อ่านก่อนนิดนึง บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม ถ้าเห็นReview อันนี้ดูสั่นไป อย่าแปลกใจนะครับ เพราะผมพยายามเขียนให้กระชับขึ้น และอ่านสนุกขึ้น และสามารถติชมได้ตามสะดวกครับ สวัสดีครับทุกๆท่าน พบกับกระผมSoma อีกครั้งนะครับ วันนี้มาแปลกเพราะนอกจากจะปรับเปลี่ยนสไตล์การReview แล้วนี้ยังเป็น Review แรก ที่มาจากหนังแผ่นด้วยครับ ยังไงก็อย่าเสียเวลา อ่านกันตามสะดวกเลยนะครับผม Scott Pilgrim VS The World ตัวอย่าง [media]http://www.youtube.com/watch?v=oVjFuXHhHaQ&feature=player_embedded[/media] มุมองของSoma ต้องพูดว่า น่าเสียดาย ที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ฉายในโรงหนังของไทย เนื่องมาจากรายได้ที่แป๊กสุดๆในต่างประเทศ แต่ในทางกลับกัน หนังเรื่องนี้กับได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีมาก ในส่วนตัวของกระผมสนใจหนังเรื่องนี้มาแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อออกแผ่นจึงรีบหามาดู และแน่นอน หนังเรื่องนี้สนุกอย่างที่หวังเอาไว้จริงๆ (โฉมหน้าพระเอก ดูเฉิ่มๆ เนิร์ด ใช่ ในหนังมันก็แบบนั้นเลย) เรื่องราวของหนังง่ายๆครับ Scott Pilgrim ดั๊นเกิดไปหลงรักหญิงสาวที่ชื่อว่า Ramona Flower ชนิดอยากได้เธอมาครองหัวใจ4ห้อง แต่ความรักนั้นมันไม่ง่าย เพื่อนนายScott ต้องผ่านด่าน 7ยอดมนุษย์แฟนเก่าของRamona ให้จงได้ อีกทั้งScott ยังต้องเผชิญกับปัญหาชีวิต ทั้งอดีต เรื่องราวในวงดนตรี และน้องหมวยน่ารัก???? หนังเรื่องนี้ สร้างมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกันครับผม แต่ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูพิเศษกว่าหนังที่สร้างจากการ์ตูนเรื่องอื่นคือ เทคนิคที่แพรวพราว ที่ทำให้เหมือนหนังสือการ์ตูนขยับให้เราเห็นจริงๆ หนังเรื่องนี้นั้น มีเอฟเฟคต่างๆที่ใส่มาทำให้ดูเหมือนการ์ตูน ทั้งช่องคำพูดหรือเสียงเอฟเฟคต่างๆ การตัดต่อที่เหมือนเป็นช่องการ์ตูนที่ติดต่อกัน ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้หนังดูแย่ แต่มันกลับทำให้หนังดูดีขึ้นไปต่างหาก อันเนื่องมาจากตัวต้นฉบับการ์ตูน มีการแทรกความเป็นวิดีโอเกมมาเยอะมาก แน่นอนหนังเรื่องนี้ให้ความเคารพต้นฉบับสูง เพราะหนังเรื่องนี้นอกจากจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเล่นวิดีโอเกมแล้ว ยังมีมุกเล็กๆน่ารักๆเกี่ยวกับเกมในทุกคนแอบขำด้วย ถ้าดูตัวอย่างน่าจะรู้กันครับว่า หนังมีการใส่มุกแบบวิดีโอเกมเยอะมาก (ทั้งการมี Score การใช้คอมโบ หรือการเก็บLife Up) และมันเอามาผสมผสานเป็นฉากแอ็คชั่นในหนัง ที่โคตรมันส์ ฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่องนี้ เหมือนกับคุณกำลังนั่งกดเกมเพื่อปราบบอสจริงๆ มีทั้งฟันดาบ เตะต่อยที่ดูตื่นตา การใช้อาวุธที่แพรวพราว ที่สำคัญคือการดวลด้วยดนตรีที่ต้องขอบอกว่าผู้กำกับ ปล่อยของกับฉากนี้สุด ดูแล้วชวนขนลุกในเอฟเฟคและลีลามากๆ ยิ่ง+กับเทคนิคที่ผมกล่าวมาข้างต้น ทำให้ทุกๆฉากต่อสู้ในหนังน่าจดจำทุกๆฉาก อีกทั้งในฉากแอ็คชั่นหนังยังแทรกมุกตลกขำๆมาเป็นระยะๆอีก ส่วนมุกเล็กๆเกี่ยวกับเกมนั้น ขอบอกว่าให้ไปดูและไล่ตามกันเองครับ เพราะมันมีทั้งทำนองเพลง เอฟเฟคแอบกัดเล็กๆ โดยเฉพาะพวกทำนองเพลงพวกนี้ขอบอกว่าฟังกันให้ดีๆ (ที่แน่ๆ ผมเจอซาวน์ของ Zelda และ Mario ในหนังเรื่องนี้ และเชื่อว่าตัวเองหูไม่ฟาด) อีกอย่าง ตูพึ่งรู้ว่าที่มาชื่อ Pac Man มาได้ยังไง จากหนังเรื่องนี้แหละ 55555 ผมเชื่อว่า คอเกม และการ์ตูน จะชอบหนังเรื่องนี้กันครับ (แฟนเก่าทั้ง7ของนางเอก มีอดีตซุปเปอร์ฮีโร่ และ ซุปเปอร์ฮีโร่คนใหม่อีกคนด้วยนะ 5555) บทของหนังไม่ได้ดูลึกลับซับซ้อนงุนงง แต่ไม่ได้หมายความว่าบทไม่ดีไม่สนุกนะครับ บทหนังเรื่องนี้ สามารถแบ่งบทบาทของตัวละครทุกตัวได้เหมาะสม ชนิดที่ว่ายากมากในหนังที่มีตัวละครเยอะแบบนี้ เพราะนอกจากจะมีพระเอก นางเอก เพื่อนเกย์พระเอก แฟนเก่านางเอกทั้ง7 แฟนเก่าพระเอก น้องหมวยน่ารัก น้องแว่นปากหมา น้องสาวพระเอก เพื่อนๆในวงพระเอก และอีกสารพัดมากมายอีกผมไม่ขอพูด หนังสามารถให้เวลาที่เหมาะสมกับทุกตัวละคร เพื่อให้แสดงถึงบุคลิคตัวละคร พลังพิเศษหรือความสามารถตัวละคร หรือมุกต่างๆที่ตัวละครใช้ ทำให้ผมดูหนังเรื่องนี้ สามารถที่จะจดจำลักษณะตัวละครในเรื่องทั้งหมดได้ทันที และด้านมุกตลกทั่วไปของหนัง ขอบอกว่า ขำจริงอะไรจริง (โดยเฉพาะมุก เพลงเศร้าสุดใจ กับ น้องหมวยน่ารัก) เพียงแต่บางมุก อาจดูเป็นมุกอเมริกาไปนิด ทำให้คนไทยไม่เข้าใจ (ประเภทเล่นคำต่างๆ) อีกทั้งบทหนังยังผสมผสานข้อคิดในเรื่อง ความรัก การไม่ยอมแพ้ และการลืมอดีต ผ่านเรื่องราวของ Scott และ Ramonaได้อย่างลงตัว อีกอย่างที่ขอชมคือ เพลงและดนตรีประกอบในหนังเจ๋งมาก ถึงมากที่สุด ยิ่งตอนฉากดวลคอนเสิร์ตนี้ มันส์สะเด็ด เจ็ดย่านน้ำ = =b (พระนางคู่กัน นางเอกขอบอกต้องดูในหนัง จะรู้ว่าเธอน่ารักจริงๆ ถึงแม้จะแพ้น้องหมวยน่ารักก็เถอะ) สรุป : Scott Pilgrim คือหนังที่มีเทคนิคแพรวพราวจนดูเหมือนการ์ตูนที่มีชีวิต และยังเหมือนเล่นวิดีโอเกมไปในตัว หากแต่สิ่งที่หนังใส่มา ทำให้ความสนุกของหนังเพิ่มขึ้นเท่าตัว บทและมุกตลกที่ผสมผสานกัน จนประทับใจแม้หนังจะจบไปแล้ว แนะนำให้ดู สำหรับผู้ดูหนังทั่วไป และห้ามพลาดสำหรับคอการ์ตูนและเกม ครับผม เกรด : A ครับ (K.O.) ปล. แผ่นลิขิสิทธิ์ของหนังเรื่องนี้ออกแล้วนะครับผม ไปหาซื้อได้ตามร้านขายDVDทั่วไปครับ แล้วพบกันใหม่นะครับผม ลาล่ะ555 สุดท้าย แถมเพลงที่ตัวอย่างใช้ ฟังแล้วมันให้อารมณ์กลับไปเล่นกราดิอุสสุดๆ > < [media]http://www.youtube.com/watch?v=gTw2YvutJRA[/media]
