จริง ๆ ผมตั้งคำถามว่าประเทศไทยใครคุม(วะ)? ก็ไม่ได้จะบอกหรอกนะครับ ว่าประเทศอื่นมันดีกว่าเราหรือเปล่า แต่อย่าให้คนมองว่า เฮ้ย ขนาดประเทศเจริญแล้วยังมียิ่งกว่าเราเลย ของเราเรื่องเล็ก (ผมเชื่อนะยิ่งวัตถุเจริญจิตใจคนยิ่งต่ำลง) ฐานะผมอยู่แค่ในฐานะคนคิดและคนบ่น ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจแก้ไขปัญหา เพราะเชื่อว่าปัญหาแบบนี้ มันมีผลสืบเนื่องต่อเนื่องจากหลาย ๆ ปัจจัย มาแก้ไขจุดเดียวให้ปัญหาหายไปคงไม่ได้ มันละเอียดอ่อน หวังเพียงแค่ว่าในอนาคตเเราไม่ต้องพกปืนติดตัวเหมือนพกกระเป๋าสตางค์กันทุกคนนะครับ
แปลว่าถ้าย้ายไปอยู่ที่ประเทศอื่นจะไม่เจอเรื่องแบบนี้? แน่ใจเหรอครับ? เชื่อเถอะครับว่าอาชญากรรมและปัญหาสังคมมีอยู่ในทุกประเทศทั่วโลกครับ อาจจะต่างกันบ้างในเรื่องของรูปแบบหรือวิธีการ แต่ทุกที่มันก็มีเหมือนกันหมดครับ ที่เราไม่เคยรู้ว่ามันมีก็เพราะมันไม่เคยโผล่มาในข่าวต่างประเทศในโทรทัศน์บ้านเราเท่านั้นเอง ในเมื่ออยู่ที่ไหนก็ไม่ต่างกัน เรามาปรับปรุงทัศนคติ หาหนทางพัฒนาสังคมในประเทศเรา อย่างน้อยก็พยายามป้องกันไม่ให้คนใกล้ชิดทำผิดกฎหมายแทนดีกว่ามั้ยครับ?
ผมขุดกระทู้นี้ที่ DGO มาให้อ่านกันครับ เผื่อบางคนจะมองดีขึ้น http://www.dvdgameonline.com/forums/index.php?showtopic=71042&st=0 และผมก็ขอยืนยันคำตอบเดิมแบบที่ dgo ครับ "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" ครับ เราเองชอบมองว่าตัวเราไม่ดีเสมอละ แต่ที่มองไม่ดก็ีไม่เคยโทษตัวเอง และตัวเองก็ไม่พยายามจะเปลี่ยนด้วย
ฝรั่งเศส อิตาลี ฮ่องกง จีน ยิ่งกว่านี้ครับ อย่าเหมาแต่ประเทศไทยประเทศเดียวเลย แค่เดินเฉยๆ ฉกกระเป๋าต่อหน้าต่อตา
ผมมองว่าออกนอกประเทศไปก็หนีเสือปะจระเข้ครับ โลกทั้งโลกจะแห่งหนใดก็มีปัญหาเหมือนกันหมด ขณะเดียวกันทุกทีต่างมีสิ่งดีๆมากมายเหมือนกันหมด เราน่าจะมองหาแต่สิ่งนั้นนะ
....ดูข่าวทุกวันนี้วัยรุ่นตีกันเยอะมากๆ......... แฟชั่นขว้างหินใส่แล้วเผ่นหนี ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาระบาดอีกครั้ง บอกตรงๆ ช่วงนี้เรากลับบ้านตจว.แล้วไม่กล้าขับมอไซด์ออกไปไหนอีกเลย.... สังคมมันเสื่อมลงทุกวันๆ ยาบ้าก็กลับมาระบาดอีกครั้ง...........มองอนาคตประเทศไทยไม่ออกจริงๆ......
ด้วยสังคมไทยที่เป็นอยู่ขณะนี้ ผมเลยใช้แนวคิด "รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี" เพื่อให้มีชีวิตรอดพ้นจากสังคมนี้ได้ครับ
แต่ผมมองว่ามันปัญหาพื้นๆนะ ถ้าเรามองให้ดี สิ่งพวกนี้มันมีมาแต่ก่อนด้วยซ้ำ พูดง่ายๆคือไม่ว่าจะยุคไหนสมัยการกดขี่ข่มเหงก็มีกันให้เห็นเพียงแต่ว่าพอเข้าสู้ยุคนี้มันก็เป็นแบบนี้นั้นเองง่ายๆคือมันเปลี่ยนไป อีกอย่างหนึ่งผมเห็นว่าเพราะสื่อถึงเทคโนโลยีถึงสิ่งพวกนี้ก็แพร่หลายขึ้น พอแพร่หลายก็เหมือนกับบุหรี่กลายเป็นว่าเป็นแฟชั่นไปซะอย่างนั้นเห็นว่าดีเห็นว่าเท่ห์น่าลอง น่าศึกษา พฤติกรรมมันก็เลยเปลี่ยนแปลงไทย สิ่งดีๆในประเทศเรามีอีกมาก อย่างพวกไปแข่งโอลิมปิกแบบนี้ ผลงานวิจัยด้านวิชาการแบบนี้ การตรวจสารพิษในปลาปักเป้า(เขียนถูกรึเปล่าใครทราบช่วยบอกอีกทีนะครับ) ส่งดีๆพวกนี้มีถมเถไป เพียงแต่ว่าสื่อไม่นำเสนอ คนไม่ชอบ เพราะมันไม่สนองตัณหาของตัวเอง ในเมื่อสื่อนำเสนอแต่สิ่งแย่ๆ สังคมมันก็เลยดูหมองหม่น แต่มองอีกแง่หนึ่ง หากว่าหนังสือพิมพ์เราเอาแต่ข่าวดีๆ เด็กสอบได้โอลิมปิก ศจ.ในมหาวิทยาลัย ทำงานวิจัยได้ในระดับโลก หรือแม้แต่การแข่งโรบอท สังคมมันก็อาจจะดีขึ้นมันจะเป็นในอีกแง่หนึ่ง เหมือนกัน ครั้งหนึ่งผมเคยไปอบรมณ์ณ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผู้อำนวยการแพทย์เขาเล่าให้ฟังว่า มีเด็กสองคน แต่งคนต่างพิการขาขาดข้างสองข้าง คนหนึ่งพ่อเขาเลี้ยงดู พ่อเขาบอกว่า "ลูกโตขึ้น จะเป็นคนดีมีคงานทำ มีหน้ามีตาทางสังคม ทำงานช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก ไม่มีใครมาดูถูกลูกเพราะลูกเป็นคนดี ทำแต่ความดี" อีกคนพอออกมา ก็ไม่เป็นทีต้องการของพ่อแม่ เอาไปให้ใครๆ เขาก็บอกว่า "ไอ้ขอทาน ไอ้ขี้เรื้อน โตขึ้นมาแกก็คงได้แต่ขอเขากินไปวันๆ ไม่ก็เป็นมือย่องเบา หรือโจรบ้ากาม" พอโตขึ้นเด็กทั้งสองต่างก็เป็นดังที่กล่าวมาทั้งคู่ ฉะนั้นผมคิดว่า หากเรานำเสนอแต่สิ่งดีๆ ให้แต่สิ่งดีๆ กับใครสักคนสักวันเขาก็ได้เป็นในสิ่งดีๆนั่นเอง
เซ็ง ประเพณี อภัยโทษ ในช่วงวันพ่อ จังเลย -__- ยิ่งจับคนร้ายได้น้อยๆอยู่(เมื่อเทียบกับคนร้ายก่อเหตุจริงทั้งหมด) ยังต้องไปลดโทษรายปี ให้ได้ออกมาไวๆ แล้วโจรพวกนี้จะกลัวกฏหมายมั้ยเนี่ย
^ ^ เหตุการณ์อภัยโทษนี่ เป็นหลักฐานที่แสดงว่าบ้านเรายังมองการจำคุกนักโทษเพียงมิติเดียว ว่าเป็นแค่ "การลงโทษ" ได้เหมือนกันนะครับ ทั้งที่จริงมันน่าจะรวมถึง "การบังคับใช้กระบวนการยุติธรรม" "การบำบัด" "การให้เวลา" หรือ "การเตรียมตัวใช้ชีวิตในสังคม" บลาๆๆ นักโทษที่ออกจากเรือนจำก่อนเวลาอันควร ไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้...
สาเหตุที่มีการอภัยโทษวันพ่อคงเพราะทางเรือนจำไม่มีงบเลี้ยงข้าวด้วยมั้ง บางคนทำงาน เงินเดือน 8000 เหมือนติดคุกได้เงินเดือนๆละ 12000 ยังสบายกว่าอีก - -'
อยู่ดีๆก็ขับรถผ่านมายิงชาวบ้าน... ถึงจะว่าไม่อยากแสดงความรุนแรงของตัวเอง แต่ถ้ามีปืนก็คงต้องยิงสวนมันป้องกันตัว
ประเทศไหย...น่าเบื่อ มันเน่ากันไปจนหมดแล้วครับตอนนี้ มีแต่พวกเกรียนอยู่ในสภา... แล้วก็มีพวกเงินคือพระเจ้าอยู่เพียบเลยด้วย...
คดีหมูแฮม...ตอนนี้สั่งฟ้องไปแล้วก็จริงครับ...แต่ดูท่าทางจะไม่ทันใจผู้รักความยุติธรรมทั้งหลายเลย....หึๆๆ ต่อให้ขึ้นศาลไปแล้วจริงๆ.....คุณก็ต้องรอ... - สืบพยานโจทย์ - สืบพยานจำเลย - นัดสอบถาม - ฯลฯ ยาวครับ....บางคดีแต่ย่องเบาธรรมดา เจ้าทุกข์ยังต้องวนเวียนขึ้นศาลเกือบสองปีแน่ะ.... ยังไม่นับรวมในกรณียื่นอุทธรณ์หรือฏีกาอีกนะครับ....ยาวแน่ๆ....เพราะแต่ละปีคดีในแต่ละศาลมีเฉียดๆหมื่นครับ.....ไม่ได้มีแต่หมูแฮมเท่านั้น... ส่วนเรื่องที่เจ้าของกระทู้เล่ามานี่.....น่ากลัวเหมือนกันนะนี่ กลางกรุงเลยแบบนี้....มันคิดอะไรกันอยุ่นะพวกนี้...