อ่านก่อนนิดนึง บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม จะSpoil ก็ขอให้ใช้การซ่อนข้อความ ปล. Review อันนี้เป็นReview สั้นๆนะครับผม ---------------------------------------------------------------- Kungfu Panda 2 โดยส่วนตัว ถ้าอนิเมชั่นPixar เด่นเรื่องความประทับใจ อนิเมดรีมเวิร์ค ก็เด่นตรงสนุกและตลก ซึ่งKungfu Panda 2 นี้คือคัวตอกย้ำที่ดี แต่ก็ดูเหมือนว่าทางดรีมเวิร์คจะเริ่มพัฒนาเรื่องของความซึ้งประทับใจมั้งแล้ว Kungfu Panda2 เป็นอนิเมชั่นที่เหมาะกับการดูเพื่อความสบายใจมากๆ จุดที่เด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องมุกตลกที่ใส่เข้ามา ตลกจริง และเล่นถูกจังหวะมากๆ (บางทีซีเรียส พี่แกยังยังปล่อยมุกซะหายเครียดได้เลย) อีกทั้งตัวละครในเรื่องนั้นมีเสน่ห์และน่าจดจำ ที่ผมชอบคือการใส่ใจตัวละครจากภาคแรกแบบไม่ทิ้งกัน แถมยังมีความเด่นมากกว่าภาคแรกซะด้วยซ้ำ (นกกะเรียน งู ตั๊กแตน ลิง เรียกได้ว่ามีช็อตขโมยซีนทุกช็อตที่น่าติดตาม) และตัวร้ายในเรื่องดูมีที่มาที่ไปมากกว่าภาคแรกในความรู้สึกผมด้วยนะ ส่วนเรื่องของฉากแอ็คชั่นต้องบอกกันเลยว่าเพลิดเพลิน สนุก และยังแฝงไปด้วยมุกตลกเช่นเดิม ส่วนตัวดูภาคนี้แล้วชอบเรื่องของการทำใจให้สงบมาก เหมือนกับการคารวะพวกหนังจีนกำลังภายใน แต่ประเด็นที่คาดไม่ถึงว่าจะได้เลยคือการใส่ประเด็นดราม่าเรื่องครอบครัวแพนด้าเข้าไป หนังเน้นได้ถูกจุดเพราะมีเริ่องประเด็นพ่อหงส์ของโปที่ทำให้โปรู้สึกตัวเองผิดแปลก ซึ่งทำให้โครงเรื่องไม่ได้ดำเนินแค่การไปปราบตัวร้าย แต่ดำเนินไปด้วยปมขัดใจของโปที่มีในจิตใจ ทำให้ทั้งช่วงไคล์แม็กซ์และตอนท้ายเรารู้สึกประทับใจกับการตัดสินใจของโป และความผูกพันธ์ของพ่อลูกได้อย่างดีมากๆ อีกอย่าง แอบชอบฉากเขียนแบบ2D กับ โปตอนเด็กน่ารักน่าถีบมาก 55555 สรุป : เป็นอนิเมชั่นที่สนุก ตลก ซึ้ง ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวมาก ไม่ทำเสียมาตราฐานภาคแรก (ส่วนตัวผมชอบกว่าภาคแรกด้วย) ฉะนั้นใครอยากดูอนิเมชั่นสนุกๆ แนะนำห้ามพลาดครับ เกรด A ---------------------------------------------------------------- GANTZ Perfect Answer หลังจากหนังภาคแรกทำออกมาได้ในเกรฑ์ใช้ได้และทิ้งผมได้น่าติดตาม ผมจึงไม่ลังเลที่จะไปดูภาค2 หนังภาค2นั้นต้องบอกว่าช่วงแรกของหนังยืดยาดน่าเบื่อมาก ทั้งที่บางอย่างสามารถตัดทอนได้อย่างไม่มีปัญหาแท้ๆ และการมีตัวละครอย่างตำรวจนั้นไม่ได้ดูมีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้นกับตัวหนัง ซ้ำร้ายยังทำให้หนังดูยืดยาดเพราะบทตัวละครตัวนี้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อหนังผ่านช่วงน่าเบื่อไป คุณจะพบกับความสนุกและตื่นเต้นที่กระหน่ำใส่มาไม่มีหยุด และด้วยเหตุผลที่ว่าหนังได้มีการใส่ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอกมาดี ทำให้ช่วงไคล์แม็กซ์ของหนังนั้นกดดันอารมณ์ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว และชวนสะเทือนใจหลายๆฉาก ในด้านฉากแอ็คชั่น แม้จะไม่มีฉากยิ่งใหญ่แบบการต่อสู้กับพระพุทธรูปในภาคแรก หรือมีมนุษย์ต่างดาวไอเดียเก๋ๆแบบภาคแรก แต่หนังได้ใส่ใจเรื่องของความสนุกในฉากแอ็คชั่นแทน เพราะทั้งฉากในรถไฟและฉากตอนท้ายนั้นสนุกและตื่นเต้นกว่าฉากแอ็คชั่นในภาคแรกมากๆ อีกด้านคือเนื้อเรื่อง ต้องขอบอกว่ามีหลายส่วนที่หนังทำออกมาไม่เคลียร์เท่าที่ควรนัก หรือแหลายเหตุการณ์ดูเหมือนตัดจบไปทั้งที่น่าจะใส่รายละเอียดได้มากกว่านี้ (อีตาตำรวจนั้นแหละใช่เลย) แต่ต้องยอมรับว่า GANTZ Perfect Answer นั้นคือหนังที่ทำมาจากการ์ตูนที่ยังไม่จบ แล้วหาทางออกเพื่อจบเรื่องได้ลงตัว และรู้สึกไม่ขัดเคืองใจมากๆ อนึ่ง สาวๆภาคนี้สวยมากให้ตายสิ โดยเฉพาะนางเอกกับน้องนักเรียน = =+ สรุป : GANTZ Perfect Answer โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนังที่ดัดแปลงจากการ์ตูนได้ดี และหาทางจบของตัวเองได้ลงตัวมากๆ อีกทั้งหนังยังสามารถทำให้ดูได้สนุกกว่าภาคแรก ถึงแม้ว่าช่วงแรกของหนังจะดูยิดยาดมากไปหน่อย และเรื่องความสร้างสรรค์ทางมนุษย์ต่างดาวและฉากแอ็คชั่นอลังการจะหายไป แต่ทดแทนด้วยความมันส์และเข้มข้นในเนื้อเรื่องและฉากแอ็คชั่นเข้าไปทดแทนได้ เกรดB+ แล้วเจอกันใหม่นะครับผม ลาล่ะ555
หลังจากที่ดูมาเอง Kungfu Panda 2 ผมขอเล่าความรู้สึกนิดนึงมั่งนะครับ ภาค 2 นี่ มันไม่ค่อยมีความหลากหลายในเรื่องจังหวะการดำเนินเรื่องเลยน่ะครับ มีแต่ เร็ว เร็ว เร็ว เร็ว เวลาสู้กันก็ แว้บๆๆๆๆๆๆ ดูแทบไม่ทันเลย เวลาตัวเอกกระโดดๆ แล้วมีตั๊กแตนช่วยเนี่ย ถ้าไม่ตั้งใจดูจริงๆ ก็คือ ไม่เห็น จริงๆ นะครับ เนื้อเรื่องกินใจจริง แต่ทุกอย่าง รีบ เร่ง ปุ๊บปั๊บ เกิดจบ ๆ ไม่มีจังหวะให้ appreciate เนื้อเรื่องอะไรทั้งนั้นเลย.... อย่างภาค 1 การต่อสู้ดูรู้เรื่องกว่ากันเยอะ แล้วก็มีจังหวะช้า จังหวะพักหายใจ อะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้รู้สึกลงตัวกว่าน่ะครับ แม้แต่ฉากต่อสู้ก็ไม่ได้ว่าเต็มสปีดกันตลอดเวลาขนาดนี้ รวมๆ แล้วผมเลยให้แค่ 7 คะแนนละครับภาคนี้
เอ๊ะ กันสึช่วงแรกยืดยาดหรอคะ ไม่รู้สึกเลยแฮะ (สงสัยเพราะมัวแต่จ้องนักแสดงนำจนน้ำลายยืด) เห็นด้วยค่ะว่าตัวละครตำรวจไม่จำเป็นเลย ดูแล้วสงสัยว่าจะออกมาทำไม นึกว่าจะมีผลสำคัญกับเนื้อเรื่องก็ไม่เห็นมี นี่ถ้าเป็นดาราคนอื่นคงด่าไปแล้ว แต่พอดีชอบยามาดะ ทาคายูกิที่รับบทนี้เลยให้อภัย (ฮา) เรารู้สึกชอบฉากแอคชั่นแบบในภาคแรกมากกว่านะคะ ลุ้นกว่า ตื่นเต้นกว่า ภาคสองชอบที่บทและความดราม่า ส่วนฉากแอคชั่นนี่เฉยมากๆค่ะ