[ฟิครับสมัคร] รักสวภัทร : บทที่ 3-1.5 ตอนพิเศษ

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย Aki, 19 กันยายน 2011.

  1. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    หือออ..........หาาาา..........นรันดร์กับน้ำมนต์!!!! :eek:
    ...ใจก็คิดอคติกับเค้า แต่ก็ดันไปชอบเค้า........ซึนนี่หว่า!!? (ฮาา)

    บทระหว่างเจ๊มนต์กับสายลมดูโรแมนติกดีค่ะ (หรือจะดราม่าแฮะ..?)
    สรุปว่าดีใจหรือเสียใจเนี่ยที่เค้ามาบอกรัก.. 555+

    เจอบทที่คาดไม่ถึงอย่างแรงค่ะ! รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่ออยู่นะค้า~ ><
    swanton ถูกใจสิ่งนี้
  2. Ryuto

    Ryuto 終わる道、始まる夢

    EXP:
    964
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    88
    ซึ้งดีวะ อ่านแล้วแบบ "สมกับเป็นนาย" ตรงที่เป็นฉากคำพูดและเป็นประโยคบรรยายความรู้สึกของนภา อ่านแล้วมันนึกถึงฉากพวกหนังหรือละครอะไรเทือกนั้นเลย

    ถึงจะสั้นแต่เจ๋งดี รอตอนหน้านะนาย กร๊ากกกก

    ป.ล.นราพจน์แม่งต้องมีแทรกที่สองที่ตลอด ก้องเยอะเนาะ 5 5 5 5 5+
  3. Aki

    Aki Paradox Observer

    EXP:
    485
    ถูกใจที่ได้รับ:
    41
    คะแนน Trophy:
    48
    เข้ามาแก้คำผิดจุดสำคัญนะครับ​

    ด้านล่างสุดต้องเป็น... "เมื่อมีนภาอยู่ข้าง ๆ" นะครับ

    กะว่าตอนนี้จะไม่มีที่ผิดแล้วเชียว... ดันหลุดมาจุดสำคัญด้วย จะไปแก้ในโพสต์ก็จะทำให้หน้าเลื่อน แล้วต้องเปลี่ยนแปลงเยอะ... ส่วนในไฟล์จริงผมแก้เรียบร้อยแล้วครับ... ยังไงก็ขอโทษด้วยสำหรับความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ฮาาาาา

    ปล. ตัวละคร ชื่อขึ้นด้วย 'นะ' เยอะจนคนเขียนมึนเหมือนกัน ฮาาาา (แต่ก็ชอบชื่อตัวละครในเรื่องนี้แทบทุกตัวเลย ผมคิดไม่ได้อ่ะ เป็นคนมุขตันกับการคิดชื่อมั่กมาก กร๊ากกก)

    แล้วจะมาตอบคอมเม้นท์ทีหลังนะครับ :)

    EDIT
    เพิ่มเติม... พึ่งนึกได้จาก quote นี้ของไอ้ต้อม

    จริง ๆ แล้ว มีอะไรให้เล่นสำหรับตัวละครอื่น ๆ แบบนี้ัเหมือนกันนะครับ แต่เรายังไม่ได้เล่น...

    ยกตัวอย่างเช่น

    ชื่อของนราพจน์ มาจาก นรา + พจน์
    นรา มาจาก นรฺ ซึ่งแปลว่า "คน"
    และ พจน์ มาจาก พจนะ ซึ่งแปลว่า "คำพูด"

    นี่คือเงื่อนปมอย่างหนึ่งที่คนเขียนจะเอามาผูกเล่นให้สนุกสนานกับตัวละครแต่ละตัว ฮาาาาา

    เช่นนั้นแล้ว ระวังชื่อที่ท่านสมัครให้ดีดีคร้าบบบบบบบบ

    /me เข้ามาแหย่แล้วก็จากไป
  4. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    ตรงนั้นใส่ชื่อผิดสินะ ตอนอ่านก็ว่าแปลกๆอยู่แต่ไม่ทันติดใจสงสัยอะไร พอเปลี่ยนชื่อคนแล้วเคลียร์ขึ้นเยอะ >_<"
  5. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    ฟิคดราม่าของแท้และแน่นอน 555 รู้สึกว่ามันไม่เชิงเป็นฟิคหรือนิยายเต็มขั้นแหะ จะว่าไงดี มันเต็มไปด้วยบทบรรยายถึงอารมณ์ของตัวละครมากกว่า เน้นไปทางนั้น (ภาษาการเขียนเข้าเรียกไรไม่รู้ 555)

    เหมือนเรื่องเล่าของคนที่เอามาทำให้เป็นบทละคร ประมาณนั้น เอิ๊ก ๆ

    รอตามต่อ~
  6. swanton

    swanton Dragon on Board

    EXP:
    1,424
    ถูกใจที่ได้รับ:
    69
    คะแนน Trophy:
    113
    ถ้าเม้นท์สั้น อย่าว่ากันนะอากิ

    ไม่รู้จะพูดอะไรออก รู้แค่ว่าอ่านแล้วหัวใจเต้นแรงมาก ถ้อยคำที่กลั่นกรอง เลือกสรร เหมือนมีแต่อากิเท่านั้นที่สร้างมันออกมาได้
    ลึกล้ำ คมคาย แยบยล บีบรัด ทิ่มแทง เชือดเฉือน มืดมน
    เหล่านี้เป็นความรู้สึกทั้งหมดที่อ่านได้

    ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจาก สุดยอดจริงๆอากิ
    มันเป็นอารมณ์ที่คลุ้มคลั่งดีแท้ รู้สึกได้ถึงเถ้าถ่านของความรักที่มันฟุ้งไปทั่ว แล้วมันบีบหัวใจผมทุกครั้งที่ไล่สายตาไปตามบรรทัด
    คาแรคเตอร์แต่ละตัวนี่ เหมือนหลุดออกมาจากโลกไหนไม่ทราบ ไม่เคยพบปรากฏในชีวิตจริงหรือโลกหนังสือทั้งสิ้น แต่เมื่อมันโลดแล่นในบริบทของกรุงเทพฯ บนเรื่องราวของความรัก มันก็สร้างมิติและมุมลึกต่างๆ ที่อ่านแล้วน่าใจหาย
    ถ้าไม่ใช่คนที่มีมุมมองต่อความรักมามากอย่างอากิ เขียนไม่ได้หรอกจริงๆนะ

    นรันดร์นี่ยังไม่เท่าไร อัยกรนี่สิ เธอเหมือนอาจารย์มากกว่า นศ.หลายเท่า มีความเป็นผู้ใหญ่จัด และสร้างกรงขังปิดหัวใจตัวเองมากๆ สมแล้วที่เป็นคาร์ของแบมๆ (อันนี้แอบชมเจ้าของคาร์นะ คิดได้ยังไง)
    บทบาทการพยายามแทรกแซงหัวใจของนัรนดร์น่าสนใจมากๆ ผมได้แต่นั่งมอง Tactic ผ่านท่านล่ะนะ ประธานอากิผู้มากรัก (หึหึ)

    น้ำมนต์กับนภา -- มาเป็นเรียบๆไม่มีอะไรหวือหวา แต่ผมก็ยังชอบปฏิกริยาที่มีในแต่ละบทอยู่ดี โดยเฉพาะการร้องไห้ของน้ำมนต์...
    สมจริงสมจังมากๆ ผมไม่รู้ว่าอ่านเรื่องเล่าของคน หรือ่านงานเขียนที่แต่งขึ้นกันแน่

    ชมจนไม่รู้จะชมอะไรแล้วอากิ อิจฉาคุณอ่ะ บอกตรงๆ
  7. Aki

    Aki Paradox Observer

    EXP:
    485
    ถูกใจที่ได้รับ:
    41
    คะแนน Trophy:
    48
    บทที่ 3-1 : เลือก


    ก่อนหน้ากระดาษ : (หมายเหตุ) เนื่องจากว่าบทนี้ค่อนข้างมีฉากที่สุ่มเสี่ยงไปในทางไม่ดีอยู่ จึงขอแจ้งให้สมาชิกทุกท่านทราบก่อนที่จะอ่าน กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ (น 18+) แต่ว่าเพื่ออรรถรสของฟิคและความสมจริง ผมจึงยังขอคงคอนเซปต์และคำที่ใช้ในตอนนี้อยู่นะครับ หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจในหัวอกคนแต่งที่อยากรักษาระดับของการใช้ภาษาไว้ (ฮา)

    จริง ๆ ก็อยากใช้แท็คสปอยล์ แต่ยังไงก็คงเปิดอ่านกันอยู่ดี ก็เอาเป็นว่า ใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วยนะครับ

    ปล. ผมจะขอตอบคอมเม้นท์หลังจากลงตอนนี้นะครับ เนื่องจากว่าอยากรีบลงให้อ่านกันก่อน แล้วเดี๋ยวจะมาไล่ตอบคอมเม้นท์ในตอนที่แล้วให้นะครับ ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ติดตามผลงานมาตลอดครับ


    &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&



    บนพื้นเพดานขาวสะอาด คราบอดีตแซมเซาะตามซอกมุมอับเป็นหย่อม ๆ กวีนิพนธ์ที่นอนแผ่ราบอยู่บนฟูกนุ่มโปรยตาเศร้าปนฝุ่นเขม่าเบา เขาเอี้ยวตัวขึ้นแตะสวิตซ์เยื้องหัวเตียง แสงเหลืองนวลวูบลงจากโคมไฟตั้งโต๊ะ ความมืดละเลงจนห้องดำสนิท

    ในความวิเวก เสียงเล็กกระซิบรดต้นคอและใบหู

    ‘ริน... ดีใจที่สุดที่ได้เป็นภรรยาของคุณค่ะ’

    ชายในกรอบแว่นผินไปมองตาม หญิงสาวในชุดเปลือยเปล่าขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาสีอ่อน เนินอกอิ่มเผยอพ้นริ้วผ้า ผิวขาวนิ่มลู่ใยสังเคราะห์ กวีนิพนธ์ค่อมตัวเหนือสาวหน้าสวย ยกหลังมือกร้านไล้ข้างแก้มนุ่มเลาะตามเรียวคอบางแล้วเลื่อนลงยอดปทุมถัน กระชับคุ้มปลายนิ้วคลึงเบาจนลอดเสียงครางกระเส่า ท่ามกลางเงาลางมัวนี้สรารินทร์ถัดหนีอย่างเขินอาย

    กวีนิพนธ์กดไหล่เล็กกับผ้าปูเตียง หวังประคบจูบบนริมฝีปากชมพูระเรื่อ

    ทว่า...

    เพี๊ยะ!!!
    รอยนิ้วมือของสรารินทร์ก็ฝาดจนแก้มหนาของกวีนิพนธ์แดงเป็นจ้ำ

    ‘คุณรักมันจริง ๆ ไอ้คนวิปริต!’

    ก่อนความเจ็บจะปรี่ให้น้ำตานอง แสงจันทร์อ่อนก็สาดเข้าทางระเบียง แล้วแทนที่สตรีใต้เรือนกายของชายหนุ่มจะเป็นสรารินทร์ กวินทรากับอยู่ตรงนั้นเสียนี่

    ‘หยุดบ้าสักทีเถอะค่ะ’



    ถ้าไม่ใช่เพราะความมักมาก

    กวีนิพนธ์คิดไม่ออกจริง ๆ ว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อาจสมัครใจใคร่รักในหญิงที่เคยร่วมเตียงเคียงหมอนอีกต่อไป แต่กลับเป็นหญิงอีกคนหนึ่งแทน

    แล้วนั่น... ถือเป็นความรักหรือไม่ ?



    กริ๊ง กริ๊งง กริ๊งงง!

    กวีนิพนธ์ปรือตา พลันควานหาแว่นกรอบเหลี่ยมบนโต๊ะไม้อัดข้างเตียง หนุ่มอีสานหน้าตี๋วาดมือสะเปะสะปะแล้วเกี่ยวฉวยมันไว้ก่อนหล่นกระทบพื้น


    กริ๊งงงงง!

    มือหยาบอีกข้างฟาดบนนาฬิกาปลุกซึ่งอยู่ใกล้กัน

    และขณะนั้นเอง...
    เขาก็ตระหนักว่าความอกุศลในใจเจิ่งนองกลางหว่างขาอุ่นซะแล้ว

    “โธ่เว้ย... มีอารมณ์แม้ว่าจะโดนตบเนี่ยนะ ?”

    ไม่ใช่แค่กวินทรา... บัดนี้สรารินทร์ก็เป็นได้แค่เพียงภาพฝันซึ่งจิตใจใช้บำรุงบำเรอกำหนัดกามยามที่ไม่อาจแสดงออกได้ดั่งหวัง

    ‘ทุเรศสิ้นดี สุดท้ายแล้วเราก็แค่ผู้ชายบ้ากามที่เก็บเอาเมียเก่ากับเด็กสาวมามีเซ็กซ์ในจินตนาการ’


    ชายหน้าละไมหยันตัวเองลอดไรฟัน ก่อนยันตนขึ้น สับเท้าถี่ไปคว้าผ้าขนหนูสีหม่นนอกระเบียงแล้วผลุนผลันเข้าห้องน้ำ

    เสียงลงกลอนลั่นแกรก ตามด้วยละอองน้ำกระทบดัง ‘ซ่า’


    สรารินทร์ไม่ได้พาเจ้าตัวเล็กมาหากวีนิพนธ์เกือบครบอาทิตย์แล้ว และนั่นควรเป็นเรื่องที่เขาสบายใจ เสียแต่ว่ารอยแผลซึ่งเขากรีดเธอไว้ด้วยความหุนหันพลันแล่นแว้งกลับมาเชือดเฉือนเขาแทน

    “ใช่! ผมรักกวินทรา... คุณพอใจรึยัง”

    และเขาไม่อาจรู้ว่า มันเป็น ‘รอยขีดข่วน’ หรือ ‘ปากแผลลึก’ สำหรับหญิงสาวอีกคนกันแน่ ?

    กวินทราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    เป็นเขาเอง... ที่รู้สึกผิดละอายกับคำว่ารัก
    เป็นเขาเอง... ที่อยากให้กวินทรามีปฏิกิริยากับคำว่า ‘รัก’ -- ของเขา

    ... แต่เมื่อ ...
    -- การบอกรัก -- ไม่ใช่การแสดงความรู้สึกอีกต่อไป
    กวีนิพนธ์ก็เหมือนสรารินทร์... ทุกคนต่างประกาศความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

    บ่อยครั้ง... มันทำให้คนได้รับ “อึดอัด”

    คืนนั้นสรารินทร์โผล่พรวดมาจากทางด้านหลัง แล้วเสียงแหลมก็ตวาดแวดกลางวงมาม่า สำหรับเมียจอมหึงนั่นคือดินเนอร์ระหว่างชายมากรักกับหญิงเล่นชู้ เกียรติพงษ์ อนุพงศ์ และนราพจน์เป็นก้อนหินหรือต้นไม้ที่ทำให้บรรยากาศโรแมนติกขึ้น

    เดิมทีสรารินทร์ยังคงใช้เหตุผล
    แต่เพราะมันไม่อาจเปิดเผยความอัดอั้นได้
    คำผรุสวาทบ่งบอกอารมณ์ดีกว่า

    แต่ไม่มากพอ...

    เธอจึงตบกวีนิพนธ์อีกฉาด

    ความอับอายเจ่อตามร่องแก้ม และรอยโทสะแดงก็กระตุกเสียงตะคอกหนัก

    ‘พอได้แล้ว... ริน!’

    คนถูกแหวหน้าเสีย เธอพูดสิ่งที่เธอไม่อยากได้ยิน สรารินทร์ถามกวีนิพนธ์ย้ำ ๆ

    “คุณรักนังนี่ใช่ไหม!”

    “คุณได้กับมันแล้วล่ะสิ!”

    “คุณทิ้งฉันไปหามัน!”

    “ไอ้คนวิปริต! คุณรักมัน!”

    “คุณรักมัน!”

    “รักมัน”

    “รักมัน”

    “รั..ก..”

    “มั..น..”

    ปกติคนที่ควรเสียใจน่าจะเป็นกวินทรา แต่สรารินทร์กลับร้องไห้

    กวีนิพนธ์ข่มกรามแน่น ใจปวดแปลบทุกครั้งที่ได้ยินเมียเก่าพูด แล้วคำสารภาพรักก็ลอยขึ้น

    “ใช่! ผมรักกวินทรา... คุณพอใจรึยัง”

    เสียงโฮลั่นของแม่ลูกอ่อนคือธงขาว -- สรารินทร์ยอมแพ้แล้ว

    แต่ความเจ็บผลักให้กวีนิพนธ์ไม่ยอมหยุด

    “คุณ... ต่างหาก ที่ทิ้งผมไป”

    สรารินทร์สะอื้นหนัก เธอเข้าใจความจริงข้อนี้ แต่กวีนิพนธ์ไม่เคยรู้
    เมื่อหมดหนทางระบาย เธอหันควับไปหาสาวร่างเล็กกว่า แล้วกวาดมือขึ้นจะตบ กวินทราคว้าข้อมือก่อนตะเบ็งด้วยแววตาสมเพช

    “หยุดบ้าสักทีเถอะค่ะ”

    คำว่า ‘สังเวช’ อธิบายใบหน้าที่กวินทราใช้มองคู่สามีภรรยาได้ดีที่สุด เด็กสาวไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ลูกผู้รากมากดียอมเอาศรีและศักดิ์มากลั้วเกลือกในตะกอนอารมณ์นี้ สรารินทร์ทนอยู่กับกลิ่นคาวของความใคร่ให้ใหลหลงได้อย่างไรกัน

    กวินทรา... ไม่อยากเข้าใจ
    เธอกลัวสิ่งที่ความรักจะทำกับเธอ

    ครั้งหนึ่งสรารินทร์ต้องเคยเป็นผู้หญิงซึ่งมีอุดมการณ์และความคิดนอกเหนือไปจากความรัก
    ครั้งหนึ่งสรารินทร์ต้องเคยอยากมีชีวิตของตัวเองมากกว่าอยากมีกวีนิพนธ์ในชีวิต

    ครั้งหนึ่งที่ว่านั้นน่าจะอยู่ก่อนการจดทะเบียนสมรส

    ครั้งหนึ่งที่ว่านั้นน่าจะอยู่ก่อนการตัดสินใจว่าจะรัก

    โซ่ตรวนของความเป็นผัวเมียทำให้บ้านกลายเป็นคุก
    เอาไว้จองจำ “คนที่เคยรัก”



    ก๊อก...

    ก๊อก... ก๊อก...


    ว่าที่นักจิตวิทยาสาวยกหลังมือขวาเดาะประตูไม้สองสามที ห่อผ้าซึ่งเกี่ยวปลายนิ้วเรียวคลอนเบา แต่เจ้าของห้องยังไม่ออกมาต้อนรับ กวินทราเอียงข้อมือซ้ายเพ่งตามเข็มเล็กบนหน้าปัดนาฬิกาสีสดแล้วโคลงหัว

    เธอจงใจจะคล้องอาหารเช้ากับลูกบิด อยู่ดีดีกลอนเหล็กก็เคลื่อนห่างจากเธอ แล้วลำตัวเปลือยเปล่าของชายร่างบางก็เข้ามาแทนที่ ขอบกางเกงสแล็คดำชุ่มไปด้วยหยดน้ำปรอยตามตัว ผ้าขนหนูสีเทามอพาดท้ายทอยเปียกละอองน้ำตามไรผม

    กวีนิพนธ์แต่งตัวเนี๊ยบเสมอก่อนจะต้อนรับแขก -- เขารีบกว่าปกติ ?

    “ปะ... แป๊ะ... แป๊ป นะน้องวิน”

    ชายหนุ่มหน้าเหวอ ไม่คาดว่าคนที่มาจะเป็นเด็กสาวที่พึ่งฝันถึง เขารีบงับประตูก่อนกวินทราจะทันพูดธุระ

    แต่นั่นทำให้เห็นว่า คนที่กวีนิพนธ์กำลังรอ... ไม่ใช่เธอ

    กวินทราส่ายหน้าเบา ช้อนมือเล็กคล้องห่อกับข้าว แล้วผันตัวออก ถอนเท้าจากหน้าประตูห้องห้าศูนย์ห้า

    ‘เธอแค่มาแบ่งกับข้าวตามปกติเท่านั้น... นี่คือสิ่งซึ่งเธอจะทำให้กวีนิพนธ์ได้ ไม่ว่าด้วยฐานะอะไร’


    ระหว่างโถงบันไดกลาง เสียงฝีเท้าหนักของคนที่กวีนิพนธ์กำลังรอดังก้องขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง

    บนขั้นบันไดชั้นสาม กวินทราเผชิญหน้ากับสรารินทร์


    คราวนี้สรารินทร์ใช้แววตาเศร้ามองตรงมายังศัตรูหัวใจ
    เธอรู้ดี... ไม่ว่าจะทำอย่างไร กวีนิพนธ์ก็ไม่กลับมาหาเธอเพราะความรักอีก

    ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยยอมรับกับเธอตรง ๆ ขนาดนั้น... เธอสูญเสียความรักให้กับเด็กสาวผู้อ่อนเยาว์คนนี้เสียแล้ว

    แต่กวีนิพนธ์จะอยู่กับกวินทราไม่ได้เด็ดขาด ภาระบางอย่างกดดันให้สรารินทร์ต้องพูดจาทำร้ายคนอื่นอีกครั้ง

    “ออกไปจากชีวิตของกวีเถอะ... ถือว่าฉันขอร้องนะ”

    ผู้หญิงหุ่นสวยในชุดสีส้มแสดจะยกมือขึ้นพนม แต่หญิงสาวอ่อนวัยกว่าฉวยท่อนแขนอีกฝ่ายไว้ทัน

    “คุณหยุดทำอย่างนี้เถอะค่ะ... ใช้เกียรติศักดิ์ศรีและความสงสารแลกกับความใจอ่อน”

    “แล้วเธออยากแลกมันด้วยอะไรล่ะ ?”

    สรารินทร์สวนขึ้นอย่างไม่คิด กวินทราหลุบตาลงต่ำ เธอสงสารผู้หญิงตรงหน้าจับใจ

    “ของที่คุณหามาได้ด้วยความเห็นใจจะทำให้คุณมีความสุขหรือคะ ?”

    “ฉันไม่ต้องมีความสุขก็ได้... ขอ... แค่... ลูก... มีความสุขก็พอ”

    แล้วหยดน้ำตาก็พราวข้างแก้มปนเสียงสะอื้นของสรารินทร์

    “คนที่คุณควรพูดเรื่องนี้ด้วย ไม่ใช่ดิฉันหรอกค่ะ... พูดกับกวีนิพนธ์สิคะ...

    “อีกอย่าง... ดิฉันไม่คิดว่าแค่ความรักจะทำให้ชายและหญิงได้อยู่ด้วยกันหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของดิฉันอีก”


    กวินทราคลายมือสรารินทร์ลง ฉีกยิ้มบาง แล้วเดินผ่าน

    หญิงสาวคนหนึ่งถัดตัวห่างจากความรัก

    สรารินทร์ปาดน้ำตา แล้วยกปลายขาก้าวตามโถงบันไดไปยังชั้นห้า

    หญิงสาวอีกคนโผเข้าหาแม้ไม่เป็นที่รัก

    กวีนิพนธ์เผยมือโอบเมียเก่าที่โถมเข้ากอด

    ส่วนชายหนุ่ม... ตัดสินใจที่จะอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก


    กวีนิพนธ์ไม่มีทางทำแบบนี้

    ความรักไม่มีทางยอมให้เขาเลือกแบบนี้

    แต่ความร้อนรนจากปลายสายโทรศัพท์ระหว่างที่เขากำลังแปรงฟันเมื่อเช้ากร่อนความตั้งใจจนยับ


    เสียงเรียกเข้าของมือถือแหวกสูงขณะกวีนิพนธ์ปัดปลายแปรงสีฟันขึ้นลง พนักงานโลจิสติกกลั้วปากด้วยน้ำเปล่าแล้วรุดออกมากดรับ

    เมื่อได้ยินเป็นน้ำเสียงของสรารินทร์ ปลายนิ้วก็กระตุกให้ตัดสายโดยอัตโนมัติ
    สรารินทร์ต่อสายใหม่โดยทันที
    และขณะที่เขากำลังจะระบายความไม่พอใจใส่ ข่าวคราวซึ่งรู้จากเมียเก่าก็ป่วนปั่นให้กวีนิพนธ์ละล่ำละลักแล้วกลืนมันกลับลงไปมวนในท้อง

    ลูกชายของเขาไม่สบายหนัก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล

    กวีนิพนธ์สะดุ้งสุดตัว


    ความเจ็บป่วยของลูกฉุดให้เขากลับมาอยู่กับบทบาท หน้าที่ และความเป็นพ่อ คนที่เขาไม่ได้รักมีเพียงสรารินทร์เท่านั้น
    อะไรบางอย่างทำให้เขาลืมแม้แต่ความรักซึ่งมีต่อลูก

    ตั้งแต่ที่พูดคำว่ารักออกไป... ก็ดูเหมือนว่ากวีนิพนธ์ไม่อาจหักห้ามให้ตัวเองไม่แสดงความรู้สึกต่อกวินทราได้ เขาเรียกร้องและอยากได้รับการตอบรับ

    เขาอยากได้รับความรักจนแทบบ้า...

    เหมือนที่สรารินทร์อยากได้รับความรักจากเขา...


    กวีนิพนธ์กลับเข้าไปอาบน้ำ เตรียมตัวรอสรารินทร์มาหา และเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
    แทนที่ผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นสรารินทร์ กวินทรายืนอยู่ตรงนั้น

    คล้ายกับความฝันเมื่อเช้า

    ชายหนุ่มทำตัวไม่ถูกจึงเผลอปิดประตูใส่... เมื่อเปิดมาอีกทีกวินทราก็ไม่อยู่แล้ว

    เหลือแต่เพียงห่อผ้ากับเศษกระดาษที่เหน็บแนบไว้

    กวินทราเป็นน้องที่ดีตลอดมา หญิงสาวคนนี้มีความห่วงใยและปรารถนาดีให้เขานอกเหนือจากความรักซึ่งฉาบฉวย สิ่งที่เธออยากบอกตลอดหลายวันอยู่ในรอยหมึกเข้มบนกระดาษพับ

    “มีอีกหลายคนที่อยากได้รับความรักจากโอจี้ซังมากกว่าทางนี้
    ความรู้สึกมันไม่ใช่คำพูดหรอก... เมื่อพูดออกมา มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกอีกต่อไป”


    กวีนิพนธ์กำลังทำให้กวินทราปวดแปลบกับความรัก เหมือนที่สรารินทร์ทำต่อเขา

    ไม่มีทางอื่นให้เขาเลือกแล้ว

    นอกจากกลับไปเป็นพี่ชายและน้องสาวกับกวินทราอีกครั้ง


    ในร้านของเล่นแห่งหนึ่ง
    ตุ๊กตาหมีขนน้ำตาลหนานั่งเด่น

    เด็กสาวร่างเล็กยกมือบางคลอใบหน้าปุยนุ่ม

    เธอพึงใจจนแทบจะควักเงินซื้อ
    แต่แล้วพนักงานขายก็ปรี่มาบอกว่า
    “ตุ๊กตาตัวนี้มีคนจองไปเรียบร้อยแล้วค่ะ”

    มันไม่ใช่ของเธออีก

    ไม่ว่าเธอจะรักมันแค่ไหน... มันก็ไม่อาจเป็นของเธอ

    แต่สิ่งที่ปวดใจที่สุด
    ก็คือ
    การที่ได้รู้ว่า... เจ้าตุ๊กตาหมีก็อยากอยู่กับเธอเช่นกัน

    คนที่ติดอยู่กับความรักซึ่งไม่อาจครอบครอง คือ เด็กหญิงคนนั้น...
    ไม่ใช่ตุ๊กตาหมี ไม่ใช่เจ้าของ

    .

    .

    .

    .


    ############### (end) รักสวภัทร : บทที่ 2(2) (ห่วง) ###############​

    ขอขอบคุณตัวละคร
    กวินทรา จันทรกานต์ (tokichan หรือ น้องแน็ก)​
    กวีนิพนธ์ สุริยะสกุล (swanton หรือ พี่อีวาน)​
    สรารินทร์ สุริยะสกุล (Original ของผมเช่นกัน)​

    หลังหน้ากระดาษ :
    ตอนนี้หายหน้าหายตาไปร่วมเดือน ผมเองขออภัยด้วยครับที่มาลงช้ามาก... ขอแก้ตัวก็คือ เนื่องจากประเทศไทยกำลังประสบภัยน้ำท่วมอยู่
    (โดนทุกคนรุมเตะ... ได้ข่าวว่าบ้านไอ้คนเขียนมันไม่โดนนะ)
    แต่ผมก็ต้องคอยเป็นที่พึ่งให้กับผู้ประสบภัยบางท่านครับ เลยไม่มีเวลาแต่งเลย


    และที่มันหลุดจากไหดองได้ก็เพราะรู้สึกผิดละอายที่ทำให้แฟน ๆ ของเรื่องนี้รอ

    สำหรับเนื้อหาของตอนนี้ ก็เป็นส่วนการตัดสินใจของสามตัวละครหลัก (จริง ๆ แล้วยังยืดเรื่องได้อีก แต่ผมเกรงว่าเขียนไปแล้วอารมณ์จะไม่ต่อครับ ก็เลยออกมาในรูปนี้ ฮา) เหตุการณ์ในเรื่องก็ดูเหมือนจะยังไม่จบดี ฉากอาจจะประหลาด ๆ ไปหน่อย ก็ขอน้อมรับความผิดพลาดไว้ด้วยถ้าหากอ่านแล้วไม่ลื่นไหล อาจจะเพราะบทนี้ใช้การเชื่อมอารมณ์และลำดับเหตุการณ์เปลี่ยนไปจากบทก่อน ๆ และอาจจะเพราะทิ้งช่วงการแต่งไว้นานพอสมควรครับ

    ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามผลงานของผมมาโดยตลอดนะคร้าบบบบบ

    (โค้ง)
  8. Aki

    Aki Paradox Observer

    EXP:
    485
    ถูกใจที่ได้รับ:
    41
    คะแนน Trophy:
    48
    เวรกำ... ตอน end ผมลืมแก้เป็น

    ############### (end) รักสวภัทร : บทที่ 3-1 (เลือก) ###############

    ขออภัยด้วยคร้าบบบบบบ
  9. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    ลงชื่อว่ามาเสพครึ่งแรกแล้วเออมันขาดๆขัดๆจริงด้วยว่ะ รอเสพต่อครึ่งหลังละกันอูอาา
  10. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    ฉากแรกโผล่มาก็อีโรติกเลย~ แอร๊ยย! ,,><,,

    แบบนี้ความสัมพันธ์ของน้องวินกับกวีจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย..จะมองหน้ากันติดหรออ?

    อยากอ่านต่อแล้วสิ! มาม่ากำลังต้มเข้มข้นได้พอดีเลย!
  11. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    อยากจะบอกว่า... อ่านยากว่ะ เกือบจะไม่รู้เรื่อง

    รับรู้ได้เพียงอารมณ์ของตัวละครที่สื่อผ่านการพูดจาและเสริมด้วยการอธิบายเป็นช่วงๆ
    แต่การดำเนินเรื่อง ความปะติดปะต่อเป็นภาพใหญ่มันขาดๆแปลกๆ



    เรื่องสำนวนภาษายังคงที่ดีอยู่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอากิรอสที่ม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอน



    ส่วนเนื้อหา จัดว่า 18+ ไหม ?
    ตอบได้เลยว่าไม่ มันจิ๊บๆมากถ้าจะเทียบกับสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองนี้บอกว่าเป็น 18+

    เนื้อเรื่องก็ยังไม่ไปไหน ยังคงวนเวียนอยู่กับรักสามเส้าของครอบครัวหนึ่งกับเด็กสาววัยรุ่นที่ถูกดึงเข้ามาพัวพันในวังวนอารมณ์
    แต่ที่มาที่ไป เหตุและผลของการเลิกราหย่าร้าง , จุดเริ่มต้นของอารมณ์ที่นิยามไม่ได้ระหว่าง ความรัก - ความใคร่ ของกวีนิพนธ์ต่อเด็กสาวรุ่นลูก

    คนอ่าน (หมายถึงตัวของข้าพเจ้า) ก็อยากได้เบื้องหลังเบื้องลึกที่ทำให้เรื่องราวขมวดปมเป็นเงื่อนตาย ณ เวลานี้เพื่อเสริมอารมณ์ให้มันพีคถึงขีดสุดว่า อดีตกาลที่ผ่านมาในห้วงเวลาที่ประมาณไม่ได้มีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง

    ความสงสัยในจุดนี้เป็นข้อดีที่ดึงให้คนอ่านต้องตามอ่านปมที่ถูกซ่อนไว้ ในอีกแง่หนึ่งก็มีข้อด้อยอยู่ที่แรงจูงใจในพฤติกรรมและความคิดของตัวละครหายไป


    ก็แค่แง่มุมหนึ่งจากเรา อยากรู้ background of life ของตัวละครแต่ละตัวเท่านั้นแหละ


    ปล. จุดที่ผิดนิดหน่อย

    กวินทรากลับอยู่ตรงนั้นเสียนี่
  12. shinkyoto

    shinkyoto Well-Known Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    88
    โลกนี้มันคงไม่ได้มีตุ๊กตาหมีตัวเดียวหรอกสินะ? เด็กหญิง?

    ไม่ได้ตัวนี้ แต่เรายืนยันได้ว่าเด็กหญิงจะต้องหาตัวใหม่ได้แน่นอน ตราบเท่าที่เด็กหญิงยังมีเงินในมือและร้านให้เลือกซื้อ
  13. Shion

    Shion Gamer

    EXP:
    609
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    38
    ลงชื่อมาอ่าน
  14. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    เหยดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ไม่แน่ใจว่ามันต้องเป็น 'ประกบจูบ' ใช่ไหม? ไม่ใช่ ประคบ? ไม่แน่ใจตรงนี้อ่ะ

    คือแบบว่า......ยังสุดยอดกับความรักฉบับดราม่า อ่านแล้วอินมากกกกกกก ถึงแมบางทีจะแอบมึนกับการใช้ชื่อตัวละครติด ๆ กันไปบ้าง (ทั้ง ๆ ที่มันไม่น่ามึนนะ 555 #เรามึนด้วยตัวเอง #ผิด)

    ท่านอากิสุดยอดอ่ะ พออ่านแบบนี้ทำให้อยากลองอ่านความรักในรูปแบบอื่น ๆ ที่ท่านอากิจะแต่งนะ อยากดูว่าจะออกมาเป็นยังไง การเขียนมุมมองของความรักได้หลากหลายมุมโดยให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไปนี่....คิดว่าเขียนยากนะ

    รอตามชมแน่น๊อนนนนนนน~*
  15. Aki

    Aki Paradox Observer

    EXP:
    485
    ถูกใจที่ได้รับ:
    41
    คะแนน Trophy:
    48
    ก่อนหน้ากระดาษ : (ขอมาขุดไหดองเล็ก ๆ แบบเรียกเรตติ้งละกัน)

    เนื่องจากห่างหายไปเกือบสองปี อยากลงตอนใหญ่เลย แต่ไม่ชัวร์ว่าสำนวนการเขียนมันจะคงแนวเดิมได้มากแค่ไหน จินตนาการ รวมถึงการใช้คำก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ -- เรียกว่าห่างหายเลยทิ้งฝีมือไปซะเยอะเลยครับ ก็เลยขอลงแบบลองเชิงดูก่อน
    นอกเหนือจากเรื่องการเกลาฝีมือแล้ว ที่เอาตอนคั่นเล็ก ๆ นี่มาลงเพื่อล้างอาถรรพ์ด้วยครับ ขอบอกว่าตอน 3-2 ผมเขียนทั้งหมด 5 รอบ แต่ไม่เสร็จเลยสักรอบ ไฟล์หายทุกรอบด้วยขอบอก แรก ๆ ก็พยายามเขียนคงคอนเซ็ปเดิม แล้วหายจนเบื่อ จนจำธีมและอารมณ์ช่วงนั้นไม่ได้แล้ว ก็เลยลากยาวมา แถมเขียนรอบใหม่ ๆ เกรงว่าจะด้อยลงก็ลบ ๆ เขียน ๆ ไปตามอารมณ์แต่ก็ไม่สำเร็จ พอไปได้ดีไฟล์ก็หายอีก

    ตอนสั้น(มาก)นี้ก็ถือว่าเป็นการฉลอง + ขุด + ล้างอาถรรพ์ให้กับรักสวภัทรละกันนะครับ

    ที่มาลงตอนสั้นคั่นเล็ก ๆ เพราะตั้งใจจะลงตอนยาวต่อ แต่ขอเกลาสำนวนอีกนิดหน่อยเถอะ ผมไม่มั่นใจในตัวเองเลยจริง ๆ เขียนแค่นี้ยังใช้เวลาดึงสำนวนตั้งนาน

    ขอบคุณทุกคนครับที่เห็นกระทู้นี้แล้วเข้ามาอ่านกันอยู่ ทั้ง ๆ ที่มันควรจะลืม ๆ ไปได้แล้ว ดองนานขนาดนี้

    ขอบคุณถ้ายังติดตามกันนะครับ

    & & & & & & & & & & & & & & & & & & & & & & & &

    ตอนพิเศษ บทที่ 3-1.5


    จันทร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ###


    ความรักไม่เคยให้กลิ่นหวานหอม เช่นเดียวกับที่ไม่รื่นหู

    บางคราวภาพวาดโทนชมพูอาจไม่น่าเพ่งดู

    แต่ก็ให้ออกแรงสู้... ไขว่คว้าจับจอง


    ความรู้สึกเป็นเรื่องยากเหนือจะกล่าว มันเกิดขึ้นง่ายกว่าความคิด แต่ซับซ้อนและหนักหน่วงกว่ามาก

    บ่อยครั้งเราหลงนึกไปว่าตนเองกำลังดำดิ่งอยู่ในมหรรณพแห่งความปีติ แต่หากใช้สติตรองดูเพียงเล็กน้อยเราจะพบว่าตนเองเข้าใจผิด ทุกคนกำลังติดอยู่ในเขาวงกตซึ่งไร้ทางออก

    คุรุบางท่านเชื่อว่ามิมีสิ่งใดเป็นตัวแทนสิ่งใดได้ ประสบการณ์ของคนเราเป็นภาวะอิสระซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน
    ความรู้สึกคือตัวอย่างอันชัดเจนที่สุด


    นัยน์ตาละล่ำละลักของกวีนิพนธ์ซึ่งมองตรงไปยังกวินทราฉายแววความละอายเสมอ ชายคนนั้นพร่ำบอกตนเองว่าเข้าใจความกระอักกระอ่วนของเด็กสาวดี

    ข้อผิดพลาดของกวีนิพนธ์ คือ มันไม่เป็นความจริง

    มากที่สุดที่เขาทำได้เป็นเพียงภาพจินตนาการว่ากวินทราอาจเจ็บปวดเช่นไร นั่นเป็นความคิด อย่างมากก็แค่มโนสำนึก มิใช่แม้เศษเสี้ยวความรู้สึก -- กวีนิพนธ์ไม่ใช่คนที่แอบรักสามีชาวบ้าน


    นภาลอบคิดถึงพิชามญธุ์ผ่านจิตรกรรมของเขา โดยไม่รู้ตัวสีที่เขาแต่งแต้มเธอมักเป็นสีอ่อนสว่าง ในภวังค์ของนภา พิชามญธุ์คือหญิงสาวสดใสซึ่งเปราะบางเกินกว่าจะเปรอะเปื้อนด้วยเฉดเข้ม

    ผลงานของนภา คือ ความจอมปลอม

    พี่เลี้ยงเด็กคนนี้ลึกซึ้งกว่าความคาดฝัน สิ่งที่นภาทำเป็นเพียงภาพหญิงสาวสักคนซึ่งเขาถือเอาเองว่านั่นคือพิชามญธุ์ นั่นเป็นความคิด อย่างมากก็แค่จินตภาพ มิอาจเรียกว่าความรู้สึก -- คนถูกบอกเลิกไม่ใช่นภา


    บทความของกวินทราสะท้อนความจริงข้อนี้ได้อย่างดี

    ความรักราวเค้กช็อกโกแลตประดับสตอเบอรี่สีแดงสด
    คนนอกล้วนมองมันราวของล้ำเลอค่า แต่ผู้เลียลิ้มชิมรสกลับร่ำร้องไห้


    อัยกรเป็นผู้สังเกตการณ์ซึ่งจ้องมองเค้กก้อนนั้นอยู่ห่าง ๆ ภายนอกเธอโตกว่าวัย แต่ภายในเป็นผู้หญิงไร้เดียงสา
    เธอผินมองสิ่งนอกกายคล้ายว่ามันไร้ราคา ครั้นหากมีใครยื่นมาเธอคงฝืนตัวลอง

    ผมมักมองว่าเธอเป็นเด็กซึ่งเจ็บปวดจากการไม่มี แต่ไม่ช้าไม่นานนี้การมีจะให้ความเจ็บปวดที่ทรมานยิ่งกว่า


    เมื่อคนเราก้าวเข้าสู่มหรสพโรงใหญ่ โศกนาฏกรรมคือฉากและองก์ซึ่งไม่มีใครไม่แสดง
    คนดูมองมันแล้วตีความตามตนเห็น
    เสียแต่ผู้เล่นใช้ตัวเองเป็นคนเสนอนำ


    ผมวิจารณ์ความรักดั่งผู้ยืนอยู่เหนือมัน
    ...แต่ไม่ใช่เลย...
    ผมหวังให้ใครสักคนผลักจนต้องตกไปอยู่กลางเวที

    แล้วมัวเมากับความไม่สมประดีของตน......

    # # # # # # # # # # # # # # # # # # # #


    ตึง!... ตึง!...

    เสียงฟาดหนักกระตุกให้ชายหนุ่มหยุดมือเรียวเล็กจากแป้นพิมพ์เบื้องหน้า เหลียวมองไปยังประตูห้อง ความรู้สึกมวนในท้องคะยั้นคะยอให้เขาปฏิเสธ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

    “นาย... ลงมาได้แล้ว ทุกคนเขารอกันอยู่”
    เสียงทุ้มของนราพจน์ไล่ตามการเคาะประตูห้องสองศูนย์หกมาติด ๆ

    “เออ... ไปเดี๋ยวนี้แหละ”


    ############### (end) รักสวภัทร : บทที่ 3-1.5 ###############​

    ขอขอบคุณตัวละคร
    กวินทรา จันทรกานต์ (tokichan หรือ น้องแน็ก)​
    พิชามญธุ์ ตั้งตระกูล (sumiyo หรือ ท่านสุมิโยะ)​
    กวีนิพนธ์ สุริยะสกุล (swanton หรือ พี่อีวาน)​
    นภา พัฒนวงศ์ไพศาล (ท่าน ManaswinPipatponglert)​
    อัยกร อัครอัสนีย์ (kolonel หรือ น้องแบม)​
    นราพจน์ นพศิลป์ (Ryuto หรือ ไอ้ต้อม)​
    กณิกนันต์ ศรีวัลลภ (aki หรือ ผมนั่นเอง ฮาๆๆ)​
  16. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    สำนวนเหมือนเดิมนะ..........................
    คืออ่านยากเหมือนเดิม (ฮา)

    ยังไม่เห็นมีอะไรคืบหน้านอกจากบทพร่ำเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกชัดเจนกว่า
    อ่านยากในรสสำนวน แต่เจตนาและสิ่งที่ต้องการสื่อสารกลับชัดเจนยิ่งกว่า



    ปล.น่าจะมีจุดผิดอยู่จุดนึง

    มากที่สุดที่เขาทำได้เป็นเพียงภาพจินตนาการว่ากวินทราอาจเจ็บปวดเช่นไร นั่นเป็นความคิด อย่างมากก็แค่มโนสำนึก มิใช่แม้เศษเสี้ยวความรู้สึก -- กวีนิพนธ์ไม่ใช่คนที่แอบรักสามีชาวบ้าน

    น่าจะเป็น -- กวินทรา ไม่ใช่คนที่แอบรักสามีชาวบ้าน หรือเปล่า ??
  17. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    สั้นและอ่านยากเหมือนเดิม ถ้าจะนับเนื้อหาจริงๆ มันมีประมาณหางอึ่ง นี่หรือคือสิ่งที่ศาสดาไปเก็บตัวฝึกฝนบนเขามาถึงสองปี ;3;
  18. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    ประโยคนั้นน่าจะเป็นว่ากวีนิพนธ์กำลังจินตนาการความรู้สึกของกวินทราแต่ก็รู้ดีว่ามันคงไม่ใช่ความรู้สึกที่กวินทรารู้สึกอยู่จริงๆเพราะตัวกวีนิพนธ์เองไม่ใช่คนที่อยู่ในสถานการณ์นั้นน่ะฮะ
  19. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    หลังจากได้คุยหลังไมค์กับคนเขียนก็ตามนี้แหละครับ
    เป็นการเปรียบเปรยว่ายังไงเสียกวีนิพนธ์ก็ไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของกวินทราได้ทั้งหมด เพราะกวีนิพนธ์ไม่มีทางไปแอบรักสามีชาวบ้านได้จริงๆ

Share This Page