อ่านก่อนนิดนึง บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ และต่อไปนี้ กระผมจะขอเขียนเรื่องย่อด้วยตัวเองนะครับ เนื่องจากมีผู้ติติงเรื่องของเรื่องย่อที่ก๊อปมาจากเว็บMajorcineplex มั่วมาก บางทีถึงขั้นไม่น่าดู ฉะนั้นต่อไปนี้จะขอเขียนเรื่องย่อด้วยตัวเอง ถ้าติดปัญหาจุดใดติติงได้ไม่มีปัญหานะครับ และจากนี้ขอเพิ่มอะไรนิดนึง เนื่องจากการรีวิวผมนั้น พยายามที่สุดเพื่อที่จะให้มันไม่มีสปอยออกมา เพื่อที่คนที่ยังไม่ได้ดูสามารถอ่านได้อย่างไม่มีปัญหา แต่อันนี้ต้องขอความร่วมมือจากผู้ที่อ่านReview ของผมว่า “อย่าโพสข้อความที่มันเป็นการSpoil ภาพยนต์ แบบไม่ได้ซ่อนข้อความSpoil เอาไว้ (ซึ่งวิธีการซ่อนข้อความนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบอร์ดครับ)” เพราะอย่างน้อยต้องคิดว่า ยังมีคนที่ไม่ได้ชมภาพยนต์เรื่องที่ผมReview อยู่นะครับ อันนี้ขอความร่วมมือด้วย สวัสดีครับทุกๆท่าน ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับกับReview หนัง ก็ต้องบอกกันตรงนี้เลยว่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมแทบจะไม่ได้เข้าโรงภาพยนต์เลย ต้องขออภัยด้วยสำหรับคนที่รอReview หนังหลายเรื่องนะครับ เพราะผมมี่เวลาจริงๆ เดือนนี้พอมีเวลาแล้ว ก็ขอReview หนังกันเลยดีกว่า ไปชมกันเลย The Social Network แนวหนัง : ดราม่า ตัวอย่าง [youtube]http://www.youtube.com/watch?v=lB95KLmpLR4[/youtube] เรื่องย่อ Mark Zuckerberg เด็กหนุ่มมหาลัยสุดเนิร์ด ถูกแฟนสาวของตัวเองบอกเลิกแบบไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้เค้าแค้นและร่วมมือกับเพื่อนสนิทของเค้า Eduardo Saverin สร้างเว็บFacemash ขึ้นมาเพื่อโหวตสาวในมหาลัย และแก้เผ็ดแฟนสาวตนเอง แล้วFacemash ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งคู่จึงเริ่มต้นเว็บใหม่ในชื่อว่า Facebook และสร้างความโด่งดังในระดับนึง ต่อมา Sean Parker ผู้ก่อตั้งNapster มาเห็นอนาคตที่ดีของFacebook จึงให้ความร่วมมือกับทั้ง2 แต่หารู้ไม่ นั้นคือสัญญาณที่จะส่งผลต่อชีวิตของ มาร์ค และ เอดัวร์โด้ ไปตลอดกาล มุมมองของSoma ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้อินเตอร์เน็ตตอนนี้ ต้องรู้จักเว็บFacebook และนั้นคือเหตุผลที่ผมอยากไปดู และยิ่งรู้ว่า หนังสร้างมาจากหนังสือชื่อ The Accidental Billionaires ที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อต่อว่าพฤติกรรมอื้อฉาวของมาร์ค นั้นยิ่งทำให้ผมอยากดูเข้าไปใหญ่ แต่เมื่อหนังจบแล้ว ผมออกมาจากโรงด้วยความรู้สึกยังขุ่นเคืองในจิตใจ และเจ็บปวดกับหนังเรื่องนี้ในความรู้สึกจริงๆ ต้องบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้ถึงจะเอาเรื่องราวของหนังสือมา แต่หนังได้ปรับเปลี่ยนบทบางส่วน และนับเป็นการปรับเปลี่ยนบทที่ดีมาก บทของหนังเรื่องนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงจากความจริงบางส่วน เพื่อสามารถที่จะสื่ออกมาเป็นหนังได้อย่างมีพลังมาก เพราะหนังไม่ได้เน้นที่จุดกำเนิดFacebook เท่ากับ ความสัมพันธ์ของเพื่อนอย่างมาร์ค กับ เอดัวร์โด้ ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดไคล์แมก หนังเน้นที่เรื่องราวของเพื่อนจริงๆ ตลอดทั้งเรื่องจะเห็นความทุ่มเทในการสร้างFacebook ผ่านมุมมองความเป็นเพื่อนของทั้ง2คน จนเริ่มที่จะมีปัญหากัน หนังใช้การเล่าเรื่องช่วงที่มาร์คโดนฟ้อง สลับไปกับอดีตของเค้า ซึ่งนับว่าแปลกตา แต่ทำให้หนังทรงพลังมากๆ เพราะหนังจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครในระหว่างอยู่ในการสอบสวน ซึ่งช่วงหลังๆ หนังได้ตัดฉากเล่าของตัวละคร ไปฉากในอดีตได้แบบเรารู้สึกถึง ความรู้สึกตัวละครในขณะนั้นได้เลยทีเดียว แต่ที่หนังทรงพลังได้ขนาดนี้ เพราะนักแสดงแต่ละคน สามารถเล่นได้ตีบทแตก เข้าถึง และยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ Jesse Eisenberg ที่เล่นเป็นพระเอกของเรื่อง Mark สามารถแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยม ดูเป็นเด็กเนิร์ดคอมพิวเตอร์ที่หวังแต่งาน โดยเฉพาะสำเนียงและลักษณะการพูดที่เรียกได้ว่า สุดยอดสุดๆ และยิ่งตอนสุดท้ายที่เค้าไม่ได้ใช้น้ำตา แต่ใช้หน้าตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกเหงา เจ็บ เสียใจ ออกมาได้อย่างที่น่าเห็นใจมากๆ ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าเค้าสามารถทำออกมาได้สุดยอดขนาดนี้ ในขณะที่ Andrew Garfield (ติดตามผลงานเค้าได้เลย เพราะเค้าจะเล่นเป็นSpider Man คนใหม่นั้นเอง) ได้เล่นเป็น Eduardo Saverin คนๆนี้อาจจะเล่นเด่นไม่เท่าคนแรก แต่เค้าก็สามารถแสดงฝีมือในการแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมในบทของเค้า โดยเฉพาะตอนที่เค้าระบายสิ่งที่โดนมาในตอนหลังนี้สุดยอดมาก ทำให้รู้สึกสงสาร และเห็นใจคนๆนี้โดยทันที ส่วนพ่อหนุ่ม Justin Timberlake ที่เล่นเป็น Sean Parker ก็เล่นได้กวนตีน และแอบชั่วได้ใจจริงๆ (ฮา) แต่สิ่งที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้แบบจริงจังคงเป็นเรื่อง การเล่นประเด็น ความไว้เนื้อเชื่อใจ ในตัวเพื่อน หรือ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า หนังเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือที่ออกมาแฉพฤติกรรมของมาร์ค ซึ่งแน่นอนว่าถ้าดัดแปลงแบบตรงๆ ในหนังมาร์คจะต้องชั่วแน่นอน แต่อย่างที่บอกผู้กำกับเรื่องที่จะเปลี่ยนแปลงบทบางส่วน ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุผลสำคัญคือ ให้ตัวหนังออกมาเป็นกลางมากที่สุด และเน้นความสัมพันธ์ของเพื่อนระหว่าง Mark กับ Eduardo แทน และผู้กำกับยังใส่ใจบุคลิคของตัวละครคนต่างๆให้น่าจดจำ และให้พูดถึง โดยเฉพาะMark ที่เป็นจุดสำคัญ ผู้กำกับสามารถที่จะเขียนตัวละครตัวนี้ออกมาให้มีทั้งคนรัก และคนชังอย่างมีเหตุผลได้ ตรงนี้เป็นสปอย ใครไม่อยากโดนก็อย่าลากถมดำ ลืมบอกว่า ถ้าจะดูหนังเรื่องนี้ให้เข้าใจ ควรมีความรู้เรื่องศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต หรือเรื่องราวในแวดวงอินเตอร์เน็ตซักหน่อยนะครับ จะดูสนุก และพยายามตามซับในหนังให้ทัน เพราะว่าซับในหนังเร็วมากๆ สรุป : นี้คือหนังดราม่าที่ยอดเยี่ยมสมกับคำล่ำลือครับ หนังสามารถตีความมิตรภาพได้เจ็บปวดพอสมควร รวมทั้งได้รู้ประวัติFacebook นักแสดงแต่ล่ะคนทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมแบบสุดๆ ฉะนั้นใครชอบดูหนังดราม่าดีๆ มีข้อคิด ห้ามพลาดหนังเรื่องนี้เด็ดขาดครับผม เกรด A+ เครดิตภาพ : http://www.poppaganda.net/ แล้วกับกันใหม่นะครับ ลาล่ะ555