ทำไมรู้สึกผู้ชายให้ความร่วมมือกันเยอะจัง ^^"? พลังแห่งพี่ชายสินะ (ฮา) แค่แสดงความคิดเห็นนิดหน่อย เลือกไปใช้ตามสมควรแล้วกันนะคะ เนื่องด้วยไม่ได้เป็นผู้มีประสบการณ์ เลยอาจจะช่วยมากไม่ได้ค่ะ =A=" แนะนำให้พี่ชายอดทนนะคะ เพราะเรื่องนี้เป็นแค่อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตน้องสาวเท่านั้นเอง ถ้าหากคนแรกเจ็บขนาดนี้ แล้วคนต่อไปจะเป็นยังไง ให้เขาเรียนรู้ต่อไปด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ ทำตัวเป็นผู้ดูอยู่ห่างๆ อย่าไปเสนอตัวช่วยแบบโอ๋ตลอดเวลา หรือไปหักดิบเขาแรงๆ โดยการใส่ความคิดของเราเข้าไป เราว่าถ้าอยากแสดงจุดยืนก็คือคอยเป็นกำลังใจ อยู่ข้างๆ ตลอดเวลาน้องสาวต้องการเราดีกว่าค่ะ (โอ้ว...ฟังดูเลิศเลอชะมัด ฮา) เรื่องเซนต์ซีทีฟพอเข้าใจบ้าง เพราะมีน้องสาวเป็นคนขี้เหงาเหมือนกัน เรื่องนี้แล้วแต่บุคคลจริงๆ นะ ^^" การจะพูดว่าอย่าเหงาเนี่ยมันยาก (ขนาดน้องสาวยังชอบออกจากบ้านไปเล่นกับเพื่อนบ่อยๆ เลย เพราะเป็นคนอยู่กับตัวเองไม่ได้ ผิดกับพี่อย่างสิ้นเชิง พวกไม่เอาสังคม เอิ๊ก~) คนเราบางทีก็ต้องเรียนรู้ค่ะ มีบ้างเจ็บแล้วจำ เจ็บแล้วเจ็บซ้ำ ครั้งแรกก็จำ สิบครั้งก็ไม่จำ ขึ้นอยู่กับคนไป น่าแปลกนะ ส่วนตัวว่าถ้าหากผู้หญิงมีพี่ชายดีขนาดนี้น่าจะเป็นคนขี้อ้อนซะมากกว่าเป็นคนขี้เหงา (ฮา) เพื่อนสนิทคนนึงพอเลิกกับแฟนก็ฟูมฟายแบบนี้แหละค่ะ แต่พอเรียนจบเข้ามหาวิทยาลัย สังคมก็เปลี่ยนไป ฉากเดิมๆ ก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ก็ลันลาได้เหมือนก่อนแล้ว เวลาช่วยทุกอย่างเองค่ะ อดทนหน่อย จะเป็นกำลังใจให้นะคะ =w=! (ว่าแต่ทำไมสาวๆ เดี๋ยวนี้เป็นงี้เยอะจัง = = ส่วนตัวสังเกตจากสังคมรอบตัว อยู่ในเมืองใหญ่จ๋าเลยนะคะ พวกคุณหนูๆ ติดบ้านน่ะไม่ค่อยอยากมีหรอกแฟน เพราะรำคาญ...อยู่กับแม่ดีกว่า แต่กับเด็กบางกลุ่มซึ่งมักจะเป็นคนคล้ายคลึงกัน ....อยากมีแฟน ทำอะไรก็ได้ขอให้มีแฟน ผู้ชายจะเล๊วเลวยังไง แค่ป้อคำเดียว รักเธอจัง รักเธอเสมอ รักเธอคนเดียว < แม้ความจริงจะกิ๊กกับชาวบ้านคนละวัน ก็หลงเชื่อหัวปักหัวปำ.... สงสัยเพราะประชากรผู้ชายมันน้อย... ฉันควรจะต้องรีบหาก่อนที่จะโดนสาวๆ เหล่านี้ตะครุบหายไปหมดรึเปล่านะ (ฮา) อิจฉาผู้ชายจริงๆ ค่ะ =w=!)
ยังไงเสีย ปัญหาที่เห็นๆในกระทู้นี้ ผมก็เห็นว่าส่วนหนึ่งเพราะการมีรักแนวชู้สาวก่อนวัยอันควรน่ะ มันจึงผ่านขั้นตอนสร้างเกราะป้องกันไปแล้ว เข้าไปเจอปัญหา ก็ต้องแนะวิธีแก้ปัญหา (ทั้งที่ถ้าป้องกันได้แต่แรกมันง่ายกว่า ได้ผลกว่าแท้ๆ) วิธีแก้ปัญหาโดยการ รีบไปหาคนใหม่ทดแทน ผมไม่แนะนำ เพราะมีความเสี่ยงสูง ไม่มีอะไรรับประกันว่าคนใหม่ที่เสียบเข้ามา จะดีกว่าเดิม ถ้าเกิดได้คนไม่ดี อาการจะหนักกว่าเดิมเพราะโดนซ้ำแผลเก่า บางทีเรายังไม่เห็นปมจริงของปัญหา เพราะน้องยังไม่เปิดใจพอ คนพี่ก็ต้องพยายามเข้าใจ ศึกษาให้ได้มาก ว่าจริงๆแล้ว น้องเขามีกระบวนความคิดยังไง แล้วปมลึกๆมีอะไร (ถ้าเป็นเทคนิคที่เป็นรูปธรรมหน่อย คงต้องทำ daily log , แต่ละวันบันทึกว่า .... เจอเหตุการณ์อะไร-รู้สึกอย่างไร-เพราะอะไรจึงรู้สึกอย่างนั้น-แล้วตอบสนองออกไปอย่างไร ,เพื่อทำความเข้าใจตัวเอง, แต่เรื่องนี้ก็ต้องทำด้วยตัวน้องเขาเองอีก และ ไม่ใช่เทคนิคที่คนอดทนจะทำได้นานกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ชอบอะไรง่ายๆ ให้คนอื่นช่วยขุดให้) แล้วเรื่องทุกข์จากภายในใจตัวเองแบบนี้ มักจะมาจาก ทุกข์เพราะคิด , ทุกข์จริงๆมันผ่านไปแล้ว แล้วเราคิดซ้ำๆทำร้ายตัวเองอยู่นานอีกหลายชั่วโมง (กลไกความคิด, ความคิดจริงๆแล้วเป็นการทวนหรือจำลองเหตุการณ์ขึ้นมาในมโนทวาร ดังนั้นถ้า เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ปรุงแต่งอารมณ์ด้านลบ , แล้วคิดซ้ำๆอย่างงั้น ก็เหมือนเจอเหตุการณ์แบบนั้นไปหลายๆรอบ) ...thinking -> feeling -> thinking -> feeling... มันคือวงจรอุบาทว์ ที่ดับได้ด้วยการ awareness (จิตวิทยาใช้คำนี้ แต่แปลไทยคือ เจริญสติ รู้ตัวทั่วพร้อมนั่นเอง) แต่ไม่ใช่ทำครั้งเดียวหายเลย มันจะโผล่มาเป็นพักๆ ก็รู้ให้ทันมันทุกครั้ง เวลาปฏิบัติธรรม ก็ให้ทำแนวๆนี้ล่ะ แต่มีคนช่วยบังคับ อาจ...จะดีกว่าสำหรับคนไม่เคยฝึกตนมาก่อน(ทำเอง อาจจะถอนไปใจกลางทางเร็วๆง่ายๆ) มันเป็นอิทธิพลเชิงสังคมน่ะ คนอื่นมีอะไรเป็นพื้นฐาน ถ้าเราไม่มี จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ อยากมีบ้าง, (ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ แต่เป็นเกือบทุกๆเรื่อง กระเป๋าแบรน มือถือ iphone ipod mp3 mp4 ฯลฯ) เด็กๆในสังคมแวดล้อมทุกวันนี้ ถ้าสถาบันครอบครัวไม่อบอุ่น ไม่แข็งแรงจริงๆ เห็นเพื่อนๆมีแฟนกัน แล้วมาอวดมาจู๋จี๋ให้อิจฉากันเล่น(หารู้ไม่ เขากำลังเล่นกงจักรหน้าตาเหมือนดอกบัว) ไม่แคล้วลึกๆในใจ ก็อยากมีบ้าง ด้วยความด้อยประสบการณ์ จึงไปจับได้ตัวอะไรมาก็ไม่รู้มาเป็นแฟน (เปรียบดั่ง ไปซื้อแตงโม แล้วเลือกไม่เป็น ซื้อมาอาจได้แตงโมเนื้อเน่าข้างในกินไม่ได้ เสียตังฟรี) ประชากรชายกับหญิง สัดส่วนไม่ต่างกัน แต่ที่เห็นเหมือนผู้ชายน้อย เป็นเพราะเรามองในมุมมองของคนในเมือง หรือ คนในสถานศึกษา ที่มีผู้ชายอยู่น้อยกว่าหญิงต่างหาก เด็กผู้ชายถ้าเลี้ยงไม่ดี พลาดออกไปจากระบบการศึกษา ก็ไปทำงานแนวเป็นกลุ่มประชากรฐานแรงงานไป หรือไม่ก็ยกพวกตีกันตายไปเยอะ กว่าจะผ่านวัยคะนองไปได้ เหลือรอดจำนวนน้อยกว่าหญิง โดยความเข้าใจส่วนตัว สัดส่วนคนเรียนในระบบสามัญไปจนจบอุดมศึกษา ผู้หญิงทำได้ดีกว่า จำนวนมากกว่า
เรื่องปฏิบัติธรรมก็ดีเหมือนกันนะครับ แต่ว่าเท่าที่ผมมอง ตอนนี้จิตใจน้องสาวท่านยังไม่นิ่งพอ(แหงๆ) ถ้าไปปฏิบัติยังไงอาจมีสิทธิไปนั่งฟุ้งเสียมาก คิดว่าใช้วิธีกลบความทุกข์ด้วยความเฮฮาประสามนุษย์โลกไปก่อนดีกว่า จริงๆยุให้น้องสาวไปเที่ยววะฮู้~กับกลุ่มก๊วนเพื่อนผู้หญิงด้วยกันจะดีมากเลย เพื่อนก็เป็นอีกทางที่จะเียียวยาได้สำหรับผู้หญิง (เพิ่งดู sex & the city มา ผมว่านั่นเป็นวิธีที่ฉลาดทีเดียว) แต่ก็ต้องเป็นเพื่อนดี ไม่ใช่เพื่อนใจแตกพาไปหาผู้ชายอีกคนมาตอแหล เรื่องปฏิบัติธรรม ก็อยากให้ลองไปอยู่นะ แต่ผมไม่มีปัญญาพอจะบอกได้ว่าอาการแบบนี้ควรไปปฏิบัติที่ไหนและยังไง แต่ถ้าถามที่ปฏิบัติธรรมแบบธรรมดาๆ ลองดู "เสถียรธรรมสถาน" ของแม่ชีสันศนีย์ ก็ดีนะครับ อยู่ท่ามกลางหมู่มิตรหญิง ปลอดภัยด้วย สงบ สบายใจด้วย แต่ผมไม่เคยไป(แน่ล่ะ)เลยไม่ทราบเงื่อนไขว่ามีคอร์สอะไรบ้าง ปล. ยุวพุทธิกสมาคมก็ดีในเบื้องต้น แต่สมัครยากไปหน่อยนึง
ผู้ชายดีดียังมีอีกเยอะ แต่เขาไม่เดินเข้ามาให้คุณเห็น(ไม่รวมผมละกัน) by: คนกินแห้ว จิตใจของคนนั้นซับซ้อน และการกระทำก็ยากจะคาดเดา บางทีก่อนจะเลือกวิธีอะไร ต้องคิดให้รอบคอบนะครับ บางทีน้องสาวของคุณอาจจะมีมุมที่ไม่เคยแสดงให้คนในบ้านรุ้ก็ใด้ แต่เฉพาะชายคนนั้นเท่านั้นที่เธอแสดงให้เห็น ขีวิตคือของน้องคุณถ้าเธอมีปัญหาเกินจะแบกใว้คนเดียว ถ้าคุณช่วยเธอใด้คุณก็ถือเป็นพี่ชายที่ดี แต่คนเรานอกจากจะให้คนอื่นช่วย เราก็ต้องช่วยตัวเองด้วยนะครับ คนsensitiveเข้าใจยากครับ ต้องดูให้นานและเข้าใจให้ลึกลึก ปัญหาของน้องคุณครั้งนี้อาจจะเรียกใด้ว่า เป็นการทดสอบ(ผมขอเปรียบเทียบแบบนี้นะครับ ถ้าไม่ชอบขออภัย) ทดสอบน้องคุณว่าจะพาตัวเองผ่านพ้นจากปัญหานี่ใด้เยี่ยงไร และคุณที่บอกว่าจะช่วยน้องของคุณ คุณก็ต้องทดสอบด้วยว่าคุณจะช่วยน้องอย่างไร และจะช่วยใด้ดีขนาดไหน และอย่านะครับอย่าพึ่งโทษตัวเองและล้มก่อนน้องคุณเอง เพราะถ้าคุณคือคนในครอบครัวที่คอยช่วยเธอล้มลงละก็ ................................(อันนี้ต้องคิดเอาเองนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น) ฉะนั้นเข้มแข็งใว้ครับ(พี่)ชายต้องปกป้อง(น้อง)สาว ที่บางท่านบอกว่าผู้หญิงชอบผู้ชายเลว ................อืมน่าคิด แต่ทว่า เขาเลว เลว.....แต่..... ยังไงก็ต้องมีแต่นะครับผู้หญิงถึงยังรักอยู่ ผมเคยลองเดาดูเล่นเล่นนะครับว่า ผู้ชายเลว แต่ เป็นเพื่อนยามเหงาใด้ถูกจังหวะ ผู้ชายเลว แต่ เข้าใจว่าผู้หญิงชอบอะไรไม่ชอบอะไร และรู้ใจฝ่ายหญิง ผู้ชายเลว แต่ เข้าใจว่าผู้หญิงนั้นมีจุดอะไรของฝ่ายหญิงที่ตนเองนำมาใช้ใด้โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ระแวง ผู้ชายเลว แต่ ปากหวานมีคารมมัดใจผู้หญิง ผู้ชายเลว แต่ ดันเป็นคนที่มีอย่างอื่นใกล้เคียงกับสเป็กของผู้หญิงคนนั้น ผู้ชายเลว แต่ ยังไงผู้หญิงก็จะรักชายคนนี้(อันนี้สำคัญ) ก็แค่ตัวอย่างนะครับที่ผมเคยเห็นมาด้วยตนเอง ซึ่งคุณก็ต้องรู้เรื่องของชายคนนี้ให้มากที่สุดด้วยนะครับ ไ่ม่แน่เพื่อคุณจะใด้เข้าใจน้องของคุณในอีกมุมก็ใด้ใครจะไปรู้ ปล. ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้คือความเห็นส่วนตัวและเสนอแนะนะครับ (ถึงจะนั่งเหงาคนเดียวมาทั้งชีวิตก็เถอะ) มิใด้มีเจตนาจะสั่งสอนหรือว่าคุณคนตั้งกระทู้นั้น ให้น้องคุณทำใจให้สบายซักนิด และอย่างน้อยให้น้องของคุณหลับสนิทนะครับ (ที่ผมพูดถึงขนาดนี้เพราะ ผมเคยแห้วรับประทานถึงขนาดมองโลกเป็นสีดำ จนไม่อยากให้มีคนป็นเหมือนผมมากกว่านี้) ความรักไม่สามารถ....... เอาเรียงความ100หน้ามาอธิบาย เอารูปภาพมาสะกดใจ เอาทฏษฏี (ทิดสะดีสะกดไงลืม) มาคบคิด เอาบทกวีมาาร่ายสะเหนอะหู เอาบอยป๊อดมาร้อยทำนอง เอาโชคชะตามากำหนด เอาพรมลิขิตมาดลจิต และหาเหตุผลมารับรอง โชคดีมีความความสุขกับคนที่คุณรักและรักคุณครับทุกท่าน
สำหรับผมคิดว่า ความรักตราบใดที่มันยังอยู่ในจักรวาลที่อยู่ภายใต้กฏเวลาและสถานที่อยู่ ผมว่ามันก็น่าจะมีข้อจำกัด คำอธิบาย ทฤษฏี หรือ อัลกอริทึ่มที่แน่นอนของมันอยู่ครับ เว้นแต่มันจะมาจากนอกกาลเวลา ที่คนทั่วไปเรียกมันว่าพระเจ้า กฏต่างๆในจักรวาลเลยใช้กับมันไม่ได้ ผู้หญิงมักจะแพ้ผู้ชายเลว เหมือนที่อีวา เชื่อ งูในสวนอีเดน ทั้งที่งูนั้น ทั้งปลิ้นปล้อน โกหก ลิ้น2แฉก และรูปร่างไม่น่าไว้ใจ แต่อีวาก็เชื่องู จนทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกขับออกจากสวรรค์
