[พรีวิว] Harry Potter 7-2 เครื่องรางยมทูต

กระทู้จากหมวด 'ดูหนัง ฟังเพลง อนิเม การ์ตูน' โดย artast, 28 มิถุนายน 2011.

  1. artast

    artast A.K.Thathap

    EXP:
    227
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16

    อีกไม่เพียงไม่นาน มหากาพย์ที่เป็นดั่งศาสนาซึ่งสามารถเรียกศรัทธาจากคนทั่วโลกได้ราวกับมีมนต์สะกดก็กำลังจะจบลง ​
    มหากาพย์ที่ทรงคุณค่า เปี่ยมไปด้วยความประทับใจ หรือแม้กระั่ทั่งน้ำตา ​
    ตำนานที่โดยส่วนตัวแล้ว ผมได้แง่คิดไปมากมายทำให้เห็นโลกอย่างที่มันเป็นจริงได้ดีขึ้น​

    บัดนี้ -- ถึงเวลาที่ทุกอย่างต้องจบลง ในที่ๆมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว

    [​IMG]

    ภาพอาร์ทเวิร์คทางรถไฟใต้ดินตีลังกาของกริงกอตส์

    ภาคนี้เริ่มต้นด้วยการที่แฮร์รี่บุกเข้าไปในธนาคารกริงกอตส์ เพื่อทำลายฮอร์ครักซ์ตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์​
    โดยได้รับความช่วยเหลือจากก็อบลินที่หนีมาจากคฤหาสน์มัลฟอยด้วยกันชื่อกริ๊บฮุก และผมหนึ่งเส้นจากเบลลาทริกซ์​
    ซึ่งในที่สุดแฮร์รี่ก็ปล้นธนาคารชิงถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟออกมาได้ และขี่มังกรหนีออกไปสู่สงครามซึ่งเป็นแก่นเรื่องที่แท้จริง...​

    สงครามที่ฮอกวอตส์ ฉากต่อสู้ที่ผู้กำกับมือใหม่จากอังกฤษ เดวิด เยตส์ ซึ่งคุมบังเหียนหนังเรื่องนี้มาแล้วถึงสี่ครั้งนั้น​
    ถึงกับการันตีว่ามันจะเป็นหนังที่ "ยิ่งใหญ่ดุจภาพยนตร์สงครามโลก" เลยทีเดียว ​

    อย่างไรก็ตาม บางครั้งผมก็แอบคิด (หรืออาจจะแค่แอบหวัง) ว่าผู้กำกับคนนี้จะยังไม่ทิ้งประเด็นสำคัญตรงจุดอื่นๆไป​
    อย่างเช่นเรื่องปมปัญหาชีวิตของแฮร์รี่ ซึ่งกำลังอยู่ในวัยที่น่าศึกษาอย่างยิ่งทีเดียว เพราะเขากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ค้าวได้ง่าย​

    [​IMG]

    "ฉันไม่อยากให้มีใครตายแทนฉันอีก..."​

    ประโยคนี้บ่งบอกถึงความค้าวในจิตใจของเขา
    และจุดอ่อนนี้เองที่โวลเดอมอร์ใช้ให้เป็นประโยชน์เสมอมา
    เห็นได้จากที่ผ่านมาเขาจับจินนี่ไปขังบ้างล่ะ หลอกว่ากำลังทรมานซิเรียสบ้างล่ะ​
    และเมื่อได้มีโอกาสเผชิญหน้ากัน ลอร์ดโวลเดอมอร์ก็มักจะกล่าวถ้อยคำที่เจ็บปวดเพื่อทำการไซโคแฮร์รี่ให้ทรมานเล่นเสมอ​

    อย่างไรก็ตามภาคสุดท้ายนี้ แฮร์รี่สามารถยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว​

    แม้ว่าเขาอาจจะยังไม่สุขุมถึงที่สุดเพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น​
    แต่อย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าทางเดินของตนเป็นอย่างไร และเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ตนสามารถสละชีวิตให้ได้คืออะไร​

    ซึ่งนี่แหละคือเด็กชายผู้ถูกเลือก เด็กชายที่ผู้คนมากมายพร้อมใจที่จะสู้เพื่อเขานั่นเองครับ!

    [​IMG]
    นอกจากแฮร์รี่แล้วตัวละครอื่นๆก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน​
    อย่างเช่นเด็กผู้ชายอ้วนเตี้ยคนนี้ ซึ่งเมื่อเขาโตขึ้นกลับพลิกบทบาทเรียกคะแนนจากสาวๆได้ไม่เบา​
    หรือเรื่องของอาจารย์วิชาปรุงยาเจ้าเก่า ซึ่งภาคนี้ได้นำเสนอเรื่องราว "ตำนานแห้วแดนผู้ดี" แบบจัดเต็มทีเดียว​

    ทั้งหมดนี้คือแง่มุมความลึกของตัวละคร ทำให้เรื่องราวเหล่านี้เป็นมากกว่าหนังสือหรือหนัง​
    ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราเลยก็ว่าได้​

    เป็นสิ่งที่หากผู้กำกับสามารถถ่ายทอดได้ดี จะทำให้หนังเกิดคุณค่าน่าชื่นชมขึ้นมากมายครับ

    [​IMG]
    กลับมาพูดถึงหนังต่อ...​
    เดวิด เยตส์ พึ่งจะมีผลงานกำกับภาพยนตร์แฮร์รี่ เป็นหนังโรงครั้งแรกในชีวิตของเขา​
    ซึ่งที่ผ่านมาผมมองว่าผู้กำกับคนนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมทั้งข้อไม่ดีไม่เสียด้วย
    โดยผมก็รวบรวมมาเท่าที่มองเห็น เพื่อเป็นภาพรวมคร่าวๆของหนังภาคใหม่ต่อไปครับ​

    ข้อดี

    -มีการฉีกกรอบ
    หลายๆฉากไม่มีในหนังสือครับ แต่ผู้กำกับท่านนี้ได้ตัดสินใจ "เปลี่ยน" ได้อย่างน่าชม​
    ยกตัวอย่างเช่นฉากเฮ็ดวิกที่สละชีพเพื่อแฮร์รี่ตอนต้นเรื่อง เป็นต้น​

    -ให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กน้อยในหนังสือ
    นับว่าเป็นจุดเด่นของเฮียแกเลย จุดนี้ต้องซูฮกให้หนึ่งจอก​
    อย่างเช่นฉากหายตัวที่ทำได้ตามคำบรรยายในหนังสือแบบเป๊ะๆ ฉากเฮอร์ไมโอนี่ลบความจำพ่อแม่ตนเอง​
    ฉากมักกอลนากัลเสกให้รูปปั้นในฮอกวอสต์มีชีวิตขึ้นมาเพื่อร่วมต่อสู้ ฉากบาร์เรียของฮอกวอตส์ที่หนังสืออธิบายไม่ชัดเจนนัก​
    และที่ผมชอบคือฉากจอมมารเสกบอลเกงกิ เอ้ย!...ฉากทำลายบาร์เรียของโวลเดอมอร์ครับ lol 55555...!!!!!

    ข้อเสีย

    -ไม่ให้ความสำคัญกับฉากที่มีคุณค่า
    ข้อเสียนี้อยากจะกรีดร้องดังๆ ยกตัวอย่างเช่นฉากที่จอมมารไซโครอน​
    ซึ่งฉากนั้นตามหนังสือ จะทำให้เราเข้าใจตัวตนของรอนได้ดีทีเดียว​
    แต่ผมคิดว่าคนที่ดูฉากนี้ในหนัง คงจำได้แต่ภาพสุดสวีท อุ๊บ!...ภาพมายาที่จอมมารจัดมาให้ดูเท่านั้นกระมั้ง​
    หรือการไม่ให้ความสำคัญกับ "โรคผิดหวังในสิ่งที่นับถือของหนุ่มสาว" ซึ่งก็คือประเด็นที่แฮร์รี่ค้นพบความจริงว่าดัมเบิลดอร์​
    ก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่พลาดกันได้เหมือนคนทั่วไป แต่ีสำหรับคนหนุ่มสาว "ความจริง" ตรงนี้อาจทำให้หมดความมุ่งมั่นไปเลยทีเดียว​

    ข้อไม่ดีไม่เสีย

    -ฉากต่อสู้...สุดเงียบ
    มันเป็นเทคนิคการถ่ายทำอย่างหนึ่งครับ เพื่อให้คนดูรู้สึกเหมือนมีส่วนร่วมในเหตุการณ์จริง​
    อย่างไรก็ตามผู้ที่ไม่มีอารมณ์ร่วมดังกล่าว และคอยเฝ้าหวังเพลงประกอบอมตะกระชากอารมณ์เมื่อถึงจุดไคลแมกซ์นั้น​
    คงได้แต่ผิดหวังมาภาคแล้วภาคเล่าตามๆกันเท่านั้นเอง​

    เป็นเทคนิคที่ไม่มีนัยถึงความเก่งของผู้สร้าง จะดีจะร้ายก็แล้วแต่มุมมองครับ​

    -หนัง...ยังมืดได้อีก
    เป็นอีกเทคนิคหนึ่งเพื่อกดดันอารมณ์คนดูครับ ด้วยการหรี่ไฟลงจนทีวี Hi-Def ก็ไม่ช่วยให้มันชัดขึ้นแต่ประการใด​
    เพราะมันเป็นความจงใจที่จะให้หนังดูเบลอ ดูไม่ชัด ดูมืดมนสมกับเป็นดาร์กไทน์​
    ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็พอเข้าใจเจตนาผู้สร้างอยู่หรอก แต่ผมเคยเถียงกับคนขายมาแล้วว่านี่แผ่นแท้หรือเปล่าพี่ ทำไมมันโครตมืดเยี่ยงนี้...​

    ยังมืดได้อีก...​

    -เอาใจคนดูเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
    ตอนที่ผมดูภาคล่าสุดนั้น ผมได้กลิ่นทไวไลน์ตุๆ​
    ความเป็นแฮร์รี่หายไปมากมายทีเดียว เพราะตัวออริจินอลนั้น "เข้าถึงได้ทุกคน"​
    ดังนั้นเหตุผลนี้จึงเป็นข้อไม่ดีไม่เสียอย่างสุดท้ายที่พอจะมองเห็นได้นั่นเอง​


    แฮร์รี่ภาคสุดท้ายนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นหนังที่ดีและยิ่งใหญ่แน่นอน และผมก็ประทับใจในเทรเลอร์มากจริงๆ
    แม้ว่าหนังที่แก่นมัน "ไม่ใช่แอ็คชั่น" หลายๆเรื่องจะเป็นได้เพียงหนังดูเอาเพลินหลังจากที่เวลาพิสูจน์ก็ตาม​
    แต่การที่ผู้กำกับตัดสินใจปลุกเสกภาพรวมของหนังเรื่องนี้ ให้มีเลือดสาดเปรอะโปสเตอร์ไปแล้วนั้น​
    ก็น่าจะสร้างความแตกต่างทำให้หนังขลังพอที่จะกลายเป็นตำนานใหม่ ส่งท้ายความประทับใจได้อย่างแน่นอนครับ!

    แม้เรื่องราวจะจบลงแล้ว แต่แฮร์รี่จะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป...ในใจเราเสมอ

    ปล.อย่าลืมทีวีสเปเชียลก่อนวันเลือกตั้ง 2 ก.ค. ห้าทุ่ม ช่อง 3 จ้า! http://www.youtube.c...player_embedded
    ปล2.อันที่จริงผมดูหนังยังไม่มากและอ่อนประสบการณ์จริงๆเกี่ยวกับหนัง ไว้ผมจะรออ่านรีวิวจากคอหนังจริงๆีอีกทีนะครับ ^-^


Share This Page