อ่านก่อนนิดนึง บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม จะSpoil ก็ขอให้ใช้การซ่อนข้อความ Pirate of the Caribbean : On Stranger Tides แนวหนัง : ผจญภัย แฟนตาซี ตัวอย่าง [media]http://www.youtube.com/watch?v=lhj-fpJQOrQ[/media] เรื่องย่อ หลังจากภาคที่แล้ว กัปตันแจ็ค สแปโรวได้แผนที่การเดินทางไปสู่น้ำอัมฤต กัปตันแจ็คจึงหมายจะออกเดินทาง แต่แน่นอนเค้าย่อมมีอุปสรรคเมื่อ แองเจล่า หญิงสาวที่มีอดีตกับเค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแบล็คเบิด โจรสลัดสุดเหี้ยมที่หมายจะได้น้ำพุเช่นกัน รวมทั้งคู่แค้นเก่าของกัปตันแจ็คบารอสซ่าด้วย แต่การเดินทางไปสู่น้ำพุแห่งนั้นกลับมีอันตรายเกินกว่าที่พวกเค้าคาดคิดเอาไว้ มุมมองของSoma ต้องบอกว่าการกลับมาอีกครั้งของกัปตันแจ็คคราวนี้ ไม่ได้สมศักดิ์ศรีหนังฟอร์มยักษ์ที่หลายคนรอคอยเท่าไรครับ เพราะความสนุกของหนังนั้นอยู่ในเกณฑ์แค่ดูเอาเพลินได้เท่านั้น ไม่ได้รู้สึกยิ่งใหญ่ สนุกสุดๆ หรือประทับใจแต่อย่างใดเลย จุดแรกที่ทำให้Pirate ภาคนี้กลายเป็นเช่นนี้ คงต้องพูดกันถึงเรื่องฉากแอ็คชั่นในหนังก่อนเลย ฉากแอ็คชั่นในหนังนั้นมีไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่ดีครับ แต่นำเสนอออกมาได้ไม่ดีเท่าที่มันควรจะเป็น มันรู้สึกเหมือนฉากแอ็คชั่นทำได้ไม่เต็มที่ รู้สึกมันควรทำให้ดีกว่านี้ ประทับใจกว่านี้ หรือตื่นเต้นกว่านี้ บางฉากนั้นทำมาอีลุงตุงนังจนดูไม่รู้เรื่องเลยก็มี ทั้งที่ไอเดียนั้นดีอยู่แล้ว (เช่นฉากเรือโคลงเคลง ฉากสู้กันตอนสุดท้าย) จึงทำให้ฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่องนี้ ไม่มีฉากไหนที่น่าจดจำเหมือนดั่ง3ภาคที่แล้วที่มีมาโดยตลอด (เช่นฉากกรงล้อในภาค2 หรือฉากตอนท้ายของภาค3) อีกจุดที่เสียดายมากๆคือความเป็นแฟนตาซี โครงเรื่องของภาคนี้นั้นเอื้อความเป็นแฟนตาซีมากพอๆกับ3ภาคที่แล้ว แต่ภาคนี้กลับแทบไม่มีความเป็นแฟนตาซีให้เห็นตามแบบฉบับของหนังตระกูลPirate หลายๆอย่างในหนังนั้นมันค่อนข้างเอื้อความเป็นแฟนตาซี แต่หนังกลับไม่นำเสนอให้ดีจนขาดความรู้สึกจุดนี้ มันทำให้ความรู้สึกว่าการผจญภัยในรอบนี้ของกัปตันแจ็คดูไม่ยิ่งใหญ่และน่าติดตามในทันที และการค้นพบน้ำอัมฤตในตอนท้ายก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่สมกับการผจญภัยตลอด2ชั่วโมงเอาซะเลย แต่ยังดีที่หนังมีฉาก นางเงือก ออกมาช่วยเหลือในจุดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม นางเงือกในหนังนั้นทำมาน่าหลงไหล และน่ากลัวได้อย่างดีมากๆ (แนะนำนางเงือกคนแรก ดูแล้วท่านแทบจะละลายคาโรงหนังเลยทีเดียว) จุดที่ช่วยให้Pirateภาคนี้รอดพ้นจากการเป็นหนังเสียดายตังค์ คงต้องยกความดีให้กับตัวละครหลักอย่าง แจ็ค สแปโรว ที่ยังคงเส้นคงวาในความยี่ยวนกวนประสาทที่มาพร้อมกับมุกตลกเพี้ยนๆของแกได้อย่างไม่เสียศักดิ์ศรีดาราจอห์นนี่เดปป์ แล้วที่ยิ่งกว่าคือตัวละครใหม่อย่างแองเจร่านั้น สร้างออกมาได้เป็นสีสันของหนังเรื่องนี้ทุกทีที่หล่อนปะทะกับแจ็ค การแสดงของเจ๊เพเนโลเป้ครูซนั้นเจ๋งจริงๆ ฉะนั้นจุดที่สนุกที่สุดของเรื่องนี้จึงกลายเป็นการปะทะคารมและมุกของกัปตันแจ็คแทน แต่น่าเสียดายมากๆที่ตัวร้ายในหนังอย่าง แบล็คเบิดนั้นกลับทำออกมาได้ไม่น่าเกรงขามเท่าไรเลย (สู้ป๋าบารอซซ่าก็ไม่ได้) แม้แต่ความสามารถของเค้าก็ไม่ได้ดูเก่งกาจอย่างที่มันควร (เก่งแค่ตอนแรกเท่านั้นแหละ) โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูกกับแองเจร่า ที่ขาดความน่าสนใจ เหมือนใส่มาให้มันมีปมแต่ไม่ได้เจาะให้ลึก ทำให้ฉากไคล์แม็กซ์ในหนังนั้นขาดอารมณ์ร่วมเป็นอย่างยิ่ง ตัวละครใหม่ๆหลายตัวในหนังนั้นก็ไม่ได้มีความจำเป็นมากนักในการใส่มา ทั้งไอ้หนุ่มเคร่งศาสนา ไอ้กลุ่มตัวตลก หรือแม้แต่ทหารสเปนที่ตอนแรกดูเหมือนจะมีความสำคัญ แต่สุดท้ายก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ และด้วยตัวละครที่มีเยอะ และ หลายตัวขาดเสน่ห์ ทำให้บทหนังหลายช่วงมากดูยืดเยื้อและน่าเบื่อ แม้หลายช่วงในหนังสามารถตัด หรือลดความยาวลงได้แท้ๆ แต่ยังดีที่อย่างน้อยบทของหนังค่อนข้างจะคงเส้นคงวา ไม่ออกทะเลแบบภาค3 อีกจุดที่หนังยังคงความดีเอาไว้เช่นเดิมได้คือ OST ที่แต่งโดยป๋า Hans Zimmer ยังคงความเจ๋งในอารมณ์ของหนังได้อย่างครบถ้วนเช่นเดิมครับ สรุป : การกลับมาของกัปตันแจ็คครั้งนี้ ค่อนข้างผิดหวังครับ แต่ไม่ใช่ว่าหนังห่วย มันอยู่ในเกณฑ์ที่ดูได้ ไม่เสียดายตังค์ แต่ถ้าเทียบกับมาตราฐานของ3ภาคที่แล้วนั้น ภาค4นั้นเป็นภาคที่ทำออกมาได้สนุกน้อยที่สุด แม้หนังจะมีกัปตันแจ็คกับแองเจร่าที่ช่วยสร้างสีสรรค์อย่างมากให้กับหนัง แต่เมื่อดูโดยภพารวมแล้ว มันยังรู้สึกผิดหวังเช่นเดิมครับ เกรด B ปล.ดูจบอย่าพึ่งลุกออกนะครับ หลังเครดิตมีฉากนำไปสู่ภาคที่5ด้วยแหละ แล้วเจอกันใหม่ ลาล่ะ555
ว่าจะไปดูอยู่เหมือนกัน คงเป็นสิ้นเดือนนี้ ขอบคุณมากที่มารีวิวให้อ่านก่อน แตก็คงไม่กระทบความตั้งใจครับ ว่าแต่... มันจะมีภาค 5 อีกเรอะ!!!!!
ไปดูมาเรียบร้อยแล้วครับ กับหนังที่ถือว่ายิ่งใหญ่อลังการสังกัดค่ายดิสนีย์เรื่องนี้ ถือว่าเป็นหนังที่ยิ่งใหญ่ประจำปีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว กับเรื่องราวของโจรสลัดขวัญใจมหาชนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงหนูที่มีหูกลมๆแล้วนึกถึง "มิกกี้เม้าส์" การพูดถึงโจรสลัดขอบตาดำนิสัยดีแบบไม่แสดงออกก็ต้องนึกถึง "กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์" เช่นกันครับ ข้อดี ความอลังการที่สัมผัสได้ หนังทำมายิ่งใหญ่ครับ มีฉากอลังการที่แสดงออกถึงความทุ่มเทของผู้สร้างและนักแสดงมากมายเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นกรณีของกัปตันของเรา ที่ภาคนี้ต้องรับบทเหนื่อยกว่าที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นเรื่อง หรือฉากนางเงือกที่ทำออกมาอย่างสมจริง ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่หัวจรดปลายครีบในทุกเกล็ดเลยล่ะครับ ความแฟนตาซี หนังมีกลิ่นอายของความแฟนตาซีอยู่มากมาย มีการใช้จินตนาการที่คาดไม่ถึงจนทำให้คนดูต้องทึ่ง อย่างเช่นฉากเรือทีสามารถควบคุมราวกับสัตว์ที่มีชีวิตได้ ซึ่งเกิดจากการนำเรื่องราวเก่าๆที่มีอยู่ก่อนแล้ว มาประยุกต์ใหม่ได้อย่างอัศจรรย์ เป็นฉากที่ "เหนือจริง" ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัวเลยล่ะครับ การอิงประวัติศาสตร์ ตรงจุดนี้เป็นอีกจุดที่ทำให้หนังน่าสนใจครับ อย่างเช่นเรื่องของโจรสลัดเคราดำ ซึ่งเชื่อกันว่าเคยมีตัวตนอยู่จริงๆในประวัติศาสตร์ หรือเรื่องอำนาจประเพณีของชาติล่าอาณาคมต่างๆ ธรรมเนียมและสภาพสังคมในสมัยนั้น ซึ่งล้วนถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริงจนเราสามารถสัมผัสได้ทีเดียวครับ ฉากแอคชั่น หนังจงใจทำออกมาเป็นหนังแอคชั่น และภาพรวมของมันก็ออกมาสมปรารถนาผู้สร้างครับ สำหรับคนที่ชอบดูหนังแนวแอคชั่นก็คงเต็มอิ่มกับฉากต่อสู้ที่มีอยู่มากมายเกือบทั้งเรื่องเลยทีเดียว ถึงมันจะอิลุงตุงนังจนดูไม่รู้เรื่องไปนิดก็เถอะนะ หนังมีคุณค่า มีคำคมๆที่สื่อความรู้สึกและปัญญาที่คนดูอาจไม่คิดว่าจะมีในกัปตันแจ็ค เป็นเหมือนการถ่ายทอดชีวิตการมองโลกของโจรสลัดคนหนึ่ง เป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืมเลยล่ะครับ เพลง เอกลักษณ์สำคัญที่บ่งบอกความเป็นดิสนีย์ คือการร้องเพลงสดครับ ซึ่งช่วงหลังๆบ่อยครั้ง ดิสนีย์มักจะลืมไป แต่ผมก็ดีใจที่มันกลับมาอีกครั้งในภาคหลังๆนี้ นางเงือกสวย ^-^ ข้อนี้ดูเหมือนไม่ค่อยจะมีเหตุผลเท่าไหร่ แต่การพรรณนาความงามของสตรีที่เราเห็นกันมาในหนังหลายเรื่องนั้น มักไม่ค่อยมีสตรีใดงามได้อย่างที่พรรณนามาตามนั้นซักคน แต่เรื่องนี้มันต่างออกไป ทั้งความงามและความน่ากลัว เป็นการตีโจทย์ที่แตกละเอียดเลยล่ะครับ ข้อเสีย ความฮา เดิมทีภาคแรกๆของเรื่องนี้ ทำออกมาได้ฮาดีครับ คนดูจะได้อมยิ้มไปตลอดเวลา กับความดีนะแต่ไม่แสดงออกของกัปตันแจ็ค ทว่าเรื่องราวในภาคหลังๆของเรื่องนี้นั้น มีแต่ฉากต่อสู้ ความหดหู่ ซิเรียส และเครียดมากขึ้น ก็ต้องพูดว่าจงใจสร้างให้มัน "จริงจัง" ขึ้นนั่นแหละครับ ซึ่งหลายๆคนก็คงชอบ ทว่าสำหรับผม ผมรู้สึกโหยหาความฮาแบบเก่าๆของเรื่องนี้มากๆเลยล่ะ หนังอธิบายเรื่องได้ไม่ค่อยชัด หนังทำออกมาสับสน และมึนเล็กน้อยครับ ผมเชื่อว่าคนดูจำนวนไม่น้่อยที่ต้องอาศัยเวลาพอสมควร จึงจะดูหนังเรื่องนี้รู้เรื่อง เหมือนให้คนดูค่อยๆรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆกับตัวละคร แต่มันก็มึนๆอยู่ดีครับ ตัวละครเก่าๆที่หายไป โดยส่วนตัว ผมคิดถึง "ออแลนโด้ บลูม" มากๆที่คนดูแทบจะยกบทพระเอกให้ในฐานะ "วิล เทอเนอร์" เขาเคยแสดงเป็นเลโกลัสในเรื่อง เดอะลอร์ด ออฟ เดอะ ริงค์ ด้วยนะครับ การเข้ามาแย่งซีนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของตัวละครใหม่ๆ ไม่ค่อยสร้างความประทับใจให้กับผมมากนัก และความเท่ห์ของกัปตันแจ็คจะลดลงถึง 45 % ถ้าเขาหมดความรักในทะเลมาสนใจเรื่องคู่ครองแทน สรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่คุ้มค่าต่อราคาตั๋วหนังแน่นอนครับ สมควรซื้อหามาเป็นหนังสามัญประจำบ้านอย่างยิ่ง (เมื่อมีแผ่นแท้ออกมาแล้ว) ถึงแม้จะมีจุดที่ขัดใจ จุดที่ผมโหยหาอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นหนังที่มีคุณค่าและยิ่งใหญ่จริงๆ ปล.ผมลุกออกเรียบร้อย:h...:
มาได้ทันใจมากครับ Soma ขอบคุณมาก เพราะผมกำลังจะต้องเสียตังค์ไปดูวันพุธที่จะถึงนี้ (A.K. เองก็ช่วยได้เยอะครับ ) สรุป... ผมควรจะไปดูดีไหมเนี่ย ถ้าไม่เพราะติดหนี้ใครบางคน ผมก็รู้สึกตั้งแต่ trailer เช่นกันว่ามนต์ขลังภาคนี้ขาดหายไปมาก ผมเห็นด้วยกับ A.K. เรื่อง Will Turner นำแสดงโดย ออแลนโด้ บลูม การขาดวิลทำให้สเน่ห์หนังเรื่องนี้ลดลงเยอะมาก เหมือนกับว่า แม้แจ๊ค สแปร์โรว์จะเป็นตัวเด่นของเรื่อง แต่วิลเองก็เป็นพระเอกคนหนึ่ง และการขาดวิลก็เสมือนการขาดคู่หูคู่ฮา ตัวตัดมุขที่ดีที่สุดของแจ๊คไป แม้วิลจะไม่ได้รั่วอย่างแจ๊ค แต่ความ "รั่วเงียบ" ของเขา ก็ขับให้ Pirate ตลก ขบขัน และบทบาทกวนตีนของแจ๊คโดดเด่นขึ้นหลายเท่า ผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ออแลนโด้ บลูม แต่ผมก็ยังอยากเห็นเ้ขาในบท Will Turner อีกครั้ง และนั่นทำให้ผมลังเลที่จะไปดูภาคนี้ครับ ปล. มันยังจะต่อภาค 5 อีกเรอะ!!!
นางเงือกคนแรก คือ top model เลยครับ ชื่อ Gemma Ward ลองไป search รูปดูได้ เขาให้นิยามกันว่า สวยเหมือนมาจากนอกโลก
ต้องถามก่อนว่า ส่วนตัวท่านชอบกัปตันแจ็คมากที่สุดในซีรีย์หรือไม่ ถ้าชอบแล้วหนังเรื่องนี้เหมาะแก่การไปดูอยู่ดีครับ เพราะกัปตันแจ็คยังคงมีเสน่ห์และขโมยซีนได้เสมอ ยิ่งคู่กับแอเจล่า ทำให้สีสันเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้นครับ แต่ถ้าท่านชอบความเป็นแฟนตาซีแบบ1-3 ล่ะก็ อาจจะรู้สึกเฉยๆกับภาคนี้ ออกไปทางผิดหวังครับ เพราะความสนุกของมันถ้าเอา3ภาคแรกเป็นตัวมาตราฐานวัด ผมว่าลดลงไปมากพอสมควร
ขอบคุณข้อมูลจาก gomora จ้า! เงือกรายแรกนำแสดงโดย Gamma Ward ตอนนี้อายุประมาณ 20 ปี และเคยได้รับตำแหน่งนางแบบโลกอันดับหนึ่ง! ก่อนหน้านั้นเธอถ่ายปกนิตยสารแฟชั่นระดับโลกทุกเล่ม ถ่ายแบบโฆษณาให้กับเสื้อผ้าแบรนด์ดังทุกแบรนด์ เป็นดาวเด่นในแฟชั่นวีคระดับโลกทุกครั้ง และทั้งหมดที่ว่ามานั่น เธอเ้ริ่มทำตั้งแต่อายุ 16 ปี Gamma Ward ได้รับคำชื่นชมว่างดงามราวกับมาจากอีกโลกหนึ่ง ดวงตากลมโตสีเขียว หน้าผากกว้าง รูปหน้ากลม สั้น แต่คางกลับเรียวแหลม ส่วนปากก็เบะๆเหมือนเด็กที่พร้อมร้องไห้ได้ทุกเมื่อ รูปร่างโปร่งบาง หน้าอกเล็ก เหมือนเด็กที่เพิ่งเริ่มเป็นสาว บัดนี้ Gemma กำลังก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่านางแบบอันดับ 1 เพราะ Models.com จะนำ Gemma ไปไว้ในฐานะนางแบบที่กลายเป็น "Icon"หรือ"ต้นแบบ"ของโลกทีเดียวครับ ส่วนตัว...ในฉากนั้นผมรู้สึกทึ่งมาก และหยุดหายใจไปพักหนึ่ง ราวกับหนุ่มๆสูดหายใจเข้าพร้อมกัน จนโรงหนังขาดอากาศหายใจไปเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าภายหลังจากชินแล้วจะรู้สึกเฉยๆ แต่ความรู้สึกที่กล่าวไปนี้เหมือนกับที่เรื่อง "แฮร์รี่ พอตเตอร์" บรรยายไว้เกี่ยวกับ "วีล่า" ไม่มีผิดเพี้ยนครับ ภาพจาก http://www.ilovegemmaward.com/
เงือก ซีรีน่า น่ารักโครต (ผมชอบฝรั่งผมดำ ^ ^ ) ตอนเงือกรายแรกเปิดตัว(เกาะขอบเรือ)บอกตามตรงมาสวยลืมหายใจไปเลย(ฮืออาทั้งโรง...ผู้ชายข้างๆผมยังร้อง โอ้โห ได้ยินเสียงผู้ชายข้างหลังผมร้อง อูฮู้)...ส่วนตัวไม่รู้จักหรือมีข้อมูลเลย(ไม่สนใจวงการโมเดลลิ้ง)
