อีกไม่เพียงไม่นาน มหากาพย์ที่เป็นดั่งศาสนาซึ่งสามารถเรียกศรัทธาจากคนทั่วโลกได้ราวกับมีมนต์สะกดก็กำลังจะจบลง มหากาพย์ที่ทรงคุณค่า เปี่ยมไปด้วยความประทับใจ หรือแม้กระั่ทั่งน้ำตา ตำนานที่โดยส่วนตัวแล้ว ผมได้แง่คิดไปมากมายทำให้เห็นโลกอย่างที่มันเป็นจริงได้ดีขึ้น บัดนี้ -- ถึงเวลาที่ทุกอย่างต้องจบลง ในที่ๆมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว ภาพอาร์ทเวิร์คทางรถไฟใต้ดินตีลังกาของกริงกอตส์ ภาคนี้เริ่มต้นด้วยการที่แฮร์รี่บุกเข้าไปในธนาคารกริงกอตส์ เพื่อทำลายฮอร์ครักซ์ตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์โดยได้รับความช่วยเหลือจากก็อบลินที่หนีมาจากคฤหาสน์มัลฟอยด้วยกันชื่อกริ๊บฮุก และผมหนึ่งเส้นจากเบลลาทริกซ์ซึ่งในที่สุดแฮร์รี่ก็ปล้นธนาคารชิงถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟออกมาได้ และขี่มังกรหนีออกไปสู่สงครามซึ่งเป็นแก่นเรื่องที่แท้จริง... สงครามที่ฮอกวอตส์ ฉากต่อสู้ที่ผู้กำกับมือใหม่จากอังกฤษ เดวิด เยตส์ ซึ่งคุมบังเหียนหนังเรื่องนี้มาแล้วถึงสี่ครั้งนั้นถึงกับการันตีว่ามันจะเป็นหนังที่ "ยิ่งใหญ่ดุจภาพยนตร์สงครามโลก" เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม บางครั้งผมก็แอบคิด (หรืออาจจะแค่แอบหวัง) ว่าผู้กำกับคนนี้จะยังไม่ทิ้งประเด็นสำคัญตรงจุดอื่นๆไปอย่างเช่นเรื่องปมปัญหาชีวิตของแฮร์รี่ ซึ่งกำลังอยู่ในวัยที่น่าศึกษาอย่างยิ่งทีเดียว เพราะเขากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ค้าวได้ง่าย "ฉันไม่อยากให้มีใครตายแทนฉันอีก..." ประโยคนี้บ่งบอกถึงความค้าวในจิตใจของเขา และจุดอ่อนนี้เองที่โวลเดอมอร์ใช้ให้เป็นประโยชน์เสมอมา เห็นได้จากที่ผ่านมาเขาจับจินนี่ไปขังบ้างล่ะ หลอกว่ากำลังทรมานซิเรียสบ้างล่ะและเมื่อได้มีโอกาสเผชิญหน้ากัน ลอร์ดโวลเดอมอร์ก็มักจะกล่าวถ้อยคำที่เจ็บปวดเพื่อทำการไซโคแฮร์รี่ให้ทรมานเล่นเสมอ อย่างไรก็ตามภาคสุดท้ายนี้ แฮร์รี่สามารถยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว แม้ว่าเขาอาจจะยังไม่สุขุมถึงที่สุดเพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้นแต่อย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าทางเดินของตนเป็นอย่างไร และเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ตนสามารถสละชีวิตให้ได้คืออะไร ซึ่งนี่แหละคือเด็กชายผู้ถูกเลือก เด็กชายที่ผู้คนมากมายพร้อมใจที่จะสู้เพื่อเขานั่นเองครับ! นอกจากแฮร์รี่แล้วตัวละครอื่นๆก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกันอย่างเช่นเด็กผู้ชายอ้วนเตี้ยคนนี้ ซึ่งเมื่อเขาโตขึ้นกลับพลิกบทบาทเรียกคะแนนจากสาวๆได้ไม่เบาหรือเรื่องของอาจารย์วิชาปรุงยาเจ้าเก่า ซึ่งภาคนี้ได้นำเสนอเรื่องราว "ตำนานแห้วแดนผู้ดี" แบบจัดเต็มทีเดียว ทั้งหมดนี้คือแง่มุมความลึกของตัวละคร ทำให้เรื่องราวเหล่านี้เป็นมากกว่าหนังสือหรือหนังราวกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราเลยก็ว่าได้ เป็นสิ่งที่หากผู้กำกับสามารถถ่ายทอดได้ดี จะทำให้หนังเกิดคุณค่าน่าชื่นชมขึ้นมากมายครับ กลับมาพูดถึงหนังต่อ...เดวิด เยตส์ พึ่งจะมีผลงานกำกับภาพยนตร์แฮร์รี่ เป็นหนังโรงครั้งแรกในชีวิตของเขาซึ่งที่ผ่านมาผมมองว่าผู้กำกับคนนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมทั้งข้อไม่ดีไม่เสียด้วย โดยผมก็รวบรวมมาเท่าที่มองเห็น เพื่อเป็นภาพรวมคร่าวๆของหนังภาคใหม่ต่อไปครับ ข้อดี -มีการฉีกกรอบหลายๆฉากไม่มีในหนังสือครับ แต่ผู้กำกับท่านนี้ได้ตัดสินใจ "เปลี่ยน" ได้อย่างน่าชมยกตัวอย่างเช่นฉากเฮ็ดวิกที่สละชีพเพื่อแฮร์รี่ตอนต้นเรื่อง เป็นต้น -ให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กน้อยในหนังสือนับว่าเป็นจุดเด่นของเฮียแกเลย จุดนี้ต้องซูฮกให้หนึ่งจอกอย่างเช่นฉากหายตัวที่ทำได้ตามคำบรรยายในหนังสือแบบเป๊ะๆ ฉากเฮอร์ไมโอนี่ลบความจำพ่อแม่ตนเองฉากมักกอลนากัลเสกให้รูปปั้นในฮอกวอสต์มีชีวิตขึ้นมาเพื่อร่วมต่อสู้ ฉากบาร์เรียของฮอกวอตส์ที่หนังสืออธิบายไม่ชัดเจนนักและที่ผมชอบคือฉากจอมมารเสกบอลเกงกิ เอ้ย!...ฉากทำลายบาร์เรียของโวลเดอมอร์ครับ lol 55555...!!!!! ข้อเสีย -ไม่ให้ความสำคัญกับฉากที่มีคุณค่าข้อเสียนี้อยากจะกรีดร้องดังๆ ยกตัวอย่างเช่นฉากที่จอมมารไซโครอนซึ่งฉากนั้นตามหนังสือ จะทำให้เราเข้าใจตัวตนของรอนได้ดีทีเดียวแต่ผมคิดว่าคนที่ดูฉากนี้ในหนัง คงจำได้แต่ภาพสุดสวีท อุ๊บ!...ภาพมายาที่จอมมารจัดมาให้ดูเท่านั้นกระมั้งหรือการไม่ให้ความสำคัญกับ "โรคผิดหวังในสิ่งที่นับถือของหนุ่มสาว" ซึ่งก็คือประเด็นที่แฮร์รี่ค้นพบความจริงว่าดัมเบิลดอร์ก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่พลาดกันได้เหมือนคนทั่วไป แต่ีสำหรับคนหนุ่มสาว "ความจริง" ตรงนี้อาจทำให้หมดความมุ่งมั่นไปเลยทีเดียว ข้อไม่ดีไม่เสีย -ฉากต่อสู้...สุดเงียบมันเป็นเทคนิคการถ่ายทำอย่างหนึ่งครับ เพื่อให้คนดูรู้สึกเหมือนมีส่วนร่วมในเหตุการณ์จริงอย่างไรก็ตามผู้ที่ไม่มีอารมณ์ร่วมดังกล่าว และคอยเฝ้าหวังเพลงประกอบอมตะกระชากอารมณ์เมื่อถึงจุดไคลแมกซ์นั้นคงได้แต่ผิดหวังมาภาคแล้วภาคเล่าตามๆกันเท่านั้นเอง เป็นเทคนิคที่ไม่มีนัยถึงความเก่งของผู้สร้าง จะดีจะร้ายก็แล้วแต่มุมมองครับ -หนัง...ยังมืดได้อีกเป็นอีกเทคนิคหนึ่งเพื่อกดดันอารมณ์คนดูครับ ด้วยการหรี่ไฟลงจนทีวี Hi-Def ก็ไม่ช่วยให้มันชัดขึ้นแต่ประการใดเพราะมันเป็นความจงใจที่จะให้หนังดูเบลอ ดูไม่ชัด ดูมืดมนสมกับเป็นดาร์กไทน์ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็พอเข้าใจเจตนาผู้สร้างอยู่หรอก แต่ผมเคยเถียงกับคนขายมาแล้วว่านี่แผ่นแท้หรือเปล่าพี่ ทำไมมันโครตมืดเยี่ยงนี้... ยังมืดได้อีก... -เอาใจคนดูเฉพาะกลุ่มเท่านั้นตอนที่ผมดูภาคล่าสุดนั้น ผมได้กลิ่นทไวไลน์ตุๆความเป็นแฮร์รี่หายไปมากมายทีเดียว เพราะตัวออริจินอลนั้น "เข้าถึงได้ทุกคน"ดังนั้นเหตุผลนี้จึงเป็นข้อไม่ดีไม่เสียอย่างสุดท้ายที่พอจะมองเห็นได้นั่นเอง [media]http://www.youtube.com/watch?v=uwjp4oWk63o[/media] แฮร์รี่ภาคสุดท้ายนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นหนังที่ดีและยิ่งใหญ่แน่นอน และผมก็ประทับใจในเทรเลอร์มากจริงๆ แม้ว่าหนังที่แก่นมัน "ไม่ใช่แอ็คชั่น" หลายๆเรื่องจะเป็นได้เพียงหนังดูเอาเพลินหลังจากที่เวลาพิสูจน์ก็ตามแต่การที่ผู้กำกับตัดสินใจปลุกเสกภาพรวมของหนังเรื่องนี้ ให้มีเลือดสาดเปรอะโปสเตอร์ไปแล้วนั้นก็น่าจะสร้างความแตกต่างทำให้หนังขลังพอที่จะกลายเป็นตำนานใหม่ ส่งท้ายความประทับใจได้อย่างแน่นอนครับ! แม้เรื่องราวจะจบลงแล้ว แต่แฮร์รี่จะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป...ในใจเราเสมอ ปล.อย่าลืมทีวีสเปเชียลก่อนวันเลือกตั้ง 2 ก.ค. ห้าทุ่ม ช่อง 3 จ้า! http://www.youtube.c...player_embedded ปล2.อันที่จริงผมดูหนังยังไม่มากและอ่อนประสบการณ์จริงๆเกี่ยวกับหนัง ไว้ผมจะรออ่านรีวิวจากคอหนังจริงๆีอีกทีนะครับ ^-^