พอดีเดี๊ยว จะต้องมีสัมภาษณ์คน นิดหน่อยน่ะครับ มานั่งนึกๆ ก็เลย อยากได้ไอเดีย ทำนองว่า ถ้าจะถามคำถามคน เพื่อวัด attitude, วัดความพยายาม วัดทัศนคติต่างๆ วัดความสามารถในการเรียนรู้ จะถามลักษณะไหน ยังไงดี ที่สั้นๆ เข้าใจง่าย ครับผม อยากดู ไอเดีย ของคนอื่นๆ ครับ ^^ แถมอีกข้อครับ แต่เดี๊ยวแยกอีกกระทู้ดีกว่า edit : สัมภาษณ์เพื่อมาทำงานครับ Role : Software Developer & Problem Solving ส่วนอีกอันนั่นของเด็กฝึกงาน จริงๆ ก็ไม่ได้อะไรมาก แต่อยากดูไอเดียคนอื่นๆ น่ะครับ ว่าคิดยังไงกัน edit2 : ทัศนคติ ในแง่การทำงานร่วมกับผู้อื่น ในแง่การเผชิญหน้ากับปัญหาคนเดียว ต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง อาจจะเจอ ปัญหาหลายๆ case ประดังเข้ามา และทุกอัน ต้องระบุได้ว่า จะเสร็จเมื่อไหร่ มุมมองในการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง มุมมองในการที่จะสอบถาม หรือขอความช่วยเหลือ คำปรึกษาจากคนอื่น หรือประมาณด้านล่างนี้ ความสามารถในการทนต่อ ปัญหาหลายๆ ปัญหาในเวลาเดียวกัน ความไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ความสามารถในการศึกษาสิ่งที่คนอื่นทำเอาไว้ โดยที่มี information ทิ้งเอาไว้น้อยนิด ความสามารถในการ แก้ไขปัญหา วิเคราะห์ปัญหา ด้วยตัวเอง เพียงลำพัง ความสามารถในการ ทนต่อการกำหนดเวลา แล้วเสร็จ ในแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้น ความสามารถในการ สื่อสาร สอบถาม ประสานงาน ขอคำปรึกษาจากผู้อื่น ประมาณนี้ล่ะครับ คำถามก็คงต้องสั้นๆ สามารถตอบ ได้ในเวลาไม่นาน มีหลายข้อได้ แต่ไม่มากเกินไปน่ะครับ เอาเป็นแนวคิดก็ได้ครับ มาเป็นไอเดียเฉยๆ ห้ามเครียด.......
ถามแบบสร้างตุ้กตาดีมั้ยฮะ? สร้างสถานการณ์สมมุติสำคัญๆให้เค้าไปสถานการณ์นึง แล้วดูความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นๆ ว่าเค้าคิดยังไง แล้วก็แก้ไขแบบไหน (ตอนนั้นอาจจะมีเพิ่มเงื่อนไขให้ยากขึ้นไปเรื่อยๆ เช่น ถ้า...จะทำไง พอเค้าตอย ก็เพิ่มสถานการ์ที่แย่ลงให้เค้า..) ถ้าพลิกแพลงผมว่า ใช้วัดอะไรๆได้หลายอย่าง ทั้งทัศนคติ ความสามารถในการแก้ปัญหา นะครับ ปล.ผมเอามาจากสัมภาษณ์วิชาสหกิจของคระผมนะ เห็นว่าเค้าจะถามประมาณนี้
มันต้องรู้จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์ด้วยสิครับ ^^ attitude มันก็มีหลายด้าน, ความพยายามมันก็มีหลายด้าน, ทัศนคติมันก็มีหลายเรื่อง คนบางคนอาจจะมีความพยายามในหลายด้าน ทัศนคติดีหลายด้าน แต่มันก็ไม่มีใครในโลกดีหรือเลวไปหมดทุกด้านหรอกครับ ถ้าให้ผมเดาจากกระทู้อีกกระทู้ที่พี่อาโลฮ่าตั้ง คือสัมภาษณ์เข้าฝึกงานใช่ไหมครับ? งั้นเราต้องตั้งโจทย์ถามตัวเองก่อนครับ ว่าเราคาดหวังอะไรจากนิสิตที่จะมาฝึกงานกับเรา งานที่พี่อาโลฮ่าจะให้เค้ามาเรียนรู้ เค้าต้องมีอะไรบ้างถึงจะเรียนรู้ได้ดี เช่นถ้าต้องการคนที่เข้ากับคนอื่นได้, อ่อนน้อมถ่อมตน, ใฝ่รู้ในเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี ก็อาจถามคำถาม 1.สมมติคุณเข้ามาฝึกงานแล้วเจอนิสิตคนอื่นที่ไม่ชอบหน้าคุณ คุณจะทำยังไง? 2.สมมติคุณเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ แล้วเจอเจ้านายที่โขกสับ ใช้งานคุณหนัก แต่กลับได้หน้าแทนคุณ จะทำยังไง? 3.ตอนนี้คุณสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆอะไรอยู่ ทำไมถึงสนใจ ลองเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อย 4.ถ้าคุณโดนลักพาตัวไปอยู่ในประเทศที่คุณไม่รู้จัก พูดภาษาเค้าไม่ได้ จะทำยังไง? ถ้าต้องการคนฉลาด ตรรกะดี มีความรู้ เรื่องสังคมเอาไว้ทีหลัง ก็อาจถาม 1.คุณคิดว่าเรือซึ่งทำจากเหล็กจึงลอยน้ำได้อย่างไร ทั้งๆที่เหล็กหนักกว่าน้ำ (ฟิสิกส์พื้นฐาน) 2.สบู่ทำงานอย่างไร จึงทำให้ตัวเราสะอาดกว่าใช้น้ำเฉยๆ (เคมีพื้นฐาน) 3.สัตว์แตกต่างจากพืชอย่างไร? แบคทีเรีย/จุลชีพต่างๆ ถือเป็นสัตว์/พืชมั้ย? (ชีวะพื้นฐาน) 4.แสดงให้ดูหน่อยว่าปริมาตรของพีระมิดจะเป็น 1/3 ของกล่องที่มีพื้นที่ฐานและความสูงเท่ากัน (แคลคูลัสพื้นฐาน) 5.ปลูกต้นไม้ 4 ต้้น ให้ระยะห่างระหว่างแต่ละต้นเท่ากันหมด จะทำยังไง? (ปัญหาเชาวน์) ถ้าต้องการคนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง ก็อาจถาม 1.คุณคิดว่าห้องนี้มีปริมาตรเท่าไหร่ คิดยังไง? (ให้กะเอา ห้ามลุกไปวัด) 2.ถ้าเจ้านายให้คุณหาความเร่งโน้มถ่วง (ค่า g) ในห้องนี้ คุณจะหาด้วยวิธีไหน? เพราะอะไร? 3.ถ้าีอีก 5 นาที ต้องมีรายงานหน้าชั้น แต่กลุ่มคุณไม่มีงานอยู่ในมือแม้แต่น้อย จะทำยังไง? ความจริงคำถามที่น่าถามอีกเพียบ แต่รอพี่อาโลฮ่ามากำหนด scope ก่อนดีกว่า แล้วจะมาช่วยคิดต่อครับ
"คุณจะเข้ามาทำงานในส่วนนี้ คุณพอรู้อะไรเกี่ยวกับงานนี้บ้าง และคุณคิดว่าคุณจะทำมันได้ดีแค่ไหน ถ้าไม่ได้คุณจะแก้ไขมันอย่างไร" กว้างสุดๆ ถ้าได้อย่างที่ _ƒ¯@¯ƒ_ ขอไปจะกลับมาตอบอีกรอบ
ไม่รู้ว่าลุงรีบรึเปล่า ... แต่ ถ้ายังไม่รีบมากมาย ไว้ผมสอบเสร็จ แล้วจะมาขอร่วมวงด้วยครับ ... แต่กระนั้นก็มีประเด็นที่อยากแนะนำให้พิจารณาไว้ก่อน 3 ประเด็น คือ 1. ทัศนคติ (เจตคติ) ในความหมายของพี่นุกคือ ... อะไร? (ถ้าอิงทางจิตวิทยาสังคมจริงๆ เรื่องยาวสุดๆ) 2. อย่าลืมว่า ... การตอบคำถาม ก็คือ การประมวลผลทางความคิด ซึ่ง คนที่มีไหวพริบ และ ความคิดที่ดี ... ไม่ใช่คนที่มีทัศนคติที่ดี (ในด้านนั้นๆ) ในองค์ประกอบของทัศนคติหรือเจตคติ (ได้แก่ ความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรม) outcome ที่ใช้ในการอนุมานถึงทัศนคติแล้วน่าเชื่อถือน้อยที่สุด ได้แก่ ... ความคิด เพราะ ... 1) ถูกปรุงแต่งได้ง่าย ............ 2) มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้มาก (เช่น ความไม่คล้องจองกันทางปัญญา (dissonance)) ............ 3) ที่สำคัญที่สุด คือ ความคิดเป็นองค์ประกอบที่แสดงถึงตัวตนที่แท้จริงได้มีน้ำหนักน้อยกว่า ความรู้สึก และพฤติกรรม 3) วัดทัศนคติ ไม่ได้ประเมินได้จากการตอบคำถามแต่เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ... การกำหนดรูปแบบในการวัด ก็ขึ้นอยู่กับว่า พี่นุก define ทัศนคติไว้ว่าอะไร ปล. แบบวัดทัศนคติหรือเจตคติ เป็นแบบวัดที่สร้างยากอันดับต้นๆของแบบวัดทางจิตวิทยา - -' ปล2. แม้จะไม่ถึงขั้นสร้างมาตรวัด แต่มาตรวัดก็คือข้อคำถามหลายข้อคำถามมารวมกัน เพราะฉะนั้นถ้าจะตรวจสอบทัศนคติหรือเจตคติ ก็เลี่ยงเรื่องพวกนี้ไม่ได้อยู่ดี
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันแค่ไหน แต่มีคำถามแนวนึงที่ผมชอบมากเลย คือคำถามประเภทสมมุติสถานการณ์แล้วกำหนดทางเลือกไว้กว้างๆ เช่น คุณเป็นมนุษย์ยุคหิน กำลังจะออกไปล่าสัตว์ มีของให้คุณเลือก 20 อย่างแต่คุณเอาติดตัวไปได้แค่ 7 อย่าง คำถามข้อแรก : เลือกอะไรติดตัวไปบ้าง เพราะอะไร คำถามข้อสอง : มีสถานการณ์แบบหนึ่งเกิดขึ้น คุณจะทำอย่างไร แล้วก็เปลี่ยนหัวข้อของคำถามข้อสอง เป็นสถานการณ์ต่อมาไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าเราต้องการจะวัดอะไรครับ บางทีอาจแทรกคำถามเกี่ยวกับการจัดการความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ไหวพริบ การมองการณ์ไกล หรือตัวเลือกสองแพร่งทางจริยธรรม (ethical dilemma) เข้าไปด้วยก็ยังได้ ผมว่าคำถามแบบนี้ตอบเพลินและปลายเปิดดีนะ
ผมเคยคุยเล่นๆ กับเพื่อนนะครับ ว่า เวลาสัมภาษณ์ มันโกรธมากเลย คนถามคำถาม ถามกวนหาเรื่องมากๆ แล้วเค้าก็ถามว่า เนี่ย " จะรู้ได้ยังไง ว่าคุณเป็นคนเรียนรู้เร็ว อย่างที่คุยไว้จริงๆ" ผมก็เลยคุยเล่นๆ กับเพื่อนอะนะครับ ว่า ตอบงี้ดิ "ผมแค่คุยกับคุณไม่ถึง 5 นาที ผมก็รู้แล้วครับว่าคุณแม่_ เ_ี้ย"
ถามเกี่ยวกับทัศนคตินี่ ใช้แบบของคุณเจก็ได้ครับ ถามเชิงจิตวิทยาแบบกวนโมโหหรือใช้คำแรงๆ ส่อเสียดทดสอบ EQ และไหวพริบ เช่น 1. น้ำหน้าอย่างคุณคิดว่าจะมาทำงานนี้ได้เหรอ ? - (โดนเองมาแร้วววววววววว ไปสัมภาษณ์งานเป็นครู พี่แกถามคำถามนี้เป็นคำถามแรกเลย) 2. เรียนอีท่าไหน(วะ) ถึงมีเกรดแค่เนี้ยะ - (ถามคนที่เกรดต่ำๆ หรือมีติด E ติด F จะได้ผลมาก) 3. เคยอ่านหนังสืออะไรบ้างมั้ยที่ไม่ใช่หนังสือเรียน ชื่อหนังสืออะไร ใครเขียน ชอบตรงไหน ได้ข้อคิดอะไร ทำไมถึงอ่าน ซื้อมาเมื่อไหร่ เท่าไหร่ ที่ไหน เดินทางไปซื้อยังไง ฯลฯ .... - (ถามจี้เรื่อยเปื่อยให้โมโห) 4. ผมมีงานอีกตำแหน่งหนึ่งนอกเหนือจากที่คุณมาสมัคร เป็น ... (ตำแหน่งอะไรก็ได้ สวัสดิการอะไรก็ได้) ... คุณสนใจมั้ย - (trick question วัดทัศนคติว่าเป็นคนมุ่งมั่นต้องการงานนี้จริงๆ หรือมีอาการโลเลเผื่อเลือกหรือเปล่า เป็นคนจับจดหรือเปล่า) 5. ผมมีคนมาสมัครตำแหน่งเดียวกับคุณ (ตรงนี้ make ผู้สมัครผีขึ้นมาคนนึง คุณสมบัติต้องเหนือกว่าคนที่เราสัมภาษณ์ทุกประการ แล้วเอาคุณสมบัติของผู้สมัครผีแล้วผู้ที่เราสัมภาษณ์ดู) เดี๋ยวเขาจะมาหลังจากผมสัมภาษณ์คุณเนี่ย คิดว่าคุณมีดีอะไรที่เหนือกว่าเขาบ้าง - (วัดไหวพริบ ความสามารถการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบฉับพลัน) 6. คิดว่าที่สัมภาษณ์กันมาตั้งนานเนี่ย คิดว่าตัวเองสอบสัมภาษณ์ "ผ่านรึเปล่า" (ถ้าตอบว่าผ่าน ถามต่อไปว่า) ทำไมผมต้องให้คุณผ่าน ... - (ใครที่ตอบไม่ผ่าน = สอบตก ถือว่าขาดความพยายามและความมุ่งมั่นต่องานที่มาสมัคร, ส่วนคนที่ตอบผ่านก็วัดกันที่คำตอบสุดท้าย) จำได้แค่นี้เอง ^^" มาจากประสบการณ์ตรงล้วนๆ โดนมากับตัวทั้งนั้นทุกคำถาม :555: :555: :555: v v v
1. น้ำหน้าอย่างคุณคิดว่าจะมาทำงานนี้ได้เหรอ ? - น้ำหน้าอย่างคุณ บริษัทยังเอามาเป็นคนสัมภาษณ์ผมได้เลยนี่ครับ
ของพี่เจแต่ละอันนี่มัน... lol ตอบไปทีนี่นอกจากจะไม่ได้งานยังมีสิทธิ์ ติด black list อีกต่างหาก ออกความเห็นนิดนึง เรื่องคำถามที่จะสัมภาษณ์ ผมมองว่าพวก การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า วัด EQ วัดไหวพริบอะไรพวกนี้มันก็ดีอยู่ครับ แต่เราต้องมองจริงๆ ว่างานที่เค้าต้องทำมันอาศัยพวก EQ หรืออะไรแบบนี้มากแค่ไหน ผมรู้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า "ฝีมือ เทคนิค ความรู้ มันสอนกันได้ แต่ EQ ไหวพริบมันฝึกไม่ได้" แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่ใช่งานทุกอย่างที่พวก EQ หรือไหวพริบมันสำคัญเท่าฝีมือหรือความรู้ แถมมันก็ไม่มีหลักประกันว่าเราจะฝึกฝีมือและความรู้ให้เค้าได้ บางทีเค้าอาจรับไม่ไหวก็ได้ ผมมองว่าในงานหลายๆ อย่าง ฝีมือ เทคนิค ความรู้ สำคัญกว่า EQ หลายช่วงตัวนะครับ ถ้าเรามัวแต่ตั้งคำถามประเภท EQ เราอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้คนเก่งระดับเทพเข้าทำงานก็ได้
โดยความเห็น ผมคิดว่าเป็นพิธีกรรมรับน้องใหม่ อีกรูปแบบหนึ่งน่ะ ดังนั้นเหตุผลกลใด กว่าเกี่ยวกับงานรึเปล่า ก็ทิ้งไปได้ เหมือนจะวัดว่า ตอบแล้วทำให้เขารู้สึก "โดน" แค่ไหนเฉยๆ จะตอบเน้นตรรกะเพียว ถึงแม้จะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ก็คงไม่ได้อีก เหมือนกับว่า ต้องมั่นใจและหลงตัวเองหน่อยๆด้วย อย่างอีกกระทู้ที่ผมบอกว่า ตอบแนวมนุษย์นิยมจัด จะได้ผลกว่าตอบแบบสมเหตุสมผลจริงจัง - -a ปล. พี่นุก ผมมีสไลด์ ติวคนก่อนไปสอบสัมภาษณ์สมัครงานของ เครือซีเมนต์ไทย (SCG) ถ้าขี้เกียจ ลอกไปเลยก็พอได้มั้ง
^ ^ อ้าว... ความจริงแล้วสัมภาษณ์งานมันคือการรับน้องใหม่เข้าทำงานหรอครับ? (คือคัดคนเสร็จแล้ว) ผมนึกว่าการสัมภาษณ์งานมันคือการ "สอบเข้า" เพื่อผู้ว่าจ้างจะได้เลือกคนที่ต้องการซะอีก แล้วที่เรียกคนมาคุยทีละคนเพื่อผู้ว่าจ้างจะได้เลือกคนเข้าทำงานนั่นมันเรียกว่าอะไรหว่า ลืม = =' ช่วงนี้สงสัยอ่านหนังสือมากไป ชักมึนๆแฮะ
