บี้แม้จะมีการป้องกันที่ดีเยี่ยมแต่อาวุธของยานก็ไม่สามารถทะลวงเกราะอันทรงพลังของอาร์กแองเจิ้ลได้

    “ฮึ่ม .... ชักมีน้ำโหแล้วนะ” คุณหนูคนเก่งกล่าวเหลืออด

    “ทำไมเจ้าไม่ใช้มหามนตราซะเลยล่ะ” ไอซึออกความเห็นผ่านคทาอัสคาเทีย

    “ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นหรอก คุณปู่ “ คุมิตอบพร้อมรอยยิ้ม

    “พี่คุมิ สู้ๆๆๆๆ ยิงมันให้พรุนไปเลย”

    “ขยี้ๆๆๆ มัน ให้เป็นจุณ ไปเลยค่า” สองแฝดนรกเปลี่ยนเป็นชุดเชียร์ลีดเดอร์เต้นให้กำลังใจเต็มที่ น่ารัก โลลิจริงว้อย จะเอากลับบ้านนนนนนนนน

    “ยานตุ๊กตาบ้านั้น ...” ยูคิฮิเมะกัดฟันกรอด “ชาร์จปืนใหญ่ลำแสงเต็มกำลัง อย่ารู้นักเกราะมันจะหนาแค่ไหนเชียว"

    “เปิดปืนใหญ่ด้านหน้ายาน ชาร์จเต็มกำลัง เราจะจมยานกองทัพในนัดเดียวกันไปเลย ฮุ้ววว”

    ยานรบชั้นพิฆาตทั้งสองต่างเรียกใช้งานสุดยอดอาวุธหวังเผด็จศึกด้วยการยิงเพียงนัดเดียว ยานของคุมิที่หันข้างอยู่เริ่มหันตัวยานเพื่อใช้ปืนใหญ่กระบอกโตที่ด้านหน้า ส่วนอาร์กแองเจิ้ลก็ชาร์จพลังเข้าปืนลำแสงเต็มพิกัด

    “เตรียมพร้อม รอสัญญาณจากชั้น” กัปตันยูคิฮิเมะสั่งการลูกเรือ

    “ปืนใหญ่พร้อมไว้ รับแรงกระแทกด้วย เอาล่ะนะ !!!” คุณหนูคุมิ พร้อมจะบ้าแล้วววว

    แผละ !!!

    หาใช้เสียงปืนใหญ่ลำแสงของยานรบทั้งสองไม่ แต่เป็นเสียงกระสุนปืนยานลิงน้อยที่พุ่งเข้าชนม่านพลังของอาร์กแองเจิ้ลเต็มแรง แถมใอ้กระสุนเหลืองๆนั้นก็ลอยตุ๊บป่อง อยู่หน้าหอบังคับการอาร์กแองเจิ้ล

    “นั้นมัน....” ยูคิฮิเมะอึ่งกิมกี่

    “เล็งไปที่หอบังคับการ ทุกนัดยิงเข้าไปที่หอบังคับการ ห่ะ ว่าไงนะ เจ้าไพอาผลิตกระสุนมากกว่าคนอื่นเลยเหรอ เยี่ยมๆ บอกไปเดี๋ยวมีตบรางวัล 555+” กันตันมาซาลันหัวเราะอารมณ์ดี

    กระสุนอุนจิถูกอัดแน่นในท่อปืนยิงก่อนถูกขับด้วยแรงระเบิดลอยละลิ่วเป็นอุนจิอัดแท่งชนม่านบาเรียของอาร์กแองเจิ้ล ลูกแล้วลูกเล่า จนเหล่าลูกเรือสาวๆในยานเริ่มจะทนไม่ไหวออกอาการอ้วกแตกแพ้ท้องกันเป็นแถว แม้แต่กัปตันยูคิฮิเมะยังอดไม่ได้ “รีบตืดต่อไปทางยานของมาซาลันเร็ว” กัปตันสาวสั่งไปอ้วกไป

    “ไอ้บ้า แกไม่มีเกียรติอะไรเลยหรือไง ใช้วิธีอุบาทว์แบบนี้เนี่ย”

    “ฮ่าๆๆๆๆ เกียรติน่ะมี แต่ตอนนี้ต้องทิ้งไว้ก่อน ขอเอาตัวรอดก่อนนะจ๊ะ เอ้าๆ รีบๆถอยไปได้แล้วไม่งั้นจะยิงลูกใหญ่แล้วนะ” มาซาลันต่อรองทันที

    “แกๆๆๆๆๆ ฝากไว้ก่อนเถอะคราวหน้าชั้นจะยิงให้พรุนเลย” ว่าแล้วสัญญาณภาพก็ตัดหายไป

    “รีบๆมาเอาคืนด้วยล่ะ ยูจัง หุหุหุหุ”

    แล้วยานอาร์กแองเจิ้ลก็จำต้องถอยไปดื้อๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้คนบนเรือทั้งสองลำ เป็นชัยชนะที่ได้มาด้วยไหวพริบจริงๆ มั้งนะ - -*

    ...........................................................................................................................................................................................................................

    TALK TALK TALK

    เป็นไงคับ ซกมกดีม่ะ 555+ ตอนนี้บทบู๊เยอะหน่อยเพื่อความมันเร้าใจของคนอ่าน รั่วๆน้อยไปนิด แต่จะรีบกลับมาให้รั่วกันแน่นอนคับผม

    เฮ้อ เซง Word ตัวเองมันชอบปิดไปดื้อๆแล้วฟิคผมก็หายไปทีครึ่งตอนนั่งพิมใหม่เหนื่อยนะโว้ยยยยย ว้ากๆๆ ไว้หามาลงใหม่ได้ แกก็อย่าอยู่เลยล่ะกัน

    Special Thanks

    ขอบคุณทุกท่านที่หลวมตัวมาติดกับหน้าแก้ขัดของผมล่ะกันนะคับ แต่ชอบใช่ม่ะล่ะ ประโยคเด็ดๆพวกนั้นอ่ะ

    แล้วก็พี่นักเดินทางจ้อย ลอกๆไปเหอะ ผมไม่สงวนลิขสิทธิ์หรอกนะ 55+ แต่ไอ้คำพูดตัวละครของพี่อ่ะผมไม่ได้ลอกใครมานะ - -

    And All Friends And Fans Thank You !!!

    ปล. พี่ยูค้าบ ผมไปทำอะไรผิดเหรอ ผมขอโทษ T T
  13. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ตอนใหม่ เปิดศึก

    เหอๆ เรากลายเป็นก้อนกล้ามเนื้อไปแล้วเหรอ สายkนี่ลำบากจังอ่ะ

    ว่าองครักนี่น่ากลัวจัง เก่งอิบอ๋ายเลย

    [action]นั่งอ่านหนังสือรอตอนต่อไป[/action]
  14. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ตอนใหม่ เปิดศึก

    ตอนใหม่นี่บู๊กันล้างผลานดีจริงๆ ครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังนี่ออกแนวหนักไปทางความรั่วของชาวคณะแฮะ แต่ก็สนุกดีนะ




    [action]ก็ไม่ได้บอกว่าไปลอกใครมานี่นา - -* แค่บอกว่ามันคุ้นหูคุ้นตาน่ะ[/action]
  15. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ตอนใหม่ เปิดศึก

    โอ๊กกกก ..........

    ให้ตายเหอะเดกิ้น เจ้ากัปตันบ้านี่ใช้ของเเบบนี้เเทนกระสุนเนี่ยนะ เเบบนี้ต้องรีบซ่อมปืนให้มันก่อนอย่างอื่นซะล่ะม้างงง

    ขอตัวไปดูสองสาวโลลิที่ยานนู้นก่อนละกัน 55 จาอาวววกลับบ้านนน
  16. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ตอนใหม่ เปิดศึก

    เหอะๆๆ จะเปลี่ยนแนวไปเขียนฟิคบู้แล้วเหรอครับ^^ ยิงกันกระจายซะ

    ว่าแต่พี่น้องข้างบนเริ่มมีการกินปูนร้อนท้องกันและ

    โยคุง ไปลงwordใหม่ซะน่ะ เดี๋ยวนั่งเซงแบบเมื่อคืนอีก เอิ้กๆ
  17. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ตอนใหม่ เปิดศึก

    Runner


    ภายในห้องที่มืดสนิท คับแคบและเหม็นชื้น มีเพียงเสียงหายใจอันแผ่วเบาราวกับจะขาดใจของเด็กหญิงที่ถูกตรึงด้วยพันธการนับไม่ถ้วนที่กลางห้อง ร่างกายของเธอลอยเหนือพื้นและดูทรุดโทรมยิ่งนัก เสื้อสีขาวหม่นหมองเช่นเดียวกับใบหน้าที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำมันจากโซ่ตามร่างกาย เขตอาคมขนาดใหญ่ถูกวาดขึ้นใต้เท้าของเธอ ซึ่งเป็นรูปแบบการปิดผนึกเวทย์มนต์ชั้นสูงและซากของโซ่ตรวนมากมายกองอยู่เบื้องล่างเธอ

    ในห้องๆนั้นไม่ได้มีเพียงเธอคนนี้ ชายร่างสูงสามคนกำลังจับจ้องไปที่ตัวเด็กหญิง พวกเขาทั้งสามต่างกำลังแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับพลังที่เด็กน้อยคนนี้มีติดตัวตั้งแต่เกิด พลังที่จักรพรรดิเชื่อว่าจะสามารถยุติสงครามได้

    “ท่านคิดเช่นไรครับ ท่านอีซาค” บุรุษผมน้ำตาลประบ่า ในชุดอัศวินสีเงินกล่าวเสียงนุ่มท่ามกลางความเงียบสงบจนน่าขนลุก

    “ไม่ว่าจะใช้มนต์ผนึกรูปแบบใด หรือโซ่สกัดมนตรามากขนาดไหน แต่ดูท่าเราไม่สามารถกักพลังเวทย์ของเธอได้ 100% แน่ๆ และสถานที่นี้เองก็ไม่น่าจะทนแรงกดดันมหาศาลขนาดนั้นไหวแล้วด้วย” ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าอีซาค สะบัดเรือนผมสีเขียวสดของเขาเล็กน้อย พลางทอดสายตาสีมรกตไปทางเด็กน้อยที่ถูกตรึงอยู่กลางห้อง

    “แต่เราก็ยังเพิ่มโซ่สกัดมนตราได้อีกเรื่อยๆไม่ใช่เหรอครับ” ชายผมสีน้ำเงินเข้ม ที่สวมชุดนักปราชญ์พร้อมแว่นเลนซ์เดียวเสนอความเห็น

    “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ชาลอต ร่างกายของเธอจะรับไม่ไหวเอา” อีซาคเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ยังไงซะเด็กก็ยังคือเด็ก ไม่ว่าจะมีพลังแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม”

    บทสนทนาของทั้งสามคนหยุดนิ่ง สายตาทุกคู่ล้วนมองไปทางเด็กหญิงเพียงคนเดียวในห้องๆนั้น พลันเสียงประตูทางด้านหลังของพวกเขาทั้งสามคนก็ดังขึ้น ปรากฎร่างของหญิงสาวผมสีขาวยาวสลวยพร้อมเคียวสีดำสนิท ดวงตาโลหิตไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “นึกแล้วว่าท่านต้องอยู่ที่นี่ท่านอีซาค”

    “ก็ที่นี่มันเป็นงานของข้า อาเรีย ลาเวียเวย์” อีซาค ยิ้มทักทายให้ แต่ดูอาเรียจะไม่สนใจเท่าไร

    “ท่านอาเรีย มีธุระอะไรมิทราบครับ” ชายผมสีน้ำตาลเอ่ยถามพลางก้มหัวลงอย่างน้อบน้อม

    ไพโร คุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ชั้นอายุน้อยกว่าคุณตั้งห้าปีเชียวนะ” อาเรียยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เป็นภาพที่นานๆทีจะเห็นสักครั้ง

    “ไม่ได้หรอกครับ ยศท่านกับผมมันต่างกัน” ไพโรยังคงไม่เงยหน้าขึ้น

    “เช่นนั้นก็ตามสบายล่ะกันนะ” อาเรียพูดพลางก้าวเดินไปอยู่ตำแหน่งเดียวกับอีซาค “ดูเหมือนองค์หญิงน้อยยังคงหลับอยู่นะ”

    “ดีแล้วล่ะ ตื่นขึ้นมาทีไรอาละวาดทุกที” บุรุษเนตรมรกตเอ่ยเสียงเครียด

    “ว่าแต่เจ้าเถอะ ได้ยินว่าเกือบแพ้พวกดวงตกแดงงั้นเหรอ” อีซาคหันไปมองหน้าสวยของอาเรีย แววตาของเธอดูไม่พอใจนัก

    “ก็แค่เจ้าพวกนั้นดวงดีเท่านั้นแหละ” อาเรียกล่าวยังไม่สบอารมณ์พลางสะบัดหน้าหนี ดูๆไปก็น่ารักใช่เล่น

    อีซาคหัวเราะกับกริยาของสตรีเนตรโลหิตเล็กน้อย ก่อนจะทอดสายตาไปที่ตัวเด็กสาวอีกครั้ง “อีกไม่นานเราจะทำการเคลื่อนย้ายเธอ คงต้องของแรงเจ้าช่วยหน่อยนะ”

    “ขอแรงช่วย ? จะให้ข้าช่วยแบกองค์หญิงไปหรือไง” อาเรียถามด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรนัก

    “ข้าอยากให้เจ้าอยู่ช่วยข้ารักษาความปลอดภัยระหว่างการเคลื่อนย้าย” อีซาคเอ่ยตอบ

    “อะไรกัน ท่านเป็นถึงหัวหน้าราชองครักษ์ที่มีฝีมือสูงส่งที่สุดเชียวนะ” สาวผมไข่มุกสบถเสียงดัง

    “เธอยังไม่รู้อะไรนักอาเรีย...” น้ำเสียงของอีซาคเย็นลง “ว่าองค์หญิงที่หลับใหลยามตื่นขึ้นมาจะกลายเป็นปีศาจที่น่ากลัวขนาดไหน”

    “งั้นเหรอ” อาเรียกล่าวสั้นๆ

    “ท่านอีซาค ข้าขอไปเตรียมตัวสำหรับการเคลื่อนย้ายตัวเธอก่อน” ชาลอตเอ่ยอย่างน้อบน้อมก่อนจะก้าวออกไปจากห้องโดยมีไพโรเดินตามออกไปติดๆ


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    “ท่านโยชิกิขา อีกสักแก้วนะค่า” เสียงสาวผมบรอนทรงทวิลเทลในชุดแอร์โฮสเตสสีน้ำเงิน ผู้ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งบนตักของเจ้าโยชิกิหนึ่งในสมาชิกดวงตกแดง สติไม่เต็มเต๊ง

    “ได้สิจ๊ะคนสวยจะกี่แก้ว ท่านโยชิกิคนนี้ก็ให้ได้เสมอล่ะจ๊ะ จุฟๆๆๆ” ไอ้บอดเองก็กำลังเพลิดเพลินได้ที่

    “เฮียโย นี่ช่ำชองเรื่องแบบนี้จังเลยนะคับ” เนียร์ที่กำลังนั่งดูชามะนาวอยู่โต๊ะเดียวกับพวกคุมิ แอบอิจฉาเจ้าโยชิกิเล็กๆ

    “หมอนั้นกำผืดเก่ามันก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ก็แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าคนแบบนี้จะเคยมีรักแท้” คุมิพูดพลางยัดขนมปังแยมสตอเบอรี่เข้าปาก โดยมีแฝดนรกชุดโกธิคช่วยแย่งกิน

    “ห่ะ คนแบบนั้นเนี่ยนะคับ” เนียร์ตกตะลึงตาค้าง กริยากับคำพูดน่าโดนสอยปากแตก

    “แถมแม่สาวคนนั้นดูยังไงก็ไม่เหมาะกับเจ้านั้นด้วย” ไอซึร่วมผสมโรง

    “แหม ปู่ สนใจเรื่องแบบนี้กับเค้าด้วยเหรอ” คุมิกัดไอซึเล็กๆ แต่วิญญาณผู้สถิตในคทาอัสคาเทียได้แต่ส่งเสียง หึ ออกมาเท่านั้น

    ที่นี่คือดาวโกลด์ เซาเซอร์ ดวงดาวแห่งความบันเทิงและไร้สาระที่สุดในจักรวาล เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชั้นยอดสำหรับคนทุกเพศทุกวัย มีทั้งสวนเด็กเล่น สวนสนุก บาร์ ผับ คาสิโน โรงแรมม่านรูด ทำไมมันเริ่มมีอันตรายกับเด็ก สตรีมีครรถ์ และคนชราไปเรื่อยๆฟ่ะ เหมาะให้นักเรียนเตรียมสอบทั้งหลายมาคลายเครียดลืมอ่านหนังสือและก็สอบตกไปซะ

    หลังจากหนีตายกันมาได้สามสัปดาห์พลังงานแทบทั้งหมดบนยานลิงน้อยล่องลมก็ถึงจุดวิกฤตแทบไม่มีทางเลือกอื่นใดเลยนอกจากหาแหล่งเติมพลังงาน ซึ่งจริงๆจะยืมจากยานของคุมิก็ย่อมได้ หากแต่คุณหนูคนเก่งกลับพูดมาว่า “ยังไงซะ ชั้นก็ไม่ยอมเสี่ยงให้พลังงานพวกนายครึ่งนึงหรอกย่ะ” ทำให้กัปตันมาซาลันจำต้องหาแหล่งบำรุงยานโดยด่วน และดาวที่มีคุณสมบัติดังกล่าวที่ใกล้เคียงตำแหน่งของพวกเขามากที่สุดก็คือ โกลด์ เซาเซอร์

    และเวลายามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหลนี้ไม่เพียงโยชิกิเท่านั้นที่กำลังสนุกสนานอยู่......

    “หึ ของผมฟูลเฮาส์” แม็กแลนเซอร์เปิดไพ่ของตนให้เหล่าผู้เล่นคนอื่นดูเป็นขวัญตา

    “เสียใจด้วยนะ คุณสุภาพบุรุษ” เสียงนุ่มของสาวชุดแดงโผล่งขึ้นมาตัดจังหวะ “ขอดิฉัน รอยัล สเตรดฟรัช”

    หนุ่มผมขาวออกอาการอึ้งเล็กน้อย “อ่า เพราะเห็นว่าคุณสวยหรอกผมถึงยอมให้” แม็กยังแก๊กท่าเท่ห์ แม้จะพูดประโยคเสียวๆออกมาก็ตาม

    “แหม แต่คุณไม่เหลือชิพแล้วนะยังจะเล่นต่อไหมค่ะ” สาวสวยคนเดิมยิงคำถามแทงใจดำ

    แม็ก หน้าซีดเผือกพลางมองหากัปตันมาซาลันที่มาด้วยกันหวังจะขอเบิกค่าจ้างล่วงหน้า “พอทีเวลาแบบนี้หายหัวไปไหนฟ่ะ ไม่ยอมอยู่ให้ยืมเงินบ้าเอ้ย...” แม็กรำพึงเบาๆ

    ราวกับรีโมตสั่งได้ โน้น กัปตันมาซาลันเดินมานู้นแล้วพร้อมลูกเรืออีกสี่ถึงห้าคนและก็มีเจ้าไพอาอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย แม็กรีบปรี่เข้าไปราวจรวดพิฆาตพุ่งเข้าสังหารซัดดัม พลันกระชากคอเสื้อกัปตันหนุ่ม “เฮ้ยๆ กัปตัน ขอเบิกค่าจ้างล่วงหน้าทีจะไปเล่นต่อ” แม็กแบมือขอตัง เหมือนเด็กอนุบาลขอเงินพ่อแม่ซื้อปิกาจู ส่วนมืออีกข้างยังจับคอเสื้ออยู่ มันจะยืมตังหรือจะบีบคอกันแน่ฟ่ะเนี่ย

    “คือ เมื่อกี้ชั้นไปเล่นสล๊อกแมชชีนมา” กัปตันหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ พลางลูบมือแม็กเบาๆจนหนุ่มดวงตกแดงต้องรีบปล่อยมือกลัวจะโดนอัดถั่วดำ

    “แล้วไง” แม็กถามเสียงหวั่นๆ

    “แล้วก็ถูกรางวัลสองสามครั้ง”

    “เออ ก็ดีแล้วนี่ มีเงินแล้วใช่ไหม เบิกๆ”

    “แต่ ชั้นก็หยอดไปเรื่อยๆให้ได้แจ๊กพอต”

    “เออๆ แล้วไงต่อ”

    “หยอดไปหยอดมาไม่เหลือสักแดง” มาซาลันยิ้มแห้งๆพลางแบมือออกมาดื้อๆ “ยืมตังไปหยอดต่อทีดิ”

    “จะบ้าเหรอฟ่ะ ตูก็หมดตัวเหมือนกัน ไม่งั้นจะขอยืมแกหา<beep>ทำไมเล่า” แม็กตวาดใส่ดั่งลั่นร้าน จนไปเข้าหูไอ้ยักษ์ในชุดสูทดำที่อยู่แทบๆนั้น

    ชายร่างยักษ์แสยะยิ้มหน้าขนลุกก่อนก้าวเดินมาหาทั้งสอง พร้อมกระดาษปึกใหญ่ๆปึกนึง และแผ่นกระดาษเล็กๆเป็นสัญญาอะไรสักอย่างอีกหนึ่งแผ่น เมื่อสองผีพนันเห็นของสองสิ่งรอยยิ้มกว้างจึงบังเกิด รีบจรดปากกาในกระดาษสัญญาพลันคว้ากระดาษปึกใหญ่ไปเบิกชิพกันต่อทันที โดยแทบไม่ต้องมีบทสนทนาใดๆ

    “แต่ว่ามาพักที่นี่มันจะไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอ” เจโนวา ถามขึ้นพลางซดน้ำแตงโมปั่นเข้าไปเต็มปาก

    “นั้นสิคับ พี่คุมิ ธุรกิจกว่าครึ่งของที่นี่แทบจะมีเจ้าของเป็นคนในกองทัพหมดเลยนะ” เนียร์พูดหวั่นๆ

    “สำหรับคุมิน่ะนะ ยิ่งใกล้อันตรายเท่าไรก็ยิ่งปลอดภัยแหละจ๊ะ” คุณหนูคนสวยพูดพลางยิ้มโปรยเสน่ห์ไปด้วยเล่นเอาหนุ่มที่เดินผ่านไปมาสะดุดหัวใจล้มหัวฟาดพื้นกันเป็นแถบๆ

    “พี่คุมิยอดที่สุดเลยยยย”

    “พี่สาวของหนูฉลาดที่สู้ดดด” ภัทและเอพิลรีบยอกันยกใหญ่พลางแสดงรอยยิ้มน่ารักพลังโลลิทรมานใจทั้งคนอ่านและคนแต่งเป็นอย่างมาก โลลิสุดยอด !!!!!!!!!!

    “เฮ้อ สนุกโคตรๆ” น้ำเสียงวอนโดนฝ่าเท้าของโยชิกิดังมาแต่ไกล พร้อมร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยจูบตรงนู้นตรงนี่เป็นที่น่าหมั่นไส้ยิ่งนัก

    “ไงพี่โย เละเทะน่าดูเลยนะเนี่ย” เนียร์หยอกไอ้บอดเล็กน้อย

    “หึหึ ดูไว้ซะเนียร์เกิดเป็นชายมันต้องรู้จักใช้ความเป็นชายให้คุ้ม” โยชิกิพูดพลางภูมิใจซะเต็มประดา

    “งั้นเหรอ ใช้ความเป็นชายของแกนี่คือไปไล่สวนทวารกะเทยหรือเปล่า พวกกะเทยมันชอบนะเฟ้ย” เจโนวาหัวเราะก้ากๆ มีความสุขเหลือเกิน

    “ไม่ใช่โว้ย มันต้องเสพสุขกันสาวๆน่ารักๆต่างหากล่ะ” โยชิกิพูดเสร็จก็ถีบเจโนวาตกเก้าอี้ พร้อมกระทืบซ้ำอย่างสนุกสนาน

    “พี่โย....” เสียงเล็กใสของหนึ่งในสองฝาแฝดโลลิแต่โหดดังขึ้น เม็ดเหงือเม็ดเบ้งๆของหนุ่มไร้เนตรก็ผุดออกมาในทันที

    “มีอะไรจ๊ะ ภัท” โยชิกิตอบเสียงตะกุกตะกัก

    ภัท มองโยชิกิตั้งแต่หัวจรดเท้า “ทำไมพี่โย ปล่อยให้เสื้อผ้าหลุดลุ่ยขนาดนี้ ไม่ไหวแล้วภัททนดูไม่ได้แล้วค่า !!!” ไวยิ่งกว่าความคิดสาวแว่นโลลิก็คว้ามีดสปาต้าขนาดเหมาะที่จะแทงคนไส้ทะลักคาที่หวังจะเสียบไอ้โยชิกิให้ลงไปนอนแดดื้นสนองตัณหาแปลกๆของตัวเอง เมื่อหนุ่มผมเงินเห็นท่าไม่ดีก็เตรียมตั้งท่าสู้พลางรู้สึกถึงจิตอำมหิตขั้นร้ายแรงจากสตรีเนตรทับทิบที่นั่งโบกคทาอัสคาเทียพร้อมรอยยิ้มที่แม้จะเป็นนักเลงมาค่อนชีวิตก็อุจจาระออกหูได้ง่ายๆ

    “ไอ้โย แกรู้ใช่ไหมว่าทำอะไรภัทจังแล้วจะเป็นยังไง” น้ำเสียงเรียบเฉียบคมไม่เพียงแต่โยชิกิเท่านั้นเนียร์ที่นั่งข้างๆก็พลอยน้ำตาเล็ดไปด้วย

    ระหว่างที่ไอ้บอดกำลังถูกจิตสังหารกดดัน เสียงใสของสาวแว่นตัวน้อยก็ถาโถมเข้าใส่ทันที ”จะเสียบพี่โยให้ไปเกิดใหม่เลยนะค่า !!”

    “ภัทจัง เดี๋ยวก่อน..” หนุ่มไร้เนตรตะโกนพลางยกมือห้าม แต่มีดพกที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงก็ถากหน้าเขาไป เกิดรอยแผลบนใบหน้าที่สุดจะหวงแหนของตน ความโกรธกระพือขึ้นเหมือนอีแร้งหัวเกรียนกำลังบินสู่ฟากฟ้า แต่กระนั้นเลยบาซูก้ากระบอกโตและออร่าสีเขียวอ่อนจากเอพิลและคุมิก็ทำให้โยชิกิต้องจำยอมโดนชำแหละเป็นอาจารย์ใหญ่โรงพยาบาลศิริราช

    “ฮึ่ม...ทำไมตูเสียตลอดเลยฟ่ะ” แม็กเอ่ยเสียงเครียดหนัก พลางก้มมือชิพที่ตัวเองเหลืออยู่ซึ่งมันก็กระจิดริดเสียจริงๆ

    “คุณลูกค้าสนใจจะกู้เพิ่มไหมครับ” ชายร่างยักษาถามอย่างรู้งาน ด้วยประสบการณ์คุมคาสิโน่กว่าหลายสิบปีดูปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไอ้หมอนี่บ้าการพนันเข้าไส้

    “งั้นก็อย่าชักช้ารีบเบิกชิพมาให้เล่นต่อทีคุณยักษ์” แม็กพูดโดยไม่ได้หันมองหน้าคู่สนทนาด้วยซ้ำ ชายร่างยักษ์ก้มหัวลงเล็กน้อยก่อนส่งสัญญาณขอเบิกชิพเพิ่มพร้อมรอยยิ้มอันสุดสำราญ

    และอีกมุมหนึ่งของคาสิโนหรู.....

    “ว้ากกกกกกกก อะไรของมันว่ะเนี่ยทำไมไม่ตรงซักรอบเลยฟ่ะ” กัปตันมาซาลันตะโกนอย่างเดือดดาลจนคุณป้าที่นั่งเล่นข้างๆหัวใจวายตาย

    เหล่าลูกเรือเริ่มซีดกันเป็นแทบๆ เพราะตั้งแต่เมื่อครู่กัปตันของพวกเขาใช้ให้ไปจำนำเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงใน แน่นอนว่าคนในคาสิโนต่างมองกลุ่มชีเปลือยผู้น่าสงสารว่าเป็นคนบ้ามาจากไหนกันฟ่ะเนี่ย

    “กัปตันๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆมาซาลัน เจ้าของเสียงคือชายหนุ่มผมสีทองอร่ามกับกางเกงในคู่กายสีขาวเปรอะรอยอึเป็นดวงๆตรงก้นนิดหน่อย “ผมว่ามันมีลูกเล่นกับตัวเครื่องนะ”

    มาซาลันได้ยินดังนั้นก็ตรงอยู่ในภวังค์ชั่วครู่ “แล้วแกรู้ได้ไง”

    “กัปตัน...ผมเล่นต่อให้ล่ะกัน” ไพอาเสนอทางเลือก ซึ่งกัปตันหนุ่มก็ทำตามอย่างว่างายอาจเพราะว่าวันนี้ดวงไม่ดีหรือทำบาปกรรมฆ่าคนแก่ไปแล้ว ส่วนลูกเรือที่เหลือต่างพร้อมใจช่วยแบกศพคุณป้าผู้น่าสงสารไปทำพิธีเผา&ฝังที่ศาลาข้างๆ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติพี่น้องที่ไม่รู้แห่กันมาตั้งแต่เมื่อไรแถมจองศาลาไว้เรียบร้อยแล้วด้วยแหน่ะ

    “คิ้วววววววว ...มรดกเป็นของตูแล้ว ก้ากๆๆๆ ไอ้แก่นั้นตายไปซะได้ก็ดี ก้ากๆๆๆ” เสียงโห่ร้องของชายวัยกลางคนดึงดูดความสนใจของพวกมาซาลันเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเล่นสล็อตแมชชีนกันต่อ

    หลังจากไพอาง่วนอยู่กับตัวเครื่องอยู่พักนึงเขาก็จัดการเก็บมันให้เรียบร้อยก่อนจะปาดเหงือลูกผู้ชายเป็นประกายเมื่อต้องแสงหลอดไฟ “เอาล่ะ เรียบร้อย”

    “โยกเลยๆ” มาซาลันรีบเร่งไพอาอย่างตื่นเต้นพลางกระโดดขาคู่เป็นการแสดงอารมณ์ไปด้วย

    อดีตผู้บัญชาการกองยานไม่รอช้าโยกสล็อตแมชชีนด้วยน้ำหนักที่ลงตัวหน้าปัดสล็อตทำงานตามการตอบสนอง ทั้งสองลุ้นหัวใจระทึกภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเหล่าผีผนันทั้งหลายให้ดลบันดาลแจ็กพอตแตกแกพวกเขา

    มาซาลันเอามาปิดตาไม่กล้าดูหน้าปัดเพราะนี่คือเงินก้อนสุดท้ายแล้วถ้าไม่ได้ก็ปิ้วสถานเดียว เสียงกริ้งแรกบ่งบอกถึงสัญลักษณ์ในช่องแรก กริ้งที่สอง และกริ้งที่สาม รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มไหมค่ะ

    “กัปตันๆๆ” เสียงกระตุ้นไร้อารมณ์ของไพอาและเอาใจของกัปตันแห่งยานลิงน้อยร่วงไปอยู่ตาตุ่มมือทั้งสองยังไม่กล้าเปิดออก “เสียใช่ไหมไอ้ไพอา”

    กริ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    เหรียญทองจำนวนมากพุ่งทะลักออกมาจากเครื่อง มาซาลันรีบเปิดตาดูแสงสีทองอร่ามสะท้อนแสงในคาสิโนเล่นเอาตากัปตันหนุ่มแทบจะบอด เจ้าไพอายิ้มขึ้นเล็กน้อยก็จะค่อยๆบรรจงเก็บเหรียญเล่านั้นยัดไปในกางเกงใน กัปตันหนุ่มเองก็โกยเหรียญจนล้นตัวเช่นกัน

    “นิ้งน่อง~~~ ที่มุมสล็อตแมชชีนเกิดเหตุการณ์เขื่อนเหรียญแตกผู้โชคดีคือท่านสุภาพบุรุษในชุดกัปตันและตัวประหลาดใส่กางเกงในตัวเดียวค่ะ “ เสียงหวานของโอเปอเรเตอร์ผ่านโสตประสาทแม็กไปวูบหนึ่ง บุรุษเสื้อโค๊ทสีแดงก็กระแทกโต๊ะพุ่งปรี่ไปมุมสล็อตแมชชีนทันที แต่โต๊ะที่กระแทกดันพุ่งอัดเจ้าหน้าที่แจกไพ่ติดกำแพงเลือดสาดกระจายน่าไปผสมนมทำเฮลบลูบอยกินนะ เสียดาย

    เมื่อแม็กไปถึงก็พบไพอากับมาซาลันกำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเลเหรียญ พลางตีขากรรเชียงกันอย่างสนุกสนาน “อ้าว แม็กเป็นไงเล่นได้มั้งม่ะ” กัปตันมาซาลันทักทายอย่างอารมณ์ดี

    “แจ๊กพ๊อตแตกแล้วเหรอ” แม็กถามอึ้งๆไม่นึกว่าคนอย่างหมอนี้จะมือขึ้นขนาดนี้

    “ฮ่าๆๆ มันแน่นอนอยู่แล้ว” กัปตันหนุ่มหัวเราะชอบใจ แต่ดันอ้าปากมากไปจนเหรียญทะลักเข้าไปเต็มกระเพราะ

    “ดูท่าคุณแม็กจะยังเสียอยู่สินะคับ” ไพอาโผล่หัวออกมาจากกองเหรียญ ก่อนจะหันไปทางพนักงานคนนึง “นายตรงนั้นช่วยไปหาสูทมาให้ชั้นที เอาเงินพวกนี้ไปเป็นค่าสูทล่ะกัน”

    “เออดิ เล่นยังไงก็แพ้ฟ่ะ” แม็กสบถเล็กน้อย

    “เดี๋ยวรอผมแต่งตัวแปบจะไปแก้มือให้” ไพอาว่าพลางชกท้องมาซาลันให้คลายเหรียญที่กินไปออกมา กัปตันหนุ่มโดนเข้าไปตุ๊บสองตุ๊บก็สำรอกเอาเหรียญทองกับอาหารกลางวันออกมาเต็มพื้น จนแขกทั้งหลายต่างพากันถอยกรูดกันหมด

    “ว่าแต่ทำไมแกถึงรู้ว่ามันมีกลไกอะไรว่ะ” มาซาลันถามด้วยความสงสัย ก่อนจะสำรอกเอาปลาร้าสดออกมาอีกรอบ

    “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันคับ ว่าทำไมตัวเองถึงรู้ว่ามีกลไกอะไร” ไพอาพูดไปเกาตูดไปด้วยพร้อมเอานิ้วมาดมกลิ่นมหารัญจวน

    “เออๆ เอาเป็นว่าไปเล่นให้มันได้ตังก็พอแหละ” แม็กสรุปเรียบร้อยไม่ต้องคิดกันให้มาก

    ไม่นานนักหลังจากไพอาแต่งตัวเรียบร้อยพร้อมล้างปลาร้าจากเหรียญทอง เขาก็นำเงินไปแลกชิพทันที “เฮ้ย มั่นใจนะว่าจะเล่นได้” แม็กถามอย่างกังวล

    “ไม่ต้องห่วงไปคุณแม็ก..”ไพอาพูดพลางตบบ่าแม็กเบาๆ “คืนนี้เรารวยเละชัวร์ๆ”

    เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ ไพอาก็เข้านั่งประจำที่ชายร่างยักษ์ที่สังเกตการณ์อยู่ส่งสัญญาณเลิฟๆไปทางพนักงานแจกไพ่ คนแจกพยักหน้าหงึกๆเป็นอันว่า “เออ จัดให้เฮีย”

    แต่ผิดคาดไม่ว่าจะส่งไพ่แย่แค่ไหนให้เจ้าไพอามันก็ออกมาดีตลอด เหล่าเซียนพนันที่มานั่งเล่นด้วยต่างลุกหนีออกไปทีล่ะคนสองคน “หึหึ ไอ้พวกไก่อ่อน” ไพอา อัสนาเบิ้ล ยิ้มมั่นใจซะเหลือเกิน

    “รวยโว้ยๆๆๆ” มาซาลันตะโกนเฮโลลั่น

    “ฮ่าๆๆ จะซื้อหนังโป๊ไปดูให้สำราญเลย” แม็กเองก็กระโดดโลดเต้นเป็นจังหวะแทงโก้ประกอบไปด้วย

    “เดี๋ยวคุณสุภาพบุรุษ” เสียงใหญ่หนักและแน่นของชายร่างยักษ์ดังขึ้นด้านหลัง “ผมว่าเห็นอะไรแปลกๆใต้ที่นั่งคุณนะ”

    “หืม ไม่เห็นมีนี่ จะลองดูไหมล่ะ” ไพอาลุกขึ้นพร้อมให้ชายตัวใหญ่เชคเก้าอี้ของตน จังหวะนั้นแม็กซึ่งกำลังจับสังเกตบางอย่างก็เห็นอะไรแปลกๆในมือของไพอา

    “เฮ้ย ไอ้กัปตัน” ชายหนุ่มผมขาวตาคมรูปหล่อเรียกกัปตันมาซาลันที่กำลังยืนนับเงินอยู่ข้างๆ

    “ห่ะ มีอะไร”

    “แกระวังไอ้ไพอาไว้หน่อยดีกว่านะ ถ้าความทรงจำมันกลับมาชั้นว่ามันจะเป็นตัวปัญหาเลยล่ะ” แม็กเอ่ยเสียงเครียด

    “ทำไมล่ะ ดูๆไปมันก็ไม่น่ามีพิษภัยนี่หน่า”

    “เมื่อกี้ที่ไอ้ยักษ์นั้นบอกเห็นอะไรแปลกๆใต้ที่นั่ง” แม็กเว้นจังหวะพูดเล็กน้อย “จริงๆแล้วเจ้านั้นมันซ่อนสำรับไพ่ไว้อีกชุดนะ”

    มาซาลันอึ้งไปเล็กน้อย “แสดงว่าไอ้ไพอาก็โกงเขาน่ะสิ”

    “อ่า แต่ฟังนู้นก็โกงเราเหมือนกัน แต่ดูท่าทางเจ้านี่มันชั้นเชิงเหนือกว่าเยอะ” แม็กกางคางแกรกๆ

    “แล้วทำไมล่ะฟ่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกะระวังตัวอะไรตรงไหน” มาซาลันเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “ในเมื่อแกรู้ว่ามันโกงแล้วก่อนหน้านี้จะเล่นให้หมดตัวเพื่ออะไรฟ่ะ”

    “เรื่องนั้นช่างหัวมันเหอะหน่า แต่เมื่อกี้ตอนเช็คเก้าอี้ชั้นเห็นมือเจ้านั้นมันก้มไปหยิบสำรับไพ่ที่ซ่อนไว้ด้วยความเร็วสุดๆเลยนะโว้ย” แม็กเปลี่ยนเรื่องทันที

    “แล้ว....” กัปตันหนุ่มยังไม่สิ้นสงสัย

    “ถ้าเป็นแค่เซียนพนันธรรมดายังพอว่า แต่การเคลื่อนไหวเมื่อกี้มันเป็นแบบมือโปรชัดๆเจ้านี่มันต้องเคยเป็นหรือเป็นยอดฝีมือแน่” แม็กเอ่ยเสียงเครียด

    “ขนาดนั้นเลยเหรอ” กัปตันมาซาลันหันกลับไปมองเจ้าไพอาอีกครั้ง “อืม แต่ถ้ามันยังเอ๋อๆอยู่แบบนี้คงไม่เป็นไรมั้ง”

    ชายร่างยักษ์แทบจะทุบเก้าอี้ทิ้งแต่ก็ยังไม่เห็นพิรุธประการใดก่อนจะคืนเก้าอี้ให้กับไพอาไป “ขอบคุณมากครับ” ชายผมทองกล่าวเสร็จสิ้นพลางล้วงหยิบสำรับไพ่ในเสื้อออกมา.....ทำไมฟ่ะ

    แขกเรื่อนและเจ้าหน้าที่ทุกคนเห็นเป็นประจักษ์เต็มสองตา ไอ้นี่มันโกงนี่หว่า.....

    “เฮ้ย จับมันให้หมดโว้ย มันโกงงงง” ชายร่างใหญ่ตะโกนสั่งเสียงดังลั่น เจ้าหน้าที่ทุกคนหยิบอาวุธขึ้นมาครบมือ แม็กกับมาซาลันยืนอึ้งไปสามวินาที “เป็นไปได้อยากให้มันหายเอ๋อแล้วฟ่ะ” กัปตันหนุ่มพูดสำนึกผิด

    “ยิงเลย !!!” เสียงชายร่างยักษ์ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมเสียงปืนจำนวนมากจากทุกทิศทาง แม็กไม่รอช้าคว้าปืนพกคู่ใจยิงตอบโต้โดนพนักงานถืออาวุธร่วงไปหลายคน มาซาลันรีบคลานหลบกระสุนตามใต้โต๊ะส่วนเจ้าไพอาก็ตามตูดกัปตันไปติดๆ

    “เสียงอะไรกันน่ะ” คุมิเอ่ยถามขึ้นในวงสนทนา

    “อืมๆ เหมือนจะเป็นเสืยงปืนนะ” เจโนวาก็ดูเหมือนจะได้ยินเช่นกัน

    “เห....มีคนยิงกันแถวนี้เหรอครับ” เนียร์เองก็ได้ยิน และแน่นอนน่าจะรวมถึงคนอื่นๆด้วย

    “ไอ้บอดแกไปดูทีสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น” คุมิโบ้ยหน้าไปทางโยชิกิ หรือน่าจะเรียกว่าซากของโยชิกิมากกว่า

    “เฮ้ย คุณหนูกรุณาดูด้วยว่าผมกำลังอะไรอยู่” ชายไร้เนตรพูดพลางเก็บอวัยวะภายในที่โดนภัทจังเอาออกมาวิจัยซะเรียบวุธให้เข้าที่เข้าทาง “อ้าว เวรแหละปอดหายไปไหนข้างนึงเนี่ย”

    “พี่โย ผมช่วยไหมพี่” เนียร์เสนอตัวช่วยเหลือ

    “ไม่ต้องไปช่วยกันหรอกเนียร์เดี๋ยวมันก็เก็บหมดเองแหละ” คุณหนูคนเก่งตัดบทซะงั้น ส่วนสองฝาแฝดเจ้าปัญหาตอนนี้นอนหลับสนิทอยู่ใกล้ๆคุมินั้นแหละ และแน่นอนหน้าตายามนอนก็ช่างน่ารักซะนี่กะไร

    “ไอ้พวกคนใจดำ” โยชิกิพูดไปเอากาวติดหูตัวเองไป

    ในระหว่างนั้นเอง เสียงปืนเหมือนว่าจะดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆคทาอัสคาเทียเปล่งแสงสีนวลออกมาเล็กน้อย “ดูท่าเจ้าพวกนั้นจะก่อปัญหาอีกแล้วนะ” ไอซึกล่าวเสียงเรียบ

    “เจ้าพวกนั้น....” คุมิเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปมองที่ด้านหน้าของตน แม็ก มาซาลัน และไพอากับลูกเรือที่เหลือกำลังวิ่งหนีตายก็อย่างสุดชีวิตสายลมปะทะใบหน้าพวกแม็กจนเยินไปหมด แถมสีหน้าแต่ล่ะคนก็แทบจะเรียกได้ว่าพร้อมฆ่าเด็กอายุ 5 ขวบได้ทุกเมื่อ

    “มีอะไรกันน่ะ ว้ากๆๆๆ” โยชิกิที่พิ่งรู้ตัวก็โดนทีนของเหล่าสหายเหยียบจนแบนคาถนน พอแซะตัวเองขึ้นมาได้ก็พบว่าพรรคพวกที่เหลือวิ่งหนีกันไปหมดแล้วรวมทั้งพวกคุมิด้วย

    “มันอะไรกันว่ะเนี่ย” ระหว่างที่กำลัง งงๆ อยู่นั้นดงทีนอีกระลอกของพวกใส่สูทดำกับเจ้าหน้าที่ทางการก็เหยียบตัวโยชิกิแบนคาถนนอย่างไม่ปราณีไปอีกครา

    “พี่แม็กนี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เนียร์ที่ห่อสุดฝีเท้าหันไปถามแก็งตัวก่อเรื่อง พร้อมแบกเอพิลที่หลับปุ๋ยเอาไว้ด้วย

    “ไว้รอดไปแล้วจะเล่าให้ฟังล่ะกัน” แม็กพูดพลางยิงตอบโต้ไปด้วย

    “อยู่กับพวกแกนี่ขาดทุนป่นปี้จริงๆ” เจโนวาสบถเสียงดัง “แล้วทำไมต้องมาแบกยัยเด็กนี่ด้วยเนี่ย” ช่างหนุ่มกำลังพุดถึงภัทจังที่กำลังหลับอยู่บนหลังเขานั้นเอง

    “ไพอา ใช้กลิ่นตดมหาประลัยหยุดพวกมันทีเด้” มาซาลันตะโกนสั่ง

    “คือว่าผมยังไม่ปวดตดอ่ะกัปตัน”

    “โธ่ เว้ย ที่งี้ดันไม่ปวดพออยู่บนยานแม่มตดเอาๆ” กัปตันหนุ่มด่าเสียงขรม

    “ชิ ช่วยไม่ได้แล้ว” คุมิหยุดวิ่งพลางหันกลับไปประจันหน้าฝูงคนที่ไล่ตามมา คทาอัสคาเทียเปลี่ยนจากไร้สีเป็นสีฟ้าใส “ข้าแต่เทพน้ำแข็งผู้เลิศโฉมขอจงประทานกำแพงแห่งไอเย็นมาสถิตเบื้องหน้าข้า ICE WALL” สิ้นเสียงกำแพงน้ำแข็งขนาดมหึมาก็ผุดขึ้นมากลางถนนขวางเส้นทางของพวกที่ตามหลังไว้

    “ยอดไปเลยคุมิ” แม็กเอ่ยชมทันที

    “อย่ามัวพูดมากกันอยู่เลยรีบหนีดีกว่า เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว” ว่าแล้วคุณหนูคุมิก็วิ่งเต็มฝีเท้าเช่นกัน

    ไม่นานนักคณะรักสนุกก็มาถึงท่าจอดยานกันโดยสวัสดิภาพ “เอาล่ะรีบไปบอกพวกอยู่บนยานเราจะเผ่นกันเดี๋ยวนี้” มาซาลันออกคำสั่งกับพวกลูกเรือที่ตามมา

    “เดี๋ยวผมอาสาไปบอกเองคับ” เนียร์เสนอตัวก่อนจะวางตัวเอพิลลงพร้อมวิ่งพรวดไปที่ยานลิงน้อย

    “เออ เห็นประโยชน์เรื่องฝีเท้ามันแล้วแหะ” แม็กกล่าวขึ้น “แล้วกำแพงนั้นน่าจะขวางได้นานไหมน่ะคุมิ”

    “ก็เพียงพอที่จะทำให้เราหนีออกนอกดาวดวงนี้ทันแหละ”

    เจโนวาที่กำลังเหนื่อยหอบก็เดินเซไปพิงหลังยานลำนึงเข้า “เหนื่อยชะมัดเลยวุ้ย....ว่าแต่” ช่างหนุ่มหันไปมองยานที่ตัวเองกำลังพิง “ทำไมยานลำนี้มันคุ้นตาจังหว่า”

    “เฮ้ยๆๆ ไอ้พวกบ้าจะทิ้งตูแล้วเหรอ” โยชิกิที่วิ่งตามมาโบกไม้โบกมือหนุกหนาน

    “อ้าว นึกว่าตายไปแล้วซะอีกโยชชี่” แม็กแซวสหายไม่ดูสถานการณ์

    “แม็ก....” โยชิกิ เดินเข้ามาตบบ่าเพื่อนพร้อมน้ำตานองหน้า “ปอดตูหายไปข้างนึง”

    “เสียใจด้วยว่ะ เดี๋ยวควักจากคนแถวนี้ใส่ไปก่อนล่ะกัน”

    “งั้นขอของแกได้ม่ะ ไหนๆก็จะตายแล้วนี่” ตามคาดแม็กก็จัดเอาบาทาลูบพักตร์ไอ้บอดสมใจ

    “นี่ๆ พวกเรา” เสียงเจโนวาตะโกนเรียกพวกที่ยืนอยู่หน้ายาน “ไอ้ยานข้างหลังนี่มันคุ้นๆนะ” พลางชี้ไปทางเดินหลัง แม็กกับโยชิกิเห็นเข้าถึงกับหน้าถอดสี

    “รีบถอยออกมาโว้ย นั้นมันยานเซต้าบิท” โยชิกิตะโกนสุดเสียง เจโนวาเมื่อได้ยินดังนั้นก็แทบจะทำอะไรไม่ถูก “อย่ามัวแต่นิ่งสิฟ่ะ มาทางนี้เร็วเจโนวา” แม็กตะโกนช่วยอีกคน แต่เข้าไปอุ้มมันมาเลยจะดีกว่าไหมเนี่ย

    ระหว่างที่เจโนวากำลังสติหลุดลอยยานเซต้าบิทก็เริ่มลอยขึ้นพร้อมเพลง OP กันดั้มวิงดังสนั่น กัปตันมาซาลันที่เข้าประจำการศูนย์บัญชาการเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบสั่งลูกเรือติดต่อไปทางยานคิตตี้ทันที

    “คุณหนู สงสัยเราจะมีปัญหาอีกแล้ว” หน้าโทรมของมาซาลันโผล่ขึ้นทางมอนิเตอร์

    “มีอะไรอีกล่ะคุณกัปตันต๊อง”

    “เห็นยานที่ลอยขึ้นนั้นไหม” มาซาลันพูดพลางส่งภาพยานเซต้าบิทไปทางยานคุมิ

    “ยานประหลาดดีจัง มีอะไรอ่ะ”

    “นั้นคือยานเซต้าบิท ยานของงมงาย เดอะ คุณไสย นักฆ่ารับจ้างอันดับต้นๆของจักรวาล”

    “อย่าบอกนะว่า พวกนายเป็นเป้าของหมอนั้นอ่ะ”

    “ไม่ใช่หรอก เป้าหมายของมันแค่เจ้าเนียร์ แต่ว่าไปๆมาๆมันดันจ้องจะเก็บพวกเราหมดน่ะสิ”

    “เฮ้อ มีแต่เรื่องจริงๆนะ” คุมิบ่นเสียงอารมณ์ “อีกประมาณสามนาทีจะพร้อมออกนอกระบบ ทางฝั่งนู้นล่ะเป็นไง”

    “ราวๆห้านาที จะออกไปก่อนก็ได้นะคุณหนู”

    “โอเค งั้นชั้นไม่รอดนะกัปตันต๊อง” ว่าเสร็จคุมิก็ตัดสัญญาณมอนิเตอร์

    ยานเซต้าบิทลอยขึ้นจนได้มุมที่พอเหมาะก็สาดกระสุนใส่เจโนวาไม่ยั้งแต่โยชิกิยังไวพอรีบสร้างกำแพงน้ำแข็งปกป้องเอาไว้ “เฮ้ย เจโนวา แกรีบกลับไปที่ยานลิงน้อยเร็ว “ หนุ่มไร้เนตรตะโกนสั่ง

    “เออ ไม่ต้องบอกก็รู้หน่า” พูดเสร็จช่างซ่อมดวงซวยก็วิ่งสุดฝีเท้าไปทางยานลิงน้อย ซึ่งมีไพอารอรับอยู่หน้าประตู

    “เอาไงดีแม็ก” โยชิกิเดินมาถามแม็กที่อยู่ไม่ไกลกันนัก

    “ยานลิงน้อยพร้อมจะออกนอกระบบดาวในห้านาทีน่ะ” แม็กเอ่ยเสียงเรียบ

    “ห้านาทีงั้นเหรอ นั้นคือเวลาที่เราต้องซัดกับไอ้ยานเปรตนี่สินะ”

    “จริงๆ คือสี่นาที อย่าลืมสิเราต้องวิ่งขึ้นยานด้วยนะเผื่อเวลาหน่อย” แม็กยิ้มอย่างเยือกเย็นก่อนจะคว้าปืนคู่มาไว้ในมือทั้งสองข้าง “ลุยเลยไหม ??”

    “ไม่เห็นต้องถาม” โยชิกิและแม็กพุ่งตัวออกไปราวลูกกระสุน ยานเซต้าบิทสาดกระสุนปืนกลหวังจะยืงทั้งสองให้เป็นรู แต่สองหนุ่มแห่งดวงตกแดงหลบกระสุนพวกนี้สบายๆอยู่แล้ว แม็กได้ทีก็ประจุไฟฟ้าเข้าไปในปืนคู่ก่อนจะลั่นกระสุนคลื่นไฟฟ้าเข้าปะทะกับเกราะยานเซต้าบิทอย่างจัง ระหว่างนั้นเองโยชิกิที่ไปอยู่ใต้ทองยานแล้ว ก็คว้าดาบวอเทอร์บารอนศาสตราแห่งสมดุลน้ำทั้งสาม แช่แข็งเกราะของยานเหมือนคราวก่อน เมื่อตัวเกราะแข็งจนหมด ดาบเล่มยักษ์สีเหลืองอ่อนก็ซัดเกราะยานเซต้าบิทแตกกระจาย “นึกแล้วเชียวว่ายังเล่นมุขเดิมได้”

    ขณะที่ทั้งสองหลายจะซัดยานเซต้าบิทให้เป็นผุยผงปืนเลเซอร์ลูกแฝดก็ลั่นไกมาทางพวกเขา ทั้งโยชิกิและแม็กต่างต้องหลบกันให้วุ่น

    “ดูท่าตัวปัญหาจะมาแล้วนะ” แม็กเอ่ยช้าๆ เบื้องหน้าคือชายในชุดแฟชั่นยุค 70 ผมทรงอุลตร้าแมนกันแว่นกันแดดสุดเท่ห์ พร้อมปืนลูกซองเลเซอร์และดาบอัศวันเจได “สวัสดีแม็กแลนเซอร์ ดูท่าชั้นจะขี้เสร็จทันเวลานะ” งมงาย ก้าวเดินเข้ามากับอาวุธครบมือ

    “เหลืออีกกี่นาทีแม็ก” โยชิกิหันไปถามสหายที่ตั้งท่าพร้อม

    “ประมาณสามนาที” แม็กตอบสั้นๆ สายตายังจับจ้องไปทางงมงาย

    “แกมีหนี้กับไอ้บ้านั้นอยู่ใช่ไหม งั้นยานสับปะรังเคนี่ชั้นขอล่ะกันนะเพื่อน”

    “จัดไปเลยโยชชี่” สองดวงตกแดงยิ้มขึ้นราวกับพวกบ้าสงครามก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาศัครูเบื้องหน้า โดยที่พวกมาซาลันและคณะต่างคอยลุ้นเอาใจช่วยอยู่ในยานลิงน้อยพลางหาสุราและกับแกล้มมานั่งดูกันอย่างเพลิดเพลินจำเร็ญใจ

    เหลืออีกสามนาทียานลิงน้อยจะหนีสู่ห่วงบรรยากาศ.........



    Talk Talk Talk

    ขอประทานโทษจริงๆครับออกช้ามากๆ เนื่องด้วยผมติดสอบนี่ยังสอบไม่เสร็จเลยมุขเลยอาจฝืดๆไปบ้างเพราะมีแต่เรื่องเครียดๆเรื่องฮาๆไม่ค่อยเข้าสมองเลย ผับผ่าสิ

    ตอนนี้เห็นฟิครับสมัครโผล่มาเยอะแยะเต็มไปด้วยผมเองก็ลงไปหมดทุกฟิคนะ มีข้อสังเกตอยู่ว่าตอนนี้มันเกิดกลุ่มแก็งของพวกเราขึ้นมา คือมีผม แม็กคุง อัลคุง พี่ยู เนียร์ ไพอา รู้สึกพวกที่กล่าวๆมานี่จะมีความสัมพันธ์ในฟิคตรงกันหมด 555+ น่าตั้งเป็นขบวนการไปเลยแหะ ผมว่าน่าหนุกนะ เอ้ามีใครจะมาบ้ากะพวกเราอีกบ้าง วู้วววว

    Special Thanks


    1.พี่ชาลอต (Charlotte)
    2.พีอีซาค Evan Ψzac £ The crow
    3.คุณ Pialo ผมก็ไม่แน่ใจว่าอ่านเยี่ยงไรก็เอาเท่าที่เห็นไปนะคับ
    4.และเหล่าตัวละครหน้าเก่าแก่ทั้งหลาย

    And All Friends And Fans THANKS !!!

    EDIT ไม่ใช่แหละไอ้น้องรัก แกมันพลาดหยิบไพ่ที่ไว้โกงออกมาเองนะ เฮียมาซาลันไม่ผิดนะเฟ้ย
  18. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    ชื่อนั้นมันอ่านว่าเปียโลชัดๆ = ='a หนอยยย...ว่าจะโกงเขาซักกะหน่อย ไอ้กัปตันปากเสียไม่น่าพูดเลยนะเฟ้ย ปากพาซวยชัดๆ =w="

    อ้าวโดนตูสิแบบนี้... เฮียโยแช่งป๋มอ้า TT^TT

    ปล.ลากกันจังไปด้วยก็ดีนะเฮีย จะได้มีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ 555+ [action]เผ่นป่าราบบบบ[/action]

    EDIT - ผมหมายถึงตอนที่กัปตันปากพาซวยพูดว่า “อืม แต่ถ้ามันยังเอ๋อๆอยู่แบบนี้คงไม่เป็นไรมั้ง” ตังหากล่ะ ถ้าไม่พูดผมคงไม่เอ๋อหรอกจริงมั้ย? = ='a
  19. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    "โยชชี่" ==" คุ้นๆน่ะ วิธีเรียกแบบนี้ ว่าแต่อย่าลืมหาปอดใหม่มาใส่ด้วยน่ะ เอิ้กๆๆ

    ป.ล. ผมสอบเสร็จแล้ว ยิ้ปปี้~~ มีแววไม่Fด้วย

    /me แว่บมาอ่านแล้วก็ไปปั่นฟิคต่อ
  20. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    โอย ฮา จริงๆเลยพี่น้องเอ๋ย “ปอดตูหายไปข้างนึง” ประโยคนี้มันโดนใจจริงๆ 555


    [action]แว่บ ไปปั่นงานของตัวเองบ้างเช่นกัน[/action]
  21. Gunfinal

    Gunfinal Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    น่าสงสารจัง ปอดหายไปข้างนึ่ง ทำไมไม่หายทั้งสองข้างเลยนะ ตับไตไส้พุงโยนให้เป็ดกินให้หมด (หึหึหึหึ)
  22. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    สาวน้อยสาวใหญ่....
    [action]ใครสาวใหญ่ฮ๊าาาาาา ชั้นพึ่งจะ19เองนะ -A-!!!!!!!!!!![/action]


    เสียใจนะโย ข้อสอบทางนี้มีแต่วิเคราะห์เขียน ไม่มีความจำหรอก กร๊ากกกก
  23. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    โอเคโยจัง !!!! ช่างซ่อมช่างซ่อมยานคนนี้จะตามเจ้าไปสุดขอบจักรวาลเอง 555+ ขอร่วมขบวนการด้วยคนน้า!!!!!!!

    อย่างที่กันจังบอกน่ะเเหละ ปอดของเเกน่าจะหายไปเลยสองข้างน่ะ ก๊ากกกก จะได้ไม่ต้องหายใจ หึ หึ หึ หึ

    ว่าเเต่เจ๊ยูอายุ19 จิงดิ!!!!!!!! เท่าผมเลยเเฮะ ต่อไปก็เรียกยูจังละกัน 555+ ( จะโดนเชือดไหมน้อ )
  24. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    ==" ไอ้เราก็นึกว่าท่านอายุมากกว่าตั้งนาน กลายเป็นพอๆกันเหรอเนี่ย (ไม่เป็นไร สรรพนามยังไม่เปลี่ยน)
  25. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: สงครามอวกาศมั่วซั่ว All final no mercy !! ในที่สุดมันก็อัพ55

    ขอโทษที่ใช้รีพลายฟิคตัวเองเปลือง...แต่อยากแจมหน่อยนึง

    อยากจะบอกว่าผมก็ 19 ก้ากๆๆๆๆ แต่เพ่ยูขอเรียกแบบนี้เหอะเวลาผมเรียกแบบนี้แล้วมันสะใจยังไงบอกไม่ถูก 555+

    ว่าแต่กันจังถ้าเครื่องในพี่มันหายมันก็ตายน่ะสิโว้ย ตัวเอกจะรีบตายไปไหน ก้ากๆๆๆๆๆๆ

    ส่วนไอ้เรื่องสอบนั้นผมก็ไม่เครียดเช่นกันเพราะการสอบของผมขึ้นอยู่กับการซ้อมเท่านั้น T T จะว่าไปตูยังเล่นเพลงสอบไม่ได้เลยนี่หว่า แง้ๆๆๆๆ

Share This Page