ข้อนี้สงสัยมานานแล้วว่า ทำไมคนถึงว่าห่วยกัน อาหารมันแย่ขนาดนั้นเลยหรือครับ? เมื่อก่อนห่วยเหมือนกันหรือเปล่า แล้วรถไฟที่เมืองนอกนี่อาหารห่วยแบบนี้ไหม?
เมื่อก่อนไม่รู้นะว่าเป็นยังไง แต่ที่เรานั่งมา อาหารก็อาหารกล่องพอกินได้ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นา อาจจะมีบ้างที่เก้าอี้เก่าโทรม แอร์ไม่เย็น และมีข่าวมีเห็บหมัดระบาดในรถไฟแอร์ แต่ก็นะ...มันก็ยังพอทน แค่รู้สึกว่าตั๋วแพงไปเท่านั้นเอง เหอๆ
ในอดีตที่เล่าขานสืบต่อกันมา เมื่อสหัสวรรษก่อน ในยุคที่การขึ้นรถไฟจากกรุงเทพไปเที่ยวหัวหินเป็นอะไรที่ไฮโซมากๆ อาหารในตู้เสบียงรถไฟเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาสุดๆ ครับ ใครได้กินข้าวผัดรถไฟ สามารถเอาไปคุยโม้ได้สามวันเจ็ดวันในความอลังการของมัน แล้วตำนานก็สิ้นสุดลง เพราะความอลังการของอาหาร ทำให้ตู้เสบียงขาดทุนบักโกรก ประกอบกับการรถไฟปรับเปลี่ยนการดำเนินงานบางอย่าง ให้เอกชนเข้ามาประมูล เช่น การซักผ้าปูนอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และแน่นอนครับว่ารวมถึงบริการของตู้เสบียงด้วย อาหารที่ให้บริการในปัจจุบัน พวกเซ็ตที่เป็นข้าวราดหน้าพร้อมซุป รสชาติเทียบเท่าร้านอาหารตามสั่งธรรมดาทั่วไป แต่ราคาสยามพารากอนครับ นั่นทำให้หลายคนหงุดหงิด ส่วนพวกเซ็ตอเมริกันเบรคฟาสต์ แนะนำว่าซื้อขนมปังและบิ๊กไบท์เซเว่นขึ้นไปตุนดีกว่า สำหรับอาหารกล่องที่แจกให้ผู้โดยสารบนรถสปรินเตอร์ในปัจจุบัน เทียบกับตอนที่รถปรินเตอร์พึ่งเข้ามาในเมืองไทยใหม่ๆ ต่างกันราวฟ้ากับเหวครับ ประมาณว่า ทอดไข่เจียวใส่ข้าวกล่องทัปเปอร์แวร์กับซอสพริกอีกซักถุง ดูแล้วท่าจะกินได้อย่างเจริญอาหารกว่า * หมายเหตุ ข้อความข้างบนนี้มีการตอกไข่ใส่สีตามสมควร ห้ามนำไปใช้อ้างอิงใดๆ ทั้งสิ้น
ฮ่าๆ อาหารในรถไฟนี่มันขึ้นอยู่กับความคาดหวังด้วยนะครับ ถ้าทำใจลดความคาดหวังลงมาประมาณว่า "มีอาหารบริการให้ก็ดีแล้ว" (เพราะ... ทำอะไรไม่ได้ รถไฟวิ่งๆอยู่จะให้หาซื้อจากที่ไหน ครั้นจะวิ่งลงไปซื้อตอนจอดตามสถานี ก็อาจจะไม่ทันรถไฟออก ^^; อ้อ.. มีแต่รถไฟแบบไม่ปรับอากาศที่อาจจะมีคนขายของกินแบกถาดมาขายถึงบนรถไฟ อันนั้นก็ต้องเสี่ยงดวงกันเอง ด้านรสชาติผมก็ว่าไม่เลวร้ายอะไรนะครับ คืออย่างน้อยอยู่ในระดับ "พอทานไปคุยไป ดูวิวไปเพลินๆ" คือไม่ถึงกับระดับกัดฟันฝืนกลืนลงคออะไรอย่างนั้น รสชาติก็ถือผ่านแบบพอดีๆ แต่ว่า....... ปัญหา,อย่างที่ ศิชน (Chubby) บอกครับ, อยู่ที่ "ราคา" นั่นเอง ซึ่งแพงกว่าอาหารที่สั่งตามร้านธรรมดาอยู่ไม่น้อย (เทียบกับระดับรสชาติด้วย) ก็อย่างว่าล่ะครับ เขาถือว่ามาให้ความสะดวกกับผู้โดยสารที่ "ไม่มีทางเลือกจะกิน" แล้วล่ะก็ ไหนจะบวกกำไรต่างๆนาๆ ราคาจึงต้องแพงพอตัวอย่างนี้ล่ะครับ ถ้าจำไม่ผิด.. สั่งข้าวหมูทอดกระเทียมไข่ดาว + โค้กกระป๋อง แบบเขียมๆแค่นี้ก็แตะ 100 บาทได้เลย ใครพกเงินขึ้นไปด้วยไม่มาก กรุณาเช็คราคาให้ดีก่อนสั่ง ฮ่าๆๆ ทางเลือกคลาสสิกของผู้โดยสารคือการไปนั่งดูวิว และกินดื่มกันที่ตู้เสบียง ซึ่งปัจจุบันมีหน้าตาที่ดีขึ้นมากครับ เก้าอี้พับยึดกับพื้นมั่นคง (แน่นอน.. แล้วแต่รถไฟที่เราโดยสารด้วย) ไม่งั้นก็จะเป็นโต๊ะเก้าอี้ธรรมดา ตู้เสบียงดูโทรมๆ และไม่มีแอร์ (อาจจะได้ระบายกลิ่นง่ายมั้ง.. + งบประมาณมีเท่านี้แหละ) ซึ่งผมเดาๆว่านั่งกินตรงที่นั่งของเรา (ที่มีโต๊ะพับบริการ ) ก็ดีพอแล้ว แต่คนที่ไปกินที่ตู้เสบียงต้องการ "บรรยากาศ" มากกว่า กินไป จิบเบียร์ไป (ส่วนมากจะเป็นพวกชอบมาก๊งกัน) ดูวิวที่วิ่งผ่านนอกหน้าต่าง .. ความรู้สึกที่เจอได้กับการกินที่ตู้เสบียงรถไฟเท่านั้น ดังนั้นใครที่งบไม่มาก หรือทำใจไม่ได้กับการโขกราคาอาหารบนรถไฟที่แพงจี๋เมื่อเทียบกับรสชาติทั่วไป การซื้อตุนไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะขึ้นรถไฟเป็นหนทางที่ดีมากๆครับ เพราะ เขาก็ไม่ได้ห้ามการนำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นรถไฟแต่อย่างใด เป็นสิทธิ์ของผู้โดยสาร ขึ้นอยู่ว่าจะทำกันหรือไม่เท่านั้นเอง O__Ob
เคยนั่งรถไฟแบบชั้น 3 (ยืนตลอดทาง) ครั้งนึงตอนไปหัวหิน หลังจากนั้นไม่คิดจะนั่งอีกเลย เมื่อยโคตร และก็รำคาญมากพวกขายอาหารกับน้ำเดินไปเดินมาิอยู่ได้น่ารำคาญ(ลองนึกภาพคนบนรถเมล์ที่แน่นๆแล้วกระเป๋ารถเมล์เดินผ่านไปผ่านมาตลอด) ปล.เกี่ยวกับกระทู้มั้ยเนี่ย -..-"