ปัจจุบันผมเรียนอยู่ปี 4 แล้ว... เทอมนี้ผมเรียนเป็นเทอมสุดท้าย เพราะเทอมหน้าฝึกงานทั้งเทอม เลยไม่ต้องเรียนอะไรอีกแล้ว แต่พอดีไอ้วิชาโทตัวสุดท้ายในเทอมนี้คะแนนสอบมิดเทอมดันออกมาเน่ามากๆ แถมคะแนนเก็บอื่นๆก็เน่าอีก...ด้วยหลายๆเหตุผลที่คิดว่าถ้าเรียนต่อไปยังไงก็ได้ F แน่ๆตัวนี้ ด้วยความที่ว่าไม่อยากติด F ในใบ Transcript ก็เลยตกลงกับเพื่อนว่าไปดรอปกัน...แล้วก็ได้อักษร W มาแทนตัว F ที่นี้เนี่ย...ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี ว่าไอ้ W เนี่ย มันมีผมเสียอะไรกับตอนสมัครงานรึเปล่า? ถ้าเทียบกับ F มันดูดีกว่ามากไหม? แถมยังมีอีกเรื่อง ผมก็ทำเรื่องเปลี่ยนสาขาวิโทไปแล้วด้วย ตอนแรกเรียนวิชาโทภาษาอังกฤษเพื่อนการสื่อสารธุรกิจ...ผ่านมา 4 ตัวได้...แต่ตัว 5 ไม่รอด ก็เลยไม่อยากจะเรียนซ้ำแล้ว เลยทำเรื่องเปลี่ยนเป็น วิชาโททั่วไปซะ...ซึ่งอีกตัวที่เหลือกะว่าจะไปลงวิชาโทนิเทศศาสตร์แทน คือผมก็ไม่รู้ว่าทุกมหาลัยเป็นเหมือนกันหมดรึเปล่านะ แต่มหาลัยผมถ้าเรียนวิชาโทของสาขาใดสาขาหนึ่งไม่ครบ 5 ตัว แล้วเปลี่ยนไปเรียนวิชาโทของคณะหรือสาขาอื่นแทน จะกลายเป็นวิชาโททั่วไปแทน ทีนี้เนี่ย ในใบ Transcript มันจะมีระบุไว้ด้วยว่าเรียนจบเอกสาขาอะไร โทสาชาอะไร ซึ่งตอนแรกผมจะเป็น "โทภาษาอังกฤษเพื่อนการสื่อสารธุรกิจ" แต่ตอนนี้ผมกลายเป็น "โททั่วไป" ซะแล้ว ก็เลยไม่รู้อีกว่ามันดูแย่หรือมีผลเสียต่อการสมัครงานไหม? หรือว่าทั้งหมดนี่ผมคิดมากไปเอง..... ป.ล. ผมเรียน Computer Animation ครับ...เกี่ยวกับ 3D
w ไม่คิดเกรด ทำให้ GPA ไม่ร่วง แต่ F เอามาคิดกับ GPA ในเทอมนั้นมั้งคะ ( ไม่เคยมีปีญหาเลยไม่ค่อยชัวร์ ) ถ้าจำไม่ผิด ทั้ง W และ F เวลาเรียนซ้ำจะ แก้เกรดให้นะ ก่อนจบ แต่พวก D C พวกนี้ ไม่แก้ อาจารย์บางท่านจึงมักจะบอกว่า นี่ผมช่วยคุณนะเนี่ยให้ F ไม่ให้ D
ของลาดกระบัง สมัยที่ผมเรียน ดรอปไม่มี W แต่เป็นการถอนวิชานั้นออกไปเหมือนไม่เคยลงเรียนเลย แต่ไม่คืนเงินค่าลงทะเบียน คาดว่าเดี๋ยวนี้คงยังแปะอยู่ใน transcript แต่ไม่คิดเกรด ลงใหม่ก็คิดเกรดใหม่ F คิดเกรดครับ แถมไม่แก้ให้ด้วย เรียนใหม่ได้ A แต่หารออกมามันก็เหมือนกับ C แถมเปลืองหน่วยกิจอีก
อาจารยที่คณะเคยบอกว่า ถ้าตั้งแต่คุณเรียนมาไม่เคยติด W ติดไปหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ก็ดีกว่าได้ F นะ เขาว่ามาว่าอย่างนี้....ไม่รู้แฮะ แล้วแต่คิดก็แล้วกันค่ะ ^^" (เขาตอบตอนที่เพื่อนไปขอร้องเรื่องว่าคะแนนมิดเทอมต่ำติดดิน กลัวจะร่อแร่ไม่รอด ให้ช่วยหน่อย ซึ่งแน่นอนว่าปฏิเสธ ฮ่าฮ่า)
^ ^ ของผมเหมือนกันครับ ตอนสมัครงานนี่ เกรดแค่ช่วยใรการตัดสินใจได้นิ๊ดนึงเองครับ... ติด F ได้ไม่ผิดหรอกครับ ยิ่งถ้าติดวิชาเดียวผมว่าไม่น่ามีปัญหานะ (ถ้าวิชานั้นไม่ได้ดูส่งผลต่ออาชีพทีก่ำลังจะทำ เช่น F programing แต่ไปทำงาน programming อะไรแบบนี้) จากคน F calculas - -"
ตามปกติ w จะไม่เอามาคิดเกรดครับ แล้วมันจะไปโผล่ในทรานสคริปต์แทนว่า w ส่วน F เห็นแน่ๆครับ แล้วเอามาคิดเกรดด้วย เวลาลงซ้ำมันจะต่างกันไปตามมหาลัยครับว่าจะเป็นยังไง บางที่เอาเกรดใหม่รวมเกรดเก่าแล้วหารครึ่งครับ เช่น ของเดิม F ของใหม่ A รวมกันจะได้ C แต่บางที่เอาของใหม่อย่างเดียวครับ เช่น ของเก่า F ของใหม่ A ก็เอาแต่ A มา แต่โดยปกติถ้าติด F ไม่จบ ส่วน C D นี่จบได้แต่เกรดไม่สวย ส่วนพวกมีแต่ A กับ B นี่หายาก แต่เกรดจะหรูมากครับ
เอ...แต่ของมหาลัยผมเค้าบอกว่า F ไม่คิดเกรดนะครับ แต่จะติดใน Transcript เฉยๆ ส่วน W ก็ไม่คิดเกรดเช่นกัน แล้วก็ติดในใบ Transcript เหมือนกันอ่ะ ผมเรียนหอการค้าน่ะ เหมือนเค้าเพิ่งเปลี่ยนมาไม่คิดเกรด F ได้ไม่นาน... ก็เลยยังข้องใจว่าตกลงมันต่างกันแค่ได้ F กับได้ W ใช่ไหมเนี่ย = =" เพราะยังไงมันก็ไม่คิดเกรดทั้งคู่นี่นา... แล้วถ้าไม่ไม่ต่างกันแบบนี้ สู้ลุ้นเรียนสอบให้จบเลย ไม่ดีกว่าเหรอ...เผลื่ออาจจะฟลุคผ่านได้ D มาก็ได้ แต่ก็แบบว่า...ดรอปไปแล้วอ่ะนะ.....= ="
ตอบแบบอาจารย์มหา'ลัยละกันเนาะ... W ดีกว่าตรงนี้ไม่คิดเป็นตัวหารสำหรับ GPA หรือ GPX ครับ ที่ไหนก็ใช้หลักการเดียวกันหมด เพราะงั้นเพื่อเกรดเฉลี่ยของเรา ยอม W ดีกว่า F นะครับ W คือถอนครับ ไม่ชอบ ไม่อยากเรียน ไม่อะไรก็ช่าง แต่เรื่องของเรื่องคือเราไม่เรียนวิชานี้แล้ว เพราะงั้นไม่มีผลใดๆ F คือตก ดับอนาถ เพราะทั้งคะแนนเก็บ สอบกลางภาค ปลายภาค รวมออกมาแล้วเราตกไม่ผ่านการประเมินผลในรายวิชานั้นๆ ถ้าคะแนนลูกศิษย์ออกมาแย่ โดยเฉพาะมิดเทอม ผมแนะนำให้ไปดรอปทั้งนั้นครับ ส่วน F ไม่คิดเกรดนี่... ดูยังไงมันก็แปลกๆนะ โอเคแหละ สำหรับเรามันดีตรงที่ GPA ไม่ลด แต่สำหรับฝ่าย HR หรือคนที่จะรับเราเข้าทำงานนั้น อักษร F หมายถึงความล้มเหลวในวิชานั้นๆ ซึ่งน้อยคนนะจะสนใจว่าต้องเอามาคิดเป็นเกรดเฉลี่ยหรือเปล่า... เพราะผลมันออกมาอย่างเดียวกันอยู่แล้ว ไม่ว่าเกรดจะลดหรือไม่ลด นั่นก็คือเราสอบตกในวิชานั้น ยิ่งถ้าเป็นวิชาสำคัญที่หน่วยงานที่เราสมัครเค้าสนใจ เราเองมีแต่เสียกับเสียนะครับ ดังนั้น อย่า F เลย
อย่างที่หลายๆท่านตอบละครับ W (Withdraw) จะไม่นำมาคิด GPA ในภาคการศึกษานั้น เสมือนหนึ่งไม่เคยเรียนมันมาก่อน (แต่เสียเงินลงทะเบียนไปแล้ว - ฮา) F (Failed) ได้มานี่น่าอนาถจิตมากๆ เกรดร่วงระนาวกระจุยกระจาย .... ตอนปี 1 เทอม 1 ผมได้เกรด 3.09 เทอม 2 ได้ F มา 1 ตัว เกรดรวมเหลือ 1.98 แทบช็อก!!
สำหรับผมก็คงเหมือน W = แพ้บาย F = แพ้ในสนาม ถ้าไม่อยากเสียหน้ากลางสนาม(สอบ)ชิงถอนตัวก่อน ว่าแต่ท่านคูน่าเทพจริงๆ เรียนมา 4 ปีไม่เคยดรอบเลย ผมดรอบกระจายยังไม่รอดต้องย้ายหนี
นอกจากเรื่องคิดเกรดไม่คิดเกรดแล้ว ความจริงยังมีต่างอยู่อีกจุดครับ คือมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะกำหนดให้คนที่ได้เกียรตินิยมต้องห้ามคิด F (ส่วน W ติดได้ไม่เกินสองตัว) รุ่นพี่ผมคนนึง จบด้วยเกรดเฉลี่ยเกิน 3.6 ความจริงต้องได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่เคยติด F วิชานึงตอนปีหนึ่ง จากที่ควรได้อันดับหนึ่งกลายเป็นไม่ได้อะไรเลย อันดับสองก็ยังไม่ได้ ส่วนตัวแล้วสำหรับผม ถ้าแค่รู้ว่าจะได้ D หรือ D+ ก็คงถอนแล้วครับ เพราะ W นั้นไม่ดึงเกรด ซึ่งเป็นผลดีกว่า 1 หรือ 1.5 มากๆ ถ้าคะแนนแย่จริงๆถอนไปเถอะครับ ดีกว่า F แค่ติด W อย่าไปกลัวครับ ผมเคยติดทั้ง X ติดทั้ง I ซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่า W หลายเท่ายังเจอมาแล้วเลย (แต่ไปๆมาๆ ทั้ง X ทั้ง I นั่นกลายเป็น A ทั้งคู่ ไม่ลง transcript ด้วย แต่วิชาภาษาอังกฤษที่ผมคิดว่าง่าย ดัน D+ อยากร้องไห้ )
W อาจเกิดได้เพราะความผิดพลาด ข้อแก้ตัวฟังขึ้นว่าดร็อป/ถอน เพราะเรียนไปแล้วพบว่าไม่ใช่วิชาที่อยากเรียน (ดูมีเป้าหมายในชีวิตดี) หรืออาจเป็นไปได้ว่าเรียนแล้วไม่ถนัด ถ้าดันทุรังไปจะแย่ ซึ่งผมเองก็ถอนมาแล้ว 2 ครั้งสมัยเรียน แต่ถอนช่วงไม่ติด W ส่วน F นี่มันตัวประจานความเห่ยของเราเลยนะครับ = = ลองนึกดูสิว่าเราเอา Trans. ของเราไปโชว์ตอนสมัครงาน พอเขาเห็น F เขาก็จะเกิดทัศนคติไม่ดีทันที อย่างน้อยที่สุดคือ "ไอ้หมอนี่ต้องไม่ตั้งใจเรียนแน่เลย" ทั้งๆที่ทั้งชาติติด F ตัวเดียวนี่แหละ รวมถึงมันฉุดเกรดมหาศาลอย่างที่ท่านอื่นๆบอกด้วย
ของผมถ้าถอนหลังกำหนด ติด W .... นอนหลังสอบกลางภาค 2 week ไม่ติด w นะ *-*!! ชิง drop ไป 3-4 ตัว หลังจาก double F ไป 1 เทอม 555+
ผู้เชี่ยวชาญในการ ดรอป มารายงานตัวพร้อมคำอธิบาย การ Drop จะมีผลคล้ายๆ กับ F แต่ ตัววิชานั้นจะไม่นำไปคิดเกรดใน GPA ก็คือ จะไม่มี่ตัวฉุดเกรดไปนั้นเอง ถ้า คาดว่าเราจะติด F แล้ว Drop ไว้ ส่วน ที่จะมีผล ต่อการสมัครงานไหม คาดว่ามีผลเหมือนกันนะครับ เพราะว่า เกรดมันติดอยู่ใน ทรานสคริปต์ ซึ่งคนรับเราเข้าทำงานก็จะดูด้วย ส่วนถ้า Drop ตัวที่บังคับ เรียน หมายความว่าต้องไปเรียนตัสนั้นใหม่ และ ถ้า มีวิชาเรียนที่ต้องผ่านตัวนั้นไปห่อนจึงจะเรียนได้ แล้วถ้าดรอปไป อาจทำให้มีสิทธิกลายเป็น Super ได้ครับ
สมัยผมก็ยังเป็นแบบนั้นครับ ถอนออก ก็จะคล้ายๆ ยกเลิกการลงทะเบียนวิชานั้นไปเลย และ ก็ไม่คืนค่าลงทะเบียนเช่นกันครับ ส่วน F นั้น คิดเกรด ครับ แต่มีอยู่ปีนึง ออกระเบียบมา ว่า F ไม่คิดเกรด แต่ไม่ขึ้น transcript แต่ขึ้นใน record ของสำนักทะเบียน เฉยๆ ... ซึ่งมีคนเตือนแล้ว ว่า นักศึกษา จะละทิ้งการสอบมากขึ้น แต่คนออกระเบียบ ไม่ฟัง พอประกาศใช้แล้ว หนึ่งปี ก็ต้องยกเลิก เพราะเป็น อย่างที่มีคนเตือนครับ ส่วนมหาลัยอื่น ถอน ก็ขึ้นใน transcript ว่าเคยลง แล้วถอน เฉยๆ ในมุมมองส่วนตัวของผม คิดว่า ไม่เป็นปัญหาอะไรเท่าไหร่มั้งครับ เหตุผล และึ ความจำเป็นของแต่ละคนไม่เท่ากัน การถอน ได้ W ผมว่า มันยังดูเป็นการรู้จักวางแผนมากกว่า หลับหูหลับตาไปสอบ แล้วได้ F ซึ่งตอน สัมภาษณ์งาน คนถามเค้าไม่รู้จริงๆ หรอกว่าสาเหตุที่เราได้ W ที่เราบอกไปน่ะ จริงหรือโม้ นอกจากว่า เค้าจะเห็นเรา ในช่วงนั้นอยู่เท่านั้นล่ะครับ ~เฮๆ
โอว ดูชิว - -; จริงๆถ้าติดFแล้วคิดเกรด ก็แนะนำว่า W ดีกว่า เพราะตอนยื่นสมัครงาน ยังไงเราก็ต้องยื่นเรซุเม่ไปก่อน ถ้าเกรดห่วยมันก็อาจเสียโอกาสในการที่เค้าจะลองเรียกเราสัมภาษณ์ก็ได้ (คือบางที่เราไปหย่อนเรซุเม่ไว้เฉยๆ ไม่มีอย่างอื่นแปะไปด้วยเลย อะไรอย่างนี้) ส่วนตัวคิดว่าW ไม่น่าเกลียด แต่ว่า ถ้าWในวิชาที่ตรงสาย แล้วโดนนถาม อาจจะอึ้งได้ เพราะเคยโดน และแถไม่เก่ง ฮ่าๆ อย่างเช่น ไปสมัครโบรกเกอร์แต่วิชาที่เกี่ยวกับการลงทุนดันติดW ซะงั้น - -' ก็หมดปัญญาจะแก้ตัว แต่ว่าของคูน่าก็ไม่ใช่วิชาเอก เป็นโท เพราะฉะนั้นก็ไม่น่าต้องคิดมาก แต่ว่าถ้าอดทนเรียนอีกหน่อยให้ได้วิชาโทอังกฤษ มันก็อาจจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้นะ เผื่ออยากไปทำงานนั้นๆดูบ้างอะไรอย่างนี้ แต่ว่า เค้าไม่ค่อยสนใจวิชาโทเท่าไหร่ - -' อย่างเราเรียนไมเนอร์มาร์เก็ตติ้ง สมัครไปเค้าไม่ค่อยเรียก ส่วนใหญ่เค้าเรียกสัมภาษณ์ตามเอกที่เราจบ ะ
จากคนที่เคยFและW กระจายอย่างผมนะครับ 5555 F มันจะฉุดเกรดร่วงระนาวเลย พอได้ F แล้ว การจะทำให้เกรดกลับมาเหมือนเดิมใหม่ มันต้องใช้ความสามารถอย่างหนักเลย เช่นต้องได้มากกว่า C ขึ้นไป เป็นต้น ส่วน W มันก็แค่ไปอยู่ในใบทรานสคริปท์ มันทำให้เห็นแค่ว่า เราเคยลงวิชานี้ไป แล้วไปดรอป เฉยๆ ถ้าถามว่าตอนสมัครงานเค้าจะดูมั้ย? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเค้าจะคิดยังไง เค้าอาจจะคิดว่า "ไอ้หมอนี่มันไม่ตั้งใจเรียน เลยไปดรอป" ก็ได้ หรือจะคิดว่า "อืมม ก็ยังดีที่เค้าไปดรอปก่อน เพราะรู้ว่าคงจะเรียนไม่ไหว" ก็ได้ แต่ถ้าผมคิดนะครับ ผมว่า F มันคงแย่กว่า เพราะเหมือนกับว่าลงแล้วไม่ตั้งใจ ส่วน W ที่มันยังพอจะอ้างได้ว่า ผมลองลงเรียนดู แล้วไม่ชอบ ฯลฯ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณสนเกรดรวมตอนท้ายแค่ไหนน่ะครับ ถ้าอยากได้เกรดดีๆ ก็ต้องเอา W ถ้าไม่อยากให้ในทรานสคริปท์มีตัว W เยอะๆ ก็อาจจะยอม F พี่โหน่ง วงทนงศ์ เคยบอกว่า ในใบทรานสคริปท์เค้ามีทุกเกรดเลย ตั้งแต่ A ยัน W ผมก็มีเหมือนกัน หะหะ มันสนุกดีเหมือนกันนะครับ คิดซะว่าเรามาเรียนเอาความรู้ เอาประสบการณ์ เกรดไม่ดีก็ไม่เป็นไร สมองตูไม่ดีนี่หว่า แต่ความสนุกในการเรียนมีเยอะ จบครับ
รักคูน่ามากที่ตั้งกระทู้นี้ถาม เพราะอิฉันก็ยังงงกับมันอยู่เลย ว่ามันต่างกันยังไง ฮ่าๆๆ (ถามอาจารย์ก็ไม่เข้าใจ บ๊ะ!) ขอถามเพิ่มอีกหน่อยนะคะ คือใน 1 ปีการศึกษาเนี่ย เค้าจะกำหนด Credits แต่ละวิชาเอาไว้ แล้วก็จะมี Total Credits บ่งบอกว่า ในเทอมนี้ๆ คุณจะมี Credit รวมเท่านี้ๆ นั่นหมายความว่า ใน 1 เทอม มันมี Credit ตายตัวรึเปล่าคะ ว่าเราต้องลง x วิชา เพื่อให้ได้ Credit เพียงพอกับ Total Credits หรือมันไม่มี Fixed อยู่แล้ว? คุณอยากลงอะไรก็ลง อยากถอนอะไรก็ถอน 1 เทอมเรียน 1 ตัวได้ จบเหมือนกัน -__-""? (งงไหมนี่ ... เหมือนๆถามเอง ยังงงเองอยู่ ฮา ...)
สำหรับเรา ทั้ง W ทั้ง Fมันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก (โชคยังดีที่ยังไม่เคยเข้าไปเลียบๆ เคียงๆกับเกรดสองตัวนี้เลยซักหน) เท่าที่ลองถามเพื่อนดู รู้สึกเด็กคณะเรา ยอมD มากกว่าจะWนะ =___,=
^ ^ Total Credits มันเป็นคำทั่วๆไป จะให้ฟันธงว่าเป็นแบบไหนนี่ยากครับ ต้องบอกมาด้วยว่าคำว่า Total Credits นี่อยู่ในใบไหน ของมหาลัยอะไร แต่ตามความเป็นไปได้ มีอยู่ 2 อย่าง 1.Total Credits ที่อยู่ในใบที่อาจารย์แจกให้ ว่าเทอมนั้นๆ ต้องลงทะเบียนวิชาอะไรบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้ Total Credits จะเป็นจำนวนหน่วยกิตที่หลักสูตร "แนะนำ" ให้ลง Total Credits แบบนี้จะคิดจากจำนวณหน่วยกิตของวิชาบังคับ + วิชาบังคับเลือก + วิชาเลือกตามที่เค้าคิดว่าไม่หนักเกินไปสำหรับเรา ถ้าเป็นตามนี้เราเรียนเกิน Total Credits ได้ไม่มีปัญหาครับ (ถ้าไหว) แต่ถ้าน้อยกว่า Total Credits ก็แปลว่าเราลงวิชาบังคับไม่ครบรึเปล่า ได้น่ะได้อยู่แล้ว แต่อาจกลายเป็นว่าเราต้องมาเรียนวิชาบังคับช้าไป 1 ปี ซึ่งถ้าวิชาบังคับนั้นเป็นเงื่อนไขของวิชาอื่น เราอาจจบช้ากว่าเพื่อนก็ได้ สำหรับมหาลัยของผม (จุฬา) จะเป็นแรกนี่แหละครับ 2.Total Credits ตัวที่อยู่หลังเึครื่องหมาย " / " ในเว็บลงทะเบียน อย่างเช่น ลงทะเบียนไป 7 หน่วยกิต แล้วมันขึ้นมาว่า " 7/22" Total Credits แบบนี้คือหน่วยกิตสูงสุดที่มหาลัยยอมให้ลงในหนึ่งเทอมครับ เกินไม่ได้ ขาดได้ไม่เป็นไร อนึ่ง มหาลัยทุกมหาลัยในโลกนี้ นิสิตสามารถลงทะเบียนแค่ 1 หน่วยกิตต่อเทอมก็ยังได้ ถ้าอยากจะทำ (แต่บางมหาลัยต้องทำเรื่องด้วย) แน่นอนว่าจบได้เหมือนกันถ้าเรียนครบตามหลักสูตรในเวลาที่มหาลัยกำหนดไว้ (ปกติไม่เกิน 8 ปี) ถ้าอารมณ์ดี เทอมไหนอยากเรียนแค่ 1 หน่วยก็ได้ เพียงแต่จะจบทีหลังเพื่อนแค่นั้นเอง สำหรับเรื่องถอน 1 ตัว เรียน 1 ตัวนี่ก็ยังได้ และจริงๆแล้วมหาลัยส่วนใหญ่ ถอนจนหมดก็ยังได้นะ (แต่จบช้าไปกี่ปีก็คำนวณเอาเอง) ปล. ถ้าจบช้ากว่า 4 ปี ไม่ว่าเกรดดีแค่ไหนก็อดเกียรตินิยมนะครับ โอเคว่าเกียรตินิยมมันไม่ได้ทำให้เราเป็นคนดีหรือฉลาดขึ้น แต่มันส่งผลต่อเงินเดือนอย่างชัดเจนกรณีทำงานบริษัท
ในความคิดผมจะ W จะ F ก้ไม่น่าดูทั้งคู่ แค่ W ดูดีกว่านิดหน่อย ถ้าผมเป็นคนที่พิจารณาเกรดของคนๆนึง ด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม (สมมตินะ) ถ้า W ไปแล้ว และไม่มีวิชานั้นมาอีก ผมก็จะคิดว่า วิชานี้เค้าคงลงแล้วไม่ชอบ เลยถอน แต่ถ้า W ไปแล้ว มีวิชานั้นมาอีก แสดงว่า W ก่อนหน้านั้นอาจจะเป็น F ถ้าไม่ถอน... ประมาณนี้
สำหรับผม การW ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเลย ส่วนใหญ่ผมมักไม่ค่อยแคร์ด้วย (แม้ไม่เคยติด เพราะดรอปก่อนหมดกำหนด และเนื่องจากไม่มีเหตุการณ์จำเป็น) ถึงจะมีผลต่อการสมัครงานก็จริง แต่ที่น่าดูหลักๆก่อนเกรดคือ EXP กับการเรียนรู้นอกสถานที่ของท่านๆนั้นแหละครับ อย่างน้อยๆ เคยมีประสบการณ์ อบรม จัดกิจกรรม มีเซอร์ดิไฟของหลักสูตรนี้ๆๆ ส่วนใหญ่ยิ่งถ้าเกี่ยวกับที่สมัครทำงาน ได้เปรียบกว่านะ ผมว่า (ฟัังๆจากฝ่ายHR ตอนไปดูงานสองสามครั้งก่อน) สำหรับผม ผมกลัวเปอร์มากกว่าเยอะครับ ไม่จบในสี่ปี แม้จารย์จะว่าเป็นเรื่องปกติ แต่มันหมายถึงผมต้องเสียเวลาเพิ่มจากเดิมอีกครึ่งปีในอาณาเขตมหาลัย ==" รับไม่ได้
ตอนนี้ทำใจได้ละ ^^! ความจริงถ้าได้ D ผมก็เลือกที่จะเอาเกรด D มากกว่าที่จะดรอปแล้วได้ W นะ เพราะขี้เกียจเรียนใหม่...(แต่ตั้งแต่เรียนมาก็ยังไม่เคยได้ D น่ะ...เคยได้ต่ำสุดคือ D+) แต่พอดีอันนี้คิดว่าไม่น่าจะรอดแน่ๆ ยังไงก็น่าจะได้ F ก็เลยเอา W แทนละกัน
