ผู้กำกับระบบต่อสู้ของเกม Dissidia 012 -Final Fantasy- อย่างคุณ ทาเคโอะ คุจิระโอกะ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดของเกมดังกล่าวผ่านนิตยสารแฟมิซือฉบับล่าสุดแล้วว่า "ลากูนา" มือปืนที่ถูกเปิดเผยออกมาในลำดับล่าสุดนั้น จะมีสไตล์การต่อสู้ที่เรียกว่า "Tactical Gunner" โดยเขาสามารถใช้อาวุธปืนหลายชนิดสร้างความสับสมระทมกบาลให้กับศัตรูได้อย่างไม่ยาก แต่การจะใช้ลากูนาให้ได้ดิบได้ดีนั้นผู้เล่นก็จำเป็นต้องเล่นแบบมีกลยุทธ เช่นรู้จักอ้อมเข้าไปโจมตีทางด้านหลังฝ่ายตรงข้ามบ้าง ในส่วนท่าโจมตีเบรฟของ ลากูนานั้น การกดปุ่มโจมตีค้างเอาไว้จะให้ผลแตกต่างกันในหลายๆ แบบ ตัวอย่างเช่นถ้าเป็นท่าโจมตีด้วยปืนกล การกดปุ่มโจมตีค้างเอาไว้ก็จะเป็นการรัวกระสุนออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่หากเป็นปืนลูกซอง การกดปุ่มค้างเอาไว้ก็จะเป็นการยิงกระสุนออกมาพร้อมกันหลายนัด สร้างความเสียหายได้หนักหน่วงขึ้น เมื่อพูดถึงการโจมตี ด้วยปืนกลแล้ว คุณคุจิระโอกะก็ขยายความว่าการโจมตีด้วยปืนชนิดนี้ผู้เล่นจะได้ความรู้สึก เหมือนเล่นเกมแนว TPS ตัวลากูนาก็จะยิงกราดกระสุนไปเรื่อยๆ ขณะที่ผู้เล่นก็ใช้อนาล็อควิ่งไปมาได้ ส่วนปืนไรเฟิลนั้นก็ถือ เป็นทีเด็ดของลากูนาเลย เพราะกระสุนไรเฟิลในเกมนี้สามารถยิงชิ่งกำแพงไปมาได้ หากศัตรูอยู่เหนือหัวลากูนาขึ้นไป เราย่อมสามารถให้เขาใช้ไรเฟิลยิงลงพื้น เพื่อที่กระสุนจะได้ชิ่งขึ้นฟ้าไปโดนศัตรูได้ ทั้งนี้คุณคุจิระโอะกะ ก็ได้เน้นถึงข้อแตกต่างไว้ว่า ถ้าเป็นปืนไรเฟิลและร็อคเก็ตลันเชอร์แล้ว เวลายิงผู้เล่นจะต้องใช้อนาล็อคในการเล็งเป้ายิง ไม่เหมือนปืนกลที่ล็อคเป้าเองได้โดยไม่ต้องเล็ง อย่างไรก็ตามผู้เล่นไม่ต้องกังวลว่าจะลนจนยิงไม่โดน เพราะกระสุนร็อคเก็ตลันเชอร์ในเกมนี้มันเป็นแบบนำวิถีอยู่แล้ว ส่วนการโจมตีด้วยระเบิดมือนั้น ระยะในการขว้างจะแปรผันตามจำนวนครั้งที่ผู้เล่นรัวปุ่มโจมตีลงไปก่อนจะขว้าง ทั้งหมดที่กล่าวมานั่น เป็นเพียงแค่ท่าโจมตีเบรฟเท่านั้น ส่วนท่าโจมตี HP นั้นจะเป็นการโจมตีด้วยอาวุธต่างๆ จากยานเหาะแร็คนาร็อค ขณะที่ท่าไม้ตาย Ex Burst ของลากูนานั้น... ไม่ได้ชื่อเซนดันฮัดช่า (ยิงหมดแมกซ์) แบบที่ผมเขียนไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ไอ้เซนดันฮัดช่านั่นมันลักษณะการโจมตี แต่ชื่อท่าจริงๆ มันเรียกว่า "Ultimate Ragnarok Cannon" ซึ่งพยายามจะทำออกมาให้คล้ายกับ Desperado ซึ่งเป็นท่าลิมิตเบรคใน Final Fantasy VIII นอกจากชุดปกติ แล้ว แฟมิซือยังเปิดเผยภาพลากูนาในชุดของทหารกัลบาเดีย ซึ่งเป็นอนาเธอร์ฟอร์มของเขา นอกจากนี้ยังมีภาพที่ลากูนาอยู่ในฉากคัตซีนร่วมกับตัวละครอื่นๆ รวมทั้งสคอลล์ด้วย ความเปลี่ยนแปลงของตัวละครอื่น ถัดจากเรื่องของลากูนาแล้ว ในเล่มยังได้กล่าวถึงท่าใหม่ของสคอลล์ที่เรียกว่า Fire Ballet ท่าใหม่ของอัลติมิเซียที่เรียกว่า Knight's Sphere และท่าใหม่ของออนยอนไนท์ที่เรียกว่าว่า Power Up ซึ่้งเป็นการเพิ่มค่าสเตตัสต่างๆ ให้กับตัวเอง ในส่วนของชุดฟอร์มใหม่ๆ นั้นก็มีการเปิดเผยเธิร์ดฟอร์มของตัวละครทั้ง 4 เป็นครั้งแรก โดยชุดของสคอลล์และออนยอนไนท์ก็เป็นชุดจากภาพวาดของคุณอามาโนะ ส่วนของอัลติมิเซียก็เป็นการเปลี่ยนโมเดลเป็นแม่มดอิเดียไปเลย ขณะที่เมฆาแห่งความมืด ก็มีการเปลี่ยนสีและดีไซน์ไปในบางส่วน ฉากต่อสู้ใหม่ จากด้านมุมขวาบน ของภาพด้านบน คุณจะเห็นฉากต่อสู้ใหม่ที่อิงมาจากหอคอยคริสตัลใน Final Fantasy III เนื่องจากทีมงานอย่างให้มีแบ็คกราวด์หลายๆ แบบ ก็เลยกำหนดให้การต่อสู้่ในฉากนี้เป็นการต่อสู้นอกตัวหอคอย ตัวพื้นฉากนั้นอาจจะราบเรียบก็จริง แต่ก็มีหอคอยตั้งตระหง่านจรงกลางฉาก ผู้เล่นเองก็สามารถวิ่งปีนหอคอยได้ด้วยความสูงระดับหนึ่ง พอปีนขึ้นไปแล้วก็จะมองเห็นวิวด้านหลังได้ โหมดเนื้อเรื่องที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ ทางนิตยสารได้ยืนยันแล้วว่าโหมดเนื้อเรื่องในภาคนี้จะนำระบบ World Map 3D มาใช้แทนระบบกระดานหมากรุกในภาคเดิม ซึ่งนั่นจะให้ความรู้สึกของการเป็นเกม Rpg ที่แท้จริงมากกว่าเดิม เราจะเห็นตัวละครทั้ง 3 ในกลุ่มปาร์ตี้ของเราเดินไปมาบนแผนที่โลก เราสามารถหันไปคุยกับตัวละครอื่นๆ เพื่อฟังเงื่อนงำว่าต้องทำอะไรต่อได้ โดยในนิตยสารก็ได้ลงภาพตัวอย่างภาพหนึ่งเป็นฉากที่ทิฟาหันไปคุยกับลากูนา แล้วก็มีกล่องข้อความแบบเกม Rpg ผุดขึ้นมา เป็นข้อความที่ทิฟาพูดว่า "เหมือนที่วานพูดไว้เลย ฉันรู้สึกพวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นจริงๆ" คำว่าพวกมันที่ทิฟาพูดไว้ ก็หมายถึงเหล่า Imitation ชื่อเรียกของศัตรูในภาคนี้ซึ่งกำลังอาละวาดอยู่ทั่วโลก เวลาที่เราเข้าปะทะกับศัตรู ก็จะเกิดการตัดเข้าฉากต่อสู้นั่นเอง ทางด้านคุณโชวตะ ชิโมดะ ผู้กำกับแผนงานก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าโหมดเนื้อเรื่องของภาคนี้ได้พัฒนา ขึ้นเป็นอย่างมาก ผู้เล่นจะได้รับรู้เนื้อเรื่องผ่านการเดินทางไปทั่วโลก ได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆ โดยเรื่องราวในภาคนี้จะเกิดขึ้นบนโลกที่ "ครั้งหนึ่ง" เคยมีเมืองอยู่ แต่ตอนนี้มันไม่มีเมืองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามยังคงมีร้านค้าสุดพิเศษตั้งอยู่บน World Map ให้ผู้เล่นได้เข้าไปจับจ่ายผลาญเงินกิลกันได้อยู่ดี ส่วนการจัดทีม ปาร์ตี้นั้น เนื้อเรื่องบางช่วงที่เป็นเนื้อเรื่องบังคับ ผู้เล่นก็จะไม่สามารถเปลี่ยนตัวละครในปาร์ตี้ได้ ขณะที่เนื้อเรื่องในส่วนอื่นๆ จะสามารถเปลี่ยนตัวละครในกลุ่มได้อย่างอิสระ โดยคุณชิโมดะก็ยกตัวอย่างให้ฟังว่าในส่วนนี้มันคงไปเหมือนกับเกม Final Fantasy VI ปิดท้ายนิตยสาร ด้วยข้อความเปรยว่าจะมีเทรลเลอร์ตัวใหม่ของเกมไปฉากในงาน Jump Festa ที่จะมาถึงในสุดสัปดาห์นี้ ส่วนทางแฟมิซือเองสัปดาห์หน้าก็จะมีบทสัมภาษณ์จากทีมงานคนสำคัญมาให้อ่านกันต่อไป
ที่แท้ปราสาทก็เป็นฉากต่อสู้ใหม่นี่เอง แล้วโหมดเนื้อเรื่องก็เปลี่ยนเป็นเวิลด์แมพแล้วด้วย คงกินความจุUMDซึ่งตอนนี้คงไม่ต้องไปพูดถึงมันแล้วกระมัง encold: แต่ก็เป็นการดีที่จะได้รู้สึกเป็น RPG กว่าเดิม รอคอยเทรลเลอร์ตัวใหม่กับบทสัมภาษณ์อาทิตย์ต่อไป....
ได้ข่าวมาว่า... คนพากษ์เสียงให้ ลากูน่า เป็นคนพากษ์เสียงให้ บัลแฟลร์ด้วยอ่ะ แล้วก็ แจ็ค สแปร์โรว์ ใน KH2
