The Legacy War ~Page X~ The Legend of Flame (part I)

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย yoshiki, 12 พฤษภาคม 2008.

  1. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    ~Prologue~

    ~A Tale from future~​



    .......จะให้เริ่มตรงไหนดีน่ะเหรอ ??? สำหรับชั้นแล้วเรื่องทุกอย่างเริ่มขึ้นตั้งแต่ยังจำความได้ ดาบสีดำสนิทที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและศพเกลื่อนกลาด จากฝีมือของคนที่ชั้นเรียกว่า พี่ชาย

    ในความเป็นจริงการแย่งชิงอาวุธทั้ง 13 เริ่มขึ้นมานานแล้วเพียงแต่ก็ต่อสู้มันไม่ขยายตัวพอที่จะเรียกว่าสงครามได้ จนกระทั้งชายผู้ถูกเรียกว่า “ยมทูตแห่งเบลก้า” ได้ก่อตั้งสมาพันธ์ Section 5 ขึ้น พวกเขาคือกลุ่มนักล่าฝีมือฉกาจที่ออกเสาะแสวงหาศาสตราในตำนานโดยไม่เลือกวิธีการ ตัวชั้นเองก็ไม่แน่ใจว่าเพราะไอ้ความเชื่อประหลาดๆที่ว่าหากผู้ใดได้ครอบครองอาวุธพวกนั้นได้ครบแล้วจะได้รับพลังอำนาจมหาศาลเป็นสาเหตุหรือเปล่า

    แต่ว่าสิ่งที่เด่นชัดคือ เหล่าผู้ครอบครองศาสตราคนอื่นตกเป็นเป้าหมายในการไล่ล่าครั้งนี้ไปโดยปริยาย แม้ว่าเหล่าสมาชิกของ Section 5 คนอื่นจะมิได้เป็นผู้ถือครองอาวุธเทพเหล่านั้น หากแต่ฝีมืออันเจนจัดนั่นสามารถไล่ต้อนเหล่าผู้ถือครองได้หลายครั้งหลายครา จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้พวกเขาต้องเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกันและดึงเหล่าผู้เคราะห์ร้ายที่โดนลูกหลงจากการไล่ล่าเข้ามาเป็นกำลังเสริม

    “กางเขนเลือด” คือหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงมากในครั้งนั้น กลุ่มของพวกเขานั้นแข็งแกร่งทรงอนุภาพ และยังมีสมาชิกที่ถือครองศาสตราอยู่ในกลุ่ม ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่น่าขัน เพราะก่อนหน้านั้นเหล่าผู้ถือครองต่างจ้องจะแย่งอาวุธของอีกฝ่ายตลอดมา จนแทบจะเรียกได้ว่าถ้าเจอหน้ากันที่ไหน ที่นั้นต้องมีการนองเลือด

    เอาเถอะ เมื่อต้องก้าวสู่อันตรายร่วมกันมันก็ไม่ต่างอะไรกับลงเรือลำเดียวกันล่ะนะ​


    และดูเหมือนอุดมการณ์ของพวกเขาจะสอดคล้องกันเป็นอย่างดี Cross Knight คือชื่อที่พวกเขาใช้ร่วมกัน แต่นั้นก็หมายถึงการปะทะกันที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ......

    สุดท้ายสิ่งที่เรียกว่าโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นอย่างช่วยไมได้ โครลิส อาณาจักรอันสงบสุขกลายเป็นสมรภูมิเนื่องจาก กลุ่มทั้งสองต่างนัดหมายแย่งชิงของสิ่งเดียวกันจากครอบครัวเร่ร่อนครอบครัวหนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ชักนำ เมืองริริอา เมืองแห่งสถาปัตยกรรมอันงดงาม ให้ตกอยู่ใต้ความตายและเปลวเพลิง

    อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งสองกลุ่มก็ไม่อาจจะได้สิ่งที่ปรารถนาไปได้ เพราะเด็กน้อยสามคนที่รอดชีวิตไปราวกับปาฎิหารย์ ได้นำของสิ่งนั้นไป....

    และหนึ่งในสามคนนั้นก็คือชั้น ผู้ซึ่งภายหลังถูกขนานนามว่า เนตรอัคคี

    แต่ว่าพวกเราก็ถูกแย่งชิงอีกสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า สิ่งที่เรียกว่าครอบครัว.....

    เด็กน้อยสามคนที่มีเพียงดาบที่เล่มใหญ่กว่าร่างกายเล็กๆของเรา และจี้ห้อยคอประหลาดที่พ่อกำชับหนักหนาว่า “ห้ามให้ตกไปอยู่ในมือผู้ใดโดยเด็ดขาด” แต่สำหรับชั้นในตอนนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ของที่จะนำความตายมาหาพวกเราเท่านั้น ไม่มีทางเป็นอื่น.....

    และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ เราถูกโจมตีจากกลุ่มบุคคลลึกลับซึ่งชั้นมารู้ภายหลังว่าบริเวณนั้นเป็นแทบพรหมแดนที่เราจะข้ามไปยังรูบิเนเซีย ตัวของชั้นตกลงไปในหุบเหวลึก ที่ตอนนี้ชั้นมักจะไปนั่งอยู่ตรงนั้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกือบจะไม่มีวันนี้ และถ้ามันไม่มีน้ำที่ลึกพอตรงที่ชั้นตกลงไป ปัจจุบันก็คงเป็นเพียงซากศพที่โดนฝังไปนานแล้วล่ะ

    ก็แน่นอนว่าเด็กตัวเล็กๆอย่างชั้นไม่มีทางจะรอดชีวิตไปจากที่นั่นด้วยตัวคนเดียวไปได้แน่ ร่างกายที่บอบช้ำราวกับจะตายเสียเดี๋ยวนั้น กระเสือกกระสนขึ้นมานอนบนพื้นดินได้สำเร็จ และดวงตาสีแดงอันอบอุ่น ผมสีไข่มุกที่พลิ้วไหว กับมือที่อบอุ่นนั้นก็ฉุดรั้งชั้นจากความตาย.....

    นั้นคงเป็นบทเรื่มต้นสำหรับชั้น....

    เอาเถอะ ถ้าคุณคิดว่าคนที่กำลังเล่าๆเปลืองน้ำลายอยู่นี่เป็นตัวเอกในหน้าประวัติศาสตร์นี่แล้วล่ะก็ ขอบอกว่าคุณคิดผิด

    แม้มันจะเป็นเรื่องที่มาจากมุมมองของชั้น แต่ว่า....ชั้นอยากจะเล่ามันโดยให้ความสำคัญกับอีกบุคคลที่ชั้นเคารพนับถือเช่นเดียวกับพี่ชายของชั้น บุรุษที่ตัวชั้นมองด้วยความชื่นชมจากด้านล่างมาโดยตลอด เขาคือ ราชามาร “เดม่อน ลอร์ด” ผู้กวัดแกว่งดาบสีขาวสะอาดตาผิดกับสมญาที่ได้รับ ยอดฝีมือที่ยืนอยู่เหนือกองซากศพศัตรูที่หมายประหัตประหาร แต่ประวัติของเขาแทบจะไม่มีลงเหลืออยู่

    ผู้ที่เป็นทั้งวีรบุรุษและอสูรร้ายฆ่าคน

    หน้าแรกของบันทึกได้ถูกเขียนแล้ว..........


    ......................................................................

    ...........................................................

    ................................



    Talk Talk Talk

    เรื่องนี้ผมพยายามจะเขียนออกมาดีๆ อยากรู้ว่าถ้าตัวเองไม่แต่งฟิครั่วๆแล้วมันจะขายออกไหม 555+ (แต่ก็กลัวสุดท้ายจะกลับไปรั่วเหมือนกัน)

    หลายๆคนอาจจะ งงๆ ว่าทำไมบทนำมาเร็วจังฟ่ะ ยังไม่ทันปิดรับสักหน่อย ที่มันมาเร็วไม่ใช่เพราะไฟแรงหรอกครับ เผอิญนั่งฟัง Theme ของ Final Fantasy versus XIII เข้า แล้วมันดันเข้ากับ Theme เรื่องที่ผมคิดเอาไว้พอดีเลย เท่านั้นแหละ ไอเดียต่างๆก็พรั่งพรูเข้ามา

    แต่บทนำนี่ประมาณแจกแจงเรื่องอีกครั้งและหาคนมาสมัครเพิ่มไปในตัว 555+ ยังไม่ปิดรับนะครับไปสมัครอีกกระทู้กันได้เลย โอ้ส

    เดม่อน ลอร์ด (Demon Lord) ไอ้หมอนี้มันเป็นใครกันแน่ ก็ต้องติดตามกันต่อไปโลด แต่คนเล่าเรื่องนี้คงไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่าใคร - -*

    ปล.เรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีตของผู้เล่าครับ อย่างที่ดีริกคุงสงสังตรงบรรทัดสุดท้ายนั่นเป็นบันทึกของผู้เล่าที่เริ่มเขียนไปทีล่ะหน้าครับ (ประมาณบันทึกประวัติศาสตร์อะไรประมาณเนี่ย) แต่จริงๆบทนำมันก็บอกอยู่แล้วนะว่าเรื่องเล่าจากอนาคต - -

    Thanks For You Support !!!!
  2. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    เปิดเรื่องได้น่าสนใจมากครับ!!! นั่งเดาตัวละครกันมันเลย 555

    เท่าที่อ่าน....เรื่องเล่านี้คงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตของเรื่องที่จะเขียนสินะครับ? เพราะดูจากตัวละครและฝ่ายสังกัดที่ปรากฎนี่...น่าจะเป็นตัวละครของผู้สมัคร?(รึเปล่า?)

    5555...เอาเถอะ ยิ่งเดายิ่งมึน!!!

    ปล.เห็นบรรทัดสุดท้ายที่บอกว่าหน้าแรกแล้ว...มันขัดกันวุ้ย!! ตกลงอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตแน่เนี่ย -*-
  3. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    หุหุ พี่โย เปิดเรื่องแบบปริศนา มาแต่ไกล..

    ไว้จะรอดูตอนเต็มๆน้า
  4. Hell

    Hell Member

    EXP:
    405
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    สุดยอดมากครับเปิดเรื่องได้ดีมากๆ อ่านแล้วทำให้อยากอ่านตอนที่ 1 ขึ้นมาทันตา!!

    แค่บทเปิดเรื่องยังมีปริศนามากมายขนาดนี้แล้วตอนที่ 1 จะขนาดไหน แล้วที่ดูจากบทนำ

    เรื่องนี้คงเป็นเรื่องเล่า ที่เล่าผ่านคนที่มีฉายาว่า "เนตรอัคคี" สินะครับ * *
  5. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    สุดยอด!!!!!


    เปิดตัวได้เยี่ยมกว่าเรื่องไหนๆของโยเลยล่ะ เยี่ยมจริงๆ ชอบ!!! d><b

    ตอนแรกและตอนต่อๆไป ก็ขอให้คงคุณภาพไว้แบบคงเส้นคงวาด้วยนะ :D
  6. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    เปิดตัวได้แจ่มจริงๆ (แต่ทำไมรู้สึกทะแม่งๆ หว่า หรือเพราะเห็นแต่งรั่วมานานเกินไป)

    เนตรอัคคี ....พอจะเดาได้แล้วว่าใคร เหอะๆๆๆ
  7. joi100

    joi100 นักเดินทางแห่งมิดการ์ด

    EXP:
    478
    ถูกใจที่ได้รับ:
    23
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    บทแรกเปิดตัวได้น่าสนใจ อย่างมาก แล้วบทที่2 ล่ะโย กรั๊กๆๆๆๆ
  8. train

    train Member

    EXP:
    498
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    โอ่ะ เห็นด้วยกันกับทุกท่านว่าเปิดตัวได้สุดยอดมากเลย!!!
    จะรอติดตามบทที่หนึ่งนะครับ ^^/
  9. shinkyoto

    shinkyoto Well-Known Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    เปิดมาแล้ว หุๆๆ (ทำไม section5 ได้รับบทร้ายกลายๆไปเลยล่ะ?)

    รออ่านตอนต่ออย่างใกล้ชิด
  10. ultima

    ultima Active Member

    EXP:
    933
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    36
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    เปิดตัวได้ สุดๆ ทำให้อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ เลยนะเนี่ยท่านโย

    ว่าแต่เปิดตัวเร็วได้ใจสุดๆ เลยอ่ะ
  11. angelgirl

    angelgirl New Member

    EXP:
    69
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    เปิดเรื่องได้เยี่ยมเลยค่ะ - -b รู้สึกอยากอ่านตอนต่อไปขึ้นมาทันทีเลย ดีเหมือนกันนะคะที่เล่าเรื่องจากฝ่ายจอมมาร ปกติคนเล่ามักอยู่ฝ่ายธรรมะนี่เนอะ

    รออ่านตอนต่อไปนะคะ
  12. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    พอเข้าสู้โหมดฟิคซีเรียสก็เขียนซะซีเรียสเลยนะโยจัง...ผิดกับฟิครั่วลิบลับ..

    เปิดตัวได้ดีจริงๆ - -b สงสัยต้องเอาเป็นตัวอย่างซะเเล้ว 555+
  13. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    ชอบมากๆๆ ทำให้อยากติดตามตอนต่อไปเร็วๆเลยค่ะ ><!!

  14. jimkung

    jimkung Member

    EXP:
    261
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    ว๊ากกก อ่านบทนำแล้วอยากอ่านต่อมากมาย อยากเห็นฝ่ายต่างๆต่อสู้ปะทะกันนนน
    กรุณาด้วยนะครับ อยากอ่านต่อ *-*
  15. endlich

    endlich Member

    EXP:
    123
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    พล๊อตเรื่องน่าสนใจดีนะครับ อยากเห็นอาวุธในตำนานของแต่ละท่านออกมาวาดลวดลายเร็ว ๆ จัง

    สู้ ๆ ครับ
  16. yoshiki

    yoshiki FATE

    EXP:
    862
    ถูกใจที่ได้รับ:
    17
    คะแนน Trophy:
    38
    Re: The Legacy War ~Prologue~ A Tale from future

    ~History’s Page I~

    ~The Flame of Heaven~​



    .....จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของสงครามครั้งนี้อยู่ที่การตามล่าบุคคลสองคน จะเรียกว่าพวกเขาบ้าดีเดือดหรือว่ามีฝีมือเทพเกินคนชั้นก็ไม่มั่นใจนัก แต่ด้วยวีรกรรมไล่ถล่มพวกที่ตามล่าพวกเขาจนไม่เหลือซากซึ่งจำนวนนั้นห่างกันลิบก็พอเพียงในการบรรยายสรรพคุณของพวกเขาได้ง่ายๆ

    ไอเย็นแห่งรัตติกาล และ นภาคำราม​


    หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรี ที่ในตอนนั้นตัวชั้นเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวก Section 5 ถึงได้ตามล่าตัวสองคนนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ที่แน่ๆศาสตราทั้ง 13 ต้องอยู่ในมือของสองคนนี้ และไม่ใช่เพียงชั้นคนเดียวที่คิดเช่นนี้คนอื่นๆเองก็เช่นกัน

    ถ้าไม่ถือทั้งสองชิ้นก็ต้องมีสักชิ้นล่ะหน่า

    ในศึกครั้งนั้นชั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มองค์กรที่ตามหาศาสตราในตำนานเช่นเดียวกันกลุ่มอื่นๆที่เคยเอ่ยถึงไป กลุ่มเล็กๆที่เป็นหนึ่งในหน้าสำคัญของประวัติศาสตร์นี้

    Netherworld​


    นั้นคือชื่อของพวกเรา

    กลุ่มของเรานั้นก่อตั้งหลังจากสองกลุ่มแรกนานพอควร เราอาศัยบ้านหลังกว้างๆที่ไม่เชิงว่าจะเป็นคฤหาสน์เท่าใดนักเป็นฐานบัญชาการที่มีเจ้าของบ้านเป็นพี่สาวอารมณ์ดีที่ใช้อาวุธน่าตาน่าสะพรึง พร้อมควบตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มไปในตัว

    ดวงตานรกไร้ก้น สมญาที่ไม่ได้เกินความจริงนักหากคุณเห็นแล้วจะเข้าใจเองแหละ


    ถึงแม้จำนวนสมาชิกของเราจะน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆมาก แต่สิ่งที่มาทดแทนคือผู้ถือครองที่มีจำนวนมากกว่ากลุ่มอื่นๆ แต่นั้นก็ไมได้หมายความว่าเราจะไร้เทียมทานอะไรนัก

    จริงๆแล้วหัวหน้าของเราไม่ได้อยากให้ชั้นเข้าร่วมสักเท่าไรนักหรอก อาจะเป็นเพราะว่าเด็กอายุ 12 อย่างชั้นจะให้ ไปจับอาวุธไล่ฆ่าคนมันก็กระไรอยู่ ซึ่งความเป็นจริงมันก็ไม่ได้เหมาะอะไรกับเด็กวัยนี้อยู่แล้ว

    แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ชั้นและเปลวเพลิงของชั้นต้องการ

    ชั้นไม่อยากอยู่ดูเพื่อนๆต้องออกไปสู้โดยที่ตัวเองได้แต่นั่งเล่นของเล่นอยู่ในบ้าน

    ชั้นไม่อยากทิ้งให้ผู้ที่ช่วยเหลือชั้นต้องต่อสู้โดยลำพัง

    และเพื่อตามหา พี่ชาย พี่สาว ที่หายไป


    “เจอตัวแล้ว !!!” เสียงตะโกนของหน่วยรักษาความปลอดภัยดังขึ้นพร้อมกันเสียงปืนนับสิบกระบอกที่ยิงไล่หลังมา เด็กสาวที่มีผมดุจเปลวเพลิงทะยานออกมาจากช่องอากาศขึ้นมาอยู่ด้านบนของโบกี้รถไฟที่แล่นตัดผ่านความมืดยามค่ำคืน มือขวานั้นถือดาบคาตาน่าเล่มยาวแทบจะเรียกได้ว่ายาวกว่าตัวเธอเสียอีก เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวสีเขียวเข้มเกือบดำพร้อมผ้าคลุมสีดำสนิทดูโดดเด่น แต่ที่ยิ่งกว่าคือ ดวงเนตรอัคคีที่ดุดันยิ่งกว่าผู้ชายตัวโตๆ

    “ฮัลโหลๆ “ เสียงจากกำไลข้อมือที่มีอัญมณีไร้สีประดับอยู่ดังขึ้น เด็กสาวเลื่อนมันเข้ามาใกล้ริมฝีปาก “เรน่า เหรอ....”

    “อีกไม่นานเจ้าคู่กัดดูโอ้ ทั้งสองจะไปช่วยตรงนั้นนะ ยังไงๆก็วิ่งเล่นบนรถไฟไปก่อนล่ะกัน” น้ำเสียงบ๊องๆกับข้อความชวนหัวเสียที่ผ่านออกมาจากอัญมณีทำเอาผู้รับสารสะอึกไปทีนึง

    “อะไรกันน่ะ ทำไมคนที่ทำตามแผนต้องมาซวยแทนพวกขึ้นรถไม่ทันด้วยเนี่ย” เด็กสาวตะโกนแข่งกับเสียงสายลมกรรโชกและเสียงกระสุนปืนที่ยิ่งไล่หลังเธอ

    “เดี๋ยวจะเร่งสองคนนั้นให้ล่ะกันนะ ว้าย !! ชั้นทำแก้วแตกอีกแล้วอ่ะ ไว้จะติดต่อไปใหม่นะ ฝากด้วยล่ะ เนตรอัคคี” แล้วสัญญาณก็ถูกตัดทิ้งให้เด็กสาวอยู่ตามลำพังอีกครั้ง แต่ตัวเธอเองไม่ได้มีเวลามาใส่ใจเรื่องสัญญาณกับแก้วที่แตกมากนัก เมื่อหน่วยรักษาความปลอดภัยกำลังขึ้นมาลากตัวเธอ

    เด็กสาวยืนนิ่งแม้จะถูกล้อมไว้ พลางใช้สายตากวาดไปทั้งสองด้าน “เอาล่ะหนูน้อย ยอมจำนนซะกระสุนปืนจะได้ไม่เจาะกะโหลกนะ” เสียงของ รปภ ที่อยู่ด้านหลังเธอพูดขู่พลางเอาปืนเข้ามาจ่อศรีษะ เนตรอัคคีมองไปทาง รปภ ก่อนจะยิ้มขึ้นเล็กน้อย “เท่านี้แกก็ตายแล้วล่ะ”

    พริบตาเดียวดาบคาตาน่าเล่มยาวก็ฟันร่างหน่วยรักษาความปลอดภัยรายนั้นขาดเป็นสองท่อน โลหิตสีแดงฉานสาดกระจาย ไม่รอช้าเธอพุ่งตัวเข้าหากลุ่มที่ยังยืนตกตะลึงด้านหน้าของเธอก่อนจะใช้ดาบในมือปลิดชีพไปอีกหลายศพ

    “ยิงโว้ย ยิงเลย “ พวกที่อยู่อีกฟากสาดห่ากระสุนเข้าใส่ เด็กสาวรีบหลบไปด้านข้างโบกี้ก่อนจะม้วนตัวผ่านหน้าต่างกลับเข้าไปอยู่ด้านใน พวกที่รออยู่ในตู้รถเมื่อเห็นเด็กสาวโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ทำอะไรไม่ถูก เนตรอัคคีไม่ปล่อยให้โอกาศนี้หลุดลอยไป เรือนผมสีเพลิงยาวสลวยเปล่งประกายขึ้นพร้อมกับแสงเจิดจ้าไปทั่ว

    ตูม !!!

    เสียงระเบิดดังสนั่นซึ่งมาพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกโชน เหล่า รปภ เคราะห์ร้ายโดนไฟคลอกกันเป็นแทบ มีเพียงเด็กสาวเกศาเพลิงที่ยืนอยู่ในกองไฟนั่นเท่านั้น

    “เฮ้ย นะ..นั่นมัน” เสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของ รปภ รายหนึ่งที่กำลังมองภาพโบกี้รถไฟที่โดนเปลวเพลิงลุกท่วม “หรือว่าจะเป็นเด็กคนนั้น”

    หน่วยรักษาความปลอดภัยอีกคนเอ่ย “ไม่ผิดแน่ เด็กผู้หญิงที่เคยบุกทำลายหน่วยจู่โจมของกลุ่มเราด้วยตัวคนเดียว เปลวเพลิงแห่งสวรรค์

    มือสังหาร เกศาเพลิง เนตรอัคคี !!!!


    ชานะ !!!!! “ เสียงตะโกนจากด้านนอกดังเข้ามา แม้มันจะไม่ดังมากพอที่จะสู้กันแรงลมและเสียงอื่นๆตรงนั้นได้ ทว่าก็เพียงพอที่จะทำให้เธอได้ยินและมองออกไปด้านนอก “มาแล้วเหรอ ไอ้พวกบ้า !!”

    “ขอโทษด้วยจ้า ชานะจาง !!” ชายหนุ่มผมสีดำยาวที่รวบผมไว้ด้านหลัง กำลังบิดมอเตอร์ไซด์เก่าๆตามความเร็วรถไฟได้อย่างเหลือเชื่อเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินเหมือนแจ๊กเก๊ตก็พองขึ้นเหมือนมีลมผ่านเข้าไปด้านใน โดยมีหนุ่มชุดดำเจ้าของผมสั้นสีขาวนั่งซ้อนท้ายมาด้วย

    “เพราะ ไอ้เบื้อกนี้มันดันอยากกินโซบะก่อนทำภารกิจก็เลยขึ้นรถไม่ทันอ่ะจ้า !!!!” หนุ่มคนขับหันไปว๊ากใส่คนนั่งหลังทีนึงก่อนจะกลับไปคุยกับคู่สนทนาเดิม

    “แล้วทีเอ๊งล่ะฟ่ะเร๊กซ์ มาบ่นว่าต้องกินราเม็งก่อนมันก็เสียเวลาพอๆกันล่ะว่ะ” หนุ่มหน้ากวนที่นั่งซ้อนท้ายตะโกนเถียงพลางใช้พลังลมหนุนความเร็วรถไปด้วย

    ส่วนสาวน้อยที่ยังอยู่ในโบกี้ที่ไฟลุกท่วมเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นกับไอ้นิสัยทะเลาะไร้สาระไม่ดูเวล่ำเวลาของเจ้าคู่กัดทั้งสองนี่ “โว้ย คุยอะไรกันไม่เห็นรู้เรื่อง ถ้าจะทะเลาะกันไป....” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อ กระสุนนัดหนึ่งก็เฉียดหน้าเธอไป ยังดีที่ปฎิกริยาของเธอนั้นเยี่ยมพอ มิเช่นนั้นมันคงจะแล่นทะลุแก้มขวาไปแล้ว

    เด็กสาวหลบเข้ามานั่งในโบกี้ พริบตาเมื่อครู่แม้จะอยู่ในสถานการณ์เฉียดตาย แต่สายตาของเธอก็ไม่พลาดที่จะมองเห็นมือสังหารที่ไกลออกไปในเสียววินาที ชานะรีบเปิดประตูออกไปอยู่บริเวณตัวเชื่อมระหว่างตู้รถ เธอมองผ่านเข้าไปในกระจกวงกลมบนประตูที่อยู่ตู้ถัดไป เมื่อแน่ใจว่าไม่มีพวกหน่วยรักษาความปลอดภัยเธอจึงทะยานจากตู้ที่ไฟไหม้ไปอีกตู้นึง

    กำไลข้อมือของเธอส่งแสงสีขาวเล็กๆออกมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นเสียงของเร๊กซ์ที่กำลังบิดมอเตอร์ไซด์หลบกระสุนปืนที่ยิงมาจากโบกี้ด้านหน้า “ชานะจาง ไม่เป็นไรช่ายไหม !!!”

    “อือ ชั้นไม่เป็นไร แต่มีมือสไนเปอร์อยู่ถัดจากตู้ที่ชั้นอยู่ไป 5 โบกี้ เร๊กซ์นายจัดการมันได้ไหม” ชานะพูดพลางเปิดประตูเข้าไปหลบด้านในโบกี้ว่าง

    “ไม่มีปัญหา” เร๊กซ์เปลี่ยนมาเป็นซิ่งด้วยมือเพียงข้างเดียวมือซ้ายของเขามีประจุไฟฟ้าไปรวมอยู่เป็นกลุ่มก้อน ดวงตาสีเทาจับจ้องเป้าหมาย ซึ่งก็คือมือสไนเปอร์ ที่กำลังเล็งปืนมาทางพวกเขาพร้อมด้วยเหล่า รปภ ที่ถืออาวุธกันครบมือ

    มือขวาที่ร่วมรวบประจุไฟฟ้าได้มากพอตามที่ต้องการ ก็ถูกเหวี่ยงออกไปด้วยความเร็วมหาศาล เหล่า รปภ ที่เห็นก้อนไฟฟ้าพุ่งตรงมาก็หาที่หลบกันจ้าล่ะหวั่น

    แต่เมื่อก้อนพลังงานนั้นไปถึงเป้าหมายภายในโบกี้มันกลับหายไปราวกับอากาศธาตุไม่เกิดการระเบิดหรือเป็นอันตรายใดๆทั้งสิ้น

    “เฮ้ย เราโดนหลอกแล้ว” รปภ รายนึงตะโกนบอกคนอื่นๆ แต่สายไปแล้วเมื่อประตูโบกี้ถูกเปิดออกด้วยแรงมหาศาลพร้อมเปลวเพลิงที่พุ่งมาราวกับสายน้ำที่เทลงแก้ว เหล่าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้ระวังตัวจึงกลายเป็นเพียงเถ้าถ่านในทันที

    “เร็กซ์ นายทำอะไรของนายกันน่ะ” เสียงเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดลอดผ่านอัญมณีไร้สีที่ข้อมือ

    “อ้าว ก็จะได้ให้ชานะได้โชว์ไง” เร็กซ์ตอบกลับ แต่มีเพียงเสียงสัญญาณที่ถูกตัดเท่านั้นที่ตอบกลับมา

    “เร็กซ์เอ๊ย จบภารกิจนี้เอ็งไม่รอดแน่เลยว่ะ” ชายหนุ่มที่ซ้อนท้ายพูดปลอบใจพลางตบบ่าเร็กซ์เบาๆ

    “เออ ขอบใจว่ะฮิวโก้ ถ้าตูตายไปล่ะก็ช่วยบอกคนอื่นๆด้วยว่าตายด้วยน้ำมือคนรักนะ” เร็กซ์เอ่ยพลางเช็ดน้ำตาด้วยความซาบซึ่ง

    ชานะ ยังคงมุ่งต่อไปจากโบกี้นึงไปอีกโบกี้ พร้อมกับเปลวเพลิงที่สังหารคนที่ขวางหน้าเธออย่างไร้ความปราณี จนพวก รปภ เริ่มจะรักชีวิตไม่เข้ามาต่อกรกับเธอมากนัก เนตรอัคคีคอยสอดส่องหาสินค้าสำคัญที่เธอได้รับคำสั่งให้มาชิงมันคืนไป

    สาวเกศาเพลิงมาจนเกือบจะถึงหัวรถจักรซึ่งในตู้รถนั้นเต็มไปด้วยกล่องสินค้ามากมาย และมีคนเฝ้าเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น เป็นชายหนุ่มในชุดเสื้อแขนสั้นสีดำกับกางเกงขายาวสีดำเช่นเดียวกัน ดวงตาสีน้ำตาลที่ไร้อารมณ์และเรือนผมสีเงินตัดกับแสงสลัวจากภายนอก

    เด็กสาวยกดาบยาวขึ้นในท่าเตรียมพร้อม แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้แสดงท่าทางใดๆออกมา กลับกันเขาเดินไปที่กล่องเล็กใบหนึ่งที่วางในจุดสังเกตเห็นง่าย มือที่สวมถุงมือสีดำหยิบกล่องใบนั้นขึ้นพลันก้าวเดินมาหาเนตรอัคคี ที่ยังคงระวังตัวอยู่ “ที่ ที่อันตรายที่สุดคือ ที่ปลอดภัยที่สุด” เขาพูดขึ้นพร้อมส่งกล่องใบนั้นให้ชานะ

    “อะไรของนาย...” เด็กสาวถามด้วยความงุนงง แต่สายตายังคงความดุดันเอาไว้

    “นี่คือสิ่งที่เธอมาหาไม่ใช่เหรอ” ชายคนเดิมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ชานะใช้ดาบขอเธอจี้ไปที่คอของชายหนุ่มก่อนจะคว้าของในมือมาด้วยความรวดเร็ว

    เนตรอัคคี ก้าวถอยหลังออกมาโดยที่ดาบของเธอยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม “นายต้องการอะไรกันแน่”

    ชายผมเงินไม่พูดอะไรก่อนจะหันกลับไปนั่งอยู่บนลังไม้ใบใหญ่ “สักวันเธอจะรู้ เปลวเพลิงแห่งสวรรค์ ชั้นชอบชื่อนี้มากกว่าชื่อเนตรอัคคีของเธออีกนะ”

    ดูเหมือนเขาจะรู้เรื่องของเธอเป็นอย่างดี ชานะคิดเช่นนั้น พลางเหลือบไปเห็นสัญลักษณ์บนอกเสื้อ “นายเป็นคนของ Section 5 ไม่ใช่เหรอ”

    “จะถามว่าทำไมชั้นทำแบบนี้ใช่ไหม ก่อนอื่นเปิดของในนั้นก่อนดีกว่า”

    ชานะ ระแวงเล็กน้อยที่ศัตรูตรงหน้าเร่งเร้าให้เธอเปิดกล่องในมือออก แต่สิ่งที่เธอสัมผัสได้นั้นคือสินค้าที่เธอต้องการอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้ดั่งนั้นชานะจึงลดดาบตัวเองลงและค่อยๆเปิดมันออกอย่างระมัดระวัง ของข้างในเป็นมีดสั้นที่มีคมสีฟ้าอ่อน ตัวด้ามทำจากทองคำบริสุทธิ์และสลักด้วยลวดลายอันสวยงาม ที่สำคัญมันมีไอเย็นไหลออกมาตลอดเวลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันบ่งบอกถึงชื่อของมัน

    เมื่อแน่ใจแล้วว่าของในมือเธอถูกต้อง ชานะจึงนำมันเก็บไว้ในเสื้อของเธอดาบเล่มยาวถูกยกขึ้นจ่อหน้าบุรุษผมเงินอีกครั้ง “นายต้องการอะไรกันแน่” คำถามเดิมถูกตั้งขึ้นมาอีกครั้ง

    “สักวันเธอจะรู้เอง “ และคำตอบเช่นเดิมก็ถูกตอบ ชานะลดดาบของเธอลงก่อนจะพุ่งทะยานออกนอกโบกี้ด้วยความรวดเร็ว “เกศาเพลิง เนตรอัคคี งั้นเหรอ สักวันคงทำให้เราสนุกได้ไม่น้อย....”


    ......... หลังจากนั้นชั้นได้ออกมาสมทบกับเร็กซ์และฮิวโก้ด้านนอก ซึ่งทั้งสองคนต่างก้มหัวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ และพฤติกรรมแบบนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นจนพวกเราเอื้อมระอากันถึงที่สุดแม้แต่หัวหน้าของเรายังอดที่จะต่อว่าไม่ได้กับเรื่องที่ทั้งสองคนมักทำให้เสียงานอยู่เรื่อย แต่มันก็มีเหตุผลที่สองคู่กัดนี่มักได้งานร่วมกันประจำ

    นั้นก็เพราะว่า เทพอัสนีบาตรและเทพวายุ มักเข้าขากันในสนามรบเสมอ


    งานครั้งนั้นคือการแย่งชิงกริดแห่งน้ำแข็ง Gram’s Dagger คืนมา หลังจากที่สมาชิกคนนึงของกลุ่ม Cross Knight พลาดท่าเสียทีให้กับ Section 5 ไม่ได้หมายความว่าสมาชิกผู้ถือครองศาสตรคนนั้นฝีมืออ่อนหัดแต่อย่างใด แต่เพราะเล่ห์กลในการต่อสู้ครั้งนั้นทำให้พวก Cross Knight ต้องเอาชีวิตไปสังเวยกันมากพอดู แม้จะเสียอาวุธคู่ใจไปแต่ตัวเจ้าของก็ยังอาศัยฝีมือรอดกลับมาได้อย่างเหลือเชื่อ

    เขาก็คือ เงาแห่งความตาย

    เลนาส เซอราส

    อีกหนึ่งมัจจุราชในสนามรบ​


    ที่หัวหน้ารับงานทวงของคืนครั้งนี้ก็เพราะบุญคุณที่เคยมีให้กัน ซึ่งตัวหัวหน้าเราเองก็ไม่อยากจะแบกรับมันไว้นานเท่าใดนัก เมื่อเราทราบข่าวการขนย้าย ชั้น เร็กซ์ และฮิวโก้ จึงถูกส่งไปแย่งชิงมันกลับคืน รองหัวหน้าแนะนำให้ลอบขึ้นไปจู่โจมและค้นหาให้เร็วที่สุด มันจะได้ผลดีกว่านี้ถ้าไอ้สองคนนั้นดันไม่ทำเสียงานซะก่อน

    แต่สิ่งที่ทำให้ชั้นไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลาก็คือ ชายคนนั้น ตัวตนของผู้ที่ให้กริดคืนมาอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ยอมบอกสาเหตุที่แท้จริง บุรุษผมเงินผู้ยืนอยู่กลางแสงจันทราที่ลอดผ่านเข้ามาทางช่องเล็กๆในนั้น ชายที่เต็มไปด้วยปริศนาที่ชั้นไม่อาจเข้าใจ



    เช้าวันรุ่งขึ้น ณ เทรโน่ เมืองชายแดนระหว่างโครลิสและเบลก้า ที่สภาพในเมืองนั้นค่อนข้างจะคึกคักและยิ่งมากขึ้นในยามค่ำคืน ตัวเมืองเต็มไปด้วยสินค้ามากมายทั้งจากโครลิส เบลก้า หรือกระทั่งฟาลาจิที่อยู่ไกลออกไป รวมทั้งเป็นสถานนีรถไฟหลักที่ใช้ในการเดินทางเข้าไปในเขตเบลก้าจากทางพรหมแดนทิศตะวันออก

    เด็กสาวที่ถูกปลุกด้วยเสียงสัญญาณจากอัญมณีสื่อสาร “Crystal letter” เธอค่อยๆใช้มือเล็กๆนั้นคลำ ไปรอบๆหัวเตียงจนคว้าอุปกรณ์ของเธอได้ “เรน่า เหรอ....” เสียงเล็กๆดังขึ้น

    “เป็นไงมั้งจ๊ะ เนตรอัคคี งานเรียบร้อยดีไหม” น้ำเสียงใสจากอีกฝากช่วยเติมบรรยายกาศยามเช้าได้เป็นอย่างดี

    “อือ ก็เรียบร้อยแหละ แล้วจะให้เอากลับไปเลยไหม”

    “อ่าห่ะ แต่ว่าให้เจ้าบ้าสองคนนั้นเอากลับมานะ ส่วนน้องสาวที่น่ารักยังคงมีภารกิจอยู่” เรน่า หน่วยข่าวกรองและเจ้าหน้าที่สื่อสารของทีม ยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสแต่สาวตาของชานะนั้นผิดไปจากเดิมทันที

    “ว่ามา....” ชานะที่ตอนนี้อยู่ในสภาพผิดไปกับเมื่อวานลิบลับผมของเธอแม้ยังคงยาวสลวยแต่กลายเป็นสีดำสนิท แม้แต่ดวงตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงก็กลายเป็นสีดำเช่นกัน

    “นั่งรถไฟเที่ยวเช้าวันนี้ไปเมืองหลวงของเบลก้า” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชานะมีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย งานครั้งนี้ไม่ต่างอะไรไปจากเข้าไปในรังศัตรูเลยทีเดียว

    “ให้ไปทำอะไรล่ะ...ถ้าจะให้ไปถล่มพวกมันก็ไม่ไหวหรอกนะ” เธอพูดติดตลกเล็กน้อย

    “ไม่ใช่หรอกแค่ไปรับคนเท่านั้นเอง ส่วนเอกสารที่ใช้ปลอมแปลงนั้นให้ชุดเดียวกับที่เธอได้รับไปนะ” ชานะหันกลับไปดูกระเป๋าเอกสารของเธอที่ทางกลุ่มจัดการปลอมแปลงให้เธอกลายเป็นเพียงนักท่องเที่ยวในคราบเด็กน้อยซึ่งก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร

    “ไม่ต้องเครียดไปหรอก ไงๆตอนผมดำนี่ก็ไม่มีใครจำได้แล้วนี่” แม้เรน่าจะพูดมีเหตุผลแต่มันทำให้ชานะรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

    “แล้วหน้าตาของคนที่จะให้ไปรับล่ะ” เนตรอัคคีถามเข้าประเด็น

    “ชายหนุ่มหน้าตาดี ผมสีแดงสด แล้วก็ถือดาบสีขาว” เมื่อได้ยินแบบนั้นชานะก็เบ๊หน้าเล็กน้อย

    “คนแบบนั้นหาที่ไหนก็มี เอาลักษณะเด่นๆกว่านี้ไมได้เหรอ”

    “คือว่า......ลืมไปแล้วอ่ะ” เรน่าสารภาพตรงๆซึ่งนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเธอเช่นเดียวกัน เพราะหน่วยข่าวกรองคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเฟอะฟ่ะ ใส่ซื่อ เป็นที่หนึ่ง

    “โอเคๆ แต่ถ้าชั้นไปแล้วไม่เจอ จะกลับเลยล่ะกัน”

    “ไม่ได้ๆ หัวหน้ากำชับมาว่าไงๆก็ต้องไปรับมา” เรน่ายืนคำขาด ไม่ใช่จากเธอ แต่เป็นจากหัวหน้า

    “เฮ้อ.....ถ้าหาไม่เจอชั้นโทษเธอล่ะนะ ยัยเฟอะ” ชานะคุยกับคนที่อายุมากกว่าเธอเหมือนคนอายุเท่ากัน

    “จ้าๆ แม่น้องตัวดี แล้วเจอกันนะ” สิ้นเสียงนั้นสัญญาณก็ถูกตัดไป เนตรอัคคีกลับเข้าไปเตรียมตัวออกเดินทางอีกครั้ง โดยที่ทิ้งจดหมายพร้อมทั้งสินค้าสำคัญให้กับสองหนุ่มที่ยังนอนหลับไม่ได้สติ แม้ตัวเธอจะหวั่นๆว่าเจ้าสองคนนี้จะรักษาของได้หรือไม่ แต่เธอไม่มีเวลาแล้ว

    รถไฟจากเทรโน่มุ่งตรงไปยังนครหลวงแห่งเบลก้า ณ ที่นั่งผู้โดยสารเด็กสาวผมดำยาวนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าตาคำนึงถึงบุคคลที่จากเธอไป ซึ่งตัวเธอเองก็พยายามหาตัวทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันเป็นเป้าหมายสำคัญของเธอ


    ........ชั้นต้องไปอยู่บนรถไฟอีกครั้งแต่คนล่ะฐานะกับเมื่อคืนวานที่เป็นผู้บุกรุก แต่วันนี้เป็นเพียงผู้โดยสารคนนึง ด่านตรวจของเมืองเทรโน่เองก็ให้ชั้นเข้าเมืองได้ง่ายๆเพราะเจ้าพวกนั้นติดเหล้ากันงอมแงม ขนาดตอนยื่นเอกสารให้ดูยังไม่คิดจะดูเลย แถมกลิ่นเหล้าก็คละคลุ้ง แต่ก็เป็นโชคดีไปทำให้ชั้นไม่ต้องหนักใจกับการเดินทางมากนัก

    สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านเรือนและเครื่องจักร เทคโนโลยีของเบลก้านั้นล่ำหน้ามากกว่าอาณาจักรอื่นๆมาก ทั้งพาหนะ อาวุธ หรือแม้แต่บุคลากร แต่สิ่งที่ชั้นมองไปมีเพียงอย่างเดียวนั้นคือ ท้องฟ้าสีครามและปุยเมฆสีขาวสะอาด

    และการเดินทางครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ชั้นจะได้เจอกับคนๆนั้น อสูรสงครามที่ยังไม่เคยปรากฏผลงานใดๆเลย แม้แต่ตอนนี้ชั้นยังคงจำได้ดีกับการพบกันครั้งแรกของชั้นและ “เดม่อน ลอร์ด”



    …………………………………………………………………………………………

    Talk Talk Talk

    คลอดตอนหนึ่งออกมาก่อนจะหนีไปจัดการธุระส่วนตัวสักระยะ จึงขออนุญาตดองงานทั้งหลายทั้งปวงไว้ก่อนนะครับ ช่วงนี้สถานการณ์ชีวิตผมย่ำแย่มากพอดู ตอนแรกเลยออกมาไม่ดีอย่างที่คิดเอาไว้ จะทำให้ผิดหวังกันหรือเปล่าเนี่ย

    จะว่าไปพอมาเขียนฟิคไม่รั่วแล้วคนล่ะอารมณ์กันเลยแหะ รู้สึกแต่งยากกว่าปกติสามเท่า แต่ก็ยังติดอะไรรั่วๆมาอยู่ดี 555+

    ส่วนใครที่มาอ่านแล้วสนใจร่วมสนุกยังรับคนอยู่นะครับหรือหน้าเดิมๆจะยัดอีกสักตัวสองตัวผมก็ไม่ว่างกันนะ

    Special Thanks

    -ชานะ (Shakugan no Shana) หนึ่งในตัวละครล็อกเลขที่ผมตั้งใจไว้แต่แรกแล้วเจ้าของสมญาเนตรอัคคีที่ทุกคนเดาๆกัน (หรือใครบางคนรู้ทันทีเหมือนเห็นฉายา) พยายามจะเขียนในแบบออริจินอลนะ แต่ไปๆมาๆดันเป็นชานะในแบบของตัวเองไปซะได้

    -เรน่า ไอรีนเน่ โดย ดิริกคุง ผมชอบนะเธอคนเนี่ย สาวเอ๋อที่มาพร้อมความรั่วทุกอิริยาบถแล้วจะไปเอาชีวิตรอดในโลกที่โหดร้ายอย่างงี้ได้งายยยยย (แต่ก็ขอบพระคุณอย่างสูงสำหรับตัวละครตัวนี้นะครับ)

    -เร็กซแนล ซาเมอท์ โดย แม็กจัง ก็นึกอยู่แล้วว่าต้องออกมาประมาณนี้ ทำนิสัยแบบนี้กะไว้ดูเซอร์วิสชานะสินะ รู้หรอกหน่า

    -ฮิวโก้ โอเวอร์เเมน โดย เจโนวา มิทราบว่าติดเชื้อผมหรืออย่างไร ตัวละครท่านถึงได้บ้าม่อถึงเพียงนี้ แต่ตอนนี้บทม่อๆยังไม่ออกนะ รอไปก่อน (จะเอาบ้าม่อหรือบ้ากามดีแหละ สองอย่างก็ได้นะ)

    -และเหล่าผู้ที่ออกมาเพียงสมญานามทั้งหลาย (เรียกกันด้วยฉายานี่รู้สึกมันเท่ห์ดีแหะ)

    And All Friends And Fans THANKS !!!!!!
  17. Ryuto

    Ryuto 終わる道、始まる夢

    EXP:
    964
    ถูกใจที่ได้รับ:
    16
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    ชานะมาแต่ไกล มันเป็นตัวเอกสินะเน้อ

    เนื้อหายาวได้ใจ เรื่องบรรยายผมไม่กล้าอธิบาย(ยังไม่โปร)

    โดยรวมแล้ว(สำหรับผม)ถือว่าน่าติดตามดีครับ

    ป.ล.กองโจรอาภัพคงซุ้มนานพอดู- -"
  18. train

    train Member

    EXP:
    498
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    โอ้ๆมาไวแท้ๆ ^^
    เรียกฉายามันดูเท่กว่าจริงๆด้วยแฮะ แบบนี้ก็ดีนะ Oo!
    การบรรยายนับว่าลื่นครับ >w<b เยี่ยมแล้ว ขอให้พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆน้อ ^^
    ส่วนเนื้อเรื่องนี่ขำเรน่า กร๊าก ขนาดโผล่แต่เสียงยังเดาความซุ่มซ่ามได้ 555
  19. Hell

    Hell Member

    EXP:
    405
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    ตอนแรกมาไว้ทันใจจริงๆ เริ่มเรื่องมาก็สนุกแล้ว
    และก็อย่างที่ คุณRyutoบอก ชานะมาแต่ไกลจริงๆ(ฮา)
    สำหรับตอนแรกแล้วผมขอบอกเลยว่า "สนุก"ครับ
    น่าติดตามมากๆ ชักอยากจะอ่านตอนต่อไปไวๆซะแล้วสิ
  20. alladiya

    alladiya สมาชิกที่ไม่มีอยู่จริง

    EXP:
    1,207
    ถูกใจที่ได้รับ:
    11
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    เออฟร่ะ เรียกฉายาแล้วเท่แบบอัพเลเวล กร๊าก

    โยเขียนแบบนี้บอกตามตรงว่าชอบอ่ะ เขียนดีกว่าแบบรั่วๆอีก (คือมันก็คนละแบบกันอะนะ เอาเป็นว่าชอบทั้งคู่แหละ) :???: :???:
    เรน่าโผล่มาแค่เสียงก็แอบรั่วได้จริงๆด้วยกร๊าก
    ขอบอกว่าสนุกมากๆ>w< มาเข้าคิวรอติดตามตอนต่อไปน้อ
  21. derick

    derick Member

    EXP:
    339
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    ว่าแล้วเชียว ซานะมาแต่ไกลจริง ๆ ด้วย กร๊ากกกกกกก ผมก็หาอยู่ว่าคาร์ใครหนอ...ที่แท้ก็ออริจริง ๆ

    นี่ขนาดแค่เสียงยังรั่วขนาดนี้ แล้วตัวจริงพี่ท่านจะบ้าบอขนาดไหน หน่วยข่าวบ้าไรฟ่ะลืมหน้าตา กร๊ากกกกกกกกกกกก

    คาดว่าอีกไม่เกิน 3 ตอนเรน่าต้องตกงานชัวร์ๆ 55555

    รอตามต่อคร้าบบบบบบ~
  22. sumiyo

    sumiyo Vincent4ever!!!

    EXP:
    267
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    ..บอกได้คำเดียวว่า "ชอบ" อ้ะ!!! >w<

    เนื้อเรื่องลื่นไหลดีมาก~~ เรน่าเปิดตัวราวกับจะเป็นตัวเอกตัวที่ 2 เลยทีเดียว 555+~

    ที่สำคัญ!! แก๊ง Netherworld เราได่ตัสชานะจังมาครอบครองง~~ วะ5555+~~!!


    ยังไงก็สู้ๆต่อไปนะจ๊ะ! เป็นกำลังใจให้~~~ \^w^/
  23. jenovasung

    jenovasung Member

    EXP:
    152
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    16
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    เค้าขอเป็นหน้าม่อโลลิค่อนได้มะ โยจัง ก๊ากกก

    โผล่มาก็เถียงกันดีจริงไอ้คู่กัดคู่นี้ ดูถ้าจะไปกันได้ดีในสนามรบนะ ว่าเเต่ตอนนี้เซอวิสเเต่เจ้าเเม็คโดยเฉพาะสินะ 55555

    ป.ล.ผมคงไม่ได้เข้ามาสัก2-3อาทิตย์น้า..หน้าจอคอมที่บ้านมันพึ่งจะไหม้ไป....เเง..
  24. maxlancer

    maxlancer ประธานรุ่น2ตุรกีเชียงใหม่

    EXP:
    1,183
    ถูกใจที่ได้รับ:
    1
    คะแนน Trophy:
    88
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    [ก่อนหน้านี้ซัก2ชั่วโมง] เหนื่อยจากค่ายแทบขาดใจ

    [หลังจากอ่านฟิค] อ้ากกก ชานะ!!!!! ฮิ้วววววววว (HP MAX)

    ว่าแต่เจโนว่าจอคอมเน่าแล้วเหรอเนี่ย โถ่....ไร้เพื่อนคุยเลย=="
  25. near

    near Member

    EXP:
    334
    ถูกใจที่ได้รับ:
    4
    คะแนน Trophy:
    18
    Re: The Legacy War ~Page 1~ Flame of Heaven

    พี่โยครับ... เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตาม สำนวนไม่ติดขัดแต่อย่างใด

    แต่ว่า...มีเพียงปัญหาเดียวก็คือ" ผมไม่เคยอ่านชานะง่า~~"

    [action]ผมทำอารมณ์ร่วมไม่ค่อยได้น่ะ เอิ้กๆ[/action]

Share This Page