[Original Mahou Shoujo] อัศวินแห่งดวงดาว Zaint Knight : ตอน 1

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย hikazerora, 7 กรกฎาคม 2012.

  1. hikazerora

    hikazerora จรัสแสงที่ปลายฟ้า

    EXP:
    7
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    3
    สวัสดีครับ วันนี้ผมขอแก้ตัวจากเมื่อคราวก่อน >_<" โดยคราวนี้ได้นำฟิคแต่งออริจินัล แนวสาวน้อยเวทย์มนตร์มาให้ได้รับชมกัน โดยเป็นเรื่องราวของ กาน และเพื่อนๆ ของเธอ ที่ได้รับพลังแห่งดวงดาว จนสามารถแปลงร่างเป็น Zaint Knight ได้ โดยพวกเธอต้องร่วมต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นจากด้านมืดของมนุษย์

    แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะเหล่าอัศวินแต่ละคนก็ต่างต้องเผชิญบททดสอบชีวิตจากโชคชะตาอันน่าเจ็บปวดรออยู่...
  2. hikazerora

    hikazerora จรัสแสงที่ปลายฟ้า

    EXP:
    7
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    3
    ............ในค่ำคืนที่พายุอันโหดร้ายเพิ่งจะหยุดไปได้ไม่นาน พร้อมกับการตัดสินศึกสุดท้ายระหว่างฉันและมารสาวตรงหน้า ปลายคมกระบี่สีเงินได้เสียบแทงร่างอันบอบบาง จนเลือดไหลย้อนตามแรงโน้มถ่วงมาที่ตัวด้าม ชโลมถุงมือที่ขาวบริสุทธิ์ของฉันให้กลายเป็นสีแดงฉาน

    ............แสงพระจันทร์ทรงกลดส่องสว่างให้เห็นใบหน้าของมารสาวที่บัดนี้ได้เผยหยาดน้ำตาออกมาพร้อมกับสายเลือดที่ตีย้อนกระอักออกมาจากปาก... เบื้องหลังของฉัน เหล่าเพื่อนๆ อัศวินแห่งดวงดาว อควาริส เจมินี่ เซเฟย์ ทั้งสามนั้นปลอดภัย เว้นแต่เลโอคนเดียว

    ............เสียงตะโกนจากเพื่อนอัศวินด้านหลัง บอกเตือนฉันว่าประตูมิติที่เปิดขึ้นนั้นกำลังสูบทุกอย่างลงไปเพื่อส่งต่อไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งเลโอนั้นได้พร่ำบอกพวกเรามาตลอด... โลกต่างมิติ เอเทอร์นัล ไกอา บัดนี้พื้นที่ที่ฉันยืนอยู่นั้นก็เริ่มโคลงเคลง และแตกเป็นเสี่ยงๆ ลอยคว้างไปยังหลุมมิตินั้นอย่างบ้าคลั่ง

    ............มารสาวยื่นมือที่เย็นเฉียบมาแตะข้างแก้มของฉันอีกครั้ง สายตาของพวกเราจ้องประสาน... ดั่งที่เธอเคยทำกับฉันเมื่อครั้งที่เราได้พูดคุยกันครั้งแรกที่นี่... เธอเอ่ยประโยคที่สำคัญแก่ฉัน นั่นทำให้ดวงตาของฉันเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง ก่อนที่พวกเราทั้งหมด จะถูกดูดกลืนสู่โลกต่างมิติไปในที่สุด...




    Hika Zerora's Project
    อัศวินแห่งดวงดาว Zaint Knight
    ตอนที่ 1 " สองนักเรียนสาวผู้ย้ายมาใหม่ "




    ............เมื่อ 3 เดือนก่อน...




    ............แสงอาทิตย์อันเจิดจ้าของเช้าวันใหม่ที่สดใส ทอส่องลอดช่องเล็กๆ ระหว่างผ้าม่านที่พัดกระพือ ลงมาตรงโหนกแก้มของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ ที่ยังไม่ยอมตื่น เขาพลิกตัวเล็กน้อยหลบสิ่งรบกวนโดยหมายมั่นว่าจะไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ต่อ แต่แล้วด้วยเสียงเจือยแจ้วที่ดังข้างโสตประสาทหูอย่างดังก็ทำให้ต้องสะดุ้ง!

    ............" ป๊า~ ตื่นได้แล้วเฮ้ย!! " เด็กสาวร้องตะโกนพร้อมกับเคาะทัพพีเข้ากับกระทะในมือรัวๆ

    ............" ว๊าก!! ตื่นแล้วๆ โอย หยุดเคาะได้แล้ว กาน พ่อตื่นแล้ว " หนุ่มใหญ่กระดกตัวขึ้นราวติดสปริง พลางคว้าแว่นตาทรงกลมแลดูตลกๆ ขึ้นสวมใส่ พลางมองต้นเสียงที่เป็นสาวน้อยวัยใสในชุดนักเรียนตัวใหม่ที่เพิ่งได้รับมาเมื่ออาทิตย์ก่อน " นี่ชุดของโรงเรียนโรยัล การ์เด้นหรอ พ่อว่าเหมือนชุดเด็กเสิร์ฟเลย "

    ............" ป๋าตาไม่ถึงมากกว่า ชุดออกจะน่ารัก ว่าแต่... รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว นี่จะ 7 โมงเช้าแล้วนะ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก " เด็กสาวบ่นฉอดๆๆ ออกมาจากส่วนที่เป็นห้องครัว มือก็พลางเตรียมอาหารเช้าซึ่งเป็นแพนเค้กเนยและก็กาแฟไว้อย่างน่ารับประทาน

    ............ชายชุดนอนหันมองนาฬิกา และจ้องอย่างพินิจพิจารณา " เพิ่งจะ 7 โมงเอง ไป 7 โมงครึ่งก็ยังทัน งั้นป๋านอนต่ออีกนิดนะ " ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงดังโครม

    ............" อ้าวเฮ้ย! ป๋าจะนอนต่อไม่ได้นะ!! แล้วใครจะไปส่งหนูไปโรงเรียนเล่า!! " กานต้องรีบวิ่งมาลากบิดาบังเกิดเกล้าลงมาจากเตียง และแทบจะจับยัดเขาเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งเป็นไปอย่างทุกลักทุเล




    ............30 นาทีผ่านไป หนุ่มใหญ่ก็มานั่งทานอาหารเช้าเป็นผลสำเร็จ ส่วนผู้ร่วมโต๊ะตรงข้ามนั้นนั่งหน้าหงุดหงิดจนอยากจะกัดสะบัดกระเป๋านักเรียนจนขาดกระจุยระบายอารมณ์

    ............" ถ้าหนูไปสาย หนูจะโทษป๊า!! " กานประกาศกร้าวด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

    ............" ไปเรียนวันแรกครูยังไม่สอนอะไรมั้ง " หนุ่มใหญ่ยังดูสบายอารมณ์พลางจิบกาแฟ พลางพลิกหน้าหนังสือพิมพ์ " ยังไงลูกก็เป็นคนที่ได้รับทุนการศึกษาจากบริษัทที่พ่อทำงานอยู่ ไม่มีใครจะว่าลูกหรอกน่า "

    ............" แบบนี้ก็เท่ากับว่าหนูเป็นเด็กเส้นอ่ะสิป๊า เพื่อนๆ คงพากันเกลียดหนูกันหมดแน่ๆ เลย " กานมีสีหน้าเศร้าหมองลง ผู้เป็นพ่อจึงวางมือลูบหัวสาวน้อยตรงหน้าพลางเผยยิ้มออกมา เขาลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน... แต่ไหนแต่ไรเด็กคนนี้ก็ชอบที่จะผูกมิตรกับทุกๆ คน แถมยังชอบช่วยเหลือผู้คนอย่างทุ่มเททั้งกายใจอีกด้วย... เหมือนกับแม่ของเธอที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว

    ............หนุ่มใหญ่จึงเลื่อนมือลงมาจับบ่าทั้งสองของลูกสาว " " พ่อขอโทษนะกาน... พ่อภูมิใจที่ลูกเป็นคนดีนะ พ่อรักลูกนะ " เขากล่าวขึ้นดั่งฝากฝังให้เธอยึดถือคุณธรรมเช่นนี้ต่อไป

    ............" ไม่เป็นไรค่ะป๊า หนูก็รักป๊าเหมือนกัน " กานหอมแก้มผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะเลื่อนริมฝีปากมากระซิบข้างหนุ่มใหญ่ " แต่ตอนนี้หนูจะรักป๊ามากขึ้น ถ้าป๊ารีบไปส่งหนูให้ทันก่อน 8 โมงเช้า!! " กานรีบชี้ไปที่นาฬิกา นั่นทำเอาหนุ่มใหญ่แทบสำลัก เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 10 นาทีเท่านั้น!!




    ............เด็กสาวรีบก้าวลงจากรถอย่างรีบร้อน เบื้องหน้าของเธอคือประตูรั้วสีทองบานใหญ่ของโรงเรียน โรยัล การ์เด้น อาคาเดมี่ ซึ่งดูอลังการ ประดับประดาอย่างร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพรรณ เป็นโรงเรียนเอกชนในฝันของหลายๆ คน แต่การจะเข้าเรียนที่นี่นั้นไม่ง่ายนัก เพราะนอกจากจะต้องร่ำรวยจริงแล้ว ยังต้องมีเกรดการเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอีกด้วย

    ............แต่สำหรับกานแล้ว เธอได้รับทุนการศึกษาจากบริษัทของคุณพ่อของเธอ ซึ่งทุกคนที่ได้รับสิทธิ์นี้ ทางบริษัทจะบรรจุให้เรียน ณ ที่นี่ ซึ่งกานรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่เธอได้เข้าโรงเรียนมาหลายที่เพราะคุณพ่อของเธอต้องย้ายไปประจำสาขาอื่นอยู่บ่อยๆ ก็ไม่มีที่ใดที่ทำให้เธอรู้สึกอยากไปโรงเรียนมากเท่าที่นี่มาก่อน ทั้งชุดนักเรียนที่เป็นเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีครีมอ่อนๆ ผูกโบว์หูกระต่ายสีแดง และกระโปรงสีเทาลายตารางหมากรุก ให้ความรู้สึกราวกับเป็นเครื่องแบบโรงเรียนพาณิชย์นานาชาติ และบรรยากาศภายในโรงเรียนที่เป็นธรรมชาติราวอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ดั่งในนิยาย ก็ทำให้เธอกระดี้กระด๊าอยากจะมาเรียนเสียทุกๆ วัน

    ............" ป๊า งั้นหนูไปก่อนนะ ส่วนตอนเย็นเดี๋ยวหนูกลับเอง ขับรถดีๆ ล่ะ " กานโบกมือลา ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าโรงเรียนไป... ให้ครูเวรทำโทษเอาตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียนในเทอมที่ 2

    ............" ฮือๆ เพราะป๊าคนเดียว!! มาสายเลย!!! " กานบ่นทั้งสายน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนที่อาจารย์จะเอาไม้บรรทัดมาให้คาบและยืนกระต่ายขาเดียวตลอดการเข้าแถวเคารพธงชาติที่หน้าเสาธง เป็นที่น่าอับอายยิ่งนัก




    ............ภายในห้องมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 2 อันมีศักดิ์เปรียบดั่งห้องควีนของทั้งระดับชั้นเรียนในเช้านี้ เกิดเสียงเซ็งแซ่ระงมจากข่าวลือว่าจะมีเด็กนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่ถึง 2 คน

    ............" เทอมนี้พวกเราจะมีเพื่อนเพิ่มถึง 2 คนเลยล่ะ ว๊าว~ ตื่นเต้นจังเลย " เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งสนทนาภายในกลุ่มของตน " แล้วพวกเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงล่ะ " เด็กสาวอีกคนเอ่ยถามขึ้นกลางวง " ไม่รู้สิ แต่ฉันกังวลว่าพวกเขาจะนิสัยเป็นยังไงมากกว่า คงไม่ได้ใจร้ายใจดำเหมือน... "

    ............ทันใดนั้น เสียงเลื่อนเปิดประตูห้องก็ดังขึ้นอย่างแรง ตามด้วยการย่างก้าวอันสง่างามของเด็กสาวหน้าตาคมมาดเฉียบ ผู้มีบั้งยศสีเขียวขอบแดงระบายชายภู่สีเหลืองบนบ่าด้านขวา แสดงระดับแตกต่างจากคนอื่นๆ สายตาที่กวาดมองเพื่อนๆ ร่วมห้องอย่างเย็นชา ทำเอาบรรยากาศเงียบสงัดภายในทันที...

    ............เธอเดินมายังแสตนด์หน้าชั้นและกล่าวขึ้น " อรุณสวัสดิ์เพื่อนๆ ชั้นปี 2 ห้อง 2 ทุกคน วันนี้จะมีนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่ 2 คน ขอให้ทุกคนต้อนรับเพื่อนใหม่ด้วยความอบอุ่นด้วยนะคะ " พลันหันหน้ามองมาทางประตู ที่ซึ่งหญิงสาวยืนรออยู่ เมื่อถูกจ้องมองมาก็ถึงกับสะดุ้ง!! " ขอเรียนเชิญ อาจารย์ หรรษา เข้ามาโฮมรูมด้วยค่ะ!! "

    ............" ( สะ... สุดยอดเลยแฮะ สะกดทุกคนในห้องได้อยู่หมัดเลย ) " กานที่ยืนคู่กับอาจารย์หรรษาเอ่ยชมเชยเด็กนักเรียนหญิงคนนั้นอยู่ในใจ เธอรู้สึกเกร็ง หัวใจเต้นแรงขึ้นมากกว่าเดิม

    ............" เอ๋ หนู ริน ถะ... ถึงคิวของอาจารย์แล้วหรอ " อาจารย์หรรษาเมื่อได้รับการพยักหน้าจากริน เด็กสาวที่ขึ้นกล่าวเมื่อครู่ ก็เดินตัวแข็งทื่อขึ้นมาบนแสดนด์แทน หญิงสาวยอมรับในใจว่าเธอเกรงกลัวรินอยู่เหมือนกัน จากบรรยากาศที่น่าเกรงขามเกินกว่าเด็ก ม.2 คนอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นเมื่อได้มาอยู่หน้าชั้นเรียน อาจารย์หรรษาก็สวมวิญญาณสมกับเป็นแม่พิมพ์ของชาติได้ในทันที

    ............" อรุณสวัสดิ์นักเรียนทุกคนในชั้นปี 2 ห้อง 2 ซึ่งในเทอม 2 นี้ อาจารย์ หรรษา บุญนาฎ คนนี้ก็ยังจะได้เป็นที่ปรึกษานักเรียนอยู่เหมือนเดิมนะคะ มีอะไรก็มาปรึกษาครูได้ทุกเมื่อ... เอาล่ะ อย่างที่หนูรินได้บอกไปแล้ว วันนี้ทุกคนจะมีเพื่อนๆ เพิ่มอีก 2 คน ก็ขอให้ทุกๆ คนรัก และช่วยดูแลเพื่อนใหม่กันด้วยนะคะ " อาจารย์หรรษาขยิบตามาทางกานที่ยืนอยู่นอกห้องเป็นเชิงให้สัญญาณ

    ............" อ๊ะ! ค่ะ... เอ๊ะ!?! " กานรับคำ แต่ทว่า... จู่ๆ เด็กสาวอีกคนก็เดินผ่านหน้าเธอไป กานต้องหยุดกึก นึกแปลกใจ มะกี้นี้เธอยังยืนอยู่เพียงคนเดียวเลยนี่นา!?!

    ............กานจ้องมองเบื้องหลังของเด็กสาวผู้มาใหม่เช่นเดียวกับเธอ หล่อนไว้ผมสีดำประกายม่วงอัญชัญซอยประบ่า คะเนความสูงแล้วประมาณ 150 ซม. นิดๆ เมื่อหยุดยืนที่หน้าชั้นแล้วกานจึงสังเกตร่างเล็กได้ชัดขึ้น ใบหน้าที่สวยคม ปนความน่ารักราวตุ๊กตาที่แกะสลักขึ้นด้วยช่างฝีมืออันประณีต ผิวสีขาวราวหยวกกล้วยตัดด้วยความลึกลับของนัยน์ตาสีแดงชวนลุ่มหลง ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเผยอออกพร้อมเสียงหวาน

    ............" ด.ญ. ศรัณชยา สวรรคจิณณ์ ค่ะ... ชื่อเล่น ยา ค่ะ " สิ้นเสียงการแนะนำตัว ทั้งห้องราวโดนสะกดต้องมนตรา เหล่าเด็กหนุ่มถึงกับหน้าแดงกันเป็นแถบๆ

    ............" ( เฮ้ยๆ คนนี้น่ารักเป็นบ้าเลยว่ะ ) " เหล่าเด็กชายต่างจับกลุ่มซุบซิบกันขึ้นมา ก่อนที่จะเงียบนิ่งไปในทันทีเมื่อรู้สึกถึงสายตาของรินที่จับจ้องพวกเขาอยู่

    ............" หนูยาเคยเรียนที่ไหนมาก่อนหรอคะ " อาจารย์หรรษาช่วยสัมภาษณ์ซักประวัติ

    ............หญิงสาวตอบอย่างฉะฉาน " สถาบันวิจัยอาวุธ เวทย์มนตร์และชีวนาโนเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐนาโนโทเปียค่ะ... " ทำเอาทั้งห้องเงียบสงัดอย่างเฉียบพลันทันที

    ............" ( คนนี้สุดยอดไปเลยว่ะ น่ารักไม่พอแถมเป็นโอตาคุด้วยนะเว้ย! ) " เหล่าหนุ่มๆ กระซิบกระซาบกันอีกครั้ง แต่ต้องเงียบไปเพราะคราวนี้รินถึงกับเอามือทุบโต๊ะและยืนขึ้นอย่างไม่พอใจ

    ............" คุณยาคะ การแนะนำตัวไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โปรดจงให้เกียรติทุกคนและอาจารย์หรรษาด้วยนะคะ " รินกระแทกเสียงใส่ ส่วนยาเอียงคอเล็กน้อย นึกสงสัยว่าตนเองพูดอะไรผิดไป บรรยากาศมาคุอันกดดันเข้าครอบงำชั้นปี 2 ห้อง 2 ในทันใด

    ............" อ่า หนูยาเองอาจจะเตรียมเรื่องตลกไว้เล่าให้ทุกคนสนุกสนานก็เป็นได้ ฮะๆๆๆ " อาจารย์หรรษารีบเข้าคลีคลายสถานการณ์ " เอาล่ะ หนูยาไปนั่งที่ได้จ้า " เธอถึงกับเหงื่อตก แต่ก็โล่งใจที่ไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้น เมื่อยาไปนั่งประจำที่ได้แล้ว อาจารย์หรรษาก็หันมาทางกาน พลางทำมือส่งซิกให้ พร้อมคาดหวังให้เด็กสาวอีกคนเข้ามากอบกู้บรรยากาศชวนอึดอัดในครานี้

    ............" ( เอาล่ะ! ) " กานผู้ถูกคาดหวังก้าวเดินเข้ามา นัยน์ตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ผิวสีขาวอมชมพูของใบหน้าปรกเล็กน้อยด้วยผมสีโอลด์โรสที่มัดเป็นเทลหางม้ายาวไว้ด้านหลัง ร่างสูงเกือบจะ 160 ซม. นั้น จู่ๆ ก็พลุบหายลงไปวัดพื้นในทันที

    ............" ว๊า ว๊า ว๊าย!!! โอ๊ย!! " เนื่องด้วยความตื่นเต้นหรือเพราะความมุ่งมั่นที่มากเกินไป ขาทั้งสองข้างก็ดันไปขัดกันเอง กานเสียหลัก ล้มกอดแสตนด์หน้าชั้นเหมือนลิงเกาะต้นมะพร้าว และกลิ้งไปอีก 1 ตลบ เสียงฮาลั่นห้องทำเอาเด็กสาวต้องรีบลุกขึ้นพรวดด้วยความเขินอาย จนลืมจัดทรงผมยุ่งๆ ที่ชี้โด่เป็นเสาอากาศอยู่กลุ่มนึง

    ............" ดะ.. ดะ... ดิฉัน... ดิฉัน... ( หวา ตะ.. ตายแล้ว ตายๆๆๆๆ !!! ) " ริมฝีปากสีซีดครวญครางเสียงสั่นด้วยความประหม่า ความมั่นใจหดหายกลายเป็นศูนย์ ใจเต้นรัวเพราะตื่นเต้นมากเกินไป จนลืมไปเลยว่าต้องพูดอะไรต่อ สายตาเลิกลักหันไปเห็นยาที่เอามือป้องปากบอกกระซิบพอดี

    ............" บอกชื่อค่ะ ชื่อ... " กานพยายามอ่านการขยับปากของยา พลางนึกกล่าวขอบคุณเธออย่างสุดขั้วของหัวใจ ก่อนจะรวบรวมสมาธิและแนะนำตัว " ดิ... ดิฉันชื่อ กาญจน์กนก รุ่งรุจีกร ชื่อเล่นชื่อ กาน... ชอบกินปลา และเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนสวนฤทัยค่ะ!!! "

    ............" ( ยัยนี่ติ๊งต๊องดีว่ะ ฮ่าๆๆๆ ) " เหล่าชายหนุ่มนักวิจารณ์ออกความคิดเห็นกันอย่างสนุกปาก ก่อนจะเงียบไปอีกเพราะรินได้ยืนขึ้นพรวดอีกครั้ง

    ............" คุณกานคะ! " รินตวาดเสียงแข็ง ส่งสายตาดุดัน ทางฝั่งกานก็สะดุ้งโหยง " ค่ะ.. คะ?!? " พลันยืนตัวสั่น

    ............" ได้โปรด ยกแสตนด์ขึ้นตั้งไว้เหมือนเดิมด้วยค่ะ!! " สิ้นเสียงทำเอากานหน้าแดง รีบก้มโค้งคำนับเป็นเชิงขอโทษ พลางเอาเรี่ยวแรงบ้าพลังมาจากไหนไม่รู้ ยกเอาแสดนต์ที่หนักอึ้งขึ้นตั้งได้อย่างน่าทึ่ง!?! ทั้งที่ยามปกติต้องใช้แรงเด็กผู้ชายในห้องถึง 2 คนด้วยกัน

    ............" แล้วก็กรุณาถอดรองเท้าไว้หน้าชั้นด้วยค่ะ , กรุณาจัดปกคอเสื้อ หูกระต่าย และโบว์มัดผมให้เรียบร้อยด้วยค่ะ และเสาอากาศบนหัว ก็พับเก็บลงให้เรียบร้อยด้วยค่ะ! " รินชี้มือไปยังส่วนบกพร่องต่างๆ และตักเตือนฉอดๆๆๆ ทำเอากานแทบจะดำดินมุดออกประตูห้องไปด้วยความเขินอาย

    ............" แง้~ เค้าขอโทษค่า~ " กานรีบนั่งชันเข่าก้มโค้งขอโทษคารวะริน ทำเอาคนทั้งห้องหัวเราะเฮฮาจากความเปิ่นเกินคนปรกติของเธอ




    ............ตารางเรียนของโรงเรียนโรยัล การ์เด้น อคาเดมี่ ได้มีการปรับปรุงจากหลักสูตรของหลายๆ ประเทศ จนออกมาเป็นว่า ในช่วงเช้า นักเรียนก็จะได้เรียนในชั้นเรียนตามปกติ แต่พอตกช่วงบ่าย อาจารย์ก็จะปล่อยให้เหล่านักเรียนทำกิจกรรมกันไปตามชมรม ส่วนในวันแรกของการเปิดเรียนในเทอม 2 นี้ กานเองยังไม่มีชมรม เธอจึงขึ้นมานั่งบนดาดฟ้าพร้อมข้าวกล่องเพื่อรับประทานข้าวเที่ยง ท่ามกลางบรรยากาศสายลมและแสงแดดคละเคล้ากันไป เธอพบว่าข้าวกล่องที่นี่รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว

    ............" อ้าว คุณกาน ทำไมถึงมานั่งอยู่คนเดียวตรงนี้ล่ะคะ? " ผู้ถูกทักหันไปตามเสียง เด็กสาวผู้มาใหม่เหมือนกานได้แสดงตัวและเดินอ้อมมายืนตรงหน้าเธอ

    ............" ฉันหามุมสงบๆ มาทานข้าวเที่ยงน่ะ... เพราะอาจารย์ก็ห้ามทานในห้องเรียน ที่โรงอาหารก็คนเยอะจนเบียดเสียดกัน ส่วนม้านั่งหน้าโรงเรียนก็อึกทึกไปด้วยกิจกรรมชมรม บนดาดฟ้านี่แหละสงบดี " กานยิ้มให้ " วิวก็สวยด้วยนะ มองเห็นได้ทั้งเมืองเลย "

    ............" อ้อ! เกือบลืมไป ตอนแนะนำตัว ขอขอบคุณเธอมากๆ เลยนะ ไม่งั้นฉันคงยืนเก้อแน่ๆ เลย " กานหัวเราะแหะๆ พลางยกมือเกาหัวเบาๆ แก้เขิน

    ............" แหม ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ช่วยๆ กัน เพราะยาเองก็อาจประหม่า ถ้าได้กลิ้งแบบนั้นต่อหน้าทุกคน คงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน " กานเหมือนถูกศรแผลงยิงจนทะลุอก ไม่นึกว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นจุดขายตัวเธอให้น่าจดจำได้เร็วเพียงนี้ เธอกำมือแน่นพร้อมน้ำตา จนยาหัวเราะคิกคัก

    ............" คุณกาน ยาขอนั่งด้วยได้ไหม " กานพยักหน้า เด็กสาวจึงหย่อนตัวลงเบียดกับกานเล็กน้อย พลางเผยยิ้มออกมา ในความคิดของกาน ยาเป็นคนเรียบร้อย น่ารัก และร่าเริงเป็นมิตร แถมเพิ่งจะย้ายโรงเรียนมาใหม่เหมือนกับตน จึงถือทึกทักว่ายาเป็นเพื่อนสนิทคนแรกในโรงเรียนนี้

    ............" อืม... คุณกานคะ รู้สึกไหม คนที่ชื่อรินอ่ะค่ะ ยารู้สึกว่า เค้าจะไม่ค่อยชอบพวกเรานะคะ " จู่ๆ ยาก็เปรยขึ้นมา ทำให้กานนึกถึงช่วงที่รินตักเตือนด้วยน้ำเสียงเชิงตวาด บวกกับสายตาอันน่าสะพรึงที่ได้มองมายังตน ก็รู้สึกเห็นด้วยกับสิ่งที่ยาพูดออกมา

    ............" นั่นสิ ไม่รู้เพราะว่าพวกเราทำผิดระเบียบอะไรหรือเปล่านะ " กานนึกพลางใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกรูปปลาหมึกน้อยชิ้นสุดท้ายเข้าปาก " คนๆ นั้นมีบั้งยศที่ไหล่ด้วย อาจจะเป็นหัวหน้าห้องของพวกเรา แต่ถ้าจะเตือนกัน ก็ไม่น่าจะใช้สายตาแบบนั้นเลย "

    ............" อาจจะเป็น... ความอิจฉาของเด็กสาวล่ะมั้งคะ ก็คุณกานสวยออกอย่างนี้ " ยาหยอดคำหวาน ทำเอากานถึงกับสำลักจนต้องยกชาเขียวขวดขึ้นดื่มทันควัน

    ............" อ๋า จะ.. จริงหรอ... " กานหน้าแดง หันมามองคนกล่าวชมอย่างลนลาน พลางพิจารณาฝ่ายตรงข้ามและได้บอกกลับไปบ้าง " สะ.. ส่วนคุณยาก็น่ารักนะ "

    ............" อาจจะเป็นเพราะพวกเราเด่นเกินไปสินะคะ คุณรินเลยออกอาการอิจฉาตาร้อน " ยาและกานหัวเราะร่ากันอยู่นาน

    ............" คุณกานคะ ลองทานของหวานหน่อยไหมคะ เป็นช็อคโกแลตค่ะ ยาทำเอง " เด็กสาวผมดำนำกล่องสีสันสดใสขึ้นมาและเปิดฝาออก ภายในบรรจุช็อคโกแลตชิ้นกลมพอดีคำไวอยู่จำนวนหนึ่ง

    ............" ว้าว ช็อคโกแลตหรอ น่าทานจัง " กานตาลุกวาว ยาจึงยั่วอีกนิดด้วยการทานช็อคโกแลตชิ้นนึงอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะหยิบช็อคโกแลตอีกชิ้นขึ้นมา และขยับตัวคลานมาอยู่ตรงหน้าของกาน พลางยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้

    ............นัยน์ตาสีแดงจ้องประสานและโปรยเสน่ห์จนทำให้เด็กสาวร่างสูงหน้าแดงอีกครา หัวใจเต้นแรงขึ้นมา เธอรู้ตัวว่ายาต้องการที่จะป้อนให้ แรกนั้นก็คิดจะปฏิเสธ แต่ฝ่ามือซ้ายที่ค่อนข้างเย็นของยาได้ยกขึ้นมาแตะข้างแก้มของกานเอาไว้ และออกแรงเบาๆ ให้กานต้องเผยอริมฝีปากสีแดงออกมา

    ............" อา... " กานครางเล็กน้อยเหมือนตกอยู่ในภวังค์ แต่สายตาเผลอเหลือบเห็นช็อคโกแลตในมือของยา กระพริบตาได้!!

    ............" หวอ!?! " เด็กสาวตกใจ รีบลุกพรวดขึ้นมา " นะ.. นั่น! นั่นคืออะไรอ่ะ?!? "

    ............" เอ๋ ก็ ช็อคโกช็อคโก้ไงคะ " เธอยื่นช็อคโกแลตเข้าไปใกล้ให้กานดูชัดๆ อีกครั้ง ซึ่งมันก็เหมือนช็อคโกแลตโดยทั่วไป

    ............แต่คราวนี้สาวผมเทลหางม้าขยับถอยหลัง พลางเอามือก่ายหน้าผาก " สะ... สงสัยฉันจะไม่ค่อยสบายอ่ะ ขอตัวก่อนนะยา " กานรีบเดินโงนเงนไร้สภาพไปยังบันไดขาลง สงสัยจะเมาแดด... กานนึกในใจอย่างอ่อนเพลีย

    ............" อ๊ะ เดี๋ยวสิ คุณกาน... " ยาร้องเรียกเพื่อรั้งเด็กสาวไว้ แต่ไม่เป็นผล เธอจึงมีสีหน้าผิดหวัง... แอบเสียดาย ทั้งที่อีกนิดเดียวแท้ๆ... พลางจ้องมองดูเมล็ด แบล็คซี๊ด ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในมือ




    ............กานค่อยๆ เดินลงบันไดมาจากดาดฟ้าอย่างมึนงง และยังคงแปลกใจ สิ่งที่ยาเกือบจะให้ทานนั่นก็เป็นแค่ช็อคโกแลตนี่นา แต่ทำไมเราถึงเห็นเป็นลูกตาไปได้นะ! นึกแล้วท้องไส้ของกานก็เริ่มปั่นป่วนขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นป้องปาก " อุ๊บ!... คงต้องไปขอยาทานและนอนพักสักนิดที่ห้องพยาบาล " เด็กสาวหน้าซีดเซียว ค่อยๆ ก้าวลงบันไดอย่างระมัดระวัง เพราะทางขึ้นค่อนข้างมืดจนแลดูน่าขนลุก แม้อยู่ในยามกลางวัน

    ............ดั่งฉากสยองขวัญในหนังได้เริ่มขึ้น เด็กสาวผู้หวาดหวั่น จู่ๆ ก็ถูกฝ่ามือลึกลับจับหมับเข้าที่ท่อนแขน กานสะดุ้ง! ภาพที่มองเห็นได้อย่างไม่ถนัดในความมืดนั้นคือท่อนแขนสีดำที่โผล่จากมุมมืด ผิวหนังหยาบกร้านปนเลือดแดงๆ ซึมจากใต้ผิวหนัง

    ............กานขนลุกเกรียว เธอรีบมองไปยังสิ่งหลอนนั้น ร่างเค้าผลุบออกจากความมืดพลัน เป็นเด็กสาวผมยาวดัดลอนปลายใหญ่สีน้ำตาลไหม้ที่มีร่างครึ่งซีกเป็นดั่งสัตว์ประหลาด นัยน์ตาซ้ายใต้เส้นผมสีแดงก่ำจับจ้องมาทางกานที่หวาดกลัวจนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ร่างนั้นเปล่งเสียงแหบแห้งดั่งคนชราบอกออกมาว่า " อย่า...ไป...ยุ่ง...กับ...เธอ...คน...นั้น... "

    ............" กรี๊ด~~~!!! " กานแผดเสียงสุดชีวิต ก่อนจะเป็นลมแน่นิ่งไป...




    ............ณ ห้องพยาบาลในหลายชั่วโมงต่อมา กานค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย " ที่นี่... ห้องพยาบาลงั้นหรอ... " เธอพยายามนึกย้อนเหตุการณ์ แต่ภาพในหัวล้วนเป็นความว่างเปล่า แต่สายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาในห้องตีเข็มสั้นใกล้ถึงเลข 4 ทำเอาเด็กสาวต้องลุกขึ้นพรวดจากเตียง แต่ศีรษะกลับหนักอึ้ง ตาลาย สุดท้ายก็ลงไปนอนแผ่หราดังเดิม

    ............ผ้าม่านกั้นเตียงถูกผลักไปด้านข้าง ปรากฎร่างของเด็กสาวผมยาวหยักศกสีน้ำตาลแดง ใบหน้ายิ้มแย้มแลดูเป็นมิตรหลังจากเห็นผู้ที่นอนป่วยนั้นฟื้นคืนสติอีกครั้ง " อ้าว ตื่นแล้วหรอคะ ตอนนี้รู้สึกเป็นไงบ้าง " ผู้เข้ามาใหม่เดินมาใกล้เตียงของกาน และใช้มือจับเช็คชีพจร กานสังเกตที่ปลายชายเสื้อด้านซ้ายมีปลอกแขนแปะตราพยาบาลไว้ด้วย

    ............" รู้สึกหนักๆ หัวอ่ะค่ะ... สงสัยจะเป็นความดันต่ำ นอกนั้นก็... " เธอพยายามบรรยายความรู้สึก ในขณะที่อีกฝ่ายก็ตรวจเช็คไปเรื่อย... ทั้งเอามือกดหน้าท้อง ( กานหัวเราะเพราะบ้าจี้ ) เงี่ยหูฟังหัวใจ ( กานถึงกับร้องอุทาน!? ) รวมถึงการเอาหน้าผากมาแตะกันและกัน สายตาอันเป็นห่วงเป็นใยจ้องประสานกับผู้ป่วย ทำให้ผู้ถูกตรวจอยู่เริ่มจะมีสีชมพูระบายอยู่ข้างแก้ม... และจบการเช็คร่างกายด้วยการหอมแก้มอีกฝ่ายเข้าฟอดใหญ่!!

    ............" วะ.. แว๊ก!?! " กานสะดุ้งโหยง ส่วนอีกฝ่ายก็ยิ้มร่า

    ............" ดูเหมือนเธอจะหายดีแล้วนะ... อ้อ ฉันชื่อ พิม นะ " พยาบาลน้อยเซ็นปิดเคสคนไข้ในแฟ้มประวัติของกาน

    ............" ปะ.. เป็นการตรวจที่ละเอียดและระทึกดีนะ... คะ... คุณหมอพิม " กานยกมือขึ้นลูบข้างแก้มเบาๆ หัวใจยังเต้นรัวแปลกๆ พิกล พลางคิดไปว่าเธอคนนี้หอมแก้มคนไข้ทุกรายในสังกัดเลยหรือเปล่า

    ............" แต่ก็รู้สึกดีใช่ไหม " พิมหัวเราะ " เพราะการหอมแก้มนั้นเป็นการแสดงความรักอันบริสุทธิ์ของหัวใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้ความรู้สึกดีๆ ที่เราจะมอบให้ล่ะ " คุณหมอจำแลงอธิบาย

    ............" ว่าแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง " กานค่อยๆ พยุงตัวขึ้นนั่ง หลังยังคงพิงหมอน โดยอีกฝ่ายก็ช่วยพยุงเธอด้วยเล็กน้อย

    ............" อ้อ ดาหวัน เค้าเห็นเธอเป็นลมอยู่ที่บันไดทางขึ้นไปดาดฟ้า จึงรีบมาตามฉันไปช่วยหิ้วเธอลงมาที่ห้องพยาบาล... หนักใช่ย่อยเลยล่ะ "

    ............" ง่ะ.. ใจร้าย! " เด็กสาวคนนั้นหัวเราะคิก ทำเอาผู้โดนแซวทำหน้ามุ่ย แต่พอนึกถึงช่วงที่อยู่บนดาดฟ้า กานจึงเอ่ยถามออกไป " เธอคนนั้น... ดาหวันใช่ไหม ทำไมแขนเขาถึงเป็นแบบนั้น เค้าเป็นโรคอะไรหรอ "

    ............" อืม ดูเหมือนเค้าจะเป็นโรคผิวหนังชนิดที่หายากนะ " ว่าที่พยาบาลสาวทำท่าทางครุ่นคิด " อาจารย์บอกว่าเป็นเคสที่หายากมากๆ แต่โชคดีว่าผลการตรวจออกมาว่ายังไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ก็ไม่รู้จะรักษาได้ไหม " เธอกล่าวต่อไป " แต่สำหรับเธอ คงเป็นอะไรที่ทุกข์ทรมาณมาก เพราะนอกจากจะต้องรับสภาพอันน่าเกลียดน่ากลัวแล้ว เพื่อนๆ ของเธอก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะคบหาด้วย ต่างล้อว่าเธอเป็นผีบ้าง ปีศาจบ้าง "

    ............" น่าสงสารจัง " กานน้ำเสียงสั่นเครือ " ฉันพอจะช่วยเหลืออะไรเค้าได้บ้างไหม "

    ............" ดาหวันมักจะมาคุยเล่นกับฉันที่นี่บ่อยๆ ล่ะ หากเธอมาเป็นเพื่อนคลายเหงาได้อีกคน ดาหวันต้องดีใจมากแน่ๆ เลย " พิมลองส่งข้อเสนอ ซึ่งกานเองก็ตอบกลับไปว่าจะแวะเวียนมาบ่อยๆ แน่นอน

    ............ในระหว่างนั้นเอง ประตูห้องพยาบาลก็ได้เลื่อนเปิดออก ผู้มาถึงคือริน เธอเดินตรงรี่มาทางกาน พลางถามไถ่อาการผู้ป่วยจากพิม " ดูเหมือนจะหายดีแล้วล่ะ คุณหัวหน้าห้องไม่ต้องเป็นห่วงนะ "

    ............" ขอบคุณเธอมาก " รินตอบเสียงเรียบ ใบหน้ายังคงไว้มาดสาวเฉียบอยู่ทุกระเบียดนิ้ว สร้างบรรยากาศชวนอึดอัด จนกระทั่งเธอโดนพิมขโมยหอมแก้มระหว่างที่เดินสวนกัน! " นะ.. นี่เธอ ยัยพิม!! " รินตะโกนออกมา หญิงสาวหน้าแดงเป็นลูกตำลึง

    ............" ยิ้มบ้างสิคุณหัวหน้า เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก " พิมหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินออกนอกห้องไป เหลือแต่เพียงรินและกานที่กลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ แต่ก็ต้องหยุดไปพลันเมื่อโดนสายตาดุๆ ของรินจับจ้องมา

    ............" ยัยนั่นก็เหลือเกิน ชอบทำอะไรแปลกๆ อยู่เรื่อยเลย " รินแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์ พลางนั่งลงข้างๆ เตียง ส่วนผู้ป่วยตอนนี้ก็หันซ้ายขวาจัดแจงผ้าปูที่นอนและหมอนให้เรียบร้อย " ว่าแต่เธอ กาน... ร่างกายไม่เป็นไรแล้วแน่นะ " รินเอ่ย โดยเจ้าตัวมีแววตาที่อ่อนลง

    ............" อ่ะ... อื้ม คุณหมอพิมก็ว่าฉันเองแข็งแรงดีแล้วล่ะ " กานรู้สึกแปลกใจในน้ำเสียงและท่าทีของริน ที่คราวนี้แฝงความเป็นห่วงเป็นใยต่างจากเมื่อตอนพูดคุยในห้องราวกับคนละคน ยอมรับว่าเธอเองก็มีอคติกับรินอยู่เล็กน้อย จากคำของยาเมื่อช่วงบ่าย จึงลองแย๊บคำถามไป " เป็นห่วงฉันหรอ... หรือเป็นหน้าที่... "

    ............รินเพียงยืนกระเป๋านักเรียนคืนให้กับกาน และหันหลังเดินไปหยุดอยู่ที่ประตู " ฉันก็แค่ อยากดูแลทุกคนในชั้นให้ดีที่สุด... เพียงเท่านั้น... " เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบดังเดิม ก่อนที่จะก้าวเดินออกจากห้องพยาบาลไป ปล่อยให้กานงงกับท่าทีผีเข้าผีออกของริน

    ............" แต่ก็เป็นคนที่น่าสนใจดีเหมือนกันแฮะ " กานเปรยออกมาเบาๆ




    ............ผมสีโอลด์โรสของเด็กสาวต้องสยายตามแรงลมที่ตีมาปะทะหน้าระหว่างทางเดินเข้าซอยกลับบ้าน ใบหน้าแผล่บมันเพราะต้องกับมลพิษย่านเมืองหลวง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจนักเพราะอีกเพียงไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงที่หมาย ระหว่างนั้นเธอจะใช้เวลาทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แค่เพียงคิดบรรดายี่ห้อครีมบำรุงมากมายก็ลอยผุดขึ้นในหัวเสียเต็มไปหมด จนลำดับขั้นตอนการใช้ก่อนหลังไม่ถูกเลยทีเดียว

    ............แต่แล้วจู่ๆ สายตาก็ได้เหลือบไปเห็นภาพในมุมซอกตึกร้าง นักเรียนชายสองคน กำลังถืออาวุธเข้าทำร้ายนักเรียนชายต่างโรงเรียนอีกคน ซึ่งเขานั่งนิ่งไปเสียแล้ว ไม้หน้าสามที่แลดูเหมือนถูกนำไปฟาดเข้ากับบางสิ่งเต็มแรง เปื้อนเลือดสีแดงจนแลดูน่ากลัวยิ่ง

    ............" นะ.. นั่น... เด็กนักเรียนตีกันนี่!! แย่แล้ว แย่แล้ว! เราต้องรีบแจ้งตำรวจ!! " กานหยุดกึก พลางล้วงมือถือขึ้นมากดปุ่มอย่างลนลาน พลันต่อสายไปเบอร์ฉุกเฉิน แต่เสียงที่ดังกลับมาเป็นเพียงสัญญาณให้รอสาย " ตะ... แต่กว่าคุณตำรวจจะมา เขาคนนั้นอาจจะไม่รอด เราต้องทำอะไรสักอย่าง " เห็นทีว่าไม่ทันการ เธอจึงลดมือถือลง สายตาจับจ้องกับเหตุการณ์ด้านหน้า จู่ๆ เด็กสาวก็เผลอตะโกนเข้าไป " ยะ.. หยุดนะ พวกนาย เดี๋ยวเค้าก็ได้ตายหรอก!! "

    ............ได้ผล!? สองนักเรียนนักเลงละความสนใจจากเหยื่อ มาทางกานในทันที " หืม มีพวกมาช่วยงั้นหรอ เป็นผู้หญิงด้วยว่ะ ชัย " เขาพาดไม้หน้าสามขึ้นเหนือบ่า ส่วนอีกคนที่ชื่อชัยก็ลุกขึ้นยืนและมองมาหากาน ในมือกำสนับเหล็กเป็นอาวุธ " ยัยนี่ดูท่าทางปวกเปียก ลากเข้าไปข่มขืนเลยดีไหมวะ ตั้ม "

    ............สองนักเลงแทบวิ่งเข้าหาเด็กสาว ส่วนกานนั้นตกใจจนก้าวขาไม่ออก เธอเอี้ยวตัวหลบไม้หน้าสามที่หวดเข้ามาจนเฉียดศีรษะรอดไปได้ แต่ก็เสียหลักล้มไปทางด้านหลัง กระเป๋านักเรียนตกกระแทกพื้น เกิดเสียงปี๊บเล็กๆ ช่วงสั้นๆ จากข้างใน... กานเพ่งมองทั้งสอง พบว่าเครื่องแบบชุดนักเรียนเป็นของโรงเรียนสวนฤทัย โรงเรียนเก่าของเธอ!!

    ............" เธอแส่มายุ่งไม่เข้าเรื่องเองนะ " ตั้มแสยะยิ้ม และกำลังจะฉุดผมของกาน แต่แล้วก็ต้องหยุดกึก เพราะกานนั้นหวีดร้องและตวาดขู่ไปว่า " ถ้าเธอทำอะไรชั้นล่ะก็ ฉันจะไปฟ้องไอ้แปะนะ!! "

    ............" ไอ้แปะ!?! " ทั้งสองหัวมามองหน้ากันด้วยสีหน้าหวาดกลัว " นี่เธอรู้จักมันด้วยเรอะ!! " กานซื้อเวลาต่อได้อีกเล็กน้อย ซึ่งไอ้แปะที่เธอว่า เป็นฉายาของอาจารย์หน้าตี๋นาม วิเชษฐ์ แห่งโรงเรียนสวนฤทัย ขึ้นชื่อเรื่องการทำโทษอันสุดแสนพิสดารและโหดร้าย ทั้งการจับนักเรียนที่แอบสูบบุหรี่ไปกรอกน้ำผสมขี้เถ้า หรือการฟาดก้นด้วยตระพรตจนกว่าไม้จะหักประจานหน้าเสาธง และแม้แต่การจับนักเรียนที่แอบดื่มเหล้าในเวลาเรียนปั่นจิ้งหรีดจนกว่าจะอาเจียนไปข้างนึง

    ............กานนึกว่าคงจะรอด แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม " ยิ่งเธอรู้จักมัน เห็นทีจะให้เธอรอดไปเป็นพยานไม่ได้แล้ว " ตั้มเงื้อมไม้ขึ้นเหนือหัว หวังจะสังหารกานปิดปาก เด็กสาวข่มตาแน่น ในใจบอกแต่เพียงว่า งานนี้ตายแน่ๆๆๆ

    ............จู่ๆ พวกนักเรียนชายนั้นก็ทิ้งอาวุธ และวิ่งหนีไป กานค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก็พบว่ามีรถตำรวจแล่นเข้ามาจอดใกล้จุดที่เธอล้มพอดี เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ หัวใจเต้นระทึกยิ่งกว่าดูหนังสยองขวัญเรื่องใดๆ

    ............" น้องไม่เป็นไรใช่ไหมครับ " ตำรวจหนุ่มลงจากรถมาดูอาการ พลางพยุงตัวของกานขึ้นมา

    ............กานส่ายศีรษะ " ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะคุณตำรวจ แต่พี่คนนั้นท่าทางบาดเจ็บหนักเลย " เด็กสาวชี้ไปทางชายหนุ่มที่นั่งพิงผนังตึกไม่ได้สติ ทั้งสองคนจึงวิ่งเข้าไปดูอาการของเขา

    ............เมื่อกานได้เห็นใบหน้าของเขาชัดๆ ก็ถึงกับอุทาน " มะ.. ไม่นะ!! พี่ ต้น!!! " กานยกมือป้องปากอย่างตกใจ ส่วนตำรวจหนุ่มก็รีบอุ้มร่างโชกเลือดของเขาขึ้นรถและนำส่งที่โรงพยาบาลทันที

    ............กานมองตามหลังรถตำรวจที่แล่นออกไป ใจคอรู้สึกไม่ดี เพราะคนถูกทำร้ายนั้นเป็นคนที่เคยรู้จักในอดีตเมื่อ 3 ปีก่อน พี่ต้นเป็นทั้งเพื่อนบ้านและรุ่นพี่ที่ใจดี ก่อนที่จะจากกันเพราะเธอได้ย้ายที่อยู่ตามผู้เป็นพ่อเรื่อยมา




    ............ณ ขอบระเบียงของดาดฟ้านั้นเอง แมวดำตัวใหญ่ได้เฝ้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พลางชื่นชมในความกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้อื่นของเด็กสาว

    ............" เจอผู้ที่เหมาะสมคนต่อไปแล้ว... " มันกล่าวอย่างพึงพอใจ เมื่อได้เห็นพลอยมณีสีชมพูบนลูกกุญแจ คีย์แห่งเพียวลูน่า เปล่งแสงสุกสว่างออกมา




    To Be Continue...




    เหตุการณ์ตอนต่อไป :
    กาน : อะ... อะไรนะ! ตอนหน้าฉันจะโดนลากเข้าไปเกี่ยวพันกับการล้างแค้นของพวกนักเรียนนักเลงงั้นหรอ ไม่เอานะ!!
    พิม : ก็เพราะกานเป็นนางงามล่มเมืองไง
    กาน : ง่าพิมอย่าตั้งฉายาอะไรแปลกๆ ให้สิ แค่นี้ก็ยังจะเอาตัวไม่รอดแล้วอ่า
    เลโอ : งั้นก็จงรับพลังแห่งดวงดาวไปและแปลงร่างซะ อย่าทำให้ผมผิดหวังล่ะ
    กาน : เหวอ มะ.. แมว แมวพูดได้!!!




    เตรียมพบกับ อัศวินแห่งดวงดาว Zaint Night ตอนที่ 2 " Zaint Pureluna " เร็วๆ นี้
  3. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    วิธีเชื่อมประโยคบางทียังดูแปร่งๆไปหน่อยหนอเวลาอ่านเลยสะดุดบ้างเป็นระยะ แล้วก็ช่วงนำก่อนขึ้นตอนจะมีบางคำใช้ภาษาที่ระดับที่มันโดดขึ้นมามากไปหน่อยเพราะงั้นช่วงนำนี่เลยอ่านแล้วรู้สึกสะดุดมากเป็นพิเศษน่ะครับ

    นอกนั้นก็วิธีเกริ่นข้อมูลในเรื่องบางจุดออกจะเป็นการสรุปฝืนให้คนอ่านคิดตามไปหน่อย พยายามเปลี่ยนไปใช้การบรรยายที่ทำให้คนอ่านรู้สึกคล้อยตามกว่านี้น่าจะดี อย่างเช่น

    จาก "ณ ขอบระเบียงของดาดฟ้านั้นเอง แมวดำตัวใหญ่ได้เฝ้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พลางชื่นชมในความกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้อื่นของเด็กสาว"

    เป็น "บนขอบระเบียงดาดฟ้าไม่ห่างจากตรงนั้นมากนักได้มีร่างของแมวดำตัวใหญ่ซึ่งได้จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คลาดสายตา ในใจมันนั้นรู้สึกชื่นชมเด็กสาวอยู่ไม่น้อยที่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยผู้อื่น"

    อะไรราวๆนี้ล่ะ

    ปล. รู้สึกจะเป็นแนวสาวน้อยเวทมนต์ที่โทนเรื่องค่อนข้างหนักและจริงจังพอดู ถ้างั้นพยายามลดมุกการ์ตูนลงซักนิดอาจจะดีกว่านะ (ความเห็นจากความชอบส่วนตัวฮะ)
    hikazerora ถูกใจสิ่งนี้
  4. hikazerora

    hikazerora จรัสแสงที่ปลายฟ้า

    EXP:
    7
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    3
    ขอขอบคุณท่าน Teleoftrue มากๆ ครับ สำหรับคำชี้แนะ ทำให้ทราบว่าสิ่งที่ควรบรรยายนั้นควรมาจากใจตัวละคร แทนที่จะมาจากตัวผมเอง ( ผู้แต่ง ) ซึ่งจะนำไปปรับปรุงในตอนต่อๆ ไปครับ

    ส่วนแนวเรื่อง ท่าน Teleoftrue มองออกแล้วแฮะ ใช่ฮะ โทนเรื่องจะออกแนวหนักๆ หน่อย ซึ่งผมเองกลัวว่าจะกลายเป็นฟิคที่ดูกดดัน เลยใส่มุกลงไปมากกว่าที่คิดไว้ เดี๋ยวอาจจะปรับแก้โดยลดความฮาและเน้นความจริงจังมากขึ้นในตอนต่อๆ ไปเช่นกันครับ
  5. pentita

    pentita Aqouze

    EXP:
    642
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    38
    ว่าจะอ่านของเอเซจนจบก่อนไปอ่านของคนอื่น แต่เจออันนี้สั้นกว่า ^^" (ฮา)
    ถ้าจำนวนตอนยังน้อยๆ ผมจะพูดละเอียดหน่อยนะครับ แต่ถ้าจำนวนตอนเริ่มเยอะ ผมจะปล่อยข้ามมากหน่อย ^^"

    ในส่วนของบทนำ
    เอาแค่ อัศวินแห่งดวงดาวทั้งสาม ก็อ่านรู้เรื่องได้เหมือนกัน
    แล้วในบทต่อๆ ไป ค่อยเอาชื่อออกมา ตอนพวกเธอมีบท เพราะเอามาใส่เยอะๆ ตั้งแต่ช่วงแรก ยิ่งชื่อที่ไม่คุ้นหู ส่วนใหญ่ จะอ่านข้ามกันครับ ^^"
    (ชื่ออควาริส กับ เซเฟย์เป็นชื่อไม่คุ้นหูครับ)

    แล้วก็คำว่า โรยัล การ์เด้น อาคาเดมี่ ที่จริงเอามาจากคำว่า Royal Garden Academy รึเปล่าครับ ถ้าใช่ ภาษาไทยมันควรจะเป็น รอยัล การ์เด้น อคาเดมี่ จะตรงเสียงที่ต้องการมากกว่าครับ

    สองย่อหน้านี้ดูตัดไปอีกฉากห้วน ไปหน่อยครับ น่าจะมีอธิบายมากกว่านี้ก่อน ขึ้นเป็นเสียงร้องไห้ของกาน

    คำว่า อัญชัญทำให้สะดุดอ่ะครับ

    แล้วก็คำเปรียบเปรยความสวยงามของเด็กผู้หญิง เป็น ตุ๊กตาที่แกะสลักขึ้นด้วยช่างฝีมืออันประณีต
    คือ พอนึกภาพเป็นตุ๊กตาแกะสลัก มันจะเป็นตุ๊กตาไม้ มันไม่ได้มีผิวเรียบเนียน หรือดูสวยงามอะไรมากขนาดนั้น ถ้าเอาแค่ "เหมือนตุ๊กตา" สั้นๆ ก็จะนึกถึงพวกตุ๊กตายุคปัจจุบันที่ดูเป็นคนสวยน่ารักจริงๆ

    ผมแปลไม่ออกครับ.. ^^" ถ้าเป็นสีชมพู (สมมุตินะ) อาจจะบอกว่า สีชมพูโอลด์โรส ทำให้คนอ่านเข้าใจตามไปด้วยได้ แต่ทางที่ดี ไม่ควรใช้เท่าไหร่ ^^" นอกจากว่าจะมีประเด็นให้เล่นกับโอลด์โรสในเนื้อเรื่อง เพราะมันไม่ใช่ศัพท์ที่คนทั่วไปเข้าใจ

    ลักษณะการบรรยายโดยรวม ให้อารมณ์การ์ตูนญี่ปุ่นมากกว่านิยาย อาจจะเพราะวิธีการตัดฉาก แล้วก็มุขและแอคชั่นที่เหมือนในการ์ตูน ผมเป็นคนอ่านการ์ตูนเลยนึกภาพตามได้ทันที มันขึ้นมาเป็นฉากการ์ตูน^^" แต่ถ้าคนไม่อ่านการ์ตูนจะรู้สึกว่า เร็วและตัดฉากไปตัดฉากมา (นิยายถ้าจะตัดฉาก ต้องบรรยายเยอะหน่อยครับ ให้อารมณ์คนอ่านย้ายสถานที่ตามไปด้วยได้)

    มีนิยายคนไทยที่เขียนแนวสาวน้อยเวทมนตร์อยู่เรื่องนึงเหมือนกันนะครับ ชื่อ อาเซนธาเรีย ผู้เขียนทำได้ดีมาก เซ็ทเหตุการณ์ทุกอย่างไว้ในญี่ปุ่นหมดเลย
    แรกๆ เน้นเรื่องสาวน้อยเวทมนตร์มากหน่อย แต่พออ่านถึงเล่มสาม มันเน้นเรื่องความรักจนผมอ่านต่อไม่ไหว T^T กลายเป็นโรแมนติกแฟนตาซี(ซื้อมาสี่เล่ม แต่เล่มสี่ยังไม่ได้เปิดเลย) ถ้าแค่อ่านเพื่อศึกษาแนวทาง สักเล่ม1 ก็กำลังดีครับ :D คนเขียนทำได้ดีมากเลย แต่น่าจะหาภาค1 ยากแล้ว
  6. pentita

    pentita Aqouze

    EXP:
    642
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    38
    โพสซ้ำ วานสตาฟลบทีครับ

Share This Page