ก็ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ได้ความคิดที่แตกต่างออกไปดีเลย แต่เรื่องทำสิ่งที่ชอบน่ะครับ ปัญหาของผมคือ "สิ่งที่ชอบคืออะไร" ^^' เพราะกรอบของทุนนิยมจริงๆคือ การเปิดมหาลัยเพื่อป้อนคนเข้าโรงงานหรือบริษัท บางที่ยิ่งเรียนไปผมยิ่งงงๆ "ตกลงตูชอบอะไรวะ" ทั้งที่ตอนเด็กฝันออกจะใหญ่แท้ๆ อยากทำเกม อยากเขียนการ์ตูน...แต่ด้วยปัจจัยบางอย่างมันก็ย่อความฝันเล็กลงทุกทีน่ะครับ แต่ก็อืม ลองทำแบบที่ลุงบอกก็ได้ที่ว่า "ก็ใช้ชีวิตตาม จังหวะที่มันควรจะเป็นตามปกติไป ก็แล้วกันครับ "
แล้วแต่ความต้องการของชีวิตค่ะ โดยส่วนตัวที่เรียนต่อเพราะ 1. ถ้าไม่เรียนต่อตอนนั้นเลย อีนี่จะขี้เกียจเรียนค่ะ ถ้าไปทำงานแล้วจะไม่ยอมไปเรียนแน่เลยเรียนให้จบๆ เอาใบไว้ก่อน 2. ไปเอาประสบการณ์และภาษาค่ะ เพราะทางบ้านบังคับโทนอกเขตบริเวณประเทศไทย เพื่อให้ไม่กระดากภาษา.... แถมไกลหูไกลตา ได้ประสบการณ์การพึ่งตัวเองเต็มที่ดีค่ะ ถ้าคุณShuu ไม่ค่อยทีเกี่ยวกะข้างต้นคงยังไม่ต้องก็ได้มั้งค่ะ เพราะโทเนี่ยจริงๆก็กระดาษใบเดียว ไปรู้งานรู้ชีวิตอีกทีก็ตอนทำงานจริงๆละค่ะ หลายๆคนบอกว่า ต้องทำงานก่อนสัก 2-3 ปีแล้วไปเรียนถึงจะรู้เรื่องมันก็จริงในบางสาขาเฉพาะที่ต้องมีประสบการณ์สักนิด เพื่อให้เรียนได้ง่ายขึ้นค่ะ เช่นในสาขา Business ถ้าทำงานมาก่อนจะรู้ระบบ และพอจะเข้าใจกลไกตลาดได้ง่ายกว่าคนไม่เคยทำงาน และในระดับโท เค้าจะเน้นด้านการพรีเซ็นต์ ถ้ามีประสบการณ์ทำงานมากก่อนย่อมได้เปรียบที่จำนำเป็นหัวข้อในการพูด ส่วนเรื่องที่ว่า คนเค้าเอาคนจบตรีเข้าทำงานก่อนโท มันก็จริงค่ะ หลายบริษัทเค้าต้องการคนที่ ฝึกงานง่าย และไม่ต้องจ่ายสูงค่ะ ส่วนโทเนี่ยเค้าจะต้องการก็ต่อเมื่อ เป็นสาขาที่เค้าต้องการตัวจริงๆ และต้องเป็นเชี่ยวชาญโปรไปเลย ไม่มีการสอนงานเรียกว่า เข้าไปปุ๊บทำงานได้เลย โดยไม่ต้องมีการสอนงาน แต่ถ้าตำแหน่งเป็นแบบไม่ต้องเจาะจงมากนัก เค้าก็รับตรีแหละค่ะ ถูกดี สอนง่ายและยืดหยุนกว่า ส่วนตัวตอนนี้จบโทแล้ว โดนไล่ไปเรียนตั้งแต่ยังไม่รับปริญญา ตอนนี้ถ้าอยากจะเรียนอีกก็อยากเรียนเฉพาะวิชาที่อยากรู้เป็นตัวๆไป ไม่เอาใบอะไรต่อทั้งนั้น เพราะทราบแล้วว่าต้องใช้งานวิชาอะไรแล้วอยากรู้อะไรเพิ่มเติมค่ะ
อีกไม่กี่เดือน ผมก็จะจบปริญญาตรี สาย เทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ผมคิดว่า ความรู้ที่ได้มา มันไม่เพียงพอ มันไม่ได้ในห้องเรียน ก็คงยังไม่ต่อโท น่าจะดีกว่า ไปหาเรียนอะไรเฉพาะทาง ที่จะใช้ืทำงานได้จริงๆ ก่อน เมื่อจบจริงๆ แม่คงให้ไปเีัรียนวิชาชีพครู ถ้าได้เป็นครูสอนในโรงเรียนชนบท ก็คงเรียนโทต่ออีกหน่อย
เรื่องเรียนโทต่อเลย ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลยแฮะ(ถึงแม่อยากจะให้เรียนก็เหอะ) ..... เพราะที่เรียนวิศวะอยู่นี่ ยังเหมือนความรู้ไม่เข้าหัวเลย เรียนไปทำไมเนี่ยตรู ...... หางานทำแล้วเรียนรู้งานเอาดาบหน้าเลยดีกว่า ถ้ารู้สึกว่าชอบงานไหนเป็นพิเศษ ก็คิดว่าจะไปเรียนให้มันรู้ซึ้งในด้านนั้นๆ ไปเลยน่าจะ work สำหรับผมนะ ^^!! เพราะเท่าที่เรียนมา วิชาไหนที่ชอบนี่ A B+ กระฉููด(web,app,dev) ......... แต่วิชาอื่น D D+ C กระจาย - -''(วิชาในเมนที่เลือกไว้ตอนขึ้นปี 3) เกรดมันออกมาอย่างนี้ ชีวิมผมก็คงตามที่กล่าวเอาไว้แล้วแหละ แหะๆ
พูดยากนะ ผมสรุปกลางๆว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านฐานะ และความพร้อมของแต่ละคน แต่ขอออกตัวอย่างน่าไม่อายว่า ในฐานะคนที่จบมาแล้วทำงานเลย ผมก็อาจจะเข้าข้างตัวเองสักหน่อย คือผมว่าจบมาแล้วทำงานเลยนี่ก็มีข้อดีเยอะนะ ทัศนะการมองโลกของคุณจะเปลี่ยนไปมากๆๆ เพราะคุณได้เข้าสู่ที่เรียกว่า "สังคม" อย่างแท้จริง และเป็นสังคมที่มหาลัยไม่มีวันมีด้วย อย่างที่ผู้ใหญ่มักจะบอกนั่นแหละครับว่าโลกการทำงานกับโลกการเรียนน่ะ ต่างกันโคตร... ชนิดที่ว่าถ้ายั้งตัวเองไม่อยู่ก็อาจลาออกเช้าลาออกเย็นได้ หรือไม่ก็ถูกกลืนไปเลย แต่ exp. ตรงนี้นี่แหละที่ผมว่ามันจะมีประโยชนืเมื่อคุณกลับไปเรียนต่อในตำรา(เรียนโท)อีกครั้ง เพราะมุมมองคุณจะกว้างขึ้น และจะเข้าใจสังคมผ่านตำรามากขึ้น ไม่เหมือนตอนที่เราเรียนซึ่งเรารุ้อยู่แต่เพียงสิ่งที่อยู่รอบข้าง ไม่ใช่ความเป็นจริงของโลก แต่ถ้ามีโอกาสและมีเงิน ผมเชียร์ให้เรียนต่อเลยนะครับ อย่างที่หลายๆคนบอกนั่นแหละ พอทำงานแล้วเราจะเริ่มล้า และเริ่มปักคาอยู่กับการหาเงินๆๆๆ (อย่ามาบอกนะว่าเงินไม่มีความหมาย =A=) จนไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว ดังนั้นถ้าเรียนได้เรียนเลย จบมามีใบปริญญาสูงๆเบิกทางการทำงานให้ได้ตำแหน่งดีๆเงินเดือนเยอะๆ ผมว่ามันเป็นอะไรที่สบายนะ อย่ามองว่าปริญญาเป็นกระดาษใบเดียว มันอาจจะเป็นเช่นนั้นจริง แต่โลกเราไม่ได้คิดอย่างนี้ ถ้าทนกับเงินเดือน 6000-7000 ได้ก็โอเค แต่ถ้าไม่ล่ะก็...ตะกายหาไอ้กระดาษแผ่นเดียวนั่นเข้าเถอะ ไม่งั้นเราอยู่บนโลกนี้ไม่ได้จริงๆนะตัว = = นอกเรื่องไปป่าวก็ไม่รู้นะ แต่ว่า... ท้ายสุดจะทำอะไร ก็ดูใจของตัวเองเป็นหลักนะครับ อ้อ อย่าลืมคนข้างหลังเราด้วยล่ะ จริงครับ = = ยกเว้นสายอาจารย์นะ คือถ้าอยากเป็นอาจารย์ ก็คว้าโทไว้ก่อนเลย เอกได้ยิ่งดี สิ่งที่ต้องบอกอย่างจริงใจคือ เมือ่ออกจากมหาลัยอย่ากอดอุดมการณ์ไว้กับตัว ไม่อย่างนั้นคุณจะถูกกระแสสังคมแซงไปเรื่อยๆและเรื่อยๆจนกลายเป็นอะไรบางอย่างที่อยู่กับโลกไม่ได้ ผมไม่ได้ให้ละทิ้งอุดมการณ์(เพราะสมัยเรียนผมก็ซ้ายจัด และตอนนี้ลึกๆก็ยังไม่ทิ้ง)เพราะอุดมการณ์เป็นสิ่งที่ดีและคอยค้ำเราไว้ไม่ให้กลายเป็นแบบคนเห็นแก่ตัว แต่ถ้าเมื่อไรมัวยึดมั่นถือมั่นกับความเป็นตัวของตัวเองหรือตั้งตัวแอนตี้ค่านิยมสังคมไปซะหมด แบบอะไรๆก็ไม่เอา ไอ้นั่นก็ค่านิยม ไอ้นี่ก็ค่านิยม เมื่อนั้นเราจะแย่ครับ ยังไงๆก็ขอให้เลือกทางเดินที่ตัวเองชอบละกันนะ ว่าแต่ผมเองก็..ลึกๆที่ทำงานไปก่อนก็เพราะตัวเองยังไม่รู้เลยว่าจะต่อสาขาวิชาอะไรดี กำลังหลายใจ ^^"
อาจารย์ส่วนใหญ่ จะแนะนำให้ทำงานก่อนครับ , โดยเฉพาะสายการเรียน ที่ไปต่อโทได้หลายสาขามากๆๆ เพื่อจะได้รู้ว่า อยากไปสายไหน , หรือ อยากไปต่อของคณะอื่นๆ( เพราะเลือก ตรี ในคณะที่ตัวเองไม่ได้ชอบสุดจิตใจ มาตั้งแต่ต้น ) ก็จะได้รู้จักตัวเอง จากการทำงาน อีกประการคือ ประสบการณ์ทำงานของเรา ที่จะเอาไปเขียน Resume จะนับตั้งแต่ปีที่เราเริ่มทำงาน , และ ถึงจะไปเรียนต่อ ก็จะนับปีที่กำลังเรียนนั้นๆไปด้วย( ดูเหมือนโกงน่ะ แต่หลายๆที่มันนับได้ ^^! ) ถือเป็นปีการทำงานได้ ; แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลายๆอย่างด้วย ซึ่งเห็นด้วยกับพี่นุกในหลายกรณี ที่น่าจะเรียนต่อไปได้เลย EDIT แล้วก็ตามที่ อีวาน บอกครับ ส่วนใหญ่ จบโท จบเอก ต้องไปสายอาจารย์ ก็จะเหมาะสมมากเลย
เป็นผมเลือกเรียนครับเพราะสำหรับผมชีวิตคือการศึกษาแต่ก็นั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเรียนต่อหรือทำงานก็ตามผมก็คิดว่ามันเป็นการศึกษาอยู่ดี เพราะผมเป็นคนช่างศึกษา(ทั้งเรื่องดีและไม่ดีถูกหรือผิด) ไม่งั้นคงไม่ตั้งชื่อว่า "นักศึกษาอันงมงายหรอกครับ"
เพิ่งจบมาก็ทำงานก่อนครับ ขอค้นหาตัวเองก่อน แล้วค่อยเรียนต่อในสิ่งที่ตัวเองชอบจะได้เอามาใช้เป็นประโยชน์ในการทำงานได้ (จริงๆถ้ามีปัญญาอยากเรียนถึงเอกเลยอ่ะ -A- แต่แค่โทก็ป๊อดแล้วกร๊ากกกกก ) ผมชอบทั้งเรียนทั้งทำงานอ่ะ มันสนุกกันคนละอย่าง ถึงจะเจอปัญหาเยอะพอๆกันก็ตาม แล้วผมก็เห็นด้วยกับอีวานว่าปริญญาไม่ใช่แค่กระดาษใบเดียว เพียงแต่ว่าปริญญาแค่อย่างเดียวไม่ได้เป็นตัวรับประกันว่าคุณจะได้งานดี มันต้องมีทั้งความพยายาม (ซึ่งส่วนหนึ่งแสดงให้เห็นได้จากใบปริญญา) ความกล้า โชค ดวง และโอกาสด้วย คนได้เกรดดีแต่โลกทัศน์แคบมีเยอะแยะไปครับ ส่วนเรื่องบริษัทเลือกคนจบตรีหรือโทก่อน อันนี้ผมแล้วแต่ตำแหน่งที่เปิดว่างอยู่มากกว่า บริษัทต้องตีค่างานว่างานที่เปิดรับอยู่เนี่ยมันต้องใช้ความรู้ระดับไหน ถ้าความรู้แค่ ป.ตรี ทำได้ เขาก็อาจจะไม่รับปริญญาโท ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาเรื่องเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายให้ได้ไม่ถึงน่ะแหละครับ เพราะแต่ละตำแหน่งมันก็มี range เงินเดือนที่บริษัทสามารถจ่ายให้ได้อยู่อ่ะ ( ปริญญาโทคงไม่ขอเงินเดือนเท่าปริญญาตรีอ่ะ ใช่ม้า ) บางที่รับแต่ปริญญาโทไม่รับตรีก็มีครับ สุดท้ายนี้ผมคิดว่า ความฝันอ่ะมีได้ แต่ตัวเราเองต้องมีความพยายาม ต้องนึกถึงความเป็นจริงแล้วก็คนในครอบครัวด้วยแค่นั้นแหละเน้อ
ตอนนี้ข้านอยก็ ทำงานส่งตัวเองเรียนอยู่อะ....เหนือย....หน่อย...แต่ก้..ทำให้เราเห็นคุณค่าของเงิน..กับมีความรับผิดชอบมากขึ้น... ว่าแต่ ปโท ไมมันแพงจัง..ค่าเทอมโหด..
ขึ้นอยู่กับฐานะทางบ้านในตอนนั้นด้วย ถ้าฐานะไม่ลำบาก หรือไม่พร้อมทำงาน = เรียนต่อในสายที่ต้องการ ถ้าฐานะไม่ดีนัก หรือ พร้อมรับผิดชอบ หรือ ริอยากแต่งงานมีครอบครัว = ไปทำงานซะ
ทำงานไปเรียนไปก็ดีนะครับ จะได้มีเงินไว้จับจ่ายใช้สอย พอไม่ต้องกังวลเรื่องเงินๆทองๆก็อาจจะทำให้เราเรียนได้อย่างสบายใจด้วย อิอิ
ฟังแล้วเหนื่อยแทนเลยอะครับ ทำเพื่อคนอื่นๆ ก่อน แล้วค่อยทำเพื่อตัวเอง -*- .... แต่ก็เอาเหอะเนอะ ^_^ เพราะไงๆ ถ้าทำเพื่อคนที่เรารักแล้วเราก็แฮปปี้ก็โอเคน่ะ .... เนอะ ^_^ ว่าไปแล้ว เรียนอะไรหรือครับ ? เห็นจะต่อซะยาวถึงเอกเลยเนี่ย .... รู้สึกเสียดายเวลาเสียดายความรู้แย่เลย หากจะเรียนถึงเอก แต่ว่ามาทำธุรกิจตัวเองซะงั้น .... แต่ก็อีกนั่นล่ะ หากทำอะไรแล้วแฮปปี้ ก็ดีแล้วล่ะเนอะ ^_^
อันนี้เห็นด้วยครับ อุดมการณ์มันใช้ไม่ได้ในโลกจริงหรอก มันต้องมียืดหยุ่นบ้างน่ะ- -'; กระทู้นี้จริงๆไม่ต้องการคำตอบครับ แต่อยากทราบทัศนะของแต่ละคนมากกว่าครับ ก็ขอบคุณครับสำหรับหลายๆความเห็น ให้แง่คิดต่างกันไป ดีครับ ไม่นึกว่าจะมีคนสนใจเยอะ ขอบคุณมากๆครับ :aiii:
เรียนวิศวะคอมค่ะ กะต่อโท บริหาร ส่วนเอกนี่ยังไม่แน่หรอกค่ะ ถ้ามีโอกาสอ่ะนะ ก็ว่าจะเรียนให้สูงที่สุด ความฝันของแม่เค้าล่ะค่ะ ปล. ฮาคำตอบเนเน่มาก 555 ทำใจ ... กร้ากกก
สำหรับผมก็ต้องเลือกทำงานหาเงินก่อนอ่ะครับ อยากใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ตอนนี้ตั้งแต่จบมาก็ไม่ได้ขอเงินที่บ้านเลย แต่กลัวว่าพอเก็บเงินได้ก็จะเอาไปใช้อย่างอื่นก่อนเนี่ย ไม่ได้เรียนต่อกันพอดี - -"
เห็นด้วยกับความคิดที่ว่า "หาตัวเองให้เจอ" ก่อนน่ะคะ เพราะการจะเรียนต่อหรือทำงาน ดูแล้วจริงๆมันมีหลายปัจจัยมากเลย โดยเฉพาะว่า "ตัวเองอยากจะทำอะไร" แล้วที่สำคัญอีกอย่างคือ "ตัวเองทำอะไรไปไหว" บ้าง การนึกแต่ "อยากจะทำ" ก็ต้องยอมรับแหละค่ะ ว่าหลายครั้งมันก็ไปไม่ค่อยรอด เหมือนอย่างที่บอกว่า ชอบเกม รักการ์ตูน แต่มันก็มีขีดจำกัดที่ทำให้ทำงานด้านนั้นไม่ได้ ก็ต้องหาแหละค่ะว่านอกจากเกมและการ์ตูนแล้ว มีอะไรที่เราทำได้บ้าง แต่โดยส่วนตัวแล้วนะคะ เห็นว่า สมัยนี้ถ้าใครได้ทำงานที่ทั้งหากินอยู่ได้ และเป็นงานที่ตัวเองรัก ก็เป็นคนที่มีความสุขและน่าอิจฉามากเลยแหละค่ะ -_-" ถ้าหาตัวเองเจอแล้ว ก็จะได้คิดต่อไปได้แหละค่ะ ว่าสิ่งที่อยากทำเนี่ย สมควรเรียนต่อรึเปล่า เรียนต่อด้านไหนถึงจะเหมาะสม ฐานะเราเป็นยังไง โอกาสเอื้ออำนวยมั้ยที่จะเรียนต่อ จากนั้นค่อยทำตามความสมควรน่ะค่ะ จริงอยู่ค่ะว่าทำโททำเอกแล้วได้เงินเดือนเพิ่ม แต่บางทีบริษัทก็ไม่ค่อยอยากจะจ้างหรอกค่ะ เพราะงานบางอย่างใช้พนักงานที่จบแค่ตรีก็ทำได้ เค้าจะเสียเงินจ้างพวกโทพวกเอกไปทำไม ปริญญาบางคนอาจจะมองเป็นแค่กระดาษ แต่พวกบริษัทเค้าดันไม่มองแบบนั้นด้วยน่ะสิคะ -_-" เรียนไม่เรียน มันเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา โดยส่วนตัวแล้วคงเริ่มจากหาทุนเรียนต่อไปพลางทำงานไปพลางน่ะค่ะ ถ้าหาทุนไปต่อนอกได้ ก็จะไปต่อนอก แต่ถ้าหาไม่ได้ ก็คงทำงานเก็บเงินก่อน เพราะปริญญาโทที่อยากเรียนมีเปิดแต่ภาคปกติเท่านั้นค่ะ TT^TT แต่เคยได้ยินว่า ถ้าใครไม่ค่อยมีทุนทรัพย์แต่อยากเรียนต่อ หรือไปเรียนต่อเมืองนอกน่ะค่ะ ให้เรียนต่อเลยจะสามารถหาทุนได้สะดวกกว่าค่ะ จริงๆแอบเห็นว่า ถ้าใครมีโอกาสก็เรียนไปเถอะค่ะ หาความรู้ไปเรื่อยๆเป็นเรื่องที่ดี แต่... -_-" ก็เข้าใจนะคะว่าพอเริ่มทำงานแล้ว มันก็จะเหนื่อยจนไม่อยากออกไปเรียนเท่าไหร่...
/me ปลอบใจเน่ด้วยกล้ามขาที่แข็งแรง... อย่างที่หลายๆ reply ข้างบนตอบ.. แล้วแต่จังหวะชีวิตของแต่ละคน แล้วก็ความต้องการล่ะเนอะ... พูดแล้วก็ปลงๆ จะเรียนจบมั๊ยเนี่ย แค่ตรีก็แสนเหนื่อย =w=;;
มาเสริมนิดนึง อุดมการณ์ กินไม่ได้ แต่เติมเต็มได้นะครับ ถ้าไม่มีใครเลย ที่มีอุดมการณ์ที่ดี เราก็คงไม่มี - หมออาสา - แพทย์ 5 บาท - โครงการ4ขา1หาง ต่างๆ เหล่านี้น่ะครับ ผมว่า มันเป็นสิ่งเติมเต็มให้กับคนและสังคมนะ
แนะนำโดยประสบการณ์ส่วนตัวครับว่า ลองทำงานก่อน แล้วเราจะรู้ว่าเราชอบงานแบบไหนครับ ลองงานหลายๆแบบ จากนั้นก็ลองหาดูว่าความถนัด และบุคลิก ตลอดจนความชอบว่าเป็นยังไงครับ แล้วก็จะรู้ว่าถ้าต้องเรียนเพิ่มเติมจริงก็จะเลือกสาขาที่เรียนให้เหมาะสมครับ ไม่มีใครแก่เกินเรียน ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ต้องเรียนรู้ตลอดครับ เพียงแต่มันไม่ใช่ความรู้ที่มีใบรับรองเเหมือนปริญญา แต่เป็นทักษะส่วนตัวที่ไม่อาจหาได้จากไหน นอกจากการฝึกฝนจากประสบการณ์โดยตรงครับ
เรียนจบ มีเวลา 1 ปี ก่อนจะรับปริญา 555+ แล้วค่อยว่ากันอีกที โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าจบแล้วก็ อาจจะลองหางานทำตามสาขาที่เรียนมาก่อน แล้วก็ค่อยควบคู่ไปกับการเรียนต่อ โท ก็เป้นไปได้