แฮ่~ซี้~แฮ่ ซอมบี้บุกโลก

กระทู้จากหมวด 'Fiction' โดย DraGaN, 1 มีนาคม 2011.

  1. DraGaN

    DraGaN New Member

    EXP:
    18
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    ขอเกริ่นนำก่อนนะคะ นี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่เราแต่งเมื่อ6ปีก่อน (แต่แต่งจบเมื่อ3ปีก่อน) เพื่ออ่านเล่นกับเพื่อน รูปแบบอาจจะไม่ดีนัก เพราะไม่เคยแต่งนิยายนะคะ
    แถมยังไม่ใช่คนที่ชอบอ่านนิยายนัก เลยไม่ค่อยมีประสบการณ์ทางนี้เท่าไร (อ่านแต่การ์ตูน ฮา)

    ที่นำมาโพสเพราะอยากจะแบ่งปันเรื่องนี้ให้คนอื่นๆได้อ่านบ้าง อยากจะฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆด้วยนะคะ
    นี่จะเป็นการโพสนิยายเรื่องแรกครั้งแรกของฉัน ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

    *หมายเหตุ* เนื้อหาอาจจะมีความรุนแรง ภาษาค่อนข้างหยาบคาย และรั่วมากๆในบางฉาก กรุณาใช้วิจารณญาณในการชม เด็กอายุต่ำกว่า15ปีไม่แนะนำค่ะ
    ถ้าไม่เหมาะสมอย่างไร ลบได้นะคะ
    .............................................................................................................................................................................................


    แฮ่~ซี้~แฮ่ ซอมบี้บุกโลก


    Fleeing 1

    What is it?


    “กริ๊งงงงงงงงงงง!!”
    เสียงกริ๊งเลิกเรียนดังขึ้น เด็กสาวผมแดงเกาหัวตนเองพลางมองดูตารางวิชาของตน


    “เลขไป อังกฤษมาน่าเบื่อจริงๆ เฮ้อออออออ”
    เสียงถอนหายใจดังขึ้นเฮือกใหญ่ ดวงตาสีชาจ้องมองไปรอบๆตนเอง

    “เฮ้อออออออ น่าเบื่อจริงๆ น่าจะมีอะไรสนุกๆเกิดขึ้น อย่างเช่นผีบุกเมืองอะไรประมาณนี้น้า”

    “กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!”
    เสียงกรี๊ดร้องดังขึ้น เธอหันไปทางเสียงทันที


    “อะไรนะ” เธอเดินออกจากห้องเรียน คนอื่นๆก็ต่างตามมาด้วยความสนใจ
    “เสียงนี้ดังขึ้นจากข้างล่างนิ” เธอคิด

    ผู้หญิงคนหนึ่งกรี๊ดขึ้นมาเมื่อเธอมองลงระเบียง ภาพของคนที่เนื้อตัวเน่าเฟะกำลังวิ่งตามคุณครูคนหนึ่ง “อะ จ...อาจารย์ อาจารย์กำลังโดนผีกิน”

    ทุกคนหันไปมองภาพเหตุการณ์ด้วยกัน บางคนสะอิดสะเอียนจนอยากอ้วกออกมา บางคนเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น
    บางคนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง มีเพียงแค่หญิงสาวผมแดงเท่านั้นที่ไม่ไปไหน


    “เย้ๆ น่าหนุกจัง ยังกับหนังเลย”
    ดวงตาของเธอจับจ้องมองเหตุการณ์ข้างล่างอย่างเมามัน แต่แล้วมือของใครบางคนก็วางลงบนบ่าของเธอ เธอสะดุ้งขึ้นและหันไปด้านหลัง

    “อีบ้าเอริค ทำอะไรของเธอย่ะ”

    เธอด่าทอผู้ชายคนหนึ่ง เขามีผมสีบรอนยาวประบ่า และดวงตาสีฟ้าที่จับจ้องมองเธออย่างกินเลือดกินเนื้อ

    “ยัยบ้า เธอตะหากที่บ้าๆๆๆๆ ยัยมาเรียบ้า”
    “ว่าไงนะย่ะ เธอตะหากอีบ้าเอริค อีประเทือง”

    มาเรียว่ากลับทันควัน ทำเอาเอริคอึ้งที่สมองของมาเรียสามารถประมวลผลคำพูดพวกนี้ได้เร็วมาก


    “ไม่ว่ายังไงก็ช่าง เธอนะรีบหนีซะ ไม่รู้รึไงว่าพวกเราโดนผีล้อมอยู่ รึว่าอยากตายกันแน่” เอริคพูดขึ้น

    “ฉันไม่อยากตายหรอกย่ะ แต่มี ผี อยู่หลังเธอตัวหนึ่ง”เอริครีบหันไปมองข้างหลังทันที

    “แฮ่”

    เสียงของศพเดินได้ดังขึ้น มันอ้าปากเตรียมจะงับเขา

    “เหวออออออ”

    เอริคร้องเสียงหลง แต่มือของเขากลับชกไปที่หน้าผีตัวนั้นเต็มๆเสียแล้ว

    “เหวอๆหยะแหยงซะมัด ยี้มีน้ำเหนียวๆที่มือด้วย แหยะ”
    เอริคสะบัดมือของตน มาเรียจ้องมองผีแล้วยิ้มขึ้น

    “นายเจ๋งจริงๆดูดิ ซอมบี้หมุนหัวได้ตั้ง360องศาเชียวละ”

    “นี้ไม่ใช่เวลาชื่นชมหมัดของฉันนะ เจ้าผีพวกหนีโผล่ขึ้นมาข้างบนแล้ว ต้องรีบหนีแล้วละ”
    แล้วเอริคก็ดึงมาเรียหนีทันที

    "เดี๋ยว ฉันขอไปเอากระเป๋าแปป" มาเรียรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนของเธอ

    "เร็วๆเข้า เราไม่มีเวลานะ" เอริคพูดเร่ง

    "อือๆ มาแล้วๆ"
    มาเรียสะพายกระเป๋ารูปแพนด้าของเธอ

    "นีมันอะไรเนี่ย เด็กอนุบาลรึไง" เอริคมองด้วยสีหน้าเหยเก

    "เงียบน่า อย่ามาว่าเค้ากะแพนๆนะ" มาเรียมองหน้างอลๆ

    "เออ ก็ได้ๆ รีบๆไปกันเถอะ" เอริคส่ายหน้าและเริ่มวิ่งไปทันที


    พวกเขาวิ่งไปจนถึงห้องหนึ่ง เอริคหยุดจ้องมองในห้องนั้น
    “ฉันจำได้นะว่าอาจารย์คนหนึ่งชอบทิ้งกุญแจรถไว้ในเก๊ะตัวเอง”

    มาเรียหยุดวิ่งเช่นกัน เธอจ้องมองในห้องอย่างครุ่นคิดและพูดขึ้นลอยๆว่า
    “นี่ๆ ถ้าเรามีรถมันจะหนีได้ง่ายขึ้นใช่ม่ะ”

    “ใช่ เราจะหนีง่ายขึ้นและฉันจำรถอาจารย์ได้ว่าคันไหน เอาล่ะ” เอริครีบเข้าไปค้นลิ้นชักต่างๆทันที

    “มาเรีย ถ้าเธอเจอไรที่เป็นอาวุธได้ รีบหยิบมาเลยนะ”

    “ค่าาาาา”


    เธอเปิดล๊อคเกอร์ในห้องอาจารย์ซึ่งมีอยู่5ตู้ ตู้แรกมีเอกสารมากมายวางไว้เป็นปึ๊กๆ เธอหยิบกระดาษขึ้นมาม้วน

    “นี่ไงอาวุธ กระดาษม้วนพิฆาต”

    เธอตั้งท่าเหมือนตีแมลงสาบ แต่เอริคส่ายหน้าและค้นหากุญแจในลิ้นชักต่อไป มาเรียทำท่าเซ็งนิดๆ
    ก่อนจะเปิดตู้ล๊อคเกอร์ต่อ คราวนี้เป็นไม้เบสบอล ลูกเบสบอล ถุงมือ

    “นี่เป็นอาวุธได้ใช่ไหม”

    เธอหยิบไม้เบสบอลขึ้น เอริคปรบมือให้กลับความฉลาดขึ้นของเธอก่อนจะเปิดลิ้นชักอันต่อไป
    ครานี้มาเรียเปิดตู้ล็อคเกอร์อีกตู้ในนั้นมีกล่องลังมากมาย และรกรุงรังจนเธอไม่กล้าค้น
    เธอจึงเปิดล็อคเกอร์ตู้ต่อไป มันเป็นตู้เปล่า ไม่มีสิ่งใดในตู้เลย แล้วเธอก็เริ่มเปิดล๊อคเกอร์ตู้สุดท้าย.....


    “เจอแล้ว!!!!!!!!!!”

    เสียงดังลั่นของเอริคทำเอามาเรียสะดุ้งเฮือกใหญ่

    “อีตาบ้าตกใจหมด”
    เธอหันไปเปิดตู้ล็อคเกอร์ต่อ

    "แกร๊ก"

    เธอเปิดมันไม่ออก....

    มาเรียยืนนิ่งสักพักก่อนหันมามองเอริคซึ่งยังคงดีใจที่เขาหากุญแจรถเจอ

    “ตู้นี้....เปิดม่ะออกอ่า”

    “เปิดไม่ออกเหรอ??” เอริคถามขึ้นหลังจากที่เขาได้สติแล้ว
    “อือ” มาเรียพยักหน้า

    เอริคจึงเดินไปตู้นั้น
    “สงสัยจะมีอะไรสำคัญมากอยู่ในนั้น”

    เขาหักนิ้วตัวเองดังกร๊อบๆก่อนที่จะเตรียมมือตั้งหมัดและ

    "ปั๊ง"

    บานพับประตูล็อคเกอร์หลุดออกจากตู้ เอริคจึงได้ดึงประตูนั้นออกมา ทั้งคู่หยุดนิ่งเงียบกันหมดและจับจ้องมองลงไปในนั้น

    “กุญแจมือ แส้ เสื้อเลโอตาดหนังสีดำ หน้ากาก เทียน......”
    เอริคพูดขึ้นโดยคนเขียนไม่ต้องบรรยายเลย

    “ว้าววววววว ดีจังมีของอย่างงี้ด้วย ดูสิ แส้นี่เป็นอาวุธได้นะ”

    ดีบ้าไร นี่มันโรงเรียนนะ ของพวกนี้มันจะไปมีในโรงเรียนได้ยังไง ยิ่งห้องอาจารย์ด้วยแล้ว...... ปรื้อ ขนลุกว่ะ

    เอริคทำหน้าเหยเก แต่มาเรียกลับยิ้มแย้มพร้อมถือแส้สะบัดไปมา

    “ปะรีบไปกัน เรามีเวลาไม่มากนะ” เอริคพูดขึ้นแล้วเริ่มเดินออกจากห้องพักครู

    อือ

    to be continue
  2. taleoftrue

    taleoftrue Well-Known Member

    EXP:
    900
    ถูกใจที่ได้รับ:
    52
    คะแนน Trophy:
    113
    ล็อคเกอร์ของใครกันนะนั่น >_<"
  3. shinkyoto

    shinkyoto Well-Known Member

    EXP:
    580
    ถูกใจที่ได้รับ:
    3
    คะแนน Trophy:
    88
    แล้ว กระทะ ไม้นวดแป้ง และ ไม้กวาดล่ะ ไม่หยิบมาใช้บ้างหรือ?

    (...กองทัพ ตำรวจ หายไปไหนหมดเนี่ย?)
  4. DraGaN

    DraGaN New Member

    EXP:
    18
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Fleeing 2

    Another one

    ตึ๊ก .......ตึ๊ก....................ตึ๊ก

    เสียงฝีเท้าทั้งสองดังขึ้นเป็นจังหวะ ข้างหลังของพวกเขามีผีดิบตามมา3ตัว

    “ซิ!!!มันเจอจนได้ ให้ตายสิเพราะเธอช้าแท้ๆ มันจึงเป็นแบบนี้” เอริคพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกเหนื่อยตาม

    “อะไรย่ะ นายเองก็เหมือนกันนิ เห็นแค่แส้กับชุดหนังก็เอ๋อซะตั้งนานเจ้าคนบ๊อง”

    ทั้งสองหยุดลง ข้างหน้าของพวกเขามีประตูเหล็กกั้นทางอยู่

    กึกๆ
    เสียงของประตูที่เอริคพยายามเปิด เขาทั้งสองเจอทางตันเสียแล้ว

    “ซิประตูล๊อคเรอะ ทำไงดีมันมาถึงแล้วด้วย”
    เอริคครุ่นคิด ซอมบี้กำลังก้าวเท้าใกล้พวกเขาเสียแล้ว

    “ประตูนี้เป็นประตูที่เชื่อมกับทางจอดรถฉันจำได้” มาเรียพูดขึ้น

    “จริงๆเหรอ?”เอริคก้มมองเธอด้วยแววตาที่ดีใจ
    “ฉันไม่แน่ใจหรอกนะ ถ้าจำไม่ผิดก็คงใช่”

    “ดีละไม่ลองไม่รู้” เอริคตั้งกำปั้นของเขา แล้วชกเข้าที่ประตู

    ตึ้งงงง” มันไม่เปิด

    “ฉันจะลองอีกที มาเรีย ถ้าเป็นไปได้เธอช่วยสกัดเจ้าพวกน่าหยะแหยงนี้ที”

    เอริคกำหมัดของเขาอีกครั้ง
    มาเรียพยักหน้า แล้วหยิบแส้ขึ้นมาฟาดลงบนพื้น

    เพลียะ

    เธอสะบัดแส้พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเธอ

    “ฉันจะสวมวิญญาณอีเจ๊มาเรียแล้วละนะค่ะ โฮะๆๆๆๆๆๆ”

    เพลียะๆๆ

    เธอฟาดแส้ใส่ซอมบี้ มีซอมบี้ดังหนึ่งนอนลงกลับพื้น เธอยิ้มและฟาดแส้ใส่ซอมบี้ตัวนั้นโดยไม่ยั้ง

    “โหดว่ะอีนี่” เอริคคิดในใจ
    “ต้องรีบจัดการก่อนยัยซาดิสจะเล่นงานฉันซะแล้ว” เขากำหมัดแน่นขึ้น

    ย๊ากกกกกกกก

    ตู๊ม!!!!!!!!!!

    เสียงหมัดกระทบกับประตูดังขึ้นสนั่น ประตูหลุดออกจากผนังทันที มาเรียหยุดหันมามอง แม้แต่ซอมบี้ก็ยังกลัว(ซอมบี้มีความคิดด้วยแหะ)

    “ที่จอดรถจริงๆด้วย เอาละ รถอาจารย์จอดอยู่ลานที่3 รีบไปกันเถอะ”
    เอริครีบวิ่งไปทันที มาเรียเองก็วิ่งตามมาติดๆ

    เมื่อทั้งคู่ไปถึงรถของอาจารย์ เอริคก็รีบไขประตูทันที เขาสตาร์ทรถอย่างรวดเร็วจนมาเรียแถบจะขึ้นมานั่งไม่ทัน

    "นี่!! คาดเข็มขัดด้วยสิ เดียวตำรวจจับหรอก" มาเรียพูดขึ้น ตัวเธอนั้นคาดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว

    "โง่หรือบ้ากันแน่ ป่านนี้แมร่งตำรวจมันคงจะยืนเสนอหน้า ให้ไอ้ผีนั้นกัดเล่นอยู่ละมั้ง" เอริคพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    "แล้วใบขับขี่ละ???"

    "ตึง"
    เสียงหัวของมาเรียที่กระแทกกับเบาะอย่างแรงดังขึ้น

    "อีบ้า!!! นี่มันเจ็บนะย่ะ"
    เอริคไม่สนใจและเร่งเครื่องขับไปเรื่อยๆ

    "คิดว่าตัวเองแข่งเฟอรารี่รึไงย่ะ" มาเรียบ่นอุบอิบ

    "ระวังนะ ฉันจะเลี้ยวแล้ว"

    "เอี๊ยดดดด........โป๊ก"

    เสียงรถที่เลี้ยวอย่างเร็วตามด้วยเสียงหัวเจ๊มาเรียที่โขกกระจกข้างอย่างจัง

    "อีนี่นิ อู๊ยยยยเจ็บๆๆ" มาเรียเอามือกุมหัวตัวเองไว้

    "แบบนี้หัวฉันก็แตกพอดีสิย่ะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง

    "ฉันห่วงกระจกซะมากก่าหัวเธออีก"

    "ว่าไงย่ะ!!! อู๊ยยยเจ็บ"



    ทั้งคู่ขับรถจนพ้นเขตโรงเรียนไป มาเรียยังคงกอดอกทำหน้าหงุดหงิดขณะที่เอริคยังคงขับรักษาระดับความเร็วไว้ที่150 กม./ชม.

    "ฉันว่าเราจะได้ตายเพราะรถแหงๆ" มาเรียบ่นอุบอิบ

    "เงียบๆไปเหอะ ฉันกำลังคิดอยู่ว่าพวกเราจะหนียังไงดี"
    ระหว่างนั้นมีซอมบี้โผล่มาอยู่หน้ารถพวกเขา

    "ปึ๊ก"

    เสียงซอมบี้ที่โดนรถชนดังขึ้น ซอมบี้ตัวนั้นกระเด็นมาติดกระจกหน้ารถของพวกเขา

    "กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!"

    มาเรียร้องดังลั่นจนกระจกรถแทบจะร้าว เอริคพยายามขับรถส่ายไปมาเพื่อให้ซอมบี้ตัวนั้นหลุดจากกระจกหน้ารถของเขา

    "เพล้ง!!!"

    รถของพวกเขาชนที่ตู้โชว์ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง กระจกที่กั้นเป็นผนังของห้างแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    โชคดีที่ตัวรถติดตรงบล๊อกของตู้โชว์พอดี พวกซอมบี้จึงไม่อาจเข้ามาได้

    "พวกเรารอดอยู่ใช่ไหม?" มาเรียถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    "คงใช่ละมั้ง" เอริคพูดตอบ

    พวกเขาทั้งสองตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าควรจะเปิดประตูออกไปดีไหม

    "นายอออกไปก่อนสิ" มาเรียพูดขึ้นทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบ

    "เรื่องไรว่ะ ฉันให้เกียรติเธอ ลงก่อน"

    ทั้งคู่ยังคงนั่งนิ่งอยู่สักพัก

    "โอเคๆ ฉันลงก่อนก็ได้" เอริคพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    "งั้นเปิดพร้อมกัน" มาเรียกล่าวขึ้นและทั้งคู่ก็เปิดประตูทันที

    "แกร๊ก"

    เสียงปืนที่หันกระบอกเข้าหาหัวของทั้งสองทำให้เอริคและมาเรียหยุดนิ่ง

    "อ่ะ คนนิ" ชายแปลกหน้าที่มีดวงตาสีฟ้าครามที่ตัดกับผมสีบรอนส์ยาวที่มัดเอาไว้ของเขา พูดขึ้น
    "ลิน วางปืนได้แล้วละ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"

    ชายผู้นั้นได้เก็บปืนของเขาพร้อมกับสาวที่มีผมบลอนส์ยาวเช่นเดียวกับเขา แต่เธอกับมีดวงตาสีเขียวประกายเหมือนมรกตน้ำงาม
    ทั้งเอริคและมาเรียต่างงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    "ขอโทษที่เสียมารยาทนะค่ะ ฉันชื่อลาลิเลีย อัลเคเซีย แต่จะเรียกว่าลินก็ได้นะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหวาน
    และยิ้มอย่างเขินอายจนแม้แต่มาเรียและเอริคยังแก้มแดงด้วยเช่นกัน

    "ส่วนผม อัลทีส เอ็กโซดัส ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" เขายืนมือให้กับเอริค เอริคจับมือตอบ

    "ส่วนผม เอริค คาร์ตัน และนี่ก็..."

    "มาเรีย ฉันชื่อ มาเรีย ฮาวเนอร์ " เธอพูดยิ้มๆและรีบยื่นมือให้อัลทันที
    "ยินดีที่ได้ รู้จักนะอัลทีส"

    "อา.. ครับคุณมาเรีย จะเรียกผมว่าอัลก็ได้นะครับ" อัลยื่นมือจับตอบ

    "เหอะ สำหรับยัยนี้ไม่ต้องสุภาพก็ได้" เอริคพูดขึ้น ทำเอามาเรียหันมามองเขม็งทันที

    "งั้นขอถามหน่อยนะว่าทำไมพวกคุณถึงได้มาที่นี่กัน" อัลพูดขึ้นตัดปัญหา

    "ก็เพียงแค่เอารถครูมาขับหนีพวกผีดิบแล้วเสียหลักชนเข้าที่นี้เท่านั้นเองแหละ" เอริคพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    "แล้วที่นี่มีคนอื่นๆอีกไหม"

    "เสียใจด้วยนะค่ะ มีเพียงแค่พวกเราเท่านั้นนะ" ลินพูดขึ้น

    เธอมองรอบๆและพูดขึ้นอีกครั้ง "มีเพียงพวกเราที่อยู่ที่นี่ คนอื่นๆเขาหนีไปหมด แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ"

    "อย่างที่เห็นงั้นเหรอ?" มาเรียทวนคำพูดนั้นอีกครั้ง

    "ใช่ และพวกคุณก็พาแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาด้วย"
    อัลพูดขึ้นและหันไปหาซอมบี้ที่ถูกเอริคขับรถชน แต่มันกำลังจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

    "ปัง!!"

    เสียงปืนของอัลดังขึ้น กระสุนปืนของเขาฝังอยู่ในหัวผีดิบตัวนั้น และมันก็นอนนิ่งโดยไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย

    "อัล นายไปเอาปืนจากไหนนะ" เอริคถามขึ้น อัลยิ้ม

    "นายไม่รู้เรอะ นี่มันช่วงล่าสัตว์นะ ยิ่งตอนนี้ลูกซองนะมีเยอะสุดๆเลยละ"

    อัลโยนปืนพกของเขาให้เอริค

    "แล้วพวกเราจะเอาไงดี อยู่ที่นี้นานๆไม่ได้หรอกนะ" อัลพูดขึ้น ทำเอาทุกคนเงียบลงทันที

    "เราต้องหาทางหนี อย่างน้อยถ้าอยู่ที่นี้นานๆพวกซอมบี้ต้องเข้ามาได้แน่ๆ" มาเรียเองก็แสดงความคิดเห็นของเธอเช่นกัน

    "อือ ฉันรู้ ถ้าเราจะไปเลยตอนนี้มันไม่ได้หรอกต้องวางแผนก่อน" เอริคกอดอกครุ่นคิด

    "งั้นมานี้สิ" อัลเดินนำหน้าไป "ไปที่อื่นจะได้คุยกันสบายใจหน่อย"

    "โอเช"


    to be continue
  5. DraGaN

    DraGaN New Member

    EXP:
    18
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    :hbow: ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ

    ส่วนล็อคเกอร์นั้นของใคร ก็ไม่รู้เหมือนกัน (แต่มันอยู่ในห้องพักครูนี่เนอะ :555: )

    ส่วนความคิดคุณ Vincent นี่สั้นมากๆ (คาดไม่ถึง) เลยนะคะ ^^ (ถ้าไม่ตลกก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ)
    ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ คิดไม่ออกเรื่องไม้กวาดเหมือนกัน (ฮา)

    ยังไงก็ขอฝากตัวต่ออีกสักนิด ขอบคุณมากๆค่ะที่ติดตามผลงานเรา (~ ปลื้ม)
  6. DraGaN

    DraGaN New Member

    EXP:
    18
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    0
    Fleeing 3


    Package




    ทุกคนนั่งลงตรงกลางลานกว้างของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เอริครีบเปิดประเด็นทันที

    "เราควรจะทำไงดี ?"

    "ผมว่าเราควรจะเตรียมของและไปจากที่นี้จะดีกว่า ถึงที่นี่จะเป็นเมืองในเกาะเล็กๆ แต่ก็มีสะพานที่เชื่อมกับอีกรัฐหนึ่ง
    จะลองไปที่นั้นดูไหม คนทางนั้นถ้าเห็นเราเขาคงยอมเปิดประตูให้ผ่านแน่ๆ" อัลพูดแนะนำขึ้น

    "อืม" เอริคตอบรับทันที
    "ถ้างั้นอย่างน้อยก็ต้องเตรียมอาวุธและอาหารให้เยอะๆ รวมถึงต้องเตรียมรถไว้ด้วย"

    "งั้นขอไม่ให้เอริคขับได้ไหม" มาเรียรีบพูดแทรกทันที เอริคหันมามองด้วยสายตาที่กินเลือดกินเนื้อ

    "แง~น่ากลัวจัง" เธอรีบยกกระเป๋ารูปแพนด้าของเธอขึ้นกั้นทันที

    "โหย ไม่ต้องมาทำเป็นน่ารักเลย เมื่อกี้ก็ยังเถียงกับฉันอยู่ แล้วไอ้กระเป๋านี้ก็ไร้ประโยชน์จะเอามาทำไมก็ไม่รู้"

    "ว่าไงนะแพนๆของเค้าน่ารักจะตาย"

    เอริคและมาเรียทั้งคู่ต่างต่อปากต่อคำกัน อัลกับลินมองด้วยสีหน้าเซ็งนิดๆ

    "พอทั้งคู่เลยค่ะ สิ่งที่จะทำตอนนี้คือการหาทางที่จะหนีจากสภาพนี้ได้นะค่ะ ไม่ใช่มาทะเลาะกันแบบนี้"

    เอริคและมาเรียนิ่งไปทันที

    "เอาละๆ ลินกับมาเรียไปเตรียมเสบียงซะ ส่วนเอริคกับผมจะจัดการเตรียมอาวุธเอง"อัลแสดงความคิดเห็นขึ้น
    ทุกคนพยักหน้าตอบรับและลุกขึ้นจัดการหน้าที่ของตัวเองทันที



    อัลกับเอริคเดินไปที่ร้านขายอาวุธ มาเรียเดินตามมาติดๆ

    "นี่ทำไมไม่ไปช่วยลินเตรียมอาหารละ ยัยเบื๊อก" เอริคหันมาด่ามาเรีย

    "ใครย่ะยัยเบื๊อก ฉันแค่มาเอากระเป๋าย่ะ"

    "ถ้างั้นกระเป๋าอยู่ชั้น3นะ แล้วก็เลิกทะเลาะกันได้แล้วละ" อัลพูดขัดทั้งคู่ และเลี้ยวเข้าร้านปืนทันที

    "โอ้โห ร้านปืนเป็นแบบนี้เหรอเนี่ย ดูสิมีหัวกวางด้วย" มาเรียชี้ไปที่หัวกวางที่แขวนโชว์ไว้ในร้าน

    "แล้วคิดจะไม่ช่วยลินเลยรึไง" เอริคพูดพลางหยิบปืนขึ้นพิจารณา มาเรียทำสีหน้าโกรธนิดๆ

    "ถ้าอย่างงั้นผมจะไปหยิบกระเป๋ากับมาเรียก็แล้วกัน จะได้ใส่ปืนไว้ได้ ส่วนเอริคก็ช่วยเตรียมปืนให้หน่อยนะครับ" อัลลุกขึ้นและเดินไป

    มาเรียหันมาแลบลิ้นใส่เอริคและรีบวิ่งตามอัลทันที

    "หน่อย ยัยนี้เจอดีแน่"


    ............................................................


    ที่ร้านกระเป๋า อัลถือกระเป๋ามามากมาย มาเรียเองก็หอบกระเป๋าเอาไว้เต็มไปหมด

    "นี่ๆ เดียวเราช่วยอัลขนกระเป๋าให้ด้วยนะ"

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณน่าจะเอากระเป๋าให้ลินจะดีกว่านะครับ" อัลยิ้มให้มาเรีย

    "อือ ต้องรีบหน่อยแล้วเรา"

    เธอค่อยๆเดินออกจากร้าน และคอยระวังไม่ให้กระเป๋าที่เธอหอบอยู่นั้นตกลงมา

    "ไหวไหม เอาออกหน่อยก็ได้นะ" อัลพูดเมื่อเห็นมาเรียเดินไปอย่างยากลำบาก

    "ไม่เป็นไรหรอก นายนี้ดีกว่าตานั้นเยอะเลย" เธอรีบเดินไปชั้นล่างทันที


    ที่ซุปเปอร์มาเก็ตชั้นล่างนั้น ลินกำลังรอมาเรียอยู่

    "มาแล้วๆ" มาเรียพูดขึ้น กระเป๋ามากมายที่อยู่ในอ้อมแขนเธอทำให้ลินต้องรีบเข้ามาช่วยทันที

    "เยอะจังเลยนะ ไม่ต้องฝืนก็ได้"

    "ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษนะที่มาช้า" มาเรียพูดขึ้นพลางหัวเราะ
    "พอดีมีปัญหานิดหน่อยนะ"

    "ไม่เป็นไรหรอกทางนี้ก็เตรียมของแล้วเหมือนกัน เรามาช่วยกันใส่กระเป๋านี้กันเถอะ"

    ลินหยิบอาหารที่วางกองไว้ใส่กระเป๋า มาเรียเองก็ช่วยจัดกระเป๋าด้วยเช่นกัน

    "นี้ พอจัดเสร็จเราไปดูพวกเขากันไหม"

    "จ๊ะ แน่นอนอยู่แล้ว"


    เพียงเวลาไม่นาน ของทั้งหมดก็จัดอยู่ในกระเป๋าเรียบร้อย

    "ไปกันเถอะๆ" มาเรียยิ้มและยกกระเป๋าขึ้น

    "จ้าๆ" ลินเองก็ยกเป้ขึ้นมาสะพาย และกระเป๋าบางอันเธอต้องถือเอาไว้

    ทั้งคู่เดินไปสักพักยังไม่ทันออกจากซุปเปอร์มาเก็ต มาเรียก็พูดขึ้น

    "นี่ไปก่อนได้ไหม เดียวเราตามไปนะ"

    "อือจ๊ะ เดียวจะรอที่นั้นนะ รีบตามมาละ"

    ลินเดินไปเรื่อยๆจนลับตา มาเรียมองไปรอบๆร้าน

    "ยังเหลือตั้งเยอะแยะ" มาเรียพูดขึ้น
    เธอวางกระเป๋าทั้งหมดและเอาเป้รูปแพนด้าของเธอออกมา


    ทางด้านอัลและเอริค ทั้งคู่ต่างเลือกปืนและหยิบใส่กระเป๋า

    "นี่ๆ ลินเขาดูน่ารักจริงแหะ นายเจอเธอยังไงนะ" เอริคเริ่มพูดขึ้นเปิดประเด็น

    "แหะๆ ผมเจอเธอมาตั้งแต่เด็กๆแล้วละ พ่อของพวกเราทั้งคู่มีความเกี่ยวพันด้านธุรกิจนะ" อัลพูดตอบ

    เอริคมองยิ้มๆ "แน่ๆๆ คู่หมั้นเหรอ"

    "ฮ่ะๆ ไม่มีทางหรอก พ่อเธอไม่ค่อยถูกกับพ่อผมนะ" อัลหัวเราะขึ้น

    เอริคมองอัลด้วยสายตาที่เหมือนกำลังจับผิดอยู่

    "คู่แข่งเหรอ"

    "เปล่าแค่ไม่ถูกกันนะ"

    "ต้องโดนจับหมั้นแน่ๆ"

    "ไม่มีทางหรอกพ่อเธอก็ไม่ค่อยชอบผมด้วย"

    "แอบคบเหรอ"

    อัลนิ่งไปทันที

    "แน่ะ โดนเข้าแล้วไง ฮ่าๆๆ"

    "อย่าพูดอย่างงั้นสิ" อัลในตอนนี้ หน้าของเขาแดงเป็นผลมะเขือเทศแล้ว

    "เออ ป่านนี้พวกเขาจะจัดกระเป๋าเสร็จยังนะ" อัลพูดขึ้นเปลี่ยนประเด็น

    "เปลี่ยนเรื่องเหรอ" เอริคพูดเหน็บ ทำเอาสีหน้าของอัลตอนนี้ดูไม่ได้เลย

    "ทำไมพูดงี้อ่ะ"

    "ฮ่ะๆ บอกลินจะดีไหมน้า"

    "จะบอกอะไรฉันละค่ะ"

    เสียงหนึ่งดังขึ้นเอริคหันไปมองด้วยสีหน้าประหลาดใจทันที

    "ลิน!!"

    "นี่พวกเธอมัวแต่คุยกันอยู่ได้ ทางฉันจัดของเสร็จแล้วนะ"

    "อือ" อัลรีบตอบกลับและจัดปืนเข้ากระเป๋าทันที

    "แล้วมาเรียละ" เอริคถามขึ้น

    "เป็นห่วงเธอเหรอ" ลินยิ้ม

    "ไม่ใช่นะ แค่กลัวว่าจะไปก่อเรื่องเท่านั้นเอง" เอริครีบพูดขึ้น และจัดการเก็บปืนลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว

    "ล้อเล่นนะ เก็บอย่างนั้นเดียวปืนก็ลั่นหรอก มาเรียเขาขอตัวไปทำธุระนะ ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอไปทำอะไร"

    "นั่นไง ก่อเรื่องอีกแล้ว" เอริครู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที

    "ไม่หรอก ฉันว่าเธอคงมีธุระจริงๆนะ แต่ว่านะเมื่อกี้พวกเธอพูดอะไรเกี่ยวกับฉันเหรอ?" ลินถามพวกเขาทั้งสอง
    เธอนั่งข้างๆและช่วยจัดกระเป๋าให้

    "อ้อ เปล่าไม่มีอะไรหรอก" อัลรีบตอบทันที

    ลินหันมามองด้วยสีหน้าที่สงสัย ทั้งอัลและเอริคต่างนิ่งไปไม่พูดอะไร

    "มาแล้วๆ" มาเรียเดินเข้ามาหาพวกเขา

    "จ้าๆ มาช่วยพวกเขาจัดกระเป๋าก็แล้วกันนะ" ลินพูดขึ้นและยื่นกระเป๋าให้มาเรียทันที

    "เฮ้ออ รอดไปที" เอริคถอนหายใจ

    "ยังไม่จบหรอกนะ" ลินหันมายิ้มให้ มาเรียทำสีหน้างงๆ


    หลังจากที่พวกเขาจัดปืนเข้ากระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ทุกคนเตรียมตัวที่จะลงไปลานกว้างของห้าง มีเพียงมาเรียที่ยืนนิ่งๆอยู่เท่านั้น

    "ไปกันเถอะ" เอริคเรียกมาเรีย

    "อือ พวกเธอไปกันก่อนนะ เดียวตามลงไป"

    "เร็วๆละ"เอริคพูดพลางยกกระเป๋าและเดินอออกไป

    มาเรียกวาดตามองรอบๆในร้านปืน
    "ยังเหลือปืนตั้งเยอะแยะ เสียดายจัง"

    เธอหยิบกระเป๋ารูปแพนด้าขึ้นมาอีกครั้ง

    ....................................................................................................


    อีกด้านหนึ่ง ลินได้พูดขึ้นด้วยสีหน้าชวนสงสัย

    "มาเรียเป็นอะไรนะ เมื่อกี้เธอก็เป็นแบบนี้"

    "คงจะอยากดูหัวกวางนั้นให้พอใจมั้ง" เอริคตอบกลับแล้วเอากระเป๋าของเขาวางลงข้างๆกระเป๋าเสบียง

    "ไม่เป็นห่วงเพื่อนเธอเลยนะ จริงสิ พวกเธอพูดอะไรเกี่ยวกับฉันใช่ไหม"

    อัลนิ่งไปทันที เอริคทำเป็นมองไปมาไม่รู้เรื่องอะไร

    "อะ! นี่มัน6โมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย" เอริคมองที่นาฬิกาเรือนใหญ่ที่อยู่ตรงกลางลานกว้างของห้างสรรพสินค้านี้

    "นะนั้นสิ ผมหิวแล้วละ นี่ลินทำอะไรให้ทานหน่อยได้ไหม" อัลเออออตามเอริค ลินมองทั้งคู่และหัวเราะ

    "แก้ตัวกันใหญ่เลยนะ อิๆไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่อยากให้ฉันรู้ก็ไม่ต้องบอกก็ได้ ฉันแค่แกล้งเธอเล่นๆนะ"

    ลินเดินไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง อัลรีบเดินตามทันที

    "จะไปไหนอ่ะอัล" เอริคถามขึ้น

    "อ้อ จะไปช่วยลินซักหน่อยนะ"

    "งั้นฉันช่วยด้วยนะ"

    เอริคกำลังจะลุก แต่อัลยกมือห้ามไว้

    "ไม่เป็นไรหรอก รอที่นี้แหละ เดียวมาเรียมาแล้วเขาไม่เห็นใครมันจะยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่"

    เอริคพยักหน้ารับแล้วเขาก็นอนลง "เฮ้อออ น่าเบื่อจริงๆแฮะ"


    to be continue
  7. Taoz

    Taoz New Member

    EXP:
    1
    ถูกใจที่ได้รับ:
    0
    คะแนน Trophy:
    1

Share This Page