"ผี"ไทยกับวันปล่อยผีฝรั่ง

กระทู้จากหมวด 'ETC' โดย terasphere, 31 ตุลาคม 2010.

  1. terasphere

    terasphere Poets

    EXP:
    792
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    38
    วันที่ ๓๑ เดือนตุลาคมของทุกปี ธรรมเนียมฝรั่งเขานับถือกันว่าเป็นวันปล่อยผี คือวันที่เหล่าภูตผีปิศาจวิญญาณทั้งหลายจะหลุดจากยมโลกคืนมาสู่เมืองมนุษย์เพื่อเยี่ยมยามญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ และถือโอกาสหลอกหลอนล้อเล่นพอเป็นกษัย เป็นทีของเด็กน้อยเด็กใหญ่ทั้งหลายที่จะฉวยเอาความเชื่อนี้ไปข่มขู่แกล้งชาวบ้านชาวเมืองเล่นด้วยสำนวน Trick or Treat ว่าจะให้แกล้งเอาหรือจะเลี้ยงขนมขต้มกันพอประมาณ สนุกสนานรื่นเริงกันไปปีหนึ่งๆ

    ธรรมเนียมการละเล่นฝรั่งเรื่องวันปล่อยผีนี้เข้าใจว่าเนื่องจากเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่ใกล้ฤดูกาลเก็บเกี่ยวเต็มที ข้าวสาลีในท้องไร่ท้องนาและผลหมากรากไม้ทั้งหลายก็อุดมสมบูรณ์ปลายฤดูใบไม้ร่วง สมควรที่จะจัดงานละเล่นรื่นเริงกัน และเมื่อพ้นวันสารทวิษุวัติ (Autumn Equinox) ในเดือนกันยายนมาล่วงเดือนหนึ่งแล้ว กลางคืนก็ยืดยาวออกกว่ากลางวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิอากาศเขตอบอุ่นเหนือเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ และลมหนาวก็เริ่มจะพัดกรูเกรียวเข้ามาแทน ธรรมดาความหนาวเย็นและความมืดเป็นสัญญาณของความสงบและความตายฉันใด ก็หมายถึงผีไปด้วยฉันนั้น อีกนัยหนึ่งน่าจะได้ธรรมเนียมจากยุคกลางเรื่องตำนานแม่มด ที่กล่าวถึงค่ำคืนแห่งวัลเปอร์กิส(Night of Valpurgis) ที่เหล่าแม่มดพ่อมดจะมาชุมนุมรื่นเริงทำพิธีบูชาซาตานกันในวันดังกล่าว ที่มาประเพณีเรื่องวันฮัลโลวีนฝรั่งนี้หาอ่านได้ทั่วไป เห็นจะไม่ยกมาเล่าซ้ำให้ฟุ่มเฟือยฟั่นเฝืออีก

    คนไทยนั้นเป็นชนชาติที่ชอบงานรื่นเริงและสนุกสนาน เมื่อวัฒนธรรมฝรั่งแผ่เข้ามาปะปนก็ชอบที่จะรับเอามาเล่นสนุกไปด้วยเสียทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นวาเลนไทน์ คริสต์มาส หรือฮัลโลวีนวันปล่อยผี ซึ่งตามธรรมเนียมไทยแต่ดั้งเดิมเองก็มีวันสำคัญในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมที่เกี่ยวข้องกับผีๆสางๆอยู่ด้วย คือวันสารทไทย หรือสารทเดือนสิบ ซึ่งถือกันว่าผีปู่ตาบรรพบุรุษจะคืนมาหาลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่นเดียวกับประเพณีเช็งเม้งของคนจีน และโอบ้งของญี่ปุ่น ในภาคใต้โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจัดงานสารทเดือนสิบเป็นเทศกาลใหญ่ประจำทุกปี มีการทำพิธีชิงเปรต เผื่อเผื่อแผ่ส่วนบุญให้ผีเปรตไร้ญาติที่ยังทนทุกข์ทรมานอยู่บนโลกมนุษย์

    คำว่า "ผี" นั้น แลดูเป็นคำไทยแท้แต่ดั้งเดิม ด้วยธรรมเนียมไทยโบราณนับถือผีมาก่อนพุทธ แม้รับพุทธศาสนาเข้ามาแนบแน่นเป็นสรณะแล้วก็ยังไม่ทิ้ง "ผี" ออกจากวัฒนธรรม คำว่า "ผี" ปรากฏขึ้นตั้งแต่ในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง ว่า

    "เบื้องหัวนอนเมืองสุโขทัยนี้ มีพระขพุงผีเทวดาในเขาอันนั้นเปนใหญ่กว่าผีในทุกเมืองนี้ ขุนผู้ใดถือเมืองสุโขทัยนี้แลไหว้ดีพลีถูกเมืองนี้ท่องเมืองนี้ดี ผิไหว้บ่ดี พลีบ่ถูก ผีในเขาอันบ่คุ้มบ่เกรงเมืองนี้หาย"

    พระขพุงผีในศิลาจารึกดังกล่าวคือผีผู้เป็นใหญ่ที่สุด ดังจะเห็นได้จากมีถึงสามภาษาประสมกันเป็นชื่อ คือ พระ เป็นคำบาลี ขพุง เป็นคำเขมร และผี เป็นคำไทย เบื้องหัวนอนคือทิศใต้เป็นสำคัญ เนื่องจากคนโบราณนอนหันหัวไปทางทิศใต้ พระขพุงผีดังกล่าวเห็นจะคือท้าววิรูปักข์ จตุโลกบาลประจำทิศใต้ผู้เป็นนายของอสูรปิศาจทั้งมวลที่อาศัยอยู่ทั้งบนมนุษย์โลกและจาตุมหาราชิกาสวรรค์นั่นเอง

    เมื่อตรวจตราดูภาษาไทยตามถิ่นต่างๆก็พบว่ามีผีสารพัดมากมายเกินเล่าบรรยาย แต่อาจแบ่งไ้เป็นสองจำพวก คือผีร้ายฝ่ายหนึ่ง และผีดีอีกฝ่ายหนึ่ง ผีฝ่ายร้ายนั้นคือผีคนตายที่ทนทุกข์ทรมานมาหลอกมาหลอนมนุษย์เพื่อขอส่วนบุญแบ่งใช้ หรือเป็นปิศาจอมนุษย์ที่คอยรบกวนรังควานตามวิสัยผี ได้แก่ ผีเปรต ผีปอบ ผีกระสือ กระหัง ผีเป้า ผีโพง ผีกองกอย ผีโขมด เป็นต้น ส่วนผีดีคือวิญญาณฝ่ายดี หรืออาจหมายรวมถึงเทพเทวดา ได้แก่ ผีฟ้า ผีแถน ผีปู่ตา ผีด้ำ ผีบ้านผีเรือน เป็นอาทิ ทั้งผีร้ายและผีดีต่างก็เข้ามาเกี่ยวดองหนองยุ่งกับมนุษย์บนโลกเพื่อประสงค์ต่างๆกัน ฝ่ายผีร้ายก็มาหลอกหลอนขอส่วนบุญตามสันดานหน้าที่ ฝ่ายผีดีก็มาปกปักคุ้มครองผู้เคารพนบไหว้นับถือตามอัธยาศัย

    ประเทศไทยนั้นดูจะหนีไม่พ้นเรื่องผีๆสางๆอยู่แล้ว แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะก้าวไกลขนาดใดก็ตาม เห็นว่าแม้กระทั่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ยังมีที่สถิตของผี คือศาลพระภูมิตั้งเด่นเป็นสง่าให้รัฐมนตรีเข้าไปสักการะบูชาก่อนรับหน้าที่ เทศกาลเรื่องผีของฝรั่งจึงเข้ามาร่วมเป็นเทศกาลหนึ่งของไทยได้แนบเนียน โดยเฉพาะเป็นกลยุทธการขายของห้างสรรพสินค้าต่างๆที่จะเปิดขายจนดึกดื่นกว่าเวลาปกติ เพื่อล่อลวงผีนักช็อปให้เข้าสิงเหล่าสาวๆขาช็อปปิ้งกันจ้าละหวั่น แต่ที่น่ากลัวที่สุดในเวลานี้เห็นจะไม่พ้นผีหิวผีโหยที่กินได้แม้กระทั่งถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั่นแล
  2. Ryuto

    Ryuto 終わる道、始まる夢

    EXP:
    964
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    88
    โดนตรงประโยคสุดท้ายนี่ล่ะครับพี่เทร่า หวังว่าพวกเขาจะคิดได้ในเร็ววัน- -"

    ส่วนวันฮัลโลวีนนั้น ผมอยู่บ้าน T-T
  3. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    กด +1 แทน Like กับประโยคสุดท้าย

    ึความเชื่อทำให้คนสบายใจ บางทีวิทยาศาสตร์ก็ช่วยตรงนี้ไม่ได้ ดังนั้นทุกประเทศจึงยังมีเรื่องผีๆวนเวียนอยู่

    ปล. นศ.ลาวคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนผม เป็นชาวเผ่าม้ง ตอนถามว่าเขานับถือศาสนาอะไร เขาตอบผมว่า "เขานับถือผี" ครับ อึ้งไปเลย O[]O ทุกวันนี้ชาวเผ่าหลายๆเผ่ายังคงนับถือผีนะเนี่ย
  4. Ryuune

    Ryuune Well-Known Member

    EXP:
    1,084
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    86
    +1111111 ให้กับประโยคสีแดงตัวหนาค่ะ = =b
  5. ffpokemon

    ffpokemon Editor

    EXP:
    1,691
    ถูกใจที่ได้รับ:
    79
    คะแนน Trophy:
    113
    ส่วนตัวไม่ได้สนใจตรงจิกกัดการเมืองเท่าไหร่

    แต่ขอบอกเป็นครั้งที่ร้อยว่า ประทับใจกับสาระในกระทู้ของคุณเทราสเฟียร์จริงๆ ครับ คุณภาพสมชื่อจริงๆ

Share This Page