ที่มา: http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6116557/A6116557.html ================================================================================================================== ตั้งแต่รับศพออกจากโรงพยาบาล นักข่าวล้อมถ่ายเต็มไปหมด อันนี้ก็พอเข้าใจนะว่าทำข่าว แต่....H@^E&!!! (บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้)ได้ยินเสียงออกมาจากทีวีเลยว่า "คุณพ่อหอมน้องอีกครั้งด้วย" (คาดว่าคงถ่ายไม่ทันหรือไม่ก็คงมุมไม่สวย) "คุณพ่อหอมแล้ว คุณแม่มาหอมบ้าง" ก็เข้าใจนะว่าอยากได้ภาพสวยๆ ที่ดูเศร้าๆ ซาบซึ้งใจ แต่นึกถึงหัวอกพ่อแม่เขาบ้างหรือเปล่า? ทำไมต้องไปสั่ง ต้องไปจัดท่า เขารู้หรอกน่าว่าควรอย่างไร นั่นลูกชาย ของเขาทั้งคนนะเฟ้ย !! เท่านั้นไม่พอ ในงานศพมีนักข่าวที่ใส่เสื้อผ้าสีสดไปด้วย งานศพนะ...พวกคุณทำไมไร้มารยาทขนาดนี้ ไม่รู้กาลเทศะบ้างหรือยังไง? ให้เกียรติคนตายเป็นครั้งสุดท้ายแค่นี้ทำไม่ได้เลยเหรอ? นี่หรือสื่อของประชาชน? หรือจะบอกว่าวันๆ ต้องทำข่าวหลายที่ไม่ได้ไปแค่งานศพบิ๊กงานเดียว คราวก่อนก็ใครล่ะคีบอีแตะใส่ขาสั้นไปงานแต่งในโรงแรมห้าดาวจนเขาไล่ออกมา ยังมีหน้าไปด่าเจ้าภาพอีก แถมงานศพบรรยากาศเศร้าสลดไปรุมถ่ายจนเจ้าภาพเขารับแขกไม่ได้ ดารามาก็ไปขอถ่ายรูปจะให้ยิ้มในงานศพหรือไงเนี่ย? แล้วมีการสั่งอีกว่าแดนกับบีมควรทำท่ายังไง มองบิ๊กหน่อยสิ.... โห...ไม่ใช่ถ่ายละครนะเฟ้ย !! จะเบ้าเหรอ?!! น่าจะให้ความเป็นส่วนตัวเจ้าภาพกับแขกที่มาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายหน่อย ให้พวกเขาได้พูดคุยกันได้รำลึกถึงคนทีจากไป แบบดีๆ สงบๆ จะทำข่าวก็ควรจะอยู่ในขอบเขตบ้าง ประชาชนที่ไม่ได้ไปร่วมน่ะอยากรู้ข่าวค่ะ เราก็อยากรู้แต่ไม่อยากเห็นภาพฝูงอีแร้งรุมทึ้งศพน้องบิ๊ก ครอบครัวน้องบิ๊ก รวมถึงเพื่อนๆ ของน้องบิ๊กด้วย นึกถึงใจเขาใจเราบ้างสิเว้ย!! เวลาคนอื่นทำอะไรให้ไม่พอใจเอะอะก็แบน เคยนึกบ้างหรือเปล่าว่าทำอะไรน่ารังเกียจออกทีวีให้คนเห็นกันทั้งประเทศ นี่ไม่ได้เป็นแฟนคลับ D2B นะ แต่เสียใจกับการจากไปของน้องบิ๊ก และติดตามข่าวอยู่เท่านั้น และไอ้ที่บ่นๆ ไปทั้งหมดน่ะ เห็นจากในทีวีทั้งนั้นเลยนะ การกระทำแบบนี้น่ารังเกียจจริงๆ เลย สมควรถูกแบนไหมนักข่าวแบบนี้ จำได้ว่าคราวก่อนตอนที่น้องเขาต้องไปผ่าตัด มีนักข่าวคนหนึ่งเอาเท้าเกี่ยวเตียงคนไข้เพื่อให้เขาหยุดจะได้ถ่ายรูปได้ จะทำร้ายเขาไปถึงไหนเนี่ย ตั้งแต่ยังอยู่จนจากไป อดไม่ได้จริงๆ ขอตั้งกระทู้ด่าหน่อยเหอะ สื่อเฮงซวยเอ้ย!! สมาคมนักข่าวน่ะ อบรมนักข่าวตัวเองบ้างสิอย่าเอาแต่แบนคนอื่น น่ารังเกียจจริงๆ !! จากคุณ : คิงเพนกวิน - [ 11 ธ.ค. 50 02:07:45 ] ========================================================================================================== ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลย วันก่อน ดูสกู๊ป ทีไอทีวี นักข่าวหญิงตอนถาม คุณพ่อแม่บิ๊กอ่ะ แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆ ถามแบบน้ำเสียง เหมือนเจ๊แกตื่นเต้น ที่จะได้ข่าวนี้อ่ะ แล้วคุณพ่อแม่ รู้สึกยังไง แล้วจะทำไง แล้วพยายามบิ้วอารมณ์ แต่เสียงเจ๊แกตอนสัมภาษณ์ ไม่ให้ฟิวล์ อย่างแรงเลย ไม่มีมารยาท คนเขาเพิ่งจะเสียลูกเขา มายิงๆๆๆๆๆ คำถามเป็นชุดๆ พ่อบิ๊กเขาก็ดี เกรงใจทุกคน แต่นักข่าว กลับไม่เคยเกรงใจผู้สูญเสีย แย่มากๆ จากคุณ : chosen - [ 11 ธ.ค. 50 02:49:47 ] =========================================================================================================== ความคิดเห็นที่ 17 เห็นเคยมีเรื่องตั้งแต่ตอนบิ๊กเข้าไอซียูนิครับ ที่กำลังฉุกเฉิน แล้วมีนักข่าวเอาขาไปกั้นเตียงน่ะ สรุปได้ว่า นักข่าวบางส่วนกี่ปีกี่ชาติก็เหมือนเดิม จากคุณ : nanoguy - [ 11 ธ.ค. 50 02:54:39 ] ============================================================================================================ ความคิดเห็นที่ 257 ไม่เคยร่วมด่านักข่าวเลย (กรณีภราดร) แต่ขอหน่อยเหอะ วันนี้เลย ได้มีโอกาสไปที่งานของพี่บิ๊กมา บรรยากาศก็ค่อนข้างเศร้าสลด คุณพ่อกับคุณแม่ แม้ว่าจะเหนื่อยมากขนาดไหน (ดูจากสีหน้าท่านทั้งสองแล้ว) แต่ท่านก็ยังยิ้มสู้ ต้อนรับทุกๆท่านที่ไปงาน (มีบางช่วงแอบออกมาไอด้วย คาดว่าคุณพ่อกำลังไม่สบาย) มีนักข่าวไปสัมภาษณ์ท่านทั้งสองไม่ได้ขาดสาย (อืม เราก็เข้าใจ มันเพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน นักข่าวยังไม่ได้ข่าวครบทุกสำนัก) วันนี้ค่อนข้างเป็นทางการ เพราะมีพิธีจากสำนักพระราชวัง อัญเชิญพวงหรีด (หรือพวงมาลา ไม่รู้เรียกยังไง)จากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ดังนั้นผู้ที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย และแฟนๆที่มาไหว้พี่บิ๊ก จึงต้องอยู่ด้านล่าง ไม่สามารถขึ้นไปได้ในช่วงพิธีการ แต่ก็ยังเห็นนักข่าวบางคนบางสำนัก ไม่ได้ให้เกียรติสถานที่และพิธีการเลย (บางคนทำให้เราต้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็นึกในใจ นี่หล่อน/นาย แต่งตัวมางานศพเหรอยะเนี่ย ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสอน"สมบัติผู้ดี"ให้มิทราบ) แถมช่วงที่ทางอาร์เอสแจกแผ่นที่เป็นข่าวเรื่อง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯทรงรับงานของพี่บิ๊กไว้ในพระอนุเคราะห์ ไม่รู้ว่า PR แจกน้อยไป หรือนักข่าวอยากได้มากเกิน เลยมีการยื้อแย่งชุลมุนวุ่นวายนิดหน่อย นักข่าวบางส่วนก็มีการโทรกลับไปรายงานข่าว แต่ขอโทษเถอะ ฟังเจ้าหล่อนพูดแล้วน่ายึดใบอนุญาตกับปริญญาคืนจริงๆ ภาษาไทยกระท่อนกระแท่น แถมความรู้รอบตัวก็หางอึ่งมาก (ก็ขนาดชื่อดาราที่มาร่วมงานยังต้องสะกดแล้วสะกดอีก ไม่รู้ว่าคนโทรหรือคนรับ ใครกันแน่ที่ไม่รู้เรื่อง) แถมยังพูดเสียงดังอย่างไม่เกรงใจดาราเจ้าของชื่อที่กล่าวถึงที่นั่งอยู่ในระยะห่างไม่เกิน 2 เมตรเลย) แถมนอกจากสะกดชื่อแบบงงๆแล้ว เกรงว่าเถียงนานไปอาจจะมั่วไปกันใหญ่ ก็เลยพูดขึ้นมาว่า "ก็ไอ้....นั่นแหละ" (อืม เพิ่งรู้ค่ะ ว่าคุณนักข่าวให้เกียรติแหล่งข่าวม้ากกก มาก) มีนักข่าวหลายสำนักได้ไปสัมภาษณ์พี่วันเพ็ญ ซึ่งเป็นแฟนคลับที่ทำหน้าที่ดูแลพี่บิ๊กมากว่า 3 ปี ได้อยู่กับพี่บิ๊กจนวินาทีสุดท้าย ก็ไม่รู้หรอกนะว่าตอนสัมภาษณ์เนี่ยคุยอะไรกัน แต่ตอนกลับมารายงานข่าวยังต้นสังกัดนี่สิ (ขอโทษนะที่มันอาจจะเป็นความรู้สึกของเราคนเดียว แต่รู้สึกว่านักข่าวไม่ได้ให้เกียรติในการนำเสนอข่าวพี่เค้าเลย จริงๆนะ หรือว่าเค้าใช้ภาษาไทยไม่ชำนาญมั้ง ทำให้เรามองแบบนั้นไปได้ ไม่พูดถึงละกัน เอาเป็นว่าเรารู้สึกไม่ชอบเท่าไร) พอดารามาถึง (ไม่เอ่ยนามละกัน มีหลายคน) คุณนักข่าวทั้งหลายก็เริ่มทำงานอีกครั้ง ด้วยการจ้องแต่จะถ่ายรูปดาราเหล่านั้นที่มาอยู่อย่างเดียว ไม่ได้สนใจเลยว่าเค้ามางานนี้เพื่อมาเคารพพี่บิ๊กนะ เข้าใจว่าดาราก็คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะโดนสื่อรุมประณามอีก (กำจิงๆ) เรานั่งอยู่ด้านหลัง ยังแสบตากับแสงแฟลชที่ระดมมา แล้วดาราท่านอื่น คุณพ่อคุณแม่ ญาติๆที่ถูกระดมถ่ายรูปเล่า เค้าจะไม่แสบตา เคืองตาบ้างหรือ (ก็เข้าใจว่าต้องการภาพข่าว มันจำเป็นต้องใช้แฟลช แต่นี่จะระดมอะไรกันนักหนาฮะ ลองมาเป็นคนถูกถ่ายดูบ้างสิว่ามันเป็นยังไง) ยังดีที่ยังรู้จักว่าเวลาพระสวดอยู่น่ะ ควรจะสงบจิตสงบใจ แต่พระหยุดเมื่อไร พวกเขาๆเธอๆทั้งหลายก็เริ่มทำงานเหมือนกัน พอเสร็จสิ้นพิธี ก็เหมือนเสียงระฆังดังเป๊ง ว่าเริ่มทำงานได้แล้ว เท่านั้นล่ะ กุฏิที่ตั้งศพก็โกลาหลกันอีกครั้ง นักข่าวทั้งหลายต่างพากันพุ่งตรงไปยังแหล่งข่าวที่ตัวเล็งไว้แต่แรก โดยไม่ได้สำนึกเลยว่า นี่มันงานศพนะ เจ้าภาพเค้าก็โศกเศร้าจะแย่อยู่แล้ว แถมยังนั่งหัวโด่อยู่นั่นน่ะ เห็นกันบ้างมั้ย รู้จักให้เกียรติกันบ้างมั้ยเนี่ย โอ้ย อึดอัด เครียด ว่าจะมาเล่าบรรยากาศในงานให้ฟัง กลายเป็นต้องมานั่งด่านักข่าวแทน เฮ้อ ขอโทษทีนะพี่ชาย มันอดไม่ไหวจริงๆ ---------------------------------- ขอให้พี่ชายไปยังที่ๆสงบสุข ไม่ต้องทุกข์ทรมาน เหนื่อยนักก็พักซะนะ "ไม่มีวันไหนไม่คิดถึง พี่ชายคนนี้" แน่นอน หวังว่าคงจะมีซักวัน ที่เราจะได้กลับมาเจอกัน มาแชร์รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา รวมทั้งความทรงจำดีๆที่มีให้กันอีกนะ หลับให้สบายนะ พี่ชาย จากคุณ : รักพี่ชายคนนี้ตลอดไป (ข้าวสวยหุงไม่สุก) - [ 11 ธ.ค. 50 22:45:26 ] ================================================================================================================ ความคิดเห็นที่ 324 #14 นักข่าว TITV ชื่อก้อย บุญญิตา งามศัพพศิลป์ ดูอยู่เหมือนกัน ป้อนคำถามแรกให้คุณพ่อ คุณแม่น้องบิ๊กก็ใช้คำพูดไม่เหมาะสม น้ำเสียงกลั้วหัวเราะอีกต่างหาก พอคุณพ่อน้องตอบคำถามเสร็จ ตัดกลับมาที่เธออีกทีคราวนี้ป้อนคำถามเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้ทั้งๆที่คุณพ่อน้องบิ๊กไม่ได้พูดอะไรที่เป็นการบิ้วเลยซักนิด คิดอยู่ว่านักข่าวคนนี้นึกว่าตัวเองกำลังเล่นละครอยู่รึเปล่า ที่สำคัญตอนั้นมัน 4 ทุ่มแล้ว ไม่ใช่การสัมภาษณ์สดอย่างแน่นอน ยังตัดต่อมาแบบนี้ได้ น่าเวทนานักข่าวคนนี้จริงๆ จากคุณ : Nusantara - [ 12 ธ.ค. 50 09:52:42 ] ===================================================================================================================== ขอโทษนะครับ แต่คุณ Galaxyzier ประเด็นเรื่อง fc ไปร้องห่มร้องไห้ที่คุณติงมา ผมว่าไปถกในอีกกระทู้นึงดีกว่าครับ เดี๋ยวกระทู้นี้จะหลงประเด็น ถึงพี่ Shuu ขอโต้ดก๊าบ.... ปกติตั้งกระทู้จากที่อื่นก็จะมี comment นิดๆหน่อยๆ แต่คราวนี้นึกไม่ออกง่ะ แต่ตอนไปตอบกระทู้ที่ห้องรวม FF ก็เขียนเองแล้วน้า...
เรื่องมารยาทนักข่าวนี่ว่าไปก็พูดถึงกันหลายทีแล้ว คนที่ดีๆ ที่เค้ารู้จักกาละเทศะก็มีเยอะนะครับ แต่ไอ้ที่ออกมาเป็นข่าวกันเนี่ย รู้สึกจะมีแต่พวกแย่ๆ ก็คงต้องแล้วแต่ว่าทางสถานีและต้นสังกัดของพวกนักข่าวประเภทนั้นเค้าจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างไรหรือไม่ ถ้ายังเป็นเหมือนเดิม เราก็คงทำได้แค่ "ทำใจ" ครับ D:
ทำใจไม่พอครับ ผมว่าสังคมไทยยังต้องการอะไรมากกว่า วันหนึ่งคงได้มีความพยายามอะไรในสังคมกับเรื่อง กาละเทศะให้เห็นกันบ้าง อย่างน้อยๆ ผมก็ยังไม่เชื่อว่า คนไทย เป็นคนที่ไร้วินัยที่สุดในโลก นะ
เรื่องนักข่าวไทยนี่รู้สึกจะเป็นปัญหามานานมากแล้ว อย่างที่ในพันธ์ทิพย์ คห.ที่ 2 หรือ 3 เนี่ย ไม่มั่นใจ เขาพูดถึงสมาคมดารา ที่มีอำนาจต่อรองนักข่าวได้ ผมว่าบ้านเราควรจะมีแบบนั้นบ้าง เพราะทุกวันนี้สื่อชักจะกุมอิทธิพลมากไปแล้ว เขาอยากแบนใครคนนั้นก็โดนแบน ใครเขาอยากปล่อยก็ดังต่อไปได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าอะไรของมัน นักข่าวบ้านเรากระหายข่าว ไม่ค่อยมองจรรยาบรรณและมารยาท ผมเคยมองอีกด้านนึงนะ ตอนสมัยพีท ทองเจือ กับ ภราดร เพราะผมคิดว่าพวกนี้อาจรบกวนเขามากเกินไปจริงๆก็ได้ ไม่ได้ห้ามหรอกว่าไม่ให้ถ่าย แต่จะทำอะไรมันควรมีจรรยาบรรณกว่านี้ อย่างเรื่องไปจ่อถามพ่อแม่บิ๊ก กับเรื่องแต่งตัวไม่สุภาพไปงานศพนี่ มันเ้กินไปจริงๆ แล้ววานก่อนก็ด่าพวกนศ.หญิงปาวๆว่าแต่งไม่สุภาพ ช่างไม่มองตัวเองบ้างเลย นี่เป็นสาเหตุให้ผมเกลียดนักข่าว+นักสนพ.ไทย และไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับวงการนี้เลย ปล. หดหู่มาก ที่พอนึกภาพว่า งานศพของคนๆนึงกลับเต็มไปด้วยเสียงเอะอะ แทนที่จะเป็นการไ้ว้อาลัยครั้งสุดท้าย
นักข่าวไร้มารยาท มันก็เป็นหนึ่งเอกลักษณ์ของประเทศไทยอยู่แล้วไม่ใช่หรอ แถมเรื่องลับๆของดาราคนไหนอะไรที่ ่เขา/เธอ ไม่อยากเผยแพร่ พวกนักข่าวนี่ก็ยังหน้าหนาวิ่งเข้าไปถามเค้าอีก พอไม่ยอมตอบก็เริ่มตามตื๊อไม่เลิก
ไม่รู้จะแก่งแย่งถ่ายรูปกันไปทำไม บอกให้พ่อแม่เขาทำนู่นทำนี่ ช่างภาพจากสำนักอื่นเขาก็ได้รูปเหมือนกันหมดนั่นแหละ ถ้าช่างกล้องถ่ายออกมาไม่สวยมันก็คือความผิดของช่างกล้องเอง ไม่ควรจะต้องไปบอกให้เขาแอ๊กท่านู้นท่านี้เลย = =" ดีนะเนี่ยไม่โดนแฟนเพลงเขารุมเอาน่ะ....
เอ้อ อ่านแล้วเซ็ง+เศร้าใจ ที่สถาบันนักข่าว มันเน่าไปแล้ว เละ เละหมด ใครเนี้ย คุณถ่ายไม่ทัน ก็ไม่มีสิทธิ์ไปบอกเขาให้หอมแก้ม ถือว่าคุณน่ะ มันไม่ใช่นักข่าวมืออาชีพ ถ้ามืออาชีพจริง คุณต้องเก็บภาพให้ได้เร็วกว่านี้ สมมุตินะ ถ้านักวิ่งเขาเข้าเส้นชัยแล้วคุณถ่ายเขาไม่ทัน คุณจะให้เขาไปวิ่งใหม่ไหม? คำตอบ"No" ใครเขาจะมาวิ่งใหม่ให้คุณ ตัวเราเองก็เรียนสายถ่ายภาพและภาพยนตร์(ถึงจะไม่ชอบก็เถอะ) อาจารย์ยังสอนเลย พวกปาปารัชซี ไม่มีจรรยาบรรณ เพราะนั้นคือสิทธิส่วนบุคคลของเขา คุณไม่มีสิทธิ์ไปแอบถ่าย "ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด" คือการทำข่าวอย่างถูกต้อง และต้องรู้จักเกรงใจของคนไปทำข่าว ภาพดีไม่ดีสำคัญหรอก ถ้าคุณทำไม่ได้หรือจงใจทำให้มันน่าเกลียดนั้นถือว่าคุณไม่เหมาะกับการเป็นนักข่าวแล้ว
ช่วยโหวตกระทู้นั้นไปแล้วค่ะ อ่านแล้ว เซ็งเหมือนกัน กับนักข่าวไร้มารยาทบางคน (บางคนเท่านั้นค่ะ ไม่ได้ด่ารวมหมดนะ)
อยากได้สกู๊ป แต่ไม่คำนึงถึงกาลเทศะ หรือใจของคนที่ถูกทำข่าวบ้างเลย... เดี๋ยวนี้มีนักข่าวแบบนี้เยอะจริงๆค่ะ= =" ขนาดเจ๊คิงฯคนตั้งกระทู้ดูจากทีวียังเดือด แล้วคนอื่นๆที่ไปร่วมงานล่ะ...
อันนี้เห็นด้วยทุกประการ แต่ที่ผมติดใจมานานแล้วคือตอนที่ บิ๊ก ป่วยใหม่ๆ แฟนๆเพลงจะไปร้องให้ทำไม ซึ่งบางคนทั้งชีวิตนี่ไหว้พ่อแม่ยงไม่เคยเลย จะว่าไปในไทยเราวัยรุ่นบ้าดารานักร้องเยอะ ไม่ใช่บ้าธรรมดา ขนาดเขาไปไหนรู้หมดแบบนี้มันไม่ต่างจาก Stalker(คือพวกตามดาราเหมือนโรคจิตที่ระบาดหนักในญี่ปุ่น) หรอกคับ ดารานักร้องเขาไม่พูดหรอกว่าเขาไม่ชอบเพราะเขาเป็นคนของสังคม ยังไงก็ฝากด้วยครับ ปล.นี่เป็นความคิดเห็นส่วนหนึ่งครับไม่ได้มีความตั้งใจอื่นนอกเหนือจากนี้
^ ^ การร้องไห้-ไม่ร้องไห้ให้ดารา กับ ความเคารพ-ไม่เคารพพ่อแม่ เกี่ยวข้องกันตรงไหน? วานแจกแจง คนบ้าดารา กับ stalker เหมือนกันตรงไหน? วานแจกแจง เพื่อสวัสดิภาพของคุณเองในกระทู้ครับ ด้วยความเคารพ m(_ _)m
นักข่าวบางคนก็ดีนะ แต่ส่วนมากที่ทำให้วงการสื่อสารมวลชนดูแย่ก็คือพวกที่สักแต่ว่าอยากจะขายข่าว แบบนี้เค้าเรียกทำมาหากินบนความเศร้าโศกเสียใจของคนอื่น อยากใช้คำแรงๆว่า หากินบนความตายของคนอื่นด้วยซ้ำไป!! ลองดูนสพ.หัวเขียวยักษ์ใหญ่สิ ให้ตายเหอะ! ขอบ่นที เราพยายามจะบอกที่บ้านแล้วว่า เลิกซื้อเจ้านี้ได้แล้ว มันไม่เคยลงข่าวที่สร้างสรรค์เลยบนหน้าหนึ่ง หรือแม้แต่การนำเสนอเนื้อในก็มีการใส่สีตีข่าว ทั้งๆที่คนเขียนข่าวรู้ความจริงที่เกิดขึ้นเพียงกระผีกเดียว! ขอเพียงแต่ทำแบบนั้นแล้วมันขายได้!! อย่างวันนี้สำหรับข่าวบิ๊ก ลงหน้าหนึ่งเบ้อเริ่มเลยนะ เรื่องเลขเอาไปแทงหวย เอาเข้าไปสิ มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ การเอาความตายของคนอื่นไปแทงเลขน่ะ มันเกิดขึ้นจริง แต่มันควรหรือ ไม่คิดถึงจิตใจคนที่เป็นพ่อเป็นแม่เป็นเพื่อของเจ้าตัวเค้าเลยเหรอ?? การนำเสนอคุณงามความดีของผู้ตายนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรนำมาเสนอเพื่อให้เกียรติเขาหรอกเหรอ? เฮ้อ...
ก็นะ- -'; สื่อเมืองไทยไม่สร้างสรรค็์เลย แล้วไอ้ซุบซิบดารานี่ผมเลิกอ่านมานานและ โดยเฉพาะ นสพ. หัวเขียวๆขายดีที่สุดในไทย[เพราะขายชาวบ้าน เรื่องคอขาดบาดตาย ชาวบ้านชอบนัก] ว่าแต่....เห้นชื่อ จขกท.... เขียนอะไรเองบ้างเถอะครับ - -;
น่าอายนะครับ มีนักข่าวแบบนี้ น่าจะมีการตักเตือน สั่งสอนกันมั่งนะครับ เรื่องแบบนี้ ผมเห็นหลายทีแล้ว ไอพวกนักข่าวที่ถามแบบ......ไม่รู้กาลเทศะอะไรเล้ย
อ่านแล้วสลดใจ พาลมองนักข่าวในแง่ลบไปเลยแฮะ ตอนภราดรก็ทีละ ตามมาติดๆงานบิ๊ก แถมเป็นงานมงคลหรืองานศพก้ไม่เว้น
สมัยนี้คนในวงการจะแตกแยกกันก็เพราะไอ้พวกนี้นี่แหละครับ ผมรู้สึกเซ็งเหมือนกันนะ ที่บ้างครั้งพวกคนในวงการต้องเลิกเป็นคู่ครองกันเพราะไอ้พวกสื่อบ้าๆพวกนี้นี่แหละ ยิ่งเรื่องคนในวงการมีคู่รักก็อีกเรื่องนึง คนใน ได้คนนอก = คนนอกเกาะกิน,คนในมีปัญญาหาได้แค่นี้เหรอ ? คนใน ได้คนใน = ก็ตีข่าว ยุไปยุมาให้เค้าแตกแยกกัน กลัวข่าวขายไม่ได้ก็ใส่สีตีไข่ซะ
-_-" เฮ่อ เศร้าใจสื่อไทย หลายกระทงเหลือเกิน ตัวเองเคยเจอแบบเฉียดๆมานิดนึง คือมีคนในครอบครัวตกเป็นข่าวการทำร้ายร่างกาย แล้ว นสพ ก็จัดแจงลงที่อยู่ของที่บ้านซะเสร็จสรรพเรียบร้อย อย่างกับกลัวว่าทางโน้นจะไม่มาตามรุมซ้อมทั้งครอบครัว? คิดบ้างมั้ยคะว่ามันอันตรายกับผู้เสียหาย? จริงๆโดยเฉพาะวงการบันเทิงเนี่ยแหละค่ะ มันต้องรักษาภาพพจน์ เลยเห็นด้วยมากว่า นักข่าวเลยกลายเป็นอภิสิทธิ์ชนได้ เพราะเป็นคนที่กระจาย "ภาพพจน์" ให้กับคนในวงการ แถมหลายๆครั้ง ข่าวที่เกี่ยวกับวงการนี้ก็สร้างความมั่นใจให้เราได้มากเหลือเกินว่า นักข่าวต้องมีมั่ว มีนั่งเทียนแน่ๆ ช่วยใช้ปากกาเป็นเครื่องมือทำมาหากินเถอะค่ะ อย่าใช้ปากกาเป็นอาวุธทำให้ผู้อื่นลำบาก เข้าใจค่ะว่าบางทีก็อยากได้ภาพดีๆ แต่นอกเหนือจากภาพสวยๆที่ได้จากการแต่งเติม เสริมสั่ง สร้างความลำบากใจและกายให้ผู้อืนเนี่ย หันมาพยายามถ่ายรูปสวยๆที่ได้จากความจริง เป็นธรรมชาติ ภาพแบบนี้ก็น่าจะสื่อได้ถึงใจคนเหมือนกันนะคะ
ฮืม.... ก็ว่าตอนดูๆข่าวก็แปลกใจอยู่ว่ามันเหมือนจัดฉากพิลึกๆนะ เห็นด้วยทุกประการจริงๆ คนพวกนี้ถ้าไม่ใช่ในงานศพคนใกล้ชิดก็คงไม่รู้ตัว (หรือบางทีแม้จะเป็นคนใกล้ตัวก็จะยังทำแบบนี้ได้ เพื่อถ่ายรูปมุมสวยๆจังหวะดีๆไว้?) ทุกวันนี้เห็นแต่นักข่าวออกมาเรียกร้องนู่นนี่ ก็เห็นด้วยอยู่หรอก ในคำพูดที่เขากล่าวออกมา แต่ก็เหมือนพวกที่บ้านไม่มีกระจก เห็นแต่คนอื่นไม่เคยเห็นตัวเอง เวลาโดนละเมิดเองก็โวยวาย หารู้ไม่เลยว่าตัวเองทำกับคนอื่นเขาไว้มากแค่ไหน สังคมนักข่าวก็เหมือนสังคมอื่นๆทั่วไป มีทั้งคนดีและไม่ดี ทั้งพวกที่น่าสรรเสริญและพวกที่น่าสมเพช ราวครึ่งก็ดีแต่พูดนิยามจรรยาบรรณแต่ไม่รู้จักทำ หรือไม่ก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง เพราะบังเอิญลืมในสิ่งที่ไม่ควรจะลืม พวกเรา ก็ต้องกลั่นกรองเมื่อเสพสื่ออีกที แต่บางที ก็น่าจะมีมาตรการที่ประชาชนสามารถจัดการกับสื่อได้บ้างเนอะ ว่าแต่ อ่านไปอ่านมาก็ อ้าว เจ๊คิงเพนกวินนี่เอง ฮา
ที่ผมรู้อย่างหนึ่ง....ไม่ใช่แค่นักข่าวที่ไม่มีจรรยาบรรณ...คนไทยเกือบครึ่งประเทศ....ก็เป็นแค่กัน เพราะกระเสนิยมหรืออะไรไม่รู้แต่คนเดี่ยวนี้ไม่มีแล้วนะครับไอ้คำว่ามารยาท พอคนสูงอายุว่าก็หาว่าหัวโบราณ เหอะๆ
อย่างที่ในพันธิปบอกนะครับ นักแสดงน้่าจะมีการรวมกลุ่มกันมั่ง ไม่งั้นเสียเปรียบฝ่ายนักข่าวอยู่หลาย..... ส่วนงานนี้ก็นะ ไม่มีที่ให้แก้ตัวเหมือนงานแต่งภราดรแล้วด้วยสิ จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมารึเปล่าน้อ...........