[กำลังภายใน-เรื่องยาว] เพลงหมากพิชิตฟ้า - เพลงที่ 1 กระดานที่ค้างคา

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย Livic, 23 พฤศจิกายน 2011.

  1. Livic

    Livic ผู้กล้า

    EXP:
    120
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    lll สวัสดีครับทุกท่าน lll
    _ __ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการก่อนนะครับ ผมนามปากกาว่า Civil-Man หรือที่บางคนอาจจะเรียกแค่ ซีวิล เฉยๆ ครับ​
    _ __ เนื่องจากถือว่าผมเองก็เป็นสมาชิกหน้าใหม่ของเวบนี้พอสมควร อาจจะด้วยส่วนใหญ่จะเน้นอ่าน ติดตาม เป็นหลัก เรื่องคอมเม้นท์หรือโพสตอบนั้นอาจจะน้อยไปสักนิด ด้วยว่าส่วนตัวแล้วไม่ได้มีการเกณฑ์หรือหลักการใดๆ ที่สามารถนำมาใช้อ้างอิง เสนอแนะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้​

    _ __ แต่อย่างไรก็ตามผลงานนี้เป็นผลงานเรื่องยาวเรื่องแรกที่ลงในเวบแห่งนี้ครับ เนื้อเรื่องจะเป็น แนวกำลังภายใน ที่อาจจะแหวกแนวเทรนของฟิคชั่นของเวบนี้สักนิดนึง แต่มั่นใจได้ว่าภาษาไม่ได้อ่านยากครับ ผมพยายามเน้นให้เรียบง่าย แต่ยังคงกลิ่นอายของ เรื่องยาว-กำลังภายใน ใหทุกๆ ท่านได้อ่านครับ​
    _ _ ขอเชิญทุกท่านเข้าสู่เรื่องยาวเรื่องนี้ครับผม​
    ______ ______ ______ ______ ______ ______

    เพลงหมากพิชิตฟ้า
    เพลงที่ 1 กระดานที่ค้างคา

    ___ท่ามกลางป่าไผ่เขียว ที่รกครึ้ม ถึงแม้ว่าเวลานี้จะย่างเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว แต่ลมที่พัดเอื่อยๆ ในดงไผ่แห่งนี้ยังสร้างความรู้สึกสดชื่นให้ผู้ที่มาเยือนได้อยู่เสมอ

    _ __นอกจากเสียงใบไผ่ที่เสียดสีกันตามแรงลมแล้วยังมีเสียงกระทบของหินกับไม้ดังแป้กๆ ดังขึ้นเป็นระยะในป่านี้ บางครั้งดังขึ้นถี่ บางครั้งก็นานหลายนาทีกว่าจะเกิดเสียงขึ้นสักครั้ง

    _ __ "โถ่ แพ้ท่านปู่อีกแล้วเหรอเนี่ย" เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นหลังจากเสียงกระทบของหินเม็ดเล็กถูกวางลงบนกระดานไม้สักหนากระดานหนึ่งอย่างแผ่วเบา

    _ __ "ฮ่า ฮ่า ฮ่า คนหนุ่มก็ใจร้อนอย่างนี้ล่ะ หมากกระดานนี้เจ้ารีบเร่งใช้กำลังเข้ารุกรานมากเกินไป หากผ่อนแรงลงช่วงหนึ่งเพื่อเสริมกำลังของเม็ดหมากกลุ่มนี้ มันก็คงจะไม่ถูกล้อมกินอย่างนี้หรอก" ชายชราใช้พัดชี้ไปยังกลุ่มหมากดำที่อยู่กลางกระดานพร้อมอธิบาย

    _ __ ชายหนุ่มแม้แสดงสีหน้าผิดหวัง แต่ก็แอบยิ้มเล็กๆ อยู่ที่มุมปาก ที่จริงเขาออกจะดีใจด้วยซ้ำ ในหมู่บ้านชนบทเล็กๆ แบบนี้ จะหาใครมาเป็นคู่เดินหมากกับเขาได้อีก คนอื่นแค่ได้ยินชื่อ "เทียนจง" ก็แทบไม่มีคนอยากเดินหมากกับเขาแล้ว เพราะรู้ดีว่าฝีมือของเขาเก่งกาจแค่ไหน

    _ __ "ถ้าอย่างนั้นผมขอแก้ตัวใหม่วันพรุ่งนี้นะครับ วันนี้ผมคงต้องขอตัวไปตัดไม้กับหาของป่าก่อน" เทียนจงลุกขึ้นจากแคร่ไม้ พลางก้มหัวคำนับชายชราที่นั่งยิ้มให้อย่างเอ็นดู

    _ __ หน้าที่ประจำของเทียนจงทุกวันก็คือตัดไม้เพื่อมาทำฟืนและหาของป่าที่พอจะกินได้ ซึ่งผิดจากคนหนุ่มปกติทั่วไปที่เกิดในครอบครัวชั้นกลาง ที่หากไม่ตั้งใจเล่าเรียนหนังสือสอบเข้าเป็นบัณฑิต ก็จะตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนร่างกายเพื่อสมัครเป็นทหาร แต่เขานอกจากจะมีความฝันแปลกๆ อย่างอยากเป็นยอดนักเดินหมากล้อมซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะให้โอกาสคนทั่วทั้งแผ่นดินเข้าช่วงชิงกันปีละครั้งแล้ว ก็อยากเป็นหมอเทวดาคอยรักษาคนอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้นเอง

    _ __ เทียนจงก้าวเดินอย่างรวดเร็วในป่าไผ่ เขาสามารถเดินในป่าไผ่แห่งนี้ได้ราวกับเดินอยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง เพราะตั้งแต่เด็กเขาก็มักจะขึ้นมาเล่นเป็นนักสมุนไพร หาพืชแปลกๆ กลับไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในหมู่บ้านอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นนำเห็ดรูประฆังไปทำยาแก้อาการนอนไม่หลับที่ให้ผลดีกับคนทั่วไป แต่กับนักดื่มในหมู่บ้านกลายเป็นสลบไปนาน 3 วัน ซึ่งเขามารู้ทีหลังจากชายชราที่อาศัยอยู่ในป่าไผ่ว่าเห็ดชนิดนี้หากกินพร้อมกับเหล้ามันจะกลายเป็นพิษและนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับชายชราที่เขามักจะมาเดินหมากด้วยบ่อยๆ

    _ __ เสียงต้นไม้ขนาดเล็กที่ล้มลงดังอยู่เป็นระยะ ชายหนุ่มต้องการที่จะกลับบ้านเร็วๆ เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะทำอาหารสูตรพิเศษจากผักหวานที่เขาเก็บมาได้เต็มประเป๋าจากเนินเขาหลังป่าไผ่
    "วิธีกำหนดลมหายใจของท่านปู่นี่ดีจริงๆ เลยแหะ ทำให้ไม่เหนื่อยเลยทั้งๆ ที่ออกแรงมากขนาดนี้แท้ๆ" เสียงขวานกระทบไม้หยุดลงก่อนที่ชายหนุ่มจะรีบมัดมันเข้าด้วยกันแล้วกลับบ้านก่อนที่พระอาทิตย์จะคล้อยลงต่ำกว่านี้

    _ __ บ้านของเทียนจงตั้งกลางหมู่บ้าน เทียนจงเป็นลูกเพียงคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่ของเขามีอาชีพทำนา ซึ่งพอถึงช่วงที่เริ่มปลูกต้นกล้ากับช่วงเก็บเกี่ยวเขาถึงจะไปช่วยซักครั้ง ปกติเขาจะชอบอยู่ในป่าไผ่กับป่าเชิงเขามากกว่า เพราะนอกจากจะมีสมุนไพรพืชพันธุ์ต่างๆ ให้เขาศึกษามากมายแล้ว ยังมีชายชราที่เอ็นดูเขาเป็นอย่างมาก ทั้งยังสอนการเดินหมากล้อมและวิธีการใช้ประโยชน์จากพืชชนิดต่างๆ ให้เขาอยู่ตลอดอีกด้วย

    _ __ "กลับมาแล้วครับท่านพ่อ ท่านแม่"
    _ __ "อ้าว ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังล่ะลูก ปกติจะกลับช้ากว่านี้นี่นา" เสียงอันนุ่มนวลของชุ่ยฮูผู้เป็นแม่ตอบกลับมาแทบจะทันทีที่เทียนจงเข้ามาในบ้าน
    _ __ "วันนี้เก็บผักหวานได้เยอะเลยครับ ก็เลยรีบกลับกะว่าจะมาทำผักหวานนึ่งซอสเป็นอาหารมื้อเย็นนี้ แล้วท่านพ่อล่ะครับ?"
    _ __ "พ่ออาบน้ำอยู่น่ะลูก ไหนๆ มีอะไรให้แม่ช่วยได้บ้าง?"
    _ __ "ท่านแม่นั่งรออย่างเดียวก็พอครับ เดี๋ยวมื้อนี้ผมแสดงฝีมือเอง มั่นใจได้เลยว่าอร่อยชัวร์ครับ"

    _ __ หลังจากมื้อค่ำผ่านไปพร้อมกับคำชมไม่ขาดปากจากชุ่ยฮูถึงรสชาติของผักหวานนึ่งซอสฝีมือของเทียนจง แม้จะมีคำบ่นอุบอิบเล็กน้อยจากติงท้งพ่อของเทียนจงว่าทำไมลูกชายของเขาถึงชอบเข้าครัวทำกับข้าวเหมือนผู้หญิงก็ตาม แต่ยังไงซะข้าวที่เกลี้ยงถ้วยกับผักหวานนึ่งซอสที่ไม่เหลือแม้แต่น้ำซอสหยดเดียวก็เป็นเสมือนคำชมเงียบๆ จากพ่อนั่นเอง
    ______ ______ ______

    _ __ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาต้อนรับรุ่งอรุณ เสียงนกและกลิ่นต้นหญ้าแห้งคือสเน่ห์อย่างหนึ่งของหมู่บ้านชนบทแห่งนี้ ผู้คนเริ่มออกจากบ้านเพื่อทำมากินตามปกติ นาข้าวบางที่เริ่มเก็บเกี่ยวได้และที่นาของบ้านชายหนุ่มก็ถึงเวลาแล้วเหมือนกัน

    _ __ เทียนจงก้าวออกมาจากบ้าน ร่างกายที่สูงและกำยำสมส่วนของเขาค่อนข้างโดดเด่นในหมู่บ้านนี้ที่แทบจะไม่เหลือคนหนุ่มแล้วเพราะส่วนใหญ่มักสอบเข้ารับราชการหรือทหารแล้วไปประจำอยู่ที่เมืองหลวง เหลือเพียงบางคนที่สืบทอดกิจการร้านค้าของที่บ้าน นอกจากนั้นก็จะมีเพียงเด็กไม่กี่คน หญิงสาว ผู้ใหญ่และคนแก่
    _ __ "วันนี้ผมไปช่วยท่านพ่อท่านแม่เกี่ยวข้าวนะครับ"
    _ __ "เจ้ายังไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวเอาข้าวต้มผัดที่แม่เจ้าทำไปฝากท่านฟงก่อนแล้วกัน วันนี้ยังไงกว่าจะได้เริ่มเกี่ยวข้าวก็น่าจะสายๆ เพราะพ่อกับแม่ต้องไปช่วยขนของจากที่นาบ้านท่านมู่มาก่อน แล้วเจ้าค่อยกลับมาช่วย" ติงท้งพูดกับเทียนจงพร้อมชี้มือไปที่ห่อข้าวต้มผัดที่วางอยู่ ก่อนที่เทียนจงจะหยิบเอามันขึ้นมา
    _ __ "ได้ครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้ท่านปู่เอง"
    _ __ "ยังไงก็ฝากดูแลท่านฟงด้วยนะจ๊ะ ว่าท่านขาดเหลืออะไรรึเปล่า จะได้จัดหาให้ได้ถูก ท่านอุตส่าห์ดูแลสั่งสอนเด็กดื้อๆ อย่างเจ้ามาขนาดนี้"
    _ __ "แหมๆ ท่านแม่ก็ ... ผมไปก่อนนะครับ ท่านปู่ยิ่งชอบออกไปเดินเล่นเช้าๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวจะเอาข้าวต้มผัดไปให้ไม่ทัน"
    ______ ______ ______

    _ __ ระยะทางจากบ้านของเทียนจงสู่ป่าไผ่ใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมง แต่เทียนจงในตอนนี้วิ่งด้วยความเร็วเต็มที่เพียงไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงชายป่าไผ่
    _ __ "...สูดลมหายใจเข้าลึกสู่ท้องน้อย กักเก็บไว้สักครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยออกอย่างรวดเร็ว เมื่อลมหายใจถึงกลางหน้าอก ให้กักไว้เพียงอึดใจแล้วปล่อยออกพร้อมกับใช้พลัง..."
    _ __ เทียนจงคิดทบทวนเคล็ดกำหนดลมหายใจที่ชายชราสอนไว้อยู่เสมอ การหายใจตามหลักนี้ไม่เพียงทำให้เขามีพละกำลังมากขึ้น ยังช่วยให้เขาเหนื่อยช้าลงด้วย ถึงแม้ว่ากว่าจะฝึกให้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาตินั้นจะกินเวลาไปหลายปีทีเดียว

    _ __ เมื่อถึงช่วงที่ใช้พลังออกปลายเท้าของเทียนจงก็แตะที่พื้นแล้วดีดตัวออกมาทันที ทำให้แต่ละก้าวของเขากินระยะไปราวสองเมตร ระยะทางที่ไกลก็ดูเหมือนใกล้ เพียงอึดใจเทียนจงก็มาถึงบ้านพักกลางป่าไผ่ของชายชรา

    _ __ "ท่านปู่ ท่านปู่อยู่ไหมครับ" เทียนจงตะโกนพลางมองหาชายชรา บ้านไผ่ที่ดูปิดสนิท แคร่ไม้ที่เคยนั่งเล่นหมากล้อมด้วยกันก็ไม่อยู่ ก่อนที่จะมองไปเห็นกระดานหมากที่มีเม็ดหมากวางอยู่เกือบเต็ม "เอ๊ะ นี่เดินหมากค้างอยู่งั้นหรือ ท่านปู่เดินหมากกับใครกันนะ"

    _ __ สายตาของชายหนุ่มจดจ้องบนกระดานในหัวคิดเรียบเรียงลำดับหมากบนกระดาน แต่ทุกครั้งที่ไล่เรียงได้ถึงจุดหนึ่งก็พบหมากที่แปลกตาออกไป จนเหมือนกับมันไม่น่าจะมาอยู่ ณ ที่ตรงนั้นได้ ไม่ว่าจะลองเรียบเรียงใหม่กี่ครั้ง ก็มักจะมีหมากที่สะดุดความคิดมาคั่นอยู่เสียทุกครั้ง

    _ __ "นี่มันยังไงกันนะหมากกระดานนี้ ฝ่ายดำฝ่ายขาวล้วนสูสี แต่มีหมากที่ดูแล้วไม่น่าจะอยู่บนกระดานนี้กระจายอยู่ทั่วกระดานเลย แถมกลางกระดานนั่น..."

    _ __ ยิ่งคิดยิ่งจมลึก เทียนจงที่เพ็งกระดานหมากล้อมเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ความคิดหมุนวนราวกับพายุ คิดแปลความหมายของกลุ่มหมากแต่ละกลุ่ม พยายามเรียบเรียงเข้าด้วยกัน กลุ่มหมากตรงกลางกระดานนั่นช่างคล้ายกับอะไรที่เขาคุ้นเคยเสียเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่สามารถนึกถึงสิ่งนั้นออกมาได้ กลุ่มหมากขาวดำที่พัวพันกันอยู่ที่มุมกระดาน หมากข้างกระดานซ้ายขวาที่หมากดำกลืนกินหมากขาว หมากบนล่างที่หมากขาวกลืนกินหมากดำ

    _ __ ทันใดนั้นความคิดของชายหนุ่มก็เปิดกว้าง หัวรู้สึกโล่ง ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ก่อนที่จะเริ่มสั่นกระตุกเล็กน้อย เขารู้สึกได้ถึงพลังที่แล่นไปทั่วร่าง เริ่มจากท้องน้อยสู่กึ่งกลางหน้าอกจากนั้นกระจายไปทั่วร่างกาย จากเย็นกลายเป็นอุ่น จากอุ่นกลายเป็นร้อน เพียงชั่วอึดใจเขารู้สึกอึดอัดเหมือนทั่วทั้งร่างอัดแน่นไปด้วยไอร้อน ร้อนมากเสียจนมันจะเผาพลาญร่างกายเขาให้เป็นเศษธุลี

    _ __ "อ้าาากกกกกกกกกกกกกกกกก"​

    ______ ______ ______ ______ ______ ______
    -จบเพลงที่ 1-
    lll คุยกันท้ายบท lll
    _ __ ยินดีรับคำติชมจากทุกท่านครับ ถ้าท่านใดชอบ ช่วยให้กำลังใจผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ​
  2. Azemag

    Azemag Aze McDowell

    EXP:
    2,368
    ถูกใจที่ได้รับ:
    262
    คะแนน Trophy:
    163
    แค่เพลงหมากล้อมก็ทำให้พลังวัตรแตกซ่านธาตุไฟเข้าแทรกเลยทีเดียว...ล้ำลึกนัก


    ส่วนเนื้อหายังไม่ขอคอมเมนต์อะไร (ยึดแนวทางอากิ) เพราะมันเพิ่งจะตอนแรกเท่านั้น
    ระดับความน่าสนใจและน่าติดตามยังเยอะอยู่ (ฮา)


    ส่วนภาษา - สำนวนเรียบง่าย แผ่วเบา อ่านแล้วจินตนาการเห็นภาพของตัวละครได้ชัดเจน
    ออกแนวเรื่อยๆมาเรียงๆมากกว่า คงเพราะเนื้อหายังไม่เข้มข้นนักเพราะเพิ่งจะเปิดตัว ระดับของภาษาก้เลยยังราบเรียบอยู่ก็เป็นได้


    ปล. ถ้าคนเขียนหมดมุขเมื่อไร ยินดีสนทนาบนกระดานหมากล้อมนะคร้าบ
    ฝีมือไม่เก่งมาก 12 คิวเท่านั้นเอง
  3. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    ตอนแรกมาถึงไม่ยาวเท่าไร แต่อธิบายความเป็นไปของตัวละคร สำนวนที่ใช้ให้ความรู้สึกไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เรียบง่ายแต่ล้ำลึก ลงชื่อปูเสื่อตามอ่านอีกคนครับพี่ซีวิล

Share This Page