จิตสำนึกประชาธิปไตย เสรีไทยเพื่อสันติภาพเป็นชื่อหัวข้อของ "โครงการนิทรรศการศิลปะเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12" เนื่องในวาระครบรอบ 75 ปี ประชาธิปไตย ครบรอบ 62 ปี สันติภาพ ไอ้ผมก็เกิดไม่ทันคนยุคนี้แล้ว ไม่ได้ผ่านช่วงเวลาอันเข้มข้นแห่งอุดมการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ก็คงไม่เข้าใจอะไร ๆ ได้ดีเท่าไรนัก งานนิทรรศการครั้งนี้รับผลงานเข้ามาทั้งหมด 1,252 ชิ้น ตั้งแต่เด็กอนุบาลจนถึงมัธยมปลายและปวช. ผมสงสัยเหลือเกินว่าแล้วเด็กเหล่านี้ที่เด็กกว่าผมเขาเข้าใจคุณค่าและความสำคัญของมันขนาดไหน? ภาพเด็กสองคนกำลังปล่อยนกให้โบยบินออกไปจากกรงนกสู่อิสระเสรีในนภา แขนที่ชูขึ้นสู่ฟ้าเหมือนสันติภาพที่กำลังมาถึง ผู้วาดภาพนี้เป็นเด็กอนุบาล เป็นภาพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับอนุบาลและรางวัลดีเด่นของงานนี้ และขึ้นอยู่บนปกสูจิบัตรของงาน ผมชอบภาพนี้และรู้สึกว่าคณะกรรมการเลือกผลงานได้เหมาะสมกับรางวัลดีมาก แต่ผมสงสัยอยู่ว่าน้องเจ้าของผลงานชิ้นนี้แกจะรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยบ้างหรือเปล่า? หรือเขาเข้าใจอะไรบางอย่างได้ดีกว่าผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ? ในบริเวณงานมีโต๊ะหนึ่งให้เด็ก ๆ ได้ร่วมกิจกรรมพับกระดาษซึ่งแม้แต่คุณแม่คุณยายก็ยังมาร่วมแจมกันด้วยและเป็นโต๊ะให้เขียนไปรษณียบัตรสำหรับน้อง ๆ เพราะมีอุปกรณ์เครื่องเขียนและสีให้วาดรูป ผมเห็นน้องคนหนึ่งกับคุณพ่อเดินไปที่โต๊ะเพื่อที่จะเขียนไปรษณียบัตร แต่ด้วยความที่โต๊ะมันเล็ก คุณพ่อเลยบอกให้ไปนั่งเขียนที่อื่น น้องผู้ชายถามพ่อว่า "ไปนั่งได้เหรอครับ พี่เขาบอกให้เขียนที่บนโต๊ะนะครับ" เหมือนคำถามน่ารักน่าเอ็นดูของเด็ก ๆ แต่ผมอึ้งไป.. ทำไมเด็กที่ไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวถึงสามารถเชื่อฟังได้ดีกว่าผู้ใหญ่ที่"ทำตัวเป็น"รู้เรื่องราว? ผมไม่ค่อยมีความผูกพันกับเด็กเท่าไร เพราะผมเป็นลูกคนเล็ก และหลานคนเกือบสุดท้ายของตระกูล ผมไม่รู้จักการมีน้องเท่าไร และไม่ค่อยชอบเด็ก เพราะรู้สึกว่าเด็กจะซน งอแง ไม่เชื่อฟัง ในบริเวณมีลูกโป่งที่เด็ก ๆ เห็นแล้วอดจะไปเหยียบไม่ได้ เศษลูกโป่งจึงเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณ ผมมีหน้าที่ต้องไปเก็บ พอเด็ก ๆ เห็นหลายคนลุกขึ้นมาช่วยเก็บ.. ผมเห็นผู้ปกครองมองดูผมด้วยอาการเหยียด ๆ ที่เห็นผมเป็นคนเก็บขยะ บางคนก็บอกให้ลูกลุกขึ้นมาช่วยเก็บ มีน้องผู้หญิงตัวเล็กสองคนกระซิบกันว่าจะแข่งเก็บขยะว่าใครจะเก็บได้เยอะกว่ากัน.. ไม่มีคนที่ทำบัตรประชาชนแล้วมาช่วยผมเก็บเลย ถ้าใครว่างผมก็อยากจะเชิญชวนให้ลองไปดูผลงานของน้อง ๆ เหล่านี้ได้ครับ คุณจะเห็นพัฒนาการเลยว่าจากอนุบาลไปมัธยมปลายเนี่ย ทั้งฝีมือและแนวความคิดมันค่อย ๆ หล่อหลอมเปลี่ยนไปมากมายครับ ถ้าสนใจก็ไปที่ สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซอยทองหล่อ 8 ธ.ค. 2550 - 9 ม.ค. 2551 โทร. 02-381-3860-1 สุดท้ายนี้ได้ตุ๊กตามาตัวหนึ่งจากงานนี้ ๕๕ น่ารักดี ตั้งชื่อให้มันว่า Alpine ไปลองคำแปลดูเลยรู้ว่ามันแปลว่า "ยุติธรรม".. จากบล็อกตัวเองครับ http://vasin.icspace.net/?p=10
เด็กตัวเล็กๆยังเป็นผ้าขาว ยังสอนง่าย ความเป็นเด็กก็ก็น่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ล่ะค่ะ ฟังเรื่องแบบนี้แล้วก็เริ่มคิดว่า อือ แล้วให้ผ้าขาวน่ารักๆแบบนี้ไปอยู่กับคนที่จะลงสีแบบเปื้อนๆ ต่อไปเด็กพวกนี้จะเป็นไงเนี่ย... เหะๆ อยากไปดูเหมือนกันนะค่ะ แต่ตอนนี้คงไปไม่ได้ล่ะค่ะ อยู่ไกลเกิน ^^"
สนับสนุน น้องๆกลุ่มนี้ต่อไปล่ะครับ เด็กแบบนี้หายากด้วยสิสมัยนี้ .....เมืองไทยจะกลายเป็น ระบบทุนนิยม อยู่แล้วสินะเนี่ยตอนนี้....