[กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora [Another บทยำก่อนเข้า บทที่สอง]

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย yoshiki, 4 มิถุนายน 2009.

  1. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ALL FInaL School


    “แม็ก....ไอ้เวร แม็กเว้ย ตื่นได้แล้ว นี่มันจะสายแล้วนะ” เสียงชายหนุ่มผู้ซึ่งกำลังใช้ฝ่าเท้าด้านๆของมันเหยียบพุงเพื่อนอยู่ตะโกนลั่นห้องราวกับมันเคียดแค้นว่าเพื่อนรักไปแย่งน้องเมียมัน

    “ปลุกกันดีๆไม่ได้หรือไงวะโย” ชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงค่อยๆลากสังขารเน่าๆของตัวเองขึ้นมาจากเตียง สายตาที่ยังเบลอๆหันมองไปทางนาฬิกาปลุกรูปทรงแมวน้ำ เขาพินิจพิเคราะห์หน้าปัดนาฬิกาสักพักก่อนจะคว้าเข้ามาใกล้ๆเพราะมันมองไม่เห็น

    “เฮ้ย !! เจ็ดโมงครึ่งแล้วนี่หว่า ไอ้โยทำไมเอ๊งไม่รีบปลุกข้าวะ” ชายหนุ่มรีบลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงทันที ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วเหนือเสียง แต่วิ่งไม่ทันดูเผลอไปเหยียบเท้าเพื่อนที่ยินจังก้าอยู่ซะอย่างงั้น

    “โธ่ คุณชายแม็กคร้าบ เกล้ากระผมนั้นปลุกคุณชายมาครึ่งชั่วโมงแล้ว นี่ถ้ายังไม่ตื่นอีกเกล้ากระผมคนนี้จะราดน้ำร้อนฉลองให้นะคร้าบ แล้วคุณชายเหยียบทีนผมนี่ ไม่คิดจะขอโทษเหรอคร้าบบ”

    “เออๆๆๆๆ โทษทีไม่ทันมอง”

    ชายหนุ่มผมเงินถอนหายใจเล็กน้อย พลันมองลงไปด้านล่างผ่านหน้าต่างห้องเช่า สิ่งที่เขาเห็นคือ สาวน้อยหน้าตาน่ารักกำลังยืนอารมณ์เสีย พลางตะโกนอะไรสักอย่างที่ไม่ค่อยได้ยินนัก แต่จากการอ่านปากแล้วน่าจะประมาณว่า “พวกเอ็ง รีบๆย้ายก้นลงมาได้แล้ว”

    “อัล มารอแล้วฟ่ะ แต่งตัวเสร็จรีบย้ายตูดไปข้างล่างเลยนะ”

    “รู้แล้วหน่า โวย ไม่ทันแหง ไม่อาบน้ำแล้วววววว”

    “ปลาหมึกดองอีกแหละ จะเป็นอย่างงี้ทุกวันหรือไง” บ่นเสร็จชายหนุ่มผมเงินค่อยออกจากห้องอย่างไม่รีบร้อนนัก ประตูผุๆเสียงดังน่ารำคาญถูกเปิดออก พร้อมเสียงตะโกนไล่หลัง “รีบๆเข้า เดี๋ยวจะสายกันทั้งแก็ง”

    “คร้าบๆๆๆ อย่าเร่งตรูนักสิคร้าบ”



    ด้านหน้าแฟลตเน่าๆ นาม ‘รังปลวก’ ซึ่งขึ้นชื่อนักในความโทรมขนาดห้องไอ้เจ้าของฟิกที่ว่ารกและโคตรโทรมยังต้องชิดซ้าย แห่งนี้เป็นที่อยู่ของเหล่านักเรียนที่มีทุนน้อย ขอแค่ที่ซุกหัวนอนไปวันๆ แม้ว่าจะต้องทนอยู่กับกับบรรดาแมลงเหมือนในรายการสารคดีก็ตาม แต่เนื่องด้วยมันใกล้กับโรงเรียนที่มีชื่อเสียงประจำเมือง ทำให้มีเหล่านักเรียนคิดสั้นย้ายมาอยู่เป็นจำนวนมาก

    และด้านหน้าของแฟลตสุดสกปรกนี่นั้น มีสาวน้อยผมสีส้มอ่อนสุดโมเอะกำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างเห็นได้ชัด เธอกวาดสายตาไปทางชายหนุ่มผมเงินด้วยความเกรี้ยวกราดดุจพญาเสือ แต่ไอ้คนโดนจ้องหาได้สะทกสะท้านไม่

    “นี่โย เมือ่ไรไอ้บ้านั้นจะลงมันสักทีมันสายแล้วนะ” หญิงสาวตวาดใส่โดยอัตโนมัติ

    “บ่นมากหน่า ถ้ายังงั้นก็ขึ้นไปปลุกมันเองดิ” ชายเจ้าของชื่อโยชิกิ เกาหัวแกรกๆก่อนจะค้นพบว่ามีเหาอยู่บนหัว

    “แย่จริง วันนี้ต้องวิ่งสามคูณร้อยอีกแล้วเหรอ” สาวน้อยสบถต่อ ไม่เปลืองน้ำลายบ้างเหรอ

    “อ่ะ นั้นไงมาละ สถิติใหม่เลยแหะ ใช้เวลาแต่งตัว 3 นาที” สายตาทั้งคู่มองไปทางเพื่อนเลิฟที่กำลังวิ่งพรวดออกมาจากห้อง ก่อนจะพลาดกลิ้งตกบันใดลงมาหมอบกระแตคาพื้น

    “แม็กรีบๆลุกขึ้นมาซะ มันสายมากแล้วนะ” โอ้ว แม้เธอจะน่ารัก แต่วาจาช่างโหดร้ายยิ่งนัก

    “อัล แกไม่เห็นเหรอว่าตรูเพิ่งจะตกบันใดมาเนี่ย” แม็กค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ พลางสำรวจตัวเองอย่างถี่ถ้วนว่าไม่มีแผลสาหัสตรงไหน

    “ถ้าอยากโอดครวญนักไปหาไอ้โยนู้น”

    “ธุระไม่ใช่ว่ะ สหาย”

    ชายผมแดงหัวเราะหึ ออกมาเล็กน้อยพลันคว้ากระเป๋าที่ตกพื้น “เอาละ ไม่มีเวลาให้เสียแล้วพวกเราวิ่งเต็มสปีด !!”

    “แล้วใครห่ะ ที่ทำให้ต้องวิ่งเนี่ย”

    “จะต้องวิ่งแบบนี้อีกกี่วันกันว้า”


    เช้านี้สำหรับพวกเขาทั้งสามนั้นยังคงเป็นเช่นทุกวัน ความวุ่นวายในยามเช้า เสียงด่าสาปแช่งจนเป็นที่คุ้นหูของคนระแวกนี้ นั้นคือเหล่าแก๊งที่อาจจะดูแปลกๆสักหน่อยสำหรับผู้ที่เพิ่งรู้จัก เพราะ พวกเขาสามคนนั้นเป็นบุคคลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก หากมองเพียงผิวเผินไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งสามคนจะสนิทสนมกันได้ถึงเพียงนี้

    “โย อีกกี่นาที” อัล หันไปถามเพื่อนด้วยความร้อนรน

    “ราวๆ 10 นาทีได้ ทันอยู่แหละ”

    “โอ้ว วันนี้พวกเราวิ่งเร็วขึ้นนะเนี่ย ถือเป็นเรื่องดีใช่มะ”

    ทั้งอัลและโยเกิดปฏิกิริยาตอบสนองทันควัน “หุบปากไปเลย ไอ้คุณแม็ก”

    ขณะนั้นเอง เบื้องหน้าพวกเขาคือสาวน้อยสองคนที่กำลังเดินทอดน่องไปโรงเรียนอย่างสบายใจ สาวผมฟ้ายาวในชุดนักเรียนหญิงปกกะลาสีทักทายพวกแม็กอย่างอารมณ์ดี “สวัสดีค่ะ พวกรุ่นพี่”

    “อะ ริวเน่จังกะกันจังนี่หนา” อัลพูดขึ้น

    “ว้าวๆ เช้านี้เจอนางฟ้าแต่เช้าเลยเว้ย” ประโยคนี้คงไม่ต้องบอกว่าใคร

    “เฮ้ย ผู้หญิง !!!” แต่แม็กกลับเบรกตัวโก่ง รีบแจ้นไปหลบหลังไอ้โยทันทีท่ามกลางความงุนงง ของสาวน้อยทั้งสอง

    เด็กสาวผมสั้นสีดำสนิททำหน้าสงสัยเล็กน้อย พร้อมค่อยๆเดินไปหาแม็ก แต่เจ้าหนุ่มผมแดงกลับรีบถอยแทบไม่ทัน “ยังไม่หายจากโรคแปลกๆนี่อีกเหรอพี่แม็ก ทั้งๆที่ก็อยู่กับพี่อัลได้ทั้งวันแท้ๆ”

    “อ...เออ น่ะสิ อย่าเข้ามาใกล้พี่ระยะ 10 เมตรนะเฟ้ย” จริงๆแล้วชายหนุ่มผู้นี้นั้นเป็นโรคกลัวผู้หญิงอย่างไม่ทราบสาเหตุ หากมีผู้หญิงเข้าใกล้ในระยะคุกคามแล้วจะเกิดอาการ ขนลุก หวาดผวา อั้นปัสสาวะไม่ไหว และอาการน่าทุเรศทุรังอีกมากมายตามมา ช่างเป็นชายที่น่าสงสารแท้

    “แหมๆ สองสาวอย่าไปสนใจมันเลย วันนี้เดินไปโรงเรียนกับพี่ดีกว่าไหมจ๊ะ” ไอ้โยออกลายเต็มที่ผิดกับเพื่อนแม็กที่ยืนขาอ่อนหลังเสาไฟฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าไอ้หนุ่มโคตรหน้าหม้อ กับ ไอ้โรคกลัวผู้หญิงจะมาเป็นซี้กันได้

    “ก็ดีนะคะ เดินไปหลายๆคนสนุกดีออก” ริวเน่จังผู้มองโลกในแง่ดีตอบด้วยรอยยิ้มพิมใจ

    “นี่ริวเน่ ระวังหลงกลพี่โยนะ ไปเดินกะพี่อัลดีกว่า” ว่าแล้วก็จูงมืออัลเดินลิ่วๆนำหน้าพวกหนุ่มๆไปทันที ส่วนริวเน่จังที่ยังงงๆ กับชีวิตอยู่ก็รีบวิ่งตามอัลกับกันจังไป

    แม็กที่เห็นว่าสถานการณ์ปลอดภัยดีแล้วเดินเข้ามาสมทบกับไอ้โยที่มองสาวๆเดินตามเพื่อนซี้อีกรายไปอย่างเสียไม่ได้ ทั้งสองมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นสั้นๆ “หลงกลใครกันแน่ฟะ”

    หากแม็กเป็นโรคกลัวผู้หญิงแล้ว เหตุไฉนเล่าหมอนี่ถึงสามารถร่วมกลุ่มกับอัลได้ มันเป็นพรหมลิขิตที่ส่งสาวสวยคนนี้มาให้เค้าหรือ “ไม่ใช่โว้ย ไอ้ผู้บรรยายปากมอม”

    สาเหตุมีเพียงหนึ่งเดียว นั้นคือหมอนี่เป็นสาวดุ้น....

    “ทำไมตรูแพ้ดุ้นฟะ แม็ก”

    “จะไปรู้เหรอ”

    สองหนุ่มเดินตามท้ายๆกลุ่มสองสาว+หนึ่งดุ้น อย่างเซงๆ ชนิดความเร่าร้อนในยามเช้าของการออกวิ่งมาโรงเรียนเมื้อกี้เหมือนเป็นเรื่องโกหก เพียงไม่นานก็โรงเรียนอยู่ไม่ห่างจากพวกเขามากนัก พอเริ่มจะมองเห็นประตูโรงเรียนแม็กก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ไอ้โย ทำการบ้านเมื่อวานหรือยัง”

    ชายหนุ่มผมเงินตอบเพื่อนโดยไม่หันมามอง “เรียบร้อย ค่าลอก 20”

    “ไอ้งก เอาไว้เลี้ยงข้าวแทนละกัน”

    “ข้อเสนอไม่เลว” โยชิกิ ยิ้มอย่างพอใจ แต่มีบางสิ่งเบนความสนใจของเขาไปในทันที “โอะ ท่านประธาน !!!”

    หน้าประตูโรงเรียนอันใหญ่โตนั้น ปรากฏร่างของสาวผมลอนสีทองสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเช้า ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูอ่อนโยน กับรอยยิ้มสุดแสนจะใจดีดึงสายตานักเรียนชายทุกผู้ ยกเว้นแต่เพียงแม็กเท่านั้น

    “ผ...ผู้หญิงเฝ้าประตูโรงเรียน แล้วตรูจะเข้าโรงเรียนยังไงวะ เฮ้ย โย ...อ้าวไอ้โย “ พูดไม่ทันขาดขำเพื่อนรักก็วิ่งแจ้นไปหน้าโรงเรียนแล้ว ทิ้งให้แม็กยืนเดียวดายอยู่หน้าทางเข้า

    “สวัสดีค่ะประธานยูกิ” อัล ทักทายกับประธานสาวอย่างเป็นกันเอง ส่วนรุ่นน้องทั้งสองก้มหัวให้อย่างน้อบน้อม

    “สวัสดีจ๊ะทุกคน” ประธานยูกิยิ้มให้ทั้งสามคน แต่จะทำเอาหนุ่มๆรอบๆละลายเป็นไอติม

    “ประธานครับ มิทราบว่าเหตุไฉนเทพธิดาเช่นท่านถึงมายืนหน้าประตูโรงเรียนให้เปื้อนฝุ่นเช่นนี้ละครับ”

    กันจังสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นเจ้าของเสียงมายืนระยะประชิด “พี่โย มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”

    “อ้อ เผอิญว่า อาจารย์อิซาคที่เป็นเวรดูแลวันนี้ ตกส้วมเมื่อวานน่ะจ๊ะ ชั้นก็เลยมารับอาสาแทน”

    “เป็นอย่างนั้นเองเหรอครับ โอะ ท่านประธานผมเห็นฝุ่นบนเสื้อ ขอให้ผมช่วยปัด...แอ็ก” ขณะที่ไอ้โยจะถือวิสาสะเต๊ะอั๋งประธานก็โดนมะแหง่กของอัล กระแทกกบาลซะก่อน “อ่า พวกเราขอตัวก่อนนะคะประธาน ไว้เจอกันในห้องประชุมกรรมการนักเรียนนะคะ” ว่าแล้วสาวดุ้นก็ลากตัวไอ้โยที่ยังไม่ค่อยได้สติออกพ้นรัศมีทันที

    “อืม” ประธานสาวตอบรับสั้นพลางโบกมือให้



    เมื่อพ้นจากด้านหน้าโรงเรียนแล้ว สองสาวรุ่นน้องก็ขอตัวแยกไปเหลือเพียงแค่อัลทิม่า กับ โยชิกิเท่านั้น สองสายตาประสานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ประธานของข้าเว้ย”

    “หุบปากไปเลยไอ้ดุ้น ที่เอ็งไปเป็นกรรมการนักเรียนเพราะเหตุนี้สินะ”

    “แล้วไง ถึงข้าจะดุ้น แต่ก็ไม่ใช่กะเทยนะเฟ้ย สาวๆสมัยนี้ชอบผู้ชายหน้าหญิงแบบข้านี่”

    “ถุย !! เล่นวิชามารแล้วยังระรื่นอีก เตรียมตัวเตรียมใจโดนแฉไวได้เลยเอ๊ง”

    “อ่า พูดงี้ก็สวยดิ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ความลับแกเหมือนกันนะเฟ้ย โย”

    "งั้นมาซัดกันซักตั้งให้รู้ผลไปเลยดีกว่า ไอ้ดุ้น" ทั้งสองตั้งท่าเตรียมสู้ทันที โยชิกิค่อยๆเคลื่อนไปด้านข้างอย่างระมัดระวัง เช่นเดียวกับอัล เหงือเม็ดเป้งๆ ไหลตามผิวหนัง บรรยายกาศรอบข้างตึงเครียด ในขณะที่ทั้งสองกำลังจะออกตัวนั้นเอง

    “เฮ้ย !! นั้นใครปีนกำแพงโรงเรียนฟะ” เสียงนักเรียนรายหนึ่งตะโกนลั่นทุกสายตาหันควับไปทางกำแพงอิฐสีแดง ร่างของชายหนุ่มผมแดงกำลังกระเสือกกระสนตัวเองข้ามกำแพงโรงเรียนด้วยเหตุผลบางประการ

    “ไอ้แม็ก....เพราะประธานยูกิ ยืนหน้าประตูมันเลยเข้าไม่ได้สินะ” โยเอ่ยขึ้นช้าๆ

    “ลืมมันไปเลยแหะ เอาไงดี” อัลหันมาถามโยชิกิที่ทำหน้าหมดอารมณ์จะสู้ “ช่วยไม่ได้นี่นะ นั้นมันเพื่อนเรานี่หนา ไปช่วยกันก่อนเหอะ” อัลยิ้มขึ้นทั้งสองออกวิ่งไปรับแสงยามเช้าอีกครั้ง ความวุ่นวายภายนอกกำลังก่อตัวขึ้น เมื่อบรรดาสาวๆในโรงเรียนกำลังเข้าไปมุ่งดูแม็กบนกำแพงทั้งหน้าและหลัง ทำให้แม็กลงจากกำแพงไม่ได้ ติดแหงกอยู่ซะงั้น

    “ฮือๆๆๆ โย อัล รีบมาช่วยตรูที จะร้องไห้แล้ว”



    ทุกอย่างยังคงดำเนินด้วยความวุ่นวายเช่นทุกวัน....ในรั่วโรงเรียน All-Final แห่งนี้



    แนะนำตัวละคร....

    แม็กแลนเซอร์ – ชายหนุ่มสุดอาภัพที่เป็นโรคกลัวผู้หญิงด้วยสาเหตุบางประการ หนึ่งในสมาชิกแก็งประหลาดประจำห้องปี 2-c มีความสามารถทางร่างกายสูงสุดในกลุ่ม (และทั้งชั้น) เนื่องจากต้องวิ่งหนีผู้หญิงอยู่บ่อยๆเลยมีร่างกายแข็งแรงซะอย่างงั้น มีนิสัยเสียคือชอบนอนตื่นสาย ทำให้เพื่อนๆเดือดร้อนเสมอ

    โยชิกิ - ไอ้หน้าม่อ ประจำทีมผู้เชี่ยวชาญการจีบหญิงชนิดหาตัวจับยาก ส่วนหน้าตาก็จัดว่าหล่อเหลาเอาการ แม้จะเป็นไอ้จอมเจ้าชู้ แต่มิตรภาพต่อเพื่อนก็มีมิใช่น้อย ชื่นชอบแกงกะหรี่เป็นชีวิตจิตใจ สามารถอยู่ใดตลอดชีวิตด้วยข้าวราดแกงกะหรี่หมูทอด แต่ถึงอย่างไรก็เป็นไอ้จอมงกที่มักคิดถึงแต่เรื่องผลประโยชน์เข้าตัวเสมอ

    อัลทิม่า – สาวดุ้นจากครอบครัวคนมีกะตัง เนื่องด้วยหน้าตาผิดเพศอย่างแรงจึงถูกคุณแม่เสี้ยมสอนให้สมหญิง โชคดีที่มันไม่มีจิตผิดปกติไปกับเขาด้วย แต่งชุดนักเรียนหญิงมาเรียนเสมอ ด้วยเหตุผลว่า ชุดผู้ชายไม่เข้ากับกรู ตามจีบประธานนักเรียนถึงขนาดลงทุนเป็นกรรมการนักเรียนเลยนะเออ

    กันไฟนอล – เด็กสาวรุ่นน้อง ผู้บ้าคลั่งเจ้าชายน็อกธิสเป็นชีวิตจิตใจ ขาดไม่ได้ ถ้าขาดแล้วจะลงแดงตาย ทุกวันต้องหยิบรูปองค์ชายขึ้นมาดูเหมือนคนติดยาไม่มีผิด ด้วยร่างกายที่ตัวเล็กน่ารักโลลิ ทำให้ไม่ชอบให้ใครมาแซวว่า ยัยเตี้ย

    ริวเน่ – เพื่อนร่วมห้องของกันจัง นิสัยเรียบร้อย น่ารัก น่าเอาใจใส่ เป็นที่ป็อบปูล่าในหมู่ผู้ชาย ขนาดรุ่นพี่ปีสามยังถ่อสังขารมาจีบถึงห้องเลยก็มี เชี่ยวชาญด้านศิลปะ อนาคตอยากเป็นจิตรกรชื่อดัง

    ประธานยูกิ – สมญานามเจ้าหญิงหิมะ แห่งโรงเรียน All-Final ความนิยมสูงถึงขนาดมีการเสนอโครงการให้ปั้นรูปเสมือนไว้หน้าโรงเรียน ด้วยกริยามารยาทผู้ดีตลอดเวลา ทำให้เหล่านักเรียนแม้แต่อาจารย์ต้องสถานปนายศองค์หญิงให้ เคยมีกลุ่มนักเรียนหญิงหมั่นไส้ในความโด่งดังของท่านประธานอยู่หลายราย แต่ก็ต้องแพ้ภัยตัวเองไปซะทุกราย ได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียนด้วยคะแนนท่วมท้น ถึงจะเห็นแบบนี้แต่เธอคาราเต้สายดำนะจะบอกให้

    อาจารย์อิซาค – อาจารย์ฝ่ายปกครองผู้ชื่นชอบการสะสมรองเท้าเตะ เขามีรองเท้าเตะจากทั่วทุกมุมโลกอยู่ในห้องทำงานของเขา นอกจากรสนิยมแปลกๆนี้แล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องความโหด หากใครทำผิดกฎโรงเรียนจะทำจับตัดผมเกรียนทันที (ไอ้โยโดนมาแล้ว) มีอาวุธคู่ใจเป็นแบตตาเลี่ยน แบบพกพา สามารถก่นหัวนักเรียนได้ทุกที ทุกเวลา

    อาจารย์สุมิโยะ – อาจารย์สอนภาษาอังกฤษรูปงาม ผู้เป็นรักต้องห้ามของโรงเรียนแห่งนี้ ด้วยความงานทั้งหน้าตาและเรือนร่างสูสีกับประธาน ทำให้คะแนนนิยมพุ่งพรวดใช่เล่น ถึงขนาดเด็กนักเรียนแทบจะฆ่ากันตายเพื่อแย่งลงวิชาเรียนกับอาจารย์สุมิโยะเลยคิดดู

    เทรน – นักเรียนปีสาม ที่ชื่นชอบกล้องเป็นชีวิตจิตใจ เป็นประธานชมรมถ่ายภาพที่มีภาพสาวๆในโรงเรียนเก็บไว้มากที่สุด วันดีคืนดีก็จะเอาออกมาขายฟันกำไรได้มากโข มีกล้องดูดาวที่ใช้เงินจากการถ่ายภาพซื้อมา ไว้ส่องสาวๆในโรงเรียนโดยเฉพาะ แถมไม่เคยถูกจับข้อหาสโตกเกอร์เลยสักครั้ง มีความสามารถในการเนียนแอบถ่ายสูงจนน่ากลัว

    ไพอา – เด็กปีหนึ่งผู้จืดจาง เดินไปไหนมาไหนแทบไม่มีใครเห็นหัว ขนาดเข้าไปตะโกนใส่หน้ายังไม่รู้สึกตัวว่าอยู่ตรงนี้ มีร่างโปร่งแสงผู้คนทั่วไปมองเห็นได้ยาก ผลการเรียนกลางๆ กีฬากลางๆ ชีวิตกลางๆ ไม่มีอะไรเด่นสักอย่างหรือไงฟะ

    ดีริก – ยามเฝ้าหน้าโรงเรียน พร้อมอาวุธคู่กายไม้เท้าตีสุนัขที่จะลงโทษเด็กหนีเรียนทั้งหลาย ปกติจะประจำการอยู่ในเขตโรงอาหาร วันดีคืนดีจะโผล่ไปเช็คในห้องน้ำไม่เว้นแม้ห้องน้ำหญิง เหล่านักโดดเรียนผู้เจนจัดหลายคนถึงกับทำตารางพฤติกรรมของดีริก ไว้เพื่อการหลบหนีที่ง่ายขึ้น

    ท่านจ้อย – ภารโรงผู้เป็นที่นับหน้าถือตาในโรงเรียน ถึงขนาดต้องเรียกว่าท่าน ศิษย์เก่าตั้งแต่สิบปีที่แล้ว แต่ตกงานเลยกลับมาเป็นภารโรงในโรงเรียนจนถือเป็นปูชนียบุคคลควรแก่การกราบไหว้ยิ่งกว่าอาจารย์ตัวเป็นๆซะอีก

    เจโนวา – พ่อค้าลึกลับที่ชอบแอบเข้ามาขายไก่ย่างหมกขมิ้นในเวลาพัก มักจะกบดานอยู่บริเวณหลังโรงอาหารที่เป็นจุดที่พบเห็นยาก ขายไก่ย่างให้กับเหล่าเด็กหนีเรียนบ้าง หรือ เด็กที่เบื่อข้าวโรงเรียนบ้าง ประวัติอื่นๆของเขายังเป็นความลับต่อไป

    แองเจิ้ล – สาวน้อยปีสาม ที่หน้าตาทรมานอายุมาก ดูผ่านๆนึกว่าเด็ก ม.ต้น เป็นที่ถูกใจขาโลลิมาแต่ไหนแต่ไร ถึงขนาดมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง (แต่ยังไม่ดังเท่าท่านประธาน) พฤติกรรมส่วนใหญ่เหมือนเด็กสาวตัวน้อยๆไม่มีผิด แต่ดันฉลาดเป็นกรด ส่งไปแข่งที่ไหนถ้าไม่ได้ที่หนึ่งฟาดหัว ผอ. เลยดีกว่า แต่ซี้กะประธานมากนะเออ ถือเป็นมันสมองหลักของสภานักเรียนเลยทีเดียว

    เนียร์ – ผีบนดาดฟ้าโรงเรียน ที่มาที่ไปไม่ทราบแน่ชัด รู้แต่ว่าเป็นตำนานเก่าแก่ของโรงเรียนนี้มาช้านาน แรกๆก็ทำเอาเด็กในโรงเรียนขนหัวลุก อึราด กันเป็นแทบ แต่หลังๆเหล่านักเรียนนึกสนุกจัดทัวร์ขึ้นไปดูเนียร์จนเป็นธุรกิจ มีเงินสะพัดต่อเดือนหลายล้านกีบ

    รีพีท หรือ พณ ท่าน ผอ. พีท - ชายผู้อยู่ ณ จุดสูงสุดของโรงเรียน All final มีความสามารถรอบด้่าน โดยเฉพาะเรื่องรั่วๆนั้นไม่มีใครเกิน สนิทสนมกับโยชิกิเป็นอย่างมาก มักจะหาเรื่องออกไปแหล่สาวด้วยกันเป็นประจำ จับพลัดจับพลูมาเป็น ผอ.โรงเรียนได้อย่างไร ยังคงเป็นปริศนา

    สตรีปริศนา – ผู้กำลังเข้ามาร่ำเรียนใน All-final เพราะจะมาควบคุมพฤติกรรมแฟนหนุ่มที่ชอบออกนอกลู่นอกทางไปหาชู้ใหม่บ่อยๆ ประวัติยังไม่เปิดเผย


    เมื่อท่านอ่านด้านบนจบแล้วจงลืมมันไปซะ เนื่องด้วยมันไ่ม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องปกติแต่อย่างใด



    .....ก่อนอื่นขอสารภาพก่อนว่าช่วงที่หายไปนั้น ผมไม่คิดจะแต่งฟิคอีกแล้วครับ พูดง่ายๆคือ เลิกแต่ง ขนาดความคิดที่จะเข้ามาอ่านยังไม่มีเลย จะว่าไงดี มันหมดไฟครับ เพราะงานที่สุ่มหัวอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งงานวง งานอีเวน งานมหาลัย ไหนจะสอบอีก พลังจินตนาการของผมไปลงกับบทเพลงซะหมด จะบอกว่าไม่มีเวลาก็คงไม่ได้ เพราะ บางครั้งผมเองก็มีเวลาว่างนั่งเล่นเกมเหมือนกัน แต่เหมือนฟิคชั่นมันกลายเป็นส่วนเกินของผมไปแล้ว

    จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาศได้คุยกับ Repeat again สมาชิกหมวดฟิคชั่นรุ่นเดอะ ที่สร้างตำนานฟิคยำแต่ได้ตีพิมขาย (ชื่อ All-final war ออกจำหน่ายต้นปีหน้าสามเล่มจบ ตัวละครชื่อคุ้นตาทั้งนั้น ทั้งพี่เจ พี่เก้า พี่ทริกเกอร์ พี่ดันไบน์ แม้แต่ไอ้โยยังมีเลย) คนผู้นี้เหมือนจะเป็นอาจารย์กลายๆของผม บทสนทนาประมาณนี้

    P - โย ไม่ได้เขียนฟิคแล้วเหรอ
    Y - ไม่เลยคับ พี่ ผมเลิกแล้วอะ
    p - เสียดายออก โย ฟิครั่วๆนอกจากแกกับพี่แล้วตอนนี้คงไม่มีใครเขียนแล้วมั้ง
    Y - ไม่มีปัญญาจะเขียนแล้วงะ
    P - พี่ยังคิดถึงสมัยก่อนที่เขียนแซวคนในบอร์ดอยู่เลยนะว่าแล้วก็อยากเขียนมั้ง

    เออ พอถึงตรงนี้ก็คิดถึงช่วงที่แต่งฟิคไม่ได้ พอกลับเข้ามาในหมวดฟิคได้สองสามวันก็รู้สึกว่า อืม นี่เราหายไปนานขนาดไหนเน้อ แล้วไอ้ที่เคยตั้งใจว่าจะเขียนฟิคใหญ่ๆให้จบสักเรื่องมันหายไปตั้งแต่ตอนไหนหว่า

    และอีกสาเหตุที่ทำให้อยากกลับมาเขียนคือ เพื่อนแม็ก เคยคุยกับเพื่อนแม็กประมาณต้นเดือนนี้แหละ "ฟิคของเรามันต้องจบใช่ไหม"

    นั้นดิ ไอ้เพื่อนแม็กมันจะดองขนาดนไหนสุดท้ายก็ยังกลับมาต่อ แม้ว่าจะติดธุระหัวโตกันทั้งคู่

    แล้วทำไมผมจะทำไม่ได้ว่ะ 555+ ว่าแล้วก็มานั่งพิจารณาตัวเอง ถ้าคิดฟิคดีๆต่อ ชาติหน้าไม่จบแน่ เพราะผมไม่ใช่สไตล์แบบพี่จ้อย ที่คิดได้ละเอียด ภาษาสวย ลื่นไหลทุกคำ บรรยายกระจ่าง หรือ แบบแม็ก ที่เข้มข้น เร้าใจ ในแต่ละสำนวน

    หากสไตล์พวกนี้ คือ ลายเซ็นแล้วละก็ ลายเซ็น ของผมคือ ฮา รั่ว ตลก อย่างไม่ต้องสงสัย ก้ากๆๆๆๆ ดังนั้น ต่อแต่นี้ฟิคนี้จะกลายสภาพเป็นฟิคยำ แต่เนื้อเรื่้องยังคงเดิม คงได้ดูแฟนตาซีแบบรั่วๆกัน ส่วนผู้ใดอยากโดนยำเละด้วย ก็โพสตอบในกระทู้นี้แหละครับ เห็นชื่อเมมเบอร์แปลกๆ ผมก็ขออนุญาตสกรัมเลยละกัน

    ไม่ต้องห่วงไป ไอ้ที่ท่านสมัครไว้ก็ยังอยู่ แต่ถ้าัตัวละครที่ท่านสมัครตรงกับเพศของท่านจะถูกเปลี่ยนเป็นชื่อท่านไปโดยปริยาย แต่ถ้าหากไม่ตรงกันเช่นของ อัล เป็นน้องหนูจ้าวแวมไพร์โอลิเวีย ตัวโอลิเ่วียจะยังอยู่ แต่จะมีอัลทิม่าโผล่เพิ่มมาอีกคน

    หลังจากที่ร่ายมายาว สุดท้ายนี้ ขอบอกว่า กลับมาแล้วครับ ^^ ยังไม่ตายนะ 5555+

    ขอบพระคุณพี่พีทเป็นอย่างมาก ไม่งั้นผมคงได้เลิกแต่งจริงๆ

    และขอบคุณทุกท่านครับ เย้ๆ
  2. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    เข้ามาเจิมเป็นคนแรก

    ไอเดียสาวดุ้นของท่าน ที่จับผมไปเป็น เอามาจาก มาเรีย โฮลิครึเปล่าไม่ทราบ

    จะใช่หรือไม่นั้น สิ่งเดียวที่อยากถามต่อ ทามไมต้องเอาตรูไปเป็นสาวดุ้นฟร้า ท่านโยยยยยยยยยย
  3. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ตูเป็นไอ้จืดอีกแล้วเรอะ.... เจ้าพี่บ้า TTwTT
  4. Gunfinal

    Gunfinal Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    เฮือกกกก โดนยำอีกแล้วววว
    พี่โยอ่ะ อย่่าตอกย้ำเรื่องความเตี้ยจะได้ม่ะ T^T
    ว่าแต่เรื่องพี่อัลนี่....จริงอ่ะปล่าว 55555
  5. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    คนขายไก่ย่าง ฮัดช่าาาาาาาา

    เดี๋ยวตูจะเอาหวัดนกเเพร่ในโรงเรียน!!!

    ปล. โยว้อยยยย โอลิเวียมันของผมมม ไม่ใช่ของตาอัลลล

    ปล.2 เดี๋ยวตูเอาไก่ย่างหมกขมิ้นยัดรูจมูกซะเลยนิ
  6. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ยำอีกแล้ว ออกเสียดาย แต่ช่างเถอะ

    อย่าลืมนะ โมเอะ ห้ามโหด T___,T
  7. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ดูมันยัดบทให้ตู==" สร้างปมด้อยไปเลยนะนั่น =="

    มีนิสัยเสียคือชอบนอนตื่นสาย ทำให้เพื่อนๆเดือดร้อนเสมอ
    ^
    ^
    ตอนนี้ก็กำลังประสบอยู่คร้าบTT หลังจากวันที่ตื่นร่วม48ชม. ผมตื่นเช้าไม่ได้อีกเลย (วันอังคารนี้มีสอบ8โมงเช้า ทำไงดี!!!!)

    "ฟิคของเรามันต้องจบใช่ไหม" << ถูก!! ตูต้องจบมันให้ได้ เรื่องนี้ แต่ตอนนี้ขอไปสอบไฟนอลก่อน 555

    ปล. คนที่มาเม้นก่อนผมนี่ รวมโยแล้วก็ผมแล้ว กลายเป็นแก่งค์ 7 ซามูไร ฟิคชั่นไปเลยแฮะ 555
  8. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน


    ขาดเนียร์อีกคนมั้ย?
  9. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    เสนอหน้าไปด้วยคนได้มั๊ยเจ๊ ฮาๆ

    ภารโรง ปูชนียบุคคล เอาเข้าไปน้องตู รู้สึกเหมือนเป็นโบราณวัตถุยังไงก็ไม่รู้ เอิ๊ก

    ประสบปัญหาเดียวกันเฟ้ย "เวลาว่างมันหายไปไหนหมดฟร้าา~~~"

    ว่าแต่ว่าฟิคตูมัน "คิดได้ละเอียด ภาษาสวย ลื่นไหลทุกคำ บรรยายกระจ่าง" จริงรึฟะ? อ่านทีแรกยังงงๆนี่มันตูใช่มะน่ะ เพราะัปกติ ประชุมเพลิงนักเขียนกันทีไร โดนสับเละทุกที ฮาๆ

    จะแนวไหนก็เขียนเอาให้มันส์มือเถอะไอ้น้อง อยากเขียนอะไรก็เขียนเข้าไป อย่าฝืนตัวเอง ไม่ว่างคือไม่ว่าง ไม่มีไฟ บิ๊วไม่ออก ก็ยังไม่ต้องฝืนเขียน ขืนดันทุรังเขียนมันจะตัน ไฟมอด หมดมุขเขียน ลอยแพโลด ฮ่าๆ

    สุดท้ายมันก็จะวกกลับมาที่เก่าก็คือ เขียนเท่าที่ใจอยากจะเขียน ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เขียนความเฟ้อเจ้อ ของตัวเองให้คนอื่นได้อ่าน นี่แหละที่สำคัญ เขียนไปซักพัก จะเริ่มรู้มาก กฏเกณฑ์ อะไรในการเขียนงานมันจะเริ่มเยอะ จนบางครั้งมันทำให้เราเขียนไม่ออกเอาดื้อๆ

    ในฐานะนักเขียนคนหนึ่ง คิดว่าแกทำถูกแล้วล่ะ เขียนในสิ่งที่เป็นตัวตนน่ะดีที่สุดและ นิยายสูเจ้าจะจบ หรือ AF จะล่ม อะไรจะมาก่อนกัน จะปูเสื่อรอดูนะเจ้าน้องชาย


    ปล.เหลือบไป REP บนๆ มีแต่ขาประจำทั้งนั้นเลยนี่หว่า ฮาๆ
    ปล2. FIC FFVII คนรีเควส ครบ 5 คนและ หาเวลาว่างเจอเมื่อไร เดี๋ยวเจอกัน
    ปล3. เวลาว่างอยู่หนายยยยยยย
    ปล4. โยแกจะขึ้นเวที งานครบรอบ10ปี รึเปล่าน่ะ เห็นได้ข่าวแว่วๆ มาว่าจะไม่ขึ้นแล้วรึ?
  10. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ขอใช้พื้นที่ตอบคำถามเล็กน้อย

    อัล - เออ ไ่ม่ได้เอามาจากมาเรีย โฮริค หรอก แค่คิดว่ามีดุ้นแล้วมันจะบ้าๆดีก็เลยใส่มาน่ะ

    ไพอา - เคยเป็นพระเอกไปแล้ว ยังจะอยากเป็นอะไรอีกฟะ

    น้องกัน - จะว่าไปไม่ได้เจอกันนานสูงขึ้นมั้งไหมเราน่ะ

    เจโนวา - ขอโทษ~~ พลาดไป แต่ไม่แก้ให้นะ ขีเ้กียจอะ ก้ากๆๆๆ

    เจ๊ยู - มันคงยำแค่ชื่อตัวละครมั้งครับ เพราะตอนใหม่ที่เขียนอยู่ก็ยังไม่ได้เน้นฮาเท่าไร

    แม็ก - อย่าเสียใจไปเลยตอนนี้ปกติก็ตื่นเที่ยง-บ่ายเหมือนกัน เอาเวลากลางคืนไปทำงานหมด

    เฮียจ้อย - ขอบพระคุณสำหรับคอมเม้นดีๆ แต่อย่าถล่มตัวไปหน่อยเลย ผมว่าที่เขียนๆกันอยู่ตอนนี้ทุกคนของพี่น่ะเขียนดีสุดแล้วเว้ย เออ งาน 10 ปียังไปเล่นตามปกตินะ ตอนแรกว่าจะไม่ไปอยู่แหละ เกิดดราม่าชวนปวดหัว

    ปล. ผมกลับไปแก้ตอนเก่าฟิคนี้แล้วน้า กลับไปอ่านกันได้
  11. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    กลับเข้ามาดูหลังจากหายไปนาน เห็นกระทู้ดันมาก็แว่บมาอ่านสักหน่อย...

    พอเห็นฟิคยำเลยนั่งอ่านต่อไป โอเย~

    มาถึงแนะนำตัวละคร...

    คือว่า...

    ไอ้บ้านี่มันผมเหรอครับ!! =[]=!!!

    v
    v
    v
    v



    ผมใช่ไหม...ผม...สินะ..... *แอบอึ้งเล็กน้อยถึงปานกลาง*

    *โค้ง ๆ* ขอบคุณที่ให้เกียรติ... (ยังอึ้งไม่หาย 555)
  12. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    อ่ะแน่นอน มนุษย์ไม่รู้จักพอหรอกเฟ้ย ก็ต้องบท....อืม ยังไงก็ได้ ไม่จืดจางก็พอมันอิงชีวิตจริงเกิ๊น =[]=!!!!!
  13. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ไพอา ....
    ทำไมตัวเเกมันใสเหมือนตู้ปลาทองชอบกลน้า~~~

    / เผ่นด้วยความเร็วเเสง
  14. Ryuune

    Ryuune Well-Known Member

    EXP:
    1,084
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ริวเน่จังยังคงผิดอิมเมจอีกตามเคย T-T

    (ไม่ใช่อะไรหรอก อีนี่ตัวจริงนอกจากจะหาความเป็นผู้หญิงไม่ได้แม้แต่เล็กน้อยแล้ว แค่วาดรูปแผนที่โลกฟิคตัวเองยังวาดไม่ออกเลย และเนื่องจากเลิกวาดการ์ตูนตั้งแต่ประถมทำให้ฝีมือทางศิลปะเกือบเป็นศูนย์อีกตะหาก)

    ว่าแต่ แล้วนี่ตกลงเปลี่ยนมาเขียนเรื่องใหม่แทนแล้วเหรอคะเนี่ย แล้ว Tales of Aurora ล่ะ
  15. train

    train Member

    EXP:
    498
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    พรวดดดด
    ไม่ได้แวะเข้าหมวดฟิคนานมาก ช่วงนี้พูดง่ายๆผมแทบไมไ่ด้เล่นบอร์ดเท่าไหร่ เพราะติดงาน(ภาระเยอะว่างั้น เหอๆ) ยังอุตส่าห์มีเขียนบทให้ กร๊ากกกกกก เป้นตากล้องโรคจิตนี่ก็ดีไปอีกแบบนะ 55555+ (ชอบๆ)

    เฟทคุงเขียนฟิคยำสนุกดีออกครับ ฟิคอื่นๆก็เช่นกันเน้อ ^^
    ผมก็เป็นเหมือนกันไฟในการเขียนมันมอดไปหมดแล้ว ตอนนี้เลยไม่ได้จับปากกามานั่งเขียนฟิคเลย (ออกแนวว่าเขียนตามอารมณ์มากกว่าด้วยละผมน่ะ) ยังไงซะก็เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับเฟทคุง ^^/
  16. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ในที่สุดก็ปรากฏตัวเน้อ - -"

    ไม่ได้แตะฟิคอีกเช่นเดียวกัน ยอมรับตามตรงหัวใจผมหมดไปกับ ดอทเอ เอ้ย!! ชีวิตวัยเรียนแล้วก็เรื่องยุ่งๆ -*-

    ไม่ต้องบอกก็ได้เหนาะว่ายุ่งเรื่องอะไร แต่จะพยายามกลับมาเหมือนพี่ให้ได้แล้วกัน พี่โย...


    ปล.ผมเป็นผีดาดฟ้า หรือ ปาหี่โชว์อับดุลเนี้ยยย
  17. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    คุยกันก่อนอ่าน

    ผมว่าผมบอกแล้วนะว่า ไอ้เรื่องโรงเรียนสุดมั่วนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อเรื่องหลักเลย ยังมีคนพลาดเข้าใจผิดแหะ ฮั่นแหน่ แสดงว่าอ่านไม่ครบถ้วนล่ะสินะ คริๆๆๆ

    ผมแนะนำให้กลับไปอ่านตอนเก่าสองตอนก่อนนะครับ เพราะได้เพิ่มตัวเนื้อเรื่องและชื่อตัวละครไว้ เพราะถ้ามา่อ่านอันนี้เลยอาจจะสงสัยบางมุขได้ว่า มันมาตั้งแต่เมื่อไรว่ะ

    เอาเป็นว่าต่อเลยละกันนะ

    .................................................
    ..........................


    The Aurora Chapter I


    The Death Scyth Princess part III



    ...ภายในห้องอันหรูหราราวกับอยู่ภายในปราสาทใหญ่โตแห่งนี้ เป็นสถานที่กบดานของเหล่าอมนุษย์ผู้ดำรงชีวิตด้วยการดื่มเลือดจากสิ่งมีชีวิตอื่น อันรู้จักกันดีในนามแวมไพร์ ซึ่งเจ้าบ้านที่ภายนอกเป็นเพียงเด็กเล็กๆ แต่แท้จริงแล้วเธอคือ จ้าวแห่งเหล่าผีดูดเลือดที่มีอายุมากกว่าพันปี และเป็นหนึ่งในห้า ผู้กุมอำนาจเบื้องหลังของโลก อันเป็นที่หวาดเกรงของอาณาจักรน้อยใหญ่ ‘นักแปรธาตุเลือดต้องสาป’ โอลิเวีย

    สองเมดที่ยืนข้างโอลิเวียจัดแจงนำน้ำชามาเสริฟตามมารยาท ผู้ที่เสริฟชาให้กับเนลันเทีย คือ เมดหน้าตายเจ้าเก่า ส่วนทางฝั่งแม็กนั้น คือ เมดสาวผมสีน้ำตาลยาวหน้าตาสดใสผิดกับอีกคนลิบลับ เธอวางถ้วยชาให้อย่างมีมารยาทก่อนจะซุบซิบกับแม็กอย่างเป็นกันเอง

    “นี่เฮีย คุยกันเสร็จซดเหล้ากันหน่อยเปล่า”

    “หึหึ ไม่เลวนิ”

    แต่ความสนุกก็ถูกหยุดด้วยน้ำเสียงอันเด็ดขาดของเจ้าบ้าน “เสี่ยวหลิน....”

    เมดสาวรีบหันมาขอโทษทันควัน “ขอโทษค่ะ ท่านโอลิเวีย ต่อไปจะไม่ดื่มอีกแล้ววว”

    “ชั้นก็เห็นเธอพูดแบบนี้ทุกครั้ง เฮ้อ ช่างเหอะ ไหนยื่นแขนมาให้ดูหน่อยสิ” แวมไพร์ร่างเด็กเลิกสนใจกับท่าทีเดิมๆของลูกน้องตัวดี

    เนลันเทีย เปิดแขนเสื้อด้านซ้ายออก สิ่งชวนตกตะลึงถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นก็ปรากฏตรงหน้า เวลาหยุดนิ่งราวสามวินาที ก่อนเสียงหัวเราะดังลั่นของทุกคนที่เห็นจะสนั่นลั่นทุ่ง สิ่งที่ควรจะเป็นลายหัวกะโหลกน่าสยองบนแขนซ้ายเธอ กลับถูกมือดีบางคนไปตกแต่งเป็นกะโหลกผูกโบว์บ้าง กะโหลกใส่ฟันทองบ้าง กะโหลกยิ้มแฉ่งบ้าง จนแต่ละคนที่เห็นอั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ส่วนเนลันเทียนั้น อึ้งกิมกี่

    “ฮ่าๆ ดูท่าเธอจะมีความสุข กับ มันเหมือนกันนี่หนา โมเอะเดินได้” จ้าวแวมไพร์หัวเราะออกนอกหน้า

    “นี่...มัน”

    “ชั้นเองละ เห็นมันดูเป็นสิ่งน่าหดหู่กับเธอเหลือเกิน ชั้นก็เลยช่วยให้มันมีสีสันหน่อยไง” แม็กเปิดเผยตัวทันที ที่เห็นใบหน้าตกตะลึงของสาวน้อย แต่เนลันเทียแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่สนุกด้วย

    เมื่อเสียงหัวเราะค่อยๆซาลง เพราะบรรยากาศมาคุแทนที่ แวมไพร์เด็กน้อยก็ลุกขึ้นจากโซฟา พลันเดินเข้าไปหาเนลันเทีย “ขอโทษด้วยนะที่หัวเราะ มันคงขมขื่นมากเลยสินะ” แวมไพร์ผู้มีชีวิตมายาวนานเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางหันไปเอ็ดตัวการ “แกก็ต้องขอโทษด้วยแม็ก..”
    ชายหนุ่มที่รู้ตัวว่าไปสะกิดแผลใจหญิงสาวอย่างรุนแรงเอ่ยขอโทษทันที “อ่า ชั้นขอโทษ ไม่นึกว่ามันจะทำให้เธอเครียดแบบนี้” แต่ดูท่าหญิงสาวไม่คิดจะให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำลงไป

    “ก้มลงกราบเธอซะแม็ก” โอลิเวีย สั่งทันทีที่เห็นว่าไม่มีอะไรดีขึ้น

    “เฮ้ย กราบเลยเหรอ”

    “ไม่จำเป็นคะ......” เนลันเทียเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ผิดไปจากปกติเป็นอย่างมาก แวมไพร์อาวุโสโอลิเวียถอนหายใจยาวๆพลางคว้าแขนซ้ายเธอไว้ แวมไพร์สูงอายุลูบตามแขนของเธออย่างแผ่วเบา มุขตลกบ้าๆที่เคยอยู่บนท่อนแขนก็หายไปเกลี้ยง เธอพินิจดูรอยสักคำสาปบนแขนก่อนจะพูดขึ้น “โห มิน่าเจ้าติงต๊องนั้นถึงส่งเธอมาหาชั้น”

    เนลันเทียตกใจเล็กน้อยกับคำพูดของจักรพรรดินี “นี่คือ คำสาปกะโหลกฆาตกร แต่ที่มันผิดปกติไปคือ ลักษณะของคำสาปมันรุนแรงเหลือเชือ เธอเห็นรอยตรงนี้ไหม” ว่าแล้วโอลิเวียก็ชี้ให้ดูจุดผิดสังเกตบนหัวกะโหลก มันเป็นรอยวงกลมสีดำเล็กๆที่ดำเข้มกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด

    “จุดตรงนี้แสดงว่า คำสาปได้ถูกแต่งเสริมเติมแต่งด้วยศาสตร์มืด และจากที่ชั้นคิด ศาสตร์ที่ว่านั้นคือ ‘เร่งให้คำสาปที่ได้รับการเติมแต่ง มีพลัง และ รวดเร็วกว่าเดิม’ มันทำให้เธอต้องพบกับเงื่อนไขหฤโหด ในการสังหารผู้คนแต่ละเดือนที่เพิ่มขึ้นๆ และความเจ็บปวดทรมานแบบสุดๆหากทำตามเงื่อนไขไม่ทัน นอกจากนี้มันยังสามารถป้องกันการลบล้างคำสาปได้ด้วย”

    เนลันเทียที่ได้ยินถึงตรงนี้จึงเริ่มเข้าใจว่าทำไมหัวหน้าของเธอถึงไม่สามารถลบมันออกไปได้ “แล้วอย่างนี้....”

    “จะทำยังไงสินะ.... ไม่ยากเลย แค่ฆ่าคนที่สาปเธอให้ได้ก็จบแล้ว แต่ขอชมจริงๆที่เธอมีชีวิตมาได้ถึงทุกวันนี้”

    หญิงสาวรีบถามกลับทันที “แล้วคุณได้เบาะแสคนที่สาปชั้นไหมคะ”

    โอลิเวียไม่ตอบ แต่มองคู่สนทนาด้วยหางตาพลางยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย “ไอ้รู้น่ะมันรู้ แต่เธอจะไปหาที่ตายเร็วขึ้นมากกว่ามั้ง”

    เนลันเทีย นิ่งไปกับคำพูดนั้น แต่ดวงตาของเธอยังแสดงถึงความโกรธแค้นต่อผู้ทำลายชีวิตตน แวมไพร์ร่างเด็กผู้ไม่ใส่ใจชีวิตคนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองอยู่แล้วจึงตอบไปตามตรง “บนโลกนี้คนที่ทำให้คำสาปมันวิปริตขนาดนี้ได้ มีแค่สามคน หนึ่งในนั้นคือชั้น แต่เธอคงไม่คิดว่าเป็นชั้นหรอกใช่ไหม”

    หญิงสาวนิ่งเงียบ เมื่อเห็นดังนั้นโอลิเวียจึงว่าต่อ “อีกคนคือ ‘สังฆราชแห่งความมืด’ แต่จนถึงป่านนี้เจ้านั้นก็ยังไม่ยอมตื่นจากการจำศีล คงเพราะว่าไม่มีอะไรสนุกๆให้มันทำน่ะแหละนะ”

    “แล้วคนสุดท้ายละคะ” สายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นทวีมากขึ้น “คนสุดท้าย และ เป็นคนที่ชั้นฟันธงได้เลยว่าใช่ ก็คือ ‘กางเขนเลือด’ อีซาค โครนอส หนึ่งในห้าจักรพรรดิ”

    ดวงตาของเนลันเทียเบิกกว้าง แม้แต่แม็กที่นั่งฟังสบายๆยังต้องตกใจ “เฮ้ยๆ ยัยแก่ แกมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ”

    “เหอะ ตัวแกเองยังเคยโดนคำสาป ‘ฝันนิรันดร์’ ของมันจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วนิ เจ้านั้นใช้คำสาปได้หลากหลายมาก ถึงจะไม่เท่าชั้นก็เถอะ”

    “แล้วไม่มีวิธีอื่นในการคลายคำสาปเลยเหรอ ตอนตรูโดนก็ไม่เห็นจะต้องแก้ด้วยวิธีนี้เลยนิ” แม็กถามต่อ

    “กรณีแกมันไม่รุนแรงขนาดนี้ แต่รอบนี้ต้องยอมรับเลยว่าโหดมากจริงๆ” โอลิเวียตอบตามความเป็นจริง

    เนลันเทียลุกพรวดขึ้น ทำเอาคนอื่นตกอกตกใจกันหมด หญิงสาวหลับตานิ่งพลันลืมตาขึ้นดวงตาที่เคยมีแต่เพลิงเคียดแค้น กลับมีประกายความมุ่งมั่นเพิ่มเข้ามา “ขอบคุณมากคะ คุณโอลิเวีย และช่วยเปิดประตูกลับสู่โลกภายนอกให้จะได้ไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยขอร้องด้วยท่าทางน้อบน้อม จ้าวแวมไพร์ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหันไปทางเมดหน้าตาย “จัดให้เธอทีสิ”

    เมดแว่นผมม่วง ก้าวเดินออกมาพร้อมวาดประตูแสงทรงรีขึ้นมาอีกครั้ง ตามคำสั่งของนายเหนือหัว เนลันเทียโค้งให้แวมไพร์ร่างเด็ก พลันย่างก้าวเข้าประตูแสงแต่เสียงของแม็กหยุดเธอเอาไว้ “เฮ นั้นจะไปไหนน่ะ”

    “มันแน่อยู่แล้วคะ”

    “เธอจะไปหาเจ้านั้นจริงๆเหรอ นี่เธอไม่รู้หรือไงว่าเจ้านั้น...” เนลันเทียหันกลับมาด้วยสายตาเด็ดเดี่ยวจนแม็กต้องหยุดพูด

    “ชั้นไม่สนหรอกค่ะ ว่า ‘กางเขนเลือด’ จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ชั้นจะไปฆ่ามันเพื่อล้างแค้นแทนทุกคนในบ้านโลเฟลลอยด์” ว่าแล้วเธอก็เดินหายไปในจานแสงโดยไม่สนใจคำทักท้วงของแม็ก

    “นี่ยัยป้า....”

    “อย่ามาโทษชั้น นั้นคือสิ่งที่สาวน้อยนั้นตัดสินใจแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นกับเจ้าตัว จะว่าไปเป็นคนตระกูลโลเฟลลอยด์เองหรอกเหรอ อืม น่าสนใจแหะ” โอลิเวียแสดงความสนใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาเมดผู้ยืนอยู่ด้านซ้าย “เสี่ยวหลิน ช่วยแจ้งให้ ‘บัลลังค์รัตติกาล’ รู้เรื่องนี้ด้วย”

    “เจ้าค่า ท่านโอลิเวีย” เมดบ๊องรับคำสั่งก่อนจะเปิดประตูแสงสีฟ้า ออกไปจากห้องด้วยความรวดเร็ว แม็กที่แสดงอาการไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ทำเอาโอลิเวียหัวเราะเล็กน้อย “อย่าบอกนะว่าแกชอบสาวน้อยคนนี้”

    “ไม่ใช่โว้ย สำหรับชั้นคนนี้ต้องชานะจังเท่านั้น”

    “อ้อ เหรอ ก็เห็นทำหน้าแบบนั้นจะไม่ให้คิดได้ยังไงละ” โอลิเวียหัวเราะคิกๆ อย่างไร้เดียงสาไม่สมอายุ แก่แล้วทำแอ๊บเด็ก

    “จะว่าไปเป็นพันธมิตรกันเมื่อไรเนี่ย แกสองคนน่ะ หรือ เพราะสงครามคราวนั้นหรือเปล่า” แม็กเอ่ยถามพลางนั่งเหยียดขาสบายใจเฉิบ

    แต่ยังไม่ทันที่โอลิเวียจะได้ตอบ เวลาเพียงพริบตาเดียว....ร่างของแวมไพร์ตนนึงพุ่งผ่านทั้งสองไปอย่างรวดเร็วและกระแทกเข้ากับกำแพงห้องจนกลายเป็นฝุ่นผง ทุกสายตาในห้องจับจ้องไปทิศทางที่แวมไพร์เคราะห์ร้ายพุ่งมา ณ จุดนั้น แผ่นจานแสงแบบเดียวกับที่เสี่ยวหลิน เมดสาวที่เพิ่งออกไปกลับปรากฏขึ้น พร้อมกับร่างของชายหนุ่มผมสีดำยุ่งกับดาบยักษ์ที่ไม่รู้ว่ามันแบกอีโตนี่มาได้ยังไง

    “อ่า อยู่ที่นี่กันนี่เอง แกะรอยรออยู่ตั้งนาน กว่าจะก็อบวิธีเปิดประตูนี้ได้ โชคดีจริงๆที่ลูกน้องคุณโผล่มาตำแหน่งที่ผมกะไว้พอดี” แวมไพร์เจ้าบ้านยิ้มรับผู้มาเยือน พลางส่งสัญญาณให้เหล่าแวมไพร์ทั้งห้องถอยออกไป

    “แหมๆๆ ไม่เจอกันนานเลยนะ ไพอา เครทอส เพอร์ดิเทีย ‘เทวาฆาตกร’ “ โอลิเวียหยุดจิบชาเล็กน้อยก่อนมองผู้ไม่ได้รับเชิญด้วยหางตา “หรือจะให้เรียกว่า ‘ดาวหางสีเลือด’ แซ็ค บริทซ์ไซน์เซ่น ดีละ”

    “ฮ่าๆ พลาดโดนไอ้เบื้อกนี้เจอจนได้นะยัยแก่”

    “ผมอยากให้คุณทั้งสองเรียกว่า ไพอา จะดีกว่านะครับ จะได้ดูสนิทสนมเหมือนครั้งก่อน ท่านโอลิเวีย ท่านแม็กแลนเซอร์ จะว่าไปคงเป็นคุณสินะ ที่ช่วย ‘องค์หญิงมัจจุราช’ เอาไว้ ทำแสบมากเลยนะครับ”

    “ขอบคุณที่ชมจ๊ะ”

    โอลิเวียหลี่ตาลงเล็กน้อย “วันนี้แขกเยอะดีแหะ แล้วมีธุระอะไรละ”

    ไพอา ยืนเท้าเอวอย่างไร้มารยาท พร้อมมองโอลิเวียด้วยสายตาท้าทาย จนเหล่าแวมไพร์ทนไม่ไหว “นี่แก หมิ่นเกียรติท่านโอลิเวียเหรอ”

    ไม่รอช้าแวมไพร์หนุ่มก็พุ่งเข้าเล่นงานไพอา ทันที ทว่าคมดาบยักษ์กลับสับร่างของเขาขาดเป็นสองส่วนก่อนจะได้เข้าถึงตัวด้วยซ้ำ “เฮ้อ เตือนไม่ทันสินะ” โอลิเวียมองร่างลูกน้องที่สลายกลายเป็นผงอย่างอาลัย

    “ยังต้อนรับกันรุนแรงเหมือนเคยเลยนะครับ มาว่าธุรกิจเราดีกว่า” ไพอาถือวิสาสะลากเก้าอี้ตัวนึงมานั่ง พลางหยิบลูกชิ้นมาจิ้มกินด้วย

    “ผู้นำของเราได้พบที่อยู่ของ ‘สิ่งนั้น’ แล้ว” โอลิเวียและแม็กสบตากันเล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปากขึ้น “มันเจอเร็วกว่าที่ชั้นคิดไว้แหะ”

    “ผู้นำของเราทำงานได้รวดเร็วกว่าเต่าเช่นพวกคุณอยู่แล้วละครับ” แม็กยิ้มไม่สะทกสะท้านต่อคำพูดเหยียดหยาม โอลิเวียที่ยังคงจิบชาสบายใจยิ้มขึ้น “แล้วผู้นำของแกมีธุระอะไรกับชั้นมิทราบ”

    “ท่านต้องการให้คุณร่วมมือกับเราในการเปิดศึกกับอาณาจักร Eternal ครับ” เสียงพึมพำดังไปทั้งห้อง สีหน้าของจ้าวแวมไพร์ดูเคร่งเครียดขึ้นทันตา “แล้วถ้าไม่ตกลงละ”

    “ก็คงต้องเปลี่ยนเป็นขอยืมปราสาท ‘ดารานิรันดร์’ แห่งนี้แทนละครับ” คราวนี้เหล่าแวมไพร์ต่างตะโกนสาปแช่งกันยกใหญ่ ผิดกับแม็กที่หัวเราะลั่นกับข้อเสนอบีบคอด่าบุพการีแบบนี้ เช่นเดียวกับโอลิเวียที่ถึงกับส่ายหน้า

    “เจ้านั้นนี่ ชื่นชอบการมีปัญหากับคนอื่นหรือยังไงนะ คราวที่แล้วก็เพิ่งฟัดกับ ‘แสงแห่งคำพิพากษา’ มาหยกๆ คราวนี้จะมาเปิดศึกกับชั้นต่อเหรอ แถมยังอยากจะหาเรื่องกับอาณาจักรที่แข็งแกร่งพอๆกับพวกเราเนี่ยนะ” ไพอายิ้มกวนไปกับคำพูดของจ้าวแวมไพร์ “สำหรับ จักรพรรดิ ‘แสงแห่งคำพิพากษา’ นั้นเราได้ผลลัพท์ที่น่าพอใจแล้ว”

    เพียงประโยคเดียวโอลิเวียถึงกับหยุดกึก ท่าทีสบายๆจนถึงเมื่อครู่ดูจริงจังขึ้นมาทันตา “หึ ชั้นพอจะเข้าใจอะไรขึ้นบ้างละ”

    “สมกับเป็น ‘นักแปรธาตุเลือดต้องสาป’ เข้าใจอะไรง่ายดีนี่ครับ ถ้าเช่นนั้น....” ไพอาหยุดพูดรอคำตอบจากอีกฝ่าย

    “ขอคิดดูก่อนละกันนะ” ไพอาเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้มร่า พลางโค้งให้อย่างยียวนก่อนจะสร้างประตูแสงออกจากปราสาทไปดื้อๆ

    “ท่านโอลิเวียคะ” เมดหน้าตายเหม่ยหลิน เอ่ยทักผู้เป็นนาย “อืม ข่าวที่ว่า ‘แสงแห่งคำพิพากษา’ พลาดท่าดูจะเป็นเรื่องจริง”

    “เฮ้ๆ ยัยแก่ ไอ้หมอนั้นมันจะพลาดง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ” แม็กท้วงขึ้นจากประสบการณ์ที่เคยสู้กับจักรพรรดิมาทุกคนแล้ว เขาย่อมรู้ดีถึงความน่ากลัวของผู้ทีได้ชื่อว่ากุมอำนาจของโลกเบื้องหลัง “ชั้นเองก็ไม่อยากเชื่อ แม้ตัวหัวหน้าจะดูไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันเท่าไร แต่ชั้นค่อนข้างมั่นใจว่าลูกน้องของ ‘กางเขนเลือด’ นั้นโหดกว่าแน่ แต่ถึงอย่างไร ก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ช่วยถ่วงดุลให้ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่ดี”

    โอลิเวีย วิเคราะห์สถานการณ์อย่างเยือกเย็น “พวกมันไม่ได้อยากให้เราร่วมมือด้วยหรอก มันแค่ต้องการปราสาท ‘ดารานิรันดร์’ เท่านั้น และการที่มันมาขอใช้ปราสาทแห่งนี้ มีแค่สองเหตุผล หนึ่งคือ ใช้เป็นป้อมปราการในการทำศึก สอง ใช้สำหรับป้องกันตัวจากการตามล่าของ ‘แสงแห่งคำพิพากษา’ “

    แม็กที่พอจะเริ่มเข้าใจเรื่องทั้งหมดจึงเอ่ยขึ้นบ้าง “แสดงว่ามันไม่ต้องการเปิดศึกหลายทางสินะ แล้วทำไมมันยังกล้ามาต่อรองอะไรกับแกอีกละ”

    “อาจเพราะมันได้ ‘เปลวเพลิงชำระล้าง’ มาแล้วก็ได้” แม็กที่ได้ยินชื่อสมบัติชิ้นนี้ ถึงกับไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “เฮ้ย นั้นมันอาวุธที่กะจะใช้ฆ่าพวกแกทั้งยวงเมื่อหลายปีก่อนไม่ใช่เหรอ”

    โอลิเวียถอนหายใจเล็กน้อย “ยังดีที่ตอนนั้น ‘บัลลังค์รัตติกาล’ ยกทัพมาสกัดไว้ทันและบั่นทอนพลังของสมบัติชิ้นนั้นไป ไม่งั้นป่านนี้พวกชั้นคงตายกันไปเยอะแล้ว”

    ‘เปลวเพลิงชำระล้าง’ คือสมบัติลับที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดการกับเหล่าผู้ที่ไม่ยอมตาย มันมีคุณสมบัติของธาตุศักดิ์สิทธิ์ขั้นรุนแรงที่จะทำการสลายร่างของอันเดตทั้งปวงที่อยู่ในรัศมีขนาดใหญ่หลายสิบกิโล ซึ่งแวมไพร์นั้นแม้จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียกได้ว่า แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ก็ไม่อาจลบจุดอ่อนอันใหญ่หลวงในเรื่องของแร่เงิน และ ธาตุศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงได้

    เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ‘แสงแห่งคำพิพากษา’ เคยคิดจะใช้สิ่งนี้กวาดล้างเหล่าแวมไพร์เพื่อยึดอำนาจและสมบัติทั้งหมดของ ‘นักแปรธาตุเลือดต้องสาป’ ทั้งหมด โดยเฉพาะปราสาทแห่งนี้ ที่มีคุณสมบัติเป็นทั้งป้อมปราการและสถานที่ซ่อนตัวชั้นยอด แต่จักรพรรดิ ‘บัลลังค์รัตติกาล’ ได้เข้ามาสกัดไว้และใช้เล่ห์กลลดพลังของสมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้ให้อ่อนพลังจนใช้การไม่ได้

    แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปสักพักพลังของสมบัตินั้นจะฟื้นกลับมาตามปกติ....

    “ถามจริงๆเหอะ ยัยแก่ ที่ต้องใช้ปราสาท ‘ดารานิรันดร์’ หนีหัวซุกหัวซุนอยู่แบบนี้ ก็เพราะรู้ว่าพลังของสมบัตินี้มันกลับมาแล้วใช่ไหม” โอลิเวียไม่ตอบในทันที เธอถอดสายตายาวอย่างไร้จุดหมายพลันถอนหายใจ “ถึงไม่อยากยอมรับ แต่ชั้นก็ไม่รู้แล้วว่าจะหาวิธีไหนที่จะปกป้องพวกพ้องได้ดีกว่าวิธีนี้”

    โอลิเวียเว้นจังหวะพูดเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อ “เพราะจักรพรรดิบ้าคลั่งทั้งสองคนกำลังอาละวาดกันจนขั้วอำนาจเบื้องหลังปั่นป่วนแบบนี้ ชั้นกับเจ้านั้นจึงต้องร่วมมือกันถ่วงดุลไปพลางๆ แต่ถ้าหาโอกาศได้เมื่อไรก็จะฆ่าพวกมันให้หมดซะ ซึ่งเราจับมือกันตั้งแต่สงครามเมื่อ 10 ปีก่อนน่ะแหละ”

    “แล้วจะเอายังไงต่อ หะ ยัยแก่”

    “นั้นสินะ...”


    ....................................
    ......................................................
    ..................................................................


    เนลันเทีย กลับมาสวมชุดโกธิคสีขาวตัวเก่งของเธออีกครั้ง สีผมและสีตาที่ถูกย้อมก็กลับสู่สภาพเดิม เนื่องจากเธอไม่ชอบที่จะหลบๆซ่อนๆแบบนี้ และร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บกลับหายอย่างน่าประหลาดหลังได้พบกับจักรพรรดินีของเหล่าแวมไพร์

    หญิงสาวเดินไปตามถนนเล็กๆในเขตชานเมืองที่ไร้ผู้คน สองข้างทางเป็นพงหญ้าเตี้ยๆและไม้ยืนตนจำนวนไม่มาก ผมสีฟ้ายาวปลิวไสวตามกระแสลมอ่อนๆ ห่อผ้าที่บรรจุวัตถุขนาดใหญ่อยู่ในมือขวา ดวงตาสีอำพันสวย จับจ้องเบื้องหน้า ร่างเล็กๆของเด็กสาวคนนึงดักทางเธออยู่ ผมสีดำยาวเกือบจะถึงพื้น และดวงตาสีน้ำตาลดุ มองมาที่เธอ “นึกแล้วว่าต้องมาทางนี้”

    หญิงสาวผมฟ้ายิ้มขึ้น “คิดอยู่เหมือนกันว่าน่าจะเจอเธอตรงนี้”

    “การตามรอยมันง่ายจะตายไป อยู่ที่ไหนที่นั้นต้องมีคนตาย ระหว่างทางที่มานี้รู้สึกจะปาดคออันธพาลแถวนี้ไปสามสี่คนแล้วสินะ” เด็กสาวพูดด้วยเสียงท้าทาย “แต่เธอคงรู้อยู่แล้วสินะว่าชั้นตามรอยมาตลอดถึงได้จงใจเดินมาแถวนี้”

    เนลันเทียไม่ตอบเธอยืนอย่างสงบนิ่งท่ามกลางแสงแดดยามเย็น และสายลมที่เบาสบาย “ชั้นตรวจประวิติเธอมาแล้วละนะ เนลันเทีย โลเฟลลอยด์”

    สาวผมฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคู่กรณีเอ่ยชื่อเธอซะเต็มยศ “ผู้เหลือรอดเพียงคนเดียวในบ้านโลเฟลลอยด์ จากการจู่โจมของกลุ่มคนปริศนา ฐานะที่แท้จริงของเธอก็แทบจะเทียบเท่าองค์หญิงของรูบิเนเซียเลยนี่นะ”

    “อยากจะพูดอะไรกันแน่ ‘เกศาเพลิงเนตรอัคคี’ “

    “ชั้นก็แค่อยากรู้ว่า ทำไมคนอย่างเธอถึงกลายเป็นมือสังหารแบบนี้”

    “ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก” เด็กสาวได้ยินดังนั้นพลันหลับตาลงและยิ้มขึ้นเล็กน้อย ผมสีดำยาวขลับของเธอกลับกลายเป็นสีแดงเพลิง พร้อมสะเก็ดไฟโปรยปราย ผ้าคลุมสีน้ำตาลซีดปรากฏขึ้นพร้อมดาบยาวคู่ใจ เด็กสาวลืมตาขึ้นพร้อมกับเนตรอัคคีอันลุกโชติช่วง

    “ถ้าเช่นนั้น......ชั้นก็ต้องนำตัวอาชญากรอย่างเธอกับไปลงโทษละนะ เนลันเทีย”

    “นั้นคือ คำพูดของคนที่ไม่เคยเอาชนะชั้นได้น่ะเหรอ ชานะ...” ผ้าคลุมถูกสะบัดออก เคียวสีขาวเล่มยาวเข้ามาอยู่ในมือขวาของ ‘องค์หญิงมัจจุราช’

    “แต่ก็นับว่าเลือกสถานที่ได้ดีนะ ไม่ค่อยมีคนดี” ชานะว่าพลางยิ้มอย่างพอใจ

    “สู้กับเธอชั้นไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนด้วยน่ะ” เนลันเทียเองก็ยิ้มขึ้นเช่นกัน

    ทั้งสองตั้งท่าเตรียมสู้ สายลมที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบากลับหยุดโดยไม่ทราบสาเหตุ ดวงอาทิตย์ยามเย็นที่ใกล้จะลับขอบฟ้าเปล่งแสงสีส้มทอดยาวไปบนถนนที่สองข้างทางเงียบงัน เนตรสีอำพัน และ สีอัคคี จับจ้องไม่วางตา

    “ชั้นล่ะ ยินดีจริงๆที่ตอนนั้นเธอรอดไปได้ ถ้าคนที่คว่ำเธอลงไม่ใช่ชั้น ละก็แย่แน่ๆ”

    “งั้นจะช่วยตอบแทนความยินดีนั้นด้วยการส่งไปเฝ้ายมบาลละกันนะ”

    จู่ๆสายลมที่หยุดนิ่งกลับพัดโหมกระหน่ำราวคลุ้มคลั่ง ดวงตาของทั้งเบิกโพลงแทบจะพร้อมกัน “เอาละนะ !!!!!”
    ……………………………………..
    ………………………..
    ………………


    ณ ส่วนลึกสุดของป่าแห่งการสาบสูญ เป็นที่ตั้งของปราสาทโบราณอายุหลายร้อยปีและถูกปกคลุมไปด้วยหมอกจนไม่สามารถมองเห็นได้แม้จะมุมมองด้านบน ชายผู้นึงกำลังจิบโอวินตินใหญ่จากแก้วทรงอ้วนที่มีตัวอักษรสลักทั่วแก้วว่า “ทวินเทลสุดยอด !!” พร้อมนั่งอ่านหนังสือโป๊รวมดาวสาวอนิเม

    เสียงเปิดประตูดังสนั่นปรากฏร่างของชายผมสีขาวเดินพรวดพราดเข้ามาในห้อง “เนียร์......ตรูบอกกีทีแล้วว่าหัดเคาะประตูซะมั้ง คราวก่อนตอนที่ตรูข้าเกือบจะปล้ำเมดคนใหม่ได้ เอ๊งก็ดันพรวดเข้ามาเสียฤกษ์หมด“ น้ำเสียงดุจคนเมาเหล้า 10 แกลลอน ดังสยองไปทั่วห้อง แต่ได้ข่าวว่าเอ๊งกินแค่โอวันติน

    “โอะ ขออภัยหัวหน้า” ชายผมขาวรีบขอโทษก้มหัวผงกๆ

    “เอ้า มีไรว่ามา”

    “ตามที่สายสืบเรารายงานมา ตอนนี้ ‘แสงแห่งคำพิพากษา’ กำลังไล่ล่ากลุ่มที่ออกปฎิบัติภารกิจของ ‘กางเขนเลือด’ จนตอนนี้พวกนั้นต้องกลับไปกบดานตามคาดครับ” ชายหนุ่มรายงานฉับไว

    “อ่า แล้วไงต่อ”

    “หมดแล้วครับ” เท่านั้นเอง ชายร่างสูงโปร่งก็ลุกยืนขึ้นผมสีเงินวาววับจนถึงต้นคอปรากฏผ่านแสงที่ลอดผ่านเข้ามา ดวงตาปิดสนิททั้งสองข้าง พร้อมด้วยใบหน้าทะเล้นๆ ที่ตอนนี้ดูจะหงุดหงิดเต็มที

    “อะไรฟะ มีแค่นี้เนี่ยนะ จะมารายงานแค่นี้ข้าว่า เอาไว้พูดตอนข้าวเย็นดีกว่าไหม” ชายผมเงินตวาดใส่ลูกน้องพลันสะบัดผ้าคลุมสีดำแสดงความโมโหที่โดนขัดความสุข

    “แต่หัวหน้า นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะเคลื่อนไหวนะครับ จักรพรรดิสองคนตีกันเอง แถม ‘นักแปรธาตุเลือดต้องสาป’ ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ถ้าเราใช้โอกาสนี้....” ก่อนที่ลูกน้องจะพูดต่อ ชายผมเงินก็ยกมือเบรกไว้

    “แล้วแกจะให้ทำอะไร บุกไปปราสาท ‘ดารานิรันดร์’ หักหลังยัยโอลิเวียที่ยังใบ้กินเหรอ หรือตลบหลังไอ้สองตัวนั้นละ ไม่ว่าทางไหนในเวลานี้ก็ยังไม่สมควรทำทั้งนั้น และยิ่งตอนนี้เนลันเทียกำลังทำให้อาณาจักรทั้งหลายปั่นป่วน เพราะเธอต้องฆ่าคนตามรายทางทุกที่ตามเงื่อนไขคำสาป ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามแผนแล้ว แกจะเอาอะไรอีกฟร้า !!!” หัวหน้าร่ายยาวจนลูกน้องอึ่งกิมกี่

    “แล้วที่ท่านส่ง ‘องค์หญิงมัจจุราช’ ไปหาจักรพรรดิโอลิเวีย นี่เพื่ออะไรครับท่าน”

    “ตอนนี้ยัยนั้นคงจะรู้ตัวคนสาปตัวเองแล้ว จริงๆแล้วชั้นก็พอจะเดาได้แหละว่าใคร แต่ที่ต้องส่งไปหายัยแวมไพร์นั้นก็เพื่อให้มั่นใจว่าเป็น ‘กางเขนเลือด’ จริงๆ และตอนนี้เนลันเทียที่น่ารักของชั้นคงกำลังหาทางไปแก้แค้นน่ะแหละ” ว่าแล้วชายผมเงินก็หย่อนตูดตัวเองกลับลงไปนั่งบนบัลลังค์

    “ฟังนะเฟ้ย ตอนนี้ทุกอย่างตามแผนการเราแล้ว แถมเรายังโชคดีรู้ที่อยู่ของ ‘สิ่งนั้น’ แล้วด้วย ซึ่งเดี๋ยวตัวชั้นจะไปสังเกตการณ์เอง ฝากใครก็ได้เฝ้าที่นี้ทีละกันนะ” ลูกน้องผมขาวได้ฟังก็ตกใจน้ำลายฟูมปาก เหมือนกินน้ำยาล้างจานเข้าไปไม่มีผิด จะตกใจไรนักหนาวะ

    “แต่ท่านไม่ต้องไปเองก็ได้นี่ครับ แค่กๆๆ” เนียร์พูดไปสำลักน้ำลายไป

    “เฮ้ย ม่ายด้ายยยยย ของแบบนี้ต้องไปด้วยตัวเอง เอาเป็นว่าตามนี้ละกัน เออ...ช่วยไปบอกกันจังด้วยว่า เอาโอวันติลอีกแก้ว แล้วอย่าลืมทำทรงผมทวินเทลตอนขึ้นมาเสริฟด้วยนะ”

    “อีกแล้วเหรอครับ”

    “เออหน่า ไปได้แล้วไป เดี๋ยวค่อยเจอกันตอนข้าวเย็น”

    “รับทราบคำสั่ง”




    ...............................................................................................
    ......................................................................
    ....................................................


    Special Thanks

    1. โอลิเวียจัง ของ เจโนวาคุง ขอโทษที่คราวที่แล้วเข้าใจผิด

    2. แม็กกี้ ต่อไปนี้จะใช้ชื่อแม็กกี้ยาวๆละกันนะ

    3. ไพอา เอ้า เลวพอยังน้อง

    4. เนียร์คุง ลิ่วล้อหมายเลข 1

    5. กันจัง เตี้ย !!!!!

    6. ท่านผู้นั้น

    And All Friends and Fans Thank YOU !!!!!
  18. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    ตอนใหม่ๆ โอ้เขียนออกมาOk เลยไอ้น้อง ถึงจะไม่ได้เขียนมานาน ยังไปได้เรื่อยๆ มองลึกๆ เนื้อเรื่องยังคงหนักหน่วงเช่นเดิม แต่มีการแทรกมุข + การกัดกันเองของเหล่าตัวละคร มันให้ภาพโดยรวมของฟิคดูนุ่มนวล อ่านง่ายขึ้นอีก 30% ไอ้โยกลับมาคราวนี้มันไม่ธรรมดาเว้ย

    ปูเสื่อรอดูตอนต่อไป เท่าที่ดูมันไม่น่าจะออกทะเลมากนะฮาๆ
  19. Ryuune

    Ryuune Well-Known Member

    EXP:
    1,084
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    เขียนได้ดีกว่าเรามาก ๆ ค่ะ ไหลลื่นดี อ่านไปสนุกสนานพาเพลินดี
    (ฟิคเราสิ ไม่มีคนอ่านเลยอ่า T-T)
  20. PaiaAznable

    PaiaAznable มนุษย์ตู้ปลาช้ำรัก

    EXP:
    744
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    พอเลวใช้ได้ แต่ยังดิบเถื่อนไม่พอเฟ้ย =[]=!!!! (อ้อลืมไป ยังไม่ได้ใช้แฟงกส์ ออฟ คาออสสินะ OTL)

    เป็นการผสมผสา่นเนื้อเรื่องจริงจังกับมุขฮาๆได้ยอดเลยงับเฮีย ไม่เสียทีที่ดองซะนาน(พูดเล่นนะิงิ ผมรู้น่าว่ายุ่ง เหอๆๆ)

    รอชมต่อไปครับพี่ชาย >w<b ปล.ชักสงสารยัยกันยังไงไม่รู้แล้วแฮะ - -"a
  21. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    อืม เค็มกำลังดี...?


    //me นอนอยู่ในร้านดูคนกัดกัน



    ปอลอ. อัพเพิ่มแล้วก็เปลี่ยนหัวกระทู้ด้วยสิเฟร้ย
  22. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora ใครสนใจอยากโดนยำเชิญด้านใน

    อ่านครบถ้วนกระบวนความครับ

    แต่ผมอึ้งกับคาร์ที่ท่านคิดให้ผมเท่านั้นเอง 55555555

    เริ่มมีฟิคกลับมาให้อ่านบ้างแล้วสินะเนี่ย *-*
  23. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora [Death Scyth Princess part 3]

    ทำไมอ่านถึงท่อนที่เเกออกโรงเเล้วมันเหมือนฟิคยำชอบกล หาโย!!

    กัน..เตี้ย....อืมถูก...
  24. shinkyoto

    shinkyoto Well-Known Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora [Death Scyth Princess part 3]

    ท่านผู้นั้น???

    ท่านผู้นั้นที่แบกบลัสเตอร์ไว้บนหลังใช่หรือไม่ (??)

    ไม่ใช่ล่ะ?

    ห่างหายไปนาน แต่กลับมายังสามารถนำตัวละครจำนวนไม่น้อยออกมาใช้ได้อย่างไม่รู้สึกว่า มีการเร่งเอาตัวละครออกมาใช้เท่าไหร่เลย

    งรึมมมม
  25. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    Re: [กลายสภาพเป็นฟิคยำเรียบร้อย] The tales of Aurora [Death Scyth Princess part 3]

    เดี๋ยว หยุดก่อน ยังอ่านตอน 3 ไม่จบ

    ขำไม่ไหวแล้ว... หายใจไม่ทัน จะตกเก้าอี้ตายอยู่แล้ว กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    โอ้ยยยยยยยย แต่ละคน พระแม่เจ้าาาา อภิมหารั่วสุดจะรั่วไม่ไหวแล้ว
    ขำกลิ้งประธานยูกิ ไอ้สร้างรูปปั้นไว้หน้าโรงเรียนนี่มันอะร๊ายยย ก๊ากกกกกก
    ขำเทรนแอบจิต ขำอ.เดริค โหดแต่ซื่อบื้อ ขำแม็กซ์แพ้ผู้หญิงเว่อร์ (ผื่นขึ้นด้วยไหมนั่น?) ขำผีเนียร์ กร๊ากกก บรรยายไม่หมด ไม่ไหวแล้วครับ (โยคุงอย่าเพิ่งมองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิ)

    ขึ้นตอน 3 เบรกบรรยากาศด้วยเนื้อเรื่องลึกลับเข้มข้น ดำมืด แต่มีเแทรกมุขอยู่ไม่ให้หลุดอารมณ์ ไม่เลว (ชอบแม็กเรียกโอลิเวียว่ายัยป้า)
    สองสาวเนลันเทีย+ชานะจะห้ำหั่นกันแล้ว (ชอบบทสนทนาที่เย้ยๆกัน ฟังดูได้อารมณ์) เชียร์ใครดีล่ะเนี่ย..

    แต่....เอ.. ทำไมผมงงๆกับชื่อตัวละครตัวเอง ตกลงในเรื่องนี้ยำคนในบอร์ดใช้ชื่อตรงๆเลยรึเปล่า? Oo
    ถ้าใช่ก็จะบอกว่า... รู้สึกหลังๆมาคาร์เราจะเริ่มมีอายุแฮะ (ตามเจ้าของมันน่ะแหละ)

Share This Page